รีวิวฉบับที่ 1049 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ URBITIA ทองหล่อ คอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวใหม่จาก EMC ผู้เชี่ยวชาญด้านรับเหมาก่อสร้างที่ผันตัวมาพัฒนาโครงการนี้เป็นโครงการแรก โดยเพิ่งเปิด Pre sales ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควรเลย ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 36 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมไปออกซอยสุขุมวิท 38 , 40 และ ถนน พระราม 4 ได้ ห่างจากรถไฟฟ้า ทองหล่อประมาณ 230 เมตร มีแนวคิดในการออกแบบโดยนำธรรมชาติเข้ามาแทรกในตัวอาคาร เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหน ตามมาชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
Fact @ 29 March 2016
- Urbitia Thong Lo (เออร์บิเทีย ทองหล่อ)
- บริษัท อีเอ็มซี จํากัด (มหาชน)
- LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ในซอย สุขุมวิท 36 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 130 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 18 ยูนิต ที่ชั้น 3 – 6
- ที่จอดรถประมาณ 67 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 52% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60%
- ที่ดินประมาณ 0 – 3 – 95 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : พฤษภาคม 2559
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ตุลาคม 2560
- 1 Bedroom 28 – 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 51 – 65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 97 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 16.98 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร (ครัวและห้องน้ำสูง 2.20 เมตร)
- ราคาห้องเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 170,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด : 139,000 – 184,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ : มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ทองหล่อ(E6)
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 – 381 – 4888
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.722562, 100.576862
แผนที่จากทางโครงการ ที่ตั้งของโครงการ URBITIA ทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 เดินเข้าซอยไปประมาณ 230 เมตร โครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายใกล้ๆกับโครงการ Rhythm สุขุมวิท 36 – 38 หน้าปากซอยจะมี BTS สถานีทองหล่อ
ที่ตั้งของ โครงการ URBITIA ทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 36 ซึ่งเป็นซอยที่ใช้วิ่งไปออกถนนพระราม4 ได้ และภายในซอยเองยังลัดเลาะไปออกซอยสุขุมวิท 38 และ ซอยสุขุมวิท 40 ได้อีก ส่วนซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) และ ซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) ก็ใช้เชื่อมไปออกถนนเพชรบุรีได้ การเดินทางเข้าเมืองทำเลนี้สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งใช้ถนน พระราม 4 ออกไปสีลม , สามย่าน ใช้ถนน สุขุมวิทไปออกเพลินจิต , ชิดลม , สยาม ใช้ถนนเพชรบุรี ไปออกทางพญาไท เป็นต้น จึงทำให้ถนนใหญ่ และ ถนนซอยช่วงนี้เป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่นทั้งฝั่งเลขคู่และเลขคี่ สำหรับทางด่วน ในย่านนี้ไม่ได้ใกล้ทางด่วนซะทีเดียวแต่จะมีจุดขึ้นลงทางด่วนกระจายตัวอยู่รอบๆ ทั้งทางด่วนแถวๆอโศก , เพลินจิต, พระราม 4 ฯลฯ เนื่องจากการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด การจะเดินทางไปขึ้นทางด่วนก็ต้องเผื่อเวลาพอสมควร แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบอยู่ในเมืองหรือทำงานใจกลางเมือง ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักก็ถือว่าค่อนข้างสะดวก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถค่อนข้างสะดวกพอสมควร ลง BTS สถานีทองหล่อเดินประมาณ 230 เมตรก็ถึงโครงการ อยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ จากสถานีทองหล่อถ้านั่งรถไปอีกสถานีเดียวก็จะถึงสถานี พร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา
(คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ )
สำหรับทางขึ้นลงรถไฟฟ้าเราลงทางออกที่ 2 จะใกล้ที่สุดโดยจะลงทางฝั่งหน้าที่ทำการไปรษณีย์สันติสุขแล้วเดินย้อนมาทางซอยสุขุมวิท 36 ก็ได้ แต่ถ้าเดินเลยไปหน่อยมาลงหน้าคอนโด Noble Remix จะใกล้ซอยสุขุมวิท 36 มากกว่าและทางเดิน เดินได้สบายกว่า
ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ถือว่ามีพอสมควร รอบๆโครงการในระยะที่เดินไปได้ ถ้าเป็นในซอยจะมีร้านอาหารเล็กๆอย่างร้านครัวร่มไม้ , ครัวเวียงจันทน์ ส่วนถ้าเป็น Street food หรือ อาหารข้างทางสำหรับคนชอบกินมื้อดึก ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30 – 50 บาท ก็จะมีอยู่ช่วงต้นซอย สุขุมวิท 38 ถ้าข้ามฝั่งมาทางซอยทองหล่อกับซอยเอกมัย จะมีครบตั้งแต่มินิมาร์ท แผงผลไม้ ไปจนถึงร้านอาหารทั้งแบบรถเข็น ขายข้างทาง , ร้านเล็กๆไปยันร้านอาหารใหญ่ บรรยากาศดีๆ ที่มีให้บริการกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนดึกดื่น รวมทั้งเป็นแหล่งของนักท่องราตรีที่ไป Hang Out กันอีกด้วย พื้นที่ใกล้เคียงโครงการล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมาย เช่น Terminal 21, Emporium, Emquartier , Rain Hill , Gateway Ekamai , J Avanue, K-Village , Major Ekamai, Big C Ekamai …. อ่านรายละเอียดของทำเลรายรอบสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ แบบละเอียดยิบเพิ่มเติมได้ที่ “มองหาทำเลน่าอยู่ BTS ทองหล่อ”
ในช่วงซอย สุขุมวิท 36 – สุขุมวิท 38 มีโครงการมาขึ้นเยอะอยู่เหมือนกันเริ่มจาก หน้าปากซอย สุขุมวิท 36 ที่มี The Crest – KEYNE – Noble Remix เรียงกันอยู่ ทั้งสามโครงการ ถือว่าอยู่ในระยะที่เดินลงมาจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อก็ถึงเลย แต่โครงการของ Noble จะพิเศษหน่อยตรงที่มี Sky Walk จากตัวสถานีเข้าสู่โครงการ และหน้าปากซอยอีกฝั่งก็เป็นที่ดินเปล่าแปลงใหญ่ของบริษัท Fragrant เตรียมพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ภายในซอยจะมีคอนโดอย่าง La Vie En Rose , Rhythm , Ashton Morph 38 , Ideo Morph 38 และมี Vtara ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน นอกนั้นบ้านเรือนก็จะเป็นอพาร์ตเม้นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร และ บ้านหลังใหญ่ๆ
การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจากสถานี ทองหล่อ เดินมาออกที่ทางออก 2 เข้าซอย สุขุมวิท 36 ไปประมาณ 230 เมตรก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ แต่สำนักงานขายจะอยู่ในซอย สุขุมวิท 38 เราจึงพาเดินต่อไปลัดออกทางซอย AP เข้าซอยสุขุมวิท 38 เพื่อเข้าไปชมในสำนักงานขาย และเป็นการสำรวจสภาพแวดล้อมรอบไปในตัว
การเดินทางในวันนี้เริ่มจาก BTS สถานี ทองหล่อ
เราเดินออกมาทาง ทางออกที่ 2 ตรงมาเรื่อยๆตามป้ายคอนโด Noble Remix กับ Keyne เข้าไว้ มาถึงตรงนี้ก็จะเจอกับ Sky Walk ยาวๆค่ะ
เดินบน Sky walk มาอีกหนอย ทางด้านล่างก็จะเห็นซอยสุขุมวิท 36 คอนโดที่อยู่เรียงกันหน้าปากซอยเลยคือ The Crest – KEYNE – Noble Remix โดยจะมี Sky Walk เชื่อมเข้าภายในโครงการของ Noble เลย
ด้านหน้าซอยนอกจากคอนโด 3 โครงการที่เรียงกันอยู่ทางฝั่งขวาแล้ว ทางด้านซ้ายที่เห็นมีที่ดินเปล่าแปลงใหญ่อยู่ นั่นก็คือที่ดิน ของบริษัท Fragrant ล้อมรั้วเตรียมพัฒนาเป็นโครงการ Circle สุขุมวิท 36 (ชื่อยังไม่เป็นทางการนะ) ถัดเข้าในในซอยที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่คือ โครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 สูง 25 ชั้น โครงการ URBITIA ของเราจะอยู่ใกล้ๆกับ Rhythm ค่ะ
เราลงมาด้านล่าง ทางฝั่งหน้าคอนโด Noble Remix เดินย้อนไปทาง ซอยสุขุมวิท 36 สังเกตว่าการจราจรในช่วงเวลาเย็นๆเริ่มจะหนาแน่นแล้ว
โครงการจะอยู่ในซอย สุขุมวิท 36 เข้าไปประมาณ 230 เมตรค่ะ
ด้านหน้าซอยจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ชุดใหญ่ คอยให้บริการอยู่
อัตราค่าโดยสารของพี่วินก็ตามนี้เลย
เข้ามาในซอยจะเห็นว่า ซอยนี้เป็นซอยที่ไม่มีทางเท้านะคะ เพราะฉะนั้นเวลาเดินเข้าซอยจะต้องระมัดระวังรถที่ผ่านไปมา เดินชิดๆกำแพงเข้าไว้ค่ะ
เดินถัดจาก Noble มาก็จะเจอกับ ครัวเวียงจันทน์ ร้านอาหารไทยอีสาน ที่มีการแสดงโชว์แบบพื้นเมืองทั้งโปงลาง แม่ไม้มวยไทย ฟ้อนรำแบบอีสาน ซึ่งก็เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ สามารถเอารถไปจอดด้านในได้
ถัดมาก็จะเป็นศูนย์บริการ รับซ่อมเปลี่ยนลูกหมากรถยนต์ 333 & CL
เดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการล้อมรั้วอยู่ ซึ่งโครงการจะอยู่ข้างๆกับ Rhythm สุขุมวิท 36-38 โดยมีที่ดินเปล่าแปลงที่มีต้นไม้ขึ้นเขียวๆคั่นอยู่ระหว่างกลาง
ที่ตั้งโครงการเป็นที่ดิน 0-3-95 ไร่ ล้อมรั้วเตรียมพัฒนาโครงการอยู่ ความคืบหน้าของ EIA ตอนนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ในซอย สุขุมวิท 38 เราสามารถเดินลัดไปได้ตามแผนที่ที่ติดอยู่ในป้ายเลย
ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นร้านอาหาร ครัวร่มไม้ ถัดไปเป็น อพาร์ทเม้นท์ และคอนโด La Vie En Rose Place เป็น Low Rise 7 ชั้น
ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆกับโครงการหน่อย คือซอย นภาศัพท์ 2 ซึ่งเป็นซอยที่มีโรงเรียน นานาชาติ ทรีนีตี้อยู่
เดินผ่านโครงการ Rhythm มาบรรยากาศตรงนี้จะค่อนข้างสงบกว่าหน่อย ถ้าเราเดินตรงไปอีกนิดก็จะถึงทางที่ถัดไปซอย 38 ได้ค่ะ
เดินมาจนถึงแยกนี้ให้เลี้ยวไปทางซ้าย เข้าซอย AP จะเป็นทางลัดไปซอยสุขุมวิท 38 ได้
ซอยนี้ทางเดินรถค่อนข้างกว้าง และมีทางเท้าให้ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัว สังเกตได้จากรั้วอาคารบ้านเรือนต่างๆในซอยนี้จะค่อนข้างสูง บ้างก็ปลูกแนวต้นไม้บังเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
ตรงมาจนสุดทาง จากนั้นเราจะเลี้ยวขวาเพื่อไปสำนักงานขายกัน ถ้าเราเลี้ยวไปทางซ้ายจะเป็นทางไปออกหน้าปากซอยสุขุมวิท 38
เลี้ยวขวาตรงต่อไปตามทาง ทางด้านขวาจะผ่านโครงการ Ashton Morph 38 , IDEO Morph 38
ตรงต่อมาอีกจะเจอกับ โรงเรียนอนุบาล เมโลดี้อินเตอร์เนชั่นแนล สำนักงานขายโครงการจะอยู่ติดกับโรงเรียนเลย
สำนักงานขายมีที่จอดอยู่ด้านหน้า รอบๆมีการปลูกต้นไม้ให้เข้ากับ Concept โครงการ
บรรยากาศภายในสำนักงานขาย ตรงกลางมีต้นบอนไซวางตกแต่งอยู่ ซึ่งต้นนี้มีชื่อว่า ต้นมั่นคง ค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 38 ช่วงเย็นๆที่เต็มไปด้วยร้านอาหารข้างทางราคาย่อมเยา ซึ่งตอนนี้มีขายอยู่แค่ฝั่งเดียว ถ้าเดินออกไปหน้าซอยก็จะเจอกับ BTS ทองหล่อ
สภาพแวดล้อมโดยรอบของโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร อพาร์ทเม้นท์ มีคอนโดมิเนียมอยู่บ้างทั้ง Low Rise และ High Rise นอกนั้นเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 0-3-95 ไร่ มีพื้นที่โดยรอบโครงการติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่าแปลงใหญ่ของบริษัท Fragrant ซึ่งในอนาคตจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม
- ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่าแปลงเล็กๆ และ โครงการ Rhythm คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น
- ทิศตะวันตก – ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 36 ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหาร และ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่าแปลงใหญ่ของบริษัท Fragrant สภาพตอนนี้มีการล้อมรั้ว ด้านในเคลียร์ที่ดินบางส่วนเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการ
ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่าแปลงเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างโครงการ กับ Rhythm สุขุมวิท 36 – 38 สูง 25 ชั้น ริมฟุตบาทเริ่มมีแผงขายอาหารอยู่ทั้งสองฝั่ง
ที่ดินเปล่าแปลงที่อยู่ระหว่างโครงการ URBITIA กับ Rhythm ไม่ได้มีการเคลียร์พื้นที่ ยังมีต้นไม้ขึ้นรกครึ้มอยู่แสดงว่ายังไม่มีการนำไปสร้างอะไรในเร็วๆนี้
ทิศตะวันตก – ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 36 ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหาร ครัวร่มไม้ และ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Rain Hill ~ 950 ม.
- Tops Market ~ 1 กม.
- Major Ekkamai ~ 1 กม.
- Gateway Ekamai ~ 1.4 กม.
- โรงพยาบาล สุขุมวิท ~ 1.5 กม.
- J Avanue ~ 1.8 กม.
- K-Village ~ 1.8 กม.
- Big C Ekamai ~ 2 กม.
- Emporium ~ 2.3 กม.
- Emquartier ~ 2.3 กม.
- Terminal 21 ~ 3.5 กม.
โครงการ URBITIA ทองหล่อ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 130 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดิน 0-3-95 ไร่ ทางเข้าออกอยู่ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 36 ออกแบบอาคารโดยบริษัท A49 ตัวอาคารมีจุดเด่นตรงที่มีการนำเอาต้นไม้มาปลูกแทรกอยู่ระหว่างห้องอย่างที่เราเห็นในภาพเลย ตามแนวคิดในการออกแบบ “Bring nature into architecture” ที่ต้องการให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ส่วนห้องพักที่อยู่ชั้นล่างบริเวณระเบียงก็จะติดกับพื้นที่สวนเล็กๆซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง เดี๋ยวเราจะพาไปดูอีกทีว่าหน้าตาเป็นยังไง นอกจากนั้นรอบๆด้วยอาคารยังมีการติดตั้ง FIN แนวตั้งเอาไว้สำหรับบังแดด ห้องพักอาศัยของโครงการนี้มีห้องแบบ 1 – 3 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ม. เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 8 ส่วนที่จอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จอดแบบไม่รวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 67 คันหรือคิดเป็น 52% ส่วน Facilities จะมี Lobby อยู่ที่ชั้นล่าง ฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้าจะมีสวนหย่อม และ สระว่ายน้ำ
ทางเข้าออกของอาคารจะเป็นฝั่งที่ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 36 ที่จอดรถจะต้องลงไปจอดใต้ดิน โดยมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ด้านหน้าอาคารมีสวนหย่อมเล็กๆอยู่ ถัดเข้าไปเป็น Lobby ตรงกลางระหว่าง Lobby และทางลงไปที่จอดรถ จะมีช่องเปิดเพื่อให้อาคารไหลเวียนเข้าไปในตัวอาคาร
ก่อนพาชมส่วนอื่นๆขออธิบายการออกแบบอาคารเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ นอกจากการนำต้นไม้มาปลูกในตัวอาคารแล้ว อาคารนี้ยังมีการออกแบบเพื่อให้มีการระบายอากาศ (ventilation) ที่ดี โดยจะมีช่องเปิดเพื่อระบายอากาศอยู่ทั้งทางด้านหน้าและหลังของอาคาร ทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาบริเวณโถงทางเดินได้ และด้านในตัวอาคารจะมีช่องเปิดเป็น court อยู่ตรงกลางตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบน โดยอากาศร้อนและลอยตัวขึ้นด้านบนและสามารถระบายอากาศออกได้ ส่วนด้านบนมี Skylight เพื่อดึงเอาแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในตัวอาคาร ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดไฟได้พอสมควร
มาดูโมเดลโครงการกันต่อค่ะ ตัวอาคารมี 8 ชั้น ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 8 เลย มีทั้งห้อง 1 , 2 , 3 ห้องนอน โดยห้อง 3 ห้องนอนจะมีอยู่ห้องเดียวขนาด 97 ตารางเมตร อยู่ชั้น 7 ฝั่งหน้าโครงการ ส่วนชั้น 8 ด้านบนของห้อง 3 ห้องนอนจะเป็นฟิตเนส ชั้นดาดฟ้าจะมีสวนหย่อมและสระว่ายน้ำ
ทางเข้าออกอยู่ติดกับถนน ซอยสุขุมวิท 36ค่ะ ที่จอดรถจะต้องลงไปจอดใต้ดิน Lobby จะอยู่หน้าโครงการเลยโดยด้านหน้าจะมีสวนหย่อมเล็กๆอยู่ด้วย ห้องพักที่อยู่ทางฝั่งนี้ในชั้น 3 – 6 จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน โดยทางด้านซ้ายจะเป็นห้องขนาด 65 ตร.ม. ทางด้านขวาเป็นห้องขนาด 58 ตร.ม.
ระหว่างทางลงที่จอดรถกับ Lobby อย่างที่บอกไปว่าจะมีช่องเปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทเข้าไปในตัวอาคาร โดยจะมีอยู่ทุกชั้น และ ในอาคารก็จะมีช่องเปิดเป็น Court ตรงกลางและมี SkyLight ดึงเอาแสงธรรมชาติลงมาในตัวอาคารเวลากลางวันอีกด้วย
ด้านบนตัวอาคารจะมีต้นไม้กระถางมาปลูกอยู่แทรกบริเวณด้านนอกระเบียง ซึ่งสามารถช่วยบังแดดได้บ้าง โดยห้องที่อยู่ชั้นเลขคี่ก็จะได้ทางโคนต้นไม้หรือบริเวณกระถางไป ส่วนห้องที่อยู่ชั้นเลขคู่จะได้ยอดต้นไม้ โดยต้นไม้ที่นำมาปลูกชื่อว่าต้น ” สั่งธรรม ” หรือ ล่ำซำ การที่มีต้นไม้มาปลูกในอาคารนั้น เมื่ออาคารเสร็จต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของทางนิติบุคคลด้วยนะคะ หากดูแลไม่ทั่วถึงมีต้นไม้ตาย หรือ ไม่มีการตัดตกแต่งกิ่งก้านแล้ว ก็อาจจะทำให้ทัศนียภาพเสียได้ แต่ในทางกลับกันถ้าทางฝ่ายอาคารดูแลรักษาดี ตรงจุดนี้จะเพิ่ม Value ให้กับอาคารได้มากทีเดียว และ บริเวณด้านนอกหน้าต่างมีติดตั้ง FIN เพื่อช่วยหักเหทิศทางของแสงแดด แต่ก็อาจจะมีบดบังวิวบ้าง
ฟิตเนสจะอยู่บริเวณชั้น 8 นะคะ ถ้าจะขึ้นไปใช้งาน Facilities ที่ดาดฟ้าก็ขึ้นบันไดได้จากทางชั้นนี้ค่ะ
ชั้นดาดฟ้าจะมีพื้นที่สวนหย่อม และ สระว่ายน้ำแบ่งออกเป็นทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่
มีสวนหย่อมและต้นไม้ใหญ่มาปลูกในอาคารแบบนี้ค่ะ ตรงกลางที่เห็นเป็นเหมือนแผงกระจกคือ Sky Light เอาไว้รับแสงเข้าตัวอาคาร
เข้ามาดูในตัวอาคารกันค่ะ นี่เป็นภาพจำลองบรรยากาศของ Lobby ซึ่งอยู่ด้านหน้าฝั่งติดกับถนนซอยสุขุมวิท 36 บรรยากาศโดยรวมดูขาวๆ ผนังทางฝั่งด้านหน้าและด้านข้างเป็นกระจกทำให้พื้นที่ถึงแม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็จะดูโปร่ง บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ผนังตกแต่งด้วยหินธรรมชาติและไม้ลามิเนตเล่นลวดลาย มีชุดที่นั่งเล็กๆให้ 2-3 ชุด
เข้ามาในอาคาร บริเวณตรงกลางจะเจาะช่องเปิดเป็น Court ต่อเนื่องกันไปทุกชั้นเพื่อให้อากาศในอาคารไหลเวียนและถ่ายเทได้ดีขึ้น ชั้นล่างมีบ่อน้ำโรยหินกรวดรอบๆอยู่บริเวณโถงทางเดิน ชั้นบนสุดเป็น Sky Light รับแสงเข้าทำให้พื้นที่ตรงส่วนนี้ไม่มืดทึบ
บริเวณห้องที่อยู่ชั้น 1 ทั้งหมดที่ บริเวณระเบียงจะได้พื้นที่สวนเล็กๆติดมาด้วย ซึ่งเราออกไปใช้ได้ มีระแนงกั้นระหว่างห้องไม่สามารถเดินถึงกันได้ พื้นที่สวนตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางนะคะ ไม่ได้รวมอยู่ในพื้นที่ขาย โดยจะมีคนสวนมาคอยดูแลต้นไม้ตกแต่งกิ่งก้านรดน้ำให้ เป็นสวนที่เหมือนเป็นส่วนตัวแต่เป็นส่วนกลาง (เอ๊ะ งงมั้ย ^^)
ส่วนถ้าขึ้นมาชั้นบนๆ ระหว่างห้องตามที่ได้บอกไปว่าจะมีการปลูกต้นไม้แทรกอยู่ พื้นที่ตรงส่วนนี้ก็เป็นพื้นที่ส่วนกลางเช่นเดียวกัน โดยจะมีการรดน้ำต้นไม้ด้วยระบบน้ำหยด หรือ สปริงเกอร์ มีคนสวนมาดูแลตัดแต่งกิ่งก้านให้
ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะมีฟิตเนสขนาดห้องประมาณ 7.8 x 8 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนต มีผนัง 2 ด้านเป็นกระจกใสเอาไว้ออกกำลังกายไปชมวิวไป จากภาพวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่อง
ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้าจะมีสวนหย่อมและสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ขนาดโดยประมาณ 20 x 6 เมตรลึก 1.20 เมตร สระเด็กขนาดโดยประมาณ 3 x 10 เมตร ลึก 0.4 เมตร เป็นสระระบบ ยูวี คือ ระบบที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสีอัลตร้าไวโอเลท ซึ่งมีข้อดีคือไม่มีกลิ่นเหม็นของคลอรีน ไม่ทำลายผิวหนัง รอบๆสระมีปลูกต้นไม้โดยรอบทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นดี แต่ก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องของใบไม้ร่วงมาบนสระบ้าง ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกพันธุ์ไม้และการดูแลพื้นที่ตรงส่วนนี้ของนิติค่ะ
บริเวณสวนดาดฟ้าที่เป็นไฮไลท์อีกจุดคือจะมีการปลูกต้นไม้ต้นใหญ่แบบนี้ ซึ่งต้นที่จะนำมาปลูกชื่อว่าต้น ” มั่งมี ”
โดยต้นมั่งมี ก็จะเป็นพันธุ์เดียวกับที่ปลูกอยู่หน้าสำนักงานขายค่ะ
วีดีโอ Presentation จากทางโครงการค่ะ
แปลนชั้นล่างของอาคาร ทางเข้าออกจะอยู่ติดกับถนนซอยสุขุมวิท 36 ถ้าเอารถเข้ามาจะต้องลงไปจอดที่ชั้นได้ดิน Lobby และ สำนักงานนิติบุคคลจะอยู่ด้านหน้าอาคารฝั่งทิศใต้ ตรงกลางเป็นห้องงานระบบและลิฟต์ มีลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว ยี่ห้อ OTIS ไม่มีลิฟต์ Service อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 65 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัวซึ่งถือว่าค่อนข้างจะโอเค ตรงกลางเป็นโถงทางเดินมีบ่อน้ำยาวตลอดแนว พื้นที่ตรงส่วนนี้จะมีช่องเปิดเป็น Court ยาวไปจนถึงชั้นบน ห้องพักจะเริ่มที่ชั้นนี้เลย การวางผังจะวางอยู่รอบๆ Court ห้อง 2 ห้องนอนจะอยู่บริเวณมุมทางด้านหลังอาคาร นอกนั้นเป็นห้อง 1 ห้องนอน ห้องพักชั้นนี้จะเป็นห้องที่บริเวณระเบียงจะติดกับสวนหย่อมของทางโครงการ ซึ่งกั้นพื้นที่ให้ใช้ได้เสมือนกับเป็นสวนส่วนตัว แต่จริงๆเป็นพื้นที่ส่วนกลางมีคนสวนดูแลให้ ซึ่งดีตรงที่เราไม่ต้องดูแลเอง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาจริงๆนะคะ เพราะถ้าดูแลรักษาดีก็จะทำให้ห้องเราดูร่มรื่นขึ้น สามารถออกไปสูดอากาศได้
ชั้นใต้ดินเป็นชั้นจอดรถล้วนๆ โดยสามารถจอดรถได้ประมาณ 67 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 52% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60% ไม่ FIX ช่องจอด
ที่จอดรถใต้ดินชั้น B2 ค่ะ การวางผังคล้ายๆกับ B1
ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องพักล้วนๆ ตรงกลางจะเป็นโถงทางเดิน มีช่องเปิดโล่งไปจนถึงชั้นบน การวางผังห้องคล้ายๆกับชั้น 1 คือ ห้อง 2 ห้องนอนจะอยู่บริเวณหัวมุมฝั่งทางทิศตะวันออก – ตะวันตก แต่ชั้นนี้จะมีจำนวนห้องเพิ่มขึ้น โดยมี 17 ห้องต่อชั้น ทางฝั่งทิศใต้จะเป็นห้อง 1 ห้องนอน 35 ตร.ม.ทั้งหมด ส่วนห้องทางทิศเหนือจะมี 28 ตร.ม. กับ 34 – 35 ตร.ม. ชั้นบนๆนี้ก็จะมีกระถางต้นไม้มาแทรกอยู่บริเวณถัดจากระเบียงโดยห้องเลขคี่ได้โคนต้น ห้องเลขคู่ได้ยอดต้นไม้ ส่วนเรื่องของวิวตอนนี้รอบๆก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาบัง ยกเว้นทางฝั่งทิศใต้ที่จะติดกับที่ดินเปล่าแปลงเล็กๆ และถัดไปเป็นคอนโดสูง 25 ชั้นเลย ส่วนที่ดินเปล่าทางทิศเหนือในอนาคตก็จะมีการพัฒนาโครงการเหมือนกันแต่เนื่องจากที่ดินมีขนาดใหญ่ ตัวอาคารจึงไม่น่าจะมาสร้างใกล้ๆกับโครงการเราในระยะประชิด
ชั้น 3-5 การวางผังคล้ายกับชั้น 2 แต่มีห้องส่วนมุมฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นมา ทำให้มีจำนวนห้อง 18 ห้องต่อชั้น ทุกๆชั้นจะมีช่องเปิดเอาไว้ระบายอากาศ ทำให้มีอากาศถ่ายเทบริเวณโถงทางเดิน
ชั้น 4 – 6 แปลนคล้ายๆกับชั้น 3 – 5 ต่างกันตรงที่สวนที่แทรกอยู่ระหว่างชั้นจะได้ส่วนยอดต้นไม้ เพราะเป็นชั้นเลขคู่
ขึ้นมาที่ชั้น 7 ชั้นนี้จะมีห้อง 3 ห้องนอนอยู่ โดยทั้งโครงการจะมีห้อง 3 ห้องนอนเพียงห้องเดียวเท่านั้น เป็นห้องขนาด 97 ตร.ม. อยู่บริเวณหน้าอาคาร
ชั้น 8 เป็นชั้นที่มี Facilities คือ ฟิตเนสอยู่ และจะมีห้องงานระบบต่างๆอยู่บริเวณชั้นนี้ จำนวนห้องพักจึงลดลงไปเหลือ 11 ห้องต่อชั้น แต่ชั้นนี้จะมีลูกบ้านมาใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง จึงอาจจะค่อนข้างคึกคักหน่อย ถ้าคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางอยู่ชั้นนี้จะสะดวกหน่อยเพราะเดินขึ้นไปใช้ได้เลย บริเวณข้างๆห้องน้ำฟิตเนสจะมีบันไดสำหรับเดินขึ้นไปใช้ สระว่ายน้ำ และ สวนที่ชั้นดาดฟ้า
ชั้นดาดฟ้า ชั้นนี้จะมีสวนที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และมีสระว่ายน้ำระบบยูวีแบ่งเป็น สระผู้ใหญ่ขนาดโดยประมาณ 20 x 6 เมตรลึก 1.20 เมตร สระเด็กขนาดโดยประมาณ 3 x 10 เมตร ลึก 0.4 เมตร ตรงกลางมี Sky Light เอาไว้รับแสงลงไปที่โถงตรงกลางอาคาร
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำระบบยูวี แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ 20 x 6 เมตร ลึก 1.20 เมตร สระเด็กขนาด 3 x 10 เมตร ลึก 0.4 เมตร
- สวนดาดฟ้า
- Pocket Garden
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 7.5 x 8 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- ห้องอบไอน้ำ
- Free WiFi
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟต์ 65 : 1
- ที่จอดรถ จอดได้ 67 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 52% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60%
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับห้องตัวอย่างทางโครงการมีทำมาให้ดูแบบเดียวคือห้อง 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องที่มีอยู่ค่อนข้างเยอะในโครงการ เฟอร์นิเจอร์ที่ให้จะเป็นแบบ Fully furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์แทบจะทุกชิ้นในห้องตัวอย่างยกเว้นแต่ของตกแต่และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยรูปแบบของเฟอร์ฯที่ให้จริงๆอาจมีรายละเอียดบางอย่างต่างจากของในห้องตัวอย่างเล็กน้อย
ห้องตัวอย่างที่โครงการทำมาให้เราดูเป็นห้อง 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. การออกแบบของห้องทุกห้องในโครงการนี้จะเน้นให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่าง Flexible หรือสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเอนกประสงค์ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เข้ามาในห้องเราจะเจอกับครัวก่อน ซึ่งหน้าห้องมีชั้นวางรองเท้ามาให้ด้วย ครัวในห้องนี้เป็นครัวเปิดแต่ตำแหน่งอยู่ด้านหน้าห้อง ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ถ้าเราอยากจะกั้นเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ ถัดไปเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่น และ ห้องนอน สามารถดึงประตูบานเลื่อนมาปิดแยกพื้นที่ใช้สอยหรือในเวลาที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวได้ ฝั่งที่ติดกับครัวมีวางชุดโต๊ะทานข้าวให้ 1 ชุด ซึ่งถ้าเราไม่ใช้ทานข้าวก็สามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ ถัดไปเป็นโซนนั่งทำงานซึ่งมีลูกเล่นคือ ผนังด้านข้างจะดึงลงมาเป็นเตียงได้ ถ้าเรานั่งทำงานอยู่แล้วง่วง หรือ มีแขกมานอนค้าง ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นห้องนอนได้ และ พื้นที่ตรงส่วนนี้เราก็สามารถกั้นเป็นเป็นห้องเล็กๆได้อีก ส่วนห้องนอนจะอยู่ติดกับระเบียงซึ่งมีขนาดกว้างพอสมควร บริเวณถัดจากระเบียงจะเป็นพื้นที่ที่โครงการลงต้นไม้มาให้เรา ห้องน้ำสามารถเข้าได้ทั้งจากห้องครัวและห้องนอนซึ่งมีข้อดีคือ เวลาถ้ามีแขกมาก็ให้เข้าจากทางด้านนอกได้เลยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา หรือ ถ้าเราตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนก็ไม่ต้องเดินไกลค่ะ สามารถเข้าห้องน้ำได้เลย หน้าห้องน้ำทางฝั่งห้องนอนมี Walk in Closet เล็กๆ มาให้แบ่งตู้ออกเป็น 2 ฝั่ง ถ้าอยู่กัน 2 คนก็แบ่งตู้กันใช้ได้ ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ระหว่างส่วนแห้งกับส่วนเปียกเป็นสัดส่วนดี บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีลูกเล่นเล็กน้อยบริเวณผนังที่อยู่ติดกับหัวเตียงจะเป็นกระจกใส ซึ่งถ้าเราอยากจะได้ความเป็นส่วนตัวก็หาม่านมาปิดเอาค่ะ เราไปชมห้องของจริงกันดีกว่าค่ะ
เริ่มจากประตูทางเข้าเป็นบานเปิด กรุไม้อัดยางขัดเรียบ ปิดผิวลามิเนต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ล็อคแบบอัตโนมัติ
อุปกรณ์ล็อคแบบอัตโนมัติเป็นของ HAFELE ตัวระบบเป็นทั้งแบบที่ใช้คีย์การ์ด และ กดรหัส
ระหว่างพื้นนอกห้อง และ พื้นในห้อง เก็บงานรอยต่อด้วยหินสีขาว
เข้ามาในห้องทางฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ทางฝั่งขวาเป็นครัว ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของห้องนอน ห้องนั่งเล่น และ ห้องทำงาน พื้นในส่วนนี้เป็นกระเบื้อง Homogeneous Tile ขนาด 60 x 60 cm.
มุมมองย้อนกลับไปทางหน้าประตูค่ะ จะเห็นว่าทางเข้าห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับครัวเลย ซึ่งถ้ามีแขกมาขอเข้าห้องน้ำก็ให้เข้าจากทางนี้ได้ เคาน์เตอร์ครัวห้องนี้วางอยู่หน้าห้อง ถ้าหิ้วของมาเตรียมทำอาหารก็เอามาวางตรงนี้ได้เลย โซนนี้ยังสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ถ้าชอบทำอาหารและไม่อยากให้กลิ่นและควันลอยไปส่วนอื่นๆของห้อง ฝ้าเพดานในส่วนนี้สูง 2.20 เมตรค่ะ
หน้าห้องมีตู้วางรองเท้าหรือตู้เก็บของเล็กๆมาให้ มีชั้นค่อนข้างเยอะเก็บรองเท้าได้หลายคู่อยู่นะ
ชุดครัวให้มาทั้งเคาน์เตอร์ล่างและบนเป็นของ Star mark วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวโครงเมลามีน บานเป็นแบบ Soft close หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ พร้อมฝังอ่างล้างจานและก๊อกน้ำ ขนาดเหมาะกับการใช้งานในคอนโดแบบ 1 ห้องนอน ด้านข้างมีช่องเอาไว้ใส่ตู้เย็น
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวของ Teka วางด้านล่าง Top เคาน์เตอร์หินเทียมสีขาว
เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัวของ Teka เช่นกัน
เครื่องดูดควันเป็นของ Teka เป็นระบบดูดควันแล้วต่อท่อออกด้านนอก บริเวณด้านบนเครื่องดูดควันทำเป็นชั้นวางของได้แค่ขวดซอสเล็กๆ
ด้านบนตู้เย็นมีทำชั้นวางไมโครเวฟมาให้ ไม่ต้องไปหาที่วางบนเคาน์เตอร์ให้เสียพื้นที่ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ ซึ่งก็เข้าได้จากทางห้องนอนเช่นกัน
ถัดจากห้องครัวมาจะมีโต๊ะทานข้าวเล็กๆนั่งทานกันได้ 2 คนวางอยู่ ถัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ต่อเนื่องกับห้องนอน และ ห้องทำงาน
พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเป็นพื้นไม้เอนจิเนีย ระหว่างพื้นกระเบื้องกับไม้เอนจิเนียเก็บงานรอยต่อด้วยสแตนเลสเส้นเล็กๆ
มุมมองจากห้องนอนถ่ายมาบริเวณนี้จะเห็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันระหว่าง ห้องครัว ส่วนทานข้าว นั่งเล่น และ ทำงาน พอเข้ามาในโซนนี้ฝ้าเพดานจะสูง 2.55 เมตรแล้วค่ะ
ชุดโต๊ะทานข้าวเป็นชุดเล็กนั่งได้ 2 คน ชุดนี้โครงการก็มีให้ แต่รูปแบบอาจจะมีปรับให้สามารถดึงขยายขนาดนี้ ซึ่งจะเป็นแบบไหนต้องสอบถามจากทางโครงการอีกทีนะคะ
ด้านล่างของชุดโต๊ะกินข้าวมีไฟแบบ Night Light ติดมาให้
ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาได้แบบ 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวีค่อนข้างกระชั้นไปนิดแต่จากตรงนี้ก็สามารถนอนดูทีวีจากบนเตียงได้เหมือนกันค่ะ
โซฟาที่ได้เป็นแบบ 2 ที่นั่ง
แผงติดชั้นวางทีวี และชั้นเก็บของทางโครงการก็จะมีมาให้ด้วย แต่ตรงชั้นวางของสีขาวอาจจะมีปรับขนาดค่ะ
ระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเราสามารถเลื่อนประตูมาปิดได้ ในกรณีที่อยากแยกพื้นที่ใช้สอยหรืออยากได้ความเป็นส่วนตัว โดยประตูบานเลื่อนนี้เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม หน้าบานกระจกใสติดฟิล์ม
ประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน โดยจะมีรางแขวนอยู่ด้านบน
และเลื่อนมาสุดตรงผนังฝั่งห้องน้ำ ซึ่งบัวบริเวณนี้มีการบากเป็นหลุมลงไปเพื่อใช้เป็นแนวจบของบานประตู
ส่วนระบบแอร์ โครงการนี้ให้เป็นแบบ VRV แบบฝังในฝ้าเพดาน ยี่ห้อ DAIKIN หรือเทียบเท่า
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นมุมสำหรับนั่งทำงานซึ่งมีลูกเล่นตรงที่ ผนังทางด้านข้างสามารถดึงลงมาเป็นเตียงได้ ลองยกดูแล้วไม่หนักเพราะมีติดโช๊คเอาไว้ ซึ่งทั้งชุดนี้รวมอยู่ในรายการที่ทางโครงการแถมให้ด้วยค่ะ
ผนังด้านข้างโต๊ะทำงานที่ดูผิวเผินเหมือนผนังธรรมดา แต่จริงๆแล้วมีเตียงซ่อนอยู่
บริเวณตู้มีมือจับเกี่ยวลงมาได้แบบนี้
พอดึงลงมาก็จะกลายเป็นเตียง 3.5 ฟุต มีขนาดกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร
พอดึงลงมาแล้วด้านในตู้ก็จะกลายเป็นฝั่งหัวเตียง โดยทั้งสองฝั่งของเตียงมีระยะเท่ากับตู้ด้านข้าง ทางฝั่งซ้ายเป็นจุดรวมสวิทซ์และช่องเก็บของ
ส่วนทางฝั่งขวาเป็นตู้เก็บของ เปิดออกมาด้านบนมีชั้นเก็บของได้ ด้านล่างมีราวเอาไว้แขวนเสื้อผ้า
ระยะปลายเตียงมีเหลือเล็กน้อยพอเดินผ่านได้
ด้านบนเป็นรางม่านซึ่งทางโครงการมีให้ แต่ไม่ได้แถมม่านให้
ซึ่งพอยกเตียงขึ้นไปมุมนี้ก็จะกลายเป็นมุมทำงาน วางชุดโต๊ะทำงานได้ 1 ชุด พื้นที่ตรงนี้เป็นหน้าต่างเข้ามุมอยู่สองฝั่งด้านล่างไม่มี Frame ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูค่อนข้างโปร่ง นั่งทำงานไปมองสวนไปได้แบบนี้
หน้าตาโต๊ะทำงานค่ะ
หน้าต่างตรงส่วนนี้เป็นบานเปิดแบบเข้ามุม เวลาจะเปิดก็เลื่อนออกด้านข้างทั้งสองฝั่ง ซึ่งทำให้ได้ช่องเปิดขนาดใหญ่
มือจับบานหน้าต่างที่เข้ามุมเป็นแบบนี้
ด้านนอกบริเวณถัดจากระเบียงไป จะเป็นพื้นที่ที่ทางโครงการวางต้นไม้กระถางมาแทรกอยู่แบบนี้
กลับมาที่ฝั่งตรงข้ามห้องรับแขกจะเป็นห้องนอน ในห้องตัวอย่างนี้วางเป็นเตียง 5 ฟุต ทางด้านซ้ายเป็นทางไปห้องน้ำ ส่วนทางด้านขวาเป็นทางออกไประเบียง
ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งมีระยะเหลือพอสมควร พอที่วางโต๊ะข้างเตียงชุดเล็กๆได้
โดยทางฝั่งซ้ายของเตียงจะมีสวิทซ์ที่ใช้ปิดไฟทั้งห้องได้ในกรณีที่เราอยากจะนอนแล้วไม่อยากจะลุกไปปิดไฟหลายจุด
ด้านล่างมีปลั๊กต่างๆ และมีไฟ NightLight ให้อีก 1 จุด
ส่วนระยะปลายเตียงห่างจากโซฟาเล็กน้อย
อีกฝั่งเป็นทางไประเบียง โดยประตูทางออกระเบียงเป็นประตูกระจกบานเปิด กรอบบานอะลูมิเนียม
มือจับเป็นแบบก้านโยกค่ะ
พื้นที่ระเบียงเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ขนาดโดยประมาณ 1.20 x 0.80 เซนติเมตร ทางฝั่งซ้ายเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์
ที่วางคอมเพรสเซอร์ทำเป็นระแนงกั้นอยู่เพื่อบังตา ด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าทำเป็นประตูเปิดออกมาได้แบบนี้
ด้านล่างคอมเพรสเซอร์เป็นที่วางเครื่องซักผ้า
อีกฝั่งหนึ่งเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องจริงจะมีประตูบานเปิดมาให้ด้วยนะ โดยเป็นบานเปิดกรุไม้อัดยางกันชื้น ปิดผิวด้วยลามิเนต บริเวณทางเข้าจะมีตู้เสื้อผ้าหันหน้าเข้าหากัน 2 ตู้
ด้านในเปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บเสื้อผ้าแบบพับมาให้ด้วย
ถัดเข้าไปในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียก ส่วนแห้งจะมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ผนังด้านหลังจะได้กระจกเต็มบานแบบนี้เลย
อ่างล้างหน้าเป็นแบบรูปทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler ด้านล่างเป็นตู้เปิดออกมาเก็บของได้
ด้านบนมีพื้นที่สำหรับวางของเล็กๆน้อยๆ และ บริเวณผนังด้านข้างมีช่องสำหรับเอาไว้ใส่ของเพิ่มได้อีก
บริเวณกระจกฝั่งริมทั้งสองฝั่ง จะเปิดออกมาเป็นตู้เก็บของเล็กๆได้แบบนี้ ซึ่งก็สะดวกดี มีที่วางของเป็นสัดส่วนไม่ต้องเอามาวางกองตรงส่วนของเคาน์เตอร์
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler เช่นกัน ปุ่มกดจะอยู่ด้านหลัง พื้นที่ตรงนี้กลางพอสมควร ที่แขวนทิชชู่อยู่ด้านข้างหยิบจับสะดวก
สายชำระของ Kohler ตัวสายเป็นสแตนเลสส่วนตัวสายฉีดเป็นพลาสติกสีขาว
ส่วนเปียกจะอยู่ด้านในสุด เป็นสัดส่วนกั้นด้วยประตูกระจกนิรภัย ผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวเงาขนาด 30 x 60เซนติเมตร
พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.65 x 0.80 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง Homogeneous Tile ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ระหว่างส่วนแห่งและส่วนเปียกในห้องตัวอย่างไม่ได้มีลดระดับ แต่ในห้องจริงทางโครงการแจ้งว่าจะมีลดระดับด้วย เก็บงานรอบต่อด้วยหินสีขาว
ชุดฝักบัวมีทั้งแบบฝักบัวธรรมดา และ Rain Shower
ฝักบัวแบบธรรมดา และ แบบ Rain Shower
ผนังของพื้นที่อาบน้ำฝั่งที่ติดกับห้องนอนมีลูกเล่น ตรงที่เป็นผนังกระจกมองออกไปเห็นบริเวณหัวเตียงของห้องนอน
ฝั่งตรงข้ามมีช่องสำหรับวางสบู่และแชมพูมาให้
ส่วนมือจับบานประตูของฉากกั้นอาบน้ำ เป็นกระจกนิรภัยรูปตัว L ซึ่งสามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ตามภาพ
พอเดินออกมาจากพื้นที่ส่วนเปียก มองตรงออกไปก็จะเห็นทางเข้าอีกทางหนึ่ง ที่เข้าได้จากทางห้องครัว
ด้านล่างมีไฟ Night Light ให้อีก 1 จุดค่ะ
ส่วนแปลนห้อง 2 ห้องนอน 51 ตารางเมตร เข้ามาก็จะเจอห้องครัวก่อนเช่นเดียวกับห้องตัวอย่าง แต่ครัวจะเป็นรูปตัว L เล็กๆ ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเวลาใช้งานต้องหันไปมาบ้างแต่ก็อยู่ในโซนเดียวกันเป็นสัดส่วนดี ถัดไปเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งวางใกล้กับเคาน์เตอร์เลย พอทำอาหารเสร็จก็ยกไปเสริฟได้สะดวก ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องที่ต้องใช้กับแชร์กับคนอื่นๆ หรือ ถ้าแขกมาก็ใช้ห้องนี้ได้ โดยห้องน้ำห้องนี้จะอยู่ใกล้กับห้องนอนอีกห้องหนึ่งพอดี ถัดจากโต๊ะทานข้าวไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ขนาดห้องไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่อยู่ติดกับระเบียงขนาดใหญ่ มีหน้าต่างเอาไว้นั่งชมวิวได้ ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัว ห้องนี้จัดพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าเล็กๆได้ 2 ตู้ และมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน
ห้อง 2 ห้องนอน 58 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอกับห้องครัวก่อนเช่นกัน โดยห้องนี้สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้เป็นสัดส่วนดี และยังกันกลิ่นควันลอยไปทั่วห้องเวลาทำอาหารได้อีกด้วย ถัดจากครัวเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของโต๊ะทานข้าวและห้องนั่งเล่น ซึ่งติดกับระเบียงขนาดใหญ่ ห้องน้ำรวมจะอยู่ระหว่างครัวกับห้องนอนเล็ก ส่วนของห้องนอนจะแยกไปอยู่อีกโซนหนึ่งซึ่งการวางผังแบบนี้ทำให้โซนห้องนอนค่อนข้างเป็นส่วนตัว ห้องนอนแบ่งเป็น 2 ห้องนอน ห้องนอนเล็ก 1 ห้องและห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนใหญ่เป็นห้องแนวยาวในแปลนจัดให้วางโต๊ะวางทีวี โซฟา และโต๊ะทำงานได้ และผนังด้านข้างเป็นกระจกทั้งแถบทำให้ห้องนี้จะค่อนข้างโปร่ง ห้องนี้มีห้องน้ำในตัวผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งผนัง ให้อารมณ์เหมือนรีสอร์ทนิดๆ ถ้าเราอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็หาม่านมาปิดได้ค่ะ ห้องนี้จะได้อ่างอาบน้ำมาด้วย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 March 2016
- 1 Bedroom 28 – 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 51 – 65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 97 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 16.98 ล้านบาท
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร (ครัวและห้องน้ำสูง 2.20 เมตร)
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง + ทำสัญญา 5%
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 22 งวด
- ค่ากองทุน 650 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 65 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของ โครงการ URBITIA ทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 36 ต้องเดินเข้าซอยไปประมาณ 230 เมตร ในบริเวณเดียวกันนี้ก็มีคอนโดมาขึ้นค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกันทั้ง The Crest , KEYNE , Noble Remix , Rhythm และมีโครงการใหม่ๆมาเปิดตัวเรื่อยๆภาพรวมของทำเลจัดว่าเป็นทำเลฝั่งตรงข้ามซอยทองหล่อ หรือ เป็นสุขุมวิทเลขคู่ สภาพแวดล้อมและความสมบูรณ์ ถ้าเทียบกับทำเลทองหล่อแท้ๆอาจจะด้อยกว่า แต่ถ้ามองเรื่องความสะดวกด้านการเข้าถึงพร้อมพงษ์ หรือเดินทางไปทางฝั่ง Emporium , Emquartier ถือว่าเดินทางไปมาสะดวกมากๆขึ้นรถไฟฟ้าไป 1 สถานีก็ถึง สำหรับของกินของใช้ในซอยจะมีร้านอาหารเล็กๆอย่างร้านครัวร่มไม้ , ครัวเวียงจันทน์ ส่วนถ้าเป็นร้านอาหารข้างทางจะมีอยู่บริเวณต้นซอยสุขุมวิท 38 , ซอยทองหล่อกับซอยเอกมัย จะมีครบตั้งแต่มินิมาร์ท แผงขายผลไม้ ไปจนถึงร้านอาหารทั้งแบบรถเข็น ขายข้างทาง , ร้านเล็กๆไปยันร้านอาหารใหญ่ บรรยากาศดีๆ และยังมีแหล่ง Hang Out ของวัยรุ่นอีกด้วย ทำเลนี้จัดว่าเป็นทำเลที่ล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น Terminal 21, Emporium, Emquartier , Rain Hill , Gateway Ekamai , J Avanue, K-Village , Major Ekamai, Big C Ekamai
การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกดี ถ้าไม่คิดเรื่องการจราจรที่ติดขัดเพราะซอยสุขุมวิท 36 เป็นเส้นทางลัดไปออกถนนพระราม 4 ได้ และ ภายในซอยยังลัดไปออกซอยสุขุมวิท 38 และ ซอยสุขุมวิท 40 ได้อีก ส่วนซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) และ ซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) ก็ใช้เชื่อมไปออกถนนเพชรบุรีได้อีก การเดินทางเข้าเมืองทำเลนี้สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งใช้ถนน พระราม 4 ออกไปสีลม , สามย่าน ใช้ถนน สุขุมวิทไปออกเพลินจิต , ชิดลม , สยาม ใช้ถนนเพชรบุรี ไปออกทางพญาไท เสียตรงที่เป็นทำเลที่ไม่ใกล้ทางด่วนต้องขับรถไปขึ้นที่อื่นใช้ระยะทางพอสมควร เพราะฉะนั้นถ้าใครชอบอยู่ในเมืองหรือทำงานใจกลางเมือง ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักจะถือว่าทำเลนี้ค่อนข้างสะดวก
ส่วนถ้าไม่มีรถ การเดินทางจะค่อนข้างสะดวกพอสมควร ลง BTS สถานีทองหล่อเดินประมาณ 230 เมตรก็ถึงโครงการ อยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ จากสถานีทองหล่อถ้านั่งรถไปอีกสถานีเดียวก็จะถึงสถานี พร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา
วัสดุที่โครงการนี้ใช้จัดว่าดีใช้ได้เลยนะคะ เช่นให้กระเบื้องแบบ homogeneous tile , พื้นไม้เอนจิเนีย เฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully furnished ดีไซน์เข้าชุดกัน และคุณภาพดี มีให้เตียงพับซึ่งสามารถรองรับการใช้งานในห้องพื้นที่เล็กๆได้เป็นอย่างดี ชุดครัวให้ของ Star mark เครื่องครัวต่างๆให้ของ Teka ส่วนในห้องน้ำสุขภัณฑ์ให้ของ Kohler และยังมีช่องเก็บของมาให้อีกหลายจุด มีประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอนมาให้ เป็นบานกระจกกรอบบานอะลูมิเนียมวัสดุคุณภาพใช้ได้
การออกแบบโครงการนี้มีแนวคิดในการออกแบบชัดเจนทำให้พอมองภาพรวมแล้วโครงการดูค่อนข้างจะเด่น แนวคิดการออกแบบคือ “Bring nature into architecture” โดยภายในอาคารจะมีการนำต้นไม้ขึ้นมาปลูกแทรกอยู่ระหว่างห้อง และ ห้องที่อยู่ชั้น 1 บริเวณที่ติดกับระเบียงก็จะมีสวนหย่อมเล็กๆให้ได้ใช้แต่สวนทั้งหมดเป็นของพื้นที่ส่วนกลาง มีคนดูแลให้ซึ่งดีตรงที่เราไม่ต้องดูแลเอง แต่ถ้าทางนิติดูแลไม่ดีแล้วต้นไม้เกิดเหี่ยวหรือตายขึ้นมาก็จำทำให้เสียทัศนียภาพได้ ของแบบนี้จึงต้องดูการบริหารจัดการของนิติบุคคลตอนโครงการสร้างเสร็จด้วยค่ะ ซึ่งก็สอดคล้องกับค่าส่วนกลางที่ติด 65 บาท/ตร.ม. นอกจากนั้นอาคารนี้ยังมีการออกแบบเพื่อให้มีการระบายอากาศ (ventilation) ที่ดี โดยจะมีช่องเปิดเพื่อระบายอากาศอยู่ทั้งทางด้านหน้าและหลังของอาคาร ทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาบริเวณโถงทางเดินได้ และด้านในตัวอาคารจะมีช่องเปิดเป็น court อยู่ตรงกลางตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบน โดยอากาศร้อนและลอยตัวขึ้นด้านบนและสามารถระบายอากาศออกได้ ส่วนด้านบนมี Skylight เพื่อดึงเอาแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในตัวอาคาร ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดไฟได้พอสมควร
สาธารณูปโภค มีให้ครบตามมาตรฐานทั้ง Lobby ที่ชั้นล่าง , สระว่ายน้ำทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ , ฟิตเนส 1 ห้องที่ชั้น 8 ส่วนสวนหย่อม โครงการนี้ถึงแม้ว่าจะเป็น Low Rise แต่ด้วย Concept ที่เน้นธรรมชาติจึงจัดมาให้มากหน่อย ซึ่งเมื่อเทียบกับราคา พื้นที่ส่วนกลางที่จัดว่าให้จึงมองว่าค่อนข้างน้อยไปอยู่ดี แต่เนื่องจากเป็นโครงการ Low Rise จึงอาจจะจัดสรรพื้นที่ไม่ได้มากไปกว่านี้เท่าไหร่จึงพอยอมกันได้ค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 170,000 บาท/ตร.ม., 29 March 2016
- ทำเล 7/10 – ทำเลดี อยู่ใกล้รถไฟฟ้าทองหล่อ ในระยะ 230 เมตร ใกล้ห้างชื่อดัง แต่ราคาค่อนข้างสูง และโดนขนาบข้างด้วยเพื่อนบ้านซ้ายขวาอีก
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – สามารถเข้าออกได้หลายทาง มีซอยลัด เสียตรงที่รถติดไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – สะดวกใกล้รถไฟฟ้า เข้าเมืองได้ไม่ต้องเปลี่ยนสาย เรียกรถง่าย แต่อยู่ในซอยต้องเดินหน่อย
- วัสดุ 7.5/10 – ให้มาค่อนข้างดี และสมราคาในระดับนี้
- แบบ 8/10 – รวมๆถือว่าทำได้ดี ตรง Concept มีการออกแบบให้ตัวห้องใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีระบบหมุนเวียนอากาศ
- สาธารณูปโภค 7/10 – จัดมาให้ตามมาตรฐาน แต่ถ้าเทียบกับราคาอาจจะน้อยไปนิด
- LUXURY CLASS
- 7.32 / 10.00
BOTTOM LINE
URBITIA ทองหล่อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยย่านทองหล่อ เดินทางโดยรถยนต์บ้าง แต่ใช้ BTS เป็นหลัก ชอบเดินทางเข้าเมือง ชอบโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะๆ เน้นห้องพักที่มีการออกแบบให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ มีงบประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )