สำหรับ Walk-in Review ในวันนี้เราจะพาไปดูโครงการในแนบราบกันบ้างในทำเลย่านคู้บอน-รามอินทรา กับโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา จาก AP ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกเข้า-ออกเมืองง่าย ได้บ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่เน้นพื้นที่ใช้สอย ปรับการใช้งานได้หลากหลาย ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจทีเดียว

ปัจจุบันโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา มีการปรับราคาเป็น 3.79 ล้านบาท ( up date 23/08/2021)

ข้อมูลโครงการ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การไป Walk-in Review โครงการบ้านนั้นจะแตกต่างและได้ประสบการณ์ที่ต่างจากการไปโครงการประเภทคอนโดมิเนียมที่เพิ่งเริ่มขายและยังไม่สร้างตัวอาคาร มีแต่ห้องตัวอย่างในสำนักงานขาย เพราะรูปแบบการไปชมโครงการในแนวราบจะได้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับความจริงมากกว่า เพราะโครงการจะมีบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จให้ชมในพื้นที่โครงการจริง ในบางโครงการก็มีส่วนกลางสร้างเสร็จแล้วให้ได้เดินดูบรรยากาศได้อีกด้วย และหลายโครงการเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย เรียกว่าไปเลือกบ้านจริงในตำแหน่งจริงกันได้เลย

มากันที่โครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา ที่นี่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 6/1 ใกล้ทางด่วนและวงแหวนกาญจนาฯ ในทำเลย่านคู้บอน-รามอินทรา โครงการเปิดขายมาปีกว่าๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีคนย้ายเข้าอยู่แล้วด้วยนะ ภายในโครงการมีทั้งบ้านตัวอย่าง บ้านจริง พื้นที่ส่วนกลาง และบรรยากาศจริงที่มีลูกบ้านบางส่วนเข้าอยู่แล้วให้เราชมได้ บ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น  มีให้เลือกเพียงแบบเดียวเท่านั้น ทั้งโครงการมีทั้งหมด 261 ยูนิต โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.861538, 100.672466
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

สำหรับทำเลของโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 6/1 ที่มีทางเข้าหลักมาจากถนนเลียบด่วนกาญจนาภิเษก หรือจะเข้าจากทางซอยคู้บอน 27 ก็ได้ แม้จะเป็นทำเลชานเมืองกรุงเทพฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ แต่โดยทำเลที่ตั้งโครงการถือว่าสะดวกสำหรับรถยนต์มากๆนะ มีถนนรามอินทราเป็นถนนเส้นหลักเชื่อมต่อถนนสายต่างๆเข้าด้วยกัน รวมถึงมีทางด่วนให้ใช้ 2 สายคือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์หรือทางพิเศษฉลองรัช ที่ใช้วิ่งตรงเข้าเมืองไปลาดพร้าว พระราม 9 หรือจะออกเมืองไปสายไหม ลำลูกกาได้ และยังมีวงแหวนกาญจนาภิเษกที่วิ่งรอบนอกเข้าเมืองไปทางรามคำแหง บางนา พระราม 2 หรือจะออกเมืองไปเขตอุตสาหกรรมอย่างบางปะอินได้ และที่ขาดไม่ได้สำหรับจุดเด่นทำเลโครงการคือมีถนนเลียบด่วนกาญจนาภิเษกให้ใช้เลี่ยงรถติดกันอีกด้วย สามารถใช้ไปขึ้นทางด่วนหรือจะไปห้างสรรพสินค้าอย่าง Fashion Island ได้ง่ายๆ ไม่ต้องรถติดบนถนนรามอินทราเลย

ส่วนความอุดมสมบูรณ์เรียกได้ว่ามีครบไม่แพ้ในตัวเมืองกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะบนถนนรามอินทราซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของย่านนี้ มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง Fashion Island และ Promenade หรือตลาดนัดชื่อดังอย่างตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราก็อยู่ไม่ไกล ซุปเปอร์มาร์เก็ต Big C, Lotus และตลาดต่างๆ ก็มีครบ แต่ถ้าพูดถึงแหล่งชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการมากที่สุดหรือจะเป็นทางผ่านกลับบ้านของหลายๆคน คงต้องยกให้ถนนคู้บอนซึ่งถือเป็นถนนอีกเส้นหนึ่งที่มีความสำคัญต่อทำเลนี้มาก เนื่องจากเป็นทำเลชุมชนที่ค่อนข้างคึกคักมาก มีร้านค้าร้านอาหาร ตลาด ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก อยู่เกือบตลาดทั้งเส้น เรียกได้ว่าหาของกินได้ไม่ยากเลย แต่ก็ต้องใช้รถอยู่ดีนะ

ในส่วนของการเดินทางโครงการนี้จะเน้นใช้รถยนต์เป็นหลัก ซึ่งข้อดีคือมีทางเลือกใช้เส้นทางได้ค่อนข้างหลากหลายดี ไปขึ้นด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์สำหรับการเข้าเมืองแต่ต้องเสียค่าทางด่วนอีกต่อหนึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว

หรือจะไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งมีจุดขึ้นอยู่บริเวณแถวๆหน้า Fashion Island โดยเราสามารถวิ่งเลียบวงแหวนกาญจนาฯมาได้เรื่อยๆ เพื่อมาลัดออกถนนรามอินทราบริเวณใกล้ๆจุดขึ้นวงแหวนได้โดยไม่ต้องรถติดที่ถนนคู้บอนได้ในระยะทางประมาณ 6.2 km. ใช้เวลาประมาณ 16 นาที เท่านั้น

รายละเอียดโครงการ

ลองเข้ามาดูกันที่ตัวโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา ตัวโครงการจะอยู่ติดกับโครงการ Pleno รามอินทรา ซึ่งก็เป็นของ AP เช่นกันโดยใช้ถนนทางเข้าด้านหน้าร่วมกัน แต่แยกพื้นที่ภายในโครงการชัดเจน ต่างคนต่างก็มีส่วนกลางเป็นของตัวเอง สำหรับการจัดผังโครงการของ บ้านกลางเมือง รามอินทรา จะเน้นการวางตัวบ้านหันออกในแนวทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ต้องปะทะแสงแดดในช่วงเช้าและบ่ายโดยตรง เป็นทิศที่มีลมพัดผ่านรับลมตลอดปี วางแนวถนนหลักเชื่อมต่อไปยังซอยย่อย ส่วนใหญ่เป็นซอยตันจึงได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยจะไม่มีรถจากซอยอื่นๆ บ้านอื่นๆ มาวิ่งผ่านไปมา และช่วยให้การดูแลความปลอดภัยได้ง่าย

จริงๆแล้วพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse สวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว ถือว่าสำคัญมากๆสำหรับบ้านแบบทาวน์โฮม เพราะในบ้านทาวน์โฮมด้วยลักษณะของตัวบ้านจะไม่มีบริเวณสำหรับปลูกต้นไม้ ทำสวนมาให้แตกต่างจากบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝด ยกเว้นเราจะซื้อบ้านแปลงมุมที่จะมีพื้นที่ด้านข้างมาให้ แต่บ้านส่วนใหญ่ในโครงการก็มีแค่พื้นที่ด้านหน้าบ้านสำหรับจอดรถ หลังบ้านเป็นลานซักล้างหรือทำเป็นครัว ไม่มีพื้นที่ทำสวนปลูกต้นไม้ ลูกบ้านส่วนใหญ่ก็จะมาใช้พื้นที่ส่วนกลางกันมากกว่า เช่น ออกมาวิ่ง มาเดิน ออกกำลังกาย ใช่สนามหญ้าที่มีต้นไม้ร่มรื่นแทน พื้นที่ส่วนกลางจึงสำคัญมากในการเลือกให้มีขนาดเหมาะสม แบ่งโซนไว้หลากหลายจัดได้น่าใช้งานและดูแลได้ดี

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา จะอยู่บริเวณด้านในตรงกลางของพื้นที่โครงการจัดเป็น Clubhouse , สระว่ายน้ำ , ห้องออกกำลังกาย , สนามเด็กเล่นและพื้นที่สวน อยู่ในตำแหน่งที่ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ใกล้ๆสะดวกดี แบ่งโซนเป็นสัดส่วนดูแลได้ง่าย ด้านหน้าซุ้มโครงการออกแบบ Modern Style เรียบหรู สอดคล้องไปกับตัวอาคาร Clubhouse ใช้ระบบเข้า-ออกด้วยระบบ RFID หรือ Easy pass เพื่อความสะดวกรวดเร็ว มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติ CCTV และมี รปภ. ดูแลความปลอดภัยให้ตลอดเวลา

Image 1/12
ซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการ

ซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการ

นอกจากนี้ยังมีระบบ KATSAN (คัดสรร) จาก AP ที่ยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วย Support ลูกบ้านเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ที่จะเชื่อมต่อตั้งแต่หน้าโครงการ พนักงานรักษาความปลอดภัย นิติบุคคล ลูกบ้าน เข้าด้วยกัน โดยจะมีฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น

  • Notify & Motion : แจ้งเตือนเมื่อมีคนมาหา แจ้งเตือนเมื่อรถสาธารณะอยู่เกินเวลา
  • E-Stamp : ประทับตรายางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
  • Car Directory : ตรวจสอบทะเบียนรถเพื่อตามหาเจ้าของ แก้ปัญหาจอดรถขวางหน้าบ้านและการจราจร
  • Pre-Register : ลงทะเบียนรถยนต์ผู้มาติดต่อล่วงหน้า เข้าสู่โครงการโดยไม่ต้องแลกบัตร
  • Do not Disturb : การปฏิเสธการเข้าพบ โดยระบบจะแจ้งเตือนไปยังป้อม รปภ.หน้าโครงการ
  • Emergency : เรียก รปภ. เมื่อต้องการความช่วยเหลือ

คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของระบบ KATSAN (คัดสรร) ได้ ที่นี่

อีกอย่างที่น่าสนใจของโครงการคือ การดูแลโครงการ สำหรับโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา จริงๆก็เปิดขายมาประมาณปีกว่าแล้ว จึงเริ่มมีลูกบ้านเข้ามาอยู่อาศัย การจัดการของ AP คือการมีผู้ดูแลประจำในโครงการในนามของ SMART ที่จะเข้ามาดูแลส่วนต่างๆของโครงการตั้งแต่แรกเริ่มอยู่อาศัยและตลอดในช่วงเวลาที่โครงการยังเปิดขายอยู่ เมื่อปิดการขายลูกบ้านก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้ดูแลต่อเนื่องได้เลย

จริงๆแล้ว SMART ก็ทำหน้าที่เป็นนิติบุคคลและผู้ดูแลหมู่บ้าน ที่น่าสนใจคือการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้งานร่วมกัน ให้ลูกบ้านสามารถสื่อสารกับ SMART  ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นผ่าน Appication ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การรับข่าวสาร , การแสดงข้อคิดเห็นหรือสอบถามปัญหา ตลอดจนดูแลในเรื่องของการซ่อมบำรุงทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และที่พักอาศัย ไปจนถึงบริการต่างๆ เช่น รับพัสดุแทนให้ หรือให้คำปรึกษา ช่วยติดต่อ รปภ. โรงพยาบาล ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของระบบ SMART ได้ ที่นี่

จากการสอบถามว่าตั้งแต่เปิดโครงการมามีปัญหาอะไรบ้าง พบว่าปัญหาสุดคลาสสิก ของโครงการประเภทแนวราบโดยเฉพาะบ้านทาวน์โฮม คือ การจอดรถ บ้านบางหลังชอบจอดรถที่ถนนหรือบางทีจอดขวางหน้าบ้านคนอื่น วิธีการจัดการที่ SMART คือใช้การขอความร่วมมือและแจ้งความเหมาะสมในการใช้ถนนร่วมกัน ถ้าจะจอดสามารถให้จอดที่หน้าบ้านของตนเองได้เท่านั้น ซึ่งกรณีนี้จะพบในบ้านที่มีรถยนต์มากกว่า 2 คัน เป็นต้น ส่วนปัญหาอื่นๆในโครงการในตอนนี้ยังไม่มีนะ

แบบบ้าน

ทาวน์โฮม 3 ชั้น แบบบ้าน Urbanist ที่ดินเริ่ม 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องพักผ่อน, ที่จอดรถ 2 คัน

โครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือกเพียง 1 แบบ ขายแบบบ้านเปล่าๆ ให้เรามาซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มกันเอง เราลองมาดูความน่าสนใจของ ทาวน์โฮม 3 ชั้น ของที่นี่กัน เริ่มจากชั้นล่างจะเน้นความโปร่งโล่งของการใช้งานที่เชื่อมต่อกันจากส่วนห้องนั่งเล่นไปจนถึงส่วนรับประทานอาหาร ปรับพื้นที่การใช้งานได้ง่าย แต่แบบบ้านนี้ออกแบบเป็นครัวเปิดหรือจัดเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร Pantry ในบ้าน ถ้าครอบครัวไหนเน้นทำครัวจริงจัง อาจจะต้องไปปรับพื้นที่หลังบ้านทำเป็นครัวไทยแทนนะ ส่วนห้องน้ำในชั้นนี้จะได้แบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำให้ จึงไม่เหมาะที่จะทำห้องนอนในชั้นล่างนี้

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 ที่น่าสนใจก็คือ การจัดแบ่งพื้นที่ห้องนอนในชั้นนี้ จัดได้ 2 ห้อง แต่ห้องทางฝั่งด้านหน้าตัวบ้าน ถือว่าได้พื้นที่เยอะเป็นห้องนอนใหญ่ในชั้นนี้ที่ใช้งานได้เต็มพื้นที่ แถมมีระเบียงเปิดไปด้านหน้าตัวบ้านได้อีกด้วย

ชั้น 3 ของตัวบ้าน ที่เด่นๆเลยคือส่วน Multi Function room ที่นอกจากจะใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนแบบ Family area แบบส่วนตัว ก็ปรับเป็นพื้นทำงาน หรือจะกั้นห้องทำเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ กรณีบ้านไหนมีสมาชิกหลายๆคน อีกอย่างที่ส่งเสริมการใช้งานในชั้นนี้คือ ห้องน้ำ ที่มีทางเข้า-ออก ได้ทั้งจากห้องนอนใหญ่ และส่วน Multi Function room ช่วยเพิ่มความสะดวกใช้งานได้เยอะขึ้น ส่วนห้องนอนใหญ่จัดพื้นที่มีส่วน Walk in closet เชื่อมต่อไปห้องน้ำใช้งานได้ต่อเนื่องและเป็นส่วนตัวดี

ลักษณะและรูปแบบบ้านออกแบบเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. เน้นพื้นที่ใช้สอยภายใน 3 ห้องนอน และ 1 ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง 3-4 คน ตัวบ้านจะวางเรียงต่อกันเป็นแนวยาว บ้านที่อยู่แปลงมุมจะมีพื้นที่เปิดโล่งทางด้านข้างของตัวบ้านสำหรับจัดเป็นพื้นที่สวนได้ ส่วนแปลงปกติจะมีพื้นที่เปิดโล่งทางด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้น

บริเวณหน้าบ้านแต่ละหลังจะมีแนวรั้วกั้นแบ่งพื้นที่ดินของแต่ละหลังไว้เป็นสัดส่วน มีประตูเหล็กสีดำเป็นประตูหลักทางด้านหน้าทางเข้าของที่จอดรถ พร้อมกล่องจดหมายและกริ่งกดของแต่ละบ้าน บริเวณด้านหน้าบ้านโครงการจะมีพื้นที่ปลูกต้นไม้เล็กๆไว้ให้

จอดรถ 2 คันได้แต่จะเปิดประตูรถกว้างๆไม่ได้ เวลาถึงบ้านก็เอาของลงจากรถก่อนแล้วค่อยถอยรถเข้าบ้านจะสะดวกกว่า โครงการจะให้หลังคาแบบผ้าใบกันสาดแบบม้วนเก็บได้ ซึ่งเป็นจุดที่ลูกบ้านมักจะชอบต่อเติมกันมากที่สุด เพื่อต้องการจะคุมโทนของบ้านแต่ละหลังให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นรับแขก พื้นภายในบ้านปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังฉาบเรียบทาสี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง 2.6 เมตร แบ่งพื้นที่ใช้งานในชั้นล่างใช้เชื่อมต่อกันได้หมดทั้งส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และพื้นที่ครัว อีกฝั่งเป็นพื้นที่ห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันไดแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนดี

ระยะระหว่างทีวีและชุดโซฟาค่อนข้างกว้างประมาณ 3.5 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดใหญ่ได้แต่ถ้าทีวีใหญ่มากก็ต้องวางในตำแหน่งที่ไม่ไปบังประตูห้องเก็บของที่อยู่ทางด้านข้าง

ถัดเข้ามาด้านในตัวบ้านพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้และยังมีพื้นเหลือด้านข้างใช้งานได้แบบสบายๆ มีประตูบานเลื่อนกระจกด้านหลังสามารถเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ดี

แบบบ้านนี้ออกแบบเป็นครัวเปิดหรือจัดเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร Pantry ในบ้าน ถ้าครอบครัวไหนเน้นทำครัวจริงจัง อาจจะต้องไปปรับพื้นที่หลังบ้านทำเป็นครัวไทยแทนนะ

ส่วนห้องน้ำในชั้นนี้จะได้แบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำให้ จึงไม่เหมาะที่จะทำห้องนอนในชั้นล่างนี้ สุขภัณฑ์ต่างๆที่ได้จะเป็นของ American Standard

ส่วนพื้นที่หลังบ้านในบ้านตัวอย่างจัดเป็นไอเดียสวยๆแบบ Glass House แต่ถ้าจะต้องอยู่อาศัยกันจริง ตรงนี้คงกลายเป็นส่วนครัว หรือส่วนซักล้างของบ้านแทน หลังบ้านของจริงจะทำเป็นพื้นที่ระเบียงแบบเปิดโล่งเทปูนขัดเรียบไว้ให้ ใช้สำหรับเป็นส่วนซักล้างและตากเสื้อผ้าได้นะ

บันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบนบ้าน ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีต  ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้สำเร็จรูปและมีราวจับให้ตลอดแนวบันไดไปจนถึงชั้น 2 บริเวณทางขึ้นบันไดจะมีหน้าต่างกระจกอยู่เพื่อให้ได้แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาในโถงบันได ช่วยให้สว่างและโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ในเวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟ ทางขึ้น-ลง บันไดก็ไม่มืดทึบ

มาที่ห้องนอนในชั้น 2 จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5 ฟุต ได้สบายๆ และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน มีหน้าต่างและประตูกระจกเขียวตัดแสงบานใหญ่ที่หันออกทางด้านหน้าตัวบ้าน สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติเห็นวิวจากภายนอกแบบมุมกว้างได้ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.6 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด

มาที่ห้องนอน 2 จะอยู่ทางฝั่งด้านในของตัวบ้าน ห้องนอนนี้จะเล็กกว่าห้องใหญ่ทางด้านหน้าพอสมควร

อีกฝั่งของพื้นที่ห้องนอนจะแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วน Walk in closet สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้า แต่ในบ้านจริงจะไม่มีชุดตู้ให้นะคะ จะเป็นห้องเปล่าโล่งๆ ให้เราเลือกจัดแต่งห้องเองได้

มาที่ห้องน้ำในชั้น 2 ออกแบบให้เป็นห้องน้ำกลางใช้งานร่วมกันในชั้นนี้ ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน ในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบพร้อมใช้งาน

มาที่ชั้น 3 ของตัวบ้าน ที่เด่นๆเลย คือ ส่วน Multi Function room ที่นอกจากจะใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนแบบ Family area แบบส่วนตัว ก็ปรับเป็นพื้นทำงาน หรือจะกั้นห้องทำเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ กรณีบ้านไหนมีสมาชิกหลายๆคน

มาที่ห้องนอนในชั้น 3 จัดเป็นห้องนอนใหญ่ ภายในห้องนอนจะสามารถตั้งเตียงขนาดใหญ่ได้ มีระเบียงหันออกทางด้านหน้าตัวบ้าน เป็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่สามารถเปิดระบายอากาศรับแสงธรรมชาติช่วยให้ในตอนกลางวันไม่มืดทึบห้องมีความโปร่งโล่งมากขึ้น

ส่วนห้องนอนใหญ่จัดพื้นที่มีส่วน Walk in closet เชื่อมต่อไปห้องน้ำใช้งานได้ต่อเนื่องและเป็นส่วนตัวดี

มาที่ห้องน้ำในชั้น 3 ออกแบบให้เป็นห้องน้ำกลางใช้งานร่วมกันในชั้นนี้ ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน ตำแหน่งของห้องน้ำในชั้นนี้ ไม่ว่าเราจะเลือกบ้านแปลงมาตรฐานหรือแปลงมุม ก็จะมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้ดีและได้แสงธรรมชาติแบบนี้

อีกอย่างที่ส่งเสริมการใช้งานในชั้นนี้คือ ห้องน้ำ ที่มีทางเข้า-ออก ได้ทั้งจากห้องนอนใหญ่ และส่วน Multi Function room ช่วยเพิ่มความสะดวกใช้งานได้เยอะขึ้น

ราคา

ราคา ณ วันที่ 9 April 2020

  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.

  • ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • ราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท

  • ราคาโปรโมชัน 3.88 ล้านบาท (เพียง 5 ยูนิตเท่านั้น) 3.69 ล้านบาท ( up date 25/02/2021)
    • จอง 0 บาท
    • ทำสัญญา 5,000 บาท
    • Bonus x2 : 14 วันต้องได้บ้าน
    • ฟรีค่าที่ดิน เฉพาะลูกค้าที่จอง First Booking เท่านั้น

    • ค่าส่วนกลาง 68 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ปัจจุบันโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา มีการปรับราคาเป็น 3.79 ล้านบาท ( up date 23/08/2021)

    เราลองมาดูในส่วนของโครงการในทำเลนี้กันบ้าง โดยภาพรวมถือเป็นทำเลโครงการแนวราบเกือบทั้งหมด มีรูปแบบบ้านให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทีเดียว ตั้งแต่บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมทั้ง 2 และ 3 ชั้น ราคาไล่ระดับกันไปตามรูปแบบโครงการ แต่ถ้ามาดูกันเฉพาะทาวน์โฮมในทำเลนี้ ถ้าเป็นโครงการใหม่ ไม่รวมประเภทมือสอง จะสามารถจัดราคาแบบลดมาแล้ว เป็นราคาโปรโมชันในช่วงนี้ จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มราคา คือ

    • ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2.19 – 2.7 ล้านบาท
    • ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.6 – 3.9 ล้านบาท

    ปัจจุบันโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา มีการปรับราคาเป็น 3.79 ล้านบาท ( up date 23/08/2021)

    คราวนี้เราลองมาเปรียบเทียบเฉพาะโครงการประเภท ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียงกับโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา มีทั้งที่กำลังเปิดขายอยู่อย่างโครงการ Sammakorn Avenue รามอินทรา-วงแหวน และประเภทที่ขายเป็นมือสอง อย่างโครงการ The Exclusive วงแหวน-รามอินทรา ซึ่งจะเห็นข้อแตกต่างดังนี้

    • ระดับราคา : หากเปรียบเทียบในส่วนของราคาแล้ว ถ้าพิจารณาที่ราคาปกติ โครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา จะถูกกว่า Sammakorn Avenue รามอินทรา-วงแหวน ประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งถ้าเทียบกับขนาดพื้นที่ใช้สอย Sammakorn Avenue รามอินทรา-วงแหวน ก็จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าด้วย แต่ในตอนนี้มีการจัดโปรโมชัน โครงการ Sammakorn Avenue รามอินทรา-วงแหวน จะลดมากกว่า แต่ก็มีให้เลือกเพียง 1 ยูนิต ส่วนบ้านกลางเมือง รามอินทรา จะมีตัวเลือกบ้านราคาโปรโมชันมากกว่า มีให้เลือก 5 หลัง แต่ถ้าใครมองหาบ้านที่งบน้อยกว่านั้นอาจจะเป็นบ้านมือสองแทน แต่ก็จะไม่ได้บ้านใหม่เท่านั้นเอง
    • การวางผังโครงการ : โครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัย น้อยกว่าอีก 2 โครงการ จึงมีความหนาแน่นที่น้อยกว่า และโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา จะไม่มีบ้านประเภทอื่นรวมอยู่ แตกต่างจากอีก 2 โครงการ ที่จะเป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ทาวน์โฮม 2 ชั้น และบ้านแฝดอยู่รวมกัน การที่มีเฉพาะทาวน์โฮม 3 ชั้น ในโครงการไม่มีบ้านประเภทอื่นมาปะปน จึงได้เรื่องของสังคมการอยู่อาศัยสามารถกำหนดกลุ่มผู้อยู่อาศัยในโครงการได้
    • แบบบ้าน+พื้นที่ใช้สอย : สำหรับการจัดพื้นที่ใช้สอย โครงการบ้านกลางเมือง จะได้ที่ดินเริ่มต้นที่ 18  ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. ซึ่งเล็กกว่าท่าเทียบกับโครงการอื่นๆใกล้เคียง ส่วนใหญ่จะจัดมา 3-4 ห้องนอน แต่ที่โครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา จะได้เรื่องความยืดหยุ่นในการปรับพื้นที่ใช้สอย พื้นที่ในชั้น 3 มีส่วน Multi Function room ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนแบบ Family area แบบส่วนตัว ได้ความโปร่งโล่งแต่ก็สามารถปรับเป็นพื้นทำงาน หรือกั้นผนังทำเป็นห้องนอนอีกห้องกรณีมีสมาชิกหลายคน ห้องน้ำชั้นบนสุดเข้าได้ 2 ทาง แต่ชั้นล่างจะได้ครัวเปิด ในขณะที่ Sammakorn Avenue รามอินทรา-วงแหวน จะกั้นห้องมาให้แล้ว 4 ห้องนอนเลย แต่จะได้ส่วนครัวปิดชั้นล่างแทน
    • พื้นที่ส่วนกลาง+ความปลอดภัย : ในส่วนของพื้นที่โครงการ จากการที่ได้ไปชมบรรยากาศจริง โครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา ออกแบบได้สวยน่าใช้งาน ทั้งเรื่องบรรยากาศและแนวคิดที่ใช้ในการออกแบบ ส่วนกลางที่จัดมาให้ คือเป็นมาตรฐานที่ต้องมีอยู่แล้วแต่มีการออกแบบให้ตอบโจทย์ในการใช้งานมากขึ้น เช่น สนามเด็กเล่นใช้พื้นยางกันกระแทก ช่วยลดการบาดเจ็บของเด็กๆเวลามาใช้งาน มีทางลาดต่างๆให้เข็นรถใช้งานได้ในคนหลายกลุ่ม รวมถึง Appication ต่างๆ ทั้งระบบ KATSAN (คัดสรร) และระบบ SMART ที่ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวก มีความปลอดภัย และดูแลภาพรวมโครงการได้ง่ายยิ่งขึ้น

    ความคิดเห็นของผู้เขียน

    เรามองว่าความน่าสนใจของโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา ในเรื่องของทำเลถือว่าเดินทางสะดวกเพราะมีตัวเลือกในการเดินทาง เข้า-ออกเมืองง่าย สามารถใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือ วงแหวนกาญจนาภิเษก ก็ได้ แต่ความอุดสมบูรณ์ใกล้กับโครงการมากที่สุดต้องมาทางซอยคู้บอนที่มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทีเดียว

    ที่เด่นๆ เลยคือเรื่องแบบบ้านและส่วนกลางของโครงการ จำนวนยูนิตน้อยกว่าโครงการโดยรอบ ตัวบ้านปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย เหมาะกับครอบครัว 3-4 คน วัสดุที่ได้ถือว่ามาตรฐานของโครงการระดับนี้ ส่วนกลางและบรรยากาศภายในโครงการออกแบบได้ดีเลย สวยน่าใช้งาน เหมาะกับคนในหลายช่วงวัย เน้นการใช้งานที่ปลอดภัย  มีระบบ KATSAN (คัดสรร) และระบบ SMART เพิ่มมาให้ในโครงการ


    สำหรับรายละเอียดโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา ถ้าทีมงาน Thinkofliving ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ หรือได้เข้าไปทำรีวิวฉบับเต็ม ทางเราจะรีบมาอัพเดทให้ รอติดตามอ่านกันนะคะ 😀

    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : www.facebook.com/ThinkOfLiving