รีวิวฉบับที่ 624… วันนี้ทีมงานจะพามาดูโครงการอีกโครงการของพฤกษาค่ะ ซึ่งมีชื่อว่า พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม ที่นี่เป็นหนึ่งใน 3 โครงการ Pruksa Ville ซีรี่ส์ Neo Zen ที่ทางพฤกษาพึ่งเปิดตัวออกมาค่ะ โดยนอกจากที่สายไหมนี้ จะมีที่ศรีสมานและที่วงแหวนบางนา อีก 2 ที่ โดยจะเป็นแบบบ้านรุ่นใหม่ ที่เป็นแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น ซึ่งปกติแบรนด์ Pruksa Ville จะมีแต่ทาวน์โฮม 2 ชั้นมาโดยตลอด มีการออกแบบภายนอกสไตล์ Modern Zen และมีการวางฟังก์ชั่นภายในบ้านใหม่ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นจากเดิม รายละเอียดของตัวบ้านและตัวโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ไปชมกันค่ะ
Fact @ 10 July 2014
- Pruksa Ville 64 Sai Mai (พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : สายไหม
- เนื้อที่โครงการ 48-1-50.9 ไร่
- ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น 396 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น Mono Zen 1 พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ( 170 ยูนิต )
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น Mono Zen 2 พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ( 122 ยูนิต )
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น Neo Zen พื้นที่ใช้สอย 176 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ( 104 ยูนิต )
- ที่ดินแปลง เริ่มต้น 17.5 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท หรือ 125,657 บาทต่อตารางวา
- ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นตารางวาละ 85,000 บาท
- http://www.pruksaville.com
- โทร 1739
ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้นะคะ 😀
New ! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
พิกัด : 13.921222,100.665608
แผนที่กราฟฟิกจากโครงการค่ะ
โครงการ พฤกษา วิลล์ 64 NEO ZEN สายไหม ตั้งอยู่บน ถนนสายไหม ค่ะ หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อถนนเส้นนี้แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ขออธิบายนิดนึงละกัน ถนนสายไหมเป็นถนนที่เชื่อมมาจากถนนพหลโยธินค่ะ โดยเข้าได้จาก 2 ทาง คือ จาก ถนนจันทรุเบกษา ข้างโรงเรียนนายเรืออากาศ กับ ซอยพหลโยธิน 54/1 ซึ่งจะมาโผล่ที่ปลายทางเดียวกันคือที่ถนนสายไหมนั่นเอง ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ มีทางเข้าอยู่ก่อนถึง Big C สายไหมเลยค่ะ
ลักษณะของถนนสายไหม เป็นถนนใหญ่กว้าง 4 เลนก็จริง แต่ด้วยทำเลแล้วก็ยังถือเป็นถนนเส้นรองอยู่ค่ะ ถ้าเทียบกับถนนข้างเคียงอย่าง ถนนพหลโยธิน หรือ ถนนลำลูกกา ที่เป็นถนนใหญ่เส้นหลัก จะยังถือว่ามีความเจริญ อุดมสมบูรณ์น้อยกว่า ถ้าเทียบกันแล้วจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยมากกว่า ในขณะที่พหลโยธิน/ลำลูกกา จะเหมาะสมกว่าในการทำการค้าหรือทำออฟฟิศสำนักงาน
ทางเข้าหลักของถนนสายไหม คือมาจากทางถนนพหลโยธิน เป็นถนนที่หลายๆคนคงจะรู้จักกันดีว่า เป็นเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมีทั้ง Big C, ตลาดยิ่งเจริญ (ตลาดสะพานใหม่), มีร้านค้า, ธนาคาร, และสำนักงานต่างๆมากมาย รวมถึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญอีกด้วย ลักษณะเช่นนี้ทำให้เป็นศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพตอนเหนือ และเป็นแหล่งพึ่งพิงของคนในย่านนี้ แต่ถนนพหลโยธินเป็นถนนที่ตัดผ่านถนนใหญ่ๆสำคัญๆหลายเส้น ไล่ลงไปตั้งแต่ รามอินทรา (แจ้งวัฒนะ), งามวงศ์วาน (เกษตร-นวมินทร์), รัชดา, ลาดพร้าว, ไปจนถึงอนุสาวรีย์ฯ ทำให้เป็นเส้นที่รถติดมากกกก ถึงมากที่สุด แม้ว่าจะอยู่ไกลออกมาจากตัวเมืองแล้วก็ตาม เพราะถนนที่กล่าวมาทุกเส้น ล้วนแล้วแต่เป็นเส้นที่รถติดทั้งนั้นเลย
ส่วนถนนพหลโยธินช่วงที่อยู่ใกล้ๆโครงการนี้ นับตั้งแต่แยกโรงเรียนนายเรืออากาศไปจนถึงวงเวียนหลักสี่นี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งของทหารอากาศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของฐานทัพ และหน่วยงานของกองทัพอากาศตลอดสองด้าน รวมถึงสนามบินดอนเมืองด้วย เมื่อเข้ามาสายไหมจะเหมือนเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบุคลากรในกองทัพอากาศ เพราะใกล้ที่ทำงานและสะดวกต่อการเดินทาง เส้นนี้มีร้านค้า ตลาด โรงเรียน และหมู่บ้านต่าง ๆ
ส่วนถนนอีกเส้นที่สำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือถนนลำลูกกา ซึ่งวางตัวขนานอยู่กับถนนสายไหม เป็นถนนอีกเส้นที่ค่อนข้างเจริญอุดมสมบูรณ์เช่นกัน เพราะมีทางขึ้น-ลง ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก มาเชื่อมกับถนนเส้นนี้ แถวๆลำลูกกาคลองหก ตัวถนนลำลูกกาจะเป็นถนนกว้าง 6 เลน ไป-กลับ มีเกาะกลางคั่น จัดว่าเป็นถนนเส้นใหญ่ทีเดียว
ถนนลำลูกกา กับถนนสายไหมนี้มีระยะห่างกันนิดเดียว แค่ประมาณ 1 กิโลเท่านั้นเอง แต่ว่ามีคลองหกวาคั่นอยู่ตรงกลาง ทำให้ถนนสองเส้นนี้ไปมาหาสู่กันไม่ง่ายอย่างที่ควรจะเป็น เพราะว่าต้องมีสะพานข้ามคลองเพื่อเชื่อมจากถนนสายไหมไปยังถนนลำลูกกา แล้วซอยไหนที่มีสะพานข้ามคลอง (เช่น ซอยเฉลิมพงษ์ ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโล) ก็จะกลายเป็นซอยที่ Popular ได้รับความเจริญไปโดยปริยาย เราสามารถวิ่งไปออกลำลูกกาเพื่อไปใช้ทางขึ้น-ลงวงแหวนได้ เพราะถนนสายไหมไม่มีทางขึ้นลงวงแหวนของตัวเอง ถึงแม้จะมีส่วนที่ตัดกับถนนวงแหวนก็ตาม (ด้วยเหตุนี้ทำให้ถนนลำลูกกาได้รับความนิยมมากกว่าถนนสายไหมด้วย ถึงแม้จะอยู่ห่างออกไปมากกว่า)
นอกจากถนนวงแหวนแล้ว ยังมี ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นทางด่วนที่เราสามารถวิ่งมาขึ้นได้ โดยทางขึ้นจะอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 สามารถใช้วิ่งเข้าเมืองได้ หรือจะวิ่งไปทางพระราม 9-บางนา ก็ได้เหมือนกัน
สำหรับการเดินทางไปโครงการในครั้งนี้ เดี๋ยวเราจะเริ่มจากถนนพหลโยธินฝั่งขาออกนะคะ จากแยกหลักสี่ มุ่งหน้าไปทางฐานทัพอากาศ แล้วเลี้ยวเข้าถนนจันทรุเบกษาตรงแยกโรงเรียนนายเรืออากาศ เพื่อเข้าไปยังถนนสายไหมค่ะ ไปดูเส้นทางคร่าวๆกัน
เส้นทางเริ่มจากถนนพหลโยธิน ตรงนี้จะลงทางลอดแยกรามอินทรา(หลักสี่)
ขึ้นมาถนนพหลโยธินช่วงนี้จะเป็นถนน 6 เลน เส้นนี้จะอุดมสมบูรณ์ค่ะเพราะมีสถานที่ทำงานของกองทัพตลอดเส้นทางนับจากแยกหลักสี่ สองข้างทางนอกจากจะมีโรงพยาบาลเช่นโรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล, โรงพยาบาลภูมิพล ก็จะมีร้านค้าตึกแถวต่างๆ และ Big C สาขาสะพานใหม่ และตลาดยิ่งเจริญ ทำให้เป็นแหล่งพึ่งพิงของคนในย่านนี้ได้ดี
ด้านซ้ายมือเราจะขับผ่านหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
ไปอีกหน่อยก็จะเป็นกองทัพอากาศ และโรงเรียนนายเรืออากาศค่ะ
ตรงแยกโรงเรียนนายเรืออากาศให้เลี้ยวขวาเข้าถนนจันทุเบกษา
ในถนนจันทุเบกษาก็จะมีกองสนามบินกรมช่างโยธาทหารอากาศตั้งอยู่ค่ะ หน่วยงานกองทัพอากาศเพียบบบบบบ
จากถนนจันทรุเบกษา ตรงมาจนถึงสามแยก จะมาชนกับ ซอยพหลโยธิน 54/1 ค่ะ ตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ
เลี้ยวซ้ายจากสามแยกเมื่อกี๊มาอีกนิดนึง ก็ให้มาเลี้ยวขวาที่สามแยกอีกจุดหนึ่ง เพื่อเข้าถนนสายไหม
เลี้ยวมาจะเป็นสะพานข้ามคลองและจะเห็นป้ายต้อนรับเข้าสู่เขตสายไหม แต่จริงๆแล้วพื้นที่ของเขตไม่ได้เริ่มตรงนี้นะคะ
เส้นนี้ถ้าเทียบกับลำลูกกาที่ขนานกันแล้วจะมีความคึกคักน้อยกว่า แต่ปัจจุบันเริ่มมีโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมใหม่ ๆ เข้ามาทำให้ความคึกคัก ร้านค้าเริ่มมีมาเรื่อย ๆ ค่ะ
สองข้างทางก็จะมีร้านอาหารและหมู่บ้านต่างๆ สลับกันไป และมีธนาคารต่าง ๆ ,ปั๊มน้ำมันให้บริการ
บนถนนสายไหมนี้จะมีโครงการเก่าของพฤกษา คือ พฤกษา วิลล์ พหลฯ-สายไหม อยู่ประมาณซอยสายไหม 31 ส่วนโครงการที่เรากำลังจะไปอยู่ประมาณซอย 47 ค่ะ
สองข้างทางก็ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ เรียกได้ว่าอยู่เส้นนี้หาของกินได้ไม่ยาก
เนื่องจากถนนสายไหมเป็นถนนที่ขนานกับลำลูกกา จึงมาทางลัดเข้าเส้นลำลูกกาได้หลายซอยอยู่ค่ะ อย่างซอยนี้จะเป็น ซอยสายไหม 39 อยู่ก่อนถึงโครงการ
ถึงแล้วค่ะกับโครงการพฤกษา วิลล์ สายไหม ป้ายโครงการค่ะ ทางเข้าก็จะอยู่ติดกับถนนเลย
ตรงข้ามโครงการจะเป็นหมู่บ้านหัสดินทร์ตั้งอยู่ จุดสังเกตเป็นอาคารพาณิชย์สีส้มๆ
เลยโครงการมาในระยะที่เดินได้จะเป็น Big C เล็ก ๆ ซึ่งด้านในจะมีร้านค้า
โครงการตั้งอยู่ใกล้ซอยสายไหม 47 รอบด้านมีโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมตั้งอยู่ค่ะ จะสังเกตว่า พื้นที่ดินของถนนเส้นนี้จะถูกแบ่งเป็นลักษณะหน้าแคบแต่ลึกไปจนถึงถนนเลียบคลองหกวา(ระยะประมาณ 950 ม.) ดังนั้น ตัวโครงการจะมีการวางผังที่ทำให้แต่ละซอยย่อยไม่ลึกนัก แต่ถนนหลักจะยาวไปถึงท้ายโครงการเลยค่ะ ตัวโครงการจะมี Club house อยู่ด้านหน้าติดกับประตูทางเข้าโครงการ ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกกับบ้านที่อยู่ด้านในๆนัก เพราะเวลาจะมาใช้งานต้องเดินทางไกลกว่าเพื่อนๆเค้า ลองนึกว่าต้องมาไกล ๆ ถ้าอยากเดินมาว่ายน้ำแค่เดินก็เหนื่อยแล้วค่ะ แต่ปั่นจักรยานมาก็สบาย ๆ ได้อารมณ์อีกแบบ
การเลือกตำแหน่งบ้านด้านในๆก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียซะทีเดียว สำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายแล้วตำแหน่งบ้านด้านในอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะปริมาณคนที่วิ่งผ่านหน้าบ้านเราจะน้อยลง ทำให้มลภาวาะทางเสียงหรือฝุ่นก็จะน้อยลงไปด้วย ยิ่งผังโครงการเป็นแนวยาวๆแบบนี้ด้วยหละก็ถ้าเราอยู่บ้านด้านหน้าๆก็เดินทางใกล้สะดวก แต่ต้องแลกกับปริมาณรถของลูกบ้านที่เหลืออีกประมาณ 300 กว่าคันต้องวิ่งผ่านหน้าบ้านเรา อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบเลยนะคะว่าจะเลือกเดินทางสะดวกหรือชอบความสงบ
ทางเข้าโครงการจะเป็น Double Gate แบบสั้นๆค่ะคือมีประตูรั้ว 2 ส่วนที่ติดๆกับเลย ส่วนแรกเป็นไม้กระดก ตรงนี้ลูกบ้านจะมี Access card ส่วนที่สองก็เป็นประตูเลื่อนตรงนี้ลูกบ้านสามารถใช้รีโมทในการเปิดประตูได้ค่ะ อย่างที่เห็นคือตัวหลังคาไม่ได้ครอบคลุมมาถึงที่แตะบัตรดังนั้นเวลาฝนตกก็เปียกๆหน่อยนะคะ
ทางเข้าสำหรับคนเดินก็จะอยู่ด้านข้างกันนั้น แต่ก็ต้องแลกบัตรผ่านนะคะ
เข้ามาด้ายซ้ายมือจะเป็นส่วนกลางซึ่งตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ค่ะ
เมื่อปิดโครงการส่วนอาคารนี้ก็จะเป็นส่วนของ Club house ไว้นั่งเล่นไม่ได้เป็น Fitness นะคะ
ข้างกันนั้นก็จะมีสระว่ายน้ำเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 14×5 ม.เป็นระบบเกลือ
ถนนภายในโครงการ ถนนหลักกว้าง 16 ม. ถนนซอยกว้าง 9 ม.ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 14×5 ม. สระ ระบบเกลือ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 14จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Key Card Access ระยะใกล้ สำหรับประตูไม้กระดก และรีโมทสำหรับประตูบานเลื่อน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก/ เลื่อนไฟฟ้า
แบบแรกที่จะพาไปดูคือ ทาวน์โฮม 2 ชั้น Mono Zen 2 พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ เป็นทาวน์โฮมหน้ากว้างโดยรวมแล้วประมาณ 5.7 ค่ะแต่จะแบ่งกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับที่จอดรถ ดังนั้นจึงทำให้จอดรถได้คันเดียว และทำให้แบบนี้จะมีพื้นที่สวนหน้าบ้านค่ะ ทางเข้าบ้านจะมีประตูเดียวคือประตูหน้า โดยตรงประตูทางเข้าจะมีส่วนของชั้น 2 ยื่นมาเล็กน้อยเวลาฝนตก เดินเข้าบ้านก็คงเปียกค่ะแต่เนื่องจากโครงการมีกันสาดให้ ตรงนี้ก็เลยมีทางแก้ สำหรับการวางฟังก์ชั่นต่าง ๆ ภายในบ้านเป็นบ้านที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กไม่เกิน 4 คน ห้องนั่งเล่นและทานอาหารสามารถรองรับได้ค่ะส่วนครัวถือว่าใหญ่ทีเดียวสำหรับทาวน์โฮมเพราะวางเคาน์เตอร์ตัว L ได้ แต่ต้องแลกกับพื้นที่ห้องน้ำที่เล็กหน่อย ทำให้ได้ส่วนอาบน้ที่แคบและเวลาอาบน้ำที น้ำก็จะกระจายเต็มห้องเลย
สำหรับชั้นบนเนื่องจากแบ่งเป็น 3 ห้องนอนโดยด้านหน้าเป็นส่วนของ Master Bedroom กว้าง 2.9 x5.7 ม.ทำให้ระยะปลายเตียงจะเยอะมากค่ะดังนั้นการแบ่งพื้นที่คือต้องมีชั้นวางทีวีไม่งั้นระยะในการนอนดูจากเตียงจะไม่ค่อยเหมาะสม แต่ถ้าวางชั้นวางกั้นตรงส่วนแต่งตัวก็ไม่มีปัญหาแล้วค่ะ สำหรับห้องนอนเล็ก ขนาดใกล้เคียงกัน ห้องพอเหมาะสำหรับเด็กและวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ห้องน้ำต้องใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้อง และตัวบ้านจะไม่มีระเบียงให้เดินออกไปได้มีแค่ราวระเบียงติดไว้เพื่อกันตกและความสวยงามเท่านั้น
หน้าตาทาวน์โฮมแบบ Mono Zen2 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น โทนสีเทา หน้าต่าง,ประตูและระเเนงอลูมิเนียมจะใช้สีดำให้ดูเข้ากับโทนสีของตัวบ้าน และตัวระเบียงก็อย่างที่เห็นเลยค่ะ คือมีราวระเบียงกันตกติดมาให้เพราะหน้าต่างตรงนั้นเค้าให้มาแบบเต็มความสูง ตัวบานเลื่อนจึงเป็นแบบประตูบานเลื่อนค่ะ
Mono Zen2 จะมีพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน โดยจะอยู่ข้างห้องนั่งเล่นตรงหน้าบ้าน ตัวบ้านสามารถเข้าได้ทางเดียวคือประตูหน้าบ้านที่จะผ่านห้องนั่งเล่นค่ะ ชั้นบนที่เห็นเป็นกระจกบานใหญ่จะเป็นห้อง Master Bedroom โดยทุกหลังจะทำหน้าต่างชั้นบนเป็นแบบเข้ามุม เพื่อให้ความรู้สึกกว้าง เปิดวิวด้านข้างได้รับอารมณ์เหมือนอยู่บ้านแปลงมุม
บ้านจริงที่ลูกบ้านจะได้ จะมีรั้วอลูมิเนียมสีดำบานเลื่อนให้แบบนี้ค่ะ ตรงรั้วก็มีรั้วเหล็กเพื่อให้บ้านไม่ดูแคบจนเกินไป โดยตรงส่วนหน้าบ้านที่เห็นว่าปูหญ้า บ้านจริงจะไม่ได้ปูหญ้าให้นะคะ แต่จะแถมกันสาดหน้าบ้านให้ทุกหลัง
ตรงที่จอดรถจะมีห้องเก็บของเล็ก ๆให้ค่ะ และจะเห็นหน้าต่างเล็ก ๆ เยื้องประตูห้องเก็บของจะเป็นหน้าต่างที่ให้แสงเข้าไปยังส่วนของบันไดในบ้าน
หน้าบ้านจะมีเฉลียงยกระดับจากพื้นดินขึ้นไปเล็กน้อยโดยมีความกว้าง 95 ซม. และมีโคมไฟหน้าบ้าน 1 ตำแหน่งค่ะ ประตูเป็นประตุกระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อน
มือจับประตูบ้านค่ะ ด้านในและด้านนอกจะแตกต่างกัน
พื้นบ้านก็จะยกระดับจากพื้นเฉลียงขึ้นอีกค่ะ จะช่วยกันฝุ่นและน้ำเข้าบ้านในระดับหนึ่ง พื้นตรงเฉลียงปูด้วยกระเบื้อง 30 x 30 ซม. ส่วนพื้นในบ้านปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
เข้ามาในบ้านส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนนั่งเล่นค่ะ ส่วนนี้จะกว้างประมาณ 3 เมตร
บ้านจริงไฟที่ได้เป็นโคมซาลาเปาค่ะ ผนังจะฉาบเรียบทาสีขาว พื้นด้านในของชั้น 1 จะปูด้วยแกรนิตโต้ต่อเนื่องไปจนถึงประตูหลังบ้าน ตัวฝ้าที่ Drop ลงมาจะเป็นส่วนของงานระบบ ในบ้านจริงก็มีเช่นกันค่ะ
ฝั่งด้านซ้าย จะเป็นมุมวางโซฟา ถ้าบ้านมุมก็จะได้หน้าต่างเหนือโซฟาเพิ่มทำให้บ้านโปร่งขึ้นค่ะ ส่วนบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างตรงนี้นะคะ โซฟาจะวางสำหรับ 3-4 ที่นั่งได้ ถ้าจะวางแบบตัว L ต้องดูเรื่องระยะอีกทีค่ะว่าความยาวเมื่อวางไปแล้วจะเหลือพื้นที่ได้เดินผ่านได้เท่าไหร่
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นมุมติดตั้งทีวี ทำชั้นกว้างประมาณ 40 – 50 ซม.ก็วางของวางทีวีได้สบาย ๆ แล้วค่ะ
หันกลับไปดูตรงส่วนนั่งเล่น จะเห็นระยะที่วางโต๊ะกลม เมื่อวางก็เหลือพื้นที่เดินผ่านได้สะดวกค่ะ
ส่วนด้านหลังของบ้านจะเป็นมุมทานอาหาร ครัว ห้องน้ำ และบันไดที่จะอยู่ทางขวามือติดกับที่วางทีวีค่ะ
มุมทานอาหารจะอยู่ติดกับส่วนหลังบ้านจึงอยู่ใกล้หน้าต่างกระจกหลังบ้านค่ะ สำหรับบ้านแปลงมุมก็จะได้หน้าต่างเพิ่มอีกหนึ่งมุม ด้านหลังที่ติดกับหน้าต่างสามารถทำเป็นชั้นและตู้เก็บของได้
โต๊ะสามารถวางสำหรับ 4-6 ที่นั่งได้ค่ะ
หันมาด้านข้างจะเป็นห้องครัวค่ะ พื้นที่ครัวถือว่ากว้างค่ะ สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L ได้เลย และยังสามารถกั้นห้องได้ค่ะ ซึ่งจะเหมาะสำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารแบบจริงจัง เวลาผัด หรือต้มแกง กลิ่นอาหารจะได้ไม่กระจายเต็มบ้าน
พื้นที่ครัวจริงที่จะได้จะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ แบบนี้นะคะ
ด้านที่ติดกับหลังบ้านจะมีหน้าต่างกระจกให้ค่ะ เพื่อให้ส่วนครัวไม่ทึบจนเกินไป และสามารถเปิดระบายอากาศได้
อีกด้านทำเคาน์เตอร์และเว้นพื้นที่ให้วางตู้เย็นได้ค่ะ
เคาน์เตอร์สามารถทำเป็นตัว L ขนาดนี้ได้เลย ซึ่งพื้นที่นี้ถ้าว่างอ่างล้างจานและเตาไปแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้อีกค่ะ ใครที่ชอบทำครัวก็ไม่ต้องห่วงว่าพื้นที่จะไม่พอหรือต้องต่อเติมเพิ่ม
ข้างกันนั้นจะเป็นห้องน้ำที่เอาทางเข้าหันมาฝั่งครัว ทำให้บรรยากาศในส่วนโต๊ะกินข้าวดูดีขึ้นช่วยให้ตำแหน่งโต๊ะทานอาหารไม่ตรงกับห้องน้ำเป๊ะๆ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.สีเทาเข้ม
ส่วนผนังจะเป็นกระเบื้องทูโทนสีน้ำตาลอ่อน
พื้นที่ภายในห้องน้ำ ห้องนี้จะมีส่วนอาบน้ำให้ด้วยค่ะ เพราะบ้านแบบนี้มีห้องน้ำ 2 ห้องคือชั้นละ 1 ห้อง จึงเตรียมส่วนอาบน้ำไว้เผื่อต้องใช้ค่ะ แต่พื้นที่ส่วนอาบน้ำไม่ใหญ่นักนะคะ กว่างเพียง 60 ซม.นิด ๆ ใกล้กับโถสุขภัณฑ์มาก เวลาอาบน้ำแน่นอนว่าเปียกมาถึงโถสุขภัณฑ์แน่นอนค่ะ และไม่มีการกั้นขอบดังนั้นน้ำจะกระจายเต็มห้องน้ำค่ะ
เข้ามาในห้องตรงกับประตูคืออ่างล้างหน้าของ Bathroom design ส่วนก็อกน้ำจะเป็นของ Cotto
โถสุขภัณพ์ของ Cotto ค่ะ
ฝักบัวของ Karat ค่ะ
ประตูบ้านเป็น HDF มือจับเป็นลูกบิด
พื้นหลังบ้านจะลดระดับลงไปเล็กน้อย
พื้นที่หลังบ้านค่ะ
หลังบ้านจริงจะได้แบบนี้ พื้นเทคอนกรีต ตรงนี้จะต่อท่อและมีปลั๊กไฟไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ
บันไดบ้านจะ ลูกนอนเป็นพื้นยางไม้ประสานโทนสีน้ำตาลอ่อน ตรงบันไดจะมีการเจาะช่องหน้าต่างกระจกเพื่อให้แสงเข้ามาไม่ให้บันไดทึบเกินไปค่ะ
ก้มมองลงไปดูบันได จะเห็นว่ามีขั้นที่เป็นมุมสามเหลี่ยมเวลาเดินขึ้นลงต้องระวังกันหน่อยนะคะ
ขึ้นมาด้านบนจะเป็นโถงเล็ก ๆ ด้านขวาคือ Master Bedroom ตรงกลางคือห้องน้ำที่จะใช้รวมกันทั้ง 3 ห้อง ด้านขวาคือห้องนอนเล็กที่มีขนาดเท่ากัน 2 ห้อง
ห้องน้ำประตุเป็น UPVC
พื้นจะลดระดับลงไปน้อยกว่าห้องน้ำชั้นล่าง เนื่องจากห้องนี้ส่วนอาบน้ำจะมี Shower box ให้เลยไม่ต้องกลัวว่าเวลาอาบน้ำแล้วน้ำจะล้นออกมานอกห้อง แต่เวลาล้างห้องน้ำก็ระวัง ๆ หน่อยแค่นั้นเองค่ะ
ภายในห้องน้ำ ห้องนี้กระเบื้องตรงผนังจะเป็นทุโทนเช่นเดียวกับชั้นล่างแต่จะเป็นสีน้ำตาลเข้มกว่า
ตรงกับประตูจะเป็นอ่างล้างหน้า มีพื้นที่ให้วางของได้ไม่มากนักค่ะ แต่ด้านล้างจะมีตู้เป็นช่องไว้ให้วางของ สามารถวางพวกแชมพูหรือของสำรองได้ตรงนี้
เข้ามาด้านขวาจะเป็นโถสุขภัณฑ์ค่ะ
Shower box กว้างประมาณ 90×90 ซม.ค่ะ ตรงนี้จะมีหน้าต่างกระจกเล็กๆไว้ระบายอากาศ ซึ่งมีเฉพาะสำหรับบ้านแปลงมุม แต่บ้านแปลงกลางจะไม่มีกระจกนะคะดังนั้นห้องจะทึบกว่านี้มาก
Master bedroom ค่ะ พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม.ต่อเนื่องมาจากโถงบันได
ภายในห้องจะดูสว่างเพราะมีประตูกระจกบานใหญ่ที่สูงไปจนถึงเพดานอยู่ค่ะ ทำให้ห้องสว่างมากทีเดียว
เตียงสามารถวางขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ ก็จะมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงเล็ก ๆ แต่ถ้าจะวาง 6 ฟุตก็ได้แต่พื้นที่ข้างเตียงก็จะน้อยลง
หัวเตียงจะเห็นว่าหน้าต่างที่เข้ามุมจะมาส่วนนี้เล็กน้อยค่ะ
หน้าต่างห้องจะเข้ามุมทำให้เปิดวิวด้านข้างบ้าน สำหรับบ้านแปลงกลางก็จะเข้ามุมแบบนี้ค่ะ ทำให้วิวห้องนี้เปิดกว้างขึ้นบรรยากาศแปลงกลางก็จะเหมือนแปลงมุมค่ะ
ห้องจริงที่ได้เป็นแบบนี้ค่ะ ประตูจะเปิดได้แต่ไม่มีระเบียงมีเพียงราวกันตกกั้นไว้ค่ะ เนื่องจากบ้านเปล่ากลับด้านกันทำให้มุมนี้ไม่เห็นกระจกเข้ามุม แต่จริงๆมีนะคะอยู่ที่กำแพงด้านซ้ายมือ
ด้านบนจะเว้นร่องไว้สำหรับใส่รางม่านให้ค่ะ
ปลายเตียงจะเป็นมุมแต่งตัว ตรงนี้ทำเป็น Walk in closet ได้ค่ะ ด้านขวาที่วางเก้าอี้ ถ้าใครเสื้อผ้าเยอะก็วางตุ้ตรงนี้ได้
มุมวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ข้างกันนั้นจะเห็นช่องหน้าต่างเล็ก ๆ
เปิดออกไปเป็นตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ มีระแนงอลูมิเนียมสีดำบังสายตาจากด้านนอกเพื่อความสวยงาม แต่ตรงนี้จะเซอร์วิสยากหน่อยเพราะต้องปีนจากช่องหน้าต่างนี้ออกไปและพื้นที่แคบมากค่ะ
ห้องจริงที่ได้สำหรับมุมแต่งตัวค่ะช่องเล็ก ๆ ทางขวามือคือที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์
คราวนี้ก็ไปดูห้องนอนเล็กกันค่ะ สำหรับสองห้องนี้ขนาดจะใกล้เคียงกันคือ ห้องกลาง(ห้องซ้ายมือ)กว้าง 2.90 x 3.0 ม. ส่วนห้องเล็ก(ห้องขวามือ)กว้าง 2.90 x 2.70
ห้องนอนกลางพื้นปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องมาจากโถงบันได
ภายในห้องเนื่องจากว้าง 2.90 x 3.0 ม.พื้นที่ภายในจึงสามารถวางฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ครบ ทั้งโต๊ะทำงาน ตุ้เสื้อผ้า สำหรับแปลงมุมก็จะส่วงหน่อยเพราะมีหน้าต่าง 2 บานคือข้างเตียงกับปลายเตียงค่ะ
ห้องจริงสำหรับบ้านแปลงกลางที่จะได้ค่ะ
เตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตได้ ซึ่งเป็นขนาดกำลังดีสำหรับเด็ก และพอดีกับห้องค่ะ คือถ้าเตียงใหญ่กว่านี้คงจะไม่เหลือพื้นที่สำหรับส่วนอื่น ๆ
ข้างเตียงเป็นกระจกบานเลื่อน
ข้างหัวเตียงจะวางตู้เก็บของแบบนี้หรือจะวางโต๊ะหัวเตียงเล็ก ๆ ก็ได้ค่ะ
อีกมุมสำหรับโต๊ะและตู้เสื้อผ้า
ปลายเตียงยังพอมีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางของได้ค่ะ
ระยะปลายเตียงกับชั้นวาง ถ้าจะทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ และใช้เตียงเป็นเก้าอี้ ตรงนี้จะประหยัดพื้นที่แต่ไม่ค่อยดีกับร่างกายนิดหน่อยเพราะเวลานั่งนาน ๆ จะปวดหลังได้เพราะไม่มีพนักพิง
ส่วนนี้คือห้องเล็กสุดค่ะ ห้องนี้ยาวน้อยกว่าห้องกลางประมาณ 20 ซม. โดยบ้านตัวอย่างทำห้องนี้เป็นห้องสำหรับ 2 คน เหมาะสำหรับเด็กวัยประถม 2 คนค่ะเพราะเตียงจะไม่ใหญ่มาก
ห้องจริงสำหรับบ้านแปลงกลางที่จะได้ค่ะ
เตียงจะขนาดไม่ใหญ่ แต่ทำให้มีลิ้นชักเก็บของใต้เตียงเพิ่มเพราะห้องนี้อยู่กัน 2 คน ก็ต้องหาที่เก็บของกันหน่อย
มุมนี้ก็ทำเป็นโต๊ะทำงานหรือชั้นวางของได้ค่ะ
อีกด้านเป็นตู้และเตียงชั้นบน ด้านล่างก็ทำให้เป็นตู้เก็บของเล็ก ๆ ได้อีก
คราวนี้เรามาดูบ้านแบบใหม่ที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นกันบ้างนะคะ Neo Zen พื้นที่ใช้สอย 176 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นกว่าแบบ 2 ชั้นเยอะทำให้สามารถจัดวางพื้นที่ใช้สอยทำได้อย่างลงตัวค่ะ คือมีครบและกว้าง ห้องนั่งเล่นก็รองรับครอบครัว 4-5 คนหรือมีแขกมาเพิ่มก็ไม่ลำบาก พื้นที่ครัวก็มีมาให้มาพอดีค่ะและสามารถกั้นผนังได้เพื่อเก็บกลิ่น หลังนี้จะได้พื้นที่เก็บของมากหน่อยเพราะมีบันได 2 ชุดก็จะได้ห้องเก็บของใต้บันไดทั้ง 2 จุดเลยค่ะ สำหรับชั้น 2 มีเพียง 1 ห้องนอนคือห้อง Master จึงมีพื้นที่เยอะค่ะและแบ่งส่วนด้านหลังเป็นห้องอเนกประสงค์ ตรงนี้เผื่อเอาไว้เป็น Family area หรือ ห้องทำงานก็สามารถกั้นได้ส่วนชั้น 3 แบ่งเป็น 2 ห้องนอนโดยห้องกลางขนาดใกล้เคียงกับห้อง Master สำหรับชั้นนี้มีห้องน้ำ 1 ห้องใช้ร่วมกันจึงมี 2 ประตูทางเข้าจากแต่ละห้องนอนค่ะ
หน้าตาบ้านแบบ Neo Zen จะโทนสีและการออกแบบเดียวกับทาวน์โฮม 2 ชั้นค่ะ คือให้สีเทาแลดำ มีกระจกบานใหญ่ตรงห้องนอน
สำหรับชั้น 2 ก็ทำเป็นหน้าต่างเข้ามุมให้เหมือนกันเพื่อเปิดรับวิวนอกบ้าน หลังนี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง 5.50 ม.
บ้านจริงจะได้แบบนี้ค่ะ รั้วจะเป็นอลูมิเนียมสีดำ กำแพงบ้านจะเป็นสีขาว
หน้าบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถค่ะ สำหรับแปลงกลางก็จะไม่มีพื้นที่สวนหน้าบ้าน เพราะจะกลายเป็นที่จอดสำหรับรถ 2 คัน โดยก่อนตรงประตูเข้าบ้านจะมีเฉลียงเล็ก ๆ สูงกว่าระดับพื้นจอดรถกว้างประมาณ 65 ซม.
พื้นบ้านจะสูงขึ้นอีกประมาณ 10 ซม.
ภานในบ้าน ส่วนนั่งเล่นจะกว้างประมาณ 3.80 ม.เนื่องจากมีบันไดอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
บ้านจริงที่จะได้ค่ะ หลังนี้บันไดอยู่ทางขวามือจะเห็นประตูห้องเก็บของเล็ก ๆใต้บันได
เนื่องจากส่วนนั่งเล่นใหญ่ทีเดียวค่ะ โดยประมาณกว้าง 3.8×4.2 ม.เลยค่ะทำให้วางชุดโซฟาใหญ่ ๆ ได้ค่ะ เวลามีแขกมาหลายคนก็สามารถรับรองได้
ด้านตรงข้ามจะเป็นตำแหน่งติดตั้งทีวีและบันไดขั้นไปยังชั้นบน
หันกลับมาดูส่วนนั่งเล่น จะเห็นพื้นที่โดยรวมและตัวอย่างการวางชุดโซฟาค่ะ สำหรับชุดนี้สามารถรองรับได้ประมาณ 6-7 คนเลยค่ะ
ถัดไปด้านในจะเป็นส่วนของโต๊ะทานอาหาร,ครัวและห้องน้ำ
ส่วนทานอาหารจะอยู่ติดกับครัวและหลังบ้าน
สามารถวางโต๊ะสำหรับ 4-6 คนค่ะ โดยวางโต๊ะยาวกว่านี้ได้ถ้าวางชิดผนังด้านขวามือ
ประตูหลังบ้านจะเป็นประตูกระจกบานใหญ่ เพื่อให้แสงเข้ามาในบ้าน
พื้นที่ส่วนนี้สำหรับบ้านจริงที่จะได้ จะเห็นว่าประตุหลังบ้านจะมีส่วนที่เป็นบานปิดเล็กๆ ทางขวามือ สำหรับด้านซ้ายก็จะเป็นบานเลื่อน
พื้นหลังบ้านจะลดระดับประมาณ 10 ซม.ค่ะ
พื้นบ้านจริงจะปูคอนกรีตแบบนี้และมีแท็งน้ำให้ในตำแหน่งหลังห้องครัว
ส่วนครัวสามารถทำประตูเลื่อนกั้นห้องแบบนี้ได้ค่ะ โดยถ้าทำเป็นบานแขวนแบบ้านตัวอย่างก็จะทำให้ไม่มีรอยต่อหรือรางเลื่อนตรงพื้น ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นเยอะค่ะ
ภายในครัววางเคาน์เตอร์ตัว L ได้ค่ะ
ขนาดเคาน์เตอร์ครัวถ้าวางเตา 4หัวกลับอ่างล้างจานที่มีที่พักจานก็ยังพอมีที่เหลือให้เตรียมอาหารค่ะ เหนือเคาน์เตอร์ที่มีหน้าต่างทำให้ส่วนครัวไม่ทึบจนเกินไปและช่วยเรื่องระบายอากาศได้
พื้นที่ครัวจริงที่จะได้ ทางซ้ายจะมีหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆ ระดับจะอยู่เหนือเคาน์เตอร์ครัว ด้านขวาที่เห็นประตูคือประตูห้องน้ำ
ห้องน้ำจะอยู่ติดกับครัว
พื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย
ภายในห้องน้ำ หน้าต่างบ้านจริงที่ได้จะไม่เต็มบานแบบนี้ค่ะ ขนาดพอดีกว้างประมาณอ่างล้างหน้า
เนื่องจากเป็นแบบบ้าน 3 ชั้นมี 3 ห้องน้ำ ห้องนี้เค้าเลยทำแบบไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ เพื่อเอาพื้นที่ไปให้ส่วนอื่นๆของบ้านแทน พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.
โถสุขภัณฑ์ค่ะ
ข้างบันไดทางซ้ายมือจะมีพื้นที่ที่สามารถทำเป็นห้องเก็บของหรือจะวางตู้เก็บของก็ได้ค่ะ บ้านตัวอย่างจะทำบานประตูปิดเรียบไปกับผนังและฝ้าระแนงทำให้ดูเหมือนไม่มีห้องค่ะ
แต่จริงๆ เปิดมาจะเป็นตู้เก็บของเล็ก ๆ แบบนี้ค่ะ
บ้านจริงจะได้แบบนี้ค่ะ ตัวกำแพงมีเว้าเข้าไปด้วยนะคะ
บันไดบ้านจะมีราวจับให้ค่ะ ตัวบันไดได้วัสดุเป็นไม้ยางประสานทั้งลูกตั้งและนอนเลยค่ะ ช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นขึ้น
ขึ้นมาจะเจอกับห้องเก็บของใต้บันไดและบันไดอีกชุด เนื่องจากตำแหน่งบันไดของบ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่ตรงกัน ทำให้เกิดพื้นที่ห้องเก็บของแบบนี้ค่ะ
บ้านจริงจะได้ประตูแบบนี้ค่ะ
พื้นที่ภายในห้องเก็บของ
เมื่อขึ้นมาหันมาด้านขวาจะเห็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นชั้น 2 เป็นพื้นที่อเนกประสงค์จะทำเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ หรือถ้าเป็นห้องนั่งเล่นก็วางโซฟาสำหรับ4-5 คนได้
ห้องจริงที่จะได้
หนังอีกด้านก็วางทีวีได้แบบนี้ค่ะ
พื้นห้อง Master bedroom เป็นลามิเนตต่อเนื่องมาจากห้องด้านนอก
ภายในห้องจะกว้างและดูสว่างเพราะเปิดมาก็จะตรงกับประตูกระจกที่รับแสงจากภายนอก ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวอยู่ตรงทางเข้าห้องเลยค่ะ
ห้องจริงได้แบบนี้ค่ะ ไฟเป็นดาวน์ไลท์
รูปนี้เดินเข้ามาในห้องแล้วถ่ายย้อนกลับไปบริเวณหน้าห้องนะคะ บริเวณหน้าห้องจะเป็นพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า และอยู่ติดกับห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย
ภายในห้อง สำหรับบ้านหลังนี้ห้องน้ำจะกว้างกว่าแบบ 2 ชั้นค่ะ โดยส่วนอาบน้ำจะมีพื้นที่มากกว่า สำหรับบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างบานเล็กนะคะ ดังนั้นก็จะทึบกว่า
อ่างล้างหน้าพร้อมตู้ด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler
ส่วนอาบน้ำกั้นเป็น Shower box ให้โดยพื้นที่ภายในประมาณ 0.9×1.5 ม.
ฟักบัวค่ะ
คราวนี้มาดูในส่วนของพื้นที่อื่นๆกันบ้าง ในห้องนี้กว้างพอที่จะวางโต๊ะทำงาน,โซฟา และเตียง 6 ฟุตได้สบาย ๆ และพื้นที่ปลายเตียงก็มีเหลือกว้างๆเลย
ห้องจริงที่ได้ค่ะตรงนี้เหมือนเป็นหน้าต่างบานใหญ่เปิดไปจะมีราวกันตก ไม่มีพื้นที่ระเบียงให้เดินนะคะ แต่ทำราวกันตกเพือให้สามารถเปิดบานใหญ่ ๆ ได้ค่ะ
เตียงวางขนาด 5-6 ฟตุได้
พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับแปลงมุมก็จะมีหน้าต่างบานเล็กตรงตัวเตียง
ด้านข้างจะเป็นพื้นที่ว่าง สามารถวางโซฟานั่งเล่นเพื่อพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือ ดูทีวีมุมนี้ได้
เหนือโซฟาจะเห็นหน้าต่างบานเล็ก ๆ
ซึ่งก็คือตำแหน่งที่จะวางคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ พื้นที่ไม่มากนักตรงนี้จะเซอร์วิสยากหน่อย
ปลายเตียงจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ ระยะดูทีวีอยู่ในจุดก้ำกึ่ง คือ ถ้านอนดูทีวีเนี่ย สามารถติดทีวีจอใหญ่ๆได้เลย ประมาณ 46-55 นิ้ว หรือมากกว่านั้น เพื่อให้ดูแล้วทีวีไม่เล็กเกินไป แต่ถ้าชอบนั่งดูทีวีปลายเตียงแบบจริงจัง ก็ควรจะใส่โซฟาและทีวีที่ขนาดเล็กหน่อย ประมาณ 32-46 นิ้วไม่เกิน เพื่อให้ระยะดูทีวีมันสัมพันธ์กับขนาดทีวี ต้องเลือกเอาว่าชอบแบบไหนนะจ๊ะ
พื้นที่จริงที่จะได้
บันไดขึ้นไปยังชั้น 3
มองลงมาบันไดจะมีชานพักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่ะ เดินสบายหน่อย
เหนือบันไดจะมีช่องหน้าต่างให้ค่ะสำหรับให้แสงเข้ามา บันไดจะได้ไม่มืดจนเกินไป
ขึ้นมาจะเห็นประตู 2 บาน บานตรงหน้าคือห้องนอนกลาง บานซ้ายมือคือห้องนอนเล็ก ชั้นนี้จะใช้ห้องน้ำร่วมกันค่ะ ซึ่งห้องน้ำจะมีประตูเข้าออกได้ 2 ทาง
ห้องนอนกลางพื้นที่เกือบจะเท่ากับ Master bedroom เลยค่ะ ดังนั้นจะเหมือนว่ามี Double Master bedroom เพียงแต่ห้องนี้จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องนอนเล็ก
ภายในห้องจริงที่จะได้ ห้องนี้จะต่างกับ Master bedroom ตรงที่ว่ามีระเบียงซึ่งออกไปใช้งานได้
ตรงใกล้ประตูทางเข้าจะมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ
เข้ามาอีกหน่อยก็เป็นส่วนของที่นอน
ตำแหน่งเตียง ด้านข้างจะมีระเบียงห้องซึ่งประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานใหญ่
เตียงสามารถวางขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ
ขอบธรณีประตูจะยกสูงขึ้นมาค่ะ เพื่อกันน้ำและฝุ่นจากด้านนอกไม่ให้เข้ามาได้ง่ายนัก
พื้นที่นอกระเบียงสามารถวางเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ ไว้เผื่อนั่งเล่นได้ค่ะ
ข้างระเบียงจะเป็นช่องว่างลึกเท่าความลึกระเบียง สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ ข้างกันจะเห็นหน้าต่างเล็ก ๆ เป็นหน้าต่างที่เปิดไปเป็นตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์
ปลายเตียงจะวางโต๊ะหรือวางทีวีก็ได้ค่ะ
สำหรับห้องน้ำที่จะใช้ร่วมกัน จะอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้องตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้า หน้าห้องอาจกั้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ แบบนี้ได้ค่ะ
ภายในห้องน้ำขนาดเท่ากับห้องน้ำ Master bedroom ค่ะ ด้านซ้ายจะเป็นอีกประตูซึ่งเป็นประตูที่เชื่อมกับห้องนอนเล็ก
ภายในจะเหมือนกันเลยค่ะ
ห้องนอนเล็ก พื้นก็เป็นลามิเนตต่อเนื่องมาจากโถงบันไดค่ะ
ภายในห้องจะไม่กว้างมากนักแต่ขนาดไม่เล็กจนเกินไปถ้าเทียบกับว่าเป็นห้องนอนเล็กสุดในทาวน์โฮมทั่ว ๆ ไปค่ะ
ห้องจริงที่จะได้ค่ะ
สำหรับห้องนี้จะดูกว้างและสว่างเพราะมีหน้าต่างกระจกติดยาวให้แบบนี้ค่ะ พอเปิดมู่ลี่แล้วห้องก็สว่างแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ สำหรับเตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตได้ ก็เป็นขนาดเตียงที่พอเหมาะสำหรับ 1 คน
เพราะวางเตียง 3.5 ฟุตจะเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้วางโต๊ะทำงานยาวหน่อยและตู้เสื้อผ้าได้แบบนี้ค่ะ
ปลายเตียงเป็นตำแหน่งไว้ติดตั้งทีวีได้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 July 2014
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น Mono Zen 1 พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น Mono Zen 2 พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น Neo Zen พื้นที่ใช้สอย 176 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
- ฟรีเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง,ปั๊มน้ำ,แท้งค์น้ำ และกันสาดหน้าบ้าน
- โปรโมชั่นประจำเดือนกรกฎาคม ลดสูงสุด 5 แสนบาท
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 85,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 30 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลที่ตั้งของ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม ตั้งอยู่บนถนนสายไหมที่เชื่อมต่อได้กับถนนหลายสาย สามารถไปยังถนนลำลูกกาที่มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า, ไปถนนพหลโยธินซึ่งเป็นเป็นแหล่งร้านค้าและสำนักงานของหน่วยงานต่างๆ ใครบางคนอาจจะทำงานอยู่แถวๆนี้ มีทางด่วนให้เลือกใช้หลักๆคือ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่ขึ้น-ลงจากถนนลำลูกกา, ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่ขึ้น-ลงได้จากถนนสุขาภิบาล 5 และนอกจากนี้ถ้าขยันๆหน่อยก็ยังเชื่อมไปยังวิภาวดีรังสิตเพื่อขึ้นโทลล์เวย์ได้ ทำให้การเดินทางของโครงการค่อนข้างสะดวกถ้าใช้ทางด่วน สภาพถนนกว้าง แต่จะมีระยะทางไกลจากตัวเมืองพอสมควรต้อง และต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก หรือไม่ก็ต้องเรียกแท็กซี่ เพราะรถสาธารณะค่อนข้างน้อย
ตัวโครงการในเส้นสายไหมจะเป็นเส้นที่อยู่อาศัยมีหมู่บ้านต่าง ๆ ทำให้ความอุดสมบูรณ์มีพอสมควร ทั้งตลาดและบิ๊กซีซึ่งใกล้โครงการในระยะที่เดินไปได้จากหน้าโครงการห่างไปประมาณ 70 ม. ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการก็มีร้านค้า ร้านอาหารเล็กๆ เปิดอยู่อีกนิดหน่อย
การออกแบบภายนเป็นสไตล์ Zen เน้นความเรียบง่ายของเส้นสายของ Facade ของบ้าน และตัวโครงสร้างบ้านเป็นแบบ Precast ทำให้ไม่มีเสาตามมุมต่างใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถต่อเติมได้นะคะ รูปด้านของบ้านออกแบบมาได้ค่อนข้างสวนและลงตัวดีดูมีมิติ แบบบ้านมีมาให้ทั้ง 2 ชั้นและ 3 ขั้นการจัดวางจะคล้ายๆกันคือใส่ฟังก์ชั่นได้ครบแต่ขนาดพื้นที่ต่างๆจะแตกต่างกัน ใครที่พอมีงบประมาณก็เลือกแบบ 3 ชั้นไปเลยดีกว่า เพราะมีพื้นที่ทำให้การใช้งานในส่วนต่างๆทำได้ดีขึ้น
พูดถึงแบบบ้านใหม่ที่เป็น 3 ชั้น การออกแบบค่อนข้างลงตัว ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะหน่อย จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายกว่าแบบ 2 ชั้น สามารถวางฟังก์ชั่นหลัก ๆ ได้ครบและมีพื้นที่กว้าง ห้องนั่งเล่นก็สามารถรองรับคนในครอบครัวได้ถ้าอยู่กัน 4-5 คนหรือถ้ามีแขกมาเพิ่มอีกก็ไม่ลำบาก สำหรับครัวพื้นที่ขนาดกำลังพอดีในการทำอาหาร สามารถกั้นผนังเพื่อกั้นกลิ่นเวลาทำครัวได้ค่ะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ต้องต่อเติมครัวด้านหลังก็ได้ เผื่อใครจะอยากได้พื้นที่หลังบ้านไว้ทำอย่างอื่น ห้องเก็บของมีให้ 2 ห้องโดยใช้พื้นที่ใต้บันไดทั้ง 2 ตัวให้เกิดประโยชน์ ส่วนห้องนอน Master และ ห้องนอน 2 ขนาดใกล้เคียงกันเลย พื้นที่ในห้องจัดเฟอร์ฯได้ไม่แน่นเกินไป ส่วนทาวน์โฮมแบบ 2 ชั้นพื้นที่น้อยกว่าแต่การวางฟังก์ชั่นก็ครบค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีไม่เกิน 5 คน (แต่ถ้าลูกโตแล้ว 4 คนจะลงตัวกว่านะ)
วัสดุอุปกรณ์ถือว่าให้มามาตรฐานสำหรับบ้านแบบทาวน์โฮมค่ะ คือพื้นชั้น 1 ปูด้วยแกรนิตโต้ ชั้นบนส่วนห้องนอนและโถงบันไดเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีขาว สุขภัณฑ์มีของหลากหลายยี่ห้อปนกั้นทั้ง Cotto, Mogen, Karat และ Barthroom Design ประตูหน้าต่างให้มาบานใหญ่เป็นกระจกเขียวตัดแสงกรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำค่ะ โดยทุกแบบบ้านจะเป็นบ้านเปล่าคือส่วนครัวจะไม่มีการทำเคาน์เตอร์ให้แต่เดินระบบน้ำประปาให้ รวมๆแล้วก็เรียกว่า ได้มาเท่าที่จ่ายไป ต้องเตรียมงบสำหรับตกแต่งไว้ด้วยนะ
สำหรับสาธารณูปโถคนี่ ต้องดูเทียบกับราคาบ้านด้วย ใครซื้อบ้านราคา 2 ล้านกว่า ได้เท่านี้ก็ถือว่าให้มาโอเคอยู่นะคะ แต่ถ้าซื้อบ้าน 4-5 ล้านก็อาจจะบอกว่าที่โครงการให้มาก็อาจจะน้อยไปหน่อย คือมี Club house ให้, มีพื้นที่นั่งเล่นและสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5×14 ม. พอว่ายเล่นได้นิดหน่อยแต่ไม่เหมาะสำหรับออกกำลังกายจริงจัง แถมความหนาแน่นระดับเกือบๆ 400 ยูนิตนี่ไม่น่าจะเพียงพอถ้าลูกบ้านมาใช้งานกันเยอะในช่วงเวลาเย็นๆ, ภายในโครงการมีสวนส่วนกลางให้แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องรุปแบบสวนหรือการตกแต่ง ดังนั้นตรงนี้ต้องรอดูตอนสร้างเสร็จว่าสวนจะมีพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ไว้วิ่งเล่นรึเปล่าค่ะ ส่วนสองข้างทางถนนหลักมีต้นไม้ซึ่งถ้ารออีกประมาณ 2 ปีน่าจะให้ความร่มรื่นได้มากกว่านี้คะ โดยสรุปแล้ว ต้องดูเทียบกับราคาบ้านเป็นหลัก
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2.2-6.7 ล้านบาท, 10 July 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75 /10 – เชื่อมต่อหลายเส้นทาง มีทางลัดเลาะไปยังเส้นต่าง ๆ ได้
- ความปลอดภัย 8.0/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV และเป็น Double Gate
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75-8 /10 – วางฟังก์ชั่นได้ค่อนข้างลงตัวและครบในแง่การใช้งาน สำหรับ 3 ชั้นให้ 8
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – ในโครงการปลูกต้นไม้สองฝั่งข้างถนน แต่ส่วนอื่นคงต้องรอดูตอนโครงการเสร็จ
- สาธารณูปโภค 7.5-8/10 – คะแนนจะแล้วแต่ระดับราคาถ้าบ้านราคาประมาณ 2 ล้านอาจให้ 8 แต่แพงกว่านั้นก็จะลดหลั่นคะแนนไป
- 7.66 – 7.75 / 10.00
BOTTOM LINE
พฤกษา วิลล์ 64 สายไหมเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาที่อยู่อาศัย ทำงาน แถวพหลโยธิน ลำลูกกา สายไหม เดินทางได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีงบประมาณ 2.2- 6.7 ล้านบาท
ชอบกด Like ใช่กด Share เลยนะคะ 😉