รีวิวโครงการ

The Sneak แอบย่องส่องอสังหาฯ EP.11 – Yuu คอนโดแต่งครบสไตล์ญี่ปุ่น วิวทะเล จาก SFC Venture Sriracha

22 กันยายน 2018

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1637 … สวัสดีครับวันนี้มีโอกาสได้พามาดูคอนโดแนวตากอากาศอีกครั้งกับโครงการ Yuu เป็นคอนโด High Rise ติดทะเลในย่านศรีราชา และเป็นคอนโดแห่งแรกของ SFC Venture Sriracha (บริษัทในเครือบริษัทแสงฟ้า ก่อสร้าง จำกัด) โครงการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น เน้นการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายลงตัว ได้วิวภูเขาและทะเลศรีราชา พร้อมพื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน ในราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ

Fact @ 19 July 2018

  • Yuu (ยู)
  • SFC Venture Sriracha Co., Ltd. (บจก. เอสเอฟซี เวนเจอร์ ศรีราชา)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
  • คอนโด High Rise 29 ชั้น 1 อาคาร 285 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด n/a ยูนิตที่อาคาร n/a
  • ที่จอดรถประมาณ 125 คันคิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 2-1-25.6 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  ต.ค. 2017
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3/2019
  • 1 Bedroom 33.5 – 41.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 57 – 71.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 130,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 038-325-888 , 064-274-4954

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.192157, 100.933822

โครงการ Yuu ตั้งอยู่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตัวโครงการด้านหน้าอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทและมีพื้นที่โครงการเดียวกันในอนาคตทางด้านหลังติดชายหาดทะเลศรีราชา โดยถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก จากตัวโครงการถ้าเลี้ยวซ้ายขึ้นเหนือจะสามารถมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรีและกรุงเทพฯได้ แต่ถ้าไปกลับรถแล้วลงใต้จะสามารถไปมุ่งหน้าไปพัทยา ระยอง จันทบุรี และตราดได้ หรือจะใช้เส้นทางลัดเลาะอื่นๆไปออกถนนกรุงเทพ-พัทยา(มอเตอร์เวย์)ได้อีกหลายเส้นทาง ถือว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวกเพราะติดถนนหลัก

การเดินทางโดยไม่ใช้รถมีรถเมล์ปอ.1 ปอ.2 และรถสองแถววิ่งผ่าน ตั้งแต่โรบินสันศรีราชาถึงตลาดหนองมน นอกจากนี้ยังมีรถตู้ที่วิ่งตั้งแต่กรุงเทพฯไปจนถึงพัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด แต่ต้องโทรไปบอกกับคิวที่ห้างโรบินสันหรือตึกคอมให้แวะรับเอาซึ่งสามารถขึ้นที่หน้าโครงการได้เลย แต่ปัญหาคือถ้าจะไปฝั่งพัทยาต้องข้ามถนน 6 เลน มาอีกฝั่งเพื่อขึ้นรถ ซึ่งไม่มีสะพานลอยหรือทางม้าลายเลยจึงค่อนข้างอันตรายเพราะเป็นทำเลต่างจังหวัดมีรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงหลายคัน ทำเลนี้จึงเหมาะที่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกกว่าครับ

ด้านความอุดมสมบูรณ์บริเวณโดยรอบโครงการจะไม่ค่อยคึกคักมากนัก จะมีร้านอาหารใกล้กับโครงการทางด้านหน้าและร้านอาหารริมหาดซีฟู๊ดที่อยู่ในซอยข้างๆโครงการแค่ 2 ร้านเท่านั้น ส่วนแหล่งของกินและช้อปปิ้งที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ในตัวเมืองศรีราชาที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 km. สำหรับต่างจังหวัดซึ่งส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ส่วนตัวกันอยู่แล้วนั้นไม่ถือว่าไกลมากครับ ขับรถใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีก็ถึงแล้ว โดยภายในตัวเมืองประกอบด้วย ห้างโรบินสัน , ตึกคอม และ AEON Crnter ที่เป็นห้องสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของย่านนี้  หรือจะเป็น J PARK ที่เป็นคอมมูนิตี้มอล์สไตล์ญี่ปุ่นและมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นอยู่อาศัยกันในละแวกนี้เยอะมาก

ส่วนในตัวเมืองศรีราชาจัดเป็นแหล่งชุมชนที่พักอาศัยแนวราบที่มีความคึกคักและหนาแน่นพอสมควร มีโรงพยาบาลและโรงเรียนดังๆที่อยู่ใกล้ๆกันทั้ง รร.อัสสัมชัญ , รร.ดาราสมุทร และ รร.เซนต์ปอล คอนแวนต์ เลยออกไปอีกหน่อยก็จะเป็นมหาวิทยาลัยเกษตร วิทยาเขตศรีราชา ที่บริเวณโดยรอบก็มีความคึกคักไม่แพ้กันเพราะเป็นย่านสถานศึกษา นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยแหล่งงานทั้ง บมจ.ไทนออยล์ , นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง , เครืองสหพัตน์ และนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จึงทำให้อำเภอศรีราชานั้นเต็มไปด้วยแรงงานทั้งไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนิคมเหล่านี้ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น

เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับทำเลนี้เพิ่มเติมกันอีกสักหน่อย จากแผนที่เป็นการอธิบายโซนทำเลที่ตั้งของตัวโครงการในอำเภอศรีราชาให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ โดยในเขตพื้นที่เป็นสีในกรอบทั้งหมดนี้คือตัวเมืองศรีราชาชั้นใน(เก่า) เป็นที่ดินฝั่งติดชายทะเลและได้รับความนิยมที่สุด มีราคาที่ดินสูง จึงทำให้การรวบรวมที่ดินเป็นแปลงขนาดกลางหรือขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาเป็นโครงการใหม่สักโครงการนั้นทำได้ค่อนข้างได้ยาก โดยผมได้แบ่งแยกโซนออกเป็น 3 ส่วนคือ สีแดง , สีม่วง และสีเหลือง

โซนสีแดง : เป็นบริเวณใจกลางเมืองเก่าดั้งเดิม ย่านศรีราชานคร เกาะลอย ถนนเจิมจอมพล ส่วนใหญ่จะเป็นแนวอาคารพาณิชย์เยอะมากๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่าโซนนี้การที่จะรวมที่ดินผืนนึงให้เป็นแปลงใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการนั้นยากมาก เพราะที่ดินมันเต็มไปเกือบหมดแล้ว ถ้าจะมีใครหลุดที่ดินเปล่าแปลงใหญ่มานั้นมูลค่าก็ต้องสูงมากแน่ๆ ซึ่งโครงการที่เกิดใหม่ในย่านนี้คงหนีไม่พ้นคอนโดมิเนียมนั่นเอง

โซนสีม่วง : เป็นโซนที่จะเขยิบตัวไปทางอ่าวอุดมและแหลมฉบัง โซนนี้จะมีโครงการจัดสรรแนวราบเก่าตั้งอยู่ แต่ว่าปัจจุบันที่ดินเปล่าริมทะเล(บริเวณแถวร้านนาวาชายหาดเก่า) ก็เริ่มมีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมให้เห็นแล้วทั้ง Low Rise & High Rise แต่ก็ยังเป็นของผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีท่าเรือที่รองรับการขนส่งจากอุตสาหกรรมต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของบริษัท ไทยออยล์ ที่ประกอบธุรกิจโรงงานกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ทำให้ดึงกลุ่มความเจริญและที่อยู่อาศัยตามมาเป็นจำนวนมาก ที่ได้รับความนิยมในย่านนี้จะเป็นในรูปแบบเช่า เพราะว่าคนที่มาอยู่ในย่านนี้ไม่มาทำงานชั่วคราวเสาร์-อาทิตย์ก็กลับต่างจังหวัด หรือไม่ก็นักศึกษาที่มาเรียนในระยะเวลา 4 ปี ในย่านนี้จึงมีอาคารพาณิชย์ร้านค้า และก็อพาร์ทเมนท์เต็มไปหมด จึงเป็นอีกโซนหนึ่งที่มีผู้ประกอบการมาลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมเยอะมากเช่นกัน

โซนสีเหลือง : เป็นโซนที่นับว่าเงียบสงบที่สุด เนื่องจากว่าภูมิประเทศในโซนนี้มีลักษณะเป็นเชิงเขาลาดไหลลงสู่ทะเล และมีเนื้อที่ดินให้พัฒนาโครงการน้อย จึงเป็นที่ๆเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเพราะเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวมาก ฝั่งหนึ่งติดทะเล อีกฝั่งเป็นเนินเขา ถือว่าเป็นโซนที่ได้บรรยากาศธรรมชาติมากที่สุดและใกล้ตัวเมืองมากที่สุด เหมาะสำหรับโครงการแนวสูงและโครงการแบบตากอากาศ

หากใครสนใจเรื่องของทำเลศรีราชา สามารถอ่านบทความแบบละเอียดเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่

ระยะการกลับรถของโครงการ ถ้าเรามาจากทางกรุงเทพจะต้องกลับรถเพื่อมายังโครงการโดยมีระยะห่างประมาณ 520 m. ส่วนถ้าจากตัวโครงการแล้วต้องการกลับรถไปตัวเมืองศรีราชา จะมีระยะกลับรถห่างจากโครงการประมาณ 430 m.

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มกันที่หน้าเซ็นทรัลพลาซ่าชลบุรีซึ่งอยู่ในตัวเมืองชลบุรี ขับรถไปบนถนนสุขุมวิท(ทล.3) มุ่งหน้าลงใต้ไปตามทางศรีราชา/พัทยา ขับตรงมาเรื่อยๆประมาณ 1.7.4 km. จากนั้นกลับรถมาประมาณ 520 m. ก็จะถึงตัวโครงการแล้วครับ

เริ่มต้นที่ตัวเมืองชลบุรีบนถนนสุขุมวิทขาออกฝั่งมุ่งหน้าไปทางศรีราชา/พัทยา ตรงข้ามเป็นห้างเซ็นทรัลพลาซ่าชลบุรี ให้เราขับรถตรงไปเรื่อยๆเลยครับ

ระหว่างทางเราก็จะเจอห้าง Big C Exra อยู่ทางด้านซ้าย และห้าง Makro อยู่ทางด้านขวา ซึ่งยังอยู่ในเขตตัวเมืองที่นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายมากๆ สามารถแวะซื้อของกินและอาหารแพ็คเข้าบ้านได้จากที่นี่ จากตรงนี้ก็ให้ขับตรงต่อไป

ขับรถตรงไปตามป้ายบอกทาง อ.ศรีราชา / บางแสน ตรงไปยาวๆเรื่อยๆ

เลยมาอีกนิดจะเจอห้าง Big C HomePro และ Index Livingmall เป็นโซนช้อปปิ้งของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ดีๆนี่เอง ถ้าอยากแต่งบ้านเพิ่มก็มาแวะแถวนี้ได้นะครับ จากตรงนี้ก็ขับตรงต่อไป

ตามป้ายบางแสน / พัทยา ให้ขับรถตรงต่อไปเรื่อยๆ

ต่อมาให้ตามป้าย อ.ศรีราชา / พัทยา / ระยอง ไม่ต้องตามป้ายบางแสนแล้วนะ ให้ขับตรงไปได้เลย

ระหว่างทางจะผ่านตลาดหนองมนด้วย สามารถแวะซื้อข้าวหลามเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันได้นะ จากตรงนี้ก็ให้ขับตรงต่อไปอีก

ตามป้าย อ.ศรีราชา / พัทยา เหมือนเดิมครับ จะเห็นว่าเริ่มออกมาไกลจากตัวเมืองชลบุรีมากขึ้น กำลังจะเข้าสู่ อ.ศรีราชา แล้ว สังเกตได้จากสองข้างทางเริ่มมีแหล่งชุมชนหนาแน่นน้อยลง และเป็นวิวภูเขากับต้นไม้ธรรมชาติมากขึ้น

ตึกสูงทางด้านขวาคือคอนโด The Zea จะเป็นโครงการเพื่อนบ้านของเรา เป็นจุดสังเกตว่าใกล้ถึงที่ตั้งโครงการแล้วนะครับ

เมื่อขับเลยคอนโด The Zea มานิดเดียวเราก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านขวา สังเกตได้จากป้ายชื่อโครงการและอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ จากตรงนี้ให้ตรงไปอีกประมาณ 520 m. เพื่อกลับรถ

กลับรถเพื่อเข้าสู่ตัวโครงการที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เมื่อกลับรถแล้วให้ชิดซ้าย ขับตรงมาประมาณ 520 m. แล้วเลี้ยวเข้าสู่ตัวโครงการได้เลย โดย Sale Gallery ทางด้านหน้าจะเป็นของโครงการเก่า ส่วน Sale Gallery ใหม่ของโครงการ Yuu จะตั้งอยู่ด้านใน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะเห็นได้ว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นพื้นที่เปิดโล่งสามารถมองเห็นทะเลและพื้นที่สีเขียวได้โดยรอบ สามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับ พื้นที่ว่างและถัดออกไปเป็นคอนโดมิเนียม The Zea สูง 39 ชั้น ด้านซ้ายเห็นทะเลและด้านขวาเห็นภูเขา

  • ด้านทิศใต้ ติดกับ ซอยเล็กๆ มีบ้านพักอาซัยสูง 2 ชั้น ไม่มีอาคารสูงบังในระยะใกล้ มองเห็นวิวเปิดโล่งได้ไกลมาก มองเห็นเกาะลอยและทะเลได้ นับว่าเป็นทิศที่ดีที่สุดก็ว่าได้

  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับ ถนนสุขุมวิท เป็นทางเข้าหลักด้านหน้าของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ว่าง จะเห็นพื้นที่สีเขียวและภูเขาที่อยู่ห่างออกไป

  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับ พื้นที่ว่างของโครงการรอการพัฒนาในอนาคต เป็นตึกสูง 31 ชั้น ห่างออกไป 30 m. แต่ด้วยพื้นที่โครงการเป็นที่ดิน Slope ลงหาด จึงทำให้ความสูงของอาคารปัจจุบัน 29 ชั้น และอาคารใหม่ 31 ชั้น จะมีความสูงพอๆกัน ใกล้กับชายทะเลเป็นอาคารสูง 8 ชั้น และไกลออกไปเป็นวิวทะเลที่มองไปได้กว้างไกลที่สุด

หากใครสนใจดูวิวทิวทัศน์เพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมได้จาก link โดรนของโครงการ คลิกที่นี่

ลองมาเดินดูรอบๆโครงการกันบ้างนะครับ ด้านหน้าโครงการติดกับถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นถนนขนาดใหญ่กว้าง 6 เลน ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และมีพื้นที่ว่างเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่โดยรอบ

หันไปมองทางด้านซ้ายเป็นถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ด้านซ้ายมีคอนโดสูงตั้งอยู่ไม่ไกล และด้านขวาเป็นเชิงเขาและพื้นที่สีเขียวยาวตลอดแนว

ส่วนทางด้านขวาเป็นถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าไปทางพัทยา ทางด้านซ้ายเป็นพื้นที่สีเขียว และทางด้านขวาเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ยาวต่อเนื่องตลอดแนว จะสังเกตได้ว่าถนนหน้าโครงการนี้จะไม่มีสะพานลอยหรือทางม้าลายอยู่เลย ทำให้เป็นทำเลที่สะดวกต่อการใช้รถมากกว่านะครับ

เรามาดูทางด้านซ้ายของโครงการกันก่อน จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นร้านแกะสลักป้ายหิน

ติดกันจะเป็นซอยเล็กๆที่ลัดเลาะไปทางด้านข้างของโครงการเพื่อไปยังร้านอาหารริมหาดซีฟู๊ดได้ ส่วนทางซ้ายถัดไปก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นยาวตลอดแนว ด้านล่างมีร้านหมูสะเต๊ะอยู่ 1 ร้าน

เดินตรงมาดูอีกหน่อยก็จะยังเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเช่นเดิม ด้านล่างเปิดเป็นกิจการขายของมือสอง

กลับมาที่ด้านหน้าโครงการทางด้านซ้ายจะมีอาคาร Sale Gallery ของโครงการตัวเก่าตั้งอยู่ โดย Sale Gallery ใหม่ของโครงการ Yuu จะตั้งอยู่ทางด้านในซึ่งสามารถเข้าได้จากทางเข้าโครงการทางด้านขวา

และเมื่อมองไปทางด้านขวาติดกับทางเข้าโครงการจะเป็นพื้นที่ว่าง และถัดไปจะเป็นคอนโด The Zea ซึ่งมีความสูง 39 ชั้น

ทางเข้าโครงการสามารถเข้าได้จากถนนสุขุมวิท เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง

โดยทางนี้จะเป็นทางลาดลงไปด้านล่าง มีความชันไม่มาก สามารถขับรถผ่านได้สะดวก

เมื่อลงทางลาดมาจะเจอกับทางแยก ถ้าเลี้ยวขวาจะสามารถเข้าสู่ตัวโครงการได้เลย แต่ทางตรงไปทางซ้ายจะไปทางซอยเล็กๆทางด้านข้างของโครงการซึ่งเป็นทางไปร้านอาหารริมหาดซีฟู๊ดและสามารถออกสู่ถนนสุขุมวิทได้

เดินตรงมาดูทางด้านซ้ายกันก่อนนะครับ ถนนนี้เป็นถนนภาระจำยอมกว้าง 2 เลน รถสามารถวิ่งสวนกันได้ ทางด้านขวาเป็นเขตที่ดินรั้วโครงการ ส่วนทางด้านซ้ายเป็นอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดริมถนนสุขุมวิทมีความสูง 4 ชั้น

เดินตรงต่อมาจะเจอทางแยก ซึ่งถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายจะสามารถไปออกถนนสุขุมวิทได้ซึ่งเป็นเส้นทางที่เราได้เดินผ่านหน้าปากซอยไปแล้วก่อนหน้านี้ครับ

ส่วนถ้าเราเลี้ยวขวาจะสามารถลัดเลาะไปตามรั้วด้านข้างโครงการเพื่อไปร้านอาหารริมหาดซีฟู๊ดได้

โดยในซอยนี้ทางด้านซ้ายจะมีบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นอยู่ 2 – 3 หลัง และจะมีร้านขายของชำเล็กๆอยู่ด้วย ถัดมาด้านในจะเป็นที่ว่าง

เมื่อเดินมาจนสุดซอยจะเป็นทางลาดลงไปด้านล่าง และเริ่มมองเห็นทะเลแล้วด้วย

สุดเขตรั้วด้านหลังโครงการจะเป็นอาคารสูง 8 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ตรงพื้นที่ที่เป็นเชิงเขาที่มีความลาดชันและต่ำกว่าที่ดินของโครงการพอสมควร

และด้านในสุดจะเป็นร้านอาหารริมหาดซีฟู๊ดซึ่งสร้างยื่นออกไปในทะเล โดยเราจะเห็นชายหาดบริเวณนี้จะไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเลเท่าไหร่นัก แต่จะเหมาะกับการชมวิวมากกว่านะครับ

กลับมาที่ด้านหน้าตรงบริเวณทางเข้าโครงการ จะเห็นได้ว่า 2 ข้างทางมีการล้อมรั้วเมทัลชีทเพื่อกำลังก่อสร้างอาคารของโครงการ Yuu กันอยู่

เดินทางเข้ามาเรื่อยๆจนสุดทางตรงต้นมะขามขนาดใหญ่จะเป็นที่ตั้งของ Sale Gallery บริเวณโดยรอบจัดสวนจำลองบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบ Zen และมีที่จอดรถทางด้านข้างอาคาร

ตัวอาคาร Sale Gallery ลักษณะโมเดิร์น มีระเบียงกว้างและผนังกระจกขนาดใหญ่ สามารถ Take View ทะเลทางด้านหน้าได้ เพราะที่ตั้งของ Sale Gallery จะตั้งอยู่ด้านในสุดของพื้นที่โครงการที่ติดกับชายทะเล

มองออกไปทางระเบียงจะได้วิวทะเลแบบนี้ ในอนาคตคาดว่าทางโครงการจะมีการปรับภูมิทัศน์ชายทะเลให้ดูสวยงามและน่าใช้มากยิ่งขึ้น

หันไปทางด้านซ้ายจะเห็นอาคารพักอาศัยกับร้านอาหารที่เราได้เดินไปดูมาเมื่อสักครู่นี้

ส่วนทางด้านขวาจะเห็นวิวทะเลได้ไกล ติดกับรั้วโครงการทางด้านนี้จะเป็นที่ว่างครับ

เข้ามาภายใน Sale Gallery จะมีการตกแต่งสไตล์แบบ Modern Japanese มีเคาน์เตอร์ติดต่ออยู่ทางด้านหน้าซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลนั่งอยู่ตลอดเวลา ห้องตัวอย่างจะอยู่ทางด้านบน ส่วนทางด้านขวาจะเป็นที่นั่งติดกับผนังกระจกสามารถ Take Viwe ทะเลภายนอกได้ และมีโมเดลตั้งอยู่ตรงกลาง

นอกจากนี้ภายใน Sale Gallery ยังมีการตกแต่งและจัดเป็นสวน Zen สไตล์ญี่ปุ่นตาม Concept แนวความคิดของโครงการให้ได้ชมบรรยากาศจำลองได้อีกด้วย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • รร.ดาราสมุทร 2.4 km.
  • ตลาดสดบางพระ 3 km.
  • รพ.สมิติเวชศรีราชา 3.4 km.
  • วัดเขาบางพระ 3.6 km.
  • สวนสุขภาพ 3.7 km.
  • AEON Center 4.2 km.
  • เกาะลอย 4.4 km.
  • โรบินสัน ชลบุรี 4.5 km.
  • ตึกคอม 4.6 km.
  • รร.อัสสัมชัญ 4.9 km.
  • รร.เซนต์ปอล คอนแวนต์ 4.9 km.
  • รพ.สมเด็จฯ 5.3 km.
  • ท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ 8.3 km.
  • BSC Sport Club 8.4 km.
  • บมจ.ไทยออยล์ 11.1 km.
  • J Park 11.3 km.
  • เครือสหพัฒน์ 13.9 km.
  • นิคมฯแหลมฉบัง 16.1 km.
  • นิคมฯปิ่นทอง 17.1 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

ก่อนที่จะไปดูรายละเอียดของโครงการ เดี่ยวผมจะอธิบายที่มาที่ไปของโครงการ Yuu กันก่อนนะครับ เดิมทีที่ดินผืนนี้เคยเป็นของบริษัท  ณุศา ศรีราชา คอนโดเทล  มาก่อน ภายใต้ชื่อโครงการว่า Nusa Sriracha ภายหลังบริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ซึ่งบริษัทชั้นนำที่อยู่ในตลาดรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และเชี่ยวชาญในการก่อสร้างอาคารสูง มากว่า 49 ปี  ได้ซื้อหุ้นของบริษัท  ณุศา ศรีราชา คอนโดเทล 100% และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอสเอฟซี เวนเจอร์ ศรีราชา จำกัด (บริษัทในเครือบริษัทแสงฟ้า ก่อสร้าง จำกัด) มีผลให้บริษัท เอสเอฟซี เวนเจอร์ ศรีราชา จำกัด เป็นเจ้าของในการพัฒนาโครงการ Yuu แต่เพียงผู้เดียว

มาดูภาพรวมโครงการกันครับ Yuu เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น บนที่ดินขนาดประมาณ 2-1-25.6 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพ และมีพื้นที่ทางด้านหลังติดชายหาดศรีราชา ออกแบบด้วยแนวคิดการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ ทะเลและภูเขาของศรีราชา ตกแต่งด้วยสไตล์ Zen แบบญี่ปุ่น จุดเด่นของโครงการคือทำเลที่อยู่ฝั่งติดชายหาด เป็นทำเลพักผ่อนเงียบสงบไม่พลุกพล่าน สามารถมองเห็นวิวได้กว้างทั้งวิวภูเขาและวิวทะเลศรีราชา รวมถึงยังมีพื้นที่โครงการติดกับชายหาดทางด้านหลัง ทำให้สามารถมีชายหาดเป็นส่วนตัวของโครงการได้อีกด้วย จึงเป็นโครงการที่เหมาะแก่การพักผ่อนแบบตากอากาศหรืออยู่อาศัยก็ได้

ภาพบรรยากาศจำลองภายในบริเวณ Lobby ของโครงการ ออกแบบสไตล์ Modern Japanese ใช้ไม้สีอ่อนและหินสีเข้มตัดกันได้อย่างลงตัวและดูเป็นธรรมชาติ ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทำให้พื้นที่ภายในโปร่งโล่งไม่อึดอัดและ Take View ภายนอกได้ ส่วนทางด้านซ้ายจัดเป็นโซฟา Built in เป็นแนวยาวไว้สำหรับนั่งคอยหรือพักผ่อน มีโต๊ะลายหินอ่อนทรงกลมเข้ากันได้ดีกับการออกแบบให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

ภาพจำลองบรรยากาศ Zen Garden บนชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้น Main Facilities หลักของโครงการ ประดับด้วยต้นไม้และสวนหินสไตล์ญี่ปุ่นล้อไปกับเส้นโค้งเว้าดูเป็นธรรมชาติและลื่นไหล เป็นที่ไว้สำหรับเดินเล่นและมีศาลาให้ได้นั่งพักผ่อนกันในสวน และยังมี Putting Green ไว้สำหรับซ้อมพัตต์กอล์ฟที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบให้ได้เล่นกันอีกด้วย

ภาพบรรยากาศจำลอง Japanese Tatami room เป็นห้องนั่งเล่นจิบชาสไลต์ญี่ปุ่น ภายในห้องปูพื้นด้วยเสื่อ Tatami และโต๊ะญี่ปุ่น ผนังด้านข้างทำเป็นฉากไม้แบบญี่ปุ่นสามารถเลื่อนเปิดออกเพื่อชมวิวสวน Zen ภายนอกได้ รวมถึงยังมีชานพักด้านนอกให้ได้นั่งเล่นชมสวนอย่างใกล้ชิดเหมือนที่เห็นในหนังญี่ปุ่นบ่อยๆ

ภาพบรรยากาศจำลอง Kids Kingdom เป็นส่วนที่อยู่ใกล้กับห้อง Japanese Tatami room ทำให้เวลาผู้ใหญ่พาลูกหลานมาเล่นในนี้ก็สามารถนั่งคอยในห้องญี่ปุ่นที่อยู่ข้างๆได้ ภายในตกแต่งด้วยลายการ์ตูนสีหวานสดใสและมีเครื่องเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก

ภาพบรรยากาศจำลอง Co – Working Space เป็นห้องสำหรับนั่งทำงาน พักผ่อน หรืออ่านหนังสือ ภายในมีชุดโต๊ะและโซฟาหลายชุดและหลายแบบให้ได้เลือกใช้ตามความชอบของแต่ละคน เน้นใช้วัสดุประเภทไม้และหินสีอ่อนทำให้ภายในดูสว่างและเข้ากับธรรมชาติภายนอก ผนังโดยรอบเป็นกระจกทำให้รู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัดและ Take View สวน Zen ภายนอกทางด้านซ้ายหรือจะเป็นสระว่ายน้ำทางด้านขวาก็ได้

ภาพบรรยากาศจำลองห้อง Fitness ภายในมีเครื่องออกกำลังกายหลายชิ้น พื้นและเพดานเป็นไม้สีอ่อนธรรมชาติ ผนังโดยรอบเป็นกระจกทำให้เวลาออกกำลังกายไปก็สามารถ Take View ภายนอกไปได้ด้วย

ภาพบรรยากาศจำลอง Swimming Pool อยู่บนชั้น 4 ของอาคารฝั่งทางด้านทิศตะวันออกทำให้แดดไม่ร้อน ตอนบ่ายจะได้เงาของอาคารทางทิศตะวันตกช่วยบังแดดได้ด้วย สระเป็นแบบ Infinity Edge Pool เวลาว่ายน้ำอยู่แล้วมองออกไปทางฝั่งทะเลจะเห็นผืนน้ำทะเลกลมกลืนเป็นผืนเดียวกันกับสระ ทางด้านซ้ายมีที่นั่งสำหรับพักผ่อนริมสระได้

ภาพบรรยากาศจำลอง Onsen ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ซึ่งทางโครงการได้บอกมาว่าระบบกรองน้ำในบ่อเป็นระบบที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้น้ำในบ่อมีคุณภาพ ความสะอาดเทียบเท่าน้ำแร่ที่เราหาซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป และยังแบ่งออกเป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งมีอุณหภูมิเทียบเท่าของญี่ปุ่นดั่งเดิมคือ 40 – 44 องศาเซลเซียส และยังมีบ่อน้ำเย็นสำหรับลดอุณหภูมิของร่างกายอีกด้วย

สุดท้ายเป็นภาพบรรยากาศจำลองบริเวณชายหาดทางด้านหลังของโครงการ โดยทางโครงการจะมีการถมทรายเพื่อปรับสภาพบริเวณชายหาดส่วนตัวของโครงการให้มีความน่าใช้งานมากขึ้น มีการเล่นระดับแบบขั้นบันไดเพื่อจัดเป็นที่นั่งสำหรับชมวิวทะเลและดูพระอาทิตย์ตกได้

โครงการ Yuu เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 285 ยูนิต ตัวอาคารมีลักษณะการจัดวางเป็นขั้นบันไดแบบ 3 ระดับ เริ่มจากที่ฐานด้านล่างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดประกอบด้วยชั้น 1 เป็นห้อง Lobby และยูนิตร้านค้า ส่วนชั้น 2 – 3 เป็นชั้นจอดรถ และชั้นที่ 4 เป็นชั้น Facilities หลักของโครงการแบบเต็ม Floor ประกอบด้วย สระว่ายน้ำยาว 27 x 5.75 เมตร , ห้องออกกำลังกาย , Co-Working Space , Japanese Tatami Room , Kid Kingdom , In-Door and Out-Door Onsen , Putting Green และ Zen Garden ต่อมาที่ชั้น 5 – 24 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 12 ยูนิตต่อชั้น และสุดท้ายที่ชั้น 25 – 29 จะเป็นชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิตเพียง 9 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

จากโมเดลจะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ว่างของโครงการอีก 3 แปลง ซึ่งจะเป็นโครงการที่อาจมีการพัฒนาเกิดขึ้นได้ในอนาคต(แต่ยังไม่มีแผนสำหรับ 2 แปลงด้านข้าง)

โครงการสามารถเข้าได้จากทางถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นถนนหลัก และเมื่อเลี้ยวซ้ายเข้ามาทางด้านหน้าจะเป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้ไปออกซอยข้างๆได้ ทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารซึ่งติดกับถนน Main หลักของแปลงที่ดินขนาดใหญ่ที่อาจมีการใช้ร่วมกันกับอาคารอื่นๆในอนาคต โดยจะมีทางเข้าของแต่ละโครงการแยกเป็นของตัวเองต่างหากอีกทีหนึ่งเพื่อสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการใช้งาน

ทางเดินรถภายในโครงการสามารถเดินรถวนรอบอาคารเพื่ออ้อมมาขึ้นที่จอดรถในตึกที่อยู่ทางด้านหลัง โดยชั้นจอดรถจะมีตั้งแต่ชั้น 2 – 3 มีที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 125 คันหรือคิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

Facilities ทางด้านหน้าโครงการที่เห็นได้จากโมเดลประกอบด้วย ชั้นที่ 1 ทางด้านหน้าจะมียูนิตร้านค้า และมี Lobby กับ Drop – Off อยู่ทางด้านใน สามารถขับรถเข้ามาเพื่อจอดรับ-ส่งและวนรถออกไปได้ ชั้น 2 – 3 เป็นชั้นจอดรถ มีการทำเป็น facade เป็นระแนงไม้ช่วยพรางสายตาและทำให้อาคารดูเรียบร้อยและสวยงามมากขึ้น ส่วนชั้น 4 เป็นชั้น Main Facilities จากทางด้านหน้าสามารถมองเห็น สระว่ายน้ำ , Fitness แล Co – Working Space ซึ่งอยู่ระหว่างสวน Zen กับสระว่าย้ำสามารถ Take View จากผนังกระจกได้ทั้ง 2 ฝั่ง

โมเดลอีกด้านจะมองเห็นสวน Zen , Putting Green และ Tatami room ซึ่งมีฉากกั้นสามารถเปิดเชื่อมต่อเพื่อ Take View สวน Zen แบบญี่ปุ่นภายนอกได้ ส่วนทางด้านข้างจะมองเห็นสระน้ำเล็กๆซึ่งเป็น Onsen แบบ Outdoor โดยที่ยังคงมีผนังทึบกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวแต่ยังคงได้พื้นที่เปิดโล่งด้านบนเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกได้ และมีแบบ Indoor แยกชาย – หญิงด้วย ซึ่งระบบทำน้ำร้อนของที่นี่จะใช้เครื่องกรองที่เป็นระบบทำให้เป็นน้ำแร่ เหมือนได้แช่ Onsen ธรรมชาติที่ญี่ปุ่นให้มากที่สุด

ส่วนโมเดลทางด้านบนที่ชั้น 25 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยจะมีจำนวนยูนิตพักอาศัยลดลงจาก 12 ยูนิตต่อชั้นเป็น 9 ยูนิตต่อชั้น โดยในส่วนยูนิตที่หายไปนั้นจะเป็น 3 ยูนิตทางด้านหน้า ทำให้บนพื้นที่ชั้น 25 มีสวนเล็กๆเกิดขึ้น ซึ่งสวนนี้ไม่สามารถออกไปใช้งานได้นะครับ

ส่วนโมเดลทางด้านหลังโครงการซึ่งมีพื้นที่ติดกับชายหาดนั้นได้ทำเป็นจุดนั่งชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกแบบขั้นบันไดเหมือนในภาพจำลองที่ได้ดูไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจากตัวอาคารที่ตั้งอยู่ทางด้านหน้าสามารถเดินมาใช้งานชายหาดทางด้านหลังได้ในระยะทางเดินประมาณ 100 m.

มาดู Master Plan กันบ้างนะครับ ทางเข้าโครงการจะสามารถเข้า – ออกได้จากทางด้านหน้า โดยมีทางเดินรถวนได้รอบอาคารและสามารถเดินรถได้สองเลนสวนทางกันได้ ซึ่งถ้าเป็นลูกบ้านที่ต้องการไปที่จอดรถสามารถขับตรงเข้ามาเพื่อวนอ้อมไปเข้าที่จอดรถในอาคารซึ่งอยู่ทางด้านหลัง หรือถ้าต้องการรับ – ส่งคนที่บริเวณ Lobby ก็สามารถเลี้ยวขวาเพื่อมาวนรับ – ส่งตรง Drop – Off และวนรถกลับออกไปได้สะดวก ภายในอาคารชั้น 1 ประกอบไปด้วย Lobby , Mail room และมียูนิตร้านค้าทั้งหมด 6 ยูนิต จัดวางโถงลิฟต์และบันไดหนีไฟไว้เยื้องไปทางซ้ายของอาคารตรงบริเวณ Lobby ทำให้สามารถ Access ขึ้นสู่ชั้นพักอาศัยได้สะดวกขึ้น

แปลนชั้น 4 เป็นชั้น Main Facilities แบบเต็ม Floor แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Indoor และ Outdoor ประกอบด้วยสระว่ายน้ำยาว 27 x 5.75 m. และมีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ ใกล้กันเป็น Co – Working Space ซึ่งอยู่ระหว่างสวน Zen และสระว่ายน้ำ มีผนังกระจกโดยรอบสามารถ Take View ได้ทั้ง 2 ฝั่ง และมี Kids Kingdom ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ Japnese Tatami room เหมาะสำหรับผู้ปกครองพาลูกหลานมาเล่นเครื่องเล่นจะได้มีพื้นที่นั่งคอยสำหรับผู้ใหญ่ใกล้ๆกับเด็กๆ มีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวน Zen ภายนอก โดยพื้นที่ภายนอกเป็นสวน Zen สไตล์ญี่ปุ่นที่ประดับด้วยต้นไม้และสวนหิน มี Putting Green ไว้สำหรับซ้อมพัตต์กอล์ฟซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ รวมถึงมีศาลาเล็กๆไว้สำหรับนั่งพักผ่อนในสวนได้ นอกจากนี้ยังมี Onsen แบบ Indoor  และ Outdoor แยกชาย – หญิง ให้ได้แช่น้ำแร่ผ่อนคลายกันอีกด้วย

ห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้นบน สามารถขึ้นมาได้จากทางบันไดบริเวณสระว่ายน้ำ ภายในมีเครื่องเล่นอยู่หลายชิ้นและผนังโดยรอบเป็นกระจกสามารถ Take View สระว่ายน้ำหรือสวน Zen ที่อยู่ด้านล่างได้ หรือจะมองไปเห็นวิวที่อยู่ไกลออกไปเช่นทะเลหรือภูเขาก็ได้

แปลนชั้น 5 – 24 เป็นชั้นพักอาศัยซึ่งมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 12 ยูนิตต่อชั้น เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยม วางโถงลิฟต์และส่วนงานระบบเอาไว้ตรงกลางของอาคาร การจัดลิฟต์ไว้ตรงกลางอาคารแบบนี้ทำให้สามารถจัดห้องต่างๆให้มองเห็นวิวได้โดยรอบทั้ง 4 ทิศ และมีทางเดินภายในล้อมรอบโถงลิฟต์ ซึ่งข้อดีคือให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะไม่ต้องเปิดประตูมาแล้วเจอห้องฝั่งตรงข้ามเหมือนเป็น  Single corridor แต่อาจรู้สึกอึดอัดได้บ้างเพราะไม่มีช่องเปิดเชื่อมต่อกับภายนอกบริเวณโถงทางเดินเลย มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง และมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 95 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นครับ

มีการจัดวางรูปแบบห้องโดยนำห้องใหญ่ๆอย่าง 2 Bedroom มาวางไว้ในตำแหน่งมุมทั้ง 4 ของอาคาร ทำให้เป็นห้องที่ได้รับวิวได้จากผนังทั้ง 2 ด้าน จากแปลนจะสังเกตได้ว่ามีห้องบางส่วนที่ภายในเป็นพื้นที่น้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นห้อง Type พิเศษที่มีฟังก์ชันยกระดับพื้นให้สูงขึ้นมาแบบห้องญี่ปุ่น จะเป็นอย่างไรนั้นจะพาไปชมต้องตัวอย่างในพาร์ทต่อไปครับ โดยรูปแบบห้องในแต่ละชั้นประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 33.5 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 40 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 41.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 57 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 62 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 63.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 68 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 71.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

โดยห้องพักส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Type ห้องแบบ 1 Bedroom ซึ่งห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบแดดร้อนในตอนกลางวัน มองเห็นวิวพื้นที่ว่างสีเขียวและเห็นคอนโด The Zea สูง 39 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนัก ซึ่งถ้าหันไปฝั่งซ้ายจะมองเห็นทะเลและหันไปทางขวาจะมองเห็นเชิงเขาได้เช่นกัน ส่วนห้องทางทิศใต้ที่อยู่ทางด้านหน้าโครงการติดกับถนนสุขุทวิท จะเป็นห้องที่เหมาะกับคนที่ชอบวิวภูเขาและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

ต่อมาเป็นห้องทางทิศตะวันตกซึ่งถือว่าเป็นทิศที่ดีที่สุดของโครงการเพราะเป็นวิวที่เปิดโล่งมองเห็นได้ทั้งทะเล เชิงเขา ตัวเมืองศรีราชาที่อยู่ไกลๆ และเกาะลอยได้ แล้วยังเป็นทิศที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้จากบนห้องพักอีกด้วย แต่ก็ต้องแลกมากับแดดที่อาจร้อนบ้างนิดหน่อยในเวลาช่วงกลางวัน ส่วนทิศสุดท้ายจะเป็นทิศเหนือซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่มีตึกหรือโครงการใหม่ในอนาคตขึ้นมาบังวิวทางทิศนี้ จึงมองเห็นวิวทะเลทางด้านหลังโครงการได้กว้างไกลที่สุด เป็นทิศที่แดดไม่ร้อนและได้ลมพัดเย็นสบาย เหมาะกับคนชอบวิวทะเลมากๆ แต่ในอนาคตจะมีอาคารสูง 31 ชั้นเกิดขึ้น และเนื่องจากที่ตั้งของโครงการเป็นที่ดิน Slope ลงหาด จึงทำให้อาคารปัจจุบันที่มีความสูง 29 ชั้น จะมีความสูงในระดับเดียวกันกับอาคารใหม่ที่มีความสูง 31 ชั้น

แปลนชั้น 25 – 29 เป็นชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิตลดลงเหลือเพียง 9 ยูนิตต่อชั้น จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยมีห้องพัก 3 ยูนิตทางขวามือที่หายไป ผนังทางด้านนี้จึงสามารถทำเป็นผนังกระจกหรือหน้าต่างได้ ทำให้โถงทางเดินของชั้นนี้มีความโปร่งโล่งและได้แสงธรรมชาติภายนอกส่องเข้ามาทำให้น่าเดินมากยิ่งขึ้น โดยรูปแบบห้องในแต่ละชั้นประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 33.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 40 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 43 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 44 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 41.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 62 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 63.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาดยาว 27 x 5.75 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • Co-Working Space
  • Japanese Tatami Room
  • Kid Kingdom
  • In-Door and Out-Door Onsen
  • Putting Green
  • Zen Garden
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 95 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 125 คันคิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

สำหรับแบบห้องของโครงการนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขายแบบ Fully Furnished คือมีให้เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งห้องพักจะมีให้เลือกดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33.5 – 41.5 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 57 – 71.5 ตารางเมตร

โดยทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33.5 ตารางเมตร กับห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 71.5 ตารางเมตรครับ

ห้องตัวอย่างแรกเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.5 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ Common area เชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆกันเป็นแนวยาวทำให้ดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด ประกอบด้วยพื้นที่ส่วนแรกทางด้านขวาเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนทางด้านซ้ายมีประตูทางเข้าห้องน้ำซึ่งสามารถเข้าจากห้องนอนได้อีกทางหนึ่ง ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ติดกันเป็นประตูกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องและสามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้ จะสังเกตได้ว่าภายในห้องนี้ไม่มีพื้นที่วางโซฟาเพราะเป็นห้องที่ได้ฟังก์ชันพื้นยกระดับแบบญี่ปุ่นเหมือนที่ได้เกริ่นไปแล้วก่อนหน้านี้ในแปลนอาคารชั้นพักอาศัย โดยเราสามารถนั่งบนพื้นยกระดับที่มีเบาะหรือเก้าอี้แบบญี่ปุ่นแทนการนั่งโซฟาได้ และยังมีประตูไม้บานเฟี้ยมสามารถเลื่อนปิดกั้นห้องเพื่อความเป็นสัดส่วนได้ด้วย

ภายในห้องนอนถ้าได้ฟังก์ชันยกระดับพื้นแบบนี้จะไม่มีฐานรองเตียงให้ แต่จะสามารถวางฟูกลงบนพื้นไม้แบบญี่ปุ่นได้เลย มีพื้นที่รอบเตียงสามารถเดินผ่านและใช้งานได้สะดวก โดยหน้าต่างที่ได้จะเป็นหน้าต่างเข้ามุมทำให้สามารถ Take View ออกไปได้กว้างมากขึ้น ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องทำให้ห้องโปร่งโล่งไม่อึดอัดและสามารถเลื่อนเปิดเพื่อระบายอากาศได้ และทางด้านซ้ายของเตียงมีพื้นที่ Walk-in closet ซึ่งภายในมีตู้เสื้อผ้า Built in มาให้ด้วย ติดกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำซึ่งภายในมีการแบ่งแยกพื้นที่โซนแห้งกับโซนเปียกเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่โซนเปียกจะได้เป็น Shower แบบยืนอาบและมีอ่างอาบน้ำให้เลือกใช้งาน ส่วนผนังด้านหนึ่งจะเป็นผนังกระจกแบบ Sexy Bath มองทะลุออกไปยังส่วนของห้องนอนได้ ช่วยดึงแสงธรรมชาติภายนอกจากหน้าต่างห้องนอนเข้ามาภายในห้องน้ำ ทำให้ห้องน้ำโปร่งโล่งไม่อึดอัด ส่วนภายในห้องน้ำก็มีสุขภัณฑ์ครบพร้อมใช้งาน

เริ่มที่ประตูทางเข้าจะได้เป็นประตูไม้บานทึบปิดผิวลามิเนตลายไม้ธรรมชาติ และได้ Digital Door Lock หน้าตาแบบนี้เลย

โดยตัว Digital Door Lock มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน 3 แบบคือ

  1. ใช้ระบบ Key Card Access แบบปกติ
  2. ใช้การกดรหัส
  3. ใช้ระบบเชื่อมต่อกับ Application ในโทรศัพท์มือถือ สามารถเปิด-ปิดล็อคได้จากระยะไกล

ข้อดีคือสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นโดยไม่ต้องพกบัตรหรือกดรหัสให้ยุ่งยาก และยังสามารถเปิดห้องให้กับเพื่อนหรือแขกที่มาหาที่ห้องได้จากระยะไกลในกรณีที่เราไม่ว่างมาเปิดเองหรือไม่อยู่ในห้องได้ด้วย

และนอกจากนี้ด้านในของประตูยังมีระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวและช่วยส่งสัญญาณเตือนภัยผู้บุกรุกเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ได้โดยตรง ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นอกจากการเปิด-ปิดประตูแล้ว ยังมีระบบ Home Automation ที่สามารถควบคุมและเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟส่องสว่างทุกชิ้นภายในห้องได้ผ่าน Application ในมือถืออีกด้วย ทำให้เราสามารถตรวจเช็คได้ว่าตอนออกจากบ้านเราลืมปิดไฟตรงไหนหรือเปล่า ถ้าลืมปิดตรงไหนก็สามารถสั่งปิดไฟผ่านมือถือได้สะดวกมากๆ

มาดูฟังก์ชันภายในห้องกันต่อ เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ Common area ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ครัว โต๊ะรับประทานอาหาร และพื้นที่ห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด ปูพื้นด้วยกระเบื้องยางไวนิลซึ่งมีความทนต่อน้ำและความชื้นมากกว่าพื้นลามิเนต และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.55 m.

พื้นที่ครัวมีความกว้าง 1.3 m. สามารถเดินผ่านและใช้เป็นพื้นที่ประกอบอาหารได้สะดวก และได้เป็นพื้นที่ครัวเปิดซึ่งอาจไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจังมากนัก

เคาน์เตอร์ครัวจะได้เป็นชุด Built in พร้อมติดตั้งไฟหลืบซ่อนมาให้ด้วย ภายในตู้มีช่องเก็บของเยอะพอสมควร วัสดุปิดผิวบานตู้และผนังเป็นเมลามีนสีแบบนี้เลย

ตู้ทางด้านขวาเมื่อเปิดออกมาแล้วจะติดประตูทางเข้าทำให้ไม่สามารถใช้งานประตูและเปิดตู้พร้อมๆกันได้ ระมัดระวังกันด้วยนะครับ

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียม สามารถทนความชื้นและกรดด่างได้ดี อ่างล้างจานขนาด 50 x 45 cm. และลึก 19 cm. ของยี่ห้อ Mex มีพื้นที่ด้านข้างเหลือพอให้วางจานชามและประกอบอาหารเล็กน้อย มีเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ Electrolux ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

บานตู้ทั้งหมดเป็นระบบ Solf close ช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี ส่วนที่จับเป็นแบบเซาะร่องแบบนี้ช่วยให้เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ทางด้านซ้ายไว้วางตู้เย็นได้ มีขนาด 70 x 65 cm. แต่เวลาซื้ออย่าลืมคำนึงถึงเรื่องความสูงด้วยนะครับ เพราะมีตู้แขวนผนัง Built in อยู่ด้านบนด้วย

ถัดมาเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น

สามารถวางโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้แบบนี้ และมีทางเดินด้านข้างสามารถเดินผ่านได้สะดวก

มองย้อนกลับไปทางหน้าห้องจะเห็นฟังก์ชันเชื่อมต่อกันโดยไม่มีผนังกั้นทำให้ได้พื้นที่ค่อนข้างโปร่งโล่งไม่อึดอัด

ฝ้าเพดานจะได้ทั้งไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า และมีการดรอปฝ้าซ่อนไฟแบบที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยครับ

ชั้นวางทีวี Built in แบบตั้งพื้นมาให้ บนตู้สามารถวางของได้ มีลิ้นชัก 3 ช่องสามารถเก็บของได้พอสมควร ด้านบนติดตั้งเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin มาให้ 1 เครื่อง

ระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2 m. แนะนำให้ติดทีวีแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่างก็เหมาะสมดีครับ ซึ่งจะได้ระยะในการดูทีวีมากขึ้นอีกเล็กน้อย ทำให้สามารถติดตั้งทีวีขนาด 40 – 42 นิ้วได้

ติดกันเป็นประตูกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงธรรมชาติภายนอกเข้ามาทำให้ห้องสว่างและสามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้

กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมพ่นสีขาว กระจกของจริงจะเป็นลามิเนตสีขาวใสธรรมดา

ระเบียงภายนอกมีขนาด 2.25 x 1.1 m. สามารถออกไปใช้งานได้จริง ราวกันตกเป็นกระจกลามิเนตกรอบสแตนเลสสีเงิน ทำให้ดูโปร่งโล่งและ Take View ได้ดีมากขึ้น

ผนังฝั่งขวามีปลั๊กไฟและต่อท่อน้ำงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งแนะนำให้ใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าเพราะมี Condensing unit แขวนอยู่ทางด้านบน เป่าลมร้อนออกมาทางด้านข้าง แนะนำให้ติดกริลดันลมร้อนออกไปด้านนอกเพื่อที่ระเบียงจะได้ไม่ร้อนสามารถออกมาใช้งานได้ ส่วนราวระเบียงตรงนี้จะเป็นระแนงช่วยพราง Condensing unit เวลามองจากภายนอกจะทำให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างมาให้ 1 ดวง

ย้อนกลับมาในห้องจะเห็นว่าไม่มีพื้นที่สำหรับวางโซฟา แต่สำหรับห้องนี้จะได้ฟังก์ชันแบบญี่ปุ่นและใช้นั่งพื้นบนเก้าอี้ญี่ปุ่นแทน ซึ่งทางโครงการจะแถมมาให้ด้วย

พื้นห้องนอนจะถูกยกระดับสูงขึ้นมาประมาณ 30 cm. สามารถใช้นั่งห้อยขาลงมาได้เหมือนนั่งบนโซฟา ด้านล่างมีลิ้นชัก 4 ช่องสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร ถือเป็นการใช้พื้นที่ด้านล่างได้เกิดประโยชน์ดีครับ

นอกจากนั้นยังได้ฟังก์ชันประตูไม้บานเฟี้ยม สามารถปิดเพื่อกั้นพื้นที่การใช้งานออกจากกั้นอย่างเป็นสัดส่วนและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เมื่อต้องการ เพียงแต่บานประตูจะพับเก็บอยู่ทางด้านซ้าย และมีเก้าอี้ญี่ปุ่น(พื้นที่โซฟา)อยู่ทางด้านขวา ทำให้การใช้งานเวลาเปิด-ปิดเพื่อเดินผ่านอาจจะลำบากเล็กน้อยเพราะจะติดที่นั่ง จึงต้องเก็บที่นั่งก่อนกั้นห้องหรือย้ายบานเฟี้ยมมาพับเก็บทางด้านขวาจะเหมาะสมกว่าครับ

พื้นที่ห้องนอนนั้นจากห้องตัวอย่างจะวางฟูกขนาด 5 ฟุตเอาไว้บนพื้นกลางห้องแบบญี่ปุ่น ซึ่งถ้าใครชอบหรือไม่อยากซื้อฐานเตียงเพิ่มจะทำแบบนี้ก็ได้นะ แต่ถ้าใครที่มีปัญหาตอนลุกนั่งจากฟูกเตี้ยๆที่บนพื้นแบบนี้แล้วไม่สะดวกก็แนะนำให้ซื้อฐานเตียงมาวางเพิ่มหรือจะเลือกเป็นห้องที่ไม่มีฟังก์ชันญี่ปุ่นก็ได้ครับ และเมื่อพื้นยกระดับขึ้นมาจะทำให้ฝ้าเพด้านห้องนี้สูงประมาณ 2.25 m.

ด้านขวามีหน้าต่างกระจกใหญ่เกือบเต็มผนัง ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องทำให้สว่างโปร่งโล่งได้ดี และจะได้เป็นช่องกระจกขนาดใหญ่ทำให้ Take View ได้ดีขึ้นโดยที่ไม่มีเส้นกรอบมาบดบังสายตา ช่องด้านซ้ายเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้

อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจคือได้เป็นหน้าต่างแบบเข้ามุมทำให้ช่วยเพิ่มมุมมองได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เหมาะกับคอนโดแบบตากอากาศที่เน้นชมวิวได้ดีจริงๆครับ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวามีความกว้างประมาณ 90 cm. ทางโครงการจัดเป็นโต๊ะญี่ปุ่นอเนกประสงค์มาให้ ซึ่งของจริงเราก็จะได้แบบนี้ด้วยนะครับ สามารถใช้นั่งพักผ่อน ชมวิว อ่านหนังสือข้างหน้าต่างได้ดีทีเดียว

พื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่ไม่มากนักเพราะต้องแบ่งพื้นที่สำหรับนั่งดูทีวีด้วย และเมื่อเลื่อนประตูบานเฟี้ยมปิดแล้วจะมีความกว้างเหลืออยู่ประมาณ 45 cm. ซึ่งพอที่จะเดินผ่านได้พอดีครับ

พื้นที่ข้างเตียงทางซ้ายกว้างประมาณ 60 cm. สามารถใช้เดินหรือลุกออกจากเตียงได้สะดวก ส่วนโต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่งทางโครงการก็จะแถมมาให้ด้วย สามารถวางโคมไฟหรือของใช้เล็กๆน้อยๆได้ มีปลั๊กไฟมาให้พร้อมใช้งาน

ทางด้านซ้ายของห้องนอนจะเป็นพื้นที่ Walk-in closet และทางไปห้องน้ำ ส่วนผนังกระจกทางขวาเป็น Sexy Bath ของห้องน้ำนั่นเอง ทำให้ผนังด้านนี้ดูไม่ทึบและอึดอัดจนเกินไป

พื้นที่ Walk-in closet มีความกว้างประมาณ 80 cm. สามารถใช้งานแต่งตัวหน้าตู้ได้พอดี โดยพื้นจะมีขั้นบันได 1 ขั้นลดลงไปจากพื้นห้องนอนพร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างให้ด้วย

หน้าบานตู้เสื้อผ้าติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้ทั้ง 2 บาน ใช้เป็นประจกแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้ และช่วยหลอกสายตาทำให้บริเวณนี้ดูกว้างขึ้น ภายในตู้สามารถเก็บเสื้อผ้าได้พอสมควร

ที่เปิดตู้ออกแบบเป็นขอบอลูมิเนียมยาวตลอดแนวตู้ ช่วยให้เปิดใช้งานได้สะดวก ด้านในมีลิ้นชัก 4 ช่อง เก็บของได้เยอะพอสมควร

ฝ้าเพด้านห้องนอนเป็นฉาบเรียบทาสี และได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 5 จุด พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin มาให้อีก 1 เครื่องทางด้านซ้าย

ภายในห้องน้ำมีการแยกฟังก์ชันพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน และได้ของทุกอย่างตามที่เห็นจริงเหมือนในห้องตัวอย่างยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 0.8 x 3 m. สามารถใช้งานได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นสีเทาแบบนี้เลย ประตูไม้ทางขวาเป็นทาง Walk-in closet ที่เราเดินมาจากห้องนอนซึ่งจะได้เป็นประตูไม้บานเลื่อนแบบนี้ ส่วนช่องประตูด้านในเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำซึ่งของจริงจะติดตั้งเป็นประตูกระจกบานสวิงมาให้ครับ

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะได้เป็นแนวยาวแบบนี้ พร้อมด้วยกระจกเงาทรงกลมที่ซ่อนไฟเอาไว้ด้านหลัง และชั้นวางของใต้อ่างอีก 1 ชั้นทำให้สามารถวางของได้เยอะทีเดียว โดยที่ใต้อ่างล้างหน้าทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนและเดินระบบท่อน้ำร้อนเอาไว้ในผนังให้เรียบร้อย

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาดประมาณ 1.3 x 0.4 m. มีพื้นที่ด้านข้างเหลือสามารถวางของได้เยอะพอสมควร โดยที่อ่างล้างหน้าเป็นของ Toto มีขนาดประมาณ 40 x 60 cm. และมีปลั๊กไฟอยู่ทางด้านซ้ายสามาถใช้เสียบพวกไดร์เป่าผมได้ มีฝาครอบป้องกันน้ำกระเด็นมาให้ด้วย

อย่างที่บอกว่าโครงการได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนและเดินท่อระบบน้ำร้อนฝังเอาไว้ในผนัง จึงทำให้ก๊อกน้ำทั้งหมดภายในห้องน้ำสามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ โดยจะมีจุดสีฟ้าและสีแดงอยู่บนก๊อกให้เราสามารถปรับผสมอุณหภูมิน้ำได้ตามต้องการ

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Toto และมีพื้นที่ด้านข้างเหลือสามารถใช้งานได้สะดวก

ติดตั้งสายชำระขนาดพอดีมือและที่แขวนกระดาษชำระไว้ทางด้านหลังพร้อมใช้งาน

ผนังด้านขวามีราวสแตนเลสมาให้ สามาถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ส่วนสุดท้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำที่แยกพื้นที่การใช้งานจากพื้นที่ส่วนแห้งด้วยประตูกระจกบานสวิง ภายในประกอบด้วย Hand shower แบบยืนอาบ และมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ผนังด้านหนึ่งเป็นผนังกระจกแบบ Sexy Bath มองออกไปเห็นห้องนอนด้านนอกได้ ข้อดีคือช่วยดึงแสงธรรมชาติภายนอกจากหน้าต่างของห้องนอนเข้ามาภายในทำให้ห้องน้ำโปร่งโล่งไม่อึดอัด แต่ข้อเสียคืออาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวนักกรณีที่ไม่ได้อยู่ห้องคนเดียว แนะนำให้ติดมู่ลี่ด้านในหรือทำเป็นกระจกฝ้าเพื่อช่วยพรางสายตาได้ครับ

พื้นที่ยืนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.7 x 1.5 m. สามารถใช้งานได้สะดวก ท่อระบายน้ำของโครงการนี้ออกแบบให้เป็นแนวยาวและปิดผิวด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ที่เป็นวัสดุเดียวกับพื้นห้องน้ำ ทำให้ดูเรียบร้อย กลมกลืน และสวยงาม

อ่างอาบน้ำเป็นของ Toto มีขนาดประมาณ 1.5 x 0.75 cm. และลึก 45 cm. สามารถลงไปแช่ในอ่างได้ทั้งตัว

Hand shower ติดตั้งไว้ทางซ้ายมือสามารถปรับระดับความสูงได้ ส่วนก๊อกน้ำทั้งหมดเป็นแบบก้านโยกซึ่งสามารถปรับแรงดันน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำได้

ฝ้าเพดานในห้องน้ำจะได้เป็นดาวน์ไลท์ฝังฝ้า 3 จุด พร้อมดรอปฝ้าและซ่อนไฟแบบที่เห็นตามห้องตัวอย่าง ติดตั้งพัดลมดูดอากาศยี่ห้อ Tacme มาให้อีก 1 ตัว

สวิตไฟภายในห้องทั้งหมดจะได้หน้าตาแบบนี้เลยครับ

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 71.50 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวทางด้านขวายาวต่อเนื่องกันตลอดแนวผนังซึ่งจะได้เป็นพื้นที่ครัวเปิด ด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเล็ก ภายในมีการแยกฟังก์ชันพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน และเป็นห้องมุมจึงมีหน้าต่างบานกระทุ้งภายในห้องน้ำด้วย สามารถเปิดระบายอากาศและความชื้นได้ ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Common area ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยพื้นที่ครัว โต๊ะทานอาหาร และห้องนั่งเล่น โดยที่ห้องนั่งเล่นจะได้ผนังกระจก 2 ด้าน ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาและทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น โดยผนังด้านหนึ่งจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ และมีประตูกระจกทางด้านขวาที่สามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้

ห้องนอนจะมีทั้งหมด 2 ห้อง เริ่มที่ห้องนอนเล็กที่อยู่ทางด้านขวา โดยแบบห้องตัวอย่างนี้จะเป็น Type ที่ได้ฟังก์ชันยกระดับพื้นแบบญี่ปุ่น จึงทำให้ได้ประตูไม้บานทึบที่สามารถเลื่อนเพื่อปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องได้ สามารถเลื่อนปิดเพื่อแบ่งกั้นพื้นที่การใช้งานเป็นห้องนอนเพื่อควมเป็นส่วนตัวหรือจะเปิดออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่กับ Common area ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นได้ ภายในสามารถวางฟูกขนาด 3.5 ฟุตได้ มีหน้าต่างช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องสว่างและเปิดระบายอากาศได้ รวมถึงยังได้ตู้เสื้อผ้า Built in เพิ่มอีก 1 ตู้ด้วย

ส่วนห้อง Master Bedroom จะอยู่ทางด้านซ้าย กั้นด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้กลางห้อง และมีหน้าต่างกระจกอยู่ทางด้านขวาของเตียง ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาและสามารถเปิดระบายอากาศได้ ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงเป็นพื้นที่ Walk-in closet ภายใน Built in ตู้เสื้อผ้าซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำซึ่งภายในมีการแยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน มีอ่างอาบน้ำพร้อม Sexy Bath ให้เหมือนกับห้องตัวอย่างห้องแรก และมีสุขภัณฑ์ต่างๆพร้อมใช้งาน

เมื่อเข้ามาภายในจะเป็นทางเดินกว้างประมาณ 1.3 m. สามารถเดินผ่านได้สะดวก พื้นปูด้วยกระเบื้องยางไวนิลซึ่งสามารถทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนต และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.55 m.

ลองถ่ายรูปย้อนกลับไปทางประตูทางเข้า จะมีตู้ Built in อยู่ทั้งสองฝั่งของประตูทางเข้า

ภายในตู้มีการแบ่งชั้นเก็บของอยู่หลายชั้น สามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

เคาน์เตอร์ครัวจะได้ Built in เต็มผนังแบบนี้ สามารถเก็บของได้เยอะมากๆ มีที่วางตู้เย็นอยู่ทางด้านขวา ขนาดประมาณ 70 x 65 cm. สูง 1.7 m. ซึ่งเวลาซื้อต้องคำนึงเรื่องความสูงด้วยนะครับ เพราะด้านบนมีตู้แขวนผนังอยู่ ส่วนที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ทางด้านซ้าย ขนาดประมาณ 60 x 70 cm. ภายในต่อท่องานระบบเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียม สามารถทนความชื้นและกรดด่างได้ดี ผนังกรุกระเบื้องทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ได้เตาแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux แต่จะไม่ได้ที่แขวนสแตนเลสบนผนังนะ

อ่างล้างจานยี่ห้อ Mex ขนาดประมาณ 45 x 50 cm. ลึก 19 cm. และมีที่ว่างด้านข้างค่อนข้างเยอะ สามารถใช้วางจานชามหรือประกอบอาหารได้สะดวก

ฝ้าเพดานจะได้เป็นฉาบเรียบทาสี และได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 3 จุด พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยมาให้ด้วย 1 จุด

ส่วนต่อไปเป็นห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านในสุด เป็นห้องที่ใช้งานร่วมกับพื้นที่ส่วนกลางของห้องและห้องนอนเล็ก

ภายในมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งเราจะได้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างทั้งหมดยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.4 x 1.9 m. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นสีเทา

อ่างล้างหน้าจะได้ Built in แบบฝังเคาน์เตอร์แบบนี้ มีขอบกว้าง 10 cm. ที่ผนังสามารถวางของได้ และได้กระจกเงาทรงกลมพร้อมซ่อนไฟไว้ด้านหลังแบบนี้เลย

อ่างล้างหน้าเป็นของยี่ห้อ Toto ขนาดประมาณ 40 x 60 cm. มีพื้นที่ Top เคาน์เตอร์ด้านข้างสามารถวางสิ่งของได้ และด้านล่างมีชั้นวางของมาให้อีก 1 ชั้น พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ใต้อ่างพร้อมใช้งาน

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Toto มีพื้นที่ด้านข้างเหลือสามารถใช้งานได้สะดวก พร้อมติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน

ผนังฝั่งตรงข้ามติดตั้งราวสแตนเลสใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัย Tempered Glass ที่จับออกแบบเป็นรูปตัว L สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.5 m. สามารถใช้งานได้สะดวก พื้นมีการลดระดับประมาณ 2 cm. ติดตั้ง Stopper ไว้ที่ผนังป้องกันการกระแทก และท่อน้ำออกแบบเป็นแนวยาวช่วยในการระบายน้ำได้ไวขึ้น Top ด้านบนปิดด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ที่เป็นวัสดุเดียวกับพื้นห้องน้ำ

Hand shower สามารถปรับระดับความสูงได้ ส่วนก๊อกน้ำแบบก้านโยกสามารถปรับแรงดันน้ำและปรับอุณหภูมิได้ด้วย

ทางด้านซ้ายมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในและสามารถเปิดออกเพื่อระบายความชื้นได้ ทำให้ห้องน้ำนี้ถูกสุขอนามัยมากขึ้น

ฝ้าเพดานได้ฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าให้ 2 จุดและซ่อนไฟ พร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้แบบในห้องตัวอย่างเลย

พื้นที่ต่อมาเป็น Common area ขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ครัว พื้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร พื้นที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนเล็ก จึงทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมาก

เริ่มที่พื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ทางโครงการจะให้เป็นโต๊ะขนาด 4 ที่นั่ง พร้อมชั้นวางของบนผนังมาให้แบบนี้ และยังมีพื้นที่โดยรอบเหลืออีกเยอะเดินได้สะดวก ซึ่งถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน หรือชอบปาร์ตี้สังสรรค์ในห้องก็สามารถขยายเป็นโต๊ะที่มีขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะ Built เป็นเคาน์เตอร์บาร์เพิ่ม เพื่อแบ่งกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นแต่ยังเชื่อมถึงกันและได้ความโปร่งโล่งอยู่ก็สามารถทำได้

ตรงข้ามกับส่วนรับประทานอาหารเป็นห้องนอนเล็ก ซึ่งห้องนี้ได้ฟังก์ชันยกระดับพื้นแบบญี่ปุ่นและได้เป็นประตูไม้บานทึบเลื่อนเปิดได้แบบ 3 ตอน โดยเมื่อเลื่อนปิดจะได้ผนังทึบแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าเปิดออกจะได้พื้นที่ห้องเชื่อมต่อกันทำให้รู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้น

พื้นด้านล่างยกระดับสูงขึ้นมาประมาณ 30 cm. มีฟังก์ชันลิ้นชักสามารถเก็บของได้เหมือนห้องตัวอย่างแรก เป็นการใช้พื้นที่ด้านล่างให้เกิดประโยชน์ได้ดี

ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องนอนเล็กเอาไว้ โดยเมื่อยกระดับพื้นขึ้นมาจะทำให้ห้องนี้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.25 m.

พื้นที่ส่วนแรกจัดเป็นโต๊ะญี่ปุ่นเอาไว้สำหรับนั่งเล่นได้ โดยเราจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามนี้ด้วยนะครับ

ทางด้านซ้าย Built เป็นตู้เสื้อผ้าเล็กๆเอาไว้ หรือจะใช้เป็นตู้เก็บของก็ได้ถ้าห้องนี้ไม่ใช่ห้องนอน ภายในมีลิ้นชักสามารถเก็บของได้พอสมควร

ด้านในวางฟูกขนาด 3.5 ฟุตเอาไว้ตรงกลาง มีพื้นที่ด้านข้างเหลือประมาณ 70 cm. สามารถลุกหรือเดินผ่านได้สะดวก

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงเหลือกว้างประมาณ 65 cm. สามารถเดินผ่านและติดทีวีแขวนผนังได้

ภายในห้องยังมีหน้าต่างขนาดใหญ่ ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องสว่างและมีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 4 จุด พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอีก 1 จุด และได้เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin อีก 1 ตัวทางด้านขวา

พื้นที่ต่อมาเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ และมีผนังกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากเลยทีเดียว

ระยะดูทีวีกว้างประมาณ 3 m. สามารถติดตั้งทีวีขนาดประมาณ 50 นิ้วได้ พื้นที่ห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟาตัวใหญ่หรือโซฟารูปตัว L ได้ถ้าหากมีสมาชิกในห้องหลายคน

ฝ้าเพดานจะมีการดรอปฝ้า พร้อมไฟดาวน์ไลท์และซ่อนไฟมาให้แบบที่เห็นในห้องตัวอย่างเลย และได้เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin มาให้อีก 1 ตัว แต่โคมไฟตกแต่งทางซ้ายมือเราจะไม่ได้นะ

ตู้วางทีวีจะได้เป็น Built in วางบนพื้นแบบนี้ ภายในสามารถเก็บของได้พอสมควร และยังมีพื้นที่ด้านบนทีวีเหลือสามารถ Built ตู้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านบนได้ด้วยนะครับ

ช่องหน้าต่างมีขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังเหมาะแก่การ Take View ของคอนโดสูงแบบตากอากาศแบบนี้มากๆ นอกจากจะช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาแล้วยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย ส่วนประตูกระจกหลังโซฟาก็สามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้

กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมพ่นสีขาว กระจกลามิเนตใสธรรมดา พร้อมอุปกรณ์ล็อคมาให้พร้อมใช้งาน

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.55 x 3.4 m. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นสีเทา ราวกันตกเป็นกระจกลามิเนตกรอบสแตนเลสสีเงิน ทำให้ไม่มีอะไรมาบังสายตา สามารถ Take View มุมกดได้ดีมากยิ่งขึ้น

ทางด้านขวาเป็นพื้นที่วาง Condensing unit เป่าลมร้อนออกมาด้านข้าง แนะนำให้ติดกริลดันลมร้อนออกไปด้านนอก ระเบียงจะได้ไม่ร้อน สามารถออกมาใช้งานได้จริง

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างมาให้ 2 จุด

พื้นที่สุดท้ายเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งกั้นด้วยผนึงทึบทำให้แบ่งแยกพื้นที่การใช้งานออกเป็นสัดส่วนและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ตรงกลาง และมีพื้นที่โดยรอบสามารถเดินผ่านได้

ที่ปลายเตียงสามารถติดทีวีแขวนผนังได้ และได้เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin อีก 1 ตัว

ทางด้านขวาของเตียงมีช่องหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในทำให้ห้องสว่างและสามารถเปิดระบายอากาศได้ พร้อมซ่อนรางม่านให้แบบในห้องตัวอย่างเลย

พื้นที่ข้างเตียงทางซ้ายกว้างประมาณ 55 cm. และพื้นที่ทางขวากว้างประมาณ 45 cm. สามารถใช้ลุกออกจากเตียงหรือเดินผ่านได้พอดี

โต๊ะข้างเตียงจะได้ Built in ติดผนังมาให้พร้อมกับฐานเตียง สามารถเปิดลิ้นชักเพื่อเก็บของเล็กน้อยได้

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงกว้างประมาณ 1.3 m. สามารถ Built ชั้นวางทีวีเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ โดยยังมีระยะเหลือสามารถเดินผ่านได้สะดวก

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยมาให้ 1 จุด และได้ไฟดาวไลท์แบบฝังฝ้า 4 จุด พร้อมไฟซ่อนแบบห้องตัวอย่างเลยครับ

ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงเป็นพื้นที่ Walk-in closet ซึ่ง Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย และมีผนังกระจกแบบ Sexy bath ของห้องน้ำ จึงทำให้ผนังด้านนี้ดูไม่ทึบหรืออึดอัดจนเกินไป

พื้นที่หน้าตู้กว้างประมาณ 90 cm. สามารถเดินผ่านและใช้งานแต่งตัวหน้าตู้ได้พอดี หน้าบานตู้เสื้อผ้าติดกระจกเงาใช้ยืนส่องเพื่อแต่งตัวหน้าตู้ได้ และช่วยหลอกสายตาทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นด้วย

ตู้เสื้อผ้ามีทั้งหมด 2 ตู้ ภายในสามารถเก็บเสื้อได้เยอะพอสมควร โดยตู้ทางด้านซ้ายออกแบบเป็นลิ้นชักเก็บของได้ ส่วนตู้ทางด้านขวาออกแบบเป็นที่แขวนกางเกงหรือผ้าเช็ดตัวได้

ลิ้นชักทางด้านซ้ายมีทั้งหมด 4 ชั้น สามารถเก็บเสื้อผ้าได้หลายชิ้นทีเดียว

สุดทางเดินเราจะได้ตู้ Built in เป็นชั้นวางของแบบนี้ด้วยนะ ส่วนประตูทางเข้าห้องน้ำด้านขวาจะได้เป็นประตูไม้บานทึบแบบบานเลื่อน ติดตั้งรางไว้ด้านบนทำให้ไม่เดินสะดุดและทำความสะอาดพื้นได้ง่าย

ที่เปิดประตูเป็นร่องจับอลูมิเนียม และมีรูกุญแจสามารถไขจากทางด้านนอกได้

ภายในห้องน้ำมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งเราจะได้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.8 x 1.1 m. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นสีเทา ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกทางขวามือของจริงจะติดตั้งประตูกระจกบานสวิงมาให้เพื่อแยกพื้นที่การใช้งานออกให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบเต็มผนังยาวประมาณ 1.7 m. ได้กระจกทรงกลมซ่อนไฟไว้ที่ด้านหลัง และมีชั้นวางของใต้เคาน์เตอร์อีกชั้นหนึ่งทำให้เก็บใช้ในห้องน้ำของได้เยอะพอสมควร

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ของ Toto ขนาดประมาณ 40 x 60 cm. ที่ใต้อ่างติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนพร้อมเดินท่อน้ำร้อนฝังผนังเหมือนห้องอื่นๆพร้อมใช้งาน

โถสุขภัณฑ์จะได้เป็น Toto Washlet เป็นโถแบบอัตโนมัติที่จะได้เฉพาะห้องน้ำของ Master Bedroom เท่านั้น

ผนังทางด้านขวาติดตั้งราวสแตนเลสใช้สำหรับแขวนผ้าเช็ดตัวเอาไว้ให้ด้วย

ส่วนสุดท้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำที่แยกพื้นที่การใช้งานจากพื้นที่ส่วนแห้งด้วยประตูกระจกบานสวิง ภายในประกอบด้วย Hand shower แบบยืนอาบ และมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ผนังด้านหนึ่งเป็นผนังกระจกแบบ Sexy Bath มองออกไปเห็นห้องนอนด้านนอกได้ ข้อดีคือช่วยดึงแสงธรรมชาติภายนอกจากหน้าต่างของห้องนอนเข้ามาภายในทำให้ห้องน้ำโปร่งโล่งไม่อึดอัด แต่ข้อเสียคืออาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวนักกรณีที่ไม่ได้อยู่ห้องคนเดียว แนะนำให้ติดมู่ลี่ด้านในหรือทำเป็นกระจกฝ้าเพื่อช่วยพรางสายตาได้ครับ

พื้นที่ยืนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.6 x 0.7 m. สามารถใช้งานได้สะดวก ท่อน้ำออกแบบเป็นแนวยาวช่วยในการระบายน้ำได้ไวขึ้น Top ด้านบนปิดด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ที่เป็นวัสดุเดียวกับพื้นห้องน้ำ ทำให้ดูเรียบร้อย กลมกลืน และสวยงาม

อ่างอาบน้ำเป็นของ Toto มีขนาดประมาณ 1.5 x 0.75 cm. และลึก 45 cm. สามารถลงไปแช่ในอ่างได้ทั้งตัว

Hand shower ติดตั้งไว้ทางซ้ายมือสามารถปรับระดับความสูงได้ ส่วนก๊อกน้ำทั้งหมดเป็นแบบก้านโยกซึ่งสามารถปรับแรงดันน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าให้ 2 จุด พร้อมไฟซ่อน และติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้พร้อมใช้งาน

ส่วนสวิตซ์ไฟจะได้ทั้งสวิตซ์แบบ Home Automation และแบบธรรมดา หน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างห้องแรกเลยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 July 2018

  • 1 Bedroom ชั้น 7 ห้อง D708 (seaview) เนื้อที่ 33.50 ตร.ม. ราคา 3,798,900 ล้านบาท หรือ 113,400 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 12 ห้อง D1209 (seaview) เนื้อที่ 40.00 ตร.ม. ราคา 4,662,000 ล้านบาท หรือ 116,550 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 17 ห้อง D1712 (mountain view) เนื้อที่ 57.00 ตร.ม. ราคา 6,617,700 ล้านบาท หรือ 116,100 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 17 ห้อง D1711 (mountain view) เนื้อที่ 71.50 ตร.ม. ราคา 8,815,950 ล้านบาท หรือ 123,300 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 22 ห้อง D2207 (seaview) เนื้อที่ 62.00 ตร.ม. ราคา 7,951,500 ล้านบาท หรือ 128,250 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 27 ห้อง D2706 (seaview) เนื้อที่ 62.00 ตร.ม. ราคา 8,342,100 ล้านบาท หรือ 134,550 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Home Automation System
  • ไมโครเวฟ
  • เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin หรือเทียบเท่า
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 150,000 – 200,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล –โครงการ Yuu ตั้งอยู่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตัวโครงการด้านหน้าอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทและมีพื้นที่โครงการเดียวกันในอนาคตทางด้านหลังติดชายหาดทะเลศรีราชา สภาพแวดล้อมโดยรอบมีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวมาก ฝั่งหนึ่งติดทะเล อีกฝั่งเป็นเนินเขา ถือว่าเป็นโซนที่ได้บรรยากาศธรรมชาติมากที่สุดและใกล้ตัวเมืองมากที่สุด เหมาะสำหรับโครงการแนวสูงและโครงการแบบตากอากาศ ด้านความอุดมสมบูรณ์บริเวณโดยรอบโครงการจะไม่ค่อยคึกคักมากนัก ส่วนแหล่งของกินและช้อปปิ้งที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ในตัวเมืองศรีราชาที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 km. สำหรับต่างจังหวัดซึ่งส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ส่วนตัวกันอยู่แล้วนั้นไม่ถือว่าไกลมากครับ ขับรถใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีก็ถึงแล้ว โดยภายในตัวเมืองประกอบด้วย ห้างโรบินสัน , ตึกคอม และ AEON Crnter ที่เป็นห้องสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของย่านนี้  หรือจะเป็น J PARK ที่เป็นคอมมูนิตี้มอล์สไตล์ญี่ปุ่นและมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นอยู่อาศัยกันในละแวกนี้เยอะมาก นอกจากนี้ยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล และโรงงานต่างๆอยู่เยอะ จึงทำให้อำเภอศรีราชาเป็นเมืองที่มีความคึกคักมากเลยทีเดียว

การเดินทาง – ตัวโครงการทางด้านหน้าอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก จากตัวโครงการถ้าเลี้ยวซ้ายขึ้นเหนือจะสามารถมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรีและกรุงเทพฯได้ แต่ถ้าไปกลับรถแล้วลงใต้จะสามารถไปมุ่งหน้าไปพัทยา ระยอง จันทบุรี และตราดได้ หรือจะใช้เส้นทางลัดเลาะอื่นๆไปออกถนนกรุงเทพ-พัทยา(มอเตอร์เวย์)ได้อีกหลายเส้นทาง ถือว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวกเพราะติดถนนหลัก ส่วนทางด้านหน้าโครงการมีรถเมล์และรถตู้สาธารณะวิ่งผ่านเพื่อเข้าหรือออกเมืองอยู่บ้าง แต่อาจไม่สะดวกและมีป้ายรถเมล์ให้เรียกได้ง่ายเหมือนในกรุงเทพนัก โดยรวมแล้วจึงเป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกมากกว่า โดยทางโครงการมีที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 125 คันหรือคิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

การออกแบบโครงการ – โครงการ Yuu ออกแบบด้วยแนวคิดการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยทะเลและภูเขาของศรีราชา ตกแต่งด้วยสไตล์ Zen แบบญี่ปุ่น จุดเด่นของโครงการคือทำเลที่อยู่ฝั่งติดชายหาด เป็นทำเลพักผ่อนเงียบสงบไม่พลุกพล่าน สามารถมองเห็นวิวได้กว้างทั้งวิวภูเขาและวิวทะเลศรีราชา มีพื้นที่โครงการติดกับชายหาดทางด้านหลังทำให้มีชายหาดเป็นส่วนตัว ภายในออกแบบสไตล์ Modern Japanese ใช้ไม้สีอ่อนและหินสีเข้มตัดกันลงตัว รวมถึงเน้นผนังกระจกและพื้นที่เปิดโล่งเพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติซึ่งเป็นสวน Zen แบบญี่ปุ่นที่อยู่ภายนอกได้ ผังอาคารมีการจัดวางเป็นทรงสี่เหลี่ยม วางโถงลิฟต์และส่วนงานระบบเอาไว้ตรงกลางของอาคาร จึงทำให้สามารถจัดห้องต่างๆให้มองเห็นวิวได้โดยรอบทั้ง 4 ทิศ รวมถึงมีการจัดวางห้อง 2 Bedroom เอาไว้ที่ส่วนมุมของอาคาร ทำให้ห้องนั้นๆสามารถ Take View ได้ทั้งสองฝั่ง

การออกแบบห้องพัก – ถือว่าทำออกมาได้ดี เน้นการใช้พื้นที่ Common area ที่เปิดโล่งและเชื่อมต่อกันดี มีหน้าต่างและระเบียงกระจกขนาดใหญ่ รวมถึงมีหน้าต่างเข้ามุมที่ทำให้สามารถ Take View ได้กว้างมากขึ้นเหมาะกับคอนโดแบบตากอากาศจริงๆ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการออกแบบสอดคล้องกับ Concept ความเป็นญี่ปุ่นของโครงการโดยการยกระดับพื้นห้องให้สูงขึ้นมา 30 cm. เพื่อใช้เป็นที่นั่งแบบญี่ปุ่นได้ แทนการนั่งบนโซฟาแบบปกติ พื้นด้านล่างมีลิ้นชักสามารถเก็บของได้ถือเป็นการใช้พื้นที่ด้านล่างได้เกิดประโยชน์ และมีประตูไม้บานเฟี้ยมที่สามารถกั้นห้องเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวหรือปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ทำให้ห้องดูกว้างและรู้สึกโปร่งโล่งได้ วางฟูกไว้บนพื้นกลางห้องทำให้ได้อารมณ์การนอนแบบญี่ปุ่นมากขึ้น มี Walk-in closet เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องน้ำซึ่งภายในมีการแยกฟังก์ชันการใช้งานออกอย่างเป็นสัดส่วน โดยมีฟังก์ชันอ่างอาบน้ำให้แช่ตัวได้ ติดกระจกแบบ Sexy Bath ที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติด้านนอกเข้ามาทำให้ห้องน้ำไม่อึดอัด โดยเฉพาะถ้าเป็นห้องแบบ 2 Bedroom จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งในห้องน้ำนี้สามารถเปิดระบายอากาศและความชื้นได้ดี ช่วยให้มีอากาศถ่ายเทและถูกสุขลักษณะอีกด้วย

วัสดุ – ถือว่าให้มาดีตามมาตรฐานคอนโดระดับนี้ เริ่มตั้งแต่ระบบ Home Autometion , พื้นห้องเป็นกระเบื้องยางไวนิล , ประตูมี Digital Door Lock , ชุดเคาน์เตอร์ครัว , บานตู้ติดตั้งระบบ Solf close และมีโช๊คที่ลิ้นชัก , Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียม , อ่างล้างจานของ Mex ,  Hop&Hood ของ Electrolux , ชุดประตูหน้าต่างกรอบอลูมิเนียมพ่นสีขาว กระจกลามิเนตใส , ราวระเบียงเป็นกระจกลามิเนตใสกรอบสแตนเลสสีเงิน , พื้นระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ , ได้เครื่องปรับอากาศ Daikin หรือเทียบเท่า , ฝ้าเพดานห้องฉาบเรียบทาสีและมีดรอปฝ้าซ่อนไฟให้แบบห้องตัวอย่าง ติดไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าพร้อมอุปกรณ์ระบบป้องกันอัคคีภัย , ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Toto ครบพร้อมใช้งาน  ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนใต้อ่างล้างหน้าและเดินระบบท่อน้ำร้อนฝังไว้ในผนัง ได้อ่างอาบน้ำของ Toto โดยมีผนังส่วนอาบน้ำด้านหนึ่งเป็นกระจกแบบ Sexy Bath

สาธารณูปโภค – ถือว่าให้มาครบและออกแบบมาได้สวยตรงกับ Concept แบบญี่ปุ่นของโครงการ ชั้นล่างมี Lobby และยูนิตร้านค้าอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน ส่วนชั้น Main Facilities ประกอบด้วยสระว่ายน้ำยาว 27 x 5.75 m. มีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ ใกล้กันเป็น Co–Working Space อยู่ระหว่างสวน Zen และสระว่ายน้ำ มีผนังกระจกโดยรอบสามารถ Take View ได้ทั้ง 2 ฝั่ง และมี Kids Kingdom ใกล้ๆกับ Japnese Tatami room ออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นเหมาะสำหรับผู้ปกครองพาลูกหลานมาเล่นเครื่องเล่นมีพื้นที่นั่งคอยสำหรับผู้ใหญ่ใกล้กับเด็ก มีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวน Zen ภายนอก เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นประดับด้วยต้นไม้และสวนหิน มี Putting Green สำหรับซ้อมพัตต์กอล์ฟเป็นกิจกรรมที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ มีศาลาเล็กๆไว้สำหรับนั่งพักผ่อนในสวน เน้น Fitness ที่ใช้ผนังกระจกล้อมรอบให้ Take View โดยรอบได้ มี Onsen แบบ Indoor  และ Outdoor แยกชาย–หญิง ให้แช่น้ำแร่ผ่อนคลายได้อีกด้วย

Judgement

สำหรับโครงการ Yuu เราจะไม่มีการให้คะแนนนะครับ เนื่องจากโครงการประเภทตากอากาศ มีปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อที่แตกต่างจากคอนโดเพื่อการอยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องมีเรื่องของความคุ้มค่าทางการเงินและความคุ้มค่าทางอารมณ์ผนวกกันครับ เป็นการซื้อเพื่อพักผ่อนหย่อนใจมากกว่า ทำให้บรรทัดฐานการให้คะแนนแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลทั้งผู้อ่านและผู้รีวิวครับ

BOTTOM LINE

โครงการ Yuu เป็นคอนโดมิเนียมแบบตากอากาศ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดเพื่อการพักอาศัยหรือใช้พักผ่อนได้ หรือคนทำงานอยู่ในย่านศรีราชาหรือใกล้เคียง ชอบทำเลที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เป็นคอนโดสูงมองเห็นวิวทะเลและภูเขา ชอบแนวคิดในการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งานแบบญี่ปุ่น พื้นที่ส่วนกลางครบสวยน่าใช้ มีงบประมาณ 4 – 8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 27,000 – 58,000 บาท/เดือน