รีวิวฉบับที่ 1619 … Luxx Ville สาธุประดิษฐ์ 12 รูปแบบโครงการเป็น ทาวน์โฮม 4 ชั้นครึ่ง เล่นระดับในตัวบ้าน และมีส่วนที่เป็นเพดานสูงกว่า 5 เมตรในบริเวณห้องโถงรับประทานอาหาร ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น จาก บ้านศรีกรุงดีเวลลอปเมนท์ เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตทั้งหมดแค่ 19 ยูนิตเท่านั้น อีกทั้งยังเน้นไปที่พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 320 ตร.ม.เป็นต้นไป(แต่ละแปลงไม่เท่ากัน) หน้ากว้าง 5 – 5.6 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เราไปดูกันว่าเป็นยังไงครับ

Fact @ 26 June 2018

  • Luxx Ville Sathupradit 12 (ลักซ์ วิลล์ สาธุประดิษฐ์ 12)
  • Developer : บ้านศรีกรุง ดีเวลลอปเมนท์
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยสาธุประดิษฐ์ 12 เขตสาทร
  • เนื้อที่โครงการประมาณ 1 ไร่ครึ่ง จำนวน 19 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 4 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5 – 5.6 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แปลงมาตรฐานที่ดินเริ่มต้น 21.40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 320 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 19.3 – 24 ล้านบาท (update 14/3/2023)
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 450,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2558
  • โครงการเริ่มเปิดขาย : ปี 2560 (สร้างเสร็จแล้วขาย)
  • สำนักงานขาย : 097-005-0999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.701881, 100.528172

ทำเลของโครงการ Luxx Ville สาธุประดิษฐ์ 12 อยู่ในทำเลย่านเก่าแก่นะครับ ผู้คนที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ขยายตัวมาจาก เขตคนจีนในย่านบางรัก และเจริญกรุงตอนปลายๆที่มีแหล่งท่าเรือเก่าใกล้เคียงเดิมที่ในอดีตจะเข้ามาทำมาหากิน ส่งออกค้าขายแต่ปัจจุบันที่อยู่อาศัยในเขตติดริมน้ำ(แนวราบ) ไม่ได้ฮอตฮิตเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกทั้งการทำโครงการจัดสรรนั้นรวมแปลงที่ดินยากด้วย ลักษณะกลุ่มโครงการเลยขยายตัวออกมาพื้นที่ใกล้ๆอย่าง เจริญราษฎร์ สาธุประดิษฐ์ ยานนาวา ทางนี้ครับ

แต่เดิมบริเวณย่านนี้ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวสูงไม่เกิน 5 ชั้นเรียงกันไปตามตรอกซอกซอยซึ่งยังคงมีให้เห็นเป็นกลิ่นอายของย่านเก่าอยู่ถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อความเจริญเข้ามาการเดินทางที่สะดวกขึ้นด้วยถนนที่ตัดขยายใหม่ มี BRT ที่ขับผ่านบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซึ่งสามารถไปเชื่อมต่อกับ BTS ที่สถานีช่องนนทรีได้ ทำให้ความเจริญจะกระจายแผ่กว้างมาแถวๆถนนสาธุประดิษฐ์ อาทิเช่น ซอยสาธุประดิษฐ์ 19 จะมี Community Mall และคอนโดมิเนียมขึ้นมาให้เห็นอยู่บ้าง ส่วนทางฝั่งถนนสาธุประดิษฐ์ฝั่งเลขคู่ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว ออฟฟิศ ร้านค้าซะมากกว่า

หากจะโฟกัสที่ทำเลตัวโครงการนี้ ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ต้องเข้าไปในซอย ซึ่งในซอยก็มีอาหารการกินให้เลือกอยู่เป็นระยะๆ หากจะจ่ายตลาดก็มีตลาดวัดไผ่เงิน ส่วนถ้าอยากช็อปปิ้งและหาของกินใกล้ๆด้านหลังโครงการก็มี Community mall อย่าง Green Place ห่างออกไปหน่อยก็มี The Up พระราม 3 ส่วนช่วงบ่ายแก่ๆจนถึงค่ำๆ ในช่วงซอยสาธุประดิษฐ์ 6 – ซอยสาธุประดิษฐ์ 1 จะมีร้านอาหารที่ขายตรงตึกแถวริมฟุตบาท โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าตระกูลแซ่ซิ้ม จะมีของกินให้เลือกหลากหลายเลย


ส่วนอีกอย่างที่อยากให้สังเกต ก็คือเรื่องของสถานที่ศึกษา ถ้าใครอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว เอาที่ใกล้ๆตัวโครงการก่อนนะ มีโรงเรียนสารสาสน์พิทยา, สารสาสน์เอกตรา, โรงเรียนพระแม่มารี, เปรมฤดีศึกษา, วาสุเทวี, เบญจวรรณศึกษา, ยอแซฟ กรุงเทพฯ, เซนต์ยอแซฟยานนาวา (วรสารพิทยา), นานาชาติสาทรใหม่ ที่ยกตัวอย่างไปแค่ยังอยู่ในโซนสาธุประดิษฐ์นะครับ ก็เรียกได้ว่าย่านนี้เป็นแหล่งสถานศึกษาที่ถ้าใครอยากหาโรงเรียนดีๆใกล้บ้านให้ลูกก็ว่าได้

ส่วนปัญหาเล็กน้อยของโครงการอาจจะเป็นซอยทางเข้าหลักที่เป็นถนน 2 เลน ขนาดค่อนข้างเล็ก ยิ่งเวลามีรถจอดบนไหล่ทางอาจจะทำให้เวลารถสวนทางกันจะลำบากนิดนึง และการที่ทำเลไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ ตัวโครงการจึงเหมาะจะเป็น Back Office คือเป็นสถานที่ทำงาน มีการติดต่อลูกค้า เพื่อเข้ามาคุยงานมากกว่าที่จะใช้เป็นหน้าร้าน หรือการพาณิชย์ที่จำเป็นต้องให้คนเห็นแล้วค่อย Walk in เข้ามา

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเข้ามาได้จากหลายเส้นทาง ทั้งจากถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนจันทน์ ที่เชื่อมต่อกับซอยจันทน์ 43 (ด้านหลังโครงการ) ซึ่งมีซอยลัดเลาะเข้าออกได้หลายเส้นทาง เพราะซอยที่เกาะกับถนนจันทน์และถนนสาธุประดิษฐ์จะเชื่อมต่อกันเป็นใยแมงมุม สามารถทะลุถึงกันได้ง่าย

หากมาจากถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ก็มีซอยให้สามารถลัดเลาะได้หลายทาง สามารถเข้าทางซอยจันทน์ 35, ซอยจันทน์ 27 แล้วมาทะลุที่ซอยจันทน์ 43 เพื่อไปยังโครงการได้เช่นกัน แต่เส้นทางนี้ซอยจะค่อนข้างเล็ก มีรถจอดอยู่ตามไหล่ทางเป็นช่วงๆ อาจขับขี่ไม่ค่อยสะดวกนัก ส่วนอีกทางคือการออกจากโครงการไปยังถนนเลียบทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถไปทะลุยังถนนรัชดาภิเษกได้ ซึ่งทางไปถนนรัชดาภิเษกทางนี้เป็น One way ขับออกได้เท่านั้น แต่หากจะเข้าจากถนนรัชดาภิเษกต้องไปเข้าทางสาธุประดิษฐ์นะครับ

ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ช่วงซอยจันทน์ 43  จะมีรถสองแถวสีแดง วิ่งรับส่งอยู่เป็นระยะๆ ตรงข้ามซอยจันทน์ 43 แยก 6 (ซอยวัดไผ่เงิน) ก็มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างวินน้อยๆสแตนบายอยู่ ส่วนแท๊กซี่ก็มีวิ่งเข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ต้องเดินออกไปที่ซอยจันทน์ 43 ถึงจะมีผ่าน ส่วนถ้าต้องการขึ้นรถเมล์ก็สามารถไปขึ้นบนถนนสาธุประดิษฐ์ มีรถเมล์สาย 35 สาธุประดิษฐ์ – เสาชิงช้า ในย่านนี้จะมีการเดินทางด้วย BRT บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เส้นทางสถานีสะพานพระราม 3-สถานีสาทร ราคา 5 บาทตลอดสาย โดยจะไปสิ้นสุดสถานีสาทรที่ BTS ช่องนนทรี

ทางด่วนที่ขึ้น-ลงใกล้กับโครงการจะมีอยู่ 2 ทางก็คือทางพิเศษเฉลิมมหานครกับทางพิเศษศรีรัช โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วน 1 จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร จะอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจะเข้าถึงโครงการได้ต้องเข้าถนนสาธุประดิษฐ์ แล้วเลี้ยวเข้าโครงการทางถนนสาธุประดิษฐ์ 12 หากลงตรงจุดลงทางด่วน 2 จากทางพิเศษศรีรัช จะเข้าถึงโครงการได้โดยเข้าจากถนนเจริญราษฎร์แล้วเลี้ยวเข้าถนนจันทน์  จากนั้นก็เลี้ยวเข้าโครงการทางซอยจันทน์ 35 หรือจันทน์ 27 แล้วมาเลี้ยวขวาเข้าโครงการทางซอยจันทน์ 43 แยก 33 ก็ได้ และอีกทางสำหรับใครมา จากทางพระราม 6 หรือแจ้งวัฒนะ ก็สามารถลงตรงจุดลงทางด่วน 3 เข้าถนนเจริญราษฎร์เลี้ยวเข้าถนนจันทน์และก็มาเลี้ยวเข้าที่ถนนสาธุประดิษฐ์ก็ได้ครับ

การเดินทางวันนี้ โดยผมจะมาจากทางด่วนศรีรัช ซึ่งผมมาขึ้นจากแถวถนนกำแพงเพชร(อตก.)นะครับ แล้วจะลงก่อนถึงแยกด่วนสาธุ หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าสู่ถนนสาธุประดิษฐ์ ดูบรรยากาศรอบๆ เมื่อถึงซอยสาธุประดิษฐ์ 12 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไป 200 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือแล้ว

อยู่บนทางด่วนศรีรัช มุ่งหน้ามาทางตัวเมืองอย่างสีลมก่อน แต่ให้เราตามป้ายของ บางโคล่ เอาไว้ในช่วงแรกๆ

หลังจากเลยทางลงทางด่วนป้ายของ สีลม และ ถนนจันทน์ มาแล้วหลังจากนั้นจะให้เราสังเกตป้ายของ ถ.สาธุประดิษฐ์เอาไว้

หลังจากนั้นก็ชิดเลนซ้ายสุดลงเลนนี้ครับ

พอเราลงมาแล้ว จะเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกนะครับ ซึ่งจากนี้ให้เราเปลี่ยนมาเป็นตามป้ายของถนนจันทน์แทน

หลังจากนั้นให้อยู่เลนซ้ายสุดเอาไว้ตลอด เพราะเดี๋ยวแยกข้างหน้าเราจะเลี้ยวซ้ายแล้วครับ (ระวังอย่าเผลอไปขึ้นสะพานนะ ไม่งั้นไปโผล่ทางลงอีกทีแถวหน้าห้างเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 3 โน้นเลย

แยกไฟแดงใหญ่ข้างหน้า คือ “แยกด่วนสาธุ” ตรงนี้ให้เราเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนสาธุประดิษฐ์

เข้าสู่ถนนสาธุประดิษฐ์ กันแล้วนะครับ จะเห็นว่าซอยสาธุประดิษฐ์ ฝั่งเลขคู่จะอยู่ทางซ้ายมือเราก่อนลักษณะจะเป็นถนนคอนกรีตวิ่งฝั่งละ 2 เลนสวนทางกันแบบนี้ อีกอย่างที่แอบน่าหงุดหงิดใจเล็กน้อยของถนนเส้นนี้ก็คือ จะมีบางช่วงเล็กน้อยที่เกาะริมถนนไม่ได้เป็นพื้นที่ขาวแดง ทำให้มีรถยนต์มาจอดอยู่บ้าง และทำให้เกิดการจราจรที่สะดุดขัดบ้างเล็กน้อยเป็นบางช่วงครับ

ตรงมาหน่อยตรงนี้เป็นเขตชุมชนพิเศษที่ให้เราขับช้าๆนิดนึง เพราะว่าเป็นปากซอยทางเข้าโรงเรียนสารสาสน์พิทยา, สารสาสน์เอกตรา ซึ่งตอนเช้าและเย็นเข้าเรียนเลิกเรียนนี่นักเรียนเดินผ่านไปมาเยอะมากๆ

ขอแทรกแผนที่ให้ดูระหว่างทางนะครับ อ่ะ… โรงเรียนเยอะขนาดไหนดูเอาเลยฮะ ในแค่เฉพาะโซนสาธุประดิษฐ์นี้ เรียกว่าเป็นแหล่งสถานศึกษาก็ยังได้เลย ใครที่หาโรงเรียนดีๆใกล้ๆบ้านตัวเองก็โซนนี้เป็นอีกตัวเลือก

มาต่อกันบนถนนสาธุประดิษฐ์กัน โดยสภาพแต่เดิมบริเวณย่านนี้ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวสูงไม่เกิน 5 ชั้นเรียงกันไปตามตรอกซอกซอยซึ่งยังคงมีให้เห็นเป็นกลิ่นอายของย่านเก่าอยู่ถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อความเจริญเข้ามาการเดินทางที่สะดวกขึ้น ก็มีอาหารการกินให้เลือกอยู่เป็นระยะๆ หากจะจ่ายตลาดก็มีตลาดวัดไผ่เงิน ส่วนถ้าอยากช็อปปิ้งและหาของกินใกล้ๆด้านหลังโครงการก็มี Community mall อย่าง Green Place(เส้นด้านหลังโครงการ) ส่วนช่วงบ่ายแก่ๆจนถึงค่ำๆ ในช่วงซอยสาธุประดิษฐ์ 6 – ซอยสาธุประดิษฐ์ 1 จะมีร้านอาหารที่ขายตรงตึกแถวริมฟุตบาท โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าตระกูลแซ่ซิ้ม จะมีของกินให้เลือกหลากหลายเลย

หลังจากที่ตรงมาได้ประมาณ 850 เมตร ก็จะถึงปากซอยสาธุประดิษฐ์ 12 ที่ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวซ้ายเลยครับ

ซอยสาธุประดิษฐ์ 12 เป็นซอยเล็กๆ สภาพผิวเป็นลาดยางนะครับ ความกว้างของซอยก็จะเล็กหน่อย แต่ว่ารถสวนทางกันได้อยู่ครับ สภาพแวดล้อมในซอยก็เป็นชุมชนอยู่อาศัยตลอดทั้งซอยเลย แต่ว่ามีพวกออฟฟิศเล็กๆมาปะปนบ้างอยู่เล็กน้อย เรียกว่าไม่ได้เปลี่ยวนะครับ แต่ว่าการเดินเท้าฟุตบาทจะแคบหน่อย

หลังจากเข้ามาประมาณ 200 เมตรก็ถึงขอบเขตที่ดินของโครงการ Luxx Ville สาธุประดิษฐ์ ทางขวามือแล้วครับ ถ้าเราตรงต่อไปจะไปเชื่อมกับซอยจันทน์ 43 ที่บอกไปตอนแรกว่าถนนเป็นโครงข่ายแบบใยแมงมุมลัดเลาะเข้าออกทางอื่นได้หลายทางมากๆ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • วัดไผ่เงิน ~ 600 เมตร
  • Green Place สาธุประดิษฐ์ 20 ~ 800 เมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์พิทยา ~ 900 เมตร
  • โรงเรียนเปรมฤดีศึกษา ~ 1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Vanilla Moon ~ 1.4 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล พระราม 3 ~ 1.6 กิโลเมตร
  • แม็คโคร นราธิวาสราชนครินทร์ ~ 2 กิโลเมตร
  • The Up พระราม 3 ~ 2.1 กิโลเมตร
  • เทสโก้โลตัส พระราม 3 ~ 2.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ~ 3 กิโลเมตร
  • โฮมโปร พระราม 3 ~ 3.4 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

Master Plan โครงการนี้ เป็นรูปแบบโครงการจัดสรรขนาดเล็ก ที่มีจำนวนทั้งหมดแค่ 19 ยูนิตเท่านั้น หันหน้าบ้านเข้าหากันด้านในตัวโครงการ , ซุ้มทางเข้าออกบริเวณด้านหน้าโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย Keycard Acess / CCTV / รปภ. 24 ชม. / รั้วกำแพง 2-5 เมตร, หน้าบ้านของแต่ละแปลงมีความกว้างของอาคารไม่เท่ากันแต่จะอยู่ที่ช่วง 5 – 5.6 เมตรครับ

ความพิเศษอีกอย่างคือตัวพื้นที่ด้านในโครงการ มีการถมที่ดินให้สูงกว่าระดับถนนประมาณ 1.40 เมตร (จริงๆพื้นที่สาธุฯไม่ใช่พื้นที่รับน้ำนะครับ) แต่ด้วยการออกแบบพิเศษของตัวบ้านด้วย ที่มีการใช้ฟังก์ชันชั้น Ground เป็น SemiOutdoor และอีกอย่างด้วยระดับราคาบ้านนี้แล้วด้านในก็มีการเอาสายไฟฟ้าและเคเบิ้ลทั้งหมดลงใต้ดินเรียบร้อย

มาเริ่มกันที่ถนนทางเข้าออกด้านหน้าโครงการนะครับ

ตัวฝั่งรั้วกำแพงด้านหน้าโครงการที่อยู่ติดกับซ.สาธุฯ 12 จริงๆแล้ว ก็เป็นรั้วของหลังบ้านที่หันออกมาที่ถนนฝั่งนี้ด้วย และรั้วกำแพงจะมีความสูงประมาณ 2.50 เมตร ซึ่งเป็นรูปแบบรั้วกึ่งโปร่งกึ่งทึบ แต่ว่าก็มีการเอาพื้นที่สีเขียวมาแทรกตามช่องว่างของรั้ว เพื่อเพิ่มสีเขียวทางสายตาและกั้นความเป็นส่วนตัวจากภายนอกอีกด้วย

จุดเด่นอีกอย่างตั้งแต่มองเห็นจากด้านหน้ายังไม่เข้าไปในด้านในเลยคือ คือตัวพื้นที่ด้านในโครงการ มีการถมที่ดินให้สูงกว่าระดับถนนประมาณ 1.40 เมตร (ซึ่งจริงๆแล้วโซนนี้ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมนะครับ) แต่ด้วยการออกแบบพิเศษของตัวบ้านด้วยที่ต้องการให้มีชั้น Ground เล่นระดับมาต่างหาก แต่ก็ดีที่ได้การกันน้ำไปในตัวด้วย

ตัวถนนเป็นแบบแยกทางเข้าออกสองฝั่ง ซึ่งมีระบบรักษาความระบบรักษาความปลอดภัย Keycard Acess / CCTV ส่องป้ายทะเบียนหน้าหลัง / รปภ. 24 ชม.

ซึ่งผมก็ไปถามพี่รปภ.ว่า พี่ๆ ถ้าฝนตกละครับ ลูกบ้านต้องยื่นมือไปแตะคีย์การ์ดแบบเปียกฝนเหรอ พี่รปภ.เค้าก็กดรีโมทเจ้าร่มพับไฟฟ้าแบบนี้ยื่นออกมา ก็ช่วยได้อีกระดับนึงหน่อยนะ

เข้ามาด้านในโครงการ มองตรงๆไปก่อนเลย เราจะเห็นพื้นที่สีเขียวส่วนกลางที่โครงการ จัดมาให้ก่อน คือ สวนหย่อมตรงกึ่งกลางระหว่างช่องว่างอาคารตรงนี้

พื้นที่สีเขียวปกติในโครงการระดับเล็กที่ยูนิตน้อยมากๆแบบนี้มักจะไม่ใส่มาให้เลยด้วยซ้ำ ถึงแม้ขนาดของสวนหย่อมที่นี่จะไม่ได้กว้างมาก แต่ก็จัดเป็นจุดนั่งเล่น จุดนัดพบที่นี่ของแม่บ้าน หรือเด็กๆ ให้มีพื้นที่กลางแจ้งมาวิ่งเล่นได้ เข้ามาจะเจอกับพื้นที่เก้าอี้นั่งเล่นแยกเป็นสามส่วนการใช้งาน

พื้นที่ถัดมาจะเป็นบันไดลดสเต็ปลงและยังลงไปได้อีกขั้นนึงในที่ปลายสวน เรียกว่าแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นระดับถึง 3 ขั้น

พื้นที่ส่วนตรงกึ่งกลางก็ยังมีมุมเก้าอี้นั่งเล่น ตรงนี้จะได้ความเป็นสงบหน่อย อีกทั้งต้นไม้ที่โครงการเอามาลงในพื้นที่นี้ยังเป็นไซส์ใหญ่สูงพอสมควร

กลับออกมาที่ถนนภายในโครงการกัน มีคสวามสะดุดตาผมอยู่หลายจุดเลย ค่อยๆไล่กันไปนะครับ เริ่มจากสิ่งแรกคือถนนภายในโครงการนี้มีความกว้าง 8 เมตร (แต่ว่าเป็น 8 เมตรที่ไม่ได้มีพวกเกาะฟุตบาท หรือสิ่งเกะกะอะไรอยู่หน้าบ้านเลย) ตัวพื้นทั้งหมดถูกปูด้วยคอนกรีตพิมพ์ลายเต็มพื้นที่เพื่อความสวยงาม

ถัดมาอีกอย่างโครงการราคาระดับนี้ครับ แน่นอนสิ่งที่ทำมาให้ คือ การเอาระบบสายไฟ และสายเคเบิ้ลทั้งหมดลงใต้ดิน มีสาย fiber optics ถึงในบ้าน เวลาเรามองแล้วก็จะสะอาดสะอ้านตาดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบนี้แหละครับ

อีกจุดคือการเลือกวางเสาไฟส่องสว่างภายในโครงการ บริเวณหน้าบ้าน ตำแหน่งจะอยู่ระหว่างกึ่งกลางบ้านแบบนี้ เข้ากับพื้นที่พอดี

เนื่องจากที่ผมบอกไปตอนแรกว่า ถนนโครงการตรงนี้อยู่เหนือจากพื้นที่กว่า 1.40 เมตร ที่เราเห็นคือรั้วกำแพงนะครับ ซึ่งจริงๆแล้วตำแหน่งตรงนี้ถ้ามองจากด้านนอกโครงการจะสูงมากนะครับ ทำให้ที่ผมเขียนไปตอนแรกว่ารั้วของโครงการนี้สูงอยู่ในช่วง 2-5 เมตรนั่นเอง และก็มีการลงต้นไม้ พุ่มไม้ พื้นที่สีเขียวเพิ่มเข้ามาอีกนิดหน่อยบริเวณติดกับรั้วกำแพงตรงนี้

อันนี้เป็นโซนที่เกาะอยู่กัน 3 หลัง(พอพ้นซุ้มรปภ.มาอยู่ทางขวามือเลย) / ตำแหน่งแปลงของ Sale Office(ขวามือสุด), บ้านตัวอย่าง(หลังกลาง) นะครับ

ซึ่งขอเกริ่นเรื่องของ Developer ผู้พัฒนาโครงการอย่าง “บ้านศรีกรุง ดีเวลลอปเมนท์” กันนิดนึงว่า ไม่ใช่หน้าใหม่เอี่ยมพึ่งเคยทำที่ Luxx Ville เป็นโครงการแรกนะ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำโครงการแนวราบกันมาบ้างแล้ว อาทิเช่น 1)บ้านหลังสวน-เพลินจิต  2)บ้านศรีกรุง-พระราม3  3)Garden House พระราม3  เป็นต้น ก็ลองไปหาผลงานเก่าๆดูย้อนหลังได้นะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมภายในโครงการ
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate
  • รั้วรอบโครงการสูง 2-5 เมตร
  • ระบบสายไฟและเคเบิ้ลลงใต้ดิน
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนภายในโครงการกว้าง 8 ม.(ปูด้วยคอนกรีตพิมพ์ลายทั้งหมด)


Product Walkthrough

 

อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นนะครับ ที่บอกว่า Luxx Ville เป็น ทาวน์โฮม 4 ชั้นครึ่งเล่นระดับ ก็เลยไปเอาแปลนบ้านทุกชั้นมาเรียงแปะกันให้ดูก่อน ว่าตั้งแต่ชั้นล่างสุดยันไปจนดาดฟ้าเป็นยังไง (เดี๋ยวจะวิเคราะห์ฟังก์ชันให้ฟังทีละชั้นนะ) โดยเมื่อก่อนแปลงที่ดินที่เริ่มต้นอยู่ที่ 20 ตร.วา แต่ตอนนี้หลังที่เหลือขยับมาเป็นที่ดิน 21.40 ตร.วา ขึ้นไป ตัวอาคารบ้านมีหน้ากว้าง 5-5.60 เมตร(แล้วแต่แปลง) และมีพื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม.ขึ้นไป ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และจอดรถในบ้านได้ 2 คัน

หน้าตาหน้าบ้านชัดๆ ดีไซน์ดูแล้วก็จะเป็นสไตล์โมเดิร์นทั่วไปนะครับ มีการใช้สีทูโทนตัดกันระหว่างสีน้ำตาลกับสีขาว ตกแต่ง Facade(ผิวหน้าอาคาร) ด้วยการกรุหินสลักตกแต่งและก็มีการทำระแนงเหล็กเพื่อมาบังในส่วนพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ชั้น 2, 4 ทำให้มองไม่เห็นจากหน้าบ้าน

อีกอย่างที่โครงการแถมมาให้ก็คือ เจ้ากันสาดแบบพับยืดหดได้แบบนี้ วันไหนอากาศดีๆ อยากให้แสงธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ตัวบ้านหน่อยก็พับเก็บเข้า แต่ถ้าร้อนๆหรือฝนตกก็ยืดออกแบบนี้ ที่เค้ามีมาให้เลยก็มีอีกเรื่องนึง คือว่าเค้าอยากคุมโทนให้ทุกหลังดูเหมือนกันครับ ไม่งั้นถ้าต้องไปทำเอง เราอาจจะได้เหล็กโครงกันสาดบริเวณที่จอดรถแบบหลากสี หลากวัสดุ หลากรูปแบบและก็จะดูเหมือนไม่ได้มาเวย์เดียวกันนั่นแหละครับ

ส่วนของประตูรั้วหน้าบ้านแบบเป็นเหล็กโปร่งที่ตรงกลางทรงไม้บังมาด้วย ให้เป็นส่วนทึบมองตรงเข้าไปไม่เห็นส่วนพักอาศัย ถ้าเดินเข้าออก ก็เปิดเฉพาะบานตรงกลาง

ส่วนการเข้าออกของรถ เราก็กดรีโมทเป็นระบบเปิดปิดเอาครับ ระดับราคานี้ไม่ต้องลงไปเลื่อนเองแล้ว อีกทั้งมีการทำรางล้อเลื่อน ตำแหน่งมอเตอร์อะไรก็ดูเก็บเรียบร้อยสะอาดตา

มาดูแปลนบ้านกันก่อน เริ่มจากถ้าเราลงบันไดจากพื้นที่จอดรถตรงนี้ไป โครงการเรียกพื้นที่นี้ว่าชั้น G – Ground ครับ ซึ่งระยะก็จะไปอยู่ขนานกับถนนด้านหน้าโครงการนั่นเอง ฟังก์ชันการใช้งาน ในส่วนใต้อาคารจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Semi Outdoor ที่แล้วแต่เจ้าของบ้านจะจัดการใช้งานให้เหมาะกับตัวเอง ซึ่งโครงการก็มีออฟชั่นเสริมด้วยเผื่อใครมีเมดแม่บ้าน เค้าก็จะกั้น 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำที่ชั้น G นี้ให้

ถัดมา ชั้น 1 เป็นส่วนของที่จอดรถหน้าบ้าน พอเข้ามาจะเจอกับ Foyer เล็กๆสำหรับเก็บรองเท้าก่อน ซ้ายมือมีห้องน้ำแบบ Powder Room (ไม่มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำ) ขึ้นบันไดระดับมาเล็กน้อย จะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารแบบ Double Volume สูงพิเศษกว่า 4.50 เมตรตรงนี้ และด้านนอกข้างหลังเป็นระเบียงซึ่งทำหน้าที่เป็นช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ส่องมาตรงนี้ด้วย ข้างๆกันมีพื้นที่แยกโซนกั้นเป็นครัวปิด ทำอาหารหนักได้เต็มที่และมีหน้าต่างช่วยเปิดออกระบายกลิ่นได้

ส่วนของพื้นที่จอดรถตัวบ้านที่เล็กสุดก็จะหน้ากว้างประมาณ 5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน แต่เป็นไซส์เล็กกับไซส์กลางนะครับ โดยพื้นที่จอดรถจะปูกระเบื้องไว้ให้เสร็จสรรพแล้ว ไม่ต้องไปทำเพิ่ม / และก็พื้นที่จอดรถก็ลงเสาเข็มมาให้นะครับ ไม่ต้องกลัวเรื่องทรุดตัวและแยกจากตัวบ้าน

แต่ว่าบ้านตัวอย่างเค้าจัดอีกครึ่งนึงของพื้นที่จอดรถเอาไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบนี้นะ ซึ่งของจริงๆผมว่าก็คงใช้เป็นพื้นที่จอดเต็มพื้นที่แหละ

ที่ด้านหน้าบ้าน ก็จะมีการทำตู้ Built-In ไว้ให้เป็นที่เก็บรองเท้าหรือของชิ้นใหญ่ตำแหน่ง เฉลียงหน้าบ้านมาให้ ถือว่าดีเลย (ด้านในมีส่วนงานระบบให้เห็นนิดหน่อยแต่ดูเรียบร้อย)

ประตูหลักหน้าบานเป็นแบบกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เฟรมอลูมิเนียมทำสีขาวแบบนี้ แต่เดี๋ยวเราลงไปดูที่ชั้น G-Ground ทางลงขวามือกันก่อน

ก็จะเป็นบันไดทางลงไปนิดหน่อยแบบนี้ครับ

พอลงมาถึงพื้นที่ตรงนี้ผมชอบทีเดียวนะ จริงฟังก์ชันมันคือพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Semi Outdoor นี้แหละ การใช้งานก็จะแล้วแต่เจ้าของบ้านว่าเหมาะแบบไหนสุด

อย่างบ้านตัวอย่างก็จัดให้ดูเป็นไอเดีย ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบกึ่งกลางแจ้งแบบนี้ ซึ่งก็ได้ Flow ของลมบรรยากาศแบบไม่ต้องเปิดแอร์ ทำเป็นมุมนั่ง นอน อ่านหนังสือ พื้นที่กิจกรรมครอบครัว ฯลฯ อ้อ.. อย่างที่ผมบบอกไป ตรงนี้โครงการมีออฟชั่นเสริมนะครับ สำหรับคนที่คิดจะมีแม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็กให้อาศัยอยู่ในบ้าน พื้นที่ตรงนี้เค้าให้เลือกจะกั้น 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำที่ชั้น G นี้ให้ก็ได้

พื้นที่ด้านนอกลดสเต็ปพื้นลงไปอีกนิดหน่อย กันในส่วนของเวลาฝนตก หรือใช้ในงานซักล้างทั่วไปได้(มีติดก๊อกไว้ให้) และที่เห็นด้านหลังพุ่มไม้นั้นมีแทงก์เก็บน้ำสำรองไว้)

หันมามองอีกมุมนึง นี่ครับด้านหลังเป็นส่วนของรั้วกำแพงบ้าน ที่หันออกด้านนอกริมถนนหน้าโครงการซ.สาธุฯ 12 ซึ่งสูงประมาณ 2.50 เมตร และเอาพุ่มไม้มาบังสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัวเวลาใช้งานพื้นที่ชั้น G นี้

มองย้อนกลับเข้าไปด้านใน

พื้นที่ตรงนี้มีการกั้นช่องเอาไว้เป็นโซนวางเครื่องซักผ้าให้เลยครับ วางท่อน้ำทิ้งเอาไว้ให้แล้ว ส่วนของประตูทางขวาเป็นตำแหน่งห้องเก็บของ

ซึ่งผมก็ลองคุกเข่านั่งยองๆ เพื่อถ่ายให้ดูภายในพื้นที่ห้องเก็บของที่สูงประมาณเมตรนึง ด้านในดูเรียบร้อยดีทั้งปูกระเบื้อง ติดไฟส่องสว่าง และมีส่วนของงานระบบ(ไฟฟ้าและไฟเบอร์จากใต้ถนนหน้าโครงการ) โยงเข้ามาในตัวบ้านปิดกล่องมิดชิดเป็นระเบียบสามารถเข้ามา maintenance ได้ง่าย

กลับมาที่ตัวประตูหน้าบ้าน วัสดุบานอลูมิเนียมกระจกใส ผลิตโดยบริษัทญี่ปุ่น เน้นเรื่องความแข็งแข็งและการซีลขอบยางประกบระหว่างการปิดเป็นอย่างดี คือกันเสียงดีมากหลังจากที่ลองเทส

เข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่ Foyer เล็กๆ เป็นขั้นขึ้นมาแบบนี้ก่อน สามารถทำเป็นมุมวางรองเท้าเพิ่มก็ได้ หรือไม่ก็เป็นที่นั่งสำหรับสวมรองเท้าก่อนออกจากบ้าน ทางซ้ายมือสุดก่อนขึ้นบันได้ จะมีประตูซ่อนไว้จริงๆแล้วคือออออ

ห้องน้ำนั่นเองครับ เป็นบานสวิงแบบนี้

ซึ่งห้องน้ำแรกที่เจอก่อนเข้าไปด้านในตัวบ้านเป็นแบบ Powder Room (ไม่มีฟังก์ชันอาบน้ำ) โดยจะเป็นพื้นที่ผืนผ้าตอนลึกแบบนี้ ส่วนของอ่างอยู่ขวามือ และสุขภัณฑ์ตรงกลาง

พวกวัสดุต่างๆในห้องน้ำ ก็ได้ของหน้าตามาดูดีนะครับ อย่างหลังกระจกเงาก็เป็นชุดตู้เก็บของ เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเต็มพื้นที่ พวกอุปกรณ์ต่างๆก็เป็นของ American Standard

ออกมาจากห้องน้ำขึ้นบันไดมานิดหน่อย จะเข้าสู่โซนหลักของชั้น 1 ทางซ้ายมือในส่วนของโถงพื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่โถงรับประทานอาหาร เป็นส่วนไฮไลท์ที่เป็นพื้นที่แบบ Double Volume หรือสูงพิเศษเกือบ 2 ชั้นนั่นเอง โดยพื้นที่บริเวณนี้จะสูงถึง 4.50 เมตรเลยครับ

และด้วยขนาดก็สามารถวางเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ เหมาะกับขนาดครอบครัวกลาง-ใหญ่ หรือมีแขกมาก็รับแขกเพียงพอ และดูเป็นหน้าเป็นตาด้วย เพราะสูงโปร่ง

โดยฝั่งด้านหลังบ้านจะได้เป็นช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ และเป็นเฟรมอลูมิเนียมแบบตัวหน้าบ้านที่บอกไว้

ลองกดมุมถ่ายพื้นที่ด้านนอกให้ดูเป็นส่วนของฟังก์ชันระเบียงด้านนอก ซึ่งจริงๆแล้วก็มีพื้นที่กว้างขวางนะครับ แต่บ้านตัวอย่างวางกระถางต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวเอาไว้อีกชั้น

ตัวล็อกประตูจะเป็นแบบตัวล็อกก้นหอยสองชั้น เราจะเห็นถึงการประกบกันของตัวซีลยางที่ดูสนิทกันจริงๆ กันเสียงกันฝุ่นได้ดี อีกทั้งพื้นที่ด้านนอกของระเบียงแอบมีมุมลดระดับของเดรนระบายน้ำแยกออกมาเล็กๆ และเป็นพื้นที่ซักล้างได้อีกด้วย

ส่วนของด้านข้างรับประทานอาหาร ติดกันข้างๆจะเป็นพื้นที่ของครัว ซึ่งบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ให้ประตูบานเลื่อนกันแบบนี้ไว้ให้นะ

แต่ด้วยพื้นที่ครัวก็จะประมาณนี้ เข้าไปช่วยกันทำครัว 2 คนได้โอเคอยู่

พื้นที่ครัวค่อนข้างกว้างนะครับ พวกชุด Pantry และ Built-In ต่างๆ โครงการไม่ได้ให้มานะครับ ให้ดูเป็นไอเดียประมาณนี้นะ แต่ว่าตำแหน่งของอ่างล้างจานอยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสงด้านหลังก้ดีหน่อย ช่วยระบายความชื้น และกลิ่นควันหลังประกอบอาหารได้

มุมภายในครัวอีกฝั่งนึ้งครับ ถ้าอยากใช้พื้นที่ใช้สอยให้คุ้มก็จัดตู้ Built-In ให้เต็มพื้นที่มากที่สุด และก็มีพื้นที่เหลือวางตู้เย็นทางขวามือ

กลับออกมาที่โถงหลัก ผมยืนอยู่ข้างๆโต๊ะรับประทานอาหาร มองย้อนกลับไปทางฝั่งหน้าบ้านที่ตอนแรกผมเดินขึ้นมานะ จะแอบเห็นส่วนของพื้นที่ชั้นลอยล่ะ

ซึ่งเงยมุมกล้องขึ้นมาหน่อย เราจะเห็นทางขวามือเป็นส่วนของพื้นที่ชั้นลอย ที่ฟังก์ชันเป็นห้องนั่งเล่นหรือรับแขกครับ แต่ยังได้แสงธรรมชาติจากฝั่งหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาถึงกลางบ้านตรงนี้ด้วย / ส่วนช่องกระจกเล็กๆทางขวามือ โครงการก็มีการเจาะผนังติดกระจกเพิ่มพื้นที่ช่องแสงไปยังบริเวณชานพักบันไดในส่วนของชั้นลอยขึ้นไปยังชั้น 2 ครับ (เดี๋ยวดูรูปประกอบอีกที)

ตัวโครงสร้างบันไดก็เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กนะครับ ลูกตั้งและลูกนอนวัสดุเป็นไม้มะค่านะฮะ โดยชานพักช่วงแรกจะถูกหั่นออกเป็นสามเหลี่ยมสองตอนเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อย แต่เค้าก็เสริมตัวราวมือจับกันลื่นกันตกมาให้ต่อเนื่องไปจนถึงชั้นลอยครับ

ขึ้นมาที่ส่วนของชั้นลอยกันแล้ว ตำแหน่งฟังก์ชันของพื้นที่รับแขกและห้องนั่งเล่นถูกเอามาไว้ที่ชั้นลอยตรงนี้นะครับ ซึ่งก็กว้างขวางรองรับจำนวนสมาชิก 3-5 คนได้ แล้วแต่จะจัดโซฟาขนาดไหนมาลง อีกทั้งยังได้ช่องแสงจากฝั่งหน้าบ้านเต็มๆ พื้นที่นี้ความสูงจากฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.55 เมตร และก็วัสดุปูพื้นเปลี่ยนจากชั้นล่างที่เป็นแกรนิตโต้มากลายเป็นลามิเนต ที่หนา 12 mm.

ให้ดูอีกมุมนึ้งตรงๆ ตำแหน่งของโซฟาอยู่ซ้ายมือสุด ซึ่งถ้าวางโซฟากับทีวีแบบนี้ผมบอกเลยครับ ดูไม่ค่อยเห็นครับ เพราะตัวบ้านหน้ากว้าง 5 เมตรใช่ไหมครับ ระยะห่างดูทีวีประมาณ 4 เมตรกว่า เพราะฉะนั้นต้องหาทีวีใหญ่ไซส์ 50 นิ้วขึ้นเป็นต้นไปนะ

ด้านนอกนั้นเป็นส่วนของพื้นที่ระเบียง ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กระจกบานใส 2 ตอน ซึ่งพื้นที่ระเบียงกว้างเกือบเมตร ทางขวามือแยกพื้นที่ซักล้างเล็กๆลดระดับเหมือนกันเอาไว้ และทางซ้ายมือเป็นส่วนของพื้นที่วางคอมแอร์เป็นมุมสัดส่วนอยู่ด้านหลังระแนงเหล็กที่โครงการทำไว้ให้

ซึ่งเวลาเรามองจากหน้าบ้านด้านนอก การทำระแนงเหล็กปิดเอาไว้พื้นที่วางคอมแอร์ ทำให้มองมาไม่ให้เห็นและหน้าบ้านทุกหลังดูสวยงามสบายตา

ยังอยู่ที่ชั้นลอยนะครับ มุมนี้คือเรามองไปยังโซนพื้นที่รับประทานอาหารด้านล่างได้ โครงการก็ทำประตูกระจกใสบานเลื่อนอีกชั้น ข้อดีคือแสงธรรมชาติจากชั้นลอยเนี่ย สามารถลอดผ่านไปยังส่วนอื่นๆในตัวบ้าน ทำให้ดูโปร่งโล่งสบายตา

และก็ถ้าใครกังวลเรื่องของความปลอดภัยนะครับ อันนี้ผมไปถ่ายที่บ้านมาตรฐานมาให้ดู จริงๆแล้วเค้าจะมีกระจกนิรภัยมากั้นเรื่องเซฟตี้ตรงจุดนี้อยู่ด้วย

อ่ะ ไปต่อกันที่ชั้น 2 ครับ ขึ้นบันไดไปกันเลย

พอขึ้นมาได้ครึ่งนึงถึงพื้นที่ของชานพัก เราจะเห็นทางซ้ายมือคือเจ้าพื้นที่ช่องแสงเข้ามุม ที่ติดตั้งผนังกระจกเอาไว้ให้ ทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องผ่านมายังชานพักแบบนี้ครับ ซึ่งถ้าใครกังวลแอบเสียวๆ มุมนี้ก็สามารถหาชั้นวางเล็กๆ เป็นมุมโชว์ของสะสมได้และกันตกไปในตัวได้อีกชั้น

ส่วนถ้าเรามองตรงไปตรงกลาง จะเห็นหน้าบานเล็กๆอีกช่องนึง นั่นก็คือส่วนของห้องเก็บงานระบบตู้ไฟต่างๆ

ซึ่งเจ้าห้องเก็บงานระบบตู้ไฟต่างๆ ก็ยังสามารถเป็นฟังก์ชันห้องเก็บของเสริมอีกส่วนนึงได้ โดยเราไม่ต้องลงไปเก็บถึงชั้น G ครับ

หันไปทางขวามือยังเป็นชานพักแบบสามเหลี่ยมหั่นครึ่ง ก็อย่าลืมขึ้นลงใช้ราวจับช่วยหน่อย

แต่พอก่อนจะถึงชั้น 2 แล้ว ก็จะเปลี่ยนเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสแล้ว จะเดินได้เต็มๆเท้าหน่อยครับ

ตรงส่วนนี้ผมเอาแปลนชั้น 2 มาแปะ แล้วหันตำแหน่งให้ตรงกับที่มองเห็นนะ ชั้นนี้เป็นส่วนของ Master Bedroom แบบยกชั้น ซึ่งทางซ้ายมือก็จะเป็นโซนวางเตียงไปยังฝั่งหน้าบ้าน ห้องน้ำอยู่กลางห้อง และพื้นที่แต่งตัวอยู่ด้านหลัง โดยความพิเศษก็คือมีระเบียงทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน

เดินมาทางซ้ายมือก่อน ที่เป็นฝั่งโซนวางเตียง(หน้าบ้าน) จะเห็นว่านอกจากพื้นที่การจัดวางเตียงแล้ว ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆในห้องได้อีกเพราะ พื้นที่ของห้องค่อนข้างกว้าง

นอกจากวางเตียง King Size แล้ว พื้นที่ข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่งยังสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้งคู่

ในส่วนพื้นที่ปลายเตียง ก็สามารถทำเป็นมุมชั้นวางทีวี แต่ถ้าใครมีของเก็บของสะสมเยอะหน่อย ก็บิวท์อินพวกชุดตู้โชว์เก็บของต่างๆไว้ชิดกับผนังด้านนี้ให้เต็มที่

ระยะทางเดินปลายเตียงค่อนข้างกว้าง สามารถหาสตูลโซฟาตัวยาวมาวางต่อเนื่องที่ปลายเตียงให้เข้ากับพื้นที่ และยังเดินไปมาได้สะดวก

ที่ปลายทางเดินริมกับหน้าต่างตรงนี้เป็นช่องแสงที่เหมาะกับทำเป็นมุมโต๊ะทำงานได้ดีลงตัว ได้แสงธรรมชาติเวลากลางวัน

ช่องแสงห้องนี้ยังได้ช่องเพิ่มมาเพิ่มจากชั้นลอย เพราะมีอีกจุดที่มุมหน้าโต๊ะทำงานครับ

โดยส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกจะลดระดับลงมาเพื่อกันในส่วนของเวลาฝนกตก ยังคงมีพื้นที่ซักล้างเล็กๆเหมือนเดิม แต่ความกว้างของระเบียงจะสั้นลงจากเดิมนิดหน่อย แต่ก็ใช้วางสวนกระถาง ออกมายืนสูดอากาศได้อยู่

มองย้อนกลับไปในตัวห้อง จะเห็นทางเดินอยู่กลางห้องไปยังห้องน้ำซ้ายมือ และด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่แต่งตัว (ซึ่งในบ้านจริงๆส่วนของห้องน้ำจะไม่ได้ผนังกั้นเป็นกระจก Sexy Bath แบบนี้นะ เป็นผนังฉาบเรียบทาสีจ้า)

เข้ามาดูในห้องน้ำกันบ้างในส่วนของกระเบื้องก็จะดูมีลวดลายเยอะหน่อย อาจจะลายตาบ้างนิดหน่อยเพราะที่ผนังในห้องน้ำเค้ากรุตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคชิ้นเล็กๆแบบนี้ครับ แต่ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ จัดเรียงมาได้ดี ระยะกว้างขวาง

โดยตรงกลางห้องเป็นส่วนของอ่างล้างมือก่อนครับ ซึ่งมีก่อเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์เต็มพื้นที่ที่วางข้าวของเครื่องใช้ได้เต็มพื้นที่ พร้อมด้านข้างติดปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำไว้ด้วย เอ้อๆ ลืมบอกไปเลยครับภายในบ้านนี้ ปลั๊กไฟทุกตัวเป็นปลั๊กแบบมีม่านนิรภัย ป้องกันอุบัติเหตุอันตรายจากเด็กเล็กด้วยนะ

ทางซ้ายมือเป็นส่วนของพื้นที่วางสุขภัณฑ์ ระยะการหยิบอุปกรณ์เสริมต่างๆอย่างสายชำระ ทิชชู่ก็หยิบจับได้ง่าย

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกไปทางขวามือโดยตัวพื้นจะลดระดับลงไปหน่อย และพื้นที่อาบน้ำกว้างขวางทีเดียว 0.85 x 1.60 เมตร สามารถเข้าไปอาบพร้อมกัน 2 คนได้ด้วยนะ(พ่อกับลูกยังเงี้ย) และก็จะได้กระจกนิรภัยฉากกั้นไร้เฟรมดูสวยงาม อีกทั้งชุดผักบัวหน้าตาดูดีพร้อม Rain Shower และมีการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นของยี่ห้อ Stiebel Eltron แบรนด์ของเยอรมันด้วย

มาถึงในส่วนด้านหลังบ้านกันแล้ว อย่างที่บอกฝั่งหลังก็มีช่องแสงขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ระเบียงเช่นเดียวกันครับ โดยฟังก์ชันหลักในพื้นที่นี้เหมาะแก่การจัดเป็นมุมแต่งตัว Walk in Closet

หันไปมองทางขวาพื้นที่ค่อนข้างกว้าง บ้านตัวอย่างแต่งให้ดูว่า Built-In ตู้เสื้อผ้าติดผนังจรดฝ้าได้เลย และขวามือก็สามารถมีมุมวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ การที่อยู่ใกล้ช่องแสงธรรมชาติ ทำให้แต่งหน้าได้แสงที่ตรงไม่เพี้ยนต่างจากที่เปิดไฟส้มแต่งหน้าครับ

ฝั่งซ้ายก็ยังเหลือพื้นที่เข้ามุมรูปตัว L ก็ยังทำพื้นที่ตู้เพิ่มได้อีกเรียกว่าใช้พื้นที่ใช้สอยในมุมแต่งตัวบริเวณนี้ให้คุ้มที่สุดครับ

ส่วนของระเบียงหลังบ้านขนาดความกว้างจะเล็กลงไปอีกเหลือแต่ประมาณ 45 ซม. เท่านั้นครับ พอแค่ออกไปยืน หรือวางกระถางต้นไม้เพิ่มยังได้อยู่

จบที่ส่วนของชั้น 2 กันแล้ว เดี๋ยวเราเดินขึ้นไปต่อกันที่ชั้น 3 กันครับ

โดยรูปแบบของชานพักบันไดครึ่งนึงระหว่างไปชั้น 2 ก็จะเป็นแบบนี้มีทั้งสี่เหลี่ยมจตุรัสและก็สามเหลี่ยมปะปนกันไป ยังไงก็จับราวไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยในการขึ้นลงทุกครั้ง

ยังอยู่ที่บริเวณโถงบันได้นะครับ ผมเอาแปลนมาแปะให้ดูชั้น 3 นี้จะเป็นส่วนของห้องนอนเล็กทั้งสองห้องคนละฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งห้องนอนฝั่งด้านหน้าจะใหญ่กว่าเล็กน้อย ทั้งคู่มีระเบียงในตัว แต่ต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงด้านนอกครับ

ในส่วนของห้องนอนด้านหน้า สามารถวางเตียงไซส์ใหญ่ในห้องได้

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือค่อนข้างพอสมควรจัดเป็นมุมโซฟานั่งเล่นพักผ่อนบริเวณนี้ได้ หรือทำเป็นมุมโต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะทำงานวางคอมพ์ก็ได้ครับ

ที่ฝั่งขวาก็ยังเหลือทางเดินมายังพื้นที่ระเบียงฝั่งหน้าบ้านด้านนอกได้ จะเห็นได้เลยว่าทุกห้องของที่นี่ทั้งฝั่งหน้าและหลัง ให้พื้นที่ฟังก์ชันของการใช้งานระเบียงมาทั้งหมดเลย

ในส่วนการกั้นพาร์ทิชั่นในห้องนี้ เป็นไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างนะครับ ที่แยกโซนเป็นพื้นที่ Walk in Closet สำหรับแต่งตัวเป็นสัดส่วนและใช้ผนังบางส่วนที่ทำขึ้นเป็นที่แขวนทีวีไว้กลางห้องด้วย ซึ่งของบ้านจริงจะไม่ได้มีให้ อันนี้เป็นไอเดียวเผื่อใครชอบและเอาไปแต่งตามได้

ด้านในพื้นที่แต่งตัว จริงๆทางขวามือทั้งหมดจะเป็นส่วนของหน้าบานตู้เสื้อผ้า แต่หน้าบานลายไม้แบบนี้เลยทำให้สังเกตยากหน่อยครับ และก็จัดวางมุมโต๊ะเครื่องแป้งไว้ติดกับหน้าต่างช่องแสง

ออกมาจากห้องนอนฝั่งหน้าบ้าน เดี๋ยวเราแวะดูในส่วนของห้องน้ำตรงโถงกลางทางซ้ายมือกันก่อน

ในส่วนของห้องน้ำชั้นนี้ พื้นกระเบื้องและผนังเปลี่ยนเป็นโทนสีสว่างสีขาวดูสบายตา เป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว โดยขนาดพื้นที่จะไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ฟังก์ชันหลักสามประการครบ คือพื้นที่อ่างล้างมืออยู่ทางขวามือ ตรงกลางเป็นพื้นที่อาบน้ำแยกโซนเปียกได้กระจกนิรภัยเป็นฉากกั้น และซ้ายมือสุดเป็นส่วนตำแหน่งวางสุขภัณฑ์

ระยะพื้นที่อาบน้ำเป็นทรงจตุรัสไม่ได้กว้างมาก พอสำหรับยืนอาบคนเดียวครับ แต่ที่ผนังโซนพื้นที่อาบน้ำกระเบื้องเป็นลวดลายเด่นๆสีฟ้าตัดกับสีพื้นสีขาว ยังได้ชุด Rain Shower และเครื่องทำน้ำอุ่นเหมือนกัน

ห้องนอนสุดท้าย ส่วนของห้องนอนเล็กฝั่งด้านหลัง ฟังก์ชันการแบ่งพื้นที่หลักๆก็จะคล้ายกับห้องฝั่งด้านหน้า แต่จะเล็กกว่านิดหน่อย

ซึ่งถ้าเราเลือกวางโต๊ะข้างหัวเตียงกับโต๊ะเครื่องแป้งมาขนาบกับหัวเตียงแบบห้องตัวอย่างก็จะวางเตียงได้แค่ไซส์ 3.5 ฟุต ถ้าลูกคุณนอนดิ้นก็เอาโต๊ะข้างหัวเตียงฝั่งซ้ายออกเถอะแล้วเปลี่ยนเป็นเตียงไซส์ใหญ่ 5-6 ฟูตได้ครับ แล้วแต่เราจะเลือกจัด

ที่ปลายเตียงสามารถหาชั้นมาวางทีวีแขวนผนังแบบนี้ได้ และมีทางเดินไปส่วนพื้นที่ปลายเตียงต่อเนื่องไปด้านหลัง

เป็นมุมแบบนี้ครับ และทางซ้ายมือทำตู้เสื้อผ้าให้เต็มพื้นที่จรดฝ้าเพดานได้

และส่วนสุดท้ายก็คือระเบียงที่ยังคงได้เช่นกัน แต่จะสังเกตเห็นว่าที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเว้าลดระดับการระบายน้ำนอกระเบียงเป็นอย่างมากนะฮะ เพราะว่าพื้นที่ระเบียงมันค่อนข้างยาว พอทำแบบนี้จะได้ระยะของสโลปน้ำไหลลงไปรวมได้ง่าย

ตอนนี้เราอยู่ที่ชั้น 3 นี่เป็นส่วนของวิวฝั่งด้านหน้าโครงการติดซ.สาธุประดิษฐ์ 12 ซึ่งฝั่งตรงข้ามเราก็เป็นชุมชนทั่วไป เป็นโรงพิมพ์เลิศศิลป์

ออกมาที่โถงบันไดอีกครั้ง คราวนี้เราขึ้นไปดูส่วนของ Rooftop ดาดฟ้ากันบ้าง จากมุมนี้ยังไม่ทันออกไปเราก็เริ่มเห็งแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านมายังพื้นที่บันไดแล้ว

นอกจากประตูกระจกแล้วยังมีการเจาะช่องแสงอีกจุดเพื่อส่องผ่านเข้ามาด้านในโถงบันไดครับ ตัวประตูทางเข้าออก Rooftop หน้าตาดูดีทีเดียว

พอออกมาแล้วในส่วนของด้านนอก เราจะเห็นไอ้เจ้ากล่องตู้เตี้ยทางซ้ายมือสุดใช่ไหมครับ เนื่องจากพัดลมดูดอากาศในบ้านนี้ส่วนของห้องน้ำ ใช้ป้องกันลมย้อนกลับสู่ภายในห้องน้ำแต่มาออกที่ดาดฟ้าตรงนี้แหละ

ส่วนของฝั่งด้านหลังบ้านเราจะเห็นว่า ปั๊มน้ำของที่นี่จะถูกมาวางไว้ที่ดาดฟ้า เนื่องจากที่เค้าบอกว่าเผื่อเกิดน้ำท่วมที่ชั้น G ขึ้นมาก็ยังใช้งานได้อยู่

ส่วนของพื้นที่ดาดฟ้าจริงๆแล้ว บ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ เราต้องตกแต่งเพิ่มเอง แต่ว่าบ้านตัวอย่างก็จัดให้ดูเป็นไอเดีย สามารถทำเป็นมุม BBQ AREA หรือ Dining Area แบบ Semi Outdoor ได้เช่นกัน

ทำเป็นมุมปิ้งย่างแบบนี้จริงจัง เอาไอเดียไปใช้ได้เลยนะฮะ

ฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่วางโต๊ะ วางเก้าอี้ ก็แบบขนาด 6-8 ที่นั่งพอไหวครับ


สุดท้ายจะขอพาไปดูในส่วนของแปลงยูนิตพิเศษที่มีตัวเนื้อที่ดินด้านข้างบ้าน สำหรับคนมีงบเยอะหน่อย และต้องการพื้นที่เดินเล่น ทำสวน อเนกประสงค์เพิ่มเติมครับ

โดยบ้านตัวอย่างแปลงพิเศษนี้ จะจัดสวนและพื้นที่นั่งเล่นให้ดูแบบเต็มพื้นที่เลย เราเดินไปดูกันตั้งแต่ข้างๆพื้นที่จอดรถนะ

มุมนี้ทำเป็นโต๊ะนั่งเล่นพร้อมจัดสวนขวด สวนกระถาง อีกทั้งผนังมีการโชว์แนวของอิฐแดงให้ดูเป็นฉากแบ็คกราวน์สวยๆตัดกับสีเขียวของต้นไม้

เนื่องจากตัวบ้านมีการลดระดับไปยังชั้น G ตัวพื้นที่ด้านข้างก็จะลดเช่นกัน โดยใช้บันไดเดินลงไปแบบนี้

ไอเดียตกแต่งสวนด้านข้างบ้าง สำหรับแปลงพิเศษที่มีเนื้อที่ดินด้านข้าง สามารถเอาน้ำพุเล็กๆมาเพิ่มบรรยากาศให้ได้ยินเสียงน้ำไหลเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายได้

ไอเดียตกแต่งสวนด้านข้างบ้าง สำหรับแปลงพิเศษที่มีเนื้อที่ดินด้านข้าง

ไอเดียตกแต่งสวนด้านข้างบ้าง สำหรับแปลงพิเศษที่มีเนื้อที่ดินด้านข้าง

ไอเดียตกแต่งสวนด้านข้างบ้าง สำหรับแปลงพิเศษที่มีเนื้อที่ดินด้านข้าง ปิดท้ายกันที่ส่วนด้านหลังบ้านมาทะลุเชื่อมกับพื้นที่ Semi Outdoor ของชั้น G ตรงนี้ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 June 2018

  • ทาวน์โฮม 4 ชั้นครึ่ง ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แปลงริม D1 ที่ดิน 21.40 ตร.วา หน้ากว้าง 5.35 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 321 ตร.ม.
  • แปลงริม(มีที่ดินด้านข้าง) C1 ที่ดิน 30.60 ตร.วา ตัวบ้านหน้ากว้าง 5.60 เมตร, ตัวที่ดินหน้ากว้าง 8.52 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 362 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 19.3 – 24 ล้านบาท (update 14/3/2023)
  • ปัจจุบันเหลือแค่ 5 ยูนิต
  • จองและทำสัญญา (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเซลล์โครงการ)
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 450,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 130 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

โปรโมชั่น ณ วันเข้าสำรวจทำรีวิว

  • ส่วนลด 5 แสนบาท
  • ชุดครัว Built-In ของ ModernForm
  • สอบถามโปรโมชั่นนี้กับทางเซลล์ทุกครั้งหาก Walkin เข้าไป

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – Luxx Ville สาธุประดิษฐ์ 12 อยู่ในทำเลย่านเก่าแก่นะครับ ผู้คนที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ขยายตัวมาจาก เขตคนจีนในย่านบางรักและเจริญกรุงตอนปลายๆ ปัจจุบันบ้านแนวราบจะขยับมาที่พื้นที่ใกล้ๆอย่าง เจริญราษฎร์ สาธุประดิษฐ์ ทางนี้เสียมากกว่าครับแต่บรรยากาศโดยรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถวรวมทั้งศาลเจ้าจีนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ เพราะย่านนี้คนจีนเยอะ อาหารก็เยอะโดยเฉพาะอาหารจีน

ความอุดมสมบูรณ์จึงไม่ต้องพูดถึง มีทั้งร้านอาหารห้องแถว ตลาด, Community mall ใกล้ๆอย่าง Green Place หรือ The Up พระราม 3 มีห้างเซนทรัลพระราม 3 ให้ไปช็อปปิ้ง หากอยากจะชิคหน่อยก็ขับรถไปบนถนนจันทน์ แล้วทะลุเส้นเจริญกรุงก็จะมีเอเชียทีค และยังมีห้างโรบินสันบางรักที่อยู่ใกล้ๆ BTS สะพานตากสิน

ส่วนอีกอย่างที่อยากให้สังเกต ก็คือเรื่องของ “สถานที่ศึกษา” ถ้าใครอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว เอาที่ใกล้ๆตัวโครงการก็มีโรงเรียนสารสาสน์พิทยา, สารสาสน์เอกตรา, โรงเรียนพระแม่มารี, เปรมฤดีศึกษา, วาสุเทวี, เบญจวรรณศึกษายอแซฟ กรุงเทพฯเซนต์ยอแซฟยานนาวา (วรสารพิทยา), นานาชาติสาทรใหม่ ที่ยกตัวอย่างไปแค่ยังอยู่ในโซนสาธุประดิษฐ์นะครับ ก็เรียกได้ว่าย่านนี้เป็นแหล่งสถานศึกษาที่ถ้าใครอยากหาโรงเรียนดีๆใกล้บ้านให้ลูกก็ว่าได้

การเดินทาง เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 12 หรือ จันทน์ 43 ที่เป็นซอยย่อย การเดินทางจึงสามารถลัดเลาะเข้าออกได้หลายเส้นทาง ตัวโครงการจะเกาะเส้นทางเดินรถหลักๆอยู่ที่ถนนจันทน์และถนนสาธุประดิษฐ์ ซึ่งถนนสองเส้นนี้มีซอยย่อยแตกแขนงไปเหมือนใยแมงมุม ดังนั้นข้อเสียของโครงการอาจะเข้าไปในซอยเล็กๆ แต่ข้อดีคือการเดินทางเข้าออกสามารถใช้ทางลัดเลี่ยงรถติดได้เยอะ และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนถึง 3 จุดด้วยกัน คือทางขึ้นลง ถนนรัชดาภิเษก,  ทางขึ้นลงที่ถนนเจริญราษฎร์ และตรงแยกสาทรสุรศักดิ์ก็ได้

ความปลอดภัย – ความปลอดภัยของที่นี่ ซุ้มรปภ.ที่ทางเข้าออกบริเวณด้านหน้าโครงการ, Keycard Acess รั้วไม้กระดก / CCTV เฉพาะที่ซุ้มด้านหน้า / รปภ. 24 ชม. / รั้วกำแพง 2.50 – 5 เมตร แต่ในตัวบ้านไม่มีนะครับต้องไปติดเพิ่มเอง จริงๆบ้านระดับนี้น่าจะมีพวก Magnetic Sensor, Shock Sensor, Motion Sensor เลือกมาให้หน่อยก็ได้

การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – Luxx Ville สาธุประดิษฐ์ นี่ถือว่าเป็นทาวน์โฮมเล่นระดับในย่านนี้ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการเล่นระดับที่การใช้งานดูไม่ซับซ้อน จัดช่องแสงออกมาได้เยอะมากตลอดทั้งสองฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านทุกชั้น บานใหญ่แบบเต็มๆ ให้น้ำหนักกับพื้นที่ Living Area ส่วนรวมที่ต้องเจอกันระหว่างภายในครอบครัวกับแขกได้ดี ดูมีหน้ามีตาน่าใช้งาน และในห้องนอนก็กว้างไม่ได้อึดอัด เลยไม่ได้ยัดห้องนอนมีจำนวนมาก เลยมีแค่ทั้งหมด 3 ห้องนอน ก็เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางครับ

วัสดุ – วัสดุของที่นี่ถือว่าให้มาระดับที่ดีใช้ได้ เลยทั้งเรื่องตัววงกบกรอบบานอะไรต่างๆดูมีความเนี๊ยบ พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ กับลามิเนต 12 mm., ชุดครัวตอนนี้ยังอยู่ในโปรโมชันที่แถมของ ModernForm ให้แบบยังไม่มีกำหนด ก็ยังนับว่าได้อยู่นะ อีกทั้งพวกการเก็บระบบห้องไฟ สายเคเบิ้ล สายแลนต่างๆที่ซ่อนไว้ตามจุดต่างๆในบ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก หน้าบ้านที่จอดรถลงเสาเข็ม ห้องน้ำของ American Standard ได้กระจกนิรภัยฉากกั้นพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ประมาณนี้ครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ตัวโครงการจะมีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆอยู่ตรงใจกลางโครงการเลยนะครับ ไม่ได้ใหญ่มาก เพราะยูนิตน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้เลย มีการปลูกต้นไม้ริมรั้วนิดหน่อย และก็ให้ต้นไม้กระถางบนระเบียงในบ้าน, อีกทั้งถนนภายในโครงการทั้งหมดปูด้วยคอนกรีตพิมพ์ลาย และที่ดูมีควสามสวยงามที่สุดก็คือเอาระบบสายไฟและเคเบิ้ลต่างๆลงใต้ดินทั้งหมด เวลามองแล้วดูสะอาดตามาก

สาธารณูปโภค – ตัวโครงการไม่ได้มีส่วนกลางพิเศษใดมากมายนะครับ เพราะเป็นรูปแบบโครงการขนาดเล็กมากๆ แค่ 19 หลังเท่านั้น ด้านหน้ามีการรักษาความปลอดภัยโดยใช้ CCTV, ยามรักษาความปลอดภัย 24 ชม., Access card ระยะใกล้, รั้วกำแพงรอบโครงการสูงมีตั้งแต่ 2-5 เมตร, มีสวนหย่อมเล็กๆอยู่ตรงกลาง

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 19.3 – 24 ล้านบาท (update 14/3/2023) , 26 June 2018

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอย แต่เข้า-ออกลัดเลาะได้หลายเส้นทางและอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วน รอบๆโครงการเป็นแหล่งชุมชนที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และแหล่งสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง
  • ความปลอดภัย 7.25/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, CCTV เฉพาะด้านหน้าที่ซุ้มรปภ.หน้าหมู่บ้าน, รั้วกำแพงสูง, แต่ไม่มีส่วนอื่นๆในตัวบ้าน
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – แบบสวย พื้นที่ใช้สอยเยอะ เป็นบ้านเล่นระดับที่ใช้งานไม่ซับซ้อน ขนาดระยะห้องต่างๆทำได้ดีลงตัวและช่องแสงเยอะเป็นพิเศษ
  • วัสดุ 8/10 – ถือว่าค่อนข้างให้มาดีทั้งการเก็บระบบไฟที่เรียบร้อย, ลามิเนต 12mm. ตัวเฟรมประตูอลูมิเนียมจากญี่ปุ่น บันไดไม้มะค่า, กระจกในตัวบ้านให้มาเยอะมาก
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – เป็นโครงการขนาดเล็ก มีสวนหย่อมเล็กมาให้และก็มีต้นไม้ริมรั้วอยู่บ้าง แต่ดีที่มีสายไฟและเคเบิ้ลลงใต้ดิน
  • สาธารณูปโภค 6.5/10 – ถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง กับมีแค่สวนหย่อม ถือว่าให้มาน้อยนะครับ
  • 7.64/ 10.00
  • LUXURY CLASS

 

BOTTOM LINE

Luxx Ville สาธุประดิษฐ์ 12 ถือเป็นโครงการทาวน์โฮมขนาดเล็ก มีจำนวนยูนิตน้อยมาก เน้นเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้านเป็นหลัก และยังมีการออกแบบฟังก์ชันเล่นระดับในบ้านที่โด่ดเด่นกว่าละแวกเพื่อนบ้าน ทำเลไม่ติดถนนใหญ่แต่ก็ไม่ลึกและมีทางลัดเลาะอื่นให้ใช้ได้หลากหลาย เน้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก มีความสงบ เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ย่านสาธุประดิษฐ์ ถนนจันทน์ พระราม 3 ไม่ซีเรียสเรื่องส่วนกลางหรือ Facilities มีงบประมาณ 19.3 – 24 ล้านบาท (update 14/3/2023) ซึ่งคนซื้อโครงการระดับนี้ต้องไม่ค่อยมีเงื่อนไขในการผ่อนชำระระดับนึงแล้ว