รีวิวฉบับที่ 1586 …  FELiC ลาดพร้าว-วังหิน 79 เป็นคอนโด Low Rise จาก STP ESTATE บริษัทฯน้องใหม่อสังหาที่ผันตัวมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานสาธารณูปโภค เลยได้เปรียบในการเลือกใช้วัสดุดีกว่าได้ในราคาถูก และมาจัดเต็มให้ในตัวโครงการ ในวันนี้โครงการสร้างเรียกว่าเกือบแล้วเสร็จ เลยจะพาไปชมของจริงว่าจะออกมาเป็นยังไง

Fact @ 11 May 2018

  • FELiC LADPRAO-WANGHIN 79 (เฟ-ลิค ลาดพร้าว-วังหิน 79)
  • บริษัท เอสทีพี เอสเตท จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอย ลาดพร้าว-วังหิน 79 เขต จตุจักร
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 185 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิตที่ชั้น 4-7
  • ที่จอดรถประมาณ 64 คัน คิดเป็น 33% ถ้าจอดซ้อนคัน คิดเพิ่มเป็น 36%
  • ที่ดินประมาณ 1-1-43.6 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q1 2560
  • ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ : พฤษภาคม 2561
  • 1 Bedroom 25 ตร.ม. ราคาปัจจุบันเริ่มต้น 1.59 ลบ.
  • 1+1 Bedroom 29 ตร.ม. ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 2.10 ลบ.
  • 2 Bedrooms 37.3 ตร.ม. ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 2.59 ลบ.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ(AVG) 67,000 บาท/ตร.ม. 
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02-541-7777

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :  13.823596, 100.587988

Felic_Project Map

แผนที่จากทางโครงการครับ โครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว-วังหิน 79 ซอยนี้จะมาเชื่อมกับซอยรัชดาภิเษก 36(หรือเสือใหญ่อุทิศ) นั่นเอง เลยทำให้การเดินทางสะดวก เส้นทางลัดเยอะ ใกล้ Community mall และ Street food ในซอยลาดพร้าว-วังหิน ใกล้ๆมีเทสโก้โลตัสในระยะที่เดินไปได้สบายๆ

Felic_แผนที่ภาพรวม

FELiC ลาดพร้าว-วังหิน 79 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว-วังหิน79 หรือซอยเดียวกับซอยรัชดาภิเษก36(เสือใหญ่) สามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ทาง แต่ตัวโครงการอยู่ค่อนมาทางถนนลาดพร้าว-วังหินมากกว่า ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าซอยมาหน่อยแต่ก็สามารถใช้เส้นทางออกไปเชื่อมกับถนนสายสำคัญๆได้หลายสาย ทั้งถนนลาดพร้าว รัชดาภิเษก เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เกษตรนวมินทร์ และ พหลโยธิน เนื่องจากย่านนี้เป็นแหล่งชุมชน มีคนอยู่เยอะจึงทำให้การจราจรภายในซอย เวลาเร่งด่วนติดตามไปด้วยโดยเฉพาะช่วงที่ใกล้กับทางออกไปถนนลาดพร้าว

แต่ภายในซอยก็มีเส้นทางลัดเอาไว้หนีรถติดโดยไม่ต้องวิ่งผ่านถนนใหญ่  จุดเด่นของทำเลนอกจากใช้เส้นทางได้หลากหลายแล้ว ถนนลาดพร้าว-วังหินและบริเวณใกล้เคียงยังจัดได้ว่าเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหาร Street food ร้านอร่อยๆที่เรียงรายกันตลอดทั้งสองฝั่งถนน มีให้เลือกทั้งร้านข้างทางไปยันร้านติดแอร์ บางร้านก็เปิด 24 ชั่วโมง ความสะดวกที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้คือหน้าปากซอยมี Tesco Lotus และใกล้กับ community mall อย่าง The Jas , Green Plaza ในระยะที่เดินถึง

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็จะต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ , รถสามล้อเล็กในซอยเพื่อออกไปหน้าปากซอย หรือ จะเรียกแท็กซี่จากหน้าโครงการเลยก็ได้ แม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในซอยแต่ก็เข้าซอยมาไม่ลึกมาก เป็นซอยลัด และ สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการก็เป็นแหล่งชุมชน ดังนั้นจึงมีรถผ่านเข้า-ออกตลอด ทำเลนี้อาจจะไม่ได้อิงการใช้รถไฟฟ้ามากเท่าไหร่นักแต่ก็สามารถเดินทางมาใช้ MRT ลาดพร้าว ที่บริเวณแยกรัชดา – ลาดพร้าวได้สะดวก โดยในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายบริเวณถนนพหลโยธิน และ สายสีเหลืองบนถนนลาดพร้าวอีกด้วย

Felic_แผนที่สถานที่

มาดูสถานที่สำคัญใกล้เคียงกันบ้างดีกว่า อย่างที่บอกไปว่ารอบๆโครงการเป็นทำเลที่มีครบทั้ง ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร Community mall ก็มี Tesco Lotus อยู่บริเวณหน้าปากซอยสามารถเดินออกมาจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก และมี The Jas , Green Plaza ที่อยู่ใกล้โครงการในระยะเดินถึงซึ่งถือว่าสะดวกเลยทีเดียว ถัดมาเป็น Plaza Lagoon ถ้าอยากหาของแห้งของสดเอาไปประกอบอาหารก็มี ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ตลาดสะพาน 2  ตลาดโชคชัย 4 และ ตลาดบางเขน

ศูนย์การค้าใกล้ๆมีอยู่หลายห้างเหมือนกัน ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว , ยูเนี่ยน มอลล์ ถัดมาหน่อยคือ เมเจอร์รัชโยธิน หรือถ้าออกไปทางเส้นประเสริฐมนูกิจก็มี The Walk , นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทราก็จะมี Central Festival East Ville ศูนย์การค้า Open-Air ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน และยังมีศูนย์การค้าต่างๆในย่านรัชดาภิเษกมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช้อปปิ้งอีกด้วย

Felic_ร้านอาหาร

สำหรับร้านอาหารใครที่อยู่ทำเลนี้รับรองว่าไม่มีวันอดตาย เรียกว่าจะน้ำหนักขึ้นแน่นอน เนื่องจากมีร้านอาหาร Street food อร่อยๆเรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนตั้งแต่ถนนโชคชัย 4 เข้ามาจนถึงที่ตั้งโครงการ โดยร้านมีตั้งแต่รถเข็นแร่ขายข้างทาง ร้านตึกแถว  ยันร้านติดแอร์ บางร้านก็เปิด 24 ชั่วโมง ร้านเด็ดประเภทอาหารจัดหนักใกล้ๆกับโครงการก็มี เฝอ54 , ซ้งเป็ดพะโล้เป็นต้น และก็มีร้านจำพวกนั่งชิลๆเช่น ร้านสามวันสองคืน  นอกจากนั้นยังมีร้านเบเกอรี่น่ารักๆเช่น ร้าน La vento และ Treat Cafe อีกด้วย ซึ่งเราก็พยายามทำแผนที่รวมร้านอร่อยๆเอาไว้เผื่อคนที่กำลังจะมาอยู่แถวนี้จะได้ไปลองชิมกัน โดยรวบรวมจากที่เคยไปกินหรือเคยขับผ่านใครมีร้านอะไรเพิ่มเติมก็แชร์กันได้นะ

Felic_เส้นทาง

การเข้าถึงโครงการ สามารถเข้าถึงได้หลายเส้นทางยกตัวอย่างเส้นที่สำคัญๆดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 : เข้าจากทางถนนลาดพร้าวโดยสามารถเข้าจากทางซอยลาดพร้าว 41 (ซอยภาวนา) หรือ จากถนนโชคชัย 4 ก็ได้ จากนั้นตรงเข้ามาเข้าถนนลาดพร้าววังหิน ตรงมาจนถึงซอยลาดพร้าว-วังหิน79 เข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 2 : เข้าจากทางถนนรัชดาภิเษก โดยสามารถเข้าจากทางซอย รัชดาภิเษก 32 หรือ ซอยรัชดาภิเษก 36 ก็ได้ มาเข้าซอยลาดพร้าว-วังหิน79 เข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 3 : เข้าจากทางถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าถนนเสนานิคม 1 ตรงเข้ามาเลี้ยวเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เข้าซอยลาดพร้าว-วังหิน79 เข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 4 : เข้าจากทางถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) ตรงผ่านถนนลาดปลาเค้า ผ่านแยกวังหิน ตรงมาเข้าถนนลาดพร้าววังหินเข้าซอย 79 เข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 5 : เข้าจากทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือ เลียบทางด่วนรามอินทรา เลี้ยวเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ มาเข้าถนนโชคชัย 4 และ ถนนลาดพร้าววังหิน เข้าสู่โครงการที่ซอยลาดพร้าว-วังหิน79


ส่วนถ้าใครอยากชมภาพ การเดินทางด้วยรถยนต์มาโครงการ สามารถไปอ่านในรีวิวเจาะลึกฉบับตอนโครงการพึ่งเปิดตัวนะครับ “คลิกที่นี่” ในนั้นทำไว้ละเอียดแล้ว ในครั้งนี้จะเน้นที่ภายในโครงการ ตัวอาคารและส่วนกลางที่สร้างเสร็จแล้ว

Felic_สภาพแวดล้อม2**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

โครงการ FELiC ลาดพร้าว-วังหิน 79 ตั้งอยู่ในบนที่ดิน 1-1-43.6 ไร่ ในซอยลาดพร้าว-วังหิน79 ห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 395 เมตร หน้าปากซอยจะมี Tesco Lotusอยู่ พอเข้าซอยมาจะต้องข้ามคลองลาดพร้าว พอลงสะพานมาเดินอีกหน่อยก็จะถึงโครงการ จากถนนซอยจะมีการตัดถนนภาระจำยอมเข้าไปใช้ร่วมกับคอนโดมีเนียมด้านข้าง ซึ่งมีทางเข้า-ออกแยกกัน โดยมีสภาพแวดล้อมแต่ละด้านดังนี้

  • ทิศเหนือ – หน้าโครงการเป็นถนนภาระจำยอมที่ออกไปเชื่อมกับถนนซอยลาดพร้าว-วังหิน79 ถัดไปเป็นสถานตรวจสภาพรถเป็นอาคารชั้นเดียว ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้า และ S Design Trading
  • ทิศตะวันออก – ติดกับคอนโดสูง 8 ชั้น
  • ทิศใต้ – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่าผืนใหญ่


เจาะลึกตัวโครงการ

G Plan

ผังโครงการชั้น 1 จากถนนซอยลาดพร้าว-วังหิน 79 เข้ามาจะเป็นถนนภาระจำยอมที่ตัดเข้ามาใช้เป็นทางเข้า-ออกของโครงการ ทางเข้าโครงการจะแบ่งเป็นทางเข้าที่จอดรถซึ่งจะเข้ามาจอดใต้อาคาร จอดได้ประมาณ 64 คัน คิดเป็น 33% (รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 36%) จากที่จอดรถจะมีทางเดินมาเข้า Hall ได้ ส่วนถ้าใครไม่ได้ใช้รถก็สามารถเดินมาเข้าอาคารได้เลย พอเข้ามาจะเจอกับ Hall ห้องนิติบุคคล และ ห้องจดหมาย ก่อนจะใช้คีย์การ์ดผ่านเข้า Lift Hall เพื่อขึ้นไปยังชั้นบน ลิฟต์เป็นลิฟต์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อคชั้น ไม่มีลิฟต์ Service อัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการเท่ากับ 92 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่ายังอยู่ในระดับมาตรฐาน

Update 24 July 2018 เนื่องจากวันที่เข้าไปรีวิวฝนตกหนักทำให้ภาพหลายๆส่วนของตัวอาคารดูเปียกฝนไปหน่อย ทางทีมงานเลยขอนำภาพจากโครงการมาให้ดูบางส่วนก่อนเข้าสู่ช่วงรีวิวนะครับ 

Image 1/13
Felicลาดพร้าว-วังหิน01_resize

Felicลาดพร้าว-วังหิน01_resize

 

มาเริ่มกันที่บริเวณถนนด้านหน้าโครงการกันเลยนะครับ ซ.ลาดพร้าววังหิน 79 มองไปฝั่งนี้ทางเข้าจะอยู่ติดกับ ศูนย์ตรวจสภาพรถ เป็นอาคารชั้นเดียวหลังคาสูง เลยไปหน่อยจะเป็นคลองลาดพร้าว ถ้าข้ามไปก็จะเป็นซูเปอร์มาร์เกตใหญ่อย่าง Tesco Lotus ซึ่งเราสามารถเดินไปได้ครับ

มองไปอีกฝั่ง อย่างที่บอกตอนแรกว่า ซ.ลาดพร้าววังหิน 79 นั้นสามารถตรงไปเชื่อมกับซ.รัชดาภิเษก 36 (หรือเสือใหญ่อุทิศ) ในซอยนั้นมีม.จันทรเกษมอยู่ด้วย อีกทั้งยังมีการอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมาก ถ้าเราเลยทางเข้าตรงนี้ไปนอดหน่อยจะเจอทั้ง 7-Eleven, BigC Mini และ Lawson ถึงสามแห่งเลย

ในส่วนของทางเข้าออกสามารถสวนทางกันได้ตรงนี้ เขตที่ดินโครงการที่ดินจะยกสูงกว่าถนนประมาณ 30 ซม. มีการปลูกพุ่มไม้เอาไว้บังสายตาจากพื้นที่ข้างๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว

ที่ผนังทางซ้ายมือมีการกรุตกแต่งด้วยหิน และมีชื่อโลโก้โครงการอยู่ แน่นอนของที่ผมพามาดูคือ Felic แต่ด้านในสุดเป็นโครงการพี่ชายก่อนหน้าที่ชื่อว่า Family Life และใช้ทางเข้าออกร่วมกันเป็นทางภารจำยอมครับ

พอเจอทางบังคับเลี้ยวซ้ายมาส่วนพื้นที่กลางแจ้งจะยังเป็นถนนของโครงการ ซึ่งจะมีส่วนของการจอดรถทางซ้ายมือเป็นแบบกลางแจ้ง และทางขวามือเป็นเลี้ยวเข้าไปยังใต้อาคาร เพื่อจอดรถได้อีกเช่นกันครับ

พื้นที่จอดรถกลางแจ้ง มีการตีเส้นจอดเอาไว้เป็นระเบียบ ทั้งด้านหลังเป็นกำแพงโครงการที่อยู่ติดกับศูนย์ตรวจสภาพรถ โครงการเลยลงแนวพุ่มไม้สลับกับต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ดูสวยงาม

ถัดมาหน่อย จะเจอกับประตูส่วนทางเข้าโซนที่พักอาศัยทางขวามือ และที่ผมตีเส้นปะสีเหลืองคือสุดเขตโครงการ Felic นะครับ

อย่างที่บอกไปถนนทางเดินรถเป็นของเจ้าของโครงการซึ่งจดเป็นภารจำยอมให้กับโครงการพี่ชายก่อนหน้า ที่อยู่ถัดเข้าไปด้านในก็คือ Family Life นั่นเองครับ มีการแยกระบบรักษาความปลอดภัยกั้นส่วนอีกชั้นเอาไว้

หน้าตาตัวอาคารโครงการ Family Life พี่ชายของ Falic ที่เกิดก่อน ดูเรียบร้อยเป็นสไตล์โมเดิร์นเหมือนกัน แต่เดี๋ยวมาดูของ Felic กันดีกว่ารูปถัดไป

จะเห็นว่าตัวอาคารหน้าตาภายนอกมีการเล่นกับดีไซน์มากกว่าชัดเลย เป็นสไตล์ Modern Mininal ดูเรียบ ทันสมัย ตกแต่งด้วยโทนสีขาว แนวคิดการออกแบบคือ A Co-living space ที่โครงการจัด Facilities มาให้อย่างครบครัน

การดีไซน์ Facade ของอาคารจะเน้นรูปทรงที่เรียบๆ มีการเล่นเส้นเฉียงของผนัง ให้อาคารมีมิติมากขึ้นและสามารถใช้กันแดดได้บ้าง จากภาพจะเห็นว่าในห้องพักจะได้หน้าต่างบานใหญ่แบบเต็มแผงซึ่งจะทำให้ภายในห้องดูโปร่งขึ้นด้วย ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปดูด้านในกันว่ามีอะไรบ้าง ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8, Facilities อยู่ที่ชั้น 2 และชั้นดาดฟ้า

เอาล่ะ เราไปดูส่วนของการจอดรถภายใต้ตัวอาคารชั้น 1 กันก่อน การเดินรถยังเป็นแบบ 2 เวย์ ที่มีลูกศรบอกเอาไว้ชัดเจนนะครับ โดยส่วนนี้มีการจำกัดความสูงอยู่ที่ 2.10 เมตร

*ต้องขออภัยที่เห็นมีน้ำนองอยู่ที่พื้นเล็กน้อยนะครับ เนื่องจากวันที่ผมเข้าไปทำรีวิว ฝนตกหนักตลอดเลย จนผมรอให้ฝนหยุดตกปุ๊กก็เลยมาถ่ายรูปปั๊ป เลยมีสภาพเป็นแบบนี้ (T_T)  /  ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย ตรงนี้จะถูกกั้นด้วยรั้วไม้กั้นกระดกทั้งสองฝั่ง โดยจะใช้ระบบการเปิดปิดเป็น RFID หรือเรียกง่ายๆว่าแบบทางด่วน Easypass นั่นเองครับ ไม่ต้องเอื้อมมือออกไปนอกรถให้ยุ่งยาก

ทางขวามือส่วนนี้กั้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับที่จอดรถจักรยานยนต์

ส่วนพอเข้ามาพ้นรั้วไม้กั้นกระดกแล้ว ลักษณะการเดินรถผมใส่ลูกศรเอาไว้ให้ง่ายต่การเข้าใจ คือเป็นแบบวันเวย์เดินรถทางเดียว แล้วกลับออกมาทางเดิมจ้า

ตรงใต้อาคาร เราจะเห็นส่วนของห้องบันไดหนีไฟ และห้องปั๊มน้ำ งานระบบสระว่ายน้ำอยู่ด้วย เพราะสระว่ายน้ำอยู่ชั้นสอง

ในส่วนของจอดรถ ก็แบ่งเป็นช่องเรียบร้อย มีตัวหมอนรองล้อ เป็นระยะทางกระแทกกับกำแพงโครงการ ซึ่งรั้วโครงการจะเป็นแบบ คอนกรีตทึบทาสีของ สูงประมาณ 2.50 เมตรครับ อีกทั้งมีการลงพุ่มไม้สีเขียวขนานไปกับตัวรั้วด้วย เพื่อเพิ่มสีเขียวทางสายตา

วนมาครบหนึ่งรอบแล้วครับ ถ้าตรงไปก็ไปออกทางรั้วไม้กั้นกระดกทางเดิม ก็ยังเป็นระบบ Easypass เหมือนกัน

ทีนี้ผมหันไปทางขวา เราจะเห็นได้ง่ายต่อความเข้าใจเลยว่า ลักษณะรูปทรงของอาคารเป็นรูปตัว U และมีการโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางหลักของสระว่ายน้ำ อยู่ที่ชั้น 2 นั่นเอง เดี๋ยวเราขึ้นไปดูกัน

กลับออกมาถนนทางเดินรถด้านหน้า ตรงส่วนนี้จะเป็นประตูเข้าสู่ในตัวอาคาร และพักอาศัย

พอเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่รับรองเล็กๆ อนาคตจะมีเอาโซฟา ชุดโต๊ะมาลงเพิ่มให้ เพื่อ Visitor มาติดต่อชั่วคราวก็นั่งรอที่บริเวณนี้ครับ

โมเดลของโครงการ ที่ปัจจุบันถูกย้ายมาไว้ตรงนี้ชั่วคราว เพื่อให้ผู้สนใจโครงการได้เห็นภาพรวมง่ายๆ

ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ของโซนตู้จดหมาย ซึ่งก็จัดไฟส่องสว่างมาได้เพียงพอ และเพิ่มส่วนของพัดลมดูดอากาศมาให้ เพื่อช่วยให้มีการเดินลมที่ดีขึ้น

มองไปยังฝั่งตรงข้าม เราจะเห็นประตูทางขวามือ ซึ่งตรงนี้สามารถเดินเข้ามาจากที่จอดรถฝั่งใต้อาคารได้นะครับ (แต่! ต้องใช้ Keycard Access ในการเข้าออกด้วย) และทางซ้ายมือเป็นส่วนของนิติฯ

ทีนี้ก่อนจะเข้าส่วนของโถงลิฟต์ จะมีประตูกั้นอีกชั้นนึงเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน เพราะโถงแรก อาจจมีคนนอกมาติดต่อกับส่วนนิติฯครับ โดยประตูส่วนนี้ก็ต้องใช้ Keycard Access ในการเข้าออกด้วยเช่นกัน

เข้ามาด้านในโถงลิฟต์แล้ว ทางขวาจะมีการเจาะผนังกระจก เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้ ไม่ดูทึบอึดอัดจนเกินไป และที่นี่ให้ลิฟต์โดยสารมา 2 ตัว โดยอัตราส่วนจะอยู่ที่ 92:1 ถือว่ากำลังดีครับ (ไม่เกิน 100 ให้เป็นเรทมาตรฐานที่รับได้รอไม่นาน)

หน้าตาภายในส่วนของลิฟต์โดยสาร ที่นี่ใช้ของ KONE ที่โดยสารได้ถึง 13 คน และรับน้ำหนักได้ 1 ตัน ที่สำคัญคือมีการเพิ่มฟังก์ชันสำหรับผู้ใช้รถเข็นที่นั่งกดปุ่มได้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีทั้ง สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส , Game room , Co-working space , Lobby  และจะเริ่มมีห้องพักที่ชั้นนี้ด้วย โดยโซนของส่วนกลางจะอยู่แยกออกจากส่วนห้องพัก ถ้าใครจะเข้าห้องก็ต้องใช้คีย์การ์ดผ่านประตูไปอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้พอสมควร คนที่อยู่ชั้นนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางแต่อาจจะคึกคักหน่อยตรงที่จะมีลูกบ้านลงมาที่ชั้นนี้เยอะหน่อย  แต่ทางโครงการก็มี ระบบ Key Card Access Control ลูกบ้านชั้นอื่นไม่สามารถเข้าไปในเขตพื้นที่อาศัยในชั้น 2 ได้

ห้องพักมีทั้งหมด 4 แบบ แบบที่มีเยอะที่สุดคือห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 24 -26 ตารางเมตร วางอยู่คละกันไป ห้องแบบ 1+1 ขนาด 29 ตารางเมตรจะวางอยู่บริเวณมุมของอาคาร  ห้อง 2 ห้องนอน 37 ตารางเมตรวางอยู่มุมฝั่งใกล้ๆกับห้องฟิตเนส ส่วนทิศตะวันตกจะไม่มีห้องไหนหันหน้าเอาระเบียงออกมาทางฝั่งนี้

โดยถ้าเราออกมาจากโถงลิฟต์หันไปทางซ้ายมือจะเห็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด โดยเราจะเดินขึ้นบันไดไปก่อน

พื้นที่บริเวณปัจจุบันที่เราเห็นยังเป็นส่วนของ Sale Office ชั่วคราวนะครับ เมื่อโครงการขายหมดแล้วจะเคลียร์พื้นที่ออกและแต่งเป็น Lobby สำหรับลูกบ้านตามดั้งเดิมที่วางเอาไว้ แต่เราก็จะเห็นลูกเล่นการตกแต่งที่ผนังด้านหลังที่เป็นช่องสี่เหลี่ยมไม่เท่ากัน อีกทั้งยังเป็นแบบเพดานสูงอีกด้วย

มีบางส่วนลงโซฟา รับรองเอาไว้แล้ว อนาคตถ้าใครมีเพื่อนมาหา แต่ห้องเราไม่พร้อมก็สามารถมานัดพูดคุยกันที่ Main Lobby นี่แหละครับ

นั่งจากโซฟา ผนังส่วนนี้เป็นกระจกทั้งหมด มองออกไปด้านนอกเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ ดูสวยงาม อีกทั้งตรงนี้วันไหนอากาศดีๆก็สามารถเปิดบานเลื่อนออก ไม่ต้องเปิดแอร์ และยังให้ลมวิ่งผ่านเข้ามาได้ด้วยครับ

ออกมายังพื้นที่ด้านนอก ไปดูทางขวามือกันก่อน

จะมีส่วนของห้องน้ำที่แยกชายหญิงเอาไว้ให้ ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก เข้าไปดูด้านในกัน

มีให้ใช้อย่างละห้อง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องซาวน่า ไม่ค่อยเห็นคอนโด Low Rise เอาซาวน่ามาใส่กันให้บ่อยๆเท่าไรนะ

ภายในห้องซาวน่า ก็จะไม่ได้ใหญ่มากนะครับ น่าจะนั่งได้มากสุดก็ 3 คนเต็มที่แล้ว สำหรับใครชอบมาเอาเหงื่อออกละก็ ฟินนนนนนน

ออกมาจากห้องน้ำ ให้เลี้ยวขวา จะเจอทางเดินเล็กตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องลายหิน เป็นทางเข้าสู่ห้องออกกำลังกาย

ที่นี่เค้าตั้งชื่อห้องนี้ว่า The Gym แหละ หรือ ห้องฟิตเนสนั่นเอง จะถูกวางเครื่องออกกำลังกายนับได้ทั้งหมดได้ประมาณ 11 ชิ้น(รวมบาร์ดัมเบล) ซึ่งถือว่าให้มาเยอะทีเดียว

ส่วนของเครื่องเล่นโซนคาร์ดิโอ จะถูกเอาไว้ชิดผนังช่องแสง มองออกไปจะเห็นวิวสระขอบน้ำล้นโซนสระว่ายน้ำครับ

ห้องนี้จะมีกระสอบทรายสำหรับต่อยมวยมาให้ด้วยซึ่งกำลังเป็นกีฬาที่ฮิตกัน ติดทีวีไว้ให้ 1 ตัว พร้อมมีตู้ล็อกเกอร์มาให้ด้วย 12 ช่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องหอบข้าวของมาแล้วต้องเฝ้าตลอด

ออกมาแล้ว เดินขึ้นบันไดมา ตามทางเดิน ส่วนของสระว่ายน้ำอยู่ทางขวามือ

The Pool with Jacuzzi ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 13.9 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีแต่สระผู้ใหญ่ไม่มีสระเด็ก เค้าจัดการตกแต่งรอบๆสระได้ดูสวยงามดีเดียว  จริงแล้ว ข้างๆสระยังมี Pool Deck สำหรับนอนอาบแดดอยู่ 3 ตัว คือใครจะมานอนเล่นเฉยๆอาบแดดก็ได้ตอนเย็นๆ การจัด Facility ของเค้าเรียกว่านอกจากสระที่อยู่ตรงใจกลางและยังขนาบด้วยห้องออกกำลังกายและ Co-working space มาโอบล้อม

ส่วนของบันไดทางเดินลงอยู่ตรงนี้ ต้นสระเลยพร้อมมือราวจับสแตนเลส

ที่ช่วงปลายๆสระ จะมีการเว้าพื้นที่ ทำเป็นโซนนั่งเอนหลัง พร้อมสปาจากุชชี่นวดหลัง 3 จุด

ส่วนของปลายสระลงพื้นที่สีเขียวกันสายตาเอาไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัวจากนอกโครงการ พร้อมกระจกนิรภัยเซฟตี้

 

เราจะเห็นจากข้างสระฝั่งขวาเป็นประตูทางเข้าสู่ Co-working space ซึ่งจัดเป็นกระจกบานเลื่อนทั้งหมดเพื่อ อีกทั้งยังให้เป็นแบบเพดานสูง

The Thought คือชื่อเล่นของเขตพื้นที่ Co-working space บริเวณนี้ สำหรับใช้นั่งทำงาน ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดกัน การจัดของจริงออกมาเรียกว่าทำได้เหมือนกันภาพ Perspective ในตอนยังไม่สร้างเป๊ะๆเลยครับ ขอชมเลย

พื้นที่โต๊ะทำงานยาวส่วนแรก ก็จัดไว้แบบนั่งสบายๆ โต๊ะตัวใหญ่แต่แบบ 4 ที่นั่ง วันไหนเราเบื่อบรรยากาศห้อง ก็หอบ Notebook มาทำงานส่วนนี้ เหมาะกับฟรีแลนซ์มาก

พื้นที่โต๊ะทำงานยาวส่วนที่ 2 ครับ ด้านหลังเป็นกระจกช่องแสงยาวต่อเนื่อง ทำให้แสงส่องผ่านมาได้ทั่วบริเวณห้อง และยังดูปลอดโปร่งสบายตา มองออกไปวิวสระ

ส่วนที่ชิดผนังตรงนี้จริงๆมันเป็นมุมของโต๊ะทำงานนะครับ เค้ายังไม่ได้จัดตำแหน่งเก้าอี้มาเข้าพื้นที่ จะเห็นว่าติดตั้งช่องปลั๊กไฟเอาไว้ให้เบ็ดเสร็จแล้ว เรียกว่ามีมุมพื้นที่ส่วนตัวหลากหลายไม่ต้องแย่งกัน

ปิดท้ายส่วนของห้อง The Thought (Co-working space) เป็นมุมสวยๆมองย้อนกลับไปทางที่เดินมาครับ

แต่ยังไม่จบ ในห้องจะเห็นประตูกระจก เป็นทางเข้าไปส่วนถัดไป ด้านในมี…

ถัดไปด้านในสุดจะเป็นห้องของ The Play Lab หรือ ห้อง Game room จะมีโต๊ะบอลวางไว้ให้ลงมาเล่นกัน แถมยังเป็น 2in1 เป็นห้องประชุมได้ด้วย

โต๊ะเกมบอลแบบคลาสสิค ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม เหมาะกับกิจกรรมเพื่อนฝูงเฮฮาได้อย่างดี 555

มุมกลางห้องจัดเป็นโต๊ะประชุมแบบ 8 ที่นั่ง พร้อมที่วีเผื่อมาเสียบแสดงผล ประชุมลูกบ้าน อื่นๆ ฯลฯ

กลับมายังด้านหน้าโถงลิฟต์อีกครั้ง คราวนี้เราจะเลี้ยวขวาครับ ซึ่งประตูที่เห็นกั้นในส่วนของพื้นที่พักอาศัย โดยจะผ่านต้องใช้ Keycard นะครับผม

Corridor หรือโถงทางเดินกว้าง 1.50 เมตร เราจะเห็นว่าเก็บงานดูเรียบร้อยดี เน้นทั้งพื้นและผนังสีขาว ยิ่งบวกกับไฟดาวน์ไลท์ มาข่วยเสริมในส่วนที่ไม่ได้ใกล้หน้าต่างช่องแสง อาจจะต้องเปิดบางส่วนในเวลากลางวันบ้างครับ แถมมีติด CCTV ที่ตามโถงทางเดินแต่ละชั้นไว้ด้วย

ชั้น 3 ผังคล้ายๆกับชั้น 2 ครับ เพราะมีส่วนที่เป็น Double Space ของพื้นที่ส่วนกลาง จะมีห้องที่ตำแหน่งตรงกับห้องฟิตเนสเพิ่มเข้ามาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน จำนวนห้องพักต่อชั้นเท่ากับ 24 ยูนิต

ชั้น 4-8 จะมีห้องเพิ่มเข้ามาในส่วนที่ตรงกับ  Game room , Co-working space และ  Lobby  ทำให้มีความหนาแน่นต่อชั้นเพิ่มขึ้นเท่ากับ 29 ยูนิต ตำแหน่งโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางๆอาคารค่อนมาทางทิศเหนือ ทำให้ห้องที่อยู่ฝั่งทิศใต้เดินมาโถงลิฟต์ไกลกว่านิดนึง

felic_Roof floor plan

ส่วนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สวน อยู่ด้านบนอาคารทางฝั่งทิศใต้ ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์ผ่านแล้วจะต้องขึ้นมาจากบันไดหนีไฟที่ชั้น 8

การจะขึ้นไปที่ส่วนของสวนดาดฟ้า จะต้องมาผ่านบันไดหนีไฟที่ชั้น 8 ซึ่งชั้น 8 มีบันไดหนีไฟตั้ง 3 จุด เราต้องมาใช้ในส่วนฝั่งทิศใต้นะครับ(ย้อนขึ้นไปดูแปลนข้างบนรูปนึงนะ)

ขึ้นมาชั้นดาดฟ้าแล้ว จะเป็นส่วนของพื้นที่สีเขียว(ตรงประตูมี CCTV ด้วยนะ)

จะบอกว่าสวนดาดฟ้าก็มีชื่อเล่นเรียกอีกนะ เรียกว่าตั้งชื่อเล่นให้ทุกส่วนของส่วนกลางเลย ฮ่าๆ ชื่อส่วนนี้คือ Day&Night Garden อยู่บนชั้นดาดฟ้า จัดพื้นที่ใช้ออกมาใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในตอนกลางคืนจะมีการจัด Lighting ให้บรรยากาศไม่มืดออกมานั่งเล่นได้

ทางเดินจะปูทั้งคอนกรีตก่อสลับกับหญ้าเทียม ด้านข้างสองฝั่งอัดพื้นที่สีเขียวและเป็นเสมือนพื้นที่เซฟตี้ความปลอดภัย

ที่สุดปลายทางเดินจะเป็นส่วนของ Deck ระแนงไม้ ที่ยื่นออกไปเล็กน้อย (แต่มีกระจกนิรภัยกั้นเอาไว้ให้นะ)

พอมายื่นตรงนี้ก็เหมือนปรับอารมณ์ พื้นที่โล่ง จากสวนสีเขียว ถึงแม้ว่าจะเป็นคอนโด Low Rise แต่มีพื้นที่กลางแจ้งที่เป็นส่วนตัวแบบนี้ให้ผมว่าโอเคเลยล่ะ

ก้มมองลงไปนิดหน่อยจะเห็นส่วนของสระว่ายน้ำตรงใจกลาง The Court ที่ชั้น 2 คร้าบ (อย่าก้มไปเยอะนะ แอบเสียวๆอยู่)

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby High Ceiling (ที่ชั้น 2)
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ เป็นสระผู้ใหญ่ ขนาด 5 x 13.9 เมตร ลึก 1.2 เมตร (ที่ชั้น 2)
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง พร้อมห้อง Sauna (ที่ชั้น 2)
  • Co – working Space (ที่ชั้น 2)
  • Game Room (ที่ชั้น 2)
  • สวนหย่อมรอบโครงการ และ สวนชั้นดาดฟ้า
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 92 :  1
  • Service Lift – ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 64 คัน คิดเป็น 33% ถ้าจอดซ้อนคัน คิดเพิ่มเป็น 36%
  • แยกที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ในร่มให้
  • Wi-Fi บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ทางโครงการมีให้ชมแบบเดียวคือ 1 ห้องนอน 25 ตารางเมตร จาก Concept โครงการที่อยากให้ใช้ชีวิตแบบครบครัน จึงให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully-Furnished ทั้งชุดครัว เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ และ Digital Door Lock โดยแต่ละห้องต้องเช็ครายการที่จะได้กับทางโครงการกันอีกที

ห้อง 1 ห้องนอน 25 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอกับส่วนของครัวก่อนเป็นครัวเปิด เหมาะกับทำอาหารหรือเตรียมอาหารเบาๆ ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และ โต๊ะทานข้าว ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น วางโซฟาได้ประมาณ 2 ที่นั่ง กั้นพื้นที่ระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ระเบียงค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่สำหรับวาง condensing unit ของแอร์ หันเป่าลมร้อนออกนอกอาคารและมีทำฉากบังตามาให้ อีกฝั่งเป็นห้องนอนวางเตียงได้ขนาด 5 ฟุต หน้าห้องน้ำวางตู้เสื้อผ้าได้ตลอดทั้งแนว ห้องน้ำห้องนี้อยู่ในห้องนอน เข้าห้องมาก็จะเจอประตูทางเข้าห้องน้ำเลย ถ้ามีแขกก็อาจจะต้องเดินเข้ามาใช้ในห้องนอนอาจเสียความเป็นส่วนตัวหน่อย ภายในห้องน้ำมีแยกส่วนแห้งกับส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำ เราไปดูห้องตัวอย่างกัน

เริ่มจากด้านหน้าห้อง ประตูทางเข้าห้องเป็นบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต มีติดตั้ง Digital Door Lock มาให้(ได้ของ COLT) เป็นแบบที่ใช้ได้ทั้งคีย์การ์ดและตั้งรหัส

พอเข้าห้องมาทางฝั่งขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ฝั่งซ้ายเป็นโต๊ะทานข้าวแบบวางชิดมุมห้อง ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนและห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง  ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร ไฟจะได้ตามนี้เลยเป็นหลอด LED ยกเว้นไฟตกแต่ง Track Light / พื้นภายในห้องเป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้หนา 3 mm. ซึ่งจะไม่กลัวน้ำมากเหมือนกับลามิเนตครับ

มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า เพื่อให้เห็นพื้นที่ฟังก์ชันทั้งสองฝั่ง (แอบเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างมีการติดสต็อปเปอร์กันกระแทกของประตูที่พื้นมาให้ด้วย)

เรามาดูส่วนครัวกันก่อน ด้านบนผนังติดชุดตู้มาให้หน้าบานเป็นลามิเนตผิวเรียบๆสีเทาอ่อน

ลองเปิดให้ดูทุกบานสามารถเก็บของใช้ได้พอประมาณ ที่สำคัญคือได้ Fitting เป็น Soft Closed กันกระทกทั้งหมด

ครัวจะได้แบบนี้เลยยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ขนาดเคาน์เตอร์ยาวประมาณ  1.40 เมตร+Soft Close  Topเป็นหินแกรนิตสีดำ วัสดุปิดผิวเป็นเมลามีน ผนังกระเบื้องกันเปื้อนด้านหลังเราก็ได้ / อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว ของ Hafele / Hob&Hood ได้เป็นของ HAFELE จ้า(ตอนแรกเป็น Teka นะเค้าอัพขึ้นมาหน่อย)

ด้านล่างเป็นชุดตู้อีก 1 ชุด พร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าในห้อง แบบไซส์ 7 kg. ทำให้ได้ใช้พื้นที่ระเบียงเต็มที่

ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนของพื้นที่วางตู้เย็น แต่เราจะได้ชุดเฟอร์ ที่เห็นทั้งหมด พร้อมชั้นแขวนผนัง (ที่วางเตาไมโครเวฟอยู่ตรงนี้ อาจจะมีปัญหากับคุณผู้หญิงหน่อย มันสูงงงงงง)

ส่วนของโต๊ะที่ดูเหมือนจะจัดเป็นโต๊ะทำงาน แต่มันสามารถ 2in1 กับการใช้เป้นโต๊ะทานอาหารได้ด้วยนะครับ 2 ที่นั่ง

ลองเลื่อนลิ้นชักเปิดออกมา เห็นไหมว่าทางขวามีถาดเก็บช้อนส้อมไว้ให้เสร็จสรรพแล้ว

ถัดมาเป็นส่วนห้องนั่งเล่นรับแขกอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียงสามารถนั่งดูวิวหรือเปิดประตูรับลมได้ ระยะดูทีวีประมาณ 2.50 เมตร เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องเราจะได้แบบนี้เลยยกเว้นของตกแต่ง

โซฟาได้แบบ 2 ที่นั่ง เหลือพื้นที่เล็กน้อย สำหรับโคมไฟ เอาไว้ช่วยส่องสว่างเผื่อจะอ่านหนังสือเวลากลางคืน

ชุดเฟอร์ฯโต๊ะกลาง รวมไปถึงชั้นวางทีวีที่เห็นก็ได้เช่นกันนะครับ และชั้นใต้ทีวีมีพื้นที่สำหรับเก็นรองเท้า(แบบใส่กล่อง)ได้นิดหน่อย

ชั้นวางทีวีได้ทั้งตู้ล่างและตู้แขวนด้านบน ดีไซน์ของตู้แขวนด้านบนสวยทันสมัยดี ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบบานอะลูมิเนียมสีดำ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.60 x 2.85 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.สีเทา มีติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับซักล้างมาให้ Condensing unit ของแอร์ หันเป่าลมร้อนออกนอกห้องพร้อมมีระแนงกั้นบังสายตาให้ด้วย

ประตูส่วนทางเข้าห้องนอนจะอยู่กลางห้องแบบนี้ครับ มุมนี้จะเห็นตำแหน่งแอร์ของห้องโถงอยู่เหนือประตู

เข้ามาแล้วหันไปทางซ้ายก่อน จะเห็นเตียงนอนจะอยู่ด้านใน พื้นห้องนอนก็ยังคงเป็นกระเบื้องยางต่อเนื่องมาจากห้องนั่งเล่น จะเห็นว่าได้หน้าต่างช่องแสงไซส์ที่กว้างทีเดียว

ก้มลงให้เห็นส่วนของทางเดินชัดๆ เราสามารถเดินรอบเตียงได้ไม่ติดขัดนะครับ ทั้งสามฝั่งเลย

ในส่วนของผนังปลายเตียง เค้าก้ติดปลั๊กกับเคเบิ้ลทีวีเอาไว้ให้ คือถ้าใครชอบนอนดูทีวีก็หามาแขวนได้เลย

ให้ดูระยะสองฝั่งซ้ายขวาครับ เหลือฝั่งละประมาณ 50 ซม.กว่า

หน้าต่างช่องแสง เป็นรูปแบบบานเลื่อนตอนบน สามารถเลื่อนเปิดออกในวันที่อากาศดีๆรับลมได้กว้างพอสมควร

จากมุมนี้เราจะเห็นประตูขวาสุด(มาจากห้องโถง) เข้ามาในห้องนอนทางฝั่งขวาจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ หน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า ที่โครงการทำมาให้เสร็จสรรพ

ลองเปิดให้เห็นการแบ่งช่องต่างๆในตู้เสื้อผ้า มีไฟในตู้เวลาเราเปิดใช้งานด้วย ด้านหลังบานกระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้งก็สามารถเปิดออกมาเก็บของในการแต่งหน้าแต่งองค์ทรงเครื่อง

ในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. ผนังด้านหลังได้เป็นกระจกเต็มแผงแบบนี้เลย ที่ฝ้าเพดานด้านบนโถสุขภัณฑ์มีติดตั้งพัดลมดูดอากาศของ Panasonic มาให้ ความสูงของฝ้าเพดานในห้องน้ำจะต่ำกว่าห้องอื่นเพื่อเดินงานระบบ

อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ด้านข้างมีก่อเคาน์เตอร์มา มีพื้นที่สามารถวางของใช้เล็กๆน้อยๆได้  Top Counter กรุแกรนิตดำไปถึงส่วนหลังโถสุขภัณฑ์(American Standard เช่นกัน) ที่วางทิชชู่ติดตั้งอยู่ที่ผนังด้านข้าง / พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างหน่อย และตรงพื้นมียกธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 10 cm. เพื่อกันน้ำไหลมาโดนส่วนแห้ง (พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1 m.)

มีติดตั้งชุดฝักบัวมาให้(สามารถปรับรูปแบบของน้ำได้) และ ผนังด้านข้างมีทำเป็นชั้นเอาไว้สำหรับวางของ (เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้ให้ครับ)

ห้องตัวอย่างอีกห้องจะเป็นขนาดใหญ่สุดในโครงการนี้ 2 Bedroom ขนาด 37.30 ตร.ม. ห้องนี้ตรงกลางเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่ทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นซึ่งติดกับระเบียง เข้ามาจะรู้สึกว่าค่อนข้างโปร่งเพราะเป็นห้องหน้ากว้าง ครัวสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น ได้เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว L (ประตูห้องครัวเราต้องกั้นเองนะ) ห้องน้ำมีอยู่ห้องเดียวอยู่ฝั่งหน้าห้องสามารถใช้งานได้ทั้งจากในห้องนอนใหญ่และข้างนอก ห้องนอนมี 2 ห้อง ห้องนอนเล็กอยู่ทางฝั่งซ้ายวางเตียงได้แบบ 3.5 ฟุต ส่วนห้องนอนใหญ่อยู่ทางด้านขวาวางเตียงได้แบบ Queen Size และหน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

เปิดเข้ามาจะได้อารมณ์แบบดูโปร่งโล่ง เพราะเป็นห้องแบบหน้ากว้างนั่นเองครับ ตรงใจกลางเป็น Living Area ขวามือเป็นห้องนอนใหญ่ และซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็กครับ

มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง เราจะเห็นว่าขวามือเราจะติดกับห้องน้ำ ที่ถูกห้องมาใช้ร่วมกัน (แต่มีประตูพิเศษอีกฝั่งเข้าจากทางห้องนอนใหญ่ได้ด้วย)

พื้นที่นั่งเล่นหลักใจกลางห้อง ก็จะจัดคล้ายๆกับห้องที่แล้ว แต่มีระยะดูทีวีที่กว้างกว่าอีกนิดหน่อย

โซฟาให้มาแบบ 2 ที่นั่ง แต่ถ้าใครชอบนอนดูทีวี ก็มีทางเลือกว่าขายตัวนี้ไปเลยครับ แล้วหาซื้อเป็นแบบรูปทรงตัว L มาวางก็ได้ เพราะว่ามีพื้นที่ให้วางได้และไม่อึดอัดด้วย

มุมชั้นวางทีวี โต๊ะกลาง ชั้นแขวนผนัง ได้เหมือนกับห้องแรก พร้อมกับติดกันด้านนอกเป็นส่วนของระเบียง

ซึ่งระเบียงก็จะคล้ายๆกัน แต่ห้อง Type นี้จะได้แอร์ 3 ตัวครับ ระเบียงนี้ใครมีไอเดียดีๆมันจะเป็นมุมนึงที่น่ารัก น่าออกมาสูดอากาศใช้งานดีนะครับ

ติดกับมุมชั้นวางทีวีเราจะเห็นประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่และห้องน้ำ

ภายในห้องนอน โอ้ มันเหมือนกับห้องนอนก่อนหน้าที่พาไปดูเลย เป๊ะๆ

มุมระยะทางเดินรอบเตียงทั้งสามฝั่ง

ทางขวามือเราจะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำในตัว

นี่ครับ ส่วนของห้องน้ำ ที่เจาะประตูทางเข้าไว้สองฝั่งแบบนี้ ทำให้ห้องนอนใหญ่ดูดีกว่าห้องนอนเล็ก เวลาจะใช้งานไม่ต้องเดินตัดผ่านห้องโถงก่อนขั้นนึง

ในส่วนของห้องน้ำ ทั้งฟังก์ชัน การจัดวางชุดทุกๆอย่างจะเหมือนกับห้องแรกเลย ไม่อธิบายซ้ำแล้วละกันครับผม

พอออกมาจากห้องน้ำ มองมาตรงๆเลย จะเห็นส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร กับครัวเปิดอยู่ถัดไป และประตูทางเข้าห้องนอนเล็กอยู่ตรงข้ามครัว

หน้าตาชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 3 ที่นั่งแบบนี้ที่โครงการให้มาด้วยนะครับ

ส่วนของครัวห้องนี้จะได้กว้างกว่าหน่อย โดยจะเป็น Pantry รูปตัว L และทำชั้นวางเข้ามุมทุกอย่างดูเป็นสัดส่วนทั้งหมด

โดยการใช้งานชุดครัวจะต่อเนื่องง่ายกว่า และมีพื้นที่เตรียมอาหารมากกว่าครับ (ผนังด้านข้างก็ยังกรุกระเบื้องมาให้ เอาไว้ส่วนกันเปื้อนเวลาประกอบอาหารและเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย)

ส่วนประตูทางเข้าห้องนอนเล็กจะอยู่ตรงข้ามครัวพอดี ทำให้ผมรู้สึกว่าถ้าใครจะกั้นพื้นที่เป็นครัวปิดเพิ่มเองจริงๆ(คือคนกั้นนี่กะทำอาหารหนักจริงจังแน่นอนแล้วล่ะ) ทำห้องนอนนี้อาจได้รับกลิ่นมารบกวน คงต้องซีลขอบประตูให้มิดชิดเพิ่มมากกว่าเดิม (คนอยู่ห้องนี้หาของกินตำแหน่งสบายเลยนะ 55)

เข้ามาด้านในแล้ว เนื่องจากขนาดห้องจะกระทัดรัดหน่อย การวางเตียงที่เหมาะก็คงเป็นไซส์ 3.5 ฟุต

พอเราเลือกที่วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วจะทำให้เหลือพื้นที่ทางเดินรอบๆเตียงได้ทุกฝั่ง รวมถึงมีพื้นที่ในการแต่งตัวได้สบายหน่อย

ฝั่งมุมหัวเตียงซ้ายมือสุดจัดชุดตู้เสื้อผ้ามาให้ และหัวเตียงด้านนึงยังพอวางโต๊ะหัวเตียง วางโคมไฟ มือถือได้ครับ **ที่สำคัญโครงการมีการติดตั้งชุดเสียบ USB ไว้ข้างหัวเตียงในห้องนอนให้ทุกห้องด้วย คือแบบกะให้ชาร์จมือถือกันตรงนี้เลยสินะะ 😀

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ห้องแบบ 1 ห้องนอน อีกแบบ หรือ Type B 25 – 26 ตารางเมตร การจัดพื้นที่ใช้สอยจะคล้ายๆกับห้องตัวอย่างที่เราพาไปชมกัน แต่จะต่างตรงหัวเตียงทางฝั่งขวาจะมีพื้นที่กว้างกว่าสามารถวางโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะทำงานได้ด้วย

อีก Type คือ 1+1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอกับส่วนของครัวก่อนเป็นครัวเปิดเช่นกัน มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ 2 ที่นั่ง ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถกั้นเพิ่มเป็นอีกห้องหนึ่งได้ แต่เราต้องกั้นเองนะครับ ทางโครงการไม่ได้กั้นมาให้ หรือถ้าไม่กั้นก็ปรับพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นกว้างๆแล้วจัดมุมโต๊ะทำงานเพิ่มก็ได้  ห้องน้ำจะอยู่หน้าห้องนอนซึ่งเวลาใช้งานต้องเดินผ่านห้องครัว ห้องนอนห้องนี้จะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียง ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า

**สำหรับห้องพักของโครงการนี้สามารถทำเป็นห้อง Combine ได้แต่รายละเอียดต้องสอบถามทางโครงการอีกทีนะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 May 2018

  • 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 2B18 เนื้อที่ 26.38 ตร.ม. ราคา 1.595 ล้านบาท หรือ 60,462 บาท/ตร.ม.
  • 1+1 Bedroom ชั้น 4 ห้อง 4C07 เนื้อที่ 29.45 ตร.ม. ราคา 2.105 ล้านบาท หรือ 71,507 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 6D09 เนื้อที่ 37.27 ตร.ม. ราคา 2.572 ล้านบาท หรือ 69,028 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 15,000 – 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและสภาพแวดล้อม FELiC ลาดพร้าว-วังหิน 79 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว-วังหิน 79 โดยซอยนี้เป็นซอยเดียวกับซอยรัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่) แต่ตัวโครงการอยู่ค่อนมาทางฝั่งลาดพร้าว-วังหินมากกว่า จุดเด่นของทำเลจึงเป็นในเรื่องของการใช้เส้นทางลัดเลาะได้หลายสายทั้งจากในซอยเองที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง และสามารถใช้เส้นทางได้ออกถนนสายสำคัญๆได้หลายสายทั้งถนนลาดพร้าว รัชดาภิเษก เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เกษตรนวมินทร์ และ พหลโยธิน แต่รถจะติดหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน โครงการนี้ถ้าเทียบกับโครงการอื่นบนถนนลาดพร้าว-วังหินจะเป็นโครงการที่ต้องเข้าซอยย่อย แต่ดีตรงที่เป็นซอยที่สามารถเดินไป Community mall และห้างค้าส่งในซอยได้สะดวก

โดยบริเวณหน้าปากซอยนี้มี Tesco Lotus อยู่ ฝั่งตรงข้ามมีร้าน KFC ถัดไปเป็น Community mall อย่าง The Jas และ Green Plaza ค่อนข้างสะดวกในการออกมาหาอะไรทาน ถนนเส้นนี้ยังขึ้นชื่อขึ้นเรื่องร้านอาหาร Street food ที่เรียงรายกันตลอดทั้งสองฝั่งถนน ส่วนในเรื่องของราคาจะไปใกล้เคียงกับโครงการที่อยู่ทางฝั่งรัชดาภิเษก32 และ 36 มากกว่า โครงการทางฝั่งลาดพร้าว-วังหินจะสูงกว่าหน่อย ในโครงการนี้จึงจัด Facilities และ เฟอร์นิเจอร์มาให้ค่อนข้างเยอะซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเด่นไปชนกับทั้ง 2 ทำเลได้ ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็สามารถไปเรียกรถได้สะดวกเนื่องจากในซอยเป็นซอยลัด มีรถวิ่งผ่านตลอด สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ทีสุดตอนนี้คือ MRT ลาดพร้าว

ความอุดมสมบูรณ์ สำหรับแหล่งซื้อของกินของใช้ ก็จะมี ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ตลาดสะพาน 2  ตลาดโชคชัย 4 และ ตลาดบางเขน  ศูนย์การค้าใกล้ๆมีอยู่หลายห้างเหมือนกัน ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว , ยูเนี่ยน มอลล์ ถัดมาหน่อยคือ เมเจอร์รัชโยธิน หรือถ้าออกไปทางเส้นประเสริฐมนูกิจก็มี The Walk , นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทราก็จะมี Central Festival East Ville ส่วยสภาพแวดล้อมโครงการส่วนใหญ่ในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่า จากถนนซอยจะมีการตัดถนนภาระจำยอมเข้าไปใช้ร่วมกับอพาร์ทเม้นท์ด้านข้างแต่แยกทางเข้า-ออกกัน

วัสดุ ให้มาตามมาตรฐาน ชุดครัว Top หินแกรนิตสีดำ Hob&Hood จาก HAFELE  Sink จาก  Hafele Digital Door Lock  พื้นกระเบื้องยางลายไม้ กระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องเซรามิค ประตูลามิเนตลายไม้ แต่ที่ดูดีและให้มาค่อนข้างเยอะคือเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully – Furnished ให้เกือบจะทุกชิ้นในห้องตัวอย่าง ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและของตกแต่ง ทุกอย่างดีไซน์เข้าชุดกัน เหมาะกับคนที่อยากหิ้วกระเป๋ามาอยู่ได้เลยโดยซื้อของแต่งเพิ่มแค่นิดหน่อย

การออกแบบ ตัวอาคารเป็นสไตล์ Modern mininal ดูค่อนข้างเรียบ ตกแต่งด้วยโทนสีขาว แนวคิดการออกแบบของเค้าคือ A Co-living space  การดีไซน์ Facade ของอาคารจะเน้นรูปทรงที่เรียบๆ มีการยื่นของผนังทำให้ตัวอาคารมีมิติมากขึ้นและสามารถใช้กันแดดได้บ้าง จากภาพจะเห็นว่าในห้องพักจะได้หน้าต่างบานใหญ่แบบเต็มแผงซึ่งจะทำให้ภายในห้องดูโปร่งขึ้นด้วย การจัดผังดีตรงที่ไม่จัดให้มีห้องใดเลยหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศที่ร้อน ทิศนี้จึงเป็นตำแหน่งของโถงบันไดแทน การจัดพื้นที่ใช้สอยในห้องพักลงตัวพอสมควร มีห้อง 1+1 ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากได้ 2 ห้องนอนในห้องที่จำกัด และสามารถ Combine ห้องได้

สาธารณูปโภค  จากแนวคิดในการออกแบบว่าให้สามารถใช้ชีวิตได้ครบทุกองศา โครงการจึงจัด Facilities มาให้ค่อนข้างเยอะและสามารถตอบรับได้กับทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 Facilities ส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้น 2 คือมี สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส , Game room , Co-working space , Lobby และมีอีกจุดหนึ่งคือสวนดาดฟ้า

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา(เฉลี่ยแล้วทั้งโครงการ) 67,000 บาท/ตร.ม., 11 May 2018

  • ทำเล 7.5/10 – เป็นแหล่งชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีเส้นทางลัด แต่ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – อยู่ในซอย แต่สะดวกเข้าออกได้หลายทาง ลัดเลาะออกถนนหลักได้หลายเส้น
  • ไม่ใช้รถ 6.5/10 – อยู่ในซอย ไม่ใช่ทำเลรถไฟฟ้า ต้องออกไปที่ถนนลาดพร้าววังหินมีให้เรียกใช้เยอะ
  • วัสดุ 8.75/10 – ตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางดีเมื่อเทียบกับราคา ให้เฟอร์ฯครบ เข้าชุดกัน ดีไซน์สวย
  • แบบ 8/10 – ดีไซน์อาคารดี ออกแบบห้องได้ค่อนข้างดี มีให้เลือกหลากหลาย มีห้องหน้ากว้าง
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีมาให้ครบครัน น่าใช้งาน และเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต

  • ECONOMY CLASS
  • 7.72 / 10.00

BOTTOM LINE

FELiC ลาดพร้าว-วังหิน 79 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านลาดพร้าววังหิน – รัชดาฯ เดินทางสะดวก มีเส้นทางลัดเลาะหลายทาง มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินของใช้ง่าย ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง อยากได้ห้องที่เฟอร์นิเจอร์ครบเข้าอยู่ได้เลย มีงบประมาณ 1.59 – 2.8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000-19,600 บาท/เดือน