DSCN8884

ดร.ประทีป  ตั้งมติธรรม  ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท  ศุภาลัย  จำกัด  (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการปี 2557 ว่า  ในปีที่ผ่านมา บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)  และบริษัทย่อย สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 20,119 ล้านบาท แยกเป็นอาคารชุด 56% บ้านจัดสรร 44% โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 26 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 18  โครงการ และอาคารชุด 8 โครงการ ถึงแม้จะมีปัจจัยหลายเรื่องที่มีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ทั้งราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงโดยเฉพาะต่างจังหวัด   รวมถึงการเมืองภายในประเทศยังไม่มั่นคง ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตลอดจนสถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

DSCN8892

ปี 2557 เป็นปีที่กลุ่มบริษัทฯ มีการเติบโตเรื่องรายได้และกำไรที่ดี โดยสามารถทำรายได้รวมได้ 18,671 ล้านบาท  และมีกำไรสุทธิ 4,478 ล้านบาท  เติบโต 55%  เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิปี 2556 สินทรัพย์เติบโตขึ้น 24% ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโต 22% โดยมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณร้อยละ 66%  ต่ำลงจากปี 2556  ด้วยต้นทุนการเงินที่อัตราเฉลี่ยต่ำกว่า 4% ต่อปี  ซึ่งนับเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีภาระหนี้สินต่อทุนน้อยที่สุด และด้วยปัจจัยข้างต้นจึงทำให้        ศุภาลัยได้รับการเลื่อนอันดับ Credit Rating จาก TRIS  จาก A-Positive เป็น A Stable 

DSCN8895

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีโครงการดำเนินงานอยู่ระหว่างการพัฒนาประมาณ 88 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองต่างจังหวัด คิดเป็นมูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท โดยมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 38,758 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต

DSCN8900

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนงานปี 2558 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขาย 23,000 ล้านบาท  และเป้าหมายรายได้ 22,000 ล้านบาท  โดยมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ 28  โครงการ แยกเป็นโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและต่างจังหวัด 19  โครงการ ส่วนโครงการคอนโดฯ  9 โครงการ  คิดเป็นมูลค่ากว่า 31,120  ล้านบาท และกำหนดงบประมาณการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมประมาณ 6,000  ล้านบาท

DSCN8894

บริษัทฯ ยังคงขยายการลงทุนไปยังหัวเมืองต่างๆ ในภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ  ส่วนอาคารสูงจะมีเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยว จังหวัดที่บริษัทฯ  เลือกลงทุน  ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง  และอุบลราชธานี  ตลอดจนมีแผนขยายการลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

DSCN8898