รีวิวฉบับที่ 1462 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชม H2 Glo หนึ่งในคอนโดภายใต้แบรนด์ H2 จาก AssetWise ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise ขนาดเล็กมีจำนวนยูนิตเพียง 79 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวสูง และตั้งอยู่บริเวณใกล้ปากซอยใหญ่อย่างรามอินทรา 21 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถไปทะลุออกถนนเทพรักษ์ด้านหลังได้ง่าย และอยู่ในเรทราคาที่หยิบจับง่าย ในราคาเริ่มเพียง 1.49 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

Fact @ 24 October 2017

  • H2 Glo (เอช ทู โกล์ว) 
  • บริษัท เอสเตท คิว จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 33 คันคิดเป็น 34.18% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41.77%
  • ที่ดินประมาณ 0-1-99 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q1/2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 1 Bedroom 22.12 – 22.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive 28.98 – 29.01 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 31.30 – 34.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45.42 – 47.43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 085-106-2121

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ 

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.864713, 100.617190

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลโครงการ H2 Glo ตั้งอยู่ในช่วงรามอินทราตอนต้น ใกล้วงเวียนหลักสี่ ซึ่งจัดเป็นทำเลที่คึกคักอีกจุดของถนนรามอินทรา ปัจจุบันทำเลนี้ส่วนใหญ่มีการพัฒนาค่อนข้างมากด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากถนนพหลโยธิน ช่วงหลักสี่ ที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักตัดผ่าน ดังนั้นในละแวกนี้เราก็จะเริ่มเห็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง High Rise และ Low Rise เกิดขึ้นค่อนข้างมากในระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา หากมองในเชิงของที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงบนทำเลรามอินทราตอนต้นแล้ว ปัจจุบันจะมีราคาค่อนไปทางสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ ซึ่งสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในละแวกนี้ ด้วยงบประมาณไม่มาก ประมาณ 1.5 – 3 ล้าน โครงการ H2 Glo ก็จะตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้ได้ ซึ่งในอนาคตทำเลนี้ที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่านก็จะยิ่งเพิ่มความเจริญและความสะดวกสบายนการเดินทางให้กับทำเลนี้มากขึ้น

ด้วยทำเลนี้เป็นทำเลที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ดังนั้นเรื่องความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์ในย่านจึงมีพอสมควรค่ะ ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็น Hyper Market, Community Mall และตลาดเป็นส่วนใหญ่ ทั้ง Big C Extra, Foodland, The Jas, Tesco Lotus ซึ่งก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องของกินของใช้ได้ทั้งหมดนะคะ ส่วนใครที่อยากเดินห้างช็อปปิ้งในระยะใกล้ๆ ก็จะมี Central รามอินทราที่อยู่ห่างจากโครงการไม่ไกลมาก ในซอยรามอินทรา 21 เองก็มีความคึกคักเช่นเดียวกัน ทั้งร้านอาหาร เต้นท์อาหารและรถเข็นมีให้เห็นพอสมควรทีเดียวค่ะ ใครไม่อยากไปไหนไกลก็สามารถหาของกินง่ายๆ ในซอยได้เช่นกัน

สำหรับการเดินทางบนทำเลนี้มีความสะดวกทั้งแบบใช้รถและไม่ใช้รถนะคะ อย่างสำหรับใครที่เน้นเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นสามารถใช้ถนนรามอินทราเป็นหลักในการเดินทาง และเข้า-ออกเมืองได้ง่ายด้วยถนนพหลโยธิน ที่อยู่ไม่ไกลจากซอยรามอินทรา 21 เท่าไหร่นัก รวมทั้งในซอยโครงการหรือรามอินทรา 21 เองนั้นจัดเป็นซอยใหญ่และเป็นซอยที่สามารถไปทะลุออกถนนเทพรักษ์ ที่เป็นถนนตัดใหม่เชื่อมเข้าถนนพหลโยธิน วัชรพลและสุขภิบาล 5 ได้ นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์อีกด้วยค่ะ

การเดินทางโดยระบบสาธารณะทั่วไปถือว่าสะดวกเพราะอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่รามอินทรา เดินออกไปเรียกรถได้ง่าย รวมไปถึงมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการที่หน้าปากซอยด้วยค่ะ ใครที่ต้องเข้าเมืองก็นั่งวินมอเซอร์ไซค์หน้าปากซอยไปลงบริเวณวงเวียนหลักสี่ ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นสายหลักเข้าเมืองได้เช่นกัน โดยสถานีนี้กำลังจะเปิดให้ใช้บริการกันในไม่ช้าแล้วค่ะ ส่วนในอนาคตบนรามอินทราก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่าน เพิ่มตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายมากขึ้น โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลาดปลาเค้า โดยห่างจากโครงการประมาณ 90 เมตรค่ะ

ภายในซอยรามอินทรา 21 นั้นมีสวนกีฬารามอินทรา ซึ่งมีพื้นที่ 59 ไร่ 36 ตร.วา ที่มีสำนักสวัสดิการสังคมจึงได้เข้ามาดูแล เมื่อปี พ.ศ.2535 ทำให้ดูร่มรื่นสวยงามและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และในปี 2546 ได้จัดเป็นศูนย์กีฬาขึ้นเพื่อพัฒนาให้เมืองให้น่าอยู่ ภายในมีทั้งสนามกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่ม รวมทั้งสวนสุขภาพเพื่อรองรับประชาชนในพื้นที่นี้ โดยสวนกีฬานี้ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. ตอบโจทย์โครงการคอนโดมิเนียมขนาดเล็กที่ไม่ได้มีพื้นที่สีเขียวและ Facilities มากนักได้ดีทีเดียว เพราะมีสวนใกล้ๆ ให้สามารถมาออกกำลังกาย สูดอากาศ ไม่ไกล รวมทั้งไม่ต้องเสียค่าส่วนกลางเพิ่มเติมอีกด้วยนะคะ

สำหรับการเดินทางเราจะเริ่มจากหน้าปากซอยรามอินทรา 21 กันเลยนะคะ เนื่องจากรีวิวก่อนหน้านี้ได้พาไปดูทำเลละเอียดพอสมควรแล้ว สนใจอ่านทำเลเพิ่มเติม (คลิกที่นี่) หน้าปากซอยนั้นมีซุ้มวินมอเตอร์ไซต์คอยให้บริการด้วยค่ะ แต่ด้วยระยะจากโครงการห่างจากหน้าปากซอยเพียง 150 ม. จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพี่วินเข้าโครงการก็ได้ค่ะ

ราคาค่าตัวพี่วินไปสถานที่ต่างๆ

เดินเข้ามาภายในซอย ในฝั่งซ้ายมือจะมีทางเดินฟุตบาทให้สามารถเดินได้ง่าย แต่ฝั่งขวานั้นมีความกว้างฟุตบาทไม่มาก เดินค่อนข้างลำบาก ต้องระวังรถด้วยนะคะ โครงการ H2 Glo จะอยู่ทางฝั่งซ้าย ส่วน H2 Glass และ H2 Chrome จะอยู่ทางฝั่งขวาค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ช่วงต้นซอยรามอินทรา 21 นี้มีโครงการภายใต้แบรนด์ H2 ทั้งหมด 7 โครงการด้วยกัน ด้วยรูปแบบโครงการที่ใกล้เคียงกันทั้ง 7 โครงการ คือเป็นโครงการ Low Rise ขนาดเล็ก มีจำนวนยูนิตไม่เกิน 79 ยูนิตด้วยกัน โดยแต่ละโครงการนั้นจะดึงจุดที่แตกต่างกันด้วย Material และคอนเซ็ป สภาพแวดล้อมโครงการในช่วงต้นซอยรามอินทรา 21 ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ และตึกแถวที่มีความสูง 2-4 ชั้น ค่อนข้างเงียบสงบ ตามบรรยากาศทั่วไปของทำเลที่อยู่อาศัย ส่วนพื้นที่ข้างเคียงที่ติดกับโครงการ H2 Glo ก็จะมีดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับที่ดินบุคคลอื่น
  • ทิศตะวันออก : ติดกับโครงการ H2 Glass และ H2 Chrome
  • ทิศใต้ : ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และ โครงการ H2 Steel , H2 Stone
  • ทิศตะวันตก : ติดกับที่ดินบุคคลอื่น และ แนวตึกแถว

ทิศเหนือ ติดกับที่ดินบุคคลอื่น มีล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย ถัดไปเป็นแนวตึกแถวและอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น

ทิศตะวันออก  ติดกับโครงการ H2 Glass และ H2 Chrome เป็นคอนโดรุ่นพี่ Low Rise 8 ชั้นเหมือนกัน

ทิศใต้  ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และ โครงการ H2 Steel , H2 Stone

ทิศตะวันตก  ติดกับที่ดินบุคคลอื่น และ ฝั่งที่ติดถนนใหญ่เป็นแนวตึกแถว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C ~ 850 ม.
  • Foodland ~ 1.2 ม.
  • เซ็นทรัลรามอินทรา ~ 1.9 ม.
  • มหาวิทยาลัยเกริก ~ 2.2 ม.
  • สนามมวยลุมพินีใหม่ ~ 2.3 ม.
  • สนามกอล์ฟทหารบก ~ 2.6 ม.
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ~ 4.5 ม.
  • ตลาดนัดยิ่งเจริญ ~ 5.6 ม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 6.2 ม.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 7.8 ม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ H2 Glo เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 79 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 0-1-99 ไร่ ลักษณะตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury โดยการใช้โทนสีเทาอ่อน – เข้ม และมีการออกแบบที่สอดคล้องกับโครงการข้างเคียงอย่าง H2 Glass และ H2 Chrome แต่ไม่ได้เป็นโครงการเดียวกันนะคะ

ชั้น 1 ของโครงการเป็นส่วนที่จอดรถทั้งหมดโดยมีช่องจอดทั้งหมด 33 คัน รวมจอดซ้อนคันทั้งหมดจะอยู่ที่ 34.18 คัน คิดเป็น 41.77% รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งถือว่าให้มาตามมาตรฐานในระดับราคาที่จ่ายและขนาดโครงการขนาดเล็ก พูดถึงเรื่องที่จอดรถพอในการใช้งานจริงไหมนั้น จากที่ไปดูโครงการก็เห็นว่ามีรถจอดพอสมควรในวันธรรมดา ช่วงเวลาทำงาน ซึ่งคาดว่าหากมีคนอยู่เต็มโครงการน่าจะมีที่จอดไม่พอนัก ด้วยความที่ปัจจุบันทำเลโครงการการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวยังคงสะดวกมากที่สุดอยู่ แต่ในอนาคตนั้นเมื่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเข้าถึงก็น่าจะลดความจำเป็นในการใช้รถมากขึ้นได้ค่ะ สำหรับโครงการขนาดเล็กนั้นจะไม่ได้มีเนื้อที่สำหรับ Lobby โครงการนะคะ ดังนั้นในชั้นนี้เลยมีเพียงโถงลิฟต์ และห้องนิติบุคคลเท่านั้นค่ะ

เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการจะใช้เป็นรั้วล้อเลื่อนกั้นทางเข้า-ออกเท่านั้นค่ะ และดูแลโดยพี่รปภ. 1 คน

มองจากหน้าอาคารไปบริเวณชั้น 3-4 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ชั้น3 จะมีสระว่ายน้ำ ส่วนชั้น4 จะมีฟิตเนสค่ะ

ถัดเข้ามาในโครงการจะเป็นบริเวณที่จอดรถ พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดมัน ข้อดีคือทำความสะอาดง่ายและดูสะอาดมากกว่าพื้นคอนกรีตปกติ โดยที่จอดรถจะมีประมาณ 33 คันคิดเป็น 34.18% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41.77%

ในชั้นนี้ไม่มี Lobby นะคะ จะเป็นห้องนิติบุคคลทางซ้าย และทางเข้าโถงลิฟต์ทางขวา

โดยต้องสแกนบัตรเข้าโถงลิฟต์โดยสาร เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสำหรับลูกบ้านภายในโครงการ

เข้ามาในโถงลิฟต์แล้ว ทางฝั่งซ้ายคือตู้จดหมาย ติดกับตู้จดหมายคือลิฟต์โดยสารค่ะ ที่นี่มีลิฟต์ตัวเดียวนะคะ ด้วยความที่มีจำนวนยูนิตเพียง 79 ยูนิต ใช้ลิฟต์ตัวเดียวก็เพียงพอแล้วค่ะ ความหนาแน่นไม่มากอยู่ที่ 1:79 แต่หากลิฟต์ตัวนี้เสียก็จะไม่มีลิฟต์ตัวอื่นให้ใช้งานไปก่อนได้นะ ต้องใช้ขึ้นลงบันไดหนีไฟเอา

ด้านข้างจะเป็นตู้จดหมายค่ะ ด้วยความที่ที่นี่จำนวนยูนิตไม่มาก ตู้จดหมายก็มีขนาดเล็กไปด้วย วางที่โถงลิฟต์ยังได้

ภายในลิฟต์ตกแต่งเรียบง่าย เป็นลิฟต์ที่ไม่ได้ล็อกชั้นนะคะ แค่สแกนบัตรจากโถงลิฟต์แล้วก็กดเลือกชั้นได้เลย

ชั้น 2 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย โดยมีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 13 ยูนิต จัดว่าไม่หนาแน่นค่ะ ห้องพักทางฝั่งซ้ายเป็น 1 Bedroom 22.12 – 22.55 ตร.ม. ทางฝั่งขวาเป็น 1 Bedroom Exclusive 28.98 – 29.01 ตร.ม. ห้องที่อยู่ฝั่งหน้าโครงการจะมี 1 Bedroom Plus 31.30 – 34.90 ตร.ม. และ 2 Bedrooms 45.42 – 47.43 ตร.ม.

 

ชั้น 3 เป็นชั้นพักอาศัยและมี Facilities ส่วนหนึ่งอยู่ในชั้นนี้ด้วย โดยจะมีส่วนสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่เปิดโล่งทั้งส่วนกลางและโถงทางเดิน ทำให้ลมมีการพัดผ่านเข้าสู่อาคารช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ในส่วนของห้องพักการวางผังจะเหมือนกับชั้น 2 ค่ะ

เราขึ้นมาที่ชั้น 3 บริเวณโถงทางเดินจากลิฟต์โดยสาร

มาที่บริเวณโถงทางเดิน บางส่วนของโถงจะเป็น Single Corridor ถือเป็นข้อดีของห้องพักในโซนนี้ เพราะบริเวณทางเดินได้แสงสว่างจากภายนอกเต็มที่ ดูสว่างไม่มืดทึบ อีกอย่างคือห้องไม่ประจันหน้ากับประตูห้องคนอื่น เหมือนส่วน Double Corridor รวมทั้งยังอยู่ใกล้กับ Facilities ใช้งานได้สะดวก แต่ก็แลกมากับความคึกคักที่มากกว่าโซนและชั้นอื่นๆ นะคะ เพราะเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านสามารถมาใช้งานได้

อีกฝั่งเป็น Corridor ยาวๆ มีฝั่งด้านหลังอาคารที่ได้ช่องเปิดบริเวณโถงทางเดินนะคะ แต่สำหรับชั้นนี้โถงทางเดินไม่มืดมาก เพราะมีช่องเปิดมาจากทางส่วน Facilities ด้วย

ทางเข้าส่วน Facilities จะมีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน

เข้ามาด้านใน ทางฝั่งซ้ายเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

ทางโครงการแยกอ่างล้างหน้าออกมาด้านนอก เวลามีคนเข้าห้องน้ำอยู่ เราก็ยังสามารถมาใช้งานได้ค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ ติดๆกับห้องน้ำเลยจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ

เดินมาจนสุดทางจะเป็นบันไดทางขึ้นไปที่ส่วนของสระว่ายน้ำ

พื้นที่บริเวณสระว่ายน้ำจะเป็น Double space กินพื้นที่ชั้น 3-4 ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง นั่งรับลมจากภายนอกได้ค่ะ

มองมาฝั่งตรงข้ามจะเห็นหน้าต่างของห้องฟิตเนส ที่สามารถชมวิวสระว่ายน้ำได้ด้วย

ชั้น 4 เป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วยอีก 1 ชั้น เป็น Double space ต่อมาจากชั้น 3 ส่วนห้องพักการวางผังจะเหมือนกับชั้น 3 ค่ะ

ขึ้นมาดูกันต่อที่ชั้น 4

ฝั่งซ้ายเป็นทางเข้า-ออกส่วน Facilities ในชั้นนี้ค่ะ

ภายในห้องฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกายให้ทั้งหมด 4 เครื่องด้วยกัน ไม่รวมกับโซนเวทเทรนนิ่งด้านหลังเครื่องออกกำลังกาย ด้วยความที่ห้องมีขนาดพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด การวางเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด 4 เครื่องก็เต็มพื้นที่แล้วนะคะ จริงๆ จำนวนเครื่องออกกำลังกายที่ให้ถือว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตนะ

อีกฝั่งหนึ่ง ด้านหลังห้องฟิตเนสเป็นกระจกเงาช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

ชั้น 5-8 นั้นเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มีแปลนเหมือนกันกับห้องอื่นๆค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 3 x 9 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 79 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 33 คันคิดเป็น 34.18% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41.77%
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

สำหรับห้องพักอาศัยโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ให้วัสดุมาตรฐานต่างๆ สุขภัณฑ์ แอร์ ฉากกั้นอาบน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ โดยมีห้องพักให้เลือกตามนี้ค่ะ

  • 1 Bedroom 22.12 – 22.55 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive 28.98 – 29.01 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 31.30 – 34.90 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 45.42 – 47.43 ตร.ม.

โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูห้องแรกนี้ คือห้อง 1 Bedroom 22.12 ตร.ม. ห้องนี้เป็นแบบหน้าแคบลึก การจัดวางฟังก์ชันลงตัวดีค่ะ แต่ขาดพื้นที่ในการวางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งต้องคงต้องพึ่งโซฟาเป็นที่นั่งรับประทานอาหารกันไป ใครที่รู้สึกไม่ถนัดนั้นสามารถซื้อโต๊ะพับเก็บหรือโต๊ะล้อเลื่อนขนาดเล็กๆ มานั่งรับประทานอาหารได้ค่ะ ในส่วนของห้องครัวจัดเป็น Pantry เดี่ยวใช้งานสะดวกในพื้นที่ที่จำกัด แต่ตำแหน่งของครัวอาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ เท่าไหร่นะคะ เหมาะกับคนซื้ออาหารเข้ามารับประทาน ถัดมาบริเวณห้องนั่งเล่นมีขนาดอยู่สบายพอดีๆ ระยะการดูทีวีเหมาะสมวางทีวีขนาดใหญ่ได้ สังเกตได้ว่าทางเดินบริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่อนข้างกว้างพอสมควร สามารถตั้งโต๊ะพับรับประทานอาหารชั่วคราวแล้วพับเก็บได้สบายๆ ค่ะ ในส่วนของห้องนอนกั้นประตูกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วนเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ห้องนอนมากขึ้น ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก ระเบียงจะอยู่นอกห้องนอนขนาดระเบียงไม่ใหญ่มากนักค่ะ

 

ประตูห้องที่ให้มาใช้วัสดุ HDF ปิดผิวด้วยลามิเนต ขนาดมาตรฐาน

กลอนประตูได้แบบมือจับก้านโยก แถม Digital Door Lock ของ Samsung เป็นมาตรฐานทุกห้อง

ภายในจะเจอในส่วนครัว ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ และถัดเป็นเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ด้านในสุดเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ ในส่วนของพื้นครัวไม่ได้ให้เป็นกระเบื้องมา ดังนั้นการทำความสะอาด หรือเวลาทำอาหารแล้วเลอะเทอะก็อาจจะมีปัญหาในการทำความสะอาดและซ่อมแซม แต่ก็ยังพอทนความชื้นได้บ้างค่ะ เนื่องจากพื้นเป็นกระเบื้องยาง ส่วนของครัวลักษณะนี้เป็นครัวเปิด อาจไม่สะดวกมากนักสำหรับการทำอาหารหนักๆ เพราะจะมีปัญหาในเรื่องของควันและกลิ่นอาหารที่จะคลุ้งไปทั่วห้อง

ธรณีประตูเป็นหินเทียมสีดำมีอายุการใช้งานที่ยาวกว่าและทำความสะอาดได้ง่ายกว่าขอบตัวจบไม้สำเร็จรูป พื้นในห้องยกสูงขึ้นมาจากพื้นโถงทางเดินเล็กน้อย ช่วยกันฝุ่นผงเข้าไปให้ห้องได้

พื้นภายในห้องใช้วัสดุเป็น Smart Vinyl ลายไม้ โดยข้อดีของพื้น Smart Vinyl คือมีความทนทานต่อความชื้นและขีดข่วนมากกว่าพื้นไม้ลามิเนต และไม่มีปัญหาเรื่องปลวกเพราะไม่ใช่ผงไม้มาอัดเป็นแผ่น ทนต่อการติดไฟมากกว่าพื้นไม้ อายุการใช้งานโดยประมาณ 5-10 ปี การบำรุงรักษาก็ไม่ยากค่ะโดยเวลาเสียก็ลอกแผ่นที่เสียออกแล้วปะแผ่นใหม่เข้าไป แต่ผิวสัมผัสก็จะแข็งๆหน่อยอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะคะ

จากทางเข้าห้องพักจะเจอส่วนพื้นที่ครัวก่อนเลยค่ะ ลักษณะของพื้นที่ครัวนี้จะเป็นเพียงโซนเล็กๆ วาง Pantry ให้ได้เตรียมของ อุ่นอาหารง่ายๆ มากกว่า ซึ่งบริเวณนี้ก็จะใช้เป็นส่วน Circulation ทางเดินเข้าห้องด้วยเช่นกัน

ประตูห้องน้ำเป็นประตูสำเร็จรูป PVC ใช้ทนน้ำได้ดีไม่บวมค่ะ มีบานเกล็ดสำหรับระบายอากาศ

มือจับประตูของห้องน้ำเป็นแบบก้านโยกค่ะ

ส่วนห้องน้ำก็จัดมาให้ครบทั้งส่วนแห้ง ส่วนเปียก มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนดีค่ะ ลักษณะการเปิด-ปิดของฉากกั้นห้องอาบน้ำเป็นแบบเลื่อน 2 ด้าน เพราะพื้นที่มีจำกัดการทำแบบช่วยให้เข้าออกง่ายขึ้น ส่วนตัวรางที่พื้นจะสูงขึ้นมาหน่อยกันน้ำออก แต่เดินได้สบายนะคะไม่ลำบาก ส่วนกระจกเป็น Tempered Glass ค่ะ

จากทางเข้าห้องน้ำยกธรณีประตูขึ้นสูงประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำไหลย้อน ส่วนพื้นห้องน้ำนั้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเล่นลายหินอ่อน

บริเวณอ่างล้างมือนั้นจัดให้มาพร้อมกับกระจกเงาขนาดกำลังดีค่ะ

อ่างล้างมือขนาดกำลังพอดี ได้เป็นของ Mogen ด้านข้างมีพื้นที่เหลือวางข้าวของได้เล็กน้อย ด้านล่าง Built in เป็นชั้นวางของได้เล็กน้อย

โถสุขภัณฑ์จาก Mogen และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก American Standard

ฉากกั้นกระจกนี้จะมีลักษณะการเปิด-ปิดเป็นแบบเลื่อน 2 ด้าน กระจกเป็น Tempered Glass ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 80 x 80 cm. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ฝักบัวสายอ่อนขนาดมือจับกำลังดี แต่หัวฝักบัวค่อนข้างเล็กไปหน่อย มาพร้อมกับที่วางสบู่มาให้ ด้านข้างฝักบัวเดินงานระบบท่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยด้วย แค่ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาใส่ก็สามารถใช้งานได้เลยค่ะ ส่วนด้านล่างติดตั้งก๊อกสนามไว้ให้ สำหรับซักล้างต่างๆ ได้ โดยอุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมดนี้จาก American Standard ทั้งหมดค่ะ

ฝักบัวจับได้ถนัดมือค่ะ

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นพื้นที่ของครัว เป็นครัวเปิด ลักษณะเคาน์เตอร์เป็นยาวๆต่อเนื่องกันกับชั้นวางทีวี

หน้าห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น กลับบ้านมาก็สามารถเอาของกินมาแช่ได้เลย

ตัว Top เป็น Particle ปะด้วยเมลานีน ซึ่งควรระวังเรื่องความชื้นเป็นพิเศษหน่อยนะคะ เพราะวัสดุประเภทนี้ไม่เหมาะกับการโดนน้ำแช่นานๆ เท่าไหร่นักค่ะ ส่วนบานเปิดและลิ้นชักนั้นปิดผิวด้วยเมลามีนสีเทาเรียบร้อย

Sink หลุมเดี่ยวขนาดมาตรฐานของ Tecno ค่ะ

ถัดจากครัวมาจะเป็นชั้นวางทีวี ด้านล่างมีช่องสำหรับใส่กล่องหรือชั้นวางของเพิ่มได้

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นไปจะเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อน กรอบบานอลูมิเนียม

พื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง โครงการแถมมาให้หมดทั้ง โซฟาและโต๊ะกลาง

โครงการนี้มี Bluetooth sound system พร้อมติดตั้งลำโพงที่บริเวณฝ้าเพดานมาให้ทุกห้อง ถือเป็น Signature ของ AssetWise ที่ให้มาทุกโครงการ โดยจะติดแผงควบคุมไว้ที่ผนังมา สามารถฟังเพลงจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์เปิดผ่านบลูทูธออกลำโพงได้เลย หรือจะเอา USB มาเสียบที่ตัวเครื่องก็ได้ รับสัญญาณวิทยุหรือเป็นนาฬิกาจับเวลาก็ได้เช่นกัน ใครชอบฟังเพลงน่าจะถูกใจค่ะ

แอร์โครงการนี้ได้เป็นของ Daikin จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องค่ะ

ก่อนเข้าห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถแปะฟิล์มขุ่นได้นะคะ

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงได้ขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า ผนังด้านข้างเตียงมีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศค่ะ

ในส่วนของห้องนอนนี้จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนย่อยๆ ซึ่งโซนเตียงนอนนี้จะได้เตียงขนาด 5 ฟุตเป็นมาตรฐานไม่รวมฟูก ซึ่งก็จะเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงนิดหน่อย ให้พอแทรกตัวเดินได้บ้างค่ะ

ทางฝั่งซ้ายวางเตียงติดผนังมีระยะให้ผ้าม่านผ่านได้ ส่วนทางฝั่งขวามีระยะประมาณ 65 cm.

ปลายเตียงมีระยะประมาณ 55 cm.

ผนังด้านข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ด้านข้างและด้านล่างเป็นบาน FIX รวมๆแล้วขนาดใหญ่เต็มบานดีค่ะ

ด้านปลายเตียงแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน ด้านซ้ายเป็น Built in ตู้เสื้อผ้าสูงถึงฝ้าเพดานและด้านขวาเป็นพื้นที่ระเบียง

ระเบียงมีพื้นที่สำหรับติดตั้ง  Condensing Unit  และวางงานระบบสำหรับเครื่องซักผ้าและก๊อกน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อย

ระเบียงขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 ม. เมื่อวางเครื่องซักผ้าก็จะมีพื้นที่สำหรับตากผ้าค่อนข้างน้อยค่ะ

ปลั๊กและสวิทช์ เป็นของ Siemens

ห้องตัวอย่างห้องถัดมาคือ 1 Bedroom Plus  34.90 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นแบบสี่เหลี่ยม (เกือบ) จัตตุรัส เนื่องจากเป็นห้องมุมของอาคารจึงมีช่องเปิด 2 ทาง การออกแบบจัดวางฟังก์ชันจัดให้ทุกห้องมีช่องเปิดระบายอากาศและแสงแดดส่องทั่วถึงค่ะ ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา และการจัดวางฟังก์ชันทำให้ห้อง Type นี้ลงตัวและใช้อยู่อาศัยได้สบายกว่าห้องแบบ 1 Bedroom เข้ามาจะเจอส่วนครัวและห้องน้ำก่อน ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง และด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่น โดยจะมีขนาดและระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีน้อยกว่าห้องแบบ 1 Bedroom ในส่วนของระเบียงนั้นมีพื้นที่ยาวกว่าแบบ 1 Bedroom สามารถใช้งานระเบียงได้จริง ในส่วนของห้องนอนใหญ่นั้นสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ และตู้เสื้อผ้าค่ะ สำหรับห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงแบบ 3.5 ฟุต หรือเตียง Single Bed พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก หรือถ้าใครอยู่กันเพียง 2 คนก็สามารถจัดห้องนอนเล็กเป็นห้องอเนกประสงค์ได้นะคะ เช่นทำเป็นห้องทำงานหรือห้องเก็บสะสมงานอดิเรกค่ะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วน Pantry ครัวอยู่ทางฝั่งซ้ายและห้องน้ำที่อยู่ทางด้านขวา ถัดเข้าไปหน่อยเป็นพื้นที่รัปประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ด้านหลังสุดเป็นทางออกไปที่ระเบียงค่ะ

มุมมองย้อนกลับมาทางฝั่งหน้าห้องค่ะ มีระยะบริเวณส่วนครัวกว้างกว่าแบบห้องแรกเล็กน้อย

ในส่วนของ Pantry ครัวเหมือนกันกับห้องแรกเลยค่ะ

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว แต่มีถาดด้านข้างสำหรับวางพักจานมาให้ด้วย

พื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหารและนั่งเล่น

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ 2 ตัวที่ได้ มีระยะการใช้งานแบบพอดีๆ ไม่เบียดจนเกินไป

ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียง ทำให้ดูโปร่งโล่งดีทีเดียว

ระยะการดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.3 ม.ค่ะ สามารถวางทีวีขนาด 40 – 42 นิ้วได้สบายๆ

บริเวณนี้ยังติดตั้ง Bluetooth Sound System มาให้ด้วย

ติดกับพื้นที่นั่งเล่นจะได้ประตูบานเลื่อน พร้อมกระจกเข้ามุม เปิดมุมมองได้กว้างขึ้น จึงช่วยให้แสงสว่างภายนอกเข้ามาภายในห้องได้ดีมากทีเดียว และหากใครที่ชอบมองวิวไกลๆ หน่อยก็สามารถเลือกห้องมุมนี้ในชั้นสูงหน่อยได้นะคะ

บริเวณระเบียงมีพื้นที่สำหรับติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ เป่าลมมาด้านข้าง สำหรับใครอยากมายืนเปลี่ยนบรรยากาศนอกระเบียงบ้างก็อาจจะร้อนเกินไปถ้ามีลมร้อนจากคอยด์แอร์เป่า แนะนำให้ติดกริลเบี่ยงทิศทางลมจะช่วยได้ดีมากเลยค่ะ หรือถ้าใครใช้ระเบียงเป็นที่ตากผ้าอย่างเดียวก็อาจจะไม่จำเป็นต้องติดกริลก็ได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 2.45 x 0.80 cm. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

เข้ามาภายในห้องกันต่อค่ะ ส่วนที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นและทางเข้าห้องนอนจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ซึ่งจัดให้เป็นตำแหน่งที่สะดวกในการใช้งานที่สุดค่ะ ในส่วนของประตูห้องน้ำนั้นจะใช้เป็นประตูสำเร็จรูป PVC ใช้ทนน้ำได้ดีไม่บวม ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นส่วนของห้องนอน

ส่วนภายในห้องน้ำแม้มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็ออกแบบให้เป็นสัดส่วนชัดเจน โดยการกั้นพื้นที่เปียกกด้วยฉากกั้นกระจกมาให้ วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องแบบแรกค่ะ

มีทั้งส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ

และส่วนแห้งที่มีอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์

ถัดเข้ามาทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนเล็กวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า built in ได้ ขนาดห้องไม่ใหญ่เท่าไหร่นักแต่ไม่รู้สึกแคบหรืออึดอัดเพราะมีช่องเปิดและกระจกให้มาค่อนข้างมาก จึงช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ห้องนี้เราได้เตียงและตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการแถมมาให้

ภายในตู้เสื้อผ้า มีทำลิ้นชักเพิ่มเติมให้ สำหรับใส่เสื้อผ้าขนาดเล็กๆ เช่นถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า หรือเสื้อในได้

ระยะเปิดบานตู้อยู่ในระยะที่พอดีๆ ไม่ชนกับเตียงค่ะ

ถัดเข้ามาในห้องนอนใหญ่วางเตียงได้แบบ 5 ฟุต ซึ่งห้องนี้มีความพิเศษอยู่ตรงที่ได้อยู่ตำแหน่งมุมอาคารพอดี จึงได้ช่องเปิดทั้ง 2 ฝั่ง

ทางฝั่งซ้ายมีระยะจากเตียงถึงตู้ประมาณ 60 cm. และด้านขวามีระยะเหลือ 70 cm.

ปลายเตียงมีระยะจากเตียงถึงผนังประมาณ 50 cm. เดินผ่านได้สบายๆ

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และ ยังสามารถติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเติมได้

ตู้เสื้อผ้า Built in เป็นแบบบานเปิด 3 บาน ขนาดใหญ่ใส่เสื้อผ้าได้มากอยู่ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 October 2017

  • 1 Bedroom 22.12 – 22.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive 28.98 – 29.01 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 31.30 – 34.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อโศก
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 0 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ 


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ H2 Glo ตอบโจทย์กลุ่มคนที่มองหาที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินของตัวเองในย่าน ทำเล รามอินทราตอนต้น ในราคาที่หยิบจับเป็นเจ้าของได้ง่าย เริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาท ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านรามอินทราตอนต้นซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์พอตัว ทั้ง Hyper Market ตลาด และห้างสรรพสินค้า และในอนาคตทำเลนี้จะมีการเจริญเติบโตอีก เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากวงเวียนหลักสี่ที่ในอนาคตอันใกล้จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นสายหลักตัดผ่านให้เข้าเมืองได้สะดวก และถัดไปก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่านถนนรามอินทราอีกด้วย ซึ่งต่อไปราคาที่อยู่อาศัยแถบนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแปรผันตามความเจริญที่มากขึ้น

การเดินทางโดยใช้รถยนต์จัดว่าสะดวก เน้นใช้ถนนรามอินทราเป็นหลัก และมีทางลัดหลายทางสามารถไปทะลุถนนเทพรักษ์ได้ หรือจะเข้าถนนพหลโยธินเข้า-ออกเมืองก็สะดวก รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์อีกด้วยค่ะ มีที่จอดรถมาให้ประมาณ 33 คันคิดเป็น 34.18% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41.77% ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช่รถ แม้ปัจจุบันยังไม่มีรถไฟฟ้าเข้าถึงทำเลนี้ แต่ก็มีระบบขนส่งอื่นๆ ที่สะดวกอยู่พอตัว ทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย และทำเลที่อยู่ห่างจากหน้าปากซอยเพียง 150 ม. ก็เดินออกไปเรียกแท็กซี่ รถเมล์ได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ในอนาคตทำเลนี้จะมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นด้วยรถไฟฟ้าที่ตัดผ่าน ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลาดปลาเค้า ห่างจากโครงการไปประมาณ 400-450 ม. (ตำแหน่งสถานีอยู่บริเวณแยกวัดลาดปลาเค้า ซึ่งระยะยังไม่แน่นอนเนื่องจากตัวสถานียังไม่ขึ้น)

การออกแบบ สำหรับตัวโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก มี 79 ยูนิต ความหนาแน่นต่ำ อยู่กันแบบเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน ซึ่งก็แลกมากับพื้นที่ส่วนกลางที่มีให้ไม่มากเท่าโครงการยูนิตเยอะ หรือ High Rise เช่นเดียวกัน ในเรื่องการออกแบบโครงการถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร มีการแก้ปัญหาเรื่องของวิวและความเป็นส่วนตัว มีการออกแบบโดยวาง Facilities หลักไว้ระหว่างอาคารเพื่อให้เกิดระยะห่างระหว่างอาคารที่มากขึ้นและมีความโปร่ง

สำหรับการออกแบบห้อง จากที่ดูจากห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องถือว่าจัดพื้นที่มาได้ค่อนข้างดีสำหรับภาพรวม อย่างห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.43 ตร.ม จะเป็นห้องหน้ากว้าง และอยู่มุมอาคารได้วิว 2 ทิศ ช่วยให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วยพื้นที่ช่องแสงที่มาก การจัดวางฟังก์ชันภายในถือว่าดี และเป็นสัดส่วน ยกเว้นส่วนครัวที่ค่อนข้างเล็ก และเป็นครัวเปิดไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักเท่าไหร่นัก ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 44.3 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้างเช่นกัน มีการจัดวางฟังก์ชันเป็นโซนที่ชัดเจนดี ส่วนข้อด้อยของแปลนนี้คือพื้นที่นั่งเล่นอยู่ด้านในไม่ได้วิวภายนอก มีพื้นที่ไม่มากนักเพราะส่วนนึงต้องทำเป็นพื้นที่ทางเดินไปยังห้องอื่นๆ แทน สำหรับห้องอเนกประสงค์ ที่ต้องการจัดเป็นห้องนอนเล็กนั้นดูไม่เหมาะสมกับการทำเป็นห้องนอนเล็ก เพราะมีช่องเปิดมากไป ไม่มีความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าใครซื้อเพื่อทำเป็นห้องอื่นๆ เช่นห้องทำงานก็ไม่มีปัญหาค่ะ

วัสดุที่ได้ของโครงการนี้ให้มาในรูปแบบ Fully Furnished เรียกว่าแพคกระเป๋าเข้าห้องได้เลยไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม มีพิเศษหน่อยคือ Digital Door Lock และ Bluetooth Sound System โดยรวมถือว่าให้เฟอร์นิเจอร์มามาตรฐานตามราคาไม่ได้ดีเกินหรือแย่เกิน พื้นห้องได้เป็นกระเบื้องยาง Vinyl ที่ทนความชื้นและรับแรงกระแทกได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต ส่วนลวดลายก็เป็นแบบสมัยใหม่หน่อยเป็นลายไม้และมีพื้นผิวขรุขระให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริงมากขึ้น ชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen และอุปกรณ์ใช้ของ American Standard อ่างล้างหน้าเป็นแบบไฟเบอร์สำเร็จรูปมีชั้นวางของด้านล่าง มีฉากกั้นอาบน้ำ

สาธารณูปโภคถือว่าให้มามาตรฐาน ได้ขนาดกะทัดรัดตามขนาดของโครงการ แต่มีครบครันทั้งสระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 ม. และห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายได้ 3 เครื่อง ทั้งหมดดูแลจัดการน่าใช้งานดี แต่ถ้ามาออกกำลังกายพร้อมๆ กัน 2 คนขึ้นไปจะต้องรอคิวค่ะ ทั้งสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสเลย ดังนั้นโครงการจะตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่อง Facilities ที่จัดเต็มขอให้มีให้ใช้บ้างในบางโอกาส

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 70,000 – 80,000 บาท/ตร.ม.,  24 October 2017

โดยรวมคะแนนจะใกล้เคียงกับเดิมแต่จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ H2 สี่โปรเจคแรก เพราะราคาขายแพงขึ้นค่ะ

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลอยู่ในย่านชานเมือง ถ้ามีรถไฟฟ้าจะ+ให้อีก 0.5
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 –  เดินทางสะดวกมีทางลัดทะลุไปสะพานใหม่, วัชรพล, สุขภิบาล 5 ได้
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – อยู่ห่างป้ายรถเมล์ 200 กว่าเมตรถ้ามีรถไฟฟ้าจะ+ให้อีก0.5เช่นกัน
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้มามาตรฐานมีเพิ่มเติมคือ Digital Door Lock และBluetooth Sound System
  • แบบ 7.5/10 – จัดวางผังได้ลงตัวดีทำให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า มีห้องแบบหน้ากว้างให้เลือก
  • สาธารณูปโภค 7/10 – ได้มาครบ มาตรฐานโครงการเล็ก
  • ECONOMY CLASS
  • 7.30 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ H2 Glo เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหรือตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ในย่านรามอินทรา อยากได้ห้องแบบเฟอร์นิเจอร์ครบไม่ต้องแต่งเพิ่ม ไม่เน้นทำครัวแบบจัดหนัก และชอบสไตล์ Modern เน้นการใช้ Facility ของโครงการไม่ชอบโครงการยูนิตเยอะ ไม่ค่อยใช้รถยนต์ส่วนตัว มีงบประมาณ 1.5 – 3.5 ล้าน มีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,o00 – 28,000 บาท