รีวิวฉบับที่ 2172 … ครั้งนี้พามาดู บ้านกลางเมือง พหลฯ – รามอินทรา จาก AP ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์กันครับ เป็นทำเลที่เดินทางเข้าเมืองสะดวก ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าให้ใช้ไม่ไกลจากโครงการอีกด้วย โดยจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่เหมาะกับคนต้องการห้องนอนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ทุกห้อง รวมถึงมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่ยืดหยุ่น กั้นห้องเพิ่มได้ และชอบบรรยากาศโครงการที่มีต้นไม้เยอะๆ ดูร่มรื่นเงียบสงบ ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

**หมายเหตุ มีอัพเดตแบบบ้านใหม่..เฟสใหม่ เพิ่มอีก 1 แบบ (ณ วันที่ 14/12/2566)

ข้อมูลโครงการ

24 November 2020

  • Baan Klang Muang Phahol – Ramintra (บ้านกลางเมือง พหลฯ – รามอินทรา)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถ.เทพรักษ์ เขต บางเขน
  • เนื้อที่โครงการ 27-1-86.3 ไร่ จำนวน 272 ยูนิต
  • Urbanist ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท
  • New Terraria ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม. (อัพเดต!! แบบบ้านใหม่..เฟสใหม่ วันที่ 14/12/2566)
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.79 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 120,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2562
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ n/a
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.881441, 100.625471
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ที่อนาคตมีแผนที่จะขยายเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนอื่นๆ ทำให้ย่านนี้สามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น โดยทางด้านซ้ายก็จะไปเชื่อมกับถนนวิภาวดี-รังสิต (คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564) ส่วนทางด้านขวาก็เชื่อมต่อไปจนถึงถนนนิมิตใหม่ (คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567)

แต่ในปัจจุบันก็นับว่าการเดินทางค่อนข้างสะดวกมากอยู่แล้วนะครับ โดยเฉพาะสำหรับใครที่ทำงานในเมือง จะมีทางด่วนฉลองรัชให้ใช้บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งตัวโครงการเองก็ตั้งอยู่ในฝั่งที่ขับรถไปขึ้นทางด่วนได้โดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถ ส่วนถ้าเป็นถนนพหลโยธินก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม BTS สถานีสายหยุด อยู่บริเวณหน้าปากซอย ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2562 นี้แล้วครับ ซึ่งก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมาก สามารถเชื่อมต่อกับ BTS สายสุขุมวิทได้โดยตรงเลยล่ะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ของถนนเทพรักษ์ ก็นับว่าค่อยๆคึกคักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ จากตอนแรกที่ถนนเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ จะยังโล่งๆไม่มีอะไรเลย แต่พอผ่านมา 1 – 2 ปี ก็เริ่มมีร้านค้าร้านอาหารค่อยๆทยอยมาจับจองพื้นที่ และเปิดตามข้างทางเยอะแยะเลยครับ รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆก็เริ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน ในส่วนของห้างที่ใกล้ที่สุดก็คือ Big C สะพานใหม่ และ Central รามอินทรา รวมถึงมีตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของย่าน ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลอีกด้วย ภาพรวมของทำเลโครงการนี้จึงพูดได้ง่ายๆว่า อยู่ระหว่างจุดที่อุดมสมบูรณ์มากๆ และจุดที่เดินทางสะดวกนั่นเองครับ

.. อัพเดต!! (14/12/2566) ปัจจุบันทางรัฐบาลมีการอนุมัติเวนคืนที่ดินเพื่อตัดถนนใหม่ขนาด 6 เลน ระยะทาง 2.79 km. ที่บริเวณซอยวิภาวดีรังสิต 72 (ซอยเจ้เล้ง) เชื่อมต่อการเดินทางถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน เพื่อบรรเทาการจราจรที่ติดขัดในย่าน และทำให้มีการคมนาคมสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในอนาคตยังจะสามารถเชื่อมต่อกับถนนเทพรักษ์ ที่เป็นที่ตั้งของโครงการบ้านกลางเมืองได้อีกด้วยครับ ซึ่งมีกำหนดเปิดใช้งานภายในปี 2567

สำหรับทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนฉลองรัช หรือที่เราเรียกกันในย่านนี้ว่า ทางด่วนรามอินทรา จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 km. เท่านั้นครับ และโครงการเองก็อยู่ฝั่งเดียวกับที่วิ่งไปขึ้นทางด่วนบนถนนสุขาภิบาล 5 ได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถอีกด้วย

แต่สำหรับการไปใช้รถไฟฟ้า BTS บนถนนพหลโยธินในอนาคตนั้น จะต้องไปกลับรถมาก่อน ซึ่งก็โชคดีที่อยู่ไม่ไกลจากหน้าโครงการครับ (ประมาณ 550 m.) และมีระยะทางรวมไปยัง BTS สถานีสายหยุดประมาณ 3.7 km. เท่านั้นครับ

การเดินทางมายังโครงการ :

Image 1/8
สำหรับการเดินทางมายังโครงการวันนี้ ผมใช้ทางด่วนรามอินทรามาลงที่ถนนสุขาภิบาล 5 จากนั้นก็เลี้ยวขวามายังถนนเทพรักษ์ กลับรถประมาณ 2 รอบ ก็จะถึงทางเข้าโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์เลยครับ

สำหรับการเดินทางมายังโครงการวันนี้ ผมใช้ทางด่วนรามอินทรามาลงที่ถนนสุขาภิบาล 5 จากนั้นก็เลี้ยวขวามายังถนนเทพรักษ์ กลับรถประมาณ 2 รอบ ก็จะถึงทางเข้าโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์เลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทโดยรอบโครงการจะเป็นที่ว่าง และที่อยู่อาศัยแนวราบดั้งเดิม ซึ่งลักษณะที่ดินจะมีถนนโครงการ ที่ถอยร่นเข้ามาจากถนนใหญ่ด้านหน้าอีกที ทำให้เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตรงกลางที่ดินจะมีถนนสาธารณะ และลำรางสาธารณะพาดผ่านอีกทีหนึ่ง สามารถสรุปได้ดังนี้ครับ

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ
  • ทิศใต้ : ติดกับ ชุมชนแนวราบ
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ
  •  ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับถนนเทพรักษ์ ที่ว่าง และชุมชนแนวราบ

เรามาเดินดูด้านหน้าโครงการกันสักหน่อยนะครับ ซึ่งจะอยู่ติดกับถนนเทพรักษ์ที่เป็นถนนใหญ่เลย ส่วนฝั่งซ้ายของทางเข้าโครงการจะเป็นที่ว่าง และร้านอาหารนั่งดื่มกับอู่ซ่อมรถอยู่ใกล้ๆครับ

ส่วนด้านขวาจะอยู่ติดกับที่ว่างอีกเช่นกัน แต่ถ้าถัดไปอีกประมาณ 160 m. จะมีปั๊มเชลล์ และอีกประมาณ 1 km. จะมีปั๊ม ปตท. ขนาดใหญ่อยู่

ซึ่งภายในปั๊มจะมีพวกร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่เยอะมากๆ สำหรับใครที่เป็นสายกินอะไรแบบง่ายๆและสะดวกๆ ผมแนะนำให้มาที่ปั๊มนี้ได้นะครับ

รวมถึงคาเฟ่ Amazon สาขานี้ก็ตกแต่งได้สวยดีทีเดียว เหมาะมากที่จะมานั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือนัดพบแขกที่มาหาใกล้ๆบ้านได้นะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C สะพานใหม่ ~ 4.5 km.
  • ตลาดยิ่งเจริญ ~ 4.5 km.
  • ตลาดออเงิน ~ 5.2 km.
  • Central รามอินทรา ~ 6.1 km.
  • มหาวิทยาลัยเกริก ~ 6.1 km.
  • มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ~ 6.7 km.
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง ~ 15.5 km.

รายละเอียดโครงการ

จากผังโครงการมีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ 3 ประเด็นใหญ่ๆด้วยกันครับ ประเด็นแรกคือ “ลักษณะทางเข้าโครงการ” ซึ่งทาง AP เค้าได้ที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ด้านในมา เค้าจึงทำถนนด้านหน้าเพื่อเปิดเส้นทางเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ (ประมาณ 300 m.) ซึ่งนอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวแล้ว ก็ยังส่งผลให้บรรยากาศทางเข้าดูร่มรื่นมากๆอีกด้วยครับ เพราะเค้าจะปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้ตลอด 2 ข้างทาง ยาวมาจนถึงซุ้มประตูทางเข้าเลยล่ะ

ประเด็นที่ 2 คือ “ตำแหน่ง Facilities” ซึ่งเค้านำ Clubhouse มาไว้ตรงซุ้มประตูด้านหน้าสุด ก็เพื่อแยกคนที่มาใช้งานออกจากโซนบ้านพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการมาใช้งาน Clubhouse จะมีระยะที่ไกลขึ้นด้วยเช่นกัน แต่กลับกันเค้าจะให้ความสำคัญกับสวนสาธารณะมากกว่าครับ เพราะจะตั้งอยู่กลางโครงการ และกระจายอยู่ถึง 2 จุดเลย โดยเฉพาะเฟส 2 จะมีบ้านที่หันหน้าเข้าสวน ซึ่งค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะมาใช้งานสวนได้ง่ายแล้ว ก็ยังได้วิวสวนจากตัวบ้าน และได้บรรยากาศในโครงการที่ร่มรื่นอีกด้วย แต่แน่นอนว่าตำแหน่งดีๆแบบนี้ ก็น่าจะมีราคาที่สมน้ำสมเนื้อตามมาแน่นอน (ใครสนใจก็รอติดตามกันต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเป็นปีหน้านะ)

ส่วนประเด็นที่ 3 คือ “ที่ดินถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ” ด้วยถนนและลำรางสาธารณะพาดผ่านตรงกลางพอดี จึงทำให้ระหว่างเฟสต้องมี Gate เพิ่มเข้ามาเพื่อความปลอดภัยครับ ซึ่งวิธีการผ่านเข้า-ออก ปัจจุบันยังไม่สรุปว่าจะเป็นแบบไหน แต่สำหรับบ้านโซนที่อยู่เฟสด้านในสุด ก็อาจต้องผ่านซุ้มประตูหลายชั้นหน่อย แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ

นี่คือภาพบรรยากาศถนนโครงการที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งทั้ง 2 ข้างทางจะปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการเข้า-ออกได้ดี และเป็นส่วนตัวครับ

เข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 300 m. ก็จะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าโครงการ เป็นแบบไม่มีหลังคานะครับ ซึ่งสำหรับลูกบ้านที่ใช้การสแกนทะเบียนรถอยู่แล้ว ก็สะดวกดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องเปิดกระจกมาแลกบัตรกับพี่ยามก่อน ซึ่งพอไม่มีหลังคาแบบนี้ก็อาจโดนแดดโดนฝนอยู่บ้างนะครับ

โดยโครงการนี้ก็จะใช้ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น สามารถลงทะเบียนรถของแขกที่จะมาหาไว้ล่วงหน้าได้ หรือถ้ามีใครมาหาแล้วเราไม่สะดวกรับแขก/หรือเราไม่อยู่บ้านพอดี ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวครับ

เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็จะเจอกับถนนที่ตรงยาวเข้าไปอีก แต่ถ้าสังเกตทางขวามือจะเห็นว่ามีอาคารเล็กๆตั้งอยู่ด้วยครับ

ซึ่งตรงนี้ก็คือ Clubhouse ถ้าไม่สังเกตดีๆก็อาจมองไม่เห็น เพราะเค้าซ่อนไว้ได้แนบเนียนมากๆ และด้านหน้าจะมีช่องจอดรถสำหรับผู้มาใช้งานได้ 2 คันนะ

ทางเข้าอาคารจะต้องเดินผ่านทางเดินหินกรวด และลัดเลาะมาทางด้านข้างแบบนี้ครับ

เมื่อเดินมาถึงด้านในก็จะเจอกับโถงทางเดิน และสระว่ายน้ำที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้มาใช้งาน เปรียบเสมือนสถานที่ลับที่คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็นได้นั่นเอง

ด้านซ้ายมือจะเป็นสระเด็ก, Jacuzzi และพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆครับ

ส่วนสระใหญ่ก็จะถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้ที่ปลูกประดับไว้รอบๆ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ ผมว่าตอบโจทย์มากๆ เหมือนมีสระส่วนตัวอยู่หลังบ้านเลยครับ

ส่วนถ้าเป็นจุดล้างตัวและห้องน้ำก็จะอยู่อีกด้านของอาคารแบบนี้นะ

ภายในห้องน้ำก็จะมีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำให้ใช้ครับ

ส่วนห้องกระจกที่อยู่ริมสระว่ายน้ำจะเป็นห้อง Fitness ปัจจุบันภายในมีเครื่องเล่นอยู่ 2 เครื่อง พร้อมกับตู้บริการน้ำดื่ม

ส่วนอีกมุมหนึ่งของห้องก็จะมีชุดโซฟาให้นั่งเล่นได้ครับ

จากอาคาร Clubhouse ตรงซุ้มประตูเมื่อครู่ ก็จะมีถนนให้ตรงเข้ามาสู่โซนที่พักอาศัยด้านใน ซึ่งปัจจุบันซอยแรกทางซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างครับ

โดยฝั่งตรงข้ามสำนักงานขาย ตอนนี้จะเป็นพื้นที่จอดรถของลูกค้า แต่ในอนาคตก็จะเป็นพื้นที่ขายที่มีทาวน์โฮมเกิดขึ้นมาเหมือนกันทั้ง 2 ฝั่ง

โดยบรรยากาศในซอยก็จะเป็นประมาณนี้ ซึ่งระหว่างทาวน์โฮมแต่ละคลัสเตอร์ ก็จะมีจุดให้กลับรถได้สะดวกด้วยครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 4 x 10 เมตร
  • Kids Pool ขนาด 2.9 x 3 เมตร
  • Jacuzzi
  • Fitness
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด ขนาด 302 และ 101 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • Key Card Access ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • ระบบ KATSAN

แบบบ้าน

โครงการนี้มีแบบบ้านแค่แบบเดียวเท่านั้นครับ (อัพเดต!! แบบบ้านใหม่..เฟสใหม่ เพิ่มอีก 1 แบบในตอนท้ายรีวิว) และก่อสร้างด้วยระบบ Precast ซึ่งเป็นผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ที่ได้มาตรฐานจากโรงงานเหมือนกันทุกหลัง มีความแข็งแรงทนทาน แต่จะทุบ เจาะ หรือต่อเติมได้ยากสักหน่อย และโดยภาพรวมจะเป็นบ้านที่มีหน้าตา Modern เรียบๆ คือ

  • Urbanist ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท

จากแปลนจะเป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5 m. ที่จอดรถได้ 2 คันพอดีๆครับ สำหรับฟังก์ชันชั้นล่างเค้าจัดทางขึ้นบันไดไว้ด้านหน้าเลย ทำให้เวลากลับมาบ้านก็สามารถเดินขึ้นชั้น 2 ได้เลยโดยไม่ต้องตัดผ่านหน้าทีวี ส่วนครัวที่ได้จะเป็นครัวเปิดที่ไม่มีผนังกั้น สำหรับใครที่ชอบทำอาหารจริงจังก็อาจต้องต่อเติมครัวไทยหลังบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นหรือควันฟุ้งกระจายอยู่ภายในบ้านนะครับ

ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือ ห้องนอนทุกห้องจะมีขนาดใหญ่ที่ใกล้เคียงกัน จะไม่ได้มีห้อง Master Bedroom ที่ใหญ่กว่าห้องอื่นมากๆแบบทั่วไป ทั้งนี้เพราะเค้าให้ความสำคัญกับห้องนอนทุกห้อง ให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เยอะและใช้งานง่ายทั้งหมด ถ้าเป็นห้องนอนลูกๆก็สามารถอยู่ได้ตั้งแต่เล็กยันโตได้สบายๆ โดยลดระเบียงด้านหน้าให้มีขนาดเล็กลง และจะแชร์ห้องน้ำร่วมกันครับ

ถ้าถามว่าห้องไหนพอจะเป็น Master Bedroom ได้นั้น ก็บอกได้เลยว่าคงจะเป็นห้องชั้น 3 เพราะเค้าออกแบบให้ประตูห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากภายในห้องนอนและจากด้านนอกห้องอีกจุด เผื่อใคร Built in พื้นที่อเนกประสงค์ให้กลายเป็นห้องนอนเพิ่มอีกห้องนั่นเองครับ หรือไม่เราก็อาจกั้นผนังที่บันได และทำให้ชั้น 3 กลายเป็นห้อง Master Bedroom ทั้งชั้นไปเลยก็ได้ ซึ่งพิเศษหน่อยคือ บริเวณหลังบ้านจะมีระเบียงอีกจุดนึงให้ใช้งานได้ด้วย ซึ่งของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมบ้านตัวอย่างกันเลยครับ

เริ่มที่หน้าบ้านกว้าง 5 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ ซึ่งเราจะได้ประตูบานเฟี้ยมแบบ 2 ตอน โดยประตูลักษณะนี้จะมีกลอนเยอะนิดนึง ทำให้ต้องเวลาใช้เวลาในการเปิด-ปิดพอสมควร แต่ก็จะเหมาะกับบ้านทาวน์โฮม เพราะประหยัดพื้นที่ได้ดีเนี่ยแหละครับ ส่วนพื้นที่จอดรถเค้าจะเทพื้นคอนกรีต และไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะ

ด้านบนจะเห็นว่าเค้าติดตั้งหลังคาผ้าใบมาให้ด้วย สามารถยื่นมาเพื่อช่วยบังแดดยังฝนให้กับตัวรถได้ส่วนนึง และพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานหรือมีลมพายุพัดแรงๆครับ โดยฟังก์ชันนี้จะเหมาะกับคนชอบหลังคากันสาดที่โปร่งโล่งและปรับเปลี่ยนได้ แต่อายุการใช้งานของวัสดุนี้คือ 5 – 10 ปี ซึ่งจะสั้นกว่าวัสดุชนิดอื่นๆที่อยู่ได้มากกว่า 10 ปีนะครับ

ก่อนเข้าบ้านจะมีชานพักบันไดเล็กๆอยู่ขั้นนึง เพื่อเอาไว้ถอด/ใส่รองเท้า และป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าบ้านได้ โดยพื้นที่ด้านข้างของประตูเราก็สามารถหาชั้นวางรองเท้ามาใช้ได้นะครับ ส่วนกรอบประตูจะเป็นอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ ที่มีตัวล็อค 2 จุด และได้กระจกเขียวตัดแสงนะ

เมื่อเข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปจนถึงด้านหลังบ้านเลยครับ โดยพื้นที่นั่งเล่นส่วนแรกจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.6 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 50 – 60 นิ้ว กับชุดโซฟาตัวยาวแบบหลายที่นั่งได้สบายๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และฝ้าเพดานก็จะสูง 2.6 m. ครับ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร และมีมุมให้ Built in เคาน์เตอร์ครัวได้ โดยของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ที่เค้าจะทิ้งท่องานระบบเอาไว้ให้นะ

แต่ด้วยลักษณะครัวเปิดที่ไม่มีผนังกั้นแบบนี้ ก็อาจไม่เหมาะจะทำครัวจริงจัง ที่มีกลิ่นหรือควันเยอะๆได้นัก ซึ่งเราอาจทำตรงนี้เป็น Pantry ครัวไว้เตรียมอาหารเบาๆ ส่วนครัวไทยจริงจังก็อาจต่อเติมหลังบ้านแทนได้นะ

พื้นที่ซักล้างของจริงจะปูพื้นคอนกรีตมาให้ครับ และเป็นแบบ Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะ ดังนั้นถ้าต้องการต่อเติมครัวเพิ่ม ก็อาจต้องทำเป็นครัวเปิดแบบกลางแจ้ง หรือทำหลังคาแยกโครงสร้างจากตัวบ้านได้จะดีครับ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักส่วนต่อเติม ส่งผลอันตรายต่อโครงสร้างหลักของบ้านนั่นเอง

ส่วนทางด้านหลังของห้องน้ำจะมีพื้นที่เว้าเข้าไป 90 x 85 cm. สามารถวางเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์อีกนิดหน่อยได้นะครับ

ก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน ผมอยากให้ทุกคนสังเกตผ้าม่านที่กำลังปลิวไปตามแรงลม ซึ่งถ้าเราเปิดประตูหน้าบ้านกับหลังบ้านพร้อมๆกัน ก็จะทำให้มีลมพัดให้อากาศถ่ายเทได้ดีแบบนี้นั่นเองครับ

ส่วนอีกด้านนึงของบ้านก็จะมีประตูอีก 2 บาน คือเป็นห้องน้ำของชั้นล่าง และห้องเก็บของใต้บันไดครับ

สำหรับห้องน้ำนี้จะเป็น Powder Room หรือก็คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำนะครับ แต่นอกนั้นก็จะมีฟังก์ชันอื่นๆครบ ทั้งอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ของ Kohler ซึ่งพื้นที่ในห้องก็จะมีขนาด 1.65 x 1 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ และใช้เป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้เลย เพื่อประหยัดพื้นที่เปิด-ปิดครับ

ส่วนห้องเก็บของใต้บันไดก็จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถใช้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้ครับ

ในส่วนของบันไดขึ้นชั้น 2 จะอยู่ติดกับประตูด้านหน้าเลยครับ ทำให้เวลาที่กลับมาจากด้านนอก แล้วอยากเดินขึ้นชั้น 2 ก็ทำได้เลย จะได้ไม่ต้องเดินตัดผ่านหน้าคนที่กำลังดูทีวีอยู่ที่โซฟาเนาะ

ส่วนโครงสร้างบันไดจะเป็นโครงเหล็ก เวลาวิ่งขึ้น-ลงเร็วๆก็จะมีเสียงดังนิดนึง ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราและมีราวจับให้ตลอดทาง พร้อมกับช่องแสงเพื่อความสว่าง และเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยมเต็ม ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยครับ

บนชั้น 2 จะมีประตูอยู่ 3 บานด้วยกัน คือด้านซ้าย-ขวาจะเป็นห้องนอน และตรงกลางจะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันครับ ซึ่งพื้นชั้นบนก็จะเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนตด้วยนะ และมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.6 m. เท่าชั้นล่างครับ

สำหรับประตูของจริงที่ได้จะเป็นบานไม้ HDF สีขาว ซึ่งจุดที่ชอบก็คือ มีที่เปิดประตูแบบก้านโยก ซึ่งนอกจากจะใช้งานง่ายแล้ว ก็ยังดูทันสมัยดีอีกด้วยครับ

เริ่มกันที่ห้องแรกทางขวามือ ซึ่งจะเป็นฝั่งที่อยู่ด้านหลังบ้านครับ ภายในถูกจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องอเนกประสงค์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่เราก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนปกติได้สบายๆ

เพราะจริงๆแล้วห้องนี้จะมีหน้ากว้างเท่ากับตัวบ้านและห้องอื่นๆเลยครับ ประมาณ 4.9 x 2.6 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้เลย แต่จะมีพื้นที่ส่วนนึงของห้องน้ำที่ยื่นเว้าเข้ามา ตรงจุดนั้นจะกว้าง 1.85 m. ซึ่งก็สามารถ Built ตู้เสื้อผ้า ทำเป็นที่แต่งตัวได้สบายๆ

ส่วนห้องน้ำที่อยู่ตรงกลาง ก็จะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน สำหรับส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1.5 x 1.7 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ และใช้สุขภัณฑ์ Kohler เหมือนกับห้องน้ำด้านล่างเลยครับ ที่เพิ่มเติมมานิดหน่อยก็คือ ใต้อ่างล้างหน้าจะมีที่ให้แขวนผ้าด้วย และของจริงถ้าไม่ใช่บ้านหลังริมสุด ก็จะไม่มีช่องหน้าต่างแบบนี้นะครับ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำเค้าจะไม่ได้มีฉากกั้นมาให้ครับ แต่ก็สามารถกั้นเพิ่มเติมเองได้ถ้าต้องการ ซึ่งพื้นห้องส่วนแห้งเองก็จะได้ไม่เปียกไปด้วย โดยขนาดพื้นที่ใช้สอยจะอยู่ที่ 1.1 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ แต่ก็ระวังสะดุดขอบพื้นที่ยกสูงขึ้นมาพอสมควรด้วยนะครับ

และตรง Hand Shower ก็จะมี Junction Box สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย พร้อมเจาะช่องที่ผนังให้วางแชมพูเล็กๆน้อยๆได้ แต่ถ้าใครวางไม่พอ ก็สามารถซื้อมาติดเพิ่มเองได้อีกนะ

ส่วนห้องนอนที่อยู่ทางด้านหน้าก็จะมีขนาด 4.9 x 2.8 m. พอๆกับห้องที่อยู่หลังบ้านก่อนหน้านี้เลยครับ แต่พิเศษหน่อยที่จะมีระเบียงยาวเล็กๆ เพิ่มมาที่หน้าบ้านด้วย ซึ่งตำแหน่งห้องนี้ก็สามารถทำเป็น Master Bedroom ได้นะครับ

เผื่อกรณีที่เจ้าของบ้านอาจเป็นคนมีอายุหน่อย และไม่สะดวกเดินขึ้นชั้น 3 หรือถ้าเป็นครอบครัวเล็กแล้วมีห้องเหลือ ก็สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ ซึ่งนอกจากจะน่าใช้งานแล้ว ยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วยครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ทางขวามือจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 3.3 x 2.55 m. ซึ่งถ้าเราไม่ทำเป็น Walk-in Closet แบบบ้านตัวอย่างนี้ ก็ยังสามารถกั้นผนังเบา เพื่อทำเป็นห้องนอนเพิ่มอีกสักห้องได้นะครับ

และด้านหลังบ้านนี้ก็จะมีระเบียงขนาด 1.5 x 1.8 m. ให้ได้ใช้งานด้วยนะ

โดยบ้านตัวอย่างเค้าจัดเป็น Pocket Garden มาให้ดู ซึ่งก็ดูสวยงามและยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวสำหรับบ้านทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้น้อยแบบนี้ได้ดี บางคนอาจใช้เป็นมุมโปรด สำหรับนั่งเล่น/ปลูกต้นไม้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง และตากผ้าของห้องชั้นบนนี้ก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องขนเสื้อผ้าขึ้น-ลง 3 ชั้นให้ลำบากนั่นเองครับ

และอีก Option นึงคือ เราสามารถทำให้ชั้น 3 ทั้งชั้นนี้ กลายเป็น Master Bedroom ทั้งหมดเลยก็ได้ โดยอาจนำประตูห้องนอนออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ และเปลี่ยนมากั้นผนังตรงบันไดเพิ่มแทน เพื่อความเป็นส่วนตัวและกันแอร์ไม่ให้ไหลลงไปชั้นล่างครับ

ส่วนภายในห้องนอนห้องนี้ เค้าวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ดู ว่าสามารถวางได้สบายๆ และยังมีพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก

ซึ่งระเบียงภายนอกจะเป็นระเบียงยาว ที่กว้างเพียง 50 cm. ให้ออกไปแค่ยืนสูดอากาศมากกว่าใช้งานจริงจัง แต่ที่แน่ๆคือ เราสามารถ Take View ภายนอกได้จากบนเตียงเลยแบบนี้ครับ

ซึ่งถ้าเป็นยูนิตบ้านจริงๆ ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นเพื่อนบ้านที่หันหน้าเข้าหากัน ผมแนะนำว่าเราอาจปลูกต้นไม้กระถางเพื่อช่วยพรางสายตา และเพิ่มบรรยากาศพื้นที่สีเขียวเหมือนบ้านตัวอย่างจะดีไม่น้อยเลยล่ะ

ส่วนหลังคาหน้าบ้านจะยื่นออกมาไม่เยอะมากนัก ซึ่งเวลาฝนตกแรงๆน้ำก็จะสาดโดนประตูกระจกได้ง่ายๆ จึงควรหมั่นตรวจเช็คการรั่วซึมของประตูอย่างสม่ำเสมอนะครับ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะมีเหลือเฟือ ซึ่งถ้าเราไม่ได้ Built in เป็น Walk-in Closet ที่ด้านนอก ก็สามารถทำปลายเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัวเพิ่มได้นะ หรือจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่แบบนี้เลยก็ได้ครับ

ส่วนห้องน้ำก็มีฟังก์ชันใช้งานครบเหมือนชั้น 2 เลยครับ ที่เพิ่มเติมมาก็คือ ช่องหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศ และความชื้นออกไปทางระเบียงด้านหลังได้ดี

และประตูที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง เผื่อใครกั้นพื้นที่อเนกประสงค์ด้านนอกเป็นห้องนอนเพิ่ม ก็สามารถมาใช้งานห้องน้ำนี้ได้ด้วยนั่นเองครับ

ส่วนภาพสวยๆมุมอื่นๆ ของโครงการที่ผมถ่ายรูปมาฝากกัน สามารถเลื่อนคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยนะคร้าบบ

Image 1/11

อัพเดต !! แบบบ้านใหม่ (เฟสใหม่) ณ วันที่ 14/12/2566

  • New Terraria ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

สำหรับแบบบ้านใหม่นี้ทางโครงการจะเรียกว่าเป็น ‘Penthouse Townhome’ โดยมีจุดเด่นอยู่บนชั้น 3 ซึ่งเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่หมดทั้งชั้น เหมือนเป็น Penthouse เลยนั่นเองครับ จึงมีความกว้างขวางโปร่งโล่ง อีกทั้งยังสามารถจัดแบ่งฟังก์ชันได้หลากหลายตามต้องการ ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ที่ชั้น 2 และแชร์ห้องน้ำร่วมกันเช่นเดิม เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก อาศัยอยู่ด้วยกัน 2 – 3 คนกำลังดีครับ

Image 1/13

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

24 November 2020

  • Urbanist ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 59 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • Promotion สำหรับช่วงพรีเซล : ฟรีค่าทำสัญญา และลดค่าจอง 50% (จ่ายแค่ 10,000 บาท) ระยะเวลาโปรโมชันน่าจะถึงช่วงสิ้นปีนี้ สอบถามกับทางโครงการอีกครั้งนะครับ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : “ถนนเทพรักษ์” เป็นถนนตัดใหม่ที่อนาคตสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นอื่นๆได้อีก ปัจจุบันนอกจากจะสามารถไปขึ้นทางด่วนฉลองรัชที่สุขาภิบาล 5 ได้แล้ว บนถนนพหลโยธินเองก็ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะเปิดให้บริการปลายปีนี้ด้วยครับ ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก และมีตัวเลือกหลากหลายมากๆ สำหรับโปรดักส์ แนวราบแบบนี้ครับ

ซึ่งถ้าเป็นโครงการที่อยู่ใกล้กับถนนพหลโยธิน หรือตามแนวรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่ปัจจุบันก็จะกลายเป็นคอนโดมิเนียมไปซะหมด ดังนั้นถ้าจะหาบ้านแนวราบที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะๆเป็นส่วนตัว ก็จะต้องขยับเข้ามาช่วงกลางๆซอยเนี่ยแหละครับที่ใกล้สุดแล้ว ซึ่งเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็ไม่ต้องห่วง เพราะเมื่อถนนเปิดมาได้ 1 – 2 ปี ก็เริ่มมีร้านค้าร้านอาหารมาเปิดกันอย่างคึกคักตลอดเส้นเลยล่ะ หรือจะไปห้างใกล้ๆอย่าง Big C สะพานใหม่ , Central รามอินทรา และตลาดยิ่งเจริญก็อยู่ไม่ไกลครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : หลักๆคือ KATSAN ของ AP จัดเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างสะดวก เพราะสามารถใช้งานและเชื่อมต่อผ่าน Application บนมือถือได้ เช่น ประทับตรา E-Stamp, ลงทะเบียนผู้ติดต่อล่วงหน้า หรือปฏิเสธการเข้าพบ เป็นต้น นอกนั้นก็จะมีตามมาตรฐานทั่วไป ทั้ง CCTV, ประตูเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า และรั้วรอบโครงการ แต่สำหรับเฟสส่วนที่ 2 ในอนาคตที่ต้องผ่านซุ้มประตูอีกชั้น จะต้องรอดูต่อไปในอนาคตอีกครั้งนะครับ ว่าเค้าจะมีระบบจัดการอย่างไรบ้าง

การออกแบบโครงการ : ผมขอใช้คำว่า “มีความเฉพาะตัวมากๆ” ก็แล้วกันครับ โดยเฉพาะการที่เค้านำ Clubhouse มาไว้ทางด้านหน้า และซ่อนอยู่ในมุมลับตาแบบนี้ เป็นเพราะเค้าเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้มาใช้งาน และคนในโซนพักอาศัยให้แยกออกจากกันชัดเจนไปเลย แต่ก็ทำให้บางคนที่จะใช้งานส่วนกลางนั้น อาจต้องออกมาถึงด้านหน้าโครงการไกลหน่อยนั่นเองครับ

ดังนั้นจึงเป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ไม่เน้นใช้ส่วนกลางบ่อยๆ หรือไม่ได้อยากมี Clubhouse ใหญ่ๆสวยๆเหมือนโครงการทั่วไปเท่าไหร่นัก แต่ต้องการเน้นพื้นที่สีเขียว และบรรยากาศภายในโครงการที่ร่มรื่น น่าอยู่อาศัยมากกว่าครับ โดยเฉพาะบ้านเฟส 2 จะมีหลายแปลงเลย ที่หันหน้ารับวิวสวนตรงกลางโครงการได้ ส่วนบ้านที่อยู่ในเฟสอนาคตที่จะต้องผ่านซุ้มประตูอีกชั้นเข้าไป ผมก็มองว่าเค้าได้ความเป็นส่วนตัวดีนะ แต่อาจต้องเข้ามาลึกสักหน่อย (ประมาณ 600 – 800 m.) และต้องผ่านประตูหลายรอบมากขึ้นครับ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ห้องนอนทุกห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต พร้อมมุมแต่งตัวและโต๊ะหนังสือได้ทุกห้อง เรียกได้ว่า ถ้ามีลูกก็สามารถอยู่ได้ตั้งแต่เล็กยันโตเลยล่ะครับ โดยห้อง Master Bedroom จะสามารถเป็นได้ทั้งห้องนอนด้านหน้าบนชั้น 2 ซึ่งจะเหมาะกับเจ้าของบ้านที่อาจไม่อยากเดินขึ้น-ลงชั้น 3 ทุกๆวันได้

แต่ถ้าเป็นห้องบนชั้น 3 ก็จะมี Option ให้เลือกคือ จะทำเป็นห้อง Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ทั้งชั้นก็ได้ หรือจะกั้นห้องด้านหลังเพื่อทำห้องนอนเพิ่มก็ดี เพราะทางโครงการเค้าได้เตรียมห้องน้ำแบบ 2 ประตูเอาไว้รองรับแล้วครับ ส่วนฟังก์ชันอื่นๆคือเราจะได้ครัวเปิด ซึ่งอาจต้องเผื่องบทำครัวไทยหลังบ้านเพิ่มเติม กับเป็นบ้านที่ไม่เน้นพื้นที่ระเบียงครับ มีเพียงระเบียงแคบๆให้ออกไปสูดอากาศได้ชมวิวได้เท่านั้น แต่จะมีระเบียงหลังบ้านชั้น 3 ที่ใหญ่หน่อย สามารถใช้เป็นมุมโปรดสวยๆ หรือเป็นจุดใช้งานซักล้าง/ตากผ้าชั้นบนได้นั่นเองครับ

วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็นระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตแบบสำเร็จรูป ซึ่งจะทุบเจาะหรือต่อเติมได้ค่อนข้างยากหน่อย ดังนั้นถ้าอยากกั้นห้องเพิ่มก็ควรใช้เป็นผนังเบานะครับ ส่วนพื้นที่จอดรถหน้าบ้านและลานซักล้างหลังบ้าน เค้าก็จะเป็น Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ ซึ่งถ้าใครจะต่อเติมก็อาจต้องลงเสาเข็มเพิ่มเพื่อความแข็งแรง และแยกโครงสร้างจากตัวบ้านเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักด้วยจะดีครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : นับว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ โดยเฉพาะถนนโครงการทางด้านหน้า ซึ่งเค้าจะปลูกต้นไม้ใหญ่ตลอด 2 ข้างทาง 300 m. มาจนถึงซุ้มประตูทางเข้า ซึ่งก็ได้บรรยากาศพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่นมากๆ และภายในโครงการยังมีสวนสาธารณะกระจายอยู่อีก 2 จุด ซึ่งนอกจากจะได้วิวที่ดี และบรรยากาศที่สดชื่นแล้ว ยังมาใช้งานได้ง่ายอีกด้วยครับ

สาธารณูปโภค : โครงการนี้เค้าจะไม่เน้นอาคาร Clubhouse สักเท่าไหร่นัก เพราะจะมีแค่สระว่ายน้ำ, Jacuzzi และ Fitness ให้ใช้งาน ซึ่งก็มีขนาดไม่ใหญ่เลย และถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต 272 หลัง โดยเค้าจะออกแบบให้อยู่ในโซนลับตา ที่เหมาะกับคนชอบความเป็นส่วนตัวแทนครับ แต่สิ่งที่เค้าเน้นคือ สวนสาธารณะตรงกลางโครงการ ที่กระจายอยู่ทั้ง 2 โซน สามารถมาเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย หรือนั่งพักผ่อนที่ศาลาได้ แต่ ณ ปัจจุบันผมยังไม่ได้เห็นของจริงว่าทำเสร็จแล้วจะโอเคแค่ไหน อาจต้องรอดูกันต่อไปในอนาคตอีกทีนะครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4 – 6 ล้านบาท, 24 November 2020

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ ใกล้ทางด่วนและ BTS หาของกินไม่ยาก
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ระบบ KATSAN พร้อมกล้อง CCTV และรั้วรอบโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ฟังก์ชันครบและยืดหยุ่น ห้องนอนใหญ่ทุกห้อง
  • วัสดุ 7.25/10 – เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป และใช้โครงสร้าง Precast
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีต้มไม้ใหญ่เยอะตรงทางเข้า กับสวนด้านใน 2 จุด ดูร่มรื่นและได้บรรยากาศดี
  • สาธารณูปโภค 6.75/10 – ฟังก์ชันครบ แต่มีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต และมาใช้งานยาก
  • 7.63 / 10.00

BOTTOM LINE

บ้านกลางเมือง พหลฯ – รามอินทรา เหมาะกับคนมองหาทาวน์โฮม 3 ชั้น ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า เดินทางเข้าเมืองสะดวก และหาของกินง่าย โดยเป็นบ้านที่จอดรถได้ 2 คัน เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง อยู่ด้วยกัน 3 – 4 คน และต้องการห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ทุกห้อง ชื่นชอบบรรยากาศโครงการที่มีต้นไม้และสวนดูร่มรื่น แต่ไม่เน้นใช้งาน Clubhouse มากนัก โดยมีงบประมาณ 4.59 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 32,000 บาทขึ้นไป


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc