รีวิวฉบับที่ 2158…  วันนี้พามาดูโครงการ Villaggio เพชรเกษม – สาย4 จาก Land and Houses ที่อยู่ในย่านกระทุ่มแบน ใกล้ถนนพุทธสาครที่เชื่อมต่อถนนพุทธมณฑลสาย 4 โดยแบรนด์นี้จะเน้นสถาปัตยกรรมที่เป็นสไตล์ยุโรปตามฉบับของเค้านะ โดยภายในมีโปรดักส์ให้เลือก 2 แบบ ทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม 2 ชั้น โดยฟังก์ชันบ้านเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 3-4 คน ในราคาเริ่มต้นทาวน์โฮม 2.48 ล้านบาท และบ้านแฝด 3.99 ล้านบาท

ข้อมูลโครงการ

6 November 2020

  • Villaggio PhetKasem-Sai 4 (วิลลาจจิโอ เพชรเกษม-สาย4)
  • บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนพุทธสาคร อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
  • เนื้อที่โครงการ 48.2 ไร่ จำนวน 397 ยูนิต
  • Gemini : ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม.
    – หน้ากว้าง 5 เมตร : ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.48 ล้านบาท
  • Shuttery : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
    – หน้ากว้าง 6.5 เมตร : ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้า
    – ทาวน์โฮม : ชั้น 1 – 2.70 เมตร / ชั้น 2 – 2.60 เมตร
    – บ้านแฝด : ชั้น 1 – 2.70 เมตร / ชั้น 2 – 2.55 เมตร
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2564
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1198

ทำเลที่ตั้ง

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Villaggio เพชรเกษม – สาย4 ตั้งอยู่ในย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ใกล้กับถนนพุทธสาครที่เชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่ตัดแบ่งด้วยถนนเพชรเกษม โดยเป็นทำเลที่ขยับออกมาทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชุมชนเก่าแก่ หมู่บ้านจัดสรร ที่ปะปนกับบริษัทอุตสาหกรรม ซึ่งมีแหล่งงานกระจายตัวอยู่รอบๆ

ถนนเพชรเกษม – เป็นถนนที่เข้าไปทางบางแค บางหว้า ท่าพระ จนถึงวงเวียนใหญ่ ซึ่งพอถึงตรงนี้ก็แยกไปได้หลากหลายอีก นอกจากนี้บนถนนเพชรเกษมยังมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานถึง MRTหลักสอง(The Mall บางแค) ที่มีอาคารจอดแล้วจรให้ฝากรถไว้แล้วนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลารถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนี้ในอนาคตมีแผนขยายมาจนถึงพุทธมณฑลสาย 4 เลยนะคะ แต่รอกันนานหน่อยนะ

สำหรับที่ดินแถวนี้มีโปรดักส์หลากหลาย มีตั้งแต่ทาวน์โฮมไปจนถึงบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความต้องการที่หลากหลายทั้งพนักงานจนถึงเจ้าของกิจการ แถมเป็นโซนที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ขับไปแป๊บเดียวถึงพระราม 2 ขึ้นทางด่วนเข้าเมือง หรือใช้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกข้ามไปฝั่งบางนาก็ได้นะ

หากมองในด้านความอุดมสมบูรณ์ เป็นทำเลที่เน้นขับรถออกมาหาของกินเป็นหลัก ใกล้สุดคือปั๊มปตท.บนถนนพุทธสาคร ที่อยู่ใกล้กับจุดกลับรถบริเวณคลองภาษีเจริญ ที่ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้า-ขาออกเลย ซึ่งเป็นปั๊มใหญ่มีร้านค้า ร้านอาหาร foodcourt ร้านสะดวกซื้อ(7-11) ให้บริการ ข้อดีคือแวะซื้อได้ทั้งขาไป-ขากลับบ้านเลยนะ

นอกนั้นห้างใหญ่ๆจะเกาะอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม ที่มีทั้งตลาดสด, Hypermarket (Big C, Tesco Lotus) และห้างสรรพสินค้า (The Mall บางแค, ซีคอนบางแค) หรืออาจจะลัดเลาะไปใช้งานในซอยสวนหลวง(ซอยเดียวกับโครงการ), ถนนบางบอน 3 และ 5 ที่มีความเป็นชุมชนสูง เป็นย่านที่มีตลาดสด ร้านค้า ร้านอาหารครบครัน

การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นบริเวณแยกสาครเกษม >ใช้สะพานข้ามแยกเพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนเพชรเกษม > จากนั้นกลับรถใต้สะพานก่อนข้ามคลองภาษีเจริญ ปล.สังเกตเห็นปั๊มปตท.ขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง > กลับรถมาเสร็จมาทางเข้าถนน 4001(ซ.สวนหลวง) > ขับไปไม่ถึง 100 ม. ฝั่งขวามือเห็นป้ายโครงการ รวมระยะทางประมาณ 5 km.

Image 1/10
วันนี้รถโล่งมาก เราเริ่มเดินทางบนถนนพุทธสาครมุ่งหน้าไปทางแยกสาครเกษม ซึ่งแยกนี้เค้ามีสะพานข้ามแยกให้ใช้งาน

วันนี้รถโล่งมาก เราเริ่มเดินทางบนถนนพุทธสาครมุ่งหน้าไปทางแยกสาครเกษม ซึ่งแยกนี้เค้ามีสะพานข้ามแยกให้ใช้งาน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

Villaggio เพชรเกษม – สาย4 ตั้งอยู่ห่างถนนพุทธสาครประมาณ 150 m. ที่ได้ความสงบมากขึ้น ไม่มีเสียงรบกวนจากรถยนต์เหมือนบ้านติดถนนใหญ่ นอกจากนี้รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างรอการพัฒนา และด้านข้างก็เป็นหมู่บ้านจัดสรรของทาง LH เอง ซึ่งพอเป็นบ้านแนวราบเหมือนกันก็มีเสียงรบกวนน้อยนะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ พื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บริษัทขนาดใหญ่ + พื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนภาระจำยอม(ทางเข้า) + ซอยสวนหลวง
  • ทิศตะวันตก ติดกับ Anya เพชรเกษม – สาย4

ถนนด้านหน้าเป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้รวมกันหลายๆโครงการ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการใดโครงการหนึ่ง ซึ่งในอนาคตอาจจะยกให้เป็นสาธารณะประโยชน์

สำหรับทางเข้าแรกเป็นซุ้มประตูโครงการ Villaggio เพชรเกษม – สาย4 ส่วนถ้าขับเข้าไปด้านในจะมีทางเข้าโครงการอีก 2 แห่งของทาง LH นั้นก็คือ Anya เพชรเกษม-สาย4(บ้านแฝด 2 ชั้น) และ มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4(บ้านเดี่ยว 2 ชั้น)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Tesco Lotus กระทุ่มแบน 8 km.
  • Big C อ้อมใหญ่ 9 km.
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี 12 km.
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค 13 km.
  • โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี 13 km.
  • ศูนย์การแพทย์ กาญจนาภิเษก 13 km.
  • มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา 14 km.
  • The Mall บางแค 14 km.

รายละเอียดโครงการ

ก่อนจะไปชมโครงการเราขอพูดถึงแบรนด์สักนิดนะคะ โดยแบรนด์ Villaggio เป็นโครงการลูกผสม ที่มีหลายโปรดักส์ภายในโครงการ มีทั้งบ้านเดี่ยวVSบ้านแฝด, บ้านแฝดVSทาวน์โฮม ส่วนการออกแบบสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์ยุโรป พร้อม Landscape สวยงาม ซึ่งเป็นจุดชูโรงของทาง LH ที่ใส่ใจกับการเลือกต้นไม้ภายในโครงการ และบ้านพักอาศัย เรียกได้ว่าเอาใจคนรักต้นไม้เลยนะคะ

Villaggio เพชรเกษม – สาย4 ลักษณะที่ดินแนวยาวบนที่ดิน 48.2 ไร่ ทั้งหมด 397 ยูนิต ภายในมีทั้งบ้านเดี่ยว,บ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น โดยเน้นขายที่ทาวน์โฮมเป็นหลักเพราะมีจำนวนเยอะสุด รองมาเป็นบ้านแฝด และบ้านเดี่ยวที่มีเพียง 8 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันขายหมดแล้ว ดังนั้นวันนี้เราขอพูดถึงเฉพาะบ้านแฝดและทาวน์โฮมนะคะ

ตัวโครงการเปิดมาแล้ว 2 ปี โดยไล่ขายจากด้านหน้าเข้าไปด้านใน ซึ่งโซนแรก Sold Out ทั้งหมดแล้ว เหลือแต่โซนด้านหลังที่มีบางส่วนอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เราเลยจะขอพูดถึงโซนที่ยังเปิดขายอยู่นะคะ สำหรับโซนนี้แบ่งฝั่งขวามือเป็นบ้านแฝด และฝั่งซ้ายเป็นทาวน์โฮม ข้อดีคือโซนด้านหลังโครงการจัดสวนหย่อมมาให้เพิ่มอีก 1 จุด ทดแทนการใช้อาคาร Clubhouse เพราะอยู่ลึกเข้ามา

ส่วนผังโครงการวางถนนหลักไว้ตรงกลางยาวจนถึงด้านหลัง (กว้าง 16, 12, 9 m.) แล้วซอยย่อยเป็นบ้านพักอาศัย (กว้าง 8 m.) ข้อดีคือมีเพื่อนบ้านร่วมซอยไม่เยอะ ได้ความเป็นส่วนตัวดี อีกทั้งตัวบ้านยังหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับลมได้ดี แถมแดดก็ไม่ร้อนอีกด้วย

ด้านหน้าโครงการจัด Landscape สวยงาม มีบ่อน้ำที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น ^^ และตกแต่งด้วยน้ำพุ เวลาอยู่ใกล้แล้วจะได้ละอองน้ำเย็นสบาย

ซุ้มประตูทางเข้าออกแบบมาในสไตล์ Urban Cottage หรือหมู่บ้านแถบยุโรป เน้นเป็นหลังคาทรงสูง + โทนสีฟ้า,แดงที่ดูทันสมัยดี ป้อมรปภ.อยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ดูแลได้ทั่วถึง แต่ที่แปลกนิดๆคือซุ้มประตู ที่ฝั่งขาเข้าเป็นแบบกลางแจ้ง เวลา Visitor มาติดต่อ อาจจะโดนแดดแรง+เปียกฝนได้นะ

ทางเข้าแบ่ง 2 ฝั่ง สำหรับ Visitor และลูกบ้านแยกกันใช้งาน ลูกบ้านเข้าด้วยคีย์การ์ด ระบบ RFID ใช้งานเหมือน Easy pass บนทางด่วน ไม่ต้องยื่นมือออกมาแตะสะดวกดี แถมบริเวณนี้ติดกล้อง CCTV ไว้ส่องป้ายทะเบียนรถ และหน้าคนขับรถ ที่ยิ่งได้ความปลอดภัยมากขึ้น

อาคารด้านหน้าปัจจุบันเป็น Sales Office หรือสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตอาจจะปรับเป็นพื้นที่ Co-workin Space ของลูกบ้านนะคะ

สำหรับภายในมีชุดที่นั่งมาให้หลากหลาย ทั้งชุดโซฟาและที่นั่ง 2-3 คน โดยตกแต่งมาในสไตล์วินเทจยุโรปนิดๆ พร้อมโทนมีที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั่งนั่งเล่น นั่งทำงาน หรือติดต่องานก็ได้นะ

รั้วรอบโครงการเป็นผนังทึบสูง 3.6 m. ที่ค่อนข้างปลอดภัยดี ส่วนถนนหลักกว้าง 16 m. สองข้างทางเป็นพุ่มไม้และต้นไม้ใหญ่ ถ้าต้นไม้โตน่าจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้ได้อยู่นะ

อาคาร Clubhouse มี 2 อาคาร โดยอาคารแรกเป็นชั้นเดียวแบบ Outdoor และถัดเข้าไปเป็นอาคาร 2 ชั้น ตำแหน่งอาคารหันออกพื้นที่สวนหย่อม และยกระดับจากพื้นดินประมาณ 1.5 m. ที่เวลาใช้งานค่อนข้างเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังเลือกต้นปาล์ม และต้นสนฉัตร ที่ดูสอดคล้องกับตัวอาคาร

ตัวอาคารตกแต่งด้วยหินประดับ ที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโครงการ โดยบริเวณนี้มีวางชุดโซฟามาให้นั่งเล่นรับลมชิวๆ ^^

ถัดมาด้านในเป็นอาคารทรงสูง ที่ด้านบนคล้ายปล่องไฟแบบบ้านยุโรป พร้อมโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการสีฟ้า,แดง ที่ตัวอาคารดูสดใสน่าใช้งานค่ะ

สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 20 x 10 m. ที่ไม่รวมกับสระเด็ก สามารถว่ายน้ำจริงจังได้เลย ส่วนสระเด็กจะอยู่ใต้อาคารขนาด 7 x 3 m. ลึก 60 cm. ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวันนอกจากนี้ข้างสระยังมี Day Bed มาให้นั่งรับแสงแดดอ่อน เพราะมีต้นไม้ช่วยบังอยู่

ก่อนลงสระมีจุดชำระร่างกายก่อน 1 จุด พร้อมห้องน้ำแยกชาย-หญิง ภายในมีทั้งอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์มาให้ใช้งาน

ห้องออกกำลังกายอยู่ชั้นที่ 2 ของอาคาร Clubhouse เราพาขึ้นไปดูบรรยากาศด้านบนกันค่ะ

ขึ้นมาด้านบนเจอพื้นที่นั่งเล่น Semi-Outdoor ที่เอาไว้นั่งเล่นชิวๆ

ห้องฟิตเนสมีอุปกรณ์ครบครัน ทั้งเครื่อง Cardio และ Weight Training ส่วนผนังฝั่งหนึ่งเป็นหน้าต่างไว้มองวิวด้านนอก ^^

สำหรับวิวชั้นบนมองออกไปเห็นทั้งสระว่ายน้ำ และสวนหย่อมขนาดใหญ่ บรรยากาศดูร่มรื่นน่าใช้งานด้วยพื้นหญ้า และต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาลงไปดูกันใกล้ๆค่ะ

สวนหย่อมกลางแจ้งปูพื้นหญ้าให้เด็กวิ่งเล่น หรือสำหรับใครที่อยากออกกำลังกายพวกเต้นแอโรบิค โยคะ ก็มาใช้งานยามเย็นได้นะ

ถัดมาเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่นที่ปูพื้น Absorption และพื้นหญ้ามาให้ เวลาเด็กๆหกล้มจะได้ไม่เจ็บมากนะคะ ซึ่งต้องบอกว่าที่นี่จัดเต็มเรื่องของเล่น มีทั้งชิงช้า สไลเดอร์ ม้าหมุน ไม้กระดก ม้าโยก เป็นต้น พร้อมที่นั่งให้ผู้ปกครองมานั่งรอได้ด้วยนะ

สำหรับถนน Main ตรงกลางหลังผ่านวงเวียนแรกไปจะลดลงเหลือ 12 m. ซึ่งกรณีที่มีรถจอด 2 ฝั่ง ก็ยังขับสวนทางได้สบายๆ โดยระหว่างทางมีปลูกพุ่มไม้ และต้นไม้ใหญ่ ให้บรรยากาศดูร่มรื่นดี

เข้ามาโซนด้านในมีสวนหย่อมอีก 1 จุด ที่เอาไว้ให้ลูกบ้านที่อยู่โซนนี้เดินใช้งานได้ง่าย  เนื่องจากอยู่ไกลจากอาคาร Clubhouse พอสมควร

สวนหย่อมที่นี่จัดมาในสไตล์ยุโรป ที่ชอบเลยคือสีดอกไม้ Forgot Me Not สีม่วง,สีขาว สวยงามดีเลย พร้อมออกแบบทางเดินโค้งไปตามสวน และมีที่นั่งมาให้ชวนครอบครัวออกมาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

ถนนซอยย่อยกว้าง 8 m. กรณีที่มีรถจอดหน้าบ้านยังพอขับรถสวนทางก็ได้อยู่นะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse ประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 20×10 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 7×3 เมตร ลึก 60 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย
  • พื้นที่สวนสาธารณะในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 600 ตร.วา, 400 ตร.วา
  • พื้นที่สวนหย่อม 1 จุด 90 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 5 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3.6 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 16, 12, 9 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
  • Key Card Access ระยะ RFID แบบ Easy Pass
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • บ้านแฝดสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ทุกหลัง

แบบบ้าน

โครงการ Villaggio เพชรเกษม – สาย4 เป็นโครงการที่มีให้เลือกทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มีรายละเอียดดังนี้

  • Gemini : ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม.
    – หน้ากว้าง 5 เมตร : ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.48 ล้านบาท
  • Shuttery : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
    – หน้ากว้าง 6.5 เมตร : ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท

โครงสร้างบ้านเป็น Precast Concrete หรือผนังสำเร็จรูป ซึ่งเป็นวัสดุที่ลดปัญหาจากการก่อสร้างบ้านแบบสมัยก่อนได้ดี เนื่องจากเป็นผนังสำเร็จมาจากโรงงาน ตัวผนังเรียบและแข็งแรงทนทานเท่ากันทั้งผืน แต่ก็มีข้อเสียคือผนังแบบนี้จะไม่สามารถทุบผนังได้ แต่ก็ยังพอที่สามารถเจาะผนังเพื่อแขวนของเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ

Shuttery : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ภายในบ้านติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor มาให้ที่ประตูหน้าต่างชั้นล่างทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

ชั้นล่าง – ตัวบ้านหน้ากว้าง 6.5 m. พื้นที่จอดรถ 5.5×5.2 m. ที่จอดรถ 2 คันได้กำลังดี เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ยาวจนถึงหลังบ้าน ที่แสงส่องได้ทั่วถึง โดยมีพื้นที่นั่งเล่น+พื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนห้องครัวปิดทำอาหารจริงจังได้เลย ไม่ต้องเดินออกไปทำอาหารหลังบ้านนะ ใต้บันได้มีห้องเก็บของมาให้ด้วย ติดกันมีห้องน้ำชั้นพร้อมที่อาบน้ำให้ใช้งาน

ชั้นบน – มี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยห้องน้ำเข้า-ออก 2 ทาง จากโถงรวมและห้องนอนใหญ่ ซึ่งเวลาเร่งด่วนอาจจะใช้ไม่ทัน ต้องเดินลงไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างแทน สำหรับห้อง Master Bedroom จัดฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่ Walk-in Closet แยกใช้งานส่วนตัว ส่วนห้องนอนเล็กวางเตียงใหญ่ได้ทุกห้อง

บ้านแฝดที่นี่ใช้ผนังร่วมกันตรงกลาง แต่หลังคาแยกกันอารมณ์บ้านเดี่ยว โดยปกติบ้านแฝดทั่วไปจะใช้ผนังแผ่นเดียวกันระหว่างบ้าน 2 หลัง แต่ความพิเศษคือบ้านแฝด LH เลือกใช้ผนังสำเร็จรูป 2 แผ่น ประกบกันและเว้นช่องตรงกลางประมาณ 3 cm. เพื่อป้องกันเสียงรบกวน ส่วนตัวมองว่าเป็นการแก้ปัญหาของบ้านแฝดที่ชอบมีเสียงรบกวนกันได้ดีเลย

ส่วนสไตล์การออกแบบยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกับตัวโครงการ ที่ทำให้ตัวบ้านมีกลิ่นอายความเป็นยุโรปนิดๆ โดยผนังชั้น 2 เลือกเป็นหินตกแต่งที่ทำให้ตัวบ้านดูหรูมากยิ่งขึ้น ส่วนสีบ้านจะคละกันไปมีตั้งแต่สีเขียวอ่อน, สีส้มอ่อน และสีเทาอ่อน

ประตูรั้วบ้านเป็นรางเหล็กสีขาว 2 ตอน เลื่อนเปิดไปทางเดียวที่ติดตั้งเครื่องเปิด-ปิดอัตโนมัติเพิ่มได้ เวลากลับบ้านจะได้ไม่ต้องเดินลงมาเปิดประตูเอง

พื้นที่จอดรถโครงสร้าง Slab On Ground ที่แยกจากตัวบ้าน เวลาทรุดตัวในอนาคตจะได้ไม่กระทบกับตัวอาคาร โดยพื้นเทคอนกรีตมาเรียบร้อย พร้อม Slope เอียงลงไปที่รางระบายน้ำหน้าบ้าน / ที่จอดรถเป็น 2 คันกลางแจ้งขนาด 5.2 x 6 m. ที่สามารถจอดรถกระบะหรือรถ SUV ได้สบายๆเลย

พื้นที่สวนหย่อมในบ้านปูพื้นหญ้า ปลูกพุ่มไม้ จัดดอกไม้ประดับ และต้นไม้มาให้ ซึ่งแต่ละหลังจะได้ชนิดไม่เหมือนกัน แนะนำให้ไปเดินดูบ้านของจริงแล้วค่อยตัดสินใจซื้อ ^^

หน้าบ้านมีเฉลียงเอาไว้นั่งเปลี่ยนรองเท้า หรือวางตู้รองเท้าเพิ่มเติม เวลาใช้งานจริงพื้นที่ภายในบ้านจะไม่สกปรกค่ะ

เปิดประตูเข้ามาเจอ Common area ขนาดใหญ่ ยาวจนถึงหลังบ้าน พร้อมหน้าต่าง 3 ฝั่งที่รับแสงได้เต็มที่ และทำให้ภายในดูกว้างมากขึ้น พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 cm. และมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3.5 m. ซึ่งถ้าใครที่ชอบดูทีวีจอใหญ่ๆเลือก 50″-55″ ได้เลยเป็นขนาดที่สบายตาค่ะ

โดยปกติบ้านทั่วไปจะซ่อนงานระบบไว้ด้านบน ทำให้พื้นถึงฝ้ามีความสูงได้ไม่มาก แต่ทาง LH มีการรวมงานระบบและท่อต่างๆเอาไว้จุดเดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุงในอนาคต และส่วนที่ไม่มีงานระบบก็สูงถึง 2.7 m. ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งมากขึ้น / ส่วนไฟบ้านจริงบริเวณชั้นล่างเป็นโคมไฟซาลาเปา

บริเวณนี้สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางวางของได้สบายๆ

พื้นที่นั่งเล่นมีกระจกเข้ามุม ที่หันออกสวนด้านข้างบ้าน ทำให้เรามองเห็นวิวสวนหย่อมได้กว้างมากขึ้น ซึ่งก็ดูเป็นกิมมิคของทาง LH ที่ต้องการให้ Take View ได้มากขึ้น

ด้านหน้าห้องครัวมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่งกำลังดี โดยบริเวณนี้มีประตูบานเลื่อนเชื่อมกับพื้นที่สวนหย่อมด้านข้างบ้านค่ะ

ห้องครัวปิดขนาด 2.35 x 2.85 m. เหมาะทำอาหารจริงจัง โดยพื้นจะลดระดับเล็กน้อย เวลาทำความสะอาดจะได้ไม่กระเด็นออก / ส่วนที่ชอบเลยคือมีกระจกเข้ามุมให้ฟังก์ชันการใช้งานดูต่อเนื่องกัน / สำหรับบ้านของจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆพร้อมงานระบบมาให้เรียบร้อย

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านเป็นลักษณะ Slab On Ground ที่ออกมาใช้งานได้นิดหน่อย

บริเวณกลางบ้านเป็นตำแหน่งบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งก่อนจะขึ้นไปชั้นบน เราของพาไปดูห้องเก็บของและห้องน้ำชั้นล่างกันก่อนนะคะ

พื้นที่บริเวณนี้มีการลด Step ลงมาเล็กน้อย เพื่อให้พื้นถึงฝ้าเหมาะสมในการใช้งาน ขอเริ่มที่ห้องเก็บของ(ใต้บันได) สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้

ห้องน้ำมีพื้นที่ใช้งานกำลังดี พื้นที่อาบน้ำลงประมาณ 30 cm. ซึ่งถ้าใครกลัวน้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอก เราแนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำหรือผ้าม่านเพิ่มเองได้นะ

อุปกรณ์ภายในครบครันมีอ่างล้างหน้า+โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard พร้อมฝักบัว Hand Shower ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้หลากหลาย

โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่มีความแน่นและแข็งแรงคงทน เวลาเดินจะไม่มีเสียงรบกวน ส่วนชานพักที่นี่เป็นลักษณะสามเหลี่ยมทั้งหมด ทำให้เวลาขึ้น-ลงต้องเดินระมัดระวังกันหน่อย หรือแนะนำให้ติดราวจับเพิ่มเติมนะ นอกจากนี้ด้วยความเป็นโถงบันไดตรงกลางบ้านทำให้มีช่องแสงน้อย อาจจะต้องติดโคมไฟใหญ่ๆเพิ่มเติมแทน

เดินขึ้นมาชั้นบนมีโถงเล็กๆเอาไว้แจกจ่ายไปยังห้องนอนต่างๆ โดยตรงกลางเป็นห้องน้ำรวมที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน / พื้นชั้นบนเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm.

ห้องน้ำชั้นบนวางเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งานอ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งที่ใช้งานง่ายดีค่ะ

ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากโถงบันไดและห้องนอนใหญ่ ความพิเศษในห้องน้ำมี 2 จุด คือโถสุขภัณฑ์แบบออโต้ใช้งานง่าย และอีกจุดคือที่นั่งมาให้ใช้งานเพิ่มเติม หรือจะวางอุปกรณ์อาบน้ำก็ได้นะ

ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่เท่าหน้ากว้างตัวบ้าน โดยวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมพื้นที่เหลือข้างเตียงเอาไว้วางเก้าอี้อ่านหนังสือชิวๆ

ห้องนอนใหญ่สามารถกั้นเป็น Walk-in Closet ขนาด 2.6 x 1.4 m. ที่ดูบ้านตัวอย่างเป็นไอเดียได้นะ พร้อมกระจกเข้ามุมที่ทำให้มองวิวได้กว้างมากขึ้น

ถัดมาห้องนอนเล็กแรก เป็นตำแหน่งห้องที่ได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง ที่บรรยากาศโปร่งโล่งมากขึ้น โดยบ้านตัวอย่าง Built-in ฐานเตียงเต็มๆมาให้ดูเป็นไอเดีย พร้อมพื้นที่เหลือด้านข้างวางโต๊ะทำงาน+ตู้เสื้อผ้าได้ด้วย

ห้องนอนขนาด 3.4 x 3.15 m. ซึ่งถ้าใครชอบนอนเตียงใหญ่ๆก็วางได้ แต่เราแนะนำให้วางเตียงชิดผนังไปเลยดีกว่า จะได้มีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้ด้วย

ส่วนอีกห้องจะเล็กกว่าห้องที่แล้วนะคะ พร้อมหน้าต่างที่เหลือเพียง 1 ฝั่ง เพราะด้านข้างติดกับผนังเพื่อนบ้าน โดยบ้านตัวอย่างจัดห้องทำงานมาให้ดูเป็นไอเดีย

ห้องนอนขนาด 2.9 x 2.9 m. ซึ่งใหญ่พอที่จัดฟังก์ชันอื่นๆอาทิ ห้องอ่านหนังสือ, ห้อง Home Theatre หรือถ้าใครเป็นสายช้อปปิ้งทำเป็นห้องเก็บของเพิ่มก็ได้นะคะ

แบบบ้าน Gemini : ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

ชั้นล่าง – ตัวบ้านหน้ากว้าง 5 m. จอดรถได้ 1 คันพอดี เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ยาวจนถึงหลังบ้าน พื้นที่นั่งเล่น+พื้นที่รับประทานอาหาร และครัวเปิด ที่ไม่เหมาะทำอาหารจริงจัง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์หน้าห้องเก็บของ(ใต้บันได) ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ ส่วนห้องน้ำด้านล่างเป็นแบบ Powder Room ค่ะ

ชั้นบน – มี 2 ห้องนอนที่มีขนาดห้องใกล้เคียงกัน พร้อมห้องน้ำในตัวแยกใช้งานชัดเจนส่วนตัวดี สำหรับห้องนอนวางเตียงใหญ่ได้สบายๆ ความพิเศษคือห้องนอนใหญ่มีกระจกเข้ามุมที่มองเห็นโถงบันไดด้านล่าง ช่วยให้แสงส่องได้เต็มที่ และมองเห็นคนใช้งานได้จากภายในห้องนอนเลย

สำหรับหน้าตาทาวน์โฮมที่นี่มีความพิเศษมากกว่าที่อื่น เนื่องจากทาง LH ไม่อยากให้หน้าตาบ้านทุกหลังเป็น Pattern เดียวเรียงกันเหมือนที่อื่นๆ โดยทางโครงการออกแบบให้หลังคาทรงจั่วสลับกับหลังคาเรียบ ซึ่งจะแตกต่างกันแค่หน้าตาภายนอกเท่านั้น ฟังก์ชันการใช้งานในบ้าน และความสูงเท่ากันหมดเลย

ทาวน์โฮมบ้านตัวอย่างเลือกใช้โทนสีครีม โดย Façade เป็นลักษณะเซาะร่องเหมือนแผ่นไม้พร้อมด้านล่างตกแต่งด้วยหินประดับที่ดูหรูหรามากขึ้น ส่วนบริเวณหลังคาทรงจั่วมีการตีหน้าต่างบานเกล็ด และบนจั่วมีมาตรแสดงเส้นทางลมรูปไก่แบบ Western Style ที่เป็นกิมมิคของทาง LH เลยนะคะ นอกจากนี้หน้าต่างยังตีกรอบเป็นช่องเล็กๆ ให้ดูเข้ากับสไตล์บ้าน

เริ่มที่ด้านหน้าบ้านมีกล่องไปรษณีย์+เลขที่บ้าน เวลาส่งพัสดุจะได้เห็นชัดเจน พร้อมกริ่งออดมาให้ใช้งานเวลามีคนมาหา รวมไปถึงมีประตูให้เจ้าหน้าที่เก็บขยะได้ง่าย โดยเชื่อมกับถังขยะภายในบ้าน ที่เป็นลักษณะฝาเปิดใส่ขยะได้ง่าย ส่วนรั้วบ้านเป็นระแนงเหล็กสีดำเปิด 2 ฝั่งความสูง 1.55 m. เท่ากับรั้วบ้านเลยค่ะ

ตัวบ้านหน้ากว้าง 5 m. สามารถจอดรถได้ 1 คันกำลังดี พื้นที่จอดรถเป็น Slab On Ground ที่เว้นกับโครงสร้างของตัวบ้าน ป้องกันการทรุดตัวในอนาคต ซึ่งบริเวณนี้จะไม่มีหลังคากันสาดมาให้ ถ้าใครกลัวรถร้อนตอนกลางวันต้องติดเพิ่มเติมเองนะคะ

จุดเด่นของทาง LH คือการจัดพื้นที่สีเขียวในบ้านแต่ละหลังแตกต่างกัน ยกตัวอย่างบ้านตัวอย่าง จะให้เป็นต้นสนฉัตร, แวววิเชียร, บุษบาฮาวายด่าง, เฟิร์นบอสตัน และเข็มบางกอก เป็นต้น โดยถ้าใครสนใจเวลาไปดูบ้านจริงจะมีชื่อต้นไม้แขวนให้ดูประกอบด้วย น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบทำสวนนะคะ

หน้าบ้านมีจุดที่น่าสนใจ 3 จุด จุดแรกคือชานพักด้านหน้าเอาไว้วางตู้รองเท้าก่อนเข้าบ้าน ถัดมาผนังตกแต่งด้วยหินประดับ ส่วนตัวรู้สึกทำให้บ้านดูหรูมากขึ้น สุดท้ายคือมีช่องแสงเยอะ ทั้งจากประตูทางเข้า, หน้าต่างด้านข้าง และช่องแสงบริเวณโถงบันได

Gimmick พิเศษของทาวน์โฮม LH คือชอบทำหน้าต่างเข้ามุมแบบนี้ เพื่อให้มุมมองกว้างมากขึ้น โดยมีหน้าต่างยื่นออกมาจากผนังขนาด 1.6 x 1.2 m. ลึก 45 cm. ที่เอาไว้วางของโชว์ได้เลยนะ

เปิดมาเป็นพื้นที่ Common Area ยาวจนถึงหลังบ้านโดยมีทั้งพื้นที่นั่งเล่น,โต๊ะรับประทานอาหาร และครัวเปิดรวมอยู่ที่เดียวกันเลยค่ะ ส่วนระยะดูทีวีกว้าง 3 m. เป็นระยะที่วางทีวีขนาด 40″ – 47″ กำลังพอดีกับสายตา

ตัวบ้านลึก 6.5 m. ที่แสงส่องได้ทั่วถึงภายในไม่มืดทึบ ภายในบ้านปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. พื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.70 m. พร้อมฝ้าหลุมเซาะร่องแบบนี้เลย และติดไฟซาลาเปามาให้ 2 จุด / สำหรับห้องครัวเปิดไม่เหมาะทำอาหารจริงจัง เอาไว้เป็นมุม Pantry เตรียมอาหารเล็กน้อยๆได้ ส่วนถ้าใครชอบทำอาหารแนะนำให้ออกไปใช้พื้นที่หลังบ้านแทนนะคะ

ด้านข้างครัวมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 4 ที่นั่งกำลังดี

มุมอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 1.8 x 1.6 m. ที่สามารถ Built-in ชั้นวางของแบบบ้านตัวอย่างก็ได้นะคะ นอกจากนี้บริเวณใต้บันไดมีห้องเก็บของมาให้ด้วย

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ใช้งาน มีเฉพาะอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เท่านั้น แถมมีหน้าต่างบานกระทุ้งเอาไว้ระบายความชื้นได้ดี

อ่างล้างหน้าขนาด 54 x 30 cm. แบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ+ที่ใส่กระดาษทิชชู่ จาก American Standard

ประตูหลังบ้านเป็นบานเลื่อน 2 ตอน พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสงเหมือนกันทั้งหลัง ที่ป้องกันแสง UV ได้ดีมากขึ้น โดยหลังบ้านมีพื้นที่กว้างประมาณ 2 m. โดยฝั่งหนึ่งเอาไว้วางถังเก็บน้ำขนาดใหญ่

สำหรับบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่หน้าบ้านติดกับประตูทางเข้าบ้าน ข้อดีคือเวลากลับบ้านมาก็เดินขึ้นห้องได้สะดวกเลยค่ะ

โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดด้วยไม้ยางประสาน ที่มีความแน่นเวลาเดินไม่มีเสียงดังรบกวน โดยบันไดกว้าง 90 cm. ลูกตั้ง 17 cm. ลูกนอน 25 cm. พร้อมมือจับที่เดินใช้งานได้สบายๆ บริเวณโถงบันไดนอกจากช่องแสงด้านล่าง ยังมีช่องแสงจากห้องนอนเพิ่มเติม ที่ทำให้บรรยากาศภายในดูสว่างมากขึ้น

ขึ้นมาชั้น 2 เจอโถงเล็กๆเอาไว้แยกไปห้องนอน 2 ฝั่ง โดยบริเวณนี้เราสามารถ Built-in ตู้เอาไว้วางของเพิ่มเติมได้นะ ส่วนพื้นชั้นบนเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm.

ห้องนอนเล็กหันออกหลังบ้าน พร้อมหน้าต่างบานเลื่อนให้เปิดระบายอากาศได้ โดยพื้นที่ห้องขนาดประมาณ 3.35 x 3.5 m. ที่วางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆเลย / ส่วนไฟในห้องของจริงเป็นโคมซาลาเปานะคะ

ส่วนถ้าใครชอบพื้นที่กว้างหน่อยแนะนำให้วางเตียง 3.5 ฟุตชิดผนังตามบ้านตัวอย่าง ด้านข้างจะมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้าได้เป็นสัดส่วน

บริเวณมุมที่เว้าเข้าไปขนาด 2.3 x 0.9 m. ที่สามารถจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆก็ได้นะ

ห้องน้ำอุปกรณ์ครบครันตามมาตรฐาน อ่างล้างมือ,โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่ยืนอาบน้ำ โดยพื้นที่ภายในแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งด้วยการยกระดับพื้นชัดเจน ส่วนตัวคิดว่าเวลาอาบน้ำน่าจะมีน้ำกระเด็นแน่นอน แนะนำให้ติดฉากกั้นเพิ่มเติม / ส่วนตำแหน่งห้องน้ำติดหลังบ้านที่มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ระบายอากาศค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.32 x 0.92 m. ที่ยื่นใช้งานสบายๆ โดยห้องน้ำนี้มีจุดระบายน้ำเพียง 1 จุด ที่ทำให้มีส่วนหนึ่งทำเป็นช่อง เพื่อให้น้ำจากส่วนแห้งระบายลงท่อได้ง่าย แต่ถ้ากรณีที่มีน้ำขังบริเวณพื้นที่อาบน้ำส่วนอื่นๆก็จะเปียกไปด้วยนะคะ ส่วนตัวมองว่าทำเป็นพื้นลดระดับ หรือทำรูระบายน้ำเพิ่มแทนดีกว่าค่ะ

ฝักบัวแบบ Hand Shower ที่สามารถปรับระดับการไหลของน้ำได้

เรามาดูห้อง Master Bedroom กันต่อค่ะ โดยทางเข้าห้องจะมีโถงเล็กๆก่อนถึงส่วนพักผ่อน ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ และขวามือเป็นพื้นที่โล่งๆสำหรับทำชั้นวางของเพิ่มเติม

พื้นที่โล่งๆตรงข้ามหน้าห้องน้ำกว้างประมาณ 1 m.

ส่วนห้องน้ำเป็นแนวลึกที่เรียงลำดับการใช้งานได้ดี แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งด้วยพื้นภายในห้องน้ำ พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.36 x 0.8 m. ที่ยืนอาบน้ำได้สบายๆ ส่วนฝักบัว Hand Shower ที่ปรับระดับน้ำได้เช่นกันค่ะ

ภายในห้อง Master Bedroom วางเตียง 6 ฟุต พร้อมพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ ที่จัดวางโต๊ะหัวเตียง หรือตู้เสื้อผ้าตามบ้านตัวอย่างได้

ภายในห้อง Master Bedroom มีช่องแสงใหญ่ 2 จุด โดยนอกหน้าต่างมีพื้นที่สำหรับวางกระบะดอกไม้มาให้ เพิ่มบรรยากาศในห้องนอนให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น / นอกจากนี้ปลายเตียงยังมีพื้นที่เหลือเยอะให้วางโซฟานั่งเล่นส่วนตัวได้

ห้องนี้มีช่องแสงเข้ามุมให้มองลงไปบริเวณโถงบันไดได้ สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มเติมนะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

6 November 2020

  • Gemini : ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม.
    – หน้ากว้าง 5 เมตร : ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.48 ล้านบาท
  • Shuttery : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
    – หน้ากว้าง 6.5 เมตร : ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 56 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บถึง 31 ธันวาคม 2565
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

Villaggio เพชรเกษม – สาย4 โครงการอยู่ในย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ใกล้ถนนพุทธสาครที่เชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 และอยู่ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษมที่ใช้เข้า-ออกเมืองได้ง่าย บรรยากาศส่วนใหญ่มีความเป็นชุมชน หมู่บ้านจัดสรร ปะปนกับบริษัทอุตสาหกรรม ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าและทางด่วน ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ใกล้สุดมีปั๊มปตท.บนถนนพุทธสาคร หรือลัดไปซอยสวนหลวง,ถนนบางบอน 3 และ 5 ที่มีความเป็นชุมชนสูงร้านค้า ร้านอาหารครบครัน

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

โครงการมีทางเข้า-ออกแค่ทางเดียว ทำให้รักษาความปลอดภัยได้ง่าย มีรั้วสูง 3.6 m. และป้อมรปภ. พร้อมกล้อง CCTV 5 จุดทั่วโครงการ ทางเข้า-ออกแยกฝั่งลูกบ้านและ Visitor ที่ไม่รบกวนการใช้งานกัน ลูกบ้านใช้คีย์การ์ดระบบ RFID ส่วนบ้านแฝดติดตั้ง Magnetic ที่ประตูหน้าต่างชั้นล่างให้มาเป็นมาตรฐาน

การออกแบบโครงการ :

โครงการบนที่ดิน 48.2 ไร่ จำนวน 397 ยูนิต ภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 เฟส ส่วนแรกด้านหน้าใกล้ทางเข้า-ออก และพื้นที่ส่วนกลางขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเฟส 2 แบ่งโปรดักส์ฝั่งขวาบ้านแฝด ฝั่งซ้ายทาวน์โฮม ส่วนผังโครงการเป็นถนน  Main วางตรงกลางยาวจนถึงด้านหลัง (กว้าง 16, 12, 9 m.) แล้วแบ่งเป็นซอยย่อย(กว้าง 8 m.) ทำให้มีเพื่อนบ้านร่วมซอยไม่เยอะได้ความเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งตัวบ้านยังหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับลมได้ดี แถมแดดก็ไม่ร้อนอีกด้วย

การออกแบบบ้าน :

ทาวน์โฮม : ทาวน์โฮมเป็นแบบ Western Style ที่ถ้าใครซื้อของ LH เป็นประจำน่าจะคุ้นเคยกันดี เด่นด้วยมาตรวัดรูปไก่บนหลังคา ^^ สำหรับโครงการนี้เลือกเป็นทาวน์โฮมขนาดเล็กพื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม. ที่เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นครอบครัว โดยเป็นบ้านที่จอดรถได้เพียง 1 คน ภายในชั้นล่างเป็นส่วนต้อนรับที่ต่อเนื่องกัน พื้นที่ครัวเป็นแบบเปิดไม่เหมาะทำอาหารจริงจัง แต่ที่ชอบคือชั้นบนเป็น 2 ห้องนอนที่มีขนาดใกล้เคียงกัน พร้อมห้องน้ำในตัวที่ได้ความเป็นส่วนตัวดี และที่สำคัญคือบริเวณโถงบันไดยังได้ช่องแสงจากห้องนอน แก้ปัญหาของทาวน์โฮมที่ชอบมืดทึบกลางบ้าน

บ้านแฝด : เป็นบ้านที่ใช้ผนังรวมกันตรงกลาง แต่แยกหลังคากันที่ความรู้สึกยังคล้ายๆบ้านเดี่ยวนิดๆ ที่แปลกว่าที่อื่นคือโทนสีของบ้านคละกันไป แต่ที่ชอบเลยสำหรับบ้านนี้คือกระจกเข้ามุมที่ให้มาหลายจุด ซึ่งนอกจากมองวิวกว้างขึ้นแล้ว ยังทำให้ฟังก์ชันการใช้งานต่อเนื่องกันด้วย สำหรับบ้านหลังนี้จะได้เป็นครัวปิดเหมาะกับคนที่รักการทำอาหารนะ ถัดไปชั้นบนมี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เวลาเร่งด้วนอาจจะต้องลงไปใช้งานด้านล่างแทนนะคะ ส่วนพื้นที่ห้องนอนวางเตียงใหญ่ได้ทุกห้องเลยนะ

วัสดุ :

ทาวน์โฮม : วัสดุตามมาตรฐานทั่วไป โครงสร้างบ้านเป็น Pre-Cast พื้นด้านล่างเป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 cm. พื้นชั้นที่ 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. ประตูหน้าต่างกรอบอลูมิเนียม + กระจกสีเขียวตัดแสง ที่ป้องกันแสง UV ได้ดี ถัดไปบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินไม่มีเสียงรบกวน ปิดท้ายด้วยสุขภัณฑ์ในห้องน้ำยี่ห้อ American Standard ทั้งหมด พื้นถึงฝ้าชั้นล่าง 2.7 เมตร

บ้านแฝด : สำหรับบ้านแฝดทั้งโครงสร้างและวัสดุเหมือนกับทาวน์โฮมเลย แต่ที่พิเศษขึ้นมาคือผนังตรงกลางเป็นลักษณะแผ่นสำเร็จรูปประกบกัน เว้นช่องตรงกลางเล็กน้อย เพื่อให้เสียงไม่รบกวนกัน และที่เพิ่มขึ้นมาอีกจุดคือโถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำชั้นบนเป็นแบบออโต้ใช้งานง่ายดีนะ (แล้วแต่คนชอบ)

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ภายในโครงการมีสวนหย่อมหลักๆ 2 จุด แต่มีพื้นที่สีเขียวกระจายรอบโครงการ เริ่มต้นด้านหน้ามีบ่อน้ำ+พื้นที่สีเขียว+น้ำพุ+อาคาร ที่ดูเข้ากันดี ถัดเข้ามาพื้นที่สวนหย่อมบริเวณอาคาร Clubhouse ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายทั้งมุมนั่งเล่น และวิ่ง Jogging เบาๆ รวมถึงมีโซนดอกไม้ Forget Me Not (สีม่วง,สีขาว) ที่เอาไว้ถ่ายรูปสวยๆด้วยนะ ถัดไปด้านในก็มีสวนอีกจุดเรียกได้ว่าจัดมาให้เต็มที่เลย นอกจากนี้สองข้างทางยังปูพื้นหญ้า+พุ่มไม้+ต้นไม้สูง ที่ช่วยสร้างทัศนียภาพให้กลมกลืนกัน ดูร่มรื่นดี แถมยังเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของบ้านแปลงมุมด้วยนะ

สาธารณูปโภค :

ส่วนตัวชอบการดีไซน์อาคาร Clubhouse ของโครงการ ที่เลือกสไตล์ Urban Cottage หรือสไตล์ยุโรปที่เป็นจุดชูโรงของแบรนด์นี้ แถมออกแบบฟังก์ชันการใช้งานให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่นการเอาสระว่ายน้ำหันออกพื้นที่สวน เวลาเล่นน้ำจะได้ไม่เขินอาย ส่วนฟิตเนสอยู่ชั้นบนที่ได้วิวมุมสูง บริเวณ Sales Office ปัจจุบันในอนาคตจะปรับเป็นพื้นที่ Co-working Space ส่วนพื้นที่สวนหย่อมเป็น highlight ของ LH ที่จัด Landscape มาให้สวยงาม ทั้งการเลือกประเภทดอกไม้ การออกแบบพื้นที่ให้เดินใช้งานท่ามกลางสวนสวยๆได้ ปิดท้ายด้วยสนามเด็กเล่นจัดเต็มของเล่นหลากหลาย พร้อมปูพื้น Absorption และพื้นหญ้ามาให้ ช่วยลดอาการบาดเจ็บของเด็ก

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 6 November 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – โครงการเข้าซอยไม่ลึกมาก ใกล้มีปั๊มปตท.ขนาดใหญ่บนถนนพุทธสาคร ส่วนค.อุดมสมบูรณ์กระจายตัวรอบๆโครงการ
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ลูกบ้านใช้คีย์การ์ด ระบบ Easy Pass พร้อมกล้อง CCTV ที่ทางเข้า-ออก และภายในโครงการ 5 จุด
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – มีทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม 2 ชั้น
    – ทาวน์โฮม 8/10 – พื้นที่ห้องนอนชั้นบนใกล้เคียงกัน พร้อมห้องน้ำในตัวแยกใช้งานเป็นส่วนตัว เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2-3 คนกำลังดี
    – บ้านแฝด 8/10 – ภายในมีกระจกเข้ามุมหลายจุด ทำให้เห็นวิวกว้างขึ้น และฟังก์ชันดูต่อเนื่องกันดี ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาดใหญ่ได้ทุกห้อง
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมกับการใช้งาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สวนหย่อม 2 จุด มีพื้นที่สีเขียวกระจายรอบๆโครงการ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นดี รวมถึงในบ้านก็จัดสวนมาให้ด้วย
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – อาคาร Clubhouse โดดเด่นด้วยสไตล์ Urban Cottage ที่มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปชัดเจน
  • รวม 7.73/10

BOTTOM LINE

Villaggio เพชรเกษม – สาย4 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านทำเลสงบ เดินทางสะดวก ดีไซน์ยุโรปชัดเจน มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน รวมถึงชอบความร่มรื่นมีพื้นที่สีเขียวเยอะ สามารถจัดสวนในบ้านได้ โดยมีทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม ที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2-4 คนในราคาเริ่มต้น 2.48-3.99 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 17,500 – 28,000 บาท


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc