รีวิวฉบับที่ 1334 … สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่มาฝากคนทำงานแถบนิคมอุตสาหกรรมบางชัน-สวนสยาม กับโครงการ Niche Id เสรีไทย คอนโด Low Rise ตึกคู่ใกล้ปากซอยเสรีไทย 81/2 จากเสนาฯ ค่ะ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดราคาไม่แรง ได้ห้องขนาดกำลังดีสำหรับอยู่ 1-2 คน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ และมี Facilities ให้ใช้งาน บรรยากาศโครงการจะเป็นอย่างไร ติดตามกันเลยค่ะ

 

Fact @ 11 April 2017

  • Niche Id Serithai (นิช ไอดี เสรีไทย)
  • บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : คันนายาว ถนน เสรีไทย ซอยเสรีไทย 81/2
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 455 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 39% รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 3-2-97.5 ไร่
  • แล้วเสร็จ : กันยายน 2559
  • 1 Bedroom 28 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการปัจจุบัน 56,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 50,000 – 66,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1775 กด 35

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.797445, 100.694743

ที่ตั้งโครงการ Niche Id เสรีไทย ตั้งอยู่ในซอยเสรีไทย 81/2 โดยอยู่ลึกจากหน้าปากซอยไปประมาณ 40 ม. ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ใกล้ถนนสวนสยามและเป็นซอยที่เชื่อมเข้าถนนสวนสยามได้

ทำเล Niche Id เสรีไทย ตั้งอยู่บนถนนเสรีไทย ใกล้สวนสยาม จัดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่คึกคักอีกจุดบนถนนเสรีไทยช่วงปลาย ด้วยความที่อยู่ใกล้กับ Landmark สำคัญอย่าง สวนสยาม และนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ที่จัดเป็นแหล่งงานสำคัญในละแวกนี้ ทำให้ตัวโครงการนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของคนที่ทำงานแถบนี้ที่มีงบประมาณ 1 ล้านกว่า ไม่เกิน 2 ล้านบาท ชอบใช้ชีวิตคอนโดและมี Facilities ครบครันค่ะ

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ในละแวกนี้เลยจะมีอยู่ 3 โซนชัดเจนคือ

  • Fashion Island & The Promenade : เป็นศูนย์การค้าชื่อดังและขนาดใหญ่ในย่านนี้ ไว้ให้ช็อปปิ้งได้ในระยะขับรถได้สบายๆ ไม่ต้องเข้าเมืองไกล
  • ถนนสวนสยาม : เป็นถนนที่มีโครงการที่อยู่อาศัยภายในหลายโครงการ ทั้งหมู่บ้านเก่าและหมู่บ้านใหม่ ส่วนข้างทางของถนนก็มีทั้งตึกแถวและร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ให้หาของกินได้ไม่ยาก รวมทั้งช่วงตอนปลายของถนนสวนสยามก็มี Community Mall อย่าง Amorini ด้วย
  • ย่านมีนบุรี : อยู่ห่างจากโครงการมาหน่อย แต่ถือเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่สำคัญในย่านนี้นะคะ เพราะมีตลาดมีนบุรีที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ในย่านนี้ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมของรถตู้ที่มาจากที่ต่างๆ ด้วยนะ ในอนาคตบริเวณนี้จะเป็นจุด Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีชมพู

ในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์นั้นจัดว่าสะดวก หากใครที่เน้นเดินทางเข้าถนนเสรีไทย – รามอินทรา เป็นหลักนะคะ ด้วยความที่อยู่ในซอยซึ่งไม่ไกลจากหน้าปากซอยก็เป็นถนนเสรีไทยแล้ว อีกทั้งยังเป็นซอยที่สามารถเชื่อมเข้าถนนสวนสยามเพื่อไปทะลุออกถนนรามอินทราได้ง่ายอีกด้วย และอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางด้วยรถยนต์คือความสะดวกในการใช้วงแหวนรอบนอก เพราะอยู่ไม่ห่างจากจุดขึ้น-ลง วงแหวนรอบนอกมากนักอีกด้วยค่ะ สำหรับปัจจุบันนี้การเดินทางด้วยรถยนต์ยังถือเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดของโครงการนี้นะคะ แต่ในอนาคตนั้นความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าเมืองนั้นก็จะสะดวกมากขึ้นเพราะกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้มเข้ามา แต่ยังเป็นอนาคตระยะยาวอยู่นะคะ ยังต้องอดทนรอกันต่อไป แต่รับรองว่ามาแน่ค่ะ

เส้นทางบนถนนลาดพร้าว 1

อธิบายเพิ่มเติมสำหรับเส้นทางการเดินทางมายังโครงการ จากถนนลาดพร้าวให้ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกนิด้าและแยกสวนสยามเริ่มชิดซ้ายเข้าซอยเสรีไทย 81/2 เข้ามาเพียง 40 ม.ก็เจอทางเข้าโครงการแล้วค่ะ เช่นเดียวกับใครที่ใช้วงแหวนรอบนอกหรือถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก จะมีจุดลงบริเวณแยกต่างระดับเสรีไทยแล้วตามทางมาเลยค่ะ

เส้นทางบนถนนรามอินทรา 1

สำหรับใครเดินทางมาจากมีนบุรี จะมีเส้นทางที่ง่ายๆ เลยคือเลี้ยวขวาเข้าถนนสวนสยามจากนั้นตรงเข้ามาอีกหน่อยแล้วกลับรถเข้าซอยเสรีไทย 81/2 ได้เลยค่ะ เพราะเป็นซอยที่เชื่อมเข้าถนนสวนสยามอยู่แล้ว

เส้นทางบนถนนรามอินทรา2

ส่วนใครที่มาจากฝั่งรามอินทราก็ง่ายเลยคือเข้าถนนสวนสยามแล้วเลี้ยวเข้าซอยเสรีไทย 81/2 ได้เลยค่ะ

ส่วนในอนาคตทำเลนี้ก็จะมีรถไฟฟ้า 2 สายเข้ามาทำให้ทำเลนี้มีตัวเลือกในการเดินทางแบบไม่ใช่รถมากยิ่งขึ้นนะคะ รวมทั้งยังทำให้ทำเลนี้เจริญและคึกคักมากยิ่งขึ้นด้วย โดยรถไฟฟ้า 2 สายที่พูดถึงนี้ก็คือ สายสีชมพู และสายสีส้มค่ะ ซึ่งหากนับระยะจากโครงการนั้นคงไม่สามารถเรียกได้ว่าใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนะคะ แต่สะดวกและไม่ยากหากจะนั่งรถหรือแว๊นพี่วินมอเตอร์ไซต์เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ค่ะ แต่ทั้งนี้รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้ในปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างนะคะ ดังนั้นลูกบ้านยังต้องอดใจรอใช้กันอีกสักพักใหญ่เลย

เส้นทางในการเดินทางวันนี้เราจะเริ่มเดินทางจากถนนรามคำแหงบริเวณแยกบ้านม้า วิ่งเข้าถนนศรีบูรพาเพื่อวิ่งตรงไปยังแยกนิด้า จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนเสรีไทยฝั่งมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ตรงยาวไปเรื่อยๆ ผ่านวงแหวนรอบนอก และเลยแยกสวนสยามมาเล็กน้อยก็จะเห็นซอยเสรีไทย 81/2 เลี้ยวเข้ามาประมาณ 40 ม. ก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้วค่ะ

เริ่มต้นกันถนนรามคำแหงฝั่งขาเข้าเมืองนะคะ เราจะเลี้ยวขวากันบริเวณแยกบ้านม้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังแยกนิด้าที่ตัดกับถนนเสรีไทยค่ะ

เลี้ยวขวาจากแยกบ้านม้ามาจะเข้าสู่ถนนศรีบูรพาเป็นถนนเส้นเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่างถนนเสรีไทยและถนนรามคำแหงค่ะ เราขับตรงมาที่แยกนิด้าฝั่งซ้ายมือจะเป็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ส่วนเส้นทางการเดินทางไปยังโครงการจากแยกนิด้านี้เราจะเลี้ยวขวาไปทางถนนเสรีไทยที่มุ่งหน้าไปทางมีนบุรีค่ะ

บรรยากาศของถนนเสรีไทยนั้นในช่วงต้นๆ จะค่อนข้างคึกคักพอสมควรด้วยตึกแถวตลอดข้างถนน มีร้านค้าขายของหลากหลายทีเดียวค่ะ แต่เราจะมุ่งหน้าผ่านตรงนี้กันไปอีก

เราจะไปตามทางถนนเสรีไทยเรื่อยๆ เลย และจะผ่านถนนกาญจนาภิเษกกันไปอีกนะคะ

ผ่านหมู่บ้านเก่าแก่ชื่อดังบนถนนเสรีไทยอย่างนวธานี

ใกล้จะผ่านวงแหวนรอบนอกแล้วนะคะ ใครจะไปทางบางปะอินก็ชิดซ้ายกันไปเลย หรือไปทางบางนานั้นในชิดขวาค่ะ แต่เราจะขับตรงไปทางมีนบุรีกัน

ขับผ่านแยกสวนสยาม ซึ่งเป็นแยกดังที่ตัดกับถนนสวนสยาม ที่ชื่อถนนนี้ก็ตาม สวนสนุกเก่าแก่ชื่อดังอย่างสวนสยามค่ะ ส่วนถนนสวนสยามนี้จัดเป็นอีกหนึ่งความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ที่มีร้านค้าร้านอาหาร และ Community Mall อย่าง Amorini

จากแยกสวนสยามเลยมาอีกหน่อย สังเกตว่ามี 7-11 อยู่หน้าปากซอยเสรีไทย 81/2 ก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ

บริเวณหน้าปากซอยเสรีไทย 81/2 มีร้านค้าร้านอาหารที่เป็นรถเข็นอยู่ประมาณ 3-4 ร้าน ใครสนใจฝากท้องใกล้ๆ หน้าทางเข้าโครงการก็เรียนเชิญกันได้นะคะ

ฝั่งตรงข้ามมีศาลาพี่วินมอเตอร์ไซต์คอยให้บริการอยู่ค่ะ ส่วนถนนนี้เค้ากำลังมีการซ่อมแซมกันอยู่นะคะ

ฝั่งตรงข้ามทางเข้า-ออกโครงการมีเต้นร้านอาหาร และด้านหลังเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้นค่ะ

กลับมาที่ทางเข้าโครงการเราจะติดกับทางเข้า-ออกของหมู่บ้านเกษรา

แผนที่โครงการ ซูมๆ**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบพอสมควรค่ะ เพราะอยู่ในทำเลที่รายล้อมด้วยโครงการแนวราบที่มีจำนวนชั้นความสูงสุดประมาณ 3 ชั้นครึ่ง ดังนั้นคนที่อยู่อาศัยตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแออัดโดนบังวิวแล้วค่ะ ส่วนห้องที่หันเข้าด้านในโครงการก็จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางและอาคารฝั่งตรงข้าม แต่ในด้านทิศใต้นั้นยังไม่สามารถการันตีได้ว่าทางเสนาจะพัฒนาที่ดินเป็นโครงการอะไร ซึ่งก็ต้องติดตามรอกันต่อไปค่ะ

  • ทิศเหนือของโครงการจะติดกับทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นครึ่งของหมู่บ้านเกษราและที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นซึ่งเป็นที่ดินตาบอดค่ะ คนที่อยู่ด้านนี้ก็จะเห็นหลังคาบ้านพักอาศัยเป็นทิวแถว
  • ทิศตะวันออกจะเป็นที่ดินว่างเปล่าของบุคคลอื่นเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ยังเป็นพื้นที่ป่าว่างๆโล่งๆ
  • ทิศใต้ จะติดกับที่ดินของเสนาค่ะ ที่จะพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต
  • ทิศตะวันตกจะเป็นทางเข้าโครงการ และติดกับสโมสรของหมู่บ้านเกษรา

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ~1.7 กม.
  • Amorini ~2.2 กม.
  • โรงพยาบาลเสรีรักษ์  ~3.1 กม.
  • สวนสยาม ~ 3.3 กม.
  • Fashion Island ~ 4 กม.
  • ตลาดมีนบุรี ~4 กม.
  • โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ~6 กม.
  • รถไฟฟ้าในอนาคต : รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตน์ราชชนนี และรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีน้อมเกล้า


เจาะลึกตัวโครงการ

เริ่มต้นจากถนนทางเข้าโครงการนะคะ ลักษณะทางเข้าโครงการจะเป็นถนนยาวลึกเข้าไปถึงป้อมยามประมาณ 80 ม.

ซึ่งถนนทางเข้า-ออกโครงการนี้จะเป็นถนนภาระจำยอมนะคะ เพราะทางเสนาฯยังมีพื้นที่ดินด้านข้างโครงการที่ยังรอพัฒนาอยู่ โดยในอนาคตจะเป็นถนนที่ใช้ร่วมกันค่ะ

เราตรงมาอีกหน่อย ฝั่งขวานั้นจะเป็นสำนักงานขาย แต่ไม่ได้อยู่ในที่ดินโครงการนะ

ที่ดินโครงการเลยจริงๆ จะเริ่มที่ตรงป้อมยามและบริเวณไม้กระดกอัติโนมัตินี่แหละค่ะ ในส่วนของระบบการเข้า-ออกโครงการใช้ Key Card Access ระยะใกล้ เปิด-ปิดด้วยไม้กระดกอัติโนมัติ เป็นมาตรฐาน

Plan ชั้นแรก

ก่อนเข้าไปดูภายในโครงการเราขออธิบายแปลนกันก่อนนะคะ สำหรับที่ดินโครงการทั้งหมดมีขนาดประมาณ 3 ไร่กว่า ภายในมีอาคารทั้งหมด 2 อาคาร โดยทางโครงการจะเริ่มขายที่ตึก A ก่อนนะคะ ขายหมดแล้วค่อยเปิดตึก B ตามลำดับ

  • ตึก A จะอยู่ทางฝั่งตะวันตกและเหนือ
  • ตึก B อยู่ฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้

โดยทั้ง 2 อาคารนี้จะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้ ซึ่งจะอยู่ชั้นล่างสุด (On Ground) โดยประกอบด้วย ห้องฟิตเนส, ห้องน้ำ+ห้องอาบน้ำแยกชาย/หญิง, Lobby (Club House), Garden และ Swimming Pool ที่แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ ซึ่งข้อดีของการที่ทำอาคาร 2 อาคารโอบล้อม Facilities ตรงกลางทำให้ห้องพักอาศัยที่หันเข้าหาอาคารด้วยกัน มีวิวภายในให้มองได้ ไม่ใช่เพียงวิวของห้องเพื่อนบ้านค่ะ

ซูมเข้าไปในชั้น 1 ของอาคารนั้นจะเป็นส่วนที่จอดรถทั้งหมดในส่วนใต้อาคาร A และ B รวมทั้งที่จอดรถ Out door ด้วย รวมคิดเป็น 39% จัดว่าให้มามาตรฐานกับราคาที่จ่ายนะคะ แต่น่าจะเพิ่มพื้นที่จอดมอเตอร์ไซค์อีกสักหน่อย เพราะให้มา 18 คันในช่องจอด ดูจะไม่พอเสียเท่าไหร่ เนื่องจากคนซื้อโครงการนี้น่าจะไปขับรถก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานหรือซื้อของง่ายๆ ได้สะดวกมากกว่าการเดินทางรถสาธารณะ ในส่วนภายในอาคารของชั้น 1 นี้จะมีพื้นที่ Lobby เล็กๆ จุด Mail Box และจุดซักรีดที่เค้าจะตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้ค่ะ

หลังจากที่เราเดินผ่านป้อมยามเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณไม่เกิน 40 ม. ก็จะเห็นอาคารแล้วค่ะ ลักษณะของอาคารมีรูปลักษณ์ค่อนข้างเรียบง่ายตามราคาที่จ่ายนะคะ แต่ยังดูเป็นสไตล์ Modern ชัดพอสมควรด้วยลูกเล่นที่นำสีโทนโมโนโทนมาเล่นลายกัน

ถนนภายในอาคารแบ่งออกเป็น 3 ช่องการเข้า-ออก ฝั่งซ้ายเป็นถนนทางเข้าส่วนที่จอดรถใต้อาคารของอาคาร A เลี้ยวขวาเป็นที่จอดรถใต้อาคารของ B ส่วนตรงไปนั้นจะเข้าสู่ส่วนพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

บรรยากาศที่จอดรถใต้อาคาร B  ดูสว่างและมีช่องจอดเรียบร้อย

เช่นเดียวกันกับอาคาร A ได้บรรยากาศเดียวกันเลยค่ะ

มาดูที่พื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันทั้งอาคาร A และ B เลย เดี๋ยวเราพาไปเดินดูบรรยากาศกันค่ะ

อาคารชั้นเดียวฝั่งซ้ายที่เราเห็นเป็นห้องกระจกนั้นเป็นส่วนห้องฟิตเนสค่ะ แต่ไม่สามารถเข้าจากด้านหน้าได้นะคะ เราต้องเดินไปเข้าห้องฟิตเนสจากด้านหลัง

เราเลยขอพาไปดูสวนข้างอาคารกันต่อนะคะ ด้านข้างนี้เค้าก็ได้ทำทางเดินไปยังส่วนสวนได้ง่าย รอบๆ ทางปลูกสนามหญ้า ไม้พุ่มและไม้ยืนต้นสูงให้ดูร่มรื่นดี

ติดกับทางเข้าส่วน Club House และฟิตเนสนั้นจะมีพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor เชื่อมกับสวนด้วย ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นชมสวนและสัมผัสอากาศจากภายนอกได้

เดินมาอีกหน่อยพื้นที่ส่วนนั้นจะเป็นสวนขนาดกะทัดรัด มีทางเดินยาวไปถึงด้านหลัง รายล้อมไปด้วยไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ดูสวยงาม ถ้ามีใบเยอะนี้จะดีมากเลย ดูร่มเงากว่านี้เยอะ

กลับมาที่ทางเข้าส่วน Club House กันอีกรอบนะคะ

พื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor จัดที่นั่งให้ประมาณ 3 ชุด ไว้นั่งเล่นในร่มดูสวนไปด้วย หรือใครอยากมานั่งสูดอากาศ หรืออ่านหนังสือชิลๆ ในสวนก็ได้นะคะ ซึ่งวันที่เข้าโครงการนี้ช่วงกลางวันเลย แดดจ๋ามากๆ ก็ไม่รู้สึกว่าบริเวณนี้ร้อนด้วยนะคะ มานั่งเล่นช่วงกลางวันกันได้

หันเข้ามาด้านในส่วน Club House กันต่อนะคะ ในส่วนของประตู Club House นี้เค้าใช้ประตูบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าและบานใหญ่ทีเดียวทำให้ดูโปร่งโล่งดีเลยค่ะ

ด้านข้างเค้ามีติดป้ายบอกระเบียบและเวลาเปิดให้บริการ

ภายในส่วน Lobby นั้นค่อนข้างโปร่งโล่ง จัดชุดเก้าอี้ให้ทั้งหมด 3 ชุด มี Counter Bar และโต๊ะทรงสูงหันชนกำแพงให้ สำหรับเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของลูกบ้าน ใครเบื่อห้องก็สามารถมาเปิดแอร์นั่งเล่น นั่งทำงานบริเวณนี้ได้ค่ะ

จุดโต๊ะทรงสูงพร้อมเก้าอี้สตูลให้นั่งทำงานกันได้ค่ะ แต่แอบเสียดายนิดหน่อยตรงตำแหน่งวางเฟอร์นิเจอร์นี้ขวางบานประตู ซึ่งสามารถเปลี่ยนให้เป็นทางเข้า-ออกที่สามารถเชื่อมกับส่วนสระว่ายน้ำได้เลย แต่พอมีเฟอร์นิเจอร์มาวางขวางก็ทำให้เปิดเข้า-ออกไม่ได้ เพื่อแลกกับพื้นที่ใช้สอยภายในที่สามารถใช้งานได้แทนที่จะเปลี่ยนเป็น Circulation

อีกมุมของส่วน Lobby ค่ะ

หันมาด้านหลัง ฝั่งตรงข้ามกับสระว่ายน้ำนั้นมีห้องน้ำและประตูออกไปยัง Fitness และสระว่ายน้ำภายนอก

ห้องน้ำภายใน Lobby เป็นแบบ Power Room ใช้ร่วมกันทั้งหญิงและชาย

ออกมาส่วนสระว่ายน้ำกันก่อนนะคะ ฝั่งซ้ายนี้เป็นห้องนิติบุคคลที่ติดกับสระว่ายน้ำเลย ส่วนสระว่ายน้ำมีการยกระดับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

สระว่ายน้ำโครงการเป็นสระกลางแจ้ง ระบบเกลือ ซึ่งแม้จะเป็นสระกลางแจ้งแต่ก็ยังไม่ร้อนมากนัก เพราะยังมีอาคารที่ล้อมรอบอยู่คอยบังให้ร่มเงาได้ในช่วงเช้าและบ่าย สระนี้แบ่งออกเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ รวมขนาดทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 6 x 21 ม. แยกเป็นสระเด็กออกมา 6 x 4.5 เมตร ลึก 0.35 เมตร จัดเป็นสระที่สามารถออกกำลังกายได้นะคะ ไม่ได้เล็กจนเกินไป

ด้านข้างเป็นระเบียงพื้นไม้สำเร็จรูป ไม่ได้ให้ Day Bed มานะคะ แต่มีที่นั่งด้านข้างและร่มกลางแจ้งให้

หน้าตาเก้าอี้ด้านข้างจะเป็นประมาณนี้ ไว้สำหรับมานั่งเล่นนั่งรอลูกเล่นน้ำได้อยู่ค่ะ

กลับเข้ามาอีกฝั่งของ Club House จะมีโถงทางเดินเชื่อมจากส่วน Lobby ไปยังห้องฟิตเนสและมีห้องน้ำพร้อมห้องอาบน้ำแยกชาย/หญิงด้านข้าง

บรรยากาศภายในห้องนอนหญิง มีช่องเปิดเป็นบานกระทุ้งเล็กๆ ด้านบนให้แสงสว่างและระบายอากาศได้ดี

มีจุดล้างมือให้ 1 จุด

ได้ห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

ส่วนบรรยากาศของห้องน้ำชาย มีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำหญิงเล็กน้อยเพราะมีโถงปัสสาวะชายเพิ่มขึ้น

เข้ามาต่อกันที่ห้องฟิตเนสกันต่อนะคะ ภายในห้องฟิตเนสค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้กระจก 2 ทิศเลย และอีกฝั่งติดเป็นกระจกเงาขนาดใหญ่ให้ ภายในมีเครื่องเล่นประมาณ 5 ตัวค่ะ พร้อมมุมเวทเทรนนิ่ง

ใครจะเล่นฟิตเนส ทางนิติก็ได้ให้มีเซ็นรายชื่อก่อนใช้กันด้วยนะคะ ส่วนกฎการใช้งานห้องฟิตเนสนั้นจำกัดไม่เกินคนละ 30 นาทีนะ ด้วยความที่เป็นห้องฟิตเนสขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่มาก ดังนั้นก็จำเป็นต้องจำกัดเวลาเพื่อให้ลูกบ้านห้องอื่นๆ มีสิทธิมาใช้งานด้วย

หลังจากดู Club House เสดแล้ว เราจะไปดูอาคาร A กันต่อนะคะ เริ่มจากที่จอดรถกันก่อนแล้วจะพา Lobby เพื่อขึ้นไปดูภายในอาคารกัน

รอบรั้วโครงการเป็นกำแพงทึบสูง 3 ม. มีเว้นระยะ Set Back เล็กน้อยซึ่งเค้าก็ปลูกหญ้าและต้นไม้ให้ดูมีพื้นที่สีเขียวร่มรื่นดีค่ะ

ทางซ้ายเป็นทางเข้าอาคาร A แล้วค่ะ แต่เดี๋ยวเราเดินอีกซักหน่อยดูส่วนที่จอดรถมอเตอร์ไซค์และจุดซักรีดก่อน

พื้นที่จอดมอเตอร์ไซค์ประมาณนี้ค่ะ

ลึกเข้ามาเป็นส่วนซักรีด มีเครื่องซักผ้า 3 เครื่องและเครื่องอบผ้าอีก 1 เครื่องค่ะ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งอาคาร A และ อาคาร B

มาดูที่ทางเข้าอาคาร A กันอีกครั้งนะคะ บริเวณทางเข้านี้เราจะต้องสแกนบัตรเข้าอีกที และด้านข้างทางเข้าเป็นส่วนของตู้จดหมาย ซึ่งเค้าทำเป็นกระจกติดตายบริเวณตู้จดหมายให้เพื่อให้แสงสว่างเข้ามายังพื้นที่ตู้จดหมายได้ดี ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลย

ส่วนตู้จดหมายด้านในค่ะ

หันมาอีกฝั่งเป็นโถงลิฟต์โดยสารค่ะ แต่ละตึกจะมีให้ 2 ตัว ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ประมาณ 112 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานความหนาแน่นมานิดหน่อยแต่ไม่มากค่ะ ส่วนลิฟต์ Service ไม่ได้มีให้นะคะ

ภายในลิฟต์ตกแต่งเรียบง่าย ระบบเป็นลิฟต์ปกติ ไม่ได้ล็อกชั้น

แปลนอันนี้

ในส่วนชั้น 1 ของโครงการ จะเป็นชั้นของยูนิตที่พักอาศัย วางอาคารเป็นรูปตัว L เหมือนกันทั้งตึก  A  และตึก B เลยค่ะ โดยจะวางตำแหน่งของลิฟต์โดยสารและห้องเก็บขยะไว้ตรงกลาง เพื่อให้ลูกบ้านในแต่ละชั้นไม่ต้องเดินไปไกลมากในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ส่วนรูปแบบการวางตำแหน่งห้องก็เรียบง่ายค่ะ คือซอยห้องเท่ากันหมดทั้งอาคารเลย 28 ตร.ม. เพียงแต่ที่เห็นว่าสีของห้องมี 2 สีนั้นก็คือ การจัดวางพื้นที่ภายในห้องที่แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้นเองค่ะ

201503020840012The_Niche_id_Serithai_P-3 copy

เรานำตัวอย่างผังชั้น 2,4,6,8 ของตึก A มาให้ดูกันนะคะเพราะตอนนี้โครงการกำลังเปิดขายอยู่แค่ตึก A โดยชั้น 2,4,6,8 มีการวางผังเหมือนกับชั้น 1 ดูจากผังจะเห็นว่าตรงสุดปลายทางเดินของอาคารทั้งสามด้านจะมีช่องเปิดให้แสงเข้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแสงธรรมชาติจะเข้าทำให้อาคารไม่มืดทึบ

ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกของอาคารจะวางห้อง Type A  ซึ่งคนในห้องทิศนี้ก็จะเห็น วิวอาคารบ้านพักอาศัยที่อยู่ภายนอกโครงการ ส่วนฝั่งทิศใต้ และทิศตะวันออกจะะเป็นตึก Type B ซึ่งหันหน้าเข้าโครงการ ก็จะมองเห็นวิวส่วนกลาง ที่เป็น Clubhouse , สวน, สระว่ายน้ำของโครงการ

201503020840013The_Niche_id_Serithai_P-4 copy

ส่วนของชั้น 3,5,7 ก็จะวางห้องแบบตรงข้ามกันกับชั้น 2,4,6,8 คือทางทิศเหนือกับทิศตะวันตกจะเป็นห้อง Type B ส่วนทิศใต้กับทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Type A เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกบ้านได้เลือก Type ห้องและตำแหน่งห้องได้มากขึ้น

บรรยากาศส่วนโถงลิฟต์ในชั้น 2-8 ค่อนข้างโปร่งโล่ง ได้ช่องเปิดพอสมควร ทำให้โถงลิฟต์ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยในช่วงกลางวัน ในส่วนของพื้นโถงนั้นได้เป็นกระเบื้องเซรามิกมาตรฐานตามราคาค่ะ

โถงทางเดินค่อนข้างสว่างพอสมควรเลยนะคะ ตรงไปในสุดมีบางห้องได้เป็น single corridor ด้วยนะ ทำให้ลูกบ้านที่เลือกห้องมุมอยู่สุดทางมีเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก

ดูตัวโครงการกันเสร็จแล้ว เรามาดูวิวที่ได้จากห้องพักอาศัยกันบ้างนะคะ เริ่มจากวิวภายในโครงการ สำหรับใครที่เลือกตำแหน่งห้องด้านใน ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำไป ส่วนระยะห่างระหว่างอาคารนั้นลองวัดจากใน Google Earth ดูก็จะอยู่ที่ประมาณ 20 ม. ซึ่งก็จะเห็นห้องเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามประมาณในรูปเลยค่ะ พอที่จะมองเห็นหันได้ แต่ก็ไม่ถึงกับเสียความเป็นส่วนตัวมากขนาดที่ต้องปิดม่านตลอดเวลา

ส่วนใครที่อยู่ตำแหน่งห้องด้านในแต่อยู่อีกมุมนึงที่หันไปทางด้านยาวของสระว่ายน้ำก็จะมีระยะระหว่างอาคารเรากับอาคารตรงข้ามมากขึ้นกว่ามุมที่แล้วพอสมควรค่ะ

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หันไปทางถนนเสรีไทย จะเป็นวิวของห้องด้านนอกอาคาร B วิวก็จะโล่ง และได้วิวพื้นที่สีเขียวฝั่งตรงข้ามถนน แต่ก็แลกมากับเสียงและฝุ่นจากถนนใหญ่ที่มากกว่าห้องในทิศอื่นๆ และอาคาร A ด้วย

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะเป็นวิวที่หันไปทางซอยเสรีไทย 81/2 เลยไปถึงถนนสวนสยาม โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัย มีหอพัก บ้าน และตึกแถวสลับกันไปค่ะ ใครอยู่ชั้นสูงหน่อย อย่างที่เราขึ้นมาถ่ายคือชั้น 8 นั้นก็จะได้วิวระยะไกลขึ้นมา ไม่มีอาคารข้างเคียงมาบล็อกค่ะ โดยวิวนี้จะได้เฉพาะห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอาคาร A นะ

วิวนี้คือวิวจากโถงทางเดินของอาคาร A หันไปทางอาคาร B นะคะ ซึ่งไม่มีห้องของอาคาร A ที่ได้วิวนี้นะ แต่มีบางห้องของอาคาร B นั้นหันเข้าหาอาคาร A แบบนี้เลยจากในภาพ จะเห็นว่ามีห้อง 2 ห้องในแต่ละชั้นของอาคาร B ที่ถูกบล็อกวิวไปทั้งหมดแต่ยังดีที่ไม่ได้เสียความเป็นส่วนตัว เพราะฝั่งของอาคาร A ไม่มีห้องไหนหันมาประจันหน้าในระยะประชิดกับห้องอาคาร B ในทิศนี้

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 21 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร แบ่งสระเด็ก เป็นขนาด  6 x 4.5 ลึก 0.35 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Mail Box
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ  114 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 112 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 115 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 32 % รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 39%
  • ที่จอดรถจักรยานยนต์ 18 คันในช่องจอด
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24  ชม.


Product Walkthrough

โครงการ Niche Id เสรีไทย เน้นห้องพักอาศัยขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน โดยมีเฉพาะห้องพักอาศัยที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. เท่านั้นค่ะ ซึ่งจะมี Type ห้องให้เลือก 2 แบบ ด้วยกันค่ะ

เริ่มจากห้องแบบแรกกันก่อนนะคะ สำหรับห้อง Type นี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนพอสมควร ได้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แบ่งตู้เสื้อผ้ากันใช้ 2 คนได้สบายๆ และมีพื้นที่เหลือเล็กน้อยสำหรับจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ หรือโต๊ะเครื่องสำอางค์สำหรับคุณสาวๆ ได้ และด้วยความที่ได้เน้นพื้นที่ห้องนอนเป็นสำคัญทำให้ส่วนพื้นที่ครัวเล็กลงมาหน่อย ไม่มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารภายในครัวนะคะ ต้องขยับออกมาอยู่ในโซนห้องนั่งเล่นแทน ซึ่งก็ไม่ได้ผิดตำแหน่งหรืออะไรค่ะ เพียงแต่จะมีพื้นที่รับประทานอาหารไม่มากเท่าไหร่นัก พูดถึงในส่วนครัวนั้นทำออกมาเป็นสัดส่วน ปูด้วยพื้นกระเบื้องทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดดีค่ะ แต่เป็นครัวที่ไม่ได้เหมาะกับการทำอาหารหนักมากนักนะคะ เพราะได้เป็นครัวเปิด จะเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ อย่างอุ่น หรือต้มมากกว่า กลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งไปในส่วนนั่งเล่น

fur Type B

รูปแบบการขายโครงการจะเป็นแบบ Fully Furnished ค่ะ ซึ่งชุดเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานที่ได้จากทางโครงการจะมาจาก SB Furniture เป็นแบบ Custom Size

เริ่มจากหน้าห้อง ประตูไซส์มาตรฐาน ใช้วัสดุ HDF มือจับเป็นก้านโยกอลูมิเนียม

พื้นภายในห้องยกระดับจากพื้นโถงทางเดินเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นเข้าได้ระดับนึงค่ะ ตัวจบขอบพื้นใช้วัสดุ PVC แบบเซาะร่องเป็นวัสดุตามมาตรฐานตามราคานะคะ จัดว่ามีความคงทนระดับนึง โดนน้ำได้ เทียบกับการจบขอบด้วยไม้สำเร็จรูปแล้วจัดว่ามีความคงทนมากกว่าแต่ก็แลกมากับความสวยงามน้อยกว่าเช่นเดียวกัน เพราะไม่ได้ดูเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นลามิเนตภายใน

เข้ามาภายในห้องดูโปร่งโล่งระดับนึง ด้วยความที่ได้หน้าต่างบานใหญ่พอสมควรและประตูที่กั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นนั้นเป็นกระจก จึงทำให้ภายในห้องมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาได้ดีค่ะ ส่วนฝ้าเพดานนี้มีความสูง 2.4 ม. เป็นความสูงมาตรฐานทั่วไป

เข้ามาภายในห้องจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนเลยนะคะ โดยพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นนี้มีขนาดประมาณ 2.7 x 2.8 ม. ด้วยความที่หน้าห้องมีความกว้างพอสมควรทำให้สามารถวางโต๊ะกลางขนาดกลางได้สบายมีระยะให้เดินด้านข้างพอสมควรด้วยค่ะ ส่วนระยะทีวีนั้นจะอยู่ที่ประมาณประมาณ 2.5 ม. เหมาะกับการวางทีวีขนาด 52″-55″ ได้สบาย

สำหรับชุดโซฟาที่ได้จะเป็นแบบ 2+1 นะคะ คือจะมีเก้าอี้โซฟาเพิ่มมาให้อีกตัว เวลาต่อเรียงกันก็เป็นแบบ 3 ที่นั่งได้ค่ะ ส่วนโต๊ะกลางนี่ไม่ได้แถมให้นะ

มาดูที่ชุดวางทีวีกันต่อค่ะ จริงๆ แล้วทางโครงการจะแถมให้เฉพาะโต๊ะวางทีวีเท่านั้นนะ ส่วนชุด Built-in ด้านบนและด้านข้างนั้นจะไม่ได้ให้มานะ แต่ให้ดูเป็นตัวอย่างสำหรับการตกแต่งเพื่อเพิ่มเป็นพื้นที่ใช้สอยได้ดีค่ะ เพราะตู้ด้านข้างนั้นสามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้และด้านบนเป็นตู้เก็บของหรือชั้นโชว์ของก็ได้ค่ะ

เข้ามาที่ส่วนห้องนอนกันบ้างนะคะ สำหรับห้องนอนนี้จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีของประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนนี้คือสามารถเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนได้มากกว่าประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยตรงกลางได้มากขึ้น ส่วนลักษณะของห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนนั้นก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปหน่อย ด้วยความที่เป็นกระจกใส หากใครที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นอีกหน่อยก็สามารถติดฟิล์มฝ้าที่กระจกได้นะคะ และยังได้แสงสว่างเข้ามาภายในส่วนพื้นที่นั่งเล่นเหมือนเดิม หรืออีกวิธีก็คือติดม่านเลยก็ได้นะ

ภายในห้องนอนขนาดประมาณ 2.8 x 3.3 ม. และด้วยหน้าต่างบานใหญ่ทำให้พื้นที่ห้องนอนดูโปร่งโล่งดีทีเดียวค่ะ ส่วนขนาดเตียงที่ได้นั้นจะเป็นขนาด 5 ฟุต กำลังดีกับพื้นที่ห้องนอน และยังมีพื้นที่เหลือให้เดินได้รอบเตียงด้วยค่ะ แต่ทางโครงการให้มาแต่เตียงนะ ไม่ได้รวมฟูกมานะคะ

ฝั่งปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่เหลือเล็กน้อยสำหรับวางโต๊ะขนาดเล็กเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ แต่จะไม่เหมาะกับแขวนทีวีเท่าไหร่นะ ใครติดทีวีก็ไปนอนบนโซฟาดูทีวีเลยสะดวกกว่า 55

ภายในตู้เสื้อผ้าได้แยกเป็น 2 ฝั่งเลยค่ะ ไม่ต้องแย่งกัน ขนาดก็โอเคไม่ได้เล็กมาก

ขนาดความกว้างทางเดินรอบเตียงฝั่งซ้ายมือกว้างประมาณ 0.55 ม.

ส่วนขนาดพื้นที่ทางเดินปลายเตียงกว้างประมาณ 0.67  ม. เดินได้ง่าย แต่เมื่อเปิดบานประตูตู้เสื้อผ้าแล้วจะเหลือพื้นที่ไม่มาก เวลาใช้งานไม่สะดวกเท่ากับตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน

อีกฝั่งข้างเตียงกว้างประมาณ 0.65 ม. บริเวณหัวเตียงสามารถวางโต๊ะเล็กๆ ได้ค่ะ พื้นที่พอ

ไปดูส่วนครัวกันต่อนะคะ สำหรับพื้นที่ครัวนี้จะเป็นครัวเปิดนะ และมีพื้นที่ไม่เหมาะกับการกั้นเป็นครัวปิดเสียเท่าไหร่ ทั้งแบบบานเปิดและบานเลื่อนนะ

จบขอบพื้นด้วย PVC แบบเซาะร่องเหมือนหน้าห้อง ส่วนพื้นภายในครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ช่วยให้ทำความสะอาดห้องได้ง่ายขึ้นดีมากเลยค่ะ และยังมีความคงทนมากกว่าลามิเนตด้วย

ภายในครัวมีขนาดประมาณ 1.6 x 2.5 ม. ประกอบไปด้วย Pantry และพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เย็น

Pantry ครัวที่ได้นั้นจะได้ทั้งเคาน์เตอร์ด้านล่างและชั้นลอยด้านบนด้วยค่ะ ขนาด Pantry จัดเป็นขนาดกะทัดรัดไว้เตรียมอาหารเล็กน้อยและล้างจาน ส่วนใครที่จะทำกับข้าวเล็กๆ น้อยๆ ต้องใช้เป็นเตาไฟฟ้าแบบพกพาจะดีสุดค่ะ

ลิ้นชักด้านข้างให้เป็นที่วางอุปกรณ์กินข้าวเรียบร้อยดีค่ะ

Top Pantry ใช้วัสดุ Particle ทนน้ำได้ระดับหนึ่งแต่ไม่ควรปล่อยให้น้ำขังอยู่บนท็อปโดยไม่เช็ดนะ ส่วนด้านหลังได้เป็นผนังฉาบเรียบปกติเลย ซึ่งหากใครไม่อยากให้ผนังเป็นรอยจากคราบต่างๆ หรือความชื้นบริเวณอ่างล้างมือ ก็สามารถกรุผนังด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กๆ ได้ค่ะ

ซิงค์ล้างจานขนาดกะทัดรัด ตามขนาดของ Pantry

ถัดจาก Pantry เป็นพื้นที่วางตู้เย็นค่ะ และสุดทางจะเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังส่วนระเบียงซักล้างภายนอก ด้วยความที่บริเวณนี้ได้ประตูบานเลื่อนด้วยทำให้พื้นที่ส่วนครัวค่อนข้างสว่าง ไล่ความชื้นและกลิ่นอาหารต่างๆ ภายในครัวได้พอสมควรค่ะ

สำหรับความกว้างของพื้นที่ตู้เย็นนี้ประมาณ 1.35 ม. สามารถวางตู้เย็นขนาดกลางได้เลยค่ะ

มาที่ส่วนระเบียงซักล้างกันบ้างนะคะ มีขนาดประมาณ 1.6 x 1.15 ม. จัดเป็นขนาดกะทัดรัดนะ หากวางเครื่องซักผ้าไปก็เกือบเต็มแล้วแทบจะไม่มีพื้นที่สำหรับตากผ้าแล้ว แต่ยังดีที่ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อเครื่องซักผ้าขนาดนั้น เพราะทางโครงการก็มีเครื่องซักผ้าไว้บริการด้านล่างอาคารอยู่แล้วด้วย ใครไม่ได้ซื้อเครื่องซักผ้าใช้ส่วนตัวก็ได้พื้นที่ระเบียงเพิ่มมากขึ้นหน่อย สำหรับตากผ้าหรือซักล้าง

ด้านบนแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์เป่ามาด้านข้าง หากใครกลัวร้อนก็สามารถติดกริลเบี่ยงลมร้อนเพิ่มเติมได้นะ

หันกลับหลังมาเข้ามาภายในห้อง จะเห็นประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ กับส่วน Pantry ครัวค่ะ วัสดุประตูที่นี่ใช้เป็น PVC ที่มีความคงทนต่อน้ำดีทีเดียว

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปเล็กน้อย ภายในปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาดและชนิดเดียวกับห้องครัวเลยค่ะ

ภายในแยกส่วนเปียกและแห้งชัดเจน

ระยะความกว้างของห้องน้ำอยู่ที่ประมาณ 1.6 ม. แบ่งเป็นฝั่งละ 0.8 ม. ก็เป็นระยะที่นั่งกำลังดีไม่ได้กว้างหรือแคบเกินไปค่ะ

หันกลับหลังมาจะเป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งไม่ได้กั้นกระจกไว้ให้นะคะ ใครงบมากหน่อยก็กั้นฉากกระจกได้เลย หรือใครงบน้อยจะใช้เป็นม่านพลาสติกก็สบายกระเป๋าและใช้งานได้เหมือนกันค่ะ

ส่วนขนาดพื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ประมาณ 0.9 x 1.35 จัดเป็นขนาดกะทัดรัด แต่อาบได้สบายอยู่ค่ะ

ฝักบัวจาก American Standard มือจับแข็งแรงระดับนึง ส่วนหัวฝักบัวขนาดปานกลาง ไม่ใหญ่มากค่ะ

มาดูอีก Type ห้องของโครงการที่มีพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องแรกกันบ้างนะคะ ความแตกต่างของห้องนี้กับห้องที่แล้วนั้นก็คือส่วนพื้นที่รับประทานอาหารที่ได้เป็นสัดส่วนชัดเจน แต่ก็แลกมากับพื้นที่ตู้เสื้อผ้าที่น้อยลง ทำให้ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดเล็กลงไปด้วยหน่อย ซึ่งเรามองว่าห้องนี้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจนดีกว่าแปลนด้านบน รวมทั้งพื้นที่ส่วนครัวสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ด้วยประตูบานเลื่อนค่ะ

fur typeA

รวม Furniture ที่ได้จากโครงการใน Type นี้ ที่ได้เพิ่มจากห้อง Type ที่แล้วคือโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ 2 ตัว แลกมากับขนาดของตู้เสื้อผ้าที่เล็กลงหน่อย

เข้ามาส่วนพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ทางหน้าห้องเลย ขนาดของพื้นที่ห้องนั่งเล่นนี้เท่าๆ กับห้องที่แล้วเลยค่ะ อยู่ที่ 2.8 x 2.7 ม. เป็นตำแหน่งของพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านในอาคาร ถึงไม่ได้วิวแต่แสงสว่างจากภายนอกก็สามารถส่องเข้ามาถึงภายในได้ดี ด้วยขนาดของหน้าต่างและประตูบานเลื่อนกระจกที่สูงจากพื้นถึงฝ้า

การจัดชุดโซฟาของห้อง Type นี้จะวางเก้าอี้โซฟาเป็นโต๊ะกลางแทน แต่จริงๆ ในแง่ของการใช้งานไม่ได้ถนัดมากนะคะ แต่อยากให้มองว่าเก้าอี้โซฟานี้ค่อนข้างอเนกประสงค์ทีเดียว ใครอยากนอนดูทีวีก็ไปต่อกับโซฟา 2 ที่นั่งกลายเป็นโซฟา 3 ที่นั่งนอนได้สบายๆ หรือใครที่ชอบยืดแข้งยืดขาดูทีวีก็วางตำแหน่งเดียวกับโต๊ะกลางนี่แหละค่ะ แล้ววางเท้าพาดสบายๆ ได้เลย

โต๊ะวางทีวีได้เหมือนในห้องแรกเลยค่ะ

มาต่อที่ห้องนอนนะคะ ขนาดห้องนอนนี้จะแคบลงมาหน่อยเมื่อเทียบกับห้องที่แล้วนะ อยู่ที่ 2.8 x 2.8 แต่ได้ขนาดเตียง 5 ฟุตเหมือนกัน

ความแตกต่างระหว่างห้องแรกกับห้องที่ 2 อยู่ตรงนี้ค่ะ คือตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กลงมาหน่อย และด้านข้างเป็นผนังทึบไม่ได้เว้นช่องไว้วางโต๊ะได้เหมือนห้องแรก ซึ่งทำให้ผนังส่วนนี้สามารถแขวนทีวีขนาดเล็กๆ ได้อยู่นะคะ เผื่อใครที่ชอบนอนดูทีวีบนเตียง ^^

ถัดมาส่วนห้องครัวกันบ้าง บริเวณทางเข้านี้สามารถทำประตูบานเลื่อนเพื่อให้เป็นครัวปิดได้นะคะ ก็จะได้ครัวเป็นสัดส่วน ทำอาหารหนักได้ดีมากขึ้น กลิ่นไม่ฟุ้งไปส่วนนั่งเล่น

ขนาดห้องครัวใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้วหน่อย อยู่ที่ประมาณ 2.55 x 3.2 ม. เพราะมีพื้นที่รับประทานอาหารเพิ่มขึ้นมาด้วย ในส่วนของ Pantry ครัวนั้นได้เหมือนกับห้องแรกเลยนะคะ

โต๊ะพร้อมที่นั่ง 2 ที่นั่งได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นขนาดกะทัดรัด นั่งกินข้าว 2 คนกระหนุงกระหนิงได้ แต่หันหน้าชนกำแพงนะ ด้วยขนาดของห้องที่ไม่ได้มากนัก การจัดพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนถือว่าโอเคแล้วค่ะ

ถัดมาเป็นส่วนระเบียงซักล้างก็มีขนาดเท่ากับห้องที่แล้วเลยอยู่ที่ประมาณ 1.6 x 1.15 ม. ค่ะ

หันกลับมาดูห้องน้ำกันบ้างนะคะ

การจัดวางสุขภัณฑ์และขนาดห้องน้ำเหมือนห้องแรกเลยค่ะ ในส่วนของโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือใช้ของยี่ห้อ Cotto ค่ะ

ห้องน้ำก่อธรณีขึ้นมาเล็กน้อยและมีขนาดพื้นที่อาบน้ำ 0.9 x 1.6 ม. เช่นเดียวกับห้องแรกเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 April 2017

  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 5 ห้อง A523 พื้นที่ใช้สอย 28.45 ตร.ม. ราคา 1.672 ล้านบาท หรือ 58,780 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 5 ห้อง A532 พื้นที่ใช้สอย 28.06 ตร.ม. ราคา 1.713 ล้านบาท หรือ 61,051 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 8 ห้อง A823 พื้นที่ใช้สอย 28.45 ตร.ม. ราคา 1.702 ล้านบาท หรือ 59,852 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 8 ห้อง A820 พื้นที่ใช้สอย 28.03 ตร.ม. ราคา 1.894 ล้านบาท หรือ 60,353 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • เครื่องปรับอากาศ 9,000 BTU 1 เครื่อง
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Niche Id เสรีไทย เป็นคอนโดราคาหยิบจับง่ายที่ขึ้นมาในทำเลเสรีไทย ใกล้สวนสยามและนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ตอบโจทย์กลุ่มคนเริ่มทำงานหรือคนที่มีงบประมาณไม่เกิน 2 ล้านที่เริ่มมีความพร้อมอยากได้ที่อยู่อาศัยในละแวกนี้ที่ทำงาน อย่างนิคมอุตสกรรมบางชัน หรือสวนสยาม-รามอินทรา เปลี่ยนรูปแบบการอยู่อาศัยแบบการเช่าหอหรือเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและได้เป็นทรัพย์สินตัวเอง และได้ใช้ Facilities ครบครัน แลกกับราคาที่ผ่อนรายเดือนเพิ่มขึ้นมาอีกหลายพัน เมื่อเทียบกับราคาค่าเช่า

ทำเล – โครงการจัดว่าอยู่ใกล้แหล่งความคึกคักและอุดมสมบูรณ์ระดับนึงของเสรีไทยช่วงปลาย เพราะอยู่ในซอยเสรีไทย 81/2 ที่สามารถเชื่อมเข้าถนนสวนสยามได้ โดยถนนสวนสยามเองเป็นถนนที่มีร้านค้า ร้านอาหารระดับนึง รวมทั้งช่วงแยกที่ตัดกับถนนรามอินทราก็มี Amorini เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ ที่เป็นแหล่งซื้อของ ช็อปปิ้งได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปไหนไกล หรือเลยไปอีกหน่อยก็มี Fashion Island และ The Promenade ให้ไปเดินเล่นช็อปปิ้ง ดูหนังกันได้ค่ะ ทั้งนี้ขับรถไปจะสะดวกสุด

การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถือเป็นการเดินทางหลักของทำเลนี้ และค่อนข้างสะดวก ด้วยความที่ตัวโครงการอยู่ใกล้ถนนเสรีไทยจะเข้าเส้นรามอินทราหรือไปทำงานแถบลาดพร้าวก็ยังสะดวก รวมทั้งใกล้กับจุดขึ้น-ลงวงแหวนรอบนอกอีกด้วยค่ะ ส่วนที่จอดรถนั้นให้มาไม่มากอยู่ที่ 39% รวมซ้อนคัน ซึ่งก็ตามมาตรฐานราคาที่จ่ายนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – การเดินทางโดยไม่ใช้รถถ้าถามว่าสะดวกไหมก็อยู่ในระดับปานกลางนะคะ เพราะตัวโครงการอยู่ในซอยของซอยอีกที เดินออกมาจากโครงการเลยจริงๆ ไปเรียกพี่แท็กซี่ วินเตอร์ไซค์ หรือรถเมล์ก็มีระยะเดินประมาณ 600 ม. คืออยู่ในระดับที่เดินได้ไม่ยากแต่ก็ร้อนพอสมควร ส่วนกลางคืนไม่ค่อยเปลี่ยวมากเพราะอยู่ในซอยไม่ลึกเท่าไหร่ก็เจอทางเข้า-ออกโครงการแล้ว ในส่วนของอนาคตเมื่อมีรถไฟฟ้าผ่านทำเลนี้ ก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น แม้จะไม่ได้เรียกว่าใกล้กับรถไฟฟ้าเลย แต่ก็สามารถเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นได้ค่ะ

การออกแบบ – ตัวโครงการออกแบบมามาตรฐานนะคะ มีความหนาแน่นระดับปานกลางค่อนมาทางมากอยู่หน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับหนาแน่นมากนัก จัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ชั้นล่างตรงกลางเพื่อแชร์กับทั้ง 2 อาคาร โดยรวมก็ทำออกมาได้ดีน่าอยู่ในระดับราคาที่จ่ายไปค่ะ ส่วนตัวห้องนั้นมีขนาดเดียว 28 ตร.ม. ซึ่งก็ตอบโจทย์ตลาดความต้องการของลูกค้าไม่มากนัก เช่น บางคนอยากได้ห้องขนาดเล็กลงมาหน่อยเพื่อที่ราคาแพ็กเกจจะต่ำลงได้มากกว่านี้ หรือบางคนอยากได้พื้นที่มากขึ้นเพื่ออยู่กัน 2 คน หรือขนาดครอบครัวเล็กๆ โครงการนี้ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้เท่าไหร่ แต่จุดเด่นของโครงการนี้เมื่อเทียบกับคอนโดมือ 1 บนถนนเสรีไทย ก็ถือว่าทำ Product ห้องออกมาดี อยู่ได้จริงด้วยไซส์ห้องที่ไม่เล็กจนเกินไป พร้อมกับขายในรูปแบบ Fully Furnished คือไม่ต้องควักเงินเพิ่มเพื่อเอามาตกแต่งเองอีก ใครมีงบประมาณ 1.5-2 ล้านในใจ โครงการนี้ก็น่าสนใจค่ะ

วิเคราะห์ในส่วนของแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีอยู่ 2 Type ขนาด 28 ตร.ม. เช่นเดียวกัน โดยห้อง Type A นั้นเรามองว่าค่อนข้างลงตัวในเชิงของฟังก์ชัน มากกว่าห้อง Type B แต่ทั้ง 2 ห้องก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปนะ

  • Type A : เน้นพื้นที่ส่วนครัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Type B โดยภายในพื้นที่ครัวนี้มีพื้นที่รับระทานอาหารอยู่ภายในด้วย เป็นสัดส่วนดี พร้อมทั้งเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารหนักๆ อีกด้วยเนื่องจากมีพื้นที่มากพอที่จะสามารถกั้นประตูบานเลื่อนเพื่อทำเป็นครัวปิด ทำให้กลิ่นอาหารไม่ออกไปรบกวนส่วนนั่งเล่นได้ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ได้ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กลงมา และไม่มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ภายในห้องนอนได้ค่ะ
  • Type B : จุดเด่นเลยคือได้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับ Type B และมีพื้นที่เหลือด้านข้างตู้เสื้อผ้าที่สามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้ ข้อเสียคือไม่มีพื้นที่รับประทานอาหารเป็นสัดส่วน และได้เป็นครัวเปิด เหมาะกับคนที่เน้นพื้นที่ภายในห้องนอน ชอบตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และพื้นที่ทำงานหรือแต่งตัวค่ะ

วัสดุ – วัสดุโครงการให้มาโอเคในราคาที่จ่ายไปค่ะ ด้วยรูปแบบการขาย Fully Furnished ใช้เฟอร์นิเจอร์จาก SB Furniture พื้นห้องเป็นลามิเนต ส่วนพื้นครัว ห้องน้ำและระเบียงซักล้างได้กระเบื้องเซรามิก Pantry ครัวพร้อม Sink ท็อปใช้ Particle สุขภัณฑ์จาก Cotto และฝ้าเพดานสูง 2.4 ม.

สาธารณูปโภค – ให้มาครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำขนาด 6 x 21 ม. แยกสระเด็กและผู้ใหญ่ มี Fitness Lobby มีแอร์พร้อมจัดชุดโต๊ะเก้าอี้ให้มานั่งเล่นกันได้และสวนสีเขียว หากเทียบในเชิงจำนวนยูนิตกับสาธารณูปโภคที่ได้อาจจะไม่เพียงพอมากนัก แต่ด้วยความที่ทางนิติบุคคลมีการบริหารจัดการในเชิงของการจัดสรรเวลาเพื่อให้ลูกบ้านทุกคนสามารถใช้ได้ทั่วถึงก็สามารถแก้ปัญหา Facilities ไม่เพียงพอในการใช้งานได้พอสมควรค่ะ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 56,000 บาท/ตร.ม., 11 April 2017

  • ทำเล 7.5/10 – ใกล้สวนสยาม ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางชัน
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – สามารถขับรถเข้าเมืองได้หลายทาง แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – จากอาคารออกมาหน้าปากซอย 600 ม. ค่อยเรียกรถ เรียกวินได้
  • วัสดุ 8/10 – ให้แบบ Fully Furnished เกรด SB Furniture ถือว่าโอเคเทียบกับราคา
  • แบบ 7/10 – ฟังก์ชันห้องภายในจัดได้ดี อยู่ได้จริง แต่มีห้องในเลือกไซส์เดียว
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ได้ครบครัน น่าใช้งาน

  • ECONOMY CLASS
  • 7.53 / 10.00

BOTTOM LINE

 Niche Id เสรีไทย เหมาะกับคนที่ทำงานนิคมอุตสาหกรรมบางชัน หรือแถบสวนสยาม-เสรีไทย มองหาคอนโดพร้อมอยู่ราคาหยิบจับง่าย 1.5 – 2 ล้านบาท อยากเปลี่ยนสถานะจากเช่าห้องมาเป็นทรัพย์สิน ต้องการห้องพื้นที่ใช้สอยที่กำลังดีกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ตกแต่งพร้อมไม่ต้องหางบเพิ่มในการตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ มีกำลังผ่อนประมาณ 10,500 – 14,000 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้เราหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )