รูปเปิด640

รีวิวฉบับที่ 828 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมรีวิวคอนโด ตากอากาศ แถวพัทยากันบ้างครับ โครงการนี้มีชื่อว่า บ้านปลายหาด พัทยา เป็นคอนโดมิเนียมเมืองพัทยาโครงการแรกของแสนสิริ ที่สร้างอยู่บริเวณหาดองศ์อมาตย์-นาเกลือ ซอย 16 ใกล้ๆกับปราสาทสัจธรรม ที่พึ่งก่อสร้างเสร็จหมาดๆเลย ซึ่งโครงการนี้จะประกอบด้วย High Rise 1 ตึก Low Rise 1 ตึก และอาคาร Facility อีกหนึ่งตึกแยก ตามผมไปดูกันเลย

 

Fact @ 25 April 2015

  • Baan Plai Haad (บ้านปลายหาด พัทยา)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง พัทยา นาเกลือ
  • คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร และ อาคาร 7 ชั้น 1 อาคาร รวม 353 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 135 คันคิดเป็น 38%
  • ที่ดินประมาณ 4-2-78 ไร่
  • 1 Bedroom 40 – 68 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.15 – 9.53 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 67.5 – 89.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.77 – 12.71 ล้านบาท
  • Bedrooms 117.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 16.98 – 17.67 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร (ส่วนที่มีงานระบบเหลือ 2.55 เมตร)
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.15 ล้านบาทหรือประมาณ 128,750 บาทต่อตารางเมตร
  • http://www.sansiri.com/condominium/baanplaihaad_pattaya/th/
  • Call Centerโทร 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 12.969677,100.885074

แผนที่โครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ทำเลของบ้านปลายหาดอยู่ลึกเกือบๆสุดของซอยนาเกลือ 16 แยกที่มุ่งหน้าไปยังโรงแรม Garden Cliff บนถนนพัทยา – นาเกลือ ก่อนที่จะถึงตลาดนาเกลือ เข้าจากทางพัทยาเหนือวนผ่านวงเวียนปลาโลมาจะสะดวกที่สุดนะครับ

แผนที่ระยะไกล

การเดินทางหลักๆเมื่อมาจากกรุงเทพฯก็มาได้ 3 แบบ

  • ใช้เส้นทางบางนา-ตราด ทางด่วนบูรพาวิถี ไปจนสุดทางด่วนตรงอมตะนคร จากนั้นให้ชิดซ้ายเข้าเส้น บายพาสเพื่อเลี่ยงรถติดในตัวเมืองชลบุรี ขับไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกไปพัทยา
  • ใช้เส้นทางหลวง 34 บางนา-บางปะกง และเข้าเส้นสุขุมวิท ผ่านชลบุรี บางแสน ศรีราชา จากนั้นมุงหน้าสู่พัทยา
  • ใช้ทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าตามป้ายชลบุรี และเลี้ยวขวาเข้าเส้นสุขุมวิทสู่พัทยาเหนือ

ขอพูดถึงถนนหลักหน้าโครงการนิดนึงนะ ตัวถนนพัทยา-นาเกลือเป็นถนนเดินรถแบบไป-กลับ จะไปสุดที่วงเวียนปลาโลมาข้างนึงและ แยกจากถนนสุขุมวิท ข้างที่ว่าการอำเภอบางละมุงอีกข้างนึง ถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมออกไปถนนหลักเส้นต่างๆในละแวกนี้ได้หมดอาทิเช่น ถนนสุขุมวิท ถนนพัทยาเหนือ ถนนเลียบหาด ถนนนพัทยาสาย 2 จะเห็นว่าโครงการตั้งอยู่ในซอยนาเกลือ 16 แต่ไม่ติดหาดนะครับ

ถึงแม้เป็นคอนโดแบบตากอากาศก็จริง แต่ในละแวกนี้ก็เป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติมากเป็นพิเศษ เรื่องร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ต้องพูดถึงเลยมีมากมายมหาศาล เลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว เอาจริงๆพัทยานี่เป็นเขตปกครองพิเศษที่มีความหนาแน่นของชุมชนไม่แพ้กรุงเทพเลย

แผนที่ระยะประชิด

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ จะเป็นโรงแรมริมหาดกับคอนโดซะเป็นส่วนใหญ่ จากในรูปจะเห็นว่ามียังมีพื้นที่ดินเปล่าเหลือรอบๆโครงการอยู่บ้าง วิวที่เป็นไฮไลท์ของโครงการบ้านปลายหาดนั้นจะเป็น ทิศเหนือ sea view แบบเปิดโล่ง ไม่มีอะไรบังเลย ถัดมาทางขวาทิศตะวันออกที่ติดกันในระยะประชิดจะเป็นคอนโด Garden Cliff สูง 10 ชั้น แต่ทางทิศนี้ถ้าอยู่ชั้น 20 ขึ้นไปจะเป็นวิวที่สวยมาอีกจุดนึง เพราะจะเห็นตัวปราสาทสัจธรรมด้วย ลงมาทางทิศใต้ระยะประชิดจะเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ถ้ามองไปไกลๆหน่อยจะมีพวกคอนโด High Rise บ้าง สุดท้ายทิศตะวันตก จะเป็น Sea View แต่จะถูกบังคั่นกลางด้วยคอนโด The Palm 46 ชั้น

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

แผนผังอาคาร

ตัวอาคารจะมีทั้งหมด 3 อาคาร ตามนี้ อาคาร A เป็นคอนโด High Rise 31 ชั้น และอาคาร B เป็นอาคารจอดรถและอยู่อาศัยด้วย 7 ชั้น รวมสองอาคารมี 353 ยูนิต ส่วนอาคารสุดท้ายจะเป็นอาคาร Facility อย่างเดียว สูง 3 ชั้น

แผนที่การเดินทางวันนี้

การเดินทางในวันนี้ผมใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท(ทล.3) ซึ่งผมมาจากทางศรีราชา มุ่งหน้าตรงมาทางพัทยา จนมาถึงแยกสว่างฟ้าแล้วเลี้ยวขวาลง เพื่อจะเข้าสู่ถนนพัทยา-นาเกลือ ตรงไปประมาณ 1.6 กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยนาเกลือ 16 ลงไปประมาณ 1.6 กม. ก็จะถึงหน้าโครงการอยู่ทางขวามือ

การเดินทางในวันนี้ผมใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท(ทล.3) ซึ่งผมมาจากทางศรีราชา มุ่งหน้าตรงมาทางพัทยาอย่างเดียวโลด วิ่งมาจนมาเจอป้ายเข้าสู่เขตตัวเมืองพัทยาครับ

ยังตรงไปเรื่อยๆนะครับ ขวามือฝั่งตรงข้ามผ่านบ้านสุขาวดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกที่ในพัทยา

มาอีกหน่อยจะเจอกับป้าย Billboard ขนาดใหญ่ของริบลีย์ อยู่มาจะเป็นสิบปีละป้ายนี้

ตรงมาจนถึงสามแยกไฟแดงนี้ เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยสว่างฟ้านะครับ เพื่อที่จะไปถนนพัทยา-นาเกลือ

ซอยสว่างฟ้านี้ระยะไม่ได้ไกลมากนะครับ แต่เป็นแหล่งที่มีความเจริญมากเนื่องจากมีตลาดสดนาเกลือขนาดใหญ่มากๆตั้งอยู่นั้นเอง เป็นแหล่งพึ่งพิงหลักอาหารการกินของคนแถวนี้ก็ว่าได้

Minimart ในซอยนี้ก็มีให้เลือกมากมายหลายเจ้ากันทีเดียว

ขับมาจนสุดเราจะเจอกับสามแยก อันนี้คือถนน พัทยา-นาเกลือ ซึ่งเราจะเลี้ยวซ้ายนะครับ

พอเลี้ยวซ้ายมาแล้ว สภาพแวดล้อมก็จะเป็นพวกแนวอาคารพาณิชย์ร้านค้าทั่วไป มีธนาคารบ้าง ร้านอาหารบ้าง อพาร์ทเมนท์บ้าง ปนๆกันไป

ตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวขวาจะสามารถไปปราสามสัจธรรมได้ ถือเป็นที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่อยู่ใกล้โครงการมาก ฝรั่งชอบมาลงทัวร์เที่ยวกัน ถ้าจำไม่ผิดค่าเข้าชม 500 bath/day

ขับตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับร้านนินจาหมูกระทะเจ้าเก่า อยู่มานานมากๆ

เลยมานิดนึงจะเห็นป้ายบอกทาง เราเน้นไปเส้นทางวงศ์อมาตย์นะครับ ตามป้ายเลย

เห็นโรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคารค่อนข้างใหญ่อยู่ขวามือ ให้เราชิดขวาเปิดไฟเลี้ยวรอไว้เลย

สุดโรงเรียนจะสามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยนาเกลือ 16 ที่สามารถลงไปหาดวงศ์อมาตย์และที่ตั้งโครงการได้

พอเลี้ยวเข้ามาแล้ว สภาพแวดล้อมตอนต้นซอย จะมีแนวอาคารพาณิชย์ค่อนข้างมาก แต่ก็ออกแนวเงียบๆนะกลางวัน สลับๆกันจะเป็นพวกอพาร์ทเมนท์กับโรงแรม

ผ่าน AD คอนโดมิเนียมทางซ้ายมือ

ตรงมาอีกนิดนึงจะผ่าน Long Beach อยู่ฝั่งขวามือ

เราขับเข้ามาเรื่อยๆเลยนะครับ ตามทางบังคับ จากนี้จะเห็นพวกร้าน Minimart กับคอนโดอื่นๆ และโรงแรมมากมายทีเดียว

ที่เห็นขวามือสูงๆเป็นคอนโดเก่าชื่อว่า วงศ์อมาตย์ แกรนด์ บีช รีสอร์ท ตรงไปอีกครับ

ขวามือคือ โนวามิราจคอนโด รูปแบบคล้ายๆหอพักแหะ พอผ่านโครงการนี้ไปก็ใกล้ถึงละ

ถัดมาจะเจอ FamilyMart ขวามือ ที่อยู่ติดก่อนถึงโครงการบ้านปลายหาด

มาถึงทางเข้าหน้าโครงการ บ้านปลายหาด พัทยาแล้ว ฝั่งตรงกันข้ามกับโครงการมีคอนโดเหมือนกันชื่อว่า THE PALM

ก่อนจะเข้าไปดูในโครงการ จะพาไปดูรอบๆที่สามารถเดินได้ก่อนนะครับ ทางนี้เป็นซอยที่ติดกับโครงการทางทิศใต้ เป็นทางลาดยางกว้างประมาณ 4 เมตร ไม่มีท่อระบายน้ำแบบนี้

เดินเข้ามาหน่อยนึงขวามือจะเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้นคู่ 2 ตึก อยู่ตรงข้ามกับอาคารจอดรถของโครงการเราที่มีห้องพักด้วยที่ชั้น 6-7 คงจะบล็อควิวแน่นอนอยู่แล้ว แต่คนที่จะซื้อตึกนี้คงไม่ต้องการวิวตั้งแต่แรกน่าจะเอาไว้แค่นอนพักธรรมดา และเน้นใช้ส่วนกลางเสียมากกว่า จะเห็นว่ารั้วของโครงการค่อนข้างสูงหน่อย เป็นคอนกรีตทึบทาสีเทา สูงประมาณเกือบ 3 เมตร

พอเดินมาจนถึงสุดรั้วกำแพงโครงการทางซ้ายมือจะติดกับคอนโดเก่าอย่าง Garden Cliff

Garden Cliff Condo สูงประมาณ 10 ชั้น ที่บล็อควิวระยะประชิดทางทิศตะวันออก

กลับมาที่หน้าโครงการอีกครั้ง แนวรั้วมีสลับกับแนวพุ่มไม้ และมีลงต้นไม้ใหญ่ไว้หน้าโครงการ รอวันร่มเงาใบเขียวผลิใบ

รั้วมุมนี้ ด้านในจะเป็นสระว่ายน้ำ มีระแนงเหล็กเสริมสูงขึ้นมาอีกหน่อย

ตรงนี้ผมเดินเข้ามาในโครงการนิดนึง แล้วมองหันออกไปหน้าโครงการ(ทิศตะวันตก) จะเห็นโครงการ The Palm ที่บล็อควิวเรา ด้านหน้า 26 ชั้น และด้านหลัง 46 ชั้น

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ชายหาดวงศ์อมาตย์
  • Minimart etc.
  • ปราสาทสัจธรรม
  • ตลาดใหม่นาเกลือ
  • รพ.บางละมุง
  • เมืองจำลอง
  • Pull Man Hotel
  • โรงแรมดุสิต
  • Tesco Lotus
  • BigC
  • Central Festival

 


เจาะลึกตัวโครงการ

ป้ายโครงการด้านหน้า

บรรยายโครงการ1

ผมจะพาไปดูตามนี้ก่อนนะครับ จะได้เห็นภาพเข้าใจง่าย

ยืนจากทางเข้าโครงการด้านหน้ามองไปตัวอาคาร High Rise จะเห็นอาคารเด่นชัดใช้โทนสีขาวน้ำตาล ตัวกระจกจะเป็นออกแนวสีน้ำเงินหน่อยๆ

ทางเข้าโครงการจะมีส่วนของทางรถยนต์ เป็นทางคอนกรีตพิมพ์ลาย และที่เห็นขวามือเป็นทางเข้าส่วนของทางเดิน

ทางเข้าส่วนทางเดิน จะมีประตูเหล็กกั้นไว้

ป้อมรปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ไม่มี key card access นะครับ เป็นระบบตรวจสอบแลกบัตรธรรมดา

พอเข้ามาแล้วทางซ้ายมือจะแต่เป็นแนวพุ่มไม้ชั้นๆแบบนี้

ลักษณะการเดินรถคือให้เลี้ยวขวาเพื่อไปที่จอดรถเท่านั้น

เลี้ยวขวามาแล้วเป็นส่วนจอดรถส่วนแรก สำหรับผู้มาติดต่อ

ตรงมาอีกหน่อย ทางขวามือจะเป็นที่จอดรถกลางแจ้งอีกจุดนึง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปอาคารจอดรถ

ที่จอดรถกลางแจ้ง พื้นโรยด้วยหินคลุกแบบเม็ดเล็กๆ

กลับมาจะไปทางอาคารจอดรถ

อาคารจอดรถ ที่ชั้น 1-5 จะเป็นที่จอดรถ ส่วนชั้น 6-7 จะมีห้องพักอาศัย เอ้อ ชั้น 6 มีสวนส่วนกลางให้เดินเล่นด้วยนะ

มองไปทางซ้ายจะเป็นทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร

เข้ามาดูที่จอดรถกัน ความสูงไม่เกิน 2.1 เมตร

ชั้นแรกจะเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ด้วย ลักษณะการเดินรถมีลูกศรบอกไว้ให้ชั้นเจน ทางค่อนข้างกว้างนะ เดินรถสวนกันไม่ลำบาก

บริเวณที่จอดรถทุกชั้นจะมีทางเข้าไปสู่โถงลิฟท์แบบนี้ครับ

ชั้นบนๆจะเป็นแบบนี้ มีบันไดหนีไฟทุกชั้นนะ

ลองเข้ามาดูส่วนโถงลิฟท์ของอาคารนี้บ้าง

ภายในลิฟท์ หน้าตาแบบนี้ครับ แต่ละอาคารก็จะไม่เหมือนกัน

ลิฟท์ของ Schindler

ขึ้นมาดูสวนส่วนกลางชั้น 6 กันบ้าง ต้องเข้าทางบันไดหนีไฟนะ

สวนเปิด 7 โมงเช้า ปิด 1 ทุ่ม ครับ

เปิดประตูออกมาอีก จะเจอส่วนของสวนหย่อมส่วนกลาง ที่ลูกบ้านทั้งหมดสามารถมาเดิน,นั่ง เล่นได้ แต่วันนี้ฝนตกพร่ำๆ เศร้านัก

กลับมาที่โถงทางเดินกันบ้าง ที่ชั้น 6 นี้มีส่วนของห้องพักอาศัยแล้ว จะเป็นแบบ Single Corridor มีช่องลมและแสงผ่านหน้า สลับกันไปแบบนี้

บรรยายโครงการ2

 

เอาละ กลับมาที่หน้าโครงการใหม่ คราวนี้จะพาเดินไปดูตามลูกศรแบบนี้นะครับ

ส่วนทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารอยู่อาศัยไปยังสระว่ายน้ำชั้นล่าง

พื้นทางเดินเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนดูสบายตา มีโซฟาให้นั่งได้พักผ่อนเป็นจุด ผนังตกแต่งเป็นอลูมิเนียมสีซาฮาร่า

เดินต่อมาจะมีทางเดินเชื่อไปยังศาลากลางสระว่ายน้ำ

ภายในศาลาจะมีห้องอาบน้ำ แต่งตัว ล็อกเกอร์เก็บของให้ด้วย

เข้ามาเป็นแบบนี้ ตกแต่งใช้พวกวัสดุเป็น PVC ลายเปลือกไม้เปลือกหิน

ภายในห้องอาบน้ำแต่งตัว

ห้องล็อกเกอร์และอ่างล้างมือ

สระว่ายน้ำภายในมีต้นไม้อยู่ใจกลางสระด้วยนะ แปลกดี ดูร่มรื่น แต่ต้องมีการทำความสะอาดเก็บใบไม้บ่อยๆหน่อย ทางเดินลงไปกลางสระลึก 1.2 เมตร

ส่วนของอ่างจากุชชี่อยู่ริมสระฝั่งชิดกำแพง ผมเดินไปไม่ได้ครับ เลยซูมมาให้ดู

ตัวสระเนี่ยเป็นรูปทรงอิสระหน่อย จะยาวเชื่อมต่อไปยังสระเด็กด้านหลังโน่นเลย

เดินต่อมาจะมี deck นอนเล่นอาบได้ ประมาณ 6 ตัว แต่ตัวสระก็ยังยาวเชื่อมต่อมาอีกนะ

บริเวณนี้เป็นส่วนของสระเด็ก ลึกประมาณ 0.6 เมตร สอบถามจากทางโครงการแล้ว ความยาวสระรวมจากตรงนี้ไปถึงชิดแนวรั้วด้านหน้าโครงการ ยาวประมาณ 50 เมตรเลยนะ

เดินทางต่อจะไปชายหาด

หันมามองทางขวาซ้ายมือจะเป็นอาคาร Facility ขวามือเป็นอาคารสูง ตรงกลางเป็นอาคารจอดรถ

เราจะเดินไปลงหาดกันก่อนนะ

มีป้ายบอกทางให้ชัดเจน

ผมมาสะดุดตากับเจ้าสิ่งนี้ นั่นเอง ขอเดินไปดูใกล้ๆหน่อย

โอ้..มันคือลิฟท์นี่เอง แจ๋วนะ ผมชอบเลย

ลองเรียกมาซะหน่อย หน้าตาแบบนี้ เต็มที่คงขึ้นได้ 4 คน และดีต่อผู้ต้องใช้รถเข็นด้วยนะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมบริเวณลิฟท์แบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

จากุชชี่

เดินมานิดนึง ก็จะเจอส่วนของ Jacuzzi pool ที่มี เก้าอี้นอนอาบแดดไว้ให้ด้วย เอาไว้ชมวิวทะเลผ่อนคลายได้

บันไดทางลงส่วนแรก

ระหว่างทางเดินลงมีจุดให้นั่งพักผ่อนชมวิวระยะไกลได้ด้วย ด้านหลังที่นั่งเป็นน้ำตกเล็กๆ เชื่อมกับจากกุชชี่ด้านบน

แต่ถ้าจะเดินลงหลังจากนี้จะง่ายหน่อย จะเป็นพื้นปูหญ้าสลับกับทรายล้างแบบนี้ ทางเดินก็ไม่ชันนะ เดินง่ายๆสบายๆ

เอาล่ะเดินต่อ ลงไปดูหาดกัน

มาถึงด้านล่างหาดละ มีป้อมรปภ.รักษาความปลอดภัยอีก 1 จุดครับ

ตัวหาดอันนี้เป็นหาดที่โครงการตกแต่งเพิ่มจากปกตินะครับ โดยการลงต้นไม้สวน และเอาทรายละเอียดแบบนุ่มๆเท้ามาลงบริเวณนี้ เปลี่ยน

หาดที่ตกแต่งเพิ่มถูกล้อมกำแพงคอนกรีตแบบนี้ บริเวณหาดจริงๆด้านหน้าของบ้านปลายหาดนั้น ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำนะครับ เนื่องจากว่าจะมีหินอยู่บ้าง เลยได้แค่เอาไว้ชมวิวเฉยๆ ถ้าจะเล่นต้องเดินไปอีกประมาณ 50 เมตร บริเวณโรงแรม Centara Grand Modus นะ (เดี๋ยวผมพาเดินไปดู)

มองย้อนภายในบริเวณหาดโครงการ มีเก้าอี้อาบแดดให้ด้วยนะ

มีป้ายแจ้งเตือนว่าบริเวณนี้ห้ามเล่นน้ำ

ถ้าจะเล่นน้ำเราต้องมาทางนี้ เดินลงบันได มายังหาดจริงไปทางปราสาทสัจธรรมประมาณ 50 เมตร

พื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่สามารถเล่นน้ำได้ เฉพาะที่ล้อมด้วยทุ่นเอาไว้ ทุ่นพวกนี้เป็นของเขตพัทยามาลงให้นะครับ เป็นขอบเขตที่เล่นน้ำปลอดภัย ครับผม

จ๋อมๆ ไปได้ไม่ไกล แต่เซฟเอาไว้ก่อนตามกฎเมืองพัทยา

หันไปมองวิวทางปราสาทสัจธรรม วันนี้ฟ้าไม่เปิดฝนตกนิดหน่อย ถ้าฟ้าเปิดนี่ สวยมากกกกก

บริเวณที่ล้อมทุ่นจะอยู่หน้าโครงการของ Centara Grand Modus Resort

มองย้อนกลับไปที่โครงการครับ เดี๋ยวผมจะพาไปชมเที่ยวลิฟท์ทางลาดกัน ปิ๊ง..

เวลาขาเดินขึ้นทีเด็ดอยู่ที่ลิฟท์นี่ละครับ แบบนี้เลย 😀

กลับมาที่อาคาร Facility กันบ้าง Facade โทนสีน้ำตาล เน้นกระจกเป็นหลัก อยากให้ได้วิวเต็มที่ทุกทิศ

เข้ามาข้างในชั้นแรกเป็นส่วนของ Lobby นั่งเล่น มีชุดโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา แบบนี้ ตัวห้องค่อนข้างสูงมาก ดูโปร่งโล่ง และผนังด้านข้างที่เป็นกระจกเป็นแบบ  Floor to Celing

ผนังด้านนี้เป็นวิวลงไปยังชาดหาด บานกระจกสามารถเปิดรับลมธรรมชาติได้

Lobby ส่วนนี้มีห้องน้ำให้ใช้ด้วย

มองย้อนกลับไปทางเข้ามี เคาน์เตอร์หินอ่อนแบบนี้ ทางซ้ายบนเป็นทางขึ้นไปชั้นบน

ทางขึ้นไปชั้นบนจะมีให้เลือก 2 แบบระหว่างเดินขึ้น หรือใช้ลิฟท์

เดี๋ยวผมขึ้นลิฟท์ละกันนะ

ภายในลิฟท์หน้าตาแบบนี้ มีกระจกให้ดูวิวด้วย

มีแค่ 3 ชั้น

มาดูชั้น 2 กันต่อ

เจอส่วนของห้อง Fitness ประตูทางเข้าเป็นแบบนี้

เข้ามาปุ๊ปซ้ายมือเป็นชั้นตกแต่งวางของ กับมีทีวีให้ 1 ตัว

ห้องขนาดค่อนข้างกำลังดี วางเครื่องเล่นไว้เยอะพอสมควร ประมาณ 11 เครื่องเล่น

ทุกด้านถูกล้อมรอบด้วยกระจก เอาไว้เทควิวได้เต็มที่ ที่สำคัญเป็นกระจกแบบแผ่นขนาดใหญ่ มีมีวงกบต่อกับ ทำให้เห็นวิวแบบต่อเนื่องเต็มๆตา

มีโยคะบอล ไว้ให้ด้วย

เวลาวิ่งหรือปั่นจักรยาน มองวิว จะได้แบบนี้ ฟินนน..

ห้องน้ำนี่จะอยู่ด้านนอกนะครับ ต้องเดินออกมาจากในห้อง Fitness

ภายในห้องน้ำ หน้าตาแบบนี้

ส่วนของอาบน้ำ และทำธุระส่วนตัว

มีห้องสตรีมให้ด้วย ขนาดประมาณ 4 ที่นั่งครับ

ต่อไปไปดูชั้นบนกันบ้าง รอบนี้จะเดินขึ้นนะ เห็นว่าโถงบันไดระหว่างทาง เป็นหน้าต่างรับแสงได้เต็มที่

ขึ้นมาที่ชั้นบนละ เป็นออกไปพื้นที่ บาร์บีคิวปาร์ตี้

พื้นที่ Outdoor สำหรับเอาไว้จัดปาร์ตี้นั่งชมวิว พื้นเป็นกระเบื้องลายไม้

จุดที่ปิ้งย่าง ล้างอุปกรณ์ จัดเตรียมอาหารครับ

มองย้อนกลับไปทางอาคาร

เอาล่ะมาดูส่วนของอาคารอยู่อาศัยตัว High Rise กันบ้าง ทางเข้าสู่ Lobby หน้าตาแบบนี้ มีงาน Facade มาเสริมผนังเล่นลวดลาย วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีน้ำตาล

เข้ามาใน Lobbly แล้ว ขวามือจะเป็นห้องของนิติบุคคล มองตรงไปที่เห็นประตูจะเป็นทางเชื่อมไปอาคารจอดรถ และอาคาร Faci;ity

พื้นที่ห้อง Lobby จะค่อนข้างสูงโปร่งโล่ง แบบนี้ เป็น Double Volume ดูสบายตาดี ที่เห็นห้อยๆลงมานั่นคือเชือกนะครับ เอามาตกแต่ง

มีห้องตู้จดหมายอยู่บริเวณนี้

เดินถัดต่อมา Lobby ส่วนนี้จะลดระดับความสูงลงมาหน่อย แต่ก็มีพื้นที่นั่งเล่นเหมือนเดิมครับ

พื้นที่นั่งเล่นทุกจุดปกติจะปิดบานกระจกไว้แบบนี้นะ

แต่ถ้าวันไหนอากาศดี เราสามารถเปิดรับลมและแสงแดดธรรมชาติแบบี้ได้ เปิดงายมากแค่หมุนเอาเท่านั้น

ถัดมาเป็นส่วนของ Libraly มีโซฟา Bed ให้นอนอ่านแบบนี้

มีประตูทางเชื่อมออกไปยังอาคารอื่นๆด้านหลัง

ทางเข้า ส่วนของลิฟท์จะมีห้องกระจกกั้นไว้อีกที ต้องใช้ Keycard ลูกบ้านละ

หน้าตา Lift แบบนี้ครับ ส่วนของ passenger lift 3 ตัว และจะมี service lift ด้านนอก 1 ตัว

หน้าลิฟท์ทุกชั้นจะมีป้ายบอกแบบนี้ และมีเพลทเงินแสดง floor plan ของชั้น

หน้าตาภายในลิฟท์ ค่อนข้างดูดีกว่าตึกอื่นหน่อย

แผงชั้นลิฟท์แบบปกติมาตรฐาน อาคารนี้มี 31 ชั้นนะครับ

ผมขึ้นมาชั้น 2 ก่อน ออกมาหน้าลิฟท์จะเจอกับโถงทางเดินแบบนี้

มีห้อง Service Lift ซ้ายมือ และไฟโถงทางเดินค่อนข้างสว่าง และเยอะดี

โถงทางเดินบางส่วนเป็นแบบ Single Corridor แบบนี้ จะเป็นผนังกระจก และช่องลมรับแสงสลับกันไป

แบบนี้ครับ ทำให้ได้ทั้งแสงและลมเข้ามาได้บางส่วนทาง Corridor

ตู้กันอัคคีภัย และทางบันไดหนีไฟ ทุกชั้นมาตรฐาน

เงยหน้ามองเพดามีสัญญานกันอัคคีภัย และ CCTV

ขึ้นมาดูส่วนของ Sky Pool ชั้น 30 กันบ้าง เป็นสระระบบเกลือ กว้างประมาณ 4 เมตร ยาวประมาณ 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร  มี Deck นอนอาบแดดริมสระให้ด้วย

หันมามองทางขวา เป็นที่นั่งเอาไว้ดูวิว ทะเลสุดขอบฟ้า

นอนแช่น้ำ มองวิวทะเลสุดขอบฟ้าสุดลูกหูลูกตา มุมนี้เป็นวิวตะวันตกเฉียงเหนือ

กึ่งกลางสระ เป็นทิศตะวันตก ที่ถูกบล็อควิวด้วยคอนโด The Palm

มุมสระเป็นส่วนที่นั่งแช่จากุชชี่ ขนาดพื้นที่แช่ค่อนข้างกว้าง นะ มีราวกันตกอีกชั้นด้วยกระจกนิรภัย

มีห้องน้ำอยู่ริมสระ มีล็อกเกอร์เก็บของไว้ให้ด้วย

พื้นที่อาบน้ำ และห้องน้ำ

แผนที่วิว

ผมรวบรวมรูปวิวในทิศต่างๆมาให้ดู เผื่อจะได้เห็นและนึกตามออกครับ 😀

วิวทิศใต้

วิวทิศใต้ City View ได้วิวพื้นที่สีเขียวจากที่ดินของบุคคลอื่นที่ยังไม่ได้พัฒนาในระยะใกล้ด้วย

วิวทิศตะวันตกเฉียงใต้

วิวทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็น City View + Sea View มีอาคารสูงค่อนข้างเยอะ

วิวทิศตะวันตก

วิวทิศตะวันตก Sea View แต่มี The Palm คั่นกลาง

วิวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

วิวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ Sea View แบบเปิดโล่ง

วิวทิศเหนือ

วิวทิศเหนือ Sea View แบบเปิดโล่ง

วิวทิศตะวันออก

วิวทิศตะวันออกวิวเมือง เห็นปราสาทสัจธรรม และชายหาดนิดหน่อย

masterplan

ผัง Master Plan ของบ้านปลายหาด ชั้นล่างมีสระว่ายน้ำพร้อมสระเด็กอยู่ด้านทิศเหนือ ตึกด้านหน้าเป็นอาคารสูง และตึกด้านหลังเป็นอาคารจอดรถ มีลานจอดรถชั้น G อยู่จำนวนหนึ่ง ตึกขวาบนเป็นอาคาร Facility

ชั้น6

เรามาดู Plan โครงการกันบ้าง นี่เป็นชั้น 6 ซึ่งมีทั้งหมดสองตึก ก็คือตึกรูปตัว L ที่เป็นฝั่งหันหน้าออกทะเล และห้องพักด้านบนของอาคารจอดรถ สำหรับคนที่จะมาพักผ่อนดูวิวทะเลก็คงจะเลือกแต่ห้องที่เห็นทะเล ผมก็คงจะเน้นไปที่ห้องที่เห็นทะเลเป็นหลัก นั้นก็คือแผงด้านบนที่เห็นทะเลทิศเหนือ, ห้อง 1D ที่เห็นทะเลทิศตะวันออกบางส่วนและปราสาทสัจธรรม, ห้องทิศตะวันตกสามสี่ห้องบนที่เห็นทะเลแบบไม่โดนตึก The Palm บัง

ชั้น30

บริเวณชั้น 30 เป็นชั้นของส่วนกลาง มีสระว่ายน้ำอยู่บนชั้นนี้ ทำให้ทุกคน ไม่ว่าซื้อห้องไหน ก็สามารถมาดู High Light ของเมืองพัทยา ก็คือพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้เหมือนกัน … แต่ผมว่าดูในห้องจะสวยกว่าและสบายกว่ากันเยอะเลยนะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ ชั้นล่างพร้อมสระเด็ก และ Sky Pool บนชั้น 30
  • ห้องออกกำลังกาย ขนาดปานกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง
  • ห้องสตีม
  • สวนและ Landscape บริเวณทางเดินไปหาด , ลิฟท์ทางลาดขึ้น-ลงไปส่วนหาด
  • สวนบนชั้น 6 ของอาคารจอดรถ
  • ที่จอดรถประมาณ 135 คันคิดเป็น 38%
  • Wifi Access
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว สำหรับอาคารสูง อัตราส่วนลิฟท์ ประมาณ 114:1 มี Service Lift แยกต่างหาก
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว สำหรับอาคารจอดรถและที่พักอาศัย 10 ยูนิต
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

plan1C

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูเริ่มจากห้อง 1 Bedroom Type 1C ขนาด 53.50 ตร.ม. กันก่อนครับ เปิดประตูห้องเข้ามามองตรงไปจะไปโซนรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกับ Living Room หันมามองทางขวาจะเป็นโซนครัว ด้านนอกเป็นระเบียงขนาดใหญ่ที่เชื่อมทั้งส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีห้องเก็บคอมแอร์มีระแนงกั้นเป็นสัดส่วน ถัดมาด้่นในห้องนอนกับห้องนั่งเล่น กั้นด้วยผนังกระจกบาน 3 ตอน ในห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำมีกระจกแบบ Sexy Bath มองเห็นออกมาด้านนอกได้ และมีอ่างอาบน้ำและฉากกั้นในตัว

ประตูทางเข้า เป็นบานไม้แบบนี้

หน้าห้องจะมีกริ่งกด และตาแมวมาให้ ที่เปิดด้ามจับเป็นก้านแบบนี้ ใช้กุญแจล็อคเปิดปิดธรรมดา

พอเข้ามาในส่วนของห้องพัก พื้นจะเป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ โทนสีอ่อนๆ

เปิดประตูมา มองตรงไป จะเป็นส่วนของโซนทานอาหารที่เชื่อมกับโซนนั่งเล่น

ห้องแบบ 1 Bedroom ของที่นี่ค่อนข้างกว้าง ดังนั้นจะดูใหญ่มาก เมื่อเทียบกับห้อง 1 Bedroom ของคอนโดมิเนียมพักอาศัยในเมือง ด้วยความที่เป็นบ้านพักตากอากาศ เราก็ต้องการพื้นที่ส่วนกลางเยอะๆหน่อย สังสรรได้สะดวก

มองย้อนไปทางขวามือจะเป็นโซนครัว ชุด Pantry ที่ได้จะเป็นตัว L แบบนี้

ด้านบนก็จะมีช่องรองรับสำหรับติกตั้งอุปกรณ์ไฟสำรองมาให้เลย

มาดูฟังก์ชั่นของชุดตู้ครัวด้านบนกันก่อน ภายในจะเป็นแบบนี้

มีพวกสวิทช์เบรคเกอร์ไฟ และระบบสายแลนต่างๆ อยู่ในตู้ ส่วนพวกงาน Fitting ทั้งหมดจะเป็น soft closed

เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ ผนังด้านข้างจะติดแผ่นกระเบื้องมาให้เรียบร้อย เอาไว้กันเลอะเวลาทำครัว สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

Hob & Hood by FRANKE แบบไฟฟ้า 2 หัว

ขนาด Silk อ่างล้างจานไม่ได้ใหญ่มาก ตากอากาศคงไม่ได้ใช้บ่อยนัก

ส่วนชุดด้านล่าง จะมีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟมาให้ มีทั้งบานเปิดและสไลด์ ด้านในก็แบ่งช่องสำหรับเก็บของใช้ไว้เป็นหมวดหมู่

มุมนี้มองย้อนกลับไปทางหน้าห้องให้ดู จะเห็นว่า ส่วนห้องโถงโซนนี้จะได้แอร์แบบฝั่งฝ้านะครับ ตัวห้องของเราฝ้าเพดานจะสูง 2.8 เมตร แต่ส่วนที่มีงานระบบจะเหลือแค่ 2.55 เมตร

ถัดมาดูส่วนของ Living Room กันบ้าง จะเชื่อมต่อกับห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 บาน

พื้นที่ดูที่วี และชั้นวางทีวีมีระยะค่อนข้างยาว เราสามารถตกแต่งสไตล์เราได้ตามที่ชอบ วางโต๊ะกลางใหญ่กว่านี้ก็ได้ และโซฟาจะมีระยะห่างจากผนังห้องนอนประมาณ 40 ซม. พอเดินออกไประเบียงได้

ตัวโซฟา โครงการเค้าวางตัวอย่างแบบ 2 ที่นั่งไว้ให้ดู แต่ถ้าชอบสังสรร มีแขกมา ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้ใหญ่กว่านี้ได้ มีพื้นที่เหลือ

ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร ฟีลนั่งดูก็จะเป็นประมาณนี้ จัดทีวีสัก 40 นิ้วขึ้นไปก็โอเคละ

ที่พื้นข้างๆโซฟาใกล้กับระเบียงมีปลั๊กไฟแบบฝั่งพื้นอยู่ด้วย เผื่อให้มีการใช้งานที่ระเบียงได้

ผมลองเปิดผ้าม่านให้ดูช่องแสงที่ออกไปทางเดินระเบียง เป็นประตูกระจกบานเลื่อนเกือบชนเพดาน วงกบเป็นอลูมิเนียมสีน้ำตาลไหม้

ตัวบานกระจกนั้นตัดแสงได้ด้วย ออกแนวสีน้ำเงินหน่อยๆ

พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างถ้าเทียบกับคอนโดอยู่อาศัยในเมือง พื้จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 ซม. ตัวราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยมีด้ามจับเป็นสแตนเลส มีรางระบายน้ำสำหรับระบายน้ำฝนรอบๆ

ตัวพื้นของระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม.

ตัวรางระบายน้ำ จะมาระบายออกบริเวณเดรนตรงนี้ (ที่เก็บคอมแอร์)

ห้องเก็บคอมแอร์ แยกเป็นสัดส่วนเอาไว้ มีประตูอลูมิเนียมเปิดปิดได้ สำหรับเอาไว้ทำงาน service ส่วนนี้

ภายในมีปลั๊กไฟแบบครอบกันน้ำมาให้อีก 1 จุด

เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง ผมลองเปิดประตูบานเลื่อน 3 ตอนออกให้ดู ว่าจะเป็นแบบนี้

ตัวบานเลื่อน เป็นรางที่พื้นนะครับ แต่ก็ไม่ได้สูงมาก เดินก็ระวังสะดุดนิดหน่อย ระยะปลายเตียงจนมาชิดกับผนังจะเหลือประมาณ 50 ซม.

โครงการเค้าวางเตียงขนาด king size ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างนะ ผนังด้านที่ติดกับระเบียงทั้งหมดจะเป็นกระจก และมีกระจกเข้ามุมด้วย รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ กลางวันสามารถนอนอ่านหนังสือโดยไม่เปิดไฟได้เลย ยิ่งห้องสูงๆเห็น Sea View นี่… ฟิน!

พื้นที่ด้านข้างเตียงมีระยะเหลือห่างจากผนังประมาณ 50 ซม. สามารถวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ มีปลั๊กไฟฝังพื้นไว้ให้ 2 จุด เผื่อนอนชาร์จโทรสับก็ได้

ปลั๊กไฟของ SIEMENS

เวลาเปิดประตูกระจกบานเลื่อนจะเป็นแบบนี้

ไฟภายในห้องนอนเป็นโคมดาวน์ไลท์แบบสี่เหลี่ยม หลอด LED ได้มา 4 จุด

มองย้อนกลับไปในห้อง จะมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอน มีกระจก Sexy Bath มาให้ เผื่อนนอนแช่อ่างมองวิวอออกมาด้านนอก ซ้ายมือมีพื้นที่เหลือให้พอทำตู้เสื้อผ้าแต่ก็ไม่ได้ใหญ่นัก สำหรับมาตากอากาศคงพอเหลือเฟือ

กระจก Sexy Bath ในห้องน้ำถ้าต้องการ Private เวลาแขกไปใครมา ก็ติดม่านเพิ่มเอาแบบนี้ได้นะ

เข้ามาในห้องน้ำกันบ้าง ขวามือจะเป็นอ่างอาบน้ำที่ติดกับโซนอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้ ซ้ายมือเป็นอ่างล้างมือกับสุขภัณฑ์

ตัวพื้นห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 2 ซม.

อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์เป็นของ KOLHER หน้าตาแบบนี้เลยครับ ด้านหลังสุขภัณฑ์มีหน้าต่างรับแสงมาให้ ด้านบนมีพัดลมดูดอากาศของ Panasonic

อ่างล้างมือขนาดเล็กนิดหน่อย ไม่มีตู้เก็บของใต้อ่างมาให้ ซิงก์หินสังเคราะห์ทั้งชุด ด้านหลังผนังทำเป็น Low Wall ยื่นออกมาประมาณ 20 ซม. เอาไว้สำหรับวางของใช้ทั่วไปได้

ลองเปิดม่านให้ดูหน้าต่างรับแสงธรรมชาติในห้องน้ำ เป็นแบบบานกระทุ้ง ด้ามจับล็อคเป็นแบบก้าน

หันมามองส่วนของอ่างอาบน้ำกันบ้าง ขนาดไซส์มาตรฐานยืดขาได้เต็มที่ ของ KOHLER เช่นกัน ผนังที่ติดกันก็ทำเล่นระดับเพื่อให้วางของใช้ได้เช่นกัน

ชุดก๊อกน้ำและฝักบัวหน้าตาแบบนี้

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำ แยกเป็นโซนเปียกชัดเจนด้วยกระจกนิรภัย ง่ายต่อการทำความสะอาด

ตัวพื้นก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 2 ซม. พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.2 เมตร ตัวเดรนระบายน้ำมีฝาปิดให้ดูเรียบร้อย

ชุดฝักบัวที่ได้จะมีสองส่วน ทั้งแบบธรรมดาและแบบ Rain Shower หน้าตาแบบนี้เลือกใช้งานได้ทั้งสองแบบ ส่วนของผนังก็ทำเซาะร่องแบบไว้เช่นกัน สำหรับวางของใช้บริเวณนี้ได้เลย สะดวกดี

ไฟในห้องน้ำนี่ให้มาเยอะมาก ดาวน์ไลท์แบบห้องนอน แต่ได้มา 5 จุด

plan2F

ห้องตัวอย่างถัดไปจะเป็นห้อง 2 Bedroom Type 2F ขนาด 67.50 ตร.ม. เปิดประตูห้องเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องครัวเลย มีห้องน้ำอยู่ด้านตรงข้าม ตัวห้องครัวถูกกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน เข้ามาอีกจะเป็นส่วนของ Living Roomที่เชื่อมกับโซนโต๊ะรับประทานอาหาร ตรงส่วนนี้เป็นห้องโถงหลักที่เชื่อมไปยังห้องนอนเล็ก ห้องนอนใหญ่(มีห้องน้ำในตัว) และระเบียงได้

ประตูหน้าห้องและจุดอื่นๆเหมือนกันทุกห้อง

เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องครัว Pantry เป็นตัว I แบบนี้ อุปกรณ์และวัสดุที่ได้จะเหมือนกับห้องก่อนหน้า ต่างกันที่ฟังก์ชั่นการเก็บของเท่านั้นเอง

ชุดเตาไฟฟ้าที่ดูดควันและอ่างล้างจาน เหมือนกัน แต่ผนังด้านข้างทางขวามือไม่ได้ติดกระเบื้องกันเลอะมาให้

ด้านข้าง Pantry มีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เย็นมาให้ เหลือขนาดนี้ สามารถเลือกตู้เย็นไซส์ใหญ่ได้เลยนะ

มองตรงไปในห้องจะเห็นว่าโซนทานอาหารจะกั้นด้วยประตูกระจกบาน 3 ตอนรางเลื่อน วงกบเป็นอลูมิเนียมสีขาว ผมลองเปิดให้ดูจะเป็นแบบนี้นะ ส่วนบานประตูทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ เดี๋ยวผมพาไปดูห้องน้ำก่อน

เข้ามาในห้องน้ำ ซ้ายมือจะเป็นส่วนของอ่างล้างมือและสุขภัณ์ ตรงกลางจะเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำที่แยกโซนเปียก กั้นด้วยกระจกนิรภัยไว้

ชุดอ่างล้างมือ และกระจกเงา เหมือนกับห้อง 1 Bed

สุขภัณฑ์ก็เหมือนกัน เช่นกัน

ห้องอาบน้ำ ธรณีก่อขึ้นมา 2 ซม. ส่วนของพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1 x 1.1 เมตร ค่อนข้างกว้างอยู่นะ

ชุดฝักบัวเหมือนเดิม ต่างกันที่ผนังจะมีลูกเล่นระดับให้ใช้ใส่ของและวางของเพิ่มมากขึ้น ผนังแบบนี้เราสามารถติดตั้งชั้นกระจกเพิ่มเข้าไปได้ เพื่อที่จะได้ชั้นวางของเป็นสัดส่วน และดูสวยงาม

ออกมาดูส่วนของ Living Room ที่ใช้ร่วมกันกับห้องทานอาหารกันบ้าง ลืมบอกไปพื้นในห้องได้เหมือนกันนะครับเป็นกระเบื้องไวนิล(กระเบื้องยางลายไม้) ทั้งสองส่วนนี้จะได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างออกไปทางระเบียงด้วยนะ(เดี๋ยวเปิดให้ดูด้านล่าง)

โต๊ะรับประทานอาหารจะถูกตั้งอยู่บริเวณหน้าห้อง Master Bedroom ที่จัดวางให้ดูแบบ 4 ที่นั่ง ถ้าจะเพิ่มเป็น 6 ก็ทำได้นะ ส่วนของโซฟาก็เช่นกัน จัดมาแบบ 2 ที่นั่งมีแขนพิง ถ้าจะเพิ่มเป็นแบบ 3 ที่นั่งก็ทำได้แต่อาจจะต้องเลือกแบบไม่มีที่วางแขน จะได้นั่งกันสบายๆหน่อย และมีพื้นที่เหลือเดินด้านข้างได้ไม่อึดอัด

ระยะดูทีวีระหว่างโซฟาประมาณ 2 เมตร

เวลาดูทีวีก็จะประมาณนี้ ตรงนี้สามารถ Build-In ชุดตู้ หรือเชลฟ์วางของได้ตามใจชอบ

มองไปทางขวาจะเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก ที่กั้นกันด้วยรางประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เหมือนกัน

มองขึ้นไปด้านบนจะเป็นส่วนของแอร์แบบฝั่งฝ้า ยาวทั้งห้องแบบนี้ ไฟเพดานที่ได้เหมือนกัน ส่วนของ Living Roomได้มา 6 จุด

ภายในห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียงไซส์ 3 ฟุด มาให้ดู พื้นที่ทางขวาจะเหลือที่วางตู้เสื้อผ้า และอาจจะวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้ ด้านบนจะได้แอร์ของ Daikin 12,000 BTU (อันนี้ได้นะ)

ระยะของพื้นที่ปลายเตียงและด้านข้างเหลือมากพอสมควร

มาดูส่วนของหน้าต่างรับแสงกันบ้าง เป็นกระจกบานเลื่อนออกด้านข้างแบบนี้ ห้องนี้บานหน้าต่างจะได้แบบ Floor to Ceiling นะ

ตัวของระเบียงจะกว้างกว่าห้องแบบ 1 Bed กว้างประมาณ 1.3 เมตร การใช้งานและรูปแบบวัสดุเหมือนกัน

มีห้องเก็บคอมแอร์แยกเป็นสัดส่วน ของห้อง 2 bed ห้องเก็บจะขนาดใหญ่หน่อย และสามารถใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ด้วยนะ

มาดูส่วนของห้อง Master Bedroom กันบ้าง ห้องขนาดไม่ได้ใหญ่มากถ้าเทียบกับคอนโดแบบอยู่อาศัย เพราะรูปแบบคอนโดตากอากาศจะเน้นให้ห้องส่วนร่วม ห้องนั่งเล่น ที่กิจกรรมร่วมกันมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าอยู่แล้ว

เปิดประตูห้องนอนมาจะเจอกับห้องน้ำทางซ้ายมือ และเหลือพื้นที่ด้านข้างที่สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้

ระยะปลายเตียงไปจนถึงผนังประมาณ 45 ซม. ถ้าเราทำชั้นยื่นออกมาแบบห้องตัวอย่าง จะทำให้พื้นที่เดินเหลือน้อยลงไปอีก ผมแนะนำว่าถ้าเหลือพื้นที่น้อยแค่นี้ให้ทำทีวีแบบแขวนผนังไปเลยดีกว่าครับ

ส่วนระยะด้านข้างเตียงฝั่งนี้ จะเหลือค่อนข้างมากหน่อยคือประมาณ 70 ซม. สามารถวางโต๊ะหัวเตียงใหญ่กว่านี้ก็ได้นะครับ บริเวณตรงนี้เป็น Bay Window ด้วยนะ ทำให้ห้องดูโปร่ง และเห็นเชื่อมไปถึงส่วนของระเบียงด้วย พวกวงกบหน้าต่างจะเป็นอลูมิเนียมสีน้ำตาลแบบนี้นะ

เวลานอนดูทีวีระยะประมาณ 2.2 เมตร อย่างที่บอกไปแนะนำแบบแขวนผนังไปเลย และก็เลือกที่แขวนแบบปรับองศาได้จะดีมาก

ส่นของหน้าต่างรับแสงเนี่ยทำออกมาแปลกนิดนึงนะครับ เพราะจะเป็นบานปิดตายเกือบทั้งหมด มีเปิดได้แค่บานเดียว(ที่มีก้านจับ) เป็นบานเปิดออกแบบกระทุ้งครับ แต่ผมชอบที่มันเป็นแบบ Floor to Ceiling นี่แหละ รับแสงได้เต็มที่ ดูวิวได้ง่ายด้วย

มองย้อนกลับไปฝั่งทางประตูบ้าง จะเห็นส่วนพื้นที่ตู้เสื้อผ้า และประตูห้องน้ำครับ เราไปดูห้องน้ำกันบ้าง

เข้ามาในห้องน้ำแล้ว ฟังก์ชั่นและอุปกรณ์เหมือนก่อนหน้า

ตัวพื้นลดระดับลงมา 2 ซม.

ว่าแล้วยังไม่ได้ซูมให้เห็นอ่างล้างมือแบบชัดๆ วัสดุหินสังเคราะห์ทั้งชุด หน้าตาแปลกดีนะ 😀

ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาตรฐานโครงการ แต่ห้องนี้จะได้พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างมากกว่าห้องอื่นหน่อย พื้นที่ประมาณ 1 x 1.4 เมตร

ชุดฝักบัว และผนังเซาะร่องเหมือนกัน

ไฟในห้องน้ำได้โคมดาวน์ไลท์ 3 จุดพร้อมพัดลมดูดอากาศ Panasonic

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 April 2015

  • 2 Bed อาคาร A ชั้น 4 Type 2F เนื้อที่ 68.04 ตร.ม. ราคา 9.059 ล้านบาท หรือ 133,142 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed อาคาร A ชั้น 6 Type 1G เนื้อที่ 40.76 ตร.ม. ราคา 5.333 ล้านบาท หรือ 130,839 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bed อาคาร A ชั้น 25 Type 2F เนื้อที่ 68.38 ตร.ม. ราคา 9.745 ล้านบาท หรือ 142,512 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed อาคาร A ชั้น 28 Type 1G เนื้อที่ 40.83 ตร.ม. ราคา 5.689 ล้านบาท หรือ 139,334 บาท/ตร.ม.
  • 3 Bed อาคาร A ชั้น 28 Type 3A เนื้อที่ 119.31 ตร.ม. ราคา 17.673 ล้านบาท หรือ 148,127 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.8 เมตร (ส่วนที่มีงานระบบเหลือ 2.55 เมตร)
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 50,000 – 200,000 บาท
  • ทำสัญญา 5%
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลอย่างพัทยา นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ เป็นหนึ่งในสามหาดขึ้นชื่อของเมืองพัทยา ไม่แพ้หาดพัทยาและหาดจอมเทียน เป็นทำเลที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาวดังๆอย่าง Pullman และ Centara Mirage ซึ่งบริเวณนาเกลือ-วงศ์อมาตย์นั้น ในเวลากลางคืนจะค่อนข้างเงียบสงบกว่าหาดพัทยา เหมาะสำหรับการเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่า ต่างจากบริเวณที่มีนักท่องเที่ยว แสงสีเสียงในยามกลางคืนอย่างถนนเลียบหาดพัทยาและพัทยาสายสอง ช่วงพัทยาเหนือ-พัทยากลาง หรือแม้กระทั่งหาดจอมเทียน

การเดินทางจากกรุงเทพฯมาพัทยาทำได้สะดวกมากถึงมากที่สุด วิ่งได้สองเส้นทางหลักๆก็คือทางบางนา-ตราดหรือสุขุมวิท ที่จะผ่านชลบุรี-บางแสน-ศรีราชา-พัทยา กับอีกทางหนึ่งซึ่งจะเร็วกว่ามากก็คือทาง Motorway หรือทางหลวงหมายเลข 7 ซึ่งเส้นทางหลังนี้ทีมงานใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆไม่ถึงสองชั่วโมงก็มาถึงพัทยากันแล้ว มาออกระหว่างพัทยาเหนือกับพัทยากลาง

ทัศนียภาพของบ้านปลายหาดนั้นค่อนข้างดี ทุกห้อง กล่าวคือห้องทิศเหนือจนไปถึงห้องมุมตะวันตกห้องแรกๆจะได้ Clear View เป็นทะเลสวยงามและท่าเรือแหลมฉบังที่จะเปิดไฟสว่างไสวในเวลากลางคืน แม้ทิศตะวันตกบางส่วนจะถูกบังด้วยตึก The Palm แต่ก็ไม่เห็นเต็มสายตา ยังสามารถมองวิวเฉียงๆไปได้ อีกหนึ่งจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านปลายหาดก็คือวิวของปราสาทสัจธรรม ที่จะมองเห็นจากยูนิตทิศตะวันออก (หรือยูนิตทิศเหนือแต่ใช้การมองจากระเบียง) ซึ่งเป็นจุดที่มีความโดดเด่นต่างจากคอนโดมิเนียมโครงการอื่นๆ

แบบห้องพักของบ้านปลายหาดถูกพัฒนามาจากคอนโดมิเนียมที่หัวหิน ซึ่งแสนสิริได้พัฒนาและเปิดขายไปหลายต่อหลายโปรเจคแล้ว แบบห้องจึงทำออกมาได้ดูดีมาก เหมาะกับการพักตากอากาศ มีการใช้บานเลื่อนมาต่อเชื่อมพื้นที่ ทำได้ดี

วัสดุของบ้านปลายหาดใช้ของที่ดีเป็นส่วนใหญ่ พื้นไวนิล, วงกบกรอบหน้าต่างซาฮาร่า, กระจกบานใหญ่มาก, ราวกันตก Tempered Glass รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำและห้องครัวที่ดูดีเกือบทุกชิ้น เมื่อเทียบกับราคาถือว่าจัดมาให้ได้โอเคเลย

เรามาพักผ่อนกับบ้านตากอากาศ ก็ต้องการบ้านพักที่มีความหนาแน่นประมาณหนึ่ง ไม่มากจนเกินไป ไม่ต้องไปแย่งกันกินแย่งกันใช้จริงไหมครับ รอบนี้ความหนาแน่นของบ้านปลายหาดจัดว่ากลางๆค่อนไปทางสูง เพราะเป็นตึกสูง 31 ชั้นที่มีจำนวนห้องสูงสุด 14 ห้องต่อชั้น มีอัตราส่วนลิฟท์ประมาณ 115 ต่อ 1 ตัว และมีห้องทั้งหมดประมาณ 300 กลางๆ บนพื้นที่ 4 ไร่เศษ

สุดท้ายมาดูสาธารณูปโภค ที่บ้านปลายหาดมีจัดให้เยอะพอสมควร สระว่ายน้ำสองสระ แยกสระเด็กที่ชั้น G และ Sky Pool ที่ชั้น 30 ทางเดิน Landscape ที่เป็นน้ำตกไปจนถึงหาด มีลิฟท์ทางลาดสำหรับผู้ใช้รถเข็น หรือขากลับเดินขึ้นโครงการมาให้, Lobby ใหญ่, ห้องสตีม รวมไปถึงสวนสาธารณะรอบโครงการและบริเวณชั้น 6 ของอาคารจอดรถ

 

Judgement

สำหรับที่อยู่อาศัยแบบตากอากาศนี้ ความคุ้มค่าทางอารมณ์ และความพึงพอใจส่วนบุคคลมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นทางทีมงานเห็นว่าจะไม่มีการให้คะแนนในโครงการลักษณะนี้ครับ

 

BOTTOM LINE

โครงการ BAAN PLAI HAAD Pattaya เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาบ้านพักตากอากาศที่เมืองพัทยา ชอบบ้านพักวิวทะเลทิศเหนือ หรือวิวที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างปราสาทสัจธรรม  อยากได้ความสงบระดับนึงไม่ถึงกับต้องคึกคักแบบพัทยา เดินไปเล่นน้ำได้ไม่ไกลและชอบใช้ส่วนกลางเยอะๆ มีงบประมาณเพียงพอตั้งแต่ 5 – 18 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 35,000 – 126,000 บาท

 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ