รีวิวฉบับที่ 1456 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชม Niche Mono Peak บางนา จาก SENA คอนโด Low Rise 7 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างซอยบางนา-ตราด 40 และ 42 ใกล้เซ็นทรัลบางนา เป็นโครงการ Low Rise ที่พีคสมชื่อกับการให้ที่จอดรถเกิน 100% แบบ FIX ช่องจอด 1 คัน/1 ห้อง ใช้โซลาร์เซลล์ในการประหยัดค่าส่วนกลาง มี EV CHARGER ที่ชาร์จรถที่ใช้ไฟฟ้ามาให้ และส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 42 ยูนิต (ชั้นละ 7 ยูนิต) พร้อมให้พื้นไม้สักทุกห้อง เราไปชมรายละเอียดพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

Fact @ 17 October 2017

  • Niche Mono Peak Bangna (นิช โมโน พีค บางนา)
  • บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
  • คอนโด Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร 42 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 42 คัน แบบ FIX ช่องจอด 1 คัน/1 ห้อง คิดเป็น 100% และ ที่จอดรถแบบหมุนเวียน
  • ที่ดินประมาณ 1–3–14 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต (1 ยูนิต / ชั้น)
  • 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 62.00 ตร.ม. จำนวน 36 ยูนิต (6 ยูนิต / ชั้น)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 4.37 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1775

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ 

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.663278, 100.636508

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Niche Mono Peak บางนา ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ( กม.4 ฝั่งขาเข้า) ระหว่างซอยบางนา-ตราด 40 และ 42 ตัวโครงการอยู่ในถนนส่วนบุคคลห่างจากถนนบางนา-ตราดประมาณ 400 ม. ซอยเดียวกับโครงการ Niche Mono บางนา เฟส1 , 2 ไม่ได้ติดถนนใหญ่จึงไม่พลุกพล่าน เข้ามาในซอยก็ช่วยลดปัญหาเรื่องเสียงและมลภาวะทางอากาศได้บ้างค่ะ การเดินทางโดยใช้รถยนต์ สามารถใช้ถนนบางนา-ตราดสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก โดยโครงการห่างจากสี่แยกบางนาประมาณ 4 กม. เป็นแยกที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิทสามารถแยกทางไปสำโรงหรือเข้าเมืองไปก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นทางด่วนไปเลยก็สะดวกดี หรือถ้าจะไปฝั่งชลบุรี พัทยา ก็ไปกลับรถแล้วก็ยิงยาวไปอย่างเดียวเลย ไม่ไกลจากสะพานกลับรถ นอกจากนั้นยังมีเส้นศรีนครินทร์ที่สามารถจะเข้าและออกเมืองได้เช่นกัน

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถ้าเดินออกมาหน้าโครงการจะมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าปากซอยบางนา-ตราด 42 มีรถหลายสายวิ่งผ่าน หรือจะเรียก Taxi ก็ได้ สำหรับรถไฟฟ้าในตอนนี้ต้องต่อรถไปขึ้นที่ BTS สถานีบางนาซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถือเป็นสายหลักสามารถนั่งเข้าใจกลางเมืองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย นอกจากนั้นในอนาคตบริเวณถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองพาดผ่านและจะมี Light Rail (บางนา – สุวรรณภูมิ) วิ่งผ่านถนนบางนาไปเชื่อมกับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะรับคนจากสุขุมวิท ช่วงบางนา – ตราดเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรบนถนนบางนา – ตราด , ศรีนครินทร์ และ บริเวณใกล้เคียง

ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากสะพานกลับรถทั้ง 2 ฝั่ง ถ้าออกจากโครงการแล้วอยากจะไปเดินเซ็นทรัลบางนาก็สามารถขับรถออกมาแล้วไปกลับรถก็จะถึงห้างแล้ว โดยสะพานกลับรถจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กิโลเมตร หรือถ้าเราวิ่งมาจากในเมืองจะเข้าโครงการก็มากลับรถบริเวณ Index Living mall สาขาบางนา พอลงจากสะพานกลับรถตรงมาอีกประมาณ 2.3 กิโลเมตรก็จะถึงโครงการค่ะ หรือถ้าใครไม่มีรถก็สามารถเดินไปเซ็นทรัลบางนาได้ โดยต้องเดินออกมาหน้าปากซอย จากหน้าปากซอยโครงการเดินไปประมาณ 340 เมตรจะมีสะพานลอยให้เดินข้ามไปได้ บริเวณนั้นนอกจากห้างแล้วถือเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้า ร้านอาหาร และ Big C ให้เดินเลือกซื้อของกันด้วย ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้ถึงแม้จะอยู่แถบชานเมืองแต่ก็ยังมีเกาะห้างสรรพสินค้าที่พึ่งพาได้ อยู่ในระยะเดินได้ มี 7-11 อยู่ใกล้ๆกัน มีสะพานข้ามฝั่งไปยังเซ็นทรัลบางนา , Big C ได้  ห่างไปอีกหน่อยก็จะมี Mega บางนา  หรือไม่ก็ไปแถวเส้นศรีนครินทร์มีซีคอนสแควร์ พาราไดซ์พาร์ค และตลาดนัดรถไฟ ซึ่งมีของกินของใช้ขายเยอะพอสมควร ในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Bangkok Mall อยู่ใกล้กับสี่แยกบางนาเลย ในซอยสุขุมวิท105 (ลาซาล) หรือ ซอยสุขุมวิท107 (แบริ่ง) ก็มีร้านอาหารและตลาดสด สามารถขับรถมาหาอะไรทานได้ นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบโครงการจะมีโรงเรียนนานาชาติอยู่ค่อนข้างเยอะทั้ง โรงเรียน นานาชาติ Montessori Academy Bangkok , โรงเรียน นานาชาติ Berkeley , โรงเรียน นานาชาติบางกอกพัฒนา , โรงเรียน นานาชาติ St Andrews , โรงเรียน นานาชาติ Anglo Singapore มีโรงพยาบาลเช่น โรงพยาบาล ไทยนครินทร์ , โรงพยาบาล บางนา ค่ะ

การเดินทางในวันนี้เราใช้ถนนบางนา-ตราด วิ่งตรงมาเรื่อยๆผ่านเซ็นทรัลบางนา จากนั้นเบี่ยงเข้าทางขนานมากลับรถที่แถวๆ Index Living mall ตรงมาเรื่อยๆเลี้ยวเข้าซอยที่อยู่ระหว่างซอยบางนา-ตราด 40 และ 42 ตรงเข้าซอยมาประมาณ 400 เมตรก็จะถึงโครงการค่ะ

เส้นทางที่เราให้เดินทางไปโครงการในวันนี้ จะเริ่มจากถนนบางนา-ตราด ฝั่งมุ่งหน้าไปทางชลบุรี

วิ่งตรงตามเส้นทางถนนบางนา-ตราด มาเรื่อยๆจะผ่าน Central บางนา อยู่ทางซ้ายมือ หน้าห้างจะมีสะพานลอยอยู่ สามารถเดินจากโครงการแล้วมาข้ามสะพานลอยนี้เพื่อเข้าห้างได้ค่ะ

ตรงตามทางจะผ่านโรงพยาบาล ไทยนครินทร์ ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับซอยของโครงการเลย เราจะตรงต่อไปเพื่อไปหาที่กลับรถ

วิ่งตรงมาอีกนิดจะเจอ SB Design Square สาขาบางนา ตั้งอยู่ในอาคาร Ample Tower ซึ่งชั้นล่างของตึก (ส่วนที่เป็น Podium) จะเป็น SB ที่ขาย Furniture และของตกแต่งบ้าน ส่วนชั้นบนเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ

ถัดมาจะเจอ Index Living Mall ซึ่งเป็นที่ขาย Furniture และของตกแต่งบ้านอีกเช่นกัน

พอเราเห็น Index Living Mall ให้เตรียมตัวเบี่ยงเข้าทางขนานนะคะ สะพานกลับรถจะอยู่บริเวณนี้แหละ

พอเข้าทางขนานมาก็จะเห็นป้ายสะพานกลับรถเลย เตรียมตัวอยู่ให้ถูกเลนนะ

เราขึ้นสะพานเพื่อกลับรถกันค่ะ

พอกลับรถมาให้ชิดซ้ายเอาไว้ ตึกสูงๆทางฝั่งซ้ายนี้คืออาคาร Interlink Tower

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอทางที่เลี้ยวซ้ายไปจะเป็นถนนศรีนครินทร์

จากนั้นจะเจอซอยบางนา-ตราด 42 ให้เตรียมชิดซ้ายค่ะ

ถัดจากซอยบางนา-ตราด 42 มาก็จะถึงซอยของโครงการค่ะ หาไม่ยากเพราะมีป้ายติดไว้อยู่

หน้าปากซอยติดป้ายว่าเป็นถนนส่วนบุคคล

ตัวโครงการจะอยู่ถัดจากหน้าปากซอยเข้าไปประมาณ 400 เมตร ซอยนี้เป็นซอยส่วนบุคคลเฉพาะลูกบ้านของเสนาเท่านั้นค่ะ จึงไม่วุ่นวายพลุกพล่าน มีกฎระเบียบสำหรับการจอดรถข้างทาง มีปลูกต้นไม้เพื่อปรับทัศนียภาพให้สวยงามเป็นระยะๆ

เข้ามาหน่อยจะเจอกับสำนักงานขายโครงการ

สำหรับ Niche Mono Peak บางนา ห้องตัวอย่างจะอยู่ในสำนักงานขายนี้ค่ะ ส่วนตัวโครงการสร้างเสร็จแล้วเดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูด้านในกัน

ตรงต่อมาจะเจอกับร้านสะดวกซื้อชื่อ S minimart

ร้าน S minimart เปิด 24 ชั่วโมงซะด้วย เอาไว้พึ่งพาเวลาหิวแล้วไม่อยากเดินออกจากซอยไปไกลๆได้ค่ะ

ถัดมาจะเจอกับโครงการรุ่นพี่อย่าง Niche Mono บางนา เฟส 2 เป็น Low Rise เหมือนกัน

ตามมาติดๆด้วย  Niche Mono บางนา เฟส 1 ถัดเข้าไปด้านในสุดจึงจะเป็นโครงการ Niche Mono Peak บางนา ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

Niche Mono Peak บางนา เป็นโครงการที่ 3 ที่อยู่ในซอยนี้ อยู่ด้านในสุด ตัวโครงการรายล้อมไปด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบ และพื้นที่ว่างเปล่าสลับกันค่ะ วิวส่วนใหญ่เป็นโล่งๆ จะมีบางฝั่งที่จะใกล้กับคอนโด Low Rise สูงพอๆกัน แต่ตัวอาคารก็มีระยะห่างพอสมควรค่ะ โดยมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ

  • ทิศเหนือ – เป็นฝั่งทางเข้า-ออก ติดกับถนนส่วนบุคคลและโครงการ Niche Mono บางนา เฟส 1
  • ทิศตะวันออก – ติดกับซอยบางนา-ตราด42 และหมู่บ้านแนวราบ
  • ทิศใต้ – ติดกับโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และ บ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก – ติดกับโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ซอยบางนา-ตราด40 และบ้านพักอาศัยแนวราบ

ทิศเหนือ ฝั่งทางเข้า-ออก จะติดกับถนนส่วนบุคคลและโครงการ Niche Mono บางนา เฟส 1 วิวทางฝั่งนี้มองออกไปเห็นเซ็นทรัลบางนาด้วย

ทิศตะวันออก ติดกับซอยบางนา-ตราด42 และหมู่บ้านแนวราบ วิวฝั่งนี้โล่งๆค่ะ

ทิศใต้ หรือ ด้านหลังโครงการ จะติดกับโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และ บ้านพักอาศัยแนวราบ

ทิศตะวันตก ติดกับพื้นที่ก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise  และบ้านพักอาศัยแนวราบ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียน นานาชาติ Montessori Academy Bangkok ~ 450 m.
  • โรงพยาบาลบางนา ~  800 m.
  • Big C บางนา ~ 950 m. (ระยะเดิน)
  • เซ็นทรัลบางนา ~ 1.2 km. (ระยะเดิน)
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 1.2 km. (ระยะเดิน)
  • Index Living Mall ~  3.5 km.
  • SB Design Square ~ 4.4 km.
  • โรงเรียน นานาชาติบางกอกพัฒนา ~ 4.5 km.
  • Mega Bangna ~ 5.9 km.
  • พาราไดซ์พาร์ค ~ 6.8 km.
  • ตลาดนัดรถไฟ ~ 6.8 km.
  • ซีคอนสแควร์ ~  7 km.
  • โรงเรียน นานาชาติ Berkeley ~ 7.4 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

Niche Mono Peak บางนา เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร  พร้อมอาคารสวนลอยฟ้าที่ชั้นบนเป็น Jogging track ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ อาคารพักอาศัยชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถทั้งหมด โดยจอดแบบ FIX ช่องจอด 1 คัน/1 ห้องคิด ได้ 42 คัน หรือคิดเป็น 100% และ ยังสามารถจอดรถซ้อนคันและรอบๆโครงการได้อีก ในอาคารพื้นที่ส่วนกลางจะมี Lobby สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส ชั้น 2 เป็นต้นไปจึงเป็นส่วนพักอาศัย มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม.และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 62.00 ตร.ม.ให้เลือก โดยจะเน้นไปทาง 2 ห้องนอนมากกว่าค่ะ

ผังโครงการชั้น 1 ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนส่วนบุคคล เข้ามาจะเจอกับที่จอดรถก่อน โดยที่จอดโครงการนี้ให้มาค่อนข้างเยอะมีทั้งจอดกลางแจ้งและในร่ม เป็นแบบ FIX ให้ทุกห้อง 1 ช่องจอด/1คัน และยังมีช่องจอดแบบหมุนเวียนสำหรับห้อง 2 ห้องนอนที่จะได้ที่จอดแบบไม่ FIX เพิ่มอีก 1 คันค่ะ ด้านหลังโครงการตรงส่วนที่ แปลงที่ดินเป็นเส้นยาวๆจะเป็นตำแหน่งของอาคารสวนลอยฟ้า ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ส่วนชั้นบนเป็นสวนหย่อมและJogging track สำหรับในอาคารพักอาศัยจะมี Lobby สำนักงานนิติบุคคล ห้องน้ำ ห้องจดหมาย สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส มีลิฟท์แบบล็อคชั้น 1 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟท์เท่ากับ 42 : 1 เพียงพอต่อการใช้งาน มีบันไดหนีไฟ 2 จุด เนื่องจากโครงการนี้มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ จึงไม่หนาแน่น ใช้งานพื้นที่ส่วนต่างๆได้สบายๆ

โครงการนี้มีการใช้โซล่าร์เซลล์ เพื่อลดค่าไฟพื้นที่ส่วนกลางเช่น ไฟสวน ไฟทางเดิน ช่วยทำให้ประหยัดค่าส่วนกลางของเราได้

นอกจากนั้นยังมี EV Charger หรือเครื่องชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้ามาให้ โดยไฟฟ้าที่ใช้นั้นจะมาจากโซล่าร์เซลล์นั่นเอง

เรามาดูโครงการกันค่ะ เริ่มจากทางเข้า-ออกจะอยู่ติดกับถนนส่วนบุคคล จากถนนใหญ่โครงการนี้จะอยู่ด้านในสุดเลย

ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการจะมีป้อม รปภ. รั้วกั้นไม้กระดก และ CCTV

ทางเข้า-ออกของรถยนต์จะแบ่งแยกกันชัดเจน ถ้าใครไม่ใช่ลูกบ้านจะต้องมาแลกบัตรบริเวณนี้ค่ะ

ระบบ Keycard Access หน้าโครงการเป็นแบบระยะใกล้ ส่วน CCTV จะอยู่ในตำแหน่งส่องป้ายรถยนต์

เข้ามาในโครงการเราจะเจอกับที่จอดรถก่อน โดยรถที่เข้ามาจะต้องวนไปทางซ้าย

ที่จอดรถจะมีทั้งจอดกลางแจ้งและจอดภายในอาคาร เป็นแบบ FIX ตำแหน่งช่องจอดมาให้ทั้งหมด ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่มีที่จอด

โครงการของเราจะห่างจาก Niche Mono บางนา เฟส 1 อยู่พอสมควรเลย ใครอยู่ห้องทางฝั่งนี้มองออกมาก็มีระยะห่างระหว่างอาคารว่างๆอยู่

ด้านล่างอาคารเป็นทางเข้าที่จอดรถ และ ข้างๆกันเป็นที่จอดสำหรับ EV Charger

บริเวณนี้เป็น Solar Station ที่มี EV Charger สำหรับรถที่ใช้ไฟฟ้าค่ะ โดยไฟฟ้าที่ใช้จะนำมาจากพลังงานแสงอาทิตย์นั่นเอง

เครื่องขาวๆนี้เป็น EV Charger ค่ะ

ที่จอดรถโครงการนี้มีเกินกว่า 100% ตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้าหรือในร่มและเป็นแบบ FIX ช่องจอด

ฝั่งนี้เป็นทางเข้าอาคารและส่วนของ Facilities เดี๋ยวเราค่อยกลับมาดูกันค่ะ

ตรงมาจนสุดทางเเล้วเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปอาคารสวนลอยฟ้า

อาคารสวนลอยฟ้า ชั้นล่างเป็นที่จอดรถในร่ม ส่วนชั้นบนเป็นสวนหย่อมและ Jogging Track

มองจากมุมสูงจะเห็นว่ามีพื้นที่ Jogging Track ให้คนที่อยากออกกำลังกายกลางแจ้ง รอบๆจัดเป็นสวนหย่อม มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนมาให้ด้วย

ข้างล่างอาคารสวนลอยฟ้าเป็นที่จอดรถในร่ม โดยใครจะได้จอดตรงไหนทางโครงการจะ FIX ช่องจอดมาให้

ถัดไปด้านหลังจะเป็นที่จอดรถแบบหมุนเวียน สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนที่จะได้ที่จอดรถแบบไม่ FIX ช่องจอดเพิ่มมาอีก 1 คัน

เราขึ้นไปดูด้านบนกัน

ขึ้นมาจะเจอกับ Jogging Track ที่มีลู่วิ่งยาว 60 เมตร รอบๆจัดเป็นสวนหย่อมค่ะ

ด้านหลังสุดมีมุมให้นั่งพักผ่อนพร้อมหลังคาคลุมกันแดด กันฝน

มองย้อนกลับไปที่ตัวอาคาร ก็จะเจอมุมนั่งพักผ่อนอีกจุดหนึ่ง

มุมนั่งพักผ่อนค่ะ ด้านหลังจัดเป็นสวนหย่อม

ทางเข้าอาคารเป็นประตูกระจกใสค่ะ โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด

เข้ามาในตัวอาคารจะเจอกับ Lobby ทางฝั่งขวาเป็นสำนักงานนิติบุคคลและห้องน้ำ ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปฟิตเนส ห้องจดหมาย และโถงลิฟท์ ด้านหลังสุดจะมีทางออกไปสระว่ายน้ำ

ส่วนของ Lobby มีชุดโซฟามาให้นั่งเล่นพักคอย พร้อมมี Free Wi-Fi ให้ใช้ ด้านข้างเป็นผนังกระจกสามารถดูวิวเป็นสระว่ายน้ำและสวนด้านหลังได้

อีกฝั่งหนึ่งเป็นสำนักงานนิติบุคคลและห้องน้ำ

หน้าห้องน้ำมี partition กั้นเอาไว้จากส่วน Lobby  ให้คนที่มาใช้พื้นที่บริเวณนี้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้านหลังมีประตูเล็กอีกอันหนึ่งที่พอขึ้นจากสระก็สามารถเดินมาเข้าห้องน้ำได้เลย มีทั้งห้องน้ำชาย-หญิง ตรงกลางเป็นอ่างล้างมือ

มีอ่างล้างมือมาให้ 3 อ่าง พร้อมกระจกเงาส่องหน้าขนาดใหญ่เต็มบาน

ภายในห้องน้ำมีทั้งส่วนที่เป็นโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ

บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

เดินถัดมาด้านในสุดของ Lobby จะมีประตูทางออกไปที่สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเป็นส่วน Outdoor ด้านหลังอาคาร มีทั้งสระผู้ใหญ่และสระเด็ก มีระบบ Salt Chlorinator ลดอาการแพ้ ปลอดภัยต่อสุขภาพ

สระเด็กจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับสระผู้ใหญ่แต่มีขอบด้านข้างกั้นเอาไว้แบบนี้

สระผู้ใหญ่เป็นสระระบบเกลือมีขนาด 5 x 17 เมตร ลึก 1.20 เมตร ทางฝั่งซ้ายจัดเป็นสวนหย่อม ด้านหลังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ

ผนังตกแต่งมีอยู่อันหนึ่งที่มีน้ำพุด้วย ว่ายน้ำไปฟังเสียงน้ำพุไปก็ผ่อนคลายดี

ด้านหลังจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนริมสระ ทางฝั่งขวาเป็นทางไปที่ล้างตัวก่อน-หลังเล่นน้ำ

มุมนั่งพักผ่อนมีชุดที่นั่งแบบกันน้ำ นั่งOutdoor ได้มาให้ พื้นตรงบริเวณนี้เป็นหญ้าเทียมค่ะ

มีมุมล้างตัวก่อน-หลังเล่นน้ำ แอบอยู่ด้านหลังผนังส่วนที่ถัดมาจากมุมนั่งเล่น

กลับมาภายใน Lobby อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางไปห้องจดหมาย โถงลิฟท์ และ ห้องฟิตเนส

บริเวณนี้ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปนะคะ

เข้ามาจะเจอกับมุมติดบอร์ดประชาสัมพันธ์และห้องจดหมาย

ตู้จดหมายที่โครงการดีไซน์มาเป็น Pattern สลับกัน สวยดีค่ะ

ถัดเข้าไปเป็นโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสารอยู่ 1 ตัวเป็นแบบล็อคชั้น ซึ่งก็พอเพียงต่อการใช้งานเพราะจำนวนยูนิตของโครงการนี้มีไม่เยอะ ด้านหลังสุดเป็นห้องฟิตเนส

ภายในห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 5-6 เครื่องค่ะ

ส่วนของห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป จุดเด่นของโครงการนี้อีกอย่างหนึ่งคือมีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยเพียง 7 ห้องต่อชั้นเท่านั้น จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว  เน้นเป็นห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอนขนาดประมาณ 62 ตารางเมตร มีห้อง 1 ห้องนอนเพียงชั้นละ 1 ห้องขนาดประมาณ 35 ตารางเมตร

ผังชั้น 3-7 ก็คล้ายๆกับชั้น 2 ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Main Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5-6 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Jogging Track
  • พื้นที่สังสรรค์
  • EV Charger
  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 42 :  1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 42 คัน แบบ FIX ช่องจอด 1 คัน/1 ห้อง คิดเป็น 100% และ ที่จอดรถแบบหมุนเวียน
  • แผงพลังงานแสงอาทิตย์
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

โครงการนี้ขายแบบ Fully-Fitted ได้ชุดครัว พร้อม เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน และแอร์ โดยห้องพักจะมีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนดังนี้

  • 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต (1 ยูนิต / ชั้น)
  • 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 62.00 ตร.ม. จำนวน 36 ยูนิต (6 ยูนิต / ชั้น)

ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมจะเป็น 2 ห้องนอน ขนาด 62.31 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอกับส่วนรับประทานอาหาร นั่งได้ประมาณ 4 ที่นั่ง ถัดเข้าไปเป็นส่วนนั่งเล่น พื้นที่ค่อนข้างกว้าง วางชุดโซฟาแบบ L-Shape ได้ ทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำและห้องครัว ครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยกันกลิ่นและควันเวลาทำอาหารได้บ้าง ครัวจะมีประตูเปิดออกไปเชื่อมต่อกับระเบียง สามารถใช้เปิดระบายอากาศได้ ระเบียงอันนี้จะเหมาะกับการเอาไว้ใช้ตากผ้าและซักล้าง ส่วนทางฝั่งซ้ายของตัวห้องเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง ห้องนอนเล็กวางเตียงได้แบบ 3.5 ฟุต ห้องนอนใหญ่ ห้องนี้มีขนาดใหญ่หน่อยเข้ามาจะเจอกับส่วน Walk-in Closet ก่อน สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้เต็มทั้งผนัง อีกฝั่งทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ ถัดมาเป็นห้องน้ำและส่วนห้องพักผ่อน วางเตียงได้ขนาด 5 ฟุตขึ้นไป มีพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะทำงาน ห้องนี้จะมีระเบียงด้วย สามารถใช้ออกไปนั่งเล่น สูดอากาศได้

สำหรับโครงการนี้เค้าให้วัสดุพื้นเป็นไม้สักปาร์เก้ ให้ฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร และมี Digital Door Lock มาให้ด้วย

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่น โดยโครงการนี้จะออกแบบให้ Space เหมือนกับอยู่ในบ้าน ทางฝั่งขวาเป็นทางไปห้องน้ำ และ ห้องครัว ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน 2 ห้อง ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.60 เมตร ห้องมาตรฐานที่เราจะได้เป็นห้องโล่งๆเหมือนรูปด้านล่างค่ะ

ระหว่างพื้นในห้องกับพื้นภายนอกจะมีธรณีหินเทียมกั้นเพื่อกันฝุ่นผงไม่ให้เข้ามาในห้องและกันความชื้นไม่ให้เข้าในตัวไม้สัก

ส่วนพื้นจะได้เป็นปาร์เก้ ไม้สักซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยทีเดียว เพราะแทบจะไม่เห็นคอนโดอื่นๆเค้าให้กัน โดยคุณสมบัติของไม้สักนี้คือมีสีสวย ทนทาน ปลวกไม่ขึ้น สามารถขัดตกแต่งสีได้

บริเวณหน้าห้องจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร ทางฝั่งขวาเป็นทางเข้าไปห้องนอนใหญ่

ส่วนรับประทานอาหาร วางชุดโต๊ะทานข้าวได้ประมาณ 4 ที่นั่งแบบนี้ พอดีๆกับกลุ่มครอบครัวที่มีพ่อ แม่ ลูก

มุมด้านบนประตูติดตั้งเป็นแผงควบคุมไฟฟ้าของ Schneider

ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่กว้างพอสมควร วางโซฟาแบบ L-Shape ได้ ระยะดูทีวีประมาณ 2.60 เมตร ผนังด้านข้างเป็นหน้าต่างมองออกไปดูวิวด้านนอกได้ และ สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้บริเวณนี้ดูโปร่ง

หน้าต่างขนาดบานใหญ่พอสมควรค่ะ ด้านบนเป็นบานเลื่อน ส่วนด้านล่างเป็นบาน FIX

ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารเป็นทางเข้าห้องครัว เป็นตำแหน่งที่กำลังพอดีๆ ทำอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสิร์ฟได้เลย

แอร์ห้องนี้จะได้ 2 ตัวของ Daikin ห้องรับแขกได้ 18,000 BTU ส่วนห้องนอนได้ 12,000 BTU

ครัวเป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียมแบบนี้

ระหว่างพื้นห้องครัวและพื้นไม้สักจะมีธรณีหินเทียมเพื่อกันฝุ่นผงไม่ให้เข้ามาในห้องและกันความชื้นไม่ให้เข้าในตัวไม้สัก อยู่อีกจุดหนึ่ง

มือจับประตูบานเลื่อนเป็นตามมาตรฐาน

ชุดครัวได้ของ Modern form วัสดุเป็น Hi-gloss สีเทา Top เคาน์เตอร์หินเทียมสีขาว มีช่องใส่ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า อ่างล้างหน้ามาให้ครบ

ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้ประมาณนี้ค่ะ

ตู้ด้านบนมีช่องเล็กๆสำหรับเอาไว้ใส่เครื่องปรุง ตู้ด้านบนเครื่องดูดควันก็แบ่งเป็นช่องเอาไว้เก็บของได้อีก

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว มี Top เคาน์เตอร์วางอยู่ด้านบน

ก๊อกน้ำเป็นทรงโค้งเหมาะกับการใช้งานในครัว

เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัวของ Mex ค่ะ

เครื่องดูดควันของ Mex เช่นเดียวกัน เป็นแบบต่อท่อดูดควันออกนอกโครงการเลย

ครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียง สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกเพื่อระบายอากาศตอนทำอาหาร หรือ ใช้ออกไปตากผ้า ซักล้างได้

ระเบียงนี้จะเป็นเหมือนส่วน Service เหมาะกับการใช้ตากผ้า-ซักล้าง ด้านบนเป็นพื้นที่ติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.20 x 1.55 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 20 cm.

Condensing Unit ของแอร์ ติดตั้งหันเครื่องออกด้านข้าง ตำแหน่งที่ติดอยู่ค่อนข้างสูงเวลาเราออกมาใช้งานจึงอยู่ในระยะที่ไม่โดนลมร้อนพอดี

บริเวณนี้จะมีงานระบบต่างๆทั้งก๊อกน้ำและปลั๊กแบบกันน้ำมาให้ด้วย

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางไปห้องน้ำ

ระหว่างพื้นห้องครัวและพื้นห้องน้ำ กั้นด้วยธรณีหินเทียมสีขาวค่ะ

ห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกและขอบธรณี ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมด

กระจกเงาสำหรับส่องหน้า เราได้เต็มบานแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ

อ่างล้างหน้าได้ของ Kohler

ก๊อกน้ำเป็นของ Grohe ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler

สายฉีดชำระดีไซน์สวยดีค่ะ ขนาดพอดีต่อการใช้งาน

ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย แยกพื้นที่ส่วนเปียกเป็นสัดส่วน

ระหว่างพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกจะมีธรณียกสูงขึ้นมาประมาณ 10 cm. เป็นตัวกั้น กันน้ำไม่ให้ไหลไปโดนส่วนแห้ง พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 80 x 98 cm. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัว และ อุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ

มีทำที่นั่งมาให้ด้วย สามารถใช้นั่งอาบหรือวางของได้

ฝักบัวของ Grohe ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่ ฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก

ห้องนอนใหญ่เข้ามาจะเจอกับ Walk-in Closet ก่อน ในห้องตัวอย่าง Built-in มาให้ดู ส่วนในห้องมาตรฐานจะได้เป็นห้องโล่งๆ พื้นห้องนี้ได้เป็นไม้สักเช่นเดียวกัน

ในห้องตัวอย่างทำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดู ทั้งสองฝั่งนี้เรา Built-in ตู้ได้ทั้งสองฝั่ง แล้วยังมีระยะเหลือให้เดินผ่านสบายๆค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องนอน วางเตียงได้5-6ฟุต ห้องนี้จะมีระเบียงด้วยและค่อนข้างสว่างเพราะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อน

ทางฝั่งซ้ายวางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนทางฝั่งขวามีพื้นที่เหลือเยอะหน่อยวางโต๊ะทำงานได้เลยค่ะ

ปลายเตียงมีระยะห่างจากเตียงถึงตู้ประมาณ 75 cm. เป็นระยะที่เดินผ่านได้สบายๆ

ปลายเตียงมีพื้นที่วางตู้ได้แบบนี้ จะดีไซน์แบบไหนก็แล้วแต่ชอบค่ะ

ห้องนี้มีระเบียงด้วย โดยทางออกไปที่ระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียม

ระเบียงในห้องนอนมีขนาดกว้างกว่าระเบียงห้องครัว สามารถหาเก้าอี้เอามาวางใช้นั่งเล่นๆได้

Condensing Unit ของแอร์ติดตั้ง 2 ตัว เป็นแบบเป่าลมร้อนออกนอกห้อง มีติดตั้งระแนงบังสายตามาให้

Condensing Unit ของแอร์ ติดตั้งหันออกแบบนี้ เวลาเรามายืนที่ระเบียงจะได้ไม่โดนลมร้อนค่ะ

สุดท้ายเราไปดูที่ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนใหญ่กัน

ทางเข้ามีกั้นด้วยธรณีหินเทียมเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆที่มีการชนกันของกระเบื้องกับไม้ค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำคล้ายๆกับห้องก่อนหน้า กั้นพื้นที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เป็นสัดส่วน

สุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆคล้ายกับห้องน้ำห้องที่แล้วค่ะ

แต่อ่างล้างหน้าในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่จะได้แบบที่มีตู้ด้านล่างเอาไว้เปิดเก็บของได้ด้วย

อ่างล้างหน้าได้ของ American Standard

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler

พื้นที่อาบน้ำมีกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย

พื้นที่อาบน้ำนอกจากฝักบัวธรรมดายังมี Rain Shower ด้วย โดยทางโครงการมีการเดินท่อเป็นระบบน้ำร้อนมาให้

ก๊อกน้ำของ Grohe เป็นแบบหัวผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น

พื้นที่อาบน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ มีธรณีกั้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียก

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กเข้ามาจะเจอกับตู้เสื้อผ้า ถัดเข้าไปด้านในเป็นเตียงนอน

บริเวณหน้าห้องเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

ถัดเข้ามาด้านในจึงเป็นส่วนนอนพักผ่อน วางเตียงได้ขนาด 3.5 ฟุต ผนังด้านข้างเตียงมีหน้าต่างเอาไว้รับลมชมวิว

เตียง 3.5 ฟุตวางแล้วก็มีพื้นที่รอบๆเตียงอยู่พอสมควรค่ะ

ปลายเตียงมีพื้นที่ทำเป็นชั้นวางทีวีและตู้หนังสือ

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณนี้ค่ะ

สวิทซ์และปลั๊กเป็นของ bticino

ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน 34.98 ตารางเมตร จะเป็นห้องที่มีเพียงห้องเดียวต่อชั้น เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นังเล่นและรับประทานอาหาร ถัดเข้าไปเป็นครัวปิดที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียง มีห้องน้ำอยู่ 1 ห้อง สามารถเข้าได้ทั้งจากทางห้องนอนและห้องนั่งเล่น สะดวกดี ด้านในสุดเป็นห้องนอน มีพื้นที่วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 October 2017

  • 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 62.04 ตร.ม. ราคา 4.37 ล้านบาท หรือ 70, 438 บาท/ตารางเมตร

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ 


เจาะลึกรวบยอด

Niche Mono Peak บางนา  คอนโด Low Rise 7 ชั้น เป็นโครงการ Low Rise ที่พีคสมชื่อกับการให้ที่จอดรถเกิน 100% แบบ FIX ช่องจอด 1 คัน/1 ห้อง ใช้โซลาร์เซลล์ในการประหยัดค่าส่วนกลาง มี EV CHARGER ที่ชาร์จรถที่ใช้ไฟฟ้ามาให้ และส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 42 ยูนิต (ชั้นละ 7 ยูนิต) พร้อมให้พื้นไม้สักทุกห้อง ทำเลตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ( กม.4 ฝั่งขาเข้า) ระหว่างซอยบางนา-ตราด 40 และ 42 ตัวโครงการอยู่ในถนนส่วนบุคคลห่างจากถนนบางนา-ตราดประมาณ 400 ม. ซอยเดียวกับโครงการ Niche Mono บางนา เฟส1 , 2 ไม่ได้ติดถนนใหญ่จึงไม่พลุกพล่าน  ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้ถึงแม้จะอยู่แถบชานเมืองแต่ก็ยังมีเกาะห้างสรรพสินค้าที่พึ่งพาได้ อยู่ในระยะเดินได้ มี 7-11 อยู่ใกล้ๆกัน มีสะพานข้ามฝั่งไปยังเซ็นทรัลบางนา , Big C ได้ เป็นระยะที่กำลังดีค่ะ เดินได้ไม่เกิน 1 กม. ห่างไปอีกหน่อยก็จะมี Mega บางนา  หรือไม่ก็ไปแถวเส้นศรีนครินทร์มีซีคอนสแควร์ พาราไดซ์พาร์ค และตลาดนัดรถไฟ ซึ่งมีของกินของใช้ขายเยอะพอสมควร ในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Bangkok Mall อยู่ใกล้กับสี่แยกบางนาเลย ในซอยสุขุมวิท105 (ลาซาล) หรือ ซอยสุขุมวิท107 (แบริ่ง) ก็มีร้านอาหารและตลาดสด สามารถขับรถมาหาอะไรทานได้ นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบโครงการจะมีโรงเรียนนานาชาติอยู่ค่อนข้างเยอะทั้ง โรงเรียน นานาชาติ Montessori Academy Bangkok , โรงเรียน นานาชาติ Berkeley , โรงเรียน นานาชาติบางกอกพัฒนา , โรงเรียน นานาชาติ St Andrews , โรงเรียน นานาชาติ Anglo Singapore มีโรงพยาบาลเช่น โรงพยาบาล ไทยนครินทร์ , โรงพยาบาล บางนา ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ สามารถใช้ถนนบางนา-ตราดสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก โดยโครงการห่างจากสี่แยกบางนาประมาณ 4 กม. เป็นแยกที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิทสามารถแยกทางไปสำโรง หรือเข้าเมืองไปก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นทางด่วนไปเลยก็สะดวกดี หรือถ้าจะไปฝั่งชลบุรี พัทยา ก็ไปกลับรถแล้วก็ยิงยาวไปอย่างเดียวเลย ไม่ไกลจากสะพานกลับรถ นอกจากนั้นยังมีเส้นศรีนครินทร์ที่สามารถจะเข้าและออกเมืองได้เช่นกัน  ได้ที่จอดรถเกิน 100% แบบ FIX ช่องจอด 1 คัน/1 ห้อง ถือว่าสะดวกเราสามารถใช้รถได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องที่จอด

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถ้าเดินออกมาหน้าโครงการจะมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าปากซอยบางนา-ตราด 42 มีรถหลายสายวิ่งผ่าน หรือจะเรียก Taxi ก็ได้ สำหรับรถไฟฟ้าในตอนนี้ต้องต่อรถไปขึ้นที่ BTS สถานีบางนาซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถือเป็นสายหลักสามารถนั่งเข้าใจกลางเมืองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย นอกจากนั้นในอนาคตบริเวณถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองพาดผ่านและจะมี Light Rail (บางนา – สุวรรณภูมิ) วิ่งผ่านถนนบางนาไปเชื่อมกับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะรับคนจากสุขุมวิท ช่วงบางนา – ตราดเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรบนถนนบางนา – ตราด , ศรีนครินทร์ และ บริเวณใกล้เคียง

วัสดุ มีพื้นปาร์เก้ ไม้สักซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยทีเดียว เพราะแทบจะไม่เห็นคอนโดอื่นๆเค้าให้กัน โดยคุณสมบัติของไม้สักนี้คือมีสีสวย ทนทาน ปลวกไม่ขึ้น สามารถขัดตกแต่งสีได้ นอกนั้นให้ค่อนข้างไปทางดีสำหรับคอนโดราคานี้ ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully-Fitted ชุดครัวของ Modernform พร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันของ Mex สุขภัณฑ์ได้ของ Kohler , American Standard และ Grohe ในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่มี Rain Shower มาให้ด้วย

การออกแบบ ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นเน้นโทนสีเทา วางตัวอาคารไว้ด้านหน้า ที่ดินด้านหลังที่เป็นเส้นยาวๆเอามาทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางคืออาคารสวนลอยฟ้าและที่จอดรถด้านล่าง ทำให้เป็นจุดเด่นของโครงการ การวางผังห้องผังจัดได้เป็นสัดส่วนดี พื้นที่แต่ละส่วนค่อนข้างกว้าง ห้องพักส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน เน้นกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัว

สาธารณูปโภค พื้นที่ส่วนกลางนอกอาคารมีอาคารสวนลอยฟ้าที่ชั้นบนเป็น Jogging track รอบๆจัดเป็นสวนหย่อม เอาไว้สำหรับให้คนที่ชอบออกกำลังกายแบบกลางแจ้ง นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ด้านในอาคารจะมี Lobby พร้อม Free Wi-Fi , สระว่ายน้ำระบบเกลือทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งเล่นริมสระ และ ห้องฟิตเนส

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 70,000 บาท/ตร.ม., 17 October 2017

  • ทำเล 7.25/10 – ถนนบางนา-ตราด ( กม.4 ฝั่งขาเข้า) ใกล้เซ็นทรัลบางนา
  • เดินทางด้วยรถ 9.5/10 – เข้าออกเมืองทำได้ไม่ยาก มีเส้นทางให้เลือกหลากหลาย ที่จอดรถเกิน100%
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – เรียกรถสาธารณะได้สะดวก 
  • วัสดุ 9/10 – มีไม้สักทองที่เป็นของดี นอกนั้นดีให้มาครบตามมาตรฐาน
  • แบบ 7.25/10 – โดยรวมค่อนข้างลงตัว ห้องพักจัดฟังก์ชั่นได้ดี 
  • สาธารณูปโภค 7/10 – มีมาให้ครบทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ สวนหย่อม 

  • MAIN CLASS
  • 7.78/ 10.00

BOTTOM LINE

Niche Mono Peak บางนา เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว ที่ทำงานแถวบางนา สมุทรปราการ หรือต้องไปทำงานแถวชลบุรี พัทยา ชอบทำเลใกล้ห้าง เดินทางโดยส่วนตัวเป็นหลัก และต้องการที่จอดรถแบบ FIX คัน ใช้รถสาธารณะบ้าง อยากได้ห้องขนาดใหญ่ ให้ของดี (ชอบไม้สักทอง) มีงบประมาณระดับ 4 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ  25,000 บาท/เดือนขึ้นไป