รีวิวฉบับที่ 1616 สวัสดีค่ะ Altitue Prove พระราม 9 Home Office ในย่านพระราม 9 ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก ที่กำลังมองหาออฟฟิศ พร้อมที่พักอาศัยในตัว เน้นเดินทางสะดวกบนถนนพระราม 9 – รามคำแหง และขึ้นด่วนศรีรัชได้ง่าย นอกจากนี้ยังตกแต่งมาพร้อมวัสดุให้ครบ ไม่ขายแบบ Bare Shell เหมือน Home Office ทั่วไป สามารถลงเฟอร์นิเจอร์เข้าพร้อมเปิดออฟฟิศได้เลย

Fact @ 28 June 2018

  • Type A พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 336.44 ตร.ม. ที่ดิน 24.39 ตร.วา 1 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคา 15.9 ล้านบาท
  • Type B พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 301.81 ตร.ม. ที่ดิน 34.75 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ราคา 26.9 ล้านบาท (รวมตกแต่ง)
  • Type C พื้นที่ใช้สอย 375.88 ตร.ม. ที่ดิน 50.3 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ราคา 30.02 ล้านบาท

  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 24.39 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ธันวาคม 2560
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 092-362-4263
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.742510, 100.611840

    ที่ตั้งโครงการ Altitude Prove พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 44 เลียบกับทางด่วนศรีรัช ทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในย่านพระราม 9 ช่วงระหว่างแยกรามคำแหง – แยกพัฒนาการ ซึ่งบริเวณนี้เป็นที่รู้จักกันดีและค่อนข้างคึกคัก ด้วยความอุดมสมบูรณ์สูงจากช่วงถนนหัวหมาก (หลังราม) มาถึงบริเวณ The Nine Center พระราม 9 คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ในย่านนี้ รวมไปถึงช่วงบริเวณใกล้แยกรามคำแหงก็มีทั้ง Hyper Market ห้างสรรพสินค้า พอสมควรซึ่งทั้งหมดเป็นระยะที่สามารถขับรถจากโครงการไปได้ไม่ยาก โดยเฉพาะช่วงแยกรามคำแหง วิ่งตรงไปอีกหน่อยก็ถึงแยกแล้ว และไม่ต้องกลับรถไกล

    การเดินทางเข้าถึงโครงการใช้รถยนต์สะดวกสุดค่ะ โดยใช้เส้นทางหลักคือถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหงก็สะดวกเช่นกัน เนื่องจากอยู่ใกล้แยกรามคำแหงที่ตัดกับถนนรามคำแหงเลยค่ะ ถนนพระราม 9 เส้นนี้วิ่งเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ในส่วนของถนนรามคำแหง จะวิ่งเข้าเส้นรามคำแหงตอนต้นไปตัดเพชรบุรีเข้าไปยังทองหล่อ-เอกมัยได้สะดวก หรือช่วงตอนกลางที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงก็ไม่ยากค่ะ

    การเดินทางด้วยรถสาธารณะยังไม่จัดว่าสะดวกมากนักเนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนเสียทีเดียวนะคะ รถสาธารณะมักไม่ผ่านมามากนัก แต่สำหรับพนักงานที่ไม่ได้ขับรถมาทำงานสามารถเดินออกไปยังถนนพระราม 9 เพื่อเรียกรถได้อยู่ค่ะ

    ตัวโครงการแม้จะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชมากก็จริงแต่อยู่เลยจุดขึ้นไปหน่อย และอยู่บนถนน One Way ย้อนกลับไปขึ้นทางด่วนได้ไม่สะดวกมากนักนะคะ จุดขึ้นที่สะดวกที่สุดคือวิ่งตรงผ่านแยกรามคำแหงไปอีกหน่อยและขึ้นทางด่วนบริเวณด่านรามคำแหงแทน หากรถไม่ติดใช้เวลาไม่นานค่ะ และไม่ต้องกลับรถไกลอีกด้วย

    สำหรับเส้นทางที่เราจะมาไปในวันนี้เริ่มต้นกันที่บริเวณถนนพระราม 9 หลังจากออกจากถนนศรีนครินทร์กันมาแล้วนะคะ จากนั้นวิ่งตรงยาวๆ ผ่าน The Nine พระราม 9 มาแล้วให้เตรียมชิดซ้ายวิ่งไปตามป้ายขึ้นทางด่วนศรีรัช เบี่ยงเข้าถนนพระราม 9 ซอย 44 แล้วชิดเลนซ้ายตลอดผ่านจุดขึ้นทางด่วนแล้วอีกไม่กี่เมตรก็จะถึงโครงการฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

    เริ่มต้นกันที่ถนนพระราม 9 ฝั่งขาเข้า วิ่งไปทางแยกรามคำแหงกันค่ะ ในช่วงเวลาเลยเวลาเร่งด่วนไปแล้วการจราจรถือว่าคล่องตัวนะคะ ไม่ได้ติดขัดมาก

    เราวิ่งตรงมาหน่อยผ่าน The Nine พระราม 9 แล้วค่ะ

    จากนั้นวิ่งมาเรื่อยๆ เห็นป้ายสีน้ำเงินชี้ให้ขึ้นทางพิเศษศรีรัช ให้เราเริ่มเบี่ยงซ้ายตามป้ายได้เลยค่ะ

    จากนั้นเมื่อเจอทางแยกให้เบี่ยงซ้ายเข้าซอยพระราม 9 44 ได้เลยค่ะ

    เมื่อขับตรงมาอีกหน่อย จะเจออีกทางแยกนึง โดยหากเบี่ยงขวาจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชนะคะ ซึ่งโครงการเราเบี่ยงซ้ายและตรงไปอีกหน่อยค่ะ ผ่าน REDD Premium Self Storage มาก็จะเห็นโครงการอยู่ใกล้ๆ กันค่ะ

    ผ่าน REDD Premium Self Storage มาแล้วจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    สภาพแวดล้อมโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย มี REDD Premium Self Storage ที่อยู่ใกล้ๆ ในทิศจะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ติดกับถนนใหญ่ทั้งทางด่วนศรีรัชและถนนพระราม 9 บรรยากาศส่วนใหญ่ค่อนข้างเงียบสงบนะคะ จะเหมาะกับคนที่มองหาบ้านและออฟฟิศอยู่ในที่เดียวกัน

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • The Nine พระราม 9
    • The Mall รามคำแหง
    • Major รามคำแหง
    • HomePro
    • ตลาดดลญา
    • Central พระราม 9

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    Master Plan โครงการ Altitude Prove พระราม 9 ที่ดินโครงการไร่กว่าแบ่งเป็นจำนวนยูนิตทั้งหมด 16 ยูนิต โดยจะมี 3 ยูนิตที่ติดถนนสาธารณะ หรือพระราม 9 ซอย 44 ซึ่งใน 3 ยูนิตนี้จะเหมาะกับการธุรกิจที่เน้น Show Room ต้องการติดป้ายหรือโชว์สินค้าบริเวณด้านหน้าของ Home Office เพราะเป็นยูนิตที่หันหน้าบ้านไปทางถนนใหญ่ รถขับไปมาสามารถมองเห็นได้ง่าย รวมไปถึงสะดวกสำหรับธุรกิจที่เน้นต้อนรับลูกค้า เนื่องจากการเข้าออกง่าย ไม่จำเป็นต้องแลกบัตร

    ส่วนโซนด้านในโครงการอีก 13 ยูนิตนั้นจะอยู่ในโครงการปิดที่มีการเข้า-ออกด้วยไม้กั้นกระดก พร้อม Keycard Access ระยะใกล้ จะเหมาะกับผู้ประกอบธุรกิจเป็นออฟฟิศ ไม่เน้นหน้าร้าน และต้องการความเป็นส่วนตัว มีความปลอดภัยสามารถอาศัยเป็นบ้านได้ในตัวค่ะ

    ภาพจาก Perspective และ ภาพมุมสูงของจริงในปัจจุบัน ฝั่งซ้ายมือที่เราเห็นคือ Home Office ที่อยู่บริเวณหน้าโครงการไม่ได้อยู่ในโซนโครงการปิดนะคะ จะเห็นว่าตัวอาคารเน้นช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถจัด Show Room ได้ดีค่ะ สำหรับโซนด้านในเป็นอาคารแถวเรียงกันไป คั่นกลาง 2 ฝั่งด้วยถนนส่วนกลางที่มีความกว้าง 8 ม.

    บริเวณ Home Office โซนด้านหน้าติดกับถนนสาธารณะ มีทั้งหมด 3 ยูนิตด้วยกันค่ะ ซึ่งฝั่งซ้ายมือเป็น Type C ที่มีขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 375.88 ตร.ม. สามารถรองรับพนักงานได้ประมาณ 20-30 คน เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งจะเหมาะกับธุรกิจขนาดกลางขึ้นมา ส่วนฝั่งขวาแบ่งเป็น Type B 2 ยูนิตค่ะ จุดเด่นของ Type นี้จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราพาไปชมบ้านตัวอย่างกันค่ะ

    ติดๆ กัน จะเป็นโซนภายในโครงการปิด ซึ่งปัจจุบันมีการล้อมรั้วโครงการไว้เตรียมก่อสร้างนะคะ โดยบริเวณรูป Perspective ที่เราเห็นนั้นในอนาคตจะเป็นส่วนซุ้มโครงการที่มีการกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ เข้า-ออกผ่าน Keycard Access

     

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 6-8 จุด
    • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
    • Key Card Access ระยะใกล้
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
    • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
    • ถนนหลักกว้าง 8 ม.

     


    Product Walkthrough

    สำหรับ Home Office ที่นี่มีทั้งหมด 3 Type ด้วยกันค่ะ ความสูงมีตั้งแต่ 3.5 – 4.5 ชั้น

     

    • Type A พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 336.44 ตร.ม. ที่ดิน 24.39 ตร.วา 1 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
    • Type B พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 301.81 ตร.ม. ที่ดิน 34.75 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ
    • Type C พื้นที่ใช้สอย 375.88 ตร.ม. ที่ดิน 50.3 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ

    โดยรูปแบบการออกแบบเน้นสไตล์ Modern เล่นรูปลักษณ์ที่ทันสมัย โดยใช้โทนสีเทาเป็นหลัก เพิ่มความน่าสนใจด้วย Aluminium Composite สีทองแดง สิ่งที่โดดเด่นของรูปลักษณ์อาคารเลยคือการที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทุกแบบ เน้นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า เพิ่มพื้นที่ให้แสงเข้ามายังภายในอาคารได้ดี ซึ่งส่งผลต่อการเปิดมุมมองวิวภายนอกได้ดี บรรยากาศภายในโปร่งโล่งมากขึ้น

    นอกจากนี้คือเรื่องของวัสดุที่ทางโครงการได้ตกแต่งไว้ให้เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกไม่จำเป็นต้องจัดการหาช่างเข้ามาตกแต่งเพิ่มเติมเอง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งแตกต่างจากโครงการ Home Office หลายโครงการที่ขายรูปแบบ Bare Shell ที่ต้องมาตกแต่งเพิ่มเติมอีก ซึ่งก็จะเหมาะกับออฟฟิศที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นค่ะ สำหรับโครงการเองมีเพิ่ม Technology เข้ามาใช้ในอาคารเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากขึ้น โดยติดตั้ง Home Automation จาก Fibaro ให้เป็นมาตรฐาน ครอบคลุมการใช้งานทั้ง เครื่องปรับอากาศ ไฟแสงสว่าง และ CCTV

    สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมนั้นจะเป็น Type B พื้นที่ใช้สอย 301.81 ตร.ม. ที่ดิน 34.75 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ

    ชั้น 1 แบ่งการใช้งานเป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้ทั้งหมด 5 คัน จัดว่าเยอะทีเดียวค่ะ หากเทียบกับพื้นที่ดินแล้ว เนื่องจากหั่นพื้นที่ภายในชั้นล่างออก และจัดชั้นนี้ให้เป็นพื้นที่ Reception อย่างเดียวไม่ได้จัดพื้นที่ทำงาน ส่วนด้านล่างของที่ดินมีลานซักล้างขนาดใหญ่ให้ค่ะ สำหรับการใช้งานภายในของชั้นนี้เป็นพื้นที่ Reception ซึ่งเหมาะกับออฟฟิศที่มีการต้อนรับแขกเป็นประจำ และต้องการให้พนักงานมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น จึงแยกพื้นที่ต้อนรับและพื้นที่ทำงานคนละชั้นเลย

    ชั้น 2 เป็นชั้นออฟฟิศ ทั้งหมดเป็นพื้นที่นั่งทำงานที่สามารถรองรับพนักงานได้ 10-12 คน มีห้องน้ำ และ Pantry ไว้บริการพนักงานในชั้นนี้

    ชั้นลอย ออกแบบให้เป็นพื้นที่ห้องประชุม หรือห้องอเนกประสงค์ได้ สามารถจัดพื้นที่ได้ตามการใช้งานของออฟฟิศนั้นๆ นอกจากนี้ชั้นลอยนี้ยังมีบริเวณ Pantry ครัวให้สามารถเตรียมของว่างหรือเครื่องดื่มได้

    ชั้น 3 แบ่งพื้นที่เป็น 2 โซนด้วยกัน โดยบริเวณด้านหน้าจัดให้เป็นพื้นที่ทำงานสามารถรองร้บพนักงานได้ประมาณ 8-10 คน โซนด้านหลังจัดให้เป็นห้องทำงานผู้บริหาร หรือจะเป็นห้องพักของผู้บริหารก็ได้เช่นกัน ภายในห้องนี้มีห้องน้ำพร้อมที่อาบน้ำในตัว

    เร่ิมต้นด้านหน้าอาคารนะคะ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ซ้ายมือคือพื้นที่จอดรถ บริเวณนี้ปูด้วย Contrete Stamp ดูเรียบร้อยสวยงามค่ะ ความกว้างของที่จอดรถสามารถจอดรถเรียงกันไป ได้อย่างละ 1 คัน กำลังดี ฝั่งขวาเป็นพื้นที่ภายในซึ่งใช้กระจกกั้นทั้งด้านหน้าและด้านข้างเพื่อให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง รวมไปถึงพนักงานต้อนรับสามารถมองเห็นผู้เข้ามาติดต่อได้

    สุดทางเป็นจัดให้เป็นพื้นที่ซักล้าง และสวนค่ะ โดยบริเวณลานซักล้างนี้ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก โครงสร้างพื้นใช้เป็น Slab on Beam (ลงเสาเข็ม) และบริเวณสวนจะมีการลงดินให้เรียบร้อยเพื่อสามารถจัดสวนได้ค่ะ ในส่วนของความสูงรั้วรอบบ้านเป็นกำแพงทึบสูง 3 ม. ซึ่งจัดว่าสูงพอสมควรเลยค่ะ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี

    บรรยากาศภายใน บริเวณด้านหน้าสามารถจัดเป็นส่วน Reception ได้ หรือจะจัดเป็นพื้นที่นั่งรอ ไว้สำหรับคุยงาน ติดต่องานในชั้นล่างได้ บริเวณนี้ตกแต่งพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังและฝ้าเพดานทาสีฉาบเรียบค่ะ

    ถัดมาเป็นบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 นะคะ และประตูตรงไปออกยังส่วนลานซักล้างค่ะ พูดถึงลักษณะบันไดกันอีกหน่อยที่นี่ตกแต่งบันไดมาให้เลยเรียบร้อยนะคะ โดยใช้เป็นราวอลูมิเนียมตกแต่งพร้อมกระจก Tempered สวยงาม

    สำหรับบริเวณประตูที่ออกไปส่วนลานซักล้างด้านนอกมีการติดตั้ง Magnatic & Shock Sensor ให้เรียบร้อย ซึ่งจะมีเสียงและ Notification เตือนไปยัง Application บน Smart Phone อีกด้วยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าเวลาทำงานอาจจะมีคนเปิดเข้า-ออกประตูเป็นประจำ ซึ่งหากมีการเตือนประจำก็จะรบกวนได้ ซึ่งก็มีฟังก์ชันเพิ่มเติมคือสามารถตั้งเวลาให้ Notification เด้งขึ้นมาเตือนได้ในเฉพาะเวลากลางคืน หรือวันหยุดที่ไม่ได้อนุญาตให้คนเข้ามา

    ก่อนขึ้นบันไดมีห้องน้ำฝั่งซ้ายมือไว้สำหรับเป็นห้องน้ำรับรองแขกได้

    ห้องน้ำในชั้นนี้เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ เนื่องจากออกแบบไว้สำหรับรับรองแขกและพนักงานเท่านั้น ภายในได้สุขภัณฑ์อย่างโถสุขภัณฑ์พร้อมฝาอัตโนมัติจาก American Standard ส่วนอ่างล้างมือจาก Lavenz พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่

    สำหรับส่วนบันไดที่นี่ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมปูลูกนอนด้วยหินอ่อนด้วยค่ะ ซึ่งค่อนข้างหายากที่จะเห็นโครงการ Home Office ทั่วไปติดตั้งให้นะคะ นอกจากนี้มีการติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวณลูกนอนให้ด้วยเฉพาะชั้น 1 ขึ้น ชั้น 2 เท่านั้นในบ้านมาตรฐาน ลักษณะการใช้งานคือระบบไฟนี้จะตรวจจับการเคลื่อนไหวหามีคนเดินผ่านไฟจะเปิดเองโดยอัตโนมัติ

    ขึ้นมาชั้น 2 ได้บรรยากาศโอ่โถงมากขึ้นด้วยฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume พร้อมทั้งได้กระจกบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ในส่วนของพื้นที่ชั้นนี้สามารถจัดโต๊ะสำนักงานรองรับพนักงานได้ประมาณ 8-10 คน

    ด้านซ้ายบริเวณด้านหน้าบ้านทำพื้นที่ระเบียงไว้ให้สำหรับยืนสูดอากาศภายนอกได้นะคะ นอกจากนี้ยังออกแบบระเบียงยื่นออกมาสำหรับปลูกต้นไม้ขนาดกลางได้ ซึ่งทางโครงการจะให้ต้นตีนเป็ดน้ำเป็นมาตรฐานนะคะ

    หันกลับมาด้านในด้วยความที่ฝ้าเพดานเป็นแบบ Double Volume สามารถมองเห็นชั้นลอยด้านบนได้ โดยในชั้นลอยด้านบนนี้ก็มีการตกแต่งด้วยกระจก Frameless ทั้งหมดช่วยเสริมให้บรรยากาศโปร่งโล่งและโอ่โถงดีทีเดียว

    เข้ามาด้านในเป็นโซน Service ซึ่งฝั่งขวามือสุดเป็นห้องเก็บของ ห้องกลางเป็นห้องน้ำ และฝั่งซ้ายคือพื้นที่ Pantry ค่ะ เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดกัน

    ภายในห้องเก็บของมีพื้นที่สำหรับเก็บของพอสมควรเลยค่ะ สามารถเก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่และเล็กได้ หากต้องการเก็บของเป็นสัดส่วนสามารถ Built-in ชั้นเพิ่มเติมได้นะคะ

    ส่วนห้องน้ำในชั้นนี้เป็น Powder Room เช่นเดียวกัน ขนาดและสเป็คสุขภัณฑ์เหมือนกันค่ะ คือ โถสุขภัณฑ์พร้อมฝาอัตโนมัติจาก American Standard และ อ่างล้างมือจาก Lavenz

    สำหรับส่วน Pantry ครัวนี้จะเป็นพื้นที่โล่งในบ้านมาตรฐานนะคะ โดยทางโครงการจะเดินระบบต่างๆ ไว้สำหรับรองรับการตกแต่ง Pantry ได้ค่ะ บริเวณ Pantry ครัวนี้ติดกับโซนด้านหลังบ้านที่มีหน้าต่างให้ด้วย ช่วยให้บริเวณครัวมีความโปร่งโล่ง ระบายอากาศความชื้นได้ดีค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้นลอยกันต่อนะคะ ชั้นลอยนี้ได้กระจกบานใหญ่แบบ Frameless และเข้ามุมแบบ Bay Window อีกด้วยเรียกได้ว่ามีกระจกทั้งหมด 3 ทิศเลยทีเดียวค่ะ ส่วนบันไดนี้จะยาวจากชั้น 2 ขึ้นไปยังชั้นลอยและชั้น 3 เลย

    ภายในชั้นลอย สามารถจัดพื้นที่ได้พอสมควรเลยค่ะ สามารถรองรับจำนวนคนได้ถึง 6 คนกำลังดี ซึ่งในบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องประชุม

    มุมจากภายในห้องประชุมนี้มองออกไปด้านนอกได้บรรยากาศดีมากค่ะ เพราะสามารถมองเห็นวิวภายนอกจากบริเวณนี้ได้เลย

    ด้านหลังมีพื้นที่สำหรับเตรียมของว่างและเครื่องดื่มได้ ซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกอย่างเป็นสัดส่วน

    สำหรับบริเวณ Pantry ของชั้นลอยนี้จะเหมือนกับ Pantry ในชั้น 2 นะคะ คือทางโครงการเตรียมเดินระบบต่างๆ ไว้สำหรับวาง Pantry ให้เรียบร้อย ไม่รวม Pantry ค่ะ มีหน้าต่างให้เรียบร้อยไว้สำหรับระบายอากาศและความชื้นต่างๆ ได้ดี

    ขึ้นมาที่ชั้น 3 กันต่อนะคะ สำหรับบ้านมาตรฐานไฟส่องสว่างใต้ลูกนอนในชั้นนี้จะไม่มีแล้วนะคะ ส่วนราวบันไดยังตกแต่งด้วยกระจก Tempered เช่นเดียวกับชั้นล่าง ซึ่งให้บรรยากาศบริเวณโถงบันไดโปร่งโล่งมากขึ้นได้ดีทีเดียวค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 3 บริเวณด้านหน้าบ้านจัดให้เป็นพื้นที่ทำงาน ซึ่งสามารถวางโต๊ะทำงานสำหรับ 8-10 คนได้กำลังดีค่ะ

    ด้านหน้าบ้านได้ระเบียงขนาดใหญ่พร้อมราวกันตกกระจกทำให้สามารถมองวิวภายนอกได้กว้างมากขึ้น ซึ่งวิวด้านหน้าโครงการเป็นบริเวณทางด่วนนะคะ ช่วงเย็นๆ จะได้แสงไฟจากท้องถนนด้วย

    โซนด้านหลังอาคารจัดให้เป็นห้องของผู้บริหาร หรือเป็นห้องพักส่วนตัวก็ได้เช่นกันค่ะ

    ก่อนเข้าสู่ภายในห้องผู้บริหารจะมีโซน Pantry ขนาดเล็กอีกจุด เพื่อง่ายต่อพนักงานในชั้นนี้ไม่จำเป็นต้องลงไปชั้นลอย หรือชั้น 2 เพื่อชงกาแฟ หรือจัดอาหารว่างนะคะ และเช่นเดียวกันคือทางโครงการจะเตรียมงานระบบไว้ให้ลูกบ้านติดตั้ง Pantry เองได้

    เข้ามาภายในห้องผู้บริหารกันต่อนะคะ เปิดเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ทำงานก่อนเลย ซึ่งบริเวณด้านหลังอาคารติดตั้งหน้าต่างบานใหญ่ไว้ให้สำหรับระบายอากาศและช่วยให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้ดี

    ด้านข้างมีห้องน้ำส่วนตัวให้เรียบร้อยค่ะ

    โดยความพิเศษของห้องน้ำนี้คือได้พื้นที่อาบน้ำเพิ่มมากด้วย พร้อมกับสุขภัณฑ์ที่ขนาดใหญ่และอัพเกรดสเป็คขึ้นมาดีกว่าห้องอื่นๆ ทั้งอ่างล้างมือขนาดใหญ่ กระจกเงาซ่อนไฟแบบ Indirect light มี Low Wall ด้านหลังสำหรับวางของใช้ต่างๆ ได้

    สำหรับพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเปิดเป็นสัดส่วน พร้อมยกธรีณีขึ้นสูงกันน้ำไหลย้อนได้ดี

    ฝักบัวได้ทั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower จาก HAFELE

    ภายในห้องสามารถจัดพื้นที่ได้ทั้งพื้นที่ทำงานและพื้นที่พักผ่อนนะคะ สำหรับใครที่ต้องการอาศัยอยู่ในนี้เลยก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนบริเวณพื้นที่โซฟาได้ แล้วจัดเป็นห้องนอน เตียงขนาด Single Bed กำลังดีค่ะ

    พื้นที่พักผ่อนนี้ สามารถจัดได้ทั้งชุดโซฟา หรือเป็นห้องนอนอย่างที่กล่าวไปแล้วก็ได้นะคะ ซึ่งหากจัดเป็นชุดโซฟาสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ 3 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้โซฟาได้สบาย

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย 28 June 2018

    • Type A พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 336.44 ตร.ม. ที่ดิน 24.39 ตร.วา 1 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคา 15.9 ล้านบาท
    • Type B พื้นที่ใช้สอย 301.81 ตร.ม. ที่ดิน 34.75 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ราคา 26.9 ล้านบาท (รวมตกแต่ง)
    • Type C พื้นที่ใช้สอย 375.88 ตร.ม. ที่ดิน 50.3 ตร.วา 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ราคา 30.02 ล้านบาท

    • จองและทำสัญญา n/a บาท
    • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ Altitude Prove พระราม 9  เป็นโครงการ Home Office รบนทำเลพระราม 9 เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ที่มองหา Home+Office ในย่านนี้ที่อยู่ใกล้ถนนพระราม 9 เข้า-ออกถนนพระราม 9 และรามคำแหงได้สะดวกด้วยรถยนต์ รูปแบบโครงการตอบโจทย์ธุรกิจทั้งแบบออฟฟิศที่ต้องการโชว์รูม และรูปแบบออฟฟิศในโครงการปิดที่มีพนักงานประจำเข้า-ออก หรือธุรกิจค้าขายที่ไม่เน้น Walk-in เป็นหลัก เน้นต้อนรับลูกค้าที่มีการนัดหมายไว้ก่อน พร้อมทั้งมีความเป็นส่วนตัวเหมาะกับการอยู่อาศัยได้ด้วย

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในพระราม 9 ซอย 44 ซึ่งเข้าจากถนนพระราม 9 ฝั่งขาเข้าวิ่งไปยังแยกรามคำแหงได้สะดวก จัดเป็นโครงการ Home Office โครงการปิดไม่มากที่อยู่ในซอยไม่ลึกจากถนนพระราม 9 ค่ะ เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินมีไม่มากนัก แต่ในระยะขับรถได้สะดวกนั้นค่อนข้างคึกคักเพราะมีทั้ง The Nine พระราม 9, ย่านหลังราม และร้านอาหารบนถนนพระราม 9 ก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน

    การเดินทางเน้นการเดินทางบนถนนพระราม 9 วิ่งเข้าเมืองได้ง่าย รวมไปถึงวิ่งตรงไปหน่อยก็เจอแยกรามคำแหงซึ่งวิ่งเข้าเมืองไปทางทองหล่อ – เอกมัยได้ไม่ยาก รวมไปถึงจะวิ่งไปห้าง หรือ Hyper Market ขนาดใหญ่บนรามคำแหงก็สะดวกเช่นกันค่ะ สำหรับทางขึ้นด่วนศรีรัชจะสะดวกสุดหากวิ่งไปขึ้นบนด่านรามคำแหง ช่วงเลยแยกรามคำแหงไปแล้วค่ะ

    การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – การออกแบบทำมาได้น่าสนใจ ในสไตล์ Modern ชัดเจน ที่ชอบคือการออกแบบให้มีที่จอดรถมากที่สุดในพื้นที่ดินที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก ตอบโจทย์การทำธุรกิจได้ดี เพราะมักจะมีผู้เข้ามาติดต่ออยู่เป็นประจำ หรือพนักงานเองก็ต้องเผื่อที่จอดรถไว้ให้ด้วย อย่าง Type B สามารถรองรับได้มากสุดถึง 5 ที่จอดรถค่ะ นอกจากนี้บริเวณพื้นที่ทำงานชั้น 2 ออกแบบให้เป็น Double Volume ดูโอ่อ่า โปร่งโล่งดีทีเดียวค่ะ ส่วนชั้นลอยให้กระจกใสแบบ Frameless ถึง 3 ด้านจึงได้วิวจากภายนอกดีทีเดียว

    วัสดุ – Highlight โครงการคือวัสดุที่ให้มาค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ ปกติโครงการ Home Office ส่วนใหญ่มักจะขายในรูปแบบ Bare Shell ซึ่งลูกค้าต้องติดต่อทางผู้ออกแบบเพิ่มเติมเองเพื่อทำการตกแต่งภายในตามสไตล์ของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องเสียเพิ่มเติม สำหรับโครงการนี้ตกแต่งมาให้พร้อมทั้งพื้น ฝ้า ห้องน้ำ ซึ่งง่ายมากสำหรับออฟฟิศเพราะเพียงแต่ย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้าได้เลยค่ะ จะเหมาะกับออฟฟิศที่ไม่ได้ต้องการตกแต่งอะไรเพิ่มเติมมากนักเช่นกัน นอกจากนี้สิ่งที่ได้เพิ่มมาคือ Home Automation, CCTV, Magnatic & Shock Sensor, เครื่องปรับอากาศ ซึ่งทั้งหมดสามารถสั่งการได้จาก Application บน Smart Phone ในส่วนของเกรดวัสดุถือว่าให้มาดีเหมาะสมกับราคา เช่น พื้นลูกนอนบันไดใช้หินอ่อน ราวกันตกกระจก Tempered และโถสุขภัณฑ์+ฝาอัตโนมัติ จาก American Standard อ่างล้างมือ Lavenz และอุปกรณ์ห้องน้ำอื่นๆ จาก Hafele

    สาธารณูปโภค – จัดมาให้มาตรฐานทั่วไป ซุ้มโครงการเข้า-ออกด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ ผ่าน Keycard Access ระยะใกล้ ถนนหลักกว้าง 8 ม. รปภ.พร้อม CCTV ดูแลตลอด 24 ชม. ส่วนในเรื่องความปลอดภัยถือว่าที่นี่จัดมาให้ดีค่ะ

     

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 15 – 30 ล้านบาท, 28 June 2018

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ตั้งอยู่ในซอยพระราม 9 44 เดินทางสะดวกจากถนนพระราม 9 และรามคำแหง
    • ความปลอดภัย 8/10 – มี CCTV ให้ในบ้าน และมี CCTV รอบโครงการ พร้อมรปภ. และ Keycard Access
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ที่จอดรถให้มาพอสมควร ออกแบบพื้นที่ทำงาน
    • วัสดุ 8/10 – ตกแต่งพร้อมนำเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่ได้ มี Home Automation + CCTV ให้เป็นมาตรฐาน
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – โครงการปิด เป็นส่วนตัว
    • สาธารณูปโภค 7/10 – ให้มามาตรฐาน มีซุ้มโครงการปิด ถนนหลักกว้าง 8 ม.
    • 7.4 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Altitude Prove พระราม 9 เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ที่มองหา Home+Office ในย่านพระราม 9 เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก เหมาะกับธุรกิจหลายรูปแบบทั้งที่ต้องการหน้าร้าน (Show Room) และออฟฟิศกึ่งบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อยู่ในโครงการปิด มีระบบความปลอดภัยให้ดี ครบครัน ภายในบ้านตกแต่งไว้เรียบร้อย สามารถวางเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่ได้เลย ในราคา 15-30 ล้านบาท