ISSARA RESIDENCE พระราม 9 บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับ Super Luxury ใจกลางพระราม 9 พร้อมสระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัว จาก ชาญอิสระ [Walk-in Review]

ISSARA RESIDENCE RAMA 9 (อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9) ณ วันที่ 5 กันยายน 2564

ทำเลโครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 น่าสนใจอย่างไร

• เดินทางสะดวก : โครงการตั้งอยู่ทำเลใจกลางพระราม 9 โซนที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับซอยเอกมัย – ทองหล่อและเข้าเมืองย่านธุรกิจอื่นๆได้สะดวก หรือจะมุ่งหน้าออกมอเตอร์เวย์ และสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ค่ะ
• ใกล้ทางด่วน : จากโครงการสามารถเลือกขึ้นทางด่วนได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และทางพิเศษศรีรัช เพื่อเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ
• มีรถไฟฟ้าผ่าน : ในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านถนนพระราม 9 ซึ่งโครงการจะต้องอยู่ระหว่างสถานี รฟม. และสถานีประดิษฐ์มนูธรรมค่ะ

พิกัด Google Maps : 13.757020733136214, 100.5880595467525
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 13 ที่สะดวกสบาย สามารถเข้าออกได้หลายทาง ทำเลนี้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังเอกมัย – ทองหล่อ ได้ง่าย ในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น สำหรับทางด่วนโครงการนี้จะอยู่ระหว่างแยกรัชดาฯ-พระราม 9 และแยกเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำให้เข้าถึงได้จากทั้ง 2 ทางหลัก สามารถเชื่อมเข้า Tollway กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ ที่ไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย

ทำเลนี้อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่ามาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะใกล้ๆ ครบครันไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าบริเวณแยกพระราม 9 และโซนสุขุมวิท Community Mall ในซอยทองหล่อ โรงเรียนนานาชาติบริเวณย่านประชาอุทิศ รวมไปถึงโรงพยาบาลบนถนนพระราม 9 และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นอกจากนั้นในอนาคตยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านถนนพระราม 9 อีกด้วย ทำให้พอคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตจะมีความอุดมสมบูรณ์และมีการพัฒนามากขึ้นค่ะ

ภาพรวมที่อยู่อาศัยแนวราบบนทำเลใจกลางพระราม9

ถ้าเราดูภาพรวมบ้านในโซนถนนพระราม 9 จะเห็นว่าทำเลนี้มีบ้านเดี่ยวระดับ Luxury – Super Luxury ระดับราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปอยู่พอสมควร โดยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่มีการดีไซน์ที่พิเศษ แต่ถ้าขยับเข้ามาในเมืองอีกสักหน่อย Product ก็จะปรับไปเป็นทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนชั้นเยอะๆ เนื่องจากที่ดินมีค่อนข้างราคาสูงและหาที่ดินแปลงใหญ่มาพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวได้ยาก

สำหรับจุดเด่นของโครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 คือเป็นบ้านระดับร้อยล้าน ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ (โครงการนี้อยู่ที่ 720 – 1,200 ตารางเมตร) และเป็นบ้านโอบล้อมธรรมชาติที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ดังนั้นจึงเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่  พื้นที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไป อยู่กันได้หลาย Generations บนทำเลใจกลางพระราม 9 ซึ่งบ้านเดี่ยวโครงการอื่นๆบนทำเลพระราม 9 – เพชรบุรี – เอกมัย จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 450 – 680 ตารางเมตรค่ะ แต่ถ้ามองหาบ้านร้อยล้าน พื้นที่ใช้สอยเยอะ อาจจะต้องขยับไปหน่อยในทำเลใกล้เคียงแถวประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งจะมีโครงการสันติบุรี (ราคา 245 – 360 ล้านบาท) และโครงการ Atelier Residence (ราคา 150 ล้านบาท) เป็นต้น โดยแต่ละโครงการก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันค่ะ

การออกแบบโครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร

ISSARA RESIDENCE พระราม 9 เป็นโครงการระดับ Super Luxury ซึ่งถือว่าเป็น Top Brand ของทางชาญอิสระในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว โครงการนี้เปิดตัวมาในปี 2016 โดยได้บริษัทออกแบบชื่อดังอย่าง  บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด หรือ A49 เป็นผู้ออกแบบโครงการ ซึ่งทาง A49 เองก็เคยเป็นผู้ออกแบบโครงการก่อนหน้านี้ของชาญอิสระ นั่นก็คือ Issara Collection Sathorn นั่นเองค่ะ

ISSARA RESIDENCE พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 20 ยูนิต โดยโครงการนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ให้มาครบทั้ง Fitness สระว่ายน้ำ ห้อง Steam และสวนหย่อม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน และเนื่องจากคนที่ซื้อบ้านในระดับราคานี้จะเน้นความเป็นส่วนตัว ทางโครงการจึงออกแบบให้มีสวนและสระว่ายน้ำภายในบ้านเลย สมาชิกภายในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว ไม่ปะปนกับใคร

และจุดที่น่าสนใจและเพิ่มความเป็นส่วนตัวของโครงการนี้เข้าไปอีกคือ “การจัดวางผังบ้านให้หันไปทิศทางเดียวกันทั้งหมด” ซึ่งนอกจากตัวบ้านจะไม่หันหน้าไปเจอใครแล้ว ยังทำให้บริเวณหน้าบ้านและคอร์ทกลางบ้านได้ร่มเงา และมีอากาศเย็นสบายในเวลากลางวันอีกด้วยค่ะ

จากการลงพื้นที่ Walk-in ในครั้งนี้ทำให้สามารถสรุปสิ่งที่น่าสนใจภายในโครงการได้ 4 ประเด็น ดังนี้

1. ความเป็นส่วนตัว

เนื่องจาก ISSARA RESIDENCE พระราม 9 นี้เป็นโครงการระดับ Super Luxury จึงให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก นอกจากโครงการจะมีเพียง 20 ยูนิตแล้ว ยังมีการออกแบบให้บ้านแต่ละหลังไม่หันหน้าไปเจอเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน  มีทางเข้า – ออกกั้นด้วยไม้กั้นกระดกและประตูรั้วเลื่อนอีก 1 ชั้น รั้วรอบโครงการสูง 3.30 เมตร พร้อม CCTV ภายในโครงการรวม 19 จุด ซึ่งโดยรวมเรามองว่าโครงการนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ

2. ความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ถนนภายในโครงการทั้งหมดเป็นคอนกรีตแสตมป์ทำให้มีความสวยงาม ซึ่งถนนทางเข้าก็มีขนาดใหญ่ถึง 15.60 เมตร ด้านใน 9.00 เมตรให้รถขับสวนกันได้สบายๆ และลงสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด มีต้นไม้ใหญ่ปลูกบริเวณด้านหน้าบ้านทั้ง 2 ฝั่ง ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมภายในโครงการดูเรียบร้อยและมีความร่มรื่นทีเดียวค่ะ

3. พื้นที่ส่วนกลาง 

อย่างที่กล่าวไปแล้วนะคะว่าโครงการนี้มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ใช้ครบเลย อีกทั้งยังทำออกมาให้มีขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเหมาะสมกับระดับราคา และสามารถรองรับการใช้งานของลูกบ้านทั้ง 20 ยูนิตได้สบายๆ โดยจะมีอาคาร Clubhouse อยู่ด้านหน้าเหนือซุ้มประตูโครงการ แบ่งเป็น ห้อง Fitness ขนาดใหญ่ มีเครื่องออกกำลังกายจาก Techno Gym จำนวน 12 เครื่องทั้ง Weight Training และ Cardio Training ชั้น 2 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่มีทั้งสระเด็กและ Jacuzzi รองรับแขก หรือเด็กๆพาเพื่อนๆมาเล่นน้ำกันได้ ซึ่งสระว่ายน้ำส่วนกลางจะมีขนาดใหญ่กว่าสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านอยู่ที่ประมาณ 8.45 x 25 เมตร

ภายในห้องน้ำอาคาร Clubhouse นอกจากมีห้องน้ำแยกกับห้องอาบน้ำแล้วยังมีห้อง Steam ให้ใช้งานอีกด้วยค่ะ ซึ่งภายในห้องน้ำก็ได้มีเซอร์วิสผ้าขนหนู ไดร์เป่าผม สำลี ฯลฯ ให้ใช้งานสะดวก เหมาะสมกับความ Luxury ของโครงการ

บริเวณท้ายโครงการมีพื้นที่สวนมาให้ใช้งานขนาดประมาณ 200 ตารางวา สำหรับลูกบ้านไว้พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวแยกโซนจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ไม่มีเสียงดังรบกวนบ้านพักอาศัยค่ะ

4. Concierge Service

นอกจากนี้ลูกบ้านภายในโครงการยังสามารถใช้บริการ Lifestyle Concierge Service โดยมีงานบริการด้านต่างๆ ไว้คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านหลังการขายด้วยค่ะ เช่น การบริการด้านโฮมแคร์ ที่จะช่วยดูแลและบำรุงรักษาตั้งแต่เรื่องภายในบ้านและภายนอกบ้านอย่างครบครัน, บริการด้านสุขภาพ, บริการด้านการจัดเลี้ยง จัดกิจกรรม และบริการผู้ช่วยส่วนตัว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 8.45 เมตร สระเด็ก 2.70 x 3.10 เมตร พร้อม Jacuzzi ยาว 5 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด พื้นที่ 203.6 ตารางวา
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 19 จุด
• รั้วรอบโครงการ สูง 3.30 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 9 – 15.60 เมตร
• Key Card Access ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและ เลื่อนไฟฟ้า
• ระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ

การออกแบบบ้าน ISSARA RESIDENCE พระราม 9 น่าสนใจอย่างไร

แบบบ้านภายในโครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 มีทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งทั้งหมดเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น พร้อมลิฟต์ทุกยูนิต มีแนวคิดในการออกแบบสไตล์ Modern Tropical เป็นบ้านล้อมคอร์ท การออกแบบคำนึงถึงแสงธรรมชาติ และทิศทางลม ให้ภายในเน้นความโปร่งสบายเชื่อมต่อกับธรรมชาติ

โดย Issara Residence Rama 9 เป็นโครงการที่ได้รับรางวัล ชนะเลิศ ในหมวดงานออกแบบสถาปัตยกรรมของบ้านพักอาศัย (ประเทศไทย) จากงาน Property Guru Thailand Property Awards 2017 ด้วยนะคะ

โดยมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ดังนี้

• ASHER (TYPE A) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น
  – ที่ดินมาตรฐาน 125 – 209 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 853 –  1,200 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5-8 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำรูปทรงตัว I
  – ราคาเริ่มต้น 160 – 243 ล้านบาท
• BRAYDEN (TYPE B) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น
  – ที่ดินมาตรฐาน 126 – 130 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 808 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำรูปทรงตัว L
  – ราคาเริ่มต้น 157.7 – 193.5 ล้านบาท
• CEDRIC (TYPE C) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น
  – ที่ดินมาตรฐาน 113 – 115 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 721 –  723 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 143.2 ล้านบาท

บ้านภายในโครงการนี้จะมีแบบที่ขายเป็นบ้านมาตรฐานและขายพร้อมตกแต่งแล้วด้วย สำหรับคนที่ต้องการบ้านพร้อมอยู่ช่วยประหยัดเวลาและความวุ่นวายในการตกแต่งเอง ซึ่งทางโครงการได้เลือกแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังระดับโลกจากหลากหลายแบรนด์ มาให้เรียบร้อย แต่ละหลังมีแนวคิดในการตกแต่งแตกต่างกันไป วันนี้เราจะพามาชมบ้านแต่งครบ Type A กันค่ะ

ASHER (TYPE A) ที่ดินมาตรฐาน 125 – 209 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 853 – 1,200 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ และ 2 ห้องแม่บ้าน

เริ่มจากด้านหน้าบ้านซึ่งมีการออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical โดยเลือกใช่โทนสีเข้มตัดกับลายไม้ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้านหน้าบ้านจะมีความเรียบหรู มีการคำนึงถึงการลดปริมาณความร้อนจากแสงแดดด้วยการทำชายคาและไม้ซุงบังแดด แต่ยังคงได้รับแสงธรรมชาติได้จากช่องแสงสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานทำให้ดูโปร่งทีเดียวค่ะ

บ้านชั้น 1 – บริเวณชั้น 1 มีการออกแบบให้เป็นพื้นที่รับแขก เหมาะกับการสังสรรค์ นั่งเล่นโดยจะสามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านได้ตลอดทั้งแนว ด้านหลังเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor Terrace ที่สามารถออกมานั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ ชมสวนได้ภายในหลังคาของชั้น 2 แต่มีความโปร่งให้ลมไหลผ่านได้สบายๆค่ะ บ้านหลังนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบสังสรรค์ จัดปาร์ตี้ปิดชั้น 1 ได้เลย

สำหรับส่วน Service ของบ้าน Type นี้จะถูกแยกออกมาด้านหน้าบ้านติดกับลานจอดรถ ประกอบด้วยโซนแม่บ้าน 2 ห้อง ส่วนซักล้าง และครัวไทย ซึ่งแบบบ้านหลังนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารรับประทานเองนักนะคะ ถ้าทำก็เป็นอาหารที่สามารถใช้ครัวฝรั่งภายในบ้านทำได้เลย ครัวไทยจึงมีขนาดไม่ใหญ่นักและอยู่ติดกับห้องแม่บ้าน ด้านหน้ามีที่จอดรถสามารถจอดได้ 5 คัน แยกทางเดินคนเข้าด้านข้าง เข้ามาแล้วเจอกับสวนพอดีค่ะ

บ้านชั้น 2 – เป็นชั้นพักผ่อนส่วนตัว สามารถแบ่งได้เป็น 2 ห้องนอนด้านหน้าบ้านและห้องนอน Master Bedroom ติดกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งบ้านในโครงการนี้ได้ออกแบบพื้นที่ให้มีส่วนพักผ่อนนั่งเล่นทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวในทุกๆชั้นค่ะ สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่ห้อง Master Bedroom เพิ่มขึ้นสามารถกั้นรวมพื้นที่อเนกประสงค์เป็นส่วน Walk-in Closet ซึ่งบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมมีการจัดเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่เลยค่ะ

การออกแบบทุกๆห้องนอนจะมีพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว สามารถมองเห็นวิวคอร์ทกลางบ้านได้ ส่วนห้องที่อยู่ด้านในมองไม่เห็นวิวสวนจะเป็นห้องที่มองเห็นวิวด้านหน้าบ้านแทน

บ้านชั้น 3 – ชั้นนี้ก็เป็นชั้นพักผ่อนที่มีทั้งพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนค่ะ โดยชั้นนี้จะมีจุดเด่นเลยก็คือห้องนอนที่แบ่งออกเป็นทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหน้าและด้านหลังบ้านที่มีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่มองเห็นวิวคอร์ทกลางบ้านได้ และสามารถจัดเป็นพื้นที่ใช้งานนั่งเล่น Outdoor ออกกำลังกาย เล่นโยคะ หรือวางเครื่องเล่นต่างๆได้ค่ะ

นอกจากนั้นบริเวณตรงกลางสามารถจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ทำเป็นพื้นที่ Pantry บาร์เล็กๆ โต๊ะรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นเป็นเหมือน Penthouse ได้เลย

ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว โครงการนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจ 3 อย่าง ดังนี้

1. การออกแบบ

แนวคิดการออกแบบโครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ในสไตล์ Modern Tropical ตัวบ้านเป็นรูปตัว C ล้อมคอร์ทตรงกลาง โดยเปิดคอร์ทฝั่งที่ตรงกับด้านหลังของบ้านถัดไป ทำให้แต่ละหลังได้ความเป็นส่วนตัวทีเดียวค่ะ

การออกแบบบ้านล้อมคอร์ทตรงกลางทำให้ภายในบ้านเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกมากขึ้น เพิ่มมุมและช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวตรงกลางได้แทบจะทุกพื้นที่ภายในบ้าน ได้บรรยากาศผ่อนคลาย สดชื่นจากต้นไม้และสระว่ายน้ำ นอกจากนั้นคอร์ทกลางยังเป็นส่วนที่เชื่อมต่อพื้นที่ทุกชั้นเข้าด้วยกันคุณแม่ๆอยู่ชั้น 2 มองลงมาเห็นลูกๆเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำได้

บรรยากาศบริเวณคอร์ทกลางบ้านที่ทุกครั้งที่เดินเข้าบ้านจะมองเห็นวิวคอร์ทกลางทั้งหมดเลยค่ะ

บ้านทุกแบบจะมีพื้นที่ Semi-Outdoor Terrace นั่งเล่นบริเวณคอร์ทกลางและสระว่ายน้ำ เปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านใน เผื่อต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาจัดปาร์ตี้บรรยากาศริมสระว่ายน้ำก็ได้นะคะ

นอกจากนั้นภายในบ้านได้เลือกใช้กระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ซึ่งทางโครงการเลือกใช้เป็นกระจกใสเพื่อให้แสงที่เข้ามาไม่ถูกเปลี่ยนสีไป แต่จะทำให้อุณหภูมิที่เข้ามาภายในบ้านสูงขึ้น ซึ่งมีการออกแบบทดแทนด้วย Facade อะลูมิเนียมลายไม้ช่วยบังแดด และช่องเปิดที่สามารถระบายอากาศและรับลมที่พัดผ่านสระว่ายน้ำช่วยให้เย็นสบาย นอกจากนั้นยังมีการติดตั้ง Solar Cell ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนพลังงานไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าของบ้านค่ะ

นอกจากการออกแบบคอร์ทกลางเชื่อมต่อพื้นที่ภายนอกเข้าด้วยกันแล้ว บ้านทุกแบบยังได้ Double Volume ฝ้าเพดานสูงบริเวณห้องนั่งเล่นด้วยค่ะ ซึ่งจะช่วยเสริมให้บ้านมีความโปร่งโล่งมากขึ้นไปอีก และเป็นส่วนเชื่อมต่อชั้น 1 กับชั้น 2 ภายในบ้าน สามารถมองขึ้นไปเห็นโถงทางเดินหน้า Master Bedroom ชั้น 2 ได้ค่ะ

โถงทางเดินชั้น 2 ก็สามารถจัดวางพื้นที่มุมนั่งพักผ่อนเล็กๆมองลงไปเห็นบริเวณห้องนั่งเล่นได้ โดยที่ผนังด้านหลังเป็นกระจกสูงเต็มพื้นที่ และเลือกใช้ราวกันตกแบบ Frameless ให้แสงธรรมชาติเข้าสูงโถง Double Volume ได้เต็มที่

จุดเด่นของบ้านทุกแบบภายในโครงการนี้ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Facade แผงบังสายตาอะลูมิเนียมลายไม้ ที่มีความคงทน ช่วยลดแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้าน ถึงแม้ว่าจะให้ความสำคัญกับช่องเปิด ความโปร่งสบายแต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ

บรรยากาศเมื่อมองจากห้อง Master Bedroom ชั้น 2 มายังคอร์ทกลางจะเห็นพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำ

อีกหนึ่งเรื่องการออกแบบที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นก็คือการเลือกใช้เสากลมภายในบ้านทุกต้น และทำพื้นให้ Cantilever ยื่นออกไปจากตัวเสา ส่งผลให้สามารถทำผนังกระจกยาวต่อเนื่องกันได้ตลอดทั้งแนวโดยไม่มีเสามาคั่นกลาง ซึ่งทำให้บ้านมีความสวยงามและ Luxury มากขึ้นค่ะ

 2. ฟังก์ชันการใช้งาน

การจัดพื้นที่ใช้งานถูกออกแบบให้เป็นบ้านในเมืองที่สามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว มีพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวในทุกๆชั้นของบ้าน ห้องนอนมีพื้นที่ระเบียงพักผ่อนส่วนตัวขนาดใหญ่ เฉลียง Semi-Outdoor Terrace นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำใช้สอยได้เต็มที่

ที่จอดรถหน้ากว้าง จอดได้ตั้งแต่ 4 – 8 คัน ซึ่งมีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ตรงที่ไม่ต้องจอดรถซ้อนคันกันเลยค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นบ้าน Universal Design เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุหรือ คนพิการ โดยมีทางลาดเอียงตั้งแต่ด้านหน้าบ้านบริเวณที่จอดรถ และเมื่อเข้ามาในบ้านก็มีลิฟต์ที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานจริง

ภายในบ้านชั้น 1 มีพื้นที่ Common Area กว้างเชื่อมต่อกันตั้งแต่ส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัวฝรั่งเป็น Pantry ขนาดใหญ่พร้อม Island ตรงกลาง ตอบโจทย์คนที่ชอบสังสรรค์ จัดปาร์ตี้ ซึ่งทุกพื้นที่ Common Area ของชั้น 1 สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและคอร์กลางได้ตลอดทั้งแนวเลยค่ะ

จากส่วนครัวด้านในมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังส่วน Service ด้านข้างบ้านโดยจะเชื่อมต่อมายังครัวไทยและโซนซักล้างค่ะ ถือเป็นส่วนที่แยกฟังก์ชันใช้งานออกจากกันชัดเจน สำหรับการทำอาหารที่จริงจังมีกลิ่นควันเยอะ ก็เหมาะกับการให้แม่บ้านทำไปเสิร์ฟมากกว่านะคะ

สิ่งที่เราชอบในบ้านในโครงการนี้ก็คือการจัดพื้นที่ใช้ทุกๆชั้นภายในบ้านมีพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว เผื่อวันไหนสมาชิกภายในบ้านชวนแขกมาพร้อมกันก็ยังมีพื้นที่รองรับได้สบายๆ และได้ความเป็นส่วนตัว

ส่วนชั้น 3 นั้นจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ใหญ่ขึ้นค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับ Pantry และโต๊ะรับประทานอาหารได้เลย เช้าๆมาออกมาจากห้องนอนก็มาจิบกาแฟกินขนมก่อนลงไปรับประทานอาหารได้ หรือใครพาเพื่อนมาก็สามารถจัดปาร์ตี้ส่วนตัวที่ชั้น 3 ได้เลยค่ะ ซึ่งบริเวณนี้ก็สามารถมองลงไปเห็นคอร์ทกลางบ้านได้ตลอดทั้งแนวเช่นกัน

ในส่วนของห้อง Master Bedroom เป็นส่วนปีกของตัว C ยื่นออกมาจากตัวบ้านทำให้ได้ช่องแสงถึง 2 ฝั่ง สามารถเปิดระบายอากาศให้ลมไหลผ่านได้เต็มที่ และยังมองเห็นคอร์ทตรงกลางบ้านได้ทั่วถึงด้วยค่ะ

ส่วนห้องนอนที่ชั้น 3 เราชอบมากเนื่องจากทั้ง 2 ห้องเป็นห้องนอนรองขนาดใหญ่สามารถแยกโซน Walk-in Closet และห้องน้ำ อีกทั้งยังมีจุดเด่นคือ ระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ สามารถปลูกต้นไม้ ออกมาเล่นโยคะ นอนอ่านหนังสือพักผ่อนในวันที่อากาศดีๆได้เลย

3. วัสดุ

วัสดุภายในบ้านมาตรฐาน โครงการ Issara Residence Rama 9 มีความ Premium เหมาะสมกับระดับราคา โดยการเลือกใช้แบรนด์ชั้นนำ เริ่มจากส่วนครัว Pantry ที่นำเอาบูลล์ธอป (Bulthaup) แบรนด์ครัวชั้นนำจากเยอรมนี ที่มีจุดเด่นด้านคุณภาพ และการออกแบบมาให้กับบ้านทุกยูนิต

และเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ BOSCH ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีของประเทศเยอรมนี ในส่วนของ Hood, Induction Hob, Microwave, Oven เป็นต้น

ภายในห้องน้ำเลือกใช้วัสดุ Premium จากหลากหลายแบรนด์ เช่น โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้ารุ่น Top จากแบรนด์ TOTO อ่างอาบน้ำนำเข้าจากประเทศเยอรมัน ยี่ห้อ KASCH ในส่วนของ ฝักบัว ก๊อกน้ำ และ อุปกรณ์ Fitting อื่นๆ จากแบรนด์ GROHE ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำจากประเทศเยอรมันเช่นกันค่ะ

ลิฟต์โดยสาร แบรนด์ MITSUBISHI ที่เรามักจะเห็นในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในประเทศไทย มีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และบริการหลังการขายที่ดีค่ะ

นอกจากนั้นภายในบ้านยังเลือกใช้ระบบปรับอากาศแบบ VRV จาก DAIKIN เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน มีระบบแผงควบคุมอัจฉริยะที่สามารถสั่งการเปิด-ปิด หรือควบคุมอุณหภูมิ เครื่องปรับอากาศภายในบ้านได้ง่ายๆ อีกทั้งยังมีระบบ Access Control ระบบควบคุมการเปิดปิดไฟ, แอร์, ประตูรั้ว จากมือถือเพื่อความสะดวก สั่งเปิดแอร์ก่อนกลับถึงบ้านได้ และยังมี Burglar Alarm ระบบสัญญาณเตือนภัยเพื่อป้องกันการบุกรุกเข้าบ้านด้วยค่ะ

บ้าน Type B

เรานำบรรยากาศภายในบ้าน Type B มาฝากกันค่ะ

บ้าน Type C

บ้าน Type C เราเก็บภาพบรรยากาศบริเวณคอร์ทกลางมาฝากค่ะ

ISSARA RESIDENCE พระราม 9 ราคา ณ วันที่ 5 กันยายน 2564

• ASHER (TYPE A) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 12 ยูนิต
  – ที่ดินมาตรฐาน 125 – 209 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 853 –  1,200 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5-8 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 160 – 243 ล้านบาท
• BRAYDEN (TYPE B) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 6 ยูนิต
  – ที่ดินมาตรฐาน 126 – 130 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 808 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 157.7 – 193.5 ล้านบาท
• CEDRIC (TYPE C) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 2 ยูนิต
  – ที่ดินมาตรฐาน 113 – 115 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 721 –  723 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 143.2 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา 500,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 190 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ISSARA RESIDENCE พระราม 9 เหมาะกับใคร

โครงการ ISSARA RESIDENCE พระราม 9 เป็นบ้านเดี่ยวระดับหรู ที่ผู้เขียนมองว่าสำหรับคนที่มีกำลังซื้อบ้านในระดับราคา 100 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ความคุ้มค่าทางด้านราคาไม่ใช้ปัจจัยในการเลือกซื้อโครงการมากนัก จะมีการพิจารณาถึงความชอบส่วนตัว ทำเล ฟังก์ชันของบ้านที่ตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นหลักค่ะ

ซึ่ง  ISSARA RESIDENCE พระราม 9 เป็นโครงการบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จากจำนวนบ้านเพียง 20 ยูนิต อีกทั้งยังมีพื้นที่ส่วนกลางรองรับ ตั้งอยู่ในทำเลที่เชื่อมต่อเอกมัย – ทองหล่อ เลียบด่วนรามอินทราได้สะดวก ภายในบ้านออกแบบมาให้สไตล์  Modern Tropical บ้านล้อมคอร์ท พร้อมกระจกบานใหญ่ โปร่งสบาย มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และพื้นที่ใช้สอยเยอะ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ สมาชิกภายในบ้าน 5 – 7 คน มีงบประมาณของบ้าน 150 – 210 ล้านบาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc