
วันนี้มาเอาใจคนที่กำลังมองหาบ้านในเมืองโซนลาดพร้าวตอนปลาย กับโครงการ ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว ถึงแม้ว่าย่านนี้จะเต็มไปด้วยทาวน์โฮม 3-4 ชั้น แต่ทว่าโครงการนี้ก็ออกแบบมาได้แตกต่าง ซึ่งเราขอสรุปประเด็นความน่าสนใจไว้เป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ
- ราคา : ต้องยอมรับว่าทำเลในเมืองอย่างย่านลาดพร้าวตอนปลายนั้นเต็มไปด้วยโปรดักส์ทาวน์โฮม 3-4 ชั้น ความแตกต่างอันดับแรกเรามองว่าที่นี่เป็นโครงการใหม่ที่เปิดตัวมาในราคากลางๆ 6-7 ล้านบาทซึ่งถือว่าแตกต่างออกมาจากเพื่อนๆ ในโซนนี้ที่ Developer มักจะทำทาวน์โฮมที่เป็นส่วนตัวจ๋าๆ ราคาสูงหน่อย 8-12 ล้านบาท หรือไม่ก็ทำโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆ เกือบ 200 ยูนิต ขายราคา 4-5 ล้านบาท ทำให้โครงการนี้มาเติมเต็ม Segment ตรงกลาง ตอบโจทย์คนที่ยังอยากได้ความเป็นส่วนตัวจำนวนเพื่อนบ้านไม่ถึง 100 หลัง แต่ไม่ต้องจ่ายถึง 8 ล้านบาท
- การออกแบบบ้าน : รองรับการจอดรถได้ 3 คัน ต่างจากโครงการส่วนใหญ่ที่รองรับ 2 คันค่ะ
- ทำเล : จากตำแหน่งที่ตั้งก็ต้องยอมรับว่าอยู่ด้านในซอยเข้าไป 2.9 km. จึงอาจไม่ได้คึกคักเท่ากับโซนหน้า-กลางซอยลาดพร้าว 101 แต่ก็อยู่ห่างจากอู่รถสองแถวประมาณ 150 m. เท่านั้นค่ะ ขอเกริ่นถึงซอยนี้อีกสักนิดว่าเข้าถึงจากถนนหลักได้หลายเส้นทาง มีซอยลัดเลาะเป็นทางเลือกในชั่วโมงเร่งด่วน และความอุดมสมบูรณ์ในซอยครบครัน
ข้อมูลโครงการ
Lumpini Townplace Ladprao 101-Pho Kaeo (ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว) ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2564
ชื่อโครงการ | Lumpini Townplace Ladprao 101-Pho Kaeo (ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พรสันติ จำกัด ในเครือแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยลาดพร้าว 101 ถนนโพธิ์แก้ว เขตบางกะปิ |
ที่ดิน | 8-2-33 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 95 ยูนิต |
ประเภทบ้าน | ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ที่ดินมาตรฐาน 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 209 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น 6.38 ล้านบาท (Promotion ช่วงเปิดโครงการ 5.98 ล้านบาท) |
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.3-5 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | N/A บาท |
เริ่มก่อสร้าง | เดือนมกราคม ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | เดือนเมษายน ปี 2565 |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.baanlumpini.com/TOWNPLACE/TP-LP/ |
โทร | 02-689-6888 |
Call Center | N/A |
ทำเลที่ตั้ง
ทำเลลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว ในซอยลาดพร้าว 101 ดีอย่างไร?
- อันดับแรกเมื่อคิดถึงซอยลาดพร้าว 101 ก็จะเห็นภาพร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ลอยขึ้นมาเลยนะคะ เพราะความอุดมสมบูรณ์ครบครันตั้งแต่ Community Mall, ร้านอาหารราคาย่อมเยา, ตลาด, ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
- ลำดับถัดมาคือเป็นซอยที่เข้าถึงจากถนนหลักได้หลายเส้นทางทั้งลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม, ประเสริฐมนูกิจ และนวมินทร์ มีทางให้เลือกลัดเลาะได้เยอะ เผื่อเป็นทางเลือกในชั่วโมงเร่งด่วน
- สำหรับวันไหนที่ไม่ต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวก็มีรถสาธารณะให้เลือกใช้งาน ใกล้ที่สุดก็รถสองแถว (คันสีแดง) และพี่วินมอเตอร์ไซค์ในระยะประมาณ 150 m. นั่งออกมาทางปากซอยลาดพร้าวก็ถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้วค่ะ และมีรถสองแถวอีกสายหนึ่ง (คันสีขาว) ที่ไปถึงตลาดปัฐวิกรณ์เลยค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.799798, 100.628165
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 เข้ามาประมาณ 2.9 km. เลยวัดบึงทองหลางเข้าไปอีกนิดนึงแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยโพธิ์แก้ว (ลาดพร้าว 101 แยก 56) ค่ะ
หลายคนอาจมองว่าโครงการตั้งอยู่ในซอยค่อนข้างลึกเข้าจากหน้าปากซอยประมาณ 2.9 km. ซึ่งก็ใช่ระยะนี้เกินระยะเดินสบาย (ประมาณ 500 m.) แต่ซอยนี้ก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถสองแถว ซึ่งมี 2 สายให้ใช้กัน อย่างสายสีแดงจะวิ่งมาทางหน้าปากซอยลาดพร้าว ซึ่งอู่เค้าอยู่ใกล้โครงการประมาณ 200 m. ส่วนรถสองแถวสายสีขาวเราสามารถขึ้นได้จาก 7-11 ที่ห่างไปประมาณ 700 m. ค่ะ
สภาพแวดล้อมภายในซอยลาดพร้าว 101 ส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว แต่ในระยะหลังๆมีคอนโดผุดมาให้เห็นเรื่อยๆ ตลอดริมถนนในซอยจะมีอาคารพาณิชย์อยู่เป็นระยะคล้ายๆกับซอยโชคชัย 4 หรือ ซอยลาดพร้าว 71 (นาคนิวาส) แต่ความหนาแน่นจะน้อยกว่าพอสมควร
แหล่งอาหารการกินจะมีร้านอาหารตึกแถวกระจายตัวอยู่ตลอดทั้งซอย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยหลักที่ลาดพร้าว 101 แต่บริเวณที่มีเยอะหน่อยจะเป็นช่วงปากซอยและก่อนถึงวัดบึงทองหลางก็เป็นทางผ่านเข้าออกโครงการทั้งหมด แวะจับจ่ายก่อนเข้าบ้านได้สะดวก ตั้งแต่ Community เล็กๆของ Happy Condo, 7-11 , Tesco Lotus ไปจนถึงร้านขายอาหารตามตึกแถว และรถเข็นริมทาง ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เช่น Central Festival East Ville, CDC, The Mall บางกะปิ เป็นต้น
การเดินทางด้วยรถถือว่าสะดวกดีเพราะมีทางลัดให้ออกถนนหลักได้หลายทางเส้นทาง วิ่งไปสุดทางเข้าซอยโพธิ์แก้วจะทะลุถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา), ถนนนวมินทร์, ถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์)ได้ และยังมีซอยลาดพร้าว 101 แยก 39 ที่ทะลุซอยลาดพร้าว 87 ได้อีก ทางด่วนที่มีให้ใช้ใกล้สุดจะเป็นทางด่วนรามอินทราเชื่อมเข้าแถวเอกมัยง่ายเลย นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยการเดินทางในอนาคตอย่างรถไฟฟ้า ซึ่งสถานีตั้งอยู่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 101 ใกล้ตลาดสดลาดพร้าว มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 km. ต้องนั่งสองแถวออกมาหน้าปากซอยก็ถึงรถไฟฟ้าแล้วค่ะ ใครอยากทราบความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีเหลือง (รัชดา – ลาดพร้าว – พัฒนาการ) คลิกอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นจากปากซอยลาดพร้าว 101 ผ่านเข้ามาให้เห็นความคึกคักของซอยที่เกริ่นไว้ซะเยอะเลย ไปชมกันค่ะ
เริ่มเดินทางบนถนนลาดพร้าว ซึ่งจุดสังเกตหน้าปากซอยลาดพร้าว 101 คือมีสัญญาณไฟจราจรพอดี และหากข้ามแยกไปก็จะถึงตัวสถานีลาดพร้าว 101 ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้
แผนที่ซูมในระยะประชิดรอบๆโครงการ เราทำขึ้นเพื่อประกอบให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมในระยะประชิดนะคะว่าติดกับอะไรบ้าง ซึ่งซอยนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นที่พักอาศัยอยู่แล้วไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลถึงการอยู่อาศัยนะคะ
แต่ส่วนที่เราสังเกตนิดนึงคือหน้าบ้านที่หันฝั่งทิศใต้จะอยู่ติดกับสวน ส่วนบ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือจะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัยบ้าง อพาร์ทเม้นท์บ้าง ซึ่งหากใครจะไม่ต่อเติมหลังคาหลังบ้านเพิ่ม เราแนะนำให้เลือกบ้านที่หน้าทิศใต้ (หลังบ้านติดสวน) จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าค่ะ
สุดท้ายเราพามาชมบรรยากาศในซอยโพธิ์แก้วกันอีกนิด เป็นซอยย่อยจากซอยลาดพร้าว 101 อีกที ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และอพาร์ทเม้นท์ แต่เราไม่แน่ใจว่าช่วงกลางคืนเมื่อลงจากสองแถวแล้วจะเดินเข้าออกได้แบบสบายใจมั้ย เพราะบรรยากาศค่อยข้างเงียบสงบ เอาแบบปลอดภัยๆ ก็หาเพื่อนหาแฟนเดินมาด้วย หรือเด็กๆ ก็ให้ผู้ปกครองเดินมารับนะคะ ><
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ตัวช่วยในการเดินทาง
- รถสองแถว (สีแดง) ~ 150 m.
- วินมอเตอร์ไซค์ ~ 200 m.
- รถสองแถว (สีขาว) ~ 700 m.
- สถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว 101 ~ 3 km.
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- 7-11 ~ 700 m.
- CDC ~ 3.2 km.
- Central Festival EastVille ~ 3.7 km.
- Big C ลาดพร้าว ~ 4.7 km.
- Makro ลาดพร้าว ~ 5.1 km.
- The Mall บางกะปิ ~ 5.3 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเวชธานี ~ 3.8 km.
- โรงพยาบาลลาดพร้าว ~ 3.9 km.
อื่นๆ
- วัดบึงทองหลาง ~ 400 m.
รายละเอียดโครงการ
โครงการลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว แตกต่างจากโครงการอื่นอย่างไร?
- ราคา : ทำเลในเมืองอย่างย่านลาดพร้าวตอนปลายนั้นมีโปรดักส์ทาวน์โฮม 3 – 4 ชั้นหลายโครงการที่เปิดขายอยู่ แต่เรามองว่า “ที่นี่เป็นโครงการใหม่ที่เปิดตัวมาในราคากลางๆ 6-7 ล้านบาทซึ่งถือว่าแตกต่างออกมาจากเพื่อนๆ ในโซนนี้ที่ Developer มักจะทำทาวน์โฮมที่เป็นส่วนตัวจ๋าๆ ราคาสูงหน่อย 8-12 ล้านบาท หรือไม่ก็ทำโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆ เกือบ 200 ยูนิต ขายราคา 4-5 ล้านบาท ทำให้โครงการนี้มาเติมเต็ม Segment ตรงกลาง” เหมาะกับคนที่ยังอยากได้ความเป็นส่วนตัว จำนวนเพื่อนบ้านไม่ถึง 100 หลัง แต่ไม่ต้องจ่ายถึง 8 ล้านบาทค่ะ
- Concept : โมเดิร์นนิสต์ของยุค 60s โดยตัวอาคารจะมีดีเทลที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่นการใช้เส้นสายที่โค้งมน สีสันจะเป็นโทนเขียวสลับขาว ซึ่งแตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่ที่ทำออกมาในบรรยากาศโมเดิร์นจ๋าๆ ค่ะ
มาดูที่ตัวโครงการ ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว เป็นโครงการประเภททาวน์โฮม ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 8 ไร่ครึ่ง โดยมีบ้านรวมทั้งหมด 95 หลัง ถือว่าเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีรูปทรงที่ดินเป็นคอขวด จัดวางบ้านพักอาศัยเข้าไปไว้ด้านใน จึงไม่มีบ้านหลังไหนที่อยู่ใกล้กับทางเข้าและป้อมยาม สร้างความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น ส่วนเจ้า Clubhouse และสวนส่วนกลางจะอยู่ในโซนแรกสุด เป็นหน้าเป็นตาใช้รับแขกได้ ซึ่งพอเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์นนิสต์ของยุค 60s ทำให้ดูมีเอกลักษณ์ดีนะคะ
สำหรับการวางตัวบ้านจะเรียงกันไปตามถนนหลัก 9 m. ไม่ได้แบ่งเป็นซอยย่อย ทำให้เข้าถึงง่ายไม่ต้องเลี้ยวไปไหนเลย แต่บ้านไหนที่อยู่โซนหน้าๆ ก็จะมีรถวิ่งผ่านบ่อยหน่อยแลกมากับตำแหน่งที่ใกล้สวน เดินไปใช้ง่าย หรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำโซนด้านในๆ จะสงบขึ้นค่ะ
โครงการวางทิศของบ้านส่วนใหญ่ไปทางทิศเหนือ, ใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่าค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีการใช้องค์ประกอบอย่างซุ้มโค้งทำให้ดูสวยงามขึ้น และเค้าวางตำแหน่งป้อมยามเข้าไปด้านในนิดหนึ่ง ให้พอมีพื้นที่สำหรับจอดรถแลกบัตรได้สะดวก
จุดที่น่าสนใจเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยอันดับแรกคือรั้วที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการค่ะ โดยทั่วไปเรามักจะเจอประตูรั้วแบบไม้กั้นกระดก แต่โครงการนี้ออกแบบมาให้เป็นรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติและใช้ระบบ keycard สแกนผ่านเข้า-ออก
เข้ามาด้านในโครงการจะเป็นทางเดินรถเข้าสู่ Clubhouse เป็นโซนแรก แล้วถัดเข้าไปจึงเป็นโซนพักอาศัยทำให้ได้ความสงบมากขึ้น และบรรยากาศ 2 ข้างทางก็ดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ไปตลอดแนวค่ะ
โซนแรกเราจะเจอกับอาคาร Clubhouse ตั้งตระหง่านอยู่เลยค่ะ เราว่าเด่นด้วยการใช้ซุ้มโค้งนี่แหละ ให้บรรยากาศดูคลาสสิคดีนะคะ
ทางขึ้นลงอาคารเป็นแบบ Universal Design สามารถเข็นวีลแชร์ขึ้นไปได้ นอกจากนี้จะมีลิฟต์ให้ใช้ขึ้นไปชั้นบนได้ด้วยนะคะ
ห้องนิติบุคคลจะอยู่ที่ชั้นล่างของ Clubhouse เลย มาแวะติดต่อได้สะดวก
จาก Clubhouse ก็สามารถเชื่อมไปสวนส่วนกลางได้ แต่ก่อนอื่นเราจะพาขึ้นไปชมชั้น 2 กันก่อนโดยใช้บันไดโค้งๆ นี้นะ
มาดูชั้น 2 ของ Clubhouse กันต่อนะคะ จากชั้นบนจะมองเห็นวิวซุ้มโค้งสวยๆ แปลกตาดีค่ะ
พื้นที่ชั้นบนจัดไว้เป็นห้องฟิตเนสทั้งหมด ซึ่งจะเดินขึ้นบันไดหรือใช้ลิฟต์ขึ้นมาก็ได้นะคะ
ภายในห้องฟิตเนสใส่เครื่องเล่นต่างๆ ไว้ 9 ชิ้น ซึ่งรองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Weight Training และแบบ Cardio
ผนังห้องเกือบทุกฝั่งเป็นผนังกระจก ทำให้บรรยากาศภายในฟิตเนสดูโปร่งโล่ง ได้วิวสวน
มีมุมอเนกประสงค์ให้ใช้เล่นโยคะได้ด้วยนะคะ
ออกมาที่สวนส่วนกลางมาขนาด 103.5 ตร.วา ถึงจะดูว่ามีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่ก็พอให้แบ่งใช้กันได้กับเพื่อนบ้าน 95 หลังค่ะ
ตอนนี้ทางโครงการปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มไว้เรียบร้อยแล้ว รอเค้าแผ่กิ่งก้านอีกสักหน่อยก็จะได้เห็นร่มเงากันบ้าง
นอกจากม้านั่งให้นั่งเล่นในสวนแล้วก็จะมีเครื่องเล่นสำหรับคุณหนูๆ ด้วย เรามองว่าเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ให้พวกเค้าได้วิ่งเล่นกับเพื่อนค่ะ
โครงการคิดค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา เพราะว่าแชร์กับลูกบ้านจำนวนไม่เยอะนักค่ะ และเมื่อมองผ่านสวนเข้าไปในโครงการก็จะเป็นโซนพักอาศัยที่วางตัวบ้านเรียงกันยาวเข้าไปด้านใน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- ห้องออกกำลังกาย
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 103.5 ตร.วา
แบบบ้าน
การออกแบบบ้านลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว น่าสนใจอย่างไร?
- เป็นทาวน์โฮมที่จอดรถได้ 3 คัน ซึ่งในละแวกนี้หายาก ส่วนใหญ่จะจอดได้ 2 คันค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะแค่ต้องขยับราคาไปถึง 10 ล้าน+ ในขณะที่โครงการนี้แค่ 6-7 เท่านั้น ทำให้ที่จอดรถ 3 คันเป็นจุดเด่นของแบบบ้านที่นี่เลย
- โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนสามารถทุบต่อเติมได้ ต่างจากโครงสร้าง Precast ที่จะโดน Fix Plan ทุบผนังไม่ได้
- การออกแบบรองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก หาซื้อบ้านเพื่อแยกออกจากครอบครัวใหญ่ แต่ข้อจำกัดหนึ่งที่เราคิดก็คือ บ้านแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุสักเท่าไหร่ >< เพราะเป็นบ้านที่ต้องขึ้นบันไดหลายชั้น และไม่ได้มีห้องนอน+ห้องอาบน้ำสำหรับผู้สูงอายุที่ชั้นล่าง จึงเหมาะกับครอบครัวที่วัยรุ่นหน่อย ไม่ใช่วัยหลังเกษียณค่ะ
เนื่องจากบ้านตัวอย่างโครงการ ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเราจึงจะเน้นอธิบายจากแปลนและภาพ Perspective แทนนะคะ แต่ก็ยังมีความโชคดีที่วันไปเก็บรีวิวเราได้เดินเข้าไปชมมาคร่าวๆ ได้เห็นพื้นที่บ้านบ้างแหละ ก็มั่นใจว่าอธิบายได้ละเอียดอยู่นะ
แบบบ้านโครงการ ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว มีให้เลือกเพียงแบบเดียวเท่านั้น เป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นครึ่ง สไตล์โมเดิร์นนิสต์ของยุค 60s ใช้เส้นสายลายโค้งมนมาช่วยลดทอนความโมเดิร์นลง ให้ดูคลาสสิคขึ้น ซึ่งเป็น Gimmick ในการออกแบบที่ล้อกับ Clubhouse ของโครงการค่ะ
แปลนบ้านเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 209 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
จุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือ โครงการเลือกใช้โครงสร้างให้ยืดหยุ่นกับการต่อเติมในอนาคต รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งไว้ในบ้านทุกหลัง ซึ่งในรีวิวนี้บ้านตัวอย่างยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี อาจยังเห็นภาพไม่ชัด เราจึงขอสรุปเป็นประเด็นงานโครงสร้างและงานระบบไว้ ดังนี้
โครงสร้าง
- โครงสร้าง Conventional ใช้อิฐมวลเบา
- หน้าบ้านลงเสาเข็มไว้แค่เท่าผนั
งบ้านชั้น 2 - หลังบ้านใช้คานร่วมกับตัวบ้าน ไม่ได้ลงเสาเข็มเพิ่ม
ระบบรักษาความปลอดภัย
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Detector ที่ชั้น 1 ทุกหลัง มีสัญญาณเตือนผ่านมือถือ และมีเสียง Alarm ภายในบ้าน
- กล้อง CCTV ติดตั้งบริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน สามารถดูกล้อง Online ผ่าน APP มือถือ
เทคโนโลยีในตัวบ้าน
- เตรียมระบบไฟและแยกเบรกเกอร์เฉพาะสำหรับติดตั้ง EV Charger
- Smart Switch&Smart Plug สั่งงานผ่าน APP มือถือได้
- ระบบ Air Flow ระบายอากาศติดตั้งบริเวณโถงบั
นไดชั้น 3 ช่วยดูดความร้อนออกนอกบ้าน - Smart Control System ควบคุมเครื่องปรับอากาศภายในบ้
าน
ชั้น 1
แปลนชั้น 1 – อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่แรกว่าฟังก์ชันเด่นของที่นี่คือ จอดรถได้ 3 คัน นั่นทำให้หน้าบ้านฝั่งหนึ่งนั้นมีความลึกเป็นพิเศษถึง 8.4 m. เพื่อให้จอดรถ Eco Car ซ้อนกัน 2 คันได้ ส่วนหน้าบ้านอีกฝั่งหนึ่งมีความลึก 5.8 m. จึงสามารถจอดรถที่มีความยาวหน่อยแบบ SUV ได้ค่ะ แต่หากครอบครัวไหนที่มีรถแค่ 2 คัน ก็สามารถกั้นห้องรับแขกเพิ่มเองได้ (แบบในแปลนตัวอย่างการต่อเติม) เพราะโครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน หรือภาษาสถาปัตย์คือแบบ Conventional สามารถทุบต่อเติมได้
รั้วบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับ หน้ากว้าง 5.5 m. มีความลึกเป็นพิเศษถึง 8.4 m. เพื่อให้จอดรถ Eco Car ซ้อนกัน 2 คันได้ ส่วนหน้าบ้านอีกฝั่งหนึ่งมีความลึก 5.8 m. จึงสามารถจอดรถที่มีความยาวหน่อยแบบ SUV ได้ค่ะ
ถัดเข้าไปยังพื้นที่ภายในบ้านจัดเป็นพื้นที่ทานอาหารและพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเป็นห้องครัวได้หรือหากอยากได้ครัวใหญ่ๆ ก็สามารถต่อเติมครัวที่ลานซักล้างด้านหลังบ้านเพิ่มก็ได้ค่ะ
พื้นที่ทานอาหารนับเป็นจุด Highlight ของตัวบ้านเพราะเป็นส่วนที่ได้ฝ้าเพดานสูง 5 m. สามารถมองขึ้นไปเห็นพื้นที่บนชั้นลอยได้เพราะพื้นที่เปิดเชื่อมต่อกัน บ้านจึงดูโปร่งโล่ง สามารถห้อยโคมไฟระย้ายาวลงมาให้ดูโอ่อ่าได้ พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้พร้อมเก็บขอบบัวเอาไว้เรียบร้อย
โดยพื้นที่บริเวณทานอาหาร เราลองวัดดูแล้วขนาดประมาณ 2.9 x 4.5 m. พอให้วางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้ แต่ด้วยความลึกที่ไม่มากนักเมื่อเข้ามาในตัวบ้านเราจะสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านหลังบ้านเลย หากใครชอบพื้นที่ชั้นล่างเยอะๆ อาจจะต้องต่อเติมห้องรับแขกเพิ่มด้านหน้า แต่เรามองว่าหากใครจัดหลังบ้านเป็นสวนจะลงตัวกว่าเพราะ 1. ได้สวนที่เป็นส่วนตัวอยู่หลังบ้าน 2. พื้นที่ทานอาหารจะเชื่อมต่อกับสวนกลายเป็นพื้นที่กว้างๆ ทานอาหารไปชมวิวไป ส่วนห้องครัวต้องมา Built-in เพิ่มตรงพื้นที่อเนกประสงค์แทนนะคะ
เราเอาภาพ Section ของตัวบ้านมาให้เห็นภาพชัดๆ ว่าพื้นที่ทานอาหารจะเป็นส่วนที่มีฝ้าสูงที่สุดในบ้านถึง 5 m. เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกับชั้นลอยด้านบนค่ะ
บรรยากาศบริเวณ Highlight ของบ้าน ซึ่งก็คือพื้นที่ทานอาหารที่มีฝ้าสูงที่สุดในบ้านถึง 5 m. เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกับชั้นลอยด้านบนค่ะ
ถัดมาที่พื้นที่อเนกประสงค์ส่วนนี้มีความสูงฝ้าเพดาน 2.3 m. ห้องนี้มีหน้าต่างในตัว และด้านในสุดของจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room ซึ่งเหมาะกับการใช้รับแขกเท่านั้น ไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำ เราจึงมองว่าพื้นที่ตรงนี้เหมาะจะทำเป็นห้องครัวในบ้านก็ได้ หรือจัดเป็นพื้นที่ทำงานก็เหมาะกับการ Work From Home แบบในยุคปัจจุบัน
โคมไฟของที่นี่จะเป็นแบบ LED ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานและช่วยลดความร้อนที่ออกมาจากหลอดไฟด้วยค่ะ
พื้นที่อเนกประสงค์ภายในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน ซึ่งจะมีพื้นที่ใต้บันไดให้ Built-in เป็นชั้นเก็บของเพิ่มเติมได้ด้วยนะคะ
สำหรับลานซักล้างด้านหลังบ้านจะมีระยะระหว่างกำแพงถึงรั้วบ้านตามมาตรฐานกฎหมายที่ 2 เมตร เป็นส่วนที่ทางโครงการทำคานรับน้ำหนักยื่นออกมาจากตัวบ้านให้แล้ว หากมีการต่อเติมต้องลงเสาเข็มเพิ่มอีกมั้ย? ขึ้นอยู่กับว่าเราต่อเติมรูปแบบไหน ซึ่งแนะนำว่าควรปรึกษาวิศวกรก่อนนะคะ
ซึ่งหากใครชอบครัวใหญ่ๆ พื้นที่ประมาณ 2 x 5 m. ก็มาต่อเติมด้านหลังเพิ่มได้ หรือหากทำเป็นสวนก็จะกลายเป็นมุมพักผ่อนหลังบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัวและเป็นจุดพักสายตาเวลานั่งทานอาหารด้วยนะคะ
บ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมห้องครัวหลังบ้าน ซึ่งจะติดกับพื้นที่ทานอาหารเลย จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก
ชั้นลอย
แปลนชั้นลอย – พื้นที่พักผ่อนนั่งเล่นของบ้านที่นี่จะถูกขยับขึ้นมาไว้บนชั้นลอย โดยฝ้าเพดานของส่วนนี้สูง 2.5 m. ซึ่งเป็นระยะมาตรฐานของบ้านทั่วไปนะ
บรรยากาศในพื้นที่นั่งเล่นจะดูเปิดโล่งเพราะ 2 ฝั่งซ้ายขวาไม่ได้มีกำแพงมาบล็อก โดยออกแบบให้ฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูงเชื่อมกับพื้นที่ทานอาหาร สามารถมองลงไปเห็นสมาชิกคนอื่นๆ ที่นั่งทานข้าวอยู่ชั้นล่างได้ และอีกฝั่งหนึ่งจะมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดออกไปมองวิวทางฝั่งหน้าบ้าน พื้นตั้งแต่ชั้นลอยขึ้นไปจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 mm. เพื่อให้บรรยากาศดู Homey มากขึ้นกว่าชั้นล่างนะคะ
พื้นที่นั่งเล่นบนชั้นลอยกว้างขวางทีเดียว สามารถวางโซฟา 5-6 ที่นั่งได้เลย
ชั้น 2
แปลนชั้น 2 – ออกแบบมาให้เป็น Master Bedroom ทั้งชั้น ทำให้ห้องนี้มีฟังก์ครบครันตั้งแต่พื้นที่วางเตียง+ชุดโซฟา, Walk-in Closet, ห้องน้ำในตัว และระเบียง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Walk-in Closet เป็นลำดับแรก ซึ่งเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังฝั่งหนึ่ง และมีพื้นที่เพียงพอวางสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง
พื้นที่ Walk-in Closet อยู่ในโซนที่สามารถกั้นประตูแยกจากห้องนอนได้เป็นสัดส่วน
ถัดเข้าจึงจะถึงโซนพักผ่อนในห้องนอนที่แท้จริง ทำให้พื้นที่ตรงนี้ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก โดยตำแหน่งอยู่ในฝั่งหน้าบ้านจึงได้ช่องแสง ซึ่งเค้าจะให้มาเป็นบานใหญ่รับแสงได้เยอะ
ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางชุดโซฟาได้ เป็นมุมพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่
ถัดเข้ามาจาก Walk-in Closet จึงจะเป็นโซนพักผ่อน จึงได้ความสงบมากขึ้น
ชั้น 3
แปลนชั้น 3 – เป็นชั้นของคุณหนูๆ ออกแบบมาให้เป็น 2 ห้องนอน ที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันนะคะ โดยความพิเศษของห้องน้ำที่นี่ก็คือเค้า ติดตั้งอ่างล้างหน้าไว้หน้าสุด ในโซนที่ยังไม่มีประตูกั้น ในชั่วโมงเร่งด่วนหากมีคนอาบน้ำอยู่ด้านในเราก็สามารถแปรงฟันล้างหน้าได้ค่ะ
ห้องนอน 2 จะได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด ทำให้ได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างและระเบียงตลอดแนว ซึ่งเราขอเรียกห้องนี้ว่าห้องนอนของลูกคนโปรด เพราะมีพื้นที่ใหญ่กว่าอีกห้องหนึ่งและมีระเบียงในตัว และฝ้าเพดานของชั้นนี้จะมีความสูงกว่าชั้นอื่นๆ ที่ 2.7 m. เพราะเป็นชั้นที่อยู่ใกล้หลังคาที่สุด ความสูงของฝ้าที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยลดความร้อนที่จะผ่านเข้ามาในบ้านได้ค่ะ
จากพื้นที่ของห้องประมาณ 4.15 x 5.5 m. ใหญ่พอๆ กับ Master Bedroom ในทาวน์โฮม 2 ชั้นเลยนะคะ ทำให้เราสามารถกั้นโซนเป็นมุมทำงาน เป็นพื้นที่ Walk-in Closet ภายในห้องได้ เรียกว่าอยู่อาศัยได้สบายตั้งแต่เล็กจนโตค่ะ
ห้องนอนของลูกคนโปรดมีขนาดใหญ่จัดฟังก์ชันได้ครบถ้วนทั้งเตียงนอน มุมนั่งเล่น นั่งทำงานและพื้นที่แต่งตัว แต่จะไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ
ส่วนห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน จากขนาดของห้องเราว่าไม่เหมาะที่จะกั้นแบ่งโซนนะคะ แต่มีพื้นที่พอให้สามารถวางเฟอร์ฯ ได้ครบถ้วนตั้งแต่เตียงเดี่ยว ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานค่ะ
หรือหากครอบครัวไหนที่มีลูกแค่คนเดียวก็สามารถปรับเปลี่ยนห้องนี้ให้เป็นห้องอเนกประสงค์ สำหรับพักผ่อน ทำงานอ่านหนังสือก็เหมาะค่ะ
ห้องนอน 3 แม้จะมีขนาดกระทัดรัดลงมาหน่อยแต่ก็เพียงพอสำหรับเด็กวัยรุ่นที่ของใช้ยังมีไม่เยอะนัก เพียงพอสำหรับการวางเตียงเดี่ยว, โต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้า
บ้าน Standard
หากใครอยากชมว่าบ้านที่จะได้จริงนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ก็สามารถเลื่อนดูรูปด้านล่างได้นะคะ ซึ่งสเปคต่างๆ ก็ตรงกับที่เราเห็นในบ้านตัวอย่างค่ะ
บริเวณหน้าบ้านจะได้ตู้เก็บของ 2 ตู้ใหญ่ๆ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว ราคา ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2564
- ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 209 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.38 ล้านบาท (โปรโมชันช่วงเปิดโครงการ 5.98 ล้านบาท) - จอง 20,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 ซึ่งเมื่อคิดถึงซอยลาดพร้าว 101 ก็หายห่วงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ไปได้เลย เพราะร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ครบครัน นอกจากนี้ยังเป็นซอยที่เข้าถึงจากถนนหลักได้หลายเส้นทางทั้งลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม, ประเสริฐมนูกิจ และนวมินทร์ มีทางให้เลือกลัดเลาะได้เยอะ เผื่อเป็นทางเลือกในชั่วโมงเร่งด่วน และยังตอบโจทย์คนที่อยากอยู่บ้านแต่ไม่อยากขับรถด้วยนะ เพราะมีรถสาธารณะให้เลือกใช้งาน ใกล้ที่สุดก็รถสองแถว (คันสีแดง) ในระยะประมาณ 150 m. ค่ะ
นอกจากนี้ในอนาคตไม่ไกลก็มีตัวเลือกในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งจะวิ่งตัดผ่านถนนลาดพร้าวนะคะ โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดก็คือ สถานีลาดพร้าว 101 ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยระยะห่างราวๆ 3 km. นับว่าเป็นโครงการแนวราบที่จะมาใช้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ไม่ยากค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ในเรื่องของความปลอดภัยโดยรวมเรามองว่าให้มาเป็นมาตรฐานทั่วไปนะคะ มีรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชม. การเปิด-ปิดด้วย Keycard Access และ CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ ส่วนตัวบ้านจะได้ Magnetic Detector ที่ชั้น 1 ทุกหลัง มีสัญญาณเตือนผ่านมือถือ และมีเสียง Alarm ภายในบ้าน พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน สามารถดูกล้อง Online ผ่าน APP มือถือได้
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบบ้าน – จุดที่โดดเด่นของโครงการคือเรื่องการออกแบบโปรดักส์ที่เค้าทำราคาทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งออกมาที่ 6-7 ล้านบาท ถือว่าแตกต่างออกมาจากเพื่อนๆ ในโซนนี้ ตอบโจทย์คนที่ยังอยากได้ความเป็นส่วนตัวจำนวนเพื่อนบ้านไม่ถึง 100 หลัง แต่ไม่ต้องจ่ายถึง 8 ล้านบาท
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ เป็นทาวน์โฮมที่จอดรถได้ 3 คัน ซึ่งเป็น Rare Item ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะจอดได้ 2 คันค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะแค่ต้องขยับราคาไปถึง 10 ล้าน+ ในขณะที่โครงการนี้แค่ 6-7 เท่านั้น ทำให้ที่จอดรถ 3 คันเป็นจุดเด่นของแบบบ้านที่นี่เลย ตัวบ้านการออกแบบมารองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก ที่หาซื้อบ้านเพื่อแยกออกจากครอบครัวใหญ่ แต่ด้วยความสูงของตัวบ้านที่ต้องขึ้นบันไดเยอะหน่อยก็จะเหมาะกับครอบครัวที่วัยรุ่น ไม่ใช่วัยหลังเกษียณนะคะ
การออกแบบโครงการ – เป็นโครงการขนาดเล็กมีบ้านรวมทั้งหมด 95 หลัง บนรูปทรงที่ดินเป็นคอขวด จัดวางบ้านพักอาศัยเข้าไปไว้ด้านใน จึงไม่มีบ้านหลังไหนที่อยู่ใกล้กับทางเข้าและป้อมยาม สร้างความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น และที่นี่จะไม่ได้มีซอยย่อยเหมือนโครงการใหญ่ๆ จะมีเฉพาะบ้านบนถนนหลักกว้าง 9 เมตรเท่านั้น ทำให้เข้าถึงง่ายไม่ต้องเลี้ยวไปไหนเลย แต่บ้านไหนที่อยู่โซนหน้าๆ ก็จะมีรถวิ่งผ่านบ่อยหน่อยแลกมากับตำแหน่งที่ใกล้สวน เดินไปใช้ง่าย หรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำโซนด้านในๆ จะสงบขึ้นค่ะ
วัสดุ : เราคิดว่าวัสดุส่วนใหญ่ถือว่าได้ตามมาตรฐานราคา เช่น โครงสร้าง Conventional, ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และไม้ลามิเนต ส่วนที่เพิ่มมาจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีในตัวบ้าน เช่น เตรียมระบบไฟและแยกเบรกเกอร์เฉพาะสำหรับติดตั้ง EV Charger, ติดตั้ง Smart Switch&Smart Plug สั่งงานผ่าน APP มือถือได้, การใช้ระบบ Air Flow ระบายอากาศ และ Smart Control System ควบคุมเครื่องปรับอากาศภายในบ้
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : เรื่องของพื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการทั้งหมด เรายังไม่สามารถฟันธงได้นะคะ เนื่องจากโครงการยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด แต่ในส่วนที่แล้วเสร็จแล้ว เช่นบริเวณด้านหน้าโครงการและ Clubhouse คิดว่าทำมาได้ดีนะคะ มีต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทางมาจนถึง Clubhouse สไตล์โมเดิร์นนิสต์ยุค 60s ดูสวยดีค่ะ
สาธารณูปโภค : Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลาง ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก เป็นไปตามไซส์ของโครงการนะคะ ภายในมี Fitness สวนหย่อม สนามเด็กเล่น ไม่ได้มีสระว่ายน้ำมาให้ ซึ่งโครงการคิดค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา แชร์กับลูกบ้าน 95 หลังก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 6 – 7 ล้านบาท, 26 สิงหาคม 2564
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยลาดพร้าว 101 ความอุดมสมบูรณ์ครบครัน
- ความปลอดภัย 8/10 – ประตูเลื่อนอัตโนมัติ, รปภ.หน้าหมู่บ้าน 24 ชั่วโมง, Keycard Access และ CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ รและอุปกรณ์กันขโมยต่างๆ ที่ติดตั้งให้ที่บ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – โครงการเล็กได้ความเป็นส่วนตัว ฟังก์ชันดี จอดรถได้ 3 คัน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – บรรยากาศทางเข้าดี, Clubhouse สวยแต่โครงการยังไม่เสร็จเรียบร้อย อาจจะมีการปรับคะแนนเมื่อโครงการสมบูรณ์ค่ะ
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – มี Clubhouse และสวนให้ใช้งาน แชร์กับลูกบ้านจำนวนไม่เยอะ
- 7.7 / 10.00
ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว เหมาะกับใคร
โครงการ ลุมพินี ทาวน์เพลส ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากอยู่บ้านใกล้เมืองในโซนลาดพร้าวตอนปลาย ตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่แยกออกมาอยู่กับแบบพ่อแม่ลูก รองรับสมาชิก 3-4 คนกำลังดี ชอบบ้านที่จอดรถได้ 3 คัน โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนทุบต่อเติมได้ในอนาคต อยากได้โครงการที่มีส่วนกลางให้ใช้และไม่ต้องแชร์กับลูกบ้านจำนวนมาก มีงบประมาณ 6-7 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้น 44,660 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc