รีวิวฉบับที่ 2017 …  วันนี้ได้มีโอกาสไปรีวิวโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮม บนถนนพหลโยธิน ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต กับโครงการ Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต จาก AP โครงการมีความโดดเด่นด้วย Clubhouse ขนาดใหญ่ ที่จัด Facilities ด้านในมาแบบครบครัน ตัวบ้านจัดฟังก์ชันออกมาให้สามารถปรับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ ในช่วงราคา 2.9 – 5 ล้านปลายๆ ไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 26 December 2019

  • Grande Pleno Phaholyothin-Rangsit (แกรนด์ พลีโน่ พหลโยธิน-รังสิต)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนพหลโยธิน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
  • เนื้อที่โครงการ 52 ไร่ จำนวน 383 ยูนิต
  • บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของบ้านแฝด ชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.80 เมตร
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของทาวน์โฮม ชั้น 1 – 2.80 เมตร / ชั้น 2 – 2.80 เมตร
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2562
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณ ปี 2565
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 14.004480, 100.627722
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยที่ถัดจากซอยคลองหลวง 2 ติดกับถนนพหลโยธิน เข้ามาในซอยประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใครอยู่ย่านนี้อาจจะคุ้นๆ บ้าง เพราะเป็นซอยเดียวกับโครงการรุ่นพี่อย่าง Pleno พหลฯ-รังสิต และ Centro พหลฯ-วิภาวดี ที่เป็นของ AP เช่นเดียวกัน

Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮมที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ซึ่งยังไม่ค่อยมีโครงการใหม่ๆ ทำติดถนนใหญ่นะ ส่วนใหญ่จะไปกระจุกตัวอยู่ในรังสิต-นครนายก ตามคลองต่างๆ มากกว่า ซึ่งการอยู่ในซอยของถนนเลียบคลองต่างๆ จะมีข้อเสียในเรื่องเสียเวลาเดินทางเยอะกว่าจะออกมาถึงถนนใหญ่ได้ โครงการนี้จึงได้เปรียบเรื่องการเดินทาง ซึ่งนอกจากจะออกถนนใหญ่ได้ง่ายแล้ว ยังสามารถลัดเลาะไปออกถนนรังสิตนครนายกได้ด้วย เพราะซอยนี้ไม่ใช่ซอยตันนะคะ อย่างไรก็ตามการเดินทางยังต้องพึ่งรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักค่ะ

จุดเด่นในการเดินทางมายังโครงการคือ สามารถใช้ทางยกระดับอุตราภิมุขเพื่อเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นบนถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธินได้ พอลงจากทางด่วนมาแล้วก็ไปกลับรถเพื่อมายังโครงการในระยะ 8.5 กม.

จากโครงการสามารถไปขึ้นทางด่วนได้ไม่ยากด้วยเช่นกัน โดยจุดทางขึ้นทางด่วนจะเลย Future Park รังสิต ไปหน่อย เราสามารถเลือกใช้ถนนพหลฯ หรือใช้ถนนรังสิต-นครนายก ก็เป็นทางเลือกในการเดินทางได้

สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการในระยะใกล้จะยังไม่มีนะคะ เพราะเป็นทำเลที่ไม่ได้อยู่ในแหล่งชุมชน แต่จากโครงการสามารถเดินทางไปแหล่งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ได้ง่ายมาก เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย เช่น ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต , เมเจอร์รังสิต , ไทวัสดุ(รังสิต) , Tesco Lotus และ 7-11 รวมถึงร้านอาหารและตลาดบริการมากมาย บริเวณถนนรังสิต – นครนายก โดยจากตัวโครงการแค่ขับตรงมาตามถนนใหญ่นิดเดียวก็ถึงห้าง ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต แล้ว ส่วนถ้าอยากหาของกินแบบง่ายๆ บนเส้นรังสิต – นครนายก ก็วิ่งออกด้านหลังโครงการทางคลองสองได้

การเดินทางเราจะเริ่มจากจุดที่ลงทางด่วนนะคะ แล้ววิ่งตรงไปยังจุดกลับรถ ซอยของโครงการจะถัดจากซอยคลอง 2 ด้านหน้าซอยจะมีป้ายหมู่บ้านแปะไว้เรียบร้อย แล้วตรงเข้าไปด้านในซอยประมาณ 1.5 กม. ก็จะถึงโครงการค่ะ

Image 1/15
วันนี้เราเริ่มต้นเดินทางบนถนนพหลโยธิน ฝั่งซ้ายที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญของย่านนี้อย่าง Future Park รังสิต, Zpell, Homepro และ Major Cineplex ค่ะ

วันนี้เราเริ่มต้นเดินทางบนถนนพหลโยธิน ฝั่งซ้ายที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญของย่านนี้อย่าง Future Park รังสิต, Zpell, Homepro และ Major Cineplex ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

พื้นที่โดยรอบโครงการ Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าที่ต้องรอการพัฒนาในอนาคต ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการดูเงียบสงบ โล่งๆ สบายๆ จะมีแปลงที่ดินฝั่งตรงข้ามซุ้มทางเข้าโครงการ พี่เซลล์เล่าให้ฟังว่าเค้ากำลังพัฒนาที่ดินทำอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ก็ต้องลุ้นกันว่าจะมีพวกร้านขายของมาเปิดบ้างไหมค่ะ เราสรุปพื้นที่รอบโครงการได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือของโครงการ ติดกับ หมู่บ้าน Centro พหลฯ-วิภาวดี ที่เป็นโครงการของ AP เช่นเดียวกัน
  • ทิศใต้ของโครงการ ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออกของโครงการ ติดกับ ถนนซอยที่ไปเชื่อมออกถนนเลียบคลอง 2 ได้
  • ทิศตะวันตกของโครงการ ติดกับ ที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 3.6 กม.
  • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ~ 4.4 กม.
  • ตลาดรังสิต ~ 4.4 กม.
  • รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีรังสิต (ในอนาคต) ~ 5.2 กม.
  • โรงพยาบาลปทุมเวช ~ 5.3 กม.
  • ไทวัสดุ รังสิต ~ 5.6 กม.
  • โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ~ 6.5 กม.
  • มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ รังสิต ~ 7.3 กม.
  • สนามกีฬาฐูปะเตมีย์ ~ 8.4 กม.
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 8.7 กม.
  • มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 9.3 กม.
  • ดรีมเวิร์ด ~ 9.5 กม.
  • โรงกษาปณ์ ~ 10.2 กม.
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 13.1 กม.
  • สนามบินดอนเมือง ~ 13.4 กม.

รายละเอียดโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮมจำนวน 383 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 52 ไร่  จุดเด่นของโครงการนี้คือ เค้าให้ Clubhouse และสวนส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ ดูทันสมัย และครบครัน ได้แก่ สระว่ายน้ำ, Fitness, Kid’s Room, Co-Working Space และสวนขนาดใหญ่ โดยวางตำแหน่งของ Clubhouse ไว้บนถนนหลักใกล้ทางเข้า ก็มีข้อดีตรงที่ลูกบ้านทั้งหมดจะได้เข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย (แต่ถ้าบ้านอยู่หลังในสุดก็คงต้องออกแรงเดินกันหน่อยไม่ก็ต้องขับรถมาค่ะ) ปัจจุบันตัวบ้านเริ่มทยอยสร้างเสร็จเป็นบางส่วน สำหรับพื้นที่ส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานได้แล้วค่ะ

การวางตัวของบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหาถนนซอยภายในโครงการที่กว้าง 9 ม. ทำให้บ้านทุกหลังอยู่ในซอยทั้งหมด จึงมีความเป็นส่วนตัวระดับนึง และมีบ้านแฝดบางส่วนที่หันหน้าเข้าหาถนนหลัก ก็ทำให้การเข้าออกบ้านสะดวกแต่ก็จะมีคนผ่านหน้าบ้านเราเยอะหน่อย การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการ หรือถ้าอยู่ใกล้ Clubhouse ก็ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปได้บ้างเหมือนกัน นอกจากนี้ก็จะมีบ้านหน้าสวนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบบ้านแฝดค่ะ

สำหรับทิศของบ้าน แบบบ้านแฝดส่วนใหญ่จะเป็นบ้านทิศเหนือใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกบ้านเลยทีเดียว บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่แรงกว่าและลมที่แรงกว่าด้วย สำหรับทาวน์โฮมจะมีให้เลือกทั้ง 4 ทิศเลย

บ้านของโครงการจะมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบที่เป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งบ้านใหญ่จะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน บ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบสร้างเสร็จแล้วสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่มีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆ และมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกบ้านแฝดก็ได้

โครงการทำซุ้มประตูให้มีขนาดใหญ่ ทำให้ดูโอ่อ่าทีเดียว โดยเป็นโครงแบบมีหลังคาไว้หลบฝนหลบแดดได้ ที่ซุ้มโครงการจัดแบ่งทางเข้า-ทางออกไว้ชัดเจน ดูเรียบร้อยสวยงามดี

ระบบรักษาความปลอดภัยที่บริเวณซุ้มทางเข้า-ออกด้านหน้าโครงการใช้ “ระบบ Katsan” เป็นระบบที่จะให้ลูกบ้านแจ้งเลขทะเบียนรถไว้ เมื่อมาถึงหน้าประตูโครงการกล้องจะอ่านเลขทะเบียน ถ้าตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ประตูก็จะเปิดอัตโนมัติค่ะ ถ้าบ้านไหนมีแขกมาพบก็สามารถแจ้งเลขทะเบียนรถของแขกไว้ได้ เมื่อแขกมาถึงระบบจะแจ้งไปยังลูกบ้าน เพื่อสอบถามอีกครั้งว่าให้เปิดประตูอัตโนมัติได้ นอกจากนี้ก็จะมีพี่ รปภ. ที่คอยดูแลอยู่ 24 ชม. ค่ะ

มาดูบรรยากาศภายในโครงการกันบ้าง ถนนหลักของโครงการจะมีความกว้าง 16 และ 12 เมตร เป็นขนาดมาตรฐานที่ทำให้การเดินรถสามารถสวนกันได้สะดวก

เราจะเห็นแนวต้นไม้คู่ขนานไปกับถนนหลักในโครงการเลย แต่เพราะโครงการเพิ่งลงต้นไม้ไปทำให้เค้ายังไม่แตกกิ่งกานออกมาให้ร่มเงามากนัก ในอนาคตคาดว่าน่าจะร่มรื่นขึ้นพอสมควรทีเดียว ด้านข้างทางเดินรถจะมีเลนขี่จักรยานไว้เอาใจนักปั่นกันด้วยค่ะ

เข้ามาด้านในจะเจอกับวงเวียนตรงกลางเพื่อแยกถนนออกไปยังซอยอยู่อาศัยย่อย ๆ

ฝั่งซ้ายของวงเวียนจะเป็นตำแหน่งของสวนส่วนกลางและ Clubhouse ซึ่งทางโครงการได้รวม Facilities ทั้งหมดไว้ในบริเวณนี้เลยค่ะ พื้นที่ภายในสวนมีขนาดใหญ่ทีเดียว และดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

ทางเดินภายในสวนจะมีแยกเส้นทางที่เป็นลู่วิ่งไว้ด้วย ใครที่วิ่งเป็นประจำก็คงจะชอบนะคะ เพราะเวลาวิ่งเนี่ย เราต้องการเส้นทางโล่งๆ เพื่อรักษาความเร็วไว้ค่ะ

นอกจากลู่วิ่งก็จะมีพื้นที่โล่งๆ ที่เปิดเป็นลานกิจกรรมไว้ด้วย เผื่อใครจะพาลูกๆ หลานๆ มาวิ่งเล่น เปลี่ยนบรรยากาศ

นอกจากนี้ก็จะมีอุปกรณ์ของเล่นเด็กติดตั้งไว้ด้วย ซึ่งมีลวดลายต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กๆ ได้

เส้นทางสำหรับจักรยานภายในโครงการก็จะมีการออกแบบมาให้ปั่นผ่านสวนด้วย

ภายในสวนจึงจะมีทั้งเลนสีเขียวสำหรับนักปั่นจักรยาน และเลนสีฟ้าที่เป็นลู่วิ่ง ส่วนตัวเราชอบนะ ที่มีการแยกกิจกรรมไว้อย่างเป็นสัดส่วน ด้านหลังเป็นอาคาร Clubhouse ขนาดใหญ่ ข้างในจะมีอะไรตามเข้าไปชมกันต่อเลยค่ะ

อาคาร Clubhouse จะถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้กระจกเป็นส่วนใหญ่ จึงดูโปร่งๆ ทันสมัย มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของลูกบ้าน 383 ยูนิต จึงน่าจะแบ่งกันใช้ได้สบายๆ แลกมากับค่าส่วนกลาง 33 บาทต่อตร.วา ก็ถือว่าเป็นเรทปกติ ของโครงการที่ส่วนกลางประมาณนี้

อาคาร Clubhouse มีการตกแต่งให้มีมุมนั่งเล่นริมน้ำ โดยขอบสระออกแบบให้เป็นระบบ Over flow คือแบบน้ำล้น ทำให้เกิดเสียงน้ำตกอยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนให้ดีขึ้นด้วยนะคะ

ทางขึ้นอาคาร Clubhouse ออกแบบมาให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นของผู้สูงอายุด้วย ทำให้การใช้งานสะดวกกับผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือขนาด 7.5×21 ม. ลึก 1.2 ม. เป็นสระในร่ม จึงสามารถใช้งานได้ทั้งวัน

ภายในแบ่งพื้นที่เป็นสระเด็กลึก 0.6 ม. แยกไว้ให้เรียบร้อย

ด้านข้างของสระว่ายน้ำมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำล้างตัว ติดกันเป็นห้องน้ำที่แบ่งเป็นห้องน้ำหญิง ชายและห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ

ภายในห้องน้ำมีช่องหน้าต่างให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ ภายในจึงดูโปร่งดี มีทั้งส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พอว่ายน้ำ หรือออกกำลังเสร็จก็มาล้างเนื้อล้างตัวก่อนกลับเข้าบ้านได้

ภายในแต่ละห้องก็ดูสะอาด เรียบร้อยดีนะคะ

Clubhouse ของที่นี่มีการออกแบบให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้ ทำให้อาคารดูโล่ง และมองเห็นกันได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เวลาที่ครอบครัวชวนกันมาพักผ่อน คุณพ่อคุณแม่อาจจะออกกำลังกายอยู่ที่ Fitness ชั้นบน ส่วนคุณลูกว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นล่าง ก็สามารถมองเห็นกันได้ค่ะ

บันไดขึ้นชั้นบนจะเป็นบันไดทรงโค้ง ให้บรรยากาศเหมือนพักผ่อนในรีสอร์ท

เดินขึ้นมาเรื่อยๆ ก็จะมีมุมสวยๆ ที่เปิดให้เห็นยอดต้นไม้เขียวๆ เข้ากับสีท้องฟ้า ดูผ่อนคลายดีค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นบนเราจะเจอ Co-Working Space เป็นส่วนแรก

บรรยากาศภายใน Co-Working Space จะเป็นห้องกระจกโล่งๆ ที่จัดเป็นมุมโซฟาไว้นั่งเล่น หรือทำงานได้ และยังมองออกไปชมวิวโดยรอบได้ด้วย

เดินเข้ามาด้านในอีกหน่อยก็จะมี Kid’s Room และ Fitness ค่ะ

บรรยากาศภายใน Kid’s Room จะจัดพวกเก้าอี้เด็ก ของเล่น ตุ๊กตาไว้เพียบเลย กลางวันแดดแสงส่องเข้ามาจ้าทีเดียว ต้องเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำๆ ก่อนค่อยเข้าไปใช้งานนะคะ

ส่วนตัวชอบให้มีมุมนั่งเล่นของเด็กแบบนี้ในหมู่บ้านนะคะ เพื่อให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่พบปะเพื่อนๆ มีที่ให้เค้าได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

มาดูห้อง Fitness กันต่อ เป็นห้องกระจกอีกเช่นกัน ทำให้ภายในดูโปร่ง เวลาออกกำลังไปก็ชมวิวรอบๆ ไปได้ ซึ่งทางโครงการจัดเครื่องออกกำลังกายให้มาประมาณ 10 เครื่อง

ภายในห้องจะมีมุมที่ออกแบบให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างเป็นส่วนตัว

เครื่องออกกำลังกายจัดมาให้ครบตอบโจทย์ให้กับคนที่ต้องการออกกำลังกายแบบ Cardio และแบบ Weight Training เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ
  • สระผู้ใหญ่ ขนาด 7.5×21 เมตร ลึก 1.2 เมตร/ แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร
  • ห้องออกกำลังกายขนาด ปานกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 2 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ n/a จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 16, 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • ระบบ Katsan
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน

แบบบ้าน

โครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งแบบบ้านแฝดและทาวน์โฮม ขายแบบบ้านเปล่า ดังนี้

  • แบบ Olivia : บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 12.89 ม. พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม. ขนาดที่ดินประมาณ 38.5 ตร.วา 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Zara : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ขนาดที่ดินประมาณ 20 ตร.วา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมแบบบ้านทั้ง 2 แบบ ตามไปชมกันเลยค่ะ

เรามาดูแบบบ้าน Olivia กันก่อนนะคะ สำหรับบ้านหลังนี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม. บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 38.5 ตร.วา ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ข้อดีของบ้านนี้คือการมีพื้นที่อเนกประสงค์ ที่เราสามารถปรับฟังก์ชันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้

จากแปลน พื้นที่ในชั้นล่างจะเปิดเชื่อมกันจากห้องนั่งเล่นถึงพื้นที่ทานอาหาร ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง ติดกันเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ หรือกั้นเป็นห้องผู้สูงอายุก็เหมาะ เพราะอยู่ใกล้กับโซน Living ดี ทำให้สามารถเดินไปดูแลผู้สูงอายุได้สะดวก ถัดไปเป็นห้องน้ำที่ออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่พอสมควรและแบ่งเป็นสัดส่วน ทำให้สามารถใช้อาบน้ำได้จริง ด้านในสุดที่ถัดจากห้องน้ำเป็นห้องครัวไทย ที่เป็นครัวปิดชัดเจนจึงสามารถทำอาหารได้จริง ไม่ต้องกลัวควันเข้าไปรบกวนพื้นที่พักอาศัยส่วนอื่นๆ

ชั้นบนแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน 3 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด โดยจะเป็น Master Bedroom 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ให้ทำ Walk-in Closet ได้ และมีห้องนอนอีก 2 ห้อง เป็นห้องนอนของลูกๆ บ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขยาย ที่มีสมาชิก 4-5 คนค่ะ

ก่อนเข้าตัวบ้านจะอธิบายเรื่องบ้านแฝดให้ฟังสักนิดคือ เป็นบ้านที่มีขนาดและพื้นที่ใช้สอยมากกว่าบ้านทาวน์โฮมทั่วไป แต่ก็จะน้อยกว่าบ้านเดี่ยว โดยจะมีขนาดที่ดินไม่ตำ่กว่า 35 ตารางวา และโดยทั่วไปจะมีขนาดที่ดินไม่เกิน 50 ตารางวา เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านและมีพื้นที่บริเวณรอบตัวบ้านฝั่งใดฝั่งหนึ่งให้สามารถจัดสวน หรือมีช่องเปิดมากกว่าบ้านแบบทาวน์โฮม อีกทั้งราคาก็มักจะไม่สูงเท่าบ้านเดี่ยวแต่ได้ฟังก์ชันการใช้งานคล้ายกับบ้านเดี่ยวเลย สำหรับบ้านแฝดจะมีข้อกำหนดในการก่อสร้างทางกฎหมาย คือจะต้องมีโครงสร้างส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน 2 หลัง ที่เชื่อมต่อกัน ในบางโครงการจะเชื่อมต่อส่วนนี้ไว้ทางด้านหลังของตัวบ้าน หรือซ่อนไว้ในโครงสร้างใต้อาคาร หรือไม่ก็สร้างติดกันให้เห็นอย่างชัดเจน

สำหรับบ้านแฝด 2 ชั้น ของที่นี่จะมีส่วนของโครงสร้างที่ต้องติดกันตามกฎหมายอยู่ตรงบริเวณผนังฝั่งหนึ่งของตัวบ้านที่ชั้น 1 เป็นการใช้โครงสร้างและผนังร่วมกันตรงบริเวณห้องครัว โดยจะมีพื้นที่หลังคาแยกส่วนกัน ลักษณะของตัวบ้านจะเหมือนกันแต่แค่พลิกกลับอีกฝั่ง ทำให้ช่องเปิดของบ้านแฝดลักษณะนี้จะมีช่องเปิดในชั้นล่างทั้งหมด 3 ฝั่งรอบตัวบ้าน จึงสามารถจัดพื้นที่สีเขียวหรือระเบียงรอบตัวบ้าน 3 ฝั่งรอบตัวบ้านได้ ส่วนชั้นบนจะได้ช่องเปิดทั้ง 4 ฝั่ง ไม่ต้องแชร์ผนังชั้นบนกับบ้านหลังอื่น ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย

โครงการออกแบบมาให้ความรู้สึกแบบ Timeless คือ ” ดูร่วมสมัยอยู่เสมอไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน” ทำให้ภายนอกของบ้านดูไม่หวือหวา แต่มีความคลาสสิค ดูเรียบร้อยค่ะ

ประตูรั้วหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นเหล็กรูปพรรณทาสี ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา เป็นบานเลื่อนยาวๆ ไม่มีแบ่งเป็นประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า-ออก รั้วระหว่างบ้านมีระยะที่ไม่สูงนักมีข้อดีที่ทำให้บ้านดูโปร่ง สามารถมองวิวด้านนอกบ้านได้สะดวก แต่ก็ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปได้เหมือนกัน

สำหรับพื้นที่จอดรถมีขนาดความกว้าง 4.7 ม. ลึก 6.6 ม. ก็สามารถจอดรถได้จริง 2 คัน แต่มีหลังคากันแดดอยู่แค่ครึ่งคันนะคะ บริเวณด้านหน้าบ้านส่วนนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านมักต่อเติมหลังคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด

พื้นลานจอดรถเป็น Concrete Stamp จึงทำความสะอาดง่าย แต่ไม่ได้ลงเสาเข็มนะ ถ้าใครกลัวพื้นบริเวณนี้ทรุดก็แนะนำให้จ้างช่างมาลงเสาเข็มเพิ่มตั้งแต่แรกๆ เลยค่ะ

บริเวณหน้าบ้านก็จะมีตู้เก็บของมาให้ เผื่อเอาไว้ใส่อุปกรณ์ทำสวน ส่วนที่ชอบเลยคือมีทางลาดจากที่จอดรถเชื่อมเข้าหาประตูหน้าบ้านด้วย ถ้าบ้านไหนมีผู้สูงอายุก็สามารถใช้รถเข็นได้สะดวก หรือเวลาเข็นกระเป๋าเดินทางเข้าออกก็สะดวกดีค่ะ

ด้านหน้าบ้านจะมีประตูทางเข้าทางเดียว คือทางเข้าจากประตูหลักที่จะเชื่อมกับห้องรับแขก พื้นเฉลียงหน้าประตูบ้านถูกยกระดับขึ้นจากสนามหญ้ามานิดหน่อย เพื่อแยกเป็นพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าหน้าบ้าน

ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานสวิง พอเปิดประตูพร้อมกันทั้ง 2 ฝั่ง จะมีช่องทางเดินเข้า-ออกบ้านกว้าง 1.8 ม. การตกแต่งของประตูที่มีการตีตารางลูกฟัก ทำให้ดูมีความหรูหรามากขึ้น ประตูเป็นแบบล็อค 2 ชั้นคือ ตัวล็อกแบบหมุน และมีตัวล็อกด้านบนล่างของประตูอีกชั้นหนึ่ง

เข้ามาภายในบ้านเป็นส่วน Common Area เชื่อมระหว่างพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร โดยมุมนี้จะได้บรรยากาศโปร่งโล่งเพราะมีหน้าต่างและประตูกระจกยาวเกือบตลอดตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้านเลยค่ะ

พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.8 เมตร ผนังบ้านจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60×60 ซม. ก็เป็นไปตามมาตรฐานของบ้านราคาระดับนี้

มาดูรายละเอียดทีละห้องกัน เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน โซฟาที่จัดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นชุดโซฟา 4 ที่นั่ง ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้ และมีระยะดูทีวีที่ 3 ม. จึงสามารถติดทีวีที่ใหญ่ถึง 60″ ได้เลยค่ะ

ถัดเข้ามาที่พื้นที่ทานอาหารที่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะขนาดใหญ่แบบ 6 ที่นั่งได้ ด้านหลังและด้านข้างของโต๊ะอาหารมีช่องแสงของตัวบ้านที่รับแสงเข้ามาจากทั้ง 2 ด้าน ทำให้เวลานั่งทานอาหารช่วงกลางวันจะร้อนสักนิด ต้องติดม่านช่วยนะคะ แต่ถ้าทำสวนรอบๆและมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาจะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้สบายๆ ค่ะ

ฝั่งข้างของโต๊ะทานอาหารมีประตูบานเลื่อนให้เชื่อมต่อออกไปบริเวณรอบบ้านได้ โดย Spec ของประตูบานเลื่อนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิด 2 ข้าง ขอบวงกบประตูบานเลื่อนจะถูกฝังให้อยู่ระดับเดียวกับพื้นบ้าน จึงใช้งานได้ง่าย ถ้าต่อเติมเฉลียงออกไปด้านนอกก็แนะนำให้ลดระดับพื้นเฉลียงลงไม่ให้เท่ากับพื้นในตัวบ้านนะคะ เพื่อให้น้ำจากภายนอกไม่ไหลเข้าสู่ตัวบ้าน

กรอบประตูถูกเก้บรายละเอียดมาเรียบร้อย โดยมีตัวล็อก 2 ชั้น และมีการติดเส้นกำมะหยี่ไว้เพื่อกันเสียงและฝุ่นจากภายนอก

ด้านหลังโต๊ะทานอาหารก็จะมีประตูบานเลื่อนให้เปิดออกไปด้านหลังบ้าน และเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ให้กับตัวบ้านด้วย

แนะนำให้ลดระดับของพื้นบริเวณด้านหลังบ้านลงจากพื้นบ้านเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำฝนจากบริเวณด้านหลังบ้านไหลเข้าไปสู่ตัวบ้านได้

บ้านตัวอย่างได้ลองจัดพื้นที่ด้านหลังบ้านมาให้ดู พอจัดเป็นมุมนั่งเล่นก็ดูน่าจะกลายเป็นมุมโปรดของคนในบ้านเลยทีเดียว และก็จะเป็นวิวดีๆ ให้กับบริเวณที่ทานอาหารได้ด้วยนะ ส่วนที่ชอบเลยคือการแต่งสวนแบบใช้ไม้พุ่มกั้นโซนพักผ่อน แยกออกจากโซนซักล้างหลังบ้าน ทำให้เราได้บรรยากาศของสวนสวยๆ แบบไม่ขัดตาค่ะ

ติดกันกับพื้นที่ทานอาหารจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ ไว้ให้ออกแบบ จัดฟังก์ชัน ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้เลย วัดขนาดตามเส้นประสีเหลืองได้ 2.67 x 2.6 ม. จะจัดเป็น Pantry ครัวในบ้าน เผื่ออยากใช้ในการเตรียมอาหารง่ายๆ เช่น อุ่นอาหารง่ายๆ หรือใช้วางจานชาม ก็สะดวกดี เวลาทานอาหารแล้วอยากได้อะไรเพิ่ม ก็เดินมาหยิบจากตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินเข้าไปเอาในครัว หรือจัดกั้นห้องสำหรับผู้สูงอายุก็สามารถวางเตียงนอนได้ค่ะ

ถัดจากพื้นที่อเนกประสงค์ไปทางอีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะเป็นทางเดินไปยังห้องน้ำและห้องครัว

สำหรับห้องน้ำที่ได้จะติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์มาครบถ้วนตามบ้านตัวอย่าง ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ที่แตกต่างกันคือผิวสัมผัส โดยพื้นในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะปูด้วยกระเบื้องผิวด้านเพื่อช่วยกันลื่น ต่างจากผนังและพื้นที่ส่วนแห้งที่จะมีผิวเคลือบ ดูเงาๆ สวยกว่า ซึ่งของจริงก็จะให้กระเบื้องลายแบบนี้เลยค่ะ

ส่วนที่ชอบเลยคือ เค้าออกแบบพื้นห้องน้ำให้ไม่มีธรณีประตู โดยการทำรางระบายน้ำไว้ตรงประตูห้องน้ำแทน ข้อดีคือไม่ต้องกลัวสะดุดเวลาเดินผ่านเข้า-ออกแล้วค่ะ

อ่างล้างมือและก๊อกน้ำของ American Standard ด้านหลังของผนังมีการก่อ Low Wall ขึ้นมาเป็นส่วนของงานระบบ ซึ่งเราสามารถเอาไว้ใช้วางข้าวของเครื่องใช้ได้

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ American Standard กับสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ

พื้นที่อาบน้ำถูกกั้นด้วยฉากกระจกนิรภัย ซึ่งเป็นบานเลื่อนเปิดปิด มีขนาดให้เดินเข้าออกได้สะดวก ทางโครงการเก็บรายละเอียดของขอบฉากกั้นอาบน้ำมาเรียบร้อย ด้วยการติดพลาสติกกันกระแทกตรงขอบประตูกระจก เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนมือจับประตูมีขนาดใหญ่สามารถจับได้สะดวก

สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัด กว้างประมาณ 1.35 x 0.8 เมตร พอให้ใช้งานได้สะดวก

ภายในพื้นที่อาบน้ำก็มีการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้ให้ของ American Standard ส่วนพื้นบริเวณที่อาบน้ำจะถูกลดระดับลงมาเล็กน้อย ทำให้เกิดความเป็นสัดส่วนของพื้นที่เปียก-แห้งในห้องน้ำ

ห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดและมาเป็นห้องเปล่า ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง เราสามารถดูไอเดียการตกแต่งได้นะคะ

เนื่องจากแบบบ้านเป็นบ้านหน้ากว้าง ทำให้ห้องครัวของบ้านได้หน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้านด้วย เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเปิดระบายอากาศได้นะคะ

ถ้าใครอยากใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุดแนะนำก็ทำเป็นครัวขนานประมาณนี้เลย สำหรับที่ใครทำอาหารทานเองบ่อยๆ แนะนำให้ติดกระเบื้องหรือกระจกที่ผนังด้วยนะ จะได้ทำความสะอาดง่าย และมีประตูทางด้านหลังบ้าน ทำให้เวลาปิดหน้าต่างทั้งหมดแล้วอากาศจะระบายได้ดีเลยนะคะ

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านเป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้า จะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัว เพื่อแยกพื้นที่ซักล้างออกจากพื้นที่อยู่ด้านในตัวบ้าน ทำให้น้ำจากลานซักล้างไม่ไหลเข้าไปในตัวบ้าน

สำหรับพื้นที่ด้านหลังบ้านจะปูกระเบื้องมาให้ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเราสามารถปลูกต้นไม้ได้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่มเลยนะคะ

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นโครงเหล็ก พื้นเป็นไม้สำเร็จรูป ตามมาตรฐานของบ้านราคานี้

ความกว้างของบันไดได้มาตรฐานให้เดินขึ้นลงได้สะดวกนะคะ

เนื่องจากโครงการต้องการประหยัดพื้นที่ของบันได เพื่อให้เราสามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด ทำให้ชานพักของบันไดจะไม่ได้เป็นพื้นที่กว้างๆ แต่จะถูกแบ่งเป็นขั้นบันไดเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้สะดวก

ช่องแสงของบันไดเป็นหน้าต่างบานใหญ่ จัดไว้ตรงกลางโถงบันได ทำให้ตัวโถงบันไดสว่างโล่งทีเดียว แต่ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวเพราะช่องหน้าต่างนี้จะตรงกับบ้านตรงข้ามพอดี จึงควรติดม่านโปร่งไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่ง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอ Master Bedroom อยู่ทางฝั่งซ้ายของบันได ฝ้าในชั้นนี้มีความสูง 2.8 ม. เท่ากับชั้นล่าง วัสดุพื้นชั้นบนจะได้เป็นพื้นลามิเนตค่ะ

เข้ามาดูห้อง Master Bedroom กันก่อนนะคะ ห้องนอนนี้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน มีครบทุกฟังก์ชัน ได้แก่ ห้องน้ำในตัว และ Walk-in Closet

ภายในห้องสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย และยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

บรรยากาศบริเวณนี้โปร่งโล่งดีเพราะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ทางหน้าบ้าน จึงเปิดรับแสงรับวิวได้เต็มที่ ถ้าจัดสวนหน้าบ้านสวยๆ ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศเวลาที่มองจากห้องนอนลงไปด้วยค่ะ

อย่างที่บอกไปแล้วว่าพื้นที่ในห้องค่อนข้างกว้าง ทำให้พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องสามารถ Built-in เป็น Walk-in Closet ได้ คงจะถูกใจคุณสาวๆ ทีเดียวนะคะ

พื้นที่บริเวณนี้เราสามารถจัดพื้นที่เองได้เลยนะคะ เช่น ใครที่อาจจะไม่ได้เน้นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แต่อยากได้โต๊ะเครื่องแป้งกว้างๆ ก็ออกแบบได้เลย เพราะห้องที่ได้จะเป็นห้องเปล่าโล่งๆ ส่วนทางขวาจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดและมีการจัด Layout เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างเลย

โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำและวัสดุอุปกรณ์ของ American Standard มาครบ จะต่างกับห้องน้ำชั้นล่างเพียงเล็กน้อย ตรงที่อ่างล้างมือจะมีขนาดใหญ่กว่าหน่อย และมีพื้นที่ใต้อ่างให้วางของได้ค่ะ

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของชั้น 2 จะเป็นตำแหน่งของห้องนอน 2 และ 3 โดยทั้ง 2 ห้องมีขนาดเท่าๆ กันเลย และมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ

มาดูห้องนอน 2 กันก่อน เข้ามาในห้องความรู้สึกแรกคือห้องโปร่งดีนะ เพราะมีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง จึงรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก

ห้องนอนนี้มีพื้นที่กว้างพอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ ได้ครบ เหมาะกับเด็กวัยรุ่นที่มีของไม่เยอะนัก หากวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ชิดผนังฝั่งหนึ่ง ก็จะเหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้าได้

ใครอยากติดทีวีในห้องนอนก็แนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนผนัง สำหรับห้องน้ำจะมีตำแหน่งอยู่ตรงปลายเตียง

ห้องน้ำในห้องนอน 2 จะมีขนาดและการจัด Layout ที่เหมือนๆ กับห้องน้ำใน Master Bedroom เลย รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้ ก็เป็นของ American Standard เหมือนกันค่ะ

ห้องนอน 3 มีขนาดพอๆ กับห้องนอน 2 เลยค่ะ และมีหน้าต่าง 2 ฝั่งของห้องเช่นกัน

อย่างที่เล่าไปแล้วว่าห้องนอนทุกห้องของบ้านนี้จะมีห้องน้ำในตัวนะคะ ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย

ภายในห้องน้ำก็จะมีขนาด Layout และวัสดุอุปกรณ์ครบ เหมือนๆ กับห้องน้ำในห้องนอน 2 เลยค่ะ

ต่อมาคือบ้านแบบ Zara พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ขนาดที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา เป็นบ้านหน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน

ดูจากแปลน..เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปเป็นโถงทางเดินที่มีบันไดทางขึ้นและห้องน้ำ ซึ่งมีพื้นที่ให้อาบน้ำได้ด้วย ด้านหลังเป็นส่วนที่เป็นจุดเด่นของบ้านแบบนี้คือห้องอาหารที่สามารถวางโต๊ะแบบ Long Table หรือโต๊ะขนาดใหญ่ได้ และมีพื้นที่ให้ทำครัวเปิดแบบ Pantry อยู่ในบริเวณเดียวกัน ส่วนหลังบ้านเป็นพื้นที่ซักล้าง ซึ่งถ้าใครทำครัวบ่อยๆก็สามารถทำครัวไทยที่บริเวณหลังบ้านได้ขึ้น

มาที่ชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน และห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in Closet เช่นเดียวกันค่ะ

การออกแบบภายนอกของบ้านแบบ Zara จะมีการตกแต่งด้วยหินธรรมชาติ ใช้กระจกบานใหญ่ และ โทนสีขาว-เทา ทำให้ภายนอกของบ้านดูไม่หวือหวา แต่มีความคลาสสิค และระหว่างบ้านแต่ละหลังจะปลูกต้นไม้ไว้ให้ เป็นทรงพุ่มเล็กๆ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูสบายตาขึ้นค่ะ

ประตูรั้วหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นเหล็กทาสี มีลักษณะเป็นบานพับแบบหลายๆตอน ลักษณะรั้วโปร่งเป็นเหล็กซี่ห่างๆไม่ได้กันสายตาจากบุคคลภายนอกได้เท่าไหร่นักใช้เป็นแค่เหมือนการแบ่งพื้นที่ ส่วนพื้นลานจอดรถเป็นพื้นคอนกรีตเรียบๆ มีระยะจอดรถลึก 5.5 ม. กว้างประมาณ 5 ม. จึงจอดรถได้ 2 คัน

สำหรับที่จอดรถจะมีหลังคากันแดดอยู่แค่ครึ่งคัน บริเวณด้านหน้าบ้านส่วนนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านมักต่อเติมหลังคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด

ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสง และโคมไฟบริเวณที่จอดรถได้เป็นโคมซาลาเปา

ก่อนเข้าไปในตัวบ้านพื้นจะมียก Step ขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำกันฝุ่น ใช้เป็นที่วางรองเท้าได้

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมไปพื้นที่รับประทานอาหาร ฝ้าเพดานในชั้นนี้สูง 2.6 ม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

พื้นที่ของห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ L-Shape ได้ พื้นที่ในบริเวณนี้จะค่อนข้างเป็นสัดส่วนทีเดียว และได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ

ผนังด้านข้างประตูทางเข้าจะเป็นพื้นที่ให้ติดตั้งทีวี ซึ่งสามารถนั่งดูได้จากห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปเป็นโถงทางเดินโล่งๆ ที่สามารถทำเป็นมุมนั่งทำงาน หรือ Built-in เป็นตู้เก็บของได้ ส่วนทางขวาคือบันไดทางขึ้นชั้นบนค่ะ

เข้ามาด้านในสุดของตัวบ้านจะเป็นห้องอาหารขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะแบบ Long Table และมีพื้นที่ติดกันให้จัดเป็นครัวเปิดสำหรับเตรียมอาหารเบาๆ ได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ครัวเปิดก็มีขนาดพอสมควรให้ทำเคาน์เตอร์แบบ Island ได้ด้วย เผื่ออยากใช้ในการเตรียมอาหารง่ายๆ เช่น อุ่นอาหารง่ายๆ หรือใช้วางจานชาม ก็สะดวกดี เวลาทานอาหารแล้วอยากได้อะไรเพิ่ม ก็เดินมาหยิบจากตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินเข้าไปเอาในครัว

ถ้าบ้านที่เลือกเป็นบ้านหลังมุม ก็จะมีพื้นที่ข้างบ้านและได้ประตูบานเลื่อนเพิ่มขึ้นมาเหมือนในบ้านตัวอย่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมชมวิวได้ โดยเราอาจจะจัดสวนสวยๆ ข้างบ้านเพื่อเพิ่มบรรยากาศ เวลานั่งทานข้าวไปก็ได้วิวต้นไม้ข้างบ้านด้วย

ส่วนพื้นที่หลังบ้านก็จะมีประตูกระจกบานเลื่อนให้เปิดเชื่อมออกไปได้

พื้นที่หลังบ้านที่ได้จะมีผนังมาให้ครบทุกด้านแต่จะไม่ได้มีหลังคามาให้ ถ้าอยากต่อเติมต้องทำเพิ่มเอง แต่ก็อย่าลืมดูเรื่องข้อกฎหมายด้วยนะคะ

ข้อดีของพื้นที่หลังบ้านในโครงการนี้คือ เค้าลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่ากับเสาเข็มของตัวบ้านมาให้ด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องระดับการทรุดที่ไม่เท่ากันของพื้นที่ต่อเติมกับตัวบ้านะคะ

ขนาดของพื้นที่หลังบ้านกว้างประมาณ 2 ม. เป็นระยะมาตรฐานทั่วไปไม่ได้กว้างมาก แต่พอทำครัวไทยขนาดเล็ก-กลางได้ และถ้าหากเป็นบ้านหลังมุมก็สามารถทำประตูเปิดออกไปยังสวนข้างบ้านได้ด้วยค่ะ

ต่อไปจะพาขึ้นไปชมชั้นบนกัน โดยจะมีตำแหน่งของบันไดอยู่กลางตัวบ้าน ติดกันเป็นห้องน้ำชั้นล่างนะคะ

เนื่องจากห้องน้ำอยู่บริเวณใต้บันได จึงมีการลดระดับพื้นลงจากระดับพื้นปกติของชั้นล่าง เพื่อทำให้ภายในห้องน้ำมีความสูงมากขึ้น

สำหรับห้องน้ำที่ได้จะติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์มาให้ครบเหมือนของบ้านแฝดเลย ได้ของแบรนด์ American Standard เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ Spec และขนาดนิดหน่อย

ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ที่แตกต่างกันคือผิวสัมผัส โดยพื้นในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะปูด้วยกระเบื้องผิวด้านเพื่อช่วยกันลื่น ต่างจากผนังและพื้นที่ส่วนแห้งที่จะมีผิวเคลือบ ดูเงาๆ สวยกว่า ซึ่งของจริงก็จะให้กระเบื้องลายแบบนี้เลยค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ ซึ่งด้านหลังมีผนังก่อขึ้นมาสามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆ ได้ มาเป็นเซตกับสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระค่ะ

วัสดุของบันไดเป็นวัสดุเดียวกันกับบ้านแบบบ้านแฝด บันไดไม่ได้มีราวกันตกแต่ก็สามารถจับกำแพงไปได้ตลอดทาง

พอตรงขึ้นมาซักระยะจะเจอกับชานพักเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได โดยบันไดเป็นแบบตัวยูวนขึ้นไปที่ชั้น 2

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ทางฝั่งขวาจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง คือ ห้องนอน 2 และ 3 ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน สังเกตดูว่าฝ้าเพดานของชั้นบนจะสูงเป็นพิเศษ โดยมีความสูง 2.8 ม. ส่วนพื้นใช้วัสดุเป็นไม้ลามิเนตค่ะ

ในห้องนอน 2 ของบ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นห้องนั่งเล่น หรือจะจัดเป็นห้องทำงานก็ได้

ถ้าหากจัดเป็นห้องนอนของเด็กๆ ก็มีพื้นที่ให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและมีบานหน้าต่างเปิดรับลมได้ค่ะ

สำหรับห้องนอน 3 ก็มีพื้นที่เท่ากับห้องนอน 2 เลยค่ะ แต่ห้องน้ี้จะตกแต่งเป็นห้องนอนให้ชมกัน

บริเวณหน้าห้องก็มีพื้นที่สำหรับวางตู้และโต๊ะทำงาน ซึ่งถ้าหากเป็นบ้านหลังมุมก็จะได้หน้าต่างเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งบาน ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นมากทีเดียว

ออกมาที่โถงทางเดินบนชั้น 2 ทางฝั่งซ้ายจะมีห้องน้ำส่วนกลางที่ไว้แชร์กันใช้ระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ตรงข้ามกับห้องน้ำเป็นบันไดขึ้นไปชั้นลอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับวางโต๊ะหมู่บูชา ติดกับบันไดเป็น Master Bedroom ที่ได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 จะมีวัสดุอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบ Spec เดียวกับห้องน้ำชั้นล่างเลย

ซึ่งห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 จะไม่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง เพราะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งเราสามารถหามาติดตั้งเองได้โดยจะเป็นแบบกระจกนิรภัยหรือม่านพลาสติกสวยๆ ก็ได้

ถัดมาส่วนที่เชื่อมกับบันไดเลยคือ จะเป็นบันไดที่เชื่อมไปยังพื้นที่บูชาพระด้านบน

ขนาดพื้นที่ตรงนี้ไม่มากนัก แต่สามารถจัดโต๊ะหมู่บูชาพร้อมกับพื้นที่นั่งสวดมนต์ภาวนาต่างๆ นั่งได้มากสุดประมาณ 2 คนค่ะ

Master Bedroom เป็นห้องหน้ากว้าง สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนพักผ่อนและWalk-in Closet ได้ ฝั่งหน้าบ้านมีช่องแสงจากหน้าต่างและประตูทางออกไประเบียงจึงทำให้ห้องนี้บรรยากาศดูโปร่ง ฝ้าเพดานของห้องนี้จะสูง 2.8 เมตรค่ะ

ภายในบ้านตัวอย่างจัดวางเตียง 5-6 ฟุต ไว้ข้างหน้าต่าง ซึ่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้สามารถนอนชมวิวได้

ถ้าวางเตียง 5-6 ฟุต ไว้ติดฝั่งหน้าต่าง จะทำให้ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือ หรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่เพิ่มได้

เนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้างจึงมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ เราสามารถกั้นพื้นที่บริเวณเส้นประสีเหลืองให้เป็น Walk-in Closet ได้ ก็จะดูเป็นสัดส่วนดี สำหรับใครที่ชอบนอนดูทีวีก็ติดตั้งทีวีเพิ่มบริเวณผนังที่เรากั้นได้

บริเวณ Walk-in Closet จะมีทางออกไปที่ระเบียง สามารถออกไปยืนสูดอากาศได้

พื้นที่ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นกระจก Tempered ค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom

มีการตกแต่งและให้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ มาครบ เหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ ในบ้าน

มีพื้นที่อาบน้ำห้องที่ดูเป็นสัดส่วน แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย ซึ่งเราสามารถกั้นเองเพิ่มเติมได้ ไม่ยากนะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2019

  • บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 45.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 5.09 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 4.79 ล้านบาท
  • บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 51.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 5.77 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 5.49 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ขนาดที่ดิน 22 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 3.19 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 2.99 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ขนาดที่ดิน 30.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 3.99 ล้านบาท | ราคาโปรโมชัน 3.79 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา บ้านแฝด 20,000 บาท และ ทาวน์โฮม 10,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 33 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต เป็นโครงการบ้านแฝด/ทาวน์โฮม ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการขยายครอบครัว มีสมาชิก 4-5 คน จุดเด่นของโครงการนี้คือ Clubhouse ที่มีขนาดใหญ่ ให้มาดูทันสมัย น่าใช้งาน และครบครัน ทั้ง สระว่ายน้ำในร่ม, Fitness, Co-Working Space, Kid’s Room และสวนส่วนกลาง แลกมากับจำนวนยูนิตในโครงการที่มากหน่อย คือ 383 ยูนิต อีกอย่างที่เป็นจุดเด่นของโครงการคือ รูปแบบบ้าน ทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม จะมีคอนเซปต์เดียวกันคือการจัดให้มีพื้นที่อเนกประสงค์ ให้ลูกบ้านสามารถปรับฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ ในส่วนของทาวน์โฮมจะมีการเพิ่มฟังก์ชันพื้นที่บูชาพระ ที่ตอบโจทย์มากขึ้นด้วย ราคาทาวน์โฮมจะอยู่ในช่วง 3-4 ล้านบาท และราคาบ้านแฝดอยู่ในช่วง 5-6 ล้านบาท ถือว่าเป็นราคาที่สูงกว่าโครงการข้างเคียงอยู่หน่อย เราก็ลอง Trade-Off ดูว่าเราอยากได้โครงการบนถนนพหลโยธิน ที่ได้ Facilities แบบครบครัน กับแบบบ้านที่มีพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถปรับตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ทำเลของโครงการ Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต เป็นทำเลที่ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธินมาก เรียกว่าขับรถแป๊บเดียวก็ถึงโครงการแล้ว ไม่เหมือนบ้านที่อยู่ในคลอง 2 คลอง 3 คลอง 4 จะออก/เข้าบ้านแต่ละทีต้องไปเจอรถติดเผื่อเวลาไว้อีก 20 – 30 นาทีได้เลย โครงการนี้นอกจากใกล้ถนนใหญ่ฝั่งขาเข้า จะเดินทางเข้าเมืองถือว่าง่ายไม่ต้องกลับรถ แล้วยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนด้วย สะดวกทั้งขาเข้าและขาออกเลย ยิ่งขาออกถือว่าสะดวกมากเพราะลงทางด่วนมานิดเดียวก็เจอจุดกลับรถแล้ว เป็นจุดกลับรถจุดแรกเลยค่ะ

สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการจะสู้พวกที่อยู่ตามเส้นรังสิตนครนายกไม่ได้นะ เพราะแถวนี้ไม่ได้เป็นย่านชุมชนแบบนั้น แต่ถ้าดูในระยะขับรถก็ถือว่ามีความสะดวกไม่แพ้กันเลย เพราะอยู่ใกล้ศูนย์การค้าอย่าง ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และ Zpell ส่วนถ้าอยากหาของกินง่าย ก็ใช้ทางออกด้านหลังโครงการไปทะลุคลอง 2 ได้ถือว่าสะดวกมากทีเดียวค่ะ

ความปลอดภัย – ความปลอดภัยของโครงการถือว่าให้มาตามมาตรฐานของระดับราคาของบ้านแฝด แต่ในกลุ่มของทาวน์โฮมนั้น ถือว่าได้มาดีเกินราคานะคะไม่ว่าจะเป็น ประตูเลื่อนอัตโนมัติ, ระบบ Katsan, รั้วสูง 3 เมตร, รปภ. 24 ชั่วโมง, CCTV ที่ประตูทางเข้าและภายในโครงการ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย – การออกแบบของบ้านที่นี่จะได้บ้านแบบใหม่ปี 2019 ของ AP แนวคิดของบ้านคือ มี พื้นที่อเนกประสงค์ ที่เราสามารถปรับฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้สะดวก หากครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุก็สามารถทำเป็น 4 ห้องนอนได้ หรือถ้าอยู่กันเองแบบพ่อแม่ลูกก็สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นว่าการซื้อบ้านครั้งนึง ลูกบ้านสามารถใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ไปได้อีกยาวๆ เป็นสิบปี ต่อให้มีลูก หรือมีผู้สูงอายุก็ไม่ต้องซื้อบ้านใหม่อีก เพราะพื้นที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานของคนในครอบครัว ในส่วนของทาวน์โฮมจะแตกต่างจากโครงการอื่นตรงที่มีการเพิ่มฟังก์ชันพื้นที่บูชาพระด้วยค่ะ

การออกแบบโครงการมีทางเข้าโครงการและถนนส่วนกลางที่ออกแบบมาได้มาตรฐานน่าใช้งานดี สำหรับ Facilities จะมีตำแหน่งอยู่บนถนนหลัก ด้านหน้าโครงการ ทำให้เข้าถึงได้สะดวก แต่สำหรับบ้านที่อยู่ด้านในก็คงมาใช้ลำบากนิดนึง แลกมากับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยที่มากกว่าบ้านใกล้ Clubhouse นะคะ ในส่วนของการแบ่งซอยสำหรับอยู่อาศัย มีทั้งที่เป็นซอยย่อยเล็กๆ ที่อยู่กัน 8 – 12 หลัง และซอยใหญ่ที่อยู่เกือบ 50 หลัง ก็ต้องเลือกดูตำแหน่ง ทิศ และราคาที่ชอบ ว่าเราเหมาะกับตรงไหนค่ะ

วัสดุ – ให้มาตามมาตรฐานของราคาบ้านนะ บ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่า ชั้นได้พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และชั้นบนได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค ส่วนลานซักล้างเทพื้นคอนกรีตขัดเรียบให้ สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก American Standard กรอบประตูและหน้าต่างได้กรอบอลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง ข้อมีของบ้านแฝดโครงการนี้ คือจะได้ผนังก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งเราสามารถเจาะหรือทุบเพื่อต่อเติมได้ ส่วนทาวน์โฮมจะเป็นผนัง Precast เช่นเดียวกับโครงการส่วนใหญ่ในทำเลนี้ค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – โครงการพยายามลงต้นไม้ไว้ให้ทุกจุดของพื้นที่ส่วนกลาง เพราะพื้นที่สีเขียวในบ้านแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝดนั้นมีค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว การทำพื้นที่สีเขียวภายในโครงการให้มีเยอะๆ จะช่วยให้ลูกบ้านได้ประโยชน์จากตรงนี้มากขึ้น ส่วนที่ชอบเลยคือบรรยากาศของ Clubhouse และสวนส่วนกลางดูน่าใช้งานดี

ตัวโครงการจัดให้แต่ละซอยย่อยมีจำนวนยูนิตหลากหลาย บางซอยมีบ้านประมาณ 8 หลัง แต่บางซอยก็ยาวต่อกันเกือบ 60 หลัง ความสงบในการพักอาศัยก็จะน้อยลงไปด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค – สาธารณูปโภคที่ให้มาถือว่ามีขนาดใหญ่ ครบครันและดูน่าใช้งาน แชร์กันใช้กับลูกบ้าน 383 ยูนิตแบบไม่อึดอัด โดยมีพื้นที่รวมทั้ง Clubhouse และสวนหย่อมรวมกันประมาณ 2 ไร่ ค่าส่วนกลาง 33 บาท ต่อตารางวา แล้วก็ถือว่าไม่สูงนัก เพราะที่นี่มี Facilities ให้ครบทั้งสระว่ายน้ำในร่ม, Fitness, Co-Working Space, Kid’s Room และสวนส่วนกลาง ซุ้มหน้าโครงการถือว่าสวยเข้ากับรูปแบบของโครงการ ทางเข้าออกและภายในโครงการติดตั้งกล้อง CCTV และระบบ Katsan เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าออก

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 3 – 6 ล้านบาท, 26 December 2019

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน และจุดขึ้นลงทางด่วน
ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ, ระบบ Katsan, รปภ. 24 ชั่วโมง, CCTV ที่ทางเข้าและภายในโครงการ
การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ปรับฟังก์ชันได้ สามารถทำเป็น 4 ห้องนอนได้ มีฟังก์ชันพิเศษเพิ่มขึ้นมาเช่นพื้นที่บูชาพระ
วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ น่าเสียดายที่ไม่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในบ้าน
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – จัดพื้นที่สีเขียวออกมาน่าใช้งาน และมีแนวต้นไม้ตลอดเส้นถนนหลัก
สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาเยอะ ครบครันและดูน่าใช้งาน ทั้ง Clubhouse 2 ชั้น และสวนส่วนกลางขนาดใหญ่
7.73 / 10.00

BOTTOM LINE

Grande Pleno พหลโยธิน-รังสิต จัดเป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮมในย่านรังสิตที่ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน, จุดขึ้นลงทางด่วน และมีทางลัดไปออกถนนเลียบคลอง 2 ได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโครงการที่มี Facilities ส่วนกลางให้ใช้แบบจัดเต็ม อยากได้บ้านแฝดและทาวน์โฮมที่รองรับการขยับขยายครอบครัวในอนาคต สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 3 – 6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 21,000 – 42,000 บาท

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving