รีวิวฉบับที่ 1349 … สวัสดีค่ะวันนี้พาไปชมตึกเสร็จกับโครงการ The Base Height มิตรภาพ – ขอนแก่น เป็นคอนโด High Rise 36 ชั้น ติดถนนมิตรภาพ อยู่ใกล้ Central Plaza ขอนแก่นในระยะที่เดินไปได้ งานดีไซน์มีความทันสมัย ดูลงตัว พร้อมพื้นที่ส่วนกลางแบบครบครัน แบบห้องมีให้เลือกทั้ง 1-2 ห้องนอน ในราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย 🙂

Fact @ 15 May 2017

  • The Base Height Mittraphap Khon Kaen (เดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ-ขอนแก่น)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด
  • ECONOMY – MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : อำเภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น
  • คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 983 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 6 ชั้น 1 อาคาร
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 40 %
  • ที่ดินประมาณ 4-2-84.2 ไร่
  • สถานะ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 1 Bedroom 29-31.5 ตร.ม
  • 2 Bedrooms 58.5-65 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 72,500 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 60,000 – 80,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 16.435912, 102.825853

แผนที่จากทางโครงการ The Base Height มิตรภาพ – ขอนแก่น อยู่ติดถนนมิตรภาพ และใกล้เซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น ในระยะที่เดินไปได้ค่ะ

จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดศูนย์กลางของภาคอีสาน ด้วยทำเลของจังหวัดที่อยู่ตรงกลางพอดี เลยกลายเป็นศูนย์กลางทางราชการ การศึกษา การสาธารณสุข และการค้าขายมาตั้งนานแล้ว คนในจังหวัดใกล้เคียงมักจะนิยมส่งบุตรหลานมาเรียนที่นี่ และเจ็บป่วยก็มักมาพึ่งพิงโรงพยาบาลที่ขอนแก่น ส่วนภาคเอกชนก็ใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าและพักพิงเวลามาภาคอีสาน ซึ่งทำให้มีคนต่างถิ่นอยู่ในจังหวัดเยอะ โรงแรม และที่พักก็เยอะตามไปด้วย

ตัวเมืองขอนแก่นแต่ดั้งเดิมในอดีต จะเกาะอยู่ติดกับบึงแก่นนคร ต่อมาก็มีการสร้างศูนย์ราชการและจัดแบ่งผังเมือง แยกโซนค้าขาย และส่วนราชการ ออกจากกัน ทำให้การพัฒนาเมืองเป็นไปได้ง่ายและเป็นระบบ เมื่อมีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ธนาคารชาติ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตั้งขึ้นมาเป็นหลักในการพัฒนา เมืองมันก็เจริญมาจวบจนปัจจุบัน

ในส่วนของย่านพักอาศัยแต่เดิม ชาวบ้านเขาอยู่อาศัยกันริมบึงแก่นนครเป็นหลัก แต่เมื่อเริ่มหนาแน่น ก็กระจายไปตามแนวถนนเส้นหลัก รวมไปถึงถนนเลี่ยงเมืองที่สมบูรณ์แล้ว (เห็นเป็นวงแหวนวนรอบเมือง) แต่ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่า ตัวเมืองมีบึงขนาดใหญ่อยู่ 3 มุมพอดี ซึ่งนอกจากบึงแก่นนครแล้ว บึงทุ่งสร้างก็มีชุมชนค่อนข้างหนาแน่นและเป็นวงกว้าง ส่วนบึงหนองโคตรเพิ่งจะเริ่มมาได้รับความนิยมในยุคหลังจากถนนเลี่ยงเมืองเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง

สำหรับทำเลของ The Base ที่อยู่ติดถนนมิตรภาพนั้นมีจุดแข็งคือการที่อยู่ใกล้เซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น ในระยะที่เดินไปได้ จึงสามารถไปห้างฯได้สะดวก แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ติดห้าง ก็คงอยากจะเข้าไปหาความเจริญ และความอุดมสมบูรณ์ในเขตใจกลางเมือง(บนถนนศรีจันทร์) ซึ่งด้วยทำเลของ The Base ก็อยู่ไม่ไกลจากเขตใจกลางเมืองอีกเช่นกัน แต่ก็ต้องใช้รถในการเดินทางไปนะคะ

การเดินทางไปโครงการวันนี้จะเริ่มต้นจากแยกถนนมะลิวัลย์ตัดกับถนนมิตรภาพ แล้วจะพาไปวนในเมืองรอบหนึ่งเพื่อดูบรรยากาศ ตามถนนประชาสโมสร –> ถนนกลางเมือง –> ถนนศรีจันทร์ แล้วจึงกลับเข้าสู่ถนนมิตรภาพ เพื่อเข้าโครงการค่ะ

ถนนเส้นมะลิวัลย์นี้เป็นถนนที่วิ่งมาจากสนามบิน พอมาตัดกับถนนมิตรภาพ ปุ๊บ!! ก็เหมือนเป็นแยกที่เปลี่ยนผ่านบรรยากาศเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองของขอนแก่น หรือจากแยกนี้เราจะเลี้ยวขวาก็ถึงโครงการเลยนะคะ แต่เราจะพาไปวนดูบรรยากาศในเมืองก่อน^^

ข้ามแยกแล้วตรงมาตามถนนประชาสโมสร ซึ่งถนนเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการหลายแห่ง

ตรงมาเรื่อยๆ มีแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนกลางเมือง

ถนนกลางเมืองเส้นนี้เป็นถนนที่ตัดเชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่า บริเวณบึงแก่นนคร ให้เชื่อมกับย่านหน่วยงานราชการที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งนอกจากจะมีถนนกลางเมืองแล้ว ถนนหน้าเมืองและถนนหลังเมืองก็ทำหน้าที่เดียวกันค่ะ

บรรยากาศของถนนก็จะเต็มไปด้วยร้านค้าใต้อาคารพาณิชย์ มีโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน

ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะถึงแยกที่ตัดกับถนนศรีจันทร์ ซึ่งนับว่าเป็นเขตใจกลางเมืองที่มีความคึกคักมากที่สุด ก็เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีจันทร์กันเลย

บรรยากาศบนถนนศรีจันทร์ จะเห็นร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ เรียงรายกันตลอด 2 ฝั่งเลยทีเดียว

ตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านตึกคอม แหล่งที่มีครบเครื่องเรื่องไอที

ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นประตูเมืองขอนแก่นเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้า เราก็ตรงไปลอดซุ้มประตูเมืองกันเลย

ติดกับประตูเมืองก็จะเป็นเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่นแล้ว จากตรงนี้เราก็จะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพกันค่ะ

ถนนมิตรภาพเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้เชื่อมจังหวัดในภาคอีสาน ทำให้มีเลนในการสัญจรเยอะทีเดียว การจราจรก็ค่อนข้างโล่งๆ อยู่ตลอด ส่วนใหญ่ก็ติดแค่แยกแถวๆ เซ็นทรัลนี่แหละค่ะ

มองทางฝั่งขวาเห็นอาคารสูงไหมเอ่ย นั่นคือโครงการ The Base แล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะไปกลับรถกันนะ อ้อ!! ลืมบอกไปอีกอย่างว่าบนถนนมิตรภาพเส้นนี้มีแผนที่จะสร้างรถไฟรางเบาเชื่อมตัวเมืองกับสนามบินด้วยนะคะ

ถึงที่กลับรถแล้ว ก็กลับรถข้ามไปอีกฝั่งกันเลย

กลับรถมาแล้วฝั่งซ้ายจะผ่านปั๊มน้ำมัน ปตท. เป็นปั๊มที่ใกล้กับโครงการที่สุดแล้วนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะผ่านร้านขายอุปกรณ์รถยนต์ ต่างๆ ซึ่งจากตรงนี้ก็ใกล้จะถึงโครงการแล้วค่ะ

ถัดมาอีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้ว สังเกตง่ายๆ ว่าโครงการอยู่ติดกับซอยมิตรภาพ 3 เลยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ซูมแผนที่ลงมาดูอีกระดับหนึ่งให้เห็นแนวที่ดินของโครงการชัดๆ ถ้าเอา Master Plan มาเทียบก็จะได้ประมาณนี้นะคะ ที่ดินของโครงการมีทางเข้าติดถนนมิตรภาพ ซึ่งตัวอาคารจริงๆจะ ร่นเข้าไปจากถนนประมาณ 70 เมตร โดยที่ดินผืนนี้มีขนาด 4 ไร่กว่าๆ เกือบ 5 ไร่ โครงการเป็นตึกที่สูงสุดในบริเวณนี้ ทำให้ในทุกด้านของอาคารมีชั้นที่สามารถเปิดโล่งรับวิวได้

ส่วนสภาพแวดล้อมรอบโครงการทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโครงการจะติดกับถนนมิตรภาพ ส่วนทางทิศตะวันออกทั้งเฉียงเหนือและใต้ถูกล้อมด้วยบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น ซึ่งการรวมแปลงที่ดินเพื่อขึ้นโครงการใหม่ๆ มีความยากทีเดียว ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับที่ดินของเซ็นทรัล ซึ่งนอกจากจะมีห้างฯ ให้เดินเล่นแล้ว ปัจจุบันทางเซ็นทรัลทำโครงการคอนโด The Escent ขึ้นมา ซึ่งมาขนาบข้างโครงการเลย มีทั้งข้อดีข้อเสีย ที่โครงการจะถูกบังวิวจากอาคารนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยบังแดดจากทางทิศตะวันตกด้วยค่ะ

เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกันนะคะ ภายในเส้นประสีเหลืองเป็นพื้นที่ของโครงการ The Base Height มิตรภาพ – ขอนแก่น ซึ่งถัดไปคือซอยมิตรภาพ 3 ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งขอบเขตของโครงการคือเส้นประสีเหลืองด้านซ้าย ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งขวาของโครงการเป็นธนาคาร UOB ค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Central Plaza ขอนแก่น 50 ม. (50 ม.คือระยะถึงทางเข้าโครงการ แต่ถ้าเป็นระยะถึงอาคารต้องเข้ามาอีกประมาณ 250 ม.)
  • โรงพยาบาลขอนแก่นราม 800 ม.
  • Big C 1.8 กม.
  • ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.3 กม.
  • โรงพยาบาลเวชประสิทธ 2.4 กม.
  • มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2.9 กม.
  • สวนสาธารณะบึงหนองโคตร 3.1 กม.
  • โรงพยาบาลศรีนครินทร์ 4.9 กม.
  • สนามบินขอนแก่น 7.7 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Base Height ขอนแก่น – มิตรภาพ เป็นคอนโด High Rise ประกอบด้วย 2 อาคาร คือ อาคารพักอาศัย 36 ชั้น 1 อาคาร กับอาคารจอดรถ 6 ชั้น แยกจากตึกอยู่อาศัย ทำให้เวลาจอดรถจะต้องลงที่อาคารจอดรถก่อนแล้วจึงเข้าอาคารอยู่อาศัยอีกที ซึ่งถ้าหากอาคารที่จอดรถและอาคารอยู่อาศัยรวมเป็นอาคารเดียวจะสามารถขึ้นห้องพักในตึกเดียวกันได้เลย โดยอาคารจอดรถจะอยู่ถัดเข้าไปด้านในสุดของแปลงที่ดิน ส่วนอาคารพักอาศัย 36 ชั้นจะอยู่ด้านหน้า วางด้านแคบเข้าหาถนน ซึ่งหน้าขางเข้าออกโครงการจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ โดยทางเข้า-ออกของโครงการจะเข้าออกทางถนนมิตรภาพทางเดียวค่ะ

เส้นทางเดินรถในอาคารเมื่อขับเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการ จะเป็นทางบังคับให้ตรงไปผ่าน Drop-Off ด้านหน้าอาคาร และสามารถกลับรถไปทางออกโครงการที่จุดกลับรถหน้า Drop-Off ได้เลย หรือหากต้องการจอดรถที่อาคารจอดรถ 6 ชั้นก็สามารถขับเข้าไปที่อาคารจอดรถด้านในของโครงการได้ เส้นทางเดินรถเป็นแบบสวนทางกัน และไม่สามารถขับวนรอบโครงการได้

บรรยากาศด้านหน้าของโครงการจะติดกับถนนมิตรภาพ ซึ่งเป็นทางเข้าออกหลักทางเดียวของโครงการ เป็นทางเข้าออกของรถ เข้า 1 เลน ออก 1 เลนนะคะ จากมุมนี้จะเห็นตึกสูงสีเทานั่นคือ อาคารพักอาศัยของโครงการค่ะ มีระยะห่างจากทางเข้าประมาณ 70 ม. เท่านั้นเอง

ทางเข้าโครงการเป็นฉากกั้นล้อเลื่อน มี ร.ป.ภ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงและกล้อง CCTV ทางเข้าของคนเดินและทางเข้ารถยนต์จะแยกกันไว้ชัดเจนทำให้ดูปลอดภัยดีค่ะ

ผ่านซุ้มประตูเข้ามา จะเจอกับ Drop-Off ที่เป็นทางวนรถหน้า Lobby อาคาร เราจะเดินผ่าน Lobby ไปก่อนนะคะ เพื่อพาตรงเข้าไปดูอาคารจอดรถด้านใน เดี๋ยวค่อยพาออกมาดูอาคารพักอาศัยกันนะ

เลยอาคารพักอาศัยเข้ามา ก็ตามป้ายว่าให้ตรงไปที่ Parking Lot เลย

ตรงเข้ามาตามป้าย จะมาถึงส่วนที่ต้องแสกนบัตรเพื่อผ่านเข้าไปจอดรถแล้ว สำหรับ Visitors จะมีช่องจอดอยู่ก่อนถึงทางเข้าที่แสกนบัตรนะคะ

ทางเข้าโครงการเป็นไม้กระดกเปิดปิดด้วยระบบ Key Card มี ร.ป.ภ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงและกล้อง CCTV บริเวณป้อมยามทางเข้า – ออกโครงการนะคะ

ผ่านที่แสกนบัตรมาแล้วก็จะเจอกับทางเข้าอาคารจอดรถทางซ้ายมือ ซึ่งอาคารนี้ก็มีทางเดินในร่มเชื่อมกับอาคารพักอาศัยให้ด้วย แต่หลังคาตรงทางเดินเชื่อมค่อนข้างจะสูงนิดนึง วันไหนฝนตกแรงๆ ก็ไม่น่าจะรอด พกร่มกันด้วยก็ดีนะคะ TT

แปลนอาคารจอดรถ ก็จัดช่องจอดไว้ตามมาตรฐาน ขนาดช่องทางเดินรถได้สะดวก โดยคิดเป็นเปอร์เซนต์ที่จอดรถทั้งหมด 40% และในแต่ละชั้นก็จะมีลิฟต์ให้ขึ้นลงได้สะดวกด้วย

ทางเข้าที่จอดรถจะจำกัดความสูงที่ 2.1 เมตร ด้านข้างเป็นทางไปขึ้นลิฟต์ ถ้าใครจอดไว้ที่ชั้นบนก็สามารถเดินเข้าลิฟต์ได้สะดวกเลย

ทางเดินรถและช่องจอดรถได้ความกว้างตามมาตรฐาน มีช่องแสงจากโดยรอบทำให้มีความสว่างพอสมควร ไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ค่ะ

ตรงเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นทางเข้าที่จดรถมอเตอร์ไซค์ค่ะ ซึ่งในส่วนที่จอดรถมอเตอร์ไซค์นี้จะมีช่องจอดหลักๆ อยู่ที่ชั้นใต้ดินนะคะ

ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือที่จอดในร่มจะอยู่บนชั้นใต้ดิน และที่จอดกลางแจ้งก็จะอยู่ด้านหลังของอาคารจอดรถ รวมทั้งหมด 142 ช่องค่ะ ค่อนข้างเยอะทีเดียวเลย ก็เพราะคนที่นี่เค้าเน้นขี่มอเตอร์ไซค์กันเป็นหลักนะคะ

บรรยากาศของที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ทั้งในร่มและกลางแจ้ง คิดว่าในร่มทำออกมาได้น่าใช้เลยทีเดียว

บรรยากาศภายในอาคารจอดรถชั้นบนๆ ก็จะมีทางขึ้นที่ได้มาตรฐานดี

ชั้นบนๆ ของอาคารจอดรถจะดูสว่างกว่าชั้นล่าง เพราะช่องแสงจะมีอยู่รอบด้านเลย

และก็ไม่ต้องกลัวจะเดินลงลำบาก เพราะโครงการมีลิฟต์ในอาคารจอดรถให้ทุกชั้นเลยค่ะ

หน้าตาของลิฟต์ก็ประมาณนี้ ดูสะอาดเรียบร้อย แต่ก็ยังไม่ได้แต่งเต็มเท่าลิฟต์ในอาคารพักอาศัย ใช้ขึ้นลงอาคารจอดรถชั้น 1- ชั้น Rooftop (7) เลย แต่ในส่วนของชั้น 7 ไม่ได้ทำเป็นที่จอดรถค่ะ โครงการทำเป็นสวนส่วนกลางและสนามฟุตซอล

บนชั้น Roof Top ของอาคารจอดรถ สามารถเข้าถึงได้โดยใช้ลิฟต์ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางภายในชั้นนี้จะเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีทั้งต้นไม้ใหญ่และต้นไม้พุ่ม ซึ่งทำให้บรรยากาศร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีสนามฟุตซอลและ Sunken Garden อีกด้วย

ทางเข้า Roof Garden ของโครงการจะอยู่ติดกับโถงลิฟท์ ซึ่งต้องใช้ Keycard ในการผ่านเข้า-ออกนะคะ

บรรยากาศภายในสวนหย่อมร่มรื่นพอสมควร มีการติดตั้งของเล่นเด็กไว้ให้ และมีทางเดินในร่มยาวตลอดแนว

เดินตามทางมาทางขวาจะมีห้องน้ำส่วนกลางอยู่บนชั้นนี้ด้วย

ห้องน้ำจะแยกห้องชายหญิงเอาไว้ ห้องซ้ายมือคือห้องผู้หญิง ห้องขวามือคือห้องผู้ชาย

ภายในห้องน้ำจะมีอ่างล้างมือ และห้องสุขา ดูสะอาดเรียบร้อยดีค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยเป็นที่นั่งเล่นในสวนอีกมุมหนึ่ง

หันมาที่สนามเด็กเล่นเป็นสนามหญ้าที่มีพื้นที่กว้างพอสมควร ส่วนด้านหลังเป็นสนามฟุตซอล

จากสนามเด็กเล่นมองไปอีกฝั่งหนึ่งของชั้น Rooftop จะเป็นทางเดินยาวที่มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนตลอดทาง

ทางเดินนี้แบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นสนามเด็กเล่น และอีกฝั่งหนึ่งเป็นสวนแบบ Sunken Garden

บรรยากาศภายใน Sunken Garden ก็จะประมาณนี้ เป็นที่นั่งสลับกับบ่อน้ำ ส่วนของ Sunken Seat เป็นการฝังที่นั่งลงไปในระดับเดียวกับต้นไม้ ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้รู้สึกใกล้ชิดและโดนโอบล้อมโดยธรรมชาติ

บริเวณของตัวที่นั่ง Sunken ค่อนข้างกว้าง มานั่งเล่นได้สัก 5-6 คน

ด้านในมีพื้นที่นั่งเล่นแบบมีหลังคากันแดดกันฝน

นอกจากนี้ก็จะมีสนามฟุตซอล

รอบสนามถูกล้อมไว้หมดด้วยรั้วและตาข่าย บรรยากาศภายในสนามดูสะอาดเรียบร้อย น่าใช้งานดีนะคะ

มาดูในส่วนของอาคารพักอาศัยกันบ้าง ในชั้นนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็น Facilities ส่วนกลาง ได้แก่ Main Lobby, Business Lounge, Mail Box ในส่วนของห้องพักอาศัยก็จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ของอาคารเลยเช่นกัน โดยในชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัย 7 ยูนิต คือ

  • ห้อง 1 Bedroom 6 ห้อง ขนาด 29-30 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom 1 ห้อง ขนาด 59.5 ตร.ม.

ห้องพักทั้งหมดในชั้นนี้จะเป็นห้องที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทางเดินจัดเป็น Single Corridor วางห้องพักไว้ฝั่งเดียวของทางเดิน โถงลิฟท์มีตำแหน่งเดียวอยู่ตรงกลางอาคาร ซึ่งในโถงจะมี Lift 3 ตัวนะคะ และแยก Service Lift ไว้อีกตัวหนึ่ง มีอัตราส่วนลิฟท์ 328 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่มากทีเดียว อาจจะต้องเผื่อเวลารอลิฟท์สักหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้อยู่ศัยออกจากบ้านพร้อมๆกันนะคะ ต่อไปเป็นเรื่องของวิว สำหรับห้องพักในชั้นนี้แม้จะไม่ได้วิวเมืองมุมสูงอย่างชั้นอื่นๆ แต่ก็จะได้วิวสวนทั้งหมด

ทางขึ้นห้องพักจะขึ้นผ่าน Lift Lobby ในอาคาร ระบบความปลอดภัยของทางเข้าอาคารคือ

  • ประตูทางเข้าอาคาร —>ไม่ต้องใช้ Key Card แขกของลูกบ้านสามารถเข้ามานั่งรอในอาคารได้
  • ประตูทางเข้า Lift Lobby —>ใช้ Key Card ลูกบ้านจึงมีความปลอดภัยตั้งแต่ในส่วนของ Lift Lobby เลยค่ะ

กลับมาที่ทางเข้า Lobby อาคารพักอาศัยเป็นผนังและประตูกระจกขนาดใหญ่ ทำให้เห็นบรรยากาศภายใน

เข้ามาภายใน Lobby มีโซฟารับแขกอยู่หลายชุด เป็นทางเดินกว้างๆ ไปสู่อีกประตูหนึ่งที่เป็นทางไปสู่ Lift Lobby

ด้านขวาของทางเดินจะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง ที่แยกห้องชายหญิงไว้เรียบร้อย

บรรยากาศภายในห้องน้ำทางฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำหญิง ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องน้ำชาย

ภายใน Lobby จะมีส่วนของ Reception ถ้าใครมาติดต่อดูห้องก็มาสอบถามที่ตรงนี้ได้ นอกจากนี้ก็มีพื้นที่นั่งเล่น/ รับแขก ที่ชั้นบนด้วยค่ะ

บรรยากาศของที่นั่งบริเวณชั้น 2 จะจัดโซฟาเดี่ยวไว้เป็นคู่ๆ

จากที่นั่งเล่นชั้นบนมองลงมาที่ชั้นล่าง ฝ้าเพดานของ Lobby ออกแบบไว้สูงเป็นพิเศษเลย ให้บรรยากาศของความหรูหรา

ออกจาก Lobby มาจะเจอทางเข้า Lift Lobby ทางขวา ถ้าตรงไปจะเป็นทางเข้า Business Lounge

ด้านข้างห้อง Business  Lounge เป็นทางลาดขึ้นลงสำหรับเข็นรถเข็นของได้สะดวก

หันกลับมาที่ทางเดินหน้าห้อง Business Lounge เป็นทางเดินโล่งๆ ช่องทางเดินตรงนี้เปิดโล่งเป็นช่องลมเย็นสบายทีเดียว

ภายใน Business Lounge ดูโปร่งโล่งด้วยความที่ห้องนี้เป็นห้องกระจก การตกแต่งดูหรูหรา เอาไว้คุยงานหรือรับแขกได้ดีทีเดียว

ภายในจะมีโต๊ะให้นั่งทำงานได้ และมีแบบที่เป็นชุดโซฟาสำหรับนั่งรับแขกด้วยค่ะ

เลี้ยวซ้ายมาหน่อยจะเข้าสู่ทางเดินยาวเชื่อมไปอาคารจอดรถ

ฝั่งขวาของทางเดินเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง โดยจัดที่นั่งเล่นชิวๆ ไว้ริมน้ำ

นอกจากที่นั่งเล่นในสวนแล้ว ก็จะมีเส้นทางเดินเล่นอีกด้วย

ต่อไปจะพาขึ้นไปชมบนอาคารกันนะคะ สำหรับชั้นบนๆ จะต้องขึ้นผ่าน Lift Lobby ซึ่งต้องใช้ Keycard แสกนผ่านเข้าออกนะคะ

ในส่วนของ Mailbox จัดไว้เป็นช่องเล็กๆ ดูเป็นระเบียบดี

เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอส่วนของโถงลิฟต์ และด้านในคือประตูเข้าสู่โซนพักอาศัยที่ชั้น 1 ค่ะ

บรรยากาศภายในลิฟต์ก็ประมาณนี้ ดูสะอาดเรียบร้อย มีความสวยงาม ใช้ขึ้นลงชั้น 1 ถึง 36 เลย ส่วนชั้น 37 ที่เป็น Rooftop จะต้องไปต่อลิฟต์ Service อีกทีนึงค่ะ

ตั้งแต่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย โดยชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัย 7 ยูนิต เช่นเดียวกับชั้น 1

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จำนวนยูนิตเยอะขึ้นมาอีกหน่อยจนเกือบเต็มชั้น โดยชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัย 26 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom และจัดห้อง 2 Bedroom ไว้ที่มุมของอาคาร

ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องสมุด, ห้องซักผ้า และสวนส่วนกลางอยู่ในชั้นนี้ด้วย สำหรับห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะมีจำนวนมากขึ้นเป็น 28 ยูนิต

ออกมาจากโถงลิฟต์ที่ชั้น 4 ให้เลี้ยวขวาไปตามทางเดิน

เลี้ยวมาก็จะเจอกับประตูทางเข้าโซนพักอาศัยที่จะต้องใช้ Keycard ผ่านเข้าไป จากมุมนี้ถ้าเลี้ยวขวาอีกทีก็จะเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางแล้ว

เดินผ่านประตูไปยังพื้นที่ส่วนกลาง

ติดกับประตูจะเป็นห้องซักผ้าส่วนกลางและห้องสมุด

บรรยากาศภายในห้องสมุด จัดชุดโต๊ะทำงานไว้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ให้สามารถมานั่งทำงานหรือเวลามาซักผ้า ก็สามารถมานั่งรอในห้องนี้ได้ เพราะห้องนี้เปิดแอร์ไว้ด้วยค่ะ

ในห้องซักผ้า..มีเครื่องซักผ้าตั้งไว้อยู่ 5 เครื่อง และมีเครื่องเติมน้ำดื่มด้วย

สำหรับพื้นที่ในสวนมีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม โครงการจัดม้านั่งยาวไว้ตามมุมต่างๆ ให้นั่งเล่นในสวนด้วย

มาต่อกันที่ ชั้น 5-34 ของตึกค่ะ แปลนตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นมาถึงชั้น 34 จะเหมือนๆ กันเลยนะคะ ต่างกันตรงที่บางชั้นจะมีห้อง Type พิเศษ เพิ่มขึ้นมา อย่างเช่นบนชั้น 6, 15, 16, 17, 24, 25 และ 33 จะมีห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 65 ตร.ม. เป็นต้น

ส่วน Facilities หลักๆของโครงการจะถูกนำขึ้นมาไว้ที่ชั้น 35 นี้ค่ะ ตรงนี้ก็จะมีสระว่ายน้ำแบบ Infinite-Edge Pool แบบไม่มีขอบ หรือท่ีเราชอบเรียกว่า “สระน้ำล้น” นั่นแหละค่ะ ซึ่งจะสามารถว่ายน้ำไปด้วยแล้วก็ชมวิวเมืองไปพร้อมๆกันได้ แล้วก็จะมี Deck นั่งชมวิวทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนห้อง Fitness จะหันออกอีกฝั่งหนึ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

จากโถงลิฟต์ชั้น 35 จะมีประตูทางเข้าสระว่ายน้ำอยู่ทางขวาค่ะ

เข้าประตูมาแล้วก็จะเห็นทางเดินตรงยาวๆ ไปสู่สระว่ายน้ำ และห้อง Fitness ส่วนที่ใกล้กับประตูก็จะมีห้องน้ำส่วนกลางและมีจุดนั่งชมวิวที่จะต้องเดินลงบันไดไปนิดนึงด้วยค่ะ

ห้องน้ำจะแยกห้องชายหญิงเอาไว้ ห้องซ้ายมือคือห้องผู้ชาย ส่วนห้องขวามือคือห้องผู้หญิง

ตู้ล็อกเกอร์มีขนาดพอจะใส่เสื้อผ้า อุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ได้

ภายในห้องน้ำจะมีอ่างล้างมือทางฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

ห้องสุขามีขนาดพอใช้งานได้ และมีห้องอาบน้ำเอาไว้สำหรับล้างตัวเวลาว่ายน้ำเสร็จ ผนังด้านหลังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่นค่ะ

ออกจากประตูห้องน้ำแล้วมองย้อนกลับไปมีบันไดทางลงอยู่ เป็นทางไปที่นั่งชมวิวค่ะ

ที่นั่งชมวิวในสวนอีกตำแหน่งหนึ่งที่ให้บรรยากาศของความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกหน่อย

ถ้าไม่ได้เดินลงบันไดไปนั่งชมวิว หากเดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเข้าสู่พื้นที่ของสระว่ายและส่วนที่ติดกันก็คือห้อง Fitness ค่ะ

เครื่องออกกำลังกายภายใน Fitness ประกอบด้วยเครื่องออกกำลังกายประมาณ 15 เครื่อง

ซึ่งเครื่องที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ก็จะเห็นวิวเมืองมุมสูงแบบประมาณนี้

ถัดมาคือส่วนของสระว่ายน้ำแบบ Infinite-Edge Pool มีขนาดกว้างยาวประมาณ 4.7 x 25 ม. ขนาดพอใช้ว่ายออกกำลังกายหนักๆ ได้แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับจำนวน 983 ยูนิตในอาคารนี้ค่ะ

ภายในสระน้ำมี Daybeds เป็นเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนและรับวิวรอบสระว่ายน้ำ ลูกบ้านที่ไม่ชอบว่ายน้ำจะมานั่งชิวริมสระบน Daybeds นี้ก็ได้

อีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำก็มีสระเด็กไว้ให้ด้วย สระนี้มีความลึกที่ 50 ซม. ค่ะ

จุดนั่งชมวิวบนชั้นสระว่ายน้ำอีกจุดหนึ่งนะคะ ถ้าชอบแบบมีเบาะรองนุ่มๆก็นั่งมุมนี้ดีกว่าค่ะ ทางโครงการวางเก้าอี้ให้หันออกด้านนอกอาคารนะคะ จึงสามารถนั่งชมวิวได้เต็มๆเช่นกัน

ถ้านอนบนเตียงก็น่าจะได้วิวน้ำและท้องฟ้าประมาณนี้ค่ะ ดูชิวๆ ดีนะคะ

ออกมาจากโซนสระว่ายน้ำ จะพาขึ้นไปชมพื้นที่สีเขียวส่วนกลางบนชั้น Rooftop กันค่ะ ซึ่งต้องไปทาง Service Lift นะคะ

เข้ามาก็กดไปชั้น 37 เลย

สำหรับชั้นบนสุดของอาคารพักอาศัย บนชั้น 37 จัดเป็นพื้นที่สีเขียวส่วนกลางของโครงการอีกตำแหน่งหนึ่ง ที่ใช้เป็นจุดชมวิว นั่งพักผ่อนได้ แต่จะเป็นแบบ Outdoor คิดว่าเหมาะที่จะขึ้นมาใช้ในเวลาเย็นๆ ที่แดดร่มแล้วมากกว่าค่ะ

 

สวนบนชั้นนี้มีขนาดกว้างทีเดียว พื้นที่ทั้งหมดถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียวของไม้ยืนต้นและไม้พุ่ม

โครงการออกแบบที่นั่งไว้ให้แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ

จากอาคารพักอาศัยของโครงการเป็นตึกสูง 36 ชั้น ซึ่งจัดเป็นตึกสูงอาคารหนึ่งในย่านนี้เลยทีเดียว ทำให้เรื่องของวิวโดยรอบนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะโล่งเกือบทั้งหมดทั้ง 3 ทิศทาง ได้แก่ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออกเฉียงใต้เลย ในส่วนของวิวทางทิศตะวันเฉียงใต้ จะมีห้องพักบางส่วนที่ถูกบล๊อกวิวในระยะประชิดด้วยคอนโด The Escent ที่สูง 24 ชั้นค่ะ แต่ก็มีข้อดีที่คอนโดนี้จะช่วยบังแดดททางทิศตะวันตกให้ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่จะเลือกห้องทิศนี้คงต้องเลือกชั้นสูงขึ้นไปเกินชั้น 24 ก็จะพ้นกับตึกที่บล๊อกวิวแล้วค่ะ

วิวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถ่ายจากชั้น Rooftop ทำให้ติดสระว่ายน้ำของโครงการ ส่วนบริบทอื่นๆ เป็นวิวโล่งๆ มองไปเห็นพื้นที่สีเขียวเสียเป็นส่วนใหญ่

วิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้วิวเมืองขอนแก่น เห็นแนวของถนนมิตรภาพที่พุ่งไปดูสวยงาม เป็นวิวไปชมแล้วรู้สึกว่าสวยสุดสำหรับโครงการ แต่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ^^

ต่อไปคือวิวทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มุมนี้จะหันเข้ามาทางถนนศรีจันทร์ ที่เป็นแหล่งความคึกคักของตัวเมืองขอนแก่นเลยทีเดียว

วิวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จริงๆ จะต้องเห็นยอดของคอนโด The Escent ด้วยนะคะ แต่เนื่องจากคอนโดยังก่อสร้างไม่เสร็จจึงยังเห็นภาพไม่ชัด

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4.7 x 25 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • ห้องประชุมอเนกประสงค์
  • ห้องสมุด
  • สนามฟุตซอลบนชั้น Rooftop ของอาคารจอดรถ
  • สวนส่วนกลางบนชั้น 4
  • สวนส่วนกลางบนชั้น Roof Top
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 328 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 40 %
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

 

ห้องตัวอย่าง Type แรกที่จะพาไปดู คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 29.5 ตร.ม. โครงการนี้มีให้เลือกทั้งแบบ Fully Fittedให้ชุดครัว และห้องน้ำเหมือนในห้องตัวอย่าง และแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบตามห้องตัวอย่าง โครงการให้ของวัสดุที่ค่อนข้างดี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร

ผังห้องโดยรวมดูลงตัวดี เน้นช่องแสงที่ห้องนอนและส่วนครัว ทำให้ห้องนั่งเล่นจะต้องพึ่งแสงธรรมชาติที่ผ่านมาจากประตูห้องครัว ส่วนการระบายอากาศของห้องน้ำต้องพึ่งงานระบบของอาคารแทนค่ะ ..เปิดเข้ามาในห้องจะเจอกับ Living Area ขนาดค่อนข้างกว้าง วางโซฟา 2 ที่นั่ง วางโต๊ะกลางโต๊ะข้างได้ครบเลย ติดกันเป็นส่วนของห้องครัว ที่ได้ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ครัวเป็นครัวปิดที่มีพื้นที่ทานอาหารแบบโต๊ะ 2 ที่นั่งเอาไว้ด้วย ด้านนอกติดกันเป็นระเบียง ที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้และแอร์แขวนด้านบน 2 ตัว ส่วนของห้องนอนมีพื้นที่วางฟังก์ชั่นใช้งานครบ แต่ห้องน้ำต้องออกมาใช้ด้านนอกร่วมกับห้องนั่งเล่น ซึ่งได้ฉากกั้นอาบน้ำเก๋ๆ เป็นบานเลื่อน 3 ตอนเหมือนกัน ไปดูกันเลยดีกว่า

บานประตูเป็นลายไม้สีโทนเข้ม หน้าตาแบบนี้ มีเจาะรูของตาแมวเอาไว้ให้ ได้มือจับแบบก้านโยก และหน้าห้องก็มีกริ่งติดไว้ให้ด้วย

เข้ามาแล้วเป็น Living Area ขนาดที่เหมาะสมกับห้อง 1 Bed คือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

มองย้อนกลับไปประตูทางเข้าค่ะ ทางซ้ายบนเป็นตำแหน่งของแอร์ที่เราจะได้ด้วย ซึ่งพื้นที่จากโซฟาถึงทีวีค่อนข้างกว้างทีเดียว ด้วยระยะ 3.5 ม. ทำให้สามารถวางชุดโซฟา และเหลือทางเดินเข้าออกห้องได้สะดวก

พื้นที่วางโซฟา ถ้าเราอยู่แบบ 2 คน ก็จัดแค่แบบ 2 ที่นั่งพอ เป็นรูปตัว I หรือ ตัว L ก็ได้ ไม่บังประตูทางเข้าค่ะ และจะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือวางโต๊ะข้างได้ด้วย

ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 3.2 เมตร ค่อนข้างไกลทีเดียวจึงสามารถเลือกทีวีได้ใหญ่ถึง 60 นิ้วเลยทีเดียว ด้านข้างทีวีติดกับทางเข้าห้องน้ำและห้องนอน

มาดูในห้องน้ำกันก่อน พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากห้องนั่งเล่นลงมาหน่อย เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลออกไปห้องอื่นได้ ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้เรียบร้อย และติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบถ้วน

อ่างล้างมือได้ของ American Standard (ไม่มีชุดตู้ใต้อ่าง)

ด้านข้างติดตั้งปลั๊กไฟ และราวแขวนผ้าไว้ให้เรียบร้อย

ในส่วนของสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard เช่นกัน โดยมีระยะวางตำแหน่งการใช้งานต่างๆเป็นมาตรฐาน

ต่อไปมาดูในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ

ทางโครงการจะติดตั้งฉากกั้นไว้ให้เรียบร้อย เป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนแบบนี้มาให้ ทำให้สามารถเปิดประตูได้กว้าง เข้า-ออก ได้สะดวก

ตรงส่วนที่แยกพื้นที่จะมีขอบฉากกั้นอาบน้ำสูงขึ้นมาหน่อย เวลาเดินเข้าออกส่วนนี้ก็ระวังสะดุดนิดนึง ที่ทำแบบนี้เพราะไม่ต้องกลัวน้ำกระเซ็น หรือเอ่อล้นข้ามมาส่วนแห้งแน่นอน

ที่ผนังมีการเซาะร่องแบบนี้เอาไว้ให้วางพวกอุปกรณ์อาบน้ำ ส่วนของชุดฝักบัวก็ได้ของ Bathero พร้อมชั้นวางของค่ะ

ในห้องน้ำได้ไฟดาวน์ไลท์ และติดตั้งพัดลมดูดอากาศไว้ให้ค่ะ

มาดูส่วนของห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนมีความกว้างพอดี ไม่อึดอัด และเหลือที่ให้เดินรอบเตียงทั้ง 3 ด้านได้สะดวก

หน้าต่างช่องแสงในห้องนอนได้มาบานใหญ่พอสมควร เป็นบาน Fix ผสมบานกระทุ้ง โดยจะเปิดได้อยู่ 2 บาน คือบานบน 2 ฝั่งซ้ายขวา

ระยะที่เปิดออกได้ประมาณ 30 องศา แค่พอให้สามารถระบายอากาศได้

จากหน้าต่างมองกลับเข้ามาในห้อง จะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า Built-in ถ้าเลือกแบบ Fully Furnished จะได้แบบเต็มนี้เลยนะคะ สูงเต็มไปจนถึงเพดาน

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิดปิด ภายในก็จะมีราวแขวนผ้าและลิ้นชักเก็บของประมาณนี้

ต่อไปมาดูส่วนครัว ซึ่งได้บานกระจกฉากกั้น 3 ตอน พอเปิดออกสุดแล้วเป็นแบบนี้ ทำให้ยกของใหญ่ผ่านเข้าไปได้ และเดินไปมาได้สะดวก

 

รางของบานเลื่อนจะอยู่ที่ด้านล่างระดับเสมอกับพื้นนะคะ วงกบจะเป็นอลูมิเนียมพาวเดอร์โค๊ทสีขาว

ครัวนี้เป็นครัวปิด ภายในเป็นตำแหน่งของโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งด้วย

อีกฝั่งหนึ่งเป็นชุดครัวที่ได้แบบนี้เลยค่ะ เดี๋ยวมาเจาะกันทีละส่วน

Counter ครัว ด้านล่างมีช่องใส่ตู้ไมโครเวฟที่เหลือเป็นหน้าบานปิดเป็นสัดส่วน ช่องเก็บของก็มีแบบลิ้นชักและบานเปิดเป็น Soft Close

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง โครงการให้เตาไฟฟ้าขดลวดแบบ 2 หัวของ Teka มาค่ะ ซึ่งเตาไฟฟ้าขดลวดเป็นเตาที่ค่อนข้างจะกินไฟมาก การให้ความร้อนค่อนข้างช้า มีข้อแนะนำเวลาใช้คือให้ดับไฟตอนใกล้ๆจะทำอาหารเสร็จเพื่อประหยัดไฟ เพราะความร้อนจะยังคงอยู่กับเตาอีกนาน แล้วเมื่อทำอาหารเสร็จก็ระวังมือไปโดนด้วยนะคะ ถ้ากลัวเปลืองไฟให้ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแทนซึ่งกินไฟน้อยกว่าแต่ก็มีราคาเตาที่แพงกว่าค่ะ ให้มาเป็น Set พร้อมพัดลมดูดควัน ซึ่งเป็นระบบหมุนเวียนภายในห้องไม่ได้ต่อท่อออกไปด้านนอกนะคะ ถัดไปเป็นซิงค์ล้างจานยี่ห้อ Mex พื้นที่บนเคาน์เตอร์โดยรวมมีพื้นที่พอให้วางเครื่องปรุง ส่วนผสม สำหรับปรุงอาหารได้ ส่วน Backsplash ด้านหลังติดกระเบื้องสีขาวเอาไว้ให้กันในส่วนเวลาทำอาหารแล้วกระเด็นไปเลอะเทอะ ชัดได้ง่าย

ซิงค์ล้างจาน 1 หลุมที่ให้มา มีขนาดพอจะใส่แก้วได้ 6 – 7 ใบ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ

ด้านบนเป็นชุดตู้มีหน้าบานปิด พอเปิดออกแล้วเป็นแบบนี้ เป็นชั้นเก็บ แต่ว่าด้านในมีตู้ส่วนของเบรกเกอร์ไฟอยู่ในตู้

ติดกันกับ Counter ครัวเป็นพื้นที่วางตู้เย็น อย่างห้องตัวอย่างวางตู้เย็นขนาด 9.1 คิวไว้ ซึ่งถ้าใครจะซื้อเลือกตู้เย็นก็ดูเรื่องขนาดที่วางด้วยนะคะ

กลับหลังหันมองพื้นที่โต๊ะทานอาหาร ที่วางเก้าอี้แบบ 2 ที่นั่งเอาไว้ ลองดึงกางเก้าอี้ออกมาระยะประมาณใช้งานจริง ก็ไม่ติดผนังกระจกอะไรใช้งานได้จริงค่ะ

ส่วนของทางออกไประเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเช่นเดียวกัน ตรงนี้ขอบวงกบจะสูงขึ้นมาหน่อย ช่วยกันน้ำจากภายนอก เวลาฝนตกหนักจะได้ไม่สาดเข้ามาในพื้นที่ในห้องค่ะ

พื้นที่ของระเบียงขนาดประมาณ 1 x 2.3 เมตร ซึ่งพอวางเครื่องซักผ้าลงแล้ว ก็พอเหลือพื้นที่ให้ยืน เดิน ได้นิดหน่อยสำหรับตาก แขวน ทำงานบ้านได้ ราวกันตกเป็นแบบโครงเหล็กโปร่ง

ด้านข้างติดโครงเหล็กสำหรับแขวนแอร์ไว้ 2 ตัว ซึ่งเวลาเรามองจากด้านนอกอาคารมาจะไม่เห็นคอมแอร์เต็มๆ ทำให้ดูสะอาดตา เรียบร้อย

ห้องตัวอย่างอีก Type หนึ่งที่จะพาไปดู คือห้อง 2 Bedroom ขนาด 65 ตร.ม. ถ้าดูจาก Unit Plan จะเห็นว่าห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง และเป็นห้องมุม ทำให้มีพื้นที่รับวิวมากกว่าห้องปกติ ห้องส่วนใหญ่ในห้องนี้จึงมีส่วนที่ติดกับผนังที่เป็นช่องแสงทั้งหมด ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น, ห้องนอนเล็ก, ห้อง Master Bedroom (ยกเว้นห้องครัว ห้องน้ำ) มีข้อดีหลักๆคือช่องแสงจะช่วยเพิ่มปริมาณแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในห้องได้

Layout ของห้องนี้นำครัวมาไว้หน้าห้องแต่ไม่มีผนังกั้นห้องครัว ทำให้ได้เป็นลักษณะครัวเปิด (Pantry) ซึ่งมีระยะพอให้กั้นเป็นครัวปิดได้แต่ไม่มีหน้าต่าง ต้องระบายกลิ่นออกทางที่ดูดควันเท่านั้น ติดกันกับห้องครัวเป็นส่วนรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่นจะติดอยู่กับหน้าต่างแบบ Bay Window ห้องนี้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่จะได้ห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กต้องมาใช้ห้องน้ำในส่วนกลางค่ะ

เมื่อเราเปิดประตูเดินเข้าห้องมาแล้ว เราจะพบกับส่วนรับประทานอาหารก่อนอันดับแรก

ตรงกับหน้าประตูเลยจะเป็นชุดโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ถัดเข้าไปด้านในเป็น Pantry ครัวรูปตัว I มุมในสุดของ Pantry เว้นไว้ให้ใส่ตู้เย็น ในส่วนพื้นที่ครัวเข้าไปยืนทำอาหารได้ 1-2 คนเท่านั้น แต่ก็ถือว่าจัดฟังก์ชั่นมาครบดีทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และ Counter เก็บของ ทำให้ใช้งานได้จริงจังระดับหนึ่ง

ด้านข้างประตูเป็นตำแหน่งของตู้ใส่รองเท้า

ตู้นี้ทางโครงการทำออกมาแบบ Multi- Function คือเป็นโต๊ะวางของและเป็นตู้เก็บรองเท้าไปด้วยในตัว ถ้าต้องการนั่งใส่รองเท้าก็หาสตูลมาเพิ่มอีกสักตัวหนึ่งก็พอแล้วค่ะ

ฝั่งตรงข้ามชุดครัว เป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาขนาดนั่งได้ 2-3 คน เวลาพาเพื่อนๆมาพักผ่อนที่ห้องหลายคน โซฟาอาจจะไม่พอนะคะ ก็น่าจะหาเก้าอี้สตูลตัวเล็กๆ มาเพิ่มได้ จุดเด่นของที่นั่งเล่นมุมนี้คือได้กระจกแบบ Bay Window จึงได้วิวนอกโครงการที่กว้างขึ้นค่ะ

ผ่านพื้นที่นั่งเล่นและส่วนครัวเข้ามาจะเจอโถงทางเดินที่เชื่อมห้องต่างๆภายในนะคะ ขวามือห้องแรกเป็นห้องนอนใหญ่ ถัดไปห้องที่อยู่ตรงกลางเป็นห้องน้ำ และห้องทางซ้ายมือเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งค่ะ

เข้ามาดูภายในห้องนอนใหญ่กันก่อน ด้านในห้องนอนมีขนาดกว้างพอสมควรทำให้สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้สบายๆ

พื้นที่ปลายเตียงไม่มีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าจะติดทีวีในห้องนี้ต้องติดแบบแขวนค่ะ ซึ่งก็ได้มีการติดตั้งสวิตซ์ไฟและช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไว้เรียบร้อยนะคะ

ด้านข้างเตียงจะติดกับประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียง

ทำให้จากมุมบนเตียงนอน ก็สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้

พื้นที่ระเบียงก็ทำออกมาค่นอข้างกว้างเลยทีเดียว แต่น่าจะติดกิลเบนทิศทางลมให้กับคอมเพลสเซอร์หน่อย จะช่วยลดความร้อนบริเวณระเบียง ทำให้น่าใช้งานขึ้นค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนเป็นโซนตู้เสื้อผ้าที่ถูก Bulit-in ไว้ ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in ไว้ให้ และข้างตู้มีพื้นที่พอให้ตั้งโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in ไว้จะเป็นตู้บานเปิด 3 บาน หน้าบานเป็นบานทึบก็ทำให้ดูเรียบร้อยดี ภายในมีราวแขวนผ้า และมีลิ้นชักเก็บของอีก 4 ช่อง ส่วนด้านบนเป็นช่องเปิดไว้เก็บผ้านวมผืนใหญ่ๆ ได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำขนาดพอๆ กับห้องน้ำในห้องแรกที่พาไปดูมาแล้วนะคะ ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้เรียบร้อย

ต่อไปเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่อยู่ระหว่างห้องนอนใหญ่กับห้องนอน ก็แบ่งส่วนเปียกแห้งไว้พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ไว้ครบถ้วน

มาดูห้องสุดท้ายกันที่ห้องนอนอีกห้องหนึ่ง มีขนาดกว้างทีเดียวให้วางเตียงใหญ่ขนาด 5 ฟุต ได้ นับว่าเป็นห้องนอนที่อยู่กัน 2 คนได้เลย

หน้าต่างภายในห้องให้มาเป็นแบบ Bay Window แต่เสียดายนิดนึงที่อยู่ฝั่งหัวเตียง ทำให้เวลานอนอยู่บนเตียงจะไม่เห็นวิวจากมุมนี้

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เรียบร้อย

หน้าตาของปลั๊กและสวิตซ์ไฟที่ได้ของ Schenider ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 May 2017

  • 1 Bedroom ชั้น 11 เนื้อที่ 29.05 ตร.ม. ราคา 1.899 ล้านบาท หรือ 65,370 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 1,750,000 บาท) ขายแบบ Fully Fitted
  • 1 Bedroom ชั้น 19 เนื้อที่ 29.82 ตร.ม. ราคา 1.969 ล้านบาท หรือ 66,030 บาท/ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted
  • 1 Bedroom ชั้น 19 เนื้อที่ 29.82 ตร.ม. ราคา 2.155 ล้านบาท หรือ 72,267 บาท/ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished
  • 1 Bedroom ชั้น 33 เนื้อที่ 29.82 ตร.ม. ราคา 2.390 ล้านบาท หรือ 80,148 บาท/ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted

  • Fully Furnished / Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง : แบบ 1 ห้องนอน 30,000 บาท แบบ 2 ห้องนอน 50,000 บาท
  • ทำสัญญา : แบบ 1 ห้องนอน 50,000 บาท แบบ 2 ห้องนอน 80,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการเข้าออกจากถนนใหญ๋ได้สะดวกเพราะอยู่ติดถนนมิตรภาพ และมีจุดแข็งคือการที่อยู่ใกล้เซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น ในระยะที่เดินไปได้ จึงสามารถไปเดินเล่น หาอะไรทานในห้างฯได้สะดวก แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ติดห้าง ก็ต้องใช้รถกันสักหน่อย ขับเข้าไปหาความเจริญ และความอุดมสมบูรณ์ในเขตใจกลางเมือง(บนถนนศรีจันทร์) ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางโดยใช้รถนับว่าเหมาะกับโครงการนี้ เพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่ทำให้เข้า – ออกได้สะดวกทีเดียวและโครงการก็คำนึงถึงเรื่องที่จอดรถทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ด้วย โดยจัดที่จอดรถยนต์มาที่ 40% และที่จอดรถมอเตอร์ไซค์อีก 142 คันค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – สำหรับรถสาธารณะของคนที่นี่ก็นิยมใช้รถสองแถวกัน แต่ก็จะมีรถตู้ที่วิ่งระหว่างเซ็นทรัลพลาชาขอนแก่น กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมให้บริการด้วย

การออกแบบโครงการ – โครงการใช้สไตล์ Modern ในการออกแบบ ซึ่งทำออกมาได้ดูดีทีเดียว ให้ภาพลักษณ์เหมือนเป็นคอนโดที่อยู่ในเมืองกรุงฯ มากๆ และจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะและดูน่าใช้งานด้วย ส่วนการออกแบบห้องพักอาศัยนั้นที่นี่จะมีแบบ 1-2 Bedroom แต่จะมี Type ห้องที่ซอยย่อยออกไปหลากหลายรูปแบบและต่างฟังก์ชั่นให้เลือกสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการต่างกันไปอีกด้วย แต่โดยรวมจากที่ดูถือว่าออกแบบมาได้ดีคุ้มค่าพื้นที่ใช้สอย โดยส่วนตัวชอบที่มีการใช้ Bay Window ให้กับห้องพักอาศัย ทำให้เปิดมุมมองดูวิวได้กว้างขึ้นด้วย

วัสดุที่ได้เรียกว่าดีสมราคาห้อง (เฉลี่ย 72,xxx บาท/ตร.ม.) นะคะคือขึ้นแล้วให้ของดีแบบนี้ก็โอเค มาเริ่มจาก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร, พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ 8 mm. กระเบื้องครัวระเบียงเป็นผิวด้านไซส์ 30 ซม. ในแต่ละห้องก็จะได้แอร์ / ชุดครัวได้หมด Kitchen&Sink + Hob&Hood มีหน้าบานทั้งบนล่าง Top ครัวเป็นเมลามีน ฉากกั้นได้ทั้งครัวและห้องน้ำ วัสดุในห้องน้ำของ American Standard

สุดท้ายในเรื่องของสาธารณูปโภคถือว่าให้มาเยอะพอสมควรนะ โดยชั้น Facilities หลักจะอยู่บนชั้น 35 ได้แก่ สระว่ายน้ำแบบ Infinite-Edge Pool ขนาดประมาณ 4.7 x 25 เมตร แยกสระเด็กด้านข้าง, Fitness ขนาดใหญ่, สวนส่วนกลางและพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง หลายตำแหน่งทั้งบนชั้น Rooftop ของอาคารพักอาศัย บนอาคารจอดรถ และบนชั้น 4 มีสนามฟุตซอล, Lobby Double Volume ผนังกระจกบานใหญ่ดูหรูหรา, ห้อง Business Lounge, ลิฟต์โดยสารของที่นี่มีทั้งหมด 3 ตัว และมี Service Lift อีก 1 ตัว อัตรส่วนความหนาแน่นลิฟต์จะอยู่ที่ 328 : 1 ซึ่งถือว่าอัตราส่วนเยอะพอสมควรเลยนะคะ

 

Judgement

เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ค่ะ

ราคาของโครงการ The Base Height มิตรภาพ-ขอนแก่น อยู่ที่ประมาณ 1.75 –  5 ล้านบาท, 17 May 2017

  • ทำเล  – อยู่ติดถนนใหญ่อย่างมิตรภาพ ใกล้เซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น ในระยะที่พอเดินไปได้
  • เดินทางด้วยรถ – สะดวกมากสามารถเข้าเขตใจกลางเมืองได้ง่าย หรือจะไปมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็ง่าย
  • ไม่ใช้รถ – จะมีรถสองแถว และรถตู้ที่บริเวณเซ็นทรัลคอยให้บริการอยู่
  • วัสดุ – ให้มาค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคา มีให้เลือกทั้งแบบ Fully Fitted และ Fully Furnished
  • แบบ – เน้นความหรูหรา และทำออกมาได้ดี ดูลงตัว
  • สาธารณูปโภค – ให้มาเยอะทีเดียว และน่าใช้งานด้วยค่ะ

  • ECONOMY – MAIN CLASS

 

BOTTOM LINE

The Base Height มิตรภาพ – ขอนแก่น เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่ในทำเลที่ติดกับแหล่งธุรกิจการค้าสามารถเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยขอนแก่น,โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และเข้าเขตใจกลางเมืองได้สะดวก ในราคาที่เปรียบเทียบกับทำเลแล้วจับต้องได้ ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ชอบของแบรนด์หน่อย รับแขกได้มีหน้าตา มีงบประมาณในราคา 1.75 –  5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,000 – 35,000 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )