Baan Mayfair Ladprao 71 เป็นโครงการบ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร เพียง 6 ยูนิต เป็นโครงการรูปแบบเปิด ไม่ได้เข้าจัดสรร ตั้งอยู่ในโซนลาดพร้าว – นาคนิวาส สำหรับโครงการนี้สามารถเลือกผังได้ว่าจะจัดเป็นแบบบ้านพักอาศัยหรือโฮมออฟฟิศก็ได้ มาในสไตล์ Modern Luxury ในราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท ส่วน Highlight ของโครงการมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ

  • ทำเล :  ตั้งอยู่ในซอยนาคนิวาส 57 เดินทางเชื่อมต่อได้หลากหลายทั้งจากถนนนาคนิวาส และถนนโชคชัย 4 ทำเลโดยรอบมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้าง และใกล้สถานศึกษาหลายแห่ง
  • ราคาเริ่มต้นน่าสนใจ : เป็นบ้านแฝด 3.5 ชั้นในโซนลาดพร้าวที่เปิดตัวในราคา 12.9 ล้านบาท ถือเป็นราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพราะบ้านแฝดหรือโฮมออฟฟิศที่พื้นที่ใช้สอยพอๆกันส่วนใหญ่ในทำเลนี้ราคาเริ่มต้นจะสูงกว่า 15 ล้านบาทค่ะ
  • การออกแบบ : เป็นบ้านแฝดที่ออกแบบมาให้สามารถปรับเป็นโฮมออฟฟิศได้ มีหน้ากว้าง 8 เมตร รองรับที่จอดรถได้ 4-5 คัน ภายในบ้านสามารถจัดฟังก์ชันได้ยืดหยุ่น ได้พื้นที่ Living area แบบ Double Volume และได้ผนังที่ติดกับเพื่อนบ้าน แบบ Double Layer Wall ช่วยลดเสียงรบกวนเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้
  • เทคโนโลยีภายในบ้าน : จัดเต็มระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีภายในบ้าน ทั้ง Smart Home, Air Purifier System และ Solar Cell System ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย และมีคุณภาพ พร้อม Security System ต่างๆภายในบ้านจาก SECOM ที่พร้อมเข้าช่วยเหลือ และติดต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อมูลโครงการ

Baan Mayfair Ladprao 71 (บ้านเมย์แฟร์ ลาดพร้าว 71) ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2565

 ชื่อโครงการ   Baan Mayfair Ladprao 71 (บ้านเมย์แฟร์ ลาดพร้าว 71)
 ชื่อผู้ประกอบการ   PTF Realty (2020) Co.,Ltd.
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนนาคนิวาสซอย 57 เชื่อมต่อ โชคชัย 4 ซอย 54 เขตลาดพร้าว
 ที่ดิน 0-2-7 ไร่
 จำนวนยูนิต จำนวน 6 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • บ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร
    –  ที่ดิน 32.1 – 37.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 270.3 – 291.4 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ /4 ห้องน้ำ / 4-5 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท (ราคาช่วง Presale )

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.6-5.2 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2565
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร  090-920-9595
 Call Center N/A

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.818820, 100.605540
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 เข้า-ออกจากทางถนนนาคนิวาสซอย 57 ประมาณ 850 ม. ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อ โชคชัย 4 ซอย 54 ได้ นอกจากนั้นยังสามารถเข้า-ออกจากซอยนาคนิวาส 37 ได้อีกทางเลือกหนึ่งด้วย ทำให้สามารถเดินทางเข้ามายังโครงการได้ทั้งจากถนนนาคนิวาส และถนนโชคชัย 4 และถูกโอบล้อมด้วยถนนใหญ่สำคัญถึง 5 เส้น ได้แก่ ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนพหลโยธิน ถนนประเสริฐมนูกิจ และถนนเลียบด่วนรามอินทรา  การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจึงดูเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด แต่ถ้าจะพึ่งรถสาธารณะที่ใกล้โครงการ ก็จะมีวินซูบารุ วินใหญ่ 20-40 คัน อยู่บริเวณปากซอยหน้า Family Mart ที่วิ่งไปปากซอยโชคชัย 4 ทำให้สามารถเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีโชคชัย 4 ได้ (สำหรับสถานีโชคชัย 4 นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2565 นี้ค่ะ)

สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในปัจจุบันก็จะมี MRTสถานีลาดพร้าว ห่างจากโครงการในระยะประมาณ 6 กม. ให้ใช้บริการได้อยู่ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเข้าเมืองที่สะดวก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดในตัวเมืองค่ะ

ส่วนในอนาคตอันใกล้ ก็จะมี BTS สถานีโชคชัย 4 และ BTS สถานีลาดพร้าว 71 ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม. ทั้ง 2 สถานี ซึ่งคาดว่าจะได้ใช้งานกันในช่วงปลายปี 2565 โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” จะเป็นรถไฟฟ้าระบบรางเดี่ยว หรือ Monorail ทั้งหมด 23 สถานี ที่จะวิ่งอยู่บนถนนเส้นหลักอย่าง ถนนลาดพร้าว ถนนศรีนครินทร์ และถนนเทพารักษ์ ไปสิ้นสุดที่ถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวใต้ (BTS แบริ่ง)

สำหรับทางด่วนที่ใกล้กับโครงการนี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนรามอินทรา ที่ใกล้ๆ โครงการเลยจะมี 2 เส้นทาง ดังนี้ค่ะ

สีฟ้า – จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5.2 กม. โดยใช้เส้นทางจากทางถนนสุคนธสวัสดิ์ได้ค่ะ
สีเขียว – เข้าซอยนาคนิวาส 16 ทะลุออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม แล้วกลับรถเพื่อขึ้นทางด่วน ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 กม. สามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงรถติดได้ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ถือว่าอุดมสมบูรณ์เลยค่ะ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีชุมชนหนาแน่น จึงมีห้างและตลาดต่างๆ มากมาย เพื่อมารองรับความต้องการของคนในพื้นที่ ที่ใกล้ๆ โครงการเลย บริเวณหน้าปากซอย 54 แยก 23 จะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven, Family Mart และร้านอาหารอยู่หลายร้าน ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 200 ม. เท่านั้นค่ะ สามารถเดินมาได้สบายๆเลย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ขยับออกมาหน่อย บนถนนหลักอย่างถนนนาคนิวาส และถนนโชคชัย 4 จะเต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์อยู่หนาแน่น รวมถึงมีคอมมูนิตี้มอลล์ และร้านสะดวกซื้อกระจายตัวอยู่ตลอด 2 ข้างทาง ส่วนแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่เด่นๆ เลยในทำเลนี้คือ ตลาดหัวมุม, The Walk, Central East Ville, CDC และ Crystal Park ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ หรือถ้าจะไปแถวๆ ห้าแยกลาดพร้าว หรือแยกรัชโยธิน ก็จะเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานชื่อดังมากมาย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โดยภาพรวมสิ่งปลูกสร้างรอบๆโครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 เป็นอาคารพักอาศัยแนวราบสูง 1- 2 ชั้น แต่จะมีอาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้นอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แต่อยู่เยื้องกับโครงการ ทำให้ไม่บดบังวิว ทิศทางลม หรือแสงแดด

ทิศเหนือ ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้น และอาคารสูง 4 ชั้น อยู่เยื้องกับโครงการ
ทิศตะวันออก ติดกับ ถนน ซอย 54 แยก 23 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยเดิมในชุมชน
ทิศใต้ ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น
ทิศตะวันตก ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Central Festival East Ville ~ 2.9 km.
  • Crystal Park ~ 3.5 km.
  • Lotus เอกมัย – รามอินทรา ~ 3.7 km.
  • Chic Republic ~ 4.1 km.
  • Home Pro สาขารามอินทรา – เอกมัย ~ 4.4 km.
  • The Walk เกษตรนวมินทร์ ~ 4.4 km.
  • Nawamin City Avenue ~ 4.6 km.
  • Union mall ~ 9.0 km.
  • Central Ladprao ~ 9.0 km.
  • ตลาดโชคชัย 4 ~ 3.6 km.
  • ตลาดลาดพร้าวสะพาน 2 ~ 5.3 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.เปาโลเมโมเรียล โชคชัย 4 ~ 2.7 km.
  • รพ.ลาดพร้าว ~ 6.3 km.
  • รพ.เปาโลเมโมเรียล เกษตร ~ 6.8 km.

โรงเรียน

  • รร.สตรีวิทยา 2 ~ 2.7 km.
  • รร.นานาชาติ KPIS ~ 6.0 km.
  • รร.นานาชาติ PREP ~ 7.5 km.
  • รร.นานาชาติ SISB ~ 7.8 km.
  • รร.นานาชาติ NIVA ~ 7.9 km.
  • รร.นานาชาติ KIS  ~ 9.2 km.
  • รร.นานาชาติ LFIB ~ 9.5 km.
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ~ 6.0 km.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ~ 9.9 km.
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ~ 10.4 km.

สถานที่อื่นๆ

  • MRT ลาดพร้าว ~ 6.4 km.
  • BTS สถานีโชคชัย 4 ~ 3.6 km. (คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี2565)
  • BTS สถานีลาดพร้าว 71  ~ 3.6 km. (คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี2565)

รายละเอียดโครงการ

โครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 นับเป็นอีกหนึ่งโครงการในทำเลใหม่ สำหรับ PTF Group ที่เน้นจับแต่ย่านสุขุมวิท ทำคอนโดมิเนียมอย่าง โครงการ Mayfair Place สุขุมวิท 50 , DEFINE by Mayfair สุขุมวิท 50Mayfair Place Sukhumvit 64 , The Rajdamri Serviced Residence เป็นต้น

Baan Mayfair Ladprao 71 เป็นโครงการบ้านแฝดในโซนนาคนิวาส-ลาดพร้าว ซึ่งปกติแล้วโครงการที่มาขึ้นทำเลใจเมืองจะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ และเป็นโครงการแบบเปิด ไม่จัดสรร เนื่องจากในเมืองหาที่ดินขนาดใหญ่มาพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ได้ยาก เราจึงจะไม่ค่อยเจอโครงการจัดสรรในทำเลนี้เท่าไรค่ะ บ้านแฝดหรือโฮมออฟฟิศในทำเลนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาสูงกว่า 15 ล้านบาท

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าโครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 นี้ไม่ได้เข้ากฎหมายจัดสรรแบบโครงการทั่วไป เนื่องจากโครงการนี้มีเพียง 6 ยูนิต  ซึ่งไม่เข้าข่ายกฎหมายจัดสรรที่ดิน ที่จะต้องมีแปลงยูนิตรวมกันอย่างน้อย 10 แปลงขึ้นไป ดังนั้นบ้านเหล่านี้จึงจะอยู่ติดกับถนนสาธารณะ และจะไม่มีการจัดตั้งนิติบุคคลมาเพื่อดูแลส่วนกลางของโครงการ รวมถึงไม่มีป้อม รปภ. รูปแบบการขายจึงเป็นการขายขาด ไม่มีการเก็บค่าส่วนกลาง แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยไปนะคะ เพราะบ้านของโครงการนี้ได้ Security System จาก SECOM ที่พร้อมเข้าช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ Magnetic Sensor, ปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และ CCTV 4 จุด รอบตัวบ้าน

ส่วนเรื่องทิศทางของหน้าบ้านเหล่านี้หันไปจะเป็นทิศตะวันออกซึ่งตอนเช้าจะได้รับแสงแดดอ่อนๆ แต่ในช่วงฤดูหนาวจะอากาศดีเพราะได้รับลมเย็นพัดผ่านเข้ามาตรงๆ ส่วนในช่วงฤดูร้อนจะไม่ค่อยได้รับลมเท่าไรนัก เพราะลมในหน้าร้อนของไทยจะพัดมาจากทางทิศใต้เป็นส่วนใหญ่

สรุปเทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัย

  • Security System ระบบรักษาความปลอดภัยจาก SECOM
    – แจ้งเตือนการบุกรุก เชื่อมต่อไปยังบริษัทรักษาความปลอดภัย SECOM ที่พร้อมเข้าช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และติดต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุนั้น เข้าช่วยเหลือในเวลาเดียวกัน
    – ระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งที่ประตูหน้าต่างทุกบาน
    – ปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินติดตั้งทุกชั้น ( รวมถึงกรณี เกิดเหตุร้าย,
    อุบัติเหตุ, เจ็บป่วย ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ รวมถึงเมื่อเกิดความไม่ปลอดภัยใดๆในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น รอบบริเวณที่พักอาศัย และกรณีความไม่ปลอดภัยที่คล้ายกัน )
  • Solar Cell System ขนาด 3 กิโลวัตต์ ติดตั้งแยกเป็นส่วนตัวสำหรับบ้านทุกหลัง กำลังไฟฟ้า =2800 w / hour หรือ 2.5 -2.8 units / hour นำไปใช้กับ Air Con 2-3 เครื่อง ( เครื่องละ 9000 BTU คำนวณจากกำลังไฟสูงสุดที่ผลิตได้ ช่วงเวลา 10.00-15.00)
    จุดติดตั้ง พื้นที่บนหลังคาของอาคารแต่ละหลัง
  • Double Layer Wall กำแพงสองชั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวจากมลภาวะทางเสียง
  • Air Purifier System ระบบหมุนเวียนอากาศ นำอากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน โดยกรองฝุ่นละอองระดับ PM 2.5 สามารถใช้งานผ่าน Smart Phone ได้
  • Smart Home
    – Motion Sensor ที่ประตูทางเข้าตัวบ้าน และโถงพัก Foyer
    – Motion Sensor ที่บันไดตลอดทางเดินทุกชั้น
    – Light Application Controlled ในทุกห้องนอน (Master, 2nd Bedroom, 3rd Bedroom)
    – CCTV ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone (4 จุด รอบตัวบ้าน)
    – ประตูม้วนรีโมต ที่โรงจอดรถ (ประตูใหญ่ทางเข้าบ้าน)

แบบบ้าน

โครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 เป็นบ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร มีแบบเดียว โดยแนวผังโครงการ แต่ละแปลงก็จะมีที่ดินและขนาดพื้นที่ใช้สอยแตกต่างกันเล็กน้อย  สามารถจอดรถได้ 4-5 คันแต่ส่วนการจัดวางผังและฟังก์ชันใช้งานต่างๆ ก็จะเหมือนๆ กัน ค่ะ

  • บ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร
    – ที่ดิน 32.1 – 37.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 270.3 – 291.4 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ /4 ห้องน้ำ / 4-5 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท (ราคาช่วง Presale)

ความน่าสนใจหนึ่งของบ้านในโครงการนี้ คือ ตัวบ้านสามารถจัดผังออกมาได้ 2 แบบ คือ แบบบ้านพักอาศัย หรือโฮมออฟฟิศ ส่วนความแตกต่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

แปลนแบบบ้านพักอาศัย

รูปตัดอาคาร แบบบ้านพักอาศัย

แบบบ้านพักอาศัย 

ชั้น 1 – เนื่องจากหน้าบ้านที่กว้างถึง 8 เมตร ทำให้สามารถจอดรถเรียงกันได้ 3 คัน และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างค่อนข้างกว้างพอสำหรับจอดรถได้อีก 1-2 คัน เมื่อเข้ามายังตัวบ้านที่ชั้น 1 จะถูกจัดเป็นพื้นที่ Living area  ขนาดใหญ่ เป็นแบบ Double Volume และสามารถเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหลังบ้าน พร้อมห้องน้ำแบบ Powder room

ชั้นลอย – ถูกจัดเป็นพื้นที่ครัว และพื้นที่ทานอาหาร ได้ช่องเปิดจากทางหน้าบ้าน และช่องเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่ Living area ที่ชั้น 1 บริเวณ Double Volume ทำให้ได้วิวพื้นที่สีเขียวหลังบ้านด้วยค่ะ

ชั้น 2 – จะเป็น Master Bedroom ยกชั้น ได้บรรยากาศเหมือนกับ Penthouse ซึ่งมีพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ ได้ Bathtub และ อ่างล้างมือแบบ His&Her

ชั้น 3 – ก็จะเป็นห้องนอนรอง 2 ห้อง โดยทั้งสองห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัว และมีพื้นที่สำหรับ Laundry ที่สามารถเชื่อมต่อกับระเบียงได้สะดวก

แปลนแบบโฮมออฟฟิศ

แบบโฮมออฟฟิศ

ชั้น 1 และชั้นลอย – หน้าบ้านที่กว้างถึง 8 เมตร สามารถจอดรถเรียงกันได้ 3 คัน และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างสามารถจอดได้อีก 1-2 คัน ทำให้สามารถจอดรถได้สูงสุดถึง 5 คัน เมื่อเข้ามาภายในบ้านที่ชั้น 1 และชั้นลอย จะจัดเป็นโซนสำนักงานรองรับ 10-12 ที่นั่งได้ พร้อมมีห้องน้ำแบบ Powder room และพื้นที่เพียงพอสำหรับมี Pantry เล็กๆรองรับอยู่ที่ชั้น 1

ชั้น 2 – เป็นพื้นที่ชั้นพักอาศัย จัดเป็นพื้นที่ Living area พร้อมพื้นที่ครัวแบบปิด และ พื้นที่ Laundry เชื่อมต่อกับระเบียงหลังบ้าน และมีห้องน้ำแบบ Powder Room ในตัว

ชั้น 3 – ก็จะเป็นห้องนอน2 ห้อง โดยทั้งสองห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัว และระเบียง เหมือนกับแบบบ้านพักอาศัยเลยค่ะ

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • หน้ากว้าง 8 เมตร จอดรถได้สูงสุดถึง 5 คัน ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆในโซนนี้
  • ได้ระบบรักษาความปลอดภัยจาก SECOM ที่พร้อมเข้าช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
  • ได้เทคโนโลยีภายในตัวบ้านที่หลากหลาย ครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
  • ผนังด้านที่ติดกับเพื่อนบ้านเป็นแบบ Double Layer Wall กำแพงสองชั้น เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
  • พื้นที่ Living area แบบ Double Volume สูง 5.2 เมตร
  • ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ได้ห้องน้ำในตัวทุกห้อง
  • ได้พื้นที่ครัวและพื้นที่ Laundry ภายในตัวบ้านมาเรียบร้อย ทั้ง 2 แบบ
  • มี Powder room ที่บริเวณ Foyer ทางเข้าบ้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิต New Normal นอกจากนั้นยังสะดวกในกรณีที่จัดผังเป็นรูปแบบโฮมออฟฟิศ สำหรับเป็นห้องน้ำสำหรับ พนักงานและแขกที่เข้ามาติดต่อได้สะดวก
  • ได้พื้นที่สวนหลังบ้านค่อนข้างกว้าง และมีการออกแบบระเบียงให้สามารถจัดเป็น Pocket Garden เล็กๆไว้ ตามชั้นต่างๆ เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวในทุกๆ ชั้น

โครงสร้างและวัสดุ

  • ประตูทางเข้าโรงจอดรถหน้าบ้าน : ประตูม้วนเหล็กไฟฟ้า พร้อมรีโมต 3 เครื่อง
  • วัสดุปูพื้นที่จอดรถ  : กระเบื้องสีเทา
  • วัสดุปูพื้นชั้น 1 : กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว / กระเบื้องลายหินอ่อนสีเทา
  • วัสดุปูพื้น Terrace หลังบ้าน : กระเบื้องลายไม้
  • วัสดุปูพื้นชั้นลอย : กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว
  • วัสดุปูพื้นชั้น 2-3 : พื้นไม้ SPC ลายไม้
  • วัสดุปูพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : จาก KOHLER ทั้งหมด
  • บันได : คอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ทำสี
  • วัสดุกรอบบานหน้าต่าง : อะลูมิเนียม อบสี
  • โครงสร้าง : ก่ออิฐฉาบปูน พร้อมที่จอดรถ และพื้นที่ข้างบ้าน ลงเสาเข็ม 21 ม. เท่ากับตัวบ้าน
  • รูปแบบหลังคา :  Flat Roof มีแผงโซลาร์เซลล์

สำหรับบ้านตัวอย่างภายในโครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 ที่เราพามาดูวันนี้ จะเป็นแบบบ้านพักอาศัย แปลง F หลังริมได้ที่ดินเยอะที่สุด เป็นบ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน  1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ  4 ที่จอดรถ

เริ่มจากลักษณะภายนอกของตัวอาคารมาในสไตล์ Modern Luxury ใช้โทนสีฟ้าสว่าง ดูสะอาดตา ด้านหน้าได้ช่องเปิดค่อนข้างเยอะ ตัวอาคารจะกว้าง 5.5 ม. แต่ที่ดินของบ้านนี้จะกว้าง 8 ม. เลยค่ะ

ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นประตูม้วนเหล็กไฟฟ้า ที่ให้รีโมต มา 3 เครื่อง เวลาเปิดประตูจะม้วนเก็บไปไว้ด้านบนเรียบร้อย ประหยัดพื้นที่และเปิด-ปิดได้ค่อนข้างง่าย ซุ้มประตูด้านบนสูง 2.5 เมตร เพียงพอที่รถใหญ่ๆจะผ่านได้ นอกจากนั้นซุ้มด้านบนนี้มีข้อดีคือเป็นส่วนเผื่อต่อเติมในอนาคต เช่น ถ้าจะทำหลังคาโรงรถเพิ่มเติมก็จะมีตัวจบหลังคาที่มีรูปแบบหรือความสูงที่เท่าๆกันทุกหลัง ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งโครงการ

บริเวณที่จอดรถกว้าง 8 เมตร สามารถจอดรถเรียง 3 คันได้สบายๆ และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างกว้างประมาณ 2.5 เมตร พอสำหรับจอดรถได้อีก 1-2 คัน โดยพื้นที่จอดรถ และพื้นที่ข้างบ้านตรงนี้จะปูกระเบื้องสีเทามาให้ พร้อมลงเสาเข็ม 21 ม. เท่ากับตัวบ้านมาให้เรียบร้อย ช่วยป้องกันเรื่องพื้นทรุดตัวและง่ายต่อการต่อเติมอีกด้วยค่ะ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานทึบไม้จริง สามารถเปิดออกได้ถึง 2 ด้าน รวมกันแล้วกว้าง 1.2 ม. และมีช่องกระจกเล็กๆ ด้านข้างเวลาใครมาหน้าบ้านจะได้มองเห็น พร้อมติดตั้ง Digital door lock ของ SAMSUNG มาให้แบบนี้เลยค่ะ ส่วนด้านข้างจะเป็นห้องเก็บของเล็กๆ ที่ออกแบบมาให้ตู้ไฟฟ้าควบคุมต่างๆ จะรวมกันอยู่ในห้องนี้ สะดวกเวลาที่มีช่างเข้ามาซ่อมบำรุงไม่ต้องเข้าบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยค่ะ

เปิดเข้ามาเป็นพื้นที่ Foyer มองเห็นพื้นที่ Living area ฝ้าเพดานสูง Double Volume ทะลุไปเห็นสวนหลังบ้าน ผ่านช่องเปิดกระจกขนาดใหญ่ใหญ่สูงเต็มบาน ทำให้บรรยากาศตรงนี้ดูโปร่งโล่ง สบายตาดีค่ะ

พื้นที่ Foyer จัดมาเป็นพื้นที่สำหรับ ใส่รองเท้า ถอดรองเท้า พร้อมลดระดับจากพื้น Living area มา 1 step เพื่อกันฝุ่นผงไม่ให้เข้าไปยังพื้นที่นั่งเล่น บริเวณตรงนี้มีห้องน้ำรองรับอยู่ 1 ห้องสามารถใช้ล้างไม้ล้างมือ ทำความสะอาดเบื้องต้นเมื่อกลับมาถึงบ้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal นอกจากนั้นยังสะดวกในกรณีที่จัดผังเป็นรูปแบบโฮมออฟฟิศ สำหรับเป็นห้องน้ำพนักงานและแขกที่เข้ามาติดต่อได้สะดวกดี ส่วนบริเวณผนังข้างจะเป็นแผงควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยค่ะ

แผงควบคุม Security System ภายในบ้านจาก SECOM พร้อมปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน สำหรับชั้นนี้จะติดตั้งอยู่บริเวณเดียวกันนี้เลย เพื่อความสะดวกในการใช้งานค่ะ

ห้องน้ำของชั้นล่างนี้มีลักษณะเป็น Powder Room ไม่มีส่วนเปียกมาให้ โดยห้องนี้ได้ช่องเปิดด้วย ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดีค่ะ

Image 1/3
สุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ

ภายในประกอบไปด้วย อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก KOHLER

ฝ้าภายในฉาบเรียบพร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศเพื่อลดความชื้นในห้องน้ำ มาให้เรียบร้อยค่ะ

พื้นที่ Living area ภายในตรงนี้กว้างประมาณ 5.3 ม. เป็นแบบ  Double Volume สูง 5.2 ม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาวสว่าง พื้นเป็นกระเบื้องสีขาวลายหินอ่อน พร้อมประตูกระจกบานเลื่อนสูงเต็มบาน ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ดูโปร่งโล่ง บวกกับพื้นที่ตรงนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหย่อมหลังบ้าน ทำให้ดูร่มรื่นยิ่งขึ้นค่ะ

บริเวณผนังด้านที่ติดกับพื้นที่ข้างบ้าน ก็ได้ช่องเปิดกระจกเช่นกัน ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่งยิ่งขึ้น นอกจากนั้นในบ้านจริงยังได้ฝ้าหลุม พร้อมแอร์เป็นแบบฝังฝ้าเพดานยี่ห้อ Daikin แบบนี้เลยค่ะ นอกจากนั้นจะเห็นได้ว่าพื้นที่ภายในห้องได้แสงธรรมชาติสว่างเพียงพอ ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันก็อยู่ได้สบายๆเลย

บริเวณผนังด้านที่ติดกับห้องน้ำจัดเป็นพื้นที่ Pantry ไว้เป็นไอเดียก็ดูลงตัวดีนะคะ ตรงกลางเป็นประตูกระจก สามารถเปิดออกพื้นที่ข้างบ้านได้  ถัดเข้ามายังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโซฟา 3 ที่นั่ง ได้สบายๆ ตรงนี้จะเปลี่ยนเป็นโซฟา L-shape พร้อม Armchair เก๋ๆ สักตัวก็ดูดีไม่น้อยเลยค่ะ

ประตูกระจกบานเลื่อน พร้อมช่องแสงด้านบนสูงเต็มบาน  วัสดุกรอบบานเป็นอะลูมิเนียม อบสี มือจับเป็นแบบในภาพเลยค่ะ สามารถปลดล็อกโดยการเลื่อนลง ดูเรียบๆโมเดิร์นดีค่ะ

พื้นที่ Living area เชื่อมต่อกับ สวนหลังบ้านด้วย Terrace ปิดผิวด้วยกระเบื้องลายไม้ สำหรับในบ้านตัวอย่างหลังนี้ ได้พื้นที่สวนค่อนข้างกว้าง พร้อมบ่อน้ำเล็กๆ ช่วยให้บรรยากาศสวนหลังบ้านดูร่มรื่นยิ่งขึ้น สามารถใช้เป็นไอเดียในการจัดสวนได้นะคะ

Image 1/2
บรรยากาศสวนหลังบ้าน

บรรยากาศสวนหลังบ้าน

บริเวณ Terrace  ตรงนี้สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ในสวนเล็กๆได้  ในบ้านตัวอย่างนี้ พื้นที่สวนออกแบบมาเป็นพื้นที่ Hardscape พร้อมที่นั่งเล่น Outdoor บริเวณนี้สามารถจัดเป็นบาร์บีคิวปาร์ตี้ เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นภายในบ้านได้สะดวก และเนื่องจากพื้นที่หลังบ้านอยู่ทางทิศตะวันออก ทำให้ในช่วงเช้าถึงสาย บริเวณสวนหลังบ้านจะค่อนข้างร่ม เหมาะสำหรับการมานั่งเล่นชมสวน ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

Image 1/2
โคมไฟภายนอกมาให้ พร้อม CCTV ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone 4 จุด รอบตัวบ้าน

โคมไฟภายนอกมาให้ พร้อม CCTV ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone 4 จุด รอบตัวบ้าน

บริเวณสวนหลังบ้านติดตั้งโคมไฟภายนอกมาให้ พร้อมกล้อง CCTV โดยบ้านทุกหลังในโครงการนี้จะมี CCTV ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone 4 จุด รอบตัวบ้านเป็นมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย

เมื่อมองกลับเข้ามาจากทางสวนหลังบ้าน จะเป็นโถงบันไดอยู่ชิดกับผนังด้านที่ติดกับเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยลดเสียงรบกวน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ถัดขึ้นไปด้านบนเป็นพื้นที่ชั้นลอย ซึ่งได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่มองเห็นกันได้ชัดเจน ช่วยให้พื้นที่ชั้นลอยเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น เมื่อใช้งานจริงสามารถเห็นสมาชิกคนอื่นๆ อยู่ในพื้นที่เดียวกันดูเป็นบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเลยค่ะ

มากันที่ส่วนของบันไดนะคะ สำหรับบันไดในชั้นนี้จะเป็นบันไดช่วงเดียวยาวตรงไปยังชั้นลอย ระยะเคลียร์ในบันไดกว้าง 0.9 ม. เป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ดูแข็งแรงดี ปิดผิวด้วยไม้จริงทำสี พร้อมราวกันตกเหล็ก มือจับเป็นไม้ทำสีเดียวกับพื้นบันได ตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ นอกจากนั้นยังได้ Motion Sensor ที่บันไดตลอดทางเดินทุกชั้น เมื่อเดินผ่านในช่วงเวลาที่แสงน้อย ไฟจะเปิดและปิดเองอัตโนมัติ สะดวกสบายและประหยัดไฟได้อีกด้วยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นลอยค่ะ สำหรับผังแบบบ้านพักอาศัย จัดเป็นพื้นที่ครัวพร้อมพื้นที่ทานอาหาร ขนาดห้องกว้าง 3 ม. ลึก. 4.5 ม. ได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ทั้ง 2 ด้าน ทำให้ห้องนี้ดูโปร่ง สำหรับพื้นที่ตรงนี้จะไม่ได้ติดตั้งประตูมาให้นะคะ สามารถติดตั้งประตูเพิ่มเติม เพื่อกั้นกลิ่นกั้นแอร์ตามความเหมาะสมในการใช้งานได้เลยค่ะ

หน้าต่างกระจกภายในด้านที่ติดกับพื้นที่ Living area เป็นหน้าต่างบานเปิด แต่ไม่ต้องกลัวตกนะคะ เพราะเป็นหน้าต่างที่ออกแบบมาเป็นช่องเปิดแคบๆ สำหรับพอเปิดให้ลมพัดผ่านได้

สำหรับพื้นชั้นลอยเป็นกระเบื้องสีขาวลายหินอ่อนเช่นกัน และได้ฝ้าสูง 2.6 ม. เป็นฝ้าหลุมแบบนี้เลย ส่วนช่องเปิดด้านหน้าบ้านเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บานได้แสงสว่างค่อนข้างดี และได้ปลั๊กไฟค่อนข้างเยอะ ถ้าจัดเป็นพื้นที่ทำงานก็เหมาะเลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศโถงบันได

บรรยากาศโถงบันได

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นบันได U-shape ปิดผิวด้วยไม้จริงทำสี พร้อมราวกันตกเหล็ก มือจับเป็นไม้ทำสีเดียวกับพื้นบันได เช่นกันค่ะ

บริเวณโถงบันไดได้ช่องเปิดกระจกบานใหญ่ เช่นเดียวกับชั้นก่อนหน้าเลยค่ะ

ประตูห้องนอนทุกห้องเป็นประตูบานทึบมือจับก้านโยก ใช้งานได้สะดวก แบบนี้เลยค่ะ

สำหรับชั้น 2 นี้จะเป็น Master Bedroom ยกชั้น ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่เลย สำหรับบ้านจริงจะเป็นห้องโล่ง หน้ากว้าง 3 ม. ลึก 7.3 ม. ในห้องตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่ห้องนอน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ Walk-in Closet  และห้องน้ำด้านในสุดติดกับส่วนหลังบ้าน ภายในห้องนอนนี้จะได้ Air Purifier ติดอยู่บริเวณหัวนอน และปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินติดตั้งอยู่ข้างประตูบริเวณปลายเตียง

Air Purifier System ระบบหมุนเวียนอากาศ นำอากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน โดยกรองฝุ่นละอองระดับ PM 2.5 จาก Xiaomi สามารถใช้งานผ่าน Smart Phone ได้

สวิตช์เปิด-ปิดไฟในห้องนอนทุกห้องจะแตกต่างกับ สวิตช์ห้องอื่นๆนะคะ เป็นสวิตช์ไฟสีดำ เรียบๆดูมีดีไซน์ สามารถควบคุมโดยใช้แอพพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟนได้ สำหรับห้อง Master Bedroom  จะติดตั้งอยู่บริเวณข้างประตูห้องนอน พร้อมปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินติดตั้งอยู่ข้างกันเลยค่ะ

พื้นที่ห้องนอนจัดให้อยู่ติดกับช่องเปิดทางด้านหน้าบ้าน ซึ่งเป็นทิศตะวันออก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าจะได้รับแสงแดดอ่อนๆ ทำให้ตื่นง่ายกระปรี้กระเปร่า โดยช่องหน้าต่างจะได้ช่องหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งเหมือนชั้นก่อนหน้าเลยค่ะ

Image 1/2
ไอเดียการจัด Walk-in Closet ใน Master Bedroom

ไอเดียการจัด Walk-in Closet ใน Master Bedroom

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่แบ่งเป็นสัดส่วนซ้ายขวา โดยในห้องตัวอย่างได้จัดให้ฝั่งขวาเป็น Walk-in Closet ที่ผนังด้านที่ติดกับห้องน้ำ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนผนังด้านที่ติดกับพื้นที่ห้องนอนเป็นชั้นวางของโปร่งๆ ช่วยให้บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งนี้ไม่มืดทึบ สามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านได้ค่ะ

ส่วนพื้นที่ Walk-in Closet ด้านขวา บริเวณตรงนี้เป็นพื้นผนังทึบ 3 ด้าน จึง Built-in เป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่รูปตัว U สามารถแขวนเสื้อผ้าได้เยอะเต็มพื้นที่ ถูกใจสาวๆที่ชอบแต่งตัวเลยค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในสุด ผ่าน ประตู ตรงกลางระหว่าง Walk-in Closet จะเป็นพื้นที่ห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำค่อนข้างกว้างติดกับโซนหลังบ้าน ได้ช่องเปิดเยอะ ใช้งานเวลากลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟ แถมยังระบายอากาศ ลดความชื้น ภายในห้องน้ำได้ดี ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน

ฝั่งซ้ายเป็นโซนแห้ง ประกอบไปด้วย อ่างล้างมือแบบ His & Her และโถสุขภัณฑ์ ซึ่งกั้นห้องด้วยฉากกระจกมาให้ด้วย ทำให้สามารถกันกลิ่นได้ระดับหนึ่ง พร้อมกั้นขอบสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้สะดวกเวลาทำความสะอาด และป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้งอื่นๆ ภายในติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย ตรงนี้ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถติดสติกเกอร์ฝ้าที่ฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมได้นะคะ

ภายในห้อง มีขนาด 1×1.7 ม. มีลักษณะเป็นเหมือนห้องมุมทำให้ได้ช่องเปิดสองด้าน สามารถระบายอากาศได้ดีทีเดียว พร้อมทั้งมีช่องวางของเล็กๆน้อยๆ ที่ผนัง มาให้เรียบร้อย โถสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เป็นของ KOHLER ค่ะ

อ่างล้างมือได้แบบ His & Her กว้าง 1.85 ม. จาก KOHLER เช่นกันค่ะ

พื้นที่ฝั่งขวาเป็นส่วนเปียก ประกอบไปด้วย Bathtub และที่อาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower ครบครัน  พร้อมฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย

บริเวณนี้จะได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ติดกับพื้นที่ระเบียงพอดีสามารถวางกระถางต้นไม้ที่ระเบียงเหมือนในบ้านตัวอย่างนี้ เพื่อช่วยพรางสายตา และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในห้องน้ำ ก็ดูสดชื่นดีไม่น้อยเลยค่ะ

พื้นที่ส่วนเปียกตรงนี้มีขนาด 1.8 x 2.3 ม. พื้นยกขอบสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้งเช่นกันค่ะ

Image 1/3
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

Bathtub และ Rain Shower ดูดีเลยทีเดียวค่ะ สำหรับอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ เป็นของ  KOHLER เช่นกันค่ะ

ภายในห้องน้ำมีระเบียงในตัว สามารถจัดเป็น Pocket Garden วางกระถางต้นไม้เล็กๆ นอกจากนั้นอีกหนึ่งข้อดีของการมีระเบียงในห้องน้ำก็คือ ทำให้เราสามารถตากผ้าเล็กๆน้อยๆ อย่างผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวได้สะดวกดีค่ะ

จากชั้น 2 ขึ้นไปชั้น 3 เป็นบันไดช่วงเดียวตรงขึ้นไปเลย โดยมีชานพักบันไดก่อนจะถึงพื้นชั้นบน 3 ขั้นค่ะ

มาต่อกันที่พื้นที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดกันแล้วนะคะ เมื่อขึ้นมาจะเจอกับส่วนพื้นที่ Laundry ซึ่งเป็นลักษณะผนังดรอปเข้าไป เพื่อสามารถ Built-in เป็นที่วางเครื่องซักผ้า และ ชั้นวางของ กว้าง 2.15 ม.ได้ หากใครอยากวางเครื่องอบผ้าเพิ่มเติม สามารถปรับเปลี่ยนชั้นวางด้านบน เพื่อวางเครื่องอบผ้าได้นะคะ ภายในมีการเดินท่อและปลั๊กไฟต่างๆไว้รองรับการจัดให้เป็น Laundry เรียบร้อยค่ะ

เมื่อขึ้นมาด้านขวามือจะเป็นโถงหน้าห้องนอน บริเวณนี้จะมี สวิตช์ไฟ พร้อมปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ส่วนบริเวณที่ติดกับทางหน้าบ้านเป็นพื้นที่ระเบียง ได้ประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ ทำให้บริเวณตรงนี้ค่อนข้างสว่างดีเลยค่ะ

ปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินติดตั้งอยู่บริเวณโถงหน้าห้องนอนรอง เผื่อในกรณีฉุกเฉินสามารถใช้งานได้สะดวกค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศระเบียงชั้น 3

บรรยากาศระเบียงชั้น 3

บริเวณพื้นที่ระเบียง กว้าง 2 เมตร ลึก 1.65 ม. แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ผนัง ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ โดยพื้นที่ระเบียงตรงนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ Laundry ได้สะดวก สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ

ห้องนอนรองห้องนี้จะอยู่ติดกับโซนด้านหลังบ้าน บริเวณห้องนอนได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ พื้นที่ภายในห้องมีขนาดหน้ากว้าง 3 ม. ลึก 2.75 ม. ส่วนเครื่อง Air Purifier จะติดตั้งอยู่ริมหน้าต่างแบบนี้เลยค่ะ

ภายในห้องจะมีส่วนที่ผนังด้านในดรอปเข้าไป 0.75 ม. กว้าง 1.45 ม. สามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเหมือนในบ้านตัวอย่างนี้ก็ดูเรียบร้อยดีค่ะ

สำหรับห้องน้ำภายในห้องนอนนี้จะอยู่บริเวณปลายเตียง เปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนพื้นที่อาบน้ำ ส่วนโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือจะอยู่ตำแหน่งที่ติดกับหน้าต่างกระจก พร้อมพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้เรียบร้อย

โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จาก KOHLER ค่ะ

Image 1/2
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

อ่างล้างมือจะได้ชั้นวางของ และลิ้นชักมาให้ สามารถจัดเก็บอุปกรณ์น้ำความสะอาด หรือเก็บของต่างๆ ได้เรียบร้อยดีค่ะ

Image 1/2
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่ส่วนเปียกตรงนี้มีขนาด 1.0 x 0.9 ม. พื้นยกขอบสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง ที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก KOHLER ตามนี้เลยค่ะ

มาต่อกันที่ห้องนอนรองอีกห้องกันค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกันส่วน Walk-in Closet และประตูทางเข้าห้องน้ำด้านซ้ายมือ

Walk-in Closet อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ทำให้ใช้งานได้สะดวก ต่อเนื่องกันดีค่ะ

ภายในห้องน้ำได้ช่องเปิด พร้อมพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้เรียบร้อย จัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งาน อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งที่ใช้งานง่ายดี สำหรับสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก KOHLER

Image 1/2
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

อ่างล้างมือได้ชั้นวางของ และลิ้นชักมาให้เรียบร้อย ส่วนด้านข้างที่ติดกับโถสุขภัณฑ์ จะเป็นชั้นวางของแบบเปิด สามารถวางหนังสือ ทิชชู หรือของเล็กๆน้อยๆได้ ถือว่าใส่ใจรายละเอียดได้ดีทีเดียวค่ะ

โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จาก KOHLER ค่ะ

Image 1/2
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่ส่วนเปียกตรงนี้มีขนาด 1.0 x 0.9 ม. พื้นยกขอบสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง ที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก KOHLER พร้อมฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ

สำหรับพื้นที่ห้องนอนจะอยู่ติดกับโซนหน้าบ้าน ทำให้ได้หน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง 3 บานแบบนี้เลย  สำหรับห้องนี้มีขนาดหน้ากว้าง 3.1 ม. ลึก 4.1 ม.

ผนังด้านข้างห้องน้ำสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนังเพิ่มอีกจุดแบบนี้ได้ด้วย โดยผนังตรงนี้จะกว้างอยู่ที่ 1.4 ม.

ระยะหน้ากว้าง 3.1 ม. ตรงนี้สามารถวางเตียงแล้วยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือพอสำหรับวางโต๊ะวางทีวีได้สบายๆเลย ส่วนเครื่อง Air Purifier ของห้องนี้ จะติดตั้งอยู่ริมหน้าต่าง บริเวณปลายเตียงแบบนี้เลยค่ะ

Image 1/30
บรรยากาศภายในแบบบ้านมาตรฐาน บริเวณชั้น 1

บรรยากาศภายในแบบบ้านมาตรฐาน บริเวณชั้น 1

บรรยากาศภายในบ้านมาตรฐานค่ะ

**สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดใช้  KOHLER ส่วนรายละเอียดของวัสดุอื่นๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Baan Mayfair Ladprao 71 ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2565

  • บ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดิน 32.1 – 37.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 270.3 – 291.4 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ /4 ห้องน้ำ / 4-5 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท (ราคาช่วง Presale )
  • จองและทำสัญญา N/A บาท
  • ดาวน์ N/A% ผ่อนดาวน์ N/A งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ N/A บาท
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

สำหรับโครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 จะมีงาน OPEN HOUSE เร็วๆ นี้ ในวันที่ 11-12 มิ.ย. 65 พร้อมข้อเสนอพิเศษภายในงาน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 ตั้งอยู่ในย่านลาดพร้าว – นาคนิวาส ที่มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูง รวมถึงยังเป็นเส้นทางที่สามารถลัดเลี่ยงรถติดได้ดี สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง โดยโครงการจะตั้งอยู่ในซอยย่อยอีกที จึงค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่ก็เป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวจะดูเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด รวมถึงมีทางด่วนรามอินทราให้ใช้อยู่ไม่ไกลอีกด้วย จึงทำให้สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก  ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในปัจจุบันก็จะมี MRTสถานีลาดพร้าว ห่างจากโครงการในระยะประมาณ 6 กม. ให้ใช้บริการได้อยู่ ส่วนในอนาคตอันใกล้ ก็จะมี BTS สถานีโชคชัย 4 และ BTS สถานีลาดพร้าว 71 ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม. เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเข้าเมืองที่สะดวก 

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการนี้เป็นโครงการไม่จัดสรร จึงไม่มีรั้วทางเข้าหลักของโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง หน้าบ้านติดถนนสาธารณะที่คนขับผ่านไปผ่านมาได้ แต่เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยตันทำให้มีรถขับผ่านไป-มาไม่มากนัก ดังนั้นระบบรักษาความปลอดภัยที่มีก็จะอยู่ที่ตัวบ้านทั้งหมด ซึ่งโครงการนี้ก็ได้ให้มาจัดเต็มพอสมควรเลยค่ะ ทั้งระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งที่ประตูหน้าต่างทุกบาน และมีปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินติดตั้งทุกชั้น สามารถแจ้งเตือนการบุกรุก เชื่อมต่อไปยังบริษัทรักษาความปลอดภัย SECOM ที่พร้อมเข้าช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และติดต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุนั้น เข้าช่วยเหลือในเวลาเดียวกัน และได้ CCTV  4 จุด รอบตัวบ้าน ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
ถือว่าโครงการนี้ทำออกมาได้ลงตัวเลยค่ะ ความน่าสนใจคือเป็นบ้านแฝด ที่สามารถเลือกจัดผังเป็นโฮมออฟฟิศ เน้นบรรยากาศภายในที่ได้ช่องแสงเยอะ มีพื้นที่สีเขียว บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง จัดฟังก์ชันการใช้งานได้เหมาะสม เป็นได้ทั้งที่พักอาศัยและโฮมออฟฟิศ

ตัวโปรดักส์เป็นบ้านแฝดที่ได้หน้ากว้าง 8 เมตร จอดรถได้สูงสุดถึง 5 คัน เมื่อเทียบกับบ้านแฝดโครงการการอื่นๆ ในช่วงราคา 10-20 ล้านบาทบนทำเลนี้แล้ว โครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 เป็นโครงการบ้านแฝดที่หน้ากว้างที่สุด และได้พื้นที่ Living area แบบ Double Volume สูง 5.2 เมตร ได้พื้นที่ครัวและพื้นที่ Laundry ภายในตัวบ้านมาเรียบร้อย ทั้ง 2 แบบ และห้องนอนทุกห้องได้ห้องน้ำในตัว ทำให้สมาชิกในบ้านแต่ละคนไม่ต้องมาแย่งห้องน้ำกัน ใช้งานได้สะดวกเป็นส่วนตัว นอกจากนั้นยังออกแบบให้ผนังด้านที่ติดกับเพื่อนบ้านเป็นแบบ Double Layer Wall กำแพงสองชั้น เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยที่มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

วัสดุ :
ถือว่าให้มาดีตามมาตรฐานบ้านระดับราคานี้ค่ะ ผนังก่ออิฐ พื้นที่จอดรถและลานข้างบ้านลงเสาเข็ม 21 ม. ลึกเท่าตัวบ้านปูกระเบื้องสีเทา ประตูทางเข้าบ้านเป็นไม้จริง ติดตั้ง Digital door lock ของ SAMSUNG พื้นชั้น 1 และชั้นลอยเป็นกระเบื้องสีขาวลายหินอ่อน ใช้งานได้สะดวกทั้งเป็นบ้านพักอาศัย หรือโฮมออฟฟิศ กรอบประตูและหน้าต่างสีดำ อะลูมิเนียม อบสี โครงสร้างบันไดเป็น คสล. ปิดผิวด้วยไม้ ราวบันไดเป็นเหล็กพร้อมมือจับไม้ พื้นชั้น 2-3 พื้น SPC ลายไม้ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER ทั้งหมด และหลังคา Flat Roof พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ ช่วยประหยัดค่าไฟ พร้อมรองรับการขายไฟคืนให้รัฐในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานได้ด้วยค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
เป็นบ้านแฝดที่ได้พื้นที่ข้างบ้านค่อนข้างกว้างทำให้ ภาพรวมอาคารไม่ได้ดูติดกันเป็นพืดภายในตัวบ้านมีการออกแบบให้ได้พื้นที่สวนหลังบ้าน ค่อนข้างกว้าง และมีการออกแบบระเบียงให้สามารถจัดเป็น Pocket Garden เล็กๆไว้ ตามชั้นต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในทุกๆ ชั้น ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสดชื่นดีอีกด้วยค่ะ สำหรับบ้านยูนิตอื่นๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง จึงอาจจะพูดถึงหัวข้อนี้ได้ไม่เต็มว่าภาพรวมโครงการนี้จะออกมาเป็นอย่างไรนะคะ

สาธารณูปโภค :
เนื่องจากเป็นโครงการรูปแบบเปิด เป็นมีเพียง 6 ยูนิต ที่มีทางเข้าออกติดถนนสาธารณะ จึงไม่มีพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้าน ข้อดีคือจะไม่มีพันธะเรื่องค่าส่วนกลาง ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกปี ดังนั้น รีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพ็กเกจ 10-15 ล้านบาท , 22 พฤษภาคม 2565

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง  7.5/10 –  ทำเลเดินทางสะดวก มีทางลัดไปได้หลายเส้นทาง อุดมสมบูรณ์ ใกล้ทางด่วน ใช้รถเป็นหลัก
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ได้ระบบรักษาความปลอดภัยหลากหลายจัดเต็มจาก SECOM
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.5/10 – ออกแบบได้ลงตัว ได้เน้นช่องแสงเยอะ ได้พื้นที่สีเขียว หน้าบ้านกว้าง 8 ม. จอดรถได้สูงสุด 5 คัน ตอบโจทย์การทำงานในเวลากลางวันได้ด้วย
  • วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ได้พื้นที่สวนหลังบ้านกว้าง พร้อม Pocket Garden ที่กระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ในบ้าน
  • 7.94 / 9.00 (ไม่คิดสาธารณูปโภค) 

Baan Mayfair Ladprao 71 เหมาะกับใคร

โครงการ Baan Mayfair Ladprao 71 เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยรูปแบบบ้านแฝด หรือโฮมออฟฟิศ ในโซนลาดพร้าว 71 หรือพื้นที่ใกล้เคียง จุดเด่นคือได้บ้านหน้ากว้างถึง 8 ม. พร้อมเทคโนโลยีภายในตัวบ้านที่หลากหลายตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ไม่เน้นใช้ส่วนกลาง แต่ได้ระบบรักษาความปลอดภัยที่พร้อมเข้าช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง สามารถอยู่อาศัยได้ 4-6 คน นอกจากนั้นยังตอบโจทย์คนทำงานในช่วงเวลากลางวัน  มีแหล่งอาหารการกินในระยะเดินได้ ตัวบ้านได้ช่องแสงเยอะ มีพื้นที่สีเขียว บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง รองรับ 10-12 ที่นั่งกำลังดี พร้อมจอดรถได้สูงสุดถึง 5 คัน ในงบประมาณ 12.9 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 74,000 บาท/เดือนขึ้นไปค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc