รีวิวโครงการ

คิดเรื่องอยู่ Ep.643 : ปริญญ์ เพชรเกษม 69

20 สิงหาคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

ปริญญ์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่บนพื้นที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไป บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ซึ่งตอนนี้เฟสแรก 13 ยูนิตสร้างเสร็จพร้อมอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นเฟสที่เราจะพาไปรีวิวกัน ภายในโครงการจะมีจุดเด่นอะไรน่าสนใจกันบ้าง เราไปชมกันค่ะ

  • พื้นที่สีเขียวและความร่มรื่น เป็นเอกลักษณ์ของทางปริญสิริ ที่มีแนวคิดในการทำที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่สีเขียวเพียงพอ ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางที่แบ่งเป็น 2 โซน พื้นที่รวมกว่า 4 ไร่ รวมไปถึงการออกแบบบ้านที่ได้ช่องแสงกว้างเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนส่วนตัวในแต่ละหลังค่ะ
  • ที่ดินขนาดใหญ่ จอดรถได้ 3 คันขึ้นไป แบบบ้านทั้งหมดภายในโครงการนี้จะเป็นแบบบ้านบนที่ดินขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไปทุกยูนิตเลยค่ะ ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการอื่นในทำเลใกล้กันถือว่าโครงการนี้มีที่ดินเริ่มต้นมาให้เยอะทีเดียว
  • บ้านทุกแบบมีห้องนอนชั้นล่าง รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ เป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่กันหลาย Generation และยังมีพื้นที่ส่วนตัวเชื่อมต่อกับสวนอีกด้วย

โครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 เหมาะกับคนที่เป็นเจ้าของกิจการทั้งเล็กใหญ่ในทำเลย่าน เพชรเกษม, เอกชัย, บางบอน หรือเป็นครอบครัวขยาย มีสมาชิกในบ้านหลายคน เนื่องจากเป็นบ้านขนาดใหญ่ ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9.99 – 14.90 ล้านบาท

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 12 August 2020

  • PRINN Petchkasem69 (ปริญญ์ เพชรเกษม69)
  • บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่:ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม.
  • เนื้อที่โครงการ 50-0-73.4 ไร่ จำนวน 128 ยูนิต (เฟสแรก 13 ยูนิต)
  • ธาร ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 273 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.99 ล้านบาท
  • ธารา ที่ดินเริ่มต้น 104 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 12.90 – 17.90 ล้านบาท
  • ภูรี ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 14.90 – 20 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.90 เมตร / ชั้น 2 – 3.00 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : สิงหาคม พ.ศ. 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : n/a (เฟสแรกสร้างเสร็จ 2562)
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1753

ทำเลที่ตั้ง

ที่ตั้งโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ เข้ามาจากซอยเพชรเกษม 69 ประมาณ 600 เมตร และจากถนนเพชรเกษม 2.9 กิโลเมตร เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโครงการบ้านพักอาศัยแนวราบค่อนข้างเยอะทีเดียว เรามาดูประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับทำเลนี้กันค่ะ

  • ทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่ค่อนข้างเยอะ ถ้าออกจากถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้มามายังซอย เพชรเกษม 69 เองก็มีร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, ปั๊มน้ำมัน, ตลาดนัด กระจายตัวอยู่ รวมถึงมี Community Mall เดอะทรีบางบอน หรือติดถนนใหญ่อย่าง Victoria Gardens นอกจากนั้นภายในซอย เพชรเกษม 69 ยังมีโรงเรียนอยู่หลายแห่งอีกด้วย
  • เนื่องจากซอย เพชรเกษม 69 เป็นซอยที่มีการจราจรที่หนาแน่นทีเดียว ในช่วงเวลาเช้า และเย็น เนื่องจากเป็นเวลาที่โรงเรียนเลิก ใครที่ชินกับทำเลนี้อยู่แล้วก็คงจะเข้าใจกันดี แต่ถ้ายังไม่คุ้นนักก็ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางกันหน่อยนะคะ
  • เป็นทำเลที่ใกล้กับแหล่งงาน โรงงานในย่านเอกชัย-บางบอน สถานที่ราชการ สถานศึกษาและโรงพยาบาลครบครัน จึงเหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร แพทย์ ฯลฯ
  • โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ของจังหวัด กรุงเทพมหานคร (แขวงหนองแขม เขตหนองแขม) ที่ใกล้กับจังหวัด สมุทรสาครและจังหวัดนครปฐม

พิกัด Google Maps : 13.686891, 100.376737
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

การเดินทางไปยังโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 สามารถเข้าถึงจากถนนเส้นหลักได้ 2 เส้นทาง คือถนนเพชรเกษม (เข้ามาประมาณ 2.9 กิโลเมตร) ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางเจริญกรุงได้ และเป็นถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานี บางหว้า ถนนอีกเส้นที่ใช้เข้าถึงโครงการได้คือ ถนนเอกชัย (เข้ามาประมาณ 4.9 กิโลเมตร) และถนนพระราม 2

บนทำเลนี้ยังไม่ไกลจากถนนกาญจนาภิเษก (ทางพิเศษหมายเลข 9) ที่ใช้วิ่งขึ้นไปยังบางใหญ่ ลงใต้ไปทางบางขุนเทียน ไปยังบางนา สนามบินสุวรรณภูมิได้ โดยทางขึ้น-ลงจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 7 กิโลเมตร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 บนถนน คลองภาษีเจริญฝั่งใต้ จะค่อนข้างเงียบสงบ อาคารส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย 2 ชั้น มีร้านค้าบ้างประปราย ถนนเส้นนี้จะมีการจราจรที่ไม่หนาแน่นมากนัก จะไปหนาแน่นที่ซอย เพชรเกษม 69 เนื่องจากเป็นถนนขนาดเล็ก ไป-กลับ ฝั่งละ 2 ช่องทาง แต่จะมีรถจอดด้านข้างทางบ้าง ทำให้รถค่อนข้างติดทีเดียว(ในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน)

ซึ่งในระยะประมาณ 1 กิโลเมตรใกล้กับโครงการ จะมีร้านค้า, ร้านอาหาร, Community Mall ให้เลือกชิม ชอปกันที่ เดอะทรี บางบอน มีตลาดนัดสวนจำปี(กำลังก่อสร้าง), ตลาดนัดดวงดารา ให้เลือกซื้อของสด ของกินต่างๆ และสวนสาธารณะอย่างสวนบางแคภิรมย์ให้ออกไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ หรือวิ่งออกกำลังกายได้ เปิดตั้งแต่ ตี 5 ไปจนถึง 3 ทุ่มเลยค่ะ ภายในสวนยังมี Dog Park พาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ด้วยนะ

โดยรวมในทำเลนี้ค่อนข้างครบครัน เหมาะกับการอยู่อาศัยแต่เสียอย่างเดียวที่รถติดตอนเช้าๆ และตอนเย็นนั่นเองค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าโครงการ

Image 1/3
ด้านหน้าทางทิศเหนือ ฝั่งตรงข้ามกับโครงการคือ สโมสรพัชรเพลส ภายในมีรา้นอาหาร กาแฟสด, ร้านเสริมสวย และมีสถาบันสอนเทควันโด สระว่ายน้ำให้บริการ

ด้านหน้าทางทิศเหนือ ฝั่งตรงข้ามกับโครงการคือ สโมสรพัชรเพลส ภายในมีรา้นอาหาร กาแฟสด, ร้านเสริมสวย และมีสถาบันสอนเทควันโด สระว่ายน้ำให้บริการ

รายละเอียดโครงการ

สิ่งที่น่าสนใจ

  • โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดิน 50 ไร่ จำนวน 128 ยูนิต เฟสแรก 13 ยูนิต เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่จำนวนยูนิตไม่เยอะมากนัก
  • การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเน้นความร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ให้ทั้งด้านหน้าโครงการ, Clubhouse และด้านข้างถนนภายในโครงการ
  • มีพื้นที่ส่วนกลาง 2 จุด แบ่งเป็นเฟสแรก มีอาคาร Clubhouse และสวนพร้อม Water feature ที่เฟส 2 พื้นที่รวมกว่า 4 ไร่
  • Clubhouse มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ครบครันทั้ง พื้นที่พักผ่อน, สระว่ายน้ำ, Fitness , Co-Working Space และห้องประชุม รวมถึงมีการออกแบบ Universal Design ให้ผู้ที่ใช้รถเข็นสามารถใช้งานได้ มีห้องน้ำผู้สูงอายุแยกต่างหาก
  • Main Gate อยู่ด้านหน้าโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Easy Pass ไม้กั้นกระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงพร้อมกล้อง CCTV ที่ทางเข้า-ออกและภายในโครงการ และมี Gate กั้นระหว่างเฟสที่ 1 กับ 2 เนื่องจากมีถนนสาธารณะ*เส้นเล็กๆผ่านค่ะ (*รายละเอียดสอบถามโครงการเพิ่มเติมนะคะ) 
  • บ้านพักอาศัยเฟสแรก หันหน้าเข้าทางทิศตะวันออกทั้งหมดทำให้ด้านหน้าบ้านได้รับแสงยามเช้าไม่ร้อน และอยู่ติดกับถนนหลักของโครงการเข้า-ออกง่าย แต่อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อยค่ะ

Project Overview

โครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 มีทางเข้า-ออกหลัก (Main Gate) ทางทิศเหนือติดกับถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ เมื่อเข้าโครงการมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Clubhouse อยู่ทางซ้ายมือ เป็นเหมือนส่วนต้อนรับอยู่ด้านหน้า แขกไปใครมาก็สามารถนัดเจอกันที่ Clubhouse ได้เลย ถัดเข้ามา เป็นถนนหลักภายในโครงการที่มีความกว้างถึง 17 เมตร สามารถขับรถสวนกันได้สบายๆแม้จะมีรถจอดอยู่ด้านข้าง

ในพื้นที่เฟสแรก (วงเส้นประสีส้ม) มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณ 400 เมตร ตัวบ้านจัดวางหันหน้าไปทางทิศตะวันออกทั้งหมด ทำให้ด้านหน้าบ้านได้รับแสงแดดตอนเช้า และไม่โดนแดดบ่ายที่มีความร้อนมากกว่าโดยตรง และยังอยู่ติดกับถนนหลักของโครงการ ทำให้เข้า-ออกง่าย แต่อาจจะมีรถผ่านด้านหน้าบ้านเยอะสักหน่อยนะคะ ด้านหลังพื้นที่เฟสแรกมีซอยสาธารณะเส้นเล็กๆผ่าน ทางโครงการจะกั้นประตูทางเข้า-ออกไว้อีก 2 จุดเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ

ซึ่งแบบบ้านในเฟสที่ 1 นี้มีทั้งหมด 13 ยูนิต รวม 3 แบบ ดังนี้

  • แบบธาร บ้านขนาด 273 ตารางเมตร จำนวน 1 ยูนิต (สีเขียวแก่)
  • แบบธารา บ้านขนาด 312 ตารางเมตร จำนวน 4 ยูนิต (สีม่วง)
  • แบบภูรี บ้านขนาด 431 ตารางเมตร จำนวน 8 ยูนิต (สีครีม)

การรักษาความปลอดภัย

มาเริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้า – ออกของโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 กันค่ะ ซุ้มประตูทางเข้ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีหลังคากันแดดและฝน แบ่งเป็นทางเข้า 2 ทาง สำหรับผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ ส่วนลูกบ้านสามารถสแกนบัตรแบบ Easy Pass ผ่านเข้าไปในโครงการได้เลย ทำให้รวดเร็วไม่ต้องรอคิวกันนานค่ะ ทางเข้า-ออกจะถูกกั้นด้วยป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สำหรับทางออกจะมีช่องทางเดียวนะคะ เพราะจะใช้เวลาไม่นานเท่าตอนเข้ามาค่ะ

ประตูกั้นทางเข้า-ออกเป็นไม้กั้นกระดก และจะมีประตูบานเลื่อนเปิด-ปิด ในเวลาหลัง 18.00 น. เป็นต้นไปเพื่อความปลอดภัยขึ้นค่ะ นอกจากนั้นยังมีกล้อง CCTV ติดตั้งภายในโครงการรวมประมาณ 17 จุด และรั้วด้านหลังบ้านที่ทางโครงการทำมาให้เป็นรั้วทึบสูง 3.00 เมตร ต่อเติมเพิ่มรั้วโปร่งอีก 2.00 เมตร รวมเป็น 5.00 เมตรเลย

Image 1/6
บริเวณซุ้มประตูทางเข้าโครงการด้านหน้า

บริเวณซุ้มประตูทางเข้าโครงการด้านหน้า

พื้นที่สีเขียว

จุดเด่นที่มักจะเห็นบ่อยๆในโครงการของปริญสิริเลยก็คือ พื้นที่สีเขียวค่ะ ซึ่ง Developer เจ้านี้เขาเน้นการออกแบบที่อยู่อาศัยให้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ จึงเห็นได้จากการลงต้นไม้ใหญ่ไว้ทั้งด้านหน้าโครงการ บริเวณ Clubhouse เกาะกลางถนน และตลอดริมรั้วของโครงการในเฟสแรกเลย ในอนาคตอีกหน่อยต้นไม้ใหญ่ขึ้นคงจะร่มรื่นและมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกค่ะ

Image 1/7
บรรยากาศสวนด้านหน้าโครงการเชื่อมต่อกับ Clubhouse และซุ้มประตูทางเข้า

บรรยากาศสวนด้านหน้าโครงการเชื่อมต่อกับ Clubhouse และซุ้มประตูทางเข้า

Clubhouse

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะมีทั้งหมด 2 จุด พื้นที่รวมประมาณ 4 ไร่ ในส่วนของเฟสแรกที่เรามาชมกันนั้น เป็นส่วนของ Clubhouse จะอยู่ติดกับทางเข้าด้านหน้าโครงการเลยค่ะ ซึ่งโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 ให้ Facility มาค่อนข้างครบครันทีเดียวนะคะ ภายในจะมีอะไรบ้างเราไปชมกันเลย

  • สระว่ายน้ำ

ถ้าเดินเข้าอาคาร Clubhouse มาแล้วเราเจอกับสระว่ายน้ำเลยค่ะ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25.00 x 7.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร (ความยาวรวมสระเด็กด้วยนะคะ) ยกระดับขึ้นมาจากพื้นถนน พร้อมกับมีแนวต้นไม้บังสายตา ได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยค่ะ นอกจากนั้นยังมีสระเด็กติดกัน มีขนาด5.40 x 4.10 เมตร ลึก 0.40 เมตร สำหรับบ้านที่มีเด็กๆก็พามาว่ายน้ำพร้อมกันได้ทั้งครอบครัวเลย

Image 1/5
สระว่ายน้ำเด็กจะอยู่ด้านใต้ห้อง Fitness ค่ะ ซึ่งทำให้ได้ร่มเงาตลอดทั้งวัน คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กๆมาเล่นน้ำได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลัวร้อนเลยค่ะ

สระว่ายน้ำเด็กจะอยู่ด้านใต้ห้อง Fitness ค่ะ ซึ่งทำให้ได้ร่มเงาตลอดทั้งวัน คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กๆมาเล่นน้ำได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลัวร้อนเลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายในห้อง Co-Working Space

บรรยากาศภายในห้อง Co-Working Space

ถัดมาเป็นห้อง Meeting Room และ Co-Working Space ได้ฝ้าเพดานสูง พร้อมกระจกให้บรรยากาศโปร่งโล่ง เหมาะกับการมานั่งทำงาน อ่านหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ

  • ห้องนั่งเล่นส่วนกลาง

Image 1/5
ทางเข้าสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนสำหรับลูกบ้านค่ะ

ทางเข้าสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนสำหรับลูกบ้านค่ะ

บริเวณด้านหน้าติดกับทางเข้า-ออกของโครงการเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน เหมือนกับ Lounge ได้ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วน สามารถเลือกนั่งคุยหรือใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกได้ โดยไม่ต้องให้แขกเข้าไปที่บ้านค่ะ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายอยู่นะคะ

Image 1/5
ทางเข้าด้านหน้าห้องน้ำ

ทางเข้าด้านหน้าห้องน้ำ

ถัดมาเป็นส่วนของห้องน้ำสำหรับคนที่มาใช้งาน Clubhouse ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำ หรือมาเล่น Fitness สามารถอาบน้ำที่นี่ก่อนกลับบ้านได้ค่ะ โดยห้องน้ำจะแบ่งเป็น 3 ห้อง มีห้องน้ำผู้สูงอายุและผู้พิการแยกต่างหาก ซึ่งโครงการนี้ได้ออกแบบรองรับการใช้งานของรถเข็นด้วยนะคะ ตั้งแต่ทางลาดขึ้นมายังพื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำแยกให้โดยเฉพาะเลย

ส่วนห้องน้ำหญิงและชาย ภายในจะมีห้องอาบน้ำและห้องน้ำมาให้ครบ แต่เสียดายถ้ามี Locker ให้ใช้งานเพิ่มเติมด้วยจะดีมากเลยค่ะ

ถัดมาเราขึ้นไปดูห้อง Fitness กันบ้างค่ะ โดยบันไดทางขึ้นจะอยู่ตรงข้ามกับสระว่ายน้ำบริเวณสระเด็กนั่นเอง โดยพื้นที่ใต้บันไดเป็นพื้นที่ห้องเก็บของส่วนกลาง มีแผงควบคุมงานระบบต่างๆอยู่ภายในค่ะ

  • Fitness

Image 1/5
ทางเข้าห้อง Fitness

ทางเข้าห้อง Fitness

ขึ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Fitness เป็นห้องรูปตัว L ที่มีผนังกระจกถึง 3 ด้านเลยค่ะทำให้มองเห็นวิวขณะออกกำลังกายได้รอบทิศเลย และยังมีแสงธรรมชาติเข้ามาเพียงพอตลอดทั้งวัน แบ่งเป็นโซนออกกำลังกาย และพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับโยคะ หรือจัดคลาสต่างๆได้  มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ประมาณ 7 ตัว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
  • พื้นที่พักผ่อน
  • Co-Working Space
  • Meeting Room
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 25.00 x 7.00 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.20 ม.
  • สระเด็กขนาด 5.40 x 4.10 ม. ลึก 0.40 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 2 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ ประมาณ 17 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3.00 ม.และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 2.00 ม.
  • ถนนหลักกว้าง 17.00 ม. และถนนภายในกว้าง n/a ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะไกล (Easy Pass)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง

แบบบ้าน

สิ่งที่น่าสนใจ

  • บ้านขนาดใหญ่ 273 – 431 ตารางเมตรบนที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไป เป็นบ้านที่เน้นพื้นที่ดินทำสวน ไม่ได้สร้างคับที่ เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่สีเขียว ทำสวน หรือต้องการพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
  • บ้านหน้ากว้าง รูปทรงตัว L โอบล้อมพื้นที่จัดสวนส่วนตัวภายในบ้าน (Private Garden) สามารถมองเห็นสวนได้จาก Common Area และห้อง Master Bedroom และจอดรถได้ 3 คันขึ้นไป
  • มีโถงทางเข้าบ้าน (Foyer) ทุกแบบ สามารถออกแบบเป็นมุมใส่รองเท้า หรือเก็บของได้
  • ภายในบ้านมีช่องแสงขนาดใหญ่ รับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวสวนได้ นอกจากนั้นยังทำให้บ้านมีความโปร่ง เชื่อมต่อพื้นที่ในบ้านเข้ากับสวน
  • มีห้องนอนชั้นล่าง รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่กันหลาย Generation และได้พื้นที่เฉลียงเชื่อมต่อห้องนอนชั้นล่างเข้ากับสวน
  • แบบบ้านทุกแบบมีพื้นที่ Family Area ที่ชั้น 2
  • ห้องนอนทั้ง 3 ห้องชั้น 2 มีห้องน้ำในตัว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
  • ก่อสร้างด้วยระบบ Pre-Cast ทั้งหลัง ซึ่งอาจจะต้องระวังในการเจาะ ทุบ ต่อเติมในอนาคต
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Magnetic Sensor ที่ชั้น 1 และ Motion Sensor ที่ชั้น 2

Product Overview

แบบบ้านในโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 ในเฟสแรก มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

  • ธาร ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 273 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
  • ธารา ที่ดินเริ่มต้น 104 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
  • ภูรี ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ

 

Image 1/6
ธาร ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 273 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

ธาร ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 273 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันวันนี้คือแบบบ้านกลาง (ธารา) และบ้านใหญ่ (ภูรี) กันค่ะ เนื่องจากแบบเล็กสุด (ธาร) มีเพียงยูนิตเดียวทางโครงการจึงไม่ได้ทำบ้านตัวอย่างมาให้ได้ชมกันนะคะ

มาเริ่มกันที่บ้าน ธารา บ้านบนที่ดินเริ่มต้น 104 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

ชั้น 1

แบบบ้านหลังนี้จะแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง เมื่อเข้าบ้านมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Common Area ก่อน เป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ซึ่งพื้นที่รับประทานอาหารจะค่อนข้างกว้าง สามารถทำครัวฝรั่ง หรือ Island ก่อนเชื่อมต่อไปยังครัวไทยด้านข้างได้ อีกฝั่งคือห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ด้านหน้าบ้าน ซึ่งแยกออกมาเป็นสัดส่วนชัดเจน มองเห็นสวนด้านหน้าและด้านข้างบ้านได้ ถ้าบ้านไหนไม่มีผู้สูงอายุก็สามารถเปลี่ยนห้องนี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว หรือห้องทำงานขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ

ชั้น 2

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับส่วน Family Area เป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว และเป็นส่วนเชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ ห้อง Master Bedroom จะอยู่ด้านหน้าบ้าน มองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง และแยกออกมาจากห้องอื่นๆ เชื่อมต่อกันที่ห้องน้ำเท่านั้นค่ะ ทำให้ Master Bedroom มีความเป็นส่วนตัวสูง และมีพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ กันเป็นห้องแยกได้ ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะมีห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ

ด้านหน้าบ้าน ธารา เป็นบ้านหน้ากว้างสไตล์โมเดิร์น มีลูกเล่นโดยการใช้ระแนงเหล็กสีดำ (Facade) เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเฟสแรกที่จะมีในทั้ง 3 แบบเลยค่ะ จะสังเกตได้ว่าตัวบ้านมีการออกแบบให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ โดยฝั่งขวามือของบ้านชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนห้อง Master Bedroom ทั้งหมดเลยค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นหน้าต่างบานเปิด 3 ช่อง ของห้องนอนรองนั่นเอง

Image 1/5
ประตูรั้วบ้านเป็นรั้วอัตโนมัติ

ประตูรั้วบ้านเป็นรั้วอัตโนมัติ

เนื่องจากบ้านมีประตูรั้วแบบอัตโนมัติ ซึ่งทางโครงการติดตั้งเครื่องมาให้เรียบร้อย เข้า-ออกโดยการใช้รีโมตค่ะ รั้วเป็นระแนงเหล็กสีดำเข้ากับ Facade ของตัวบ้าน มีประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออก แยกกับที่จอดรถ พร้อมกับมีกริ่ง ไฟ และถังขยะแบบติดกับรั้วมาให้เรียบร้อย

ที่จอดรถปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย แบ่งตามจำนวนช่องจอดทำให้กะระยะในการจอดได้ง่ายขึ้น พร้อมลงเสาเข็มมาให้ในส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านจะเป็นเสาเข็มเล็กนะคะ มีการแบ่งโครงสร้างชัดเจนทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวในอนาคต

สวน

Image 1/9
สวนด้านหน้าบ้านทางฝั่งซ้ายมือสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ได้

สวนด้านหน้าบ้านทางฝั่งซ้ายมือสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ได้

พื้นที่สวนรอบบ้านทางโครงการมีการจัดมาให้เรียบร้อยทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้มงคล แตกต่างกันไปในแต่ละขนาดพื้นที่ของแต่ละยูนิตค่ะ ซึ่งเราได้เก็บภาพบรรยากาศสวนของบ้านตัวอย่าง (ไม่เหมือนกับที่ได้ในบ้านมาตรฐานนะคะ) มาให้ชมเป็นไอเดีย ค่ะว่าสามารถจัดสวนแบบไหนได้บ้าง

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Foyer ก่อนค่ะ ซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ไม่เปิดประตูเข้ามาเจอกันตรงๆ และยังทำให้เป็นพื้นที่เก็บ วางรองเท้าแยกเป็นสัดส่วนได้เลย ส่วนทางซ้ายมือเป็นทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำค่ะ

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area ซึ่งเป็นพื้นที่รับแขก หรือนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหารด้านหลังบ้าน ที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้บ้านดูโปร่ง ถึงแม้ว่านั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็ยังมองเห็นวิวได้ค่ะ ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 3.85 x 3.50 เมตร สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะกลางได้สบายๆ เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 46 นิ้วค่ะ

แบบบ้านทุกแบบภายในโครงการเฟสแรกจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการเลือกปูกระเบื้องลายแตกต่างกันไปในแต่ละยูนิต ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าไปรับชมบ้านในแปลงที่ต้องการได้ค่ะ ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.90 เมตร พร้อม Drop ฝ้ามาให้สวยงาม

ห้องน้ำชั้น 1 

Image 1/9
ทางเข้าห้องน้ำ และทางเข้าห้องนอนชั้น 1 ฝั่งขวามือ

ทางเข้าห้องน้ำ และทางเข้าห้องนอนชั้น 1 ฝั่งขวามือ

เรามาดูทางฝั่งด้านหน้าบ้านกันก่อนนะคะ ห้องฝั่งด้านบ้านที่แยกออกมาจากตัวบ้านก็คือห้องน้ำและห้องนอนชั้น 1 ค่ะ ถ้าอยากให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถกั้นประตูปิด ให้ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนได้เลยค่ะ (แต่จะไม่มีห้องน้ำที่ชั้น 1 สำหรับแขกนะคะ) ข้อดีของการแยกห้องน้ำออกมาคือประตูห้องน้ำไม่รบกวนสายตาจากห้องนั่งเล่น และยังอยู่ใกล้กับห้องนอนชั้นล่าง ถ้ามีผู้สูงอายุก็สามารถเข้าใช้งานได้สะดวกค่ะ

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน โดยจะมีที่อาบน้ำมารองรับการใช้งานของห้องนอนชั้นล่างพร้อมฉากกั้นกระจกแบบ Frameless ไม่มีกรอบบานดูสวยงาม ภายในได้สุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านข้างของบ้าน ทำให้ห้องน้ำไม่มืด และระบายความอับชื้นได้

ห้องนอนชั้น 1

Image 1/5

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 5.00 x 3.50 เมตร ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆเลย ภายในห้องยังได้ช่องแสงที่ด้านหน้าบ้านและด้านข้างมองเห็นวิวสวนได้นะคะ ซึ่งห้องนอนชั้นล่างจะมีเฉลียงยื่นออกมาทำเป็นมุมพักผ่อนแบบ Outdoor หรือนั่งชมสวนได้สบายๆไม่ร้อน เหมาะกับวิถีชีวิตของผู้สูงอายุทำให้มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าอยู่แต่ในห้องค่ะ

วัสดุของพื้นห้องนอนจะแตกต่างกับพื้นที่ Common Area นะคะ โดยพื้นจะปูด้วย Smartmatt เป็นหินสังเคราะห์ที่ทำเป็นลายไม้ มีความทนทาน แข็งแรง กันน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นลามิเนต และพื้นไวนิลทั่วไปค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลังบ้าน มีขนาดประมาณ 5.60 x 3.00 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 6-8 ที่นั่ง หรือจัดตามความชอบของเจ้าของบ้านได้เลยค่ะ โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั้ง 2 ฝั่งเลย ในวันที่อากาศดีๆเราสามารถเปิดหน้าต่างและประตูให้ลมผ่านได้กว้าง และได้วิวสวนส่วนตัวบริเวณนี้ด้วยค่ะ นอกจากนั้นยังสามารถต่อเติมเฉลียงด้านข้างบ้านทำเป็นลานปิ้งย่าง เวลามีปาร์ตี้ครอบครัวก็ได้นะคะ

ห้องครัว

Image 1/8

เนื่องจากพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารค่อนข้างกว้าง สามารถจัดเป็นพื้นที่ครัวฝรั่งเชื่อมต่อกับครัวไทยแบบในบ้านตัวอย่างเพิ่มเติมได้เช่นกันนะคะ ส่วนห้องครัวไทยจะมีประตูบานเลื่อนปิดมาให้กั้นแบ่งห้องชัดเจนสำหรับทำอาหารจริงจัง มีกลิ่นฟุ้งกระจายได้

ซึ่งห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ และอ่างล้างจานมาให้เรียบร้อยแบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ เพียงติดตั้งบานตู้เพิ่มเติมก็สามารถใช้งานได้เลย พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องคนละชนิดกับพื้นที่ Common Area นะคะ เพื่อการทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

ถัดจากห้องครัวจะมีประตูบานเปิดไปยังลานซักล้าง ที่เราใช้เป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า และตากผ้าบริเวณนี้ได้ โดยไม่มีใครเห็นค่ะ

Image 1/3
ทางเข้าจากที่จอดรถ

ทางเข้าจากที่จอดรถ

ถัดมาส่วนบันไดทางขึ้นชั้น 2 กันบ้างค่ะ บริเวณนี้เชื่อมต่อกับทางเข้าจากที่จอดรถ ทำให้เดินขึ้นบ้านได้เลยโดยไม่ต้องผ่านห้องรับแขก หรือใครที่ซื้อของมาทำกับข้าวก็เดินไปยังห้องครัวทางนี้ หรือจะเข้าด้านข้างบ้านได้เลยค่ะ

ใต้บันไดมีพื้นที่ว่างเล็กๆสามารถกั้นเป็นตู้เก็บของเพิ่มเติมได้นะคะ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง ปูพื้นลูกนอนด้วย Smartmatt เหมือนกับห้องนอนชั้น 1 ส่วนโถงบันไดจะได้ช่องแสงสูงจากพื้นไปจนเกือบถึงฝ้าเพดานเลย

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับส่วน Family Area และเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่างๆด้วยค่ะ โดยพื้นชั้น 2 ปูด้วยพื้น Smartmatt ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3.00 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง ทำให้ห้องดูโปร่งค่ะ

พื้นที่ Family Area มีขนาดประมาณ 2.80 x 3.80 เมตร สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย บ้านไหนชอบออกกำลังกาย ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่วางลู่วิ่งได้ หรือจะทำเป็นพื้นที่กิจกรรม ดูหนัง เล่นเกมร่วมกันในครอบครัวก็น่าสนใจค่ะ ห้องนี้จะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากด้านข้างบ้าน และมองลงไปเห็นสวนด้วย

ห้องนอนรอง 1

Image 1/9

มาดูห้องนอนรองด้านหลังบ้านกันก่อนนะคะ ห้องนี้อยู่ทางฝั่งซ้ายมือเมื่อขึ้นมาจากบันได ตกแต่งเป็นห้องนอนเด็กผู้หญิง มีขนาด 5.00 x 3.20 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ได้สบายๆ เมื่อวางเตียงแล้วมีระยะทางเดินปลายเตียงได้ไม่อึดอัด และมีช่องแสงมาให้ 2 จุดทำให้ห้องสว่าง และมีพื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัวค่ะ

มีห้องน้ำในห้องนอนรองจะได้ชุดสุขภัณฑ์ภายในเหมือนกับห้องน้ำที่ชั้น 1 เลยค่ะ เป็นชุดสุขภัณฑ์ จาก COTTO การใช้งานแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจกมาให้ พร้อมกับมีพื้นที่ระเบียงแยกใช้ตากผ้าที่เป็นของส่วนตัว หรือจะจัดเป็นมุมสวนในบ้านก็เก๋ๆดีนะคะ

ส่วนห้องนอน Master Bedroom และห้องนอนรองที่ 2 จะอยู่ทางฝั่งขวามือเมื่อขึ้นบันไดมาค่ะ โดยเราจะไปดูห้องนอนรองกันก่อนค่ะ

ห้องนอนรอง 2

Image 1/6

ห้องนอนรองที่ 2 ตกแต่งเป็นห้องเด็กผู้ชาย ห้องนี้จะได้ช่องแสง 2 ฝั่งทั้งด้านหน้าบ้านและด้านหลังบ้าน ภายในห้องมีขนาดประมาณ 5.50 x 3.50 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ สำหรับบ้านไหนที่มีลูกแฝดหรือสมาชิกในบ้านหลายคนก็สามารถวางเตียงเดี่ยวแบบในบ้านตัวอย่างได้ 2 เตียงสบายๆค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนรองที่ 2 จะเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนแรกค่ะ  ซึ่งจะมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวมาให้เช่นกันค่ะ

ห้อง Master Bedroom

Image 1/10

ห้อง Master Bedroom เข้ามาในห้องนอนแล้วจะเจอกับพื้นที่การใช้งานที่แบ่งเป็น 3 ส่วน คือพื้นที่ Walk-in Closet ตรงกลาง ด้านขวามือเชื่อมต่อกับห้องน้ำ และทางซ้ายมือเป็นพื้นที่พักผ่อนค่ะ

พื้นที่ Walk-in Closet ที่ได้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประมาณ 3.70 x 2.80 เมตร มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ทั่วถึง สามารถจัดวาง Island ตรงกลางได้ ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนไม่ต้องการให้มีความชื้นและฝุ่นละอองในห้องนอน แนะนำให้ติดตั้งประตูกั้นส่วน Walk-in Closet แยกไปเลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำ Master Bathroom จะมีการตกแต่งด้วยตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนเหมือนกับห้องน้ำชั้น 1 แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน มีที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจกแบบ Frameless ไม่มีกรอบบานดูสวยงาม ภายในได้สุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมด ซึ่งจะมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวมาให้เช่นกันค่ะ

ห้อง Master Bedroom

Image 1/4

เข้ามาในห้องนอนแล้ว จะเห็นว่าห้องนอนมีช่องเปิดทั้งด้านหน้าบ้านและด้านหลังบ้านเกือบเต็มผนัง รับแสงธรรมชาติได้มากทำให้ห้องดูสว่าง แต่ก็จะได้ความร้อนเข้ามาด้วยนะคะ ซึ่งทางโครงการเขาเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้ในระดับหนึ่งมาให้แล้ว

สำหรับพื้นที่ห้องนอนนั้นมีขนาดประมาณ 5.40 x 5.60 เมตร กว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางเตียง 6 ฟุต หรือใหญ่พิเศษมากขึ้นได้ พร้อมโซฟา และชั้นวาง TV ให้มีมุมนั่งเล่นเพิ่มเติมในห้องนอนได้สบายๆเลย ซึ่งภายในห้อง Master Bedroom จะมีการ Drop ฝ้าเพดานมาให้เหมือนกับห้องนั่งเล่นชั้น 1 ค่ะ


หลังต่อมาเป็นแบบบ้าน Type ใหญ่สุดกับ ภูรี ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ

ชั้น 1

แบบบ้านหลังนี้จะได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนตัวมองเห็นวิวสวนด้านหน้าและด้านหลังบ้าน พื้นที่ Common Area สามารถทำเป็น Pantry กับพื้นที่รับประทานอาหาร 6-8 ที่นั่งได้ ส่วนห้องนอนชั้น 1 จะมีพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่ Service แยกเป็นสัดส่วน เป็นครัวไทยที่เชื่อมต่อออกมายังลานซักล้างด้านข้างบ้าน สามารถเดินเชื่อมไปยังห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว แบบบ้านหลังนี้จึงเหมาะกับคนที่มีแม่บ้านประจำ หรือต้องการพื้นที่เก็บของเยอะๆค่ะ

ชั้น 2

เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือฝั่งด้านซ้ายของบ้าน เป็นห้องนอนรอง 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว และฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ Family Area ขนาดใหญ่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งาน ได้ตามความชอบของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน พื้นที่ออกกำลังกาย หรือพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ด้านหน้าบ้านเป็นห้อง Master Bedroom ที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนห้องน้ำและ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วน ตรงกลางเป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวพร้อม Bay Window และด้านขวาส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านเป็นพื้นที่เตียงนอน มองเห็นวิวทั้ง 2 ฝั่งได้ความเป็นส่วนตัวสูง

ด้านหน้าบ้านเป็นบ้านหน้ากว้างสไตล์โมเดิร์น สามารถจอดรถเรียงกันได้ 4 คันเลยค่ะ หน้าบ้านมีช่องแสงขนาดใหญ่ค่อนข้างเยอะ ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้าไปภายในบ้านได้ มีการตกแต่งโดยการใช้ระแนงเหล็กสีดำ (Facade) เป็นเอกลักษณ์ของเฟสนี้ค่ะ

สวน

Image 1/10
ประตูรั้วอัตโนมัติ

ประตูรั้วอัตโนมัติ

ประตูรั้วบ้านจะได้รั้วอัตโนมัติเช่นกันค่ะ มีการเข้า-ออกโดยการใช้รีโมต ตัวรั้วเป็นระแนงเหล็กสีดำเข้ากับ Facade ของตัวบ้าน มีประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออก แยกกับที่จอดรถ พร้อมกับมีกริ่ง ไฟ และถังขยะแบบติดกับรั้วมาให้เรียบร้อยเลย

ส่วนที่จอดรถปูกระเบื้องมาให้พร้อมลงเสาเข็มในส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านเป็นเสาเข็มเล็ก แยกโครงสร้างไว้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวค่ะ

สวน

Image 1/8
บ้านมาตรฐาน Type ภูรี

บ้านมาตรฐาน Type ภูรี

พื้นที่สวนรอบบ้านทางโครงการมีการจัดมาให้เรียบร้อยทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้มงคล แตกต่างกันไปในแต่ละขนาดพื้นที่ของแต่ละยูนิต ซึ่งเราได้เก็บภาพบรรยากาศสวนในบ้านมาตรฐานมาให้ชมกันค่ะ

Image 1/2
ประตูทางเข้าหลักด้านหน้าบ้าน

ประตูทางเข้าหลักด้านหน้าบ้าน

ประตูทางเข้าแบบบ้าน Type นี้จะได้เป็นประตูไม้สักบานเปิด 2 บาน มีช่องแสงด้านบนทำให้มีแสงธรรมชาติลอดผ่านได้ และสามารถมองเห็นคนที่กำลังจะเปิดประตูเข้ามาได้ค่ะ

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Foyer ก่อน บริเวณนี้เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่วางรองเท้าแยกเป็นสัดส่วนก่อนเข้าบ้านค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหาร

Image 1/4
บรรยากาศภายในบ้านบริเวณ Pantry และพื้นที่รับประทานอาหาร

บรรยากาศภายในบ้านบริเวณ Pantry และพื้นที่รับประทานอาหาร

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Pantry ขนาดใหญ่ สามารถปรับการใช้งานเป็นพื้นที่รับแขก หรือพื้นที่นั่งเล่นร่วมกันในครอบครัวได้นะคะ ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่ห้องนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งด้านข้างและด้านหลัง มองออกไปเห็นวิวสวนส่วนตัวในบ้านได้กว้าง ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านเยอะ รวมถึงชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.90 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้นค่ะ

แบบบ้านทุกแบบภายในโครงการเฟสแรกจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการเลือกปูกระเบื้องลายแตกต่างกันไปในแต่ละยูนิต ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าไปรับชมบ้านในแปลงที่ต้องการได้ค่ะ

ห้องนั่งเล่น

Image 1/4
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น

บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น

ด้านขวาของตัวบ้านจะมีห้องนั่งเล่นแยกส่วนออกมาจากตัวบ้าน ทำให้มองเห็นวิวได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง(สวนส่วนตัว) มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่นะคะ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นห้องรับรองแขก ห้องนอน หรือพื้นที่จัดปาร์ตี้ส่วนตัวกันได้เลย

ห้องน้ำชั้น 1

Image 1/5
ทางเดินไปยังห้องครัว ด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำ Powder Room และฝั่งขวาเป็นทางเข้าห้องนอนชั้น 1 ค่ะ

ทางเดินไปยังห้องครัว ด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำ Powder Room และฝั่งขวาเป็นทางเข้าห้องนอนชั้น 1 ค่ะ

ถัดมาดูฝั่งซ้ายของบ้านกันบ้างค่ะ จากพื้นที่ Common Area จะมีทางเดินไปยังห้องนอนชั้นล่างและส่วน Service ของบ้าน โดยโถงทางเดินจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ประมาณ 1.20 เมตรรองรับการใช้งานของรถเข็น เข้าสู่ห้องนอนชั้นล่างสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุนั่นเองค่ะ

พื้นที่ใต้บันไดเปิดโล่งมาให้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ใครที่ต้องการพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมสามารถกั้นเป็นตู้หรือห้องเก็บของขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ เพราะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 1.60 เมตรเลย

ทางฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำ Powder Room คือห้องน้ำที่ไม่มีฟังก์ชันอาบน้ำมาให้ค่ะ การตกแต่งผนังเล่นลวดลายสวยงาม มีสุขภัณฑ์มาให้ จาก COTTO

ห้องครัว

Image 1/12
ห้องครัวไทย

ห้องครัวไทย

ห้องครัวไทยจะอยู่ซ้ายสุดของบ้านสามารถเข้าจากทางด้านข้างบ้านเดินเชื่อมมาจากที่จอดรถได้ค่ะ โดยห้องครัวจะมีการก่อเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างจานมาให้เหมือนกับหลังอื่นๆ พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องลายไม้ทำความสะอาดง่าย

เดินออกทางด้านหลังจะเป็นส่วนซักล้างมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าเดินระบบไว้ให้เรียบร้อย นอกจากนั้นแบบบ้าน Type นี้ยังมีห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำในตัวมาให้สำหรับคนที่มีแม่บ้านประจำ แต่ขนาดของห้องแม่บ้านไม่ได้ใหญ่มากนักจะเหมาะกับการอยู่คนเดียวค่ะ

ห้องนอนชั้น 1

Image 1/8
ห้องนอนชั้น 1

ห้องนอนชั้น 1

ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องนอนที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือคนที่ไม่ต้องการเดินขึ้นบันไดบ่อยๆค่ะ โดยห้องนี้จะมีห้องน้ำและพื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนในตัวชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวสูง สามารถออกไปนั่งเล่นชมวิวในสวนด้านข้างบ้านได้ ภายในห้องมีขนาดใหญ่ วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ พื้นจะปูด้วย Smartmatt เป็นหินสังเคราะห์ลายไม้มีความทนทาน แข็งแรง กันน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นทั่วไป

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน มีการออกแบบมาให้รถเข็นใช้งานได้ โดยจะลดระดับน้อยๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร สำหรับผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นก็สามารถช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ แต่เสียดายที่พื้นที่อาบน้ำยังมีขอบอยู่ค่อนข้างสูง อาจจะต้องเลือกใช้เป็นเก้าอี้นั่งอาบน้ำภายในแทน ภายในได้สุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านข้างของบ้าน ทำให้ห้องน้ำไม่มืด และระบายความอับชื้นได้ดี

Image 1/2
บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก

บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก

บันไดทางขึ้นชั้น 2 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เดินแล้วให้ความรู้สึกแน่นๆ มีความแข็งแรง ด้านบนปูด้วย Smartmatt และมีช่องแสงโปร่งสูงรับแสงธรรมชาติจากด้านหลังบ้านเข้ามาได้มาก ทำให้ตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟบริเวณนี้เลยค่ะ

Family Area

Image 1/5
Prinn_Lชั้น-2_01

Prinn_Lชั้น-2_01

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินแยกไปยังห้องนอนต่างๆ มีฝ้าเพดานสูงประมาณ 3.00 เมตร พื้นที่ทางฝั่งซ้ายมือของทางเดินเป็น Family Area สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ขนาดค่อนข้างกว้าง มองลงไปเห็นวิวสวนส่วนตัวในบ้านได้ สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะกลางได้สบายๆ เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 46-50 นิ้วเลยค่ะ

ตรงข้ามกับ Family Area เป็นทางเข้าห้อง Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom

Image 1/5
พื้นที่อเนกประสงค์ในห้อง Master Bedroom

พื้นที่อเนกประสงค์ในห้อง Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom เข้ามาในห้องนอนแล้วจะเจอกับพื้นที่การใช้งานที่แบ่งเป็น 3 ส่วนคล้ายกับแบบกลางค่ะ แต่จะเป็นการแบ่งเป็นโซนพักผ่อน (เตียงนอน), โซนนั่งเล่นอเนกประสงค์ และโซน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ

ถ้าเข้ามาในห้องนอนแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนก่อนค่ะ บริเวณนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Walk-in Closet เพิ่มเติมได้สำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือมีของสะสมเยอะๆ รวมถึงปรับเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวได้ ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอนด้านใน

ห้องนอนจะได้ช่องเปิดทั้งด้านหน้าบ้านและด้านหลังบ้านเกือบเต็มผนัง รับแสงธรรมชาติได้มากทำให้ห้องดูสว่าง พื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 6 ฟุต หรือใหญ่พิเศษมากขึ้นได้ พร้อมโซฟา และชั้นวาง TV ได้สบายๆ ซึ่งภายในห้อง Master Bedroom จะมีการ Drop ฝ้าเพดานมาให้เหมือนกันค่ะ

ห้อง Master Bedroom

Image 1/9
ประตูทางเข้า Walk-in Closet

ประตูทางเข้า Walk-in Closet

ด้านขวามือของพื้นที่อเนกประสงค์ในห้อง Master Bedroom จะเป็นห้อง Walk-in Closet ที่มีการกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน ภายในมีพื้นที่ขนาดใหญ่ทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in รูปตัว L และ Island ตรงกลางได้ นอกจากนั้นยังสะดวกเพราะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ออกมาแต่งตัวได้เลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำ Master Bathroom จะมีการตกแต่งด้วยตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหิน มีการอัพเกรดขึ้นมาจากห้องน้ำห้องอื่นๆ ได้อ่างอาบล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมกับอ่างอาบน้ำแยกมาให้สำหรับนอนแช่ตัวสบายๆค่ะ นอกจากนั้นยังแบ่งการใช้งานสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำออกเป็น 2 ส่วน สามารถใช้งานพร้อมๆกัน 2 คนได้ โดยเป็นสุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมดค่ะ

มาดูฝั่งขวาของโถงทางเดินกันค่ะ จะเห็นว่ามีห้องนอน 2 ห้องทางฝั่งหน้าบ้าน (ซ้ายมือ) และฝั่งหลังบ้าน (ขวามือ) เป็นห้องนอนรอง มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ โดยเราจะไปดูห้องด้านหน้าบ้านกันก่อนค่ะ

ห้องนอนรอง 1

Image 1/10
ห้องนอนรอง ฝั่งด้านหน้าบ้าน

ห้องนอนรอง ฝั่งด้านหน้าบ้าน

ห้องนอนรอง ฝั่งด้านหน้าบ้าน เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำก่อนค่ะ โดยห้องน้ำภายในห้องนอนรองจะได้เหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนชั้น 1 เลย แต่จะลดระดับพื้นลงมาให้เป็นปกติ และไม่ได้รางน้ำฝังพื้นนะคะ

ห้องนี้จะได้ช่องแสง 2 ฝั่งทั้งด้านหน้าบ้านและด้านข้าง การใช้งานแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจกมาให้ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ระเบียงแยกใช้ตากผ้าที่เป็นของส่วนตัวได้เช่นกันค่ะ

ห้องนอนรอง 2

Image 1/8
ห้องนอนรอง ฝั่งหลังบ้าน

ห้องนอนรอง ฝั่งหลังบ้าน

ห้องนอนสุดท้ายเป็นห้องที่อยู่ด้านหลังบ้าน ขนาดค่อนข้างใหญ่วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆเลยค่ะ ห้องนี้จะได้ช่องแสงทางด้านหลัง และด้านข้างของบ้านพร้อมกับมีระเบียงเล็กๆส่วนตัว และได้เป็นพื้นที่ Bay Window กระจกเข้ามุมด้านข้างด้วย

ส่วนพื้นที่ Walk-in Closet จะอยู่ด้านหลังหัวเตียงแยกออกมาชัดเจนเชื่อมต่อกับห้องน้ำที่มีภายในแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจกมาให้ และชุดสุขภัณฑ์ จาก COTTO เช่นกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

แบบบ้านภายในโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 มีช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2020)

  • ธาร ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 273 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

  • ราคาเริ่มต้น 9.99 ล้านบาท

  • ธารา ที่ดินเริ่มต้น 104 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
    • ราคาเริ่มต้น 12.90 – 17.90 ล้านบาท

  • ภูรี ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
    • ราคาเริ่มต้น 14.90 – 20 ล้านบาท

    ราคาของโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 เมื่อเทียบกับโครงการที่มีพื้นที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไปในทำเลนี้ จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 10 ล้านบาท ไปจนถึง 20 ล้านบาทเช่นกันค่ะ แต่เมื่อเทียบความคุ้มค่าเป็นราคาต่อพื้นที่ใช้สอย เป็นตารางเมตรแล้ว โครงการ ปริญญ์ เป็นโครงการที่มีราคาต่อตารางเมตรค่อนข้างจะต่ำกว่า เพื่อนบ้าน เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยที่เยอะกว่า

    • บ้านหลังใหญ่ ภูรี 431 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 14.9 -20 ล้านบาท ในขณะที่เพื่อนบ้านราคา 15 – 20 ล้านบาทจะมีพื้นที่ใช้สอยของบ้านอยู่ที่ประมาณ 300 – 340 ตารางเมตรเท่านั้นค่ะ

    ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านพื้นที่ใช้สอยเยอะ โครงการ  ปริญญ์ เพชรเกษม 69 ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีงบประมาณ 10 – 20 ล้านบาทค่ะ

    ค่าใช้จ่ายต่างๆ

    • จองและทำสัญญา n/a บาท
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
    • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    โครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว ในทำเลเพชรเกษม 69 ที่มีที่ดิน 100 ตารางวางขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 270-430 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นประมาณ 10 ล้านบาท ที่ยังสามารถเดินทางได้สะดวก อยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ สามารถเข้าถึงรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ เหมาะกับคนที่ชอบโครงการที่มีพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น มี Facility ให้ใช้งานครบ ตัวบ้านเน้นพื้นที่ดินกว้าง มีสนามหญ้าให้ใช้งาน จอดรถได้หลายคัน มีสมาชิกในบ้านหลาย Generation มีคุณตาคุณยาย, หลานๆ และสัตว์เลี้ยง อยู่อาศัยร่วมกันได้ค่ะ


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving