รีวิวฉบับที่ 2002 …วันนี้จะพาไปชมบ้านแฝดที่มีหน้ากว้างพิเศษ ของโครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ ความน่าสนใจอยู่ตรงที่มีฟังก์ชันพิเศษอย่างห้องซัก-ตาก-รีด, ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง, ห้องนั่งเล่นชั้นบน และห้องพระ โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ในพื้นที่ใช้สอยขนาด 136 และ 161 ตร.ม. ช่วงราคา 7-8 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

Fact @ 5 December 2019

  • Golden Neo Chaengwattana-Muengthong (โกลเด้น นีโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ)
  • Golden Land Property Development PLC.
  • SEGMENT CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนติวานนท์ อำเภอปากเกร็ด
  • เนื้อที่โครงการ 31-2-67.3 ไร่ จำนวน 156 ยูนิต
  • บ้านแฝด 2 ชั้น แบบ London ที่ดินมาตรฐาน n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 9.14 ล้านบาท / ราคาโปรโมชัน 8.44 ล้านบาท
  • บ้านแฝด 2 ชั้น แบบ Sheffield ที่ดินมาตรฐาน n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท / ราคาโปรโมชัน 6.99 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.7 เมตร
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง เดือนธันวาคม ปี 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ เดือนกันยายน ปี 2563
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 092-445-2446

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.930137, 100.530577
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ บนถนนติวานนท์ โซนที่โครงการตั้งอยู่เป็นถนนชานเมืองขาออกไปจังหวัดปทุมธานีที่อาคารบ้านเรือนไม่หนาแน่น ส่วนมาเป็นชุมชนเดิมในพื้นที่ ตามสไตล์ถนนชานเมืองทั่วไป ข้อดีคือเงียบสงบแต่ก็หาของกินยาก พวกห้างร้านต่างๆใกล้ๆหน่อยจะกระจายตัวอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะและวิภาวดีรังสิต ห้างที่เอาไว้ช้อปปิ้งกันหลักๆจะเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ส่วนอาหารการกินไปจับจ่ายที่ตลาดรวมทรัพย์ 2 , ตลาดดวงแก้วพลาซ่า และ ตลาดศรีสมานได้ ถ้า Community Mall เล็กๆที่ใกล้ๆก็จะมี Mint Village อยู่ และปัจจุบัน Robinson ศรีสมานก็เปิดแล้วด้วยทำให้ไม่ต้องขับรถไปถึงแจ้งวัฒนะ หรือฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ที่รถค่อนข้างติด หรือถ้าใครชอบเดินดูงานแสดงสินค้า ที่มักมาจัดที่เมืองทองธานี เป็นประจำ เรียกว่ามีเกือบทุกสัปดาห์ ก็ถือว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ไม่ไกลจากโครงการ สามารถเข้าเมืองทองธานี ทางด้านหลังจากถนนติวานนท์ได้ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจึงต้องอาศัยรถในการเดินทางสักหน่อย จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับครอบครัวที่มีรถยนต์ส่วนตัวนะคะ

มาดูในเรื่องการเดินทางกันบ้าง Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ อยู่บนถนนติวานนท์ระหว่างแยกปากเกร็ดและแยกสวนสมเด็จ ตรงสามแยกที่ตัดกันระหว่างถนนติวานนท์กับถนนบอนด์สตรีท จึงเป็นที่ตั้งที่มีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายและสะดวก

  • สามารถใช้ถนนติวานนท์เพื่อเชื่อมไปทางแยกปากเกร็ดแล้วไปออกถนนแจ้งวัฒนะก็ง่าย หรือจะมาใช้ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดก็สามารถลดระยะทางเพื่อมาเชื่อมต่อกับถนนแจ้งวัฒนะ หรือจะวิ่งยาวไปจนสุดทางที่ถนนสามัคคีเพื่อไปทะลุออกถนนประชาชื่นเส้นเลียบคลองประปาก็ได้เช่นกัน
  • และสามารถใช้ถนนติวานนท์วิ่งออกไปทางแยกสวนสมเด็จ เป็นแยกที่ถนนติวานนท์วิ่งไปตัดกับถนนสะพานนนทบุรี ที่เราสามารถใช้ข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งนนทบุรีได้ และที่แยกนี้ยังตัดกับถนนศรีมาน ที่วิ่งไปออกถนนสรงประภา และถนนวิภาวดีรังสิตได้
  • หรือจะใช้ถนนบอนด์สตรีทเพื่อออกมาทาง Impact เมืองทองและขึ้นทางด่วนก็ไม่ไกล

จัดเป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวก หรือจะใช้รถประจำทางก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่แถวหน้า KFC ฝั่งตรงข้ามของโครงการ ก็มีระยะหน้าซุ้มประตูโครงการประมาณ 300 ม. ส่วนรถแท็กซี่ก็หาง่าย เดินออกมาถึงหน้าถนนติวานนท์ประมาณ 200 ม. ก็สามารถเรียกรถได้เลย

ส่วนจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด คือทางด่วนด่านเมืองทองธานี สำหรับทางขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมืองไปทางประชาชื่น, งามวงศ์วาน จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. โดยเราจะใช้เส้นบอนด์สตรีทและเชื่อมมาออกถนนป๊อปปูล่า เหมือนเวลาที่วิ่งมา Impact เมืองทองธานีนั่นแหละ แต่เมื่อถึงสี่แยกด้านหน้า Impact ให้เราเลี้ยวขวาก็จะถึงทางขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ

ส่วนขากลับจากในเมืองมายังโครงการ ก็ให้ใช้ทางออกเมืองทองธานี (น. 2-12) พอออกจากด่านเก็บเงินมาแล้วจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนป๊อปปูล่า แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนบอนด์สตรีท ตรงไปไม่ไกลจะเป็นสามแยกที่ตัดกับถนนติวาานท์ โครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ ก็จะอยู่ตรงข้ามสามแยกนั่นเอง ก็ให้เราไปกลับรถเพื่อเข้าโครงการ มีระยะทางทั้งหมด 3.3 กม. ค่ะ

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มบนทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ดที่ทางออกเมืองทองธานี (น. 2-12) พอลงจากทางด่วนเรียบร้อยจะมีสี่แยกให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนป๊อปปูล่า ทางเดียวกับที่จะไปทะเลสาบเมืองทองฯ นั่นแหละ แล้วพอเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนบอนด์สตรีท ตรงไปจนทะลุออกถนนติวานนท์ ให้เลี้ยวซ้ายแล้วไปกลับรถ โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ ตรงบริเวณสามแยกนั่นเอง รวมระยะการเดินทางวันนี้อยู่ที่ 4.2 กม. ค่ะ

Image 1/16
เริ่มต้นเดินทางจากบนทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด แล้วเราก็มาลงที่ทางออกเมืองทอง(ศูนย์กีฬา) หรือทางออกน.2-12 นะคะ

เริ่มต้นเดินทางจากบนทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด แล้วเราก็มาลงที่ทางออกเมืองทอง(ศูนย์กีฬา) หรือทางออกน.2-12 นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันสักนิดจะเห็นว่าที่ดินโดยรอบของโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ก็การันตีไปได้ส่วนหนึ่งแล้วว่าทำเลที่ตั้งจะเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย จะมีบริเวณด้านข้างและด้านหลังของโครงการที่เป็นสนามกอล์ฟและที่ดินว่างเปล่า ที่ต้องรอดูว่าจะมีการพัฒนาไปใช้ทำประโยชน์อะไรในอนาคต ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเด็นของที่ดินโดยรอบอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัยของลูกบ้านนะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดรวมทรัพย์ 2 ~ 2.3 km.
  • ร.ร. นวมินทราชินูทิศ หอวังนนทบุรี ~ 2.7 km.
  • Mint Village ~ 3.2 km.
  • Robinson ศรีสมาน ~ 3.3 km.
  • ร.ร. พระหฤทัยนนทบุรี ~ 3.4 km.
  • ตลาดดวงแก้วพลาซ่า ~ 3.5 km.
  • ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ~ 3.9 km.
  • Beehive Lifestyle Mall ~ 4 km.
  • Impact เมืองทองธานี ~ 4.9 km.
  • ร.ร. สวนกุหลาบนนทบุรี ~ 5.0 km.
  • Major ปากเกร็ด ~ 5.3 km.
  • Central แจ้งวัฒนะ ~ 7.6 km.
  • ร.พ. World Medical Center Hospital ~ 8.1 km.
  • Big C แจ้งวัฒนะ ~ 9.3 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

มาดูที่ตัวโครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ อยู่ในพื้นที่ใหญ่ของอาณาจักร Golden Empire เป็นชื่อที่ทาง Golden Land ตั้งขึ้น เพื่อใช้เรียกพื้นที่โครงการใหญ่ๆ ที่มีหลายๆ โครงการประกอบอยู่ในนั้น ซึ่งในอาณาจักรนี้จะประกอบด้วย 2 โครงการคือ Golden City แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง ที่เป็นโครงการทาวน์โฮม กับ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ โครงการบ้านแฝด/บ้านเดี่ยว ที่เรากำลังจะไปชมกันค่ะ

Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ เป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 156 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการเกือบ 32 ไร่  มีระบบรักษาความปลอดภัยที่บริเวณซุ้มทางเข้าออกด้านหน้าโครงการด้วยระบบ RFID และ รปภ. ที่ดูแล 24 ชม. พื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้ ให้มาครบทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Fitness และมีสวนหย่อมภายในโครงการด้วย แลกมากับค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตร.วา ก็ถือว่าเป็นเรทปกติ ของโครงการที่ส่วนกลางประมาณนี้

ที่ดินของตัวโครงการเป็นแปลงยาว แต่โครงการก็แบ่งส่วนกลางออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือจะวาง Clubhouse ไว้ที่ด้านหน้าใกล้ทางเข้า ซึ่งการจัด Clubhouse ไว้บนถนนหลักแบบนี้ก็มีข้อดีตรงที่ลูกบ้านทั้งหมดจะได้เข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย (แต่ถ้าบ้านอยู่หลังในสุดก็คงต้องออกแรงเดินกันหน่อยไม่ก็ต้องขับรถมาค่ะ) แต่โครงการก็เอาใจลูกบ้านด้านในด้วยการวางสวนส่วนกลางไว้ที่ด้านในหน่อย ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่สวนได้สะดวก

การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนซอยภายในโครงการที่กว้าง 9 ม. ส่วนถนนหลักกว้าง 12 ม. นั้น จะเป็นถนนที่ใช้ผ่านเข้าสู่ซอยย่อยๆ เท่านั้น ไม่ได้มีบ้านติดกับถนนหลักเลยนะ ทำให้บ้านทุกหลังอยู่ในซอยทั้งหมด มีความเป็นส่วนตัวระดับนึง การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการ แต่ก็จะอยู่ใกล้ Clubhouse ก็ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปได้บ้างเหมือนกัน นอกจากนี้ก็จะมีบ้านหน้าสวนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแบบ London ค่ะ

สำหรับทิศของบ้านในโครงการ จะมีให้เลือก 4 ทิศ บ้านโซนด้านหน้าโครงการส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนบ้านด้านในโครงการจะส่วนใหญ่จะหันทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกบ้านเลยทีเดียว บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่แรงกว่าและลมที่แรงกว่าด้วย

บ้านของโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านแฝด จะมีไม่กี่แปลงที่เป็นบ้านเดี่ยว แบบบ้านมีให้เลือก 2 แบบ ซึ่งบ้านใหญ่จะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบสร้างเสร็จแล้วสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่มีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆ และมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกบ้านเดี่ยวก็ได้

โครงการทำซุ้มประตูให้มีขนาดใหญ่ ทำให้ดูโอ่อ่าทีเดียว มาในสไตล์อังกฤษเราจึงเห็นรายละเอียดการตกแต่งที่มีซุ้มโค้ง โดยเป็นโครงแบบมีหลังคาไว้หลบฝนหลบแดดได้ ที่ซุ้มโครงการจัดแบ่งทางเข้า-ทางออกไว้ชัดเจน ดูเรียบร้อยสวยงามดี

ทางเข้าโครงการจะแยกออกเป็น 2 ช่องทาง โดยช่องฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าสำหรับผู้อยู่อาศัย ฝั่งทางขวาจะเป็นทางเข้าออกของ Visitor และมีทางเข้าออกของคนเดินแยกไว้ให้เป็นสัดส่วนดีนะ

ลูกบ้านสามารถผ่านเข้า-ออกโครงการโดยใช้ระบบ RFID ที่ช่องทางเดินรถฝั่งซ้าย ซึ่งสามารถขับรถผ่านไปได้เลยเหมือน Easy Pass ของทางด่วน ส่วนทางเดินรถฝั่งขวาที่ติดกับป้อมยาม เป็นช่องทางเข้าสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออกก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ รปภ. แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาเพื่อจะต้องแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออกค่ะ

ผ่านซุ้มทางเข้า-ออกเข้ามาด้านในจะเจอกับวงเวียนตรงกลาง ก็จะมีรูปปั้นนางฟ้าพร้อมซุ้มทรงโค้งที่ให้ความรู้สึกของความเป็นหมู่บ้านสไตล์อังกฤษ

จากวงเวียนมองมาทางฝั่งขวา จะเห็นตำแหน่งของ Clubhouse ซึ่ง Facilities หลักๆ ของโครงการก็จะอยู่ในบริเวณนี้เลยค่ะ

บรรยากาศบริเวณหน้า Clubhouse จะถูกออกแบบให้มีโดมอยู่ตรงกลาง และอาคารทั้ง 2 ฝั่งของโดมจะเป็นห้องรับแขกทางฝั่งขวา และ ห้อง Fitness อยู่ทางฝั่งซ้าย มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของลูกบ้าน 156 ยูนิต จึงน่าจะแบ่งกันใช้ได้สบายๆ

เข้ามาในห้องแรกเป็นห้องรับแขกของโครงการ ภายในจัดชุดโซฟาไว้หลายมุม เผื่อลูกบ้านมีแขกมาเยี่ยมก็อาจจะใช้พื้นที่ส่วนกลางในการต้อนรับได้ ซึ่งตอนนี้โครงการยังใช้เป็นสำนักงานขายอยู่นะคะ ถ้าเรามาเยี่ยมชมโครงการก็สามารถมาสอบถามข้อมูลได้ที่นี่เลย

บรรยากาศภายในดูโปร่งด้วยแสงธรรมชาติที่ผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามา มีการจัดโซฟาในมุมต่างๆ ไว้ให้นั่งเล่น และมองออกไปชมวิวภายนอกกันได้

วิวภายนอกที่เราจะมองออกมาเห็น ก็คือวิวสระว่ายน้ำนี่แหละ เพราะเค้าวางตำแหน่งของสระว่ายน้ำไว้ตรงกลาง Clubhouse แล้วจัดห้อง Facilities ต่างๆ ไว้ล้อมรอบค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 18 x 8 ม. ลึก 1.2 ม. ภายในแบ่งพื้นที่เป็นสระเด็กแยกไว้ให้เรียบร้อย

ขอบสระที่ออกแบบให้เป็น Over flow คือแบบน้ำล้น ทำให้เกิดเสียงน้ำตกอยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนด้วยนะคะ

มองกลับมาที่อีกฝั่งหนึ่งของสระว่ายน้ำจะเป็นตำแหน่งของห้อง Fitness และห้องน้ำ

มาดูห้อง Fitness กันต่อจะเป็นห้องแบบฝ้าเพดานสูง ทำให้ภายในดูโปร่ง และทางโครงการจัดเครื่องออกกำลังกายให้มาประมาณ 8-9 เครื่อง

เครื่องออกกำลังกายจัดมาให้ครบทั้ง ตอบโจทย์ให้กับคนที่ต้องการออกกำลังกายแบบ Cardio และแบบ Weight Training

สำหรับห้องน้ำจะแบ่งเป็นห้องน้ำหญิงและชายไว้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำมีช่องหน้าต่างให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ ภายในจึงดูโปร่งดี

มีทั้งส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พอว่ายน้ำ หรือออกกำลังเสร็จก็มาล้างเนื้อล้างตัวก่อนกลับเข้าบ้านได้

ภายในแต่ละห้องก็ดูสะอาด เรียบร้อยนะคะ

มาดูบรรยากาศภายในโครงการกันบ้าง ถนนหลักของโครงการจะมีความกว้าง 12 เมตร เป็นขนาดมาตรฐานที่ทำให้การเดินรถสามารถสวนกันได้สะดวก แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าอยากให้บรรยากาศดูเขียว ร่มรื่นกว่านี้สักหน่อยค่ะ

ในส่วนของถนนซอยย่อยของโครงการมีความกว้าง 9 เมตร ทำให้เมื่อมีการจอดรถหน้าบ้านทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ให้สามารถเดินรถผ่านได้อยู่นะคะ ฟังก์ชันการใช้งานของถนนน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ความร่มรื่นของถนนซอยคงต้องพึ่งพิงต้นไม้ในรั้วที่แต่ละบ้านจะปลูกแทนนะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระขนาด 18 x 8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกายขนาดกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • เข้าออกด้วยระบบ RIFD
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า


Product Walkthrough

โครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ เป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในรูปแบบ “NEO Home” เป็นชื่อแบบบ้านที่ทาง Golden Land ตั้งขึ้น โดยเป็นแบบบ้านที่มีการพัฒนาในส่วนของการออกแบบและฟังก์ชันภายในบนทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกเพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ดังนี้

การออกแบบ = Neo Home จะเน้นการออกแบบในสไตล์ Classic ไม่ใช่แนว Modern ซึ่งจะมีรูปแบบอังกฤษ เป็นสไตล์ที่เน้นรายละเอียดของลวดลาย ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชอบแนวนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงการออกแบบเน้นบ้านหน้ากว้างทุกหลัง เพื่อให้ฟังก์ชันภายในตัวบ้านได้ช่องเปิดมากขึ้น และจัดฟังก์ชันได้ลงตัว

ฟังก์ชัน = ออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้การงานอย่าง ห้องพระ, ห้องซัก-ตาก-รีด (Laundry Glass House), ห้องนอนผู้สูงอายุ / ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง, พื้นที่พักผ่อนชั้นบน

ทำเล = เน้นหาทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก เช่น โครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ นั้นก็มีทำเลอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนติวานนท์ ที่วิ่งไปขึ้นทางด่วนได้ในระยะ 2.5 กม.

โครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ขายแบบบ้านเปล่า ดังนี้

  • Sheffield พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. ขนาดที่ดินประมาณ 36 ตร.วา 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • London พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ขนาดที่ดินประมาณ 40 ตร.วา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมแบบบ้านทั้ง 2 แบบ ตามไปชมกันเลยค่ะ

เรามาดูแบบบ้าน Sheffield กันก่อนนะคะ สำหรับบ้านหลังนี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. บนที่ดินขนาดประมาณ 36 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จุดที่น่าสังเกตคือการจัดตำแหน่งของโซนครัวไว้อยู่ใกล้กับที่จอดรถ ทำให้ในเวลาที่เราไปช้อปปิ้งของสดหรืออาหารเข้าบ้าน ทำให้เราสามารถหิ้วเข้าครัวได้สะดวก

พื้นที่ในชั้นล่างเปิดเชื่อมกันจากห้องนั่งเล่นถึงพื้นที่ทานอาหาร ทำให้บ้านดูโปร่งๆ ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดเป็นห้องทำกิจกรรมต่างๆ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ หรือทำเป็นห้องผู้สูงอายุก็เหมาะ เพราะอยู่ใกล้กับโซน Living ดี ทำให้สามารถเดินไปดูแลผู้สูงอายุได้สะดวก ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้เค้าจะมีหน้าต่างแบบ Bay Window ให้เราสามารถมองเห็นภายในห้อง ได้จากโซน Living ด้วย จึงเหมาะเป็นห้องผู้สูงอายุทีเดียวนะคะ ส่วนห้องน้ำที่ออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่พอสมควรและแบ่งเป็นสัดส่วน ทำให้สามารถใช้อาบน้ำได้จริง

ชั้นบนแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน 3 ห้อง โดยจะเป็น Master Bedroom 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ให้ทำ Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง เป็นห้องนอนของลูกๆ มีขนาดกะทัดรัดหน่อย และต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน หากในกรณีตอนเช้าที่ต้องใช้ห้องน้ำพร้อมๆ กัน ก็ยังสามารถแบ่งสมาชิกลงมาอาบน้ำที่ชั้นล่างได้ บ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขยาย ที่มีสมาชิก 4-5 คนค่ะ

ก่อนเข้าตัวบ้านจะอธิบายเรื่องบ้านแฝดให้ฟังสักนิดคือ เป็นบ้านที่มีขนาดและพื้นที่ใช้สอยมากกว่าบ้านทาวน์โฮมทั่วไป แต่ก็จะน้อยกว่าบ้านเดี่ยว โดยจะมีขนาดที่ดินไม่ตำ่กว่า 35 ตารางวา และโดยทั่วไปจะมีขนาดที่ดินไม่เกิน 50 ตารางวา เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มองหาบ้านที่ได้พื้นที่ใช้สอย ได้พื้นที่บริเวณรอบตัวบ้านฝั่งใดฝั่งหนึ่งให้สามารถจัดสวน หรือมีช่องเปิดมากกว่าบ้านแบบทาวน์โฮม อีกทั้งราคาก็มักจะไม่สูงเท่าบ้านเดี่ยวแต่ได้ฟังค์ชันการใช้งานคล้ายกับบ้านเดี่ยวเลย สำหรับบ้านแฝดจะมีข้อกำหนดในการก่อสร้างทางกฎหมาย คือจะต้องมีโครงสร้างส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน 2 หลัง ที่เชื่อมต่อกัน ในบางโครงการจะเชื่อมต่อส่วนนี้ไว้ทางด้านหลังของตัวบ้าน หรือซ่อนไว้ในโครงสร้างใต้อาคาร หรือไม่ก็สร้างติดกันให้เห็นอย่างชัดเจน

สำหรับบ้านแฝด 2 ชั้น ของที่นี่จะมีส่วนของโครงสร้างที่ต้องติดกันตามกฎหมายอยู่ตรงบริเวณผนังฝั่งหนึ่งของตัวบ้านที่ชั้น 1 เป็นการใช้โครงสร้างและผนังร่วมกันตรงบริเวณห้องครัว โดยจะมีพื้นที่หลังคาแยกส่วนกัน ลักษณะของตัวบ้านจะเหมือนกันแต่แค่พลิกกลับอีกฝั่ง ทำให้ช่องเปิดของบ้านแฝดลักษณะนี้จะมีช่องเปิดในชั้นล่างทั้งหมด 3 ฝั่งรอบตัวบ้าน จึงสามารถจัดพื้นที่สีเขียวหรือระเบียงรอบตัวบ้าน 3 ฝั่งรอบตัวบ้านได้ ส่วนชั้นบนจะได้ช่องเปิด 4 ฝั่ง โดยเพิ่มมาในห้องนอนเล็กค่ะ

ตามที่เล่าไปว่าโครงการออกแบบมาในสไตล์อังกฤษ ทำให้ภายนอกของบ้านดูมีความคลาสสิค ไม่ได้มาแบบ Modern ตามที่เราเห็นกันในโครงการส่วนใหญ่ รายละเอียดของการตกแต่งบ้านจะมีการใช้หินปิดผิวบริเวณผนัง มีบัวประดับในส่วนของประตูหน้าต่างทั้งหมด มีกระถางปูนปั้น และราวกันตกที่เป็นเหล็กดัด ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยสร้างความหรูหราให้กับตัวบ้านนะคะ

ประตูรั้วหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นเหล็กรูปพรรณทาสี ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา เป็นบานเลื่อนยาวๆ ไม่มีแบ่งเป็นประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า-ออก รั้วระหว่างบ้านมีความสูง 1.5 ม. ซึ่งเป็นระยะที่ไม่สูงนักมีข้อดีที่ทำให้บ้านดูโปร่ง สามารถมองวิวด้านนอกบ้านได้สะดวก แต่ก็สามารถปีนข้ามได้ง่าย

เปิดประตูรั้วเข้ามาด้านใน มีพื้นที่จอดรถตามระยะในเส้นประสีเหลือง คือ จะมีขนาดความกว้าง 4.9 ม. ลึก 5.3 ม. ก็สามารถจอดรถได้จริง 2 คัน แต่เวลาจะเปิดประตูก็ต้องระวังกันหน่อย เป็นที่จอดในร่ม 2 คัน แต่มีหลังคากันแดดอยู่แค่ครึ่งคันนะคะ บริเวณด้านหน้าบ้านส่วนนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านมักต่อเติมหลังคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด

พื้นลานจอดรถเทคอนกรีตไว้ให้ แต่ไม่ได้ลงเสาเข็มนะ ถ้าใครกลัวพื้นบริเวณนี้ทรุดก็แนะนำให้จ้างช่างมาลงเสาเข็มเพิ่มตั้งแต่แรกๆ เลยค่ะ

พื้นที่สวนบริเวณหน้าบ้านไม่กว้างนักแต่ก็พอให้ทำแนวรั้วต้นไม้เพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้ โดยพื้นที่รอบบ้านที่ให้มาจะปูหญ้าไว้ให้เรียบๆ ไม่ได้มีต้นไม้ใหญ่และไม่ได้ทำทางเดินในสวนมาให้นะคะ

สำหรับพื้นที่สวนข้างตัวบ้านจะเหลือพื้นที่เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินที่เลือก แต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากัน บ้านแฝดจะไม่ได้มีพื้นที่รอบบ้านเยอะเหมือนกับบ้านเดี่ยวนะคะ แต่ก็เหมาะกับคนที่ไม่ได้อยากได้พื้นที่รอบบ้านเยอะ เพราะการหน้าที่ดูแลสวนก็ตามมาอีกเยอะเช่นกัน

พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านก็ไม่ได้เหลือพื้นที่มากนัก แต่ก็ยังพอให้ทำแนวต้นไม้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยเพิ่มได้

ด้านหน้าบ้านจะมีประตูทางเข้า 2 ทาง คือทางเข้าจากประตูหลักที่จะเชื่อมกับห้องรับแขก และทางเข้าจากฝั่งที่จอดรถค่ะ

ส่วนที่เรามองว่าดีคือ การให้ประตูฝั่งที่จอดรถมาเป็นบานเลื่อนกระจก เพราะปกติเราจะได้เป็นประตูบานทึบมากกว่า ข้อดีที่ให้ประตูแบบนี้มานอกจากเรื่องความสวยงามและราคาที่สูงกว่าบานทึบทั่วไปแล้ว คือได้แสงเข้ามาในบ้านมากขึ้นอีกด้วย

กลับมาที่ประตูหลังทางฝั่งห้องรับแขก พื้นเฉลียงหน้าประตูบ้านถูกยกระดับขึ้นจากสนามหญ้ามานิดหน่อย เพื่อแยกเป็นพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าหน้าบ้าน มีขนาดประมาณ 2.7 x 0.6 ม. บริเวณนี้จะปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย

ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เปิดได้ทีละฝั่ง ทำให้ช่องทางเดินเข้า-ออกบ้านกว้างประมาณ 1 ม. พื้นภายในบ้านจะยกระดับสูงขึ้นจากเฉลียงอีกนิดหน่อย ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60×60 ซม. ก็เป็นไปตามมาตรฐานของบ้านราคาระดับนี้ จุดที่สังเกตเห็นเลยคือ การตกแต่งของประตูที่มีการตีตารางลูกฟัก ดูแบบน่ารักอบอุ่นดี

ประตูเป็นแบบล็อค 2 ชั้นคือ ตัวล็อกที่มือจับประตู และมีตัวล็อกแบบหมุนอีกทีหนึ่ง โครงการเก็บรายละเอียดของประตูมาด้วยการติดเส้นกำมะหยี่ เพื่อช่วยกันฝุ่นและเสียงจากภายนอกได้ดี

เข้ามาภายในบ้านเป็นส่วน Common Area เชื่อมระหว่างพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร โดยมุมนี้จะได้บรรยากาศโปร่งโล่งเพราะมีหน้าต่างและประตูกระจกยาวเกือบตลอดตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้านเลยค่ะ

พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.6 เมตร ผนังบ้านจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว ตามแบบในรูปด้านล่าง ส่วนที่ชอบก็ยังเป็นรายละเอียดของหน้าต่าง ที่ยังมีการตีตารางลูกฟัก เหมือนกับประตูหน้าบ้านนะคะ

มาดูรายละเอียดทีละห้องกัน เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน โซฟาที่จัดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นชุดโซฟา 4 ที่นั่ง ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้นะคะ

ถัดเข้ามาที่พื้นที่ทานอาหารที่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะขนาดใหญ่แบบ 4 ที่นั่งได้ ด้านหลังและด้านข้างของโต๊ะอาหารมีช่องแสงของตัวบ้านที่รับแสงเข้ามาจากทั้ง 2 ด้าน ทำให้เวลานั่งทานอาหารช่วงกลางวันจะร้อนสักนิด ต้องติดม่านช่วยนะคะ แต่ถ้าทำสวนรอบๆและมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาจะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้พอสมควร

ด้านหลังโต๊ะทานอาหารจะมีกระจกบานเลื่อน ซึ่งเป็นบานใหญ่พิเศษ เปิดให้เห็นสวนด้านนอก และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย

ฝั่งขวาของโต๊ะทานอาหารมีประตูบานเลื่อนให้เชื่อมต่อออกไปบริเวณรอบบ้านได้ โดยสเปคของประตูบานเลื่อนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิด 2 ข้างเหมือนแบบประตูหน้าบ้าน ขอบวงกบประตูบานเลื่อนจะถูกฝังให้อยู่ระดับเดียวกับพื้นบ้าน จึงใช้งานได้ง่าย ถ้าต่อเติมเฉลียงออกไปด้านนอกก็แนะนำให้ลดระดับพื้นเฉลียงลงไม่ให้เท่ากับพื้นในตัวบ้านนะคะ เพื่อให้น้ำจากภายนอกไม่ไหลเข้าสู่ตัวบ้าน

บ้านตัวอย่างได้ลองจัดพื้นที่เฉลียงมาให้ดู พอจัดเป็นมุมนั่งเล่นก็ดูน่าใช้งานดี หากมีการแต่งสวนให้สวยๆ คงจะกลายเป็นมุมโปรดของคนในบ้านเลยทีเดียว และก็จะเป็นวิวดีๆ ให้กับบริเวณที่ทานอาหารได้ด้วยนะ

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะเป็น Corridor เดินยาวเชื่อมไปยังห้องอเนกประสงค์ ห้องน้ำ ประตูฝั่งที่จอดรถ และห้องครัว

ห้องอเนกประสงค์เป็นห้องที่สามารถจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ แต่จะกะทัดรัดหน่อย บ้านไหนที่ไม่ผู้สูงอายุก็สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น / ห้องดูหนัง หรือห้องทำงานได้สบายๆ เลยค่ะ

ส่วนช่องเปิดนี้ก็ให้มาพอสมควรนะคะ โดยจะได้หน้าต่างหลังบ้านและกระจกเข้ามุมภายในบ้านด้วย ซึ่งเราจะสามารถเห็นบรรยากาศภายในห้องอเนกประสงค์ได้ จากบริเวณโซนนั่งเล่นด้วย

สำหรับห้องน้ำที่ได้จะติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์มาครบถ้วนตามบ้านตัวอย่าง ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ที่แตกต่างกันคือผิวสัมผัส โดยพื้นในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะปูด้วยกระเบื้องผิวด้านเพื่อช่วยกันลื่น ต่างจากผนังและพื้นที่ส่วนแห้งที่จะมีผิวเคลือบ ดูเงาๆ สวยกว่า ซึ่งของจริงก็จะให้กระเบื้องลายแบบนี้เลยค่ะ

อ่างล้างมือและก๊อกน้ำของ Cotto ด้านหลังของผนังมีการก่อ Low Wall ขึ้นมาเป็นส่วนของงานระบบ ซึ่งเราสามารถเอาไว้ใช้วางข้าวของเครื่องใช้ได้

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ Cotto มาเป็นเซตกับสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ พื้นที่รอบโถสุขภัณฑ์มีการเว้นพื้นที่ไว้นิดหน่อยสำหรับการหยิบทิชชู่ได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำถูกกั้นด้วยฉากกระจกนิรภัย ซึ่งเป็นบานเลื่อนเปิดปิด มีขนาดให้เดินเข้าออกได้สะดวก ทางโครงการเก็บรายละเอียดของขอบฉากกั้นอาบน้ำมาเรียบร้อย ด้วยการติดพลาสติกกันกระแทกตรงขอบประตูกระจก เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนมือจับประตูมีขนาดใหญ่สามารถจับได้สะดวก

พื้นห้องน้ำจะถูกลดระดับจากพื้นที่อาศัยส่วนอื่นๆ ลงมาเล็กน้อย ป้องกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ และพื้นที่ส่วนอาบน้ำจะมีขอบธรณีที่ยกขึ้นมา ทำให้เกิดความเป็นสัดส่วนของพื้นที่เปียก-แห้งในห้องน้ำ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัด กว้างประมาณ 1.2 x 0.9 เมตร พอให้ใช้งานได้ตามปกติ

ภายในพื้นที่อาบน้ำก็มีการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้ให้ของ Cotto พร้อมเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ แต่จะไม่ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้นะ ต้องติดเพิ่มเอง ภายในมีการ Built-in ชั้นวางของให้พร้อมใช้งานได้เลย

ภายในห้องครัวที่ได้จริงจะเป็นห้องเปล่าที่เดินท่อน้ำ ระบบไฟรอไว้ให้ ได้เป็นห้องเปล่าเหมือนในรูปล่างนะคะ

พอเป็นบ้านหน้ากว้างแล้ว ทำให้ห้องครัวของบ้านแบบนี้ มีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งเลย ด้านนี้เป็นหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้าน

และมีหน้าต่าง ประตูทางด้านหลังบ้าน ทำให้เวลาปิดหน้าต่างทั้งหมดแล้วอากาศจะระบายได้ดีเลยนะคะ ไอเดียการตกแต่งครัวจากบ้านตัวอย่าง ซึ่งถ้าใครอยากใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุดแนะนำก็ทำเป็นครัวขนานประมาณนี้เลย และอย่าลืมติดกระเบื้องหรือกระจกที่ผนังด้วยนะสำหรับที่ใครทำอาหารทานเองบ่อยๆ จะได้ทำความสะอาดง่าย

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัว เพื่อแยกพื้นที่ซักล้างออกจากพื้นที่อยู่ด้านในตัวบ้าน ทำให้น้ำจากลานซักล้างไม่ไหลเข้าไปในตัวบ้านค่ะ

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งดีกว่าหลายๆ โครงการที่มักจะใช้เป็นบันไดโครงสร้างเหล็กนะ ..เคยขึ้นบันไดแล้วรู้สึกว่ามีเสียง ข้างใต้พื้นกลวงๆ และสั่นเล็กน้อยมั้ย แบบนั้นคือบันไดโครงสร้างเหล็ก ซึ่งหากเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก จะให้ความรู้สึกที่มีความแน่นของพื้นมากกว่า ไม่มีการสั่นไหวค่ะ

วัสดุพื้นของบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 80 ซม. ไม่ได้กว้างมาก ก็พอให้สเดิน??ขึ้นลงได้สะดวกนะคะ

ราวกันตกเป็นลูกกรงเหล็กทาสีเทา มือจับเป็นไม้สำเร็จรูป บันไดจะมีราวกันตกอยู่ตลอด แม้ตัวราวจับด้านบนจะไม่ได้เชื่อมต่อกันโดยตรงแต่ถือว่าดีที่ให้มาตลอดแนวค่ะ

เนื่องจากโครงการต้องการประหยัดพื้นที่ของบันได เพื่อให้เราสามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด ทำให้บันไดบางช่วงจะมีขั้นที่เป็นสามเหลี่ยม เวลาเดินขึ้นลงก็ระวังกันสักนิด

ช่องแสงของบันไดจะจัดไว้ตรงกลางโถงบันได ทำให้ตัวโถงบันไดไม่มืดจนเกินไป แต่ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวเพราะช่องหน้าต่างนี้จะตรงกับบ้านข้างๆพอดี จึงควรติดม่านโปร่งไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่ง ส่วนที่ดีของหน้าต่างนี้คือ มีบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย

ขึ้นมายังโถงชั้น 2 จะมีห้องนอน 2 และ 3 อยู่ทางฝั่งซ้าย เป็นห้องนอนของลูกๆ โดยห้องนอน 3 จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 2 นิดหน่อยหรือจะเรียกว่าห้องนอนลูกคนโปรดก็ได้ ตรงกลางเป็นห้องน้ำส่วนกลางชั้นนี้ที่ต้องใช้แชร์กันระหว่างห้องนอน 2 และ 3

ส่วนห้องนอนใหญ่ (ห้องนอน 1) จะอยู่ทางฝั่งขวา ฝ้าในชั้นนี้มีความสูง 2.7 ม. สูงกว่าชั้นล่างเล็กน้อย วัสดุพื้นชั้นบนจะได้เป็นพื้นลามิเนตพร้อมบัวไม้ตกแต่งเพิ่มความเรียบร้อยสวยงาม

พื้นห้องนอนทั้งหมดบนชั้นนี้จะเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ต่อเชื่อมกับบริเวณโถงทางเดินส่วนกลาง ซึ่งจะมีธรณีประตูกั้นไว้หน่อย เพื่อให้ประตูห้องปิดสนิทค่ะ

มาดูห้องนอน 2 ทางฝั่งซ้ายก่อน เข้ามาในห้องความรู้สึกแรกคือห้องโปร่งดีนะ เพราะจะได้หน้าต่างบริเวณหน้าบ้าน รับแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องไม่อึดอัด ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนขนาดเล็กสุดในบ้าน แต่ก็มีพื้นที่กว้างพอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ ได้ครบ ในห้องนี้หากวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็จะเหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์ปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเราสามารถเก็บเป็นไอเดียในการตกแต่งได้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ แต่จะไม่ได้เต็มผนังนะคะ เพราะจะต้องเว้นพื้นที่ไว้ให้เป็นระยะเปิดปิดประตูด้วยค่ะ

ห้องนอน 3 มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนที่พาไปชมมาสักครู่นี้นะ หรือเรียกได้ว่าเป็นห้องนอนลูกคนโปรดก็ได้ ห้องนี้มีข้อดีที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงได้สะดวก เป็นห้องที่ได้หน้าต่างบานกว้าง ซึ่งนอกจากจะได้วิวภายนอกแล้ว ยังเป็นช่องแสงธรรมชาติของห้องด้วยค่ะ

ห้องตัวอย่างจัดเตียง 3 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ทำให้เหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ด้วย

พื้นที่ด้านข้างเตียงอีกฝั่งมีพื้นที่ให้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ได้สบายๆ พอสำหรับการใช้งานได้สะดวก

ถัดมาที่ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้ มีขนาดและวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำเหมือนกับห้องน้ำที่ชั้นล่างเลย แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งจึงใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี

เข้ามาดูห้อง Master Bedroom กันต่อนะคะ เข้ามาเป็นพื้นที่เตียงนอนที่มีขนาดใหญ่ทีเดียวสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย (โดยในบ้านตัวอย่างเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต) บรรยากาศบริเวณนี้โปร่งโล่งดีเพราะได้ชุดประตูบานเลื่อนหน้าบ้าน เปิดรับแสงรับวิวได้เต็มที่

ห้องนอนนี้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน มีครบทุกฟังก์ชัน ได้แก่ ห้องน้ำในตัว และ Walk-in Closet

บ้านตัวอย่างจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้เป็นไอเดียในการตกแต่ง ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะได้เป็นบ้านเปล่าตามแบบในรูปล่างนะ

ระเบียงของห้องจะอยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้าน ถ้าจัดสวนหน้าบ้านสวยๆ ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศเวลาที่มองจากห้องนอนลงไปด้วยค่ะ

สำหรับระเบียงนี้จะไม่ได้เป็นระเบียงไว้ยืนหรือออกไปใช้งานจริงจังนะคะ เน้นให้เปิดรับลมแทนมากกว่า แต่การมีระเบียงแบบนี้ก็ทำให้สามารถติดประตูบานเลื่อนแบบเต็มบานได้ ส่วนพื้นระเบียงด้านนอกเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิคเหมือนกับในห้องน้ำ ช่วยกันลื่นได้ เหมาะกับการใช้งานภายนอกบ้านค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับเตียงเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ซึ่งลูกบ้านสามารถจัดพื้นที่เองได้เลยนะคะ เช่นใครที่อาจจะไม่ได้เน้นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แต่อยากได้พื้นที่ทำงานในห้องก็สามารถวางโต๊ะทำงานได้สบาย

อย่างที่บอกไปแล้วว่าพื้นที่ในห้องค่อนข้างกว้าง ทำให้พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่ให้สามารถจัดเป็นมุมตั้งโต๊ะทำงาน หรือ Built-in เป็น Walk-in Closet ก็คงจะถูกใจคุณสาวๆ ดี ส่วนทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำใน Master Bedroom ซึ่งได้ชุดสุขภัณฑ์และการจัดวางทั้งหมดเหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ ของตัวบ้านนะคะ

แบบบ้าน London จะมีขนาดใหญ่กว่าแบบ Sheffield ขึ้นมาหน่อย มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 161 ตร.ม. และมีขนาดที่ดินประมาณ 40 ตร.วา ทำให้ราคาจะสูงกว่ากับแบบบ้าน Sheffield อยู่ที่ราวๆ 1 ล้านบาทค่ะ ซึ่งราคาที่ต่างกันนี้เราจะได้ฟังก์ชันห้องเพิ่มขึ้นมา หลักๆ ก็จะมี Glass House Laundry ที่ชั้นล่าง ที่เป็นห้องซักรีดภายในบ้าน อย่างช่วงฤดูฝน เราสามารถตากผ้าในบ้านได้เลยนะคะ ส่วนชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอนเหมือนแบบแรก แต่ทุกห้องจะได้ห้องน้ำในตัว และสุดท้ายคือจะมีชั้นลอย ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะหมู่บูชาพระได้อย่างเป็นสัดส่วน ใครที่อยากได้ฟังก์ชันเพิ่มตามที่เล่ามาและมีงบประมาณถึงก็เลือกแบบบ้านนี้ได้นะคะ แทบไม่ต้องต่อเติมอะไรเพิ่มก็อยู่ได้สบายๆ

สำหรับแบบบ้าน London จะมีความแตกต่างจากบ้านแบบ Sheffield ตรงที่ได้ Dorm ด้านบนเพิ่มขึ้นมา ส่วนหน้าตาของบ้านก็ยังคงเป็นสไตล์อังกฤษ ที่มีการประดับด้วยหิน บัวประดับตามประตู หน้าต่าง รวมไปถึงเหล็กดัดที่ระเบียงเหมือนๆ กันนะคะ

ประตูทางเข้าบ้านสามารถเข้าได้ 2 ทางเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก และยังได้เป็นประตูบานเลื่อนทั้งคู่ นอกจากจะเป็นประตูทางเข้าบ้านแล้วก็ยังเป็นช่องแสงให้กับบ้านด้วย

ประตูทางเข้าหลักเป็นประตูบานเลื่อนที่มีการตกแต่งแบบตีตารางลูกฟักสีขาว มีพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านให้ถอดรองเท้าได้

เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับส่วนของ Common Area ที่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นเข้ากับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง ได้ฝ้าเพดานสูง 2.6 ม. ส่วนวัสดุต่างๆ ที่ได้ก็จะเหมือนกับบ้านหลังแรกนะคะ

ภายในพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่วางโซฟา ซึ่งหน้าต่างช่องแสงจะอยู่ด้านหลังพอดี เป็นไซส์ใหญ่ อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำชั้นวางทีวี ก็สามารถ Built-in เป็นตู้ได้เต็มผนังเลย หรือใครชอบแบบเฟอร์นิเจอร์น้อยๆ ก็เลือกตกแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์เลย

โซนรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น ทำให้ช่องแสงหลักทั้งหมดภายในชั้น 1 เชื่อมถึงกัน พื้นที่ทั้งสองจะดูโปร่งโล่งสบายตา ส่วนของพื้นที่รับประทานคิดว่าจะจัดวางโต๊ะแบบ 4-6 ที่นั่งแบบไหนก็ได้แล้วแต่เจ้าของบ้านเพราะมีพื้นที่เพียงพออยู่แล้ว

ด้านข้างโต๊ะทานอาหารมีประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อเชื่อมออกไปพื้นที่สวนด้านข้างบ้านได้

ติดกันกับพื้นที่ทานอาหารจะมีพื้นที่โล่งๆ ไว้ให้สำหรับทำ Pantry ครัวในบ้าน เผื่ออยากใช้ในการเตรียมอาหารง่ายๆ เช่น อุ่นอาหารง่ายๆ หรือใช้วางจานชาม ก็สะดวกดี เวลาทานอาหารแล้วอยากได้อะไรเพิ่ม ก็เดินมาหยิบจากตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินเข้าไปเอาในครัวนะคะ

เลี้ยวขวามาจะเป็น Corridor ยาว ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำรวมที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนผู้สูงส่วนด้านในจะมีประตูฝั่งที่จอดรถ ซึ่งอยู่ติดกับครัวเลย ทำให้เวลาเราไปช้อปปิ้งอาหาร ของสดกลับมา ก็สามารถหิ้วจากรถเข้าครัวได้สะดวกดีค่ะ

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ แยกพื้นที่ใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เรียบร้อย และมีขนาดมาตรฐานให้ใช้งานได้สบายๆ พื้นและผนังห้องทั้งหมดปูด้วยกระเบื้อง ส่วนพวกวัสดุอุปกรณ์ก็ให้มาครบเหมือนห้องน้ำในบ้านแบบแรก

ห้องนอนผู้สูงอายุมีขนาดใหญ่พอให้สามารถวางเตียง 3 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานได้ หรือถ้าใครจะวางเตียง 5 ฟุตก็ได้ แต่จะทำให้เสียพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าไปได้เหมือนกัน ซึ่งห้องที่เราได้มาเป็นห้องเปล่าตามแบบในรูปล่าง เราจึงสามารถจัดห้องตามไลฟ์สไตล์ที่เราชอบได้เลย

ภายในห้องจะได้หน้าต่างที่เชื่อมกับทางหลังบ้าน ถ้าเราปลูกต้นไม้บริเวณหลังบ้านก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับห้องนอนนี้ได้

นอกจากนี้ก็จะมีหน้าต่างแบบ Bay Window ที่สามารถมองผ่านเข้ามาจากในบ้านได้ นอกจากจะใช้เป็นช่องแสงแล้วก็ยังทำให้เราได้เห็นภายในห้องได้สะดวก เพื่อช่วยดูเรื่องความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุที่พักอยู่ในห้องได้

พื้นที่ครัวของบ้าน Type นี้จะมีฟังก์ชันพิเศษคือ Glass House Laundry ที่อยู่ด้านใน ไว้ใช้เป็นพื้นที่ตากผ้า / เป็นห้องซักรีด ได้โดยไม่ต้องต่อเติมเพิ่มเลย เพราะทางโครงการจะทำห้องนี้มาให้แบบในรูปด้านล่างเลยค่ะ

ส่วนครัวจัดให้เฉพาะส่วนท่องานระบบ ส่วนเคาน์เตอร์นั้นลูกบ้านต้องต่อเติมเองนะคะ โดยโครงการได้ทำมาให้ดูเป็นตัวอย่างว่าสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L ได้เลย แยกมุมวาง Sink และ Hob & Hood เป็นสัดส่วน

ในส่วนของ Glass House Laundry จะมีประตูบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วน

สำหรับห้องซัก-ตาก-รีด บ้านจริงจะเป็นห้องว่างที่สามารถจัดพื้นที่เองได้นะคะ โดย Highlight คือด้านบนจะได้เป็น Skylight ให้แดดส่งเข้าถึงได้ ช่วยให้ห้องนี้ไม่อับ แม้จะใช้ตากผ้าในห้องนี้เลย

ลองดูหลังคากระจก (Skylight) จากชั้น 2 จะเห็นว่าตัวผนังติดกันจริงแต่หลังคาไม่ได้ติดกันนะคะ ส่วนที่ติดเป็นรางน้ำตรงกลางเพื่อช่วยระบายน้ำ

ประตูทางออกด้านหลังบ้านจะเป็นประตูที่มีการตีตางรางลูกฟักสีขาวต่างจากแบบแรก ทำให้ได้แสงผ่านเข้ามาจากทางหลังบ้านด้วย และทางโครงการเก็บรายละเอียดของประตูมาให้ค่อนข้างดีนะคะ โดยจะมีขอบยางติดให้ตามวงกบประตู เพื่อช่วยเก็บเสียงและกันฝุ่น มือจับประตูมีขนาดใหญ่ จับได้สะดวก ส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้านที่ลดระดับลงจากตัวบ้าน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ซึ่งมีขนาดทางขึ้นลงและลูกตั้ง ลูกนอน ได้มาตรฐานค่ะ

ชานพักของบ้านนี้มีขนาดที่กว้างขึ้นกว่าบ้านแบบแรก แต่ก็ยังมีขั้นบันไดที่เป็นสามเหลี่ยมอยู่ เวลาขึ้นลงก็ระวังนิดนึงค่ะ

หน้าต่างบริเวณบันไดก็ยังเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ที่ทำให้บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติ ช่วงกลางวันนี่แทบไม่ต้องเปิดไฟได้เลย และยังมีบานหน้าต่างที่เป็นบานกระทุ้ง ทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกที่เราเห็นคือ พื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่พักผ่อนด้านบน ซึ่งมุมนี้จะจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือมุมทำงาน/ทำการบ้านของเด็กๆ ได้

ถัดมาส่วนที่เชื่อมกับบันไดเลยคือ จะเป็นบันไดที่เชื่อมไปยังพื้นที่บูชาพระด้านบน

ขนาดพื้นที่ตรงนี้ไม่มากนัก แต่สามารถจัดโต๊ะหมู่บูชาพร้อมกับพื้นที่นั่งสวดมนต์ภาวนาต่างๆ นั่งได้มากสุดประมาณ 2 คนค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับบันไดเป็นห้องนอน 1 หรือ Master Bedroom นั่นเอง

ภายใน Master Bedroom จะได้พื้นที่ในแต่ละฟังก์ชันใหญ่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มีห้องน้ำในตัวและ Walk-in Closet จึงมีพื้นที่ใช้สอยให้สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ ได้ครบถ้วนเลย

พื้นที่ Walk-in Closet มีขนาดใหญ่ทีเดียว โดยพื้นที่ส่วนนี้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าตามแนวผนังได้เป็นรูปตัว L เลย และตรงหน้าต่างจะวางโต๊ะเครื่องแป้งหมือนบ้านตัวอย่างก็ได้ เราสามารถออกแบบได้ตามไลฟ์สไตล์เลยนะ เพราะห้องจริงที่ได้ จะเป็นพื้นที่โล่งๆ แบบในรูปด้านล่างเลยค่ะ

ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom ก็จะมีฟังก์ชันที่ครบ ได้สเปควัสดุที่เหมือนๆ กับห้องน้ำที่ชั้นล่างเลย

ถัดมาเป็นส่วนเตียงนอนได้พื้นที่ขนาดใหญ่วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายมากๆ และยังมีพื้นที่เหลือที่ติดริมหน้าต่างวางโต๊ะทำงานได้เลย

บรรยากาศของห้องดูโปร่ง น่าอยู่ ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ ที่เป็นประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียง

ระเบียงในห้องนี้มีความกว้างพอๆ กับ Master Bedroom ของบ้านแบบแรก คือจะไม่ได้เป็นระเบียงไว้ยืนหรือออกไปใช้งานจริงจังนะคะ เน้นให้เปิดรับลมแทนมากกว่า

ออกมาที่โถงทางเดินส่วนกลางของชั้นนี้ จะพาไปชมห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน

มาดูห้องนอน 2 กันต่อเลย ห้องนี้จะเป็นห้องนอนของลูกคนโปรด เพราะมีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าห้องนอน 3 ทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งด้วยหน้าต่างที่ให้มาทั้ง 2 ฝั่งของผนัง

ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว ซึ่งบริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้สามารถวางตู้เสื้อผ้า หรือจะ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า/ ตู้เก็บของ จนเต็มความสูงของผนังเลยก็ได้นะ

ห้องน้ำในห้องนอน 2 จะมีการจัด Layout ที่ต่างจากห้องอื่นนิดหน่อย แต่สเปคและวัสดุที่ได้ของ Cotto เช่นเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ ในบ้านนะคะ

พื้นที่ภายในมีการแบ่งโซนของพื้นที่อาบน้ำ และโซนแห้งไว้ให้เรียบร้อย

ฉากกั้นกระจกที่ได้จะไม่ได้เป็นบานเปิดเหมือนห้องอื่นๆ เนื่องจากติดเรื่องพื้นที่ด้านข้างจึงให้เป็นบานเฟี้ยมแทน โดยรวมอาจจะสะดวกน้อยกว่าแต่ในแง่ฟังก์ชันการใช้งานถือว่าโอเคเลยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดกะทัดรัดหน่อย ประมาณ 80 x 90 ซม. ถ้าผู้ใช้งานเป็นเด็กๆ ก็คงไม่อึดอัดเท่าไหร่ ส่วนรายละเอียดของ Shower Box ทางโครงการยังเก็บรายละเอียดมาได้ดี ด้วยขอบยางที่ทำให้ประตูบานเฟี้ยมปิดสนิท และมีธรณีประตูที่ยกขอบขึ้นมา ช่วยให้น้ำจากในห้องน้ำไม่ไหลไปยังพื้นที่โซนแห้งค่ะ

สำหรับห้องนอน 3 มีพื้นที่ใช้สอยเล็กกว่ากับห้องนอน 2 ลงมาหน่อย แต่ก็ยังจัดฟังก์ชันต่างๆ ได้ครบคือ เตียงนอน 3 ฟุต มีพื้นที่ปลายเตียงให้ทำชั้นวางทีวี หรือเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือ รวมถึงมีห้องน้ำในตัวด้วย

อีกด้านเป็นมุมหน้าห้องน้ำที่วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ และเป็นทางเข้าของห้องน้ำในห้องนอนนี้

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำในห้องนอนเล็กนี้ ซึ่งก็ได้ขนาดกำลังดีใช้งานได้สบายๆ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 December 2019

  • บ้านแฝด 2 ชั้น แบบ Sheffield แปลง H04 ที่ดินมาตรฐาน 36.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 7.59 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 6.99 ล้านบาท
  • บ้านแฝด 2 ชั้น แบบ Sheffield แปลง F02 ที่ดินมาตรฐาน 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 8.09 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 7.49 ล้านบาท
  • บ้านแฝด 2 ชั้น แบบ London แปลง F10 ที่ดินมาตรฐาน 40.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 9.14 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 8.44 ล้านบาท
  • บ้านแฝด 2 ชั้น แบบ London แปลง D07 ที่ดินมาตรฐาน 40.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 8.99 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 8.29 ล้านบาท
  • จอง 20,000 บาทและทำสัญญา 50,000 บาท
  • ดาวน์งวดละ 30,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 130,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน ชำระล่วงหน้าถึง 30 มิถุนายน 2565
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ เป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านเดี่ยว ที่ทำแบบบ้านออกมาได้มีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนกับโครงการโดยรอบในทำเลนี้เลยนะ โดย Golden Land เค้าทำออกมาเป็นบ้านหน้ากว้าง สไตล์อังกฤษ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านมีความโปร่งโล่งขึ้นกว่าแบบบ้านอื่นๆ เรียกว่าบ้าน “Neo Home” บ้านซีรีย์นี้เกิดขึ้นจากการไปสำรวจตลาดผู้อยู่อาศัย จึงได้มีการเพิ่มฟังก์ชันในตัวบ้านที่ตอบโจทย์มากขึ้น ได้แก่ห้องซัก-ตาก-รีด, พื้นที่บูชาพระ, ห้องอเนกประสงค์และพื้นที่นั่งเล่นชั้นบน แปลงบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่ประมาณ 95% เป็นบ้านแฝดนะคะ จะมีแค่บางหลังที่เป็นบ้านเดี่ยว ทำให้ขนาดที่ดินไม่ได้ใหญ่นักจะอยู่ที่ประมาณ 35-40 ตร.วา ราคาก็อยู่ในช่วง 7-9 ล้านบาท ถ้าเทียบกับบ้านในทำเลนี้ ราคา 7-9 ล้านก็จะได้เป็นบ้านเดี่ยว (50 ตร.วาขึ้นไป) แล้วแหละ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่อยู่ในซอยหน่อย ไม่ได้ติดถนนอย่างโครงการนี้ เราก็ลอง Trade-Off ดูว่า เราอยากได้โครงการติดถนนที่มีแบบบ้านหน้ากว้าง ได้ฟังก์ครบ หรือบ้านเดี่ยวในซอยหน่อยแต่ได้พื้นที่รอบบ้านที่ใหญ่ขึ้นค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ระหว่างแยกปากเกร็ดและแยกสวนสมเด็จ จึงเป็นโครงการที่ติดถนนหลักมีความสะดวกเรื่องการเดินทางทั้งรถยนต์ และมีทางเลือกสำหรับวันที่ต้องการใช้รถสาธารณะก็เดินออกมาเรียก Taxi หรือขึ้นรถเมล์ได้ไม่ลำบาก เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านเมืองทองฯ และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หรือจะเลยไปจนถึงศูนย์ราชการที่สนามบินน้ำก็ได้ เพราะถนนติวานนท์เป็นถนนหลักเส้นยาว สามารถไปเชื่อมต่อถนนสายหลักอื่นๆได้หลายสาย หากต้องการเข้าเมืองก็มีจุดขึ้นลงทางด่วนให้เลือกใช้ไม่ไกลจากโครงการ

บริเวณโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนเดิม ข้อดีคือเงียบสงบแต่ข้อเสียคือหาของกินยากหน่อย พวกห้างร้านต่างๆใกล้ๆหน่อยจะกระจายตัวอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ห้างที่เอาไว้ช้อปปิ้งกันหลักๆจะเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และ Robinson ศรีสมาน ส่วนอาหารการกินไปจับจ่ายที่ตลาดรวมทรัพย์ 2  , ตลาดดวงแก้วพลาซ่า และ ตลาดศรีสมานได้ ถ้า Community Mall เล็กๆที่ใกล้ๆก็จะมี Mint Villageและ Beehive Lifestyle Mall อยู่ นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้ศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี ที่มักจะจัดงานเป็นประจำ เรียกว่ามีเกือบทุกสัปดาห์ ก็เป็นอีกที่ท่องเที่ยวในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ให้กับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ได้ดี

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี รปภ. ดูแลตลอด มีประตูรั้วเลื่อนไฟฟ้า การผ่านเข้า – ออกด้วยระบบ RFID (แบบเดียวกับ Easy Pass บนทางด่วน) นอกจากนี้ยังมีระบบ CCTV ที่ Main Gate ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 2.3 เมตร เสียดายนิดหน่อยที่บ้านระดับราคานี้ ไม่ได้ให้พวกระบบสัญญาณกันขโมยในตัวบ้านมาให้นะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการนี้ได้แบบบ้านในซีรีย์ Neo Home จึงเป็นบ้านหน้ากว้าง มีข้อดีที่ทำให้แต่ละห้องมีช่องแสงมากกว่าแบบบ้านทั่วไป หน้าตาถูกออกแบบมาในสไตล์อังกฤษ มีรายละเอียดการตกแต่งที่ใช้หิน ประตูหน้าต่างมีการตีตารางลูกฟัก ตกแต่งด้วยกระถางปูนปั้น และราวลูกกรงเหล็กดัด ทำให้ดูหรูหรา แต่เรื่องความสวยงามจึงขอข้ามไปเพราะแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับการจัดฟังชั่นถือว่าลงตัวในทุกแบบบ้าน มีให้ครบทั้งพื้นที่นั่งเล่น ทานอาหาร ที่ต่อเขื่อมกันจึงดูโปร่งโล่ง มีห้องอเนกประสงค์ให้สามารถจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ และในแบบบ้านใหญ่ (London) จะมี Glass House Laundry ที่เป็นห้องซัก-ตาก-รีด ในร่ม แก้ปัญหาเรื่องการตากผ้าในช่วงหน้าฝนไปได้

ในส่วนของตัวโครงการมีการออกแบบที่ได้มาตรฐานทั้งขนาดของถนนหลัก ถนนซอย มีการกระจายตำแหน่งของ Clubhouse ที่แยกออกจากสวน ทำให้บ้านทั้งหมดในโครงการไม่อยู่ใกล้ Clubhouse แต่ก็ยังได้อยู่ใกล้สวน สำหรับซอยย่อยส่วนใหญ่จะมียูนิตไม่มากนัก ทำให้ยังมีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย แต่ก็จะมีบ้างบางซอยที่มีจำนวนยูนิตมากหน่อย ก็เลือกกันดีๆ ค่ะ

วัสดุ : วัสดุที่ให้มาก็ถือว่ามาตรฐานตามระดับราคานี้ สำหรับบ้านคือพื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นบนเป็นลามิเนต ประตูได้บานเลื่อนและกระจกเป็นแบบตัดแสง ส่วนที่ชอบคือดีเทลประตูหน้าต่างที่ตีตารางลูกฟักมาด้วย บันไดได้แบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นในห้องน้ำได้เซรามิค วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำได้ของ Cotto ส่วนที่ขาดไปหน่อยคือเคาน์เตอร์ครัว ที่น่าจะแถมมาให้ สำหรับพื้นที่รอบบ้านปูหญ้ามาให้อย่างเดียว ไม่ได้ให้ต้นไม้ใหญ่มานะคะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สภาพโครงการดูมีความเรียบร้อยดี มีความโออ่าของซุ้มทางเข้าออกและบริเวณ Clubhouse ที่มาในสไตล์อังกฤษเช่นเดียวกับแบบบ้าน ถนนหลักและถนนรองในโครงการมีขนาด 12 และ 9 ม. แต่โครงการไม่ได้ทำแนวต้นไม้มาให้ ก็คงต้องอาศัยความร่มรื่นจากต้นไม้ในรั้วของลูกบ้านแทน

สาธารณูปโภค : ให้มาครบตามมาตรฐานโครงการระดับนี้ ได้แก่ Clubhouse สระว่ายน้ำ Fitness และสวนส่วนกลาง มีขนาดที่แชร์กันใช้กับจำนวนยูนิตทั้งหมดแค่ 156 ยูนิตได้สบาย และเก็บค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา ก็สมเหตุสมผลค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7-9 ล้านบาท, 5 December 2019

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนติวานนท์ ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วน
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูรั้วแบบเลื่อนไฟฟ้า, CCTV บริเวณทางเข้า-ออกโครงการ, เข้าออกด้วยระบบ RFID, รปภ. 24 ชม.
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบสวย บ้านดูโปร่ง ได้ฟังก์ชันครบ พื้นที่เหมาะสม
  • วัสดุ 7.25/10 – วัสดุส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้ เสียดายน่าจะ Built-in ครัวมาให้ด้วย
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ดูเรียบร้อยดีและมีความโอ่อ่า แต่ยังขาดความร่มรื่นไปนิด
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ครบถ้วนตามมาตรฐานโครงการระดับนี้
  • 7.63 / 10.00

BOTTOM LINE

Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ ถือว่าเป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านเดี่ยวขนาดกลาง เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว หรือคนทำงานในแถบเมืองทองฯ แจ้งวัฒนะ โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านติดถนนใหญ่ ชอบแบบบ้านหน้ากว้าง สไตล์อังกฤษ มีส่วนกลางให้ใช้ครบ มีงบประมาณ 7-9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 49,000 – 63,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving