รีวิวฉบับที่ 2098 …  Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 29 หรือซอยมัยลาภ สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งถนนเกษตรนวมินทร์และถนนรามอินทรา ใกล้กับ Nawamin City Avenue โครงการนี้มีความเป็นส่วนตัวเพียง 23 ยูนิต มีให้เลือกทั้งแบบหน้ากว้าง 5 และ 6 เมตร โครงสร้างของตัวบ้านเป็นแบบ Conventional ง่ายต่อการออกแบบ ตกแต่ง ต่อเติม ในราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท 

ข้อมูลโครงการ

10 July 2020

  • Premium Place Kaset – Nawamin 2 (พรีเมี่ยมเพลส เกษตร-นวมินทร์ 2)
  • บริษัท พรีเมี่ยมเพลส กรุ๊ป จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ในประเสริฐมนูกิจ 29 (มัยลาภ) ถนน ประเสริฐมนูกิจ เขต ลาดพร้าว
  • เนื้อที่โครงการ 3 – 0 – 35 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต
  • Type A หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 21.9 ตร.วา 
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
  • Type B หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 255 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา 
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 และ ชั้น 2 สูง 3.00 เมตร / ชั้น 3 และชั้น 4 สูง 2.80 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 200,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : มค. 2562
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ :  กค.2563
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : 02-907-1199

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.842429, 100.618379
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ตั้งอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 29 หรือซอยมัยลาภ ซอยนี้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งถนนรามอินทรา (ออกซอยรามอินทรา 14) หรือจะออกไปทางถนนเกษตร-นวมินทร์ (ถนนประเสริฐมนูกิจ) ก็ได้ค่ะ ทำเลนี้จัดเป็นทำเลของบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพฯ และมีโฮมออฟฟิศในบริเวณใกล้เคียงทั้งที่อยู่ในย่านเกษตรนวมินทร์และย่านลาดพร้าว  ด้วยความที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและสามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง สามารถขึ้น-ลงทางด่วนได้ง่าย ที่สะดวกและใกล้กับโครงการคือทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ (ด่านรามอินทรา)

อีกทั้งมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายทั้งรถยนต์ ถ้าใครไม่มีรถก็สามารถเรียกแท็กซี่  รถสองแถวสีแดง (เสนานิคม – กม. 4)  วินมอเตอร์ไซค์บริเวณฝั่งตรงข้ามโครงการ หน้าหมู่บ้านธันยกานต์ หรือในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีมัยลาภให้ใช้บริการกันด้วยค่ะ

นอกจากการเดินทางแล้ว ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ก็ถือเป็นอีกจุดเด่นของทำเลนี้เหมือนกัน ใกล้ๆกับทางเข้าซอยมัยลาภจะมี Community Mall อย่าง Nawamin City Avenue ที่จริงๆแล้วด้านในก็ถือว่ามี ร้านค้าร้านอาหารครบเครื่องอยู่นะ ทั้ง Villa Market ฟิตเนส ร้านค้าต่างๆ ร้านอาหารชั้นนำ และธนาคารให้พนักงานออฟฟิศมาใช้ทำธุรกรรมกัน ขยับมาที่ถนนหลักประเสริฐมนูกิจด้านหน้าก็ยังมี The Walk กับตลาดหัวมุมให้เปลี่ยนบรรยากาศเดินเล่นได้ ย่านนี้จะขึ้นชื่อเรื่องมีแหล่ง Shopping และสถานที่ Hang Out ให้เลือกหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีห้างดังๆที่อยู่บนเส้นเลียบด่วนเอกมัยรามอินทราเช่น The Crystal , CDC, Central Festival Eastville  , Big C, Tesco Lotus สามารถขับรถไปได้ไม่ไกล ส่วนร้านนั่ง Chill ก็มีให้เลือกไม่ไกลจากโครงการจะมีร้านดังอย่าง Waterside resort and restaurant และอื่นๆอีกเพียบเลย

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นกันบริเวณใกล้ๆกับ BTS ม.เกษตรศาสตร์วิ่งตรงมายังถนนเกษตร-นวมินทร์ หรือถนนประเสริฐมนูกิจ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ พอถึง Nawamin City Avenue ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยประเสริฐมนูกิจ 29 ซอยมัยลาภ หรือซอยรามอินทรา14  โดยโครงการจะเข้าไปจากถนนใหญ่อีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรค่ะ 

Image 1/10
เราเริ่มต้นจากบริเวณ BTS ม.เกษตรศาสตร์มุ่งหน้าไปยังถนนประเสริฐมนูกิจ

เราเริ่มต้นจากบริเวณ BTS ม.เกษตรศาสตร์มุ่งหน้าไปยังถนนประเสริฐมนูกิจ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เนื่องจากทำเลนี้เป็นทำเลของบ้านแนวราบ ดังนั้นสภาพแวดล้อมรอบๆจึงไม่มีตึกสูงมาบดบังวิว ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและหมู่บ้าน ฝั่งตรงข้ามที่ติดกับถนนใหญ่เป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ที่สามารถข้ามไปหาอะไรทานได้สะดวก โดยแต่ละด้านของที่ดินจะติดกับสถานที่ต่อไปนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินส่วนบุคคลและที่จอดรถทัวร์
  • ทิศตะวันออก – ติดกับหมู่บ้าน เติมสุขสตูดิโอ และบริษัท
  • ทิศใต้ – ติดกับบ้านบุญบาลีรีสอร์ท และ Private Nirvana เกษตรนวมินทร์ และสถานีบริการน้ำมัน PT และ ปตท.
  • ทิศตะวันตก – ติดกับถนนซอยประเสริฐมนูกิจ 29 หรือซอยมัยลาภ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์

ทิศเหนือ ติดกับที่ดินส่วนบุคคลและที่จอดรถทัวร์ค่ะ

ทิศตะวันออก – ติดกับหมู่บ้าน เติมสุขสตูดิโอและบริษัท (มุมนี้ถ่ายจากด้านในโครงการค่ะ)

ทิศใต้ ติดกับซอยบ้านบุญบาลีรีสอร์ท และสถานีบริการน้ำมัน PT , ปตท. ซึ่งในปั๊ม ปตท.จะมี 7-11 และร้านกาแฟ Amazon ที่เราสามารถเดินไปใช้บริการได้

ทิศตะวันตก ติดกับถนนซอยประเสริฐมนูกิจ 29 หรือซอยมัยลาภ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีร้านหลากหลาย โดยจะมีร้านอาหารที่เราสามารถเข้าไปหาอะไรทานได้ รวมถึงยังมี ไปรษณีย์เอกชน , ร้านวัสดุก่อสร้าง, ร้านขายยา, คลินิกสัตว์, ร้านซักอบรีด อีกด้วย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (รวมระยะกลับรถ) เช่น

  • Nawamin City Avenue ~ 2 กิโลเมตร
  • Festival Walk Kaset – Nawamin ~ 2.1 กิโลเมตร
  • KPIS International School ~ 2.1 กิโลเมตร
  • The Walk (เกษตร-นวมินทร์) ~ 3.2 กิโลเมตร
  • บุญถาวร สาขาเกษตรนวมินทร์  ~ 4.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเลิศหล้า ~ 5.7 กิโลเมตร
  • Crystal Design Center ~ 6.3 กิโลเมตร
  • Central Festival Eastville ~ 6.6 กิโลเมตร
  • ตลาดหัวมุม ~ 6.8 กิโลเมตร
  • Crystal Park เอกมัย-รามอินทรา ~ 7.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 8.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 9.6 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน ~ 9.9 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ~ 10.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ~  10.9 กิโลเมตร
  • Singapore International School ~ 11.2 กิโลเมตร
  • The Regent’s International School Bangkok ~ 11.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเวชธานี ~ 12 กิโลเมตร
  • Central Plaza ลาดพร้าว ~ 12.1 กิโลเมตร
  • PREP International School ~ 15.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้นที่มีจำนวนยูนิตเพียง 23 ยูนิต โดยโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่แบบ Type B หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. จะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ฝั่งที่ติดกับถนนซอยมัยลาภ มีทั้งหมด 3 ยูนิต (ในแปลนลงสีฟ้า) ซึ่ง Type นี้จะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่งทั้งฝั่งที่ติดถนน (หน้าร้าน) และด้านในโครงการ (หลังร้าน) ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโฮมออฟฟิศแบบ Type A หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. เรียงกันไปยาวๆจนถึงท้ายโครงการ โดยจะแบ่งออกเป็นโซนด้านหน้า และ โซนด้านหลังโครงการที่ตัวอาคารจะเฉียงตามแนวของที่ดิน โซนนี้จะมีความเป็นส่วนตัวกว่าหน่อยค่ะ  ส่วนฝั่งตรงข้ามกับโฮมออฟฟิศจะเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อ มีหลังคาคลุมมาให้ ซึ่งสามารถรองรับการจอดแบบซ้อนคันได้ 56 คัน

สำหรับโครงการนี้ เนื่องจากมีจำนวนยูนิตไม่เยอะและอาคารมีลักษณะการใช้งานเป็นโฮมออฟฟิศ ดังนั้นจึงไม่มีพื้นที่ส่วนกลางพวก Clubhouse มาให้นะคะ แต่จะมีที่จอดรถเอาไว้รองรับผู้มาติดต่อ รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมระบบกล้อง CCTV มาให้ค่ะ

ทางเข้า-ออกของโครงการ Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 จะอยู่ติดกับถนนซอยประเสริฐมนูกิจ 29 หรือซอยมัยลาภเลย โดยโฮมออฟฟิศที่อยู่ด้านหน้าก็คือแบบ Type B หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.

ซึ่ง Type นี้จะเหมาะกับกิจการที่มีหน้าร้าน พวกขายสินค้าต่างๆหรือกิจการที่ต้อง Contact กับลูกค้าบ่อยๆ เพราะทางเข้า-ออกหลักจะอยู่ติดกับถนนเลย

บริเวณหน้าร้านจะเป็นแบบนี้เลยค่ะ โดยจะมีหน้ากว้าง 6 เมตร

ถัดมาจึงจะเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ซึ่งจะมีซุ้มประตูและป้อมรปภ.มาให้แบบนี้ รถที่เข้ามาในโครงการจะต้องผ่านระบบ EASY PASS ในการเข้า-ออก ส่วนคนที่มาติดต่อต้องแลกบัตรบริเวณนี้ค่ะ

ทางเข้า-ออกเป็นแบบระยะไกล (EASY PASS) และมี CCTV บริเวณหน้าโครงการ ส่วนในโครงการจะมีกล้อง CCTV มาให้รวมทั้งหมด 16 จุดค่ะ

เข้ามาในโครงการเราจะเจอกับถนนหลักที่กว้าง 12 เมตร ทางฝั่งซ้ายเป็นโฮมออฟฟิศแบบ Type A หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.ทั้งหมด ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่จอดรถของผู้มาติดต่อ ซึ่งในโครงการจะมีการปลูกต้นไม้แทรกเอาไว้ให้ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นมากขึ้น

ที่จอดรถของผู้มาติดต่อสามารถจอดแบบซ้อนคันได้ประมาณ 56 คัน โดยด้านบนจะมีหลังคาคลุมมากันแดด กันฝนมาให้บางส่วน

ถ้ามองย้อนกลับมาจะเห็นซอยย่อยของโฮมออฟฟิศ Type B ที่อยู่ด้านหน้าโครงการและ Type A

ถนนตรงนี้กว้าง 9 เมตร สังเกตว่าโฮมออฟฟิศแบบ Type B จะมีทางเข้ารองด้านในโครงการด้วย ซึ่งที่จอดรถก็จะอยู่ฝั่งนี้ค่ะ

โดยตัวอาคารด้านหลังจะมีบันไดหนีไฟมาให้ตามกฎหมาย (หากมีความสูงตั้งแต่สี่ชั้นขึ้นไป หรือมีความสูงสามชั้นและมีดาดฟ้าเหนือชั้นสามที่มีพื้นที่เกิน 16 ตารางเมตร จะต้องมีบันไดหนีไฟ)

ส่วน Type A หน้ากว้าง 5 เมตรก็จะวางตัวเรียงกันไปแบบนี้ค่ะ

โดยโฮมออฟฟิศแต่ละแถวจะมีการเว้นระยะตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยด้านอัคคีภัย ช่วยให้ขับรถดับเพลิงเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น

ส่วนด้านในโครงการก็จะเป็นโฮมออฟฟิศแบบหน้ากว้าง 5 เมตรเช่นเดียวกัน โดยพื้นที่จอดรถบริเวณนี้จะค่อนข้างกว้างและเนื่องจากอยู่ด้านในจึงมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า

บรรยากาศของโฮมออฟฟิศ Type A หน้ากว้าง 5 เมตร โซนด้านในโครงการก็จะหน้าตาเหมือนกันกับฝั่งด้านหน้าค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ที่จอดรถส่วนกลาง พร้อมหลังคาคลุม(บางส่วน) + จอดรถซ้อนคัน 56 คัน
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบกล้อง CCTV
  • เข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ EASY PASS (ระยะไกล)
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร , ถนนย่อยกว้าง 9 เมตร

แบบบ้าน

เรามาดูแปลนโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น Type A หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 21.9 ตร.วา โดยแบบนี้จะมีฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ  2 ที่จอดรถ ตัวบ้านจะมีความลึกทั้งหมด 11 เมตร ถ้ารวมกับที่จอดรถด้านหน้าจะลึก 17 เมตร โดยโครงการจะให้มาแบบบ้านเปล่าให้เราสามารถไปจัดการกับ Space ภายในได้เอง เพราะการออกแบบโฮมออฟฟิศจะต้องมีความยืดหยุ่นให้แต่ละบริษัทไปดีไซน์กั้นห้องและจัดโซนให้พนักงาน โดยชั้น 1 จะมีพื้นที่หลังบ้านค่อนข้างกว้าง สามารถต่อเติมเป็นครัวหรือพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมได้ ในชั้น 1-3 ตำแหน่งของห้องน้ำจะวางอยู่หลังบ้านในแนวเดียวกันหมดและมีการออกแบบให้ห้องน้ำในชั้น 1-2 เป็นแบบ Unisex คือสามารถเข้าได้ทั้งชายและหญิง นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ที่สามารถทำเป็น Pantry เล็กๆได้ ชั้น 1 จะอยู่ระหว่างทางเข้าห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันได ส่วนชั้น 2-3 จะอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน โดยทางโครงการจะมีการเตรียมตำแหน่งท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้งและเต้าเสียบไว้เพื่อให้ลูกบ้านสามารถติดตั้ง Pantry ได้สะดวก

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่โล่งๆ จัดโต๊ะให้พนักงานได้ประมาณ 8-12 คน ส่วนชั้น 3 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือพื้นที่โล่งและห้องที่กั้นผนังเป็นสัดส่วน 1 ห้อง ซึ่งชั้นนี้ถ้าในกรณีที่ใช้สอยเป็นออฟฟิศก็อาจจะจัดเป็นห้องของผู้บริหาร แต่ถ้าใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนก็สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้ ซึ่งห้องนอนจะได้เต็มพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านแต่จะต้องเดินไปเข้าห้องน้ำไกลหน่อย ส่วนชั้น 4 จะแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน ขนาดพอๆกัน แบ่งออกเป็นฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยจะต้องใช้ห้องน้ำแชร์กันค่ะ ซึ่งตำแหน่งของห้องน้ำในชั้นนี้จะขยับมาอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสองแทน

โฮมออฟฟิศโครงการนี้มีโครงสร้างแบบ Conventional ทำให้ง่ายต่อการออกแบบ ตกแต่งและต่อเติม ส่วนหลังคาเป็นเมทัลชีทแบบบุฉนวนกันความร้อน (PE) ซึ่งจะสามารถลดเสียงจากหลังคาได้เป็นอย่างดี ลดการรั่วซึมและป้องกันการเกิดสนิมที่เกิดจากความชื้นใต้แผ่นหลังคา และยังป้องกันความร้อนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี การออกแบบ Facade (ด้านหน้าบ้าน) จะเน้นกระจกเต็มบานเพื่อให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และช่วยให้คนที่อยู่ในบ้าน Take View ได้กว้างมากขึ้น ลองสังเกตดูว่าบริเวณชั้น 4 ของบ้านแปลงกลางและแปลงมุมมีความแตกต่างของ Pattern บานหน้าต่างเล็กน้อยค่ะ

สำหรับบ้านตัวอย่างจะเป็นแปลงมุม ดังนั้นจะมีข้อดีตรงที่ได้ช่องแสงด้านข้างเพิ่มขึ้นมาด้วย โดยบ้านแต่ละหลังทางโครงการจะวางงานระบบต่างๆทั้ง ปั๊มน้ำ Tank น้ำ สุขภัณฑ์ และติดตั้งกล้องวงจรปิดมาให้หลังละ 4 จุด

หน้าบ้านจะมีประตูรั้วเหล็กสีดำมาให้แบบนี้ ซึ่งเวลาจะเอารถเข้าบ้านก็สามารถพับเก็บด้านข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนถังขยะทางโครงการจะมีวางเอาไว้ให้ที่หน้าบ้าน

ได้เลขที่บ้านและกริ่งสัญญาณมาให้พร้อม

พวกสวนต่างๆบริเวณหน้าบ้านนี่เป็นการตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศนะคะ ของจริงจะได้เป็นคอนกรีตแบบนี้ สามารถจอดรถได้ 2 คันค่ะ

ทางโครงการจะมีติดตั้งกล้อง CCTV ให้หลังละ 4 จุด โดยจุดแรกจะอยู่บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน

ประตูทางเข้าเป็นแบบบ้านเปิด Aluminium Powder Coat สีดำ + กระจกหนา 6 มม. พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

Digital Door Lock ให้ของ Samsung ใช้งานได้ทั้งแบบ Key Card และตั้งรหัส

เข้ามาด้านในชั้น 1 เราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆเหมือนบ้านตัวอย่าง (รูปล่าง) ซึ่งสามารถจัดฟังก์ชันการใช้งานได้ตามลักษณะขององค์กร จะทำเป็นส่วน Reception + พักคอยก่อน แล้วด้านหลังเป็นโต๊ะทานข้าวที่สามารถใช้ประชุมได้แบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ ฝ้าเพดานของชั้น 1-2 จะสูง 3 เมตรทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร

บริเวณหน้าบ้านในบ้านตัวอย่างที่จัดเป็นส่วน Reception กับพื้นที่พักคอยก่อนซึ่งจะอยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้นชั้น 2

ถัดเขามาด้านในจะสามารถวางโต๊ะและที่นั่งได้ประมาณ 6-8 ที่นั่ง โดยอีกฝั่งจะมีพื้นที่สำหรับวาง Pantry และห้องน้ำ

ส่วนด้านหลังสุดจะมีพื้นที่เหลือพอสมควร ในบ้านตัวอย่างเค้าต่อเติมเป็นครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร

สำหรับพื้นที่หลังบ้านของบ้านมาตรฐานเราจะได้ตามรูปด้านล่างนะคะ ทางโครงการมี ปั๊มน้ำ Tank น้ำ ลงเสาเข็มและปูกระเบื้องมาให้ สามารถทำเป็นลานซักล้าง ครัว หรือพื้นที่พักผ่อนของพนักงานก็ได้

ระหว่างห้องน้ำและห้องเก็บของจะมีพื้นที่ที่สามารถทำเป็น Pantry ได้โดยจะมีการเตรียมตำแหน่งท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้งและเต้าเสียบไว้ให้

ห้องน้ำชั้น 1-2 จะมีการออกแบบให้เป็นแบบ Unisex คือสามารถเข้าได้ทั้งชายและหญิง แยกการใช้สอยชัดเจน เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำ โดยห้องน้ำตำแหน่งนี้จะมีหน้าต่างเพื่อการระบายอากาศที่ดี ทำให้ห้องน้ำโปร่งโล่งไม่อับชื้น

อ่างล้างหน้าของ American Standard เป็นแบบที่มีตู้เก็บของด้านล่าง สามารถเก็บอุปกรณ์ในห้องน้ำเพื่อความเป็นสัดส่วนได้

โถปัสสาวะชายได้เป็นของ COTTO ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ได้เป็นของ American Standard เช่นเดียวกันพร้อมติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน เดี๋ยวเราขึ้นไปดูชั้นบนกันค่ะ

โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปูด้วยพื้นไม้ประสาน ทำให้มีความแข็งแรงเวลาเดินจะให้ความรู้สึกว่าพื้นแน่น ไม่มีเสียงดังรบกวน

บริเวณโถงบันไดมีความปลอดภัยด้วยช่องแสงจากหน้าต่างที่ส่องเข้ามาให้ความสว่าง มีการติดตั้งราวจับมาให้ และลูกนอนบันไดกว้าง 27 เซนติเมตร เป็นระยะที่กำลังปลอดภัยในการขึ้นลงบันได โดยบันไดจะมีชานพักอยู่ 2 จุด จุดแรกเป็นแบบสี่เหลี่ยม ส่วนอีกจุดเป็นแบบสามเหลี่ยมค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ฝั่งหลังบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็น Pantry และห้องน้ำ ซึ่งจะมีช่องแสงบริเวณหลังบ้านด้วยเหมือนกัน ทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาในอาคารได้ทั่วถึง ชั้นนี้ก็มีความสูงฝ้าเพดาน 3 เมตรนะคะ

พื้นที่บริเวณนี้กว้างประมาณ 3.13 เมตรสามารถจัดได้ทั้งเคาน์เตอร์ Pantry และมุมนั่งรับประทานอาหาร โดยทางโครงการมีการเดินงานระบบไว้ให้พร้อม

และมุมนี้จะมีกล้อง CCTV ติดตั้งเอาไว้ให้อีก 1 ตัวค่ะ

ห้องน้ำของชั้น 2 จะมีตำแหน่ง การออกแบบ การจัดฟังก์ชันและสุขภัณฑ์เหมือนกันกับชั้น 1 คือเป็นแบบ Unisex สามารถเข้าได้ทั้งชาย-หญิง เพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบโฮมออฟฟิศที่มีพนักงานมากหน้าหลายตา และมีกระจกเงาบานใหญ่และพื้นที่วางของด้านหลัง (Low Wall) เหมือนกัน

ส่วนฝั่งหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่โล่งๆให้เราสามารถจัดฟังก์ชันได้ตามความต้องการขององค์กรค่ะ ตัวบ้านมีการเดินปลั๊กไฟมาให้หลายจุด สะดวกต่อการใช้งาน และผนังหน้าบ้านจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้บรรยากาศดูโปร่ง โล่ง สว่างและเห็นวิวภายนอกได้ด้วย

ยิ่งแปลงมุมเราจะได้หน้าต่าง 2 ฝั่งแบบนี้ ยิ่งทำให้บรรยากาศดูโปร่งขึ้นไปอีกค่ะ ถ้ากลางวันแดดร้อนก็หาผ้าม่านมาติดเพิ่มเอาได้

กล้อง CCTV อีกตัวจะติดตั้งอยู่บริเวณนี้ ครอบคลุมการมองเห็นทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านค่ะ

มุมมองย้อนกลับไป ถ้าไม่มีกั้นห้องอะไรเพิ่มก็จะเป็น Space ที่เชื่อมต่อกันประมาณนี้

ขึ้นไปดูต่อกันที่ชั้น 3 ค่ะ

โครงสร้างบันไดและวัสดุยังเหมือนเดิมนะคะ โดยบันไดจะยิงยาวขึ้นไปและมีชานพักแบบสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางให้ขึ้นไปที่ชั้น 3

พอขึ้นมาที่ชั้น 3 พื้นของชั้นนี้จะเปลี่ยนเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ หนา 12 มิลลิเมตร

ฝั่งหลังบ้าน Space คล้ายๆกับชั้น 2 ค่ะ คือมีห้องน้ำแต่จะต่างกันตรงที่พื้นที่ของ Pantry จะน้อยลง แทนที่ด้วยพื้นที่ระเบียงแทน

ระเบียงชั้นนี้มีขนาดประมาณ 1.75 x 0.90 เมตร สามารถออกไปยืนสูดอากาศได้

ห้องน้ำในชั้นนี้จะมีความแตกต่างจากชั้นล่างแล้วค่ะ คือจะมีพื้นที่อาบน้ำ (พร้อมฉากกั้น) เพิ่มเข้ามา และอ่างล้างหน้าเปลี่ยนเป็นวางบนเคาน์เตอร์ Top หิน แต่ยังมีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศเหมือนเดิม

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน โดยด้านหลังจะมีการก่อผนัง (Low Wall) ให้เราสามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้

ส่วนเปียกทางโครงการมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วน

โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.38 x 0.91 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ

ฝักบัวที่โครงการให้มาเป็นของ American Standard ค่ะ

ส่วนฝั่งหน้าบานจะมีพื้นที่โล่งๆ และห้องที่กั้นมาให้อีก 1 ห้อง โดยชั้นนี้มีความสูงของฝ้าเพดานเท่ากับ 2.8 เมตร ถ้าเรายังใช้ชั้นนี้เป็นออฟฟิศก็สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานและห้องผู้จัดการได้ แต่ถ้าใช้เป็นที่พักอาศัยก็สามารถจัดเป็น Living Area กับห้องนอนแบบในบ้านตัวอย่างได้

ถ้าจัดเป็นที่พักอาศัยก็จะได้พื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารแบบนี้ เราสามารถตกแต่งให้ห้องกว้างและดูโปร่งขึ้นได้โดยการใช้กระจกเงาหรือการทำไฟหลืบเหมือนในบ้านตัวอย่างนะคะ

ห้องนอนชั้น 3 ค่อนข้างกว้างและพอเป็นบ้านแปลงมุมจะได้ผนังเป็นกระจกทั้ง 2 ฝั่ง ฉากกั้นหัวเตียงเป็นการต่อเติมเพิ่มนะคะ ของจริงจะได้ห้องเปล่าแบบรูปด้านล่าง

พอได้หน้าต่างบานใหญ่แบบเต็มผนัง ก็สามารถนอนชมวิวได้แบบนี้เลย

ถ้าเราทำเป็นห้องนอนก็สามารถกั้นพื้นที่ทำเป็นห้อง Walk-in Closet ได้

โดยจะสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้เต็มแผงแบบนี้

ส่วนพื้นที่วาง Condensing Unit ของแอร์ฝั่งหน้าบ้านของชั้นนี้จะอยู่บริเวณห้องนอนนี้ค่ะ โดยจะมีช่องให้เราเปิดออกไป Service ได้

พื้นที่วาง Condensing Unit ของแอร์ประมาณนี้ มี Grill กั้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ขึ้นไปดูที่ชั้น 4 กันค่ะ โดยบันไดจะเป็นรูปตัวยู อ้อมขึ้นไปแบบนี้

ชั้น 4 ถูกดีไซน์ให้เป็นชั้นพักอาศัยล้วนๆ พอขึ้นมาจะเจอกับโถงก่อนแยกไปยังห้องต่างๆ ชั้นนี้ก็มีความสูง 2.80 เมตรและปูด้วยพื้นลามิเนตค่ะ

บันไดเป็นรูปตัวยูอ้อมขึ้นมาแบบนี้ โดยมีชานพักเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 จุดเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได

ห้องนอนทั้ง 2 ห้องบนชั้นนี้จะมีขนาดพอๆกันนะคะ แบ่งออกเป็นห้องทางฝั่งหน้าบ้านซึ่งจะได้ความโปร่งโล่งจากบานหน้าต่างบานใหญ่และห้องฝั่งหลังบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยเราจะพาไปดูห้องทางฝั่งหลังบ้านกันก่อนนะคะ

ห้องนี้จะได้ช่องแสงจากหน้าต่างบานเลื่อน ขนาดของห้องกว้างพอสมควร ถ้าจะจัดเป็นห้องนอนเด็กแบบบ้านตัวอย่างก็จะวางเตียง 3.5 ฟุตได้ 2 เตียงเลยค่ะ

ตกแต่งออกมาได้น่ารักดี

ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่สำหรับวางของเพิ่มเติม โดยอาจจะใช้วางตู้เสื้อผ้าก็ได้ค่ะ

ฝั่งหน้าบ้านจะมีห้องนอนอยู่อีกห้องและห้องน้ำที่ต้องใช้แชร์กัน

ในบ้านแปลงมุมและแปลงกลางจะมีความแตกต่างกันของการดีไซน์หน้าต่างฝั่งหน้าบ้านในชั้น 4 คือ บ้านแปลงกลางจะมีช่องแสงขนาดใหญ่กว่าและมีระเบียงอยู่คนละฝั่งค่ะ

ห้องนี้สามารถวางเตียงแบบ King Size ได้สบายๆเลย มีพื้นที่เหลือวางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งและยังมีพื้นที่วางโซฟาหรือม้านั่งที่บริเวณปลายเตียง

ชั้นนี้จะมีระเบียงด้วย สามารถออกไปยืนสูดอากาศชมวิวได้ โดยราวกันตกจะดีไซน์มาเป็นกระจกทำให้มองเห็นวิวได้เต็มตา ไม่มีอะไรมากั้น

เนื่องจากทำเลนี้เพื่อนบ้านเป็นแนวราบกันหมด ดังนั้นในชั้นสูงๆจะได้วิวเปิดโล่งเต็มตาแบบนี้ค่ะ

ห้องนอนนี้สามารถเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องเลยค่ะ

การตกแต่ง การจัดฟังก์ชันจะคล้ายกับห้องน้ำชั้น 3 คือมีทั้งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก แต่จะไม่มีบานหน้าต่างเปิดระบายอากาศค่ะ

โดยห้องน้ำห้องนี้จะสามารถเข้าได้ 2 ทางทั้งจากห้องนอนฝั่งหน้าบ้านและบริเวณโถงทางเดิน เป็นห้องน้ำที่คนชั้น 4 ใช้แชร์กันค่ะ

สุขภัณฑ์ต่างๆของ American Standard

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.56 x 0.95 เมตร ยืนอาบได้สบายๆค่ะ

โฮมออฟฟิศอีกแบบในโครงการนี้คือ Type B หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 255 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา  ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ Type นี้จะมีความแตกต่างตรงหน้ากว้าง ขนาดห้องน้ำชั้น 1 และมีทางเข้า-ออกทั้ง 2 ฝั่ง คือฝั่งที่ติดถนนมัยลาภและภายในโครงการ นอกนั้นการจัดพื้นที่ใช้สอยจะมีความคล้ายกันกับ Type A หน้ากว้าง 5 เมตรเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

10 July 2020

  • Type A หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 21.9 ตร.วา 
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
  • Type B หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 255 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.7 ตร.วา 
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
  • เงินจอง 50,000 บาท
  • เงินทำสัญญา 200,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 200,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.วา/เดือน
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลของ Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ตั้งอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 29 หรือซอยมัยลาภ ใกล้กับ Nawamin City Avenue ซอยนี้สามารถใช้เส้นทางได้หลากหลายทั้งเชื่อมต่อได้ทั้งถนนรามอินทรา ออกทางซอยรามอินทรา 14 หรือจะออกไปทางถนนเกษตร-นวมินทร์ (ถนนประเสริฐมนูกิจ) ก็ได้ และเนื่องจากเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบทั้ง ร้านค้า ร้านอาหาร Hypermarket  Community Mall  ศูนย์การค้า และ โรงเรียน อีกทั้งมีการเดินทางที่สะดวกทั้งใช้รถและไม่ใช้รถ จึงทำให้ทำเลนี้เป็นอีกทำเลหนึ่งซึ่งมีโฮมออฟฟิศมาเปิดโครงการอยู่เรื่อยๆ รวมถึงในย่านใกล้เคียงอย่างลาดพร้าวอีกด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : สำหรับความปลอดภัย ทางโครงการมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบกล้อง CCTV และมีการสแกนผู้เข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ EASY PASS (ระยะไกล) ถ้าเป็นผู้มาติดต่อต้องแลกบัตร ซึ่งจะมีความปลอดภัยขึ้นมามากกว่าโฮมออฟฟิศที่ไม่อยู่ในลักษณะของโครงการ อีกทั้งโครงการยังมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ ทำให้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ง่ายค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : การวางผังมีการแบ่งส่วนของโฮมออฟฟิศและที่จอดรถชัดเจน ตัวโฮมออฟฟิศเองจัดพื้นที่ได้ดี มีความหยืดหยุ่นสำหรับให้ผู้ประกอบการเอาไปจัดพื้นที่ตามความต้องการของแต่ละองค์กร และมีโครงสร้างแบบ Conventional สามารถรองรับการตกแต่งและต่อเติมได้ ห้องน้ำมีการคิดมาว่าต้องเป็น Unisex และพอถึงชั้นบนก็เพิ่มพื้นที่อาบน้ำมาให้ อีกจุดที่ชอบคือการจัดช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ ซึ่งช่วยให้บรรยากาศภายในตัวบ้านมีความโปร่งโล่งมากขึ้น

วัสดุ : ให้มาเหมาะสมกับการใช้งานเป็นโฮมออฟฟิศตั้งแต่โครงสร้างแบบ Conventional การลงเสาเข็มหลังบ้านมาให้ การให้สุขภัณฑ์แบบ Unisex ที่ชั้น 1-2 การเตรียมงานระบบต่างๆมาให้ครบ ให้ฝ้าเพดานที่สูง ส่วนพื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เหมาะกับการใช้งานเป็นออฟฟิศ พอถึงพื้นที่พักอาศัยชั้นบนก็มีการเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ลามิเนต ซึ่งคนที่ซื้อไม่ต้องทำอะไรมากก็เข้าอยู่ได้เลยค่ะ

พื้นที่สีเขียว สภาพโครงการ และ สาธารณูปโภค : ถึงแม้ว่าจำนวนยูนิตไม่เยอะมากแต่ทางโครงการก็มีปลูกต้นไม้มาให้โดยรอบ จึงช่วยให้บรรยากาศของโครงการดูร่มรื่นมากขึ้น สภาพโครงการทำออกมาได้ดูดีเป็นระเบียบ และเนื่องจากโครงการมีลักษณะการใช้งานเป็นโฮมออฟฟิศ ไม่ใช่การอยู่อาศัย จึงไม่ได้จัดพื้นที่ส่วนกลางพวก Clubhouse มาให้ แต่จะมีที่จอดรถส่วนกลางมาให้แทน ซึ่งเหมาะกับการใช้งานของโฮมออฟฟิศมากกว่า

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 9 – 15 ล้านบาท, 10 July 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยซอยประเสริฐมนูกิจ 29 ไม่ไกลจากถนนเกษตร-นวมินทร์
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – มีเจ้าหน้าที่ รปภ. 24 ชั่วโมง CCTV ที่ส่วนกลาง 16 จุดและภายในบ้าน
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ออกแบบได้ดี สามารถปรับการใช้งาน Space ได้หลากหลาย 
  • วัสดุ 7.75/10 – ให้มาได้ดีตามมาตรฐาน โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ลงเสาเข็มหลังบ้านมาให้ 
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีการปลูกต้นไม้ให้ที่หน้าบ้านและรอบโครงการ สภาพโครงการดูดี 
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ได้ถนนภายในกว้าง มีที่จอดรถสำหรับ Visitor
  • 7.64 / 10.00

BOTTOM LINE

Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 เหมาะกับคนที่มองหาโฮมออฟฟิศโครงการปิด ในย่านเกษตร-นวมินทร์ ที่มีพื้นที่จอดรถส่วนกลาง ความปลอดภัยค่อนข้างดี เหมาะกับธุรกิจประเภทส่วนตัวขนาดเล็กประมาณ 15-25 คนที่ไม่มีลูกค้าเข้า-ออกโครงการบ่อยๆ เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน งบประมาณตั้งแต่ 9 – 15 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 63,000 – 105,000 บาท/เดือนค่ะ


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving