จากกระแสตอบรับที่ดีของเฟส 1 โครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรู 3 ชั้นที่ Sold Out  ไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว …ทาง Enrich Group เองก็ไม่รอช้าส่งบ้านเฟส 2 ออกมาให้ได้จับจองกัน โดยยังคงรักษาดีไซน์เดิมที่เป็นบ้านทรง C-Shape ล้อมคอร์ทเอาไว้ แต่มีการปรับพื้นที่ชั้นล่างให้สามารถรองรับการก่อสร้างสระว่ายน้ำเพิ่มเติมได้ และสามารถจอดรถได้สูงสุดถึง 6 คัน ในราคาเริ่มต้น 34.9 ล้านบาท จะมีจุดที่น่าสนใจอะไรบ้าง เราสรุปออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

  • บ้าน 3 ชั้น : โครงการนี้เป็นบ้าน 3 ชั้นที่มีราคาเท่าๆ กับบ้าน 2 ชั้นในละแวกนี้ ทำให้จุดเด่นอย่างแรกเลยคือพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านที่ให้มาเยอะนั่นเอง และเมื่อตัวบ้านมีทั้งหมด 3 ชั้นก็ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ชั้นล่างไปกับฟังก์ชันพิเศษๆ ได้ เช่น การจัดปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ, ทำโรงรถแบบมีหลังคากันแดดกันฝน มีพื้นที่ซ่อมจักรยานหรือทำงานช่าง, จัดชั้นล่างเป็นพื้นที่คุยงานของคุณพ่อโดยไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของสมาชิกคนอื่นๆ เพราะว่ามี Family Area พร้อมโต๊ะทานอาหารและครัวอยู่บนชั้น 2 อย่างครบครัน
  • ดีไซน์บ้านทรง C- Shape : ตอบโจทย์วัยรุ่น/คนยุคใหม่ ที่ไม่ได้อินกับบ้านหน้าตาคลาสสิคแบบเดิมๆ แต่กลับมาชอบความโมเดิร์นของบ้านที่มีช่องแสงกว้างๆ มี Courtyard กลางบ้าน เพื่อให้ทุกมุมและทุกชั้นของบ้านได้ใกล้ชิดกับสวน
  • จอดรถได้ถึง 6 คัน : เป็นเพียงไม่กี่โครงการในย่านนี้ที่รองรับการจอดรถได้ถึง 4-6 คัน ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลงนะคะ
  • รองรับการสร้างสระว่ายน้ำในบ้าน : มีการลงเสาเข็มด้านข้างบ้านไว้ให้ รองรับการก่อสร้างสระว่ายน้ำ ขนาด 4×8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบ 3 Generations : ตัวบ้านติดตั้งลิฟต์มาให้ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถขึ้นลงชั้นต่างๆ ได้สะดวก และถ้ามองระยะยาวก็สามารถใช้อยู่อาศัยจนลูกโต จนเราแก่ชราลงได้ค่ะ

แค่เกริ่นจุดเด่นหลักๆ มาก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ แต่โครงการยังมีดีเทลเล็กๆ น้อยที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการอยู่อาศัยอีกหลายจุด ตามเราไปชมกันต่อเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

THE MARQ Exquisite Ratchaphruek – CharunSanitwong (เดอะมาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ) ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565

 ชื่อโครงการ   THE MARQ Exquisite Ratchaphruek-CharanSanitwong (เดอะ มาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์)
 ชื่อผู้ประกอบการ   Enrich Group (บริษัท เอสจี เอ็นริช จำกัด)
 SEGMENT CLASS   LUXURY – SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เขตตลิ่งชัน
 ที่ดิน 23-1-76.7 ไร่
 จำนวนยูนิต 52 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Type M บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 600 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – Sold Out
  • Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 540 ตร.ม.*
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4-6 ที่จอดรถ*
    – ช่วงราคา 34.9 – 47 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า
  • Type M ชั้น 1 – 2.8 เมตร, ชั้น 2 – 3 เมตร (Double Volume 6.5 เมตร), ชั้น 3 – 2.8 เมตร
  • Type A ชั้น 1 – 2.8 เมตร, ชั้น 2 – 3 เมตร (Double Volume 5.15 เมตร), ชั้น 3 – 2.8 เมตร

 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ          172,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2562
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2566
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.en.co.th/en/house/the-marq-exquisite
 โทร   02-422-4222

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.753475, 100.425867
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ตั้งอยู่บนถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 เป็นถนนตัดใหม่ที่ตอนนี้เปิดให้ใช้งานได้ถึงพุทธมณฑลสาย 2 แล้วนะคะ ดูจากทำเลแล้วจะเห็นได้ชัดว่าโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ เป็นทางเลือกของคนที่อยากจะได้โครงการใหม่ ในทำเลที่อยู่ใกล้ถนนราชพฤกษ์ ช่วงที่ใช้เข้าสาทรได้ง่าย เข้าถึงจุดเชื่อมต่อสู่ตัวเมืองได้หลายจุดทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า และถึงแม้ว่าถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จะเป็นถนนตัดใหม่ แต่ก็เริ่มมีร้านค้า ร้านอาหาร มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มตามมาเช่นกัน

และหากสังเกตดีๆ ถนนสายนี้จะมีโครงการบ้านแพงระดับ High End มาเปิดใหม่กระจายอยู่ตลอดแนวถนนและยังมีพื้นที่ว่างให้พัฒนาอยู่อีกเยอะ คาดว่าน่าจะเจริญรอยตามถนนราชพฤกษ์ในอนาคตจึงเป็นอีกทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ เริ่มตั้งแต่ระยะใกล้ๆ บนถนนพรานนก – พุทธมณฑล สาย 4 ก็มีร้านอาหารแถวๆ หน้าโครงการเลย  หรือขับไปบนเส้นนี้ก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย มีตลาดสดขนาดใหญ่ เช่น ตลาดดอกไม้, ปากคลองตลาดใหม่ ที่มีขายอาหารสดด้านในด้วย หรือจะพึ่งพิงปั้มนำ้มันขนาดใหญ่ ที่ในปั๊มมักจะมีร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร , ร้านกาแฟ , KFC , Burger King ให้แวะซื้อกลับบ้านกันได้

ถ้าขยับออกมาบนทำเลราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ ก็เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ดั้งเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตลาดต่างๆ อย่างขวัญใจของเราเลยก็คือ ตลาด Food Villa แนะนำให้ไปลองกุ้งแม่น้ำ ราคาดีและรับเผาให้เลย ถ้าเป็นพวกคอมมูนิตี้มอลล์ ก็จะมี The Circle หรือจะไปที่ถนนกาญจนาภิเษก ก็มี The Paseo Park ส่วนบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ก็เป็นแหล่งชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะมีร้านค้าและตลาดสดอยู่หลายแหล่ง เช่น ตลาดบางขุนนนท์ ตลาดบางขุนศรี ตลาดวังหลัง และมี Hypermarket เรียงกันอยู่ตามแนวถนน เช่น Tesco Lotus , แม็คโคร และ Foodland เป็นต้น

จากโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ สามารถไปขึ้นทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก (จตุจักร-ฉิมพลี) ทางด่วนสายใหม่เพื่อเชื่อมการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก สามารถเลือกใช้งานทั้งจากถนนพุทธมณฑลสาย 1 และจากถนนกาญจนาภิเษก ระยะทางประมาณ 8-9 km.

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถไปใช้เส้นทางรถไฟฟ้าได้ 2 เส้นทาง เพื่อเข้า-ออกเมือง แต่ต้องใช้วิธีการต่อรถไปอีกทีเพราะไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินถึงแต่ก็ใช้เวลาไม่นานประมาณ  5-10 นาที เท่านั้น

  • สถานีไฟฉาย : จากโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ วิ่งตรงมุ่งหน้าไปทางแยกไฟฉาย และถนนจรัญสนิทวงศ์ เพื่อไปรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีไฟฉายมีระยะทางประมาณ 6 km.
  • สถานีบางหว้า : จากโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ให้ตรงไปบนถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 แล้วเลี้ยวไปถนนราชพฤกษ์ เพื่อไปรถไฟฟ้า สถานีบางหว้า ระยะทางประมาณ 8.2 km. เป็นสถานี Interchange ของรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ท่าพระ – เตาปูน) และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิท-สีลม) สามารถเลือกเปลี่ยนเส้นทางเข้าเมืองได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริเวณโดยรอบโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ดูจากภาพรวมแล้วยังคงเป็นพื้นที่ว่างและบ้านพักอาศัยเกือบทั้งหมด ไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพ และไม่มีแหล่งเสื่อมโทรมหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษในการอยู่อาศัย สรุปแต่ละทิศได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ ด้านหน้าจะติดกับแนวถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ร้านค้าทางด้านหน้า พื้นที่ว่าง และบ้านพักอาศัย
  • ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่ว่าง และบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย (บ้านจัดสรร) และพื้นที่ว่าง

มาที่ด้านหน้าโครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ จะติดกับถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งเป็นถนนใหญ่มีเกาะกลางแยกช่องทางจราจร ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นพื้นที่ว่างและบ้านพักอาศัยในพื้นที่

บริเวณด้านหน้าโครงการมีแนวทางเดินเท้าค่อนข้างกว้างให้ใช้งานเดินริมถนนได้ปลอดภัย โดยอาคารที่ติดกับที่ตั้งโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัย และถัดไปไม่ไกลมีร้านอาหารค่ะ

โซนร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆกับโครงการในระยะที่เดินออกมาได้เลย เป็นร้านครัวเจ๊ง้อ ร้านเนื้อตุ๋น และร้านข้าวแกงใต้

ติดกับโครงการอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นแนวลำรางที่ไปเชื่อมต่อกับคลองบางน้อยที่อยู่ด้านใน

พอเดินผ่านคลองมาก็จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำและถัดไปคือร้านขายต้นไม้ ซึ่งน่าจะแวะจอดซื้อต้นไม้และขนขึ้นรถกลับบ้านได้สะดวกทีเดียว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

สถานศึกษา

  • โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเค็นซิงตัน – 5.1 km.
  • โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ – 6.3 km.
  • โรงเรียนเพลินพัฒนา – 8.1 km.
  • โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม – 10.4 km.
  • โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก – 11.2 km.
  • โรงเรียนนานาชาติบริติชโคลัมเบีย – 11.9 km.
  • มหาวิทยาลัยมหิดล – 15.2 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลธนบุรี 2 – 5.9 km.
  • โรงพยาบาลธนบุรี 1 – 7.5 km.
  • โรงพยาบาลพญาไท 3 – 9 km.
  • โรงพยาบาลศิริราช – 6.3 km.
  • โรงพยาบาลเจ้าพระยา – 10.4 km.

แหล่งช้อปปิ้ง

  • ตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ – 2.2 km.
  • เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก – 3.1 km.
  • Food Villa ราชพฤกษ์ – 3.5 km.
  • The Circle ราชพฤกษ์ – 3.8 km.
  • The Mall บางแค – 6.8 km.
  • Central ปิ่นเกล้า – 8.2 km.
  • เดอะคริสตัลเอสบี ราชพฤกษ์ – 9.9 km.
  • ICON SIAM – 12.2 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ 23-1-76.7 ไร่ เป็นโครงการบ้านจัดสรรขนาดไม่ใหญ่มากเพียง 52 ยูนิต ตัวบ้านเกือบทั้งหมดวางตัวในแนวทิศเหนือใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมที่ได้ลมดี และไม่โดนแดดร้อนในตอนบ่าย ถนนสายหลักของโครงการกว้าง 12 เมตรและไปแยกเข้าซอยย่อยกว้าง 9 เมตร โดยทางโครงการให้ความสำคัญกับบรรยากาศภาพรวมของโครงการที่ดูเรียบร้อยจึงวางเสาไฟแบบลงดินทั้งหมดไม่มีสายไฟรกตา

ส่วน Facilities ของโครงการจะอยู่ด้านหน้าเป็นส่วนต้อนรับของโครงการ เป็นอาคาร Clubhouse 3 ชั้น ภายในประกอบด้วยพื้นที่ใช้งานที่หลากหลายเหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่มีหลายช่วงวัย สามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของโครงการร่วมกันได้ แต่จะแยกกับสวนส่วนกลางซึ่งจะขยับเข้ามาอยู่ใกล้โซนบ้านพักอาศัยมากขึ้น

โครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ มีซุ้มประตูทางเข้าตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เส้นพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 โดยสร้างบรรยากาศบริเวณซุ้มทางเข้าเป็นสไตล์ Modern เน้นความเรียบเท่ แต่ยังให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยการใช้วัสดุที่ให้สีเหมือนไม้ และจัดสวนด้วยการเลือกใช้พรรณไม้ที่มีฟอร์มสวยๆ เช่น ต้นสน เป็นต้น

ซุ้มประตูทางเข้า-ออก มีการแบ่งช่องการใช้งานตามเส้นทางของผู้ใช้งานไว้สองฝั่ง โดยทางเข้าจะอยู่ช่องทางซ้ายมือ เป็นทางเข้าสำหรับลูกบ้านภายในโครงการและผู้มาติดต่อ ส่วนทางช่องขวาจะเป็นทางออกโครงการติดตั้งระบบบันทึกป้ายทะเบียนรถ สำหรับลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้สะดวก  และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกไว้ และมีระบบ Visitor GPS access control คอยติดตามรถผู้มาติดต่อที่เข้ามาในโครงการเพื่อความปลอดภัย

ถัดมาจะเป็นถนนหลักของโครงการ โดยถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนซอยกว้าง 9 เมตร ส่วนทางขวามือในอนาคตจะเป็นที่ตั้งของ Clubhouse 3 ชั้น

ตรงเข้ามาจะมีสะพานข้ามคลองอยู่ สภาพบรรยากาศมองลงมาจากสะพานเป็นคลองบางน้อยที่ดูภาพรวมก็สะอาดดีไม่ส่งกลิ่นเหม็นและมีบ้านพักอาศัยริมคลองอยู่ตลอดแนว

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะของโครงการ จัดพื้นที่เป็นสนามหญ้าใช้ออกกำลังกายหรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ ด้านข้างมีแนวทางเดินให้เดินเล่นได้

ภายในพื้นที่สวนจะจัดพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนไว้ รอบๆก็จะปลูกหญ้า ปลูกต้นไม้ใหญ่ และไม้ประดับไว้

ภาพทัศนียภาพจำลอง The MARQ Club เป็นอาคาร Clubhouse 3 ชั้น บนพื้นที่ประมาณ 900 ตร.ม. ซึ่งจะมีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool บนชั้น 2 ขนาด 4.5 x 15.4 เมตร และ Kid’s pool ขนาด 5.9 x 3.9 เมตร บนชั้น 3 ให้ใช้งานกันด้วย

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางบริเวณ Grand Lobby บนชั้น 1 ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวต้นไม้รอบๆ

ภาพทัศนียภาพจำลองภายในห้อง Fitness ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง Exclusive Kitchen & Bar สำหรับ จัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้ส่วนตัว หรือ Chef Table รองรับ 10 ท่าน

ภาพทัศนียภาพจำลองภายใน Meeting Room บนชั้น 2 เป็นห้องประชุมส่วนตัวที่มีให้ 2 ห้อง 2 ขนาดรองรับ 4 และ 12 ที่นั่งค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

THE MARQ Club อาคาร Clubhouse 3 ชั้น บริเวณด้านหน้าโครงการ บนพื้นที่ประมาณ 900 ตร.ม.

ชั้น 1

  • Grand Lobby
  • Juristic Office
  • Visitor Parking 9 lots
  • Exclusive Kitchen & Bar สำหรับ จัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้ส่วนตัว หรือ Chef Table รองรับ 10 ท่าน
  • Master Class Room ห้องสำหรับจัดคลาสเรียนส่วนตัว เช่น โยคะ Bodycombat Bodyweight เป็นต้น

ชั้น 2

  • Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 4.5 x 15.4 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Co & Private Working Space สำหรับจัดประชุมส่วนตัว 4 ที่นั่ง และห้องประชุมใหญ่ขนาด 12 ที่นั่ง

ชั้น 3

  • Fitness ขนาดใหญ่
  • Spa & Salon room
  • Kid’s room
  • Kid’s pool ขนาด 5.9 x 3.9 เมตร ลึก 35 เซนติเมตร

พื้นที่สวนสาธารณะ

  • Main garden ขนาด 388 ตร.วา พร้อมของเล่นเด็กและ Pavilion
  • สวนในโครงการขนาด 82.58 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • สายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งโครงการ
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • เข้า-ออกโครงการด้วยระบบบันทึกป้ายทะเบียนรถยนต์
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก

แบบบ้าน

โครงการนี้มีรูปแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบ โดยแบบแรกคือ Type M จะเป็นบ้านในเฟส 1 ทั้งหมดซึ่ง Sold Out ไปแล้วนะคะ ตอนนี้ทางโครงการจึงมีให้เลือกแบบเดียวเป็นบ้าน Type A ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันในวันนี้ค่ะ

ซึ่งหากใครได้เคยอ่านรีวิวเฟส 1 ของโครงการ THE MARQ Exquisite ก็คงสะดุดตากับตัวบ้านทรง C- Shape ที่มีช่องแสงกว้างๆ มี Courtyard กลางบ้าน เพื่อให้ทุกมุมและทุกชั้นของบ้านได้ใกล้ชิดกับสวน เอาใจ Young Successor ที่ไม่ได้อินกับบ้านหน้าตาคลาสสิคแบบเดิมๆ แต่กลับชอบความโมเดิร์นทันสมัย มีเอกลักษณ์เน้นความเรียบหรู ดูทันสมัย  คลุมโทนด้วยวัสดุสีขาวและน้ำตาลธรรมชาติที่ดูสบายตา มีพื้นที่สีเขียวรอบตัวบ้านเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ทั้งสนามหญ้าและสวนส่วนตัวในชั้น 2 ของตัวบ้าน ออกแบบบ้านในลักษณะ C-Shape ทำให้เกิดความโปร่งโล่งของพื้นที่ ได้การไหลเวียนของอากาศ ทิศทางแสงแดดและสายลมในแต่ละช่วงเวลาตลอดวัน

ซึ่งโครงการยังคงรักษาดีไซน์+แนวคิดหลักๆ แบบเดิมไว้ในบ้านเฟส 2 แต่จะมีการปรับการใช้ประโยชน์พื้นที่ชั้นล่าง ให้สามารถตอบโจทย์ฟังก์ชันพิเศษๆ เช่น การจัดปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ, จอดรถได้สูงสุด 6 คันหรือทำโรงรถให้มีหลังคากันแดดกันฝน มีพื้นที่ซ่อมจักรยานหรือทำงานช่างได้ หรือสามารถจัดพื้นที่ชั้นล่างให้เป็นพื้นที่คุยงานของคุณพ่อโดยไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของสมาชิกคนอื่นๆ เพราะว่ามี Family Area พร้อมโต๊ะทานอาหารและครัวอยู่บนชั้น 2 อย่างครบครัน

แต่คงไม่มีอะไรที่ Perfect ไปได้ทั้งหมด เพราะฟังก์ชันพิเศษๆ นอกบ้านที่เพิ่มเข้ามานั้นทำให้พื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านลดลงจากเดิมของ Type M ขนาด 600 ตร.ม. ก็จะเหลือ 540 ตร.ม.* ในบ้าน Type A ค่ะ ก็ต้องลองพิจารณากันว่า Lifestyle และกิจกรรมของผู้อยู่อาศัยนั้นเข้ากับตัวบ้านที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้หรือไม่ ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกไอดิน ที่มีชื่อเสียงและการันตีด้วยผลงานที่เราคุ้นเคยกันอย่าง Tara Villa ที่กาญจนบุรี, Dusit D2 หัวหิน เป็นต้น

อีกจุดหนึ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจก็คือ การเก็บดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ทั้งในเรื่องของการออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันต่างๆ ให้เหมาะกับครอบครัวที่มีหลากหลายช่วงวัย และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้อยู่อาศัยได้สะดวกสบายขึ้น เช่น

  • บ้านทุกหลังติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านเพื่อความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย
  • Home Automation ใช้ระบบการสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านด้วยเสียง นวัตกรรมเทคโนโลยีไร้สัมผัส (Touchless Society)
  • Smart Mailbox สามารถรับพัสดุได้ผ่านมือถือ
  • Smart Kitchen จากพานาโซนิค
  • Smart Mirror กระจกอัจฉริยะใน Master Bathroom ใช้สำหรับฟังเพลง ดูหนังและแจ้งเตือนกิจวัตรประจำวัน
  • ระบบความปลอดภัยมาตรฐานตลอด 24 ชั่วโมง และนวัตกรรม Visitor GPS access control
  • สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
  • Digital Door Lock สั่งงานผ่าน Mobile Application พร้อมระบบ Finger Scan และกด Password
  • ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke Detector ในห้องครัว
  • ระบบ NanoeX ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสและลดกลิ่น
  • เทคโนโลยี ERV (Energy Recovery Ventilator) ช่วยกรองอากาศ
  • การออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอย ด้วยแนวคิดการจัดบ้านในสไตล์ “KonMari” ผ่านตัวแทนที่ปรึกษาการจัดบ้านระดับ Master ตาม Concept ที่ว่า “บ้านที่ถูกคิดและออกแบบไว้แล้วเพื่อเป็นบ้านที่ไม่มีวันรก” ค่ะ 

การออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมีการพัฒนาแบบร่วมกับตัวแทนที่ปรึกษา KonMari ระดับ Master ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของนักจัดระเบียบบ้านชื่อดังอย่าง คนโด มาริเอะ (Marie Kondo) ด้วยแนวคิดการจัดบ้านในสไตล์ “KonMari” ที่เน้นการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้านทุกห้องทุกพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์การใช้งานสูงสุด เพื่อให้บ้านที่ถูกคิดและออกแบบไว้แล้วเพื่อเป็นบ้านที่ไม่มีวันรกในทุกพื้นที่ ส่วนที่เราสังเกตได้อย่างนึงคือ ในแต่ละห้องจะมีพื้นที่ที่เว้นช่องไว้ให้ Built-in ตู้เก็บของตามมุมต่างๆ ที่เรามักจะต้องวางของกันเช่น บริเวณหน้าบ้าน หน้าห้องน้ำ ในห้องครัว เป็นต้น ซึ่งทางโครงการก็มี Promotion พิเศษให้ลูกบ้านไปเรียนการจัดระเบียบบ้านกับตัวแทนที่ปรึกษา KonMari ระดับ Master ฟรีด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตามโครงการขายในรูปแบบบ้านเปล่า ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ต้องมาซื้อเพิ่มเองนะคะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุหลักๆ

  • โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่ออิฐมอญแดง รองรับการทุบเชื่อมต่อเติมได้
  • ลงเสาเข็มทั้งโรงจอดรถและพื้นที่ข้างบ้านเพื่อรองรับโครงสร้างสระว่ายน้ำขนาด 4×8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • พื้นที่จอดรถเป็นทรายล้าง
  • พื้นชั้นล่างกระเบื้องแกรนิตโต้
  • ชั้นบนพื้นไม้สัก
  • ผนังฉาบเรียบทาสีตามมาตรฐานโครงการ
  • บันไดไม้สัก ทำสีธรรมชาติ
  • ประตูหน้าบ้านไม้สัก
  • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำของ TOTO, Mogen และ Cristina


 ชั้น 1 

เริ่มจากทางด้านหน้าบ้าน สามารถจอดรถได้ 6 คัน เป็นที่จัดแบบในร่มทั้งหมด แต่จะมีเพียงบางแปลงที่ขนาดที่ดินจะไม่ใหญ่เท่ากับแปลงอื่นๆ จึงจอดรถได้ 4 คันนะคะ ขยับเข้ามายังพื้นที่ภายในอาคาร การใช้งานหลักๆ จะแบ่งเป็น 2 โซน โดยโซนแรกเป็น Common Area ที่สามารถจัดฟังก์ชันเป็นห้องนั่งเล่น-รับแขกวิวสระ/สวน วางตำแหน่งไว้ติดกับห้องนอน ซึ่งหากครอบครัวไหนไม่ได้ต้องการห้องนอนที่ชั้นล่าง ก็สามารถทุบเชื่อมห้องให้ Common Area กว้างขึ้นได้เหมาะกับการจัดปาร์ตี้ และหากบ้านใครต่อเติมสระว่ายน้ำเพิ่มก็จะได้บรรยากาศของปาร์ตี้ริมสระ เฮฮากันอยู่บนชั้นล่างได้โดยไม่รบกวนสมาชิกคนอื่นๆ ที่สามารถพักผ่อนกันบนชั้น 2 และ 3

อีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็น Back of house และ ส่วน Maid ของบ้าน แยกโซนการใช้งานไม่ให้ไปรบกวนพื้นที่ใช้งานของเจ้าของบ้าน อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อดีคือ บ้านหลังนี้จะมีลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบน ทำให้เราสามารถจัดห้องผู้สูงอายุไว้ที่ชั้น 2,3 ได้ จึงสามารถใช้งานชั้นล่างไปกับการรับแขก, การปาร์ตี้ได้เต็มที่ และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่เราว่าเค้าออกแบบได้ดีคือ เรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะเป็นอาคารรูป C-Shape หากมองจากหน้าบ้านหรือบ้านข้างๆ จะไม่เห็นพื้นที่ด้านในบ้าน ทำให้สมาชิกในบ้านพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ประตูทางเข้า-ออกบ้านพักอาศัยจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยจอดรถได้ฝั่งละ 3 คัน รวมเป็น 6 คันใช้วิธีการเปิด-ปิดด้วยระบบ Remote Control เพื่อเปิดประตูแบบเลื่อนไฟฟ้า

มีประตูเล็กทางด้านข้างสำหรับเดินเข้าแยกการใช้งานไว้ให้ ซึ่งโครงการจะมีการปรับแบบประตูให้เป็นซี่ๆ ที่ดูโปร่งกว่านี้ด้วยนะคะ

เทคโนโลยีหนึ่งที่เรามักจะเห็นตามคอนโด แต่ไม่ค่อยได้เห็นจากหมู่บ้านอื่นๆ เลย ก็คือเจ้า Smart Mailbox เป็นตู้รับพัสดุแยกไว้ให้แต่ละบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถสั่งเปิด-ปิดตู้ผ่านทาง Application บนมือถือได้ จึงรับพัสดุได้แม้ว่าจะไม่อยู่บ้านค่ะ

พื้นที่จอดรถจะเป็นที่จอดแบบในร่มทั้ง 2 ฝั่ง แต่ละฝั่งมีขนาดประมาณ 8 x 6 m. สามารถจอดรถไซส์ใหญ่ได้แบบสบายๆ

ที่จอดรถอีกฝั่งหนึ่งในบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมให้เป็นห้องกระจก จะเอาไว้จอดรถสุดที่รัก คันที่อยากประคบประหงมหน่อยก็ได้ หรือจะเอาไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำงานช่าง ซ่อมจักรยาน ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

ที่เราสังเกตคือ พื้นที่ส่วนหนึ่งของที่จอดรถจะเป็นตำแหน่งที่ได้วิวสระ/สวน ด้วยนะคะ ถ้าจัดเป็นมุมทำงานอดิเรกของคุณพ่อ หรือเป็นมุมออกกำลังกายส่วนตัวก็จะได้บรรยากาศที่ดีทีเดียว

บริเวณประตูทางเข้าบ้านจะมีพื้นที่ที่ผู้ออกแบบเว้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับ Built-in ตู้เก็บของใช้ต่างๆ ได้

ซึ่งการจัดพื้นที่ภายในตู้นั้น ทางโครงการได้แนวคิดมาจากการจัดบ้านในสไตล์ KonMari เน้นการเก็บของที่เป็นระเบียบตามชนิดและประเภท เป็นการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ก่อนจะเข้าไปชมในตัวบ้านเรามีส่วนที่อยากให้สังเกตคือ โครงการจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ให้รอบบ้านด้วยทั้งหมด 4 ตัว

ประตูเป็นบานไม้สักขนาดใหญ่ และติดตั้งอุปกรณ์ล็อคของ Artani ที่สามารถสั่งงานผ่านระบบ Mobile Application สั่งเปิด-ปิดประตูได้ พร้อมระบบ Finger Scan และกด Password ให้เลือกใช้งาน

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับ Foyer หรือโถงด้านหน้าก่อนเป็นลำดับแรก ไว้ให้จัดฟังก์ชันสำหรับทำตู้เก็บรองเท้า และนั่งถอด-ใส่รองเท้าได้สะดวก ติดกันมีลิฟต์โดยสารเพื่อขึ้นไปชั้นบนได้ตั้งแต่โซนหน้าบ้าน จึงไม่ต้องเดินเข้าไปผ่านโซนนั่งเล่น-รับแขก เผื่อคุณพ่อรับแขกอยู่ก็จะได้ไม่รบกวนกันค่ะ

บ้านตัวอย่างจะ Built-in ตู้เก็บรองเท้าไว้ให้ดูเป็นไอเดีย สำหรับเก็บรองเท้า หยิบใช้งานได้สะดวกก่อนออกหรือเข้ามาในบ้าน เป็นอีกหนึ่งแนวคิด KonMari ที่จัดไว้ในบ้าน

ถัดมาจะเป็นลิฟต์โดยสารภายในตัวบ้านที่เชื่อมขึ้นไปที่ชั้น 2 และ 3 ของตัวบ้านได้ ตอบโจทย์ผู้สูงอายุที่เดินขึ้นบันไดไม่สะดวกหรือต้องนั่งรถเข็นก็สามารถใช้ลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนได้สะดวก หรือเผื่อวันไหนหิ้วของหรือถือสัมภาระหนักๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเดินขึ้นบันได ซึ่งรองรับการใช้งานได้ 5-7 คน/ครั้ง เลยนะคะ

ถัดเข้ามาด้านในจะเจอกับ Common Area สำหรับนั่งเล่น-รับแขก สามารถวางชุดโซฟาชุดใหญ่ และสามารถมองเห็นวิวสระ/สวนทางด้านข้างของตัวบ้านได้แบบมุมกว้าง และหากบ้านไหนมีการต่อเติมสระว่ายน้ำเพิ่มเข้ามา ก็สามารถจัดเป็นปาร์ตี้ริมสระได้เลย จะพูดว่าบ้านนี้ตอบโจทย์สายปาร์ตี้ก็ไม่ติดขัดอะไรนะคะ / พื้นชั้นนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.8 m. ภายในบ้านจึงได้ความโปร่งโล่ง

บริเวณ Common Area จะมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้าง ใช้เชื่อมต่อไปยังสระและสวนข้างบ้านได้เต็มที่

กรอบประตูและหน้าต่างของโครงการนี้จะใช้กรอบอลูมิเนียมยี่ห้อ YKK คุณภาพสูงของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญในการเลือกซื้อบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีการใช้ประตูหน้าต่างบานใหญ่จำนวนมากนะคะ

ติดกับ Common Area จะเป็นห้องนอนที่ชั้น 1 แต่ทางบ้านตัวอย่างทุบผนังออกและเชื่อมต่อให้เป็น Lounge โดยพื้นที่บริเวณนี้กว้างประมาณ 3.7 x 3.8 เมตร สามารถจัดเป็นห้องนอนในชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกขึ้นไปด้านบน หรือทะลุเชื่อมเป็น Common Area ใหญ่ๆ ก็ใช้จัดปาร์ตี้ได้เต็มรูปแบบมากขึ้น

ถ้าตามแบบบ้าน Standard แล้ว เราจะได้เป็นห้องนอนที่มีผนังปิดทึบแบบในรูปล่าง ซึ่งหากไม่ต้องการห้องนอนก็สามารถแจ้งโครงการล่วงหน้าก่อนได้ ดูจากตำแหน่งของห้องแล้วจะใช้เป็นห้องนอนแขกก็เหมาะนะคะ เพราะมีประตูเชื่อมต่อไปที่ห้องน้ำในชั้นล่างได้สะดวก

พื้นที่ด้านข้างของตัวบ้านจะลงเสาเข็มไว้ลึกเท่าตัวบ้านเลย รองรับการต่อเติมสระว่ายน้ำขนาด 4×8 เมตร ลึก 1.2 เมตร  แต่ตอนส่งมอบจะเป็นการลงดิน ปูหญ้ามาเลย์ให้ค่ะ

จุดที่เราคิดว่าเค้าออกแบบมาได้ดีเลยคือ เรื่องความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ข้างบ้าน เพราะหากมองจากหน้าบ้าน-ข้างบ้านจะไม่เห็นสวนและสระด้านใน

เรามองว่าบ้านเดี่ยวในโซนนี้ก็มีที่ดินเยอะแบบ 100 ตร.วา ​ขึ้นไปตามกฎหมายอยู่แล้วแหละ จะสร้างสระว่ายน้ำเพิ่มก็คงมีพื้นที่เพียงพอ แต่โครงการนี้ก็โดดเด่นที่ลงเสาเข็มมาให้พร้อม รองรับการต่อเติมสระว่ายน้ำแบบที่ Blend เข้ากับตัวบ้าน มีโซนสระที่เป็นแบบ Semi-Outdoor ให้ใช้งานได้ทั้งวัน

ในส่วนของสวนจะมีพื้นที่กว้างแค่ไหนคงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละแปลงบ้านนะคะ ซึ่งทางโครงการจะจัดสวนปลูกหญ้าและต้นไม้ใหญ่คือ ต้นกันเกราไว้ให้ 2 ต้น

กลับเข้ามาในตัวบ้าน… เราจะพาไปดูพื้นที่โซน Back of house ของบ้านกันต่อ เป็นทางเดินยาวที่แบ่งห้องย่อยๆ ไว้ตามทาง

สำหรับห้องน้ำในชั้นล่างมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ให้ฟังก์ชันมาครบใช้อาบน้ำได้ และให้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ มาครบตามบ้านตัวอย่าง

ภายในแยกโซนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วนดี พื้นจะลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนอื่นของบ้าน เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมา

ชุดโถสุขภัณฑ์เฉพาะห้องน้ำชั้น 1 และใน Master Bathroom ที่จะได้เป็นรุ่นอัตโนมัติของ TOTO เพื่อเป็นหน้าเป็นตาใช้รับแขกได้ดี พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดติดไว้ที่ผนังด้านหลังในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวก

อ่างล้างหน้าได้ของ Mogen ด้านล่างมีตู้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ ได้เล็กน้อย

พื้นที่อาบน้ำได้มาเป็น Shower Box มีประตูกระจกกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้ให้เป็นสัดส่วน ภายในมีขนาดประมาณ 1.25 x 0.84 m.

ถัดมาที่ห้องเก็บของ ซึ่งทางผู้ออกแบบตั้งใจให้มีพื้นที่สำหรับทำชั้นวางของเป็นตัว L เพื่อให้ลูกบ้านนำไปตกแต่งเพิ่มเติมตามหลักการของ KonMari ได้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง เพราะจะทำให้หยิบของทุกอย่างได้สะดวก ซึ่งระยะของชั้นวางของก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดของสิ่งของที่จะเก็บ มีการจัดหมวดหมู่ ติดฉลาก (Label) ไว้ให้ชัดเจน

ด้านในสุดเป็นห้องซักรีดรูปตัว L ซึ่งทางโครงการวางตำแหน่งสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าเอาไว้ให้แล้ว และด้านในสุดจะเหลือพื้นที่สำหรับรีดผ้าไป ชมวิวไปได้ไม่อึดอัด

บริเวณรอบๆ เครื่องซักผ้าก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ Built-in ตู้สำหรับเก็บของต่างๆ ได้อีกพอสมควร

ออกมาทางด้านข้างและด้านหลังของตัวบ้านจะมีแนวทางเดินเชื่อมไปห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้าน ทำให้แม่บ้านสามารถมาทำงานยังส่วนของ Back of house ได้สะดวก โดยไม่ต้องไปรบกวนพื้นที่พักอาศัยของเจ้าของบ้าน

จบชั้น 1 แล้วต่อไปเราจะพาขึ้นบันไดไปชมชั้น 2 กันนะคะ โดยตัวโครงสร้างของบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้สักทั้งหมด และมีราวจับให้ตลอดแนวทางของบันไดไปจนถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน

บันไดเป็นรูปตัว U มีชานพักขนาดกว้างพอสมควร ทำให้เวลาเดินขึ้น-ลง มีจุดพักจึงค่อนข้างปลอดภัยในการใช้งาน

ส่วนที่เราชอบของโซนบันไดนี้ก็คือ เจ้าช่องแสงที่ทำออกมาเป็นบานเล็กอยู่ด้านบน ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ได้ช่วยให้พื้นที่สว่างเท่าช่องแสงบานใหญ่ แต่มันช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยไม่ให้เพื่อนข้างบ้านมองเข้ามาเห็นได้มากนัก เพราะบริเวณนี้มักจะติดกับสวนของข้างบ้านพอดี

มองตามบันไดไปที่ชั้น 2 จะเห็นของตกแต่งบนผนังช่วยนำสายตาได้พอดี เป็นอีกโซนที่น่าจัดตกแต่งให้สวยงามค่ะ


ชั้น 2

จุดเด่นของตัวบ้านจะเห็นได้ชัดเจนบนชั้น 2 นี้นะคะ ว่าเป็นบ้านทรง C-Shape ล้อมคอร์ท กลายเป็นพื้นที่สีเขียวกลางบ้าน และผนังรอบคอร์ทก็เป็นผนังกระจกทั้งหมด จึงเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนได้เต็มที่ เป็นข้อดีที่ทำให้ทุกห้องในบ้านดูโปร่งโล่ง มีวิวสวยๆ ให้ชมอยู่ตลอด อีกทั้งการออกแบบยังให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ด้วยการวางบ้านแบบ Repeat ต่อเนื่องกันไปทำให้สวนของแต่ละบ้านจะหันไปเจอกับผนังทึบของบ้านข้างๆ

พูดถึงในเรื่องฟังก์ชันบนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่พักผ่อนหลักๆ ของครอบครัว ทั้งห้องนั่งเล่นที่เป็นโซน Family Area แบบ Double Volume ที่ได้ความโปร่งโล่ง กับส่วนรับประทานอาหาร และครัวเปิดในบ้าน ทำให้สามารถใช้งานร่วมกันได้แบบต่อเนื่อง ในชั้นนี้ยังมีครัวไทยซึ่งเป็นครัวปิดแยกไว้ให้ใช้งานสามารถทำครัวจริงจังได้เลย และยังมีห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวอยู่ในชั้นนี้อีก 1 ห้อง ให้ปรับใช้ตามความต้องการได้เลย และยังมี Highlight เป็นระเบียงกว้างๆ ที่สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ ให้นั่งเล่นบนระเบียงได้แบบแท้จริง พร้อมทางเดินแบบ Outdoor ที่เชื่อมไปยังห้องนอนได้ด้วย จะเป็นอย่างไรไปชมบรรยากาศกันเลยค่ะ

พื้นที่บนชั้น 2 จะเป็นพื้นไม้สักทั้งหมด มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 เมตร โซนแรกที่อยู่ติดกับบันไดคือห้องครัวไทยที่สามารถทำครัวได้แบบจริงจัง ติดกันเป็นห้องน้ำส่วนกลาง และห้องนอน 2 ซึ่งเป็นห้องนอนเดียวบนชั้นนี้

ครัวบนชั้น 2 ครัวนี้จะเป็นครัวปิดขนาดใหญ่ มีประตูกั้นแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน ป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร ที่อาจจะไปรบกวนพื้นที่ในบ้านได้ สามารถทำครัวไทยประกอบอาหารจริงจังได้เลย ซึ่งบ้าน Standard ทางโครงการจะไม่ได้มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้นะคะ แต่เราสามารถดูไอเดียการวาง Layout และฟังก์ชันตามแนวทางของ KonMari ได้ค่ะ

ถึงแม้ว่าชุดเตาและที่ดูดควันจะต้องติดตั้งเอง แต่ทางโครงการวางระบบท่อส่งแก๊สขึ้นมารอไว้ให้ ข้อดีของระบบที่นี่คือ เราสามารถวางถังแก๊สไว้ในห้องเก็บถังแก๊สบริเวณโซนแม่บ้านที่ชั้น 1 ได้ จึงไม่ต้องให้คนส่งแก๊สเข้ามาในตัวบ้านเลยค่ะ

ติดกับส่วนครัวจะเป็นห้องน้ำในชั้น 2 เป็นห้องน้ำส่วนกลางในชั้นนี้ จะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้า เพราะสมาชิกแต่ละคนสามารถอาบน้ำที่ห้องนอนของตัวเองได้อยู่แล้ว / ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งทำให้ภายในห้องได้แสงภายนอกและ สามารถเปิดระบายอากาศ+ความชื้นได้ดี

สำหรับห้องนอนบนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนที่มีห้องอเนกประสงค์อยู่ภายในอีก 1 ห้องและมีห้องน้ำในตัวด้วย โดยบ้าน Standard จะมีผนังกั้นมาให้ตามแบบในรูปล่าง เราจึงเลือกได้ว่าจะใช้ส่วนหนึ่งของห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์หรือจะทะลุเชื่อมให้กลายเป็นห้องนอนใหญ่ๆ เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยก็ได้

จุดเด่นของพื้นที่อเนกประสงค์ในห้องนี้ก็คือ ได้ตำแหน่งที่อยู่ติดสวนพอดี จึงได้ความร่มรื่นและหากจัดไม้คลุมดินให้สวยๆ ก็จะเป็นอาหารตาให้กับมุมพักผ่อนนี้ด้วยค่ะ

อีกประเด็นหนึ่งคือ เราสามารถเปิดประตูบานเลื่อนเพื่อเข้าถึงสวนได้ง่ายๆ เลย สมาชิกคนไหนอยู่สายรักธรรมชาติคงจะถูกใจห้องนี้ไม่เบาเลย

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นโซนแต่งตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ทำให้ใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก

บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องนี้ไว้ให้เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีนะคะเพราะอยู่ชั้นเดียวกับ Family Area ทำให้เราช่วยสอดส่องดูแลคุณปู่คุณย่าได้สะดวกขึ้น / ขอนอกเรื่องนิดนึงพอดีหันไปเห็นไอเดียราวจับตามทางเดิน ซึ่งเราว่าดูสวยและได้ฟังก์ชัน เผื่อเป็นไอเดียในการทำห้องให้ผู้สูงอายุนะคะ

โซนแต่งตัวมีพื้นที่เพียงพอสำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง แต่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น

พื้นที่ภายใน Shower Box มีขนาดประมาณ 1.45 x 0.8 m.

ด้านในสุดของห้องเป็นตำแหน่งสำหรับวางเตียง ซึ่งสามารถวางเตียง King Size ได้ แถมยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือทั้ง 2 ฝั่ง และเหลือพื้นที่ปลายเตียงสำหรับวางชุดโซฟาได้แบบสบายๆ ส่วนที่เรามองว่าเป็น Highlight ของห้องนี้คือบานหน้าต่างขนาดใหญ่ตลอดแนวผนัง ซึ่งสามารถเลื่อนเปิดรับลมได้ โดยจะได้วิวของพื้นที่ Court ที่จัดเป็นพื้นที่สวนส่วนตัวตรงกลางตัวบ้านค่ะ

จากห้องนอนก็ยังมีประตูให้สามารถเดินเชื่อมมายังระเบียงที่อยู่ติดกับ Family Area ได้ แต่ส่วนนี้จะเป็นทางเดิน Outdoor เหมาะกับการใช้งานในวันท้องฟ้าแจ่มใส ถ้าเป็นผู้สูงอายุก็สามารถใช้เป็นเส้นทางเดินเล่น ยืดเส้นยืดสายได้

กลับเข้ามาภายในตัวบ้าน… เราจะพาไปชมพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งบนชั้น 2 ที่จะเป็น Family Area ขนาดใหญ่ค่ะ

ติดกับบันไดจะเป็นตำแหน่งของลิฟต์ ซึ่งบ้าน Standard จะให้หน้าตาของวัสดุตามรูปล่างนะคะ

บริเวณด้านหน้าลิฟต์และบันไดจะเป็นแนวกระจกขนาดใหญ่สูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดานได้วิวจากพื้นที่ Court ที่จัดเป็นพื้นที่สวนแบบมุมกว้าง ได้แสงธรรมชาติสามารถเลื่อนเปิดรับลมและระบายอากาศได้เต็มที่

ถัดมาจะเป็น Pantry ครัวที่เชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหาร พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

ตาม Standard ของโครงการจะไม่ได้มีชุดครัวมาให้นะคะ แต่ในบ้านตัวอย่างจะมีการติดตั้งชุดครัวของ Panasonic พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งชุดครัวนี้ใช้หลักการในการจัดบ้านตามแนว KonMari  / โซนครัวจะมีทั้งชุดครัวแบบเข้ามุมและที่เป็น Island ตรงกลางสามารถนั่งใช้งานแบบเคาน์เตอร์ได้

Island ตรงกลางจะมีชุดเตาแม่หล็กไฟฟ้าแบบ Induction ของ Smeg พร้อมอุปกรณ์ดูดควันของ Mex ที่สามารถใช้งานขึ้น-ลงเก็บกับระนาบของโต๊ะได้ ส่วน Top เคาน์เตอร์จะเป็นหินควอตซ์ นอกจากมีลวดลายที่สวยแล้วยังมีคุณสมบัติที่ทนทาน ทนความร้อน กรด และด่างได้ดีอีกด้วย

โครงการดีไซน์เคาน์เตอร์ฝั่งที่นั่งให้มีพื้นที่ว่างสำหรับสอดเก้าอี้เข้าไปเก็บได้ เป็นดีเทลที่ทำให้บ้านดูเรียบร้อยดีค่ะ

ชุดครัว Built-in จะเป็นชุดครัว Smart Kitchen จาก Panasonic เทคโนโลยีต้นแบบแนวความคิดแบบญี่ปุ่น (JAPAN SOLUTION) ที่ถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ สามารถพับเก็บให้ดูเรียบร้อย ไม่รก รูปลักษณ์สวยงาม เช่น ที่วางของ ที่แขวนผ้าเช็ดมือ ถาดสำหรับตั้งอุปกรณ์เครื่องปรุงต่างๆ เป็นต้น

แนวคิดและวิธีการเก็บของตามขนาดของอุปกรณ์เครื่องใช้ก็จะตรงกับแนวคิดของ KonMari ที่โครงการนำมาใช้ในการจัดพื้นที่เก็บของต่างๆในบ้านเช่นกัน

อีกฝั่งของชุดครัวจะติดตั้งชุดเตาอบ, ไมโครเวฟ ของ Smeg ทางด้านข้างเป็นตู้เย็นที่ติดไว้ในชุด Built-in ของ Smeg ซึ่งการซ่อนตู้เย็นไว้ลักษณะนี้ทำให้ภาพรวมภายในครัวดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น

ส่วน Top เคาน์เตอร์ และผนังครัวเป็น หินควอตซ์  อ่างล้างจานของ Mex ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ส่วนชุดครัวด้านล่างทำเป็นลิ้นชักให้เก็บของใช้แยกตามขนาด และช่องบานเปิดให้เก็บของชิ้นใหญ่ได้ พร้อมถังขยะที่เวลาเปิดบานตู้ ฝาถังจะเปิดออกให้เองด้วยค่ะ

มาที่ส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งเอาไว้ แต่ดูจากขนาดพื้นที่แล้วเราคิดว่าสามารถวางโต๊ะขนาด 8-10 ที่นั่งได้เลยนะคะ โดยพื้นที่บริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างทางด้านหน้าของตัวบ้านแบบเต็มที่

มาที่ห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ของตัวบ้าน หรือจะเรียกว่าเป็น Family Area ที่จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนในชั้น 2 ช่วยเพิ่มความสะดวกและความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน กรณีมีแขกมาบ้านใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้น 1 แล้ว เราก็ยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนให้ใช้ในบริเวณนี้ได้

ห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบ Double Volume 5.15 เมตร, มีหน้าต่างกระจกใสที่รับแสงธรรมชาติจากด้านข้างบ้าน และสามารถมองเห็นวิวของพื้นที่ Court ที่จัดเป็นพื้นที่สวนส่วนตัวแบบมุมกว้าง ที่น่าสนใจคือการติดกรอบกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานทำให้สามารถมองเห็นต้นไม้ในสวนได้แบบเต็มๆต้น จึงให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ชั้น 1 มากกว่าชั้น 2 ได้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกจุด Highlight ของบ้านก็ว่าได้

พื้นที่โซนนี้สามารถวางโซฟาชุดใหญ่แบบ 6 นั่ง++ ได้เลยนะคะ ส่วนที่อยากให้เพื่อนๆ สังเกตก็คือ ผนังกระจกด้านหลังทีวีซึ่งเป็นฝั่งหน้าบ้าน ทางโครงการก็ยังอยากรักษาความเป็นส่วนตัวไว้แต่ไม่ต้องการบรรยากาศที่ทึบตัน จึงทำระแนง Shading ทางด้านหน้าของตัวบ้านไว้ ช่วยพรางสายตาแต่ก็ยังได้แสงที่ผ่านเข้ามาบ้างค่ะ

จาก Family Area จะมีประตูกระจกบานใหญ่ให้เปิดออกไปนั่งเล่นต่อที่ระเบียงได้

ระเบียงบนชั้น 2 เป็นระเบียงกว้างๆ ที่สามารถวางชุดโซฟา Outdoor ขนาดใหญ่ได้ ส่วนที่เราชอบคือเค้าเลือกใช้ราวกันตกเป็นกระจกทั้งหมด จึงไม่มีอะไรบังสายตา

วิวที่เราจะได้เมื่ออยู่บนระเบียงชั้น 2 ก็คือ วิวสวนรอบบ้านและวิวสระว่ายน้ำที่ชั้นล่างนั่นเอง

มาดูในส่วนของคอร์ทกลางบ้านที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นสวนบนชั้น 2 ซึ่งเราสามารถปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ โดยบ้าน Standard จะเป็นพื้นปูนขัดมันลึกลงไป 40 cm. พร้อม Scupper drain เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้ภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนตามบ้านตัวอย่างโดยการเพิ่มระบบ Geo Textile หรือ ทำให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นบ้านสวนส่วนตัวชั้น 2

การออกแบบคอร์ทกลางบ้าน ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าต่างให้สามารถรับแสงธรรมชาติและเปิดให้วิวภายนอกได้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน ซึ่งทุกห้องบนชั้น 2,3 ของบ้านหลังนี้จะได้แสงและวิวมากกว่าแบบบ้านทั่วไปจริงๆ แต่การดูแลสวนให้สวยงามอยู่เสมอก็จะกลายมาเป็นอีกภารกิจหนึ่งมาควบคู่กันด้วยเช่นกัน


ชั้น 3

จัดเป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้นประกอบด้วย Master Bedroom และห้องนอนลูกๆ อีก 1 ห้อง ซึ่งทั้ง 2 ห้องเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่มีห้องน้ำให้ใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว อีก Gimmick หนึ่งที่เป็นฟังก์ชันน่ารักๆ ก็คือชั้นลอย ซึ่งเราดูแล้วคิดว่าเหมาะสำหรับการตั้งหิ้งพระ หรือเป็นมุมวางของตั้งโชว์ ของสะสมค่ะ

พื้นบนชั้น 3 จะเป็นพื้นไม้สักทั้งหมด มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร และส่วนแรกที่จะพาไปชมก็คือ ชั้นลอย ที่มีบันได้ให้เดินขึ้นมาอีก 6-7 ขั้น

พื้นที่ชั้นลอยด้านบนมีขนาดประมาณ 1.5 x 2.6 เมตร เราสามารถจัดเป็นมุมตั้งหิ้งพระของบ้านก็จะมีพื้นที่สำหรับนั่งกราบไหว้ นั่งทำสมาธิได้พอดี หรือจะใช้ประโยชน์อย่างอื่นก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามชั้นลอยจะเป็นตำแหน่งของห้องนอน 3 ซึ่งเป็นห้องนอนของเด็กๆ

ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ 2 เตียงแบบที่ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกด้วย และบรรยากาศก็ดูโปร่งโล่ง เพราะได้หน้าต่างไปฝั่งหนึ่งจึงสามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่

เด็กๆ สามารถชมวิวจากภายนอกได้ ซึ่งก็จะเป็นวิวยอดไม้ที่เราปลูกในคอร์ทกลางบ้านพอดี

พื้นที่ปลายเตียงยังเพียงพอสำหรับการวางโต๊ะให้เด็กๆ นั่งทำการบ้าน ดูการ์ตูน และเล่นซนกันตามจินตนาการ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นแนวทางเดินเข้าสู่ห้องน้ำ โดยเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มความยาวของ 2 ข้างทางเลยค่ะ แต่ตู้ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราดูไว้เป็นไอเดียหรือเลือกตกแต่งตามความเหมาะสมในการใช้งานค่ะ

ภายในห้องน้ำจะแยกโซนเปียกและโซนแห้งออกเป็นสัดส่วน ให้ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ มาครบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ ในบ้าน

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.2 x 0.98 เมตร ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ของ TOTO และมีการเจาะช่องสำหรับวางของใช้ในห้องน้ำไว้ให้เรียบร้อย

ฟังก์ชันหนึ่งที่ห้องน้ำอื่นๆ ไม่มีก็คือระเบียงสำหรับตากผ้า เพราะหากห้องนี้ใช้ดูแลเด็กเล็ก ก็มักจะมีผ้าอ้อม มีของใช้ต่างๆ ที่ต้องซักล้างมากกว่าปกติ ก็สามารถตากที่ระเบียงในห้องน้ำได้เลย / โดยระเบียงจุดนี้ของบ้าน Standard จะมี grill aluminium สูงพื้นถึงฝ้า ช่วยทั้งเรื่องกันตกและเพิ่มความสวยงานจากภายนอก แต่ยังสามารถให้ลม flow เข้ามาได้

สำหรับ Master Bedroom จะวางตำแหน่งห้องไว้ด้านในสุดของชั้น ซึ่งจะอยู่ติดกับลิฟต์พอดีค่ะ

เข้ามาด้านใน Master Bedroom จะเห็นว่าเค้าวางห้องน้ำและโซนแต่งตัวไว้ด้านหน้าก่อน ส่วนโซนพักผ่อนนอนหลับจริงๆ นั้น จะถูกผลักเข้าไปไว้ด้านใน เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดค่ะ

ข้อนึงที่อยากให้คำนึงเวลา Built-in โซนแต่งตัวก็คือ อย่าลืมเว้นช่องหน้าต่างบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งไว้ด้วยนะคะ ซึ่งช่องหน้าต่างนั้นจะตรงกับคอร์ทกลางบ้านพอดี จึงเป็นมุมที่เราจะได้เห็นยอดต้นไม้เขียวๆ ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นกับห้องค่ะ

ภายใน Master Bathroom มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้พร้อมกัน 1-2 คน

อย่างชุดอ่างล้างหน้าให้มาแบบ His & Her ของ TOTO มีพื้นที่ทางด้านข้างให้วางเครื่องใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้

ชุดโถสุขภัณฑ์จะได้รุ่นที่ดีกว่าห้องนอนอื่นๆ โดยเป็นแบบอัตโนมัติของ TOTO

ภายใน Shower Box ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang ของ TOTO มาให้ และผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ส่วนที่แตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ อีกอย่างก็คือ มีที่นั่งอาบมาให้ด้วยค่ะ

ถัดมาเป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวพร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำของ Cristina ที่กระจกปลายอ่างอาบน้ำ จะเป็น Smart Mirror ที่สามารถเปิดผ่านมือถือ ดูหนัง ฟังเพลง ในขณะที่เราอาบน้ำและใช้ห้องน้ำได้

อ่างอาบน้ำมีขนาด 1.7×0.67 เมตร เหมาะกับการใช้งานทีละคนนะคะ ><

เข้ามาที่โซนเตียงนอนกันบ้าง ดูจากพื้นที่แล้วเราสามารถวางเตียง King Size ได้สบายและเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ข้างเตียงเป็นผนังกระจกบานใหญ่ที่ทางโครงการตั้งใจให้ไว้ใช้รับแสงมากกว่าชมวิว จึงได้ออกแบบฉากบังสายตาเอาไว้ แต่เป็นฉากกั้นห่างๆ หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็แนะนำให้ติดม่านโปร่งค่ะ

ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้จัดเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีได้อีก ซึ่งหากเลือกใช้ทีวีจอใหญ่ๆ ก็สามารถนอนดูทีวีจากบนเตียงได้เลยนะคะ

หากไม่ได้ต้องการมุมนั่งเล่นในห้องนอน ก็สามารถจัดเป็นมุมทำงานได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ

อีกเทคโนโลยีหนึ่งที่โครงการติดตั้งมาให้ในห้องนอนทุกห้องก็คือ เทคโนโลยี ERV (Energy Recovery Ventilator) ช่วยกรองอากาศค่ะ

ติดกับมุมนั่งเล่นจะมีระเบียงขนาดกระทัดรัดอีกมุมหนึ่ง ซึ่งกั้นพื้นที่ไว้ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก จึงไม่ดูทึบตัน เหมาะจะใช้วางกระถางต้นไม้ปลอมให้ช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่นในห้อง หรือใช้วางจักรยานปั่นออกกำลังกาย เป็นต้นค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ ราคา ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565

  • Type M บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 600 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
    – Sold Out
  • Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 540 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4-6 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 34.9 ล้านบาท

Promotion

  • อ่างอาบน้ำ TOTO
  • ระบบ การเดินท่อน้ำยาป้องกันปลวก
  • ประตูรั้วรีโมท
  • Digital Door Lock
  • ระบบ Home Security
  • ระบบ Home Automation
  • Smart Mirror
  • ระบบ CCTV
  • ระบบ Nasket
  • ระบบกรองอากาศ Air Flow
  • ปั๊มน้ำ แท๊งค์น้ำ
  • ปูหญ้า + ต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น
  • คอร์สเรียนจัดระเบียบบ้าน Konmari
  • จอง 300,000 บาท
  • ทำสัญญา 1,200,000 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 172,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้ว
  • ผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ ตั้งอยู่บนถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เป็นทำเลทางเลือกของคนที่อยากจะได้โครงการใหม่ ใกล้ถนนราชพฤกษ์ ช่วงที่ใช้เข้าสาทรได้ง่าย เข้าถึงจุดเชื่อมต่อสู่ตัวเมืองได้หลายจุดทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า ซึ่งถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เองก็มีจุดเด่นในเรื่องการเดินทางเชื่อมต่อถนนหลักโดยรอบได้หลากหลาย จะไปขึ้นทางด่วน หรือไปใช้รถไฟฟ้าเชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ ใกล้กับโครงการก็มีตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารให้เลือกหลากหลายพอสมควร คาดว่าน่าจะเจริญรอยตามถนนราชพฤกษ์ไปในอนาคตค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ระบบรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ให้มาดีนะคะ ซุ้มประตูโครงการเข้า-ออกโดยใช้ระบบบันทึกป้ายทะเบียนรถยนต์ ติดตั้งกล้อง CCTV ที่ Main Gate  และมีระบบ Visitor GPS access control คอยติดตามรถผู้มาติดต่อที่เข้ามาในโครงการ ส่วนที่ตัวบ้านติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Motion Sensor และ Digital Door Lock มีระบบป้องกันอัคคีภัย, Smoke Detector ในห้องครัว และกล้องวงจรปิดรอบบ้าน 4 จุด แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ประตูทางเข้า-ออกเป็นไม้กั้นกระดกไม่ใช่ประตูบานเลื่อนค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการมีจำนวนไม่เยอะเพียง 52 ยูนิต วาง Clubhouseและสวนไว้เป็นโซนต้อนรับส่วนแรก และขยับโซนพักอาศัยเข้าไปไว้ด้านในให้ความเป็นส่วนตัวกับการอยู่อาศัย ส่วนจุดเด่นของโครงการเลยก็คือแบบบ้านทรงกล่อง C- Shape ที่มี Courtyard เป็นช่องแสงกว้างๆ กลางบ้าน เพื่อให้ทุกมุมและทุกชั้นของบ้านได้ใกล้ชิดกับสวน เอาใจ Young Successor ที่ไม่ได้อินกับบ้านหน้าตาคลาสสิคแบบเดิมๆ แต่กลับชอบความโมเดิร์นทันสมัย มีเอกลักษณ์เน้นความเรียบหรู ดูทันสมัย  คลุมโทนด้วยวัสดุสีขาวและน้ำตาลธรรมชาติที่ดูสบายตา มีพื้นที่สีเขียวรอบตัวบ้านเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ทั้งสนามหญ้าและสวนส่วนตัวในชั้น 2 ของตัวบ้าน ออกแบบบ้านในลักษณะ C-Shape ทำให้เกิดความโปร่งโล่งของพื้นที่ ได้การไหลเวียนของอากาศ ทิศทางแสงแดดและสายลมในแต่ละช่วงเวลาตลอดวัน

พูดถึงเรื่องฟังก์ชัน…  บ้านของที่นี่จะตอบโจทย์ฟังก์ชันพิเศษๆ เช่น การจัดปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ, จอดรถได้สูงสุด 6 คันหรือทำโรงรถให้มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน มีพื้นที่ซ่อมจักรยานหรือทำงานช่างได้ หรือสามารถจัดพื้นที่ชั้นล่างให้เป็นพื้นที่คุยงานของคุณพ่อโดยไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของสมาชิกคนอื่นๆ เพราะว่ามี Family Area พร้อมโต๊ะทานอาหารและครัวอยู่บนชั้น 2 อย่างครบครัน จะเรียกว่าเป็นบ้านที่เหมาะกับสายปาร์ตี้ก็ได้นะ

วัสดุ :

ภายในบ้านเน้นเลือกใช้ของที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วน พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้น 2 และ 3 เป็นพื้นไม้สัก ห้องน้ำพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ส่วนครัวปูกระเบื้องเหมาะกับการใช้งาน / ส่วนห้องน้ำให้อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้นรูปแบบที่เรียบหรูใช้งานสะดวก ของ TOTO, Mogen, Cristina / ส่วนประตูเลื่อนหน้าบ้านเป็นระบบ Remote Control มีลิฟต์โดยสารมาให้ทุกหลัง นอกจากนี้จะมีเทคโนโลยีในตัวบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ตู้ Smart Mailbox สำหรับรับพัสดุของแต่ละบ้าน,  Smart Mirror, เครื่องกรองอากาศระบบ ERV และ Digital Door Lock เพิ่มเติมด้วยค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ภายในโครงการจัดพื้นที่สีเขียวเป็นพื้นที่สวนสาธารณะขนาด 388 ตร.วา พร้อมของเล่นเด็กและ Pavilion และสวนในโครงการมีขนาด 82.58 ตร.วาอีกหนึ่งจุดให้มาใช้งานได้ โดยรอบทำเป็นสนามหญ้า ที่นั่งและมีแนวทางเดินใช้เดินเล่นออกกำลังกายได้ ในส่วนของถนนหลักกว้าง 12 เมตร ถนนซอยกว้าง 9 เมตร ใช้งานได้สะดวก และเดินสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งโครงการ บรรยากาศโดยรวมในโครงการจึงถือว่าจัดออกมาได้ดี

สาธารณูปโภค :

Facilities ของโครงการจะอยู่ทางด้านหน้าเป็นอาคาร Clubhouse 3 ชั้น ภายในประกอบด้วยพื้นที่ใช้งานที่หลากหลายเหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่มีหลายช่วงวัย สามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของโครงการร่วมกันได้ แต่เนื่องจาก Clubhouse กำลังก่อสร้างอยู่เราจึงไม่เห็นบรรยากาศจริงๆ นะคะ

Judgement

สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการระดับ Luxury – Super Luxury เราจึงขอไม่ให้คะแนนนะคะ เพราะ การตัดสินใจซื้อโครงการระดับนี้จะมีเหตุผลที่นอกเหนือจากความคุ้มค่าทางด้านฟังก์ชัน อย่างเช่นความชื่นชอบในเรื่องดีไซน์ ความสวยงาม ซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ

THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์  เหมาะกับใคร

THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้านเดี่ยวบนทำเลใกล้ถนนราชพฤกษ์ เดินทางเข้า-ออกเมืองง่าย ไปใช้ทางด่วนหรือรถไฟฟ้าสะดวก ชอบบ้านสไตล์ Modern ที่สามารถจัดสวนกลางบ้านได้ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ จอดรถได้ 4-6 คัน รองรับการต่อเติมสระว่ายน้ำ ในความรู้สึกเราคือเหมาะกับครอบครัวสายปาร์ตี้มากๆ ในราคาเริ่มต้น 34.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 244,000 บาท/เดือน ยังไม่รวมงบที่ต้องใช้ในการตกแต่งภายในนะคะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc