รีวิวฉบับที่ 1702 …สวัสดีครับ วันนี้ผมมีโครงการ Walden สุขุมวิท 39 คอนโด Low Rise จาก Habitat Group มาฝาก ทำเลห่างรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ 900 m. ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว มีแนวคิดการออกแบบให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย ด้วยทำเลใจกลางเมืองพร้อมพงษ์ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มชาวไทยและชาวญี่ปุ่นในพื้นที่ ในราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท

Fact @ 9 October 2018

  • Walden Sukhumvit 39 (วาลเด้น สุขุมวิท 39)
  • Habitat Group
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : วัฒนา
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 116 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 16 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 57 คันคิดเป็น 49% ไม่รวมจอดซ้อนคัน แบบ Automatic parking ทั้งหมด
  • ที่ดินประมาณ 0-3-22 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q3/2019
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3/2021
  • 1 Bedroom 31 – 43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.9 – 8.7 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 40 – 45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.7 – 9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Loft 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.7 – 11.8 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 53 – 59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms Loft 45 – 60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.8 – 12.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 – 4.3 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 190,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ในระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 063 424 8999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.733020, 100.575125

โครงการ Walden สุขุมวิท 39 ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองทางฝั่งสุขุมวิท ในย่านพร้อมพงษ์ ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพ โดยที่ดินในละแวกนี้มีราคาค่อนข้างสูงและมีที่ว่างให้พัฒนาเหลือน้อยเต็มที โครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่เกิดขึ้นใหม่ในย่านนี้จึงเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียมซะเป็นส่วนใหญ่ และเป็นทำเลในซอยย่อยที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยทำเลนี้เป็นทำเลใจกลางเมืองที่มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากกว่า 100,000 ครอบครัว หรือประมาณ 250,000 คน โดยที่ตั้งของโครงการ Walden สุขุมวิท 39  จะอยู่เข้าไปในซอยพร้อมมิตร ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างซอยสุขุมวิท 39 กับซอยสุขุมวิท 49 ถือเป็นทำเลซอยลัดเลี่ยงรถติดได้ง่าย โดยห่างจากถนนสุขุมวิท (ปากซอยสุขุมวิท 39) ประมาณ 900 m. ที่บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 39 จะใกล้กับ BTS พร้อมพงษ์ และ ห้างสรรพสินค้าหรูอย่าง The Em District ที่มี Emporium , Emquartier การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวกเพราะสามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลากหลายเส้นทาง และยังมีเส้นทางลัดที่สามารถทะลุไปได้ทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรีได้ง่าย

เป็นที่รู้กันดีว่าย่านพร้อมพงษ์เป็นแหล่งของห้างสรรพสินค้าหรูอย่าง The Em District ที่มี Emporium , Emquartier และอยู่ระหว่างย่านทองหล่อซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ รวมทั้งศูนย์การค้า ร้านค้าหลายสัญชาติ ร้านค้าแฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน สตูดิโอแต่งงาน และที่พักอาศัยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น และย่านอโศกที่เป็นแหล่งธุรกิจหลักหรือ CDB ที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีอาคารสำนักงานโรงแรมระดับ 5 ดาวแหล่ง Shopping สำคัญๆ เช่น Terminal 21 และบริเวณแยกอโศกยังเป็นจุด Interchange สำคัญระหว่าง BTS (สถานีอโศกกับ MRT (สถานีสุขุมวิทอีกด้วย

นอกจากนั้นภายในซอยสุขุมวิท 49 และซอยทองหล่อ เป็นแหล่งชุมชนของชาวญี่ปุ่นขนาดใหญ่ มีร้านสะดวกซื้อ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าครบครันโดยไม่จำเป็นต้องออกมาที่ห้างใหญ่บนถนนหลักให้รถติดเลยทีเดียวครับ ที่สำคัญคือห้างร้านเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ด้วย ถือว่าสะดวกสบายมากๆครับ

เรื่องการเดินทางโดยไม่ใช้รถสำหรับทำเลแถวนี้จะมีรถไฟฟ้า BTS วิ่งผ่าน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS พร้อมพงษ์ ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 39 ห่างจากโครงการประมาณ 900 m.สำหรับคนที่ไม่ชอบเดินไกลไม่ต้องห่วงครับเพราะทางโครงการมี Shuttel bus คอยรับ-ส่ง ไป BTS พร้อมพงษ์ ไว้คอยบริการด้วย หรือถ้ารีบๆก็ยังมีพี่วินมอไซค์ที่จะวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่บ่อยๆ เพราะถึงแม้จะเป็นทำเลในซอยแต่ก็เป็นซอยลัดหลักที่มีรถผ่านอยู่ตลอดเวลา และห่างจากสถานีพร้อมพงษ์ออกไปเพียง 1 สถานี จะมีจุด Interchange สำคัญระหว่าง BTS (สถานีอโศกกับ MRT (สถานีสุขุมวิทอีกด้วย

ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ ถ้าต้องการใช้ทางด่วนจะมีทางขึ้นที่ใกล้โครงการมากที่สุด 2 จุด จุดแรกคือทางขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 km. ในส่วนเส้นทางนี้จำเป็นต้องใช้ถนนสุขุมวิทเป็นหลัก ทำให้อาจมีรถติดบริเวณสี่แยกอโศกมนตรีพอสมควร ดังนั้นจะเป็นต้องเผื่อเวลาอย่างน้อยสักครึ่ง ชม. ด้วยนะครับ

จุดที่สองคือจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช (ด่านเก็บเงินรามคำแหง) จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.6 km. ซึ่งพอๆกับจุดแรกเมื่อสักครู่นี้ แต่ด้วยเส้นทางภายในซอยที่สามารถลัดเลาะเลี่ยงรถติดบนถนนใหญ่ได้ง่ายกว่า จึงทำให้ใช้เวลาน้อยกว่าประมาณ 10 นาทีครับ

สิ่งที่ต้องรู้สำหรับคนที่จะใช้รถใช้ถนนในทำเลนี้คือ ซอยสุขุมวิท 39 จะมีบางช่วงที่เป็น One way ถ้ามาจากทางฝั่งถนนสุขุมวิทต้องเลี้ยวเข้าซอยพร้อมจิต แล้วจะต้องวนขวาแล้วจะสามารถไปออกถนนเพชรบุรีได้จากซอยสุขุมวิท 38/1 นอกจากนั้นยังมีเส้นทางลัดอื่นๆในซอยเช่น ซอยพร้อมศรี หรือซอยพร้อมมิตร ที่ลัดเลาะทะลุไปออกได้ตั้งแต่ อโศก ประสานมิตร สวัสดี พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิท เป็นการหลีกเลี่ยงรถติดไปในตัว จากภาพได้ทำลูกศรกำหนดเส้นทางการเดินรถเอาไว้ให้แล้วครับ

ถ้าใครอยากเข้าไปชมโครงการ ต้องขอบอกก่อนว่า Sale Gallery จะตั้งอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะครับ โดยจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 สามารถเดินทางมาได้ทั้งขับรถยนต์ส่วนตัว และใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีอโศก หรือ MRT สถานีสุขุมวิท ก็ได้ครับ แล้วต่อด้วยนั่งวินมอไซค์หรือจะเดินเข้าไปก็ได้ จากปากซอยสุขุมวิท 23 ถึง Sale Gallery ประมาณ 900 m.

วันนี้เริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานี อโศก

ให้ใช้ทางออกที่ 3 และเดินไปบน Skywalk ข้ามแยกอโศกมนตรี เพื่อไปลงบันไดหน้าอาคาร Interchange 21 ที่อยู่ทางซ้ายมือ (ฝั่งขาออก)

ที่ใต้บันไดตรงจุดนี้มีวินมอไซค์อยู่ด้วยนะ ถ้าใครไม่อยากเดินให้เมื่อยก็สามารถใช้บริการกันได้ ราคาประมาณ 20 บาท

จากแยกอโศกมนตรี ให้ตรงต่อมาตามทางอีกหน่อยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 23 ซึ่งหน้าปากซอยเป็นที่ตั้งของ Jasmine City Hotel

ที่หน้าปากซอยจะมีวินมอไซค์อีกแล้วครับ สามารถใช้บริการกันได้ จากหน้าปากซอยก็ให้ตรงเข้าไปเรื่อยๆเลยครับ

ตรงเข้าสักพักจะเจอป้ายซอยบอกเป็นทางลัดไปทองหล่อได้ ซึ่งจะเป็นซอยทางขวามือที่มีร้าน CRAFT ตั้งอยู่หน้าปากซอย ให้เลี้ยวขวาเข้าไปเลย

ตรงมาจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางได้เลยครับ

เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเจอกับป้ายโครงการ ซึ่งตรงจุดนี้เป็นเพียงลานจอดรถเท่านั้นนะครับ Sale Gallery ของจริงจะอยู่ถัดออกไปอีกประมาณ 80 m. ข้างหน้านี้เอง ให้เราจอดรถตรงนี้แล้วจะมีรถกอล์ฟบริการขับไปส่งให้ถึงที่ไม่ต้องเดินไปให้ร้อนหรือเมื่อยนะครับ

ส่วน Sale Gallery ของจริงหน้าตาจะเป็นแบบนี้นะ เป็นอาคารพาณิชย์คู่ซึ่งทางซ้ายเป็นของโครงการ Walden Asoke ส่วนทางขวาเป็นของโครงการ Walden สุขุมวิท 39 เป้าหมายของเรา ให้เข้าประตูกระจกที่อยู่ทางขวาได้เลยครับ

เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับโมเดลตั้งอยู่ตรงกลาง มีชุดโซฟาตัวยาวอยู่ติดกัน และมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่ด้านใน ส่วนห้องตัวอย่างจะอยู่ชั้นบนซึ่งจะต้องขึ้นบันไดที่อยู่ทางด้านซ้ายมือครับ

ต่อไปเราจะเดินทางไปที่ตั้งโครงการซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยพร้อมมิตรกันต่อนะ ซึ่งถ้าหากเราเข้ามาชมโครงการที่ Sale Gallery ทางโครงการจะพามาชมที่ตั้งโครงการด้วยรถกอล์ฟได้ครับ โดยเส้นทางที่รถกอล์ฟใช้นั้นจะเป็นเส้นทางสีชมพูในแผนที่ที่ลัดเลาะมาตามซอยด้านในมาเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 39 และซอยพร้อมมิตรได้ ซึ่งถ้าเราต้องการขับรถมาเองก็สามารถใช้เส้นทางเดียวกันก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องออกไปรถติดที่ถนนใหญ่ข้างนอก แต่ถ้าเรามาจากข้างนอกแล้วจะเข้ามาชมที่ตั้งโครงการด้วยตัวเองก็สามารถขับรถหรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ได้ เข้าซอยสุขุมวิท 23 แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยพร้อมมิตร ระยะทางรวมประมาณ 900 m. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ

มาต่อกันที่การเดินทางไปยังที่ตั้งโครงการ ผมเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์

ให้ใช้ทางออกที่ 3 เพื่อมาลงหน้าธนาคารกรุงเทพครับ

บริเวณใต้สถานีตรงทางออกที่ 3 ค่อนข้างคึกคักและอุดมสมบูรณ์ มีทั้งร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารเต็มไปหมดเลย

ก่อนถึงปากซอยสุขุมวิท 39 จะมีซอยเล็กๆอยู่ด้วย

ภายในซอยมีร้านอาหารและสถานบันเทิงอยู่หลายร้าน สุดซอยแล้วเลี้ยวขวาจะมาสามารถเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 39 ได้ครับ

มาต่อกันที่ทางเข้าหลักคือซอยสุขุมวิท 39 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปได้เลยครับ

บริเวณหน้าปากซอยจะมีเซเว่นเล็กๆอยู่ และมีวินมอไซค์อยู่ด้วย ส่วนภายในซอยก็ค่อนข้างคึกคักครับ มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้านเลย นอกจากนี้ยังมีรถกะป้อจอดเรียงกันอยู่เป็นแถว สามารถเรียกใช้บริการได้นะครับ

เข้ามาภายในซอยนิดนึงจะเจอกับร้าน Lawson ซึ่งซอยตรงข้างๆร้านนี่แหละที่เป็นทางออกมาจากซอยที่เราไปดูกันมาตอนแรกก่อนหน้านี้นั่นเอง

เข้ามาภายในซอยเรื่อยๆก็มีร้านค้าร้านอาหารตลอดทั้งสองข้างทางนะ มีทางเท้าให้เดินดีๆได้ทั้ง 2 ฝั่งด้วย สามารถเดินได้ปลอดภัยครับ

นอกจากอาคารพานิชย์แล้วยังมีคอนโดตึกสูงหรูๆอย่าง THE XXXIX และ Le Raffiné ตั้งอยู่อีกด้วย และกำลังจะมีคอนโดมิเนียมราคาแพงใหม่ๆเกิดขึ้นในซอยนี้อีกหลายโครงการ

ซึ่งเมื่อเราเข้ามาจนถึงหน้า Le Raffiné แล้วให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมมิตรได้เลยครับ

ภายในซอยพร้อมมิตรเป็นถนน 2 เลนซึ่งค่อนข้างแคบ รถสามารถสวนทางกันได้แบบพอดีและมีจำนวนค่อนข้างมากเพราะเป็นหนึ่งในทางลัดที่เชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 49 และไปซอยทองหล่อได้ ซึ่งภายในซอยนี้ไม่เหมาะกับการเดินเท่าไหร่นักเพราะอันตรายเนื่องจากไม่มีทางเท้าให้เดิน รถจะเฉี่ยวเอาได้นะ

ภายในซอยนี้เดิมทีเคยมีโรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาพร้อมมิตร ตั้งอยู่ด้วย แต่ปิดไปได้ประมาณ 2 ปีแล้วครับ(เผื่อบางคนยังเข้าใจผิดคิดว่ายังมีอยู่)

เมื่อขับเข้ามาจนสุดซอยจะเจอกับที่ตั้งโครงการซึ่งล้อมรั้วเมทัลชีทเรียบร้อยอยู่ทางขวามือครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทโดยรอบโครงการเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมสูง ที่ดินติดถนน 2 ฝั่งเพราะเป็นแปลงมุม ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอยพร้อมมิตร ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น และหมู่บ้านพร้อมมิตร วิลล่า
  • ทิศใต้ ติดกับ ทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสุขุมวิท 49/1 และเป็นทางเข้าหลักโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้น

มาเดินดูรอบๆ ที่ตั้งโครงการกันนะ โครงการนี้เป็นแปลงมุม มีถนนขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่ง

รั้วของโครงการมีการร่นระยะเข้าไปจากแนวถนนประมาณ 3 m. ซึ่งจากเดิมที่เจ้าของที่ดินเดิมมีการสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณะ ทางโครงการจึงได้ทำให้มันถูกต้อง และยังช่วยเพิ่มผิวถนนหน้าโครงการทำให้รถสามารถสัญจรไปมาได้สะดวกมากขึ้น

มาดูทางด้านขวามือกันก่อนนะ(ด้านข้างโครงการ) ซึ่งเป็นทางฝั่งซอยพร้อมมิตรที่เราใช้เดินทางมาเมื่อสักครู่นี้ ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น

ติดกับรั้วโครงการฝั่งเดียวกันหรือก็คือเป็นด้านหลังโครงการจะเป็นคอนโดสูง 15 ชั้น

ส่วนตรงหัวมุมถนนฝั่งตรงข้ามกับโครงการเป็นหมู่บ้านพร้อมมิตร วิลล่า เป็นชุมชนพักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น

ภายในหมู่บ้านนี้ บ้านบางหลังจะมีการเปิดร้านค้าร้านอาหารกันด้วย ซึ่งคนภายนอกก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้นะ มีที่จอดรถส่วนรวมให้ที่ด้านหน้าหมู่บ้านด้วย กระเพราหมูกรอบไข่ดาวครัวพี่เล็กราคา 40 บาทเอง ถูกมากๆเลย อร่อยด้วย

มาต่อกันที่ด้านซ้ายหรือก็คือฝั่งซอยสุขุมวิท 49/1 ซึ่งถือเป็นด้านหน้าของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นชุมชนที่พักอาศัยสูง 2 ชั้น และมีร้านค้าริมทางอยู่ 1 ร้าน

ติดกันกับรั้วโครงการทางด้านซ้ายเป็นทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น

มาดูทำเลรอบๆโครงการกันต่ออีกสักหน่อยนะครับ ถนนซอยสุขุมวิท 49/1 ทางด้านซ้ายของโครงการนี้มีทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้นยาวตลอดทั้งซอย

เมื่อตรงมาจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายจะสามารถมาออกซอยสุขุมวิท 49 ได้ ซึ่งเราจะไปดูทางด้านซ้ายกันก่อนนะว่ามีอะไรบ้าง

ภายในซอยสุขุมวิท 49 เป็นซอยที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และโรงพยาบาลครบครัน ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเดินได้ทั้งนั้น ทั้ง The 49 Terrace ที่มีร้าน Starbuck กับบรรยากาศน่านั่งเล่นมากๆ, Piman 49 ภายในมีร้านอาหารและร้านกาแฟดีๆอยู่หลายร้าน, Villa Market และโรงพยาบาลสมิติเวช

ที่ด้านหน้า Villa Market จะมีวินมอไซค์อยู่ด้วย ซึ่งเป็นวินที่ใกล้โครงการมากที่สุด สามารถเดินมาเรียกได้ครับ อัตราค่าโดยสารตามนี้เลย

ส่วนโรงพยาบาลสมิติเวชเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ค่อนข้างใหญ่ ภายในมีร้านค้าร้านสะดวกซื้ออยู่หลายร้านเหมือนเป็นห้างขนาดย่อมๆเลยทีเดียว

บริเวณหน้าโรงพยาบาลจะมีซอยที่เชื่อมต่อไปยังซอยทองหล่อได้ และที่หัวมุมถนนฝังตรงข้ามกำลังมีการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลสมิติเวชแห่งใหม่เพื่อรองรับผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะอีกด้วยครับ

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วก็จะเป็นซอยทองหล่อ 13 ซึ่งภายในซอยนี้ก็มีคอมมูนิตี้มอลล์เยอะแยะเลยโดยเฉพาะ Nihonmura Mall ซึ่งภายในมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่หลายร้านทีเดียว ติดกันมีตลาดญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้วย ได้บรรยากาศและวิถีชีวิตแบบชาวญี่ปุ่นขึ้นมาเลยล่ะครับ ส่วนที่ปากซอยก็มี J Avenue ตั้งอยู่ ภายในก็มีร้านค้าร้านอาหารอีกหลายร้านเช่นกัน

สำหรับตลาดอาหารสดข้างๆ Nihonmura Mall นี้จะเปิดบริการทุกวันยกเว้นวันอังคารนะครับ ถ้าใครอยากได้ของสดหรืออยากทำอาหารญี่ปุ่นทานเองก็แวะมาอุดหนุนกันได้

ภายในมีของสดที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งพืชผักและปลาสด มีครบทุกอย่างที่ต้องการแน่นอนครับ

ไหนๆก็แวะมาที่นี่ทั้งทีอยากแนะนำร้านเบเกอรี่เล็กๆที่อยู่ด้านหน้าด้วยชื่อว่า Toraya Bakery ที่ผมชอบมากที่สุดคือ Melon bun และ Melon bread ที่หอมและอร่อยมากๆ ต้องแวะซื้อทุกครั้งที่ได้ไปเลยล่ะครับ

ปิดท้ายด้วยอีกคอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ทางขวาของซอยสุขุมวิท 49 (ซึ่งเมื่อกี้เราไปทางซ้ายด้านในกันมา) โดย 49 Playscape นี้เป็นเหมือนคอมมูนิตี้ที่คนรักสัตว์จะต้องชอบแน่ๆ เพราะจะมีสวนให้พาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นได้ มีสระว่ายน้ำของสัตว์เลี้ยง ร้านตัดขน ร้านกาแฟ และอื่นๆสำหรับสัตว์เลี้ยง

ส่วนที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 49 ก็จะมีวินมอไซค์ด้วยเหมือนกัน โดยซอยนี้จะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีทองหล่อ มากกว่าพร้อมพงษ์ แต่ก็แอบเดินมาจากสถานีถึงปากซอยไกลกว่าของซอยสุขุมวิท 39 หน่อย และบรรยากาศช่วงต้นซอยก็จะไม่คึกคักเท่าครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

  • The 49 Terrace ~ 200 m.
  • Piman 49 ~ 260 m.
  • Villa market ~ 290 m.
  • U.F.M. Supermarket ~ 300 m.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ~ 500 m.
  • 49 Playscape ~ 700 m.
  • Ivy Bound International School ~ 700 km.
  • Nihonmara Mall ~ 850 m.
  • SeenSpace ~ 1 km.
  • โรงพยาบาลศูนย์รัฐ ~ 1.1 km.
  • The Commons ~ 1.3 km.
  • J Avenue ~ 1.3 km.
  • Rain Hill ~ 1.4 km.
  • Emporium ~ 1.7 km.
  • สวนเบญจสิริ ~ 1.8 km.
  • โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 1.9 km.
  • โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร ~ 2.1 km.
  • The EmQuartier ~ 2.2 km.
  • โรงเรียนนานาชาติแองโกสิงค์โปร์ ~ 2.3 km.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ~ 2.4km.
  • Jasmine City Hotel ~ 2.5 km.
  • Modern International School ~ 2.8 km.
  • Terminal 21 ~ 4 km.
  • สวนเบญจกิติ ~ 4.9 km.
  • SHOW DC ~ 6.2 km.
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ~ 6.4 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูภาพรวมโครงการกันบ้างครับ Walden สุขุมวิท 39  เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 116 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 0-3-22 ไร่ ที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนของซอยสุขุมวิท 49/1 และซอยพร้อมมิตร โดยทางเข้าโครงการจะอยู่ทางฝั่งถนนซอยสุขุมวิท 49/1 มีแนวความคิดในการออกแบบให้ได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีระเบียงต้นไม้ตามชั้นต่างๆบนอาคาร และมีระแนงที่ช่วงพรางตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องพักอาศัยได้ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Facade ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานของผู้พักอาศัยได้อย่างไม่จำเจ ซึ่งหากมองในระยะไกลจะดูคล้ายกับอาคารที่ทำมาจากวัสดุประเภทไม้ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ โดยได้นำมาดัดแปลงให้กลายเป็นแบบร่วมสมัยมากขึ้นและสามารถอยู่ได้ด้วยความคงทนถาวรโดยใช้วัสดุประเภทเหล็กและอลูมิเนียมมาทดแทน โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 – 8 และมีชั้น Main Facilities อยู่บนชั้นดาดฟ้า

มาดู Master Plan กันต่อนะครับ ทางเข้าโครงการมีแค่ทางเดียวจึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะไม่มีป้อม รปภ. เหมือนโครงการอื่นๆ เนื่องจากที่จอดรถของโครงการนี้เป็นแบบ Automatic parking ทั้งหมด และจะมีที่จอดรถสำรองของ Visitor เพียงแค่ 1 ที่เท่านั้น ซึ่งหากลูกบ้านมีเพื่อนหรือแขกมาเยี่ยมกันหลายคน ก็อาจต้องหาที่จอดภายในซอยเอานะครับ เพราะทางโครงการไม่ได้เตรียมพื้นที่ในส่วนนี้ไว้ให้ ส่วนที่จอดรถลูกบ้านในโครงการจะมีให้ 49% ไม่สามารถจอดซ้อนคันได้เพราะเป็นแบบ Automatic parking ทั้งหมด

นอกจากทางเข้าของรถยนต์แล้วยังมีทางเข้าของคนอยู่ด้วย ซึ่งสามารถเดินเข้าได้จากทาง Outdoor Recreation และจะต้องใช้ Key card เพื่อเข้าไปยังส่วน Lobby โดยจะมีประตูอีกจุดหนึ่งจากทางที่จอดรถใต้อาคาร เนื่องจาก Lobby นี้เป็นที่ที่จะเอาไว้ใช้นั่งคอยเวลาเรียกรถได้ จะได้เดินไปรับรถหรือเก็บรถแล้วจะเดินเข้าอาคารได้สะดวก (ซึ่งจะใช้เวลาเรียกประมาณ 2 – 3 นาทีต่อคัน) และมีประตูอีกจุดหนึ่งอยู่ทางด้านหลัง เป็นทางไป Fitness ที่ออกแบบผนังเป็นกระจกให้สามารถมองเห็นสวนรอบโครงการ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวกว่าด้านหน้าโครงการที่มีความพลุกพล่านมากกว่า ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลางอาคาร และมีห้องพักอาศัยอยู่รายล้อมโถงลิฟต์ซึ่งไม่มี Key Card แตะอีกชั้นหนึ่งแยกออกมาจากโถงลิฟต์ อาจทำให้ห้องพักเหล่านี้ขาดความเป็นส่วนตัวไปครับ

เรายังคงอยู่กันที่แปลนชั้น 1 ของอาคารนะ โดยผังนี้จะแสดงชั้นลอยของห้องพักอาศัยชั้น 1 ที่เป็นห้องพักแบบ Loft ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ยูนิต และจะไม่มีประตูเปิดออกไปภายนอกอีกชั้นหนึ่งได้เหมือนห้อง Duplex นะครับ โดยเส้นกากบาทลางๆที่เห็นนั่นคือเป็นช่อง Void ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งหรือแสดงว่าตรงนั้นมันไม่มีพื้นของชั้นนี้นะครับ แต่มันจะทะลุไปที่พื้นชั้น Ground Floor ที่อยู่ที่ชั้นแรก ซึ่งหากวัดจากพื้นถึงฝ้าเพดานตรงส่วนที่เป็น Void ทั้งหมดจะมีความสูงถึง 4.3 m. เลยทีเดียว

มาดูที่โมเดลกันนะ จากภาพมีทางเข้า 2 ทาง โดยแบ่งเป็นทางเข้ารถยนต์และทางเข้าคนเดิน จุดน่าสนใจอยู่ที่ทางเข้าคนซึ่งโครงการมีการออกแบบที่ดินโครงการให้มีการลดระดับลงจากพื้นถนนประมาณ 1.9 m. จึงทำให้ทางเดินเป็นบันไดลาดลงไปด้านล่างสู่ Outdoor Recreation ซึ่งเป็นส่วนต้อนรับก่อนจะเข้าไปยัง Lobby ที่อยู่ภายใน

หลายคนอาจมีความกังวลว่าการที่โครงการมีที่ดินอยู่ต่ำกว่าระดับถนนแบบนี้จะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมตามมาหรือเปล่า ซึ่งหลังจากที่ได้สอบถามกับโครงการได้คำตอบว่า โครงการมีการจัดการเรื่องการระบายน้ำไว้เป็นอย่างดี โดยจะมีเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว อยู่ที่ชั้น Ground Floor และมีเครื่อง Generator อยู่ที่ชั้น 8 ซึ่งจะหมดปัญหาเรื่องเครื่องสูบน้ำไม่ทำงานเนื่องจากน้ำท่วมเครื่อง Generator ที่อยู่ชั้น 1 เหมือนโครงการอื่นๆครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Outdoor Recreation ซึ่งจะเป็นบันไดลด Step ลงมาจากถนนหน้าโครงการประมาณ 1.9 m. พื้นและบันไดเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวสะอาดตา และมีน้ำตกเป็นส่วนต้อนรับอยู่ด้านหน้า ช่วยปรับอารมณ์ให้เย็นลงด้วยสายน้ำและธรรมชาติจากความวุ่นวายภายนอกก่อนจะเข้าไปยังด้านในโครงการ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Lobby ภายในมีชุดรับแขกหลายชุด ผนังโดยรอบเป็นกระจกและได้ฝ้าเพดานสูงถึง 4.3 m. จึงทำให้ได้ความโปร่งโล่ง แต่เนื่องจากตัวโครงการชั้น 1 สร้างอยู่ต่ำจากพื้นถนนด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกออกไปจึงมองเห็นเป็นแนวน้ำตกหินอ่อนและ Green Wall ที่ทางโครงการตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองภายนอกโครงการได้เป็นอย่างดี วัสดุและการตกแต่งให้ความรู้สึกหรูหราและเรียบเท่ทันสมัยในเวลาเดียวกันซึ่งเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติโดยรอบได้ดี

แปลนชั้น 2 – 7 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Tropical Floor Plan คือจะเหมือนกันหมดทุกชั้น วางโถงลิฟต์กับห้องงานระบบเอาไว้ค่อนไปทางขวาของอาคาร มีลิฟต์ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 58 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นครับ มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง และโถงทางเดินเป็นแบบ Single corridor ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยจะมี Void ตรงกลางซึ่งจะทะลุถึงกันหมดทุกชั้น ด้านบนสุดเป็นหลังคาอะคริลิคซึ่งจะดึงแสงธรรมชาติเข้ามายังโถงทางเดินในอาคารทำให้ได้ความโปร่งโล่งไม่อึดอัด ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 16 ยูนิตต่อชั้น

ห้องพักที่หันหน้าไปทางทิศเหนือจะเป็นห้องแบบ One Bedroom มองออกไปทางฝั่งคอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้นที่อยู่ด้านหลังของโครงการ ส่วนห้องทางทิศใต้เป็นห้อง One Bedroom Plus จะอยู่ทางด้านหน้าโครงการติดกับถนนซอยสุขุมวิท 49/1 มองออกไปเห็นชุมชนที่พักอาศัยสูง 2 ชั้น ซึ่งเป็นทิศที่ดีที่สุดและได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง ส่วนห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจะเป็นห้องมุมแบบ Two Bedroom มองออกไปเห็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น และทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น ตามลำดับ

แปลนชั้น 8 ยังคงเป็นชั้นพักอาศัยเช่นเดิม แต่จะมีความแตกต่างอยู่ที่จำนวนยูนิตที่น้อยลงเหลือเพียง 13 ยูนิต ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย และห้องทางทิศใต้จะเปลี่ยนจากห้อง One Bedroom Plus เป็นห้อง One Bedroom ปกติ แต่เพิ่มเติมคือมีระเบียงห้องที่กว้างมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบใช้ระเบียงเช่นปลูกต้นไม้ ทำสวน หรือออกมาใช้งานระเบียงบ่อยๆ

ซึ่งถ้าเราดูจากโมเดลที่ตั้งอยู่ใน Sale Gallery ก็จะสามารถมองเห็นระเบียงชั้น 8 ได้ครับ ถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของแบบห้องโครงการที่มีคนสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากมีจำนวนเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น

ชั้นสุดท้ายเป็นดาดฟ้าซึ่งเป็นชั้น Main Facilities หลักของโครงการ แบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆด้วยกันคือ โซนออกกำลังกายและเพื่อสุขภาพประกอบด้วย สระว่ายน้ำซึ่งมีทั้งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ พื้นที่นั่งพักผ่อนรอบๆสระ Onzen Jacuzzi ตกแต่งโดยรอบด้วยสวนและน้ำตกดูเป็นธรรมชาติ โซนที่สองเป็น Family area จะมีสนามเด็กเล่นและศาลานั่งพักผ่อนสำหรับผู้ปกครองที่มานั่งดูแลลูกหลานอยู่ใกล้ๆได้ ส่วนโซนสุดท้ายคือโซนสำหรับนั่งชมวิวหรือนั่งเล่น ซึ่งจะมีเคาน์เตอร์บาร์อยู่โดยรอบใต้ต้นไม้ พร้อมทั้งลาน BBQ และ Sky Terrace ให้ได้เดินขึ้นไปชมวิวกันเล่นๆอีกด้วย

มาดูโมเดลกันจะเห็นรายละเอียดมากขึ้นนะครับ ตรงบริเวณสระว่ายน้ำจะมี Green Wall ที่กั้นระหว่างสระว่ายน้ำกับคอนโดสูง 15 ชั้น ที่อยู่ติดกันทางด้านหลังโครงการเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งานได้ ส่วน Jacuzzi และ Onzen ก็อยู่ในร่มทำให้สามารถใช้งานได้จริงแม้ในเวลามีแดดหรือฝนตก ส่วนอีกด้านหนึ่งของอาคารจัดเป็นที่นั่งไว้หลายชุด ทั้งเป็นแบบศาลา โต๊ะ BBQ แบบโต๊ะสนามจริงจัง หรือจะเป็นเคาน์เตอร์ใต้ต้นไม้ที่ดูแล้วน่าร่มรื่น หันหน้ามองออกไปภายนอกอาคารเพื่อชมวิวโดยรอบได้

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณส่วนของสระว่ายน้ำที่มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ใช้พื้นเป็นสีขาวตัดกับสวนและต้นไม้สีเขียว และหลังคาไม้ที่คอยให้ร่มเงา ทำให้ดูเข้ากับธรรมชาติโดยรอบที่สวยงามน่าใช้งานมากขึ้น

ภาพบรรยากาศตรงจุดชุมวิวของลาน BBQ และ Sky Terrace ก็ดูน่านั่งเล่น จัดปาร์ตี้ BBQ หรือนั่งทำงานก็ดีครับ จัดที่นั่งโดยรอบให้มองออกไปภายนอกทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด ดูเรียบง่ายแต่สวยงามไปอีกแบบ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Outdoor recreation area with landscape
  • Fitness
  • Swimming Pool 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 14 x 4.2 เมตร
  • Kids Pool
  • Pool Terrace
  • Jacuzzi
  • Onzen
  • Relaxing seat
  • Vichy foot therapy
  • Massage walk
  • Active Playground
  • Family seat/Sala/Under the tree bar/BBQ area/Social Corner
  • Sky Terrace
  • Underground water tank / Roof tank
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 58 :  1
  • ที่จอดรถ Automatic parking ประมาณ 57 คันคิดเป็น 49% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

โครงการนี้มีแบบห้องให้เลือกถึง 5 แบบ ขายแบบ Fully Furnished ประกอบด้วย

  • 1 Bedroom 31 – 43 ขนาด ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 40 – 45 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Loft ขนาด 34 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 53 – 59 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Loft ขนาด 45 – 60 ตร.ม.

ทางโครงการจะมีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบคือห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับพื้นที่ครัวก่อน เป็นครัวเปิดซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อความโปร่งโล่งและช่วยดึงแสงธรรมชาติภายนอกให้เข้ามาสู่ภายในได้ โดยห้องอเนกประสงค์นี้จะมีประตูเล็กๆเชื่อมต่อกับระเบียงได้ด้วย ส่วนห้องนอนจะอยู่ทางด้านขวากั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนอีกเช่นกัน เปิดออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ในห้องจะทำให้ห้องมีความโปร่งโล่ง แต่ก็สามารถเลื่อนปิดเพื่อกั้นพื้นที่ออกจากกันให้เกิดความเป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ด้วย ห้องนอนมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ มีทั้งระเบียงและห้องน้ำในตัวซึ่งมีการแยกพื้นที่ส่วนแห้งกับส่วนเปียกออกจากกันด้วยอ่างอาบน้ำที่เป็นฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้สำหรับคนญี่ปุ่น ห้องนี้จึงเหมาะกับการพักอยู่อาศัย 1 – 2 คน ซึ่งต้องการห้องอเนกประสงค์สำหรับ Lifestyle ส่วนตัว หรือชอบห้องกว้างๆ แบบโปร่งโล่ง แต่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเพื่อความเป็นสัดส่วนได้

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะสามารถมองเข้าไปได้ลึกจนถึงห้องอเนกประสงค์ด้านในที่มีหน้าต่างได้ จึงทำให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด แต่จะยังไม่สามารถมองเห็นส่วนห้องนอนจึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี ทางโครงการไม่ได้ติดประตูห้องมาให้ดู แต่ของจริงเราจะได้ประตูไม้อัดสักบานทึบปิดผิวลามิเนต พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale มาให้พร้อมใช้งาน

พื้นที่ส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัวรูปตัว L พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ฝ้าในส่วนนี้มีการดรอปลงมาเล็กน้อยเนื่องจากมีแอร์แบบฝังฝ้าซึ่งทางโครงการก็จะให้มาด้วย ความสูงจากพื้นถึงฝ้าในส่วนครัวจึงอยู่ที่ 2.19 m.

พื้นที่ทางเดินกว้าง 1 m. และพื้นที่ประกอบอาหารกว้างประมาณ 85 cm. สามารถเดินผ่านหรือใช้งานครัวได้สะดวก และพื้นเป็นกระเบื้องจึงทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหรือความชื้นภายในครัว ทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ตู้แขวนผนังด้านบนเราจะได้เป็นหน้าบานกระจกเงาแบบนี้เลยครับ ภายในสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร

กรอบบานเป็นเหล็กแบบเรียบอย่างนี้ แข็งแรงทนทาน และบานตู้ทุกบานจะติดตั้งระบบ soft close มาให้ ช่วยป้องกันการกระแทกเวลาปิดตู้แรงๆได้ดี

เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ผนังติดกระจกเงามาให้แบบนี้ทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย แต่ผนังด้านซ้ายไม่ได้กรุมาให้อาจติดตั้งเพิ่มเติมได้ถ้าเป็นคนชอบใช้งานครัวจริงจัง

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียม Solid Surface สามารถทนความชื้นและความร้อนได้ดี Hob&Hood ของ Gorenje แบบดูดออกไปสู่ภายนอก และอ่างล้างจานของ Teka ขนาดประมาณ 44 x 44 ลึก 22 cm.

ตู้ด้านล่างมีลิ้นชักสามารถเก็บของได้พอสมควร หน้าบานตู้เป็น MDF ปิดผิวลามิเนตสีแบบนี้ แล้วยังมีไมโครเวฟแบบฝังตู้ของ Gorenje แถมมาให้ด้วย

ส่วนตู้ทางด้านซ้ายนอกจากจะมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าแล้วยังมีช่องเก็บของเล็กๆ อยู่ด้วย แต่หน้าบานไม่สามารถเปิดออกจนสุดได้เนื่องจากติดตู้เย็นครับ

ส่วนตู้เย็นมีพื้นที่สามารถวางตู้ได้ขนาดประมาณนี้ เป็นพื้นที่ที่ถูกจำกัดด้วยความสูงประมาณ 1.5 m. และการเลือกซื้อตู้เย็นก็ควรซื้อตู้ที่เปิดไปในทิศทางที่ถูกต้องกับตำแหน่งห้องที่เราเลือกนะครับ จากห้องตัวอย่างถ้าเคาน์เตอร์ครัวอยู่ทางด้านซ้ายของห้องแล้วต้องเปิดตู้เย็นทางด้านนี้ถูกต้องแล้วครับ แต่ถ้าเป็นห้องที่สลับด้านกันก็ต้องซื้อตู้ที่เปิดอีกฝั่งนะ จะได้ใช้งานได้สะดวก

ติดกันกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ขนาดประมาณ 0.4 x 1.5 m. หันหน้าไปทางครัวแบบนี้ครับ ซึ่งทางโครงการก็จะให้มาทั้งโต๊ะและเก้าอี้แบบนี้เลย โดย Top โต๊ะที่ได้จะเป็นหินจริงด้วยนะครับ

ที่ผนังด้านข้างจะมีหน้าจอมอนิเตอร์ติดอยู่ นี่ไม่ใช่ระบบ Home Automation นะ แต่เป็นระบบสั่งซื้อสินค้าที่สามารถสแกนบาร์โค้ดสินค้าที่ด้านล่างหน้าจอนี้แล้วสามารถชำระสินค้าโดยตัดเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย แล้วจึงค่อยรอรับสินค้าได้จากที่ด้านล่างครับ นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และโทรหานิติบุคคลได้ด้วย

ส่วนฝ้าเพดานจะดรอปฝ้าเพื่อฝังแอร์ด้านบนแบบนี้ แต่ฝ้าจะเป็นฉาบเรียบทาสีไม่ได้เป็นไม้แบบนี้นะ

ส่วนต่อมาเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งเราจะได้ชุดชั้นวางทีวี โต๊ะกลาง และโซฟาตามแบบในห้องตัวอย่างเลยครับ พื้นเป็น Engineering Wood ซึ่งพื้นผิวด้านบนเป็นไม้จริง จะมีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต ผนังในห้องทั้งหมดจะติด Wallpaper ลายสีขาวมาให้ และตรงส่วนนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 m.

ระยะดูทีวีกว้างประมาณ 1.8 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ โดยไว้เผื่อระยะนอนดูทีวีไปด้วยในตัวได้เลย

ชั้นวางทีวีและโต๊ะกลางเป็น Top หินแท้สีดำเช่นเดียวกับโต๊ะทานอาหาร ติดตั้งระบบ soft close มาให้เพื่อป้องกันการกระแทก พร้อมที่เปิดแบบกดกระเด้งแบบนี้ทำให้เปิดได้สะดวก

ด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดออกได้กว้าง 1.45 m. เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสองส่วนทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น และยังดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาภายในได้อีกด้วย

กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีทอง กระจกเป็นแบบใสธรรมดา ไม่มีที่เปิดหรือตัวล็อค แล้วเดินรางด้านบนทำให้ไม่มีรางที่พื้นให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่นยากต่อการทำความสะอาด

ภายในห้องอเนกประสงค์นี้ทางโครงการจัดเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่นไปด้วยในตัว ซึ่งทั้งโต๊ะทำงานและโซฟานี้เราจะได้แถมมาแบบในห้องตัวอย่างเลยครับ

ขนาดห้องอเนกประสงค์กว้างประมาณ 2.3 x 2 m. ซึ่งกว้างมากพอที่จะสามารถทำห้องนี้ให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งได้ พื้นห้องในส่วนนี้เปลี่ยนกลับมาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้อีกครั้ง เพื่อรองรับสำหรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานห้องที่หลากหลายไปตาม Lifestyle ของแต่ละคน

ชุดโต๊ะทำงานที่ได้จะเป็น Top หินจริงสีดำเข้าชุดกันกับโต๊ะอาหาร ชั้นวางทีวี และโต๊ะกลางด้านนอก ใต้โต๊ะมีลิ้นซ่อนอยู่และติดโช๊คกันกระแทกมาให้แล้วด้วย

ชุดหน้าต่างจะเป็นบานกระจกทั้ง 2 ด้านแบบนี้ โดยที่ด้านขวาจะเป็นบาน Fixed ส่วนตรงกลางเป็นกระจกบานเลื่อนที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาแล้วสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย

บานกรอบเป็นอลูมิเนียมสีน้ำตาลเข้ม พร้อมมีตัวตัวล็อคกับที่เปิดแบบนี้ กระจกเป็นแบบใสธรรมดา และที่ด้านนอกจะมีระแนงบานเฟี้ยมซึ่งได้เคยเกริ่นไปในช่วงโมเดลที่บอกไว้ว่านอกจากทำหน้าที่เป็น Facade ให้กับโครงการแล้วยังช่วยพรางสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัว และสามารถเปิดออกได้ 90 องศาด้วยครับ

ส่วนทางด้านขวาจะมีประตูกระจกเล็กๆเพื่อเปิดออกไปที่ระเบียงได้

ประตูนี้มีความกว้างประมาณ 50 m. สามารถใช้งานได้พอดีตัว ซึ่งถ้าดูจากห้องตัวอย่างแล้วกลอนประตูดูเหมือนจะติดสลับกันผิดไปนิดหน่อยนะครับ ในความเป็นจริงแล้วตัวล็อคจะต้องอยู่ด้านในห้องและตัวเปิดแบบแม่กุญแจจะต้องอยู่ด้านนอกเพื่อความปลอดภัย

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี โดยห้องนั่งเล่นจะมีไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง และในห้องอเนกประสงค์อีก 1 ดวง

ต่อไปเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้ เป็นแบบเปิดออกได้กว้างข้างละ 3 ตอน  เมื่อเปิดออกจะเชื่อมต่อพื้นที่ห้องทำให้มีขนาดใหญ่และโปร่งโล่งมากขึ้น แล้วถ้าเลื่อนปิดก็จะได้ความเป็นสัดส่วนแยกออกจากกันดี ซึ่งกระจกที่ได้จะเป็นกระจกพรางสายตาลายแบบนี้ ช่วยให้เกิดความเป็นส่วนตัวได้ครับ

กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีทองเช่นเดียวกับส่วนของห้องอเนกประสงค์ แต่จะมีที่เปิดแบบเซาะร่องเพิ่มเข้ามาทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น กระจกเป็นแบบขุ่นช่วยพรางสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้บ้าง เดินรางไว้ด้านบน และมีช่องทางเดินระหว่างประตูกับโซฟากว้าง 80 cm. สามารถเดินผ่านได้สะดวก

ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้างขวาง วางเตียงขนาด King size ไว้กลางห้องแบบนี้แล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบอีกเยอะให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งเตียงและฟูกที่นอนนี้ทางโครงการก็แถมมาให้ด้วยนะครับ เรียกได้ว่าครบพร้อมอยู่เลยทีเดียว

พื้นที่ปลายเตียงเมื่อปิดประตูกระจกบานเลื่อนแล้วจะมีพื้นที่ทางเดินเหลือประมาณ 30 cm. สามารถเดินผ่านได้แบบพอดีตัว

พื้นที่ข้างเตียงทางซ้ายเหลือกว้างประมาณ 1 m. และเราจะได้โต๊ะข้างเตียงแบบนี้ทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ Top เป็นหินแท้สีดำ หน้าบานเป็นกระจกสีทอง ออกแบบที่เปิดแบบกดกระเด้ง และติดโช๊คป้องกันการกระแทกมาให้ด้วย

ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องแล้วยังสามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้ด้วย ในส่วนตรงนี้ประตูของจริงจะได้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเลยนะครับ ซึ่งจะไม่มีทับหลังเหนือประตูแบบห้องตัวอย่าง และเรายังจะได้ผ้าม่านแบบนี้เลยด้วย

บานกรอบเป็นอลูมิเนียมสีน้ำตาลเข้ม มีที่เปิดและตัวล็อคแบบนี้ ส่วนพื้นระเบียงของจริงจะมีการลดระดับลงไปประมาณ 3 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้ามาภายในห้องได้บ้าง ไม่ได้เรียบเสมอกันแบบในห้องตัวอย่างนะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.25 x 1.7 m. สามารถออกไปใช้งานได้ มีราวกันตกเป็นเหล็กธรรมดาสูง 90 cm.

ที่ใต้ราวเหล็กมีทางระบายน้ำแบบเซาะร่องแบบนี้แทนการใช้ท่อระบายน้ำแบบทั่วไป ซึ่งจะสามารถระบายน้ำได้รวดเร็วกว่าและลดปัญหาเรื่องท่ออุดตัน

ทางขวามือมีพื้นที่เก็บ Condensing unit ซึ่งมีประตูลูกกรงเหล็กสีดำปิดพรางสายตาอย่างเป็นสัดส่วน

ภายในมีขนาดประมาณ 1 x 0.8 m. เมื่อแขวน Condensing unit ไว้ด้านบนแล้วจะยังมีพื้นที่เหลือด้านล่างสามารถใช้เก็บของใช้เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดชิ้นใหญ่ๆได้ แต่ระเบียงจะไม่มีก๊อกน้ำให้นะครับ

และอย่างที่บอกว่าตามชั้นต่างๆของโครงการนี้จะมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ด้วย โดยกระถางต้นไม้ตรงนี้จะไม่ได้นับเป็นพื้นที่ขายนะ แต่โครงการจะมีให้พร้อมกับต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากนักแล้วจะยกให้ลูกบ้านห้องนั้นๆช่วยกันดูแล

ฝ้าเพดานด้านบนฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 ดวง

ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำครับ

ตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะ Built in มาให้เป็นแบบนี้เลย หน้าบานเป็นกระจกใสสีดำพร้อมซ่อนไฟภายในตู้

ภายในมีลิ้นชักสามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะ ติดโช๊คป้องกันการกระแทก พร้อมที่เปิดตู้แบบแถบอลูมิเนียมทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น

พื้นที่หน้าตู้ค่อนข้างกว้างประมาณ 1.6 m. และอยู่ใกล้กับห้องน้ำซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ใช้งานเชื่อมต่อกันกันดี ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน

ฝ้าเพดานของห้องนอนก็ฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 ดวง มีเครื่องปรับอากาศแบบแขวนผนัง และจะมีการดรอปฝ้าและซ่อนไฟตรงหัวเตียงมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยครับ แต่ไฟตกแต่งจุดเล็กๆเราจะไม่ได้นะ

สุดท้ายคือห้องน้ำ ซึ่งเราจะได้ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องเลยยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่งนะ

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.2 x 1.8 m. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านกันลื่น ธรณีประตูเป็นหินเทียมซึ่งมีความแข็งแรงทนทานและสวยงามดี

ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าเป็นของ Toto ขนาดประมาณ 70 x 46 cm. มีตู้ด้านล่างซึ่งของจริงจะสามารถเปิดออกมาเพื่อเก็บของได้ และที่ด้านในจะติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนได้ด้วยครับ เนื่องจากห้องน้ำที่นี่จะมีการเดินท่อน้ำร้อนแบบฝังผนังไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

กระจกเงาจะได้บานใหญ่เต็มผนังแบบนี้ ด้านในสามารถเปิดออกมาเพื่อใส่ของได้พอสมควร ซึ่งของจริงจะมีชั้นสำหรับวางของอยู่ด้วย 2 – 3 ชั้นครับ จะไม่ใช่ตู้โล่งๆแบบนี้นะ

ที่ด้านข้างอ่างล้างหน้าจะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบเพื่อป้องกันน้ำอยู่ด้วย ส่วนที่ใต้ตู้กระจกก็จะมีไฟซ่อนมาให้แบบนี้ พร้อมที่ขอบผนังสามารถวางของได้ยาวตลอดแนว

ทางด้านซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ Toto พร้อมติดสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน

ที่ผนังด้านบนจะติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวสแตนเลสมาให้ด้วย

ส่วนทางขวาเป็นอ่างอาบน้ำของ Toto อีกเช่นกัน ขนาดประมาณ 1.5 x 76 ลึก 40 cm. สามารถลงไปแช่ได้ทั้งตัว ติดตั้งฝักบัวหัวพลาสติกสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกสามารถปรับความแรงของสายน้ำและผสมอุณหภูมิน้ำได้

ที่ปลายอ่างอาบน้ำมีขอบปูนสามารถวางของใช้และอุปกรณ์อาบน้ำได้ พร้อมทั้งมีกระจกใสแบบ Sexy Bath ทำให้ห้องน้ำโปร่งโล่งและช่วยดึงแสงจากระเบียงเข้ามาในห้องน้ำได้ด้วย แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดมู่ลี่เพิ่มเติมได้ครับ

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 ดวง และพัดลมดูดอากาศอีก 1 ตัว

ส่วนสวิตซ์และปลั๊กไฟทั้งหมดจะเป็นของ Panasonic สีแบบนี้ครับ

ส่วนแบบห้อง Type อื่นๆ มีดังต่อไปนี้ครับ

ห้อง 1 Bedroom ขนาด  31 – 43 ตารางเมตร มีลักษณะการจัดวางฟังก์ชันคล้ายกับห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus ที่ได้พาไปชมมา ต่างกันแค่ตรงที่เคาน์เตอร์ครัวตัว L ขนาดใหญ่ กลายเป็นตัว I ธรรมดาที่มีขนาดเล็กลง และยังคงได้โต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งเช่นเดิม แต่เปลี่ยนลักษณะการนั่งมาเป็นแบบหันหน้าเข้าหากันแทน ห้องอเนกประสงค์ด้านในจะหายไปจึงทำให้ห้องนั่งเล่นกลายเป็นห้องที่ติดกับหน้าต่างแทน ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเดิมแต่จะมีขนาดพื้นที่กระทัดรัดมากขึ้น รวมถึงระเบียงที่แคบลงด้วย ส่วนห้องน้ำยังคงเหมือนเดิม มี Sexy bath และอ่างอาบน้ำให้เช่นเคย ห้องแบบนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน เน้นความโปร่งโล่งและพื้นที่เชื่อมต่อกันของห้องขนาดใหญ่

ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 – 59 ตารางเมตร สามารถแยกออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ แบบแรกคือ 2 Bed 1 Bath ซึ่งเป็น Type ที่เน้นพื้นที่ Common area ขนาดใหญ่ และมีระเบียงที่กว้าง จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานระเบียงหรือปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆได้ ส่วนแบบที่สองคือ 2 Bed 2 Bath แบบห้องนี้จะมีระเบียงที่เล็กกว่าจึงทำให้มีพื้นที่ภายในห้องเพิ่มขึ้นจนห้องนอนใหญ่สามารถมีห้องน้ำในตัวได้ และห้องนอนเล็กก็ยังได้ผนังทึบเป็นสัดส่วนและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องแบบนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ชอบความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีพื้นที่สามารถใช้งานร่วมกันขนาดใหญ่ได้ด้วย

สุดท้ายคือห้อง 2 Bedrooms Loft ขนาด 45 – 60 ตารางเมตร ฟังก์ชันพื้นฐานยังคงคล้ายห้องแบบอื่นๆที่ผ่านมานะ สิ่งที่ต่างออกไปคือห้องน้ำจะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง และจะไม่มีกระจกแบบ Sexy Bath ให้ นอกจากนี้ยังมีบันไดสำหรับขึ้นชั้น 2 อยู่ทางด้านหน้าของห้อง ซึ่งชั้นบนเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่ง มีประตูบานทึบเปิด-ปิดแยกต่างหากอีกทีด้านบนเพื่อความเป็นส่วนตัว ห้องแบบนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบห้องแบบเพดานสูงเป็นพิเศษ และอยู่อาศัยได้ 2 – 3คน ฟังก์ชันลงตัวเป็นสัดส่วนและได้ความเป็นส่วนตัว

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 9 October 2018

  • 1 Bedroom 31 – 43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.9 – 8.7 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 40 – 45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.7 – 9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Loft 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.7 – 11.8 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 53 – 59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms Loft 45 – 60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.8 – 12.5 ล้านบาท

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS พร้อมพงษ์
  • จอง 1 Bedroom 50,000 บาท, 2 BR 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 5 – 10%
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 26 งวด Balloon 4 งวด
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน
  • โปรโมชั่น : ณ ตอนนี้ รับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท (Link สำหรับ Register: http://bit.ly/2pV0ICc)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ Walden สุขุมวิท 39 ตั้งอยู่ในซอยพร้อมมิตร ซึ่งถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เรียกได้ว่าครบครัน ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในระยะเดินถึงโดยไม่จำเป็นต้องออกมาที่ห้างใหญ่บนถนนหลักให้รถติด โดยย่านพร้อมพงษ์เป็นแหล่งของห้างสรรพสินค้าหรูอย่าง The Em District ที่มี Emporium , Emquartier และอยู่ระหว่างย่านทองหล่อซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ รวมทั้งศูนย์การค้า ร้านค้าหลายสัญชาติ ร้านค้าแฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน สตูดิโอแต่งงาน และที่พักอาศัยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น และย่านอโศกก็เป็นแหล่งธุรกิจหลักหรือ CDB ที่สำคัญ

การเดินทางโดยใช้รถ – เป็นทำเลซอยลัดที่สามารถทะลุไปได้ทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรีได้ง่าย อีกทั้งยังมีทางด่วนให้ใช้ถึง 2 เส้นทางคือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และ ทางพิเศษศรีรัช ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 – 4.6 km. โครงการมีที่จอดรถประมาณ 57 คันคิดเป็น 49% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งทุกคันใช้ระบบ Automatic parking ทั้งหมด มีที่จอดสำรองสำหรับ Visitor แค่ที่เดียว ซึ่งเพื่อนๆหรือญาติคนอื่นที่มากันหลายคนอาจต้องจอดตามซอยภายนอกโครงการเอานะครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ถือว่าค่อนข้างสะดวก แม้จะเป็นทำเลในซอยแต่ก็เป็นซอยลัดไม่ใช่ซอยตันจึงมีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรียกรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยาก และที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 39 จะมีสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ตั้งอยู่ด้วย มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 900 m. โดยทางโครงการจะมีรถ Shuttle Bus ไว้คอยบริการรับ-ส่งอีกด้วย

การออกแบบโครงการ – ถือว่าออกแบบได้ดีและเข้าใจบริบทโดยรอบโครงการที่เป็นย่านชุมชนและเป็นซอยลัดที่มีรถผ่านเกือบตลอดเวลา จึงได้ออกแบบโครงการให้มีความเป็นส่วนตัวหลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอก ตั้งแต่พื้นชั้น 1 ที่มีการลดระดับลงให้ต่ำจากพื้นถนนโดยให้ภายในโครงการ Take View น้ำตกและ Green Wall ที่ทางโครงการสร้างขึ้นมาแทน มีการจัดการเรื่องการป้องกันน้ำท่วมได้ดี พื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดจะถูกยกขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า และมีแนวคิดในการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีระเบียงต้นไม้ตามชั้นต่างๆบนอาคาร และมีระแนงที่ช่วงพรางตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องพักอาศัยได้ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Facade ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานของผู้พักอาศัยได้อย่างไม่จำเจ ส่วนภายในโครงการตัวอาคารมีการเจาะช่อง Void เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องทะลุไปได้ตลอดทุกชั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งโล่ง แล้วยังทำให้เกิดโถงทางเดินแบบ Single corridor ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพียงแต่โถงลิฟต์ชั้น 1 ซึ่งมีห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วยจะไม่มีประตูแยกโซนพักอาศัยออกไปอย่างเป็นสัดส่วนจึงอาจทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวได้ ทั้งโครงการมีจำนวนยูนิตเพียง 116 ยูนิต และมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 58 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นครับ

การออกแบบห้องพัก – มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ ซึ่งทุกแบบมีฟังก์ชันที่คล้ายๆกัน กั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งเมื่อเปิดออกจะสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ความโปร่งโล่ง ที่หน้าต่างมีระแนงบานเฟี้ยมที่เป็น Facade โครงการที่ช่วยพรางตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องได้ ส่วนภายในห้องน้ำทุก type จะต้องมีอ่างอาบน้ำเหมือนกันหมดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นเป็นหลัก ยิ่งห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีจำนวนห้องนอนเยอะขึ้นกลับยิ่งทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นทั้งกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ แยกห้องน้ำออกจากกันระหว่างห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็ก และเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในมากกว่าการใช้งานระเบียง

วัสดุ – ถือว่าให้มาค่อนข้างดี พื้นครัวแกรนิตโต้, พื้นห้องพัก Engineering Wood, Top เคาน์เตอร์ครัวหินเทียม Solid Surface, Hob&Hood และไมโครเวฟของ Gorenje, อ่างล้างจานของ Teka, ระบบสั่งซื้อสินค้าอัตโนมัติ, ผนังติด Wallpaper ลายสีขาวทั่วทั้งห้อง, กรอบกระตูกระจกบานเลื่อนด้านในห้องเป็นอลูมิเนียมสีทอง และกรอบประตูกระจกภายนอกเป็นกรอบอลูมิเนียมธรรมดา กระจกใสธรรมดา, ได้ชุดโต๊ะทานอาหาร ชั้นวางทีวี โต๊ะกลาง โต๊ะทำงาน และโต๊ะข้างเตียง มี Top เป็นหินจริงสีดำ, ตู้เสื้อผ้ากระจก Built in, กระเบื้องพื้นห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้แบบด้านกันลื่น และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ Toto ทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ สายฉีดชำระ และอ่างอาบน้ำ

สาธารณูปโภค – ให้มาค่อนข้างครบและหลากหลาย Lobby ฝ้าเพดานสูง, มี Fitness อยู่ด้านหลังทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว และ Facilities ส่วนใหญ่จะถูกยกขึ้นมาไว้ที่ชั้นดาดฟ้าเป็นหลัก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 โซนคือโซนสระว่ายน้ำและสุขภาพที่ประกอบด้วย Swimming Pool ขนาด 14 x 4.2 m., Jacuzzi, Onzen, Vichy foot therapy, Massage walk และโซนสำหรับครอบครัวและเด็กอย่าง Active Playground และ Sala หรือโซนสำหรับชมวิวและทำกิจกรรมได้แก่ Under the tree bar/BBQ area และ Sky Terrace

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 190,000 บาท/ตร.ม., 9 October 2018

  • ทำเล 8/10 – ทำเลใจกลางเมือง เข้าไปจากถนนใหญ่สุขุมวิท 900 m. หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ทำเลซอยลัดไปออกได้หลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วน ที่จอดรถ Auto ทั้งหมด
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ห่าง BTS พร้อมพงษ์ 900 m. หน้าโครงการมีรถผ่าน เรียกรถสาธารณะได้ มี Shuttle Bus
  • วัสดุ 8/10 – ใช้วัสดุมาตรฐานเหมาะกับราคาและการใช้งาน เป็น Fully Furnished พร้อมอยู่
  • แบบ 8.5/10 – ออกแบบดี เป็นส่วนตัว มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ฟังก์ชันห้องลงตัว
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาหลากหลายและสวยงามน่าใช้งานดี มีความเป็นส่วนตัว

  • LUXURY CLASS
  • 7.98 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Walden สุขุมวิท 39 เหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ เป็นแหล่งของชาวญี่ปุ่นที่มีความอุดมสมบูรณ์และเดินทางสะดวก ชอบโครงการยูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัว มีแนวคิดได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ส่วนกลางสวยน่าใช้ มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ขายแบบ Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ มีงบประมาณระดับ 5.9 – 12.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 41,000 – 88,000 บาท/เดือน