City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์

รีวิวฉบับที่ 1929 … วันนี้เราจะพาไปดูโครงการโฮมออฟฟิศและทาวน์โฮมใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก และ Motorway กันกับโครงการ City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ค่ะ ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับถนนกรุงเทพกรีฑา และถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้าที่เพิ่งตัดใหม่ ที่ดินโซนนี้เรียกได้ว่ามีแต่โครงการแพงๆขึ้นมากันทั้งนั้นเลย ในขณะที่โครงการนี้เริ่มต้นเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.ราคา 4.5 ล้านบาท รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

Fact @ 20 August 2019

  • City Link Rama9 – Srinakrarin (ซิตี้ลิงก์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์)
  • บริษัท เอส.พี.ดี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทในเครือ บริษัท เอ เบสท์ เอสเตท จำกัด)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนกาญจนาภิเษก เขตสะพานสูง
  • เนื้อที่โครงการ 15-1-97 ไร่ จำนวน 175 ยูนิต
  • โฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง Type SH-A ที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. หน้ากว้าง 4.25 เมตร ลึก 16.81-18.50 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องทำงาน 1 ห้องอเนกประสงค์
  • โฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง Type SH-B ที่ดินเริ่มต้น 23 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 283 ตร.ม. หน้ากว้าง 4.25 เมตร ลึก 21 เมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องทำงาน 1 ห้องอเนกประสงค์
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง Type M1 ที่ดินเริ่มต้น 22 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 261 ตรม. หน้ากว้าง 5.40 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง Type M2 ที่ดินเริ่มต้น 21 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 244 ตรม. หน้ากว้าง 5.00 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น Type M3 ที่ดินเริ่มต้น 21 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 212 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.40 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น Type M4 ที่ดินเริ่มต้น 19 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.00 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น Type CM ที่ดินเริ่มต้น n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม. หน้ากว้าง 4.50 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 1 คัน
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.75 เมตร , ชั้น 2 สูง 2.75 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท
  • ขนาดที่ดินมาตรฐานเริ่มต้นที่ 18 ตร.วา เพิ่มลดตารางวาละ 65,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : Q4 2560
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : n/a
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย : 02-130-7019, 094-486-6009

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.742186, 100.702074
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ
City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ฝั่งเดียวกับหมู่บ้านนักกีฬาและถนนกรุงเทพกรีฑา จุดเด่นของทำเลนี้ในแง่การเดินทางคือทำเลที่ใกล้กับทางด่วนนี่แหละค่ะ ที่สามารถเชื่อมเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพได้ด้วยเส้น Motorway ไปยังทางด่วนศรีรัช หรือว่าจะอ้อมเมืองไปกับทางด่วนวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษกได้ 

ที่ตั้งโครงการอยู่บนทางคู่ขนานกาญจนาภิเษกค่ะ แต่จะอยู่ฝั่งเดียวกับกรุงเทพกรีฑานะคะ ซึ่งฝั่งนี้มีข้อดีกว่าฝั่งร่มเกล้าตรงที่เดินทางเข้ามายังใจกลางเมืองได้สะดวกกว่า (ถ้าใครเคยขับรถบริเวณนี้จะรู้เลยว่าถนนเส้นมอเตอร์เวย์และถนนกาญนาภิเษกเป็นถนนใหญ่ที่เส้นทางคดเลี้ยวชวนงงมาก เลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยน หาจุดกลับรถอีกทีก็ไกลเลย และจุดกลับรถก็จะอยู่ใต้ทางด่วนซึ่งจะมืดๆหน่อย รถขับสวนกันได้ ใครไม่ชินทางก็อาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ) แต่ในอนาคตช่วงปีหน้า 2563 ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ช่วงสุดท้ายน่าจะก่อสร้างเสร็จ การเดินทางก็จะสะดวกและง่ายมากขึ้นนะคะสำหรับคนเเถวนี้ ชาวร่มเกล้าขึ้นสะพานข้ามวงแหวนกาญจนาเข้ามาตัวเมืองได้เลย ส่วนจากโครงการ City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์  ก็สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้านี้ วิ่งเข้ามายังถนนหัวหมาก(หลังมหาลัยรามคำแหง) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้นค่ะ ซึ่งถนนนี้สามารถเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์ , รามคำแหง , พระราม9 ได้ง่ายเลย

ทำเลนี้จะเป็นทำเลที่เจ้าของบ้านควรจะใช้รถส่วนตัวเป็นหลักนะคะ แต่พอรูปแบบโครงการที่ขายมาเป็นโฮมออฟฟิศด้วย เราก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเราไม่มีรถ.. เราจะสามารถเดินทางมายังโครงการได้อย่างไรบ้าง? คำตอบคือต้องพึ่งพาวินมอเตอร์ไซค์ต่อมาจากรถไฟฟ้าหรือปลายทางของรถสองแถวอีกทีค่ะ รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็น Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง เดินข้ามสะพานลอยและเรียกรถมอเตอร์ไซค์มาโครงการได้ค่ะ ส่วนรถสาธารณะก็จะมีรถเมล์สาย 93 และรถสองเเถวที่มาจากหน้ารามมายังหมู่บ้านนักกีฬาค่ะ สุดสายแล้วค่อยเรียกมอเตอร์ไซค์ต่อมาโครงการอีกที ส่วนขาออกจากโครงการ เราอาจจะต้องพึ่งพา Application เรียกรถเป็นหลักนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแท๊กซี่ พี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือใครจะตีซี้พี่วิน ขอเบอร์เอาไว้ให้เค้าขับมารับที่โครงการก็ได้นะคะ แล้วแต่ความสะดวกใจเลย

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ในละแวกนี้ถือว่ายังไม่มีห้างใหญ่อยู่ใกล้มากนัก ที่ใกล้ๆสุดเห็นจะมี Paseo Mall ลาดกระบัง แต่ถ้าขับมาทางเส้นศรีนครินทร์ก็สามารถเลือกไปยัง The Mall บางกะปิ ตรงโซนนั้นก็จะมีตลาด ห้าง ร้านอยู่หนาแน่น หรือโซนสวนหลวงร.9 ที่จะมี ซีคอน สแควร์ , Paradise Park และตลาดนัดรถไฟอยู่ สองโซนนี้จะมีห้างใหญ่และ Hyper Market ให้เดินเล่นและซื้อของเยอะหน่อย มีโรงหนังให้พักผ่อนหย่อนใจ หรือว่าจะไปตรงพระราม 9 เเถวๆ The nine เลย ตรงนั้นก็จะมีตลาดเสรี และมีร้านอาหารรอบๆให้เลือกทานเยอะเหมือนกัน ส่วนร้านอาหารหรือตลาดที่มีขนาดเล็กลงมา จากโครงการเรามองว่ามี 2 โซนให้เลือกนะคะ จะมีโซนร่มเกล้าที่ห่างออกไป หรือถ้าใกล้หน่อยก็จะเป็นถนนกรุงเทพกรีฑา ที่จะมีตลาดหมู่บ้านนักกีฬา และ Hypermarket สาขาเล็กๆอยู่อย่าง Mini Big-C , Tesco Lotus อยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑานี้ค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับเส้นทางการเดินทางที่เราพาไปดูวันนี้จะเริมจากถนนหัวหมาก (หลังรามคำแหง) วิ่งมายังเส้นศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (หรือที่หลายคนเรียกว่ากรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะจะเจอกับถนนกาญจนาภิเษก ให้เลี้ยวขวาไปยังถนนคู่ขนานกาญจนาฯ เลี้ยวมานิดเดียวก็จะเจอกับโครงการ City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์  ตั้งอยู่ริมถนนทางขวามือเเล้วค่ะ ตอนแรกคิดว่าไกล เดินทางลำบาก เเต่เอาเข้าจริงขับออกมาใช้เวลาเร็วกว่าขับรถเข้าในเมืองอีกค่ะ เพราะถนนเส้นนี้ไม่ติดเลย เป็นถนนตัดใหม่ (แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะคะ)

ขอเริ่มต้นที่ถนนหัวหมากนะคะ (หลังรามคำแหง) เราจะมุ่งหน้าไปทางศรีนครินทร์ หรือไปทางร่มเกล้านะคะ

ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทาง ให้เรามุ่งหน้าตามป้ายกรุงเทพกรีฑาหรือ ไปทางร่มเกล้าเลยค่ะ เส้นทางจะเป็นสะพานข้ามถนนศรีนครินทร์ไปยังถนนกรุงเทพกรีฑาเลย

บนถนนกรุงเทพกรีฑาจะมีเส้นถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ที่เป็นถนนตัดใหม่ ช่วยเชื่อมต่อผู้อยู่อาศัยในย่านร่มเกล้า หรือโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ให้เข้ามาภายในตัวเมืองได้สะดวกมากขึ้น

ดังนั้นในช่วงถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าตอนนี้สองข้างทางที่ตัดใหม่ยังคงเป็นที่โล่งอยู่มาก แต่ก็เริ่มมีโครงการบ้านหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวราคาแพงทั้งนั้นเลยค่ะ

เนื่องจากเป็นถนนตัดใหม่ด้วย ในตอนนี้(ที่ไปทำรีวิว) สามารถเชื่อมต่อได้ถึงถนนกาญจนาภิเษกเท่านั้น ในช่วงปีหน้า 2563 คาดว่าการก่อสร้างช่วงสุดท้าย(สะพานข้ามทางด่วนกาญจนาภิเษกไปยังถนนร่มเกล้า)จะสร้างเสร็จ จำนวนคนที่ใช้ถนนเส้นนี้น่าจะมีมากขึ้นค่ะ
ส่วนโครงการเรายังไม่ต้องข้ามไปถึงร่มเกล้านะคะ ให้ออกไปยังถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก

ชิดซ้ายเบี่ยงไปตามทางเลยค่ะ

พอถึงถนนกาญจนาภิเษกจะสามารถเลี้ยวไปได้ทั้งซ้ายและขวาเลย เป็นถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่ตั้งของโครงการเราจะอยู่ทางขวามือ

ตรงนี้ไม่มีสัญญาณไฟจราจรนะคะ เวลาเลี้ยวจะต้องระมัดระวังนิดนึง

เลี้ยวมาจะเป็นถนนคู่ขนาน รถสามารถวิ่งสวนกันได้ ทางซ้ายมือจะเป็นทางด่วนกาญจนาภิเษก เดิมทีการที่จะข้ามไปอีกฝั่งของทางด่วนจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวายเล็กน้อย  จะมีถนนกลับรถลอดอยู่ใต้ทางด่วนเป็นระยะ แต่เป็นทางที่ค่อนข้างมืด และรถสามารถขับสวนกันได้ ดังนั้นเราอาจจะต้องระมัดระวังในการขับหน่อยนะคะ

บริเวณริมถนนนี้จะมีร้านสะดวกซื้ออยู่บ้างค่ะ ที่เห็นจะเป็น 7-eleven อยู่ปากซอยทางเข้าหมู่บ้านนักกีฬา

ข้างๆกันก็จะมี Mini Big-C ค่ะ ถือว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ใกล้กับโครงการมากที่สุด ห่างจากโครงการไปประมาณ 400 เมตร เดินเท้ามาอาจจะลำบากหน่อย เพราะเป็นถนนใหญ่ บรรยากาศไม่ค่อยน่าเดิน อาจจะต้องปั่นจักรยานหรือใช้มอเตอร์ไซค์ขับมาเเทน

เลยมาประมาณ 400 เมตรจะเจอกับโครงการ City Link พระราม9 – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ (ในที่นี้คือใหญ่จริงๆ เป็นทางด่วนกาญจนาที่มีเกิน 10 เลนรถยนต์เลยค่ะ) ซึ่งถนนใหญ่เลียบทางด่วนกาญจนานี้ถือว่าไม่ใช่ถนนเส้นที่มีบรรยากาศเป็นชุมชนอยู่อาศัย หรือทำเลที่มีอาคารสร้างขึ้นมาเพื่อทำการค้าขายซักเท่าไหร่นะคะ บรรยากาศรอบๆจะเป็นที่โล่ง มีที่ดินเปล่า และมีร้านค้าเบาบาง ส่วนบ้านพักอาศัยจะไปอยู่ที่ด้านหลังโครงการของโครงการแทน ซึ่งต้องเข้าซอยจากถนนใหญ่ไปอีกทีค่ะ

  • ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่า และที่อยู่อาศัยแนวราบ
  • ทิศใต้ –  ติดกับที่ดินเปล่า อู่รถ และร้านขายกระเบื้อง
  • ทิศตะวันออก – ติดกับถนนใหญ่ ถนนคู่ขนานกาญจนาฯ และทางด่วนกาญจนาฯ
  • ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่า และที่อยู่อาศัยแนวราบ

ทิศตะวันออก เป็นถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก และทางด่วนกาญจนาภิเษก

ถนนหน้าโครงการจะเป็นถนนที่มีรถวิ่งสวนกันได้นะคะ จากหน้าโครงการก็เลือกเลี้ยวซ้ายหรือขวาได้เลย แต่ถ้าจะไปฝั่งร่มเกล้า ให้เลี้ยวซ้าย จะมีจุดวนรถใต้ทางด่วนไปทางคู่ขนานอีกฝั่งค่ะ

ทิศใต้ ติดกับโครงการโซนโฮมออฟฟิศเลยจะเป็นร้านขายกระเบื้องค่ะ

ทิศใต้ เลยร้านขายกระเบื้องไปจะเป็นอู่รถยนต์

ทิศเหนือ ที่ดินข้างๆโครงการยังเป็นที่ดินเปล่าค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (วัดจากโครงการรวมระยะกลับรถ)

  • ตลาดหมู่บ้านนักกีฬา ~ 3.3 km.
  • Ascot International School ~ 4.6 km.
  • Brighton College Bangkok International School ~ 8 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 9.6 km.
  • The Paseo Mall ลาดกระบัง ~ 9.8 km.
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ~ 10 km.
  • โรงพยาบาลรามคำแหง ~ 10.2 km.
  • The Mall บางกะปิ ~ 10.5 km.
  • Airport Link สถานีบ้านทับช้าง ~ 11.3 km.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 11.8 km.
  • The Promenade ~ 12.6 km.
  • แฟชั่นไอส์แลนด์ ~ 13 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์  เป็นโครงการประเภททาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศรวม 175 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 15 ไร่ครึ่ง ริมถนนคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก ทางเข้า – ออกโครงการมีอยู่ทางเดียวอยู่ทางด้านหน้าค่ะ ก่อนอื่นเราต้องขอบอกก่อนว่าโครงการนี้มีจุดขายอย่างนึงคือการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยของแบบทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศได้ทั้งโครงการเลย โดยคนที่อาศัยในโครงการลักษณะนี้ อาจจะต้องเข้าใจธรรมชาติของโครงการที่เป็นโฮมออฟฟิศกันสักหน่อยนะคะ เพราะว่าเมื่อมีโฮมออฟฟิศในโครงการแล้ว จำนวนคนที่เข้า-ออกในโครงการก็จะมากขึ้นตาม รวมไปถึงที่จอดรถที่มีความต้องการมากขึ้นกว่าโครงการที่เป็นบ้านพักอาศัย และโดยทั่วไป พื้นที่ส่วนกลางของบ้าน อาจจะต้องการความร่มรื่น เอาไว้พักผ่อน แต่พอเป็นโครงการโฮมออฟฟิศอาจจะไม่ต้องการพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มขนาดหมู่บ้านจัดสรรที่เป็นบ้านอยู่อาศัยจริงๆ ดังนั้นโครงการนี้จึงมีพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นสวนเล็กอยู่ตรงกลางของโครงการขนาดประมาณครึ่งไร่แทนค่ะ

ในแง่การรักษาความปลอดภัย โครงการจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ชุดอาคารทางด้านหน้า Type SH-A กับ SH-B จะเป็นเหมือนอาคารพาณิชย์ เป็นโฮมออฟฟิศที่มีหน้าร้าน ไม่มีที่จอดรถในตัวบ้าน แต่สามารถจอดที่ถนนหน้าอาคารได้แทน ดังนั้นโซนนี้จึงเป็นส่วนที่บุคคลภายนอกเข้ามาจอดรถด้านหน้าได้เหมือนอาคารพาณิชย์ที่เคยเห็นกันทั่วๆไปค่ะ ในส่วนถัดมาจะมีรปภ. 2 คน คอยดูเเลที่ซุ้มประตูทางเข้า ซึ่งจะต้องใช้ Key Card เพื่อเข้าหรือออกจากโครงการ ส่วนคนที่มาติดต่อ ก็จะต้องแลกบัตร และมีตราประทับเพื่อออกจากโครงการไปค่ะ และภายในโครงการ ก็จะมีติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้รอบๆ จำนวน 26 จุด เพื่อดูแลความเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ

เมื่อเข้ามาในโครงการ สองข้างทางของถนนหลักจะเป็นแบบบ้าน 3 ชั้นครึ่ง โซนนี้ส่วนใหญ่จะถูกซื้อไปทำเป็นโฮมออฟฟิศทั้งแถบเลยค่ะ จากที่เข้าไปทำรีวิวมา โซนนี้ขายใกล้หมดเเล้วด้วยนะคะ ถนนตรงนี้จะกว้าง 12 เมตร นอกจากจอดในบ้านแล้ว อาจจะจอดแปะหน้าบ้านได้ฝั่งละคันนะคะ รถถึงจะสามารถสวนเข้า-ออกได้ ถ้ามีบ้านไหนจอดเฉียงๆปุ๊ป คันอื่นที่เข้า-ออกก็จะเริ่มลำบากแล้วค่ะ เรื่องที่จอดรถเนี่ย ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคิดแบบใจเขาใจเรานะคะ

ถัดจากถนนเส้นหลักเข้ามาจะเป็นแบบบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้นทั้งหมด พอเข้าไปลึกขึ้น ก็จะได้ความสงบเหมาะกับการพักอาศัยมากขึ้นกว่ากลุ่มทาวน์โฮม 3.5 ชั้นที่อยู่ใกล้กับทางเข้านะคะ ถนนหน้าบ้านก็จะมีขนาดเล็กลง 9-10 เมตรค่ะ โซนที่อยู่ด้านในนี้นอกจากจะมีข้อดีที่ได้ความสงบแล้ว ก็จะดีที่อยู่ใกล้สวนที่อยู่กลางโครงการค่ะ แต่การเข้า-ออกก็อาจจะไกลหน่อยนะคะ และถ้าสังเกตการวางผังของโครงการนี้ดู จะเห็นได้ว่าหน้าบ้านส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือหรือใต้ ซึ่งจะมีข้อดีที่รับลมได้มากขึ้น การระบายอากาศภายในบ้านก็ดีขึ้นด้วยค่ะ

มาดูโครงการจริงกันเลยดีกว่า ด้านหน้าเลยจะเป็นโฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง Type SH-A กับ SH-B (แตกต่างกันที่ความลึกของอาคาร) ด้านหน้าอาคารทำเป็นหน้าร้านได้ เหมาะกับการทำมาค้าขาย (บ้านคนจีนน่าจะชอบอาคารแบบนี้นะคะ)

เข้ามาจากถนนใหญ่จะเจอกับอาคารโซนแรกนี้ก่อน ใครที่จะมายังโซนด้านหน้าก็เลือกเลี้ยวขวาหรือซ้ายได้เลย ไม่ต้องแลกบัตรเข้าโครงการค่ะ

หันมาฝั่งขวาจะเป็นบ้าน Type SH-A หน้ากว้าง 4.25 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.ค่ะ โซนด้านหน้านี้ราคาจะเริ่มต้นที่ 8.9 ล้านบาท เป็นราคาโปรโมชันค่ะ

แบบบ้านที่อยู่ด้านหน้าจะไม่มีที่จอดรถนะคะ จอดได้ที่ถนนด้านหน้าเลย ตัวถนนจะกว้าง 9 เมตร

มาที่ฝั่งซ้ายกันบ้าง โซนนี้จะเป็นแบบ Type SH-B หน้ากว้างจะเท่ากันกับอีกฝั่งนะคะ 4.25 เมตร แต่จะมีความลึกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นค่ะ เป็น 283 ตร.ม. ตัวอาคารจะดีไซน์แบบ Modern เน้นกระจกเปิดเต็มความกว้างและความสูง แต่เลือกใช้กระจกเขียวตัดแสง เพื่อกรองความร้อนไม่ให้เข้าไปภายในบ้านมากเกิน

ถัดเข้าไปโซนด้านในจะมีซุ้มประตูทางเข้าอยู่ค่ะ เข้าซ้าย ออกขวา มีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง

ลูกบ้านจะมี Key Card ไว้ใช้เข้า-ออก ส่วนผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตร และต้องประทับตราบ้านหรือสำนักงานที่มาติดต่อก่อนออกนะคะ

บริเวณทางเข้ามีหลังคาปกคลุมอยู่ ช่วยให้เวลาเเลกบัตรต่างๆสะดวกขึ้น ฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเปียก (ถึงฝนสาดก็จะไม่หนักมากจนเปียกโชกไปทั้งตัวเมื่อเปิดกระจก)

ด้านข้างมีทางเดินเล็กๆไว้ให้คนที่เดินเท้าเข้า-ออกโครงการนะคะ

เข้ามาด้านใน ถนนตรงนี้จะกว้าง 12 เมตร สองฝั่งจะเป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้นค่ะ ส่วนใหญ่ซื้อไปทำเป็นโฮมออฟฟิศกัน

ตามกฏหมายจะต้องเว้นระยะไว้ เพื่อการดับเพลิงส่วนหนึ่ง และก็จะได้ประโยชน์เรื่องการกลับรถเข้า-ออกโครงการด้วย ถ้าเห็นใจกันไม่ควรจอดรถตรงนี้นะคะ

ส่วนโซนที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นจะอยู่ถัดเข้าไปอีกซอยค่ะ ถนนตรงนี้ยังกว้าง 12 เมตรอยู่ (จอดรถสองฝั่งได้อยู่นะคะ) ด้านข้างอาคารถึงแม้จะเป็นยูนิตริมแต่ก็ไม่ได้ออกแบบให้มีช่องเปิดเยอะ อาคารอาจจะดูทึบไปบ้าง แต่การใช้งานภายในบ้านก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น (หน้าต่างด้านข้างก็ไปมีที่ชั้น 3 ของบ้านเลย

ข้างบ้านฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่จะมีรั้วเตี้ย และมีแนวไม้พุ่มปลูกไว้ให้ค่ะ สร้างความร่มรื่นให้รอบๆบ้านได้บ้าง

ส่วนถนนหน้าโซนที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นจะกว้าง 9 เมตร ถือว่าเข้า-ออกซอยย่อย วิ่งสวนกันได้สะดวกนะคะ แต่ถ้าจะถอยรถวนรถอาจจะต้องใช้พื้นที่จอดรถในบ้านเราช่วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ 1 จุด 0-2-11 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 26 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.6 ม.
  • Key Card Access ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9-10 ม.


Product Walkthrough

ในโครงการ City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์  จะมีแบบที่เป็นโฮมออฟฟิศและทาวน์โฮมที่สามารถทำเป็นโฮมออฟฟิศได้หมดรวม 175 ยูนิต แบ่งเป็นแบบบ้านทั้งหมด 7 แบบเลย เป็นโฮมออฟฟิศ 2 แบบ และทาวน์โฮมอีก 5 แบบ ทั้งหมดขายเป็นแบบ Fully Fitted โครงสร้างก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูน ทำให้สามารถทุบต่อเติมให้เหมาะกับฟังก์ชันที่แตกต่างได้สะดวกขึ้น

HOME OFFICE  ทั้ง 2 แบบมีหน้ากว้างที่เท่ากัน แต่ความลึกแตกต่าง ทำให้การจัดฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยต่างกันค่ะ 

  • Type SH-A สูง 3 ชั้นครึ่ง ที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. หน้ากว้าง 4.25 เมตร ลึก 16.81-18.50 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องทำงาน 1 ห้องอเนกประสงค์
  • Type SH-B สูง 3 ชั้นครึ่ง ที่ดินเริ่มต้น 23 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 283 ตร.ม. หน้ากว้าง 4.25 เมตร ลึก 21 เมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องทำงาน 1 ห้องอเนกประสงค์

TOWNHOME มี 5 แบบ ตำแหน่งของฟังก์ชันต่างๆของทุกแบบจะเหมือนกัน (แบบ 3 ชั้นครึ่งจะมีชั้นลอยเพิ่มขึ้นมา) แต่จะมีความแตกต่างกันที่หน้ากว้างของบ้านและความลึก ซึ่งมีผลกับการจอดรถ  และขนาดพื้นที่ใช้สอยค่ะ

  • Type M1 สูง 3 ชั้นครึ่ง ที่ดินเริ่มต้น 22 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 261 ตรม. หน้ากว้าง 5.40 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Type M2 สูง 3 ชั้นครึ่ง ที่ดินเริ่มต้น 21 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 244 ตรม. หน้ากว้าง 5.00 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Type M3 สูง 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 21 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 212 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.40 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
  • Type M4 สูง 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 19 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.00 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
  • Type CM สูง 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม. หน้ากว้าง 4.50 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 1 คัน

ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูแบบบ้าน 2 แบบ เป็นทาวน์โฮมทั้งคู่เลย เป็นแบบ M1 และ M4 นะคะ โดยจะขอพาไปดูแบบหลักเล็กก่อน (ที่ก็ไม่เล็กเลย พื้นที่ใช้สอยเกือบ 200 ตร.ม.แล้ว) ในบ้านตัวอย่างจะมีบรรยากาศอย่างไร และภายในใช้วัสดุอย่างไร เราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

TOWNHOME 3 ชั้น Type M4

เริ่มที่แบบ M4 นะคะ บ้านนี้จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้นขนาด 19 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.00 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ที่ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถ 2 คันอยู่หน้าบ้าน ส่วนภายในบ้านจะเป็น Common Area ที่เป็นพื้นที่โล่งต่อเนื่องไปตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน สามารถปรับฟังก์ชันได้ตามผู้อยู่อาศัยค่ะ มีพื้นที่หลังบ้านไว้ให้สำหรับทำเป็นครัวหรือพื้นที่ซักล้าง ส่วนห้องน้ำที่ชั้นนี้จะอยู่ใต้บันไดค่ะ เป็น Powder Room คือจะไม่มีพื้นที่อาบน้ำนั่นเอง แบบบ้านของโครงการนี้ต้องบอกเลยว่าจะไม่มีห้องครัวที่กั้นไว้ให้นะคะ แต่จะมีท่อน้ำเดินไว้ให้ที่หลังบ้าน ซึ่งภายในบ้านจะไม่มีงานระบบสำหรับครัวไว้ให้ ซึ่งถ้าใครอยากที่จะมีครัวปิดมิดชิดภายในตัวบ้านก็สามารถทำได้แต่อาจจะต้องกั้นผนังและเดินระบบไฟฟ้าและระบบประปาเพิ่มเติมเองในภายหลังค่ะ

ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 จะเป็นส่วนพักอาศัย โดยชั้น 2 จะถูกจัดเป็นห้อง Master Bedroom เอาไว้ทั้งชั้นเลย มีขนาดใหญ่สามารถจัดเป็นเหมือน Penthouse ได้เลย วางเตียงนอน มุมทำงาน มุมนั่งเล่นพักผ่อน Walk-in Closet และห้องน้ำภายในตัว ส่วนชั้น 3 จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง มีห้องน้ำในตัวทั้งสองห้อง ขนาดห้องก็ถือว่าอยู่อาศัยสบายๆ 1-2 คนต่อห้องเลย

มาดูที่หน้าตาอาคารกันก่อนค่ะ ตัวบ้านจะดีไซน์แบบ Modern เน้นสีขาว เทา น้ำตาล เป็นหลัก เน้นเส้นแนวตั้งทำให้ตัวบ้านดูสูง ทั้งระแนงแนวตั้ง และดีไซน์ของหน้าต่างกระจกที่เลือกใช้จะเป็นทรงสูง

บ้าน Type M4 นี้จะมีหน้ากว้างของบ้าน 5 เมตร ระยะห่างระหว่างผนังด้านในจะอยู่ที่ 4.85 เมตรโดยประมาณลึก 4.85 เมตรเช่นกัน พื้นที่จอดรถจะปูกระเบื้องให้ ดูเรียบร้อยสวยงามค่ะ โครงสร้างที่จอดรถนี้จะเป็น Slab on Ground สามารถจอดรถได้ 2 คัน ถ้าเป็น Eco Car ก็จะจอดได้สบายๆหน่อย แต่ถ้าบ้านไหนมีรถใหญ่ ก็อาจจะจอดคันเดียวสบายๆ เปิดประตูรถได้สะดวกนะคะ แต่ความลึกของรถอาจจะกินเข้าไปตรงชานพักบันไดหน้าบ้านหน่อยถึงจะปิดประตูรั้วได้ค่ะ ส่วนประตูรั้วจะเป็นบานเฟี้ยมเปิดได้สุด 2 ฝั่ง ดีไซน์โปร่งวัสดุเป็นเหล็กกล่องค่ะ

หน้าบ้านจะมีไฟส่องสว่างให้ติดอยู่ตรงกริ่งบ้าน และมีตู้จดหมายให้มา

บริเวณที่จอดรถจะมีหัวก๊อกสำหรับซักล้างเอาไว้ เผื่อทำความสะอาดพื้นหน้าบ้านหรือล้างรถก็ทำได้สะดวก ระหว่างโครงสร้างพื้นที่จอดรถกับผนังบ้างจะแยกโครงสร้างออกจากกัน รอยต่อโรยด้วยหินล้างเพิ่มความสวยงาม

ที่จอดรถจะมีส่วนหนึ่งจอดอยู่ใต้บ้านแต่ก็จะมีอีกส่วนที่อยู่กลางแจ้งค่ะ ใครอยากได้ที่จอดรถร่มๆก็อาจจะต้องต่อเติมกันสาดหรือหลังคาด้านหน้าเพิ่มเอาเองทีหลังนะคะ

ประตูบ้านจะเป็นบานเลื่อนคู่ เปิดได้สองฝั่ง กระจกเขียวตัดแสงและกรอบบานอลูมิเนียมสีดำ เปิดสุดจะกว้าง 1.65 เมตร ขนเฟอร์นิเจอร์เข้า-ออกได้สะดวกอยู่ค่ะ และเนื่องจากตัวบ้านจะมีฝ้าเพดานค่อนข้างสูง 2.75 เมตร ประตูทางเข้าเลยออกแบบให้มีลูกฟักกระจกด้านบนบานเปิดเลื่อนอีกที ทำให้แสงสว่างสามารถเข้าไปยังตัวบ้านได้มากขึ้นด้วย

ก่อนเข้าบ้านจะมีชานพักกว้าง 2.85×0.50 ซม.เอาไว้ให้ ทำชั้นวางรองเท้าวางไว้มุมซ้าย-ขวา หน้าบ้านได้ค่ะ ใครกลัวของหายก็อาจจะทำตู้หรือชั้นวางของแบบที่สามารถล็อคได้ก็ดีค่ะ

เข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โล่งต่อเนื่องจากหน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยค่ะ พื้นที่ส่วนนี้สูง 2.75 เมตร ในบ้านมาตรฐานจะให้พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบมาให้ ไฟจะได้เป็นดาวน์ไลท์ค่ะ

เข้ามาในบ้านตัวอย่าง ส่วนแรกจะจัดเป็นห้องนั่งเล่น หน้ากว้างบ้านอยู่ที่ 4.75 เมตร ลึก 3.65 เมตร จากทั้งหมด 8 เมตร (ความลึกของตัวบ้านชั้น 1)

จัดวางโซฟา 3 ที่นั่งได้สบายๆ เลือกโซฟารูปตัว L หรือจะจัดเป็นชุดโซฟา 4-5 ที่นั่งได้เลยค่ะ หน้ากว้างบ้านก็กว้างใช้ได้ เราจะทำ Built-in ตู้เก็บของเต็มผนังด้านหลังเลยก็ได้ และขยับโซฟามาหน่อย ทางเดินระหว่างหลังโซฟากับชั้นวางของก็ยังทำได้ พอพื้นที่หน้ากว้างมาก จะจัดแบบไหนก็ค่อนข้างง่ายเลยค่ะ

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนรับประทานอาหารอยู่หน้าประตูห้องน้ำชั้น 1 พอดี ตรงนี้จะมีความกว้างลดลงมาอยู่ที่ 3 เมตร ซึ่งถือว่ากว้างอยู่นะคะ จัดโต๊ะทานอาหาร 4-6 ที่ได้สบายๆ

บริเวณประตูห้องน้ำจะเป็นผนังสีขาวนะคะ จะมีพื้นที่เว้าเข้าไป (ในบ้านตัวอย่างจะ Built-in เป็นชั้นวางของอยู่ เราจะทำเป็นชั้นวางก็ได้นะคะ เผื่อวางของกระจุกกระจิกเช่น กุญแจบ้าน กุญแจรถ เอกสารต่างๆที่ได้รับมาจากตู้จดหมายเป็นต้น

ภายในห้องน้ำจะเป็น Powder Room คือมีแค่อ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์ วางอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ภายในห้องน้ำจะกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งพื้นและผนังเลย ลายและสีตามที่เห็นเลยค่ะ อ่างล้างมือจะเป็นแบบแขวนผนังของ American Standard มีผนัง Low Wall ด้านหลัง วางของตกแต่ง สบู่ล้างมือต่างๆในห้องน้ำได้ กระจกเงาถ้าใครว่าเล็กไปจะเปลี่ยนเองทีหลังก็ได้นะคะ ห้องนี้จะไม่มีพัดลมระบายอากาศให้มานะคะ (เปิดประตูระบายอากาศเอาเอง)

โถสุขภัณฑ์จะเป็นของ American Standard เช่นกัน มีอุปกรณ์ใส่กระดาษชำระกับสายฉีดชำระให้มาด้านข้าง

ภายในห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นชั้น 1 เวลาทำความสะอาด ล้างห้องน้ำก็ทำได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวฝุ่น ผง น้ำไหลเลอะเทอะออกไปด้านนอกค่ะ

ก่อนที่จะไปยังหลังบ้านจะมีพื้นที่ส่วนหน้าบันไดอยู่ค่ะ ตรงนี้ทำเป็นไอเดียให้ดูเผื่อใครอยากที่จะต่อเติมครัวในบ้านนะคะ เราสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์แบบนี้ได้ หรือจะกั้นห้องให้เป็นครัวปิดก็ได้เลย มีหน้าต่างเอาไว้ระบายอากาศและกลิ่นให้ตรงนี้

ส่วนหลังบ้านจะมีขนาดประมาณ 1.8 เมตรค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้อง ผนังด้านหลังจะก่อให้สูง 2.6 เมตร เผื่อใครที่ต่อเติมหลังคาบ้านก็ทำหลังคาไปฝากยังผนังนี้ได้ (แต่ผนังนี้ใช้ร่วมกับบ้านด้านหลังนะคะ ต้องเช็คเรื่องรางน้ำฝนดีๆ)

หลังบ้านจะเดินท่อประปาไว้ให้ค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่ซักล้างได้

ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดจะอยู่ที่ตำแหน่งหลังบ้านพอดี ทำให้มีหน้าต่างเล็กๆบริเวณชานพักที่เป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศได้ด้วย โครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนเป็นไม้คอนวูดค่ะ ความกว้างของบันไดอยู่ที่ 1.15 เมตร จัดว่ากว้างเลยนะคะ เดินสบาย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอทางเข้า Master Bedroom อยู่ทางขวามือ

ห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องโล่งกินพื้นที่เกือบทั้งชั้นเลยค่ะ จากประตูทางเข้าไปยังหน้าบ้านลึก 6 เมตร ห้องหน้ากว้าง 4.8 เมตร สูง 2.75 เมตรค่ะ ทั้งโล่งทั้งโปร่งเลย จะจัดฟังก์ชันอะไรก็ได้เลยค่ะ สำหรับชั้นที่เป็นส่วนพักอาศัยวัสดุรวมๆจะเหมือนกันกับชั้น 1 นะคะ ยกเว้นพื้นห้องที่จะเปลี่ยนจากกระเบื้องแกรนิตโต้เป็นลามิเนต 12 มม.

หน้าต่างที่อยู่ด้านหน้าบ้านจะเป็นทรงสูง แต่ไม่จรดพื้น มีผนังก่อเล็กน้อย จะมีส่วนที่เปิดไปเจอระเบียงกับส่วนที่เป็นหน้าต่างเข้ามุม หน้าต่างเข้ามุมนี้จะช่วยทำให้ห้องนี้ดูมีมุมมองออกไปภายนอกที่กว้างมากขึ้น และชุดหน้าต่างเข้ามุมนี้สูงเกือบสุดฝ้าเพดานเลย ทำให้ภายในห้อง แสงสามารถเข้ามาได้เต็มที่ค่ะ

ส่วนระเบียงของห้องนี้จะไม่เป็นระเบียงสำหรับเดินออกไปใช้งานนะคะ เหมาะกับการวาง CDU แอร์มากกว่า พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 1.8×0.6 เมตร

ห้องลึก 6 เมตร สามารถจัดมุมทำงานเพิ่มในห้องได้สบายเลยค่ะ หรือจะจัดโซฟาวางไว้ปลายเตียงเพิ่มได้ เอาไว้เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวภายในห้องนอน

เตียงนอนสามารถเลือกขนาดใหญ่สุดมาวางได้เลย

เข้าไปด้านในทางขวามือจะเป็นช่องโล่งก่อนไปยังห้องน้ำนะคะ (ในบ้านตัวอย่างจะต่อเติมผนังเพิ่มมาเพื่อกั้นส่วน Walk-in Closet แยกให้เป็นสัดส่วน)

ถ้าพื้นที่เก็บเสื้อผ้าไม่พอจะทำ Built-in ต่อเนื่องออกมาก็ได้ค่ะ เเล้วแต่ปริมาณข้าวของของแต่ละคนเลย

อย่างพื้นที่หน้าห้องน้ำจะมีขนาดประมาณ 2×3 เมตร ทำตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่งเต็มเลยก็ได้ค่ะ เหลือทางเดินประมาณ 90 ซม. เดินเข้า-ออกห้องน้ำได้สบายอยู่นะคะ

แต่ถ้าเราจะทำให้มีโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ตรงนี้ด้วย เวลามีคนนั่งใช้งานก็อาจจะกินทางเดินไป ทางที่ดีเเนะนำให้วางมุมโต๊ะเครื่องแป้งรวมไว้บริเวณส่วนห้องนอนดีกว่า พื้นที่ส่วนนั้นขนาดใหญ่กว่าค่ะ และได้แสงธรรมชาติมากกว่าด้วย แต่งหน้าอะไรก็สะดวกกว่า สวยกว่า

เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำค่ะ

พื้นที่ห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ ทางขวามือจะเป็นอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ด้านใน ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่อาบน้ำ

พื้นและผนังจะกรุกระเบื้องเซรามิคลวดลายตามที่เห็นเลยค่ะ ภายในห้องน้ำความสูงจะลดลงมาเหลือ 2.4 เมตร ไม่มีฉากกั้นกระจกให้มานะคะ แต่จะมี Junction Box ไว้ให้ ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งเองได้ค่ะ ชุดสุขภัณฑ์ต่างๆจะได้ของ American Standard ค่ะ มีช่องวางของตามที่เห็นเลย

พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาด 1×0.90 เมตร ถือว่าหมุนตัวสะดวกค่ะ แต่ถ้าติดตั้งประตูบานเปิดเข้าก็อาจจะต้องยืนหลบมุมเวลาเปิดประตูหน่อยนะคะ ลองหาบานเลื่อน 3 ตอนมาติดตั้งอาจจะสะดวกกว่า

ฝักบัวได้เป็นมือจับสเตนเลสหน้าตาแบบนี้ค่ะ มีที่วางสบู่ให้มาในชุดฝักบัว ถ้าใครวางไม่พอก็อาจจะต้องหาชั้นมาวางเพิ่มเอาทีหลังนะคะ

ไปชั้น 3 กันต่อค่ะ ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 ที่ทางเดินข้างบันไดชั้น 2 จะกว้าง 1.35 เมตรเลย เราสามารถวางชั้นวางของข้างกำแพงบริเวณนี้ได้ เป็นชั้นวางหนังสือหรือตู้โชว์เก็บของสะสมได้ค่ะ

บันไดขึ้นชั้น 3 จะเป็นโครงสร้างและวัสดุเหมือนเดิม มีหน้าต่างอยู่ทางหลังบ้าน บันไดตรงนี้จะมีขั้น 3 เหลี่ยมอยู่ตรงส่วนที่หักมุม วิ่งขึ้นลงต้องระมัดระวังกันหน่อยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีอยู่ 2 ห้องนอน ด้านหน้าและด้านหลัง บริเวณโถงหน้าห้องจะมีพื้นที่ 1.8×2.3 เมตร ถือว่ากว้างอยู่เลยค่ะ มีพื้นที่ทำชั้นวางของเหมือนกับบ้านตัวอย่างเลย หรือจะหาภาพมาแขวนตกแต่งก็ได้นะคะ

มาดูที่ห้องด้านหลังกันก่อน ห้องนี้จะมีขนาด 3.6×2.95 เมตร สูง 2.8 เมตร มีหน้าต่างอยู่บานนึงด้านหลังทรงสูง แต่จะไม่เปิดเต็มความกว้างของห้อง

หน้าต่างไม่ใหญ่มากก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะห้องนอนอาจจะไม่ต้องการเเสงสว่างที่มากเกินไปจนความร้อนและความสว่างรบกวนการพักผ่อน ด้วยขนาดห้องเราจะวางเตียงใหญ่เลยก็ได้ และจัดผนังส่วนปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของหรือมุมทำงาน โต๊ะเครื่องเเป้งก็ได้ หันหัวเตียงได้สองฝั่งแล้วแต่ความชอบเลย

มองออกไปนอกหน้าต่างจะเจอกับระเบียงที่กว้างเต็มความกว้างห้อง เป็นระเบียง Service วาง CDU หรือจะหาไม้กระถางมาปลูก เพิ่มมุมมองสีเขียวจากในห้องนอนก็ได้ค่ะ ส่วนนี้ไม่ได้เป็นระเบียงใช้งานเท่าไหร่ เพราะไม่มีประตูเดินออกไป ตรงนี้มีขนาด 3.6×0.90 เมตร

ภายในห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำส่วนตัวด้วย เนื่องจากบ้านตัวอย่างที่ไปดูจะเป็นหลังมุมเลยจะมีหน้าต่างภายในห้องน้ำนะคะ แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างค่ะ

พื้นที่ภายในจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ ชนิดสุขภัณฑ์และวัสดุด่างๆเหมือนเดิมค่ะ

พื้นที่อาบน้ำห้องนี้จะกว้างขึ้นหน่อยอยู่ที่ 1.35×0.80 เมตร มีระยะถอยหลัง ในกรณีที่ใครติดตั้งเปิดประตูบานเปิดสวิงเพิ่มเป็นฉากกั้นอาบน้ำก็มีพื้นที่ยืนหลบบานสวิงประตูได้

มาดูที่ห้องสุดท้ายกันนะคะ เป็นห้องที่อยู่หน้าบ้าน ห้องนี้มีการจัดห้องตัวอย่างที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ

เนื่องจากหลังคาบ้านจะเป็น Slope ลาดจากหน้าบ้านไปยังหลังบ้าน ห้องตัวอย่างนี้เลยทำฝ้าเพดานใหม่ให้ดู ซึ่งทำให้ความสูงห้องสูงถึง 3.95 เมตรเลย ต่อเติมใหม่เป็นห้องแบบ Loft ไปเลยค่ะ นั่งเล่นทำงานชั้นล่าง เดินขึ้นไปนอนที่ชั้นบนเลย

ห้องนอนนี้จะมีความพิเศษกว่าห้องอื่นๆตรงที่มีทั้งระเบียงและหน้าต่างให้มา

ระเบียงของห้องนี้จะมีขนาด 2.95×0.75 ส่วนนี้สามารถออกไปยืนใช้งานได้ค่ะ

ในบ้านมาตรฐานส่วนนี้จะมีความกว้าง 3 เมตร วางเตียงได้ถึง 6 ฟุตเลยค่ะ จะหันหัวเตียงไปผนังฝั่งที่ติดกับข้างบ้านหรือจะหันไปฝั่งห้องน้ำก็ได้นะคะ

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งจะลึกจากหน้าบ้านไปถึงประตูเข้าห้อง 4.5 เมตร ทำเป็นมุมทำงาน วางตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังเลยค่ะ

ไหนๆห้องนี้ก็ลองจัดเป็นแบบ Loft มาให้ดูแล้ว เราลองเดินขึ้นไปดูด้านบนส่วนที่เป็นเตียงนอนดีกว่า

พื้นที่ด้านบนสามารถวางฟูกลงพื้นได้เลย ดูเป็นพื้นที่ส่วนตัวสุดๆ

มาดูที่ห้องน้ำของห้องนี้กันค่ะ ในบ้านแปลงกลางจะไม่มีกระจกให้นะคะ

เข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าซ้ายมือ ตรงกับประตูห้องน้ำจะเป็นโถสุขภัณฑ์ มุมด้านในจะเป็นห้องอาบน้ำค่ะ

วัสดุ สุขภัณฑ์ได้ตามนี้หมดเลย พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาด 0.85×1 เมตร ถ้าจะติดตั้งฉากกั้นกระจกเเนะนำให้เป็นบานเลื่อนค่ะ เปิดช่องเดินเข้าตรงมุม ไม่งั้นจะเดินเข้า-ออกลำบาก

TOWNHOME 3.5 ชั้น Type M1

มาต่อกันที่บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 ที่เราจะพาไปรีวิวกัน แบบนี้จะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง Type M1 ค่ะ แปลนจะคล้ายๆกับแบบแรกที่เราไปดูกัน แต่จะมีชั้นลอยเพิ่มขึ้นมา ทำให้เนื้อที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเป็น 261 ตร.ม.ค่ะ และมีหน้าบ้านที่กว้างขึ้นด้วยเป็น 5.4 เมตร และบริเวณทางเข้าของชั้น 1 จะมีพื้นที่แบบ Double Volume ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูแปลกตาออกไปจากทาวน์โฮมที่เคยเห็นกัน บ้านจริงจะเป็นอย่างไร เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

ก่อนจะเข้าไปภายในตัวบ้านมาดูหน้าบ้านกันก่อนนะคะ การออกแบบจะคล้ายๆเดิม แต่พอเป็นบ้านแบบ 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ทางเข้าบ้านเลยมีการออกแบบให้สูงขึ้นไปอีกค่ะ

ที่จอดรถยังปูกระเบื้องให้มาเหมือนเดิม ขนาดที่จอดรถจะเคลียร์ระยะด้านในประมาณ 5.25×5.25 เมตร ถือว่าจอดรถได้ 2 คันค่ะ ส่วนประตูรั้วจะเป็นบ้านเฟี้ยมเหล็กเหมือนเดิม มีกริ่งหน้าบ้าน ไฟผนังด้านบนกริ่งและตู้จดหมายให้มา

พื้นที่ตรงนี้จะสูงไปเลยค่ะ ประมาณ 6 เมตร ด้านบนจะมีไฟดาวน์ไลท์ติดมาให้ แต่สูงขนาดนี้ เวลาจอดรถ แดดและฝนสาดเข้ามาได้เยอะหน่อย ติดหลังคาที่จอดรถเพิ่มก็ได้ แนะนำให้แยกโครงสร้างออกจากอาคารเลยค่ะ

เนื่องจากด้านในบ้านจะมีความสูงแบบ Double Space ประตูทางเข้าบ้านเลยออกแบบเป็นชุดประตูหน้าต่างที่มีช่องเเสงอยู่ด้านบนด้วย ทำให้สัดส่วนของทางเข้าดูไม่เล็กเกินไป และพื้นที่ภายในได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งขึ้นด้วย

ก่อนจะเข้าบ้านจะมีชานพักอยู่ขั้นนึงยาวเต็มหน้ากว้างบ้าน ลึก 50 ซม.ค่ะ

เข้ามาในบ้านเราจะเจอกับพื้นที่ที่สูงแบบ Double Space ก่อนเลยค่ะ มองขึ้นไปเห็นชั้นลอย พื้นที่ชั้นลอยจะเป็นพื้นที่ปิด มีหน้าต่างที่สามารถเปิดเชื่อมต่อพื้นที่ได้ แต่ก็สามารถปิดแยกสัดส่วนได้เช่นกันค่ะ ดูแปลกตาดี

ส่วนที่เป็น Double Volume จะสูง 5.75 เมตรเลย เเสงจากหน้าบ้านก็เข้ามาได้เต็มที่เพราะมีช่องเเสงค่อนข้างเยอะ แต่แดดจะไม่ส่องมากเกินไป เนื่องจากพื้นที่จอดรถจะมีพื้นของชั้น 2 ที่ยื่นออกไปจากเเนวประตูทางเข้านี้ ซึ่งช่วยบังแดดมายังในตัวบ้านได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ส่วนนี้มีหน้ากว้าง 5.3 เมตร ในกรณีที่ทำเป็นโฮมออฟฟิศก็สามารถจัดเป็นมุมต้อนรับได้ ก่อนที่จะเข้าไปยังส่วนทำงานที่อยู่ด้านใน

แต่ถ้าเป็นบ้านพักอาศัยก็เป็นมุมห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกได้เลยค่ะ พื้นที่กว้างขวาง เดินเข้า-ออกได้สบาย

ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ขนาดประมาณ 3.3×4.8 เมตรค่ะ สามารถจัดเป็นห้องครัว , Pantry และโต๊ะทานอาหารได้ ด้านหลังจะมีประตูออกไปยังหลังบ้าน และหน้าต่างระบายอากาศค่ะ

กะจากขนาดในบ้านตัวอย่างเเล้วสามารถทำเป็นครัวปิดได้สบาย จะก่อเคาน์เตอร์สองฝั่งแบบนี้ก็ได้ หรือจะทำเคาน์เตอร์เป็นตัว L ชิดผนังก็ได้เหมือนกันค่ะ

ด้านข้างจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำที่อยู่ตำแหน่งใต้บันไดพอดี

ห้องน้ำจะเป็น Powder room มีทางเดินตรงกลาง สุขภัณฑ์จะวางฝั่งตรงข้ามกัน

หน้าตาของสุขภัณฑ์และกระเบื้องจะได้ตามนี้ทั้งหมดนะคะ เป็นของ American Standard มีเพียงแค่กระจกที่ขนาดจะไม่ใช่แบบนี้และไม่มีไฟซ่อนไว้หลังกระจก (ได้แบบที่เห็นในบ้านหลังแรกที่พาไปชมค่ะ)

เดี๋ยวเราจะพาไปดูหลังบ้านกันค่ะ บ้านตัวอย่างนี้จะต่อเติมพื้นที่หลังบ้านออกไป แต่ในบ้านจริงจะเป็นแค่พื้นกระเบื้องให้มานะคะ

หลังบ้านจะกว้างประมาณ 2 เมตร ในกรณีที่เราก่อเคาน์เตอร์ทำเป็นครัวเพิ่มเติมก็จะเหลือทางเดิน 1.2 เมตรพอดี

พื้นหลังบ้านจะเป็นโครงสร้าง Slab on ground นะคะ สามารถจัดเป็นครัวและพื้นที่ซักล้างได้

ก่อนที่จะขึ้นไปที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่ข้างบันไดอยู่ที่ประมาณ 2.15×0.40 เมตร ทำเป็น Built-in ชั้นวางของได้นะคะ ส่วนตัวบันไดจะติดกับพื้นที่หลังบ้าน ทำให้มีหน้าต่างเป็นช่องเเสงเเละช่วยระบายอากาศบริเวณบันไดนี้ได้ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นลอยกันต่อ ที่ชั้นลอยจะมีราวกันตกกั้นไว้ให้ ส่วนพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนชั้นล่าง

ฝั่งที่อยู่ด้านหน้าจะเป็นชุดกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้แสงสว่างจากหน้าบ้านยังสามารถส่องเข้ามายังพื้นที่ใช้สอยที่ชั้นลอยนี้ได้ค่ะ เราจะเปิดหน้าต่างทักทาย Say hi! คนที่อยู่ชั้นล่างก้ได้เหมือนกัน

พื้นที่ตรงนี้จะมีความสูงอยู่ที่ 2.55 เมตร ซึ่งไม่เตี้ยเลยนะคะ ขนาดพื้นที่จะอยู่ที่ 4×6 เมตร

ใครที่ทำเป็น Home Office จะกั้นห้องก็ได้เหมือนกัน หรือจะจัดเป็นโต๊ะทำงาน มุมพักผ่อนก็ได้ตามใจชอบเลย

แต่บริเวณบันไดจะดีไซน์โปร่งนะคะ มีแต่ราวกันตกมาให้ ไม่ได้มีแผงระเเนงแบบในบ้านตัวอย่างค่ะ

โครงสร้างและวัสดุบันไดจะเหมือนเดิมนะคะ เดี๋ยวเราขึ้นไปที่ชั้น 2 กันต่อเลยดีกว่า ขนาดบันไดจะกว้าง 1 เมตร

ขึ้นมาที่ชั้นนี้ การจัดพื้นที่เหมือนกันกับหลังที่แล้วเลย ทั้งชั้นจะถูกออกแบบเป็นห้อง Master Bedroom ทางเดินข้างบันไดหน้าห้องสามารถทำเป็นชั้นวางของ ชั้นหนังสือ ตกแต่งบริเวณผนังได้เต็มที่ ทางเดินข้างบันไดนี้จะกว้าง 1.25 เมตร

ห้องนอนจะกินความกว้างของทั้งชั้นไปเลย ขนาดพื้นที่ 5.3 x 6 เมตร ถือว่ากว้างมากเลยและมีความสูง 2.75 เมตรค่ะ

ส่วนที่ติดกับหน้าบ้านจะมีหน้าต่างเป็นชุดกระจกเข้ามุมให้แบบนี้ ชุดหน้าต่างตรงระเบียงจะไม่สูงสุดเพดานซะทีเดียว ทำให้พอมีพื้นที่ติดแอร์บริเวณผนังได้อยู่

มีส่วนที่เป็นระเบียงสำหรับวาง CDU ของแอร์เหมือนกับหลังที่แล้ว ด้านหน้าจะมีแผงกันแดดเเนวตั้งอยู่ ช่วยพรางความไม่สวยงามของ CDU ทำให้ดูบ้านเรียบร้อยมากขึ้นเมื่อมองจากหน้าอาคาร

บริเวณกระจกเข้ามุมจะมีพื้นที่ 3.1×0.7 เมตร วางโต๊ะยาวโปร่งได้นะคะ หรือจะจัดโซฟาวางได้บรรยากาศเป็นเหมือน Bay window ของบ้านยุโรปที่คนมักจะนั่งริมหน้าต่างอาบไอแดดกัน (เค้าบ้านเมืองหนาวนะ ทำได้ แต่ถ้าเราจะทำก็อาจจะนั่งอาบแสงจันทร์แทนแล้วกันค่ะ)

ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างเลยจะวางเตียงขนาดไหนก็ทำได้

เรามองว่าถ้าจะทำเป็นโฮมออฟฟิศ พื้นที่ชั้นนี้ก็สามารถปรับให้กลายเป็นห้องทำงานทั้งชั้นเลยก็ได้ค่ะ

เหมือนกันกับ Master Bedroom ของบ้าน 3 ชั้นค่ะ คือตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ด้านหลังบ้าน ก่อนจะไปถึงห้องน้ำจะมีพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk-in Closet ได้ สำหรับใครที่อยากทำเป็น Home Office ที่ชั้นนี้ ส่วนนี้อาจจะจัดเป็นโซนถ่ายเอกสารหรือพื้นที่เก็บของได้นะคะ

พื้นที่ส่วนนี้จะมีขนาด 2.6×3.3 เมตรเลย ซึ่งถือว่ากว้างอยู่นะคะ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ทั้ง 2 ฝั่งผนัง

เข้ามาในห้องน้ำจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา ทางฝั่งขวาจะเป็นส่วนแห้ง ซึ่งประกอบด้วย อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ฝั่งนี้จะมีพื้นที่สำหรับวางข้าวของได้ด้วย เช่นผนัง Low wall ด้านหลังอ่างล้างมือ หรือช่องที่อยู่บนกำแพงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ เราชอบนะคะ เพราะว่าในการใช้งานจริงเราจะมีข้าวของต่างๆเช่นสบู่ล้างมือ เทียนหอม หนังสือ มาวางตกแต่งได้ค่ะ และด้วยตำแหน่งของห้องน้ำที่อยู่หลังบ้าน ทำให้มีช่องแสงช่วยส่องสว่างในเวลากลางวันและช่วยระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำได้ค่ะ

ส่วนทางฝั่งซ้ายจะเป็นห้องอาบน้ำและมีช่องอยู่เป็นตำแหน่งแขวนผ้าเช็ดตัว บริเวณส่วนที่แขวนผ้าเช็ดตัวจะมีพื้นที่ว่างอยู่ สามารถวางตระกร้าซักผ้า ชั้นวางของ หรือตู้เก็บของเพิ่มได้นะคะ เผื่อใครที่อยากหาที่เก็บของใช้ หรือของที่ซื้อตุนในห้องน้ำเพิ่มเติม

ขึ้นไปดูที่ชั้น 3 เลยค่ะ บริเวณข้างบันไดจะดีไซน์เหมือนเดิม มีช่องเเสงบริเวณชานพักบันได ทำให้บริเวณทางเดินรอบบันไดดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ด้านหน้ากับด้านหลัง พื้นที่บริเวณบันได 1.85×2.5 เมตร สามารถวางชั้นวางของเล็กๆตรงนี้ได้นะคะ

ห้องด้านหลังมีขนาด 3.45×4 เมตร มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่หนึ่งบาน ความสูงของชั้นนี้อยู่ที่ 2.75 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนต ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีค่ะ

ด้วยขนาดของห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ สามารถจัดมุมตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยค่ะ

นอกหน้าต่างจะมีระเบียงอยู่แต่จะเป็นระเบียงที่ไม่มีประตูให้เดินออกไปนะคะ เหมาะกับการวาง CDU หรือวางต้นไม้กระถางได้ สร้างมุมพักผ่อน หรือพื้นที่สีเขียวเป็นมุมพักสายตาให้กับห้องนอนนี้ค่ะค่ะ

ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับหน้าต่างพอดีค่ะ

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งนะคะ ในบ้านตัวอย่างจะเป็นแปลงมุม ทำให้มีหน้าต่างอยู่ภายในห้องน้ำ แต่สำหรับแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างนะคะ

มาดูห้องนอนสุดท้ายที่อยู่ด้านหน้ากันค่ะ ห้องนี้จะมีขนาด 3.65×5.3 เมตร ถือเป็นอีกห้องที่กว้างเลยค่ะ ห้องนี้จะมีความพิเศษกว่าห้องอื่นๆคือจะมีระเบียงภายในที่สามารถเดินออกไปใช้งานได้

ความกว้างของห้องส่วนนี้จะอยู่ที่ 3.65 สามารถวางเตียงขนาดใหญ่แล้วมีพื้นที่เหลือข้างเตียงเดินเข้า-ออกได้สบาย

ระเบียงมีขนาด 3.3×0.70 เมตร พื้นเป็นกระเบื้อง ราวกันตกเหล็ก ออกไปยืนรับลมหรือมองลงไปดูว่าใครมาหาที่บ้านได้ค่ะ

ผนังอีกฝั่งที่อยู่ติดกับประตูทางเข้า ฝั่งนี้จะกว้าง 5 เมตรเลย ทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้ทั้งเเนว มุมโต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวีภายในห้องนอนก็ได้

ส่วนภายในห้องน้ำจะกรุกระเบื้องเซรามิคทั้งพื้นและผนังค่ะ ความสูงจะลดลงมาเหลือ 2.4 เมตร

เข้าไปจะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้งก่อน เข้าห้องน้ำเสร็จ ล้างมือ แล้วเดินออกนอกห้องน้ำเลย อ่างล้างมือใกล้ประตูมากที่สุด ใช้งานสะดวกดีค่ะ

พื้นที่อาบน้ำจะอยู่มุมด้านในของห้องนะคะ ลดระดับพื้นลงไปเล็กน้อย เพื่อกันน้ำจากการอาบน้ำไหลออกมาเลอะเปียกทั่วห้อง ตรงนี้จะไม่มีฉากกั้นกระจกให้ ในบ้านหลังนี้เลยติดฉากกั้นมาให้เป็นตัวอย่าง เปิดสองด้าน เดินเข้ามุมห้องพอดี แบบห้องน้ำลักษณะนี้ถ้าติดประตูบานสวิงอาจจะเปิดใช้งาน และติดตั้งยากนะคะ

แบบบ้าน M1 สูง 3 ชั้นครึ่งนี้จะมีอยู่ยูนิตนึงที่ทางโครงการจับ Type M1 สองหลังมามัดคู่ ขายรวมกันเลย เป็นยูนิตหน้าสุด เข้าโครงการมาเจอเลยค่ะ ตรงนี้จะเป็นแปลงมุม และมีลิฟต์ให้ภายในบ้าน ขนาดที่ดินแปลงนี้จะใหญ่เป็นพิเศษอยู่ที่ 82.3 ตร.วา ราคาจะอยู่ที่ 22 ล้านบาทค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 August 2019

  • โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น Type SH-A หน้ากว้าง 4.25 เมตร ที่ดิน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ห้องทำงาน / 1 ห้องอเนกประสงค์
    – ราคาโปรโมชัน 8.9 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น Type M4 หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดิน 19 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาโปรโมชัน 4.5 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น Type M1 หน้ากว้าง 5.4 เมตร ที่ดิน 21.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 261 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาโปรโมชัน 6.5 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น Type M1 (*รวม 2 ยูนิต แปลงมุมใกล้ทางเข้าโครงการ) ที่ดิน 82.3 ตร.วา (มีลิฟต์)
    – ราคาโปรโมชัน 22 ล้านบาท
    -จอง+ทำสัญญา 500,000 บาท
  • จองและทำสัญญา 30,000 บาท (ทาวน์โฮม 3 ชั้น) , จองและทำสัญญา 50,000 บาท (ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น)
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 65,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 950 บาท/เดือน/หลัง จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี (เก็บรายปี)
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลโครงการนี้จะอยู่ที่ริมถนนวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก ใกล้กับจุดตัดกับทางด่วนมอเตอร์เวย์ค่ะ ตัวโครงการจะอยู่ที่ฝั่งเดียวกันกับถนนกรุงเทพกรีฑา ทำให้ในแง่การเดินทางเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองทำได้สะดวกขึ้น ยิ่งอยู่ใกล้กับถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่หรือถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางตัดใหม่ที่เชื่อมต่อไปยังศรีนครินทร์ รามคำแหง หรือพระราม9 ได้สะดวกเลยค่ะ

ส่วนเรื่องอาหารการกินบริเวณใกล้เคียงแนะนำให้ไปยังบริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา หรือโซนหมู่บ้านนักกีฬา ตรงนั้นก็จะมีร้านอาหาร ตลาด ร้านสะดวกซื้อหรือ Hypermarket สาขาย่อยอย่าง Lotus หรืแ Big-C ตั้งอยู่ค่ะ แต่ถ้าอยากจะไปห้างใหญ่หน่อยอาจจะต้องวิ่งไปทางศรีนครินทร์แล้วเลือกไปยังโซนบางกะปิหรือโซนสวนหลวงร.9 นะคะ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นจุดที่มีห้างใหญ่น้อยหลายๆห้างให้เลือกเดิน และมีโรงหนังให้เลือกชมเลย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ในโครงการนี้แม้จะมีรูปแบบอาคารที่สร้างมาเป็นทาวน์โฮม แต่ด้วยความยืดหยุ่นของโครงการที่อนุญาตให้ปรับเป็นโฮมออฟฟิศได้ ทำให้ลูกบ้านที่ซื้อไปหลายๆหลังได้รับเปลี่ยนฟังก์ชันใช้สอยให้เป็นโฮมออฟฟิศค่ะ ดังนั้นภายในโครงการส่วนที่ผ่านรปภ.เข้ามาเเล้วจะมีทั้งผู้พักอาศัย และผู้มาเยือนปะปนกัน (แขกหรือพนักงานออฟฟิศ) เรื่องการรักษาความปลอดภัยในเบื้องต้นหลังจากแลกบัตรกับรปภ.ที่ดูแลเข้ามาแล้ว ผู้มาเยือนจะต้องประทับตรากับออฟฟิศที่มาติดต่อหรือบ้านที่มาติดต่อด้วย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยภายในโครงการ นอกจากนี้จะมีกล้องวงจรปิดรวม 26 จุดทั้งโครงการ ที่ช่วยตรวจตราความเรียบร้อยภายในบ้านด้วยอีกแรง

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการนี้เป็นทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ 3 ถึง 3 ชั้นครึ่ง มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 177 ตร.ม.ถือว่าค่อนข้างเยอะอยู่นะคะ ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional อิญมวลเบา ทำให้สามารถต่อเติมปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้สะดวก ฟังก์ชันที่ให้มาสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย พื้นที่ใช้สอยใหญ่ อย่างห้องนอนที่จัดไว้พื้นที่ภายในจะขนาดใหญ่มาก และมีห้องน้ำในตัวให้มาทุกห้อง จะมีข้อติอยู่ที่ไม่ได้มีฟังก์ชันครัวไว้ให้ อาจจะต้องกันงบประมาณต่อเติม เดินท่อครัวใหม่ขึ้นมาเอง อาจจะใช้พื้นที่หลังบ้าน หรือในตัวบ้านด้านหลังที่ชั้น 1 เพื่อจัดเป็นครัวค่ะ ในส่วนของดีไซน์บ้าน จะออกแบบมาเป็นสไตล์ Modern เน้นความสูงโปร่งทั้งหน้าตาของอาคารภายนอกและพื้นที่ภายใน ที่ออกแบบมาให้ทุกชั้นสูง 2.75 เมตร ภายในบ้านจึงดูค่อนข้างโปร่งเลย

วัสดุ : บ้านมาตรฐานที่ชั้น 1 และชั้นลอยจะได้พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นห้องนอนจะได้ไม้ลามิเนต ส่วนห้องน้ำ พื้นลานจอดรถจะได้เป็นกระเบื้องเซรามิคค่ะ ผนังและฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสีมาให้และติดไฟดาวน์ไลท์ ห้องน้ำสุขภัณฑ์หลักๆจะได้ของ American Standard ค่ะ ภายรวมให้วัสดุมาตามมาตรฐานนะคะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สภาพโครงการก่อสร้างมาเรียบร้อย แต่พื้นที่สีเขียวยังไม่มีมากเท่าไหร่ (เนื่องจากวันที่ทำรีวิวส่วนกลางที่เป็นสวนยังสร้างไม่เสร็จด้วย) เห็นเพียงแต่พุ่มไม้อยู่ข้างรั้วบนถนนรองเท่านั้นค่ะ

สาธารณูปโภค : มีอยู่ตำแหน่งเดียวกลางโครงการเป็นสวนขนาดประมาณครึ่งไร่ และจะมีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งให้มาค่ะ (ตรงส่วนนี้ยังสร้างไม่เสร็จและไม่มีภาพบรรยากาศมาให้ดูนะคะ)

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4.5-9 ล้านบาท, 20 August 2019

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน 2 เส้น (กาญจนาภิเษกกับมอเตอร์เวย์)
  • ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – มี 7 แบบให้เลือก มีทาวน์โฮมแบบ Double Volume
  • วัสดุ 7.5/10 – ตามมาตรฐานโครงการ
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – ถนนถือว่ากว้าง พื้นที่สีเขียวมีแต่ไม้พุ่มข้างถนนภายในโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7/10 – มีสวนและเครื่องเล่นกลางแจ้งกลางโครงการ
  • 7.46 / 10.00 

BOTTOM LINE

City Link พระราม 9 – ศรีนครินทร์ เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยพร้อมกับพื้นที่ประกอบธุรกิจในย่านกรุงเทพกรีฑา สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า และใช้ทางด่วนเข้าเมืองมาจากมอเตอร์เวย์เชื่อมศรีรัชหรือวิ่งรอบเมืองด้วยวงแหวนกาญจนาได้สะดวก ไม่เน้นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลาง มีงบประมาณ 4.5-9 ล้านบาท(อย่าลืมเผื่องบตกแต่งเพิ่มเติมด้วยนะคะ) หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 31,500 – 63,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving