FB-Cover2-3-4

รีวิวฉบับที่ 848 … สวัสดีเจ้า วันนี้อ้ายจะพาไปแอ่วรีวิวคอนโดภาคเหนือที่เชียงใหม่ สไตล์โมเดิร์นผสมล้านนากันบ้าง โครงการนี้ชื่อว่า ดีเวียง สันติธรรม จากแสนสิรินั่นเอง เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ที่สูงแค่ 5 ชั้น ตัวโครงการอยู่ติดถนนหลักอย่างหัสดิเสวี และติดถนนซอยอีกทั้ง 3 ด้าน และถือว่าอยู่ในตัวเมืองที่ใกล้กับมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และใกล้ถนนชื่อดังอย่างนิมมานเหมินทร์อีกด้วย เดี๋ยวไปดูกันเลย

 

Fact @ 26 May 2015

  • D’Vieng Santitham (ดีเวียง สันติธรรม)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  •  SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่บน ถนนหัสดิเสวี ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • คอนโด Low Rise 5 ชั้น 2 อาคาร  264 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิตที่อาคาร A , B ชั้น 3 – 5
  • ที่จอดรถประมาณ 78 คันคิดเป็น  30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 32%
  • ที่ดินประมาณ 3-2-58 ไร่
  • Studio 29.98 – 30.36 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.30 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 37.40 – 37.65 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.62 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 60.00 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.67 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.30 ล้านบาทหรือประมาณ 42,819 บาทต่อตารางเมตร
  • http://www.sansiri.com/condominium/dvieng_chiangmai/th/
  • สำนักงานขาย : 053-345-444
  • Call Center : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 18.803461,98.98169

map-zoom

แผนที่จากทางโครงการครับ จะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนหัสดิเสวี ใกล้กับห้างเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว และมีทางลัดไปออกถนนช้างเผือกได้

แผนที่ระยะไกลมาก

มาดูแผนที่ระยะไกล ให้เห็นภาพรวมของเชียงใหม่กันสักนิดนะครับ จากที่เห็นในแผนที่ตัวโครงการนั้นถือว่าอยู่ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่ใกล้กับบริเวณถนนช้างเผือกและถนนห้วยแก้วนะ ในแผนที่แสดงสถานที่จุดสำคัญต่างๆเอาไว้   มีทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาด และ Hypermarket โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย มาขึ้นกันแน่นไปหมด ที่เป็นแบบนี้ส่วนนึงเป็นเพราะตัวเมืองด้านในมีความหนาแน่นค่อนข้างสูง

แผนที่ระยะไกล

Zoom In เข้ามานิดนึง ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนหัสดิเสวี ซึ่งเป็นแหล่งอยู่อาศัยที่ถือว่าอยู่ในตัวเมือง เดินทางไปไหนค่อนข้างจะสะดวก ใกล้กับคแยกห้วยแก้ว จะไปถนนนิมมานเหมินทร์ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย หรือสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ก็ง่าย หรือจะลัดเลาะไปออกถนนช้างเผือกบริเวณนั้นมีตลาดธานินท์ และมุ่งหน้าไปถนนซูเปอร์ไฮเวย์และถนนโชตนาก็ได้นะครับ

temple map

สี่เหลี่ยมที่เป็นเหมือนไข่แดงของเชียงใหม่ จะมีคูเมืองล้อมรอบตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ภายในของ กำแพงเมืองเชียงใหม่ ภายในเต็มไปด้วยวัดมากมาย ปัจจุบันจะมีประตูเมืองเข้าออก 5 ประตู แจ่งที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือแจ่งหัวริน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ(ซ้ายบน)

แผนที่การเดินทาง1

การเดินทางในวันนี้ผมจะเริ่มต้นจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ออกจากสนามบินเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปยังสามแยกถนนมหิดล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมหิดลและมุ่งหน้าตรงอย่างเดียว จนไปถึงถนนรอบคูเมือง ก็ยังตรงไปจนถึงกาดสวนแก้ว และจะเจอกับสี่แยกห้วยแก้ว ตรงข้ามไปเลยเป็นถนนหัสดิเสวี จากสี่แยกประมาณแค่ 900 เมตรก็จะถึงที่ตั้งของโครงการแล้ว

เริ่มต้นจากท่าอากาศยานเชียงใหม่

พอออกจากสนามบินแล้วตรงไปสามแยกถนนมหิดล บริเวณนี้ผ่านหน้ากองบิน 41

ตรงไปตามทางเรื่อยๆ บริเวณนี้เป็นถนน 2 เลนครับ

มาถึงทางแยกแล้วให้ชิดซ้ายสุดเอาไว เตรียมเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนมหิดลนะ

พอเลี้ยวมาปุ๊ป ซ้ายมือจะเจอกับมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ทีนี้ตรงยาวอย่างเดียวเลย

ซ้ายมือเป็นบจก.นิยมพานิช ถนนช่วงนี้จะเป็นถนนคอนกรีต 3 เลน ค่อนข้างวิ่งสบาย

ขวามือผ่านสวนกาญจนาภิเษก

9ซ่อม

ตรงมาช่วงนี้ถนนที่เราวิ่งจะเปลี่ยนเป็นถนนบุญเรืองฤทธิ์แทนแล้วนะครับ แสดงว่าอยู่รอบคูเมืองเชียงใหม่แล้ว

บริเวณถนนรอบคูเมือง ก็จะมีซุ้มประตูตกแต่งอยู่ตลอดทางให้เห็น

ถัดมาจะเจอกับแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายไปถนนสุเทพที่สามารถไปรพ.มหาราชนครเชียงใหม่, รพ.ประสาทเชียงใหม่ ถนนนิมมานเหมินทร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาถนนอินทรวโรรส จะไปเข้าตัวเมืองเชียงใหม่บริเวณประตูสวนดอก  ส่วนเราก็ตรงไปอีกครับ

ผ่านหน้ารพ.เชียงใหม่ราม

ตรงมาจนถึงบริเวณสี่แยกนี้ ที่ซ้ายมือเป็นถนนห้วยแก้ว ขวามือเป็นถนนมณีนพรัตน์ ตรงข้ามไปเป็นถนนหัสดิเสวี เรารอไฟเขียวแล้วตรงข้ามไปเลยครับ

ตอนนี้เราอยู่บนถนนหัสดิเสวีที่เป็นถนนผ่านหน้าโครงการแล้วนะครับ แต่จากแยกเมื่อสักครู่ต้องตรงไปประมาณ 900 เมตร เรามาดูสภาพแวดล้อมก่อนถึงกันหน่อย

ภายในก็จะมีร้านอาหารริมถนนเป็นร้านเล็กๆแบบนี้ค่อนข้างเยอะ มีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ ร้านไอติม สลับกับบ้านพักอาศัยทั่วไป

บริเวณนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทะลุโผล่ที่วัดสันติธรรมได้ครับ ริมทางซ้ายขวาก็จะมี minimart และแนวร้านค้าอาคารพาณิชย์ทั่วไป

มาถึงประมาณครึ่งทางจะเจอกับสี่แยกไฟแดง เลี้ยวไปไหนตามภาพเลยนะครับ ส่วนเราตรงต่อไปเลยจ้า

กลับมาเป็นย่านตึกแถวร้านค้าทางฝั่งขวามือ แต่ดูเหมือนกลางวันจะเงียบเหงานะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นที่โครงการแล้วครับ แต่ว่าโครงการฝั่งที่อยู่ติดถนนหัสดิเสวี ไม่ได้ทำทางเข้า-ออก ของรถเอาไว้ให้นะครับ ต้องเลี้ยวเข้าไปเข้าอีกฝั่งนึง ฝั่งนี้ใช้เข้าออกได้แค่เดินเท้าโดยต้องใช้ Keycard ลูกบ้านแตะเปิดประตูครับ

มาเลี้ยวขวาที่ซอย 8 เพื่อจะไปเข้าโครงการ

สภาพถนนซอยหัสดิเสวี 8 เป็นซอยลาดยางกว้างประมาณ 6 เมตรมีท่อระบายน้ำปกติ ซ้ายมือจะเป็นชุมชนบ้านพักอยู่อาศัย 1-2 ชั้นสลับกันไป (คือวิวทิศเหนือของโครงการนั่นเอง)

วิ่งมาจนถึงสี่แยกเล็กๆ ให้เราเลี้ยวขวา

เลี้ยวมาแค่นิดเดียว แล้วก็ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับผม

แผนที่ระยะประชิดดีเวียง**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

จากแผนที่ระยะใกล้จะเห็นว่าโครงการถูกล้อมไปด้วยถนนทุกด้านเลย มาเริ่มจากถนนหลักของเส้นนี้ก่อน คือทิศตะวันตกจะติดกับถนนหัสดิเสวีและเป็นพื้นที่ของโรงเรียนโสตศึกษาฯ ที่มีอาคารเรียนสูงไม่เกิน 3 ชั้น ด้านบนทิศเหนือติดกับซอยหัสดิเสวี 8 ที่มีแนวบ้านพักอาศัย 1 ถึง 2 ชั้นสลับกันไป ส่วนด้านทิศตะวันออกบริเวณทางเข้าหลักของโครงการจะติดกับซอยหัสดิเสวี 9 ตรงข้ามจะมีอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นอยู่ สุดท้ายทิศใต้จะติดกับซอยหัสดิเสวี 6 ตรงข้ามจะเป้นบ้านและหอพักอาศัยที่มีความสูงประมาณ 2-4 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • กาดธานินทร์ 350 ม.
  • ริมปิง ซูเปอร์สโตร์ 750 ม.
  • มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ 750 ม.
  • รพ.เชียงใหม่ราม 1.1 กม.
  • Tesco Lotus (ช่วงสิงห์) 1.6 กม.
  • เซ็นทรัลกาดสวนแก้ว 2 กม.
  • รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ 2.1 กม.
  • ถนนนิมมานเหมินทร์ 2.2 กม.
  • ท็อปส์ เดลี่ 2.6 กม.
  • มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4.2 กม.
  • กาดวโรรส 4.6 กม.
  • สะพานนวรัฐ 5 กม.
  • สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ 6.2 กม.
  • กาดรวมโชค 6.7 กม.
  • วัดพระธาตุดอยสุเทพ 15.4 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดู Ground แปลน ชั้น 1 กันดีกว่า โครงการถูกล้อมด้วยถนนสี่ด้าน ทางเข้าออกของรถ จะอยู่ติดกับซอยหัสดิเสวี 9 เข้ามาในโครงการ ซ้ายและขวามือจะเป็นส่วนของที่จอดรถใต้อาคาร ที่จอดรถประมาณ 78 คันคิดเป็น  30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 32% ตรงมาใจกลางโครงการจะเจอกับศาลาทรงล้านนา ที่เป็นทางเชื่อมสู่อาคารทั้ง 2 ทางซ้ายมือจะเป็นอาคาร A และขวามือเป็นอาคาร B ใจกลางระหว่างอาคารจะเป็นส่วนของสระน้ำ และถัดมาเป็นศาลาห้อง Fitness และห้องน้ำอาบน้ำในตัว อ้อ.. ตัวอาคารนี่เป็นรูปตัว I นะครับ ทำให้ Corridor ข้างในก็เป็นทางตรงเส้นเดียวเหมือนกับทรงอาคาร จำนวนห้องพักอาศัยของชั้น 1 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต/อาคาร

Plan ของชั้น 2 เพิ่มเติมจากส่วนที่ชั้น 1 เป็นที่จอดรถด้านบนจะเป็นห้องพักอาศัยแทนและก็มีพื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้ด้วย นั่นคือ Roof Garden ที่ทางเข้าอยู่ติดกับส่วนของ Double Volume Lobby ชั้นนี้จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิต/อาคาร

ชั้น 3-5 แทบไม่ต่างอะไรกับชั้น 2 เลย แต่จะเพิ่มจำนวนห้องมาด้วย 1 ห้อง กลายเป็นจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต/อาคาร

ป้ายโครงการด้านหน้า เป็นสแตนเลส ตัดกับอิฐมอญสีส้ม

รั้วกำแพงด้านหน้าโครงการจะมีทั้งส่วนที่เป็นอิฐมอญสลับกับคอนกรีตทึบทาสีเทาสูงประมาณ 2.5 แมตร และก็รอบๆโครงการที่เหลือจะเป็น รั้วครึ่งทึบครึ่งโปร่งกับเหล็กพ่นสีดำ สูงประมาณ 2 เมตรครับ

ด้านหน้าทางเข้าโครงการ มองเข้าไปจะเห็นว่าพื้นของโครงการถูกยกสูงกว่าระดับถนนซอยด้านหน้าเล็กน้อย มี Gate ไม้กระดก 1 จุด ที่ทางเข้า ทางขวามือพอเหล์อพื้นที่ให้เดินเข้า-ออก หรือมอเตอร์ไซต์ผ่านได้

ทางซ้ายมือเป็นส่วนของป้อมรปภ. คอยเช็คตรวจสอบ 24 ชม. ด้านบนมี CCTV ด้วย

ส่วนทางขวามือด้านหลังกำแพงจะเป็นที่ตั้งศาลพระภูมิแก่โครงการนะฮะ รอบๆศาลพระภูมิก็จะปลูกเป็นแนวต้นไม้บังสายตาเอาไว้ครับผม

เข้ามาในโครงการแล้ว อาคารซ้ายและขวาเป็นส่วนห้องพักอยู่อาศัยที่รูปแบบอาคารเหมือนกันหันหน้าชนกัน ตรงกลางทางเดินรถจะเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายสีออกแนวกระเบื้องเผา มีลูกศรบอกทางเดินรถชัดเจน

ที่จอดรถสามารถจอดได้ใต้อาคารทั้งสองฝั่ง ซ้ายและขวา ส่วนของด้านบนที่จอดรถชั้น 2 จะมี Garden เป็น Facility ให้ลูกบ้านมาเดินเล่นได้

มาดูฝั่งซ้ายกันก่อนครับ ความสูงของที่จอดรถสูงประมาณ 2.10 เมตร

ลักษณะของที่จอดรถก็ง่ายๆครับ ทางโครงการทาสีช่องจอดเอาไว้ชัดเจน มีไฟบนเพดานเป็นหลอดนีออนธรรมดา

ซ้ายมือเป็นส่วนของห้องงานระบบ และทางออกบันไดหนีไฟครับ

บริเวณนี้เป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ครับ ยังไม่มีการทาสี แบ่งเขตช่องจอดแน่นอน เพราะว่าลูกบ้านยังเพิ่มเริ่มเข้ามาอยู่นิดหน่อย

รั้วกำแพงด้านนอกโครงการจริงๆจะเป็นรั้วเหมือนด้านหน้านะ เป็นแบบครึ่งทึบครึ่งโปร่งสูงประมาณ 2 เมตร แต่ภายในโครงการเค้าก็ปลูกต้นไม้เพิ่มเอาไว้อีกชั้นบังแนวสายตาจากภายนอก และเพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกหน่อย

มาดูที่จอดรถใต้อาคารอีกฝั่งกันบ้าง

ฝั่งนี้เข้ามาจะเห็นว่า โครงการติดต่อมีตู้ ATM ไว้ให้ด้วย อันนี้ผมว่าดีกับลูกบ้านนะครับ กลางคืนดึกๆต้องกดเงินใช้เงิน หรือทำธุรกรรมการเงิน ไม่ต้องออกไปข้างนอก ปลอดภัยดีด้วยใต้ตึกเอง

เดินอ้อมมาดูด้านหลังที่จอดรถ เห็นแนวกำแพงบ้าง ตรงจุดนี้เห็นว่ามีประตูที่ทำเอาไว้ออกข้างนอกฝั่งซอยหัสดิเสวี 8 ได้ แต่เห็นว่าคงจะไม่เปิดใช้แล้วครับ คล้องแม่กุญแจปิดตายไปเลย

ซ้ายมือเป็นส่วนของห้องเก็บขยะ ทางโครงการก็ทำแยกออกเป็นห้องๆนะครับ ดีมากเลยทำการแยกขยะเนี่ย

ห้องที่แยกทั้งหมดสามห้องซ้ายมือห้องขยะอันตราย ตรงกลางห้องขยะเปียก และขวามือห้องขยะแห้ง

ส่วนของทางเดินด้านหลังห้องชั้น 1 ก็มีปูหินทางเดินไว้อยู่นะครับ และมีต้นไม้รอบๆด้วย รอต้นไม้ออกใบเยอะๆ ก็น่าจะร่มรื่นดี

อ้อ ด้านหน้าห้องระบบน้ำ และบันไดหนีไฟ จะมีพวกชุดกันอัคคีภัยติดตั้งไว้บริเวณนี้นะ

ลองเปิดให้ดูภายในบันไดหนีไฟ พื้นเป็นปูนเปลือยขัดมัน มีหน้าต่างช่องแสงระหว่างชั้น

กลับมาที่บริเวณตรงกลางโครงการกันบ้าง จะเห็นศาลาอยู่ตรงกลางพอดี จุดนี้จะเป็นทางเชื่อมเพื่อเข้าสู่โถง Lobby ทั้งอาคาร A และอาคาร B นะ

ภายในศาลาพื้นปูด้วยกระเบื้องเคลือบ ภายในมีเก้าอี้ไม้ให้นักพักอยู่หลายจุด

รอบๆก็ก่ออิฐและคอนกรีตทำเป็นเก้าอี้นั่งเล่นอีกส่วน

ด้านนอกของศาลาถูกล้อมรอบไว้ด้วยบ่อน้ำตกแต่งที่ปูกระเบื้องโมเสคแบบนี้

มองตรงไปยืนจากศาลา จะเห็นส่วนของสระว่ายน้ำ และศาลาอีกจุดหนึ่งนั้นเป็นห้อง Fitness และห้องน้ำครับ

สระว่ายน้ำพร้อมระบบ Jacuzzi ขนาด 8.5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร ทางซ้ายมือมีน้ำพุเล็กๆ 1 จุด

เดินอ้อมมาทางขวา จะเห็นส่วนของ จากกุชชี่ เอาไว้มานั่งพักผ่อนได้

บันไดทางขึ้นสระ ชานบันไดค่อนข้างใหญ่และลบมุมให้โค้งมน

ด้านข้างจะมีติดระเบียบของการใช้สระว่าย และวันที่การตรวจเช็คค่าน้ำและสภาพสระเอาไว้

มาดู Fitness กันบ้าง งานออกแบบภายนอกทำเป็นแบบคอนเซ็ปท์ เสน่ห์เวียงเชียงใหม่ แปลกตาสำหรับคนกรุงเทพแน่นอน

ตัวอาคาร Fitness ยกสูงขึ้นเสมอกับผิวระดับของสระว่ายน้ำครับ จะได้ออกกำลังกายดูวิวสระไปในตัว บันไดทางขึ้นเป็นทรายล้าง

ภายในห้อง Fitness ขนาดปานกลางไม่ใหญ่ ไม่เล็กนะครับ วางชุดเครื่องเล่นไว้ประมาณ 7 ชิ้น

ห้อง Fitness นี่ถูกล้อมด้วยกระจก Floor to Ceiling 3 ด้านเลยนะครับ แบบนี้ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง สบายตา ไม่อึดอัด และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ข้อเสียของมันก็คือจะร้อนหนักเป็นพิเศษเท่านั้นเอง (^_^)

ทางโครงการเค้าเลยจัดแอร์ฝังฝ้า 4 ทิศ เอาไว้ให้ 2 ตัวเลย และก็ไฟในห้อง Fitness เยอะมากครับ กลางคืนไม่ต้องกลัวแสงสว่างไม่พอเลย

ด้านหลังห้อง Fitness เชื่อกับห้องเก็บของแม่บ้าน และห้องน้ำชาย หญิง ครับ

มีติดป้ายบอกระเบียบการใช้ห้องออกกำลังกายไว้

เข้ามาดูในห้องน้ำชายกันบ้าง

มีชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ 2 จุด มีโถยืนปัสสาวะให้ 1 ตัว ผนังติดกระจกเงาเต็มบานขนาดใหญ่เอาไว้

มีส่วนของห้องน้ำโถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำ

ส่วนของคนที่ว่ายน้ำ มีตู้ล็อกเกอร์เก็บของให้ใช้ครับ

เดินออกมาจากห้อง Fitness ด้านหลังจะเป็นส่วนที่ติดกับถนนหัสดิเสวี ซึ่งส่วนนี้ทางโครงการให้ใช้เข้า-ออกได้แค่เดินเท้านะครับ มีประตูเหล็กไว้แน่นหนา สูงประมาณ 2 เมตรกว่า

ต้องใช้ Keycard ลูกบ้านในการเปิดครับผม

เดินกลับไปทางศาลา จะเห็นทางเดินรอบๆสระ เป็นทรายล้างแบบนี้ และห้องที่อยู่ชั้น 1 วิวสระ จะมีแนวพุ่มไม้เตี้ยๆคั่นอยู่

เอาละ เข้ามาดูภายใน Lobby กันบ้าง เข้ามาถึงจะเห็นว่า มันโปร่งงโล่งง เพราะว่าเป็น Double Volume นั่นเอง ด้านบนมีโคมไฟเก๋ๆ สไตล์ล้านนา

หันทางซ้ายนิดหน่อย จะเห็นว่า Lobby ค่อนข้างกว้างนะ มีโซฟาและให้นั่งอยู่ประมาณ 4 จุด

ห้องสำนักงานนิติบุคคลอยู่ติดกับห้องจดหมาย Lobby อาคาร B นะครับ

ห้องจดหมาย ติดกับผนังกระจก กลางวันได้แสงธรรมชาติด้วย

พอจะเข้าส่วนห้องพักอาศัยต้องใช้ Keycard แตะเพื่อประตูอีกตอนนะครับ

เข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนของ โถงลิฟท์ ตรงกับประตูที่แตะ Keycard เข้ามาเลย ฝั่งตรงข้ามประตูลิฟท์ เป็นห้องงานไฟฟ้านะ

หน้าตาภายในลิฟท์ มีราวจับสแตนเลสให้ด้วย

ลิฟท์ของ SIGMA แตะแบบล็อกชั้น

ด้านหน้าลิฟท์จะมีไฟฉุกเฉินทางเดินไว้ให้เผื่อเวลาไฟดับฮะ และก็แต่ละชั้นจะมีเพลท Floor Plan สีทองแบบนี้แสดงเอาไว้

ด้านหน้าโถงลิฟท์ชั้น 2

กลับหลังหันไปจะเจอกับส่วนที่เป็นผนังกระจก Double Volume จาก Lobby ชั้นล่าง

มองลงไปข้างล่างครับ แดดกลางวันน่าจะร้อน ต้องดึงม่านลง

ทุกชั้นจะมีประตูทางหนีไฟและตู้กันอัคคีภัยแบบนี้อยู่ที่โถงทางเดินนะ

โถงทางเดินกว้างประมาณ 1.5 เมตร เป็นทางเดินรูปตัว I ตามทรงอาคาร  ไฟเพดานมีมาให้เยอะดี

ส่วนของชั้น 2 มีทางออกไป Roof Garden ที่เป็นพื้นที่ facility ส่วนนี้ไม่ต้องใช้ Keycard ครับ

เดินออกมาจะเป็นทางเดินเล็กๆปูด้วยหญ้าสลับกับหินแต่งสวน

เดินมาอีกหน่อย จะมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อนได้ คนที่เลือกห้องชั้น 2 บริเวณนี้จะได้เห็นสีเขียวของต้นไม้ส่วนกลางนะ แต่ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวไปเล็กน้อย ถ้าใครมาเดินเล่นตอนเย็น

มองไปที่ถนนทางเข้าด้านหน้าโครงการ

ฝั่งตรงข้ามอาคาร A ก็เป็นสวนแบบเดียวกันครับ

มองลงไปที่ศาลาตรงกลางโครงการ มุมนี้สวยครับ 😀

CCTV ที่นี่ให้มาพอสมควรเหมือนกันนะครับ เห็นตามมุมหลายจุดทีเดียว

ตามมุมกำแพงก็มีนะครับ สอบถามจากเจ้าหน้าที่โครงการแจ้งว่ามีทั้งหมดประมาณ 16 ตัว

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำพร้อมระบบ Jacuzzi ขนาด 8.5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดปานกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ , Roof Garden ชั้น 2
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 264 :  4
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 66 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 66 : 1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถช่องจอด 78 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 32%
  • ระบบ CCTV 16 ตัว/ Access Card

 


Product Walkthrough

plan_stu

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูห้องแรก เริ่มจากห้อง Studio กันก่อนครับ ขนาด 30.18 ตร.ม. เข้ามาในห้องจะเป็น Living Room ที่วางโต๊ะทานข้าวไว้ให้แบบ 2 ที่นั่ง โซฟาก็ 2 ที่นั่งเช่นกัน ห้องนอนถูกกั้นไว้ด้วยบานประตูเลื่อน ห้องนอนไม่มีระเบียงนะครับ แอร์ที่ได้ 1 ตัวจะอยู่ในห้องนอนนี้นะ กลับออกมาห้องนั่งเล่นจะมีประตูทางเข้าส่วนของห้องครัวและห้องน้ำ ห้องน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ และระเบียงออกทางโซนครัวครับ ห้องของจริงนี้ขายแบบ Fully Furnished คือเรียกว่าได้ทุกอย่างเลยครับ แม้กระทั่งผ้าม่านด้วยนะ ยกเว้นพร็อพตกแต่งจุกจิก และฟูกเตียงนอนเท่านั้นเอง

ประตูหน้าห้องเป็นบานไม้ลูกฟักเซาะร่องสีขาว วงกบแบบเดียวกัน ประตูติดตาแมวมาให้ และให้ Digital Door Lock ของ Samsung มาด้วย

Digital Door Lock ของ Samsung ที่ใช้ได้ทั้งรหัส และ Card แตะครับ ตัวเปิดเป็นแบบก้านจับ

พื้นในห้องจะเป็นลามิเนตหนา 8 mm. นะครับ ธรณีประตูจบด้วยลามิเนตเช่นกัน

เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนของ Living Room ก่อน โครงการเค้าวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งเอาไว้ และมีโต๊ะกลางเล็กๆเอาไว้ให้ตัวนึง เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้เกือบทั้งหมดเป็นของ Index นะครับผม

โซฟานี่แบบ 2 ที่นั่ง เวอร์ชั่นอบอุ่นและรักกันมากนะ ยิ่งถ้าคนตัวใหญ่จะรักกันมากเป็นพิเศษเลย ด้านข้างโซฟา เหลือพื้นที่สำหรับวางโคมไฟแนวตั้ง และเสียบปลั๊กได้ อีกข้างเป็นพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร

โต๊ะรับประทานอาหาร แบบ 2 ที่นั่ง ไซส์สี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ แต่มีพื้นที่เหลือให้ดึงเ้าอี้ออกได้ปกตินะ

มองไปทางชั้นวางทีวี เฟอร์นิเจอร์ได้ชุดตามนี้เลยครับ ระยะดูทีวีห่างประมาณ 2.3 เมตร ที่เห็นประตูกระจกพ่นฝ้าซ้ายมือนั่นคือประตูไปโซนครัวครับ เดี๋ยวค่อยมาพูดถึงอีกที

คัทเอาท์ เบรคเกอร์ไฟอยู่ที่หัวมุมด้านบนห้อง ของ Bticino

สวิทช์และปลั๊กไฟในห้องหน้าตาแบบนี้ ของ Bticino เช่นกันครับ

ส่วนของห้องนอนที่เชื่อมกับ Living Room ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน บานกระจกพ่นทรายเป็นฝ้า เปิดเข้าออกจากตรงกลาง

เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง โครงการวางฐานเตียงแบบไซส์ 5 ฟุตมาให้ อ้อ อีกอย่างที่เราไม่ได้คือ.. วอลเปเปอร์นะคร้าบ

ระยะด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายมือเหลือห่างจากประตูกั้นประมาณ 40 ซม.

ระยะห่างจากปลายเตียงไปยังตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง เหลือไว้สำหรับเดินโอเคเลย ไม่เบียดเกินไป

ระยะด้านข้างเตียงฝั่งที่ชิดกับผนังหน้าต่างจะเหลือประมาณ 50 ซม. ยังวางโต๊ะหัวเตียงพร้อมติดม่านได้อยู่ แต่จะชิดกันหน่อย

มองไปที่ปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้

ชุดโต๊ะเครื่องแป้ง ขนาด 1 ที่นั่ง ติดกระจกเงาที่ผนังมาให้ ด้านบนเป็นแอร์ของ Daikin ขนาด 12,000 BTU ได้เช่นกัน แต่ห้องสตูดิโอได้ตัวเดียวครับ

ลองเปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูครับ

หน้าต่างรับแสงภายในห้องขนาดปานกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่ วงกบเป็นอลูมิเนียมสีเงินธรรมดาด้านล่างเป็นบาน Fix ส่วนด้านบนเป็นบานเลื่อนครับ

ลองเปิดบานเลื่อนด้านบนให้ดูครับ จะเห็นอีกด้วยว่ากระจกเป็นบานสีเขียวตัดแสงลดลงได้หน่อยนึง

ออกมาห้องนั่งเล่นมาดูส่วนครัวกันบ้าง ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบนี้ กลายเป็นพื้นที่ครัวปิด เวลาทำอาหารกลิ่นจะได้ไม่ฟุ้งเข้ามาในโซนนี้นะ

ที่เห็นจะเตะตาผมเป็นอย่างมากคือ ธรณีครับ มันคือธรณีที่สูงมาก ประมาณ 10 ซม. ทำแบบนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ ข้อดีคือถ้าเราจะทำความสะอาดพื้นครัวนี้ง่ายมากเลยแยกส่วนไว้ชัดเจน ไม่มีน้ำกระเด็นข้ามมาแน่นอน ลามิเนตไม่พองแน่ครับ ข้อเสียก็สะดุด.. ระวังด้วยนะครับ

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่วางตู้เย็นก่อนตรงหน้าครับ ขวามือเป็นห้องน้ำ และซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ครัว

ถ่ายให้ดูธรณีมุมมองด้านนี้บ้าง ฝั่งนี้เป็นพื้นกระเบื้องเคลือบทั้งหมด

มองไปขวามือจะเป็นโซนเคาน์เตอร์ครัว ทางเดินออกไประเบียงความกว้างเหลือประมาณ 90 cm.

ชุดตู้ครัวด้านบนเป็นแบบเปิดโล่ง 2 ช่องนะ และก็มีบานปิด 1 ช่อง  งาน Fitting เป็นแบบธรรมดาไม่ใช่ soft close ด้านบนมีพื้นที่เหลือเอาไว้เก็บของได้อีก แต่ถ้าไม่อยากเก็บของแบบไม่ให้โดนฝุ่นก็สามารถ Build-In เพิ่มไปได้นะ

ท็อปครัวเป็นฟอร์ไมก้านะครับ ขนาดพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก มี Sink อ่างล้างจานมาให้ 1 จุด ด้านหลังมีช่องปลั๊กไฟมาให้ แต่ผนังด้านข้างเป็นแบบฉาบเรียบทาสีธรรมดา แนะนำว่าถ้าจะอยู่อาศัยจริงจังและทำกับข้าวบ่อยๆ ควรหาอะไรมาติดเพิ่มครับเช่น กระจก กระเบื้องโมเสค เป็นต้น เพื่อจะได้ง่ายต่อการทำความสะอาด และเพิ่มความสวยงามไปในตัวด้วย

Sink อ่างล้างจานของ HAFELE ลองเทียบขนาดกับฝ่ามือ ไซส์มาตรฐานครับ

ด้านล่างเป็นชุดตู้ มีช่องใส่ไมโครเวฟ วัสดุผิวปิดเป็นลามิเนตสีไม้โอ๊ค

ลองเปิดช่องภายในตู้ให้ดู มีแยกพวกช่องเก็บช้อนส้มมาให้ด้วย

ทางออกไประเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน วงกบอลูมิเนียม เหมือนห้องนอน บริเวณพื้นเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 6 ซม.(ไม่รวมวงกบ)

ลองเปิดประตูบานเลื่อนสุด ได้ทางออกประมาณนี้นะ ส่วนของพื้นที่ระเบียงประมาณ 1 x 1.35 เมตร

ส่วนของกันตกเป็นรูปตัว L แบบนี้ วัสดุเป็นเหล็กพ่นสีดำ ทางขวามือด้านบนแขวนคอมแอร์เอาไว้ ไม่มีกริลล์ระบายความร้อนหันออกนอกอาคาร แต่แบบนี้ถ้าทำที่ตากผ้าด้านบนและเปิดแอร์แปปเดียวแห้งเลย..

ไฟเพดานที่ระเบียงเป็นโคมซาละเปา และขวามือมีชุดปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ด้วย เผื่อไว้ให้ใครอยากเอาเครื่องซักผ้ามาลง

มองกลับเข้าไปในห้องจะเห็นส่วนของห้องน้ำ พื้นก็เป็นธรณีก่อขึ้นมาเช่นเดียวกัน

ภายในห้องน้ำ ซ้ายมือจะเป็นชุดอ่างล้างหน้าและ โถสุขภัณฑ์ ด้านในมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้

ผนังติดกระจกเงาแผ่นใหญ่สูงไปจนถึงฝ้าเพดาน และก็มี Low Wall เอาไว้วางของใช้งานได้

อ่างล้างหน้าไซส์มาตรฐาน ไม่มีชุดตู้เก็บของด้านล่าง และก็โถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard ทั้งหมด

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอนแบบนี้ ของ ShowerKing ด้านขวามือมีราวแขวนผ้าขนหนูมาให้ 1 จุด

พื้นที่อาบน้ำขั้นด้วยธรณีก่อขึ้นมาเล็กน้อย ระยะประมาณ 0.7 x 1.0 เมตร

ผนังด้านในทำการเซาะร่องเอาไว้ให้วางของได้ แต่ไม่ได้ติดสเต็ปเป็นชั้นๆเอาไว้ต้องหาติดเพิ่มเอง ส่วนของ shower ได้แบบนี้แต่ไม่ได้เครื่องทำน้ำอุ่นนะ

หัวฝักบัวเล็กไปนิดนึงถ้าเทียบกับฝ่ามือ แต่ได้ของ VRH และผนังด้านล่างมีก๊อกน้ำมาให้อีกจุดนึง ของ VRH เช่นเดียวกัน

ภายในห้องน้ำไม่มีพัดลมดูดอากาศนะครับ แต่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศเอาไว้ให้แทน

plan_1bed

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูอีกห้องนั้นเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 37.40 ตร.ม. โดยจะแบ่งออกเป็นสามส่วน เปิดเข้ามาในห้องจะเป็นตรงกลางห้องที่มี Living Room เชื่อมกับโซนรับประทานอาหาร ทางขวามือเป็นห้องนอนขนาดกว้างกว่าแบบสตูดิโอ และมีห้องน้ำในตัว แต่ห้องน้ำต้องใช้ร่วมกับห้องโถงรับแขกด้วย ส่วนด้านข้างโต๊ะรับประทานอาหารจะมีประตูทางเข้าไปห้องครัว ที่มีพื้นที่เหลือวางตูเย็นและเครื่องซักผ้าได้ มีทางออกไปทางระเบียงที่ขนาดเท่ากับห้องสตูดิโอ

เข้ามาในห้องจะเจอกับ Living Area ที่เชื่อมต่อกับ โซนรับประทานอาหาร ห้องนี้ต่างจากห้องสตูดิโอคือพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แทนครับ

หันกลับไปมองบริเวณประตูทางเข้าห้องกันก่อน จะเห็นว่าข้างๆมีชุดตู้เก็บรองเท้ามาให้ และขวามือเป็นประตูทางเข้าไปห้องครัว

ชุดตู้เก็บรองเท้าของ index เป็นบานเลื่อนซ้ายขวาเปิดปิด

ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องนี้ได้แบบ 4 ที่นั่ง ขนาดโอเคเลย อาจจะใช้มานั่งเขียนหนังสือทำงานก็ได้นะครับ

มุมนั่งพักผ่อนชุดนี้จะเหมือนกับห้องสตูดิโอเลยครับ ดีกว่าตรงที่ว่าติดกับหน้าต่างช่องแสงธรรมชาติ กลางวันก็นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือได้สบายๆ ระยะห่างดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร

ชุดโซฟาเหมือนกัน แต่จะเห็นว่ายังมีพื้นที่ด้านข้างๆเหลืออีกนะ ถ้าใครชอบให้แขกแวะมาบ่อยๆ ก็หาเปลี่ยนโซฟาเป็นไซส์ 3 ที่นั่งหรือตัว L ก็ได้ครับ แล้วแต่ความชอบเลย อ้อ.. ห้องนี้ตำแหน่งแอร์อยู่เหนือหัวโซฟาพอดีเลย เป็นของ Daikin 12,000 BTU เช่นกัน

เวลานั่งบนโซฟา ฟีลลิ่งดูทีวีจะประมาณนี้นะฮะ ด้านข้างชั้นวางทีวีทางขวามือยังมีพื้นที่เหลืออีกหน่อย จะทำ Build วางของหรือตู้โชว์เพิ่มก็ได้นะ

โต๊ะกลาง ไซส์มินิ น่ารัก

ไฟเพดานห้องนั่งเล่นได้แบบโคมซาละเปา 2 จุด

มาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้าง โครงการวางเตียงไซส์ 5 ฟุตครึ่งมาให้ พื้นในห้องนอนจะเป็นลามิเนต 8 mm. ส่วนไฟเพดานจะเป็นโคมซาละเปามาให้ 1 ดวง

ระยะจากพื้นถึงปลายเตียง เหลือเดินได้ไม่ถึงกับอึดอัด

ด้านข้างชิดหน้าต่าง มีโต๊ะหัวเตียงเหมือนกัน

ปลานเตียงมีชุดชั้นวางของมาให้ สามารถทำทีวีแขวนผนังได้นะครับ พื้นที่บริเวณนี้เหลือ ตำแหน่งแอร์อยู่ปลายเตียงแบบนี้ ข้อเสียคือเวลานอนมันจะเป่าเข้าเวลาหายใจ นอนทั้งคืนตื่นมาอาจจะแสบคอได้ครับ

มองย้อนกลับไปมสงเข้า จะเห็นชุดตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่เหมือนกับห้องสตูดิโอ และมีประตูห้องน้ำในตัว

รูปแบบหน้าต่างช่องแสง เหมือนกับห้องสตูครับ

มาดูในห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำห้องนี้มีประตูทางเข้า 2 ที่นะครับ คือใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอน และห้องโถงรับแขก หน้าตาภายในห้องน้ำ และวัสดุที่ใช้จะเหมือนกัน แตกต่างกันที่ความยาวครับ

กระจกเงาบานใหญ่เต็มบาน

Low Wall ด้านล่างกระจกเงา ชุดอ่าง และสุขภัณฑ์เหมือนเดิม

ฉากกั้นพื้นที่อาบน้ำ ห้องนี้พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร

ภายในเหมือนเดิม

ประตูทางเข้าห้องครัว อยู่ใกล้กับโต๊ะทานอาหาร เป็นแบบบานเลื่อนด้านข้าง

เข้ามาในห้องครัวจะเจอกับพื้นที่วางตู้เย็นก่อน

ติดกันทางขวาเป็นเคาน์เตอร์ครัววัสดุจะเหมือนกับห้องสตูดิโอ ต่างกันที่ความยาว ชุดนี้จะมีพื้นที่เก็บของและเตรียมครัวมากกว่า

ฟังก์ชั่นภายในตู้ด้านบน

จะเห็นได้ชัดสำหรับพื้นที่วางจานและเตรียมอาหารจะยาวกว่ามาก

มุมนี้เอาไว้เป็น idea เผื่อใครสนใจหาซื้อทำตามได้นะ เพราะพร็อพตกแต่งพวกนี้เราไม่ได้

ชุดตู้เก็บของด้านล่างครับ

พื้นที่วางเครื่องซักผ้าที่มีปลั๊กไฟอยู่ที่ผนัง และที่พื้นเตรียมท่อน้ำดีเอาไว้ให้แล้ว

ประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนออกไประเบียงเหมือนกัน

พื้นที่ระเบียง 1 x 1.3 เมตร

รูปแบบของระเบียงเหมือนกัน แต่ห้องนี้จะมีคอมแอร์ 2 ตัว แนะนำเพิ่มว่าจะไปหากริลล์บังคบทิศทางลมมาติดเพิ่มเพื่อให้ลมร้อนหันออกไปนอกอาคารก็ได้นะครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 May 2015

  • Studio ราคาเริ่ม 1.3 ล้านบาท เนื้อที่ 30.36 ตร.ม. หรือ 42,819 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ราคาเริ่ม 1.62 ล้านบาท เนื้อที่ 37.40 ตร.ม. หรือ 43,315 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ราคาเริ่ม 2.67 ล้านบาท เนื้อที่ 60.00 ตร.ม. หรือ 44,500 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์, แอร์ (ยกเว้นพร็อพตกแต่ง)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • จอง 5,000 – 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 10,000 – 30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

 


เจาะลึกรวบยอด

สำหรับทำเลของ D’Vieng Santitham (ดีเวียง สันติธรรม) ผมเองก็ไม่ทราบในเบื้องลึกมากนักเพราะยังไม่เคยได้ลองมาใช้ชีวิตหรือศึกษาทำเลอย่างจริงจัง จึงไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อมูลก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ แต่จากที่ได้วิ่งวนดูรอบโครงการ ทำเลบริเวณนี้จะไม่ได้คึกคักและหนาแน่นมากจนเกินไป แต่ก็มีคนอยอู่อาศัย เต็มทุกซอกซอยเหมือนกัน เน้นการเดินทางสะดวกๆสามารถไปไหนๆได้ง่ายเพราะมีซอยลัดเลาะออกได้หลายทาง ทั้งจะไปถนนช้างเผือกออกที่ซอยธานินทร์ หรือจะไปสันติธรรมแล้วออกซูเปอร์ไฮเวย์ก็ได้ และจะไปรอบคูเมืองก็ง่ายวิ่งย้อนออกไปทางถนนหลักอย่างหัสดิเสวีนิดเดียว อีกทั้งแถวนี้ยังใกล้กับสถานที่สำคัญต่างๆเช่นมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และแหล่งกินเที่ยวอย่างนิมมานฯอีก

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ถือว่าดีอยู่นะครับ เอาระยะใกล้ๆรอบๆโครงการก่อนก็จะมีร้านอาหารตามสั่งเล็กใหญ่ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ รวมถึงคาเฟ่ ร้านกาแฟ ของหวาน และ 7-11 เยอะอีกต่างหาก ทำเลตรงนี้คือมีแหล่งจับจ่ายใช้สอยครบครันในละแวกใกล้เคียงเพราะมี ทั้งประเภทห้างสรรพสินค้า, ตลาดสด, และ Supermarket ต่างๆ เช่นตลาดธานินท์, Tesco Lotus, เซ็นทรัลกาดสวนแก้ว และก็แหล่งไอทีอย่างคอมพิวเตอร์พลาซ่าด้วยนะ

การเดินทางโดยใช้รถถือทำได้ค่อนข้างสะดวก ติดถนนหลักอย่างหัสดิเสวี อีกทั้งโครงการถูกล้อมด้วยถนนทั้งสี่ด้าน และบริเวณรอบๆมีซอยลัดเลาะเยอะมาก ซึ่งผมก็ยังวิ่งดูเองไม่หมด แต่ออกถนนหลักแถวนี้ได้ทั้งหมดเช่น ถนนช้างเผือก ถนนห้วยแก้ว และถนนใหญ่อย่างซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เชื่อมต่อถนนหลายสายไล่มาตั้งแต่ ถนนนิมมานเหมินท์ ไปจนถึงสนามบินเลย และอยู่ไม่ไกลจากแหล่ง Shopping การเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก เพราะถนนของที่นี่ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายๆใยแมงมุม มีวงแหวนวนรอบเมือง เพื่อที่สามารถตัดเข้าและออกได้ง่าย

วัสดุของที่นี้ให้มาแบบค่อนข้างดี ถ้าเทียบกับราคาเริ่มต้น 43,000 บาท/ตร.ม.นะ และก็ให้มาเยอะแบบเรียกได้ว่าลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เพราะขายแบบ Fully Furnished ให้มาเกือบครบแบบให้ห้องตัวอย่างยกเว้นพวกฟูกและพร๊อพตกแต่งต่างๆ อ้อ..เฟอร์ที่ได้เป็นของ Index ด้วยนะ ส่วนพื้นได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าเพดานฉาบเรียบ โคมไฟส่องสว่างได้เป็น แบบโคมซาละเปา สุขภัณฑ์ได้ของ American Standard หรือเทียบเท่า ห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกได้ฉากกั้นอาบน้ำของ ShowerKing เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน Top ครัวเป็นฟอร์ไมก้าธรรมดา ไม่มี Hob&Hood มาให้ ในแบ 1 ห้องนอนจะได้พื้นที่ทำครัวเยอะกว่า Studio ค่อนข้างมาก ส่วนแอร์ได้ของ Daikin ถ้าห้องสตูฯได้ 1 ตัว แต่ 1Bed ขึ้นไปได้ 2 ตัว

การออกแบบตัวโครงการของที่นี่จะเน้นให้บรรยากาศออกแนวพักผ่อนสบายๆตา มีศาลาไทยในพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ดูเป็นลุคโมเดิร์นผสมล้านนาตามคอนเซ็ปท์โครงการต้องการ จำนวนยูนิตทั้ง 2 อาคาร มีแต่ 264 ยูนิตเท่ากับ 132 ยูนิต/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 66:1 ถือว่าไม่มากไม่น้อยครับ ไม่แออัด แบบห้องจัดฟังก์ชั่นมาให้ค่อนข้างครบ ใช้พื้นที่ใช้สอยทุกส่วนคุ้มค่าดี

สาธารณูปโภคของโครงการนี้ได้ สระว่ายน้ำขนาดประมาณ 8.5 x 25 เมตร มีจากกุชชี่ในตัว เป็นสี่เหลี่ยมตรงๆนะครับ และก็จะมี Fitness ขนาดปานกลางที่วางเครื่องเล่นเอาไว้ 7 เครื่อง และมีห้องอาบน้ำแต่ตัวในตัว อาคารทั้งคู่จะมี Lobby Double Volume ส่วนรับแขก มีสวนรอบๆโครงการ และ Roof Garden ที่ชั้น 2 ส่วนที่จอดรถได้มาน้อยไปหน่อยคือ ที่จอดรถช่องจอด 78 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 32%

 

Judgement

เนื่องจากเป็นโครงการในทำเลที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้

 

ราคาของโครงการเริ่มต้นที่ประมาณ 43,000 บาท/ตร.ม., 26 May 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ติดถนนหลักอย่างหัสดิเสวี ล้อมด้วยถนนซอยอีก 3 ด้าน และมีทางลัดเลาะออกถนนหลักอื่นได้หลายทาง
  • ความปลอดภัย – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าโครงการ, CCTV 16 จุด , Key Card Access, ลิฟท์ล็อกชั้น
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย  – ออกแบบโดยรวมถือว่าดี ใช้พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าลงดัว ในบางจุดที่ถ้าแก้ไขจะดีขึ้นเช่นระดับธรณีห้องนั่งเล่นกับห้องครัว
  • วัสดุ – Fully Furnished ของ Index ให้ของมาเยอะและครับดี ซื้อฟูกมาอยู่ได้เลย
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ  – ได้สวนหย่อรอบๆโครงการ และ Roof Garden ชั้น 2
  • สาธารณูปโภค – จัดไว้มีศาลานั่งเล่น สระว่ายน้ำพร้อมจากุชชี่ Fitness และ Lobby Double Volume ระบบรักษาความปลอดภัย ติดที่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย 78 ช่อง คิดเป็น 30%(ไม่ซ้อนคัน)

BOTTOM LINE

D’Vieng Santitham(ดีเวียง สันติธรรม) เป็นคอนโดที่เน้นการอยู่อาศัยเองก็ได้แต่ ปล่อยเช่าก็ดี  ซื้อฟูกแล้วหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย มีการเดินทางที่สะดวกอยู่ไม่ไกลจากรอบกำแพงคูเมือง และไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ตลาด ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ไม่เน้นรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก และมีส่วนกลางส่วนตัวให้ใช้ ด้วยงบประมาณ 1.30 – 2.8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 9,100 – 19,600 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )