รีวิวฉบับที่ 2127 … วันนี้พามารีวิวโครงการ Grande Pleno วัชรพล – สุขาภิบาล 5 จาก AP ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเส้นหลักของย่านสายไหมอย่าง ถนนสุขาภิบาล 5 ใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและถนนกาญจนาฯ เข้า-ออกเมืองสะดวก เป็นโปรดักส์ทาวน์โฮมและบ้านแฝดในโครงการเดียวกัน ฟังก์ชันเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง อยู่กันได้ 3 – 4 คน ในราคาเริ่มต้น 2.99 และ 6.59 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ

ข้อมูลโครงการ

18 September 2020

  • Grande Pleno Watcharapol – Sukhapiban 5 (แกรนด์ พลีโน่ วัชรพล – สุขาภิบาล 5)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ซอย 68 ถนน สุขาภิบาล 5 เขต สายไหม
  • เนื้อที่โครงการ 35-1-8.2 ไร่ จำนวน 255 ยูนิต
  • Layla ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • Zara ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
  • Olivia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม ความสูงจากพื้นถึงฝ้า – 2.6 เมตร / ชั้น 2 ห้องนอนใหญ่ – 3 เมตร
  • บ้านแฝด ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 155,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ธ.ค. ปี 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ n/a
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 065-951-6402

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.908225, 100.672934
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Grande Pleno วัชรพล-สุขาภิบาล 5 ตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 (ติดกับซอย 68) ซึ่งถือว่าเป็นย่านชุมชนแนวราบขนาดใหญ่ของโซนกรุงเทพทางตอนเหนือ เพราะนอกจากความอุดมสมบูรณ์จะมีตลาดสดต่างๆให้อุปโภคบริโภคแล้ว ยังมีความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางค่อนข้างมาก เพราะตัวถนนสุขาภิบาล 5 สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนสายไหม ถนนพหลโยธิน และถนนรามอินทรา

แต่สิ่งที่ดึงดูดให้หลายคนอยากหาซื้อบ้านอยู่ในย่านนี้จริงๆนั่นก็คือ การใช้ทางด่วนเพื่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เพราะตรงจุดนี้เราจะมีทางด่วนให้เลือกใช้ถึง 2 เส้นหลักๆคือ ทางพิเศษฉลองรัช และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งบ้านจัดสรรที่เกิดใหม่มักจะอยู่ในถนนรองอย่าง เพิ่มสิน วัชรพล หรือจตุโชติ ซึ่งนั่นจึงทำให้โครงการ Grande Pleno วัชรพล-สุขาภิบาล 5 ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหลักอยู่แล้วน่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ต้องเสียเวลาเข้าซอยเหมือนเพื่อนบ้าน มีความปลอดภัย และเดินทางไปยังแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้สะดวกกว่านั่นเองครับ

ระยะห่างจากทางด่วนต่างๆ :

Image 1/2
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ "ฉลองรัช" ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 4 km. เท่านั้น แต่อาจต้องเผื่อเวลาสักหน่อย เพราะรถจะค่อนข้างติดตรงแถวๆปากซอยแยกเพิ่มสินและจตุโชตินะครับ

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ "ฉลองรัช" ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 4 km. เท่านั้น แต่อาจต้องเผื่อเวลาสักหน่อย เพราะรถจะค่อนข้างติดตรงแถวๆปากซอยแยกเพิ่มสินและจตุโชตินะครับ

การเดินทางมายังโครงการ :

Image 1/7
ส่วนการเดินทางที่ง่ายที่สุด ผมแนะนำให้ใช้ทางด่วนฉลองรัช ลงที่ด่านสุขาภิบาล 5 จากนั้นเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงมาตามทางเรื่อยๆประมาณ 4 km. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือครับ ส่วนระหว่างทางเราจะผ่านสถานที่สำคัญอะไรบ้างเราไปชมกัน

ส่วนการเดินทางที่ง่ายที่สุด ผมแนะนำให้ใช้ทางด่วนฉลองรัช ลงที่ด่านสุขาภิบาล 5 จากนั้นเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงมาตามทางเรื่อยๆประมาณ 4 km. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือครับ ส่วนระหว่างทางเราจะผ่านสถานที่สำคัญอะไรบ้างเราไปชมกัน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทโดยรอบโครงการจะเป็นชุมชนแนวราบทั้งหมดครับ มีแค่ทางด้านทิศตะวันตกของโครงการเท่านั้น ที่จะอยู่ติดกับเคหะชุมชนออเงิน ซึ่งเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ทำให้เราจะมองเห็นกลุ่มอาคารที่ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดทั้งโครงการไปด้านหนึ่ง ส่วนด้านอื่นๆสามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับ ถนนใหญ่สุขาภิบาล 5 และซอย 68
  • ทิศใต้ : ติดกับ พื้นที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ หมู่บ้านข้างเคียงที่สูง 2 ชั้นเหมือนกัน
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ เคหะชุมชนออเงิน อาคารสูง 5 ชั้น

Image 1/6
เรามาเดินดูรอบๆโครงการกันสักหน่อยครับ ด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่สุขาภิบาล 5 แบบนี้เลย สามารถโบกเรียกรถแท็กซี่ได้ที่หน้าโครงการเลยครับ

เรามาเดินดูรอบๆโครงการกันสักหน่อยครับ ด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่สุขาภิบาล 5 แบบนี้เลย สามารถโบกเรียกรถแท็กซี่ได้ที่หน้าโครงการเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ สายไหม – 1.3 km.
  • ตลาดวงศกร – 1.9 km.
  • ตลาดออเงิน – 2 km.
  • สำนักงานเขตสายไหม – 2 km.
  • Big C Food place – 4.1 km.
  • เวนิส ดี ไอริส วัชรพล (Vennice Di Iris) – 6.9 km.
  • เพลินนารี่ มอลล์ – 7 km.
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนนอรัล – 9.1 km.
  • โรงเรียนสายอักษร – 9.1 km.
  • โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ (รามอินทรา34) – 10.4 km.
  • เดอะ พรอมานาด – 11.8 km.
  • เซ็นทรัล รามอินทรา – 12.5 km.

รายละเอียดโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

โครงการ Grande Pleno วัชรพล – สุขาภิบาล 5 มีขนาด 35-1-8.2 ไร่ ลักษณะเป็นที่ดินแนวยาวลึกเข้าไปประมาณ 850 m. และมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 255 ยูนิต ซึ่งจะมีทั้งโปรดักส์ทาวน์โฮมและบ้านแฝดอยู่ในโครงการเดียวกัน โดยเค้าจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยสิ่งที่น่าสนใจของผังโครงการนี้ผมมี 3 ประเด็นใหญ่ๆคือ

  1. ตำแหน่งของ Product : ปกติแล้วโครงการที่มี 2 โปรดักส์อยู่ร่วมกันแบบนี้ มักจะทำโปรดักส์ที่ใหญ่กว่าอย่างบ้านแฝดให้อยู่ในเฟสทางด้านหน้า ซึ่งจะทำให้ทางเข้าได้บรรยากาศการอยู่อาศัยที่ดีมากขึ้น แน่นอนว่าคนที่อยู่ทาวน์โฮมด้านในเค้าก็ได้รับผลพลอยได้นี้ด้วยเช่นกัน แต่สำหรับโครงการนี้เค้านำบ้านแฝดไปไว้เฟสด้านในสุด ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าไปลึกอยู่สักหน่อย และตัวโปรดักส์ทาวน์โฮมเองก็ได้อยู่ช่วงต้นๆของโครงการ ไม่ต้องเข้าไปด้านในลึกๆเหมือนโครงการอื่นๆครับ
  2. ตำแหน่งของ Facilities : จะเห็นได้ว่าเค้าแยก Clubhouse และสวนออกจากกัน ทั้งนี้ก็เพื่อกระจาย Facilities ให้ลูกบ้านสามารถใช้งานกันได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังลดความหนาแน่นในการใช้ลงได้อีกด้วย สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ โครงการนี้โซนทาวน์โฮมจะได้อยู่ใกล้ Clubhouse และมาใช้งานได้ง่ายกว่า แทนที่จะเป็นโปรดักส์ที่แพงกว่าอย่างบ้านแฝดเหมือนโครงการทั่วๆไป ถือว่าคนที่อยู่ทาวน์โฮมค่อนข้างได้ประโยชน์ดีทีเดียว ส่วนคนที่เลือกบ้านแฝดก็อาจจะชอบมาใช้งานสวนที่เป็นธรรมชาติบ่อยๆแทน และยังช่วยแบ่งกั้นโซนแยกความเป็นส่วนตัวออกจากโปรดักส์ทาวน์โฮมได้อีกด้วยครับ
  3. ขนาดของที่ดินในบางแปลง : หัวข้อนี้เราอาจมองไม่เห็นจากผังโครงการที่ผมดราฟขึ้นมาให้ดู แต่จากที่ผมเห็น Master Plan ที่สำนักงานขายมา จึงทำให้ทราบว่าหลายๆแปลงจะมีขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นทาวน์โฮมที่มีหลังบ้านลึก 2 – 5 m. หรือบ้านแฝดที่เป็นแปลงอยู่ติดกับจุดกลับรถในซอย ทำให้ที่ดินบ้านเป็นรูปตัว L ได้สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้น ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบมีพื้นที่รอบบ้านเยอะๆ ให้ต่อเติมหรือปลูกต้นไม้ทำสวนส่วนตัวเพิ่มได้นั่นเองครับ

ซุ้มประตูทางเข้าถูกออกแบบเป็นทรง Modern แบบเรียบๆ ผสมกับความ Arch โค้งสไตล์อังกฤษ ซึ่งถูกนำมารวมกันในลักษณะกำแพงลายกระเบื้องหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ พร้อมกับมีป้ายชื่อโครงการที่เห็นเด่นสะดุดตามากๆครับ

ระบบการเข้า-ออกจะใช้การสแกนป้ายทะเบียนรถ ถ้าเป็นลูกบ้านประตูเหล็กรางเลื่อนก็จะเปิดออกให้อัตโนมัติ (อาจจะเปิดช้ากว่าไม้กั้นกระดกหน่อย แต่ก็ดูดีและแข็งแรงทนทานมากกว่าครับ) ส่วน Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับ รปภ. และมีประตูเข้า-ออกคนเดินอยู่ทางด้านขวามือ

ซึ่งที่นี่ก็จะใช้ระบบ KATSAN ตามมาตรฐานของ AP สามารถเชื่อมต่อกับ Application ในมือถือได้ เช่น มีใครแจ้งว่ามาหาที่บ้านเรา ก็จะมีระบบแจ้งเตือนเข้ามือถือให้ทราบทันที ทีนี้เราก็บอกยามได้เลยว่าจะให้เข้ามาหาได้เลย หรือถ้าเราไม่อยู่บ้านไม่ต้องเข้ามาก็ได้นะ อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ

ถนน Main ของโครงการจะกว้าง 12 m. โดยในอนาคตที่ว่างฝั่งขวามือนี้ก็จะมีทาวน์โฮมเกิดขึ้นครับ (ปัจจุบันส่วนนี้เค้าขายด้านหน้านี้หมดไปแล้วล่ะ)

เข้ามาด้านในจะเจอกับ 3 แยก เริ่มที่ด้านซ้ายมือจะเป็นอาคาร Clubhouse ตรงกลางที่เป็นทาวน์โฮมซอยแรกปัจจุบันเป็น Sale Gallery และบ้านตัวอย่าง ส่วนซอยขวามือจะเป็นถนน Main ที่จะตรงไปยังส่วนต่อๆไปด้านในโครงการครับ

เรามาเริ่มกันที่อาคาร Clubhouse กันก่อนเลยครับ ซึ่งการออกแบบก็จะเหมือนกับตรงส่วนของซุ้มประตูโครงการเลยนะ เป็นกำแพงลายกระเบื้องหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ และมี Arch โค้งให้อารมณ์สไตล์อังกฤษ

ด้านหน้าเค้าปลูกไม้พุ่มเตี้ยประดับเอาไว้ครับ เพื่อไม่ให้บดบังความสวยงามของตัวอาคารนั่นเอง

และถ้าบ้านที่อยู่ด้านในลึกๆอยากจะขับรถมาใช้ Clubhouse เค้าก็มีที่จอดรถเตรียมไว้ให้ 2 ช่องทางขวามือครับ แต่ถ้าหากเป็นช่วงเวลาที่มีคนมาใช้งานเยอะๆพร้อมกัน ผมคิดว่าที่จอดรถนี้ก็อาจยังไม่เพียงพอนะ เพราะก็มีบ้านหลายหลังที่ไกลเกินระยะเดินอยู่เหมือนกันครับ

เดินขึ้นบันไดเข้ามาในอาคาร ขวามือจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ

ที่นั่งจะอยู่ใต้อาคารแบบนี้ แดดช่วงกลางวันก็จะไม่ร้อน จึงสามารถนั่งเล่นได้ครับ และที่สุดมุมทางเดินก็จะมีที่ล้างตัวก่อนลงสระให้ 1 จุดด้วยนะ

ตัวสระว่ายน้ำจะแบ่งโซนเด็กที่เป็น Jacuzzi ในตัวแยกออกจากสระใหญ่ และอยู่ใกล้ทางเข้าอาคาร Clubhouse เพื่อที่ผู้ปกครองจะได้ดูแลเด็กๆได้ง่ายๆหน่อย

ส่วนสระใหญ่จะมีขนาด 18 x 5 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้นะครับ โดยสระนี้ออกแบบให้เป็นสระน้ำล้นที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้างได้ แต่อย่างที่บอกว่าเค้าเป็นสวนพุ่มเตี้ย ซึ่งจะได้ความโปร่งโล่งและมองไปรอบๆได้ทั่วก็จริง แต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่รถขับผ่านไป-มา จะมองเห็นคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่ได้เช่นกัน (อนาคตลูกบ้านอาจปลูกต้นไม้สูงๆเพิ่มได้ ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวครับ)

อีกด้านของพื้นที่ชั้นล่างนี้จะมีห้องน้ำ และห้องกระจกที่เราเห็นกันตั้งแต่แรกอยู่ด้านหน้าเลยครับ

ภายในคือ Co-Working Space ที่มีโต๊ะให้นั่งอ่าน/เขียนหนังสือได้ อีกทั้งยังมีผนังกระจกที่ชมวิวได้รอบเลยครับ หรือจะใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกก็ได้ (หากไม่อยากให้ในบ้านเสียความเป็นส่วนตัว)

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำแบบนี้ก็ใช้งานง่ายดีครับ เพียงแต่เค้าจะใช้ทางสัญจรเดียวกับจุดที่ต้องผ่านทางเข้า Clubhouse และบันไดขึ้นชั้น 2 ซึ่งถ้าคนที่ว่ายน้ำเสร็จแล้วเดินผ่าน พื้นก็คงต้องเปียกแน่ๆ (ต้องให้แม่บ้านคอยเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆหน่อยนะ)

ส่วนภายในห้องน้ำก็มีฟังก์ชันครบ ทั้งโถสุขภัณฑ์ ตู้ล็อคเกอร์ และห้องอาบน้ำ ซึ่งผมชอบตรงมีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ทำให้ระบายอากาศและให้แสงสว่างที่โปร่งโล่งดีทีเดียวล่ะ

ขึ้นบันไดมาดูชั้น 2 กันต่อเลยครับ

ซึ่งจากชานพักบันไดก็สามารถมองลงไปเห็นโซนสระว่ายน้ำชั้นล่างได้ด้วยนะ

ส่วนชั้นบนก็จะมีอยู่แค่ 2 ห้องเท่านั้น ด้านซ้ายคือห้องนิติบุคคล ส่วนด้านขวาคือ Fitness

โดยภายในห้อง Fitness จะมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ (ประมาณ 45 ตร.ม.) พร้อมกับเครื่องออกกำลังกายอีก 5 เครื่องด้วยกัน ส่วนผนังขวามือที่เห็นว่าครึ่งบนเป็นผนังทึบ ก็เพราะเป็นไปตาม Facade ภายนอกของอาคารนั่นเอง (ที่ต้องการให้เป็นกำแพงขาวเชื่อมต่อกัน)

ดังนั้นช่องแสงขนาดใหญ่ที่มี ก็จะมีแค่ตรงลู่วิ่ง 2 เครื่องนี้เท่านั้นครับ โดยปัจจุบันเรายังเห็นเป็นพื้นหญ้าสีเขียวอยู่นะ แต่อนาคตก็จะมีแปลงทาวน์โฮมมาลงครับ

เรามาต่อกันที่ด้านในโครงการกันเลยดีกว่า ซึ่งวงเวียนที่ 2 จะเป็นจุดที่เริ่มเข้าสู่โซนบ้านแฝดแล้วครับ และยังมี Facilities เป็นสวนให้ใช้งานอีกจุดหนึ่งด้วยนะ

โดยส่วนแรกที่เราจะเจอคือ จุดจอดรถจักรยาน พร้อมกับมีทางลาดสำหรับรถเข็นหรือผู้สูงอายุให้เดินเข้าสวนได้สะดวกอีกด้วย

สวนแห่งนี้จะออกแบบเป็นสไตล์อังกฤษ โดยใช้ซุ้มเหล็กโค้งสีขาว น้ำพุ พื้นลายตารางหมากรุก และต้นไม้ประเภทไม้ดอกสวยงาม มากกว่าที่จะเป็นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา จึงเป็นสวนที่ค่อนข้างโปร่งโล่งและดูสะอาดตาทีเดียว(ซึ่งก็แล้วแต่สไตล์คนชอบ)

นอกจากนี้…ตามมุมต่างๆยังมีชิงช้าและม้านั่งให้พักผ่อนกันได้อีกด้วย ซึ่งสาวๆคนไหนอยากจะมานั่งถ่ายรูปสวยๆก็ไม่เลวนะครับ ส่วนสนามหญ้าตรงกลางจะเป็นลานกิจกรรมเอาไว้จัดงานต่างๆเช่น งานทำบุญหมู่บ้าน งานปีใหม่ งานวันเด็ก เป็นต้น

ส่วนอีกด้านก็จะมีสนามเด็กเล่น พื้นเป็น Absorption ช่วยลดแรงกระแทกและอาการบาดเจ็บเวลาหกล้มได้ โดยจะทำเป็นลวดลายต่างๆเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ และให้เด็กๆได้เล่นสนุกกัน นอกจากนี้รอบๆยังมีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง และพื้นหินกรวดนวดฝ่าเท้าสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 18 x 5 เมตร
  • สระเด็กพร้อมโซน Jacuzzi
  • Co-Working Space
  • Fitness เครื่องเล่นจำนวน 5 เครื่อง
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 363 ตร.วา
  • Jogging Track
  • Education Playground
  • เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง
  • พื้นหินนวดฝ่าเท้า
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 34 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Access ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • ระบบ KATSON มาตรฐาน AP

แบบบ้าน

อย่างที่บอกไปว่าโครงการ Grande Pleno วัชรพล – สุขาภิบาล 5 จะมีโปรดักส์อยู่ 2 แบบ 3 Type คือ บ้านแฝด 1 Type และทาวน์โฮม 2 Type ประกอบด้วย

  • Layla ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
  • Zara ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Olivia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ซึ่งทาวน์โฮมทั้งหมดจะก่อสร้างด้วยระบบ Precast มีความแข็งแรงทนทานค่อนข้างดี แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบต่อเติมภายในบ้านนัก เพราะเราจะทุบหรือต่อเติมได้ค่อนข้างยากหน่อย แต่ถ้าเป็นบ้านแฝดจะก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งเหมาะกับการต่อเติมบ้านมากกว่าครับ

ภาพประกอบจากทางโครงการ

  • Olivia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

วันนี้เราจะมาเริ่มกันที่โปรดักส์บ้านแฝดก่อนนะครับ ซึ่งความแฝดของเค้าก็คือ การทำผนังชั้น 1 ในส่วนครัวเชื่อมต่อกัน ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยของชั้นล่างนี้จึงเป็นลักษณะบ้านหน้ากว้าง จึงได้ช่องแสงโดยรอบค่อนข้างโปร่งโล่งดีทีเดียว แถมยังจัดแบ่งฟังก์ชันโซนพักผ่อนอย่าง ห้องนั่งเล่นและพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร แยกออกจากโซนใช้งานอย่างครัวและลานซักล้างหลังบ้านได้อย่างชัดเจน

โดยมีโถงบันไดกับพื้นที่อเนกประสงค์มาคั่นกลางฟังก์ชันทั้งสอง และเชื่อมต่อกันด้วยโถงทางเดินหลักกลางบ้านแค่จุดเดียว ซึ่งค่อนข้างประหยัดพื้นที่สัญจรได้เยอะเลย จุดน่าสนใจอีกอย่างคือ พื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งของจริงจะเป็นแบบโล่งๆนะ ทำให้จริงๆแล้ว Common area อาจเป็นรูปตัว L ขนาดใหญ่เลยก็ได้ครับ หรือใครจะกั้นผนังทำเป็นห้องนอนหรือห้องผู้สูงอายุเพิ่มก็ยังได้ เพราะห้องน้ำเค้าก็เตรียมพื้นที่อาบน้ำไว้รองรับแล้วเรียบร้อย

ภาพประกอบจากทางโครงการ

อีกหนึ่งความพิเศษของบ้านแฝดที่นี่คือ จะมีขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งตามกฎหมายแล้วบ้านแฝดจะเริ่มต้นที่ 35 ตร.วา แต่สำหรับโครงการนี้จะมีขนาดที่ดินมาตรฐานเริ่มที่ 37 ตร.วา ไปจนถึง 40 – 50 ตร.วา เลยก็มีครับ นั่นหมายความว่า เราจะมีบ้านที่มีสวนข้างบ้านขนาดค่อนข้างใหญ่เลย บางหลังยังสามารถทำเป็นเรือนรับรอง และต่อเติมเพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยให้ใหญ่ขึ้นอีกได้ด้วยนะ

ขึ้นมาดูแปลนชั้น 2 กันบ้างครับ จะประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ซึ่งทั้งหมดจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลย ได้ความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวกันแบบสุดๆ โดยเฉพาะห้อง Master Bedroom จะมีขนาดที่ใหญ่มาก สามารถแบ่งพื้นที่ห้องทำเป็น Walk in closet หรือวางชุดโซฟานั่งเล่นเพิ่มเติมได้

แต่หากเราลองสังเกตดูจริงๆแล้ว แบบบ้านแฝดทั้ง 2 หลังนี้จะไม่เหมือนกันเป๊ะๆซะทีเดียวนะ โดยเฉพาะหลังด้านขวาจะมี Facade ที่เป็นส่วนยื่นออกมาเพิ่มเติมด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Option ของบ้านแฝดที่ไม่เหมือนกันให้เราได้เลือกครับ ส่วนอีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ ช่องหน้าต่างของห้องนอนเล็ก มีการออกแบบให้ตำแหน่งอยู่เยื้องกันเล็กน้อย เพื่อความเป็นส่วนตัวของห้องชั้น 2 ที่ห่างกันเพียงสองเมตรเท่านั้นเอง

ดังนั้นแบบบ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ที่อยู่กัน 3 – 4 คน หรืออาจเป็น 5 คนก็ได้หากกั้นห้องนอนชั้นล่างเพิ่มอีกห้อง โดยรวมแบบบ้านมีหน้าตาที่ค่อนข้างดูดีทีเดียว ฟังก์ชันภายในก็ใช้งานง่ายและเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นผลพวงมาจาก AP เค้าได้ดีไซน์บ้านแฝดออกมาแล้วหลายรุ่น (ตัวนี้น่าจะเป็น 3 หรือ 4) จึงทำให้แบบบ้านของโปรดักส์นี้ค่อนข้างลงตัวดีสุดๆครับ

โดยบ้านตัวอย่างของจริงปัจจุบัน ณ วันที่ผมเข้าไปถ่ายรีวิว เค้ายังตกแต่งไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะ (อนาคตถ้าใครไปชมก็อาจได้เห็นของจริงกันได้) แต่ผมมีภาพบ้านตัวอย่างของโครงการ Grande Pleno พหลโยธิน – รังสิต มาฝากครับ ซึ่งเป็นแบบเดียวกันเป๊ะๆเลย จะเป็นอย่างไรไปชมตัวอย่างกันเลยครับ

Image 1/15


  • Layla ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

สำหรับชั้น 1 จะเป็น Common area ขนาดใหญ่ โดยที่ส่วนครัวเค้าจะไม่ได้กั้นเป็นห้องมาให้นะครับ แต่ถ้าใครต้องการทำครัวจริงจัง (ที่อาจมีกลิ่นหรือควันเยอะๆ) ผมแนะนำให้ทำครัวไทยด้านหลังบ้านเพิ่มเติมได้ ซึ่งการที่เค้าออกแบบเป็นครัวเปิดแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า เค้าต้องการให้เรามีพื้นที่อเนกประสงค์ในบ้านให้ใช้งานเพิ่มนั่นเอง ซึ่งเราสามารถปรับเป็นห้องครัว/ห้องทำงาน/ห้องเกมส์ หรือห้องนอนอีกสักห้องก็ยังได้ เพราะห้องน้ำใต้บันไดเค้าก็มีพื้นที่อาบน้ำเตรียมไว้พร้อมแล้วเช่นกัน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่อยู่ทางหน้าบ้าน ซึ่งกินพื้นที่ความกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะอยู่ทางด้านหลังบ้าน และมีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งผนังตรงกลางก็จะเป็น Precast หรือผนังรับน้ำหนัก เราไม่สามารถทุบเพื่อเชื่อมต่อกลายเป็นห้องใหญ่ได้ (ทาวน์โฮมของ AP เค้ามีโมเดลทั้งแบบที่ทุบเชื่อมได้และไม่ได้ครับ แต่ที่นี่ทุบไม่ได้นะ) ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ถ้าอยู่กัน 2 -3 คน(พ่อแม่ลูก) น่าจะกำลังดีครับ เพราะห้องน้ำเค้าจะมีห้องเดียวที่ต้องแชร์ร่วมกัน (ถ้าเป็น 4 คนอาจจะหนาแน่นไปสักหน่อย) ซึ่งห้องเล็กอีกห้องที่เหลือก็สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตาม Lifestyle ของแต่ละครอบครัว เช่น ห้องพระ ห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัว เป็นต้น

ส่วนหน้าตาบ้านก็จะเป็นสไตล์ Modern เรียบๆ มาพร้อมกับช่องกระจกขนาดค่อนข้างใหญ่ ส่วนประตูรั้วจะเป็นประตูบานเฟี้ยมแบบ 2 ตอน ซึ่งค่อนข้างประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิดได้ดีทีเดียว แต่อาจต้องดึงกลอนขึ้น-ลงเยอะหน่อย ถ้าฝนฟ้าอากาศไม่ดีก็ต้องมีตากแดด/เปียกฝนกันบ้างครับ (อาจติดมอเตอร์ทำเป็นประตูอัตโนมัติเพิ่มก็ได้)

พื้นที่จอดรถจะเป็นแบบ Slab on Ground และเทพื้นคอนกรีตมาให้ โดยตัวรถจะมีชายคาของบ้านคลุมไว้ให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่อยากจอดรถตากแดดตากฝน ก็อาจต้องต่อเติมหลังคากันสาดเพิ่มเอาครับ ส่วนอีกครึ่งนึงเค้าก็จะปูหญ้ามาให้เป็นมาตรฐานแบบนี้เลย

ทางเข้าบ้านนอกจากจะมีเฉลียงขนาดใหญ่ไว้วาง/ถอดใส่รองเท้า และป้องกันสิ่งสกปรกเข้ามาภายในบ้านแล้ว ส่วนที่ชอบคือประตูอลูมิเนียม Powder Coat สีดำนี้ จะมีที่เปิดค่อนข้างใหญ่ ใช้งานง่ายแล้ว และยังมีตัวล็อกถึง 2 จุด เพื่อความปลอดภัยอีกด้วยครับ

เข้ามาภายในจะเจอ Common area ที่เชื่อมต่อกันไปจนถึงหลังบ้าน โดยหากเปิดประตูทั้ง 2 ฝั่งเอาไว้ ก็จะมีลมพัดโกรกเย็นสบายดีเชียวครับ ซึ่งฟังก์ชันแรกคือห้องนั่งเล่น มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.45 m. และสามารถใช้เป็นที่รับแขกก็ได้ด้วย พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนฝ้าเพดานจะสูง 2.6 m. ซึ่งของจริงจะไม่มีการดรอปฝ้าและได้เป็นโคมไฟซาลาเปานะครับ

นอกจากนี้ตรงผนังหลังทีวี ของจริงจะมีช่องกระจกเข้ามุมแบบนี้ด้วยนะ ซึ่งเป็นจุดที่เค้าออกแบบมาเพื่อลดเหลี่ยมมุมของเสา เพิ่มความโปร่งโล่ง และดึงแสงสว่างให้เข้ามาตรงกลางบ้านให้มากขึ้น เพราะด้วยลักษณะของทาวน์โฮมจะเป็นบ้านแบบตอนลึก ที่มีช่องเปิดเพียงด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้นครับ

ถัดเข้ามาตรงกลางบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร และด้านในสุดจะเป็นครัว ซึ่งจริงๆจะเป็นพื้นที่โล่งๆเลยครับ โดยเค้าจะทิ้งท่องานระบบต่างๆไว้ให้ที่ผนังใต้หน้าต่าง เราจึงต้อง Built เคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเอง ซึ่งใครจะทำแค่เป็นครัวฝรั่งหรือส่วนเตรียมอาหารเบาๆก็ได้ ส่วนครัวไทยอาจทำเป็นห้องแบบปิดมิดชิดใหม่เอง หรือทำด้านหลังบ้านไปเลยก็ได้ครับ

ซ้ายมือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆอีกเช่นกัน แต่ทางโครงการได้กั้นผนังกระจกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งก็ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่ยังได้ความโปร่งโล่งอยู่นะ โดยถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็อาจปิดม่านหรือทำเป็นผนังทึบไปเลยก็ได้ครับ

ภายในมีขนาดพื้นที่ประมาณ 3 x 2.4 m. ซึ่งสามารถทำเป็นห้องครัว หรือห้องนอนเสริมอีกสักห้องได้เลย เพราะติดๆกันก็มีห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำให้ใช้งานอยู่แล้ว หรือจะทำเป็นห้องดูหนัง ห้องเล่นเกม หรือห้องทำงานก็ได้นะ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่มีพื้นลดระดับลงไปตามแบบฉบับของ AP ทั้งนี้ก็เพราะฟังก์ชันนี้เค้าอยู่ใต้บันได การลดระดับลงไปจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความสูงของฝ้าเพดานในห้องน้ำ ให้สามารถยืนใช้งานได้สบาย(หัวไม่ชน) ซึ่งความสูงของ Step นี้จะพอๆกับบันได 1 ขั้นเลยครับ ดังนั้นเวลาใช้งานจึงต้องระวังๆกันหน่อยนะ (โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ)

ภายในมีพื้นที่ใช้งานรูปตัว L ไม่ได้แยกโซนเปียกโซนแห้ง หรือกั้นฉากกั้นกระจกมาให้ แต่ที่ดีก็คือ มีช่องหน้าต่างไว้คอยระบายอากาศได้ด้วยนั่นเองครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็นของ American Standard ตามที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลย

ประตูทางออกหลังบ้านของจริงจะเป็นประตูไม้บานทึบนะ แต่ถ้าใครอยากได้ความโปร่งโล่ง ก็อาจเปลี่ยนเป็นประตูที่มีช่องกระจกแบบบ้านตัวอย่างก็ไม่เลวเหมือนกันครับ

ภายนอกเป็นพื้นที่ลานซักล้าง ซึ่งของจริงจะเทเป็นพื้นคอนกรีตมาให้ครับ โดยบ้านตัวอย่างนี้เค้าได้จำลองแปลงที่มีพื้นที่หลังบ้านขนาดใหญ่มาให้ดู ว่าเราสามารถแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนแบบนี้ได้ด้วย

โดยขวามือทำเป็นพื้นที่ครัวไทยพร้อมกับโซน Laundry เป็นรูปตัว L แบบนี้เลยครับ แต่ถ้าหลังไหนที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ก็อาจทำแค่เพียงเคาน์เตอร์รูปตัว I (ไอ) ธรรมดาก็เพียงพอแล้วล่ะ

อีกอย่างนึงที่เราจะได้ก็คือ รั้วข้างบ้านที่คั่นกลางระหว่างหลังข้างๆนี้ ทางโครงการจะให้มาเป็นผนังสูงที่ลาดชันเป็นทรงจั่วแบบนี้เลย สามารถรองรับน้ำหนักของหลังคาที่จะต่อเติมในอนาคตได้ด้วยครับ เพราะรั้วบ้านเค้าจะลงเข็มยาวมาให้ลึกเท่ากับตัวบ้านเลยนั่นเอง

ส่วนทางด้านซ้ายเค้าแบ่งครึ่งทำเป็นสวนและพื้นที่นั่งเล่นเป็นไอเดีย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่กลางแจ้งที่ได้แสงธรรมชาติเข้าไปยังส่วนครัวได้ด้วย ซึ่งเราสามารถใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน ปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆ หรือตากผ้าก็ได้นะครับ

ต่อไปเราจะขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 กันนะ ซึ่งตรงนี้ผมมีประเด็นนิดนึงสำหรับคนที่สูง 180 cm. ขึ้นไป โดยในช่วงบันไดขั้นที่ 4 จะมีความสูงฝ้าประมาณ 180 cm. ดังนั้นคนที่ตัวสูงๆอาจต้องขึ้น-ลงระมัดระวังศีรษะกันสักนิดนะ

ส่วนบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก เวลาเดินก็จะรู้สึกโปร่งๆด้านในเหมือนกล่อง (แต่ก็แข็งแรงใช้งานได้ปกติ) และปิดผิวด้วยไม้ยางพารา ซึ่งตรงโถงบันไดยังสูงพอที่จะแขวน Chandelier สวยๆได้ด้วย และที่ด้านบนก็จะมีประตูห้องอยู่ 3 บาน ด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ตรงกลางคือห้องน้ำ และด้านขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่

แต่ที่ชอบจริงๆคือ โถงบันไดชั้น 2 นี้จะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งเอาไว้ให้ด้วยครับ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับบ้านทาวน์โฮมที่ไม่มีช่องเปิดด้านข้างแบบนี้ ทำให้อากาศถ่ายเทและไม่อับทึบจนเกินไป

เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนเล็กห้องแรกด้านซ้ายมือ ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าอีกห้องเล็กน้อย เพราะเค้าไม่ต้องเสียพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับห้องน้ำ ซึ่งใหญ่พอที่จะวางเตียง 5 ฟุตได้เลย

ติดกันจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่าหน่อย โดยบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องแต่งตัวไว้เป็นไอเดีย (สำหรับครอบครัวที่อยู่กันแค่ 3 คนพ่อแม่ลูก) ซึ่งห้องนี้ก็อาจกลายเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ ตาม Lifestyle ของแต่ละครอบครัว เช่น ห้องพระ ห้องทำงาน เป็นต้น แต่ถ้าจะปรับเป็นห้องนอนแล้ววางเตียง 3.5 ฟุตก็สามารถทำได้อยู่ครับ

ถัดมาจะเป็นห้องน้ำที่ห้องนอนทุกห้องจะต้องมาใช้ร่วมกัน มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสประมาณ 1.65 x 1.55 m. โดยเค้าไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำหรือแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ (เราอาจกั้นเพิ่มเองได้ครับ) ส่วนสุขภัณฑ์ก็จะเป็น American Standard เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี Junction box ตรงฝักบัวไว้ติดเครื่องทำน้ำอุ่น และมีพัดลมดูดอากาศบนเพดานมาให้ด้วยครับ

ส่วนห้องสุดท้ายจะเป็น Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องเดียวที่มีความสูงฝ้าอยู่ที่ประมาณ 3 m. ขนาดค่อนข้างใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ ทำให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 ช่อง และยังแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ส่วนได้อีกด้วย ซึ่งบ้านตัวอย่างเค้าเลือกที่จะวางเตียงไว้ชิดระเบียงฝั่งซ้ายแบบนี้ครับ

โดยระเบียงภายนอกมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก กว้างเพียง 1.8 x 0.65 m. ให้ออกไปยืนสูดอากาศได้เท่านั้น แต่ที่ชอบคือเค้าใช้เป็นราวกันตกกระจกนิรภัย Tempered Glass ซึ่งดูทันสมัยและโปร่งโล่ง ไม่เกะกะสายตาเวลาชมวิว ส่วนพื้นที่ด้านบนก็สามารถแขวน Condensing Unit ของแอร์ได้ครับ

พื้นที่ปลายเตียงอีกส่วนหนึ่ง เค้าจัดเป็นชุดโซฟานั่งเล่นมาให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือเราจะทำเป็นมุมแต่งตัวเล็กๆของคุณผู้หญิงก็ได้นะ

แต่ที่ชอบจริงๆคือ ช่องหน้าต่างนี้มีขนาดใหญ่มากครับ ซึ่งทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งดีทีเดียว

  • Zara ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ถัดมาจะเป็นทาวน์โฮมที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ฟังก์ชันหลายๆจุดเริ่มเปลี่ยนไปบ้าง ตั้งแต่ที่จอดรถเพิ่มขึ้นเป็น 2 คัน (แต่จะไม่มีสวนหน้าบ้านแล้ว) ระยะดูทีวีห้องนั่งเล่นก็กว้างมากขึ้นจนสามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆได้เลย สิ่งที่หายไปในชั้นแรกคือ พื้นที่อเนกประสงค์จะเปลี่ยนเป็นครัวไปครับ แต่ก็สามารถกั้นห้องทำเป็นครัวปิดได้ง่ายขึ้นด้วย

ส่วนชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้องเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว โดยรวมแล้วของทาวน์โฮมหลังนี้จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 3 – 4 คน หรือคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันใหญ่ๆ และรวมถึงคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เช่น มีที่จอดเพียงพอให้ใช้คนละคัน และมีห้องน้ำที่ไม่ต้องแย่งกันใช้นั่นเองครับ

สำหรับบ้าน Type นี้ทางโครงการไม่ได้มีบ้านตัวอย่างมาให้ดูนะ ซึ่งจากที่ผมเห็นใน Master Plan ก็เหลือเพียงหลังในภาพด้านบนนี้แค่ยูนิตเดียวแล้วเท่านั้น เนื่องจากบ้านแบบนี้เค้าทำออกมาเพียงไม่กี่หลังนั่นเอง ใครสนใจก็ลองไปชมบ้านเปล่าของจริงกันได้เลยนะ

ส่วนภาพสวยๆของโครงการที่ผมถ่ายมาฝากกัน สามารถคลิกชมที่ Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ >>>

Image 1/15

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

18 September 2020

  • Layla ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • Zara ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
  • Olivia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา 10,000 – 50,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 155,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 44 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : สิ่งที่ค่อนข้างได้เปรียบเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันคือ ทำเลโครงการที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่าง สุขาภิบาล 5 ไม่ได้อยู่ในถนนรองหรือต้องเข้าซอยไปลึกๆ จึงทำให้มีความปลอดภัยและยังสามารถเดินทางไปใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้ง่ายกว่าด้วย ซึ่งปัจจุบันก็หาที่ดินทำโครงการแบบนี้ได้ยากเต็มทีครับ อีกทั้งยังอยู่ใกล้ทางด่วนถึง 2 สายคือ ทางพิเศษฉลองรัช และถนนกาญจนาฯ จึงเป็นทำเลที่เข้า-ออกเมืองได้ง่าย (แต่อาจต้องเผื่อเวลาสักหน่อย เพราะกว่าจะขึ้นทางด่วนได้รถก็ติดพอสมควร) ส่วนความอุดมสมบูรณ์นับว่ามีครบ ไม่ว่าจะเป็นตลาดใหญ่ๆอย่าง ตลาดออเงิน, ตลาดวงศกร, Big C Foodplace และใกล้ๆกับโครงการก็จะมีทั้ง Lotus Express และเซเว่นอยู่พร้อมเลยครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ตรงทางเข้าและภายในโครงการ มีรั้วรอบโครงการสูง 2.5 m. ส่วนการเข้า-ออกของรถจะใช้การสแกนป้ายทะเบียนครับ โดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัย KATSON เป็นมาตรฐานของบ้าน AP ซึ่งเชื่อต่อกับ Application ในมือถือ คอยแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา ส่วนภายในบ้านเค้าจะไม่ได้ติดตั้งมาให้นะ ซึ่งลูกบ้านสามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ตามความต้องการของแต่ละครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย (ทาวน์โฮม) : ปกติเราจะไม่ค่อยเห็นการจัดวางตำแหน่งของแบบบ้านทาวน์โฮม ให้มาอยู่ในโซนด้านหน้าโครงการแบบนี้สักเท่าไหร่นัก ซึ่งคนที่ซื้อทาวน์โฮมโครงการนี้จะไม่จำเป็นต้องขับรถเข้าไปด้านในลึกๆเหมือนทุกที การเข้าถึงก็ทำได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถมาใช้อาคาร Clubhouse ได้สะดวกอีกด้วย

ส่วนแบบบ้านค่อนข้างมาตรฐานและใช้งานได้ดีครับ โดยทาวน์โฮม 2 Type จะเหมาะกับกลุ่มคนที่ไม่เหมือนกันอย่างชัดเจน สำหรับแบบ Layla ที่เป็นแบบเล็กสุดที่เราได้รีวิวกันไป จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก อยู่กัน 2 – 3 คน และมีรถใช้เพียงแค่คันเดียว(เพราะอาจเดินทางด้วยรถสาธารณะบ่อยๆ) รวมถึงอาจต้องการห้องอเนกประสงค์เพื่อทำเป็นห้องอื่นๆเพิ่มเติมอีกด้วยก็ได้ ส่วนแบบ Zara จะมีพื้นที่ใช้สอยภายในที่เยอะกว่า และมีความเป็นส่วนตัว มีที่จอดรถและห้องน้ำที่เพียงพอมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่อง “ขนาดที่ดิน” ที่ทำให้หลังบ้านของบางยูนิตจะมีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐาน สามารถต่อเติมครัวหลังบ้านเพิ่มได้สบายๆเลยครับ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย (บ้านแฝด) : การที่ให้โซนบ้านแฝดมาอยู่ด้านในโครงการแบบนี้ ส่วนตัวผมมองในเรื่องความเป็นส่วนตัวที่สงบและไม่พลุกพล่านเหมือนโซนด้านหน้าโครงการ อีกทั้งแต่ละซอยจะมีเพื่อนบ้านอยู่เพียง 4 – 8 หลังเท่านั้น และยังสามารถมาใช้งานสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สวยๆของโครงการได้ง่ายอีกด้วย แต่อาจต้องขับรถเข้ามาด้านในลึกหน่อยนะครับ

ส่วนการออกแบบตัวบ้าน ผมว่าเค้าทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ซึ่งพอเป็นบ้านหน้ากว้างแบบนี้ ก็ทำให้แบ่งฟังก์ชันการใช้งานภายในได้ค่อนข้างลงตัวดีมากๆ โดยจุดเด่นจริงๆคือ “พื้นที่สวนข้างบ้าน” ที่หลายๆแปลงจะค่อนข้างใหญ่กว่ามาตรฐาน ซึ่งบางหลังก็มีที่ดินใหญ่ถึง 40 – 50 ตร.วา ที่เยอะไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยล่ะ แน่นอนว่าเหมาะกับคนที่ชอบทำสวนปลูกต้นไม้ หรือต้องการต่อเติมครัวหรือเรือนรับรองแยกออกมาจากตัวบ้าน แต่ก็แลกกับค่าที่ดินที่ทำให้ “ราคาเงินก้อน” ของตัวบ้านมีมูลค่าที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

วัสดุ : ค่อนข้างให้มาเป็นมาตรฐาน โครงสร้างของทาวน์โฮมจะเป็นระบบ Precast ทั้งหมด จึงอาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบทุบหรือต่อเติมภายในสักเท่าไหร่นัก ส่วนของบ้านแฝดจะเป็นผนังก่ออิฐมวลเบา สามารถรองรับการต่อเติมในอนาคตได้ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ส่วนชั้นสองก็เป็นพื้นไม้ลามิเนต บันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะเป็น American Standard ทั้งหมดครับ นอกนั้นพวกฉากกั้นอาบน้ำ เคาน์เตอร์ครัว หรือผนังกั้นห้องอเนกประสงค์เราจะต้องทำเพิ่มเอง แต่ที่ชอบก็คือ เค้าให้ช่องกระจกมาบานค่อนข้างใหญ่ดีทีเดียว

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โดยรวมผมถือว่าค่อนข้างดีนะ ถึงแม้ด้านหน้าสุดจะเป็นโซนทาวน์โฮมก็ตาม แต่ถนน Main เค้าจะทำทาวน์โฮมแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น ส่วนอีกฝั่งจะปลูกต้นไม้ข้างทาง ทำให้ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือหนาแน่นอะไรเลย แต่ที่ชอบจริงๆคงจะเป็นสวนตรงโซนบ้านแฝด เป็นสวนสไตล์อังกฤษที่เน้นพวกไม้ดอกและต้นไม้สวยงาม อาจไม่ใช่ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นแบบที่คนไทยคุ้นเคยนัก แต่ผมว่าเค้าจัดออกมาได้สวยดีทีเดียวแหละ

สาธารณูปโภค : ฟังก์ชันให้มาครบ แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้าน 255 ยูนิต ผมคิดว่า Clubhouse ของเค้าอาจเล็กไปสักนิดนึง ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Co-Working Space แต่ก็ทำรูปแบบอาคารออกมาได้สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ดีทีเดียว แต่ที่เด่นจริงๆผมยกให้กับสวนที่อยู่ด้านใน ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว เค้ายังแบ่งโซนเอาไว้อีกหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนน้ำพุสวยๆ ที่นั่งชิงช้าเก๋ๆ ลานอเนกประสงค์ที่วิ่งออกกำลังกายรอบๆได้ รวมไปถึงมีสนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง และลานหินนวดฝ่าเท้าสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วยครับ โดย Facilities เค้าจะแบ่งเป็น 2 จุด เพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน และยังทำให้บ้านแต่ละเฟสเข้าถึงส่วนกลางได้ง่ายเท่าเทียมกันอีกด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

ทาวน์โฮม : เทียบกับแพคเกจ 3 – 5 ล้านบาท, 18 September 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ตลาดและทางด่วน 2 สาย เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก (โปรดักส์ทาวน์โฮม 2 ชั้นราคา 3 ล้าน ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในถนนรองหรือซอยย่อย ถ้าติดถนนใหญ่เลยจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นที่มีราคาสูงหน่อย ดังนั้นทาวน์โฮมโครงการนี้ถ้าเป็นราคา 2.99 – 3 ล้านต้นๆ จะได้คะแนนส่วนนี้ดีเลยครับ แต่ถ้าคุณได้ราคามาสูงก็สามารถลดทอนคะแนนลงได้ตามความเหมาะสมนะ)
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – ใช้ระบบ KATSON สแกนป้ายทะเบียนรถและเชื่อมต่อ Application ในมือถือ มี รปภ. ดูแล 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV รั้วโครงการ 2.5 m.
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ฟังก์ชันยืดหยุ่น ชั้นล่างกั้นเป็นห้องจริงจังเพิ่มได้ ส่วนห้องนอนชั้นบนจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันแค่ห้องเดียว
  • วัสดุ 7.5/10 – ระบบก่อสร้างแบบ Precast ของภายในมาตรฐานเหมาะสมกับราคา
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีต้นไม้ริมถนนตรงทางเข้าและบริเวณส่วนกลาง
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มี Facilities 2 จุด กระจายการใช้งานไม่หนาแน่น ทาวน์โฮมอยู่ใกล้ Clubhouse มาใช้ได้ง่าย และยังได้ใช้ส่วนกลางที่ใหญ่และสวยเทียบเท่าโครงการบ้านแฝด-บ้านเดี่ยวอีกด้วย
  • 7.96 / 10.00

บ้านแฝด : เทียบกับแพคเกจ 5 – 7 ล้านบาท, 18 September 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ตลาดและทางด่วน 2 สาย เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก (ทำไมคะแนนถึงไม่เท่าทาวน์โฮม? เพราะทำเลนี้เราจะพบบ้านแฝด-บ้านเดี่ยวที่อยู่ถนนรองและซอยย่อย เป็นตัวเลือกในราคา 5 – 6 ล้านกว่าบาทอยู่ด้วย) ดังนั้นคนที่เลือกโครงการนี้จึงเน้นทำเลที่ติดถนนใหญ่ เพื่อได้ความปลอดภัยและไปใช้ความอุดมสมบูรณ์ได้ใกล้กว่า แลกกับราคาที่สูงขึ้นมาสักหน่อยอยู่ที่ 6.59 ล้านบาทครับ
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – ใช้ระบบ KATSON สแกนป้ายทะเบียนรถและเชื่อมต่อ Application ในมือถือ มี รปภ. ดูแล 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV รั้วโครงการ 2.5 m.
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบบ้านสวย ถูกพัฒนามาแล้วหลายรุ่น ซึ่งรุ่นนี้ทำออกได้โอเคมาก ทั้งหน้าตาบ้านภายนอก กับฟังก์ชันที่ใช้งานง่ายและเป็นส่วนตัว
  • วัสดุ 7.5/10 – ใช้โครงสร้างผนังก่ออิฐมวลเบา ของภายในมาตรฐานเหมาะสมกับราคา
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีต้นไม้ริมถนนตรงทางเข้าและบริเวณส่วนกลาง
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มี Facilities 2 จุด กระจายการใช้งานไม่หนาแน่น แต่สำหรับบ้านแฝดจะอยู่ใกล้สวนมากกว่า ซึ่งก็ทำออกมาได้สวยดีทีเดียว
  • 7.89 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Grande Pleno วัชรพล-สุขาภิบาล 5 เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดที่อยู่บนถนนใหญ่ ไม่ต้องเข้าซอย ใกล้ตลาดออเงินและทางด่วน 2 สาย เข้า-ออกเมืองสะดวก เป็นบ้านที่มีพื้นที่ดินข้างบ้านเยอะกว่ามาตรฐาน ทำสวนปลูกต้นไม้หรือต่อเติมได้ ฟังก์ชันเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2 – 3 คน และมีส่วนกลางให้ใช้งานถึง 2 จุด มีงบประมาณ 2.99 – 6.59 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 21,000 – 46,000 บาทขึ้นไป


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving