รีวิวฉบับที่ 1269 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชม The Gentry Sukhumvit บ้าน 3 ชั้นสไตล์ Brooklyn แบรนด์ใหม่ของ SC ที่ออกแบบให้ตัวบ้านดูทันสมัยและทำเลอยู่ใกล้เมืองชั้นในมากขึ้น ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101 หรือที่เรียกกันว่า ซอย ปุณณวิถี เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก ใกล้ทางด่วน อยู่ห่างจาก BTS ปุณณวิถีประมาณ 1.5 กม. มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 302 – 465 ตร.ม. ด้วยราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท ไปชมกันค่ะ 

Fact @ 19 January 2017

  • The Gentry Sukhumvit (เดอะ เจนทริ สุขุมวิท)
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • SUPERLUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขตพระโขนง
  • เนื้อที่โครงการ 16-0-53 ไร่ จำนวน 57 ยูนิต (บ้านแฝด 8 หลัง บ้านเดี่ยว 49 หลัง)
  • Queens ที่ดิน 46.5 – 48.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท (ราคาเริ่มต้น 18.9 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • Brooklyn ที่ดิน 53.6 – 74.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท (ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • Manhattan ที่ดิน 63.1 – 105.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 34.5 ล้านบาท  (ราคาเริ่มต้น 28.9 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • Manhattan Elite ที่ดิน 74.2 – 86.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 465 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 42.1 ล้านบาท  (ราคาเริ่มต้น 33.9 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • เพดานชั้น 1 สูง 3 เมตร, ชั้น 2-3 สูง 2.8 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท (บ้านแฝด) (ราคาเริ่มต้น 18.9 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 300,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : 2559
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : 2563
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1749

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.692076, 100.622698

the-gentry-%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97_map%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%a5

The Gentry Sukhumvit  ตั้งอยู่ท้ายซอยสุขุมวิท 101 หรือซอยปุณณวิถี ห่างจาก BTS สถานีปุณณวิถีประมาณ 1.5 กม. ทำเลนี้ถือว่าค่อนข้างสะดวกในการเดินทางทั้งไม่ใช้รถและใช้รถ การเดินทางโดยใช้รถยนต์สามารถใช้เส้นทางจากในซอยสุขุมวิท101ไปเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท101/1 หรือซอยวชิรธรรมสาธิต เพื่อไปออกถนนอ่อนนุชและถนนศรีนครินทร์ได้ หน้าปากซอยเป็นถนนสุขุมวิท โครงการเราจะอยู่ทางสุขุมวิทขาออก ซึ่งถ้าตรงไปเรื่อยๆจะสามารถเลี้ยวเข้าบางนา-ตราดหรือตรงไปสมุทรปราการได้ ถ้าใครอยากเดินทางเข้าเมือง พอออกมาจากซอยปุณณวิถีก็ให้ไปกลับรถหรือลัดมาออกทางซอยวชิรธรรมสาธิตซึ่งเราจะสามารถเลี้ยวขวาเข้าฝั่งที่มุ่งหน้าเข้าเมืองได้เลย การอยู่ในทำเลที่มีเส้นทางลัดเยอะถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีในการเดินทางซึ่งหลักๆแล้วเราสามารถใช้ถนนสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) และถนนสุขุมวิท 101/1(วชิรธรรมสาธิต) เป็นเส้นทางไปทะลุออกถนนเส้นต่างๆได้เช่น

  • หากต้องการไปถนนศรีนครินทร์ จากโครงการสามารถใช้ถนนสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) แล้วเข้าซอยปุณณวิถี  28 หรือ 30 วิ่งไปออกซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ไปทะลุซอยย่อยที่มีให้เลือกใช้ได้หลายซอย เช่น ซอยวชิรธรรมสาธิต 26, ซอยอุดมสุข 29 หรือซอยประวิทย์และเพื่อนเพื่อไปทะลุถนนอุดมสุข และเลี้ยวซ้ายตรงไปผ่านแยกศรีอุดม เพื่อเข้าถนนศรีนครินทร์ได้
  • หากต้องการไปอ่อนนุช สามารถใช้ทางลัดเข้าทางถนนสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) แล้วไปทะลุซอยอ่อนนุช 46 เพื่อเข้าถนนสุขุมวิท  77 หรืออ่อนนุชได้ ซึ่งเส้นทางนี้จะช่วยเลี่ยงรถติดสำหรับใครที่ต้องการใช้ไปเส้นบางกะปิ พัฒนาการ รามคำแหง ลาดกระบังค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็สามารถเรียกรถสาธารณะต่างๆเช่นแท็กซี่ได้สะดวกเพราะโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก มี BTS สถานีปุณณวิถีอยู่บริเวณหน้าปากซอย และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง บนถนนศรีนครินทร์มาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางด้วย

อย่างที่บอกไปว่าในย่านนี้จะมีซอยที่สำคัญๆอยู่ 2 ซอยคือ ซอยสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) กับ ซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ซึ่งซอยสุขุมวิท 101/1 นั้นมีความสำคัญตรงที่สามารถลัดไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ สามารถใช้เส้นทางไปห้าง Seacon Square, Paradise Park , สวนหลวงร. 9 และยังมีทางลัดไปเส้นอ่อนนุชได้อีก ซอยนี้จึงมีความคึกคักพอสมควร มีโครงการคอนโดมาขึ้นเยอะส่วนซอยสุขุมวิท 101 นั้นเป็นซอยตันไม่ได้มีความคึกคักเท่ากับซอยสุขุมวิท 101/1 แต่ก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ แหล่งช้อปปิ้งรอบโครงการ ถ้าเป็นห้างใหญ่ๆจะต้องไปบนเส้นบางนากับศรีนครินทร์ บนเส้นบางนาใกล้สุดจะเป็น เซ็นทรัล กับ Big C ไกลไปอีกหน่อยก็ Mega บางนา

สถานที่สำคัญอื่นๆจะมีอาคารสำนักงานอย่างอาคารสามัคคีเภสัช, ตึกแฟนทรี 1,2,3 และ 4 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและศูนย์มัลติเพล็กซ์ขนาดใหญ่ของ DKSH  และใกล้ๆกันยังมีสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 3 ซึ่งอาคารสำนักงานเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีพนักงานรวมแล้วหลายพันคนซึ่งต้องการทั้งที่อยู่อาศัย มีโรงเรียนนานาชาติอย่าง รร.Anglo Singapore และ รร. Berkeley ทำให้แถวนี้มีเด็กและผู้ปกครองค่อนข้างเยอะ ความอุดมสมบูรณ์ในแง่อาหารการกินและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตทำเลแถวนี้ถือว่าใช้ได้ ปัจจุบันมีคอนโดอยู่บนถนนใหญ่ และตามซอยย่อยมากมายเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัย ส่วนตลาดบ้านระดับหรูสไตล์โมเดิร์นยังไม่ค่อยมีให้เห็นในย่านนี้

ข้อดีของทำเลนี้อีกอย่างคืออยู่ไม่ไกลจากทางด่วน ที่ใกล้ที่สุดคือ “ทางด่วนเฉลิมมหานคร” อยู่บริเวณซอย สุขุมวิท62  ทางด่วนนี้สามารถเข้าเมืองไปได้ 2 เส้นทางได้แก่ เส้นทางแรกไปทางตะวันตก เพื่อไปย่านพระราม 3, พระราม 4, สีลม, สาทร และอีกเส้นทางหนึ่งคือทางทิศเหนือ เพื่อไปย่านรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ การเข้าถึงโครงการถ้าเราใช้ทางด่วนสามารถลงแล้วเลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิทแล้วเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท101(ปุณณวิถี)ได้เลย ระยะทางจนถึงโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร ในทางกลับกันถ้าจะขึ้นทางด่วนพอเราออกจากซอยมาต้องไปหาที่กลับรถ หรือ ใช้เส้นทางมาออกซอยสุขุมวิท101/1 (วชิรธรรมสาธิต)ซึ่งสามารถเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางซอยสุขุมวิท62เพื่อขึ้นทางด่วนได้เลยโดยไม่ต้องไปกลับรถ

การเดินทางในวันนี้เราใช้ทางด่วนมาลงที่ซอยสุขุมวิท62 วิ่งตรงมาจนถึงแยก เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท ตรงต่อมาอีกเพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท101 (ปุณณวิถี) จากนั้นตรงเข้ามาเรื่อยๆตามทางจนถึงบริเวณท้ายซอย ข้ามสะพานก็จะถึงที่ตั้งของโครงการค่ะ

พอเราลงทางด่วนซอยสุขุมวิท62 ก็วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกนี้ค่ะ จากนั้นเราจะเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางบางนา

ขับตรงมาจะเจอโซนที่มีอาคารสำนักงานอย่างอาคารสามัคคีเภสัช, ตึกแฟนทรี 1,2,3 และ 4 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและศูนย์มัลติเพล็กซ์ขนาดใหญ่ของ DKSH  ใกล้ๆกันยังมีสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 3 อีกด้วย

ตรงต่อมาอีกหน่อยก็จะถึงซอยสุขุมวิท101 (ปุณณวิถี)ค่ะ บริเวณหน้าปากซอยจะมีภัตตาคาร ฮั่วเซ่งฮง และร้านกาแฟอยู่ สังเกตว่าจากบริเวณหน้าปากซอยเดินไป BTS ปุณณวิถีไม่ไกลเลย

หน้าปากซอยปุณณวิถีจะมีร้านฮั่วเซ่งฮง ร้านอาหารจีนเก่าแก่ มีบริการ Delivery ส่งถึงบ้านด้วยนะ

 ติดกับฮั่วเซ่งฮงเป็นร้านกาแฟ Mu-i  ขายกาแฟสด เครื่องดื่ม และเบเกอรี่

เราจะเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท101 หรือ ซอยปุณณวิถี จุดสังเกตคือหน้าปากซอยจะมีซุ้มประตูวัดธรรมมงคลอยู่

ช่วงต้นซอยมีพี่วินมอเตอร์ไซค์มาคอยให้บริการอยู่ ซอยนี้เป็นซอยตันไม่ได้มีความคึกคักเท่ากับซอยสุขุมวิท 101/1 แต่ก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ ถนนซอยเป็นแบบ 2 เลนค่ะ

ถัดเข้ามาสภาพแวดล้อมภายในซอยเป็นตึกแถวที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร สลับกับอพาร์ทเม้นท์ มีรถเข็นขายของอยู่ตลอดทาง

ถัดมาเข้ามาช่วงกลางซอยบรรยากาศคึกคักอย่างที่เห็น

ถัดเข้ามาเราจะเจอทางเข้าวัดธรรมมงคล วัดชื่อดังวัดหนึ่งในย่านนี้

ตรงเข้าไปในซอยอีกหน่อยเราจะเจอ 7-11 สาขานี้ค่อนข้างใหญ่ ข้างๆเป็นซอยปุณณวิถี28 ที่สามารถลัดไปซอยสุขุมวิท101/1 หรือ ซอยวชิรธรรมสาธิตได้ ซึ่งจะมีอยู่หลายซอยเหมือนกันที่สามารถใช้เป็นทางลัดได้

ตรงมาอีกหน่อยจะผ่านวัดราชินีแห่งสันติสุขและโรงเรียนพระเยซูกุมารวิทยา(Holy) โรงเรียนที่น้องๆใส่เสื้อสีชมพู กระโปรงสีเทา

ขับรถตามทางมาจนถึงบริเวณท้ายซอย จะเจอกับสะพานพอเราข้ามไปก็จะถึงโครงการค่ะ

พอเข้าสะพานมาก็จะถึงโครงการ The Gentry Sukhumvit แล้วค่ะ สังเกตได้จากรั้วด้านหน้าเป็นอิฐสีส้มๆ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

The Gentry Sukhumvit เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยปุณณวิถีช่วงท้ายซอย สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ และที่ดินเปล่า บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบเป็นส่วนตัว ทางเข้าออกมีอยู่ทางเดียวติดกับถนนซอยปุณณวิถี มีแต่ละด้านกับโครงการติดกับ

  • ทิศเหนือ – ฝั่งหน้าโครงการติดกับถนนซอยสุขุมวิท101 หรือ ซอยปุณณวิถี ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า

ทิศเหนือและทิศตะวันออก ฝั่งหน้าโครงการติดกับถนนซอยสุขุมวิท101 หรือ ซอยปุณณวิถี ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบสลับกับที่ดินเปล่า

ทางฝั่ง ทิศตะวันตกและทิศใต้ เป็นที่ดินเปล่าสลับกับบ้านพักอาศัยแนวราบ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS ปุณณวิถี ~ 1.7 กิโลเมตร
  • รร.นานาชาติ Anglo Singapore ~ 2.3 กิโลเมตร
  • ปิยะรมย์ สปอร์ตคลับ ~ 2.7 กิโลเมตร
  • Bangkok Mall ~ 3.8 กิโลเมตร
  • Central บางนา ~ 4.1 กิโลเมตร
  • รร.นานาชาติ Berkeley ~ 4.2 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 4.5 กิโลเมตร
  • BITEC บางนา ~ 5.1 กิโลเมตร
  • พาราไดซ์พาร์ค ~ 5.4 กิโลเมตร
  • ซีคอนสแควร์ ~ 5.7 กิโลเมตร
  • Gateway เอกมัย ~ 6.6 กิโลเมตร
  • MEGA บางนา ~ 11.9 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

The Gentry Sukhumvit เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้น จำนวน 57 ยูนิตประกอบด้วยบ้านแฝด 8 หลัง บ้านเดี่ยว 49 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16-0-53ไร่ ทางเข้า-ออกมีทางเดียวอยู่ติดกับถนนซอยสุขุมวิท101 (ปุณณวิถี) เข้ามาด้านในโครงการผ่านประตูทางเข้าหลักจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางก่อน ประกอบด้วยสวนหย่อมและสโมสรซึ่งด้านในจะมี Lobby สระว่ายน้ำ ห้องสมุด และ ฟิตเนส ข้อดีของการมีสโมสรอยู่ด้านหน้าคือสามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกได้ และทำให้พื้นที่ส่วนพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถัดเข้าไปด้านในโครงการจะมีสวนหย่อมขนาดประมาณ 1-0-96.8ไร่อยู่อีกจุดหนึ่ง ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 302 – 465 ตร.ม. วางตัวค่อนไปทางทิศเหนือ-ใต้ หันหน้าเข้าหากันล็อคละประมาณ 3-4 หลัง เป็นทิศที่ไม่ร้อนเพราะไม่ต้องรับแดดในตอนบ่าย นิติบุคคลอยู่ท้ายโครงการ

โครงการนี้ออกแบบในสไตล์ Brooklyn ที่ใช้การตกแต่งด้วย อิฐแดง ตัดกับ โครงเหล็กสีดำ ซุ้มประตูด้านหน้าแบ่งเป็นทางเข้าและทางออกแยกกันกั้นด้วยประตูเลื่อนอัตโนมัติที่ต้องผ่านด้วยระบบ Easy pass ส่วนผู้มาติดต่อจะมี รปภ. รับแลกบัตรก่อนถึงจะผ่านเข้าไปได้ค่ะ

ตรงกลางระหว่างประตูทางเข้า-ออกเป็นป้อมรปภ. ซึ่งบริเวณป้อมจะมีติดตั้ง CCTV สำหรับส่องหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถเพื่อความปลอดภัย

บริเวณด้านบนของซุ้มประตูดีไซน์โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสะพาน Brooklyn ที่ใช้โครงเหล็กสีดำมาตัดกันและมีติดตั้ง Lighting สำหรับตอนกลางคืน

เข้ามาด้านในโครงการทั้งสองข้างทางจะเป็นสวนหย่อม ถัดเข้าไปจะเจอกับ Clubhouse ที่ดีไซน์เป็นอาคารอิฐสีส้ม มีส่วนห้องที่เป็นโครงเหล็กและกระจกเข้ากับ Concept ของโครงการ ถนนทางเข้าบริเวณนี้กว้าง 16 เมตร

พื้นที่ใน Clubhouse ประกอบด้วยสวนหย่อม สระว่ายน้ำ ห้องสมุดและห้องน้ำอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็น ฟิตเนส และ Lobby อยู่ตรงส่วนที่เห็นเป็นกระจกที่ยื่นออกมาจากตัวอาคาร เดี๋ยวเราค่อยๆเดินไปดูในแต่ละส่วนกัน

ด้านหน้า Clubhouse เป็นสวนหย่อมเล่นระดับ มีการเลือกพรรณไม้ให้แตกต่างกันทั้งไม้พุ่ม และไม้ใหญ่ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูมีลูกเล่น ถัดเข้าไปด้านหลังซุ้มทรงโค้งจะเป็นสระว่ายน้ำ

บรรยากาศอีกมุมมองหนึ่งค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีบางส่วนเป็น Indoor สระผู้ใหญ่ขนาด 4.3 x 13.70 เมตร ส่วนสระเด็กอยู่ทางด้านขวามีขนาด 1.5 x 8 เมตร ข้างๆมีปลูกต้นไม้และกั้นระแนงบังสายตา ด้านในที่เห็นเป็นห้องกระจกนั่นคือห้องสมุดค่ะ

สระเด็กกั้นเป็นแนวยาวขนาด 1.5 x 8 เมตร อยู่ข้างๆสระผู้ใหญ่

สระว่ายน้ำมีส่วนที่อยู่ในร่ม กันแดดกันฝนได้  ภายในสระปูด้วยกระเบื้องโมเสคสีน้ำเงินเข้มตัดกับสีส้มของผนัง พื้นรอบๆสระบริเวณนี้ปูเป็นระแนงไม้เทียมทั้งหมดค่ะ

ผนังด้านข้างก่อเป็นซุ้มทรงโค้ง เป็นการดึงเอารายละเอียดของสไตล์มาลดทอนและมีการติดไฟส่องผนังเพื่อเพิ่มบรรยากาศด้วย บริเวณซุ้มจะมี Jacuzzi อยู่ 3 จุด

บริเวณซุ้มข้างๆสระมี Jacuzzi มาให้ค่ะ มานั่งแช่ตัวได้

ถัดจากสระว่ายน้ำไปเป็นห้องสมุด ส่วนห้องน้ำต้องเดินเข้าไปทางด้านหลัง

ห้องสมุดสำหรับใช้มานั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือ ใช้เป็นห้องที่พ่อแม่นั่งรอลูกๆเล่นน้ำ

ห้องน้ำการตกแต่งคล้ายๆกันทั้งห้องน้ำหญิงและชาย ผนังมีช่องแสงค่อนข้างเยอะทำให้บรรยากาศให้ห้องดูโปร่ง

อีกฝั่งเป็นห้องอาบน้ำ และ ห้องน้ำอยู่รวมกัน

บรรยากาศภายในห้องอาบน้ำและห้องน้ำค่ะ

เดินชั้นล่างครบแล้ว เราขึ้นไปดูกันต่อกันที่ชั้น 2  พอเดินออกมาจากบริเวณสระจะเห็นบันไดทางขึ้นทำเป็นเหล็กดัดสีดำ ซึ่งการตกแต่งพื้นที่ข้างบนก็จะใช้เหล็กหรืออะลูมิเนียมสีดำผสมกับอิฐสีส้มตาม Concept โครงการ

ทางขึ้นไปที่ชั้น 2 บริเวณนี้เห็นโครงเหล็กตัดกันสลับกับกระจก

พอขึ้นมาที่ชั้น 2 ฟิตเนสจะอยู่ด้านข้างโถงบันได ส่วนทางด้านซ้ายสุดมีทางที่พื้นวางด้วยตะแกรงเหล็ก ตรงส่วนนี้ฝั่งด้านหน้าอาคารจะเป็นหน้าต่างบานกระจก กรอบอะลูมิเนียมสีดำทั้งหมดจึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่ง

thegentrysukhumvit-15_2

บรรยากาศภายในฟิตเนสค่ะ วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 8 เครื่อง ห้องนี้มีช่องแสงอยู่รอบด้านสามารถเห็นวิวสวนด้านหน้าโครงการได้ โดยบานหน้าต่างดีไซน์ส่วนด้านบนเป็นทรงโค้งทำให้ห้องดูมีลูกเล่นมากขึ้น

ฝั่งตรงข้ามห้องฟิตเนสเป็นส่วนของ Lobby ค่ะ

บรรยากาศภายใน Lobby ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการอยู่ค่ะ

ฝั่งที่อยู่ด้านหน้าอาคาร ผนังจะเป็นหน้าต่างทั้งแนว ฝ้าเพดานบริเวณนี้ก็ค่อนข้างสูง ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่ง มาใช้พื้นที่พบปะพูดคุย นัดแขกมาคุยงาน หรือนั่งเล่นชิลๆรับลมชมวิวได้

บรรยากาศอีกมุมหนึ่งค่ะ มุมนี้จัดออกมาได้ดีทีเดียว

ถัดจาก Clubhouse เรามาดูต่อกันที่ส่วนบ้านพักอาศัย ถนนตรงนี้จะกว้าง 14 เมตร ถ้าถัดเข้าไปในซอยย่อยจะกว้าง 9-10 เมตรค่ะ

ตัวบ้านเป็นทรงโมเดิร์น วางเรียงกันล็อคละประมาณ 3-4 หลังหันหน้าเข้าหากันทั้งสองฝั่ง โครงการนี้จะไม่มีเสาไฟฟ้าให้รบกวนสายตา เพราะทางโครงการจะเอาสายไฟลงไว้ใต้ดินทั้งหมดค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคารสโมสร 2 ชั้น
  • ห้องสมุด
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 4.3 x 13.7 ลึก 1.2 ม.  สระเด็กขนาด 1.5 x 8 ลึก 0.5 ม.
  • Jacuzzi 3 จุด
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ 1-0-96.8 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 27 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Security Access แบบ Easy pass
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ ประตูอัตโนมัติ
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทั้งหลัง
  • Video Call phone
  • ถนนหลักกว้าง 14 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

 


Product Walkthrough

เรามาดูต่อกันที่ตัวบ้านค่ะ โครงการนี้มีทั้งหมด 4 แบบตั้งชื่อเขตในเมืองนิวยอร์กได้แก่ Queens , Brooklyn , Manhattan ส่วน Manhattan Elite แบบบ้านจะเหมือนกับ Manhattan ต่างกันแค่ตรงที่จอดรถ Manhattan Elite จอดได้ 4 คัน บ้านของแบรนด์นี้มีการปรับแบบให้ดูทันสมัยมากขึ้น เป็นสไตล์โมเดิร์นทั้งหมด มีการออกแบบฟอร์มให้มีการ Interlock กันทำให้ตัวบ้านมีมิติมากขึ้น ใช้โทนสีเทาและน้ำตาลอ่อนในการตกแต่ง รายละเอียดบ้านแต่ละแบบตามนี้ค่ะ

  • Queens ที่ดิน 46.5 – 48.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
  • Brooklyn ที่ดิน 53.6 – 74.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ร
  • Manhattan ที่ดิน 63.1 – 105.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
  • Manhattan Elite ที่ดิน 74.2 – 86.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 465 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน

สำหรับบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จและตกแต่งแล้ว มีให้ดูแบบเดียวคือ Manhattan ที่ดิน 63.1 – 105.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งเป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ออกแบบเป็นสไตล์โมเดิร์น เล่นกับรูปฟอร์มเรขาคณิตทรงสี่เหลี่ยมเอามาจัดองค์ประกอบ โครงสร้างของบ้านโครงการนี้เป็นแบบ Conventional หรือแบบเสาและคาน หลังคาเป็น Metal Sheet พร้อมฉนวนความร้อน PU Foam หนา 1 นิ้ว

แปลนชั้นล่างบ้านแบบ Manhattan พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. จอดรถได้ 3 คัน มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดเข้าบ้านจากบริเวณที่จอดรถได้เลย ถ้าเข้าบ้านมาจากประตูทางเข้าหลักที่อยู่ด้านหน้าจะเจอกับโถงก่อน ซึ่งจะเป็นพื้นที่แจกไปยังส่วนต่างๆ ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องรับแขกที่เป็น Double space ฝ้าเพดานสูง พื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับห้องอาหาร บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ถัดจากห้องอาหาร ติดๆกันกับโถงบันไดมีพื้นที่เฉลียงนอกบ้าน สามารถจัดเป็นสวนเพิ่มเติมได้ มีห้องเก็บของและห้องงานระบบอยู่บริเวณใต้บันได อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านเป็นห้องครัวปิด ห้องน้ำ และ ห้องนอนที่สามารถจัดเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุ ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานได้  หลังบ้านมีส่วน Service คือพื้นที่สำหรับซักล้างและทำเป็นครัวไทย มีห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านแยกทางเข้าต่างหากกับตัวบ้าน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงก่อน ซึ่งบริเวณโถงจะมีพื้นที่ Double space ขึ้นไปถึงชั้น 3 มีห้องซักรีดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง สามารถใช้ซักล้างหรือตากผ้าได้ ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับใช้พักผ่อนเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัว อีกฝั่งของตัวบ้านเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ทั้งหมด มีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่ Walk-in closet แบบ His&Her แยกเป็น 2 ส่วนมาให้

ชั้น 3 ขึ้นมาจะเจอกับโถงเช่นเดียวกัน เดินถัดเข้ามาจะเจอกับระเบียงขนาดใหญ่ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนได้ มีพื้นที่กั้นเป็นห้องพระมาให้ ชั้นนี้แบ่งห้องเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว เราไปชมบ้านของจริงกันค่ะ

เริ่มจากบริเวณหน้าบ้าน ประตูรั้วบ้านเป็นแบบรางเลื่อนโปร่ง วัสดุเป็นเหล็กสีดำ เลื่อนมาเก็บทางด้านข้างได้ตามภาพ บ้านแบบ Manhattan จจอดรถได้ 3  คัน ส่วน Manhattan Elite จะจอดได้ 4 คัน

ข้างรั้วมีประตูเล็กสำหรับใช้เปิดเข้าออกในกรณีที่ไม่อยากเลื่อนเปิดประตูรั้ว หน้าบ้านมีกริ่ง ไฟหน้าบ้าน และตู้จดหมายมาให้

บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน โครงสร้างเป็นแบบ Slab on beam วัสดุพื้นเป็นทรายล้าง บนฝ้าเพดานจะมีระบบ Motion Sensor ควบคุมการเปิดปิดของไฟบริเวณที่จอดรถ พอเราเอารถเข้ามาไฟก็จะติดเองค่ะ

มีประตูทางเข้าบ้านจากบริเวณที่จอดรถเป็นแบบบานเลื่อน เวลาถือของหนักๆมา ลงจากรถก็สามารถเอาของเข้าบ้านได้จากทางนี้เลย รอบๆตัวบ้านมีการติดกล้องวงจรปิดมาให้ 5 จุด คือบริเวณโถง บันไดทุกชั้น และที่จอดรถ ตามที่เราเห็นในภาพ ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆของบ้านจะสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ผ่านทาง Application

ระยะระหว่างตัวบ้านกับรั้วห่างหันประมาณนี้

ข้างบ้านมีพื้นที่สำหรับจัดสวนรอบๆค่ะ ส่วน Service ของแม่บ้านจะอยู่ทางหลังบ้าน

อ้อมมาอีกฝั่งหนึ่งจะมีพื้นที่สำหรับจัดสวนและออกมานั่งเล่นพักผ่อน แต่จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลงนะ

อ้อมมาดูทางฝั่งหน้าบ้าน มีการออกแบบโดยนำเอาฟอร์มรูปทรงสี่เหลี่ยมมาจัดองค์ประกอบกัน

ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานไม้สัก แบบบานเปิดคู่ ตัวบ้านยกสูงขึ้นจากระดับพื้นที่จอดรถมีบันไดขึ้นไป 3 ขั้น

มือจับประตูทองแดงรมดำ ข้างหนึ่งมีตัวล็อคอีกข้างทำหลอกให้ทั้ง 2 ข้างสมมาตรกัน ค่อนข้างแข็งแรง

เข้ามาในบ้านจะเจอกับโถงก่อน ซึ่งโถงนี้จะแจกไปยังส่วนต่างๆของตัวบ้าน พื้นที่ระหว่างผนังที่เป็นช่องโล่งๆสามารถ Built-in เพิ่มเติมเป็นตู้เก็บของ ตู้โชว์ หรือ ตู้วางรองเท้าได้ ฝั่งตรงข้ามเป็นประตูบานเลื่อนทางออกไปที่บริเวณที่จอดรถ ฝ้าเพดานฉาบเรียบสูง 3 เมตร ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับห้องอาหาร ครัว ห้องน้ำ และ ห้องนอนอยู่ทางฝั่งขวา พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้อง Cotto ltalia

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นหินทำลวยลายขาวสลับดำ พื้นมีการลดระดับลงเล็กน้อยจากพื้นภายในบ้านซึ่งจะสามารถกันฝุ่นจากนอกบ้านไม่ให้เข้ามาด้านในได้

ห้องรับแขกเป็นพื้นที่ Double space นอกจากฝ้าเพดานที่สูงแล้วยังมีช่องแสงจากหน้าต่าง ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งอีกด้วย สามารถนั่งชมวิวสวนภายนอกบ้านได้

ฝ้าเพดานบริเวณนี้สูงประมาณ 7 เมตร ด้านบนก็มีช่องแสงรับแสงจากภายนอกเข้ามาอีก การตกแต่งพื้นที่ฝ้าเพดานสูงสามารถเลือกหาโคมไฟ Chandelier มาติดเพิ่มเติมได้

ห้องอาหารจะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขก ในบ้านตัวอย่างจัดวางที่นั่งได้ประมาณ 8 ที่นั่ง

เทียบอีกมุมจะเห็นว่ามีบางส่วนที่บ้านตัวอย่าง Built-in เพิ่มเข้าไป เราใช้เป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้นะ บ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งให้เราจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้เอง พื้นที่บริเวณนี้มีช่องแสงค่อนข้างเยอะดังนั้นจึงดูโปร่งและโล่งแทบไม่ต้องเปิดไฟเวลากลางวันเลย แต่ถ้าร้อนก็ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านหลังระหว่างโถงบันไดและห้องครัวมีทางออกไปเฉลียงหลังบ้านและมีพื้นที่สำหรับจัดสวนได้

พื้นที่เฉลียงเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้านค่ะ ผนังมีประตูบานเลื่อนเต็มบานอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง นอกจากจะใช้เป็นทางออกไปบริเวณหลังบ้านแล้ว ยังทำให้พื้นที่บริเวณโถงบันไดสว่างขึ้นอีกด้วย

ถัดจากห้องอาหารไปอีกฝั่งของตัวบ้านเป็นทางไปครัว ห้องน้ำ และ ห้องนอน

ครัวในบ้านมาตรฐานจะกั้นเป็นครัวปิดมาให้แยกเป็นสัดส่วน ห้องถัดไปทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำ ห้องด้านหลังสุดคือห้องนอน ผนังบริเวณที่เป็นหัวมุมของห้องครัวเป็นหน้าต่างบานกระจกแบบเข้ามุม ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น สามารถแอบไปส่องความคืบหน้าในครัวได้ว่าวันนี้ทำกับข้าวอะไรบ้าง^^

มี VDO Door Phone ซึ่งสามารถเชื่อมต่อระบบกับโทรศัพท์มือถือมาให้ด้วย สามารถเห็นได้ก่อนว่าใครมาหาเราที่บ้าน ติดตั้งอยู่บริเวณผนังฝั่งตรงข้ามห้องครัว

ครัวในบ้านตัวอย่างไม่ได้กั้นผนังจัดเป็นครัวเปิด ซึ่งถ้าครอบครัวไหนไม่ได้เน้นทำอาหารกินกันเองบ่อยๆแล้วอยากได้พื้นที่ที่เปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกัน ก็สามารถจัดเป็นแบบนี้ได้นะ ห้องข้างๆครัวคือห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างค่ะ

ภายในครัวเราสามารถ Built-in ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้ตามบ้านตัวอย่างเลยนะ ทางโครงการมีเดินงานระบบมาให้ครบ บริเวณด้านบนอ่างล้างจานเป็นหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศได้

มุมนี้บ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นได้ขนาดใหญ่ ข้างๆคือประตูทางออกไปหลังบ้าน

พอเปิดประตูออกมาก็จะเจอกับพื้นที่ที่สามารถทำเป็นครัวไทยด้านหลังบ้านได้ สำหรับทำกับข้าว ต้ม ผัด แกง ทอด ซึ่งพอเอาออกมาทำบริเวณนี้กลิ่นและควันก็จะไม่ลอยเข้าไปในตัวบ้านมากนัก

หลังบ้านเป็นส่วน Service มีพื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้าน แยกทางเข้า-ออกจากตัวบ้าน

บรรยากาศภายในห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านค่ะ

กลับมาที่ห้องน้ำชั้นล่างของตัวบ้าน จะมีทั้งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก ผนังและพื้นปูด้วยกระเบื้องและหินมีช่องแสงระบายอากาศ

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler เช่นกันค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีชั้นวางของมาให้แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งเราสามารถหามาติดตั้งเพิ่มเองได้เพื่อแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น

ฝักบัวที่ได้เป็นของ Kohler  ข้างๆมีชั้นเอาไว้วางของพวกสบู แชมพู เล็กๆน้อยๆ

ซูมให้ดู ขนาดจับได้พอดีมือ

ถัดจากห้องน้ำมาเป็นห้องนอน มีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง พื้นห้องปูด้วย absorption floor ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดแรงกระแทกเหมาะกับผู้สูงอายุ แต่ถ้าเราไม่ทำเป็นห้องนอนก็สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นดูทีวีหรือห้องทำงานก็ได้นะ

เราจะขึ้นไปดูต่อที่ชั้น 2 กันค่ะ บริเวณโถงบันไดมีการยกระดับขึ้นมาจากพื้นชั้น 1 ปูด้วยไม้มะค่า ข้างๆบันไดเป็นห้องเก็บของ

พอขึ้นไปซักระยะจะเจอกับชานพัก พื้นบันไดทั้งลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้มะค่า

บริเวณโถงบันไดจะมีชุดหน้าต่างทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาบริเวณบันไดและสามารถเปิดเพื่อช่วยระบายอากาศรับลมได้

มุมมองย้อนกลับลงไปจะเห็นว่ามีชานพักเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได

ขึ้นมาจะเจอกับส่วนโถงก่อน ซึ่งบริเวณโถงจะเป็น Double space เชื่อมขึ้นไปถึงชั้น 3  พื้นชั้นนี้เป็นพื้นไม้ Engineering Wood สีเข้ม ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.8 เมตรค่ะ

จากโถงมองขึ้นไปเป็น Double space ไปจนถึงชั้น 3  เราสามารถหาโคมไฟสวยๆมาตกแต่งเป็นการเพิ่มบรรยากาศให้ตัวบ้านได้นะ

ถัดจากโถงไปเป็นห้องซักรีดและห้องนอนใหญ่

บรรยากาศในห้องซักรีดค่ะ มีพื้นที่วางตู้เก็บของและพื้นที่สำหรับใช้รีดผ้า มีเดินงานระบบมาให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า

ห้องนี้เชื่อมต่อกับระเบียงสามารถใช้พื้นที่ซักล้างและตากผ้าได้

ถัดจากห้องซักรีดไปทางฝั่งขวาเป็นพื้นที่นั่งเล่น ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องนอนใหญ่

ห้องนั่งเล่นจัดขึ้นมาอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเหมาะกับใช้สังสรรกันเฉพาะคนในครอบครัว

บ้านตัวอย่างผนังบางส่วนมีการเจาะเป็นช่องแสงเพิ่มเติม ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่นมากขึ้น

เข้าห้องนอนใหญ่ไปจะเจอกับโถง ทางฝั่งขวาเป็นส่วนของห้องนอน ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว

ห้องนอนใหญ่เป็นห้องแนวยาว สามารถวางชุดโซฟาปลายเตียงได้ มีประตูบานเลื่อนบานใหญ่ออกไประเบียง ตรงหัวเตียงมีหน้าต่างอีกบานที่มองลงไปเห็นห้องรับแขกชั้นล่างได้

ปลายเตียงมีระยะเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางชุดโซฟาได้

ระเบียงห้องนี้ค่อนข้างกว้าง ราวกันตกเป็นกระจกดูทันสมัยเข้ากับตัวบ้าน ปลายสุดของระเบียงเป็นพื้นที่ที่ก่อขึ้นมาสำหรับปลูกต้นไม้

ถัดจากส่วนของห้องนอนมาทางฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ด้านหลังทั้งทางฝั่งซ้ายและขวาเป็น Walk-in closet

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนดี พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้ง สุขภัณฑ์ต่างๆจะอัพเกรดกว่าห้องอื่นๆ มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นเคาน์เตอร์ใหญ่แบบ 2 อ่าง มีบานหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดค่อนข้างใหญ่ มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบที่วางอยู่ใต้ Top ของ Kohler

โถสุขภัณฑ์ในห้องนี้เราจะได้แบบอัตโนมัติของ Kohler รุ่น Veil (เวล) ผนังด้านหลังก่อขึ้นมาเพื่อซ่อนงานระบบ ด้านบนมีพื้นที่วางของตกแต่งเล็กๆน้อยๆได้

สำหรับ Kohler Veil เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Kohler ที่มีดีไซน์สไตล์มินิมัลลิสต์ ไม่ได้มีปุ่มกดเยอะๆเหมือนสุขภัณฑ์อัตโนมัติทั่วๆไป แล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆอีก อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ห้องน้ำห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ เป็นแบบตั้งพื้น รูปทรงรี  พร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ

ชุดฝักบัวและก๊อกน้ำติดตั้งอยู่ด้านข้างอ่าง

พื้นที่อาบน้ำมีกั้นกระจกนิรภัยมาให้ ด้านข้างชุดฝักบัวมีทำเป็นชั้นวางของเล็กๆน้อยๆจำพวกสบู่ แชมพู

ฝักบัวมีทั้งที่เป็นแบบ Rain shower และฝักบัวแบบใช้มือถือให้เลือกใช้

ฝักบัวแบบมือถือมียางหุ้มช่วยให้จับได้สะดวกขึ้น

ถัดเข้ามาด้านในสุดจะเป็น walk-in closet แยกซ้ายขวาเป็นแบบ His&Her

สามารถจัดแบ่งการใช้งานให้ฝั่งหนึ่งเป็นโซนของคุณผู้ชาย อีกฝั่งเป็นของคุณผู้หญิง จะได้ไม่ต้องแย่งกัน ^^

เราขึ้นไปดูกันต่อที่ชั้น 3 กัน วัสดุที่ใช้บริเวณบันไดเหมือนกับชั้น 2 ค่ะ

บริเวณโถงบันไดขึ้นชั้น 3 ก็มีช่องแสงจากบริเวณผนังด้านข้างทำให้บรรยากาศสว่างขึ้น ไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน ฝ้าเพดานตรงช่วงนี้ค่อนข้างสูง เราสามารถหารูปภาพมาติดตกแต่งเพิ่มเติมได้

ขึ้นมาเราจะเจอกับโถงที่มีพื้นที่ Double space เชื่อมขึ้นมาจากชั้น 2 พื้นชั้นนี้ก็ยังคงเป็น Engineering Wood เหมือนเดิม

มุมมองจากโถงชั้น 3 ลงมาที่ชั้น 2 บริเวณหน้าห้องซักรีดค่ะ

ถัดจากโถงไปเป็นทางไปห้องนอนอีก 2 ห้อง

ซึ่งชั้นนี้จะมีพื้นที่ระเบียงขนาดค่อนข้างกว้างอยู่เหมือนกัน สามารถใช้พื้นที่ออกไปนั่งเล่นสูดอากาศได้

พื้นที่ระเบียงชั้น 3 อยู่บริเวณโถงสามารถออกไปยืนสูดอากาศหรือนั่งเล่นได้

ถัดเข้ามาเราจะเจอกับห้องพระ

บ้านมาตรฐานจะกันเป็นผนังทึบมาให้ ในบ้านตัวอย่างปรับเป็นบานเลื่อนแบบเข้ามุมทำให้พื้นที่ดูโปร่งมากขึ้น

บรรยากาศภายในห้องพระค่ะ จะมีผนังด้านหลังเป็นหน้าต่างบริเวณโถง Double space พอดี

ถัดจากห้องพระไปเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดตั้งประตูมาให้ ของจริจะได้บาน HDF แบบบานตันค่ะ

เราเข้ามาดูห้องนอนกัน ห้องแรกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า วางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุตขึ้นไป ห้องนี้มีจุดที่พิเศษอยู่ตรงที่มีหลังคา Skylight ด้วย

ผนังฝั่งหน้าบ้านหลังนี้จะมี บานหน้าต่างบานใหญ่ที่มีหลังคา Skylight ด้านบนด้วย ทำให้แสงเข้ามาให้ห้องเยอะช่วยให้สว่างและโปร่ง

อีกมุมหนึ่งจะเป็นทางไปส่วน Walk-in closet และ ห้องน้ำ ห้องนี้พอวางเตียงลงไปแล้วยังมีระยะรอบๆเตียงเหลือเยอะอยู่ค่ะ

พื้นที่ Walk-in closet อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวหน้าห้องได้สะดวก ในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งๆนะคะ เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าตลอดทั้งแนวได้แบบนี้

บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ ห้องนี้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีช่องแสงระบายอากาศอยู่ด้านบนโถสุขภัณฑ์ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้  สุขภัณฑ์ต่างๆเป็นของ Kohler เช่นเดียวกับห้องก่อนหน้า

พื้นที่อาบน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย ไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้ เราสามารถไปหามาติดเพิ่มเติมได้ค่ะ

ผนังบริเวณชั้นวางสบู่ ติดตั้งเป็นกระเบื้องลวดลายน่ารักๆซึ่งเราก็จะได้ตามแบบนี้เลย

ถัดมาคือห้องนอนห้องสุดท้าย ขนาดพอๆกับห้องที่ผ่านมา ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโซฟา และ ตู้เก็บของปลายเตียง

ฝั่งปลายเตียงเป็นห้องน้ำและ Walk in closet ผนังสีน้ำตาลที่เราเห็นเป็นเพียงแค่การตกแต่งบ้านตัวอย่าง บ้านมาตรฐานที่เราได้จริงเป็นห้องโล่งๆนะ แต่ถ้าใครชอบจำเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้ค่ะ

เดินถัดเข้ามาด้านในก่อนทางเข้าห้องน้ำ กั้นพื้นที่เป็น Walk-in closet

ห้องน้ำแยกเป็นส่วนเปียก ส่วนแห้ง แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำ พื้นและผนังปูเป็นกระเบื้องค่ะ สีและลวดลายตามในรูปเลย

ปิดท้ายด้วย หน้าตาสวิทซ์และปลั๊กของ siemens ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 January 2017

  • แบบบ้าน Queen แปลง 11 พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. ที่ดิน 48.2 ตร.วา ราคา 24.4 ล้านบาท (ราคาเริ่มต้น 18.9 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • แบบบ้าน Brooklyn แปลง 9 พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม. ที่ดิน 57.5 ตร.วา ราคา 29.9 ล้านบาท  (ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • แบบบ้าน Manhattan แปลง 7 พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. ที่ดิน 65.5 ตร.วา ราคา 34.5 ล้านบาท (ราคาเริ่มต้น 28.9 ล้านบาท Update 12/02/18)
  • แบบบ้าน Manhattan Elite แปลง 15 พื้นที่ใช้สอย 465 ตร.ม. ที่ดิน 86.5 ตร.วา ราคา 42.1 ล้านบาท (ราคาเริ่มต้น 33.9 ล้านบาท Update 12/02/18)

  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 300,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 78 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด 

The Gentry Sukhumvit เป็นแบรนด์ใหม่จาก Sc Asset แบ่งเป็นบ้านแฝด 8 หลัง บ้านเดี่ยว 49 หลัง ตัว Product จะอยู่ระหว่าง Grand Bangkok Boulevard และ Bangkok Boulevard ปรับหน้าตาของตัวบ้านให้ดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนทำเลก็จะอยู่ใกล้เมืองชั้นใน ใกล้รถไฟฟ้า และทางด่วน โดยที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยปุณณวิถี หรือ ซอยสุขุมวิท101 ตรงเข้าไปจนสุดซอย ทำเลนี้ยังไม่ค่อยเห็นบ้านเดี่ยวระดับหรูสไตล์โมเดิร์นมาให้เห็น จึงเป็นช่องว่างทางการตลาดในทำเลนี้  โดยซอยปุณณวิถีนี้เป็นซอยตันบรรยากาศอาจจะไม่คึกคักเท่าซอยข้างเคียง แต่ก็มีซอยย่อยที่ไปเชื่อมกับซอยวชิรธรรมสาธิต หรือ ซอยสุขุมวิท 101/1 ได้ ซอยใหญ่ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดมากมาย และเป็นซอยที่ใช้เส้นทางไปออกถนนอ่อนนุชและถนนศรีนครินทร์ได้ การเดินทางโดยใช้รถยนต์ในย่านนี้จึงค่อนข้างสะดวก ถ้าจะเข้าเมืองก็ออกมาหน้าปากซอยแล้วกลับรถ ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งไปเข้า เอกมัย ทองหล่อได้ หรือถ้าอยากขึ้นทางด่วนที่ใกล้ๆจะอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท62 ส่วน การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็สามารถเรียกรถสาธารณะต่างๆเช่นแท็กซี่ได้สะดวกเพราะโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก มี BTS สถานีปุณณวิถีอยู่บริเวณหน้าปากซอย และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง บนถนนศรีนครินทร์มาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางด้วย

ส่วนสภาพแวดล้อมและสถานที่สำคัญไล่จากใกล้ไปไกล โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบสลับกับที่ดินเปล่า บรรยากาศเงียบสงบต้องออกมาช่วงกลางซอยจึงจะมีตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร และยังสามารถใช้เส้นทางไปออกซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ซึ่งมีความสำคัญตรงที่สามารถลัดไปออกถนนศรีนครินทร์ที่มีห้าง Seacon Square, Paradise Park และมีสวนหลวงร. 9 สามารถไปออกกำลังกายได้ ถัดมาหน่อยความอุดมสมบูรณ์จะอยู่บนถนนบางนาใกล้สุดจะเป็น เซ็นทรัล กับ Big C ไกลไปอีกหน่อยก็ Mega บางนาและในอนาคตจะมี Bangkok mall มาเปิดด้วย สถานที่สำคัญอื่นๆจะมีอาคารสำนักงานอย่างอาคารสามัคคีเภสัช, ตึกแฟนทรี 1,2,3 และ 4 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและศูนย์มัลติเพล็กซ์ขนาดใหญ่ของ DKSH  และใกล้ๆกันยังมีสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 3  มีโรงเรียนนานาชาติอย่าง รร.Anglo Singapore และ รร. Berkeley ทำให้แถวนี้มีเด็กและผู้ปกครองค่อนข้างเยอะ

การออกแบบ โครงการนี้ออกแบบในสไตล์ Brooklyn ที่ใช้การตกแต่งด้วย อิฐแดง ตัดกับ โครงเหล็กสีดำ เป็นบ้านในเมืองที่เน้นการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านอย่างเต็มที่ ขนาดบ้านและขนาดที่ดินถูกปรับให้เล็กลงกว่า Grand Bangkok Boulevard แทนที่ด้วยทำเลที่สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและตัวบ้านดูทันสมัย สวย เข้ากับ Concept การวางผังอาคารทำได้ดี คือวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ แยกพื้นที่ส่วนกลางออกมาด้านหน้า ตัวบ้านมีทั้งหมด 4 แบบตั้งชื่อเขตในเมืองนิวยอร์กได้แก่ Queens , Brooklyn , Manhattan ส่วน Manhattan Elite แบบบ้านจะเหมือนกับ Manhattan ต่างกันแค่ตรงที่จอดรถ Manhattan Elite จอดได้ 4 คัน บ้านของแบรนด์นี้มีการปรับแบบให้ดูทันสมัยมากขึ้น เป็นสไตล์โมเดิร์นทั้งหมด มีการออกแบบฟอร์มให้มีการ Interlock กันทำให้ตัวบ้านมีมิติมากขึ้น ใช้โทนสีเทาและน้ำตาลอ่อนในการตกแต่ง แปลนบ้านทำออกมาเป็น 3 ชั้น จัดพื้นที่ใช้สอยภายในลงตัว มียูนิตที่น่าสนใจคือบ้านแฝดที่ทำออกมาเป็นบ้านหรูสไตล์โมเดิร์น ว่าจะจัดพื้นที่ใช้สอยได้คุ้มกับราคาเริ่มต้น 25 ล้านหรือไม่

การเลือกใช้ วัสดุ ถือว่าเหมาะสมตามระดับของบ้าน ซึ่งแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ใหม่ การใช้วัสดุต่างๆจึงเป็นการเลือกขึ้นมาใหม่ไม่ได้อ้างอิงกับโครงการเดิมๆ พื้นบ้านภายในเป็นพื้นไม้ Engineering Wood พื้นบันไดเป็นไม้มะค่า ห้องน้ำเป็นหินอ่อนและกระเบื้อง มีให้สัญญาณกันขโมย ระบบ VDO Call Phone , Magnetic & Shock Sensor ทั้งหลัง สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ซึ่งในห้องนอนใหญ่มีให้ Kohler Veil  โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติรุ่นใหม่มาให้ด้วย

สาธารณูปโภค ให้ตามมาตรฐานของ Sc Asset ค่อนข้างไปทางดี มี คลับเฮ้าส์ ที่มีฟรี Wi-Fi , สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ  , ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง , พื้นที่นั่งพักผ่อน , สวนหย่อม , ห้องสมุด พื้นที่ส่วนกลางดีไซน์ออกมาสวยน่าใช้อาจจะดูเล็กไปนิด แต่โครงการในระดับนี้ ลูกบ้านเป็นกลุ่มที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง อาจจะไม่ได้ออกมาใช้พื้นที่ส่วนกลางมากนัก  มีพื้นที่สีเขียวมีกระจายอยู่โดยรอบโครงการ บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่น  ส่วนระบบความปลอดภัยก็ให้มาดี  มีพี่ยามดูแลความปลอดภัยให้ และมี ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 27 จุด , Security Access แบบ Easy Pass

Judgement

โครงการนี้ Product ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวที่มีราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป จึงจัดได้ว่าเป็นโครงการระดับ SUPER LUXURY CLASS ที่ขายราคาเริ่มต้นประมาณ 25-42 ล้านบาท การตัดสินใจซื้อของบ้านระดับนี้ ไม่ได้มองแง่ความคุ้มค่าเทียบกับเงินที่จ่ายไป หากแต่ดูความชอบและความพอใจส่วนตัวเป็นสำคัญ เรายังไม่มีมาตรฐานการให้คะแนนที่เหมาะสมสำหรับโครงการระดับ SUPER LUXURY CLASS ที่ใช้ความพอใจเป็นตัวตัดสิน จึงไม่มีการให้คะแนน เราแนะนำให้ไปดูโครงการและใช้ใจให้คะแนนด้วยตัวเองค่ะ

BOTTOM LINE

The Gentry Sukhumvit เหมาะกับคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้านราคา 25 ล้านขึ้นไป มองหาหมู่บ้านพร้อมอยู่ในเมืองฝั่งสุขุมวิท เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า โครงการมีความ Private สูง มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีสังคมและเพื่อนบ้านที่ดี เชื่อมั่นในแบรนด์ Sc Asset ชอบงาน Design สไตล์โมเดิร์น มี Facilityให้ใช้ครบ

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )