รีวิวฉบับที่ 1944 …  วันนี้ได้มีโอกาสไปรีวิวโครงการ Lake Serene พระราม 2 ได้ยินชื่อแล้วหลายๆ คนอาจคุ้นกันมาบ้าง เพราะเปิดขายเป็นเฟสที่ 2 แล้ว โครงการเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปริมทะเลสาบ มีความคลาสสิค และเอาใจครอบครัวที่ชอบสวนรอบบ้านกว้างๆ โดยแต่ละแปลงจะเริ่มต้นที่ 100 ตารางวา มีช่วงราคาตั้งแต่ 10 – 35 ล้านบาท++ ค่ะ

Fact @ 24 September 2019

  • Lake Serene Rama 2 (เลค ซีรีน พระราม 2)
  • Risland (Thailand) Co., Ltd
  • HIGH CLASS – SUPER LUXURY (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่:  เขตบางขุนเทียน
  • เนื้อที่โครงการ 180 ไร่ (รวม 4 เฟส) จำนวน 485 ยูนิต
  • เนื้อที่โครงการ เฟส 2 : ประมาณ 95 ไร่ จำนวน 146 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Meadow ที่ดิน 101.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

    – ราคาเริ่มต้น 10.68 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 9.39 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Eden ที่ดิน 103.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

    – ราคาเริ่มต้น 11.75 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 10 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Haven ที่ดิน 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

    – ราคาเริ่มต้น 13.94 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 12.54 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Porch ที่ดิน 129.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 410 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

    – ราคาเริ่มต้น 32.9 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 31.29 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.70 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 50,000-70,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : มิถุนายน ปี 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จ : เฟส 2 ปี 2566
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-452-2888

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.596726, 100.379257
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Lake Serene พระราม 2 ซึ่งทำเลในฝั่งพระราม 2 นั้นถือว่าเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นทั้งแหล่งงานและที่อยู่อาศัย มีความหลากหลายของที่อยู่อาศัยให้เลือกไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และ บ้านเดี่ยว โดยโครงการที่ติดถนนใหญ่จะมักเป็นบ้านเดี่ยวราคาสูง แต่ถ้าเขยิบมาอยู่ในถนนรอง หรือ ซอยย่อยราคาบ้านเดี่ยวก็จะลดหลั่นลงมา และจะมีบ้านบ้านแฝดกับทาวน์เฮาส์ให้เลือกอีกด้วย

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งกรุงเทพและอยู่ในบริเวณช่วงรอยต่อกับสมุทรสาคร ทำให้มีแหล่งความเจริญเกิดขึ้นมากมายมีทั้งห้างใหญ่ตลาดสด และร้านสะดวกซื้อ อย่าง Tesco Lotus Express , Big C Market , Mini Big C , 7-11 มีร้านค้าร้านอาหาร และยังใกล้กับตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ตลาดลีลา ตลาดกลางบางกระดี่ สามารถหาของกินได้สะดวก

ส่วนโรงพยาบาลมีหลากหลายที่ขนาดใหญ่คือโรงพยาบาลบางปะกอก9 โรงพยาบาลนครธน และ โรงพยาบาล สมุทรสาคร ส่วนที่ขนาดเล็กลงมาหน่อยคือโรงพยาบาลพระราม 2

ถ้าจะเดินห้างใหญ่หรือร้านอาหารที่ระดับราคาสูงขึ้นมาอีกจะมี Porto Chino Community mall มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย หรือไม่ก็ไปเดิน เซ็นทรัล พลาซ่า มหาชัย ที่เพิ่งเปิดใหม่และอยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วย ซึ่งช่วงแรกๆ ที่ห้างเปิดเราก็ได้ไปเดินมาด้วย ร้านค้าเยอะนะคะ เปิดเต็มครบหมด ขนาดห้างก็ใหญ่พอสมควร การตกแต่งตามจะใช้แนวคิดตามจุดเด่นของย่านนี้คือแหล่งค้าขายอาหารทะเลค่ะ การจัดโซนจะคล้ายๆกับ เซ็นทรัล ศาลายาค่ะ การเปิดห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัล ตรงนี้จะช่วยให้ทำเลนี้มีการพัฒนาไปได้อีกเยอะเลยนะคะ

ทำเลโครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร หรือที่เป็นทางผ่านจากกรุงเทพไปชะอำ-หัวหิน จึงเป็นถนนเส้นหลักที่มีการใช้งานมาก ทำให้การจราจรหนาแน่นอยู่เสมอโดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ใครที่เคยใช้ถนนหลักเส้นใหญ่ๆ แบบนี้ก็คงเข้าใจได้ว่าตำแหน่งของจุดกลับรถมีความสำคัญมากทีเดียว ซึ่งตำแหน่งของโครงการมีข้อดีที่อยู่ใกล้ที่กลับรถทั้ง 2 ฝั่งขาเข้าและขาออกเมือง ทำให้ไม่ต้องกลับรถไกลนะคะ

ทางเข้าโครงการเข้าได้จากทางถนนคู่ขนานพระราม 2 ฝั่งขาออกเมือง ในซอยเดียวกับโรงเรียนนานาชาตินอริช มีจุดสังเกตุคือ ซอยนี้จะอยู่ระหว่างบุญถาวร และ Nusa Avenue ค่ะ

เส้นทางที่เราจะเดินทางกันวันนี้จะเริ่มจาก Big C พระราม 2 แล้ววิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงจุดสังเกตุคือบุญถาวรและป้ายทางเข้าโรงเรียนนานาชาตินอริช ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปอีกประมาณ 1.5 กม. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการค่ะ

การเดินทางในวันนี้เรามาเริ่มต้นกันที่ Big C พระราม 2 นะคะ ซึ่งบริเวณนี้จะค่อนข้างคึกคักมีทั้ง เซ็นทรัลพระราม 2 ที่เป็นศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้, Home pro , McDonald’s และร้านค้าร้านอาหารเล็กๆน้อยๆ

เราตรงมาเรื่อยๆจนผ่านถนน บางขุนเทียน-ชายทะเล ในนี้มีร้านอาหารซีฟู้ดเยอะมาก ว่างๆเสาร์-อาทิตย์ก็มานั่งทานข้าว รับลมสบายๆได้ค่ะ

ตรงมาอีกจะผ่าน Tesco Lotus พระราม2 สามารถมาแวะซื้อของก่อนกลับบ้านได้

วิ่งมาจนตัดกับวงแหวนกาญจนาภิเษกให้เราวิ่งตรงข้ามไปได้เลยนะคะ

ตรงต่อมาก็จะเจอตลาดดีแสมดำ อยู่ก่อนซอยแสมดำ 1 เป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ รองรับชุมชนในละแวกนี้

ขับตรงต่อมาทางฝั่งซ้ายจะเห็นบุญถาวร สาขาพระราม 2 เป็นศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ก็เริ่มชะลอชิดซ้ายได้เลยค่ะ

ซอยโครงการไม่มีชื่อซอย เราก็ต้องหาจุดสังเกตุกันให้ดีๆ ซึ่งโครงการจะอยู่ซอยเดียวกับโรงเรียนนานาชาตินอริชเลย เราจะสังเกตุจากป้ายโรงเรียนเอาก็ได้เพราะเป็นทางเข้าเดียวกัน

ถึงทางเข้าโครงการแล้ว จากมุมนี้จะสังเกตุเห็นหลายป้ายเลยทั้งโรงพยาบาลพานาซี, และ Nusasiri City สรุปแล้วซอยนี้มีอะไรตั้งอยู่บ้าง เข้าไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ

เข้ามาในซอยส่วนแรกที่เจอเลยคือ Nusa Avenue หลายๆ คนในย่านนี้อาจรู้จักในชื่อ Gourmet District ที่เคยเปิดเป็นแหล่งรวมร้านค้าร้านอาหาร ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงปิดปรับปรุงอยู่ จากตรงนี้เราก็ขับผ่านเข้าไปด้านในซอยกันต่อเลย

เนื่องจากซอยนี้เป็นถนนภาระจำยอมของหลายโครงการ เช่น หมู่บ้าน Nusa City, โรงเรียนนานาชาตินอริช, โรงพยาบาลพานาซี รวมถึงหมู่บ้าน Lake Serene ด้วย ทำให้มีการร่วมมือกันดูแลบรรยากาศภายในซอยให้ดูร่มรื่น เหมาะกับการเข้าสู่พื้นที่พักอาศัย

ตรงมาเรื่อยๆ จะผ่านโรงเรียนนานาชาตินอริชทางฝั่งซ้าย ที่เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น หากครอบครัวไหนมีลูกเล็ก และกำลังมองหาทำเลที่มีโรงเรียนอยู่ใกล้บ้านก็ตอบโจทย์นะคะ

เยื้องกับโรงเรียนจะมีโรงแรมน้องหมา Modog สมัยนี้เวลาเจ้าของไม่อยู่บ้านก็ไม่ต้องทิ้งน้องให้อยู่บ้านตัวเดียวแล้วนะ พามาอยู่โรงแรม มีคนดูแล มีสระว่ายน้ำให้น้องได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ

ตรงมาอีกไม่ไกลจะผ่านโรงพยาบาลพานาซี เป็น Wellness Hospital ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเซลล์บำบัด  ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเยอรมนี

ตรงเข้ามาเรื่อยๆ เราจะเห็นโครงการ Lake Serene เฟส 1 ซึ่งขายหมดไปแล้วนะคะ และกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ผ่านเฟส 1 เข้ามาก็จะเจอกับซุ้มโครงการของ เฟส 2 ที่เรากำลังจะพาเข้าไปชมกันในวันนี้ค่ะ ส่วนเฟส 3 และ 4 จะมีทางแยกให้ตรงเข้าไปอีก ซึ่งเป็นโครงการในอนาคตนะคะ

<span style="color: #333333">**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ</span>

โครงการ Lake Serene พระราม 2 (เฟส 2) คือบริเวณพื้นที่สีเหลืองที่เราวาดเนื้อที่โครงการให้ดูคร่าวๆ ไม่เป๊ะนะคะ โดยโครงการจะอยู่ถัดเข้าไปจากเฟส 1 อีกที นอกจากนี้ด้านในยังมีที่ดินเปล่าที่เตรียมพัฒนาเป็นเฟส 3 และ 4 ในอนาคต ซึ่งทั้ง 4 เฟสจะมีซุ้มประตูของแต่ละโครงการแยกกันนะคะ จึงได้ความเป็นส่วนตัวของแต่ละเฟสเลย

สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการของเฟส 2 ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรนะ เพราะโดยรอบส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบและกับที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการพักอาศัยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สถานศึกษา

  • โรงเรียนนานาชาติ Norwich – 1.8 กม.
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ campus พระราม 2 – 6.2 กม.
  • โรงเรียนเลิศหล้าถนนกาญจนาภิเษก – 19 กม.
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี – 21.7 กม.

  • ห้างสรรพสินค้า, Super Market, Community Mall,
    • พอร์โตชิโน – 12.6 กม.
    • เซ็นทรัล มหาชัย – 14 กม.
    • แลนด์มาร์คมหาชัย – 15.2 กม.
    • เซ็นทรัล พระราม 2 – 16 กม.

  • โรงพยาบาล
    • โรงพยาบาลพานาซี – 1.2 กม.
    • โรงพยาบาลนครธน – 13.5 กม.
    • โรงพยาบาลมหาชัย – 14.7 กม.
    • โรงพยาบาลสมุทรสาคร – 15.9 กม.
    • โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล – 22.2 กม.

  • สถานที่สำคัญอื่นๆ
    • ตลาดมหาชัยเมืองใหม่ – 7.7 กม.
    • วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก – 9 กม.
    • ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร – 18.5 กม.
    • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร – 32.3 กม.


    เจาะลึกตัวโครงการ

    มาดูผังโครงการ Lake Serene พระราม 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 485 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการใหญ่ 180 ไร่ เทียบรวมๆ แล้วเนื้อที่โครงการถือว่าใหญ่ทีเดียวกับจำนวนยูนิต 485 หลัง ที่เป็นอย่างนี้เพราะเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ส่วนของโครงการเป็นทะเลสาบนั่นเอง หลังจากที่เฟส 1 Sold Out กันไปแล้ว ตอนนี้โครงการเปิดขายเฟส 2 จำนวน 146 หลัง เป็นเฟสที่ได้ส่วนกลางพรีเมี่ยมขึ้นมาจากเฟสแรก เพราะจะมีทะเลสาบอยู่ตรงกลางที่ดินเลย ทำให้เฟสนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่ได้วิวกันแบบเต็มๆ ซึ่งตอนนี้กำลังทยอยก่อสร้าง มีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2566 ค่ะ

    การวางผังของโครงการมีความแตกต่างจากหมู่บ้านส่วนใหญ่ Concept คือ จะตัดถนนหลักไปตามรูปของทะเลสาบ แล้ววางตำแหน่งบ้านเกาะตามถนนหลัก เราจึงจะไม่เห็นผังที่เป็นซอยย่อยเยอะๆ เหมือนโครงการอื่น ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูไม่อึดอัด แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่ลดลงของบ้านที่อยู่ติดถนนหลักนะ ไฮท์ไลท์ของที่นี่ คือการวางตำแหน่งแปลงของบ้าน Type ใหญ่สุด คือแบบ Porch ล้อมทะเลสาบไว้ทั้งหมด โครงการนี้จึงมีบ้านริมทะเลสาบให้เลือกกันด้วยค่ะ

    เข้ามาจากในโครงการส่วนแรกที่จะเจอเลยคือ คลับเฮ้าส์ของโครงการ ซึ่ง Facilities ทั้งหมดก็จะอยู่รวมกันที่ตำแหน่งนี้ สำหรับการจัดคลับเฮ้าส์ไว้ใกล้ทางเข้าโครงการมีข้อดีตรงที่ ในกรณีที่ลูกบ้านไม่อยากรับแขกที่บ้านก็สามารถใช้พื้นที่สโมสรในการต้อนรับแขกได้สะดวก จากสโมสรเราสามารถวิ่งตามถนนหลักวนเป็นวงกลมเชื่อมต่อกัน ได้รอบโครงการแบบไม่ต้องกลัวหลง สำหรับซอยย่อยส่วนใหญ่เป็นซอยตัน จะมีแค่ไม่กี่ซอยที่สามารถวนถึงกันได้ ซึ่งซอยที่สามารถวนถึงกันได้จะมีข้อดีที่มีเส้นทางเข้าออกบ้านได้หลากหลาย แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปเหมือนกัน ส่วนซอยตันจะถูกบังคับให้เข้าบ้านได้ทางเดียว แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวและความไม่พลุกพล่านในการอยู่อาศัย ถนนหลักโครงการจากซุ้มทางเข้ามีความกว้าง 12 ม. หากมีรถเข้า-ออกบ้านก็ยังพอขับผ่านกันไปได้ ส่วนถนนซอยจะมีความกว้าง 9 ม. ถ้ามีบ้านไหนจอดรถหน้าบ้านก็คงจะใช้งานกันลำบากหน่อยค่ะ

    การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ในซอยตัน ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนใครที่เน้นทางเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่บนถนนหลัก ด้านหน้าโครงการค่ะ

    สำหรับทิศของบ้านในโครงการมีให้เลือกทั้ง 4 ทิศเลย ซึ่งบ้านทิศเหนือและทิศใต้จะเป็นทิศยอดนิยมนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่แรงกว่าแต่ก็ได้ลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านของโครงการตอนนี้มีให้เลือกอยู่ 4 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ สำหรับผู้ที่ต้องการมีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆ และมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกบ้านหลังมุมได้ค่ะ

    ซุ้มประตูของโครงการจะมีป้อม รปภ.จะอยู่บริเวณเกาะกลางเพื่อแยกทางเดินรถเข้า-ออกโครงการ ด้านข้างมีฟุตบาทเป็นทางเดินให้ 2 ฝั่ง เป็นการแยกทางเท้าออกจากทางรถยนต์ ทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น

    ประตูทางเข้า-ออกจะแบ่งเป็น 2 ช่องทาง แยกระหว่างลูกบ้านและแขก โดยช่องฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการช่วยให้ลูกบ้านไม่เสียเวลาต่อคิวรอนานถ้ามีบุคคลภายนอกมาแลกบัตร ลูกบ้านสามารถใช้ระบบ Easy Pass ผ่านเข้าออกได้เลย ส่วนช่องฝั่งขวาเป็นทางเข้าสำหรับผู้มาติดต่อ โดยจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ. ก่อน เข้า-ออก ค่ะ

    ตัวประตูเป็นไม้กั้นกระดกแบบอัตโนมัติด้วยระบบ RFID (เหมือน Easy pass) พร้อมติดกล้อง CCTV บริเวณทางเข้า เพื่อส่องคนขับในระยะใกล้

    ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาส่วนแรกที่เจอเลยคือ คลับเฮ้าส์ ซึ่ง Facilities ส่วนกลางทั้งหมด ก็จะรวมกันอยู่ที่บริเวณคลับเฮ้าส์นี้นะ

    ด้านหน้าของคลับเฮ้าส์จะมีที่จอดรถสำหรับลูกบ้าน ใครอยู่บ้านไกลหน่อยแล้วไม่อยากเดินมาใช้งาน ก็ขับรถมาจอดตรงนี้ได้ค่ะ

    บรรยากาศทางเข้าอาคารคลับเฮ้าส์ ก็จะมีจุด Drop-Off บริเวณหน้าอาคาร ทำให้สามารถจอดรถรับ-ส่งกันได้สะดวก

    บรรยากาศภายในคลับเฮ้าส์ ที่ตอนนี้โครงการจัดไว้เป็นสำนักงานขายชั่วคราวก่อนนะคะ ซึ่งจริงๆ บริเวณนี้จะเป็น Lobby มีชุดโซฟาสำหรับนั่งรับแขก และให้ลูกบ้านได้มานั่งพักผ่อนกัน นอกจาก Lobby ที่อาคารนี้ก็จะมี Fitness, ห้องน้ำ และห้อง Theater ซึ่งต้องรอดูบรรยากาศจริงกันไปก่อนนะคะ

    ที่คลับเฮ้าส์ตอนนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลของโครงการ เราสามารถเข้าไปดูผังของเฟส 2 และโมเดลภาพรวมทั้งหมดของโครงการได้

    โครงการ Lake Serene พระราม 2 จะแบ่งที่ดินทั้งหมดออกเป็น 4 เฟส ซึ่งตอนนี้เปิดขายถึงเฟส 2 คือตรงบริเวณเราที่วงสีแดงไว้ให้ดูนะคะ

    ภายในจัดที่นั่งสำหรับผู้มาเยี่ยมชมโครงการ ซึ่งสามารถมองออกไปเห็นบรรยากาศรอบๆผ่านกระจกได้ ด้านหลังอาคารมีประตูทางเชื่อมออกไปยังสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางค่ะ

    ออกมาจากคลับเฮ้าส์ก็จะได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น เพราะจะได้ความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่โดยรอบ และได้วิวสระว่ายน้ำสีฟ้าๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับประตูคลับเฮ้าส์พอดี ก่อนอื่นเราจะพาไปเดินชมสวนรอบๆ สระว่ายน้ำกันก่อนนะคะ

    ภาพรวมของสวนจะเป็นทางเดินที่วนเป็น Loop รอบสระว่ายน้ำ ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งทางเดินจะให้บรรยากาศที่ดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

    ในสวนจะมีแผนผังบริเวณคลับเฮ้าส์และบ้านตัวอย่างไว้ให้ดูด้วย เวลามาชมโครงการก็จะเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้มีบ้านตัวอย่างให้ดูครบทุกแบบเลยนะคะ

    บริเวณในสวนจะมีชุดโต๊ะสนามให้นั่งเล่นอยู่เป็นระยะๆ ฝั่งซ้ายมีรูปปั้นนกยูง 2 ตัว พอเห็นสวนที่มีสีสันเยอะๆ แล้วก็ดูสดชื่นดีนะคะ

    ทางเดินในสวนบางส่วนจะถูกออกแบบให้เป็นเนินหญ้า สลับกับพื้นที่โล่งๆ เชื่อว่าน่าจะถูกใจเด็กๆ ที่มาวิ่งเล่นในบริเวณนี้ สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องนั่ง Wheelchair ก็สามารถเข็นรถเข้ามาตามเส้นทางคอนกรีตได้ยาวๆ เลยนะคะ เพราะไม่มีส่วนที่เป็นขั้นบันไดค่ะ

    มุมนั่งเล่นจะกระจายอยู่ตลอดแนวทางเดินนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปิดโล่งเหมาะจะมานั่งในตอนเย็นที่แดดร่มแล้วค่ะ

    ส่วนไฮท์ไลท์ของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ คือจะมีมุมนั่งเล่นที่สามารถชมวิวทะเลสาบได้ ด้วย ก็น่าจะเป็นมุมโปรดของลูกบ้านหลายๆ ท่านกันนะคะ

    ถัดมาที่สนามเด็กเล่น จะมีเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกายติดตั้งไว้ประมาณ 10 เครื่อง พื้นบริเวณสนามเด็กปูด้วยพื้นยาง ช่วยให้เกิดความปลอดภัย

    หน้าตาของเครื่องเล่นก็ดูน่ารัก น่าใช้งานนะคะ

    ถัดจากโซนเด็กจะมีพื้นที่ให้สามารถมาใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆ หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มานั่งเล่นในมุมนี้ได้ โครงการจัดชุดโต๊ะเก้าอี้สนามแบบมีร่มไว้ให้ 4 ชุดค่ะ

    วนตามทางเดินในสวนมาเรื่อยๆ ก็มาถึงทางเข้าในส่วนของสระว่ายน้ำ ก็เดินขึ้นบันไดทางขวากันต่อเลย

    สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาดประมาณ 33.2 x 15 ม. ลึก 1.2 ม. ถือว่ามีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้าน 146 ยูนิต แม้ว่ารูปทรงของสระจะเป็นเส้นโค้งไปมา แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้ว่ายน้ำในแนวยาวได้พอสมควรนะคะ

    เนื่องจากสระเป็นแบบเปิดโล่งจึงเหมาะที่จะมาใช้งานในตอนเย็นๆ ที่แดดร่มลมตกแล้วนะคะ บรรยากาศโดยรอบของสระดูร่มรื่นด้วยต้นปาล์ม ได้อารมณ์รีสอร์ทดีค่ะ พื้นที่ข้างสระมีเก้าอี้ Day Bed ไว้ให้ เผื่อใครที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำหนักๆ ก็มานั่งเล่นริมสระได้

    จากมุมในสระว่ายน้ำ หากมองไปตรงๆ ก็จะได้วิวของทะเลสาบด้วย ทำให้บรรยากาศโดยรอบเหมาะกับการพักผ่อนนะคะ

    สำหรับสระเด็กขนาด 12 x 7 ม. มีความลึก 0.5 ม. มีการตกแต่งภายในสระด้วยลูกบอล ให้เด็กใช้เกาะ หรือเป็นของเล่นในสระว่ายน้ำได้ แต่ก็ต้องระวังกันหน่อยนะคะ ข้อดีของสระเด็กนี้คือ ออกแบบมาเป็นทรงยาว และมีพื้นที่ด้านข้างสระโดยรอบ ทำให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงตัว เพื่อดูแลลูกหลานได้ง่ายค่ะ

    วันนี้เราเก็บบรรยากาศของถนนซอยในโครงการมาให้ชมกันก่อนนะคะ เพราะบริเวณถนนหลักยังปิดก่อสร้างอยู่ ซึ่งถนนซอยจะมีความกว้าง 9 ม. มีฟุตบาทพร้อมไม้พุ่มให้ทั้ง 2 ฝั่ง ดูเป็นระเบียบดี สำหรับเฟส 2 จะมีความสูงของรั้วบ้านอยู่ที่ 1.5 ม. ทำให้บรรยากาศดูโปร่งๆ ไม่ทึบตัน ได้บรรยากาศแบบหมู่บ้านโซนยุโรปเลยนะคะ

    บรรยากาศของถนนในโครงการดูเคลียร์ๆ โล่งๆ เนื่องจากโครงการเก็บสายไฟลงดิน และมีการติดตั้งไฟถนนเป็นระยะๆ ให้ตลอดทางค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
    • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 33.2 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร
    • สระเด็ก ขนาด 12 x 7 ม. ลึก 0.5 เมตร
    • ห้องออกกำลังกาย
    • ห้องดูหนัง
    • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 4 ไร่
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 40 จุด
    • รั้วรอบโครงการสูง 2.8 เมตร
    • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
    • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
    • Key Card Access ระยะไกล
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กั้นกระดก


    Product Walkthrough

    โครงการ Lake Serene พระราม 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบบ้านสไตล์ยุโรป ถ้าใครชอบความคลาสสิค ชอบซุ้มทางเข้าบ้านแบบ Arch โค้งๆ ก็คงชอบที่นี่เลยนะ เพราะหากลองไปดูโครงการอื่นๆ ในทำเลนี้ก็จะเห็นบ้านสไตล์โมเดิร์นกันเป็นส่วนใหญ่ และเหมาะกับครอบครัวที่ชอบพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆ เพราะแต่ละแปลงของที่นี่นั้น เริ่มต้นที่ 100ตร.ว. เลยค่ะ

    ตอนนี้โครงการขายเฟส 1 หมดไปแล้วนะคะ จึงเริ่มเปิดเฟส 2 มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 146 หลัง มีทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้ค่ะ

    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Meadow ที่ดิน 101.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 10.68 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 9.39 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Eden ที่ดิน 103.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 11.75 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 10 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Haven ที่ดิน 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 13.94 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 12.54 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Porch ที่ดิน 129.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 410 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 32.9 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 31.29 ล้านบาท

    เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังคือ บ้านแบบ Meadow และแบบ Porch ซึ่งตกแต่งไว้เป็นตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าบ้านจริงที่ขายนั้นจะเป็นบ้านเปล่าไม่มีการตกแต่ง ซึ่งวันที่ไปเก็บข้อมูลทางเซลล์แจ้งว่ามีโปรโมชันแถมเคาน์เตอร์ครัวให้ และถ้าเป็นแบบบ้าน Porch จะมีแถมแอร์ Daikin ขนาด . 48,000 BTU จำนวน 2 ตัว จะเป็นอย่างไรตามไปชมกันเลยค่ะ

    แบบบ้าน Meadow เป็นแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการ ให้พื้นที่ใช้สอยมาขนาด 197 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 101.5 ตร.ว. เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่มีสมาชิกในบ้าน 4-5 คน การออกแบบเอื้อให้อยู่กันได้แบบ 3 Generations โดยจะมีห้องนอนชั้นล่างเพื่อให้จัดเป็นห้องผู้สูงอายุได้ ส่วนชั้นบนจะพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นของเด็กๆ หรือเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือกันก็ได้

    ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับจอดรถในร่ม 1 คัน และสามารถจอดกลางแจ้งได้อีก 1 คัน เราสามารถเข้าบ้านได้จากสองทาง คือทางประตูหลักหน้าบ้านที่เชื่อมเข้าห้องรับแขก และทางประตูเล็กที่เชื่อมกับที่จอดรถ จากทางเข้าฝั่งห้องรับแขกหน้าบ้าน เข้ามาด้านในจะเป็น Common Area ที่รวมพื้นที่ของห้องรับแขกและพื้นที่ทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน ถัดเข้าไปด้านในตัวบ้านจะแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ โดยห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่ติดกับห้องนอน 1 ทำให้สามารถจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้สะดวก แต่แบบนี้ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปนิดหน่อยเพราะต้องแชร์ห้องน้ำกับ Common Area ด้วยนะ อีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่หลังบ้านเป็นห้องครัว ก็จะมีประตูเปิดออกไปหลังบ้านที่เป็นลานซักล้าง ส่วนตำแหน่งของบันไดจะอยู่ตรงกลางบริเวณด้านหลังของบ้านและมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดให้ด้วยค่ะ

    ขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 จะเจอพื้นที่อเนกประสงค์ เรียกว่าเป็น Family Area อีกตำแหน่งหนึ่งที่สามารถจัดฟังก์ชันอะไรก็ได้ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลย พื้นที่อเนกประสงค์นี้จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งขวาของบันไดได้พื้นที่ใช้สอยฝั่งขวาทั้งหมด และเป็นห้องเดียวที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งซ้าย ซึ่งต้องแชร์ห้องน้ำที่ชั้นบนนี้ร่วมกันนะคะ

    ภายนอกของบ้านแบบ Meadow ถูกดีไซน์ออกมาในไสตล์ยุโรป ซุ้มประตูโค้งตรงกลางให้ความรู้สึกคลาสสิคมากๆ และยังดูหรูหราจากซุ้มประตูที่สูง 2 ชั้น โดยรวมของบ้านถูกตกแต่งด้วยโทนสีครีม ช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสง หลังคามีความยาวยื่นออกมาพอสมควร ทำให้บังแดดหรือฝนได้ พื้นที่โดยรอบบ้านจะไม่ได้ปลูกต้นไม้ให้ฟูเต็มแบบนี้นะคะ สำหรับบ้านจริงที่ได้จะปูหญ้าไว้ให้เท่านั้นค่ะ

    บ้านตัวอย่างยังไม่ได้ติดตั้งประตูรั้วไว้ เราจึงยังไม่เห็นภาพ อธิบายคร่าวๆ ว่าเป็นรั้วเหล็กซี่ๆ ทาสีเทาดำแบบเดียวกับรั้วบ้าน ทำให้ดูโปร่งแต่จะไม่ช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวภายในบ้านค่ะ

    จุดทิ้งขยะจะอยู่ที่มุมรั้ว เราสามารถทิ้งจากด้านในบ้านได้เลยไม่ต้องเดินออกมาค่ะ

    ด้านหน้าบ้านจะมีประตูทางเข้า 2 ทางค่ะ คือทางเข้าจากประตูหลักที่ซุ้มโค้ง และทางเข้าจากทางที่จอดรถค่ะ ก่อนเข้าในตัวบ้านจะพาไปชมบรรยากาศรอบๆ ตัวบ้านกันก่อนนะคะ

    โครงการเอาใจคนชอบพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆ จึงแบ่งเนื้อที่แต่ละแปลงมาให้ 100 ตร.ว. ขึ้นไป โดยพื้นที่รอบบ้านที่ให้มาจะปูหญ้าไว้ให้เรียบๆ ไม่ได้มีต้นไม้ใหญ่และไม่ได้ทำทางเดินในสวนมาให้นะคะ

    สำหรับพื้นที่สวนข้างตัวบ้านจะเหลือพื้นที่เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินที่เลือก แต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากัน อย่างบ้านตัวอย่างมีพื้นที่ข้างบ้านเยอะก็สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ หรือจัดสวนเพื่อสร้างบรรยากาศเขียวๆ ให้กับเฉลียงข้างบ้านได้

    พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านก็มีพื้นที่เหลือพอให้ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้อีกเช่นกัน ซึ่งหลังบ้านนี้จะมีเฉลียงของห้องนอนชั้นล่างและลานซักล้างที่เชื่อมกับห้องครัว หากใครจะต่อเติมหลังบ้านเพิ่ม แนะนำให้ลงเสาเข็มลึก 22 เมตร ให้เท่ากับตัวบ้าน เพราะหากในอนาคตที่ดินมีการทรุดตัว พื้นที่ส่วนต่อเติมจะได้คงระดับเท่าๆ กับตัวบ้านนะคะ

    บริเวณด้านข้างอีกฝั่งของบ้านจะมีพื้นที่เหลือให้สามารถทำเป็นทางเดินเชื่อมจากลานซักล้างไปยังพื้นที่หน้าบ้านได้ ซึ่งบ้านจริงที่ได้จะไม่ได้มีทางเดินมาให้แบบนี้นะ ทางโครงการจะปูหญ้ามาให้ ซึ่งเราสามารถมาออกแบบพื้นที่สวนตามแบบที่เราชอบได้เลย

    มาดูในส่วนของพื้นลานจอดรถหน้าบ้าน ทางโครงการลงเสาเข็มมาให้ลึก 22 ม. เท่ากับตัวบ้าน ซึ่งเป็นส่วนที่ดีเลยนะ เพราะในอนาคตเมื่อเกิดดินทรุดตัว พื้นลานจอดรถก็จะยังคงระดับไว้เท่ากับตัวบ้านค่ะ

    พื้นลานจอดรถปูด้วย Stamped Concrete ตามบ้านตัวอย่าง ในส่วนของหลังคาบ้านจะคลุมที่จอดรถได้คันเดียวนะคะ สำหรับบ้านที่มีรถมากกว่า 1 คัน คงต้องต่อกันสาดให้มีที่จอดรถในร่มเพิ่มค่ะ

    ประตูเข้าบ้านฝั่งโรงรถจะเป็นประตูไม้บานเปิด-ปิดที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้านอีก 2 ขั้นบันได ด้านข้างประตูมีตู้เก็บของสำหรับใช้เก็บพวกอุปกรณ์ทำสวน และมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งข้อดีของการมีปลั๊กไฟนอกบ้าน ทำให้สามารถต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ารอบบ้านได้สะดวก

    ถัดมายังประตูใหญ่ที่เป็นทางเข้าหลักของบ้าน พื้นที่ส่วนนี้อยู่ใต้หลังคาทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก โครงการติดโคมไฟสไตล์ยุโรปไว้ 2 ฝั่งทางเข้าบ้าน ดูเข้ากับซุ้มประตูดีนะคะ ส่วนบานประตูเป็นประตูไม้จริงเนื้อแข็ง ตรงกลางเป็น Tempered Glass หนา 6 มม. ทำลวดลายด้วยการพ่นทราย

    เฉลียงด้านหน้าประตูจะยกขึ้นจากระดับพื้นดินด้วยบันได 3 ขั้น ประโยชน์ของการยกระดับคือช่วยกันน้ำ กันฝุ่น ไม่ให้เข้าบ้าน เช่น เวลารดน้ำต้นไม้บริเวณหน้าบ้านก็ไม่ต้องระวังมากนัก วัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนสีเทา ข้อดีคือช่วยกันลื่นได้ดี ส่วนพื้นในตัวบ้านจะยกระดับจากเฉลียงหน้าประตูอีกระดับหนึ่ง ซึ่งพื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาวค่ะ

    ต่อไปจะพาชมด้านในบ้าน ซึ่งจะเริ่มเข้าบ้านจากประตูหลักตรงกลางนะคะ

    อุปกรณ์ประตูของ Hafele ขนาดจับพอดีมือมือค่ะ ประตูฝั่งนอกบ้านจะใช้กุญแจเป็นตัวล็อกค่ะ ส่วนด้านในจะเป็นตัวหมุน ดูแข็งแรงดีนะคะ

    เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็น Common Area ที่รวมห้องรับแขกและพื้นที่ทานอาหารไว้ในบริเวณเดียวกัน โดยฝั่งซ้ายเป็นห้องรับแขก ส่วนฝั่งขวาเป็นพื้นที่ทานอาหาร ที่ชั้น 1 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว สำหรับดวงไฟในบ้านตัวอย่างจะติดไฟดาวน์ไลท์และโคมไฟแขวน ส่วนบ้านจริงจะให้เฉพาะไฟดาวน์ไลท์นะคะ

    มาดูรายละเอียดกันทีละห้อง เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน ชุดโซฟาที่จัดไว้ในบ้านตัวอย่างเป็นชุดโซฟา 6 ที่นั่ง ซึ่งก็พอเหมาะกับขนาดของบ้านที่รองรับได้ประมาณ 5-6 คน

    พื้นที่ผนังสำหรับติดทีวีมีความกว้างประมาณ 4 ม. สามารถ Built-in เป็นชั้นวางทีวีและตู้เก็บของแบบเต็มผนังได้เลย พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวี 3.6 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดใหญ่เกิน 60 นิ้วได้เลยนะคะ

    บริเวณนี้จะได้ช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งของผนัง หากนั่งเล่นในช่วงกลางวันจะร้อนสักนิดต้องติดม่านช่วย แต่ถ้าทำสวนรอบๆ และมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาจะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี ช่องแสงฝั่งหนึ่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่มีทั้งส่วนที่เป็นบาน Fixed และที่เป็นบานเลื่อนให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ ช่องแสงอีกฝั่งเป็นประตูบานเลื่อนที่เชื่อมต่อออกไปเฉลียงข้างบ้านได้

    ประตูกระจกเป็นบาน Fixed ผสมบานเลื่อน และเป็นช่องแสงธรรมชาติให้แก่ตัวบ้าน ตัวบานเลื่อนเป็นแบบเปิดตรงกลาง 2 ด้าน มีช่องทางเดินเข้า-ออกกว้างประมาณ 1.4 ม. ซึ่งแบบนี้ทำให้ใช้งานได้สะดวกกว่าแบบประตูบานเลื่อนที่เปิดได้ทีละด้านนะคะ

    ลักษณะของมือจับเป็นแบบฝังกับประตู และมีตัวล็อกที่มือจับประตู ตามมาตรฐาน

    ตัวรางประตูถูกกดให้มีระดับที่เท่ากับพื้นบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดบานประตูนะคะ และพื้นเฉลียงจะลดระดับลงประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินตามบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

    พื้นที่เฉลียงมีขนาด 2.1 x 3.8 ม. กว้างพอให้เราสามารถวางชุดโต๊ะสนาม เพื่อจัดเป็นมุมนั่งเล่นในสวนอีกมุมหนึ่งนะคะ

    กลับเข้ามาในบ้าน มาดูในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งโครงการวางโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็มีขนาดที่เหมาะสมดีนะเพราะเหลือพื้นที่โดยรอบให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้

    ส่วนตัวแล้วชอบพื้นที่ทานอาหารที่อยู่ในบริเวณเดียวกับห้องรับแขกแบบนี้นะ เพราะถึงแม้สมาชิกในบ้านทำกิจกรรมต่างกัน เช่น คุณพ่อคุณแม่นั่งดูทีวี ส่วนคุณลูกนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่ทุกคนก็ยังพูดคุยกันได้ มองเห็นกัน ทำให้ได้บรรยากาศของความอบอุ่นในครอบครัวดีค่ะ

    เดินลึกเข้ามาในตัวบ้านอีกหน่อยจะเป็นพื้นที่ของโซนพักอาศัยในชั้นล่าง ก็จะมีห้องนอน 1 ที่อยู่ติดกับห้องน้ำส่วนกลาง ทำให้สามารถจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้สะดวก แต่อาจจะติดขัดนิดหน่อยหากแขกที่มาเยี่ยมต้องการเข้าห้องน้ำ ในเวลาเดียวกับที่ผู้พักอาศัยอาบน้ำ ก็คงต้องรอกันสักหน่อย หรือต้องขึ้นไปใช้ห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นบนแทน ติดกันเป็นห้องเก็บของที่จะอยู่บริเวณใต้บันไดค่ะ

    บานประตูของห้องน้ำและห้องนอนในบ้านตัวอย่างยังไม่ได้ติดตั้งไว้ ซึ่งของจริงที่ได้สำหรับห้องน้ำจะได้เป็นประตู UPVC สำเร็จรูป ส่วนประตูห้องนอนเป็นประตูไม้ HDF ที่มีคุณสมบัติในการทนความชื้นได้ดี ก็เป็นไปตามมาตรฐานของบ้านราคานี้นะคะ

    ห้องน้ำที่ได้จะติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์มาครบถ้วนตามบ้านตัวอย่าง ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ที่แตกต่างกันคือผิวสัมผัส โดยพื้นจะปูด้วยกระเบื้องผิวด้าน เพื่อช่วยกันลื่นต่างจากผนังที่จะมีผิวเคลือบ ดูเงาๆ สวยกว่า ซึ่งของจริงก็จะให้กระเบื้องลายนี้

    อ่างล้างมือและก๊อกน้ำของ Kohler ใช้งานได้สะดวก เคาน์เตอร์นี้กว้างดีนะคะ มีพื้นที่รอบอ่างให้พอวางอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำได้เยอะเลย

    ใต้อ่างล้างหน้าเป็นตู้เก็บของแบบมีหน้าบานปิดมาให้ ภายในเป็นช่องเก็บของมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถใส่ผ้าผืนเล็กๆได้ แต่ก็อย่าลืมเผื่อพื้นที่ไว้สำหรับซ่อมท่อน้ำด้วยนะ

    หน้าบานของตู้ที่โครงการเลือกมามีดีเทลของการเซาะร่องให้เป็นมือจับ ซึ่งดีนะเพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องมือจับตู้ชำรุดเลย

    กระจกที่โครงการติดตั้งให้ในห้องน้ำเป็นบานใหญ่ดีนะคะ ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นได้มากทีเดียว

    โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ Kohler มาเป็นเซตกับสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ พื้นที่รอบโถสุขภัณฑ์มีการเว้นพื้นที่ไว้นิดหน่อยสำหรับการหยิบทิชชู่ได้สะดวก

    พื้นที่อาบน้ำถูกกั้นด้วยฉากกระจกนิรภัย ซึ่งเป็นบานสวิงเปิดปิด มีขนาดให้เดินเข้าออกได้สะดวก

    ทางโครงการเก็บรายละเอียดของขอบฉากกั้นอาบน้ำมาเรียบร้อย ด้วยการติดพลาสติกกันกระแทกตรงขอบประตูกระจก เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ด้านหลังประตูติด Door Stopper เพื่อกันฉากกั้นกระแทกไว้ด้วย ส่วนมือจับประตูเป็นแบบที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้นะคะ

    ภายในพื้นที่อาบน้ำก็มีการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้เรียบร้อย มาพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นของ Electroluxe ซึ่งจะมาเป็นแพ็คคู่แบบนี้ในทุกห้องที่มีฝักบัวเลย

    อุปกรณ์อาบน้ำ ได้แก่ ฝักบัวและก๊อกแบบผสมของ Kohler มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัด กว้างประมาณ 1.2 x 0.9 เมตร พอให้ใช้งานได้ตามปกติ

    พื้นห้องน้ำถูกลดระดับจากพื้นที่อาศัยส่วนอื่นๆ ลงมาเล็กน้อย ป้องกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ และพื้นที่ส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงมาอีกนิดหน่อย เพื่อให้เกิดความเป็นสัดส่วนของพื้นที่เปียก-แห้งในห้องน้ำ

    ห้องนอนที่ชั้นล่างมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ เพราะจะให้เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ก็คงจะไม่สะดวก การจัดห้องไว้ที่ชั้นล่างในลักษณะนี้จึงเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า หรือจะจัดเป็นห้องนอนสำหรับแขกก็เหมาะสมเช่นกัน เพราะอยู่ชั้นล่างไม่ต้องขึ้นไปชั้น 2 ของบ้านที่จะมีห้องส่วนตัวของสมาชิกคนอื่นในบ้านค่ะ

    ภายในห้องมีพื้นที่กว้าง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหัวเตียง ซึ่งห้องตัวอย่างลองวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ถ้าหากเราต้องการวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็มีพื้นที่พอให้วางได้นะคะ

    ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็กว้างทีเดียว จะจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งตามบ้านตัวอย่าง หรือจะ Built-in เป็นชั้นวางทีวีเลยก็ได้ เพราะที่ผนังมีการจัดชุดปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

    ด้านข้างเตียงมีประตูกระจกบานเลื่อน ให้ออกไปเฉลียงด้านหลังบ้านได้ ซึ่งบานกระจกนี้เป็นช่องแสงของห้องนอน ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาจากทางนี้ได้ค่ะ

    พื้นที่บริเวณเฉลียงของห้องนอน เป็นพื้นที่แนวยาว ไม่กว้างมากนัก แต่ก็พอให้วางชุดโต๊ะสนามเล็กๆ หรือเก้าอี้สำหรับนั่งชมวิว รับลม ในสวนได้

    มาดูพื้นที่ครัวกันต่อนะคะ ตำแหน่งของห้องครัวจะอยู่ถัดจากบันได เป็นห้องครัวแบบเปิดไม่ได้มีประตูกั้น ถ้าใครอยากได้เป็นครัวปิด เพราะกลัวกลิ่นและควันฟุ้งในบ้าน ก็สามารถหาช่างมาต่อเติมประตูเพิ่มได้นะคะ

    พื้นห้องครัวจะต่างจากพื้นที่พักอาศัยส่วนอื่นในบ้าน โดยจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคแบบผิวด้าน เพื่อช่วยกันลื่นและดูแลรักษาง่ายกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ

    ตำแหน่งห้องครัวของบ้าน Type นี้มีข้อดีนะคะ คือห้องครัวจะเชื่อมกับประตูบ้านฝั่งที่จอดรถเลย เวลาคุณแม่บ้านที่ไปช้อปปิ้งซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับมา ก็สามารถหิ้วของเข้าห้องครัวได้สะดวก แค่เปิดประตูเข้ามาก็เจอตู้เย็นแล้ว ขนาดพื้นที่เว้นไว้มีขนาดพอให้ใส่ตู้เย็นขนาด 12.4 คิว ได้ตามบ้านตัวอย่าง หรือจะเลือกขนาดใหญ่กว่านี้ได้อีกนิดหน่อย เพื่อให้เหมาะสมกับครอบครัวเราค่ะ

    ช่วงที่ไปเก็บข้อมูลมีโปรโมชันแถมเคาน์เตอร์ในห้องครัวตามแบบในบ้านตัวอย่าง จะขาดแค่ Hop กับ Hood เท่านั้นที่เจ้าของบ้านต้องติดตั้งเพิ่ม

    เคาน์เตอร์ครัวที่ให้จะได้มาทั้ง 2 ฝั่ง จัดแบบครัวขนาน มีระยะระหว่างเคาน์เตอร์ประมาณ 1.4 ม. ก็กว้างพอที่จะใช้งานได้สะดวก

    มาดูรายละเอียดของเคาน์เตอร์ครัวทีละฝั่งนะคะ เริ่มจากเคาน์เตอร์ฝั่งตู้เย็นกันก่อน เป็นเคาน์เตอร์ขนาด 5 ช่อง ซึ่งจะติดตั้งซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย และจะเว้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับติดตั้ง Hop & Hood นอกจากนี้ก็จะได้ตู้ลอยด้านบนอีก 5 ตู้เป็นตู้บานเปิดปิดไว้สำหรับเก็บของใช้ภายในครัวได้เยอะเลยค่ะ

    ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้บานเปิดปิด หน้าบานเป็นไม้ลามิเนต ไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ของใช้ในครัว แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะ เพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจานค่ะ

    ส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวฝั่งนี้ จะมีฟังก์ชันหลักๆ เป็นซิงค์ล้างจานที่ติดตั้งมาให้เป็นชนิด 2 หลุม ตำแหน่งจะอยู่ตรงกับหน้าต่างภายในห้องครัว ซึ่งเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 1 บาน ให้สามารถเปิดเพื่อระบายกลิ่นและควันจากการทำอาหารภายในห้องครัวได้ และยังเป็นช่องให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามา ทำให้ห้องครัวแห้ง ไม่อับชื้นด้วยค่ะ

    เคาน์เตอร์ครัวอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร ให้พื้นที่มาเยอะด้วยเคาน์เตอร์ขนาด 4 ช่อง จึงใช้งานได้สะดวก Top เคาน์เตอร์ได้เป็นหินสังเคราะห์ ซึ่งถือว่าเป็น Spec มาตรฐานของโครงการระดับนี้ ด้านข้างเคาน์เตอร์เป็นตำแหน่งที่โครงการเตรียมไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ

    ใต้เคาน์เตอร์ครัวเป็นตู้ที่แบ่งชั้นไว้สำหรับเก็บจานชามได้เยอะทีเดียว น่าจะเพียงพอกับการใช้งานนะคะ

    ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้บานเปิด 2 ตู้ ภายในแบ่งเป็นชั้นๆ ซึ่งระยะค่อนข้างสูงทีเดียว สำหรับแม่บ้านไซส์มินิแนะนำให้ซื้อบันไดเล็กๆ มาไว้ในบริเวณครัวก็ดีค่ะ

    ด้านในสุดของห้องครัวจะมีประตูทางออกไปลานซักล้างหลังบ้าน เป็นประตูกระจกเขียวตัดแสง จึงเป็นช่องให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาในครัวได้ ครัวจึงดูโปร่งโล่ง น่าใช้งานดีค่ะ

    วัสดุมือจับเป็นแสตนเลสจึงทนต่อการใช้งานมากกว่าแบบอลูมิเนียม และมีตัวล็อกประตู 1 ตำแหน่ง

    ลานซักล้างด้านหลังบ้านแบ่งเป็น 2 ระดับ ระดับบนที่ติดกับประตูบ้านจะเป็นพื้นที่ในร่มที่มีหลังคาคลุม ถ้าอยากจะติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้บริเวณนี้แทนในตัวบ้านก็ได้ เพราะโครงการได้ติดตั้งปลั๊กไฟและ ก๊อกน้ำไว้ให้ในบริเวณนี้แล้ว ส่วนลานซักล้างจะลดระดับลงอีกนิดหนึ่ง มีพื้นที่ให้ใช้งานได้สะดวกด้วยขนาด 1.9 x 1.2 ม. ค่ะ

    ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ระยะลูกตั้งและลูกนอนได้มาตรฐาน ใช้งานได้สะดวกดี

    วัสดุพื้นของบันไดเป็นไม้จริงเนื้อแข็ง ขั้นบันไดกว้าง 1.2 ม. จึงเดินขึ้นลงได้สะดวกดี

    ราวกันตกจะมีให้ตลอดแนวบันได วัสดุเป็นลูกกรงเหล็กทาสีขาวตกแต่งด้วยไม้จริงเนื้อแข็ง

    ชานพักบันไดเป็นขั้นสี่เหลี่ยมเต็มขั้น มีขนาดกว้าง ทำให้ยืนพักได้สะดวกดีค่ะ

    ช่องแสงของบันไดเป็นบานกระจกสูงและมีตำแหน่งอยู่ตรงกลางโถงบันได ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามามาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหน้าต่างของโถงบันไดจะหันไปตรงกับหน้าต่างของบ้านตรงข้าม จึงแนะนำให้ติดม่าน หรือปลูกต้นไม้บังสายตาในบริเวณนี้ เพื่อไม่ให้เสียความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยค่ะ

    ขึ้นมายังชั้น 2 จะพบพื้นที่อเนกประสงค์เป็น Family Area ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ในชั้นนี้ฝ้าเพดานจะมีความสูง 2.6 ม. พื้นปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้

    ติดกับบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 1.5 x 1.4 ม. เป็นพื้นที่โล่งๆ ให้เจ้าของบ้านตกแต่งตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เช่น ทำเป็นที่ตั้งหิ้งพระ หรือ Built-in เป็นตู้โชว์ ตู้เก็บของก็ได้ค่ะ

    บ้านตัวอย่างจัด Family Area ไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นอีกตำแหน่งหนึ่งในบ้าน เผื่อเวลาที่ชั้นล่างมีแขก สมาชิกที่เหลือก็สามารถขึ้นมานั่งเล่นบนนี้ได้ สำหรับบ้านจริงเป็นพื้นที่เปล่า ผู้อยู่อาศัยสามารถจัดฟังก์ชันได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลย

    ตำแหน่งของ Family Area บนชั้นนี้ จะตรงกับตำแหน่งของช่องหน้าต่างที่เป็นทรงโค้ง รูปนี้ถ่ายให้ดรอปแสงมานิดหน่อยเพื่อให้เห็นลายบนหน้าต่าง เพราะบ้านจริงที่ส่งมอบก็จะได้หน้าต่างมีลายแบบพ่นทรายมาให้เหมือนในบ้านตัวอย่างนะคะ

    ถัดจาก Family Area จะมีประตูทางเข้า Master Bedroom อยู่ข้างๆ

    พื้นห้องนอนทั้งหมดบนชั้นนี้จะเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ต่อเชื่อมกับ Family Area ไปเลย ซึ่งจะมีธรณีประตูกั้นไว้หน่อย เพื่อให้ประตูห้องปิดสนิทค่ะ

    Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน มีครบทุกฟังก์ชัน ได้แก่ ห้องน้ำในตัว และ Walk-in Closet ภายในห้องมีช่องหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกผ่านเข้ามาได้มาก ทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่งและอบอุ่น

    โดยบ้านตัวอย่างจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้เป็นไอเดียในการตกแต่ง ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะได้เป็นบ้านเปล่านะ พื้นที่ใช่้สอยภายในห้องกว้างพอให้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้แบบมีพื้นที่เหลือให้เดินรอบเตียงได้สะดวก และมีพื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งด้านหลังโต๊ะหัวเตียงจะติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือเสียบปลั๊กโคมไฟไว้ให้เรียบร้อย

    บ้านตัวอย่างจัดพื้นที่ด้านปลายเตียงให้เป็นชั้นวางทีวี ซึ่งจริงๆพื้นที่บริเวณค่อนข้างกว้าง สามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของเต็มผนังได้เลยนะคะ

    เสียดายนิดนึงที่ Master Bedroom ของบ้าน Type นี้ไม่ได้มีระเบียงมาให้ จะได้มาเป็นหน้าต่างบานใหญ่แบบบาน Fixed ผสมบานเลื่อนให้สามารถเปิดระบายอากาศได้

    จากหน้าต่างมองกลับเข้ามายังพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง จะมีพื้นที่สำหรับ Walk-in closet ที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ

    ขนาดของพื้นที่ Walk-in closet ค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็มผนัง 2 ฝั่งเลย ส่วนที่น่าจะถูกใจสาวๆ คือมีหน้าต่างบริเวณนี้ด้วย ทำให้นั่งแต่งหน้าได้สะดวก มั่นใจว่าหน้าไม่ลอยนะ ส่วนด้านในสุดเป็นทางเข้าห้องน้ำ

    ห้องน้ำในตัวเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังห้องทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องเซรามิค แต่จะพิเศษกว่าห้องน้ำอื่นๆในบ้านนิดหน่อย ตรงที่ผนังในพื้นที่อาบน้ำบางส่วนจะถูกตกแต่งกระเบื้องโมเสค

    สำหรับสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ในห้องที่ให้ก็ครบถ้วนเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 2.25 x 1 ม. กว้างดีนะคะ ใช้งานได้สะดวกสบายทีเดียว

    ออกมาจากห้องนอนใหญ่จะพาไปชมพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของบ้าน เป็นตำแหน่งของห้องนอนอีก 2 ห้อง ซึ่งทั้ง 2 ห้อง ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ ต้องแชร์ห้องน้ำบนชั้นนี้ร่วมกัน

    มาดูห้องนอน (2) ทางฝั่งซ้ายก่อน เข้ามาในห้องความรู้สึกแรกคือห้องโปร่งดีนะ เพราะได้หน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องไม่อึดอัด ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนขนาดเล็กสุดในบ้าน แต่ก็มีพื้นที่กว้างพอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ ได้ครบ ในห้องนี้หากวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็จะเหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

    บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์ปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเราสามารถเก็บเป็นไอเดียในการตกแต่งได้ค่ะ

    อีกฝั่งหนึ่งของห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ แต่จะไม่ได้เต็มผนังนะคะ เพราะจะต้องเว้นพื้นที่ไว้ให้เป็นระยะเปิดปิดประตูด้วยค่ะ

    ถัดมาที่ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้ มีขนาดและวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำเหมือนกับห้องน้ำที่ชั้นล่างเลย แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งจึงใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี

    ห้องนอน (3) อีกห้องหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนที่พาไปชมมาสักครู่นี้นะ หรือเรียกได้ว่าเป็นห้องนอนลูกคนโปรดก็ได้ ห้องนี้มีข้อดีที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงได้สะดวก เป็นห้องที่ได้หน้าต่างบานกว้าง ซึ่งนอกจากจะได้วิวภายนอกแล้ว ยังเป็นช่องแสงธรรมชาติของห้องด้วยค่ะ

    ห้องตัวอย่างตกแต่งพื้นที่ปลายเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้มีขนาดกว้างพอให้ Built-in เป็นทั้งชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ และโต๊ะเขียนหนังสือได้ แต่จะไม่ได้เต็มผนังนะคะ เพราะจะต้องเว้นพื้นที่ไว้ให้เป็นระยะเปิดปิดประตูด้วย

    พื้นที่ด้านข้างเตียงอีกฝั่งมีพื้นที่ให้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ได้สบายๆ พอสำหรับการใช้งานได้สะดวกค่ะ

    มาดูบ้านอีก Type ที่มีขนาดใหญ่สุดในโครงการคือ แบบ Porch พื้นที่ใช้สอย 410 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมห้องแม่บ้าน ซึ่งแบบนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดี ลงตัวกับการอยู่อาศัยของสมาชิกในบ้าน 6-7 คน นะคะ

    มาดูที่ผังชั้นล่างกันก่อนจะสามารถแยกพื้นที่ใช้สอยหลักๆออกมาได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนแรก คือพื้นที่ห้องนั่งเล่น พื้นที่ทานข้าวและส่วนครัวแบบ Pantry ที่อยู่ติดกัน โดยพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ใช้สอยหลักของบ้านที่สมาชิกทุกคนในบ้านจะได้มาพบปะกัน จึงทำเป็นพื้นที่โล่งๆ เชื่อมต่อ ไม่ให้เกิดการแบ่งเป็นห้องเล็กๆ ซึ่งจะทำให้อึดอัด ซึ่งแบบบ้าน Type นี้ จะมีห้องน้ำแขกแบบ Powder Room มาให้อีก 1 ห้อง จึงไม่ต้องแชร์กับห้องนอนที่อยู่ชั้นล่าง ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ส่วนที่ 2 คือพื้นที่ชั้นล่างที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จึงจัดห้องนอนและห้องทำงานมาไว้ในโซนเดียวกัน ตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการห้องนอนในชั้นล่างให้ผู้สูงอายุหรือใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขก ภายในมีห้องน้ำในตัวจึงสามารถใช้งานได้สะดวก ส่วนที่ 3 คือโซนแม่บ้าน ที่ถูกออกแบบให้มีทางเข้าออกของตัวเองจากนอกบ้าน ทำให้เวลาที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านไม่อยู่ก็สามารถล็อกประตูบ้านได้หมด และโซนแม่บ้านถูกจัดตำแหน่งให้อยู่ติดกับครัวไทย จึงเข้ามาใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านส่วนอื่นๆของตัวบ้านเลยค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นฝั่งซ้ายและขวาเชื่อมกันด้วยโถงทางเดินตรงกลาง สำหรับ Type นี้ก็จะมี Family Area เช่นเดียวกับบ้านแบบแรก บนชั้นนี้มีห้องนอน 4 ห้อง แบ่งเป็นเป็นห้องนอนขนาดเล็ก 1 ห้อง ซึ่งมีประตูเชื่อมออกไปยังส่วนของระเบียงด้านนอกได้ , ห้องขนาดกลาง 2 ห้อง และห้อง Master Bedroom อีกหนึ่งห้อง ซึ่งข้อดีของแบบบ้านนี้คือทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวนะคะ

    ภายนอกของบ้านแบบ Porch ถูกออกแบบมาในสไตล์ยุโรปเช่นเดียวกับบ้านหลังแรก Mood&Tone เหมือนกันเป๊ะ ทำให้บรรยากาศของทั้งหมู่บ้านไปในทางเดียวกัน ดูไม่ขัดตา วัสดุต่างๆ ที่ให้มาก็จะเหมือนกับบ้านแบบแรกเลยนะคะ

    พื้นที่สวนรอบบ้านจัดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น บ้านจริงที่ได้จะปูหญ้ามาให้ ไม่ได้มีทางเดินในสวน ไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่มาให้นะคะ ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะมี 2 ตำแหน่งเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก คือประตูทางฝั่งที่จอดรถ และประตูหลักตรงกลางที่เป็นซุ้มโค้งค่ะ

    ด้านข้างบ้านฝั่งหนึ่งสามารถทำเป็นทางเดินในสวน เพื่อเชื่อมไปพื้นที่ด้านหลังบ้านได้

    เนื่องจากตำแหน่งของแปลงบ้าน Type นี้จะอยู่รอบทะเลสาบทั้งหมดและหันด้านหลังบ้านเข้าหาทะเลสาบ ทำให้โครงการพยายามจัดพื้นที่ด้านหลังบ้านให้มีพื้นที่กว้างกว่าด้านหน้าและด้านข้างบ้าน เพื่อให้มีพื้นที่นั่งเล่นในสวนกว้างๆ สำหรับชมวิวทะเลสาบ

    บริเวณสวนที่ติดกับทะเลสาบ เราสามารถออกแบบเป็นพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะสนาม ไว้นั่งเล่น รับลม ชมวิวได้ตามบ้านตัวอย่าง

    วิวที่ได้ก็จะเห็นทะเลสาบโล่งๆ แบบนี้ ดูสบายตาดีค่ะ

    ด้านข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งเหลือพื้นที่ไม่มาก ที่โครงการตั้งใจวางพื้นที่มาแบบนี้เพราะข้างบ้านฝั่งนี้เป็นโซนห้องพักอาศัยของแม่บ้าน มีลานซักล้างที่เชื่อมต่อจากครัวไทย จึงไม่จำเป็นต้องเสียพื้นที่ข้างบ้านไปกับโซนนี้เยอะนักค่ะ

    เดินวนมาถึงฝั่งที่จอดรถด้านหน้าบ้านกันแล้ว ซึ่งโครงสร้างและวัสดุจะเหมือนบ้านหลังแรกเลย ต่างกันนิดหน่อยที่บ้านหลังนี้สามารถจอดรถได้ 3 คัน แบบมีหลังคาคลุมทั้งหมด และมีประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถด้วยเช่นกัน ส่วนฝั่งซ้ายมีทางให้เดินแยกเข้าโซนแม่บ้านได้เลย ทำให้การใช้งานดูเป็นสัดส่วน

    จากที่จอดรถเราสามารถเข้าบ้านจากทางประตูเล็กตรงนี้ก็ได้ หรือหากเป็นผู้สูงอายุที่ต้องใช้ Wheelchair ก็สามารถนั่งรถเข็นเข้าทางประตูหลักหน้าบ้านได้สะดวก

    มาต่อกันที่ประตูหลักของบ้านเป็นประตูเปิดปิดเช่นเดียวกับประตูของบ้านหลังแรก สเปควัสดุและขนาดที่ได้ก็เท่ากัน และยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นยุโรปด้วยซุ้มประตูโค้งเหมือนเดิมค่ะ

    เปิดประตูเข้ามาด้านในบ้านจะเจอ Foyer เป็นลำดับแรก พื้นที่บริเวณนี้เป็น Transition Area เพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าไปสู่พื้นที่พักผ่อนภายในบ้าน โดยบ้านตัวอย่างจะตกแต่งพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นตู้เก็บรองเท้าทั้งหมด เราสามารถดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้

    ผ่าน Foyer เข้ามาแล้วรู้สึกว่าถูกเปลี่ยนอารมณ์ด้วยพื้นที่รับแขกแบบ Double Space ภายในบ้านดูโปร่งด้วยกระจกบานใหญ่เต็มผนังทั้ง 2 ชั้น และหากตกแต่งตามบ้านตัวอย่างที่มีการติดโคมไฟระย้าก็จะออกมาในสไตล์ที่ดูหรูหรา แต่บ้านจริงที่ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่า ผนังทาสีขาวเรียบๆ ทำให้เราสามารถตกแต่งตามสไตล์ที่เจ้าของบ้านชอบได้เลย โครงการจะให้มาเฉพาะพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนตามบ้านตัวอย่างค่ะ

    บริเวณห้องรับแขกนี้มีพื้นที่ให้สามารถวางชุดโซฟาขนาด 8 ที่นั่ง ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้ และมีระยะดูทีวีถึง 5 เมตร จึงสามารถเลือกติดตั้งทีวีขนาดใหญ่กว่า 60 นิ้วได้เลย

    ถัดจากชุดโซฟาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเชื่อมออกไปเฉลียงด้านหลังบ้านได้

    พื้นที่เฉลียงที่ด้านหลังบ้านสามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนในสวนได้อีกมุม ซึ่งตรงนี้มีข้อดีคือ เวลาที่ลูกหลานนั่งเล่นในสวน คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถนั่งดูลูกๆ จากในบ้านได้ เพราะอยู่ในบริเวณที่มองเห็นกันได้สะดวกค่ะ

    ถัดจากห้องรับแขกเป็นพื้นที่รับประทานและ Pantry ครัว ซึ่งจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เชื่อมต่อกัน ส่วนตัวชอบพื้นที่แบบนี้ เพราะทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านจะได้มาพบปะกัน แม้ว่าจะทำกิจกรรมกันคนละอย่างก็สามารถพูดคุยกันได้

    โต๊ะทานอาหารที่บ้านตัวอย่างจัดโชว์ไว้มีขนาด 6 ที่นั่ง ก็พอเหมาะกับสมาชิกในบ้านที่มีจำนวน 5 ห้องนอน มีพื้นที่รอบโต๊ะทานข้าวเหลืออยู่พอสมควรให้สามารถดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้อย่างสบายๆ หากบ้านไหนมีสมาชิกมากกว่านี้ก็สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ เพราะรอบข้างยังมีพื้นที่เหลือค่ะ

    การวางตำแหน่งโต๊ะทานอาหารในบ้านตัวอย่าง จะจัดให้เชื่อมต่อกับ Pantry ครัว ซึ่งเป็นครัวเปิดไว้ใช้เตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ก็สะดวกดีไม่ต้องเดินไปใช้ครัวไทยก็ได้

    ในส่วนของ Pantry ครัวจะเป็นครัวเปิด ไว้ใช้ทำอาหารฝรั่ง หรือ อาหารอย่างง่ายที่ไม่มีกลิ่นมากนะคะ ซึ่งถ้าต้องการทำอาหารแบบหนักๆ จะมีครัวไทยแยกไว้ต่างหาก บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นครัวแบบ Island ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะให้มาเฉพาะ Pantry ครัวด้านหลัง ไม่ได้ให้ เคาน์เตอร์ Island ตรงกลางมานะคะ

    เคาน์เตอร์ครัวที่ให้จะได้ตามแบบในบ้านตัวอย่างเลย คือได้เคาน์เตอร์ด้านล่างแบบ 5 ช่อง มาพร้อมซิงค์ล้างจาน และ Hop&Hood นอกจากนี้ก็จะได้ตู้ลอยที่หน้าบานเป็นกระจกสีชา และได้ตู้เก็บของที่เว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็นด้วยค่ะ

    เตาไฟฟ้าที่ให้มาจะเป็นแบบ 2 หัว ของ Teka มาพร้อมเครื่องดูดควันของยี่ห้อเดียวกัน ซึ่งเป็นระบบดูดอากาศแบบหมุนเวียน จึงเหมาะกับการทำอาหารที่ไม่มีกลิ่นและควันแรงๆ นะคะ

    ส่วนเคาน์เตอร์ที่ให้มาก็จะทำเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิดปิดและตู้ลิ้นชัก หน้าบานเป็นไม้ลามิเนตก็ต้องระวังเรื่องความชื้นกันหน่อย

    สำหรับห้องครัวไทยจะให้มาเป็นห้องเปล่า ไม่ได้มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ วัสดุปูพื้น ผนัง ประตูและหน้าต่าง จะเหมือนกับห้องครัวของบ้านแบบแรกเลย

    ภายในห้องครัวไทยมีขนาดกว้างอยู่นะ สามารถจัดเคาน์เตอร์ครัวแบบตัว U ได้ และมีพื้นที่ให้สามารถทำอาหารได้สะดวก

    ด้านขวาของห้องมีประตูหลังบ้านออกไปยังพื้นที่ซักล้างและโซนแม่บ้าน

    ห้องแม่บ้านมีตำแหน่งที่สามารถเข้าจากพื้นที่รอบบ้านได้เลย ไม่ต้องเข้าผ่านตัวบ้าน ซึ่งข้อดีคือเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้านก็สามารถปิดประตูบ้านได้ทั้งหมด ส่วนแม่บ้านก็จะอยู่เฉพาะในพื้นที่ของเค้าที่ด้านหลังบ้าน นอกจากนี้ก็จะมีห้องน้ำแม่บ้านที่แยกไว้ให้เป็นสัดส่วน

    เข้ามาดูพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆภายในบ้านกันต่อค่ะ ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ทานอาหารจะตรงกับประตูทางเข้าฝั่งที่จอดรถ พอเข้ามาในบ้านจะเจอห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งเป็นแบบห้อง Powder Room และพื้นที่ 2 ฝั่งซ้ายขวาจะเป็นห้องเก็บของที่มีให้ 2 ห้องเลยค่ะ

    เนื่องจากบ้าน Type นี้มีห้องน้ำชั้นล่าง 2 ห้อง ห้องน้ำที่ใกล้กับห้องรับแขกจึงถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ Powder Room คือไม่ได้มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำนะคะ วัสดุอุปกรณ์และชุดสุขภัณฑ์ได้สเปคเดียวกับห้องน้ำในบ้านหลังแรกเลย ยกเว้นกระจกจะได้เป็นทรงกลมดูน่ารักเข้ากับขนาดห้องดีค่ะ

    ส่วนที่แตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆอีกอย่าง คือวัสดุกรุผนังและพื้นที่จะให้มาเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาวลายหินอ่อน ทำให้เข้ากับพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน Type นี้

    ถัดมาที่ห้องเก็บของมีความสูง 2.6 ม. เท่าส่วนอื่นๆ ของบ้าน จึงสามารถใช้เก็บของที่มีความใหญ่ได้ ไม่ได้มีแต่ห้องเก็บของใต้บันไดเหมือนบ้านแบบแรกแล้วนะคะ

    ต่อไปจะพาไปชมพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของบ้าน ซึ่งต้องเดินผ่านบันไดและ Foyer ไปนะคะ

    พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จึงมีตำแหน่งที่แยกออกมาจาก Common Area อยู่สักหน่อย โซนนี้ก็จะมีห้องทำงานและห้องนอนแบบที่มีห้องน้ำในตัวเลย

    ภายในห้องทำงานมีพื้นที่กว้างพอสมควรให้วางโต๊ะทำงาน และ Built-in ชั้นวางหนังสือได้แบบเต็มผนัง ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะให้มาเป็นห้องเปล่าๆ ก็สามารถจัดฟังก์ชันเป็นห้องอื่นๆ ได้ เช่น ห้องซ้อมดนตรี หรือห้องเลี้ยงเด็ก

    ภายในห้องมีประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อออกไปเฉลียงหน้าบ้าน ซึ่งบานกระจกนี้เป็นช่องแสงของห้อง ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูโปร่งดี

    พื้นที่บริเวณเฉลียงหน้าบ้านเป็นพื้นที่ใต้หลังคา ทำให้สามารถวางชุดเก้าอี้ สำหรับนั่งพักผ่อน ชมสวน จากมุมนี้ได้

    สำหรับห้องนอนชั้นล่างของบ้าน Type มีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เพราะมีห้องน้ำในตัวเลย หรือจะจัดเป็นห้องนอนสำหรับแขกก็เหมาะสมเช่นกัน

    ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างทีเดียว สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่ให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ และมีพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ 2 ฝั่ง บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งจากแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านประตูกระจกบานใหญ่เข้ามา สิ่งที่ทำให้ชอบห้องนี้ก็ตรงวิวนี่แหละ เพราะได้วิวเขียวๆ ของต้นไม้หลังบ้านแบบเต็มๆ และยังสามารถเปิดประตูเชื่อมไปยังสวนหลังบ้านได้เลยด้วย

    บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์ปลายเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ ซึ่งเราสามารถเก็บเป็นไอเดียในการตกแต่งได้ เพราะบ้านจริงที่ส่งมอบจะได้มาเป็นห้องเปล่าค่ะ

    ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ติดกับทางเข้าห้องเลย ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ ก็ดูเป็นสัดส่วนดีนะคะ

    ห้องน้ำในห้องนอนจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย พื้นและผนังห้องทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สเปคเดียวกับห้องน้ำส่วนกลางของบ้านหลังแรกเลยนะคะ

    วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำก็จะให้มาเหมือนกับบ้านตัวอย่าง หลักๆ ก็จะใช้ยี่ห้อ Kohler เหมือนกับบ้านแบบแรกอีกเช่นกัน มีหน้าต่างให้ 1 ตำแหน่ง ทำให้มีช่องถ่ายเทอากาศภายในห้องน้ำได้ ทำให้ห้องน้ำไม่อับค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัดประมาณ 1 x 1 ม.ถ้าผู้ใช้งานเป็นผู้สูงอายุที่ต้องมีไม้เท้าหรือวอล์กเกอร์ด้วย ก็จะเล็กไปสักหน่อย เวลาใช้งานต้องคอยระวัง ที่โอเคหน่อยก็คือประตูที่เป็นแแบบเปิดออกด้านนอก ทำให้สามารถเดินเข้า Shower Box ได้ง่าย

    บันไดใช้วัสดุของตัวบันไดที่เหมือนกับบ้านหลังแรกเลย

    ชานพักบันไดได้เป็นขั้นสี่เหลี่ยมเต็มขั้น ทำให้ยืนพักได้สะดวก โถงบันไดจะมีช่องแสงเข้ามาจากผนังด้านข้างบ้านทำให้บันไดไม่มืดนะคะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินตรงกลางที่แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา เห็นโคมไฟระย้าด้านหลังก็คงจะจำกันได้ ว่าเป็นโคมไฟของห้องรับแขกที่เป็น Double Space ทำให้เราสามารถเห็นบริเวณห้องรับแขกได้จากโถงทางเดินนี้ และได้แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ของห้องรับแขกเข้ามานะคะ

    วิวจากโถงทางเดินที่ได้ก็จะประมาณนี้ ทำให้เราเห็นว่าสมาชิกคนไหนอยู่ข้างล่างบ้าง

    ขึ้นบันไดมาแล้วเลี้ยวขวา จะเป็นทางเดินไปห้องนอน 2,3 เป็นห้องนอนขนาดกลางที่มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง เสียดายนิดหน่อยที่วัสดุปูพื้นชั้น 2 ของบ้านเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ซึ่งราคาของบ้าน Type นี้น่าจะได้พื้น Engineering Wood เป็นอย่างน้อยนะ

    มาดูห้องนอน (2) กันต่อเลย พื้นที่ภายในห้องมีขนาดให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว ห้องนี้จะได้หน้าต่างที่แตกต่างจากห้องอื่นนะ เพราะตรงกับตำแหน่งของซุ้มประตูหน้าบ้าน จึงได้หน้าต่างทรงโค้งที่มีลายแบบพ่นทรายมาให้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลย

    ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว ซึ่งบริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้สามารถวางตู้เสื้อผ้า หรือจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เต็มถึงผนังแบบในบ้านตัวอย่างเลยก็ได้ ด้านข้างเตียงอีกฝั่งมีพื้นที่ว่าง ให้สามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้สะดวก

    พื้นและผนังในห้องน้ำจะให้เป็นกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง ภายในแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง มีหน้าต่างให้ 1 ตำแหน่ง ทำให้ห้องน้ำไม่อับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆจะเหมือนกับแบบห้องน้ำชั้นล่างเช่นกัน

    สำหรับห้องนอน (3)  มีพื้นที่ใช้สอยพอๆ กับห้องนอน 2 เลยนะ แต่จะคนละ Lay Out กัน ซึ่งห้องนี้จะวางตำแหน่งห้องน้ำเอาไว้หน้าห้องและดันพื้นที่สำหรับวางเตียงนอน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เอาไว้ด้านใน ซึ่งเราชอบแปลนห้องนี้มากกว่าเพราะดูเป็นสัดส่วนดี

    ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่ให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ และมีพื้นที่ให้วางเฟอร์นิเจอร์ ได้ครบตามบ้านตัวอย่าง ข้อดีของห้องนี้คือจะได้วิวสวนหลังบ้าน ซึ่งบ้าน Type นี้จะวางตำแหน่งให้บริเวณหลังบ้านติดกับทะเลสาบ เราก็สามารถนอนชมวิวทะเลสาบจากบนเตียงได้เลยนะ

    สำหรับห้องน้ำจะอยู่ติดกับทางเข้าห้องเลย ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ ทำให้ดูเป็นสัดส่วนดีนะคะ

    ห้องน้ำในตัวเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ทั้ง Lay Out และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จะเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างเลยค่ะ

    เหตุผลหนึ่งที่โถงทางเดินดูโปร่งก็เพราะราวระเบียงที่ออกแบบมาเป็นกระจก ทำให้ไม่โดนบังสายตา ต่อไปจะพาไปชมพื้นที่อยู่อาศัยโซนสุดท้ายของบ้านกันนะคะ

    พื้นที่โซนนี้จะมี Family Area อยู่บริเวณหน้าห้องนอนใหญ่ และห้องนอน (4) ทำให้ห้องนอนในโซนนี้จะมีความคึกคักมากกว่าห้องนอน (2) และ (3) ที่พาไปชมมาสักครู่นี้นะคะ

    บ้านตัวอย่างจัด Family Area ไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นอีกตำแหน่งหนึ่งในบ้าน เผื่อเวลาที่ชั้นล่างมีแขก สมาชิกที่เหลือก็สามารถขึ้นมานั่งเล่นบนนี้ได้ สำหรับบ้านจริงเป็นพื้นที่เปล่า ซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างสว่างจากแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านประตูกระจกบานใหญ่ ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลย

    ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของพื้นที่ตรงนี้คือ จะเชื่อมกับระเบียงขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้าน

    ระเบียงหน้าบ้านมีขนาดใหญ่ประมาณ 8 x 2.4 เมตร จึงสามารถวางชุดโซฟาไว้นั่งเล่น ชมวิว ได้เลย

    พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคแบบผิวด้าน เพื่อช่วยกันลื่น ส่วนราวระเบียงเป็นลูกกรงเหล็กทาสีเทาดำ ก็ดูคลุมโทนให้เข้ากับสไตล์บ้านดีนะคะ

    พามาชมห้องนอน (4) กันต่อค่ะ เข้ามาปุ๊บจะเจอห้องน้ำก่อนเลย ส่วนพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะถูกดันเข้าไปอยู่ด้านในห้องซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับระเบียงนะคะ

    แม้ว่าจะเป็นห้องนอนที่มีขนาดเล็กสุดในบ้าน แต่ก็ให้ความรู้สึกที่โปร่ง โล่ง เหมือนห้องอื่นๆ ข้อดีของห้องนี้คือมีระเบียงด้วย แต่เป็นระเบียงเดียวกันที่เชื่อมกับ Family Area ทำให้เวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็คงต้องปิดม่านเอานะคะ พื้นที่ในห้องกว้างพอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ครบ

    มีพื้นที่ปลายเตียงให้วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้

    ห้องน้ำในตัวเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ทั้ง Lay Out และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จะเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอน 2 เลยค่ะ

    สุดท้ายจะพาไปชม Master Bedroom เป็นห้องนอนขนาดใหญ่จัดฟังก์ชันครบ และได้พื้นที่ในแต่ละฟังก์ชันใหญ่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มีห้องน้ำในตัวและ Walk-in Closet ภายในมีพื้นที่ใช้สอยให้สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ ได้ครบถ้วน วางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้และเหลือพื้นที่เดินรอบเตียงได้สบาย

    บรรยากาศของห้องดูโปร่ง น่าอยู่ ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ ที่เป็นประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียง

    ระเบียงในห้องนี้เป็นพื้นที่ใต้ชายคา มีหลังคาคลุมกันฝนไว้เรียบร้อย ทำให้สามารถมายืนชมวิวทะเลสาบเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้

    ระเบียงมีขนาด 0.7 x 3.9 ม. ไม่กว้างมากนัก ถ้าอยากจะวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนามคงไม่เหมาะ วัสดุปูพื้นและราวระเบียงจะให้มาเหมือนกับระเบียงด้านหน้าบ้านนะคะ

    อีกฝั่งหนึ่งของเตียงมีพื้นที่ว่างซึ่งสามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงานในห้องได้ หรือใครอยากวางโซฟาแทน เพื่อเป็นพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องก็มีพื้นที่พออยู่นะคะ

    บ้านตัวอย่างแบ่งพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำไว้ทำเป็น Walk-in Closet โดยมีฉากกั้นไว้อยู่ด้านหลังทีวี ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่า ผู้อยู่อาศัยสามารถออกแบบฟังก์ชันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้เลยค่ะ

    ถ้าจัด Walk-in closet ตามบ้านตัวอย่างแบบนี้ก็ดีนะคะ ดูเป็นสัดส่วนดี ซึ่งมีพื้นที่พอให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง 2 ฝั่งได้

    ส่วนที่น่าจะถูกใจสาวๆ เลยคือมีหน้าต่างบริเวณนี้ด้วย ทำให้นั่งแต่งหน้าได้สะดวก ไม่ต้องลุ้นเหมือนเวลาแต่งหน้าในที่มืดนะ

    ห้องน้ำของ Master Bedroom จัดพื้นที่มากว้างพอสมควร พื้นและผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว โดยแบ่งพื้นที่ใช้งานไว้หลายแบบตามแต่ผู้ใช้งานจะเลือกใช้ ได้แก่พื้นที่อาบน้ำแบบ Shower และแบบอ่างอาบน้ำ

    หน้าตาของอ่างอาบน้ำที่ได้ ตัวอ่างจะยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 30 ซม

    อ่างอาบน้ำของ Kohler มีขนาดมาตารฐานประมาณ 1.6 x 0.8 ม.

    มาพร้อมอุปกรณ์อาบน้ำของ Kohler เช่นเดียวกัน ก๊อกเป็นแบบผสมซึ่งทางโครงการติดตั้งหม้อน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย

    อ่างล้างหน้าให้มาเป็นแบบ His & Her ทำให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้งคุณสามีและภรรยาเลย ส่วนตู้ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้บานเปิดปิดไว้เก็บของใช้ในห้องน้ำ แต่ก็อย่าลืมเผื่อพื้นที่ไว้สำหรับซ่อมแซมก๊อกด้วยนะคะ

    วัสดุอุปกรณ์ในส่วนอื่นๆ ก็จะให้มาเหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ ที่พาไปชมก่อนหน้านี้ ด้านในสุดของห้องมีหน้าต่างให้ 1 ตำแหน่ง ทำให้มีช่องถ่ายเทอากาศภายในห้องน้ำได้ ทำให้ห้องน้ำไม่อับค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำในห้องนี้มีขนาดประมาณ 1 x 1.7 ม. ก็พอให้ใช้งานได้สะดวก

    หน้าตาปลั๊กและสวิทซ์ของ Schneider ตามมาตรฐานโครงการค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 September 2019

    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Meadow ที่ดิน 101.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 10.68 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 9.39 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Eden ที่ดิน 103.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 11.75 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 10 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Haven ที่ดิน 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 13.94 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 12.54 ล้านบาท
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Porch ที่ดิน 129.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 410 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

      – ราคาเริ่มต้น 32.9 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 31.29 ล้านบาท
    • จองและทำสัญญา 300,000 – 700,000 บาท
    • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 14 งวด
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000-70,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ว./เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลโครงการ Lake Serene พระราม 2 เป็นทำเลในย่านชานเมือง ใกล้ถนนพระราม 2 อยู่ฝั่งขาออกไปมหาชัย ทำเลแถวนี้เป็นทำเลในช่วงรอยต่อของกรุงเทพกับสมุทรสาคร พอเลยวงแหวนมาแล้วความคึกคักหรือแหล่งที่อยู่อาศัยจะน้อยลง และจะมาคึกคักอีกทีก็ช่วงมหาชัย ทำให้แหล่งความอุดมสมบูรณ์โดยรอบมีไม่เยอะ ต้องอาศัยการขับรถเป็นหลัก โดยทำเลโครงการนี้จะได้เปรียบกว่าในเรื่องของโรงเรียนและโรงพยาบาลที่อยู่ในซอยเดียวกันเลย และด้วยทำเลที่อยู่ในซอยทำให้ได้ความสงบ ไม่มีรถวิ่งผ่านเยอะ ฝุ่นและเสียงก็น้อยลงไปด้วยค่ะ

    การเดินทางถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ไม่ไกล ประมาณ 1.5 กม. และจากปากซอยไปไม่ไกลก็มีจุดให้กลับรถได้เลย ทำให้การเดินทางไปถนนกาญจนาภิเษกทำได้สะดวกไม่ต้องไปกลับรถไกล หรือจะวิ่งออกนอกเมืองไปทางเอกชัยและมหาชัยก็ไม่ลำบากเพราะออกจากปากซอยสามารถวิ่งตรงยาวๆ ได้

    สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ ไม่มีร้านสะดวกซื้อในระยะเดินนะคะ คงต้องรอลุ้น Nusa Avenue ให้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ทำเลนี้จึงต้องพึ่งรถยนต์ในการเดินทางไปห้าง ไป Community Mall หรือไปเดินตลาดแทน ซึ่งบนเส้นพระราม 2 ก็มีตัวเลือกที่หลากหลายนะ

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการจะมีป้อมยามที่อยู่ด้านหน้า รักษาความปลอดภัยด้วยไม้กั้นกระดกแบบอัตโนมัติด้วยระบบ RFID พร้อมติดกล้อง CCTV บริเวณทางเข้า และมีรั้วรอบโครงการสูง 2.8 ม. ซึ่งหากอยากได้ความอุ่นใจเพิ่มแนะนำให้ติดสัญญาณกันขโมยที่ตัวบ้านเพิ่มก็ได้ค่ะ

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : การออกแบบผังในโครงการทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูไม่อึดอัด แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่ลดลงของบ้านที่อยู่ติดถนนหลัก ส่วนซอยย่อยมีจำนวนบ้านไม่มาก ทำให้ยังมีความเป็นส่วนตัว และซอยไม่ลึกทำให้การรักษาความปลอดภัยทำได้ง่ายขึ้น แต่ส่วน Landscape สวนสาธารณะ และส่วนกลางที่จะอยู่ส่วนหน้าของโครงการ ทำให้ลูกบ้านด้านหลังเข้าถึงยากหน่อย เพราะ Facilities จะมารวมกันอยู่ด้านหน้าหมด ไฮท์ไลท์ของการวางผังที่นี่ คือการวางตำแหน่งบ้านให้ติดริมทะเลสาบ โครงการนี้จึงมีบ้านริมทะเลสาบให้เลือกกันด้วยนะ

    การออกแบบบ้านของโครงการนี้ ถือว่าจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากเพื่อนบ้าน เพราะหยิบเอารูปร่างหน้าตาบ้านสไตล์ยุโรปมาประยุกต์ใช้ ทำให้บรรยากาศของโครงการดูมีความคลาสสิค ในส่วนของฟังก์ชันบ้านทำมาเพื่อรองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generations คือบ้านทุกแบบจะมีห้องนอนที่ชั้นล่าง โดยเฉพาะบ้านแบบ Porch และ Haven ที่ออกแบบให้มีห้องน้ำในตัวเลย ติดนิดเดียวที่หากใช้เป็นห้องน้ำผู้สูงอายุ พื้นที่อาบน้ำจะดูเล็กไปหน่อย จุดเด่นอีกข้อของบ้านโครงการนี้คือ เหมาะกับครอบครัวที่ชอบพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆ หรือต้องการพื้นที่เลี้ยงน้องหมา เพราะแต่ละแปลงของที่นี่นั้น เริ่มต้นที่ 100 ตร.ว. เลย ส่วนที่ติดนิดหน่อยคือระบบรักษาความปลอดภัยของตัวบ้าน ซึ่งบ้านระดับราคานี้ส่วนใหญ่จะให้สัญญาณกันขโมยมาให้ด้วยนะ

    วัสดุ : วัสดุของโครงการนี้ขอแยกเทียบเป็น 2 ระดับราคานะคะ สำหรับบ้านที่ราคา 35 ล้านบาท++ วัสดุรวมๆที่ให้มาถือว่ามีส่วนที่ได้ตามมาตรฐานราคา แต่ยังได้พื้นไม้ลามิเนต ซึ่งถ้าได้พื้นไม้จริงน่าจะเหมาะกับราคานี้นะ สำหรับบ้านราคา 10 ล้านบาทก็ได้สเปคของวัสดุตามาตรฐานของราคาแล้วค่ะ โดยจะได้พื้นชั้นบนเป็นไม้ลามิเนต, ส่วนชั้นล่างใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน, บันไดไม้จริง, ประตูไม้จริงมาพร้อมมือจับของ Hafele, สุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหลัง (ส่วนที่ดีคือโปรโมชันในช่วง Grand Opening นี้ ที่แถมครัวให้ตามแบบในบ้านตัวอย่างนะคะ)

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการจัดมาให้เยอะทั้งสวน และพื้นที่นั่งเล่นริมทะเลสาบ ในส่วนของคลับเฮาส์ยังคงไม่เห็นภาพชัดๆ เพราะโครงการใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ แต่เท่าที่ดูก็น่าใช้งานดี ถนนภายในโครงการมีบรรยากาศที่ดูโล่ง ไม่อึดอัด ซึ่งเมื่อมีพื้นที่สีเขียวเยอะในอนาคตก็ต้องติดตาม ดูแลรักษา ให้น่าใช้งานอยู่ตลอด

    สาธารณูปโภค : สาธารณูปโภคให้มาครบตามสมัยนิยม ได้อาคารคลับเฮาส์ ซึ่งมีฟังก์ชันภายในทั้ง Lobby, ฟิตเนสและห้อง Theater ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ด้านนอกอาคาร และมีสวนหย่อมรอบสระว่ายน้ำ ซึ่งตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางจะรวมกันอยู่ด้านหน้าโครงการทั้งหมด ไฮท์ไลท์ของพื้นที่ส่วนกลางโครงการนี้คือจะได้วิวทะเลสาบ และข้อดีของการมีทะเลสาบตรงกลางหมู่บ้านยังช่วยเป็นพื้นที่รับน้ำ ในกรณีฝนตกมากๆ ด้วยค่ะ


    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 10 – 13.5 ล้านบาท, 24 September 2019

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 –ใกล้ถนนใหญ่พระราม 2 เดินทางสะดวก กลับรถง่าย
    • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – แบบบ้านสวย ฟังก์ชันครบ แต่มีบางจุดที่อาจเล็กไปหน่อย
    • วัสดุ 7.5/10 – ส่วนใหญ่ให้มาตามมาตรฐาน แต่น่าจะแถมสัญญาณกันขโมยเพิ่มมาอีกหน่อย
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวเยอะ บรรยากาศในซอยบ้านเรียบร้อย เสาไฟลงดิน
    • สาธารณูปโภค 8.25/10 – ทะเลสาบใหญ่ สระว่ายน้ำใหญ่  มีคลับเฮ้าส์และพื้นที่สวนรอบสระรวม 4 ไร่
    • 7.59 / 10.00 

    สำหรับแบบบ้านแพคเกจราคา 35 ล้านบาท++ จัดอยู่ใน Super Luxury Class ซึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อจะนอกเหนือเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว โดยจะมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณาครับ แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการลักษณะนี้ค่ะ

    BOTTOM LINE

    Lake Serene พระราม 2 เป็นโครงการที่เหมาะกับคนอยากได้บ้านในโซนที่สงบ มีความเป็นส่วนตัวในย่านพระราม 2 ชอบบ้านสไตล์ยุโรป ดูคลาสสิคหน่อย อยากได้บ้านติดทะเลสาบหรือบ้านที่มีพื้นที่ทำสวนรอบบ้านเยอะๆ ต้องการบ้านที่อยู่กันได้ทั้ง 3 Generations มีงบประมาณ 10-35 ล้านบาท++ หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 70,000 – 245,000 บาท/เดือน


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving