รีวิวโครงการ

The Sneak EP.141 : Wyndham Residence Bangkok Queens

5 มีนาคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

Wyndham Residence Bangkok (Siamese Exclusive Queens) เป็นโครงการ High Rise 33 ชั้นในรูปแบบ Branded Residence ที่มาพร้อมกับ service โรงแรม 5 ดาว บนทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าและเป็นโครงการที่สามารถเดินไปสวนสาธารณะขนาดใหญ่และได้วิวสวนแบบเต็มๆตา ตั้งอยู่ใกล้ MRTศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และสวนเบญจกิติ ในราคาเริ่มต้น 8.84 ล้านบาท

โครงการนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างซึ่งเรารวบรวม Highlights ของโครงการมาให้ชม ดังนี้ค่ะ

  • ทำเล : ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในซอยไผ่สิงห์โตสามารถใช้เส้นทางไปออกได้ทั้งทางฝั่งพระราม4 และ ฝั่งสุขุมวิท ห่าง MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากทางเข้าโครงการถึงทางขึ้นสถานีประมาณ 100 เมตร รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ได้วิวสวนเบญจกิติและวิวโค้งน้ำบางกระเจ้าด้วย
  • ใกล้แหล่งพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง : โครงการนี้อยู่ใกล้กับสวนเบญจกิติ เป็นพื้นที่สีเขียว Public space ใจกลางเมืองในระยะเดินถึงได้  ซึ่งสวนเบญจกิตินี้เพิ่งจะมีการขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น มีทั้งสวนเดิมและสวนป่าเบญจกิติ อีกทั้งยังมีทางจักรยานและทางเดินที่เชื่อมไปออกสวนลุมพินีได้อีกด้วย
  • Branded Residence : ห้องพักอาศัยทุกยูนิตจะได้รับบริการระดับโรงแรม 5ดาวเลย เช่น บริการยกกระเป๋า, บริการส่งอาหารและเครื่องดื่มมาให้ที่ห้อง บริการ Valet Parking และบริการพิเศษอื่นๆ เช่น บริการส่งซักเสื้อผ้าและทำความสะอาด, บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีทั้งร้านกาแฟ และร้านอาหาร ให้ลูกบ้านสามารถใช้บริการภายในโครงการได้เลย รวมถึงมีการดูแลส่วนกลางให้ดูดีอยู่เสมอ
  • การออกแบบ : ตัวอาคารออกแบบสวยในสไตล์โมเดิร์น เน้นการใช้พื้นที่ภายในห้องเต็มที่ ห้องได้กระจกบานใหญ่เปิดรับวิวพร้อมกระจก Low E กันความร้อน มีผังห้องให้เลือกหลายแบบ

ข้อมูลโครงการ

Wyndham Residence Bangkok (วินด์แฮม เรสซิเดนซ์ แบงค็อค) ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565

 ชื่อโครงการ Wyndham Residence Bangkok (วินด์แฮม เรสซิเดนซ์ แบงค็อค)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ไซมิส ควีนส์ จำกัด
 SEGMENT CLASS  LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยไผ่สิงห์โต ถนนรัชดา-อโศก เขตคลองเตย
 ที่ดิน  2-0-44 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต 331 ยูนิต แบ่งเป็นคอนโด 242 ยูนิต และ โรงแรม 89 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  12 ยูนิต
 ที่จอดรถ  230 คัน คิดเป็น 70%ของทั้งโครงการ  แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 136 คัน และที่จอดแบบปกติ 94 คัน (ใต้ดิน)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2560
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2563 (สร้างเสร็จพร้อมอยู่)
 ประเภทห้องพัก
  •  1 Bedroom  พื้นที่ใช้สอยภายใน 34-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.84-12.32 ล้านบาท
  •  1 Bedroom Plus  พื้นที่ใช้สอยภายใน 57 ตร.ม. 14.63-18.33 ล้านบาท
  •  2 Bedroom  พื้นที่ใช้สอยภายใน 74-83 ตร.ม. 17.52-27.59 ล้านบาท
  •  3 Bedroom (Penthouse) 127-131 ตร.ม. 45.03-48.04 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  2.75 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  8.84 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว (สร้างเสร็จพร้อมอยู่)
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่ 
 Call Center
1306

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.723379, 100.561026
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Wyndham Residence Bangkok (Siamese Exclusive Queens) ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมือง ในซอยไผ่สิงห์โต โดยซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 16 (ใกล้ BTS อโศก) และซอยสุขุมวิท 22 กับ 24 (ใกล้ BTS พร้อมพงษ์) สามารถเชื่อมต่อถนนสำคัญได้หลายเส้นทางทั้งถนนพระราม4 ถนนรัชดาภิเษก และถนนสุขุมวิท ที่ใช้เดินทางไปยังย่าน อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อได้ จากโครงการก็ไม่ไกลจากทางด่วนเท่าไร การเดินทางด้วยรถยนต์จึงค่อนข้างสะดวก อาจจะมีรถติดบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถนั้น สามารถเดินไปขึ้น MRT ได้สะดวก โดยมีระยะห่างจากหน้าโครงการไปถึงทางเข้าสถานี MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประมาณ 100 เมตร มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่แถวหน้าโครงการ และเนื่องจากที่ตั้งโครงการไม่ไกลจากถนนใหญ่จึงเรียกรถสาธารณะอื่นๆได้สะดวกค่ะ

นอกจากนั้นทางโครงการยังมีรถ Shuttle Bus วิ่งรับส่งในรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่ได้จำกัดรอบ และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

สถานที่สำคัญรอบๆ โครงการจะอิงกับทั้งทางฝั่งถนนพระราม 4 และ ทางฝั่งสุขุมวิท โดยทางฝั่งพระราม 4 จะมี สถานที่สำคัญที่ใกล้ๆ ในระยะที่เดินไปได้ เช่น FYI CENTER และThe PARQ นอกจากนั้นในอนาคตจะมี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แห่งใหม่ที่ใกล้จะเปิดให้บริการเร็วๆนี้ ซึ่งอยู่ใกล้โครงการมากๆ เลย เพียงแค่เดินลอดใต้ MRT ข้ามฝั่งไปก็ถึงเลยค่ะ นอกจากนั้นโซนพระราม4 ยังมีแหล่ง Shopping ที่กระจุกตัวอยู่ บริเวณ ซอยสุขุมวิท 26 มีทั้ง Big C, โลตัส, K-village และ สวนเพลิน มาร์เก็ต ส่วนทางฝั่งสุขุมวิท เนื่องจากใกล้ย่านอโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานสำคัญหลายแห่งแล้ว ยังเป็นโซนที่มีแหล่ง Hang out ที่หลากหลายให้เลือกเดิน คึกคักทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน โดยห้างสรรพสินค้าที่สำคัญในโซนนี้จะมี Terminal 21, Emporium, EmQuartier, Gateway เอกมัย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร ร้านค้า Community Mall กระจายตัวอยู่ในซอยทองหล่อ และเอกมัย หลากหลายที่เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมี MedPark โรงพยาบาล แห่งใหม่ข้างโครงการ The PARQ จัดเป็นว่าที่โรงพยาบาลที่สวยแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

จุดเด่นของโครงการ Wyndham Residence Bangkok คืออยู่ใกล้กับสวนป่าเบญจกิติซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวที่ขยายออกมาจากสวนเบญจกิติเดิม ซึ่งพอรวมกันแล้วจะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ถึง 450 ไร่เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งการจะหาโครงการพักอาศัยทำเลใจกลางเมือง ที่อยู่ใกล้สวนขนาดใหญ่ในระยะที่เดินถึง ในปัจจุบันหาได้ยากแล้วนะคะ ทำเลของโครงการนี้จึงถือว่าเป็น Value ให้เราได้มาใช้งาน ออกกำลังกาย ปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ในระยะที่ไม่ไกลเลย เดินลอด MRT ใต้ดินมา เดินต่ออีกนิดเดียวก็ถึงแล้วหรือจะขับรถมาก็ได้เพราะด้านในสวนก็มีลานจอดรถรองรับเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

Image 1/9
ภาพบรรยากาศสวนป่าเบญจกิติ

ภาพบรรยากาศสวนป่าเบญจกิติ

สวนป่าเบญจกิติเป็นสวนที่นี่มีแนวคิดในการออกแบบที่น่าสนใจ ที่คำนึงถึงระบบนิเวศให้ต้นไม้สามารถเติบโต พึ่งพากันได้ตามระบบของธรรมชาติ และเอกลักษณ์ของเค้าก็คือจะมีบึงน้ำถึง 4 บึง และมีการแบ่งโซนปลูกพรรณไม้ที่ต่างกันไป นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดิน ทางวิ่ง ทางปั่นจักรยาน ที่หลากหลาย ส่วนใครที่อยากมาเดินเล่น เดินเร็ว ชมสวนก็ใช้เส้นทางเดินกลางสวนหรือที่เรียกว่า Sky walk ได้ค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจากประชาชาติธุรกิจ

และอีกหนึ่งไฮไลท์ของทำเลนี้คือศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า สามารถรองรับการจัดงานมากถึง 78,500 ตารางเมตร ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในโครงการด้วยพื้นที่รีเทลขนาด 10,000 ตารางเมตร มีที่จอดรถภายในอาคารรองรับได้มากกว่า 2,700 คัน คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2565 นี้ค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/9
เมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้า MRTศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 4 มาก็จะเห็นตัวอาคารเลยค่ะ

เมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้า MRTศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 4 มาก็จะเห็นตัวอาคารเลยค่ะ

สำหรับการเดินทางมาที่โครงการโดยใช้รถไฟฟ้า ถือว่าสะดวกมากๆค่ะ เพราะจากทางเข้าโครงการถึงทางเข้าสถานีรถไฟฟ้ามีระยะเพียง 100 เมตรเท่านั้น เมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้า MRTศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 4 มาก็จะเห็นตัวอาคารเลยค่ะ จากตรงนี้ จะมีทางเดินลัดเข้าไปในซอยไผ่สิงห์โต เดินเข้าไปเล็กน้อยก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการส่วนใหญ่จะติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ ทำให้ทัศนียภาพรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นวิวเปิดโล่งค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

  • ทิศเหนือ – ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ และคอนโด High Rise Monterey place
  • ทิศตะวันออก – ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศใต้ – ติดกับอพาร์ทเม้นท์สูง 6 ชั้น และ อาคารพาณิชย์
  • ทิศตะวันตก – ติดกับถนนซอยไผ่สิงห์โต และ คอนโด ลุมพินี เพลส พระราม4-รัชดาภิเษก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Big C พระราม 4 ~ 1.5 km.
  • Tesco Lotus พระราม 4 ~ 1.5 km.
  • K Village ~ 1.8 km.
  • สวนเพลิน มาร์เก็ต  ~ 2.4  km.
  • Emporium ~ 2.4  km.
  • EmQuartier ~ 3.1  km.
  • Major Cineplex เอกมัย ~ 4.2  km.
  • Gateway เอกมัย ~ 5.1 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเทพธารินทร์  ~ 2.7 km.
  • โรงพยาบาลเมดพาร์ค~ 2.8 km. (รวมระยะกลับรถ)
  • โรงพยาบาลสวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ~ 3.1 km. (รวมระยะกลับรถ)
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~ 3.7 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 4.1 km.
  • โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์ ~ 4.3 km.

โรงเรียน

  • Australian int. School Bangkok ~ 0.85 km.
  • โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ~ 1.2 km.
  • โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ~ 1.3 km.
  • โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 2.6 km.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ~ 3.1 km.
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 3.3 km.
  • ASB Sukhumvit Campus ~ 3.5 km.
  • Wells International School ~ 4 km.
  • Bangkok Prep International School ~ 5.8 km.

สถานที่ราชการ /อื่นๆ

  • MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ~ 100 m. (ระยะเดิน)
  • ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ~ 200 m. (ระยะเดิน)
  • อาคาร FYI CENTER ~ 300 m. (ระยะเดิน)
  • The Parq ~ 350 m. (ระยะเดิน)
  • สวนป่าเบญจกิติ ~ 450 m. (ระยะเดิน)
  • อาคารมาลีนนท์ ~ 1.8 km.
  • กรีนทาวเวอร์ ~ 2.3 km. (รวมระยะกลับรถ)
  • อุทยานเบญจสิริ 2.3 km.
  • อาคารสิรินรัตน์ ~ 2.6 km. (รวมระยะกลับรถ)
  • ท่าเรือวัดคลองเตยนอก (ท่าโพธิ์ทอง) ~ 2.7 km.
  • สวนลุมพินี 2.8 km.

รายละเอียดโครงการ

Wyndham Residence Bangkok เป็นคอนโดมิเนียม Branded Residence ที่บริหารงานโดย Wyndham hotel & resort ให้โครงการมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ความพิเศษในส่วนคอนโด คือจะได้ Service ระดับโรงแรม 5 ดาว ที่แตกต่างจากคอนโดทั่วไปค่ะ อย่างแรกเลยคือบรรยากาศภายในโครงการจะดูดีและสะอาดในทุก ๆ วัน เหมือนอยู่อาศัยในโรงแรม และยังได้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ นอกจากนั้นยังมีส่วนที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ ในแง่ของการอยู่อาศัย ที่จะมีบริการ (Exclusive Service)โดยพนักงานโรงแรมระดับ 5 ดาว คอยให้บริการ ซึ่งบริการเหล่านี้จะเป็นมาตรฐานระดับโรงแรม 5ดาวเลย เช่น บริการยกกระเป๋า, บริการส่งอาหารและเครื่องดื่มมาให้ที่ห้อง และด้วยอาคารจอดรถของที่นี่จะอยู่แยกออกไปอีกหนึ่งอาคารทางด้านหลัง ก็จะมีบริการ Valet Parking ให้ลูกบ้านด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ แต่ถ้าเป็นบริการส่งซักเสื้อผ้า และทำความสะอาดห้องจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

สำหรับ Wyndham hotel & resort นี้เป็นหนึ่งในเครือโรงแรมระดับ 5 ดาว จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมากกว่า 9,300 แห่ง ในกว่า 90 ประเทศ เลยค่ะ

ตัวโครงการจะประกอบด้วยคอนโด 242 ยูนิต และ โรงแรมที่มีชื่อว่า Wyndham Bangkok Queen Convention Centre อีก 89 ยูนิต โดยโรงแรมจะอยู่ในชั้น 2-6 และ 25-27 ส่วนที่เหลือทั้งหมดก็จะเป็นห้องพักอาศัยของคอนโดมิเนียมแยกชั้นกับห้องพักอาศัยของคอนโดชัดเจนค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ภายในโครงการนอกเหนือจาก Facilities หลักก็จะมีร้านกาแฟ Kafeology ที่ชั้น 1 ก่อนออกไปทำงานก็สามารถซื้อกาแฟได้ง่าย ๆ หรือจะสั่งขึ้นไปส่งที่ห้องก็ได้ และที่ชั้น 28 ทั้ง Floor ก็มีร้านอาหารไทยอย่าง Marie Guimar (มารี กีมาร์) ที่ลูกบ้านสามารถมาฝากท้องกันได้หรือใช้เป็นพื้นที่รองรับแขก

นอกจากนั้นยังมี Falcon Secret Bar ที่ชั้นบนสุดของอาคาร เป็นบาร์ลับไว้สังสรรค์รับวิวเมืองกันได้เต็มที่เลย สามารถจัดปาร์ตี้ส่วนตัวได้ อยากบอกว่าวิวสวยมากๆ และจะมีชั้นดาดฟ้าที่เปิดโล่งด้านบนสุดอีกชั้น ซึ่งจะเหมาะกับการจิบเครื่องดื่มรับวิวภายนอกแบบสุดๆ เลยค่ะ เรียกว่า มีทั้งร้านกาแฟ และร้านอาคารถึง2ร้าน 2 สไตล์ ให้ลูกบ้านได้เลือกใช้งานกันได้ตามความชอบเลยค่ะ

โดยพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีดังนี้ค่ะ

  • ชั้น 1 : 
    – สวนหย่อม
    – Outdoor Lobby
    – Indoor Lobby
    – ร้านกาแฟ Kafeology
  • ชั้น 2 :
    – Relaxing Area
    – สวนหย่อม
  • ชั้น 28 : 
    –ร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์)
  • ชั้น 33 : 
    –Sky-Kitchen
    –สวนหย่อม
    –สระว่ายน้ำและสระเด็ก
    –ห้องออกกำลังกาย
    – Sauna / Steam
  • ชั้น Rooftop :
    – Falcon Secret Bar

สำหรับการออกแบบตัวอาคารโครงการ Wyndham Residence Bangkok  ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในให้คุ้มค่ามากที่สุด ห้องพักจึงไม่มีระเบียง การตกแต่งภายนอกอาคาร (Facade) ส่วนใหญ่จึงเป็นกระจก ทำให้อาคารดู Modern เรียบง่าย โดยกระจกที่ใช้จะเป็นกระจก Low E ที่คุณสมบัติกันความร้อนอีกด้วย โครงการจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันค่ะ

ก่อนพาไปเดินชมโครงการเรามาเริ่มที่ Master plan ของทางโครงการกันก่อนนะคะ จากถนนซอยไผ่สิงห์โตเข้ามาในโครงการ ภายในโครงการ จะแบ่งทางเดินรถออกเป็น 2 ทาง สามารถ Drop off รับ-ส่งคนที่หน้า Lobby ได้เลย  แต่ถ้าขับรถเข้ามาจะสามารถไปจอดได้ 2 จุด จุดแรกคือ บนอาคารจอดรถ Automatic Parking 136 คัน และที่จอดแบบปกติ 94 คันที่ชั้นใต้ดิน รวมทั้งหมดเป็น 230 คัน คิดเป็น 70% โครงการจะมีสวนหย่อมกระจายอยู่รอบๆ ให้เราได้ใช้พื้นที่สีเขียวได้หลายจุด

Lobby ของโครงการจะมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ซึ่งบริเวณนี้จะมีเคาน์เตอร์ Concierge Service ที่ช่วยดูแลบริการต่างๆให้กับเรา ถัดเข้ามาด้านในจะมีร้านกาแฟ Kafeology ให้บริการอยู่ที่ชั้นนี้และจะเป็นจุด Check-in สำหรับแขกที่มาพักในโรงแรมอีกด้วยค่ะ สำหรับโถงลิฟต์จะมีการออกแบบให้ผู้พักอาศัยได้รับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมเข้ามาอีกหนึ่งจุด โดยจะมีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน คนที่จะผ่านเข้าไปต้องใช้คีย์การ์ด ลิฟต์โดยสารมี 3 ตัว เป็นลิฟต์ Service อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 110 : 1 การใช้ลิฟต์นั้นจะมีการแยกชั้นระหว่างโรงแรมกับคอนโดเอาไว้ชัดเจนเลยค่ะ

มาเริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการกันก่อนค่ะ ทางเข้า – ออกรถของโครงการมีจุดเดียวนะคะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วน Canopy ที่สามารถจอด Drop off รับ-ส่งบริเวณนี้ได้เลย หรือจะเรียกใช้บริการ Valet Parking ให้พนักงานช่วยขับรถไปจอดให้ก็ได้และนอกจากนั้นบริเวณนี้ยังมีส่วนของพื้นที่ Outdoor Lobby อีกด้วยค่ะ

สำหรับที่จอดรถจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน กั้นไว้ด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ ซึ่งแบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking จำนวน 136 คัน และที่จอดแบบปกติที่ชั้นใต้ดิน จำนวน 94 คัน

เมื่อเราขับรถเข้ามาด้านในจะเจอกับระบบรักษาความปลอดภัยอีก 1 ชั้น คนที่เป็นลูกบ้านต้องใช้ Access Card ในการผ่านไม้กระดกอัตโนมัติเพื่อเข้าจอดรถ แต่ถ้าเป็นคนนอกจะต้องหยุดและกดรับบัตรก่อนจึงจะผ่านเข้าไปได้

Image 1/3
Automatic Parking

Automatic Parking

อาคารจอดรถ Automatic Parking มีมาให้ 2 ช่องจอด สำหรับคนที่จะมาจอดจะต้องใช้ Key Card และกดเลขทะเบียนเพื่อใช้งาน โดยทางโครงการมีป้ายบอกวิธีจอดไว้ให้ชัดเจนค่ะ ซึ่งAutomatic Parking นี้สามารถใช้ได้ทั้งลูกบ้านและผู้ใช้งานภายนอกเลย ข้อดีคือเราไม่ต้องขับรถเพื่อวนหาที่จอดรถเอง ใช้เวลาในการรอสักเล็กน้อยรถก็จะขึ้นมาหาเราโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นด้านหน้าอาคารยังมีป้ายบอกสถานะจำนวนรถ ของที่จอดรถใต้ดิน และ Automatic Parking แสดงให้เห็นชัดเจนอีกด้วยค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศทางเข้าที่จอดรถแบบปกติ ชั้นใต้ดิน

บรรยากาศทางเข้าที่จอดรถแบบปกติ ชั้นใต้ดิน

สำหรับที่จอดรถแบบปกติ 94 คัน เราสามารถจอดได้ที่ชั้นใต้ดิน เมื่อจอดรถแล้วสามารถใช้ลิฟต์ขึ้นมายัง Lobby ได้เลยค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศสวนหย่อมรอบๆ อาคาร

บรรยากาศสวนหย่อมรอบๆ อาคาร

บริเวณภายนอกรอบๆ อาคารจะมีสวนหย่อมอยู่มุมต่างๆ เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวทำให้บรรยากาศบริเวณรอบๆ อาคารดูร่มรื่น สบายตาค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศบริเวณ Outdoor Lobby

บรรยากาศบริเวณ Outdoor Lobby

เมื่อเข้ามาจะเจอพื้นที่ Outdoor Lobby พร้อม Sunken Seat ซึ่งถูกออกแบบให้มีสวน และผนังน้ำตกขนาดใหญ่อยู่บริเวณนี้ เพื่อช่วยบังแสงและลดความร้อน สร้างบรรยากาศให้บริเวณ Outdoor Lobby ดูร่มรื่น น่าใช้งาน

เมื่อเข้ามายังในตัวอาคาร จะเจอกับ Indoor Lobby ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ ร้านกาแฟ Kafeology เลยค่ะ ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นบันไดขึ้นไปยังพื้นที่ Relaxing Area และสวนหย่อมที่ชั้น 2

บริเวณ Indoor Lobby จะมีลักษณะเป็นโถงสูง วัสดุที่ใช้ในบริเวณนี้เป็นหินสีเทา สีขาว ตัดกับ วัสดุตกแต่งผนังสี Copper  บวกกับบันไดวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นเสมือน Sculpture ทำให้บรรยากาศบริเวณ Indoor Lobby นี้ดู Luxury มากยิ่งขึ้นค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณ Indoor Lobby

บรรยากาศบริเวณ Indoor Lobby

บริเวณ Indoor Lobby ผนังรอบๆ จะเป็นกระจกมองวิวสวน และผนังน้ำตกได้ เป็น Welcome Space ดูโปร่ง และร่มรื่นมากค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศร้านกาแฟ Kafeology 

บรรยากาศร้านกาแฟ Kafeology 

Kafeology เป็นร้านกาแฟที่เปิดให้บริการทั้งลูกบ้านและแขกที่มาพักโรงแรม โดยคนที่มาพักโรงแรมสามารถเช็คอินที่ได้ที่เคาน์เตอร์ข้างร้านกาแฟค่ะ

ภายในจัดที่นั่งมาให้ค่อนข้างเยอะซึ่งจะมีฝั่งหนึ่งเป็นผนังกระจกทั้งแผง ทำให้บรรยากาศดูโปร่ง น่านั่ง จะมานั่งพักคอยรอเพื่อนๆก็ได้ หรือมานั่งทำงานชิลล์ๆก็ดีเลยค่ะ

ลูกบ้านภายในโครงการสามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มจากร้านกาแฟ Kafeology ให้ไปบริการถึงที่ห้องพักโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วยนะคะ

บริเวณ Indoor Lobby นี้จะให้บริการกับลูกบ้านในคอนโดเป็นหลัก บริเวณนี้จะมีเคาน์เตอร์ของ  Concierge Service ที่จะมีบริการโดยพนักงานโรงแรมระดับ 5 ดาว คอยให้บริการต่างๆ ทั้งยกกระเป๋า, บริการส่งอาหารและเครื่องดื่มมาให้ที่ห้อง เป็นต้นค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศ Mail Room

บรรยากาศ Mail Room

Image 1/3
บรรยากาศห้องน้ำบริเวณ Indoor Lobby

บรรยากาศห้องน้ำบริเวณ Indoor Lobby

บริเวณด้านหลังของเคาน์เตอร์ Concierge Service จะมีออฟฟิศของนิติบุคคล Mail Room และห้องน้ำแยกชาย-หญิงไว้รองรับอีกด้วยค่ะ

โถงลิฟต์ ที่ชั้นนี้จะมีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน และต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าโถงลิฟต์ และที่บริเวณหน้าโถงลิฟต์ จะมีแผงควบคุม Automatic Parking อยู่ให้เราสามารถกดเรียกรถก่อน เมื่อเดินไปถึงอาคารจอดรถจะได้ไม่ต้องรอนานอีกด้วยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศโถงลิฟต์ ชั้น Lobby

บรรยากาศโถงลิฟต์ ชั้น Lobby

ภายในโครงการมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว ลิฟต์ Service อีก 1 ตัวค่ะ ลูกบ้านสามารถใช้ได้ทั้ง 3 ตัว โดยใช้ Key Card หรือ Face Scan โดยจะล็อกชั้นพักอาศัย และชั้นส่วนกลางชัดเจน ส่วนคนนอกที่ต้องการมาใช้บริการร้านอาหาร และบาร์ ใช้ได้แค่ลิฟต์ตัวด้านในสุดเท่านั้นค่ะ

บันไดวนจะเป็นทางขึ้นไปยัง Relaxing Area ที่ชั้น 2 ค่ะ

ชั้นที่ 2 ของอาคาร นอกจากจะสามารถขึ้นลิฟต์โดยสารมาได้แล้ว ยังสามารถใช้บันไดวนที่บริเวณ Indoor Lobby เดินขึ้นมาได้ด้วยค่ะ เมือขึ้นมาจะเจอกับ Relaxing Area ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหย่อม และพื้นที่พักอาศัย สำหรับในชั้นนี้จะเป็นส่วนของโรงแรม โดยที่บริเวณ Relaxing Area จะมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าสู่โซนที่พักอาศัยด้วยค่ะ

บริเวณบันไดวนตรงนี้จะมีลักษณะเป็น Double volume ทำให้ Space บริเวณนี้ดูโอ่โถง มากยิ่งขึ้นค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณ Relaxing Area

บรรยากาศบริเวณ Relaxing Area

เมื่อขึ้นบันไดวนมาจะเจอส่วนของ Relaxing Area ซึ่งมีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวกว่าที่ชั้น 1  เป็นพื้นที่ที่เหมาะให้เรามานั่งอ่านหนังสือ ทำงาน และนอกจากนั้นบริเวณนี้จะมีประตูกระจกเชื่อมต่อกับ สวนหย่อมที่ชั้น 2 ทำให้บรรยากาศค่อนข้างสงบ และร่มรื่นค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณสวนหย่อมที่เชื่อมต่อกับ Relaxing Area ที่ชั้น 2

บรรยากาศบริเวณสวนหย่อมที่เชื่อมต่อกับ Relaxing Area ที่ชั้น 2

บริเวณสวนหย่อม ชั้น 2 นี้มีพื้นที่ให้เราได้นั่งเล่น Outdoor ได้ด้วย และบริเวณสวนนี้ตั้งอยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ด้านล่าง เป็นการเชื่อมโยงพื้นที่สีเขียวเข้าด้วยกัน ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ค่อนข้างดีเลยค่ะ

ชั้น 3 – 27 เป็นชั้น Typical Floor Plan จัดวางห้องพักอาศัยเหมือนกัน เป็นผังรูปตัว O ทางเดินแบบ Single Corridor หรือทางเดินที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามเลย และมีห้องพักอาศัย  12 ยูนิตต่อชั้น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง การออกแบบจะวางผังเน้นให้ทุกห้องได้ผนังกระจกบานใหญ่เห็นวิวได้เต็มตา ดังนั้นบริเวณโถงจึงไม่มีช่องเปิดให้แสงธรรมชาติเข้าสู่โถงทางเดิน ทำให้ค่อนข้างมืดหน่อย ต้องอาศัยแสงจากดวงโคมเป็นหลักค่ะ

ในเรื่องทัศนียภาพเมื่อมองจากห้องพักอาศัยค่อนข้างโล่ง แต่จะมีด้านทิศใต้ ที่มีอาคารพักอาศัยสูง 6 ชั้น แต่ก็ไม่ได้ประชิดจนเกินไปเพราะ ทางโครงการได้ออกแบบให้ถนนอยู่ทางทิศใต้ ทำให้พอมีระยะห่างระหว่างอาคารพอสมควร ทำให้ห้องพักอาศัยด้านทิศใต้ในชั้นล่างๆ อาจจะโดนบดบังวิวไปบ้างค่ะ ส่วนวิวทิศทางอื่นๆ ค่อนข้างโล่ง เห็นวิวเมืองได้กว้างเต็มที่เลยค่ะ

ชั้น 29-32  จะเป็นชั้นพักอาศัยที่ประกอบไปด้วยห้อง Penthouse ทั้งหมด เป็นผังรูปตัว O ทางเดินแบบ Single Corridor เหมือนกัน และมีห้องพักอาศัย เพียง 4 ยูนิตต่อชั้น ทำให้มีความเป็นส่วนสูง และทุกห้องเป็นห้องมุมอาคารทั้งหมด ทำให้ระบายอากาศได้ค่อนข้างดี มีลมพัดผ่าน  สำหรับตำแหน่งห้องที่โดนแดดไม่ร้อนมากนักก็จะเป็นทิศเหนือทั้งหมดค่ะ นอกจากนั้นห้องชั้น Penthouse ทั้งหมดจะใช้ระบบผนังที่สามารถ Combine ทุกห้องเข้าด้วยกันได้ค่ะ

ในเรื่องทัศนียภาพเมื่อมองจากห้องพักอาศัย ในชั้น 29-32 นี้ไม่มีอาคารสูงที่อยู่ในระยะประชิดเลย ทำให้ห้องพักอาศัยได้วิวเมืองโปร่ง โล่ง มองเห็นได้เต็มที่ ส่วนวิวในด้านที่น่าสนใจจะเป็นวิวด้านทิศเหนือ และทิศใต้ โดยด้านทิศเหนือจะได้วิวถนนรัชดาภิเษก สวนป่าเบญจกิติ และตึกสูงย่านอโศก ส่วนด้านทิศใต้จะได้วิวโค้งน้ำบางกระเจ้า แบบเต็มที่เลยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 28 จะเป็นพื้นที่ของ ร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์) เต็มทั้ง Floor เลยค่ะ

เมื่อเข้าสู่โถงลิฟต์มาก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากชั้นอื่นๆเลย โดยด้านในร้านจะตกแต่งมาในสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน

Image 1/6
บรรยากาศภายในร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์)

บรรยากาศภายในร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์)

ร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์) เป็นร้านอาหารไทยสูตรดั้งเดิม โดยชื่อร้าน ‘Marie Guimar’ มาจาก ‘ท้าวทองกีบม้า’ หญิงสาวชาวญี่ปุ่น-โปรตุเกส ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งขนมไทย ที่นี่จะมีที่นั่งทั้งโซนด้านในร้าน และโซนสวน

Image 1/2
บรรยากาศร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์) โซนสวน

บรรยากาศร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์) โซนสวน

ภาพบรรยากาศที่นั่งโซนสวน เหมาะสำหรับใครอยากได้บรรยากาศ Outdoor รับลมเย็นๆ ชมวิวกรุงเทพมหานครฯ โซนนี้เหมาะมากเลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศห้องน้ำภายในร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์)

บรรยากาศห้องน้ำภายในร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์)

สำหรับห้องน้ำที่รองรับผู้ใช้งานร้านอาหาร จะแยกเห้องน้ำชาย-หญิง เป็นสัดส่วน

ชั้นที่ 33 จะเป็นชั้น Main Facilities เต็มทั้งชั้น แยกออกจากส่วนพักอาศัยเลย เพื่อไม่ให้รบกวนห้องพักให้เสียความเป็นส่วนตัว และเนื่องจากอยู่ในชั้นสูงทำให้ชั้นนี้ได้วิวที่ค่อนข้างดีมาก โดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วย สวนหย่อม ฟิตเนส ห้องน้ำแยกชายหญิง Sauna/Steam  สระว่ายน้ำ และ Sky-Kitchen

ชั้นนี้จะเป็นชั้นสูงสุดที่ลิฟต์สามารถโดยสารขึ้นมาได้ โดยโถงลิฟต์ชั้นนี้จะค่อนข้างโปร่ง และสว่างเนื่องจากระดับฝ้าที่ค่อนข้างสูง และมีช่องเปิดกระจกรับแสงอยู่หลายจุด

Sky-Kitchen เป็นพื้นที่ที่เราสามารถทำอาหาร จัดปาร์ตี้ หรือจะจ้างเชฟ ให้มาทำอาหารให้ทานก็ได้ค่ะ ภายในห้องมีอุปกรณ์ทำอาหาร เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ ตู้เย็นมาให้รองรับการใช้งานได้ครบเลยค่ะ ซึ่งส่วนนี้จะต้องจองล่วงหน้าก่อนใช้งาน ลูกบ้านใช้ได้โดยไม่เสียค่าบริการ แต่แขกโรงแรมต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมนะคะ

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Sky-Kitchen

บรรยากาศภายใน Sky-Kitchen

ภายในพื้นที่ Sky-Kitchen นั้นสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนด้านนอกได้ ซึ่งบริเวณนี้สามารถจัดเป็นบาร์บีคิวปาร์ตี้ เชื่อมโยงพื้นที่เข้าด้วยกัน เป็นทางเลือกให้เหมาะต่อการใช้งานอีกด้วยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศสวนหย่อม ชั้น Main Facility

บรรยากาศสวนหย่อม ชั้น Main Facility

จากบริเวณสวนนี้สามารถเดินตามทาง ทะลุไปยังสระว่ายน้ำได้เลย

และบริเวณสวนตรงจุดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สระว่ายน้ำ จะมีพื้นที่ล้างตัวให้ด้วยค่ะ

จากนั้นเดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อยก็จะเจอกับส่วนของสระว่ายน้ำ

Image 1/4
บรรยากาศสระว่ายน้ำ

บรรยากาศสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ จะเป็นระบบเกลือ กว้าง 6 เมตร ยาว 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร  มีลักษณะเป็นแบบ Lap Pool สามารถว่ายน้ำได้จริงจังเลย และมีเป็นส่วนสระเด็ก ลึก 0.50 เมตร รองรับอีกด้วย

ตัวสระถูกออกแบบมาเป็น Infinity Edge Pool ซึ่งบริเวณสระว่ายน้ำตรงนี้ตั้งอยู่ในจุดที่ วิวด้านหนึ่งของสระเป็นพื้นที่สีเขียวสวนเบญจกิติ และตึกสูง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เห็นเป็นโค้งน้ำบางกระเจ้าด้วย ทำให้บริเวณนี้เป็นจุดที่เห็นวิวได้สวยมากๆ จุดหนึ่งในโครงการนี้เลย

มาดูกันในส่วนของ Fitness  ภายในมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) โดยบริเวณนี้เป็นห้องที่มีฝ้าค่อนข้างสูงและได้กระจกสูงเต็มพื้นที่ สามารถมองเห็นวิวสวยๆภายนอกได้เต็มตา และทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้นเหมาะกับการออกกำลังกาย เราสามารถพาเทรนเนอร์ส่วนตัวเข้ามาเทรนให้เราที่นี่ได้ด้วยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องน้ำชั้น Main Facility

บรรยากาศภายในห้องน้ำชั้น Main Facility

บริเวณใกล้กับประตูทางเข้า Fitness จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ภายในมีตู้ Locker ห้องอาบน้ำ และ Sauna / Steam รองรับอยู่ด้วยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศโถงบันไดทางเข้าร้าน Falcon Secret Bar

บรรยากาศโถงบันไดทางเข้าร้าน Falcon Secret Bar

ร้าน Falcon Secret Bar จะอยู่ที่ชั้น Rooftop ซึ่งจะต้องขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 33 แล้วขึ้นบันไดไปต่อ และเมื่อเรียกได้ว่าเป็น Secret Bar ความน่าสนใจก็คือ Gimmick ที่อยู่ตรงทางเข้าโถงบันไดร้าน ซึ่งเป็นประตูเรียบๆ และมีป้ายร้านกำกับอยู่ไม่ใหญ่นัก เมื่อเปิดเข้าไปจะเจอกับงาน Painting รอบๆโถงบันไดพาเราเดินขึ้นไปยัง ร้าน Falcon Secret Bar นั่นเองค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศภายในร้าน Falcon Secret Bar

บรรยากาศภายในร้าน Falcon Secret Bar

เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับร้าน Falcon Secret Bar เป็นร้านอาหารที่มีวิวสวย และบรรยากาศดี โดยทางร้านจะมีทั้งโซน Indoor และ Outdoor มีที่นั่งรองรับค่อนข้างเยอะ และหลากหลายมุมให้เลือกค่ะ

บรรยากาศบริเวณโซนที่นั่งภายในร้าน ส่วนที่มองออกไปเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโค้งน้ำบางกระเจ้าพอดีเลย

บรรยากาศบริเวณโซนที่นั่งภายในร้าน มองออกไปค่อนข้างโล่ง เห็นสวนเบญจกิติ ที่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และเห็นตึกสูงย่านอโศกอยู่ห่างออกไป เรียกได้ว่าเป็นบาร์ที่เห็นวิวเมืองสวยมากแห่งหนึ่งเลยค่ะ

และเมื่อขึ้นบันไดต่อมาอีกจะเจอกับดาดฟ้าที่จะสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ได้เลยค่ะ โดยวิวในทิศต่างๆของโครงการเป็นดังนี้ค่ะ

ทางฝั่งทิศเหนือ จะเห็นวิวถนนรัชดาภิเษก สวนป่าเบญจกิติ และตึกสูงย่านอโศก

ทางฝั่งทิศตะวันตก จะเห็นวิวศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อาคารไทยเบฟควอเตอร์ The PARQ ถัดไปเป็นวิวทางฝั่งถนนพระราม 4 ถนนวิทยุ ถนนราชดำริ

ทางฝั่งทิศใต้ จะเห็นวิวถนนพระราม 4 และโค้งน้ำบางกระเจ้า

ทางฝั่งทิศตะวันออก จะเห็นวิวเมืองตึกสูง ทางฝั่งพร้อมพงษ์ ทองหล่อค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Indoor Lobby
  • Outdoor Lobby
  • Relaxing Area
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 6 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
  • Sauna / Steam
  • Sky-Kitchen
  • สวนหย่อม ที่ชั้น 1, 2 และ 33
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 110 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 230 คันคิดเป็น 70% แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 136 คัน และที่จอดแบบปกติ 94 คัน (ใต้ดิน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Access Card /Face Scan

บริการอื่นๆ ในโครงการ

  • ร้านกาแฟ Kafeology ที่ชั้น 1
  • ร้านอาหาร Marie Guimar (มารี กีมาร์)ที่ชั้น 28
  • Falcon Secret Bar ที่ชั้น Rooftop
  • Free Service : Bellboy /shuttle bus /valet parking/ สั่งอาหารมาทานที่ห้อง
  • Additional Charge : Laundry/ House Keeper

แบบห้อง

สำหรับแบบห้องในโครงการ Wyndham Residence Bangkok มีแบบให้เลือก ดังนี้

  • 1 Bedroom  พื้นที่ใช้สอย 34-35 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus  พื้นที่ใช้สอย 57 ตร.ม.
  • 2 Bedroom  พื้นที่ใช้สอย 74-83 ตร.ม.
  • 3 Bedroom (Penthouse)  พื้นที่ใช้สอย 127-131 ตร.ม.

รูปแบบการขายจะเป็นแบบ Fully Fitted ที่ได้ชุดครัวและสุขภัณฑ์ต่างๆพร้อมอุปกรณ์ครบชุด รวมถึงจะได้เฟอร์นิเจอร์  Built-in ต่างๆเช่นตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของด้วยค่ะ ทางโครงการให้ อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และ Hob & Hood จาก Franke สุขภัณฑ์ จาก Kohler อ่างอาบน้ำจาก Lavenz ในห้องแบบ 2 Bedroom และ 3 Bedroom (Penthouse) ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต่างๆ เราก็สามารถเลือกตกแต่งเองตามความชอบเลยค่ะ 

นอกจากนั้นห้องพักอาศัยในโครงการ Wyndham Residence Bangkok ออกแบบให้ภายในห้องพักอาศัยทุกยูนิตจะได้ใช้นวัตกรรมจาก Siamese Technology ดังนี้

– Soundproof Technology
ระบบกันเสียงรบกวนจากภายนอกที่ประกอบไปด้วยผนัง ประตูกันเสียงพร้อมทั้ง Door Seal และลิ้นประตูระบบอัตโนมัติ ที่สามารถลดทอนและดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดี
– Smell Protection Technology
ระบบท่อน้ำที่แยกท่อระบายอากาศของท่อน้ำทิ้ง และน้ำเสียออกจากกัน เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ย้อนกลับขึ้นมา ทำให้ห้องพักอาศัยหมดปัญหาเรื่องกลิ่น
– Heat Resistant Technology
ติดตั้งกระจกที่ช่วยสะท้อนความร้อนแบบ Low-E ป้องกันไม่ให้รังสีความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ ภายในอาคารทำให้อากาศเย็นสบายและลดการใช้พลังงาน
– Easy Maintenance Technology
ระบบเดินท่อในคอนกรีตที่ง่ายต่อการซ่อมบำรุงภายในห้องพัก หมดปัญหาการรบกวนห้องชั้นล่างเพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น


1 Bedroom ขนาด 34-35 ตร.ม

มาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom กันค่ะ ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่อาศัยได้ 1-2 คนสบายๆ เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ Common area ก่อนเลยค่ะ โดยเราจะเจอพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ด้านขวาเป็นครัวเปิด ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนเป็นสัดส่วน บริเวณพื้นที่ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง สามารถจัดเป็นมุมพื้นที่ทำงานได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งพื้นที่ Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำค่ะ

การจัดวางผังห้องจะเน้นให้พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ห้องนอน และพื้นที่ทำงาน ซึ่งเป็นส่วนที่เราใช้งานกันบ่อยๆอยู่ติดกับช่องหน้าต่าง เพื่อให้ฟังก์ชันเหล่านี้ได้รับแสงธรรมชาติที่เพียงพอ และระบายอากาศได้ดี ทางโครงการมีการออกแบบโดยเน้นช่องแสงขนาดใหญ่และเลือกใช้กระจก Low-e ที่ช่วยกันความร้อนได้ ภายในห้องพักจึงเย็นสบายและมีความโปร่งโล่ง ห้องพักอาศัยของโครงการจะไม่ค่อยเน้นพื้นที่ระเบียงแต่จะเน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในให้ได้เต็มที่มากที่สุดค่ะ

Image 1/2
ตู้เก็บรองเท้า Built-in

ตู้เก็บรองเท้า Built-in

เข้ามาในห้องจะเจอกับผนังด้านหนึ่งที่ออกแบบเป็น Built-in ตู้เก็บรองเท้า อีกด้านหนึ่งเป็นตู้เก็บของ และร่มต่างๆ แยกกันชัดเจน ฟังก์ชันนี้ทำให้เราสามารถเก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วยให้ห้องสะอาดสะอ้านค่ะ

Image 1/2
Digital Door Lock

Digital Door Lock

ประตูทางเข้ากรุด้วยไม้ลามิเนตสีอ่อน พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ด้านตรงข้ามจะเป็น เคาน์เตอร์ครัวเปิด ตรงนี้สามารถกั้นปิดเป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้ค่ะ โดยห้องนี้จะได้พื้นไม้ Engineer และความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.75 เมตร ระบบแอร์เป็นแบบฝังฝ้าเพดาน ความสูงบริเวณห้องครัวจะต่ำกว่าหน่อยเนื่องจากต้องซ่อนงานระบบของแอร์ค่ะ

Image 1/2
ชุดครัว Built-in

ชุดครัว Built-in

ชุดครัวทางโครงการ Built-in มาให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ตู้ครัวเป็นไม้ MDF ทนความชื้นได้สูง ความหนาตู้ 18 มม. หน้าบานพ่นสี High gloss พร้อม บานพับ Soft Close มือจับทำสีอโนไดซ์ (ประเภทเดียวกับสีรถยนต์ ทนรอยขีดข่วน)

เคาน์เตอร์ครัวห้อง Type นี้จะเป็นหินเทียมสีขาว พร้อมด้านหลังกรุ Backsplash เป็นหินเทียมเช่นกัน ทำความสะอาดได้ง่าย บริเวณเคาน์เตอร์ครัวจะมีอ่างล้างจาน พร้อมก๊อกน้ำระบบร้อน-เย็นในตัว เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้า 2 หัวจาก Franke

พื้นที่สำหรับรับประทานอาหารตรงนี้ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะได้สูงสุดถึง 4 ที่นั่งเลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น

บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่นบริเวณนี้จะติดกับริมหน้าต่างกระจกทำให้ได้รับแสงธรรมชาติ และสามารถเปิดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก สามารถวางชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง หรือจะเพิ่ม Armchair เก๋ๆ สักตัวแบบในห้องตัวอย่างก็ทำได้ค่ะ

Image 1/2
ชั้นวางทีวี Built-in

ชั้นวางทีวี Built-in

ชั้นวางทีวี เป็นโครงเหล็ก กรุหินจริง เป็นหินนำเข้า White Arabesgato ซึ่งมีเอกลักษณ์คือลวดลายของวัสดุจะไม่ซ้ำกันเลย นอกจากนั้นบริเวณนี้ก็ยังมีตู้เก็บของพร้อมบานเปิดคู่สีขาว ดูเรียบร้อยดีค่ะ

Image 1/3
พื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit แอร์

พื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit แอร์

พื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit แอร์ พื้นเป็นกระเบื้องเนื้อเดียวสีเทา และมีประตูกั้นแยกออกเป็นสัดส่วน สามารถวางเครื่องซักผ้าที่บริเวณนี้ได้ค่ะ แต่อาจจะต้องติดตั้งราวตากผ้าเพิ่มเติมเพื่อให้สะดวกยิ่งขึ้นเวลาใช้งาน แต่อาจจะไม่เหมาะกับการซักผ้าเองในปริมาณมากๆ เพราะมีพื้นที่ตากจำกัด แนะนำให้ลูกบ้านใช้บริการซัก–อบผ้าจากทางโครงการ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศ บริเวณพื้นที่ห้องนอน

บรรยากาศ บริเวณพื้นที่ห้องนอน

พื้นที่ห้องนอนจะเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น โดยห้องจริงที่เราได้นั้นจะมีประตูบานเลื่อนแบบแขวนไม่มีรางที่พื้น กั้นพื้นที่สองห้องนี้ออกจากกันเป็นสัดส่วน

บริเวณตรงนี้สามารถวางโต๊ะทำงานเล็กๆริมหน้าต่างได้ เป็นพื้นที่ทำงานที่ค่อนข้างดี เพราะได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว มีตู้เสื้อผ้าที่ฝั่งตรงข้ามสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ทางโครงการให้มาเป็นบานเลื่อนสลับ พร้อมกระจกเงาเต็มบาน 1 บาน ภายในมีช่องสำหรับวางกระเป๋าเดินทางด้านบน ราวแขวนเสื้อ และลิ้นชักด้านในแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ถัดเข้ามาจะเป็นห้องน้ำ ที่ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ ทำให้มีความโปร่งโล่ง หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อาจจะติดฟิล์มหรือหาม่านมาติดเพิ่มเติมได้นะคะ

Image 1/3
บรรยากาศ ภายในห้องน้ำ

บรรยากาศ ภายในห้องน้ำ

ห้องน้ำจะมีการวางผังที่แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งเอาไว้ให้ ใช้งานได้สะดวกค่ะ โถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นแบบอัตโนมัติของ Kohler

ตัวอ่างล้างมือเป็นของ Lavenz เป็นวัสดุ Solid Surface ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ทำความสะอาดง่าย ทนทานต่อกรดด่างและสารเคมี สามารถขัดให้ใหม่ได้ตลอด มาพร้อมก๊อกน้ำแบบผสมร้อนเย็นในตัวแบบการโยกของ Kohler ติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์ มีชั้นเก็บของด้านล่างเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้เป็นวัสดุไม้ MDFเช่นกันค่ะ

Image 1/2
พื้นที่ห้องอาบน้ำ

พื้นที่ห้องอาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้าง มีการลดระดับลงเล็กน้อย มีท่อระบายน้ำเป็นแบบฝังในกระเบื้อง ระดับเสมอกับพื้น พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ด้านในติดตั้งฝักบัวแบบธรรมดา และRain Showerเป็นแบบผสมร้อนเย็นในตัวแบบการโยกของ Kohler ให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

3 Bedroom (Penthouse)  พื้นที่ใช้สอย 127-131 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างห้องต่อมาคือ 3 Bedroom (Penthouse) ตำแหน่งจะอยู่ที่มุมอาคาร ซึ่งจะมีเพียงชั้น 29-32 ที่ได้ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำค่ะ

ห้องนี้จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วน Common Area และพื้นที่นอนพักผ่อน เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ Common Area ต่อเนื่องกัน ฟังก์ชันเดียวกับห้อง 1 Bedroom เลย ครัวเป็นแบบเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานข้าว พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ Relax Area ที่มีประตูบานเลื่อนกั้นเปิดปิด มีห้อง Powder Room หรือห้องที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ และห้องน้ำที่ต้องใช้แชร์กัน 1 ห้อง อีกฝั่งเป็นโซนห้องนอน ซึ่งออกแบบมาให้ทุกห้องได้แสงธรรมชาติ และเห็นวิวสวยๆได้เต็มตา โดยจะแบ่งเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง และ ห้องนอนใหญ่ที่มีมุม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวค่ะ

ประตูทางเข้ากรุด้วยไม้ลามิเนตสีเข้ม พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เช่นกันค่ะ

เปิดเข้ามาจะเจอกับส่วน Common area เลยค่ะ

บริเวณนี้จะมีตู้ Built-in มาให้ เป็นชั้นวางรองเท้า ร่ม ถัดมาใกล้ๆ กันจะเป็น ห้อง Powder room หรือห้องที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ ให้เราได้ทำธุระ ล้างไม้ล้างมือ เตรียมตัวหลังจากกลับมาจากข้างนอก หรือใช้เป็นห้องน้ำสำหรับแขกค่ะ

ห้อง Powder room จะได้โถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นแบบอัตโนมัติ อ่างล้างมือ และก๊อกน้ำแบบผสมร้อนเย็นในตัวแบบก้านโยก ติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์ค่ะ

ห้องครัวเราจะได้ Built-in  พร้อม Island ตรงกลาง และเครื่องดูดควันแบบนี้เลยค่ะ โดยเคาน์เตอร์ครัวห้อง Type นี้จะเป็นหินอ่อนสีขาว พร้อมด้านหลังกรุ Backsplash เป็นหินอ่อนสีขาวเช่นเดียวกัน ส่วนบริเวณพื้นครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องลายไม้ เพื่อให้สะดวกต่อการทำความสะอาด ส่วนบริเวณอื่นๆ จะเป็นพื้นไม้ Engineer และความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.75 เมตร เช่นกันค่ะ

Image 1/2
ชุดครัว Built-in

ชุดครัว Built-in

ห้องครัว Built-in เป็นชั้นเก็บของและลิ้นชักเต็มผนังด้านนี้เลย มาพร้อมกับช่องสำหรับใส่ตู้เย็นด้านซ้าย และช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าด้านขวา สามารถติดตั้งเครื่องอบผ้าเพิ่มเติมได้หรือจะทำเป็น ตู้เก็บของด้านบน สามารถเก็บอุปกรณ์ซักผ้าต่างๆ ให้ดูเรียบร้อยก็ได้ค่ะ

Image 1/4
ช่องเก็บของ และอุปกรณ์ต่างๆ บน Island ครัว

ช่องเก็บของ และอุปกรณ์ต่างๆ บน Island ครัว

บริเวณ Island ตรงกลางจะ Built-in มาได้แบบนี้เลย มาพร้อม เครื่องดูดควัน  เตาไฟฟ้า 4 หัวจาก Franke

บริเวณเคาน์เตอร์ครัวจะมีอ่างล้างจาน ที่มีวัสดุเป็นหินจริง granite ธรรมชาติ สีดำ พร้อมก๊อกน้ำระบบร้อน-เย็นในตัว

Image 1/3
บรรยากาศพื้นที่ทานอาหาร

บรรยากาศพื้นที่ทานอาหาร

พื้นที่ทานอาหาร ในห้องตัวอย่างจัดวางโต๊ะอาหาร 6 ที่นั่งมาให้ จะเห็นว่ายังมีทางเดินโดยรอบอยู่ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศพื้นที่ Common area

บรรยากาศพื้นที่ Common area

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อม Armchair หรือจะวางเป็นโซฟา L-Shape โดยมีทางเดินรอบ ส่วนพื้นที่ด้านหลังโซฟา อาจะจะวางเป็นโต๊ะทำงานตัวยาวก็สามารถทำได้ค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศ พื้นที่ Relax Area

บรรยากาศ พื้นที่ Relax Area

พื้นที่ Relax Area ในห้องตัวอย่างจัดพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนโดยการวาง Daybed ไว้ แต่จริงๆเราสามารถจัดเป็นอะไรก็ได้ เช่นห้องทำงาน ซักรีด เป็นต้น

Image 1/2
หน้าต่างบานเลื่อนภายในห้องพักอาศัย

หน้าต่างบานเลื่อนภายในห้องพักอาศัย

ถึงแม้ว่าจะไม่มีระเบียงแต่หน้าต่างก็เปิดระบายอากาศนะคะ เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่พร้อมราวกันตกกระจก โดยห้องนี้เราจะได้หน้าต่างเต็มบานสูงพื้นจรดฝ้าเพดาน ทำให้ได้แสงธรรมชาติที่เพียงพอ ห้องจึงดูโปร่งและเห็นวิวสวยๆได้เต็มๆค่ะ

ชั้นวางทีวี เป็นโครงเหล็ก กรุหินจริง มาพร้อมตู้เก็บของเช่นกันค่ะ

ตู้เก็บของ Built-in เราจะได้มาแบบนี้เลยค่ะ โดยด้านซ้ายเป็นตู้เก็บของ Built-in อยู่ในผนัง ส่วนด้านขวาจะเป็นตู้เก็บของที่ Built-in มาพร้อมกับชั้นวางทีวีค่ะ

ที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น จะมี Corridor เพื่อเชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่างๆ โดยCorridor นี้ถูกออกแบบมาให้ไม่เห็นประตูของห้องนอนเลย เมื่อมองมาจากพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัวดีค่ะ

เมื่อเดินไปตาม Corridor ห้องแรกขวามือ จะเป็นห้องน้ำที่ ห้องนอน 1 และ 2 ใช้ร่วมกันค่ะ

Image 1/2
สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

ห้องน้ำนี้ต้องใช้แชร์กัน มีมาให้ทั้งส่วนเปียกส่วนแห้งกั้นเป็นสัดส่วน วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆเหมือนกันกับห้อง Type ก่อนหน้านี้ค่ะ

Image 1/3
Siamese-Exclusive-Queens_Penthouse-29

Siamese-Exclusive-Queens_Penthouse-29

มาที่ห้อง Bedroom 1 กันเลยค่ะ Highlight ของห้องนี้คือกระจกเข้ามุมที่เปิดรับวิวสวนเบญจกิติและถนนรัชดาภิเษก ถือเป็นวิวที่สวยมากๆและมีมูลค่าพอสมควรเลยค่ะ

ในส่วนการจัดวาง Layout ภายในห้อง ค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามที่เราต้องการค่ะ

ห้องนี้จะได้ ตู้เสื้อผ้า Built-in แบบห้องตัวอย่างเลยนะคะ ด้านในมีการแบ่งฟังก์ชันต่างๆมาให้ครบครันค่ะ

สำหรับห้องนี้จะมีพื้นที่ปลายเตียง พอสำหรับเป็นพื้นที่ทำงาน โดยเราจะได้โต๊ะทำงาน พร้อมลิ้นชักแบบนี้เลย

Image 1/2
บรรยากาศห้อง Bedroom 2

บรรยากาศห้อง Bedroom 2

มาต่อกันที่ห้อง Bedroom 2 โดยห้องนี้มีพื้นที่เหลือปลายเตียงพอสำหรับวางโซฟาเล็กๆ หรือสตูล 2 ที่นั่ง พร้อมกับโต๊ะที่ปลายเตียง ได้แบบนี้สบายๆเลยค่ะ

ห้องนี้เราจะได้โต๊ะ พร้อมกระจกเงาแบบนี้เลยค่ะ

ในห้องตัวอย่างนี้วางเตียง 5 ฟุต Queen Size แล้วยังมีพื้นเหลือพอวางโต๊ะหัวเตียงได้

ห้องนี้จะได้ ตู้เสื้อผ้า Built-in ราบไปกับผนังแบบนี้เลยค่ะ

ห้องนอนนี้จะเป็นห้องที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit แอร์ โดยจะมีประตูกั้นแยกออกเป็นสัดส่วน

เราสามารถตากผ้าที่บริเวณนี้ได้เลยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศห้อง Master Bedroom

บรรยากาศห้อง Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom เป็นห้องที่ค่อนข้างกว้าง ในห้องตัวอย่างวางเตียงขนาด King size แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆ ค่อนข้างกว้าง ปลายเตียงสามารถวาง Daybed สวยๆได้เลย นอกจากนั้น ห้องนี้เราจะได้ตู้เก็บของ Built-in และโต๊ะพร้อมกระจกเงาแบบนี้เช่นกันค่ะ

ห้องนี้จะได้ มุม Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัวเลย

ห้องนี้จะได้ Walk-in Closet แบบเข้ามุม พร้อมตู้เก็บของ Built-in

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องน้ำ ของห้อง Master Bedroom

บรรยากาศภายในห้องน้ำ ของห้อง Master Bedroom

ห้องน้ำ ค่อนข้างกว้าง แบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง ส่วน และมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย

Image 1/3
สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

อ่างอาบน้ำ จาก Lavenz เป็นแบรนด์ไทย แต่ผลิตและนำเข้ามาจากต่างประเทศ เป็นวัสดุ ที่ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ทำความสะอาดง่าย ทนทานต่อกรดด่างและสารเคมี แตกแล้วซ่อมได้ สามารถขัดให้ใหม่ได้ตลอด ส่วนวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้เช่นกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบแปลน

1 Bedroom

Image 1/2
1 Bedroom

1 Bedroom

1 Bedroom Plus

2 Bedroom

Image 1/3
2 Bedroom

2 Bedroom

 

3 Bedroom (Penthouse)

Image 1/3
3 Bedroom (Penthouse)

3 Bedroom (Penthouse)

ราคา

Wyndham Residence Bangkok ราคา ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565

  • 1 Bedroom  พื้นที่ใช้สอยภายใน 34-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.84-12.32 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus  พื้นที่ใช้สอยภายใน 57 ตร.ม. 14.63-18.33 ล้านบาท
  • 2 Bedroom  พื้นที่ใช้สอยภายใน 74-83 ตร.ม. 17.52-27.59 ล้านบาท
  • 3 Bedroom (Penthouse) 127-131 ตร.ม. 45.03-48.04 ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.75 เมตร
  • Kitchen & Sink / Top หินอ่อน Black Marquina (Type.2A-PENTHOUSE), Top หินเทียม (Type.1A , 1B)
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ FRANKE
  • มีรถ Shuttle Bus วิ่งรับส่งในรัศมี 5 กิโลเมตร  ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ไม่ได้จำกัดรอบ
  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท
  • ค่ากองทุน 5 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

ที่ตั้งโครงการ Wyndham Residence Bangkok ตั้งอยู่ในซอยไผ่สิงห์โต ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อถนนพระราม 4 กับ สุขุมวิทเข้าด้วยกัน ตัวทำเลถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่ใกล้กับสวนเบญจกิติ รถไฟฟ้า MRT พวกอาคารสำนักงานอย่าง FYI CENTER, The PARQ และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ซึ่งกำลังปรับโฉมใหม่ในระยะที่เดินได้ ทำให้โครงการนี้ตอบโจทย์ในหลายๆ ด้าน ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทาง และความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงบรรยากาศที่ใกล้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนเบญจกิติที่เป็นเสมือนปอดของคนย่านนี้ เป็นทำเลที่สามารถใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีคุณภาพที่ดีได้เลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถใช้เส้นทางไปออกทางฝั่งพระราม4 และฝั่งสุขุมวิทในย่าน อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ได้หลากหลายเส้นทาง และจากโครงการก็ไม่ไกลจากทางด่วนเท่าไรการเดินทางด้วยรถยนต์จึงค่อนข้างสะดวก แต่ถ้าหากต้องการเดินทางโดยใช้ ถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปทาง ถนนเจริญกรุง อาจจะต้องกลับรถไกลสักหน่อยค่ะทางโครงการมีที่จอดรถมาให้อยู่ที่ 230 คันหรือคิดเป็น 70% สามารถจอดได้ที่ชั้นใต้ดินในอาคารพักอาศัย 3 ชั้น และ ในอาคารจอดรถ Automatic Parking

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถสาธารณะค่อนข้างสะดวก และมีตัวเลือกเยอะทีเดียวค่ะ โครงการนี้อยู่ใกล้ MRTศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้ในระยะประมาณ 100 เมตร และโครงการ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ สามารถเรียกรถสาธารณะอย่างแท็กซี่ รถเมล์ ได้สะดวกนอกจากนั้นทางโครงการยังมีรถ Shuttle Bus วิ่งรับส่งในรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่ได้จำกัดรอบ และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

วัสดุ :

โครงการนี้มีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted เหมาะกับคนที่ต้องการตกแต่งห้องเอง โดยวัสดุที่ให้ก็จะได้พื้น Engineering Floor และพื้นกระเบื้องเนื้อเดียว เหมาะตามฟังก์ชันการใช้งาน ชุด Built-in ที่ได้ทั้งหมด เป็นไม้ MDF ทนความชื้นได้สูง ความหนาตู้ 18 มม. หน้าบานพ่นสี High gloss พร้อม บานพับ Soft Close มือจับทำสีอโนไดซ์ ซึ่งทนต่อรอยขีดข่วน ได้ครัวที่ใหญ่ครบชุดทั้ง อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และ Hob & Hood จาก Franke ส่วนภายในห้องน้ำใน Mater Bedroom ก็จะได้อ่างอาบน้ำจาก Lavenz สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นของ Kohler ระบบแอร์เป็นแบบฝังฝ้าดูเรียบร้อยสวยงามตามมาตรฐานของคอนโดระดับนี้ค่ะ

การออกแบบ :

การจัดวางผังชั้นห้องพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นผังรูปตัว O ทางเดินแบบ Single Corridor และมียูนิตพักอาศัยต่อชั้นสูงสุดที่ 12 ยูนิตเท่านั้น ส่วนการจัดวางผังห้องจะเน้นให้พื้นที่ที่เราใช้งานกันบ่อยๆอย่างพื้นที่ Common area ห้องนอน อยู่ติดกับช่องหน้าต่าง เพื่อให้ฟังก์ชันเหล่านี้ได้รับแสงธรรมชาติที่เพียงพอ ระบายอากาศได้ดี และเห็นวิวที่กว้าง ห้องพักอาศัยของโครงการจะไม่ค่อยเน้นพื้นที่ระเบียงแต่จะเน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในให้ได้เต็มที่มากที่สุดค่ะ

การออกแบบตกแต่งภายนอกอาคารทำออกมาได้ดีเลยค่ะ วัสดุส่วนใหญ่เป็นกระจก และไม่มีระเบียง ทำให้อาคารดู Modern เรียบง่าย กระจกที่ใช้จะเป็นกระจก Low E ที่คุณสมบัติกันความร้อนได้ดีอีกด้วย

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคได้ครบ จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Indoor Lobby, Outdoor Lobby, Relaxing Area, Sky-Kitchen, ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ พร้อม Sauna / Steam และสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ได้วิว 180 องศา นอกจากนั้นห้องพักอาศัยทุกยูนิตสามารถ Service โรงแรมเช่นบริการยกกระเป๋า, บริการส่งอาหารและเครื่องดื่มมาให้ที่ห้อง Valet Parking ซึ่งในส่วนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ แต่ถ้าเป็นบริการส่งซักเสื้อผ้า และทำความสะอาดห้องจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ภายในโครงการนอกเหนือจาก Facilities หลักก็จะมีร้านกาแฟ Kafeology ร้านอาหารไทยอย่าง Marie Guimar (มารี กีมาร์) ที่ชั้น 28 และ Falcon Secret Bar ให้ลูกบ้านได้เลือกใช้งานกันได้ตามความชอบอีกด้วย


Judgement

ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะมีตัวเปรียบเทียบน้อย เนื่องจากเป็นสินค้าประเภท Unique เสียส่วนใหญ่

  • LUXURY – SUPER LUXURY CLASS

Wyndham Residence Bangkok  เหมาะกับใคร

โครงการ Wyndham Residence Bangkok เหมาะกับคนที่ชอบการพักอาศัยที่มาพร้อมการบริการและพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศแบบโรงแรม ซึ่งจะมีความคึกคักมากกว่าคอนโดมิเนียมปกติทั่วไป ชอบคอนโดมิเนียมที่มองเห็นวิวได้กว้าง และกำลังมองหาที่พักอาศัยกลางเมือง เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ อยู่ใกล้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริงในระยะที่เดินถึงได้ โดยมีงบประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc