รีวิวฉบับที่ 2160 … อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช เป็น 1 ใน 3 โครงการแบรนด์ใหม่จาก AP ที่เปิดตัวในปีนี้ครับ ซึ่งจะจับกลุ่มตลาดต่างจังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่ๆ โดยทำเลของนครศรีธรรมราชนี้จะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อ้อมค่ายวชิราวุธ ใกล้กับสนามบินเพียงไม่ถึง 10 นาที

สำหรับเฟสแรกที่เปิดมาจะเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern ที่มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 5 แบบ ซึ่งตัวบ้านเราสามารถทุบต่อเติมเพื่อปรับฟังก์ชันให้เข้ากับ Lifestyle ของครอบครัวได้ พร้อมกับส่วนกลางที่มีฟังก์ชันหลักๆครบ แต่ทีเด็ดก็คือ สวนสีเขียวที่เป็นแนวยาวเลียบถนนตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าถึงกลางโครงการ (ประมาณ 400 m. เลยครับ) ของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

ข้อมูลโครงการ

10 November 2020

  • Apitown Nakornsrithammarat (อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถ.อ้อมค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
  • เนื้อที่โครงการ 34-2-86.3 ไร่ จำนวนเฟสแรก (เฉพาะบ้านเดี่ยว) 102 ยูนิต
  • Alexia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท
  • Brovo-B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.52 ล้านบาท
  • Starry บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.67 ล้านบาท
  • Monza บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 54.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
  • Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 58.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.67 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 และชั้น 2 – 2.60 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 56,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2563
  • Presale : 21 – 22 พ.ย. ปี 2563
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ n/a
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 8.497496, 99.960237
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

…มาจังหวัดนครศรีธรรมราชครั้งแรก ผมไม่ได้พาทุกคนไปไว้ขอพรกันที่เจดีย์ไอ่ไข่นะครับ ^^ แต่จะพามารีวิวโครงการใหม่ของ AP ที่ชื่อว่า อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช

โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่อ้อมค่ายวชิราวุธ ซึ่งถือเป็นถนนเส้นหลักของจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโซนทำเลชานเมืองที่เงียบสงบ และจะอยู่ใกล้สนามบินหรือค่ายทหารมากกว่าตัวเมือง ซึ่งถ้าเป็นคนที่ทำงานในค่ายทหาร/สนามบิน หรือเป็นคนที่เดินทางบ่อยๆ ก็น่าจะเหมาะกับทำเลตรงนี้มากครับ

อีกทั้งปัจจุบันก็เริ่มมีหมู่บ้านจัดสรรใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลจากเมืองที่ขยับขยายออกมาทางเหนือ โดยถ้าเราต้องการเดินทางเข้าเมืองไปยังโซนคึกคักอย่างห้าง BigC หรือโรบินสัน จะใช้เวลาเดินทาง 5 – 10 นาทีเท่านั้น ส่วนสนามบินก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเช่นกัน ซึ่งโซนชานเมืองแบบนี้รถไม่ติดเลยครับ เดินทางสะดวกมากๆ

และถ้าเราจะไปห้างใหญ่อย่าง Central ก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีครับ ซึ่งจะต้องขับผ่านตัวเมืองมา รถค่อนข้างคึกคัก และสองข้างทางเต็มไปด้วยตลาดกับที่อยู่อาศัยเยอะแยะเลย

การเดินทาง :

Image 1/9
การเดินทางวันนี้ ถ้าใครใช้ทางออกหลักของสนามบินที่ถนน Bypass ก็จะมีตัวเลือก 2 ทางครับ คือเราจะเลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้ ซึ่งผมแนะนำให้เลี้ยวขวานะ เพราะจะสามารถเลี้ยวขวาตรงแยกไฟแดง แล้วขับตรงยาวมายังโครงการได้เลย (โดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถ เหมือนในกรณีที่เราใช้ถนนเทศบาล 8) ซึ่งบรรยากาศการเดินทางจะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลยครับ

การเดินทางวันนี้ ถ้าใครใช้ทางออกหลักของสนามบินที่ถนน Bypass ก็จะมีตัวเลือก 2 ทางครับ คือเราจะเลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้ ซึ่งผมแนะนำให้เลี้ยวขวานะ เพราะจะสามารถเลี้ยวขวาตรงแยกไฟแดง แล้วขับตรงยาวมายังโครงการได้เลย (โดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถ เหมือนในกรณีที่เราใช้ถนนเทศบาล 8) ซึ่งบรรยากาศการเดินทางจะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะยังเป็นพื้นที่ว่างอยู่นะครับ ซึ่งจะมีหมู่บ้านดั้งเดิมที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ 1 แห่งทางทิศเหนือ สามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและหมู่บ้านพีแลนด์
  • ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง
  • ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับถนนใหญ่อ้อมค่ายวชิราวุธ

และนี่ก็จะเป็นบรรยากาศของถนนอ้อมค่ายวชิราวุธหน้าโครงการนะครับ จะเป็นถนนเส้นใหญ่ที่มีเกาะกลาง แต่โดยรอบของโซนนี้ส่วนใหญ่จะยังเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่นะ บรรยากาศก็เลยจะเงียบๆสงบๆหน่อย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BigC ~ 4.7 km.
  • โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ ~ 4.9 km.
  • ท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช ~ 5.9 km.
  • Robinson Lifestyle ~ 6.9 km.
  • Tesco Lotus  ~ 11.5 km.
  • Central Plaza ~ 14.5 km.
  • Makro ~ 14.6 km.

รายละเอียดโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

Master Plan ของโครงการเค้าจะแบ่งเฟสการขายออกเป็น 2 – 3 เฟสด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเปิดเฟสแรกมาเป็นโซนบ้านเดี่ยวทั้งหมด 102 ยูนิต โดยจากข้อมูลพรีวิวเปิดตัวตอนแรก ที่คาดว่าจะมีทั้งโปรดักส์บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ซึ่งจะอยู่เฟสด้านในของโครงการตามลำดับ แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันตลาดบ้านเดี่ยวจะได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี จึงต้องรอดูในอนาคตอีกทีนะครับว่าทาง AP เค้าจะยังคงใช้การวางผังและโปรดักส์แบบเดิมอยู่หรือเปล่า

ดังนั้นในรีวิวฉบับนี้ผมจะขอพูดถึงเฉพาะ “บ้านเดี่ยวเฟสแรก” ที่เค้าเพิ่งเปิดขายเท่านั้นนะครับ ซึ่งจากซุ้มประตูทางเข้าจะเป็นถนน Main ที่ปลูกต้นไม้ไว้ทั้งสองข้างดูร่มรื่นดี และส่วนกลางอย่างอาคาร Clubhouse กับสวนสาธารณะ ก็จะอยู่บริเวณโซนด้านหน้า ทำให้บ้านเดี่ยวที่อยู่ติดถนน Main สามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย แต่ถ้าเป็นยูนิตที่อยู่ท้ายๆซอย หรือเป็นเฟสหลังๆในอนาคตก็จะอยู่ไกลสักหน่อย (ประมาณ 500 – 800 m.) โดยแต่ละซอยจะเป็น “ซอยตัน” ที่ไม่สามารถขับรถวนอ้อมได้ (ต้องใช้วิธีกลับรถในซอย) แต่จะทำให้บ้านที่อยู่ท้ายๆซอยได้ความเป็นส่วนตัว แถมแปลงบ้านส่วนใหญ่ยังหันหน้าไปทิศ “เหนือ-ใต้” ซึ่งแดดจะไม่ร้อนมาก และรับลมได้ค่อนข้างดีเลยครับ

ที่น่าสนใจคือ “สวนสาธารณะ” ของโครงการ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่มากนัก (ประมาณ 1 ไร่) แต่ด้วยลักษณะของสวนที่ยาว จึงทำให้ได้ผลลัพธ์อีก 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ เวลาที่เราขับรถเข้ามาในโครงการ เราจะได้เห็นวิวต้นไม้และพื้นที่สีเขียวทางขวามือ ที่ยาวตลอด 400 m. โดยนับตั้งแต่ซุ้มประตูมาจนถึงสวนเลยครับ ส่วนอย่างที่สองก็คือ บ้านที่อยู่ติดถนน Main จะหันหน้าเข้าหาพื้นที่สีเขียว ทำให้ได้วิวที่ร่มรื่นและเป็นส่วนตัว เพราะไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร แต่ก็อาจมีรถผ่านไป-มาหน้าบ้านบ่อยสักหน่อยนะครับ ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

เริ่มที่ซุ้มประตูทางเข้าเป็นสไตล์ Modern ที่ใช้สีน้ำตาลและดำ ทำให้ดูเท่ห์และหรูหราดีนะครับ โดยป้อมยามจะอยู่ตรงกลางและแบ่งทางเข้า-ออก 2 ฝั่งชัดเจน

ระบบการเข้า-ออกจะมีกล้อง CCTV และใช้การสแกนป้ายทะเบียนรถ ถ้าเป็นลูกบ้านประตูเหล็กรางเลื่อนก็จะเปิดออกอัตโนมัติ ซึ่งการเปิด-ปิดจะต้องใช้เวลามากกว่าไม้กั้นกระดกสักหน่อย แต่ก็มีความปลอดภัยและแข็งแรงทนทานมากกว่าเช่นกันครับ ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนนะ

และสำหรับโครงการนี้ก็จะใช้ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น สามารถลงทะเบียนรถของแขกที่จะมาหาไว้ล่วงหน้าได้ หรือถ้ามีใครมาหาแล้วเราไม่สะดวกรับแขก/หรือเราไม่อยู่บ้านพอดี ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวครับ

เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็จะเจอกับถนน Main กว้าง 12 m. โดยสองข้างทางจะมีต้นไม้ปลูกเอาไว้เพื่อความร่มรื่น (ซึ่งอาจต้องรอให้โตอีกสัก 2 – 3 ปี)

และเมื่อเข้ามาจนถึงโซนพักอาศัย เราจะเจอกับบ้านเดี่ยวโซนแรกที่อยู่ริมถนน Main (ปัจจุบัน 2 หลังแรกเป็นสำนักงานขายและบ้านตัวอย่าง) ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร Clubhouse นะครับ

Clubhouse เป็นอาคารชั้นเดียวสไตล์เรียบๆ และตกแต่ง Facade ด้วยระแนงไม้นิดหน่อย

เดินบันไดขึ้นมาตรงชานพัก เราจะเข้าประตูมายัง Lobby ทางขวามือก่อนก็ได้ หรือจะเดินไปทางซ้ายมือก็จะเป็นในส่วนของ Main Hall หรือโถงทางเดินตรงกลาง Clubhouse ครับ

Main Hall นี้จะมีประตูแยกไปยังฟังก์ชันต่างๆของส่วนกลาง เลือกได้เลยว่าเราจะไปใช้อะไร และโดยส่วนนตัวผมชอบที่ฟังก์ชันห้องน้ำที่อยู่ตำแหน่งตรงกลางแบบนี้ เพราะทุกฟังก์ชันสามารถมาใช้งานได้ง่ายมากๆครับ

เริ่มกันที่ห้องซ้ายมือก่อน ภายในเป็น Fitness ขนาดกำลังพอดี (เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตเฟสแรก 102 หลัง) พร้อมอุปกรณ์ค่อนข้างครบ และถ้าวันไหนอากาศดีๆ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างทุกบาน เพื่อให้ลมพัดเย็นๆได้โดยไม่ต้องเปิดแอร์เลยครับ

โดยเครื่องออกกำลังกายจะเป็นของยี่ห้อ Vision Fitness ซึ่งค่อนข้างดี มีหน้าจอแสดงผลที่ทันสมัย และเวลาออกกำลังกายก็สามารถชมวิวสวนที่อยู่ด้านนอกไปด้วยได้ครับ

ส่วนห้องทางขวามือ (หรือก็คือห้องกระจกที่เราเห็นตอนแรก) ภายในคือ Lobby ที่สามารถเข้าได้หลายทาง (ด้านหน้า สระว่ายน้ำ และ Main Hall) เหมาะที่จะใช้รับรองแขก หรือจะมานั่งเล่นและนั่งคอยเด็กๆ ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ที่สระด้านข้างนี้ก็ได้

ตรงกลางของ Main Hall จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง พร้อมกับมีประตูด้านหลังที่เดินเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำได้ และระหว่างทางก็จะมี Shower ให้ล้างตัวตั้งอยู่ด้วยครับ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ใช้งานได้ดี เพราะนอกจากจะไม่ต้องเดินผ่าน หรือรบกวนฟังก์ชันอื่นให้พื้นเปียกแล้ว ยังได้ความเป็นส่วนตัวเพราะมีอาคารช่วยบังสายตาไว้ให้อีกด้วยครับ

สระว่ายน้ำจะมีขนาด 6 x 12 m. เป็นสระแบบกลางแจ้งที่ยกระดับให้สูงขึ้นมาจากถนนนิดหน่อย เพื่อที่เวลารถขับผ่านไป-มา จะได้มองไม่เห็นคนที่กำลังว่ายอยู่ให้เสียความเป็นส่วนตัวมากนัก

ส่วนสระเด็กจะมีขนาด 6 x 3 m. ซึ่งอยู่ใกล้กับ Lobby จะได้อยู่ในสายตาของผู้ปกครองให้ดูแลได้ง่ายๆหน่อยครับ

ถัดมาจาก Clubhouse จะเป็นถนน Main ของบ้านเดี่ยวโซนแรก ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นสวนยาวตลอดทาง (ไปจนถึง 3 แยกกลางโครงการ) นั่นจึงทำให้บ้านแถวนี้ได้วิวสวนทุกหลังเลยนั่นเอง

ส่วนสวนสาธารณะนี้ก็จะปูหญ้า สลับกับการทำเนินดินเล่นระดับนิดหน่อย และปลูกต้นไม้พอให้ร่มรื่นอยู่บ้าง ซึ่งตอนเย็นๆก็สามารถมาเดินเล่นออกกำลังกายได้นะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Lobby หรือพื้นที่รับรองแขก
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 12 m.
  • สระเด็กขนาด 6 x 3 m.
  • ห้องออกกำลังกาย
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการ
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8.5 ม.
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
  • ระบบ KATSAN มาตรฐาน AP

แบบบ้าน

แบบบ้านของโครงการ ถ้านับเฉพาะบ้านเดี่ยวก็มีให้เลือกถึง 5 แบบเลยครับ ซึ่งจะมีหน้าตา Facade เป็นลักษณะ Modern ทั้งหมดเลย ประกอบด้วย

  • Alexia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Brovo-B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Starry บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Monza บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 54.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 58.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

โครงสร้างบ้านที่นี่จะเป็นก่ออิฐมวลเบาทั้งหลัง ทำให้มีความแข็งแรง และยังสามารถทุบหรือต่อเติมได้ง่าย ซึ่งวันนี้ทางโครงการจะมีบ้านตัวอย่างให้ดูแค่แบบเดียวเท่านั้นคือ Latitude ที่เป็นขนาดใหญ่สุด จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันครับ

  • Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 58.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

เป็นบ้านที่สร้างเต็มที่ดินและเน้นพื้นที่ใช้สอยภายใน ทำให้แต่ละห้องจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เริ่มจากชั้นแรกจะมี Common Area เชื่อมต่อส่วนรับแขกกับพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร จึงทำให้บ้านดูกว้างและค่อนข้างโปร่งโล่ง ในขณะที่ฟังก์ชันใช้งานอื่นๆจะถูกแยกออกไปเป็นสัดส่วน อยู่อีกด้านหนึ่งของบ้านด้วยโถงทางเดิน ทั้งห้องครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจัง มาพร้อมกับประตูบานเล็ก ที่เราสามารถเปิดเอาของจากในรถมาเก็บในครัวได้ง่าย (ไม่ต้องไปอ้อมหน้าบ้าน) มีห้องนอนชั้นล่างที่เหมาะจะเป็นห้องผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้น-ลงบันได แถมยังออกมาใช้ห้องน้ำด้านหน้าใกล้ๆได้ง่ายด้วย

ส่วนชั้นบนจะมีห้องนอนอีก 3 ห้อง โดยทุกห้องจะมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทั้งหมด ซึ่งผมค่อนข้างชอบที่เค้าจัดพื้นที่หน้าห้องน้ำเอาไว้เผื่อทำตู้เสื้อผ้า กลายเป็น Walk-in closet ที่สามารถใช้งานได้สะดวก และจะมีเฉพาะห้อง Master Bedroom เท่านั้น ที่จะมีระเบียงและอ่างอาบน้ำครับ ส่วนพื้นที่อเนกประสงค์ด้านนอกตรงโถงลิฟต์ ก็สามารถทำเป็น Family Area หรือจะกั้นทำเป็นห้องพระเล็กๆเพิ่มก็ยังได้ สรุปแล้วบ้านนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ 4 – 5 คน หรืออาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็ได้ ซึ่งทุกคนต้องการความเป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ภายในห้องของตัวเองขนาดใหญ่ อยู่ได้สบายๆ โดยของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ

เริ่มที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งมีความกว้างมากๆ จึงสามารถใช้รั้วเหล็กรางเลื่อนแบบยาวตอนเดียวได้ ซึ่งเป็นรูปแบบรั้วที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกที่สุด หรือใครจะติดเป็นประตูอัตโนมัติก็ได้นะครับ ส่วนพื้นที่จอดรถจะกว้าง 5.2 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ และเป็นโครงสร้าง Slab on Ground คือจะไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะครับ

ดังนั้นในอนาคตพื้นอาจมีการทรุด และแยกส่วนจากพื้นใต้ชายคาบ้านที่จะมีการลงเสาเข็มยาวเอาไว้ได้เหมือนกัน (เป็นเรื่องปกติ) ส่วนตรงกำแพงบ้านจะมีช่องทิ้งขยะด้วยครับ ซึ่งเราสามารถทิ้งจากในบ้านได้เลย และเจ้าหน้าที่เค้าก็จะเปิดเก็บขยะจากด้านนอกได้สะดวก

ส่วนทางเข้าหลักของบ้านจะมีชานพักยาว ที่เดินเชื่อมต่อมาจากพื้นที่จอดรถได้เลยครับ ซึ่งกว้างพอที่จะวางชั้นเก็บรองเท้าเล็กๆได้ และยังอยู่ใต้ชายคาแบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวแดดหรือฝนมากนักอีกด้วย

ส่วนประตูจะเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบ UPVC สีขาว (ผิวสัมผัสและหน้าตาเค้าจะคล้ายพลาสติก แต่แข็งแรงทนทานมากๆนะ) กระจกเขียวตัดแสง และมีตัวล็อก 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัยครับ

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเป็น Common Area ที่เชื่อมต่อไปจนถึงโซนหลังบ้าน และมีหน้าต่างหลายจุด ประกอบกับฝ้าเพดานสูง 2.6 m. จึงมีความโปร่งโล่งดีครับ ส่วนระยะดูทีวีก็คือ 3.3 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ และพื้นที่วางโซฟาก็มีเหลือเฟือ สามารถใช้โซฟาชุดใหญ่ๆได้นะครับ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งกว้างพอที่จะวางโต๊ะ 6 – 8 ที่นั่งได้เลยครับ จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกในบ้านหลายคน แล้วยังมีช่องแสง 2 ด้าน ทำให้ภายในบ้านสว่างและมองเห็นสวนข้างบ้านได้นะ

นอกจากนี้พื้นที่บริเวณกลางบ้านก็ยังมีเหลือเฟือ ซึ่งถ้าเราจัดโต๊ะทานอาหารให้วางขวางอีกด้านหนึ่งแทน เราก็จะมีพื้นที่มุมเล็กๆด้านขวามือเหลือ ให้ทำเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ หรือครัวฝรั่งเพิ่มได้ถ้าต้องการครับ

ส่วนประตูกระจกบานเลื่อนทางซ้ายของโต๊ะทานอาหาร จะสามารถเปิดออกไปยังสวนข้างบ้านได้นะครับ ซึ่งสิ่งที่อาจต้องระวังสะดุดคือ ธรณีประตู ที่ยกกรอบขึ้นมาค่อนข้างสูงอยู่สักหน่อยนะ

ส่วนฟังก์ชันอื่นๆ จะถูกแยกออกไปอีกฝั่งนึงของบ้านด้วยโถงทางเดิน ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัวและดูเรียบร้อยมากขึ้น เพราะเวลามีแขกมาหา เค้าก็จะมองไม่เห็นส่วนอื่นๆในบ้านนั่นเอง

ซึ่งจากภาพ “ตำแหน่งประตูห้องครัว” ของบ้านตัวอย่าง จะทำไม่เหมือนกับแปลนบ้านมาตรฐานนะครับ แต่โดยส่วนตัวผมจะชอบตำแหน่งที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้มากกว่า เพราะอยู่ใกล้กับประตูพื้นที่จอดรถ จึงทำให้สามารถขนของที่ซื้อเข้ามาเก็บในบ้านได้ง่ายนั่นเองครับ

เริ่มที่ครัวปิดทางซ้ายมือ ซึ่งสามารถทำอาหารได้จริงจัง เพราะเราสามารถเปิดหน้าต่างกับประตูหลังบ้านเพื่อระบายอากาศได้ครับ (มีพัดสมดูดอากาศมาให้ด้วยนะ) ส่วนพื้นที่ใช้งานก็มีขนาดใช้งานสบายๆอยู่ที่ประมาณ 2.55 x 2.6 m.

นอกจากนั้นพื้นครัวก็จะมีการลดระดับลงจากพื้นบ้านด้วย เวลาทำอาหารเลอะก็สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดครัวได้เต็มที่เลยครับ และจากบ้านมาตรฐานจะเห็นว่า เค้าจะก่อเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L และมี Top หินแกรนิตมาให้แล้ว ซึ่งช่วยประหยัดงบแต่งบ้านส่วนนี้ไปได้เป็นหมื่นอยู่เหมือนกัน อาจต้องเพิ่มบานปิดและตู้แขวนบนผนังอีกหน่อยก็เรียบร้อยแล้วครับ

ส่วนลานซักล้างหลังบ้านจะเทพื้นคอนกรีตแบบ Slab on Ground และที่เหลือก็จะปูหญ้ามาให้ตามปกติ ซึ่งเราก็สามารถใช้หลังบ้านเนี่ยแหละ ในการซักล้างและตากผ้าได้ครับ

ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งใช้งานร่วมกับพื้นที่รับแขกและห้องนอนชั้นล่าง (มีพื้นที่อาบน้ำเตรียมไว้รองรับแล้ว) โดยสุขภัณฑ์ต่างๆในห้องจะเป็นของ Cotto และมีขนาดพื้นที่ใช้งานส่วนแห้งอยู่ที่ประมาณ 1.2 x 1.8 m.

ส่วนฉากกั้นอาบน้ำจะไม่ได้ให้มานะครับ อาจติดตั้งเพิ่มเองได้ถ้าไม่อยากให้น้ำกระเด็นเปียกทั่วห้อง ซึ่งพื้นจะลดระดับลงมาจากส่วนแห้งเล็กน้อย และขนาดประมาณ 1.2 x 0.85 m. มาพร้อมกับช่องหน้าต่างช่วยระบายอากาศ และให้แสงสว่างเข้ามาฆ่าเชื้อโรค/แบคทีเรียในห้องให้ถูกสุขอนามัยได้ครับ

ติดกันจะเป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีขนาด 3 x 4 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าอีกสักใบได้สบายๆ เหมาะที่จะเป็นห้องผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกครับ หรือใครจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆตาม Lifestyle ของครอบครัวก็ได้ เช่น ห้องทำงาน หรือห้องดูหนังเล่นเกมส์ เป็นต้น แต่สิ่งที่ชอบของห้องนี้คือ เค้ามีหน้าต่างถึง 3 ด้าน ทำให้ภายในห้องสว่างและระบายอากาศได้ดีมากๆเลยล่ะ ส่วนพื้นก็จะเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนตครับ

กลับมาที่บันไดของบ้านจะมีห้องเก็บของเล็กๆอยู่ข้างใต้ ส่วนโครงสร้างบันไดจะเป็น คสล. (คอนกรีตเสริมเหล็ก) ซึ่งค่อนข้างทนทานแข็งแรง เวลาเด็กๆวิ่งขึ้น-ลงบันไดแรงๆก็จะไม่เกิดเสียงดังครับ

และตรงโถงบันไดจะมีช่องหน้าต่างบาน Fixed ซึ่งช่วยให้แสงสว่างบริเวณกลางบ้านในตอนกลางวันได้ ส่วนตอนกลางคืนก็สามารถเปิดไฟกิ่งที่ผนัง 2 ด้านที่เค้าติดมาให้ หรือจะเพิ่มโคมไฟระย้าสวยๆบนเพดานสูงก็ได้เช่นกันครับ

พื้นชั้น 2 จะเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนตเหมือนห้องนอนชั้นล่าง และมีฝ้าเพดานสูง 2.6 m. ส่วนบริเวณโถงบันไดชั้นบนนี้ เราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 2.4 x 2.3 m. สามารถทำเป็น Family Area หรือจะกั้นผนังทำเป็นห้องพระเล็กๆเพิ่มได้นะ

นอกจากนี้เราจะเห็นแผงอุปกรณ์สัญญาณกันขโมย ติดตั้งอยู่ที่ผนังตรงโถงทางเดินด้วยนะ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ Magnetic Sensor ที่จะติดอยู่ตรงประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อความปลอดภัย เวลาที่เราลืมปิดประตูนานๆ หรือเราไม่อยู่บ้านแล้วมีคนเปิดเข้ามา ก็จะมีเสียงดังและแจ้งเตือนผ่าน Application ของ Home Automation ในโทรศัพท์มือถือของเราครับ

เริ่มกันที่ห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางซ้ายมือ ภายในมีขนาดใหญ่และกว้างขวางดีทีเดียว ซึ่งผมคิดว่าเค้าให้ช่องหน้าต่างมาเยอะดีครับ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากๆ

ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้ทำชั้นวางทีวีและเดินผ่านได้สบายๆ ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาด 1 x 3.8 m. สามารถออกมายืนสูดอากาศได้นะ ซึ่งเค้าทำเป็นราวกั้นกระจกนิรภัย Tempered Glass มาแบบนี้ ทำให้เวลามองออกมาจากห้องนอน จะสามารถชมวิวได้เต็มที่นั่นเองครับ

ส่วนด้านบนก็จะมีไฟกิ่งติดตั้งมาให้ 2 ดวง พร้อมกับไฟฉุกเฉินของระบบรักษาความปลอดภัย ที่จะส่งสัญญาณให้กับเพื่อนบ้านและ รปภ. ได้เห็นครับ

ส่วนอีกด้านนึงของห้องจะมีพื้นที่แยกออกไปเป็น Walk-in closet ซึ่งจะทำให้พื้นที่รอบๆเตียงไม่ต้องมีตู้เสื้อผ้ามาบังสายตาให้ห้องดูแคบลงหรือเกะกะนั่นเองครับ

โดยเราสามารถแบ่งพื้นที่ส่วนนึงเป็นโต๊ะแต่งหน้า และอีกส่วนนึงก็ Built ตู้เสื้อผ้ารูปตัว L เพื่อเก็บของได้เต็มที่เลยครับ ซึ่งบ้านหลังนี้ได้กั้นประตูมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ทำให้เห็นว่าห้องจะมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 2 x 2 m. และยังอยู่ใกล้กับห้องน้ำด้วย ทำให้ออกมาแต่งตัวได้เลยนั่นเอง

ภายในห้องน้ำจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เนื่องจากจะมีฟังก์ชันอาบน้ำให้เลือก 2 แบบคือ แบบยืนอาบ และนอนแช่ในอ่างอาบน้ำครับ

โดยสุขภัณฑ์ที่เพิ่มมานอกจากอ่างอาบน้ำก็คือ ตู้ที่อยู่ใต้อ่างล้างหน้า ซึ่งใช้เก็บของใช้ในห้องน้ำเพิ่มเติมได้ และเฉพาะห้องน้ำ Master Bedroom นี้เท่านั้น ที่จะไม่มี Junction box ตรง Shower แต่จะมีตำแหน่งที่ให้ติดเครื่องทำน้ำร้อนอยู่บนฝ้าเพดานแทนครับ

สิ่งที่ต้องสังเกตอีกอย่างคือ พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก ดูจากบ้านตัวอย่างที่เค้าติดตั้งฉากกั้นมาให้ดู (ซึ่งของจริงจะไม่ได้ให้มานะ) เวลาเปิดประตูเข้าไปด้านในจะเหลือพื้นที่วงสวิงให้ยืนหลบได้แค่ 20 cm. เท่านั้น (ถือว่าแคบมาก คนตัวใหญ่ๆติดแน่นอน) ผมแนะนำให้ใช้ประตูแบบพับหลายตอน, ประตูเปิดโค้ง หรือใช้เป็นม่านพลาสติก ซึ่งก็น่าจะเหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดแบบนี้ครับ

ต่อไปจะเป็นอีกด้านของชั้นบน ซึ่งจะมีห้องนอนอีก 2 ห้องครับ

เริ่มที่ห้องนอน 2 ซึ่งมีขนาดใหญ่รองลงมาจาก Master Bedroom และอยู่ทางด้านหน้าบ้านแบบนี้ ก็จะเหมาะกับลูกคนโตนะ มีขนาดประมาณ 3.4 x 3.75 m. สามารถใช้เตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ แต่ที่ชอบก็คือ ถึงแม้ห้องนี้จะไม่มีระเบียง แต่เค้าก็ให้ช่องหน้าต่างเป็นบานสูงคล้ายประตู ทำให้ได้แสงสว่างและความโปร่งโล่งที่มากกว่าหน้าต่างธรรมดาครับ

อีกด้านของห้องก็สามารถทำตู้เพิ่มได้ และหน้าห้องน้ำก็มีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า กลายเป็น Walk-in closet เล็กๆที่เดินออกมาใช้งานจากห้องน้ำได้สะดวกเลยครับ

ส่วนภายในห้องน้ำจะมีขนาดและฟังก์ชัน ที่เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างก่อนหน้านี้เลยครับ (ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำเหมือนเดิม) แต่ที่เพิ่มเติมมาก็คือ Junction box ตรง Shower ซึ่งเอาไว้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ครับ

สุดท้ายคือห้องนอนเล็กที่อยู่โซนหลังบ้าน ซึ่งมีขนาดประมาณ 3 x 3 m. สามารถใช้เตียง 3.5 – 5 ฟุตได้นะครับ

ส่วนอีกด้านของห้องนอกจากจะมีพื้นที่เว้าเข้าไปในผนัง ให้ Built ตู้เสื้อผ้าได้แล้ว ยังมีห้องน้ำในตัวด้วย เรียกได้ว่านี่ก็เป็นอีกห้องนึงที่น้องๆสามารถอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโตเลยล่ะ

และเช่นเคยที่ห้องน้ำจะมีฟังก์ชันและขนาดที่เท่ากับห้องน้ำห้องอื่นๆครับ แต่ที่เพิ่มเติมมานิดนึงก็คือ ช่องหน้าต่างที่ใหญ่มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งช่วยให้ห้องสว่างและระบายอากาศได้ดีขึ้นครับ

ส่วนภาพถ่ายมุมสวยๆอื่นๆของโครงการ ที่ผมนำมาฝากกันจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมได้ที่ Gallery ด้านล่างนี้เลยครับ

Image 1/12

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

แบบแปลน

Image 1/8
Alexia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท

Alexia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท

ราคา

10 November 2020

  • Alexia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท
  • Brovo-B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.52 ล้านบาท
  • Starry บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.67 ล้านบาท
  • Monza บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 54.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
  • Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 58.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.67 ล้านบาท
  • จอง 10,000 บาท และทำสัญญา 20,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 56,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 23 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อ้อมค่ายวชิราวุธ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นโซนชานเมืองที่ขยับขยายมาจากตัวเมืองหลักที่ค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็จะใกล้กับสนามบินและค่ายทหารมากๆ ซึ่งใครที่ทำงานหรือเดินทางบ่อยก็น่าจะเหมาะทีเดียวครับ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ถ้าเป็นห้างที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Big C และโรบินสัน ซึ่งใช้เวลาขับรถประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว ถึงแม้ปัจจุบันรอบๆโครงการจะยังไม่คึกคักมากนัก แต่ผมก็คาดว่าอนาคตเมืองและที่อยู่อาศัยต่างๆ ก็คงจะเจริญและขยับขยายมาทางตอนเหนือนี้เรื่อยๆครับ

สังเกตจากโครงการเพื่อนบ้านปัจจุบันที่เกิดใหม่ ก็มักจะอยู่แถวๆบ่อโพธิ์/ปากนคร/นาวง ซึ่งจะเป็นถนนเส้นรองที่เข้าไปจากถนนอ้อมค่ายวชิราวุธอีกทีนึง ดังนั้นโครงการอภิทาวน์ที่ตั้งอยู่ “ติดถนนใหญ่” จึงได้เปรียบในเรื่องการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยกว่า แต่ถ้ามองในเรื่องโปรดักส์ ซึ่งผมลองหาข้อมูลและไปสำรวจพื้นที่จริงมาให้แล้ว พูดได้เลยว่า…โครงการเพื่อนบ้านที่เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern ของย่านนี้มีตัวเลือกน้อยมากๆ (มีแค่ 1 – 2 แห่งเท่านั้น ส่วนราคาก็เกาะกลุ่มกันครับ โครงการที่ติดถนนใหญ่จะเริ่มที่ 4 ล้านบาท ส่วนโครงการที่อยู่ถนนรองหรือในซอยจะเริ่มที่ประมาณ 3 ล้านกว่าๆ) ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาโครงการใหม่ๆ ที่เป็นบ้านสไตล์นี้และทำเลแบบนี้อยู่ อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : หากใครให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นหลัก ผมคิดว่าโครงการนี้น่าจะเหมาะดีทีเดียวครับ เพราะทาง AP เค้าจะใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า KATSAN เป็นมาตรฐานทุกโครงการ(ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล) ซึ่งถือว่านี่เป็นโครงการแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีการนำระบบนี้มาใช้นั่นเองครับ

นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ส่วนตัวผมมองในเรื่องความสะดวก ที่เราสามารถสั่งการผ่านมือถือได้ง่ายๆ เช่น การลงทะเบียนรถของแขกล่วงหน้า หรือปฏิเสธการเข้าพบผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวครับ ส่วนในบ้านก็จะมีระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งอยู่ที่ประตูหน้าต่างทุกบานอีกด้วย

การออกแบบโครงการ : ตำแหน่งของอาคาร Clubhouse และสวนสาธารณะ ที่อยู่บริเวณด้านหน้าติดกับถนน Main นอกจากจะเป็นส่วนต้อนรับ ที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีตอนขับรถเข้า-ออกแล้ว ยังทำให้บ้านเดี่ยวโซนแรกที่อยู่ติดถนน Main ยังสามารถหันหน้าออกมารับวิวพื้นที่สีเขียวสวยๆได้อีกด้วย ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าการหันหน้าเจอกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามนั่นเอง (แต่จะมีรถผ่านหน้าบ้านบ่อยนิดนึง)

ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยด้านใน ก็อาจมาใช้ส่วนกลางไกลขึ้นมากกว่าหน่อย และเป็นซอยตันที่ต้องใช้วิธีกลับรถในซอยเอา แถมยังมีเพื่อนบ้านร่วมซอยอยู่ที่ประมาณ 15 – 24 หลัง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะ(สำหรับโปรดักส์บ้านเดี่ยว) แต่ที่ดีคือ บ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศ “เหนือ-ใต้” ซึ่งแดดจะไม่ร้อนและเป็นทิศที่รับลมได้ดีเลยทีเดียวครับ

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : ปัจจุบันโครงการเฟสแรกจะมีเฉพาะบ้านเดี่ยวนะครับ แต่ก็มีให้เลือกถึง 5 แบบเลยทีเดียว และทั้งหมดจะเป็นลักษณะ Modern ที่ค่อนข้างทันสมัย ซึ่งแตกต่างจากโครงการเพื่อนบ้านหลายๆเจ้าในย่านเดียวกัน และยังเป็นการนำแบบบ้านที่ปกติเราจะพบเห็นแค่ในกรุงเทพฯ ออกมาใช้ในต่างจังหวัดครั้งแรกอีกด้วย โดยจะเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน ที่อาจกำลังมองหาบ้านใหม่ หรือต้องการขยับขยาย และแยกตัวมาจากของพ่อ-แม่เดิมที่อยู่ในจังหวัดนี้อยู่แล้วก็ได้ครับ

แบบบ้านผมขอแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มง่ายๆ กลุ่มแรกคือ Alexia และ Brovo-B ซึ่งเป็นบ้านแบบเล็กของโครงการ และมีฟังก์ชันคล้ายๆกันเลยครับ ซึ่งตัว Brovo-B เค้าจะกั้นห้องชั้นล่างเพิ่มมาให้แล้ว และห้องนอนชั้นบนก็จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า Alexia อยู่หน่อยนึง ในขณะที่กลุ่มที่ 2 อย่าง Starry จะมีห้องนอนชั้นล่างยื่นออกมาด้านข้าง เลยทำให้มีสวนที่กว้างกว่าแบบอื่นๆ จึงเหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ทำสวน หรืออยากให้ห้องชั้นล่างได้วิวสวนสวยๆนั่นเองครับ และกลุ่มสุดท้ายคือ Monza และ Latitude ซึ่งเป็นบ้านไซส์ใหญ่ของโครงการ เป็นบ้านหน้ากว้างที่เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวาง เหมาะกับคนชอบความโปร่งโล่ง และเน้นความเป็นสัดส่วนครับ

วัสดุ : เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเฉพาะโครงสร้างบ้านที่เป็นผนังก่ออิฐมวลเบา เหมาะกับการต่อเติมบ้านมากๆ ซึ่งบ้านแต่ละแบบเค้าจะมีพื้นที่เผื่อให้เราได้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน ให้ตรงกับ Lifestyle ของครอบครัวมากขึ้น เช่น การกั้นห้องอเนกประสงค์เพิ่ม หรือทุบผนังเชื่อมเป็นห้องนอนใหญ่ เป็นต้น ส่วนโครงสร้างบันไดก็เป็น คสล. (คอนกรีตเสริมเหล็ก) ที่แข็งแรงทนทานดี มีสุขภัณฑ์ห้องน้ำของ Cotto เป็นมาตรฐาน

และทำเคาน์เตอร์ครัว Top หินแกรนิตมาให้แล้วด้วยครับ ซึ่งช่วยประหยัดเงินส่วนนี้ไปได้เป็นหมื่นอยู่เหมือนกัน ส่วนกรอบประตูหน้าต่างเป็น UPVC สีขาว ซึ่งบางคนอาจไม่ชอบที่เค้าดูคล้ายพลาสติก แต่จริงๆแล้วทนทานแข็งแรงกว่าอลูมิเนียมอีกนะครับ สุดท้ายคือพื้นที่จอดรถและลานซักล้างหลังบ้าน ยังเป็นแบบ Slab on Ground (วางคานบนดิน) อนาคตอาจมีการทรุดตัว และแยกกันของโครงสร้างพื้นได้อยู่บ้าง ซึ่งหากมีการต่อเติมหลังคาในอนาคต ก็แนะนำให้เตรียมงบสำหรับลงเสาเข็มเพิ่มด้วยนะครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ด้วยลักษณะทางเข้าที่พอดีกับความกว้างของถนน ซึ่งทางโครงการเค้าได้ปลูกต้นไม้ประดับเอาไว้ทั้ง 2 ข้างทาง ทำให้ค่อนข้างร่มรื่นดีทีเดียวครับ ประกอบกับสวนส่วนกลางบริเวณ Clubhouse ยังมีลักษณะเป็นแนวยาว ถึงจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็ส่งผลให้ตลอดแนวถนนทางขวามือ 400 m. เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของพื้นที่สีเขียว มาตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าเลยครับ ถือว่าถนน Main ของเฟสแรกทำบรรยากาศออกมาได้ค่อนข้างดี ส่วนเฟสด้านในอาจต้องรอดูในอนาคตอีกทีนะครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

สาธารณูปโภค : โดยภาพรวมถือว่ามีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ทั้งล็อบบี้ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันโครงการเฟสแรกที่เปิดมา จะเป็นโปรดักส์บ้านเดี่ยวทั้งหมด 102 หลัง ผมถือว่าขนาดและฟังก์ชันพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้ก็ค่อนข้างโอเคอยู่แล้ว ประกอบกับค่าส่วนกลาง 23 บาท/ตร.วา ผมถือว่าถูกมากๆ แต่ถ้าในอนาคตมีการเปิดเฟสใหม่ขึ้นมา และมีจำนวนยูนิตที่มากขึ้น หรือมีบ้านโปรดักส์อื่นๆ อย่างบ้านแฝด และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้นมา ในตอนนั้นก็อาจต้องกลับมาพิจารณากันใหม่อีกครั้งนะครับ

Judgement

เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่อาจให้คะแนนความคุ้มค่าได้นะครับ

BOTTOM LINE

อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช เหมาะกับคนกำลังมองหาบ้านในแถบชานเมืองนครศรีธรรมราช ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่อ้อมค่ายวชิราวุธ และไม่ไกลจากสนามบิน เป็นบ้านสไตล์ Modern ที่มีแบบให้เลือกเยอะ ฟังก์ชันเป็นส่วนตัวและยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนหรือต่อเติมได้ง่าย รวมถึงคำนึงเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ใช้งานสะดวก และชอบบรรยากาศทางเข้าที่มีพื้นที่สีเขียว เป็นส่วนต้อนรับยาวตลอดแนวถนนหลัก ซึ่งสำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 4.27 – 5.67 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 30,000 – 40,000 บาท


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc