รีวิวฉบับที่ 1605 …  I’m Chinatown (แอม ไชน่าทาวน์) เป็นโครงการมิกซ์ยูส ในสไตล์ Modern Chinese ที่มีพื้นที่ขนาดกว่า 30,000 ตร.บนถนนเจริญกรุง-เยาวราช  ซึ่งประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ 3 ส่วน ได้แก่ ศูนย์การค้า โรงแรม และคอนโดมิเนียม และใกล้ๆไม่ถึง 100 เมตร มี MRT สถานีวัดมังกรที่จะเปิดแล้วอีกไม่กี่เดือน วันนี้เราจะมารีวิวให้เห็นภาพรวมของแต่ละส่วนพร้อมๆกัน

Fact @ 8 June 2018

  • I’m Chinatown (แอม ไชน่าทาวน์)
  • บริษัท ไอแอมไชน่าทาวน์ จำกัด
  • N/A CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
  • โครงการประกอบด้วย : ศูนย์การค้า, โรงแรม และเรสซิเดนซ์
  • ศูนย์การค้าอยู่ชั้น B1, 1F – 3F
  • โรงแรม Holiday Inn Express ชั้น 4F – 8F (244 ห้อง)
  • เรสซิเดนซ์ คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 46 ยูนิต (สัญญาเช่าระยะ 30 ปี)
  • จอดรถที่อาคารหลักรวมด้านหน้า จอดใต้ดินได้ 6 ชั้น รองรับได้ 300 คัน
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 8 ยูนิต
  • ที่ดินประมาณ 3-0-37 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q3 ปี 2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q1 ปี 2562
  • Studio Type A ขนาด 20.50 ตร.ม. ราคาห้องเริ่มต้น 3.15 ล้านบาท
  • Studio Type B ขนาด 24.75 ตร.ม. (Sold Out)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 099-252-3696

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.741490, 100.511085

แผนที่จากทางโครงการครับ ตั้งอยู่ติดถนนเจริญกรุงที่ขนานกับถนนแยาวราช ใกล้แยกแปลงนาม และอนาคตยังห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานี วัดมังกร ประมาณ 90 เมตร (ใกล้จะเปิดเร็วๆนี้อีกไม่กี่เดือนแล้วครับ)

เจริญกรุง
ย่านเจริญกรุง จัดเป็นย่านอยู่อาศัยที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ปัจจุบันยังคงหลงเหลือกลิ่นอายทั้งวัฒนธรรมผสมผสานกับการใช้ชีวิตสมัยใหม่ อีกทั้งยังเป็นทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่ง โดย ถนนเจริญกรุง (Thanon Charoen Krung) เป็นถนนรุ่นแรกที่ใช้เทคนิคการสร้างแบบตะวันตก ปัจจุบันผ่านพื้นที่เขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตบางรัก เขตสาทร และเขตบางคอแหลม  ถนนเจริญกรุงเป็นถนนที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น มีความยาวจากถนนสนามไชยถึงดาวคะนอง 8.5 กิโลเมตร

การก่อสร้างถนนเจริญกรุงนั้น เนื่องจากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีชาวต่างประเทศเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น และมีพวกกงสุลได้เข้าชื่อกันขอให้สร้างถนนสายยาวสำหรับขี่ม้าหรือนั่งรถม้าตากอากาศเมื่อสร้างถนนเจริญกรุงเสร็จใหม่ๆนั้น ยังไม่ได้พระราชทานนามจึงเรียกกันทั่วไปว่า ถนนใหม่ และชาวยุโรปเรียกว่า นิวโรด (New Road) ชาวจีนเรียก ซินพะโล้ว แปลว่าถนนตัดใหม่ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า “ถนนเจริญกรุง” ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง เช่นเดียวกับชื่อถนนบำรุงเมืองและถนนเฟื่องนคร ที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในคราวเดียวกัน

กดที่แผนที่เพื่อดูขนาดใหญ่ได้

แผนที่ภาพรวม ต้องนับว่าเป็นพื้นที่ที่ผมไม่คิดว่าจะได้มาทำรีวิวก็ว่าได้ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติด ถนนเจริญกรุง-เยาวราช ในโซนที่เป็นไพร์มแอรเรียเรื่องการค้าขาย ทั้งอาหารสตรีทฟู๊ด ภัตตาคาร และร้านทอง และการรวมที่ทำโครงการเรียกว่าอภิมหายาก ตรงโซนนี้ยังนับว่าอยู่ในพื้นที่ “ย่านเมืองเก่า” ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวคือเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศเก่าๆสะท้อนผ่านทางงานสถาปัตยกรรมและรูปแบบการอยู่อาศัย เราจะเห็นบ้านที่ตกแต่งประตู หน้าต่างหรือส่วนอื่นๆด้วยลายฉลุ มีการใช้โทนสีและการออกแบบที่ดูร่วมสมัย ถ้าบ้านที่อยู่มานานหน่อยมักเป็นสไตล์จีนให้เห็นไม่น้อย 

สำหรับรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์ บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ ชั้นล่างประกอบการค้าและพักอาศัยที่ชั้นบน มีทั้งขายขาดและให้เช่า ในบางทำเลราคาจะค่อนข้างสูงเป็นสิบเป็นร้อยล้านก็มี โดยเฉพาะที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว ถ้าเป็นบ้านก็จะเป็นหลังใหญ่ๆที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษ มีโรงแรมและ Guest house เกิดขึ้นมากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

ที่สำคัญคือพื้นที่สีเหลืองที่ผมวงเอาไว้นั่นคือ เยาวราช หรือ “ถนนมังกร” ซึ่งมีเส้นทางจุดเริ่มต้นอยู่ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบริเวณวงเวียนโอเดียน และสิ้นสุดถนนนี้อยู่ที่บริเวณตลาดเก่าเยาวราช เดิมมีชื่อว่า “ถนนยุพราช” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานนามใหม่ เพื่อให้เยาวราชกลายเป็นสถานที่สำหรับส่งเสริมการค้าขาย เป็นย่านธุรกิจการค้า การธนาคาร รวมถึงร้านทอง ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งร้านอาหารเลิศรส ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างพากันแวะเวียนมาเยือนเพื่อลิ้มรสชาติอาหารที่มีให้เลือกสรรมากมาย และนับวันนี้ผู้คนทั้งคนไทยและต่างชาติก็ขนานนามว่าเป็น “สวรรค์แห่งอาหารริมทาง” (Street Food) ด้วยครับ

ผมลองซูมแผนที่ให้เห็นใกล้ลงมาหน่อย รูปแปลงของโครงการตีเส้นไว้ให้ รูปแปลงก็จะเป็นทรงหลายเหลี่ยมหน่อย ขนาดที่ดินโครงการทั้งหมด ประมาณ 3 ไร่กว่าครับ จะอยู่ระหว่างแยกที่สำคัญอย่าง “แยกแปลงนาม” และ “แยกหมอมี” (อยู่ล่างขวาตรงลูกศรว่าไปพระราม 4)

โดยลักษณะการเดินรถในพื้นที่นี้ แน่นอนว่าหลายๆคนคงเคยผ่านมาบ้าง จะมีส่วนของการเดินรถทางเดียว(วันเวย์)อยู่ไม่น้อย ถามว่าจำยากไหม ผมมาไม่กี่ครั้งก็พอจะจำได้แล้วครับ เชื่อว่าคนในพื้นที่แถวๆนี้คงเคยชินกันอยู่ไม่น้อย หรือไม่ก็ศึกษาจาก Google Maps ก็ได้นะ ซูมๆลงไปเค้าก็มีลูกศรบอกเรื่องวันเวย์ด้วย

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ จุดเด่นแรกสุดก็คงหนีไม่พ้นรถไฟฟ้านะครับ ห่างจากโครงการไปประมาณ 90 เมตร จะมี MRT สถานีวัดมังกร ตั้งอยู่ ซึ่งเรียกว่าใกล้มากๆ (และตามแผนจะเปิดเดือนกันยายนปีนี้แล้วด้วย) นอกจากนั้นในพื้นที่ยังมีทั้ง รถตุ๊กๆสามล้อ รถกะป้อ ซึ่งมักจะมีให้บริการอยู่ตามเมืองเก่า รถเมล์กับ  Taxi ก็เรียกง่ายเพราะติดถนนหลัก นอกจากนั้นในทำเลนี้ยังอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาสามารถใช้บริการการคมนาคมทางน้ำได้อีกด้วย ทั้งเรือข้ามฟาก หรือ เรือด่วน มีหลายเส้นทางให้เลือกใช้หนีรถติด นั่งเรือไปชมวิวไปในตัว

เดี๋ยวผมจะเดินให้ดูทำเลสภาพแวดล้อมด้านหน้ารอบๆโครงการสักหน่อย โดยรูททางเดินนั้นจะสั้นๆครับ เริ่มจากหน้าโครงการไปทางแยกผดุงด้าว(ซอยเท็กซัสสุกี้) เดินตัดเข้าไประยะเพียง 140 เมตรก็โผล่มาออกถนนเยาวราชแล้ว เดิมเลียบริมฟุตบาทแล้วเลี้ยวขวากลับเข้ามาที่ถนนแปลงนาม เดินมาถึงแยกแปลงนามที่เป็นที่ตั้งของ MRT วัดมังกร แล้วเลี้ยวขวา 90 ม.ก็กลับถึงโครงการครอบหนึ่งรอบ ชิวๆ

ตอนนี้อยู่ที่ด้านหน้าโครงการ I’m Chinatown ซึ่งการมีการล้อมรั้วพื้นที่ก่อสร้างด้านในเรียบร้อย

ถนนด้านหน้าของโครงการคือเจริญกรุงในพื้นที่ขนานกับถนนเยาวราช (อย่างที่บอกตอนต้นว่าถนนเจริญกรุงนั้นยาวมาก) ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเดินรถวันเวย์มาจากทางเสือป่า คลองถม แยกแปลงนามนั่นเอง

ส่วนถ้าเราหันไปอีกฝั่ง มองไปเห็นป้ายบอกทาง(สีเขียว)ว่าไปได้ทั้งหัวลำโพง สี่พระยา สุรวงศ์ซึ่งด้านหน้าเป็นแยกหมอมีครับ

ที่แยกหมอมีด้านหน้าจะมีทั้งทางไปวงเวียนที่สำคัญในย่านเมืองเก่านี้ 2 จุดคือ วงเวียน 22 กรกฎา และ วงเวียนโอเดียน / ส่วนเดี๋ยวผมจะเดินเลี้ยวขวาตรงนี้เข้าสู่ถนนผดุงด้าว

ถนนผดุงด้าวเนี่ก็เป็นวันเวย์รถวิ่งผ่านได้เช่นกันนะ ถ้าใครออกจากโครงการจะไปเยาวราชก็มาเส้นนี้แหละ แค่ 140 เมตรก็ถึงเยาวราชแล้ว ถนนนี้หลายๆคนจะรู้จักในชื่อซอยเท็กซัสสุกี้นั่นเอง ซึ่งทั้งกลางวันและกลางคืนยังเป็นแหล่งของสตรีทฟู๊ดตลอดทั้งเส้นเลยแหละ

รูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่อยู่ในย่านนี้จะผูกพันกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมแล้ว ร้านค้าร้านอาหารก็เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานาน ปัจจุบันได้มีการผสมผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่  มีร้านใหม่ๆมาเปิดแต่ตกแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศ บรรดาร้านค้าดั้งเดิมบางร้านก็รีโนเวทกับเค้าเหมือนกันให้เข้ากับยุคสมัย ถ้าอยากจะหาอาหารรสชาติต้นตำรับราคาไม่แพงก็มาเดินเลือกชิมกันได้ในย่านนี้ บางคนมาท่องเที่ยวเพื่อตะลุยกินอย่างเดียวเลยก็มี นอกจากนั้นยังมีตลาดเก่าแก่ให้จับจ่ายใช้สอยกันอีกด้วย

หลังจาดเดินบนเส้นผดุงด้วสั้นๆเพียง 140 เมตรก็มาโผล่ใจกลางเยาวราชแล้วครับ

หันไปมองทางซ้ายก่อนจะเห็นว่า ถนนเยาวราชก็เป็นวันเวย์เหมือนกัน เส้นทางที่รถวิ่งมาก็มาจากทางวงเวียนโอเดียน

หันไปทางขวา เดี๋ยวเราจะเดินเลียบไปทางริมฟุตบาทส่วนนี้นะครับ

โซนที่เราโผล่ออกมานั้น เรียกว่าเป็นสุดยอดทำเลของเหล่านักค้าทอง เซ่งเฮง ทั้งหลายทั้งปวง คงไม่ต้องบอกว่ามีกี่เจ้านะครับ เพราะร้านทองทั้งประเทศไทยก็มาซื้อแลกเปลี่ยนและหาช่างทองกันที่นี่แหละ

ร้านค้าร้านอาหารก็เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานาน ปัจจุบันได้มีการผสมผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่  มีร้านใหม่ๆมาเปิดแต่ตกแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศ บรรดาร้านค้าดั้งเดิมบางร้านก็รีโนเวทกับเค้าเหมือนกันให้เข้ากับยุคสมัย

มาถึงตรงแยกนี้นะครับ ทางขวามือก็จะเลี้ยวเข้าถนนแปลงนาม ส่วนถ้าตรงไปนิดเดียวทางซ้ายมือก็จะเป็น ตลาดเก่าเยาวราช ใครมาเคยมาตอนเย็นและหัวค่ำอยากให้ลองมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต เตรียมกระเพาะเอาไว้ให้ดีเลยครับ เพราะโซนนี้เป็นสุดยอดสตรีทฟู๊ดขึ้นชื่อแห่งนึงของเอเชียบ้านเราเลยล่ะ เอาล่ะกลับมาเส้นเดินของเราต่อ เลี้ยวขวาโลด

เข้ามาในถนนแปลงนามแล้ว เส้นนี้ก็เป็นวันเวย์ของรถมุ่งหน้าตรงไปได้เท่านั้นเช่นกัน เราจะเห็นว่าความคึกคักไม่ได้มากเท่ากับถนนผดุงด้าวที่เราผ่านมาตอนแรก แต่ก็ยังมีร้านอาหาร ร้านค้าเกือบๆจะเต็มสองฝั่งอยู่เหมือนกัน

ถ้าอยากจะหาอาหารรสชาติต้นตำรับราคาไม่แพงก็มาเดินเลือกชิมกันได้ในย่านนี้ บางคนมาท่องเที่ยวเพื่อตะลุยกินอย่างเดียวเลยก็มี

หลังจากเดินมาประมาณเกือบ 2 ร้อยเมตร ก็มาบรรจบที่แยกแปลงนาม บนถนนเจริญกรุงอีกครั้งนะครับ ตรงจุดนี้เราห้ามรถตรงไปนะ เค้าบังคับเลี้ยวขวาเท่านั้น (ก็กลับไปผ่านโครงการ I’m Chinatown นั่นแหละ)

แยกแปลงนาม เป็นจุดตัดและบรรจบระหว่างถนนสามเส้นคือ เจริญกรุง แปลงนาม และพลับพลายไชย โดยถ้ามาจากเส้นวันเวย์ก็คือมาจากทาง วรจักร คลองถม เสือป่า พวกนี้ฮะ เราจะเห็นว่าที่หัวมุมนี้มีสถานีรถไฟฟ้า MRT แห่งใหม่ “วัดมังกร”

‘สถานีวัดมังกร’ (BS10) เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายใหม่ที่เป็นส่วนต่อขยายช่วง หัวลำโพง – หลักสอง (สายสีน้ำเงินส่วนใต้) ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญกรุง ใกล้กับวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) โดยสถานีนี้จะเป็นสถานีแรกของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง – บางแค จะเปิดให้บริการภายในปี 2562 นี้ (แว่วๆมาว่าประมาณเดือนกันยายนนี้แล้ว ถ้าไม่โดนเลื่อนนะฮะ)

การออกแบบตัวสถานีทั้งภายนอกบริเวณระดับดินและภายใน มีรูปแบบสถาปัตยกรรม จีน-โปรตุเกส หรือ ชิโนโปรตุกีส เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมโดยรอบซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน (บริเวณเยาวราช ถนนเจริญกรุง วัดมังกรกมลาวาส) รวมถึงได้นำลวดลายของมังกรมาประดับใช้ในบริเวณสถานี ตั้งแต่เพดานบริเวณชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร และบริเวณหัวเสาในสถานีที่ใช้สลับกับประแจจีนและลายดอกบัว และบริเวณทางลงเข้าสู่ตัวสถานี ได้มีการออกแบบเพดานให้มีความรู้สึกเหมือนกำลังลงไปอยู่ใต้ท้องของมังกร รอดูได้เลยอีกไม่กี่เดือน

สถานีวัดมังกร จะมีทั้งหมด 4 ชั้น

  • ชั้น G – ชั้นระดับถนน
  • ชั้น B1 – ชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร
  • ชั้น B2 – ชั้นชานชาลาบน ไปท่าพระ ผ่านศูนย์วัฒนธรรม
  • ชั้น B3 – ชั้นชานชาลาล่าง ไปหลักสอง ผ่านบางหว้า

จากที่แยกแปลงนาม ตรงนี้มีทางม้าลายนะ เราจะข้ามถนนไปเดินฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ ห่างไปแค่ 80 เมตรก็ถึงแล้ว

ข้ามมาแล้ว จุดสังเกตทางซ้ายมือขนาดใหญ่ก็คือสมาคมกว๋องสิวแห่งประเทศไทย มีรพ.และมูลนิธิอยู่ในพื้นที่ด้วย

และก็ถึงเขตที่ดินโครงการด้านหน้าอีกครั้ง โดยผู้ที่ควบคุมงานก่อนสร้างก็ไม่ใช่อื่น แบรนด์มหาชนอย่าง SYNTEC (ซินเท็ค) นั่นเอง

ตอนนี้ Sale Office Gallery ก็เปิดอยู่ที่ด้านหน้านี้เลยนะครับ ใครสนใจรายละเอียดทั้งส่วน ศูนย์การค้า และเรสซิเดนซ์(มีโมเดล)ก็เข้ามาสอบถามได้เลย

ส่วนใครที่อยากจะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการแล้วกังวลเรื่องที่จอดรถ ให้เราเลย Sale Gallery มาประมาณ 40 เมตรครับ แถวปากซอยเจริญกรุง 25 (หน้าร้านขาหมูตีสาม) จะมีป้ายเขียนบอกว่าทางเข้าที่จอดรถบ้านร่มไม้ ให้บอกเค้าไปว่ามาเยี่ยมชมโครงการ I’m Chinatown ก็มีที่จอดรถแล้วเดินใกล้ด้วย

ขอปิดท้ายส่วนของพาร์ททำเลโครงการไปด้วยแผนที่นี้ครับ ต้องขอบคุณคนที่ทำแผนที่นี้ไว้ให้เหล่านักล่าอาหารทั้งหลายแก่ประชาชนชาวไทย ซึ่งผมไปเจอมาจากใน Pantip และเวปไซต์ต่างๆแต่ก็หาเครดิตคนทำไม่เจอจริงๆ ถ้าใครเป็นคนทำก็มาแสดงตัวกันหน่อยนะฮะ อยากจะกราบงามแทนคนรักสตรีทฟู๊ดเลยจ้า

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

แผนที่รอบๆโครงการ แสดงให้ดูเห็นส่วนของอาคารศูนย์การค้ากับโรงแรมที่เป็นอาคารเดียวกันอยู่ด้านหน้าติดถนน และส่วนของเรสซิเดนซ์อยู่ด้านหลังที่ยื่นออกไปครับ จะเห็นว่าหันออกไปรับวิวสองฝั่งทางทิศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งใรอบๆก็จะไม่ได้มีอาคารสูงอะไรเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นอาคารสูง 3-5 ชั้น เป็นชุมชนพักอาศัยและร้านค้า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • MRT วัดมังกร ~ 90 เมตร
  • ถนนเยาวราช ~ 170 เมตร
  • วงเวียน 22 กรกฎา ~ 300 เมตร
  • วัดมังกรกมลาวาส(เล่งเน่งยี่) ~ 400 เมตร
  • เสือป่าพลาซ่า ~ 450 เมตร
  • Tesco Lotus ไชน่าทาวน์ ~ 450 เมตร
  • วงเวียนโอเดียน + รพ.สมิติเวชไชน่าทาวน์ + วัดไตรมิตร ~ 550 เมตร
  • คลองถมเซ็นเตอร์ ~ 850 เมตร
  • วัดเทพศิรินทราวาส + โรงเรียนเทพศิรินทร์  ~ 1 กิโลเมตร
  • ดิโอลด์สยามพลาซ่า ~ 1.5 กิโลเมตร
  • อุทยาน ๑๐๐ ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ~ 2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 2.6 กิโลเมตร
  • MBK + สยามเซ็นเตอร์ ~ 3.4 กิโลเมตร
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 3.6 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

I’m Chinatown เป็นโครงการมิกซ์ยูส สไตล์ Modern Chinese ขนาด 30,000 ตร.บนถ.เจริญกรุง บริเวณหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวัดมังกรฯ ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ 3 ส่วน ได้แก่ ศูนย์การค้า โรงแรม และเรสซิเดนซ์(คอนโดมิเนียม Leasehold)

โดยจะประกอบไปด้วยส่วนดังนี้

  • ศูนย์การค้า 4 ชั้น ซึ่งปัจจุบันสามารถปล่อยเช่าได้ 70% แล้ว
  • โรงแรม Holiday Inn Express Chinatown เปิดเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว โดย Holiday Inn เชนโรงแรมชื่อดังมาช่วยบริหาร จำนวน 224 ห้อง ตั้งอยู่ชั้น 4-8 ของศูนย์การค้า ราคาห้องพักเริ่มต้น 1,800 บาท

อ้อมมาที่ด้านหลังของส่วนอาคาหลักจะเห็นส่วนเรวซิเดนซ์ตั้งอยู่แยกออกมา

โดยถ้าใครจะมาส่งลูกบ้านส่วนพักอาศัยก็จะ Drop Area บริเวณนี้ได้เลย ส่วนของลูกบ้านเวลาจะใช้ห้างศูนย์การค้า ก็สามารถเดินเข้าจากประตูด้านหลังได้สบายๆ ไม่ต้องออกไปเดินเลาะริมถนนในโครงการ

การเดินรถภายในโครงการ ไม่ว่าใครจะมาใช้ศูนย์การค้า โรงแรม และเรสซิเดนซ์ก็จะต้องวันเวย์ทางเดียวมาแบบนี้ก่อนนะครับ

และพอมาถึงใกล้ๆโค้งสุดท้ายก่อนทางออก จะมีส่วนทางเข้าในอาคารไปในที่จอดรถด้านใน จะเป็นแลมป์เนินทางลงไปจอดใต้ดินนะ (ส่วนทางเข้าออกใส่ลูกศรบอกเอาไว้ให้แล้ว)

โดยส่วนของเรสซิเดนซ์ จะมีการหันหน้าอาคารออกรับวิวสองฝั่งเท่านั้นคือ ตะวันออกและตะวันตกครับ

Tips : ทิศทางลมของประเทศไทยส่วนใหญ่ ลมจะมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนในหน้าหนาวลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ


Information Zone : Plaza ชั้น B1, 1F – 3F 

มาดูในส่วนของโซนศูนย์การค้ากันบ้าง โดยการออกแบบหน้าตาอาคารทั้งภายนอกและภายใน จะเป็นแบบ Modern Contemporary ที่แฝงรายละเอียดของ Chinese Elements ลงไปด้วย เนื่องจากนี่เราอยู่ในพื้นที่เมืองเก่าที่เป็นไชน่าทาวน์ของประเทศไทย เลยต้องการให้มีความสอดคล้องกับลักษณะสภาพแวดล้อม สะท้อนบริบทชุมชนในย่านถนนเยาวราชและถนนเจริญกรุง ยกตัวอย่างเช่น รูปทรงหลังคาโค้งแบบจีนแบบดั้งเดิมนํามาลดทอนรายละเอียดลงจนเป็นเส้นโค้งที่เรียบง่ายและทันสมัย

ประกอบกับการนํากระเบื้องดินเผามุงหลังคาแบบจีน มาจัดวางใหม่ในรูปแบบของระนาบผนังมีมิติของการซ้อนทับชัดลึกตื้นไม่เท่ากัน นํามาปรับใช้กับผิวอาคาร(Façade) ตลอดจนการนําเส้นสายประตูบานเฟี้ยมจีนมาใช้เป็นแผงกันแดดในส่วนของห้องพักโรงแรม

ตัวศูนย์การค้า ในย่านนี้ก็ถือว่ามีไม่มากนะ อย่าง ดิโอลด์สยามพลาซ่า ก็ได้ข่าวว่าใกล้จะหมดสัญญาเช่าในเร็วๆนี้แล้วด้วย ไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไงต่ออีก ทาง Developer เค้าก็เล็งเห็นว่าในย่านนี้ควรมี Plaza Community Mall ที่ทันสมัยขึ้นมารองรับกลุ่มคนในพื้นที่หรือนั่งท่องเที่ยวเพิ่มอีกบ้าง โดยมีการดึงแบรนด์ใหญ่หลายส่วนมาจับดีลได้แล้ว เดี๋ยวจะค่อยๆบอกว่ามีอะไรบ้างในรูปถัดๆไปนะ

Basement Floor : ในส่วนของพื้นที่ Shop ห้องเล็กๆก็จะมีการปล่อยเช้า ซึ่งหลักๆจะให้เป็นหมวดของของฝาก อาหารที่อยู่ในแพ็คเกจหิ้วกลับบ้านอะไรพวกนี้ครับ แต่ก็จะมีแบรนด์หลักๆที่ดีลมาเรียบร้อยแล้ว อาทิเช่น B1-1 (เป็น 7-Eleven ขนาดใหญ่ทีเดียว), B1-18-20 (เป็น Kingkong ยากินิกุ บุฟเฟ่ต์) และก็มี Cafe Amazon อยู่ที่ชั้นนี้ด้วยเป็นต้น

Ground Floor : จะเป็นส่วนของร้านอาหารและ Cafe เป็นหลักเลยครับ โดยร้านที่ดีลมาเรียบร้อยแล้ว อาทิเช่น F1-3 (Starbucks Coffee), Coco, Louisa, แว่นท็อปเจริญ ส่วนร้านอื่นๆอีกเกินครึ่งมีคนจองแล้วนะครับ

2nd Floor : ชั้นนี้จะเป็นแหล่งที่รวมของจาก Shop ทั่วๆไป แต่จะมีพวกส่วนบริการอย่างธนาคาร ศูนย์บริการเครือข่ายโทรศัพท์ค่ายต่างๆ มีร้าน Daiso อยู่ด้วย

3rd Floor : “สวรรค์ของนักชิม” หรือเป็นชั้น Food Court นั่นเองครับ โดยพื้นที่ Retail ขนาดใหญ่รอบๆจะเป็นร้านแบรนด์นะครับ อาทิเช่น MK Restaurants, Yayoi, BBQ Plaza (พวกนี้ดีลหมดแล้วนะครับ) ส่วนพื้นที่ตรงกลางจะเป็นคอร์ทร้านอาหารเล็กๆที่รวบรวมร้านต่างๆเอาไว้ให้และมีที่นั่งกว่า 100 ที่นั่ง

Image 1/12
Retail_Basement Toilet(1)

Retail_Basement Toilet(1)

ภาพจำลองบรรยากาศภายในส่วนต่างๆของพื้นที่ศูนย์การค้า Retail นะครับ ก็ลองดูๆกัน ส่วนใครที่สนใจเช่าพื้นที่ในนี้ก็ลองสอบถามรายละเอียดที่เซลล์โครงการดู ผมลองถามคร่าวราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาท/เดือน และเป็นสัญญาขั้นต่ำ 1 ปี ต่อสัญญาปีต่อปีครับผม


Information Zone : Hotel Holiday Inn Express ชั้น 4F – 8F

หลายท่านคงคุ้นกับแบรนด์ของ Holiday Inn กันดีอยู่แล้วครับ ในกรุงเทพก็มีอยู่หลายแห่งเลย เช่นที่สีลม หรือที่ซอยสุขุมวิท 22 สำหรับแบรนด์ Express นั้น ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการหาที่พักที่ราคาไม่สูงมากนักแต่ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับที่โอเคครับ รวมไปถึงจุดเด่นของแบรนด์ Express คือเน้นโลเคชั่นที่ตั้งจะต้องเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก (จะเห็นว่าทุกโซนอยู่ในแหล่งธุรกิจ หรือท่องเที่ยวและใกล้รถไฟฟ้า)

ความต่างของแบรนด์ Holiday Inn กับ Holiday Inn Express | ซึ่ง Holiday Inn ธรรมดา เป็น Full Service ระดับ 4 ดาว ในขณะที่ Express เป็นคุม Budget ลงมาหน่อย(3 ดาว) ซึ่งขนาดของห้อง, อาหารเช้า และ Facilities จะต่างกันโดยจะได้คววามคุ้มค่าในเรื่องของราคาพักที่ลดลง และส่วนใหญ่ Target ลูกค้าจริงๆของ Express จะเป็นนักท่องเที่ยวซะส่วนใหญ่ครับ


Holiday Inn Express ไชน่าทาวน์ ที่นี่มีห้องพักจำนวนทั้งหมด 224 ห้อง ที่ทันสมัยพร้อมได้ทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองเก่า เป็นย่านที่มีวิถีชุมชน เป็นเอกลักษณ์และเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมถึงแหล่งสตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศไทย ติดรถไฟฟ้าใต้ดินวัดมังกรเหมาะกับนักเดินทาง ในราคาประหยัดและไม่ยุ่งยากมีบริการอาหารมื้อเช้า หรือ Grab & Go มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี (Wi-Fi) ทั่วทั้งโรงแรม พร้อมทั้งศูนย์ออกกําลังกายที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า ห้องซักรีด และห้องประชุม โดยราคาห้องพักจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท/วัน


Information Zone : Residence คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 46 ยูนิต

ผมยังไม่ได้พูดถึง Developer ที่พัฒนาโครงการนี้เลย Grand Uniland เป็นบริษัทขนาดกลางที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาก่อนนะครับ ไม่ใช่หน้าใหม่หัดทำนะฮะ เค้าทำมาแล้วเกือบๆ 30 ปี ตัวอย่างผลง่านที่มาผ่านมาก็เช่น โครงการบ้านนวลจันทร์, โครงการอิมพีเรียล พาร์ค สุขุมวิท และสวนหลวงร.9, โครงการอิมพีเรียล ลากูนา, โครงการโอเชี่ยน ปาล์ม ภูเก็ต, รวมถึงศูนย์การค้าอย่าง One@Bobae และ I’m Park สามย่าน เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยผ่านตาชื่อโปรเจคเหล่านี้กันอยู่บ้าง

ดีไซน์หน้าตาของตัวอาคารก็จะมีคอนเซปท์เดียวกับตัวอาคารด้านหน้าที่กล่าวไปแล้ว จริงๆก็จะดูเป็น Modern Chinese หน่อย แต่ยังเน้นความเรียบๆให้ดูไม่หวือหวาจนเกินไป  เรสซิเดนซ์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 46 ยูนิต (สัญญาเช่าระยะ 30 ปี)

ความน่าสนใจจริงๆน่าจะไม่ได้อยู่ที่หน้าตาและส่วนกลางสำหรับโครงการนี้ ต้องบอกว่าในพื้นที่เจริญกรุง-เยาวราช นั้นแทบไม่มีโครงการคอนโดเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้ ไร้คู่แข่งและตัวเทียบใดๆเลย เพราะที่ดินแถวย่านเมืองเก่านี้ทำเลทองมากๆครับ ผู้พัฒนาเค้าเช่าที่ดินมาได้ 30 ปี ถึงเกิดโปรเจคนี้ขึ้นมาเป็น Leasehold ให้เราๆยุค GenY (รึเปล่า? 555) ได้เห็นของแปลกกันบ้างครับ

Ground Plan : ชั้นล่างสุด นอกจาก Lobby ที่อยู่ส่วนติดด้านหน้าถนนในโครงการแล้ว จะเห็นว่ามีลิฟต์โดยสารตัวเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นอัตราส่วนก็คือ 46:1 สบายครับเหลือเฟือรอแปปเดียว แต่ในส่วนอื่นๆทั้งในอาคาร และนอกอาคารอีกเล็กน้อยจะปล่อยเช่าเป็น Retail ทั้งหมด (เรียกว่าคุ้มจริงๆ) ตอนนี้ที่ทราบมาก็ดีลร้าน WASH ME มาได้แล้ว ที่เหลือยังไม่แน่ชัด และส่วนด้านท้ายโครงการทางทิศเหนือจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียวสวนหย่อมเล็กๆเอาไว้ให้

2nd Floor : ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยเริ่มต้นแล้ว แต่มีเพียง 3 Unit เท่านั้น อีกทั้งโถงทางเดินยังเป็น Single Corridor (โถงทางเดินเดี่ยว) ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง (โดยห้องในชั้นนี้จะเป็นแบบ Type A 20.50 ตร.ม.)

3rd Floor : ชั้นนี้แปลนเหมือนกับชั้น 2 เป๊ะเลยครับ โดยพื้นที่โล่งๆจะเป็น Void (ช่อง) ต่อเนื่องมาจากชั้น 2

4-8th Floor : ทั้ง 5 ชั้นนี้เป็น Typical Floor Plan คือส่วนห้องพักเต็มจำนวนแล้วครับ โดยจะมีเพียงแค่ 8 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น และจะเห็นว่าห้อง Type B (24.75 ตร.ม.) มีเพียงแค่ชั้นละห้องเท่านั้น(โครงการแจ้งว่าแบบนี้ sold out แล้วด้วย) โดยช่องแสงจะมีแค่จุดเดียวปลายอาคารด้านหน้า และมีบันไดหนีไฟ 2 ส่วน และห้องพักของที่นี่หันออกแค่สองฝั่งคือตะวันออกและตะวันตกครับ

ในส่วนของตัวเรสซิเดนซ์ คอนโด ภาพนี้ผมถ่ายจากบริเวณที่จอดรถบ้านร่มไม้ สอบถามเซลล์แจ้งว่าก่อสร้างเฉพาะส่วนโครงสร้างไปได้กว่า 80% แล้วจ้า

ขอขอบคุณภาพประกอบด้วยนะคร้าบ Credit ในรูปเลย

ประเด็นอีกอย่างที่น่าสนใจ ! (ที่จอดรถ Car Parking)

ถ้าใครอยู่ในย่านเจริญกรุง-เยาวราช คลองถม วรจักร เสือป่า โซนไพร์มแอเรีย ที่เป็นทำเลเมืองเก่าในด้านค้าขายและร้านอาหารเฉพาะ จะรู้ๆกันอยู่ว่า ปัญหาของคนในย่านนี้คือเรื่อง “ที่จอดรถ” เป็นปัญหาโลกแตกที่คนในย่านนี้ยังคงมี Demand มากกว่า Supply ไม่เคยเปลี่ยน จากในรูปประกอบจะเห็นว่า ในพื้นที่เยาวราชจะมีอยู่หลายจุดทำเป็นอาคารจอดรถแบบจริงจังเลยทีเดียว แต่ราคาก็ไม่ธรรดาเช่นกัน…

ผมเลยไปสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องที่จอดรถในโครงการ ส่วนเรสซิเดนซ์ล่ะเป็นยังไง ก็ได้มาตามนี้นะครับ ซึ่งแน่นอนถ้าคนเยาวราช Walk In เข้ามา ต้องถามเรื่องนี้ก่อนและหยิบเครื่องคิดเลขมาแน่นอน มาลองคิดเล่นๆกัน ถ้าเป็นผมอยู่ในย่านนี้ ผมเลือกซื้อคอนโดนี้ ผมต้องเอาแพ็คเกจที่จอดแบบเหมารายเดือนให้ครบ 3,500 บาท/เดือน (ราคาคอนโดอยู่ที่ 3.15 – 3.4 ลบ.) (เอาล่ะไปลองคิดตามกันดูว่า 1 ปีจ่ายเท่าไร และถ้าเราเลือกครบ 30 ปีเต็มจ่ายเท่าไร ทีนี้ก็ไปดูรูปต่อไปครับ)

จากที่ผม Search ข้อมูลส่วนตัว ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ ผมเจออาคารที่จอดรถมากมาย โดยส่วนใหญ่คิดเป็นชม.ละตั้งแต่ 20 ไปถึง 50 บาท/ชม. (แต่ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่มันเป็นราคารายชั่วโมงกับรายวันน่ะสิ) ทีนี้ๆๆ! ผมหาข้อมูลอาคารหรือพื้นที่ลานจอดที่ปล่อยให้เช่าแบบรายปีไม่ได้เลย(มันต้องมีบ้างแหละนะ แต่ผมหาไม่เจอจริงๆ เพื่อนๆพี่ๆคนไหนอยู่ในย่านนี้ช่วยมาเมนท์แชร์บอกกันทีนะครับ ว่าอยู่เรทประมาณเท่าไร) เอาจริงๆผมว่าประเด็นเรื่องที่จอดรถ ทำให้ส่วนของเรสซิเดนท์กลายเป็นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ก็ลองพิจารณากันดูนะครับ


Product Walkthrough

ในโครงการนี้มีห้องแค่ 2 แบบเท่านั้นนะครับ คือ Studio ทั้งคู่ ขนาด 20.50 ตร.ม. และ 24.75 ตร.ม. และเนื่องจากโครงการนี้ไม่ได้มีห้องทำห้องตัวอย่างนะครับ เพราะฉะนั้นก็เลยจะลงพวกรายการวัสดุในห้องให้ดูด้านล่างอย่างละเอียดหน่อย / ตัวโครงการจะขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ Built-In และลอยตัว แต่จะไม่ได้ Hob&Hood และกระจกฉากกั้นอาบน้ำครับ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร

มาดูแปลนห้อง Type A กัน 20.50 ตร.ม. โดยเปิดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ครัวก่อนนะครับ ตรงข้ามก็จะเป็นห้องน้ำพอดีเป๊ะเลย ตำแหน่งทั้งคู่จะอยู่ชิดกับด้านในอาคาร จริงๆตรงครัวสามารถกั้นพื้นที่ครัวปิดเพิ่มเองได้ด้วยนะไม่ยากเลยจะทำให้ห้องกลายเป็น 1 Bedroom แบบดัดแปลงได้  ถัดเข้าไปด้านในเป็น เนื่องจากเป็นห้องสตูฯที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ฟังก์ชันที่เหลือก็จะมาอยู่พื้นที่นี้หมด โดดยมีทั้งโซฟา เตียง ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี และมีระเบียงอยู่ในตัว ขนาดแค่พอยืนออกไปสูดอากาศ จะเห็นว่าตำแหน่งดูทีวีจะอยู่กึ่งกลางระหว่างโซฟากับเตียง อาจจะต้องหันทีวีเอาเวลาจะนั่งหรือนอนดูครับ

รายการเฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน / Furniture List (Type A) ยี่ห้อ Index

  • ชุดครัว Built-in พร้อมอ่างล้างจาน
  • ตู้เสื้อผ้า Built-in 1 ตู้
  • โซฟายาว 1 ตัว
  • โต๊ะกลาง 1 ตัว
  • ฐานเตียง 1 ตัว
  • ชั้นวางโทรทัศน์ 1 ตัว
  • เครื่องปรับอากาศ Daikin หรือเทียบเท่า 1 เครื่อง (ขนาดตามรายการคำนวณ)


Type B ขนาด 24.75 ตร.ม. (แบบนี้มีแค่ 5 ห้องในโครงการและขายหมดแล้วนะครับ) แต่มาดูฟังก์ชันกันสักหน่อย ห้องนี้เปิดมาจะเจอกับ Commond Area(หรือโถงรวมก่อน) โดยเข้ามาจะเจอกับตู้เก็บรองเท้าซ้ายมือ ด้วยพื้นที่ที่ฟิคหน่อยทำให้ตู้เสื้อผ้ามาอยู่ทางขวามือทางเข้าเลย ถัดมาเป็นโซนโซฟานั่งเล่น ห้องนี้ดูทีวีปกติละครับ และส่วนชิดกับผนังด้านนอกที่ได้ช่องแสงจะเป็นมุมวางเตียงครับ ได้รับแสงธรรมชาติ

พื้นที่ทางขวามือ 1/3 ของห้องจัดเป็นพวกฟังก์ชันครัวและห้องน้ำ โดยจะได้เป็นครัวปิด ที่ติดกันด้านนอกเป็นระเบียง มาช่วยให้เวลาทำครัวระบายกลิ่นได้ดี และแสงจากระเบียงก็ส่องผ่านมาได้ในครัวและห้องน้ำเวลาเปิดประตูช่วยระบายความชื้นออก ในห้องน้ำฟังก์ชันครบมาตรฐาน แยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกอาบน้ำเอาไว้ครับ

รายละเอียดวัสดุอุปกรณ์ของห้องชุด/ Material Specification for each unit

  • พื้น (Floor finishing)

  • พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่น – พื้นกระเบื้องยางลายไม้ หรือเทียบเท่า
  • พื้นห้องครัว – พื้นกระเบื้องแกรนิตโต หรือเทียบเท่า
  • พื้นห้องน้ำและระเบียง – พื้นกระเบื้องเซรามิค หรือเทียบเท่า

  • ผนัง (Wall finishing)
    • ผนังกั้นระหว่างห้องและในห้อง – ก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูนเรียบ ทาสี
    • ผนังห้องน้ำ – ก่ออิฐมอญ กรุกระเบื้องเซรามิก หรือเทียบเท่า

  • ฝ้าเพดาน (Ceiling)
    • ฝ้าภายในทั่วไป – ฝ้าเพดานยิปซัมบอร์ด ฉาบปูนเรียบ ทาสี
    • ฝ้าภายในห้องน้ำ – ฝ้าเพดานยิปซัมบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบปูนเรียบ ทาสี
    • ฝ้าระเบียง – ท้องพื้นโครงสร้าง แต่งผิว SKIM COAT

  • สุขภัณฑ์ (Sanitary Ware)
    • อ่างล้างหน้า,ก๊อกน้ำ,ฝักบัว – ผลิตภัณฑ์คอตโต้ หรือเทียบเท่า

  • ประตูหน้าต่าง (Door and Window)
    • ประตูทางเข้า และห้องน้ำ – วงกบไม้เนื้อแข็ง, บานประตู HDF
    • มือจับประตูทางเข้า และห้องน้ำ – มือจับประตูแบบก้านโยก สเตนเลส
    •  ประตูระเบียง – บานอลูมิเนียมทำสี พร้อมกระจก หรือเทียบเท่า
    • หน้าต่าง – บานอลูมิเนียม พร้อมกระจกเขียวตัดแสง หรือเทียบเท่า
    • ราวระเบียงกันตก – ราวระเบียงกันตกเหล็กทาสีน้ำมัน
    • ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง – โคมไฟแสงสว่างแบบกดาวน์ไลท์หลอดแอลอีดี
    • ระบบไฟฟ้า – มาตรฐานปลั๊กไฟฟ้าคู่ และตู้วงจรไฟฟ้าหลัก
    • โทรทัศน์และสัญญาณเคเบิลทีวี – ระบบสัญญาณอากาศโทรทัศน์

     


    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 June 2018

    • Studio Type A ขนาด 20.50 ตร.ม. ช่วงราคาประมาณ 3.15 – 3.4 ล้านบาท
    • Studio Type B ขนาด 24.75 ตร.ม. ราคาประมาณ 4 ล้านบาท (Sold Out)

    • Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ Built-In และลอยตัว) (แอร์ 1 ตัว)
    • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
    • จอง, ทำสัญญา (สอบถามเจ้าหน้าที่โครงการ)
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    ความคิดเห็นเสริมส่วนท้าย

    I’m Chinatown (แอม ไชน่าทาวน์) โซนเรสซิเดนซ์ คอนโดเป็นโครงการสำหรับ “เช่า” ไม่ใช่โครงการสำหรับ “ซื้อ” ดังนั้นการคิดเปรียบเทียบจะต้องคิดเพิ่มมูลค่าเข้าไปอีก 30-40% (ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขสมมุติว่าทางผู้อ่านแคร์เรื่องสิทธิการเป็นเจ้าของมากขนาดไหน ถ้าแคร์มากก็ควรใช้ 40% แต่ถ้าแคร์น้อย ใช้แค่ 30% ก็น่าจะพอ) ทั้งนี้จะต้องปรับฐานราคาเพื่อให้สามารถเปรียบเทียบกับโครงการอื่นได้ เช่น ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 100,000 บาท พอคูณเพิ่มเข้าไป 30% แล้วจะได้แถวๆ 130,000 – 140,000 บาท/ตารางเมตร เป็นต้น

    แต่อย่างว่าที่บอกไปแล้วในรีวิว โครงการนี้แทบไม่มีตัวเลือกในการเปรียบเทียบและคู่แข่งใดๆเลย ในย่านเฉพาะสุดๆ(เมืองเก่า)แบบนี้ ทำให้การตัดสินใจซื้อโครงการในลักษณะนี้ กลุ่มคนที่สนใจจะซื้อจะ Unique มากเช่นกัน เพราะถึงแม้แทบจะไม่มี Facility ในโครงการให้ใช้เลย แต่ก็ทดแทนด้วยทำเลทอง และมีห้างส่วนตัวอยู่ด้านหน้า อยู่ย่านกินดื่ม สตรีทฟู๊ดชื่อดัง ค้าขาย ท่องเที่ยว และเป็นที่ต้องการเรื่องที่จอดรถอย่างมาก ทำให้มีปัจจัยมากมายและชี้วัดความคุ้มค่าของเงินในกระเป๋าเหมือนกับโครงการทั่วๆไปปกติไม่ได้

     

    Judgement

    เนื่องจากการรีวิวนี้เป็นการรีวิวภาพรวมทั้งโครงการของ I’m Chinatown ที่เป็นรูปแบบ Mixed-Use 3 ส่วน ศูนย์การค้าโรงแรม และเรสซิเดนซ์ อีกทั้งส่วนของเรสซิเดนซ์คิดเป็นส่วนน้อยของพื้นที่โครงการมาก หลายจุดต้องใช้ร่วมกับพื้นที่อาคารหลักด้านหน้า บวกกับพื้นที่นี้เป็นโซนเมืองเก่าเป็นทำเลเฉพาะมากที่สุดแห่งนึงในกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ ซึ่งทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะครับ เพราะเป็นสินค้าประเภท Unique และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดเฉพาะแบบนี้ ไม่ตัดสินง่ายๆด้วยคะแนนแน่นอน

     

    BOTTOM LINE

    I’m Chinatown (Residence) เหมาะกับกลุ่มคนเฉพาะที่อาศัยค้าขายอยู่ในย่าน เจริญกรุง-เยาวราช-วรจักร-คลองถม-เสือป่า ที่หาที่อยู่อาศัยเสริมถึงแม้เป็นสิทธิครอบครองแบบ Freehold ก็ตาม(เพราะย่านนี้ไม่มีคนทำรูปแบบโครงการเลย) เน้นเรื่องของความเป็นทำเลที่เฉพาะมากๆ แถมใกล้ๆรถไฟฟ้า มีแหล่งอำนวยความสะดวกอยู่รายล้อมระยะเดิน และแถมยังได้เรื่องความคุ้มค่าของที่จอดรถเป็นของแถมด้วย