รีวิวฉบับที่ 1754 … ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ออกแบบมาในสไตล์ American Cottage ตั้งแต่หน้าโครงการ ส่วนกลาง และบ้านในรูปแบบต่างๆ ซึ่งตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ภายในอาณาจักรของมั่นคงเคหะการ กว่า 2,000 ไร่ อีกด้วย โดยภายในนั้นมีสนามกอล์ฟที่ใหญ่กว่า 500 ไร่ และยังมีสปอร์ตคลับให้ลูกบ้านได้เล่นกันอีกด้วย รายละเอียดของโครงการนี้จะเป็นอย่างไรไปดูกัน

Fact @ 4 December 2018

  • Chuan Chuen Prime Ville Krungthep-Pathumtani (ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี)
  • บมจ.มั่นคงเคหะการ
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
  • เนื้อที่โครงการ 33-0-69.4 ไร่ จำนวน 146 ยูนิต
  • IRIS ที่ดิน 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.05 ล้านบาท (Update 19/3/2019 | ปรับราคาเริ่มต้นเป็น 4.56 ล้านบาท)
  • MARIS ที่ดิน 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท
  • VANDA ที่ดิน 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.54 ล้านบาท
  • Update 19/3/2019 | ปรับราคาเริ่มต้นเป็น 4.56 ล้านบาท
  • เพดานชั้น 1-2 สูง 2.50 เมตร
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : มกราคม 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : n/a
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1622
  • สำนักงานขาย : 02-598-6070

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.978055, 100.504555

จากแผนที่ของโครงการจะเห็นว่า ตัวโครงการอยู่ในย่านพักอาศัยที่ไม่ไกลจากตัวเมืองและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Big C  Tesco Lotus มีโรงพยาบาลประจำจังหวัด และสถานที่ศึกษาสำคัญๆอยู่ใกล้ๆตัวโครงการมากมาย ที่เห็นเส้นปะสีส้มนั่นคือโครงการถนนเชื่อมขยายทางมาจากเส้นราชพฤกษ์ครับ และจะไปเชื่อมกับถนนทางหลวง 346 กับกาญจนาภิเษก ซึ่งคาดว่าจะเสร็จช่วงกลางปีหน้า

สำหรับการเดินทางถือว่าทำได้ค่อนข้างสะดวกแม้ที่ตั้งของโครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี จะอยู่ใกล้ๆกับแยกหลักบางคูวัดเลยครับ ซึ่งหลายๆคนในย่านนี้คงจะผ่านแยกนี้กันบ่อย แต่ถนนหลักด้านหน้าของโครงการจะติดกับถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี(ทล.307) ซึ่งเยื้องกันตรงข้ามจะมีจุดสังเกตอย่างคอมมูฯ The Tree อยู่นั่นเอง

โดยภาพรวมถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัย ที่ผลักตัวออกมาจากโซนสำคัญและหนาแน่นมาจากดอนเมืองสรงประภา แต่ก็ถือว่ารับได้และไม่ได้ไกลมาก ถ้าจะเดินทางเข้าตัวเมืองก็ไม่ไกลเดินทางประมาณ 10 – 15 นาที หรือจะไปเดินเที่ยว Future Park รังสิต ก็มาใช้สะพานปทุมธานี 2  ได้เลย แต่ถ้าจะเข้าตัวเมืองให้ใช้สะพานนนทบุรี เข้าถนนศรีสมานจะสั้นกว่า และมีทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ให้ใช้ด้วย

นอกจากนี้ในอนาคตยังมีโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ – ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ – ใต้) ที่คาดว่าจะเเล้วเสร็จในปี 2562 ทำให้สามารถเชื่อมต่อเส้นทางด้านหลังโครงการไปยังถนนสาย 345 เข้าไปยังถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษกได้ง่ายขึ้นด้วย (ภาพจาก http://www.ratchaphruek-ns.com/

สภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียง มีสภาพเป็นชุมชนที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์เพราะมีบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ รวมถึงหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งตั้งอยู่ ทำให้มีสิ่งอำนวยสะดวกต่าง ๆ อยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่นัก ทั้งห้าง Tesco Lotus, Robinson สาขาศรีสมาน รวมถึงเป็นย่านที่มีโรงเรียนหลายแห่งตั้งอยู่ เช่น โรงเรียนพระเเม่มารีอุปถัมภ์, โรงเรียนสาธิตปทุมธานี, สารสาสน์ วิเทศราชพฤกษ์, โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี, โรงเรียนหอวังนนทบุรี ที่อยู่ในรัศมี 6-10 กิโลเมตร ในช่วงที่รถไม่ติดใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-20 นาทีเท่านั้น โดยรวมถือว่าสามารถขับรถไปยังสถานที่สำคัญต่างๆได้ไม่นาน

แผนที่การเดินทางในวันนี้ ผมจะใช้เส้นทางที่มาเริ่มจากบริเวณ ดอนเมือง เพราะเป็นย่านที่มีแฟล่งงาน สนามบิน มีการสัญจรไปมาค่อนข้างเยอะและเป็นมาจากตัวเมืองด้วย โดนจะวิ่งบนเส้นสรงประภา -> ยิงตรงข้ามแยกสวนสมเด็จ -> ข้ามสะพานนนทบุรี -> เลี้ยวขวาที่แยกบางคูวัด หลังจากนั้นให้ชิดซ้ายเอาไว้เลยครับ นิดเดียวก็จะเลี้ยวซ้ายสู่ทางเข้าออกซุ้มโครงการหลักของมั่นคงเคหะการแล้ว

ถ้าจะเริ่มจากดอนเมืองแล้ว สิ่งที่นึกถึงอย่างแรกนอกจากสนามบินและก็คงเป็น วัดดอนเมืองพระอารามหลวงนี่แหละ เราจะใช้ถนนสรงประภาที่เป็นเส้นหลักตรงออกเมืองไปอย่างเดียวเลย

ตรงมาได้สักระยะประมาณเกือบ 5 กิโล ก็จะเจอจุดตัดของทางด่วนอุดรรัถยา หรือคนแถวนี้เรียกว่าจุดขึ้นลงศรีสมานครับ ให้เราตรงลอดใต้ทางด่วนไปเลย

และถนนก็จะเปลี่ยนเป็น ถนนศรีสมาน แทนแล้วนะครับ ถ้าใครใช้ทางด่วนเมื่อสักครู่มาจากตัวเมืองอย่าง ประชาชื่น กำแพงเพชร 6 ฯลฯ พวกนี้ ก็สามารถมาลงตรงนี้ได้เลย และก็จะมีทางให้เข้ามาบรรจบกันบนถนนศรีสมาน

ตรงนี้จะมีห้างหลักของคนแถวนี้ที่นิยมมาใช้บริการกันอยู่ Robinson ศรีสมาน ที่มีตัวซูเปอร์มาร์เกตให้ซื้อข้าวของใช้เข้าบ้านอย่าง Tops Market ด้วยนะครับ

หลังจากนั้นให้เราเน้นตามป้าย “ปทุมธานี” เอาไว้ ด้านหน้าให้เราชิดขวาเอาไว้นะครับ เดี๋ยวจะมีสะพานข้ามแยกสวนสมเด็จอยู่ จะได้ไม่โดนติดไฟแดง

พอข้ามแยกสวนสมเด็จมาแล้วก็ให้ข้ามอีกสะพานเท่ๆอย่าง สะพานนนทบุรี (สะพานนวลฉวี)

หลังจากข้ามสะพานนนทบุรี มาแล้วเราก็ตรงมาอีกประมาณ 2.50 กิโลเมตร เราก็จะเจอกับ “แยกใหญ่บางคูวัด” ถ้าเราตรงไปจะเป็นเส้นทางไปบางบัวทอง, สุพรรณบุรี แต่ตรงนี้ให้เราเลี้ยวขวานะครับ

ตอนนี้เราอยู่บนถนนกรุงเทพฯ-ปทุมธานี (ทล.307) แล้วนะครับ ถ้าขับตรงไปเรื่อยๆจะมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองปทุมธานี  จากภาพนี้เป็นจุดที่เราพึ่งเลี้ยวขวามาจากแยกบางคูวัด จะเห็นว่ามี The Tree Community Mall อยู่ทางขวา ที่นี่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร หลายแห่งให้เดินเล่นพักผ่อนในวันหยุดได้ โดยที่ไม่ต้องขับรถเข้าเมืองไปไกลๆ

ซึ่งจากแยกบางคูวัด เพียง 380 เมตรเท่านั้น เราก็จะเจอป้ายขนาดใหญ่ที่เป็นกลุ่มก้อนโครงการของ “มั่นคงเคหะการ” หลายโครงการอยู่ในพื้นที่นี้ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ

ซุ้มทางเข้าออกหลักที่ใช้ร่วมกัน จะเห็นว่ามีป้ายชื่อของสนามกอล์ฟอยู่ด้วย

ขอเกริ่นถึงบริเวณที่ดินโครงการกันสักนิดก่อนไปต่อนะครับ คืออย่างนี้ครับ ที่ดินที่ผมวงเอาไว้คร่าวๆ นั้นคือที่ดินทั้งหมดของกลุ่ม บมจ.มั่นคงเคหะการ ที่ได้แปลงที่ดินขนาดใหญ่กว่า 1,200 ไร่ ซึ่งทาง Dev ก็ค่อยๆพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเป็น “บ้านเดี่ยว” ทั้งหมด โดยค่อยๆทยอยทำนะ

ซึ่งโครงการก่อนหน้าก็มีทั้ง ชวนชื่น ฟลอร่าวิลล์, ชวนชื่น กอล์ฟ อเวนิว, ชวนชื่น กรีนบาวด์, ชวนชื่น วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี ซึ่งโครงการที่กล่าวๆมาก็ขายกันเกือบๆจะหมดแล้ว เหลือนิดหน่อยเท่านั้นเอง และในคราวนี้ผมจะพาไปดูตัวใหม่เอี่ยมล่าสุดอย่าง “ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี” โดยจะขับรถเข้าไปต่ออีกประมาณ 2.5 กิโลเมตรครับ

ถนนด้านในโครงการส่วนแรกตั้งแต่พ้นซุ้มมา สภาพแวดล้อมสีเขียวเยอะมากครับ และมีการทำเกาะกลางอยู่ด้วยช่วงแรก ถนนก็ลาดยาง ดูร่มรื่นดีครับ ซึ่งผมก็ไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่โครงการเค้าแจ้งว่า ถนนที่เราเห็นนั้นโครงการยกให้เป็นทางสาธารณไปแล้วนะครับ ตรงนี้คนนอกเลยเข้ามาสัญจรผ่านไปมา เพื่อมาใช้สนามกอล์ฟกับสปอร์ตคลับแบบรายปีกัน

โดยระหว่างทางที่ถนนสาธารณะเส้นหลัก ก็จะมีสวนหย่อมอยู่ทางซ้ายมือด่านแรก ซึ่งจริงๆแล้วตามป้ายที่เห็นเค้าบอกว่าเป็นของโครงการฟลอร่าวิลล์นะ แต่ถนนทั้งเส้นในโครงการนี้มีการแบ่งช่อง Bike Lane ไว้สองฝั่งสำหรับปั่นจักรยานได้ทั้งหมด เผื่อเราปั่นจากหน้าโครงการใครแล้วเหนื่อยก็ขอแวะพักมาชมวิวทะเลสาบในโครงการได้

เอาล่ะไปต่อกันครับตรงยาวๆ ถนนค่อนข้างกว้างทีเดียว และยังคงลงต้นไม้สีเขียวที่ริมฟุตบาทสองข้างทาง

จุดสังเกตสุดท้ายตรงนี้จะมีสะพานข้ามคลอง และทางซ้ายมือเป็นสนามเทนนิสในโครงการที่พึ่งเปิดใหม่ๆ

พอลงสะพานมาก็จะเห็นแบบนี้ครับ สนง.ขายจะอยู่ทางขวามือ ถ้าจะไปที่ตั้งโครงการเลี้ยวตรงนี้นะ ส่วนพวกสนามกอล์ฟ ห้องอาหาร ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ที่เป็นสปอร์ตคลับไม่ใช่พื้นที่ส่วนกลางเฉพาะโครงการที่ผมจะพาไปดู แต่เป็นของทางผู้ประกอบการที่เค้าทำมาเปิดในพื้นที่อาณาจักรตัวเอง ซึ่งลูกบ้านโครงการต่างๆก็สามารถมาสมัครใช้เป็นรายเดือน รายปีได้

ตรงนี้ก่อนจะไปหน้าโครงการผมขอแวะมาดูบรรยากาศที่ ส่วนฟลอร่าวิลล์ กอล์ฟคลับ กันสักหน่อย โดยสนามกอล์ฟที่นี่จะเป็นแบบตีจริงจัง 18 หลุม และก็มีพวกร้านอุปกรณ์ ห้องอาหาร จัดเลี้ยง ให้เช่าใช้บริการอยู่ด้วย การได้อยู่ใกล้ๆพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบบนี้ได้ทั้งช่วยกรอกเรื่องฝุ่นควัน และเห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใกล้ๆ

เดินมาใกล้ๆติดกันจะเป็นส่วนของอาคาร Sport Club ที่ด้านหน้าจะมีร้านกาแฟให้ใช้บริการอยู่กับส่วนของสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก และสระจากุชชี่ ตกแต่งบรรยากาศรอบๆได้ดูสวยงามน่าใช้งาน

และสุดท้ายที่เห็นอาคารแยกกันเล็กๆสองส่วนนั้นคือ ห้องอเนกประสงค์ ทำเป็นห้องโยคะได้ กับห้องฟิตเนสที่จัดเต็มเครื่องเล่นเยอะมากๆ ทั้งเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอครับ

อันนี้ผมเอารายละเอียดมาแปะให้ดู ย้ำอีกครั้งนะครับ พวกส่วนต่างๆใน Clubhouse Sportclub กับสนามกอล์ฟ นั้นไม่ได้เป็นส่วนกลางของโครงการใดโครงการหนึ่งนะ แต่เป็นบริการที่เรียกว่าอยู่ใกล้ๆกับหน้าบ้านเรา ซึ่งมีหลากหลายมาก การทำแบบนี้ก็มีข้อดีสำหรับลูกบ้านกลุ่มที่ไม่ค่อยได้ใช้ส่วนกลาง ทำให้โดนเก็บค่าส่วนกลางไม่แพง และใครที่อยากจะไปใช้ก็จ่ายเป็นครั้งๆหรือรายเดือนไป

เอาล่ะ กลับมาที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานขายกันนะครับ ถ้าใครมาติดต่อโครงการก็แวะจอดรถที่ตรงนี้ และก็สอบถามรายละเอียดกับเซลล์ก่อนได้

ทำเป็นเล่นไปนะคุณ ติดกับสนง.ขายมี 7-Eleven มาเปิดด้วยนะเนี่ย ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับโครงการพี่ชายที่ปิดการขายไปแล้ว ชวนชื่นกรีน บาวด์ ซึ่งจากหน้าเซเว่นเนี่ย ขับรถมาก็ห่างจากโครงการไปอีก 700 เมตรนะครับ

หรือถ้าเป็นตอนเย็นหน่อยที่อากาศไม่ร้อนแล้ว ก็สามารถปั่นจักรยานมาที่ 7-Eleven หรือออกกำลังกายที่ Sportclub ก็ได้นะ โครงการแยก Bike Line ทั้งสองฝั่งเพื่อความปลอดภัย

ตรงมากันต่ออีกหน่อย ทางขวามือจะเจอกับโครงการพี่ชาย ที่พึ่งปิดการขายกันไปไม่นาน ชื่อโครงการคล้ายๆกันเลย ชวนชื่น วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี ที่ผมพามาดูคราวนี้คือ ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี

นี่ครับ ที่เห็นรั้วสีขาวทั้งหมด บริเวณนี้เป็นรั้วของโครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี ซึ่งทำเป็นแบบกึ่งทึบกึงโปร่ง พร้อมทั้งขนานไปกับต้นไม้แนบชิดแนวรั้วตอลดทั้งเส้นทาง

ตัวรั้วสูงราวๆเกือบ 2 เมตร ทาสีขาวทั้งหมด ให้ดุตัดสีเขียวของต้นไม้ที่เป็นฉากหลัง และยังทำหน้าที่สร้างความเป็นส่วนตัวให้แก่ลูกบ้าน คนนอกไม่สามารถมองลอดเข้าไปได้

จาก บริเวณหน้า 7-Eleven มาถึงซุ้มทางเข้าโครงการแล้วครับประมาณ 700 เมตร ซึ่งถนนหน้าโครงการจุดนี้ อนาคตก็จะเตรียมยกเป็นทางสาธารณะเช่นกันครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Community Mall The Tree 3.5 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus ปทุมธานี  3.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียน สาธิต ปทุมธานี 4.2 กิโลเมตร
  • โรบินสัน ศรีสมาน 6.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลปทุมธานี 7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลปากเกร็ด2 7.3 กิโลเมตร
  • ทางด่วนศรีสมาน 7.4 กิโลเมตร
  • เมืองทองธานี 9.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์  9.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลปากเกร็ด 10.7 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 12.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล 12.9 กิโลเมตร
  • ศูนย์ราชการ 13.1 กิโลเมตร
  • ดอนเมือง 16.8 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล เวสต์เกต 19.1 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูขอบเขตของโครงการกันซะหน่อยครับ อย่างที่บอกไปว่าที่ดินโครงการอยู่ในอาณาจักรที่ดินของมั่นคงเคหะการ แต่ตัวโครงการเองนั้นมีขนาดประมาณ 33 ไร่ เท่านั้นครับ ตัวบ้านด้านในโครงการ 60% จะเป็นการหันหน้าบ้านทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทางวิ่งของลมและไม่ค่อยโดนแดดโดยตรงครับ แต่ถ้าใครชอบแสงแดด ซักผ้าตากผ้าบ่อย ก็มีอีกฝั่งที่หันทางตะวันออกเฉียงเหนือกับตะวันตกเฉียงใต้อยู่ด้วย

ซุ้มด้านหน้าโครงการ ตกแต่งให้เข้ากับตัวสไตล์บ้านคือ American Cottage ใช้เป็นสีน้ำเงินกรมโทนสว่างให้ดูตัดกับขอบบัวขาวให้ดูเด่นหน่อย ซุ้มทางเข้าจะค่อนข้างเปิดโล่ง อาจจะมีปัญหาช่วงหน้าฝน เพราะต้องยื่นมือออกมาแตะคีย์การเพื่อให้รั้วไม้กั้นเปิดออกและเปียกฝนได้

ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้า ใช้เป็น Kaycard Access รั้วไม้กั้นกระดก, และมีกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 จุดส่องหน้าคนขับกับป้ายทะเบียน และมีรปภ.สแกนกับแลกบัตรคนที่มาติดต่อ

พอเข้ามา ส่วนแรกของโครงการเราจะเจอกับวงเวียน พื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นจุดแจกทางต่างไปคนละซอย และถนนเมนโครงการจะอยู่ขนานกับสวนหย่อมด้านหลัง

สวนหย่อมในโครงการนี้เป็นส่วนกลางหลักให้กับลูกบ้านครับ ซึ่งได้พื้นที่มา 1 ไร่กว่าๆ หรือ 478 ตร.วา

ถนนเมนของโครงการนี้จะอยู่ส่วนนี้ครับ ซึ่งจะมีความกว้างประมาณ 12.5 เมตร และก็ถนนรองส่วนอื่นๆกว้าง 8.5 เมตร

เราเดินไปดูในพื้นที่สวนหย่อมกันบ้างครับ จะมีทางเดินเข้าไว้แทรกตามจุดต่างๆแบบนี้

ภายในสวนก็มีทำเป็นทางเดินแบบวงกลม หรือสามารถเอาไว้มาวิ่งออกกำลังกายในโครงการก็ได้

ตามจุดต่างๆก่อคอนกรีตเอาไว้เป็นที่นั่งเล่นมาเฝ้าเด็กๆ หรือเป็นจุดนัดพบครับ

ภายในสวน ตามจุดต่างๆผมสังเกตว่ามีพวกโคมไฟ ทั้งพื้นและเสาไฟที่คอยส่องสว่างให้ตอนเย็นหลายจุดอยู่ครับ

อย่างซุ้มศาลาตกแต่งที่อยู่ตรงกลางไม่ได้เอาไว้บังแดดหลบฝนนะครับ แต่เป็นส่วนของเสริมสร้างตกแต่งบรรยากาศของสวนหย่อมให้เข้ากับธีมสไตล์โครงการมากกว่า

ส่วนของสวนอีกฝั่งนึง จะค่อนข้างกว้างกว่า ถ้าเราวิ่งๆเดินๆเบื่อก็ย้ายมาต่อฝั่งนี้เอานะครับ

และที่ปลายสวนของฝั่งนี้จะมีการทำเป็นส่วนของพวกเครื่องเล่นออกกำลังกายกลางแจ้งเอาไว้ให้อีกนิดหน่อยครับ

โซนเครื่องเล่นเด็กก็จะปูด้วยพื้นกันกระแทกเป็นแบบล้มแล้วไม่เจ็บมากครับ

เครื่องเล่นเเด็กอีกมุมนึงมีพวกปีนไต่ สไลเดอร์ กิจกรรมโลดโผนหน่อย เด็กๆน่าจะชอบ

และสุดท้ายจะมีส่วนของศาลาพร้อมเก้าอี้นั่งเล่นอยู่ใกล้ๆกับเครื่องเล่นเด็กนี่แหละ เพื่อให้ผู้ปกครองมานั่งเฝ้าได้ครับไม่ต้องยืนเมื่อย

ซอยต่างๆในโครงการจะมีการระบุหมายเลขซอยเอาไว้ให้ง่ายต่อความเข้าใจ

ส่วนของรั้วกำแพงโครงการ นอกเหนือจากฝั่งด้านหน้าที่เป็นรั้วกึ่งโปร่งที่เราเห็น ด้านอื่นๆจะทำเป็นรั้วคอนกรีตทึบสูง 3 เมตรทาสีขาว และลงต้นโมกขนานไปกั้บรั้วครับ เพื่อให้ดูไม่ทึบตันเกินไป

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะประมาณ 1 ไร่กว่า (478 ตร.วา)
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate 4 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8.5 ม.

Product Walkthrough

IRIS ที่ดิน 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.05 ล้านบาท

โครงการนี้จะมีบ้านทั้งหมด 3 แบบ ส่วน IRIS เป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเล็กที่สุดในทั้งหมด จะเป็นบ้านตัวอย่างหลักแรกที่จะพาไปดูครับ ซึ่งบ้านทั้งหมดจะเป็นสไตล์ American Cottage ซึ่งเน้นโชว์พวกระแนงไม้โทนสีอ่อนอย่างน้ำตาลและเทา เน้นโชว์ขอบบัวไม้สีขาว พวกประตูหน้าต่างจะมีการตีตารางลวดลายเป็นลายเส้นของตารางนั่นเอง

ส่วนของแปลนบ้านชั้นล่าง จะเป็นแบบ 2 ที่จอด และต้องเดินทางทางเฉลียงข้างๆเพื่อเข้าบ้าน ซึ่งบ้านนั้นออกแบบมให้โถงรวมมีการเชื่อมพื้นที่นั่งเล่นกับส่วนทานอาหาร และเน้นเปิดช่องแสงถึง 3 ด้านด้วยกัน อีกทั้งยังมีห้องน้ำชั้นล่างที่มีส่วนของแยกพื้นที่อาบน้ำไว้ด้วย และติดกันทำเป็นพื้นที่ครัวปิดกั้นเป็นสัดส่วนได้เลยครับ ซึ่งทำให้เราไม่ต้องไปต่อเติมครัวอะไรด้านนอกแล้วก็ได้ ทำให้ฝั่งด้านหลังบ้านทำงานซักล้าง ตากผ้าได้เต็มที่

ชั้น 2 ด้วยตำแหน่งของบันไดที่อยู่กลางบ้าน พอขึ้นมาโถงทางเดินทำหน้าที่แค่แจกทางไปยังห้องนอนทั้งสาม โดนห้องนอนเล็กมีฝั่งนึงอยู่หลังบ้านอีกฝั่งอยู่หน้าบ้าน(ฝั่งนี้จะได้หน้าต่าง BayWindow เก๋ๆหน่อย) ซึ่งทั้งคู่ต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันด้านนอก แต่ถ้าชั่วโมงเร่งด่วนจริงๆอย่างเวลาตอนเช้าจะไปเรียน อีกคนก็สามารถลงไปอาบด้านล่างได้ และห้องนอนใหญ่กินพื้นที่ฝั่งขวาทั้งหมด เป็นแบบฟังก์ชันครบมีทั้งพื้นที่แต่งตัว ระเบียง ห้องน้ำในตัว

ส่วนของพื้นที่จอดรถ มีการลงเสาเข็มบริเวณนี้ให้เลย เป็นเข็มลึกเท่าตัวบ้าน 18 เมตร ไม่ต้องกลัวว่าบ้านทรุดแคร็กไม่เท่ากันนะ พื้นก็จะปูเป็นพื้นทรายล้างเอาไว้ และที่ด้านหน้าที่จอดรถจะมีส่วนของห้องเก็บของชิ้นกลางได้อยู่ พร้อมปลั๊กไฟมีฝาครอบ พื้นที่ดินด้านข้างบ้านก็ต้องเลือกแล้วแต่แปลง จะมีขนาดไม่เท่ากันนิดหน่อย แต่ว่าสามารถจะเป็นสวนหย่อม น้ำพุตกแต่งได้ โดยจะมีประตูส่วนของด้านข้างบ้านให้เข้าออกได้อีกบ้านใกล้ฝั่งหลังบ้าน

ประตูหลักด้านหน้ายบ้านวัสดุเป็น UPVC สีขาวแบบนี้ มีการขยายช่องแสงด้านบนเหนือประตูขึ้นไปอีกหน่อยด้วย ส่วนของกรอบประตูที่เราเห็นเป็นช่องๆลายตารางเพราะตั้งใจทำลายให้เข้ากับสไตล์ของบ้านอย่างที่บอกไป

หน้าตามือจับเปิดปิดพร้อมตัวล็อกแบบก้นหอย ล็อกได้สองชั้น

เข้ามาส่วนแรกเป็น Common Area ที่เชื่อมพื้นที่ระหว่าง โถงนั่งเล่นรับแขก และพื้นที่ทานอาหารฝั่งด้านหลังบ้าน มุมนี้เราจะเห็นว่าระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างนะครับ ประมาณ 3 เมตรนิดๆ ก็จัดทีวีไซส์ใหญ่หน่อยอย่าง 50-60 นิ้ว ตัวพื้นทั้งหมดชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว และความสูงจากพื้นถึงฝ้าทั้งสองชั้นอยู่ที่ 2.50 เมตร

จะเห็นว่าตัวบ้านให้ความสำคัญของพวกช่องแสงรอบบ้านทั้งสามฝั่ง ในพื้นที่โถงรวมทั้งฝั่งหน้า หลัง ข้างบ้านครับ

พื้นที่ถัดจากส่วนวางโซฟาบริเวณกลางบ้าน จริงๆมุมนี้ในบ้านตัวอย่างแต่งไว้ให้ไม่ดูแน่นเกินไป แต่ถ้าใครต้องการใช้ประโยชน์ใช้สอย ก็แล้วแต่เจ้าของบ้านเลย อาทิเช่นจะทำเป็นมุมโต๊ะทำงาน หรือ Built-In เป็นตู้โชว์ ตู้เก็บหนังสือ ของใช้ทั่วไป เป็นต้น

ในส่วนฝั่งด้านในสุด จะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ในบ้านตัวอย่างจัดไอเดีย โต๊ะกลมมาให้ดู ซึ่งตรงนี้มันมีพื้นที่มารองรับโดยประมาณ 4-8 ที่นั่งยังได้เลย ก็ต้องดูเจ้าของบ้านมีแขกมาทานข้าวบ่อยรึเปล่า

ส่วนประตูด้านข้างบ้านฝั่งขวามือนั้น สามารถเปิดออกไปยังด้านนอกได้นะครับ เชื่อมโยงกับพื้นที่ของสวนหย่อม ถ้าอันนี้ใครบ้านไหนจัดสวนสวย มีน้ำตก น้ำพุเล็ก เวลาทานข้าวก็จะเห็นด้วย

ฝั่งด้านหลังของโต๊ะทานข้าว จะเป็นหน้าต่างบานเลือนคู่ช่องแสง เห็นไหมครับว่าาพวกหน้าต่างประตูทั้งบ้าน เค้าตั้งใจเลือกเป็นแบบตีตารางกรอบลาย / และมุมนี้จะอยู่ติดกับพื้นที่ครัวข้างๆ

พื้นที่ครัวจะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน และก็ถ้าจะเดินข้ามไปมาก็ระมัดระวังในการสะดุดกรอบบานด้านล่างหน่อย

ต้องบอกสักนิดนะครับว่าที่นี่ขายเป็นแบบบ้านเปล่า ตัวบ้านมาตรฐานจริงๆนั้นจะไม่มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ อันนี้ทที่เราเห็นถือว่าเป็นไอเดียที่โครงการตกแต่งมาให้ดูละกัน ว่าสามารถวางตู้เย็นได้ ทำ Pantry L-Shape ได้ และมีเปิดช่องแสงรอบด้านเลย ซึ่งครัวตรงนี้ก็จะมีส่วนของประตูที่สามารถออกไปฝั่งหลังบ้านได้

ออกมาจากครัวด้านหลัง ก็จะกลายเป็นพื้นที่การซักล้างครับ โครงการก็เตรียมพวกปลั๊กไฟ ก๊อกน้ำ ติดตั้งไว้แล้ว / ตัวบ้านโครงการนี้ให้พวกปั๊มน้ำ, แทงก์น้ำ เป็นมาตรฐานมาเลยด้วยนะ

เงยหน้าขึ้นไปสักหน่อย บ้านมีการชายคายื่นออกมานิดนึง ที่เหนือด้านหลังประตูครัว ทำให้เราสามารถเอา CDU Air มาวางฝั่งด้านหลังทั้งหมดได้แบบนี้ ซึ่งดูสวยงามไม่ไปเกะกะสายตาข้างบ้าน และออกไปซ่อมบำรุงพอได้ไม่ยากมาก

กลับเข้ามาในตัวบ้าน บริเวณตรงกลาง ขวามือที่เราเห็นส่วนเปิดประตูนั้นคือ ห้องน้ำ

ห้องน้ำมีการลดสเต็ประดับจากส่วนโถงสูงพอสมคมควร (12ซม.) ซึ่งการเดินเข้าออกก็ควรระวังนิด แต่การลดระดับแบบนี้มันมีข้อดีที่สำคัญคือ มันสามารถทำความสะอาดแบบขัดถูจริงจังได้ง่าย และด้วยตำแหน่งจะอยู่ใกล้ใต้บันได พอลดระดับลงมาแบบนี้ ทำให้ไม่ไม่ส่วนเฉียงของพื้นใต้บันไดมาอยู่ในห้องน้ำครับ

ส่วนของพื้นที่อ่างล้างมือ พร้อมกระจกเงา จะอยู่หลังประตูทางเข้าฝั่งขวามือ เป็นพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก

พื้นที่หลักของการใช้งานจะมาอยู่ฝั่งซ้ายมือมากกว่า จะขยายกว้างออกไป มีฟังก์ชัน สุขภัณ์กับพื้นที่อาบน้ำ(ไม่ได้ให้กระจกกั้นอาบน้ำมา) หรือจะไปติดม่านอาบน้ำก็ได้ สิ่งที่ผมเห็นเด่นอีกอย่างคือ มีการแบ่งชั้นวางของที่ชิดกับผนังทั้งสองส่วนมาให้เลย พวกอุปกรณ์ต่างๆทั้งหมดเป็นของ American Standard และติดตั้งจุดเตรียมเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว

บันไดที่นี่ให้เป็นพื้นไม้ประสานสำเร็จ มีราวกันตกเป็นเหล็กพ่นสีขาวพร้อมมือจับ มีการเปิดช่องแสงให้แดดธรรมชาติเข้ามาเยอะพิเศษเลยครับ ส่วนชานพักกึ่งกลางช่วงแรกจะมีการแบ่งซอยเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมหลายขั้นอยู่ ก็ต้องพึ่งมือจับกันลื่นกันตกเพื่อความปลอดภัย / พอเราขึ้นมาที่ชั้นสอง ตัวพื้นจะถูกเปลี่ยนไปกลายเป็น ลามิเนต ลวดลายใกล้เคียงกับพื้นบันไดมาก แต่ที่นี่เค้าเลือกให้แบบหนาพิเศษเป็น 12 mm. (ปกติในตลาดทั่วไปเรามักเห็นแบบ 8 mm. ครับ)

จากมุมนี้ที่ขั้นสุดท้ายของบันได เราจะเห็นว่าโถงบันได นั้นเพียงแค่ทำหน้าที่แจกตัวไปยังห้องนอนต่างๆเท่านั้น ซ้ายมือเป็นฝั่งหลังบ้าน เราจะไล่ไปจากซ้ายสุดตีมาขวาสุดคือ ห้องนอนเล็ก 2, ห้องน้ำ, ห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก 1

ห้องนอนเล็ก 2 คือห้องนอนส่วนที่อยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน ถึงแม้จะชื่อห้องนอนเล็ก แต่ทุกห้องของที่นี่ผมเดินดูแล้ว สามารถวางเตียง Queen Size พวกนี้ได้สบายเลยละครับ เหลือพื้นที่รอบๆทั้งเดิน มุมโต๊ะอ่านหนังสือ มุมตู้เสื้อผ้า และที่สำคัญยังได้หน้าต่างช่องแสงสองฝั่ง อันนี้ดีมาก เพราะมันจะทำให้ลมมีทางวิ่งเข้าวิ่งออก และเกิดการหมุนเวียนลมที่ดีในกรณีที่ไม่เปิดแอร์

ห้องน้ำที่อยู่ติดกัน เป็นการเรียงการใช้งานแบบเป็นแถว ไล่ไปจาก อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ พื้นที่อาบน้ำ ยังคงได้ช่องแสงเปิดมาด้วย

จะเห็นว่ารูปแบบไม่มีเคาน์เตอร์รอบอ่าง ตู้ใต้อ่างมาให้นะ เพราะมีการทำ Low Wall ปิดผิวตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเอาไว้สำหรับวางข้าวของเป็นแนวยาวตลอดเส้นมาให้เลย

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำ ถือว่ากว้างมาก แม่ลูกเข้ามาอาบด้วยกันได้เลย 0.90 x 1.45 เมตร, ผนังตรงมทุมชุดฝักบัวก็มีการเซาะร่องเอาไว้เป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ และได้หน้าต่างบานกระทุ้งช่องเปิดแบบนี้ ช่วยระบายความชื้นได้ดี ถ้ากลัวแมลงเข้าก็ไปติดมุ้งลวดเพิ่มเอาหน่อย

มองมาที่ฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวเราไปดูทางขวา ซึ่งเป็นห้องนอนเล็ก 1 ฝั่งหน้าบ้านกันต่อ และค่อยปิดด้วย Master Bedroom

ห้องนอนเล็ก 1 ฝั่งหน้าบ้าน ถ้าดูจากพื้นที่ ก็จะใกล้ๆเคียงกับห้องฝั่งหลังแหละครับ ส่วนที่แตกต่างคงหนีไม่พ้น เจ้ามุมหน้าต่างที่เข้ากับส่วนสไตล์ตัวบ้าน

ทางเดินรอบๆด้านเตียงทุกฝั่ง มีมุมทำตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง

นี่ครับ ผมขอกดกล้องให้ดูหน่อย คือบ้านตัวอย่างเค้าเอาเตียง 3 ฟุตมาลงตกแต่ง แต่จะบอกว่า 5 ฟุต Queen Size นี่เหลือๆเลยนะครับ ขยายได้

ปิดท้ายห้องนอนเล็ก 1 ฝั่งหน้าบ้าน ด้วยมุมนี้ ด้วยส่วนยื่นของหน้าต่างสามด้าน เราสามารถ Built-In บริเวณนี้ให้กลายเป็นฟังก์ชัน Daybed เสริมเข้าไปได้ กลายเป็นมุมนอนเล่นอ่านหนังสือที่ดูน่าใช้งานขึ้นมาทันที

ไปต่อที่ห้องสุดท้าย Master Bedroom นี่มีพื้นที่ค่อนข้างมากนะครับ เตียงนี่เป็น Kin Size แน่นอน

ดูจากระยะทางเดินที่ปลายเตียง และในนี้ที่เห็นเค้ามีการวางชั้นวางตู้ปลายเตียงมาแล้วด้วยนะครับ แนะนำว่าถ้าใครจะนอนดูทีวีควรเลือกทีวีไซส์ใหญ่ๆ 50 นิ้วขึ้นไป เพราะไม่งั้นมองไม่ค่อยเห็นครับ ระยะห่างมัน 3 เมตรกว่าๆในเวลานอนดูเลย

ข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่ง ขนาบด้วยโต๊ะข้างวางได้ครับ และจะมีหน้าต่างช่องแสงอยู่ที่บริเวณหัวเตียง

ส่วนฝั่งด้านหน้า จะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนสองตอน มีตัวล็อกก้นหอยอยู่ตรงกลาง จะเห็นว่ากรอบบานไม่สูงมากนัก แต่ว่าแต่ละส่วนในบ้านนี้จะมีการเปิดช่องแสงธรรมชาติทุกฟังก์ชันจริงๆ

ด้านนอกเป็นส่วนของพื้นที่ระเบียง ซึ่งทำเป็นส่วนยยื่นออกไปพร้อมทั้ง เราจะเห็นพวกกันตกต่างๆสีขาว ที่มีหน้าตาสไตล์ Cottage เวลาเรามองมาจากด้านนอก พื้นที่ระเบียงนั้นถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะครับ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือสวนกระถางได้ทั้งคู่

ชายคาระแนงเหล็กพ่นสีขาวทั้งหมด รวมไปถึงโคมไฟด้วย 😀

จากระเบียงมองเข้าไป จะเห็นส่วนของทางไปต่อพื้นที่ Walk in Closet

พื้นที่ Walk in Closet ก้เป็นพื้นที่เปล่ามาให้มาตรฐาน และก็มีการเปิดช่องแสงมาฝั่งข้างบ้าน เหมาะทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งแบบบ้านตัวอย่าง เพราะแต่งหน้าต้องใช้แสงจริงช่วย

ถัดมาด้านในสุด แน่นอนห้องนอนใหญ่ก็มีห้องน้ำในตัวครับ โดยฟังก์ชั่นหลักๆครบมาตรฐานแหละ เรามาดูว่าได้อะไรที่แตกต่างจากห้องน้ำส่วนอื่นๆกันบ้าง

สิ่งแรกที่ถูกเพิ่มมาคือ เคาน์เตอร์รอบอ่างครับ เค้าก่อพื้นที่รอบๆกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนแบบชั้นวางด้านข้างแบบนี้

ส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามาอีกคือ เค้ามีการก่อพื้นที่ให้สำหรับนั่งอาบได้ส่วนนึงด้วย เผื่อใครจะนั่งสระผม ขัดเท้า ฯลฯ จะได้ง่ายๆเลย และก็มีชั้นวางของในพื้นที่เยอะพิเศษ และยังได้หน้าต่างช่องแสงธรรมชาติบานกระทุ้งมาถึง 2 ส่วนด้วย ได้ทั้งแสงทั้งเปิดให้ลมวิ่งแปปๆเดียวก็แห้งไม่ชื้นแล้วครับ


บ้านตัวอย่างถัดไป คือ MARIS ที่ดินมาตรฐานเริ่มต้น 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท ซึ่งบ้านนี้มีความโดดเด่นกว่าอีกสองแบบคือ เป็นบ้านแบบหน้ากว้าง ทำให้การจัดฟังก์ชันจะต่างออกไปเลย สไตล์ของบ้านยังคงเป็น American Cottage เช่นได้ แต่จะได้โทนสีเทาพาสเทลมาแทน และเห็นว่ามีช่องแสงขนาดใหญ่ตรงกึ่งกลางนั้นเป็นส่วนของโถงบันไดนั่นเอง

ที่ชั้นล่าง ทางเข้าออกหลักของบ้านจะอยู่ฝั่งหน้าหน้าบริเวณเฉลียงนั้นเอง เดินต่อมาจากที่จิดรถนิดหน่อย แต่ก็ยังมีทางเข้าออกรองทางฝั่งซ้ายที่สามารถไปเข้าทางครัวได้ เผื่อกรณีเราซื้อของเข้าบ้านมาเยอะๆ จะไปแช่ตู้เย็น ก็เดินรูทนี้ดีกว่า ความพิเศษของแปลนบ้านนี้ นอกจากจะเป็นแบบหน้ากว้างแล้ว ยังมีจำนวนห้องนอนเพิ่มเข้ามาอีก 1 ที่ชั้นล่างนี่แหละ ถ้าใครมีผู้สูงอายุพ่อแม่มาอยู่ด้วยก็ได้เลย ตำแหน่งของห้องน้ำก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนพอดี และยังคงคอนเซปท์ที่ได้ครัวปิดจบในตัวไม่ต้องไปต่อเติมอีกก็ได้ครับ

ที่ชั้น 2 แปลนจะดูง่ายมากเลยคือฝั่งซ้ายมือแบ่งออกเป็นห้องนอนเล็กทั้งคู่ ขนาดใกล้ๆเคียงกันไม่ต่างมาก โดยทั้งคู่ต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่โถงรวมด้านนอกนะครับ แน่นอนถ้าใช้ชนกันก็ไปข้างล่างได้เหมือนกัน และสุดท้ายห้องนอนใหญ่ กินพื้นที่กว่า 40% ของชั้นบนฝั่งขวามือ ซึ่งยังคงได้ Full Function เช่นเคย

บ้านตัวอย่างจะมีการสลับ FLIP กับแบบแปลนด้านบนอยู่นะครับ / พื้นที่จอดรถหน้าตาเหมือกันครับ จอดรถ B Segment 2 คันสบายอยู่ประมาณ 5 เมตรกว่าๆ โดยยังมีการลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน 18 เมตรเช่นกันครับ

ทางเข้าออกบ้านหลังนี้จะมีถึงสามฝั่งเลย โดยแน่นอนหลักๆแล้วก็อยู่ตรงเฉลียงหน้าบ้านนี่แหละ ยังมีทางเข้าออกรองด้านข้างอีกทั้งสองฝั่ง ฝั่งนึงไปเข้าทางครัวเผื่อกรณีเราซื้อของเข้าบ้านมาเยอะๆ จะไปแช่ตู้เย็น ก็เดินรูทนี้ดีกว่า และอีกฝั่งเป็นส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารครับ

หน้าตาของประตูจะมีการตีเส้นตารางที่เปลี่ยนไปดูเป็นการแบ่งช่องจตุรัสมากกว่า และพื้นที่เฉลียงด้านหน้า เราสามาระก่อเป็นเก้าอี้คอนกรีตเอาไว้นั่งสวมใส่รองเท้าก่อนเข้าออกบ้านได้ และเป็นที่เก็บรองเท้าได้ด้วยนะ

เข้ามา Common Area ที่เชื่อมพื้นที่ระหว่าง โถงนั่งเล่นรับแขก และพื้นที่ทานอาหารฝั่งด้านหลังบ้าน มุมนี้เราจะเห็นว่าระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างนะครับ ประมาณ 3 เมตรนิดๆ

การเลือกจัดวางโซฟา ก็แล้วแต่สมาชิกในบ้านนะครับ ถ้าดูด้วยตาแล้วพื้นที่เพียงพอแบบไปถึง 5 ที่นั่งก็ได้อยู่นะครับ และอีกอย่างที่อยากให้สังเกตคือ หน้าต่างด้านหลังโซฟา

เมื่อหลังที่แล้ว ผมไม่ได้บอกไป ว่าโครงการนี้เค้ามีการติดตั้งตัว Air Flow ให้กับตัวบ้าน ทุกแบบ ทุกหลัง อย่างในรูปที่เราสามารถใช้มือเปิดปิดเพื่อลดความร้อนภายในตัวบ้าน ไม่ต้องกลัวแมลงเข้า จะมีการติดแบบนี้ให้ทั้งหมด 3 จุดครับ

มุมชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้าม อยากได้พื้นที่การใช้งานโชว์ของเยอะๆ ก็ Built-In ตู้แขวนผนังเอาเลย

ส่วนด้านใน จะเป็นพื้นที่ขยายที่ดูกว้างมาก เพราะเป็นบ้านแบบหน้ากว้างนั่นเอง โดยบ้านตัวอย่างจัดเป็นฟังก์ชัน Dining Area ที่ควบคู่ไปกับ Pantry Area หรือครัวฝรั่งแบบเปิดพื้นที่นั่นเอง

Dining Area ที่โอบล้อมด้วยช่องแสงธรรมชาติทั้งสองฝั่ง สามารถเดินออกไปด้านนอกบ้าน ฝั่งข้างบ้านมุมนี้ได้ครับ และโต๊ะทานอาหารยังมีพื้นที่ 6-8 ที่นั่งได้เช่นกัน รองรับมีแขกไปใครมาทานข้าวที่บ้านได้

มุมเหนือช่องแสงฝั่งหลังบ้าน ก็เป็นอีกจุดที่มีการติดตั้งเจ้าตัว Air Flow

อันนี้บ้านตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียว่าจัด Pantry L-Shape หรือครัวฝรั่งเอาไว้กลางบ้านแบบนี้ ถ้าบ้านไหนชอบทำอาหาร ซื้อของมาทานเล่นบ่อย มุมนี้ก็จะได้ใช้งานแน่นอน เป็นมุมที่ช่วยให้ครอบครัวได้สร้างปฎิสมัพันธ์ที่ดีแก่กันและกัน

ไปต่อครับ จากภาพนี้ขวาสุดไล่ไปซ้าย ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องครัว, ห้องน้ำ

ความพิเศษของแปลนบ้านนี้ นอกจากจะเป็นแบบหน้ากว้างแล้ว ยังมีจำนวนห้องนอนเพิ่มเข้ามาอีก 1 ที่ชั้นล่างนี่แหละ ถ้าใครมีผู้สูงอายุพ่อแม่มาอยู่ด้วยก็ได้เลย

พื้นที่มุมทำโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เาสื้อผ้าก็มีมาให้แล้ว

ตำแหน่งของห้องน้ำก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนพอดี และยังคงคอนเซปท์ที่ได้ครัวปิดจบในตัวไม่ต้องไปต่อเติมอีกก็ได้ครับ

ห้องน้ำฟังก์ชันจะเหมือนกับบ้านก่อนหน้า อุปกรณ์ไม่กล่าวซ้าละกันนะครับ

สิ่งที่แตกต่างไปหน่อย เนื่องจากบ้านนี้มีห้องนอนชั้นล่าง เผื่อใครมีผู้สูงอายุมาอยู่ด้วย ก็เลยมีการแบ่งพื้นที่นั่งอาบเอาไว้ให้ครับ แต่ว่าไม่ได้ออกแบบพวกเรื่องสเต็ประดับต่างให้เหมือนการพวกบ้านผู้สูงอายุที่จะไม่มีระดับเลยนะครับ

ไปต่อที่ห้องครัว พื้นที่ทางขวามือตั้งแต่พ้นประตูไปยังสมารถทำตู้ชั้นเก็บของเพิ่มได้อีกนะ

เหมือนกันครับ ครัวโครงการไม่ได้ให้มานะ อันนี้เป็นไอเดียจากบ้านมาตรฐาน ซึ่งก็เป็นครัวไทยแบบปิด และทำอาหารจริงจังได้เลย ไม่ต้องไปต่อเติมอะไรเพิ่มแล้วล่ะ ได้ช่องแสงธรรมชาติที่ดีด้วย

ประตูทางเข้าออกครัวด้านข้างบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 ตอน ซึ่งที่ผมบอกไปตอนวิเคราะห์แปลนว่า อันนี้เป็นทางเข้าออกเผื่อวันไหนเราไปซุปเปอรมาร์เกต ตลาดมา ก็ใช้ทางเข้าออกนี้แหละ ยิงตรงเอาของมาเข้าตู้ได้เลย

ออกมาด้านนอกกลางบ้านอีกครั้ง มองไปทางฝั่งหน้าบ้าน จะเห็นส่วนของบันได และ ห้องเก็บของ

ห้องเก็บของ อันนี้จะเป็นพื้นที่รูปตัว L เข้ากับตำแหน่งของใต้บันไดพอดี สามารถเก็บของชิ้นกลาง-ใหญ่ และทรงสูงได้ มีการติดตั้งไฟส่องสว่างเอาไว้ให้

ช่องแสงกลางบ้านที่ผมบอกตอนหน้าบ้าน ว่ามันดูเด่นดี สูงโปร่งทำให้บริเวณชานพักบันไดดูโปร่งสบายตาเลย

และนี่ก็เป็นจุดติดตั้ง Air Flow ที่ 3 ของบ้านหลังนี้ครับ ที่โถงชานพักบันไดนี่เอง

ชานพักบันได้บ้านหลังนี้เป็นแบบที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วครับ เป็นชานพักที่เหยียบแบบไม่มีการแบ่งขั้น สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่กลับตัวง่าย

ที่ชั้น 2 คือฝั่งขวามือแบ่งออกเป็นห้องนอนเล็กทั้งคู่ ขนาดใกล้ๆเคียงกันไม่ต่างมาก โดยทั้งคู่ต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่โถงรวมด้านนอกนะครับ แน่นอนถ้าใช้ชนกันก็ไปข้างล่างได้เหมือนกัน และสุดท้ายห้องนอนใหญ่อยูประตูทางซ้ายมือมือ

หน้าตาของห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้าน ได้ช่องแสงเยอะขนาดใหญ่ที่โปร่งสบายตา และแน่นอนยังคงอัพขนาดเตียงเป็น 5 ฟุต Queen Size ได้

หน้าตาของห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้าน ได้ช่องแสงเยอะเช่นเดียวกัน ห้องนอนนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าฝั่งหน้าบ้านนิดหน่อย

สังเกตได้จากมุมนี้ครับ ค่อนข้างกว้างกว่า และถ้าเป็นลูกสาวก็ Built-In ตู้เสื้อผ้าแบบจัดหนักมุมนี้ได้เลย พื้นที่เหลือเฟือครับ

ห้องน้ำที่อยู่ติดกัน เป็นการเรียงการใช้งานแบบเป็นแถว ไล่ไปจาก อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ พื้นที่อาบน้ำ ยังคงได้ช่องแสงเปิดมาด้วย และก็ยังมีพื้นที่นั่งอาบในส่วนของโซนอาบน้ำมาด้วย

Master Bedroom ซึ่งกินพื้นที่ไปกว่า 40% ของชั้นสอง สิ่งที่สะดุดตาอย่างแรกคือการเปิดช่องแสงธรรมชาติ ที่เยอะมากเป็นพิเศษ ทำให้ห้องยิ่งดูโปร่งโล่งเข้าไปอีก

ส่วนของระยะทางเดินปลายเตียง แม้มจัดวางตู้ชั้นวางมาแล้วก็ยังเดินได้สบาย 70 ซม.ครับ

พื้นที่ระเบียงจะขนาดพอๆกับหลักแรก ตกแต่งหน้าตาคล้ายกัน จัดเป็นสวนกระถางสีเขียวเล็กๆ ให้ดูเข้ากับระเบียงขอบสีขาวได้ดี

ที่ปลายเตียงมีการเปิดช่องแสงเล็กอีก 3 จุด แต่ว่าตำแหน่งจะหันไปเห็นข้างบ้าน อาจจะต้องพึ่งพาม่านแก้วหรือมูลี่เพื่อความเป็นส่วนตัวสักหน่อย

ไอเดียจกาบ้านตัวอย่างมีการกั้นส่วนของ Walk in Closet ให้เป็นสัดส่วนนะครับ โดยบ้านมาตรฐานของจริงพื้นที่บริเวณนี้จะเปิดโล่งนะ

Walk in Closet จะอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งถ้าอาบน้ำเสร็จก็สามารถใช้งานแต่งตัวได้เลย

ห้องน้ำ Master จะแบ่งการใช้งานแตกต่างจากหลังอื่นคือมี สุขภัณฑ์อยู่ตรงกลาง ขวามือเป็นพื้นที่อ่างล้างมือ และซ้ายมือสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำ

สิ่งที่เด่นหน่อยในห้องน้ำนี้คือ พื้นที่เคาน์เตอร์รอบอ่าง ที่จัดเต็มมากับการวางของใช้ได้ คุณผู้หญิงน่าจะชอบหน่อยครับ กระจกเงาบานใหญ่แบบสะใจเต็มผนัง และฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่อาบน้ำซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะยืนหรือนั่งอาบก็ได้

ยังคงได้หน้าต่างบานกระทุ้งมาช่วยระบายความชื้นและเป็นช่องแสงนะฮะ

สิ่งสุดท้ายคือบ้านในโครงการนี้จะมีการติดตั้ง Wallpaper ให้ทุกหลังนะครับ จากที่ผมสังเกตมาจะมีลวดลายอยู่ 2 แบบตามในรูปนะ

บ้านตัวอย่างสุดท้ายที่ไม่ได้พาเข้าไปดูคือแบบ VANDA ที่ดินเริ่มต้น 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.54 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ใช้สอยจะใกล้ๆเคียงกับตัว MARISA ก่อนหน้า แต่แตกต่างกันตรงที่ไม่ได้เป็นบ้านแบบหน้ากว้างเท่า แต่ก็ยังมีส่วนของห้องนอนชั้นล่างที่ทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้เช่นกัน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @4 December 2018

  • IRIS ที่ดิน 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.05 ล้านบาท
  • MARIS ที่ดิน 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท
  • VANDA ที่ดิน 52.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.54 ล้านบาท

  • จองและทำสัญญา 20,000 บาท / ทำสัญญา 30,000 บาท
  • บ้านเป็นแบบสร้างเสร็จแล้วขาย (เลยไม่มีดาวน์)
  • แต่ถ้าล็อกแปลงระหว่างก่อสร้าง (นับดาวน์โดยประมาณ 10%)
  • ค่าส่วนกลาง 23 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ของโครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี จะอยู่ใกล้ๆกับแยกหลักบางคูวัดเลยครับ ซึ่งหลายๆคนในย่านนี้คงจะผ่านแยกนี้กันบ่อย แต่ถนนหลักด้านหน้าของโครงการจะติดกับถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี(ทล.307) ซึ่งเยื้องกันตรงข้ามจะมีจุดสังเกตอย่างคอมมูฯ The Tree อยู่นั่นเอง โดยภาพรวมถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัย ที่ผลักตัวออกมาจากโซนสำคัญและหนาแน่นมาจากดอนเมืองสรงประภา แต่ก็ถือว่ารับได้และไม่ได้ไกลมาก ถ้าจะเดินทางเข้าตัวเมืองก็ไม่ไกลเดินทางประมาณ 10 – 15 นาที หรือจะไปเดินเที่ยว Future Park รังสิต ก็มาใช้สะพานปทุมธานี 2  ได้เลย แต่ถ้าจะเข้าตัวเมืองให้ใช้สะพานนนทบุรี เข้าถนนศรีสมานจะสั้นกว่า และมีทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ให้ใช้ด้วย

ความอุดมสมบูรณ์ – ในละแวกโครงการสิ่งอำนวยสะดวกต่าง ๆ อยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่นัก ทั้งห้าง Tesco Lotus, Robinson สาขาศรีสมาน รวมถึงเป็นย่านที่มีโรงเรียนหลายแห่งตั้งอยู่ เช่น โรงเรียนพระเเม่มารีอุปถัมภ์, โรงเรียนสาธิตปทุมธานี, สารสาสน์ วิเทศราชพฤกษ์, โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี, โรงเรียนหอวังนนทบุรี ที่อยู่ในรัศมี 6-10 กิโลเมตร ในช่วงที่รถไม่ติดใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-20 นาทีเท่านั้น โดยรวมถือว่าสามารถขับรถไปยังสถานที่สำคัญต่างๆได้ไม่นาน

ความปลอดภัย – สำหรับโครงการนี้มีมาให้เพียงแค่ Kaycard Access รั้วไม้กั้นกระดก, และมีกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 จุดส่องหน้าคนขับกับป้ายทะเบียน และมีรปภ.สแกนกับแลกบัตรคนที่มาติดต่อ มีรั้วกำแพงสูงประมาณ 2-3 เมตร ถ้านับจากระดับราคาแล้วเอาจริงๆผมว่าให้มาน้อยไปหน่อย อย่างน้อยควรมี CCTV ในตัวถนนโครงการด้วย แถมในตัวบ้านก็ไม่มีระบบกันขโมยอะไรมาให้เลยครับ

การออกแบบ – โครงการนี้เน้นคุมธีมสไตล์ให้กับกับชื่อคอนเซปท์ American Cottage ซึ่งเป็นสไตล์ที่ดูโฮมมี่อบอุ่น คุมกันตั้งแต่ ซุ้มทางเข้า, บรรยากาศภายในสวน และก็ตัว Facade หน้าบ้าน ซึ่งดูภาพรวมออกมาดูดีสวยงามนะครับ ส่วนของแบบบ้านนั้นมีให้เลือก 3 แบบ ซึ่งก็เหมาะกับสมาชิก 3-5 คนกำลังดี มีตัวเลือกสำหรับกลุ่มคนที่จะพาผู้สูงอายุพ่อแม่มาอยู่ด้วย และทำพื้นที่ครัวปิดในบ้านจริงจังมาให้แบบไม่ต้องไปต่อเติมแล้วมาด้วยครับ

วัสดุ – ของโครงการเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป ใช้วงกบ UPVC สีขาวกระจกบานใส พื้นภายในบ้านชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ชั้นบนทั้งส่วนห้องนอนและโถงบันไดใช้พื้นลามิเนต หนา 12 มม.  พื้นลูกนอนและลูกตั้งบันไดเป็นไม้จริงอัดประสาน สำหรับดวงโคมในบ้านเป็นไฟดาวน์ไลท์ ใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมด มีการติดตั้งตัวระบายความร้อนของ Air Flow มาให้สามจุด โดยรวมก็ถือว่ามาตรฐานถ้าเทียบกับราคาที่จ่าย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – สวนหย่อมในโครงการนี้เป็นส่วนกลางหลักให้กับลูกบ้านครับ ซึ่งได้พื้นที่มา 1 ไร่กว่าๆ หรือ 478 ตร.วา ซึ่งก็ถือว่าให้มาระดับนึงพอสมควร แถมจัดสวยน่าใช้งาน อีกทั้งตามริมถนนโครงการและก็รั้วกำแพงอัดต้นมามาให้อีก

สาธารณูปโภค – โครงการนี้ให้สวนกลางมาแค่สวนหย่อม แต่ขนาดใหญ่หน่อย ประกอบไปด้วยสนามเด็กเล่น พื้นที่นั่งเล่น เลยจ่ายค่าส่วนกลางน้อยมาก ถ้าอยากใช้แบบจริงจัง ก็ที่ Clubhouse Sportclub บริเวณสนามกอล์ฟ ที่เป็นบริการที่เรียกว่าอยู่ใกล้ๆกับหน้าบ้านเรา ซึ่งมีหลากหลายมาก การทำแบบนี้ก็มีข้อดีสำหรับลูกบ้านกลุ่มที่ไม่ค่อยได้ใช้ส่วนกลาง ทำให้โดนเก็บค่าส่วนกลางไม่แพง และใครที่อยากจะไปใช้ก็จ่ายเป็นครั้งๆหรือรายเดือนไป

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5-7 ล้านบาท, 4 December 2018

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – อยู่ใกล้กับแยกใหญ่บางคูวัด รอบๆมีความอุดมสมบูรณ์ให้เลือกใช้อยู่พอสมควร
  • ความปลอดภัย 6.75/10 – รั้วไม้กระดกแบบคีย์การ์ด รปภ. 24 ชม. CCTVเฉพาะทางเข้า ความสูงรั้วรอบโครงการ 3 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – มีการคุมธีมสไตล์บ้าน รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลาง ฟังก์ชันบ้านจัดมาได้ดี มีให้เลือก 3 แบบ
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานตามระดับราคา
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีสวน 1 จุดขนาดค่อนข้างใหญ่ 1 ไร่กว่าๆ และจัดลงเต้นไม้เยอะตามถนนและริมรั้ว
  • สาธารณูปโภค 7/10 – โครงการนี้ให้สวนกลางมาแค่สวนหย่อม แต่ขนาดใหญ่หน่อย ประกอบไปด้วยสนามเด็กเล่น พื้นที่นั่งเล่น เลยจ่ายค่าส่วนกลางน้อยมาก ถ้าอยากใช้ให้ไปจ่ายรายเดือน,ปี ที่สปอร์ตคลับแยกด้านหน้าใกล้กับเซเว่น
  • 7.38 / 10.00

BOTTOM LINE

ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่อยู่ได้ทั้ง 2-3 Generation ที่ทำงานใช้ชีวิตอยู่ย่าน บางคูวัด ตัวเมืองปทุมธานี หรือกระทั่งดอนเมืองก็ตาม ที่พึ่งแยกครอบครัวออกมา มีออฟชั่นบ้านให้เลือกสำหรับคนจะเอาห้องนอนชั้นล่าง คุมธีมสวยๆ มีสวนให้ใช้ใหญ่หน่อยแค่อย่างเดียว แต่แลกมากับค่าส่วนกลางที่ไม่แพง ถ้าอยากใช้จริงๆจังก็แค่ปั่นจักรยานไปสปอร์ตคลับจ่ายเพิ่มเอาได้ มีงบประมาณประมาณ 5-7 ล้านบาท หรือครอบครัวที่มีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 35,000 – 49,000 บาท