รีวิวโครงการ

Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนถนนสุขาภิบาล 2 ใกล้ Mega บางนา จาก SC Asset [Walk-in Review]

13 มกราคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 2157 …วันนี้ได้มีโอกาสไปรีวิวโครงการแนวราบแห่งนึงที่มีชื่อว่า Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช อยู่ในกลุ่มบ้านหรูใกล้ Mega Bangna อิงถนนบางนา-วงแหวน ซึ่งบ้านหรูโซนนี้มีราคาอยู่ในช่วง 20 ล้านบาท++ ไปจนถึง 60 ล้านบาทเลยก็มี แต่จุดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้สำหรับโครงการนี้คือ ให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านใหญ่ จัดฟังก์ชันแบบ Double ทั้ง Living Area 2 จุด, ห้องนอนใหญ่แบบ Master 2 ห้อง และเพิ่มความโปร่งด้วย Double Volume แถมจำนวนเพื่อนบ้านน้อยเพียง 51 ยูนิต ไปชมกันเลยค่า

ข้อมูลโครงการ

10 November 2020

  • Grand Bangkok Boulevard Bangna-Onnut (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-อ่อนนุช)
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนสุขาภิบาล 2 เขตประเวศ
  • ที่ดินประมาณ 24-2-58.2 ไร่ จำนวน 51 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้นมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ

  • แบบ ARCH : ที่ดินมาตรฐาน 85.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 423 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  • แบบ BRANDENBURG : ที่ดินมาตรฐาน 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 507 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  • แบบ QUADRIGA : ที่ดินมาตรฐาน 115.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 573 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ

  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 3 เมตร / ชั้น 2 – 3 เมตร
  • ช่วงราคา 25 – 40 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 136,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง มีนาคม ปี 2020
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2022
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 065-503-1999
  • Line : @gbbbo

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.692622, 100.702598
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช ตั้งอยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 2 เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ๆ ก็นิยมมาเปิดตัวบนถนนเส้นนี้กันจำนวนไม่น้อย ทำให้มีร้านค้า ร้านอาหารรวมถึง Community Mall มาเปิดให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย

นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับคนที่เดินทาง(ด้วยเครื่องบิน)บ่อยๆ หรือทำงานภายในสนามบิน รวมถึงคนที่ทำงานย่านบางนา, ชลบุรี, สมุทรปราการ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ตัวเมืองกรุงเทพฯ และอยู่ในทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก เข้าถึงถนนเส้นหลักได้ 4 สาย ดังนี้

บางนา-ตราด : เป็นถนนเส้นสำคัญของย่านนี้ ที่เชื่อมจากถนนสุขุมวิทบริเวณสี่แยกบางนา ซึ่งเป็นจุดที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่าน ใช้เชื่อมไปจังหวัดฉะเชิงเทรา หรือจะไปยังชลบุรีก็ได้เช่นกัน จัดเป็นถนน Super Highway ที่เชื่อมกรุงเทพและเขตปริมณฑลเข้าด้วยกัน ทำให้ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยเน้นการเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นหลัก เพราะจะวิ่งเข้าตัวเมืองไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ไม่ยาก และบริเวณถนนเส้นนี้ก็มี อาคารสำนักงานใหญ่ๆเกิดขึ้นหลายแห่งเช่น Central City Tower, MD Tower, อาคารไพโรจน์กิจจา, บางนาธานี, Interlink Tower และ Bangna Tower เป็นต้น หรือหากใครประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมแถวอมตะนคร ก็สามารถใช้ถนนเส้นนี้วิ่งตรงออกนอกเมืองได้สะดวกเช่นกัน
กาญจนาภิเษก : ถนนกาญจนาภิเษก หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่า วงแหวนรอบนอก ตะวันออก เหมาะกับคนที่เน้นเดินทางรอบนอกเมืองเป็นหลัก เพราะถนนเส้นนี้สามารถวิ่งเชื่อมรอบเมืองกรุงเทพเลย ซึ่งช่วยเลี่ยงการเดินทางข้ามผ่านใจกลางเมืองที่มีจราจรหนาแน่นได้ดี และถนนทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาเองก็มีความพิเศษคือคนส่วนใหญ่จะใช้เป็นเส้นทางเพื่อข้ามไปมาระหว่างบางนา-ตราดและลาดกระบังได้โดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วนและรถยังไม่ติดอีกด้วยค่ะ บนถนนทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาด้านฝั่งซ้ายเองจะมีทางลัดเลาะต่างๆ เชื่อมต่อกันได้เยอะ สามารถลัดไปออกบางนา-ตราด ช่วงก่อนถึงสะพานกลับรถเพื่อข้ามไป Mega Bangna ได้ทันที หรือจะใช้ลัดเพื่อไปออกถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 เพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์หรือถนนพัฒนาการก็ได้
อ่อนนุช : ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เป็นอีกถนนที่อยู่ไม่ไกลจากย่านนี้นะคะ ความน่าสนใจคือนอกเหนือจากการเดินทางเชื่อมระหว่างย่านอ่อนนุชเข้าสุขุมวิทตรงไปใจกลางเมือง หรือวิ่งไปทางสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายแล้ว คือเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ ดังนั้นเรื่องความอุดมสมบูรณ์จะค่อนข้างมากทีเดียว แต่ก็จะมีการจราจรที่หนาแน่นตามไปด้วยนะคะ (ขอบอกว่ามีสัญญาณไฟจราจรเยอะมากเลยค่ะ)
ศรีนครินทร์ : ถนนศรีนครินทร์ เป็นถนนที่ตัดผ่านบางนา-ตราดฝั่งทิศเหนือ-ใต้ วิ่งคู่ขนานกับถนนสุขุมวิท ซึ่งถนนเส้นนี้บริเวณใกล้ย่านบางนา-วงแหวนนี้มีความคึกคักพอสมควรเลยค่ะ เราจะเห็นว่ามีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 3 แห่งเรียงติดๆ กัน อย่าง Seacon Square, HaHa Mall และ Paradise Park รวมไปถึงตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนหลวงร.9 ด้วย
นอกจากนี้แล้ว ในทำเลนี้ยังมีตัวเลือกในการเดินทางด้วยทางพิเศษ (ทางด่วน) 2 สายสำคัญอย่าง ทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ หรือกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) และ ทางพิเศษบูรพาวิถี อีกด้วย จากทั้งหมดที่กล่าวมาจึงทำให้ทำเลนี้มีความสะดวกในการเดินทางด้วยรถยนต์มากทีเดียว

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะปัจจุบัน จะอยู่ห่างจาก Airport Rail Link (เส้นสีแดงทึบ) สถานีลาดกระบัง ประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถใช้เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ เนื่องจากจะไปเชื่อมต่อกับ BTS สายสีเขียว สถานีพญาไท และ MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีมักกะสัน หรือไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย

นอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าสายที่กำลังก่อสร้างคือเส้นประสีเหลือง บนถนนศรีนครินทร์ และในอนาคตยังมีแผนก่อสร้าง Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ อีกด้วย

อย่างที่บอกไปว่าถนนสุขาภิบาล 2 นี้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์เปิดใหม่กันอย่างต่อเนื่อง เอาแบบเบสิกง่ายๆ พวกร้านสะดวกซื้ออย่าง Tesco Lotus, 7-Eleven ก็มีตลอดทั้งเส้น หรือสไตล์ Community Mall ก็มีนะคะคือ K Space Mini Mall ภายในมีทั้งร้าน Buffet, ร้านอาหารญี่ปุ่น ฯลฯ

แต่ถ้าพูดถึงภาพรวมเป็นย่านใหญ่ถือว่ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะ มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลากหลายให้ช้อปปิ้งกันได้ไม่เบื่อเลย แต่จะต้องใช้รถขับไปสักหน่อย โดยจะแบ่งเป็นทำเลใหญ่ๆ ดังนี้

ถนนบางนา-ตราด : มี Mega Bangna ที่ภายในนอกจากจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์แล้ว ก็ยังมี IKEA ศูนย์รวมเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วย หรือบนถนนเส้นบางนา-ตราดเองก็จะมี Market Village, Makro บางพลี และ Central บางนา นอกจากนี้ยังมีห้างขายอุปกรณ์และของตกแต่งบ้านมาเปิดกันอีกหลายแบรนด์ทั้ง SB, Chic Republic, Index Living mall, ไทวัสดุ

ถนนศรีนครินทร์ : มีห้างใหญ่อย่าง Seacon Square, ตลาดนัดสวนรถไฟ มีคาเฟ่ให้เลือกนั่งพักผ่อน และ Paradise Park นอกจากนั้นยังใกล้กับสวนหลวง ร. 9 อีกด้วย

ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง : มี Community Mall อย่าง Paseo ลาดกระบัง ถัดมาอีกไม่ไกล ก็มีห้างสรรพสินค้าสร้างใหม่อย่าง Robinson ลาดกระบัง ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ (ประมาณ 5 กิโลเมตร) และมีโรงภาพยนตร์ให้ใช้บริการ

นอกจากแหล่งจับจ่ายใช้สอยแล้ว ในทำเลนี้ยังมีครบทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สวนสาธารณะ เช่น โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว มหาวิทยาลัยรามคำแหงวิทยาเขตบางนา โรงพยาบาลสิรินธร รวมถึงใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิด้วยค่ะ

เส้นทางที่เราจะเดินทางในวันนี้ เริ่มต้นบนถนนกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ (มอเตอร์เวย์) จากนั้นจึงพาเข้าถนนสุขาภิบาล 2 เพื่อเข้าถึงโครงการ Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช ระยะทางรวมประมาณ 6.3 km.

Image 1/12
เริ่มต้นเดินทางจากถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งมุ่งหน้าไปลาดกระบัง แต่ก่อนถึงลาดกระบังนั้นให้มองหาทางออกบางนาค่ะ

เริ่มต้นเดินทางจากถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งมุ่งหน้าไปลาดกระบัง แต่ก่อนถึงลาดกระบังนั้นให้มองหาทางออกบางนาค่ะ

 

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัย โดยแต่ละด้านติดกับ

ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินว่างเปล่าของบุคคลอื่น และหมู่บ้านจัดสรร
ทิศตะวันออก ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินว่างเปล่าของบุคคลอื่น และหมู่บ้านจัดสรร
ทิศตะวันตก ติดกับ ศูนย์การเรียนรู้ป่ากลางกรุง, ร้านอาหาร และถนนสุขาภิบาล 2

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า

  • Mega & Ikea บางนา ~ 7.7 km.
  • Robinson Lifestyle ลาดกระบัง ~ 8 km.
  • The Paseo Mall ลาดกระบัง ~ 9.2 km.
  • Paradise Park ~ 10 km.
  • Central บางนา ~ 10.5 km.
  • Seacon Square ~ 13.4 km.
  • ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ~ 14.3 km.
  • Central Village ~ 15.5 km.

โรงเรียน

  • รร.นานาชาติชาร์เตอร์ ~ 5.5 km.
  • รร.สาธิตรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 5.5 km.
  • รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน ~ 11.6 km.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 11.7 km.
  • Verso International School ~ 11.9 km.
  • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ~ 28.4 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.สิรินธร ~ 5.6 km.
  • รพ.จุฬารัตน์ 9 ~ 6.1 km.
  • รพ.ไทยนครินทร์ ~ 6.4 km.
  • รพ.ศิครินทร์ ~ 6.8 km.
  • รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 9.6 km.

สถานที่อื่น ๆ

  • สวนหลวง ร.9 ~ 6 km.
  • Summit Windmill Golf Club ~ 9.3 km.
  • สนามกอล์ฟ เมืองแก้ว ~ 11.3 km.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 13 km.

รายละเอียดโครงการ

มาดูที่ตัวโครงการ Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้นจำนวน 51 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการเกือบ 25 ไร่ ที่ดินของโครงการเป็นตัว L แบ่งเป็นซอยย่อยๆ ทำให้บ้านหลายๆ ยูนิตในโครงการเป็นแปลงมุม ส่วนที่เราชอบคือโครงการวางตำแหน่งของ Clubhouse และสวนสาธารณะไว้หน้าโครงการเลย ทำให้ประทับใจตั้งแต่ตอนเข้ามาเลยว่าบรรยากาศดูสวย โอ่อ่าและร่มรื่น

ถนน Main กว้าง 11 – 12 m. วางไว้ตรงกลางเพื่อแบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง วางบ้าน Type ใหญ่อย่าง Quadriga และ Brandenburg ไว้ด้านหน้า พอเข้าไปด้านในโครงการเรื่อยๆ จึงจะคละกันระหว่างบ้านทั้ง 3 Type ทำให้บ้านใหญ่ด้านหน้ามี Value มากขึ้นเพราะอยู่ใกล้กับ Facilities ส่วนกลาง แต่ก็แลกกับความสงบที่จะไม่ได้มากเท่าแปลงที่อยู่ด้านใน

ส่วนที่ต้องขอชมเลยคือ โครงการวางทิศของบ้านทุกหลังไปทางทิศเหนือ, ใต้ และตะวันออก ไม่มีทิศตะวันตกที่ชาวจีนมักถือเรื่องฮวงจุ้ยเลย ซึ่งบ้านเกือบทั้งหมดจะหันทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า

แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ

ทางเข้าโครงการ Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช มีระยะเข้ามาจากถนนสุขาภิบาล 2 ประมาณ 100 m. ถึงจะเจอกับซุ้มประตู ข้อดีคือกลายเป็น Buffer เรื่องเสียงและมลพิษต่างๆ บนท้องถนนได้ ส่งผลถึงความเป็นส่วนตัวของภายในโครงการที่มากขึ้นด้วย

ส่วนแรกที่อยากให้สังเกตคือการออกแบบซุ้มประตูหลักของโครงการ หลายคนคงคุ้นว่าเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี อย่างประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate) ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์เลยก็ต้องเป็นประติมากรรมด้านบนสุด หากเป็นรูปปั้นต้นฉบับจะมีม้า 4 ตัวเรียกว่ารูปควอดริก้า ซึ่งก็คือรถม้าลาก 4 ตัว เป็นราชรถของวิคตอเรีย (เทพแห่งชัยชนะ) ซึ่งที่โครงการได้ลดทอนลง แต่ก็ยังดูหรูหราและให้ความหมายที่ดี

โครงการวางป้อมรปภ.ไว้ตรงกลาง เพื่อแยกทางเข้า – ออกรถ 2 ฝั่งไว้ชัดเจน พื้นบริเวณทางเข้าปูด้วยคอนกรีตแสตมป์จึงดูแลทำความสะอาดง่าย

เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass แบบทางด่วน ซึ่งถ้าเป็นรถลูกบ้าน เจ้าประตูเหล็กเลื่อนก็เปิดออกให้อัตโนมัติ จะเปิดช้ากว่าไม้กั้นกระดกหน่อย แต่สวยงามและแข็งแรงปลอดภัยมากกว่า

ซุ้มโครงการมีหลังคาคลุมไว้ให้หลบฝนหลบแดดได้ เผื่อในวันที่ฝนตกแล้วแขกของลูกบ้านต้องมาติดต่อก็จะได้ไม่เปียก หรือวันที่แดดร้อนก็มีพื้นที่ร่มๆ ให้หลบแดดได้

ผ่านประตูเข้ามาจะเจอกับ Clubhouse ที่ตั้งตระหง่านต้อนรับพอดิบพอดี ทำให้ดูโอ่อ่า คอนเซปต์การออกแบบของโครงการที่นำสไตล์ยุโรปจากกรุงเบอร์ลินเข้ามาตกแต่ง ไม่ได้หยุดอยู่แค่หน้าซุ้มโครงการ แต่จะใช้ในพื้นที่ส่วนกลางและการออกแบบบ้านในโครงการด้วย เหมาะกับใครที่ชอบสไตล์หรูหรา คุมโทนขาวตัดขอบดำ ดูเก๋ๆ แบบนี้

Clubhouse และสวนส่วนกลาง มีขนาดประมาณ 1 ไร่กว่าๆ ใหญ่ทีเดียวถ้านับว่าแชร์ลูกบ้าน 51 ยูนิต ที่ไม่ได้เยอะเหมือนโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้ ภายในจัดมาให้ใช้งานได้หลายฟังก์ชันดีค่ะ

ตำแหน่งของ Clubhouse และสระว่ายน้ำจะอยู่ตรงกับประตูทางเข้า-ออกโครงการ แต่ไม่ต้องกลัวเสียความเป็นส่วนตัวในการใช้งานไปนะคะ เพราะเค้าออกแบบให้มีเจ้าซุ้มประตูทางเดินสีดำ บังอยู่ด้านหน้าชั้นหนึ่งก่อน

แต่การวางตำแหน่ง Clubhouse ไว้ด้านหน้าแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน ส่วนที่ดีคือบรรยากาศที่หรูหรา โอ่อ่า ตั้งแต่แรกเข้าโครงการ และสะดวกในการใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับเพื่อนๆ ได้ ข้อเสียคือบ้านที่อยู่ด้านในจะไกลจาก Clubhouse หน่ะสิ ถ้าไม่ขยันเดินก็ต้องขับรถมาแทนนะ

ทางเข้าอาคารจะมีซุ้มทางเดินเลียบสระว่ายน้ำ เพื่อเข้าสู่ Social Lounge ด้านใน

Social Lounge นี้ค่อนข้างหรูหราทีเดียว เห็นจากการใช้โทนสี เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงการเล่นฝ้าเพดานสูงด้วย ซึ่งเรามองว่านอกจากเราจะเพลิดเพลินเวลามาใช้งานเองแล้ว ก็สามารถใช้รับรองแขกที่มาหาได้ด้วย ดูสวยงามเป็นหน้าเป็นตา ไม่จำเป็นต้องไปรับแขกที่บ้าน ซึ่งอาจจะไปรบกวนสมาชิกในบ้านคนอื่นด้วยนะคะ

ภายในจัดชุดโซฟาไว้หลายมุม และมี Pantry ครัวพร้อมซิงค์ล้างจาน เผื่อไว้ให้ในกรณีจองใช้จัดงานปาร์ตี้ด้วย ถ้าอากาศร้อนก็เปิดแอร์ในห้องได้ หรืออยากเปิดหน้าต่างโล่งๆ ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำด้วยค่ะ

ฟังก์ชันหลักอื่นๆ ก็จะมีห้องครัวไว้ให้เตรียมอาหาร รองรับการจัดงานปาร์ตี้ของลูกบ้าน ถัดเข้าไปที่ Business Lounge เป็นทางเลือกสำหรับใครที่ Work From Home ก็มาเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานได้

Business Lounge จัดชุดโซฟาไว้พร้อมโต๊ะเล็กๆ เป็นฟังก์ชันที่เหมาะกับการนั่งทำงาน

ลักษณะเป็น Station ย่อยๆ ให้ความเป็นส่วนตัว และมีปลั๊กไฟให้เสียบ รองรับการนั่งทำงานยาวๆ

ส่วนที่เป็นห้องประชุมก็มีนะคะ ซึ่งเรามักจะเจอฟังก์ชันแบบนี้ในคอนโดที่มีคนอยู่เยอะๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ แถมที่นี่มีแค่ 51 ยูนิต ก็ถือว่าดีทีเดียวที่จัดพื้นที่มาให้ เหมาะกับกลุ่มนักธุกิจที่มักจะต้องมีการประชุมงานบ่อยๆ ก็เรียกประชุมที่ Clubhouse ของหมู่บ้านได้สะดวก ไม่ต้องเดินทางเลยค่ะ

ภายในห้องติดตั้งจอทีวี รองรับการพรีเซนต์งานและมี Glass Board ไว้ให้จดโน่นนี่ด้วย

สระว่ายน้ำจะตั้งเด่นอยู่กลาง Clubhouse เลย ทำให้ส่วนกลางทุกๆ ห้องจะได้วิวสระ

ตัวสระของที่นี่เป็นแบบ Outdoor ระบบเกลือขนาด 17.5 x 6.8 m. ลึก 1.2 m. แบ่งพื้นที่สระเด็กและสระผู้ใหญ่ไว้เรียบร้อย

สระเด็กมีขนาด 3 x 6.8 m. เค้าออกแบบมาให้มีน้ำตกด้วย เราจึงได้ยินเสียงน้ำอยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายขึ้นนะคะ

ด้านข้างสระวาง Day Bed ไว้ให้นั่งพักผ่อนหรือจะเอาไว้สำหรับนั่งรอเด็กๆ เล่นน้ำก็ได้

ด้านข้างสระมี Shower ให้มาอาบน้ำก่อนลงสระ อยู่ติดกับห้องน้ำเลยเวลาเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินออกมาอาบน้ำได้สะดวก ซึ่งห้องน้ำของที่นี่จะแบ่งห้องน้ำหญิง/ชาย/ผู้สูงอายุ ไว้ครบถ้วน

เราพามาดูด้านในห้องน้ำหญิงกันนะคะ ภายในกว้างขวาง ไม่อึดอัด มีตู้ Lockers ให้เก็บของได้เยอะทีเดียว และมีการระบายอากาศที่ดีด้วยแผงหน้าต่าง

ด้านในมีทั้งส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พอว่ายน้ำหรือออกกำลังเสร็จก็มาล้างเนื้อล้างตัวก่อนกลับเข้าบ้านได้

เราชอบการออกแบบที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุจังเลย อย่างการขึ้นชั้นบนก็จะมีเก้าอี้อัตโนมัติมาให้ ต้องขอชื่นชมนะว่ามีความละเอียดในการออกแบบให้ใช้งานได้จริงทั้ง 3 Gens

ชั้นบนของ Clubhouse หลักๆ ก็จะมี Kids Club และ Fitness รวมถึงมีห้องน้ำที่ชั้นนี้เพิ่มให้อีกตำแหน่งหนึ่งด้วยนะคะ

Kids Club มีสีสันสดใสถูกใจเด็กๆ แน่นอน แถมยังออกแบบพื้นที่ไว้หลายรูปแบบทั้งขั้นบันได และ สไลด์เดอร์

เรามองว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กน้อย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่กลัวคนนะคะ

ถัดมาที่ Fitness ภายในวางเครื่องออกกำลังกายไว้ 7-8 เครื่อง เป็นจำนวนที่โอเคอยู่นะเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้านที่ไม่ได้เยอะเหมือนหลายๆ โครงการในละแวกนี้

โครงการวางเครื่องออกกำลังกายให้หันหน้าออกไปทางสวน หากเปิดหน้าต่างก็จะได้วิวแบบนี้ แต่ถ้าวันไหนร้อนจะปิดหน้าต่างเปิดแอร์ก็ได้ค่ะ

โครงการจัดไว้ทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training ให้มาเลือกใช้งานกันได้

อีกมุมเก๋ๆ ที่ลูกบ้านน่าจะชอบกันคือ ระเบียงบนชั้น 2 ให้ออกมายืนชมวิวสวนแบบมุมกว้างๆได้

จากพื้นที่ Clubhouse จะมีทางลาดให้สามารถใช้รถเข็นต่อเชื่อมมายังสวนได้สะดวก  ตามหลักการของ Universal Design เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านทุกเพศวัย

สวนของโครงการนี้ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นทีเดียว สังเกตอย่างนึงว่าสวนส่วนกลางตามแนวถนน Main จะมีไม้พุ่มกั้นตลอดแนว เราคิดว่ามีข้อดีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ในสวน เผลอวิ่งออกมาบนถนนได้ง่ายๆ

เราเก็บรูปมุมสวยๆ ของน้ำพุมาฝาก เป็นน้ำพุขนาดใหญ่อยู่กลางสวนช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

นอกจากนี้ยังมีมุมนั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor จึงมานั่งเล่นได้ตลอดทั้งวัน

มีมุมนั่งเล่นเก๋ๆ อีกมุมที่เรามองว่าดูโอ่อ่าดี แต่แดดส่องถึงแหละ จึงเหมาะจะมาใช้งานช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มสักหน่อยค่ะ

นอกจากนี้ก็มีสนาม Street Basketball ไว้ให้ออกกำลังกายกันอีกด้วย

อย่างที่บอกไปว่าบ้านใครอยู่ด้านในที่ลึกหน่อย ก็สามารถขับรถมาจอดที่ Clubhouse ได้ มีช่องจอดรองรับได้ 3 – 4 คัน หรือถ้าไม่พอก็จอดตามถนน Main ได้เพิ่ม เพราะถนนกว้างถึง 12 m. นะคะ

ถนนหลักของโครงการที่กว้าง 12 m. ตัดไว้กลางโครงการเพื่อแบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง บรรยากาศบนถนนหลักนี้ดูร่มรื่นไปตลอดแนวด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

ส่วนของซอยย่อยจะมีความกว้างเหลือ 9 m. กว้างพอสมควรเลยค่ะ ถ้ามีการจอดรถหน้าบ้านก็ยังสามารถขับรถผ่านเข้าออกได้ และยังมีฟุตบาทพร้อมไม้พุ่มอยู่ตลอดทางจึงดูกว้างและร่มรื่นด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 17.5 x 6.8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 3 x 6.8 เมตร ลึก 0.65 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่
  • ห้องออกกำลังกายขนาด 10.5 x 5.7 เมตร ใส่เครื่องออกกำลังกายกว่า 10 เครื่อง
  • Kids Club
  • Social Lounge
  • Business Lounge

  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและต่อเหล็กแหลมเพิ่ม
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Easy Pass
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูโครงการแบบรั้วเลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
  • แบบบ้าน

    แบบบ้านโครงการ Grand Bangkok Boulevard บางนา-อ่อนนุช มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน รูปแบบจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 423 – 573 ตร.ม. ฟังก์ชันการใช้งานเน้นครอบครัวใหญ่ มีห้องนอนผู้สูงอายุ (ห้องนอนชั้นล่าง) ทุกแบบบ้าน รวมไปถึงที่จอดรถ 3 – 5 ที่จอด เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานจริงมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่กลุ่มคนซื้อระดับนี้มักจะมีรถยนต์ส่วนตัวแต่ละคนอยู่แล้ว แบบบ้านทั้ง 3 แบบมีรายละเอียด ดังนี้

    • แบบ Quadriga : ที่ดินมาตรฐาน 115.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 573 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ
    • แบบ Brandenburg : ที่ดินมาตรฐาน 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 507 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    • แบบ Arch : ที่ดินมาตรฐาน 85.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 423 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

    จุดที่น่าสนใจของบ้านในโครงการนี้คือ ตัวบ้านมาตรฐานจะเป็นบ้านขนาดใหญ่ บนที่ดินขนาดใหญ่ แต่ว่า“สร้างเต็มขนาดที่ดิน” แปลว่าตัวบ้านจะถูกวางลงบนที่ดินอย่างพอเหมาะพอดี เว้นระยะรอบๆบ้านไว้ไม่มาก

    ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน

    ติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Shock Sensor ทั้งหลัง

    Elder care solution ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ

    • ทางลาดจากที่จอดรถ ขึ้นไปยังตัวบ้านชั้น 1 ภายในตัวบ้านชั้น 1 ระดับเดียวกัน รองรับการใช้งาน Wheelchair
    • ประตูทางเข้าห้องนอนเป็นบานเลื่อน
    • พื้นห้องนอนชั้นล่างเลือกใช้ Shock Absorption Floor มีความฝืดมากกว่าปกติ(ช่วยให้ไม่ลื่น เมื่อเทียบกับวัสดุอื่น)
    • ห้องน้ำระดับเดียวกับตัวห้องนอน, เลือกใช้ Smart drain เพื่อระบายน้ำ, โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ, ราวจับ Cotto

    โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

    • โครงสร้างแบบ Conventional
    • ลงเสาเข็มทั้งตัวบ้าน ที่จอดรถ และลานซักล้าง
    • บานประตูทำด้วยไม้สัก มือจับยี่ห้อ Baldwin
    • พื้นชั้นล่าง – กระเบื้องลายหินอ่อนขนาด 80×80 cm.
    • พื้นชั้นบน – ปาร์เก้ไม้สักสำเร็จรูป หนา 18 mm.
    • พื้นบันได – ไม้สักประสาน, ราวจับ – Wrought Iron
    • ภายในห้องน้ำ – สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard และ TOTO , อ่างอาบน้ำของ Kasch, มีฉากกั้นอาบน้ำและอ่างอาบน้ำให้ในห้องน้ำ 2 ห้อง ,อ่างล้างหน้าแบบ His&Her และระบบน้ำร้อนใน Master Bedrom
    • Home Automation Ruejai OS และระบบป้องกันขโมย Magnetic & Shock Sensor

    ดูข้อมูลโครงการกันไปแล้ว เชิญชมบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากบ้านใหญ่ที่สุดก่อนนะคะ

    Quadriga

    แบบ Quadriga : พื้นที่ใช้สอย 573 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านที่รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่อาศัยกันแบบ 3 Generations  ตัวบ้านจะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าบ้าน 20-30 ล้านในทำเลนี้ จึงสามารถแบ่งกั้นพื้นที่ต่างๆออกเป็นฟังก์ชันย่อยได้หลากหลาย กลายเป็นจุดเด่นของบ้านที่ทำให้สามารถ Double ฟังก์ชันต่างๆ ได้ ทั้ง Double Living Area, Double Master Bedroom และ Double Volume

    สำหรับการวางแปลนบ้านที่นี่สังเกตว่าลักษณะจะเป็นการวางแปลนแนวยาวขนานไปกับที่ดิน ซึ่งหลายคนจะเรียกว่าเป็นรูปแบบ “บ้านหน้ากว้าง” ข้อดีของรูปแบบนี้คือ พื้นที่ในบ้านเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้ดีกว่าบ้านตอนลึก อีกอย่างคือการจัดวางฟังก์ชันภายในก็ลงตัวมากขึ้นด้วย เราสามารถแบ่ง zoning การใช้งานได้ดีมากขึ้น หากลองสังเกตที่ผังชั้น 1 ของทุกแบบบ้าน จะเห็นว่าโซนของส่วน Service จะเป็นสัดส่วนชัดเจนแยกออกจากบริเวณพื้นที่ใช้งานของสมาชิกในบ้าน เช่น พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร เป็นต้น

    ชั้น 1 จะสามารถแบ่งฟังก์ชันออกได้ 2 ฝั่ง ฝั่งแรกคือฝั่งที่จอดรถ บ้านแบบนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 5 คัน และฟังก์ชันทางฝั่งนี้จะเป็นส่วน Service ของบ้าน เป็นพื้นที่ของแม่บ้าน ครัว ซึ่งส่วนแม่บ้านจะแยกทางเข้า-ออกจากส่วนอื่นๆของบ้าน ในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็สามารถปิดบ้านส่วนครัวเอาไว้ได้ แม่บ้านก็อยู่พื้นที่ของตัวเองไม่สามารถเข้ามาส่วนบ้านใหญ่ได้ค่ะ

    จากที่จอดรถก็จะมีประตูเข้าบ้านอีกทาง ตรงนี้จะใกล้กับโซนทานอาหาร นั่งเล่นเลย ในกรณีที่มีแขกของคุณพ่ออยู่ที่โซนรับแขกหน้าบ้าน ลูกกลับมาก็เข้าประตูนี้ได้เลยไม่รบกวนกันค่ะ ส่วนประตูทางเข้าหลักจะอยู่ทางหน้าบ้าน มีทางลาดจากที่จอดรถขึ้นไปยังเฉลียงหน้าบ้าน เป็นพื้นที่ในร่มกันแดดกันฝนได้ และรองรับการใช้งาน Wheelchair ค่ะ

    ฟังก์ชันหลักที่ชั้น 1 จะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ และมีห้องนอนอยู่ 1 ห้อง เป็นห้องที่ออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ มีพื้นที่พักผ่อนและห้องน้ำในตัว ส่วนพื้นที่ Common Area ให้มา 2 ตำแหน่งเป็น Grand Living Area  1 จุด ที่ออกแบบไว้ติดกับประตูหลัก ที่ดูโอ่โถงด้วยฝ้าเพดานสูง เป็น Double Volume ใช้รับแขกจริงจัง ส่วน Living Area อีกจุดจะอยู่ด้านในดูลำลองขึ้น เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร จึงเหมาะกับการใช้งานกันในครอบครัว โดยที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำรองรับแขกอยู่ 1 ห้องเป็นห้องแบบ Powder Room ไม่มีส่วนอาบน้ำค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้นสอง ตัวบันไดจะอยู่ติดกับ Family Area ทางขวาจะเป็น Master Bedroom 2 อย่างที่บอกไปว่าเค้าออกแบบมาให้มีห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง เพราะปกติบ้านพื้นที่ขนาดนี้จะมีถึง 5 ห้องนอน แต่แปลนนี้มี 4 ห้อง ทำให้เราได้ Master Bedroom มาถึง 2 ห้อง เหมาะกับครอบครัวขยาย ที่เมื่อลูกมีการแต่งงาน ก็พาภรรยาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม ลูกก็จะได้อยู่ห้องนอนใหญ่เช่นกัน

    ห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านจะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่มีระเบียงส่วนตัวภายในห้องนอน แต่การออกแบบของทุกห้องจะเป็นห้องที่อยู่อาศัยได้สบาย วางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีมุมทำงาน ดูทีวี มีมุมทำ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว โดยเฉพาะ Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ มีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มีอ่างอาบน้ำ สุขภัณฑ์ต่างๆก็จะอัพเกรดเป็นรุ่นที่ดีขึ้นกว่าห้องอื่นๆค่ะ

    รั้วบ้านออกแบบมาให้เป็นเหล็ก ดูโปร่งๆ มีการลงไม้พุ่มช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวไว้ให้ตลอดแนว มีประตูสำหรับเดินเข้าออกแยกจากประตูที่จอดรถ ดูน่ารักดี

    ส่วนที่ชอบคือตำแหน่งของถังขยะที่ทางโครงการขยับตำแหน่งมาไว้ข้างบ้าน ทำให้หน้าบ้านดูคลีนๆ ไม่มีถังขยะมาวางให้รกสายตา และเสียฮวงจุ้ยเลย

    มาดูที่ตัวบ้านกันบ้างโครงการนี้จะมีจุดเด่นเรื่องบ้านขนาดใหญ่ และเป็นบ้านหน้ากว้าง ช่วยส่งเสริมให้บ้านดูมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยตัวบ้านจะออกแบบมาในสไตล์ยุโรปล้อไปกับการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลาง

    สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเราคือถึงแม้ตัวบ้านจะสร้างเป็นบ้านเต็มที่ดินแต่การออกแบบตัวอาคารฝั่งด้านหน้าจะมีองค์ประกอบของทางเดินและระเบียงที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับฟังก์ชันที่อยู่ภายในบ้าน เมื่อมองจากหน้าบ้านเข้าไปก็จะไม่เห็นภายในตัวบ้านตรงๆ

    ตัวบ้านจอดรถได้ 5 คัน เป็นที่จอดรถในร่มทั้งหมด ตัวประตูรั้วก็จะได้เป็นประตูบานเลื่อนที่ รองรับประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ เปิดได้ตลอดแนวทำให้จอดรถเข้าจอดได้สะดวก

    บริเวณที่จอดรถก็จะมีช่องเก็บของเอาไว้ให้ สามารถเก็บพวกอุปกรณ์ซ่อมบำรุง ดูแลสวนตรงนี้ได้ หน้าบานตู้เป็นบานเกล็ดช่วยระบายอากาศ และมีปลั๊กไฟที่รองรับการติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ด้วย รองรับเทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคตที่คงมีการใช้แพร่หลายขึ้น

    บ้านของโครงการนี้ไม่ได้เน้นให้มีพื้นที่ส่วนข้างบ้านกว้างนักนะคะ แต่ก็พอมีไว้ขั้นต่ำ 2 m. ตามกฎหมาย หรือหากเป็นแปลงมุมก็อาจได้พื้นที่มากขึ้นบ้าง แต่จะไม่ได้เยอะจนเหมาะจะต่อเติมนะคะ

    ฟังก์ชันที่อยู่ด้านหลังบ้านนั้นเป็น Function Service คือพื้นที่ลานซักล้าง และโซนของแม่บ้าน เวลาซื้อของเข้าบ้าน ก็สามารถเรียกแม่บ้านให้มาช่วยถือของได้ง่าย และถือตรงเข้าครัวได้ทันทีโดยที่ไม่รบกวนคนที่ใช้งานฟังก์ชันหลักในบ้านค่ะ

    โซน Service ของแม่บ้านมีชื่อเรียกน่ารักๆ ว่า Maid Plaza แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนไว้เรียบร้อย บ้านนี้มีห้องนอนแม่บ้านมาให้ 2 ห้อง และแยกห้องน้ำแม่บ้านไว้ต่างหากเลย ข้อดีคือช่วงกลางคืนหรือช่วงเวลาที่ครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนก็สามารถล็อกบ้านได้ ในขณะที่แม่บ้านก็ยังอยู่อาศัยได้ตามปกติ และพื้นที่ส่วนนี้ก็จะมีห้อง Laundry ที่กั้นไว้เป็นห้องปิด จึงใช้งานได้สะดวกกว่าบ้านแบบอื่นเลยค่ะ

    ห้องนอนแม่บ้านจะมีอยู่ 2 ห้อง ขนาดพอดีห้องละ 1 คนอาศัย มีหน้าต่างระบายอากาศถูกสุขลักษณะ

    ส่วนห้องน้ำแม่บ้าน ภายในถึงจะกะทัดรัดหน่อย แต่มีฟังก์ชันครบ

    กลับมาที่ส่วนหน้าบ้าน ..ประตูเข้าบ้านทางด้านหน้าจะมีด้วยกัน 2 ทาง คือประตูทางเข้าจากที่จอดรถ และประตูหลักที่ตรงกับพื้นที่รับแขก

    เนื่องจากบ้านโครงการนี้เป็นบ้านที่ตั้งใจออกแบบให้ครอบครัวใหญ่อยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generations ดังนั้นสิ่งที่สำคัญเลยคือ การออกแบบที่ใส่ใจกับผู้สูงอายุด้วย เพราะเป็นวัยที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพร่างกาย โดยสิ่งที่ตัวบ้านสามารถช่วยได้ก็คือการออกแบบให้สะดวกสบายและปลอดภัยกับผู้สูงอายุ

    เราก็จะเห็นตั้งแต่ส่วนหน้าบ้านที่มีทางเข้าเป็นทางลาดเอียง เผื่อกรณีเข็น Wheel Chair ก็ง่าย หรือจริงๆ ไม่มีผู้สูงอายุ เราก็ใช้เวลาซื้อของขนาดใหญ่ ใช้รถเข็นลากเอาก็สะดวกดี หรือพวกกระเป๋าเดินทางก็ลากขึ้น-ลงได้เลย ไม่ต้องมายกให้หนักค่ะ

    พาเดินดูรอบๆตัวบ้านไปแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปในบ้านกันนะคะ ทางเข้าหลักจากหน้าบ้านจะออกแบบให้เป็น Double Space ตั้งแต่ซุ้มประตูเลย จึงมีความสูงมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ เป็นการเน้นทางเข้าให้ดูโออ่ามากขึ้น

    บานประตูจะเป็นไม้สักบานเปิดสวิงคู่ มือจับใช้ของ Baldwin ที่มีชื่อเสียงมานาน ความ Premium ของแบรนด์นี้ทำให้เค้านิยมใช้กันในโครงการหรูๆ ซึ่งนอกจากความสวยและทนทานแล้ว ยังมี Gimmick ที่ตรงตัวล็อกจะมีเดือยเล็กๆ ที่ไม่สามารถเลื่อยผ่านให้ขาดได้ เพราะเดือยนี้ถูกออกแบบให้หมุนไปตามใบเลื่อย จึงช่วยป้องกันโจรขโมยได้อย่างดี

    เข้ามาในบ้านเราจะเจอกับ Foyer หรือว่าโถงต้อนรับกันก่อนเลย (ภาพบน) เป็นบ้านตัวอย่างที่มีการตกแต่งบริเวณบันได และมีการทำฉากกั้นเพิ่มเติม (ภาพล่าง) เป็นบ้านมาตรฐานที่ขาย จะได้เป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมกับพื้นที่ด้านใน และราวบันไดจะได้เป็นซี่เหล็ก ดูโปร่ง และแข็งแรงด้วย Wrought Iron

    ติดกับประตูทางเข้าจะมี Home Automation เราสามารถควบคุมไฟทั้งบ้านได้จากตำแหน่งนี้ที่เดียวเลย ความสามารถของเจ้าแผงนี้คือ สามารถปิดไฟทั้งบ้านได้จากบริเวณนี้ ไม่ต้องไปตามปิดทีละดวงให้เสียเวลาค่ะ

    จากคอนเซปต์ของบ้านพื้นที่ใช้สอยเยอะ ทางโครงการจึงออกแบบมาให้มีการ Double Function อย่าง Living Area ก็ให้มาถึง 2 ตำแหน่ง สำหรับส่วนนี้ที่ติดอยู่กับโถงต้อนรับ เรียกว่า Grand Living Area มีขนาดใหญ่ ดู Formal เป็นหน้าเป็นตาในการรับแขก แยกออกจาก Living Area อีกส่วนหนึ่งที่อยู่หลังฉากกั้น ทำให้เวลามีแขกมาบ้าน สมาชิกในครอบครัวก็ยังนั่งชิล ดูทีวีอยู่โซนด้านในได้

    เราสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 10 – 12 ที่นั่งใน Grand Living Area ได้เลย และหากต้องการพื้นที่รับแขกที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถกั้นเป็นห้องปิดได้นะคะ เผื่อใครต้องการรับแขก พูดคุยกันก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    ตรงนี้จะมีประตูออกไปยังข้างบ้านได้ อาจจะต่อเติมเฉลียงเพิ่มเติมได้นะคะ

    ถัดเข้ามายังพื้นที่ด้านในของบ้าน เราจะเจอกับ Living Area อีกตำแหน่งที่เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งส่วนนี้ถือว่าเป็นใจกลางบ้านก็ว่าได้ บริเวณนี้จึงเป็นพื้นที่ที่สมาชิกในบ้านใช้อยู่อาศัยกันเป็นหลักจริงๆ

    มุมนั่งเล่นของสมาชิกในบ้านสามารถวางชุดโซฟาขนาด 6 – 7 ที่นั่งได้แบบสบายๆ และมีระยะพอให้ติดทีวีพรีเมี่ยมขนาดใหญ่แบบ 75 นิ้วก็ได้นะคะ

    ติดกันเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารที่สามารถวางโต๊ะยาวขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้เลย บริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกด้านหลังบ้านเข้ามา

    โซนนี้ยังสามารถทำ Pantry ครัวฝรั่งได้อีกด้วย จะทำเป็นเคาน์เตอร์ Island ตามแบบในบ้านตัวอย่างก็มีพื้นที่พอ ซึ่งบ้าน Standard จะได้มาเป็นแบบโล่งๆ แต่เตรียมงานระบบต่างๆไว้ให้พร้อมค่ะ

    ส่วนรับประทานอาหารมีตำแหน่งที่ตรงกับประตูทางเข้าจากที่จอดรถเลยค่ะ เป็นประตูเล็กที่ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน และยังเข้าถึงพื้นที่อยู่อาศัยหลักได้ง่าย หรือเวลาที่คุณพ่อมีแขก สมาชิกคนอื่นก็เลี่ยงมาเข้าประตูนี้ได้ ไม่ไปรบกวนการรับแขกด้านหน้าบ้านด้วยนะ

    ถัดไปเป็น Powder Room ห้องน้ำไว้ใช้รับแขกโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีพื้นที่หน้าห้องน้ำอยู่นิดหน่อย ให้จัดเป็นตู้สำหรับเก็บรองเท้าได้ เพราะเรามองว่าเวลาใช้งานจริงเจ้าของบ้านมักจะใช้ทางเข้านี้เป็นหลัก ดังนั้นการมีชั้นวางรองเท้าตรงนี้ก็จะสะดวกสำหรับใช้งานมากกว่าตำแหน่งอื่น

    สำหรับ Keypad ที่ควบคุมระบบกันขโมยที่ให้มา จะติดไว้ข้างประตูทางเข้าจากที่จอดรถนี่แหละ เป็นตำแหน่งที่อยู่กลางบ้านจึงเข้าถึงได้ง่ายดีค่ะ

    ห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะได้เป็นแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ ได้กระจกเงาบานใหญ่เลย และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ American Standard

    งานออกแบบที่เราต้องให้คะแนนเพิ่มกับโครงการนี้จริงๆ ก็คือเรื่องของ Universal Design ที่มีการออกแบบ Floor Drain หรือท่อระบายน้ำดีไซน์ยาวไว้ระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นบ้าน ทำให้ใช้งานง่ายเหมาะกับการอยู่อาศัยทั้ง 3 Generations

    ถัดเข้ามายังพื้นที่ด้านในจะมีห้องเก็บของที่อยู่ก่อนถึงห้องครัวไทย ซึ่งห้องครัวไทยจะวางตำแหน่งไว้ด้านในสุดเชื่อมกับส่วน Service อย่างโซนของพี่ๆ แม่บ้านอีกที

    ห้องเก็บของมีพื้นที่พอให้วางของชิ้นใหญ่ๆ สูงๆ อย่างถุงกอล์ฟได้ แต่เก็บของให้เต็มไม่ได้นะคะ เพราะพวกอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าต่างๆ ก็ถูกติดตั้งไว้ในนี้ด้วย จึงต้องเผื่อไว้ให้เปิด Maintenance ได้สะดวก

    ส่วนครัวสามารถทำเป็นครัวตัว L ขนาดใหญ่ ก็จะได้เป็นพื้นที่โล่ง เดินงานระบบไฟ – ระบบน้ำรองรับการต่อเติม

    สำหรับโครงการนี้ภายในบ้านที่ให้มาจะเป็นพื้นที่โล่งๆเสียส่วนใหญ่ เนื่องมาจากกลุ่มครอบครัวที่ซื้อบ้านราคานี้มักจะมี Interior designer มาช่วยตกแต่งภายในบ้านค่ะ เพื่อให้ดีไซน์หรือ Mood&Tone บ้านไปในทิศทางเดียวกันสร้างใหม่มักจะง่ายกว่าการรื้อทิ้งนะคะ

    ภายในครัวมีช่องหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศมาด้วย ถ้าจะ Built-in ชุดครัวก็แนะนำให้วางตำแหน่งซิงค์ล้างจานไว้ตรงกับหน้าต่าง จะช่วยลดความชื้นในห้องครัวได้

    Bedroom 4 (ห้องผู้สูงอายุ)

    สำหรับห้องนอนในชั้นล่างออกแบบมาให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่มีห้องน้ำในตัวเลย จากตำแหน่งที่อยู่ติดกับ Living Area จึงลดทอนความเป็นส่วนตัวไปบ้าง แต่เค้าก็แก้ด้วยการจัดฟังก์ชันภายใน แก้ได้อย่างไรเราขออธิบายในภาพถัดไปเลยค่ะ

    โดยการวางห้องน้ำไว้ด้านหน้าทางเข้าและดันพื้นที่พักผ่อนเข้าไปไว้ด้านใน ก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดเสียงจาก Living Area ที่จะเล็ดลอดเข้ามาในห้องอากง อาม่าของเราได้

    ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องเรามองว่าค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็วางเตียงขนาดใหญ่ได้และยังเพิ่มมุมนั่งเล่นส่วนตัวภายในห้องได้ด้วย หรือจะจัดเป็นห้องทำงานตามแบบในบ้านตัวอย่างก็มีพื้นที่ให้จัดเป็นมุมโซฟาอ่านหนังสือได้

    อีกอย่างหนึ่งที่เราว่าโครงการเค้ามีความละเอียดลออในการเลือกวัสดุคือ เจ้าวัสดุพื้นห้องนี้ที่เรียกว่า SCG Soft Floor โดยจะมีความนุ่มกว่าพื้นทั่วๆไป เพื่อลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุหกล้มต่างๆ

    ผนังตั้งแต่ประตูหน้าห้องก็มีพื้นที่ให้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของยาวมาตลอดแนวได้เลย เรียกว่าได้ตู้ใหญ่เก็บของได้เยอะทีเดียว

    ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนผู้สูงอายุของโครงการนี้ มีการออกแบบที่พิถีพิถันอีกเช่นกัน โดยห้องน้ำนี้ก็จะติดตั้งราวจับไว้ให้ เผื่ออากง อาม่าใช้งานจะได้มีที่จับพยุงตัว

    นอกจากนั้นระดับพื้นภายในห้องน้ำและห้องนอนจะอยู่ระดับเดียวกัน ป้องกันการสะดุดล้มได้  และเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากการอาบน้ำไหลเปียกเลอะมาภายในห้องนอนก็ได้มีการออกแบบ Floor Drain หรือท่อระบายน้ำดีไซน์ยาวไว้

    สุขภัณฑ์หลักๆ แล้วจะได้ของ American Standard อ่างล้างหน้าก็มีตู้เก็บของด้านใต้ดูเรียบร้อยสวยงาม

    ส่วนโถสุขภัณฑ์ห้องนี้จะได้ของ American Standard เช่นกัน

    ราวจับจะเป็นแบบพับเก็บได้ จึงยืดหยุ่นในการใช้งาน

    ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็มีขนาดพอเหมาะให้วางเก้าอี้อาบน้ำได้ และจะติดตั้งมือจับไว้ให้เช่นกัน ตรงนี้จะมีช่องวางของเอาไว้ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ด้วยค่ะ

    Highlight อย่างหนึ่งในบ้านนี้เลยก็คือเจ้าบันไดทรงโค้งที่ไม่ได้เห็นได้จากทุกโครงการบ้านหรูนะ แต่เนื่องจากบ้านโครงการนี้ให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะ จึงมีพื้นที่พอให้เล่นดีไซน์บันไดที่ดูแกรนด์ๆ แบบนี้ได้

    โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้สักประสาน ส่วนราวบันไดใช้เหล็กที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่าง Wrought Iron ที่รู้กันว่าเจ้านี่อ่อนนอกเหนียวใน จึงสามารถบิดเกลียว ขึ้นลวดลายได้สวยงาม แต่ก็ยังทนทาน ไม่ขึ้นสนิมง่ายๆ ค่ะ

    จากชั้นบนมองลงมาก็จะได้ความโอ่โถงของ Double Space และมองเห็นด้วยว่ามีแขกมารอที่ Grand Living Area หรือเปล่าด้วยนะ

    ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเจอกับ Family Area เป็นลำดับแรก เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Private ของครอบครัวก่อนที่จะเชื่อมเข้าสู่ห้องนอนของสมาชิกแต่ละคน

    พื้นที่บริเวณนี้กว้างมากนะคะ วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้อีกแล้ว ส่วนตัวมองว่าฟังก์ชันตรงนี้อาจปรับให้เหมาะสมกับการมานั่งเล่น ทำการบ้านของเด็กๆ ได้ด้วยก็ดี จะได้มีพื้นที่ให้พบปะ มานั่งอ่านหนังสือร่วมกัน ที่นอกเหนือไปจากโต๊ะหนังสือ/โต๊ะทำงานในห้องนอนของแต่ละคน

    Bedroom 2 (Master Bedroom 2)

    อย่างที่บอกไปว่าพื้นที่ตรงนี้กว้างมาก เราจึงมีพื้นที่ให้วางเครื่องออกกำลังกายได้ด้วย แต่สิ่งที่ต้องระวังคือระยะดูทีวีกว้างๆ แบบนี้ เราต้องเลือกทีวีขนาดใหญ่ให้เหมาะสมกับระยะด้วยนะคะ ต่อไปจะพาไปชม Master Bedroom 2 ที่อยู่ด้านข้างชั้นวางทีวีกันนะ

    หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงเรียก Master Bedroom 2 เพราะปกติบ้านส่วนใหญ่จะมี Master Bedroom เพียงห้องเดียว นั่นก็เพราะว่าห้องนี้จัดฟังก์ชันมาให้ใกล้เคียงกับห้องนอนใหญ่เลย รองรับครอบครัวที่ลูกมีการแต่งงาน แล้วอยากได้ห้องนอนใหญ่ ฟังก์ชันครบเช่นเดียวกับห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ แปลนบ้านนี้ก็ตอบโจทย์ในทันที

    ภายในตัวห้องแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนสำหรับวางเตียงนอนและฝั่งห้องน้ำที่สามารถทำ Walk-in Closet ด้านหน้าได้

    หากวางเตียงไว้กลางห้องก็จะมีพื้นที่ข้างเตียงฝั่งหนึ่งอยู่ติดกับหน้าต่าง มุมนี้เหมาะกับการจัดเป็นมุมนั่งเล่น ให้มองเห็นวิวภายนอกได้

    และห้องนี้จะมีระเบียงส่วนตัวภายในห้องเช่นเดียวกับ Master Bedroom ด้วย แต่พื้นที่ไม่ได้กว้างมากนัก แค่พอให้ออกไปยืนรับลม ชมวิว หรือวางกระถางต้นไม้ได้นิดหน่อยค่ะ

    บ้านตัวอย่างจัดโต๊ะทำงานไว้อีกฝั่งหนึ่งของเตียง ซึ่งสามารถวางโต๊ะเข้ามุมตัว L ชุดใหญ่ได้เลย

    ห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวก็แยกออกเป็นสัดส่วนนะคะ

    ภายใน Walk-in Closet สามารถจัดตู้เสื้อผ้าเข้ามุมเป็นรูปตัว L หรือ จะวางโต๊ะเครื่องแป้งก็เหมาะสม เพราะมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาในส่วนนี้ได้ ประตูทางขวาจะต่อเนื่องไปกับห้องน้ำ จึงใช้งานได้สะดวก

    พื้นห้องน้ำชั้นบนจะลดระดับลงจากพื้นห้องปกติเล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลออกไปทำให้พื้นบ้านเสียหายนะคะ

    ภายในมีพื้นที่ขนาดใหญ่และให้อุปกรณ์มาครบ ส่วนที่ได้พิเศษขึ้นมากกว่าห้องน้ำอื่นคืออ่างอาบน้ำ ซึ่งโครงการส่วนใหญ่มักจะให้มาเฉพาะในห้องนอนใหญ่นะคะ แต่ที่นี่ก็ให้มาใน Bedroom 2 ด้วย

    อ่างอาบน้ำของ Kasch ที่ได้มามีความยาว 1.6 m. ติดตั้งระบบน้ำร้อนและฝักบัวมาให้

    หากวันไหนรีบๆ ก็มาอาบใน Shower Box ได้ มาพร้อมสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ American Standard ค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำดูเป็นสัดส่วนด้วย Shower Box และการลดระดับลงจากพื้นห้องน้ำปกติไปเล็กน้อย มีพื้นที่พอให้หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ได้ฝักบัวทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower เลยค่ะ

    อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะมีโถงทางเดินเข้าไป Master Bedroom ที่อยู่ด้านในสุด ซึ่งเป็นตำแหน่งห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุดเพราะอยู่ห่างจาก Family Area มากสุดนั่นเอง แต่ก่อนถึงด้านในสุดจะมีทางเข้า Bedroom 3 อยู่อีกห้องหนึ่งนะคะ

    สังเกตว่าเจ้า Key Pad ระบบกันขโมยจะติดไว้ให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เผื่อเวลากลางคืนอยากเช็คดูว่าปิดประตูครบไหม หรือหากมีสัญญาณเตือนก็ออกมาดูได้ง่าย

    Bedroom 3

    ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนที่มีตำแหน่งอยู่ฝั่งหลังบ้าน ถึงจะเป็นห้องนอนเล็กสุดแต่ก็วางเตียง King Size ได้นะคะ การจัดฟังก์ชันภายในจะคล้ายกับห้องนอนที่แล้ว แต่ว่าพื้นที่ละส่วนจะย่อขนาดลงมาหน่อยและไม่มีระเบียงค่ะ

    สามารถจัดมุมนั่งเล่นในห้องได้

    และพื้นที่อีกฝั่งก็ยังใช้วางโต๊ะเขียนหนังสือได้ พื้นที่ที่ติดกันเป็น Walk-in Closet ที่วางตำแหน่งไว้หน้าห้องน้ำให้ใช้งานได้สะดวก

    พื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 3 ฝั่ง และยังมีพื้นที่เหลือให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้

    ห้องน้ำจะมีหน้าต่างอยู่ด้านใน แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งเอาไว้ให้ วัสดุจะได้ของ American Standard เช่นเดียวกัน เสียดายอยู่นิดนึงที่น่าจะติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ครบทุกห้องเลยนะคะ (โครงการติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้เฉพาะในห้อง Master Bedroom และ Bedroom 2)

    Master Bedroom

    ปิดท้ายบ้านหลังนี้ด้วย Master Bedroom ตรงหน้าทางเข้าจะมีพื้นที่เล็กๆ อยู่ จะจัดเป็นโซนตกแต่ง หรือว่ากั้นเป็น Pray Room ก็ได้

    Master Bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ภายในขนาดกว้าง มีระเบียงในตัว เราสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนนั่งเล่น และ ส่วนพักผ่อนได้ ขนาดพื้นที่ภายในแล้วสามารถจัดได้หลายรูปแบบ

    ที่เราชอบอย่างหนึ่งคือ เค้าออกแบบมาให้เป็นบานกระจกตลอดแนว เปิดวิวกันแบบเต็มที่ หากอยากได้ความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านโปร่งเพิ่มเติม และคิดว่าเป็นไอเทมที่จำเป็นสำหรับห้องนี้เลยค่ะ

    ตำแหน่งวางเตียงนอนสามารถวางเตียง King Size แล้วยังมีพื้นที่หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ด้านข้างเตียงจะมีแผงควบคุมไฟมาให้บนห้องนอนเลยด้วย

    Master Bedroom จะมีมุมนั่งเล่น ดูทีวี ให้กับเจ้าของบ้าน ตอบโจทย์ช่วงเวลาที่ต้องการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว

    จากพื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับระเบียงส่วนตัว เป็นระเบียงที่ทอดยาวตลอดแนวห้องนอน ไม่ได้กว้างมากแต่ก็ออกมายืนสูดอากาศได้สะดวก หรือเอาชุดเก้าอี้สนามมาวางไว้นั่งเล่นก็ยังได้ หรืออาจจะปลูกต้นไม้ที่ระเบียงก็ได้นะคะ มองจากห้องนอนออกมาจะได้เห็นใบไม้ ดอกไม้สีสัน ตื่นนอนมาก็จะได้สดชื่น

    ส่วนที่ชอบคือ ระเบียงเป็นแบบ Semi-Outdoor ที่มีหลังคาคลุมด้านบน จึงช่วยบังแดดให้กับห้องนอนได้เป็นอย่างดี

    อีกส่วนของห้องนอนจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ค่ะ

    พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นผนังทึบทั้งหมด แปลว่าทำ Built-in ได้รอบด้านเลย และก็ยังทำ Island ตรงกลางได้ด้วยค่ะ

    ภายใน Master Bathroom จัดพื้นที่ไว้กว้างมากๆ และได้ช่องแสงบานใหญ่ที่เปิดระบายอากาศได้ ฟังก์ชันภายในห้องจัดมาให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้

    เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ได้เป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมๆกันได้ ส่วนตู้เก็บของด้านข้างจะไม่ได้ให้มานะคะ เราแนะนำให้ Built-in เพิ่มเติมเพื่อเก็บของให้ดูเรียบร้อย

    อ่างอาบน้ำในห้องนี้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องอื่น ใช้แช่พร้อมกัน 2 คนได้สบาย

    ส่วนฟังก์ชันที่มีฉากกระจกกั้นไว้นั้นจะเป็นห้องอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็น Washlet ตัวนี้สเปกที่ดีกว่าห้องอื่นๆ เพราะตัวฝาจะเปิดปิดเองได้ ด้วยตัวจับ Sensor ค่ะ

    และทั้งหมดนี้ก็เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดคือแบบ Quadriga ถัดไปเราจะพาไปชมบ้านขนาดรองลงมานะคะ


    Brandenburg

    แบบบ้านต่อมาที่จะพาไปดูเป็นบ้านที่มีชื่อว่า Brandenburg ค่ะ ก่อนที่จะไปดูตัวบ้าน เราดูผังบ้านกันก่อนนะคะ

    แบบบ้านนี้คล้ายกับแบบแรกเลยค่ะ แต่จะจอดรถภายในบ้านได้ทั้งหมด 4 คัน ฟังก์ชันยังคงครบถ้วนด้วยคอนเซปต์ Double ในส่วนต่างๆ ทั้ง Double Living Area, Double Space และ Double Master Bedroom จึงรองรับครอบครัวขยายที่ลูกๆ มีการแต่งงานเข้ามา มีสมาชิกหลาย Gens อยู่ด้วยกันได้ แต่ขนาดของห้องต่างๆ จะเล็กลงกว่าแบบแรกนิดหน่อยค่ะ

    ชั้น 2 ของบ้าน จัดฟังก์ชันไว้เหมือนบ้านแบบแรกเช่นกัน แตกต่างหน่อยตรงตำแหน่งบันไดที่วางไว้ติดกำแพงเลย เพื่อขยับพื้นที่นั่งเล่นมาไว้หน้าบ้าน ส่งผลให้ Master Bedroom 2 กลายเป็นห้องที่อยู่ทางหลังบ้านไปโดยปริยาย จะไม่ได้ระเบียงในห้องนอนแล้วนะ แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยที่มากขึ้น ส่วนห้องอื่นๆ วางผังไว้คล้ายแบบเดิม จะต่างก็ตรงขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เล็กลงนิดหน่อยนะคะ

    Brandenburg ยังคงรูปลักษณ์บ้านที่นำเอาองค์ประกอบแบบยุโรปจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีมาใช้ คล้ายกับแบบ Quadriga ซึ่งตัวบ้านก็ยังเป็นบ้านหน้ากว้าง สร้างเต็มพื้นที่ทำให้บ้านดูขนาดใหญ่

    แบบบ้านนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 4 คัน ประตูหลักจะมี 2 ทางเช่นเคยคือ จากทางที่จอดรถและจากประตูหลักหน้าบ้าน

    เข้าบ้านมาจะเจอกับโถงต้อนรับแบบ Double Space ทำให้บ้านดูโอ่อ่า

    และเช่นเดียวกับบ้านแบบแรกพื้นที่ที่อยู่ติดกับโถงบันไดก็คือ Grand Living Area แต่ตำแหน่งจะถูกสลับเข้ามาไว้ด้านใน ไม่ได้ตำแหน่งมุมบ้านแล้ว จึงได้วิวเฉพาะสวนหน้าบ้านเท่านั้น แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ

    บริเวณนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 10 ที่นั่งได้เลย บ้านตัวอย่างทำฉากกั้นห้องเพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อแบ่ง Grand Living Area ออกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ  ซึ่งจริงๆ แล้วหากต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ ก็สามารถกั้นห้องแบบเป็นกิจจะลักษณะได้เลยด้วย

    ผ่านฉากกั้นเข้ามาจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหลักๆ ของสมาชิกในครอบครัว ลักษณะเป็น Common Area ที่รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารไว้ในโซนเดียวกัน รองรับการจัด Party กินข้าว เล่นเกมส์ ดูทีวีในพื้นที่เดียว

    มุมโต๊ะกินข้าวก็จัดได้ถึง 8 ที่นั่ง มีพื้นที่ให้ทำ Pantry ครัวฝรั่ง สำหรับทำอาหารง่ายๆ และจัดปาร์ตี้

    บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์ฯ Built-in แบบนี้ไว้ถูกใจเราเลย คือออกแบบมาเป็นตู้รองเท้า ตู้เก็บของ และมุมนั่งใส่รองเท้า ซึ่งเราว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสุดเท่าที่มีแล้วนะคะ ที่จะวางฟังก์ชันนี้ไว้ติดประตูทางเข้าจากที่จอดรถ ซึ่งน่าจะเป็นประตูหลักในการใช้งานจริง ส่วนทางขวาเป็นตำแหน่งของห้องน้ำแขก (Powder Room)

    ภายใน Power Room จะมีฟังก์ชันเฉพาะโซนแห้ง ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ American Standard

    ถัดเข้ามายังพื้นที่ด้านในจะมีห้องเก็บของที่อยู่ก่อนถึงห้องครัวไทย ซึ่งห้องครัวไทยจะวางตำแหน่งไว้ด้านในสุดเชื่อมกับส่วน Service อย่างโซนของพี่ๆ แม่บ้านอีกที

    ส่วนครัวสามารถทำเป็นครัวตัว U ขนาดใหญ่ได้

    โซน Maid Plaza แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนไว้เรียบร้อย บ้านนี้มีห้องนอนแม่บ้านมาให้ 1 ห้อง และมีห้องน้ำแม่บ้านไว้ให้ต่างหาก ข้อดีคือช่วงกลางคืนหรือช่วงเวลาที่ครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนก็สามารถล็อกบ้านได้ ในขณะที่แม่บ้านก็ยังอยู่อาศัยได้ตามปกติ

    กลับมาในตัวบ้านที่ห้องนอนชั้นล่าง (Bedroom 4) จะอยู่ติดกับ Living Area ซึ่งทางโครงการก็เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ห้องนอนนี้ตามแบบที่เล่าให้ฟังในบ้านแบบแรกนะคะ

    Bedroom 4 (ห้องผู้สูงอายุ)

    ห้องนอนที่ชั้นล่างนั้นออกแบบไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุค่ะ ตัวพื้นจะเลือกใช้แบบ SCG Soft Floor ระยะต่างๆข้างเตียงหรือปลายเตียงก็กว้างอยู่นะคะ รองรับการใช้ Wheelchair ได้

    นอกจากนั้นก็จะมีห้องน้ำในตัว ที่ติดตั้งราวจับ และใช้ Smart Drain เพื่อระบายน้ำโดยที่ระดับห้องน้ำกับระดับพื้นห้องเท่ากันค่ะ

    ตำแหน่งบันไดของบ้านหลังนี้จะถูกขยับมาไว้ติดมุมบ้าน มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ พูดถึงข้อดีก่อนคือบริเวณบันไดจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ อย่างช่วงกลางวันนี่ไม่ต้องเปิดไฟก็ใช้งานได้สบายๆ และยังช่วยเป็น Buffer Zone ทางสายตาให้กับพื้นที่พักผ่อนส่วนอื่นในตัวบ้านได้อีกด้วย

    แต่หากบ้านไหนที่ชอบให้ห้องต่างๆ ได้ตำแหน่งมุมมีพื้นที่ติดหน้าต่างเยอะๆ แปลนนี้ก็ดูขัดใจอยู่ เพราะเจ้าบันไดจะมายึดพื้นที่ติดหน้าต่างไป วัสดุของบันไดจะได้สเปกเดียวกับบ้านแบบแรกที่พิเศษด้วยการใช้ Wrought Iron เข้ามาตกแต่งนะคะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกที่จะเจอคือ Family Area ที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน พื้นที่ตรงนี้จะโล่งต่อเนื่องไปยังหน้าห้องนอนทุกห้อง ทำให้ Family Area นี้เป็นเหมือนจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้านจริงๆ ก่อนนอนก็มานั่งดูหนังด้วยกันตรงนี้ได้

    ห้องนอนแรกที่อยู่ติดกับบันไดเป็น Master Bedroom 2 ซึ่งบ้านตัวอย่างมีการตกแต่งใหม่ให้กลายเป็น Game Room ต่อเชื่อมกับ Family Area

    Bedroom 2 (Master Bedroom 2)

    เนื่องจากตัวบ้านก่อสร้างด้วยระบบ Conventional เราจึงสามารถทุบผนัง/กั้นห้องใหม่ เพื่อตกแต่งต่อเติมได้สะดวก อย่างในบ้านตัวอย่างได้จัดการทุบกำแพงเพื่อเชื่อม Family Area เข้ากับ Bedroom 2 แล้วจัดให้เป็น Game Room นะคะ

    พื้นที่ Bedroom 2 หากจัดเป็น Game Room ก็มีพื้นที่ให้สามารถวางโต๊ะสนุ๊กได้

    และยังมีพื้นที่เหลือให้จัดชุดโซฟาได้อีกมุม

    ภายในห้องนี้จะมีห้องน้ำเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ซึ่งคอนเซปต์ที่เป็น Master Bedroom ที่ 2 ทำให้ห้องน้ำมีฟังก์ชันครบเช่นเดียวกับห้องน้ำใน Master Bedroom ด้วย แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยที่กะทัดรัดลงมาค่ะ

    ภายในห้องน้ำมีขนาดให้ใช้งานได้สบายๆ และแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องให้ของ American Standard และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ

    ภายในพื้นที่อาบน้ำจะใส่อ่างอาบน้ำมาให้ด้วย ตำแหน่งอยู่ตรงกับหน้าต่างเพื่อช่วยระบายความชื้นในห้องได้

    ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ติดกับอ่างเลย มีความกว้างให้ยืนหมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ เลยค่ะ

    อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะมีโถงทางเดินเข้าไป Master Bedroom ที่อยู่ด้านในสุด ซึ่งเป็นตำแหน่งห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุดเพราะอยู่ห่างจาก Family Area มากสุดนั่นเอง แต่ก่อนถึงด้านในสุดจะมีทางเข้า Bedroom 3 อยู่อีกห้องหนึ่งนะคะ

    Bedroom 3

    ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนที่มีตำแหน่งอยู่ฝั่งหลังบ้าน ถึงจะเป็นห้องนอนเล็กสุดแต่ก็วางเตียง King Size ได้นะคะ การจัดฟังก์ชันภายในจะคล้ายกับห้องนอนที่แล้ว แต่ว่าพื้นที่แต่ละส่วนจะย่อขนาดลงมาหน่อยและไม่มีระเบียงค่ะ

    เห็นบ้านตัวอย่างจัดเป็น Theme สีเข้มๆ แบบห้องของเด็กผู้ชาย แต่จริงๆ ในห้องนี้ได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างข้างหลังบ้านเข้ามาด้วยนะ

    พื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่ง และยังมีพื้นที่เหลือให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้

    ห้องน้ำจะมีหน้าต่างอยู่ด้านใน แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งเอาไว้ให้ วัสดุจะได้ของ American Standard เช่นเดียวกัน เสียดายอยู่นิดนึงที่น่าจะติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ครบทุกห้องเลยนะคะ

    Master Bedroom

    Master Bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ภายในขนาดกว้าง มีระเบียงในตัว เราสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนนั่งเล่น และส่วนพักผ่อนได้

    ด้วยขนาดพื้นที่ภายในแล้วสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ที่เราชอบอย่างหนึ่งคือ เค้าออกแบบมาให้เป็นบานกระจกตลอดแนว เปิดวิวกันแบบเต็มที่

    จากพื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับระเบียงส่วนตัว เป็นระเบียงที่ทอดยาวตลอดแนวห้องนอน ไม่ได้กว้างมากแต่ก็ออกมายืนสูดอากาศได้สะดวก และมีหลังคาคลุมด้านบน จึงช่วยบังแดดให้กับห้องนอนได้เป็นอย่างดี

    อีกส่วนของห้องนอนจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ค่ะ

    พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นผนังทึบทั้งหมด แปลว่าทำ Built-in ได้รอบด้านเลย

    ภายใน Master Bathroom จัดพื้นที่ไว้กว้างมากๆ และได้ช่องแสงบานใหญ่ที่เปิดระบายอากาศได้ ฟังก์ชันภายในห้องจัดมาให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้

    ปิดท้ายด้วยรูปหน้าบ้านสวยๆ ของ Type น้องเล็กในโครงการกับแบบ Arch ซึ่งให้ที่ดินมาตรฐานขนาด 85.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 423 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    10 November 2020

    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้นแบบ ARCH : ที่ดินมาตรฐาน 85.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 423 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท

    • จอง 300,000 บาท
    • ทำสัญญา 20%
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 136,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน และค่าทางผ่านถนนภาระจำยอม 8 บาท/ตร.วา/เดือน รวมเป็น 58 บาท/ตร.วา/เดือน
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนน อ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนน ศรีนครินทร์, ถนนบางนา-ตราด เหมาะกับคนที่ทำงานที่สนามบิน และคนที่ต้องการอยู่ในทำเลที่ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ได้สะดวก รวมถึงคนที่ทำงานย่านบางนา, ชลบุรี, สมุทรปราการ

    ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็หายห่วงเพราะในซอยรอบๆ โครงการเองก็มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลากหลายให้พึ่งพิงได้หลายแห่ง หรือขยับออกมารอบๆ ไม่ว่าจะเป็นย่านบางนา ก็มี Mega Bangna, IKEA, Central Bangna บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง มี Community Mall Paseo ลาดกระบัง, Robison ลาดกระบัง เป็นต้น นอกจากนั้นยังใกล้กับโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ สวนสาธารณะ และสนามบินด้วยค่ะ

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการออกแบบมาให้รั้วเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้า เข้าออกด้วย Easy Pass ดูเป็นกิจจะลักษณะที่ดีในเรื่องความปลอดภัย นอกจากนั้นจะมี CCTV ติดทั่วหมู่บ้าน ส่วนในตัวบ้านก็จะมีระบบ Magnetic และ Shock Sensor ที่ประตูหน้าต่างทั้ง 2 ชั้นค่ะ

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : ส่วนงานดีไซน์โครงการและหน้าตาบ้านของแบรนด์ Grand Bangkok Boulevard ไม่ว่าจะเป็นโครงการไหนก็จะมีการออกแบบดีไซน์ที่แตกต่างกันไป ไม่เหมือนกัน ซึ่งโครงการนี้จะเห็นดีเทลลวดลายที่ถอดรหัสจากสถาปัตยกรรมกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีมาแต่ก็มีการลดทอนองค์ประกอบ หากใครชอบสไตล์นี้ก็โครงการนี้ก็ตอบโจทย์และหาไม่ได้ในที่อื่นๆ เพราะดีไซน์มาสำหรับโครงการนี้โครงการเดียว

    รูปแบบบ้านที่นี่ไม่ได้เป็นบ้านที่มีที่ดินรอบด้านกว้างขวางนะคะ เน้นการออกแบบบ้านคับที่ดิน เพราะเค้าให้ความสำคัญในส่วนพื้นที่ใช้สอย “ด้านใน” ที่เป็นพื้นที่ที่เรามักใช้เวลาอยู่มากกว่า ขนาดของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านจึงเป็นจุดเด่นของบ้าน ที่ให้มาใหญ่กว่าโครงการอื่นในราคาเท่าๆ กัน หากใครเป็นคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยภายในกว้าง ไม่ได้แคร์ว่าจะต้องมีพื้นที่สวนรอบบ้านมากนัก แค่พอมีให้ปลูกต้นไม้ได้เล็กน้อย ไม่ต้องเสียเวลาดูแลมากนัก โครงการนี้เราว่าก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ

    แบรนด์ Grand Bangkok Boulevard เป็นบ้านระดับ Luxury ของทาง SC Asset ซึ่งตามรูปแบบของบ้านหรูจะมีการ Double ในส่วนต่างๆ ทั้ง Double Living Area, Double Master Bedroom และ Double Volume เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของครอบครัวใหญ่แบบ 3 Generations

    ในแง่การออกแบบบ้านจะมีการคิดถึงการใช้งานพื้นที่นั้นๆด้วย เช่น ที่จอดรถในร่ม ไม่ต้องต่อเติมกันสาดเพิ่มเติม ห้องนอนขนาดใหญ่ จัดฟังก์ชันได้ครบ และมีพื้นที่ใช้ชีวิต(นอกจากการนอน) ที่เป็นส่วนตัว(ในห้องนอน) และการใช้ชีวิตร่วมกัน(ห้องนั่งเล่น ทั้งชั้น 1 และชั้น 2) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับการใช้งานในครอบครัวที่มีสมาชิกภายในบ้านจำนวนมากและออกแบบให้เป็น Universal Design ด้วย

    วัสดุ : ภายในบ้านจะขายบ้านเปล่าที่มีห้องน้ำมาให้ครบ แต่ครัวจะไม่ได้ทำมาให้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของบ้านระดับราคานี้ที่ต้องการความสะดวกในการออกแบบต่อเติมให้เหมาะสมกับความชอบของแต่ละครอบครัวภายหลัง ส่วนวัสดุมาตรฐานให้มาดี เหมาะสมกับระดับราคา เราชอบที่เค้ามีความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุให้เข้ากับฟังก์ชันห้องด้วย อย่างเช่นห้องผู้สูงอายุจะมีการใช้ SCG Soft Floor การให้ราวจับพยุง และการทำ Floor Drain ดีไซน์ยาว ให้เข้ากับผู้สูงอายุ เป็นต้น

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ภายในโครงการเน้นพื้นที่สีเขียวมาก บริเวณถนนหลักจะปลูกต้นไม้เอาไว้เป็นตลอดแนวถนนหลักและไม้พุ่มตามถนนซอย ทำให้ดูร่มรื่นสวยงาม และนำสายไฟทั้งหมดในโครงการลงดิน ทำให้ทัศนียภาพด้านในสวยงามบริเวณหน้าโครงการมีสวนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เป็นหน้าเป็นตาให้กับผู้อยู่อาศัย

    สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางหลักจะอยู่ที่หน้าโครงการ เป็น Clubhouse ขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น ดูโอ่อ่าด้วยสไตล์ยุโรป มี Business Lounge, Social Lounge, Kids Club, สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซึ่งอยู่ติดกันกับพื้นที่สวนประมาณ 1 ไร่

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 25 – 40 ล้านบาท, 10 November 2020

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – เดินทางไปเส้นอ่อนนุชสะดวก มีทางลัดในการเดินทางไปบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ รอบๆ มีความอุดมสมบูรณ์ให้พึ่งพิงได้ ไม่ไกล Mega Bangna
    • ความปลอดภัย 8.75/10 – ประตูเลื่อนไฟฟ้า, Key Card Access, รปภ.24 ชั่วโมง, CCTV ทั่วโครงการ, รั้ว 3 m. + เหล็กแหลม, Shock & Magnetic Sensor
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – รองรับการใช้งานของ 3 Generations โดยแท้จริง ให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะ จัดพื้นที่แต่ละฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน
    • วัสดุ 8.5/10 – เหมาะสมกับราคา และการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – ออกแบบ Landscape สวย บรรยากาศดี เป็น Universal Design
    • สาธารณูปโภค 8/10 – ฟังก์ชันหลากหลาย ดูหรูหรา แบ่งกันใช้งานสบายๆ กับเพื่อนบ้าน 51 ยูนิต เหมาะสมกับค่าส่วนกลาง
    • 8.16 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Grand Bangkok Boulevard บางนา – อ่อนนุช เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ โซนบางนา -ตราด ในโลเคชั่นที่ใกล้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะๆ อยู่อาศัยกันได้ 3 Generations และไม่ได้ต้องการพื้นที่สีเขียวรอบบ้านเยอะนัก ชื่นชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ มีบรรยากาศสไตล์ยุโรป ดูหรูหรา มีงบประมาณ 25-40 ล้านบาท 


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Websitewww.thinkofliving.com
    Twitterwww.twitter.com/thinkofliving
    YouTubewww.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagramwww.instagram.com/thinkofliving
    FacebookThinkofLiving

    ThinkLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
    ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc