Cover_FB The Teak

รีวิวฉบับที่ 1002 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูโครงการ The Teak พัฒนาการ-ทองหล่อ คอนโด Low Rise 8 ชั้น หน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 ห่างจากแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง 500 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเพชรบุรี ถนนรามคำแหง ถนนศรีนครินทร์ พระโขนง เอกมัย ทองหล่อ หรือเส้นสุขุมวิทได้ ตัวโครงการมีให้เลือก 4  Type ขนาดตั้งแต่ 27-60 ตารางเมตร หน้าตาโครงการจะเป็นอย่างไรบ้างเราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ ^^

Fact @ 21 Jan 2016

  • The Teak Phattanakarn-Thonglor (เดอะ ทีค พัฒนาการ-ทองหล่อ)
  • LKH Development Co., Ltd.
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยพัฒนาการ 10/1, แขวงสวนหลวง, เขตสวนหลวง, กรุงเทพ 10250
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 79 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิตที่ชั้น 3-8
  • ที่จอดรถประมาณ 30 คัน จอดซ้อนคัน 10 คัน รวมเป็น 40 คัน คิดเป็น 50%
  • ที่ดินประมาณ 0-2-85 ไร่
  • Type A  1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 27 ตร.ม.
  • Type B  1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 31 ตร.ม.
  • Type C  2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 45 ตร.ม.
  • Type D  2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 60 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • เริ่มก่อสร้างปี 2015
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ  เดือนพฤศจิกายน 2016
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.3 – 5.4 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ  81,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-719-8833-5

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

FB-06-2


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.739251, 100.603287

1428676626_1162041556

โครงการ The Teak พัฒนาการ-ทองหล่อ ตั้งอยู่หน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 ห่างจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง 500 เมตร สามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญอย่างเช่น ถนนเพชรบุรี  ถนนรัชดาภิเษก ถนนอโศก หรือย่านฮิบๆอย่างทองหล่อ เอกมัย นอกจากนี้ยังสามารถไปขึ้นทางด่วนพิเศษรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางพิเศษศรีรัชได้ในระยะไม่ไกลอีกด้วย

Map The Teak สถานที่

สภาพแวดล้อมของโครงการ หากจะโฟกัสในละแวกใกล้เคียงส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ และมีคอนโด กระจุกตัวอยู่ใกล้ๆกับโครงการ เช่น The Leaf พัฒนาการ, U Delight Residence พัฒนาการ-ทองหล่อ ซึ่งล้วนเป็นคอนโด High Rise ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีอพาร์ทเม้นต์แบบให้เช่ารายเดือนสูงประมาณ 4-5 ชั้น บริเวณใกล้ๆกัน นอกนั้นรอบๆโครงการก็จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยภายในอาคารจะประกอบธุรกิจเล็กๆภายในครัวเรือน เช่น ร้านตัดผม, ร้านขายของชำ, ร้านอาหาร โดยเฉพาะหูฉลามและเป็ดพะโล้ แถวนี้จะขึ้นชื่อมาก บนถนนพัฒนาการเองจะมี Tesco Lotus และ Max Value พัฒนาการ อยู่แถวๆแยกพัฒนาการใกล้ๆถนนศรีนครินทร์

ส่วนความเจริญรอบๆสามารถไปได้หลายจุดมาก หาดเลี้ยวไปทางถนนศรีนครินทร์ จะมี  Thanya Park, Paradise และ Seacon Square  แต่หากเลี้ยวไปทางแยกคลองตัน จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเพชรบุรี ซึ่งสามารถตรงไปออกรัชดาภิษก-พระราม 9 เพื่อไปเซ็นทรัลพระราม 9 ,ฟอร์จูน หรือเอสพลานาด รัชดาได้ หรือหากจะเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 71 จะไปทะลุถนนสุขุมวิทในย่านพระโขนง ซึ่งสามารถไปเข้าถนนอ่อนนุชในซอยนั้นก็มีคอนโดค่อนข้างเยอะและมีร้านอาหารริมทางให้เลือก นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญคือย่านเอกมัย, ทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักและมีร้านฮิบๆ เก๋ๆให้เลือกหลากหลายเลย สิ่งอำนวยความสะดวกย่านนั้น นอกจากแหล่งบันเทิง ย่าน เอกมัย ทองหล่อ RCA และเพชรบุรีแล้ว ก็มีโรงพยาบาล ส่วนห้างสรรพสินค้าต้องไปที่เส้นสุขุมวิท มีเยอะมากและหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีสถานซึกษา แบบเดินทางสะดวกไม่ไกล้ไม่ไกลเกินไป มหาวิทยาลัยแถวนั้นที่พอเดินทางสะดวกก็มี มศว ประสานมิตร, ABAC รามคำแหง, เกษมบัณฑิตค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ โครงการอยู่บริเวณปากซอยพัฒนาการ 10/1 ซึ่งเป็นซอยสั้นๆไม่มีซอยย่อยและทางลัด ดังนั้นทางเข้า-ออก จึงใช้ถนนพัฒนาการเป็นหลัก ตัวถนนหน้าโครงการเป็น One Way หากไปทางแยกคลองตันสามารถเลี้ยวซ้ายได้เลย จากแยกคลองตันหากตรงไปจะเป็นถนนเพชรบุรี ซึ่งถนนเส้นนี้จะเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท63 (เอกมัย), ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) และถนนอโศก-มนตรีได้ โดยถนนที่คู่ขนานกันอยู่กับถนนเพชรบุรีคือถนนสุขุมวิท ที่เป็นถนนใจกลางเมือง สามารถไปทะลุยังถนนเส้นอื่นได้ง่ายๆ และถนนสุขุมวิทเองก็เป็นที่รู้กันว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆหลายแห่ง

จากแยกคลองตัน หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนรามคำแหงได้ และหากเลี้ยวขวาจะไปยังซอยสุขุมวิท 71 หรือซอยปรีดี พนมยงค์ สุดซอยจะทะลุถนนสุขุมวิทในช่วงพระโขนงซึ่งสามารถไปทะลุซอยสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช)ที่สามารถไปทะลุถนนศรีนครินทร์ได้ หรือหากใครต้องการไปถนนศรีนครินทร์โดยผ่านเส้นพัฒนาการเอง จากโครงการสามารถเลี้ยวซ้ายแล้วไปกลับรถตรงหน้าซอยพัฒนาการ 2 จากนั้นก็จะสามารถกลับรถได้ ถ้ากลับรถมาถึงช่วงซอยรามคำแหง 24 แยก 2 จะสามารถไปทะลุถนนหัวหมากได้ด้วย แต่ถ้าตรงไปเรื่อยๆจนถึงแยกพัฒนาการ ก็จะสามารถเข้าถนนศรีนครินทร์ได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ หลักๆเลยโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหงในระยะ 500 เมตร จากแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง สามารถนั่งไปลงสถานีมักกะสัน ซึ่งเป็นสถานีเอนเจอร์เชนจ์กับสถานี MRT เพชรบุรี เพื่อไปต่อ MRT สถานีอื่นได้ หรือหากใครต้องการไปต่อ BTS จากสถานี MRT เพชรบุรีเพียง 1 สถานี จะเป็น MRT สุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานีเอนเตอร์เชนจ์กับสถานี BTS อโศก ดังนั้นถือว่าทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้กับสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสาธารณะแบบอื่นๆได้หลากหลายค่ะ โดยข้างๆโครงการมีวินมอร์เตอร์ไซค์เล็กๆ ค่าบริการรับส่งมาแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง 20 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบที่สถานีรามหนึ่งได้ โดยใช้บริการพี่วินข้างโครงการ ในราคา 20 บาทเท่ากัน นอกจากนี้ไม่ไกลจากโครงการยังมีป้ายรถเมล์ และรถสองแถวสีแดง คลองตัน-ซอยสวนหลวง ที่มีท่ารถอยู่แถวๆซอยพัฒนาการ 1 อีกด้วย

Map เดินทาง

เส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้จะเริ่มจากที่ตั้งโครงการ ที่หน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 ไปรอบสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ และเดินเลียบถนนพัฒนาการไปจนถึงแยกคลองตัน จากนั้นเลี้ยวไปทางถนนรามคำแหง เดินผ่านตลาดเอกรินทร์ ตึก UM Tower ไปจนถึงสถานีแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหงค่ะ

ที่ตั้งโครงการจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 ติดกับถนนใหญ่เลยค่ะ ตอนนี้ตัวโครงการกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง

ฝั่งซ้ายมือที่ติดกับโครงการจะเป็นซอยพัฒนาการ 10/1 ข้างๆกันเป็นโครงการ The Leaf พัฒนาการ คอนโด 20 ชั้น จาก บ้านกรองทอง

ด้านหน้าจะเป็นถนนใหญ่พัฒนาการ ฝั่งนี้จะสามารถตรงไปทะลุถนนศรีนครินทร์ได้

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นตึกแถว 4 ชั้น ที่มีธนาคารออมสิน และมีร้านขายอาหารเล็กๆให้เลือกรับประทานหลายร้าน จากโครงการสามารถข้ามฝั่งไปได้สะดวก

ส่วนทางขวามือจะเป็นสำนักงานขายของโครงการ เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นที่ถูกนำมาดัดแปลงตกแต่งด้วยไม้ ตาม Concept ของโครงการค่ะ

ด้านหน้าก็ยังคงเป็นถนนพัฒนาการ ที่ตรงไปจะเป็นแยกคลองตัน ส่วนสะพานทางขวามือนี้คือสะพานข้ามแยกคลองตันค่ะ

จากโครงการเราจะเดินไปบนฟุตบาทเลียบถนนพัฒนาการ ข้างๆโครงการมีพี่วินเล็กๆคอยให้บริการด้วย

อัตราค่าบริการวินพัฒนาการ 10/1 ค่ะ หากจะไปยังสถานที่ต่างๆเช่น ท่าเรือคลองตัน แอร์พอร์ตลิงค์ หรือไปตลาดอุบลพันธ์ ค่าบริการแค่ 20 บาทเท่านั้น ถือว่าไม่แพงและเชื่อมต่อไปยังสถานที่อื่นๆสะดวกดี

ข้างๆโครงการจะเป็นที่ดินว่างเปล่า ที่มีบ้านเล็กๆ 1 ชั้นอยู่ด้านใน จากการสอบถามแล้ว ที่ดินแปลงนี้จะไม่มีการสร้างคอนโด หรืออาคารสูงได้อีกแน่นอนเกือบ 100% เนื่องจากตั้งแต่ The Leaf สูง 20 ชั้น, The Teak สูง 8 ชั้น, ที่ดินแปลงนี้และถัดไปก็เป็นคอนโด U Delight Residence สูง 27 ชั้น ซึ่งจากที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นตึกสูงแทบทั้งสิ้น และมีที่ดินแปลงนี้เป็นฟันหลออยู่ตรงกลาง  การจะสร้างอาคารสูงอีกก็จะแออัดและมีระยะอาคารใกล้กันเกินไป จะทำให้ลดความเป็นส่วนตัวลง ดังนั้นจากข้อกฏหมายในเรื่องอาคาร และความอยู่สบายของที่พักอาศัย จึงทำให้โครงการการันตีว่าที่ดินแปลงนี้จะไม่มีอาคารสูงขึ้นมาสร้างความแออัดแน่นอนค่ะ

ถัดจากที่ดินเปล่าก็เป็นคอนโด U Delight Residence สูง 27 ชั้น จาก Grand U

ถัดมาจะเป็นร้านดอกไม้ประดิษฐ์ที่อยู่หน้าซอยพัฒนาการ  8 เผื่อใครมีงานอะไรก็สามารถมาใช้บริการได้ หน้าร้านจะเป็นป้ายรถเมล์เดินจากโครงการมาแค่นิดเดียวเอง

ภายในซอยพัฒนาการ 8 ก็จะเป็นตึกแถวเก่าๆ 3-4 ชั้นเป็นระนาบเรียงกันไป มีทั้งที่พักอาศัยและทำการค้าภายในอาคาร

ช่วงต้นซอยพัฒนาการ 8 อีกด้านจะเป็นร้านซ่อมโทรศัพท์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งมีบริการซักแห้งด้วย

ถัดมาเป็นร้านรับทำป้ายอิงค์เจ็ทและร้านทำฟัน

ใกล้ๆกันเป็นทรัพย์ดี เพลส อพาร์ทเม้นต์ให้เช่ารายเดือน สภาพยังดูใหม่ปิ๊งอยู่เลยค่ะ ใกล้ๆกันมี  7 Eleven ให้ไปซื้อของกินของใช้ด้วย

ภายในซอยข้างๆทรัพย์ดี เพลส ก็มีอพาร์ทเม้นต์ 4-5 ชั้น ให้เช่าเกือบทั้งซอยเลย บรรยากาศในซอยไม่เปลี่ยวและสะอาดดี

ถัดมาจะเป็นตึกแถวยาวไปตลอดแนวเลย พอมาถีงช่วงนี้เราว่าบรรยากาศจะไม่ค่อยน่าเดินและกลางคืนจะค่อนข้างเปลี่ยวเนื่องจากเป็นช่วงเลียบสะพาน ฟุตบาทค่อนข้างแคบ และตึกแถวในช่วงนี้จะค่อนข้างแออัด มีทั้งที่เป็นที่พักอาศัยและทำการค้าภายในตึก

เช่นตรงนี้ก็มีร้านข้าวมันไก่และก๋วยเตี๋ยวไก่เล็กๆอยู่

ฝั่งตรงข้ามมีร้านห่านพะโล้ดีชั่วคน ร้านค่อนข้างใหญ่และเป็นร้านขึ้นชื่อเลยหละ

ร้านส้มตำ อาหารอีสาน และอาหารตามสั่งก็มี

มีร้านทำผมเล็กๆอยู่ 2-3 ร้าน

ใกล้ๆกันมีร้านสำหรับทำนามบัตรและการ์ดงานพิธีต่างๆ ติดกันเป็นร้านขายเครื่องมือช่างและของใช้ในบ้าน

บนถนนช่วงนี้ (ช่วงซอยพัฒนาการ  2) ตรงเกาะกลางถนนจะมีจุดกลับรถ หากใครที่มาจากโครงการสามารถกลับรถเพื่อไปยังถนนกำแพงเพชร 7, ถนนศรีนครินทร์ หรือจะไปขึ้นทางด่วนก็ได้

เราเดินมาเรื่อยๆจะเจอร้านขายของชำ มองตรงไปจะเป็นซอยพัฒนาการ 1

ซึ่งในซอยนี้จะเป็นท่าจอดรถสองแถวสีแดง รับส่งช่วงคลองตัน-ซอยสวนหลวง

ถัดไปเป็นร้านข้าวขาหมูตรองซุง เป็นร้านเก่าแก่ มีเชลล์ชวนชิมการันตีด้วย

ร้านเย็บป้าแถวริมฟุตบาทก็มี ข้างหน้าเป็นร้านทำผม ร้านขายโทรศัพท์ และร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงของคนอิสลาม มองตรงไปก็จะเห็นแยกคลองตันแล้วค่ะ

เราเดินมาจนถึงมุมถนนจะเป็นร้านทองเช่งหลีเฮง หากเดินเลี้ยวไปทางซ้ายมือจะไปบนถนนสุขุมวิท 71 แต่เราจะเลี้ยวขวาไปยังแยกคลองตันกัน

เมื่อเดินมาที่แยกคลองตัน จะเป็นแยกขนาดใหญ่ เป็นจุดตัดกับถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ และถนนสุขุมวิท 71 มีทางม้าลายให้ข้ามได้สะดวกดี หากเลี้ยวซ้ายจะไปถนนสุขุมวิท 71 ซึ่งสามารถไปทะลุถนนใหญ่สุขุมวิทเพื่อไป BTS พระโขนง หรือ BTS อ่อนนุชได้ หากแยกไปอีกทางข้างๆกันจะไปยังถนนเพชรบุรีที่สามารถไปเอกมัย, ทองหล่อ หรือรัชดาภิเษกได้ ส่วนเราจะข้ามทางม้าลายไปบนถนนรามคำแหงเพื่อไปแอร์พอร์ตลิงค์กัน

เรามาอยู่บนนถนนรามคำแหงกันแล้วค่ะ ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของถนนรามคำแหง ตัวถนนจะยาวไปถึงแยกลำสาลี ในเขตพื้นที่บางกะปิ บรรยากาศของถนนช่วงนี้จะมีทั้งตึกแถวเก่าๆและมีตึกใหญ่ๆสลับปนแปกันไป ทางขวามือเลียบกำแพงสีเหลืองๆนี้จะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.)

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกเก่ามากๆ มีทั้งที่ยังคงรูปร่างเดิมและส่วนหนึ่งมีการ renovate แล้ว มองไกลๆเหมือนโคลอสเซียมขนาดเล็กเลย

ติดกันจะเป็นตึกแถวที่อยู่ข้างๆ ตึก UM Tower (ตึกสูงๆสีฟ้า) โดยด้านล่างตึกแถวเหล่านี้จะมีอาหารของกินเพียบบ เดี๋ยวเราจะพาข้ามถนนไปดูกันค่ะ

ข้ามฝั่งมาเราจะเห็นร้านอาหารเล็กๆตั้งร่มผ้าใบและที่นั่งอยู่เต็มเลย

แถวนี้ของกินเยอะมาก และราคาไม่แพง อย่างเช่นขนมจีนน้ำยาร้านนี้ 1 จาน ราคา 30 บาทเท่านั้น

เดินมายังฟุตบาทเลียบถนนรามคำแหง สองข้างทางจะมีร้านขายอาหาร และขนมเพียบ โดยร้านเหล่านี้จะรองรับพนักงานไฟฟ้านครหลวง พนักงานในตึก UM Tower ธนาคารอิสลาม พนักงานออฟฟิศอื่นๆ และคนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ค่ะ

7 Eleven ก็มี เวลาบ่ายๆแบบนี้คนก็ยังคึกคัก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ติดกับ 7 Eleven จะเป็นตลาดเอกรินทร์ ตลาดค่อนข้างใหญ่มีของขายเยอะ

ด้านในจะมีขายทั้งอาหารและเสื้อผ้า มีที่นั่งตรงกลางสำหรับรับประทานอาหารได้ อาหารด้านในมีหลากหลาย แต่จะเน้นไปทางอาหารอิสลามซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ถ้าเข้ามานี่จะได้กลิ่นเครื่องเทศชัดมาก

ติดกันเป็นตึก UM Town ที่ภายในจะมีธนาคารอิสลามอยู่ อาหารการกินบริเวณนี้จึงมีอาหารอิสลามค่อนข้างเยอะ

ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ให้ใช้บริการกันได้

ฝั่งตรงข้ามเป็น Nasa Vegas เป็น Service Apartment และโรงแรมรายวัน

เดินมาอีกนิดเดียวเราก็จะเจอแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหงแล้วค่ะ โดยบริเวณสถานีจะใกล้กับท่าเรือรามหนึ่ง บริเวณคลองแสนแสบได้ด้วย จากหน้าแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง มีพี่วินมอร์เตอร์ไซค์ แท๊กซี่ และขนส่งสาธารณะบริการหลากหลาย

Map Zoom

บริบทโดยรอบโครงการ ส่วนใหญ่เป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นต์และคอนโดที่อยู่รอบๆโครงการค่ะ

โดยทางทิศเหนือ จะติดกับ ถนนใหญ่พัฒนาการและปากซอยพัฒนาการ 10/1  ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ

ทางทิศตะวันออก ติดกับซอยพัฒนาการ 10/1 และคอนโด The Leaf พัฒนาการ สูง 20 ชั้น ซึ่งจะบล็อกวิวทางทิศตะวันออกของโครงการ เนื่องจากตัวตึกสูงกว่า แต่ยังมีระยะห่างช่วยให้ไม่แออัดมาก

ทางทิศใต้ติดกับอพาร์ทเม้นต์ 3 ชั้น โดยอาคารด้านนี้จะเป็นผนังทึบทั้งหมด อพาร์ทเม้นต์นี้จึงไม่มีผลในเรื่องวิว

ส่วนทางทิศตะวันตก ติดกับที่ดินว่างเปล่าที่มีบ้านพักอาศัย 1 หลัง และถัดไปเป็นโครงการ U Delight Residence พัฒนาการ-ทองหล่อ สูง 27 ชั้น ซึ่งจะบล็อกวิวทางทิศตะวันตกของเราทั้งหมด แต่อยู่ในระยะที่ไม่ประชิดนัก จึงไม่รู้สึกอึดอัดมาก

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Foodland เพชรบุรี ~1.5 กม.
  • Tesco Lotus Express เอกมัย ~1.8 กม.
  • ม.เกษมบัณฑิต ~ 2.8 กม.
  • J Avenue ~3.1 กม.
  • Gateway เอกมัย ~4.1 กม.
  • เมเจอร์ สุขุมวิท ~4.1 กม.
  • Em Quartier ~ 5 กม.
  • Thanya Park ~ 5.2 ม.
  • สวนเบญจสิริ ~5.3 กม.
  • Seacon Square ~8.7 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Screen Shot 2016-01-28 at 6.10.27 AM

โครงการ The Teak พัฒนาการ-ทองหล่อ เป็นคอนโดมิเนียมแนว Urban Loft มีการออกแบบที่มีสไตล์เฉพาะตัว โดยคำว่า “The Teak” แปลว่า ไม้สัก Concept ของโครงการนี้จึงนำไม้มาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งอาคาร

ภาพจำลองตัวอาคารจะเห็นว่ามีการใช้โทนสีน้ำตาล-เทา เป็นสีเอิร์ทโทนให้เข้ากับความเป็นธรรมชาติ  มีการใช้ไม้มาเล่นจังหวะที่ตัวอาคารให้ดูมีลูกเล่นไม่น่าเบื่อ อาคารทางด้านนี้จะเป็นอาคารทางด้านทิศตะวันออกด้านสระว่ายน้ำ

โดยสระว่ายน้ำในโครงการอยู่ที่ชั้น 1 มีจำนวน  1 สระ เป็นระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.6  เมตร ด้านบนสระว่ายน้ำเป็นห้อง Fitness ที่บรรจุเครื่องออกกำลังกาย 6 เครื่อง สามารถออกกำลังกายแล้วมองวิวสระว่ายน้ำไปด้วยได้

ภาพจำลองห้อง Fitness มีการใช้โทนสีน้ำตาล ลายไม้เป็นหลัก

ภาพจำลอง Lobby ในชั้น 1 มีการใช้โทนสีน้ำตาล-เทาตาม Concept

  

เรามาเริ่มที่ผังโครงการกันค่ะ เมื่อผ่านประตูทางเข้ามาจะเจอป้อม รปภ. 1 จุด พื้นที่ชั้น Ground จะเป็นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมดในช่องจอด 30  คัน และรวมจอดซ้อนคันประมาณ 10 คัน รวม 40  คัน หรือคิดเป็น 50 % สามารถเข้าอาคารได้ทาง Lobby ที่มีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน  40 : 1 ถือว่ามีความหนาแน่นต่ำ ขึ้นลงอาคารสบายๆ โครงการมีบันไดหนีไฟให้ทั้งหมด 2 ตัว นอกจากนี้พื้นที่ชั้น 1 ยังมีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.6 เมตร โดยมีที่ล้างตัวให้ 1 จุด ตัวสระว่ายน้ำเองจะอยู่ทางทิศตะวันออกของอาคาร โดยมีตัวอาคารของ The Teak และ The Leaf คอนโดข้างเคียงโอบล้อมไว้ ข้อดีคือสระว่ายน้ำนี้จะสามารถเล่นน้ำได้ตลอดเวลาเพราะมีอาคารบังแดดช่วยให้ไม่ร้อน แต่ข้อเสียคือเวลาว่ายน้ำจะรู้สึกมีตึกโอบล้อมรอบด้าน และเสียความเป็นส่วนตัวจากการถูกมอง

ผังโครงการชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 11 ห้อง มีห้อง Type B (สีฟ้า) แบบ  1 Bedroom มากที่สุด จำนวน 9 ห้อง, Type A(สีเขียว) แบบ 1 Bedroom จำนวน 1 ห้อง และห้อง Type C (สีเหลือง) แบบ 2 Bedroom จำนวน 1 ห้อง โดยห้อง Type C จะเป็นห้องวิวสระว่ายน้ำ ที่อยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำมาก ข้อดีคือจะได้วิวสระว่ายน้ำในขณะที่มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่จะมีเสียงรบกวนในช่วงเวลาที่คนมาว่ายน้ำเยอะๆ ภาพรวมของทั้งชั้นมีการจัดวางอาคารเป็นรูปตัว L โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีช่องเปิดตรงโถงลิฟต์ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดี น่าเสียดายที่ปลายของอาคารอีกด้านน่าจะมีช่องเปิดด้วยโถงทางเดินจะได้ดูโปร่งและอากาศถ่ายเทมากขึ้น ในชั้นนี้จะมีห้อง Fitness ซึ่งบรรจุเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่อง

ผังโครงการชั้น 3-8 จะมีการวางฟังก์ชั่นเหมือนกับชั้น 2 เพียงแต่ไม่มีห้อง Fitness ซึ่งตัวห้อง Fitness ได้แปรเปลี่ยนเป็นห้อง Type  B แบบ 1 Bedroom จึงทำให้ชั้น 3-8 มีห้องพักเพิ่มมาอีกห้อง รวมเป็นทั้งหมด 12 ห้อง

มุมมองจากถนนพัฒนาการเมื่อมองเข้าไปในโครงการค่ะ ตัวโครงการจะอยู่หน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 เลย เข้า-ออกสะดวกดี

ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ร้อนมากนัก ช่องเปิดที่อยู่ตรงกลางของอาคารจะเป็นหน้าต่างตรงปลายทางเดินและช่องแสงที่โถงลิฟต์ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าได้ดี ตัวอาคารเป็นรูปตัว  I มีป้าย The Teak Phattanakarn ติดอยู่ที่ตัวอาคารค่อนข้างชัดเจน ด้านทิศตะวันออกของโครงการจะติดกับซอยพัฒนาการ 10/1 และคอนโด The Leaf พัฒนาการ ความสูง 20 ชั้น ส่วนทางทิศตะวันตกจะติดกับที่ดินว่างเปล่าและคอนโด U Delight Residence ความสูง 27 ชั้น ทำให้มุมมองจริงๆเมื่อมองเข้ามาในโครงการจะถูกล้อมรอบด้วยตึกสูงทั้งสองข้าง

ตัวอาคารใช้โทนสีเทา-น้ำตาล มีการใช้ไม้มาตกแต่งในอาคารตาม Concept ทางเข้าโครงการเป็นถนนกว้างประมาณ 6 เมตร ประตูทางเข้ามีป้าย The Teak สีน้ำตาล เห็นชัดเจน ทางซ้ายมือด้านหลังป้ายโครงการจะมีป้อม รปภ. 1 จุด เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ลูกบ้าน เมื่อเข้าไปในอาคารที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคารที่ชั้น Ground ทั้งหมด

โดยที่จอดรถจะมีทั้งที่อยู่ภายใต้อาคาร และที่ภายนอกอาคารติดกับรั้วโครงการแบบนี้ ที่จอดรถมีการตีช่องจอดให้เรียบร้อย

อาคารทางด้านทิศตะวันออกจะมีห้องครบทุก Type ตั้งแต่ห้อง Type A,B,C แบบ 1-2 Bedroom ซึ่งห้องที่อยู่ทางทิศนี้นอกจากจะได้ทิศทางที่ดีเพราะไม่ร้อนแล้วยังได้วิวสระว่ายน้ำด้วย

พื้นที่ชั้น 1 จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.6 เมตร มีบันไดขึ้นไปยังพื้นที่ชั้น 2  สามารถไปยังห้อง Fitness ที่บรรจุเครื่องออกกำลังกาย 6 เครื่อง และสามารถออกกำลังกายไปมองวิวแม่น้ำไปได้ ข้างๆห้อง Fitness จะเป็นห้อง Type C แบบ 2 Bedroom ที่ในช่วงเวลาที่คนมาเล่นน้ำกันเยอะๆ ห้องนี้จะเสียเปรียบตรงที่มีเสียงรบกวนและเสียความเป็นส่วนตัวจากการถูกมองเห็น แต่ก็มีข้อดีอยู่บ้างนะตรงที่ห้องในชั้นนี้สามารถมองวิวสระว่ายน้ำจากในห้องได้ในระยะที่ใกล้มากๆ ช่วงเวลาที่ไม่มีคนมาเล่นน้ำก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะได้เห็นวิวแบบส่วนตัวได้เต็มที่เลย

ส่วนห้องพักที่อยู่ด้านบนสระว่ายน้ำจะมีการตกแต่งเป็นพิเศษหน่อย ประกอบด้วย ห้อง Type C แบบ 2 Bedroom และ Type  B5 แบบ 1 Bedroom ที่เป็นห้องพักแบบมีระเบียงและมีการใช้ไม้มาตกแต่งอาคารในด้านนี้ด้วย

อาคารทางทิศตะวันตกจะติดกับที่ดินว่างเปล่า และใกล้กับคอนโด U Delight Residence 27 ชั้น  แน่นอนว่าอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวบ้างเวลาเปิดหน้าต่างออกมาแล้วจ๊ะเอ๋ตึกข้างๆ แต่ก็อยู่ในระยะที่ไม่ประชิดนัก อาคารด้านนี้จะเป็นห้องพัก Type B แบบ 1 Bedroom หลายๆรูปแบบคละกันไป ส่วนอาคารทางทิศใต้ซึ่งเป็นทิศที่ติดกับอพาร์ทเม้นต์ 3 ชั้นจะเป็นทิศที่ค่อนข้างร้อน โครงการจึงออกแบบให้ทึบทั้งหมดแทบไม่มีช่องเปิดเลยค่ะ

มาอัพเดทตัวโครงการกันบ้าง ตอนนี้อาคารกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ จากถนนใหญ่พัฒนาการ เดินนิดเดียวก็ถึงตัวตึกแล้ว

The teak 5

ทางทิศตะวันออกของโครงการที่ติดกับคอนโด The Leaf พัฒนาการ 20 ชั้น มองแบบนี้จะรู้สึกค่อนข้างใกล้กันพอสมควร เวลามองออกไปจากอาคารก็จะจ๊ะเอ๋คนที่อยู่คอนโดข้างๆเต็มๆ

The teak 13

ส่วนอาคารทางทิศตะวันตกจะติดกับที่ดินว่างเปล่าที่มีต้นไม้ปกคลุมค่อนข้างหนาแน่น มีบ้านพักอาศัย 1 ชั้นอยู่ในที่ดิน ข้างๆที่ดินว่างเปล่าเป็นคอนโด U Delight Residence 27 ชั้น ซึ่งระยะห่างระหว่างอาคารค่อนข้างไกลกัน ทำให้คนที่พักอาศัยอยู่ในด้านนี้ไม่รู้สึกอึดอัด ก็หวังว่าจะไม่มีตึกสูงมาสร้างอยู่บนที่ดินผืนนี้ตามที่โครงการคาดการณ์ไว้นะคะ ไม่งั้นคงอึดอัดกันน่าดูเลย

เรามาดูที่สำนักงานขายของโครงการกันค่ะ เข้ามาด้านในจะเจอ Lobby ต้อนรับ มีการตกแต่งโดยใช้โทนสีน้ำตาล-เทา แบบขรึมๆ

อีกด้านเป็นที่นั่งพักคอยสำหรับลูกค้าและที่วางโมเดลจำลองโครงการค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.6 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
  • สวนหย่อม
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟต์ 40 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 30 คัน จอดซ้อนคัน 10 คัน รวมเป็น 40 คัน คิดเป็น 50%
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • มียามรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

 


Product Walkthrough

โครงการขายแบบ Fully Furnished มีห้องทั้งหมด 4 Type คือ

  • Type A  1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 27 ตร.ม.
  • Type B  1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 31 ตร.ม.
  • Type C  2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 45 ตร.ม.
  • Type D  2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 60 ตร.ม.

เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ได้แก่ เตียง 6 ฟุต, โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, โต๊ะวางทีวี, ชุดโต๊ะทานข้าว, ชุดครัว Built-in พร้อมซิงค์ รวมทั้งเจาและที่ดูดควัน โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูคือห้อง Type B3 ขนาด 31 ตารางเมตร โดยห้องนี้จะได้รับของแถมเพิ่ม ได้แก่ Temper Door, ผ้าม่านทึบแสง, TV 40 นิ้ว 1  เครื่อง และติดตั้ง Digital Door Lock ให้ด้วยค่ะ (ของแถมเพิ่มหมดเขตสิ้นเดือนมกราคม 2016)

ห้องตัวอย่างเป็นแบบ 1 Bedroom พื้นที่ 31 ตารางเมตร ขนาด 5.4 x 5.65 เมตร  ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร ห้องนี้จะมีขนาดปานกลาง เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับห้องนั่งเล่นติดกับประตูทางเข้า มีการจัดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะวางของและโต๊ะวางทีวีลอยตัวมาให้ถัดไปเป็นครัวปิดที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ช่วยให้พื้นที่ทำครัวเป็นสัดส่วนขึ้น กลิ่นจากการประกอบอาหารก็ไม่เข้ามารบกวนในห้อง ภายในครัวจะ Built-in ชุดครัวมาให้พร้อมวางเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งติดม่านทึบมาให้เรียบร้อย ถัดไปเป็นระเบียงที่มีพื้นที่วาง Compressor แอร์ให้ โดยมีประตูอลูมิเนียมโปร่งกั้นเป็นสัดส่วนค่ะ ส่วนของห้องนอนจะมีเตียง King Size ขนาด 6 ฟุตมาให้ พร้อมหน้าต่าง Bay Window สามารถนอนมองวิวด้านนอกและมองเห็นพื้นที่ระเบียงได้  ดังนั้นหากจัดสวนที่ระเบียงสวยๆก็จะทำให้มุมมองจากห้องนอนดีตามไปด้วย ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ชั้นวางทีวีติดผนัง และโต๊ะหัวเตียง ถัดไปเป็นห้องน้ำในตัวที่มีฟังก์ชั่นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งครบ

พื้นห้องมีการยกระดับขึ้นมาจากพื้นทางเดินเล็กน้อยป้องกันฝุ่นละอองจากภายนอกเข้า  พื้นห้องรับแขกปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม.

ลองมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นพื้นที่ของทั้งห้องนั่งเล่นที่กว้างประมาณ 2.65 เมตร ระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.2 เมตร เหมาะกับการวางทีวี 40 นิ้ว จะพอดีกับสายตาค่ะ ตรงข้างประตูทางเข้าห้องมีสวิตซ์ไฟให้ 1 สวิตซ์ โดยในห้องนี้โครงการจะแถมโซฟา โต๊ะวางของ ชั้นวางทีวีและแอร์ให้แบบนี้เลย

โซฟาที่โครงการให้มาเป็นหนังสังเคราะห์สีขาวขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะวางของขนาดเล็กข้างๆ เฟอร์นิเจอร์ของ Acme

ตรงข้ามกันเป็นโต๊ะวางทีวีแบบลอยตัว สามารถเคลื่อนย้ายได้ตามความพอใจ ด้านล่างมีช่องให้ใส่เครื่องเล่น DVD หรือของเล็กๆน้อยๆได้ สำหรับห้อง  Type นี้จะแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง TV ขนาด 40 นิ้ว 1 เครื่อง เป็นขนาดที่พอดีกับสายตาเลย และติดตั้งแอร์ Panasonic มาให้ด้วย

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน มีการติดไฟดาวน์ไลท์ทรงกลมดวงใหญ่มาให้ 2 ดวง และดวงเล็กอีก 2 ดวง

พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องลายไม้สีเข้มกว่าสีลามิเนตที่ห้องนั่งเล่น ที่พื้นมีรางเลื่อนประตูเป็นธรณีขึ้นมาเล็กน้อย เวลาเดินถือของเข้ามาไม่ระวังอาจจะสะดุดเตะได้บ้างหากไม่ระวัง

ตัวล็อคประตูเป็นแบบนี้ค่ะ

ภายในห้องครัวจะประกอบด้วยชุดครัว Built-in ติดผนัง และชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหารมาให้ครบเลย

โดยโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว วางชิดผนังกำลังดี ผนังด้านนี้ของจริงจะเป็นปูนฉาบเรียนทาสีขาวปกตินะคะ

ลองเอาเก้าอี้ออกมาเสมือนว่ากำลังนั่ง ก็สามารถวางเก้าอี้ได้พอดีๆกับขอบเขตของห้องครัวทั้งสองด้าน ซึ่งดูจะพอดีเกินไปนิด ถ้าให้คนตัวใหญ่มานั่งก็อาจจะอึดอัดได้เหมือนกันนะ วิธีการแก้ปัญหาคือให้นั่งรับประทานอาหารแบบเปิดประตูห้องครัวออกทั้งสองฝั่ง จะช่วยให้รู้สึกโปร่งขึ้นมาหน่อยค่ะ

อีกด้านเป็นชุดครัว Built-in ที่โครงการติดตั้งมาให้ทั้งชุดแบบนี้เลย ทางซ้ายมือเป็นช่องว่างเปล่าๆสำหรับวางตู้เย็น และเคาท์เตอร์ด้านล่างก็มีช่องว่างไว้ให้วางเครื่องซักผ้าด้วยเช่นกัน หน้าบานตู้ครัวปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ทั้งหมด ที่ผนังเคาท์เตอร์ห้องจริงแบบมาตรฐานจะติดกระเบื้องมาให้เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด ทางขวามือมีเต้ารับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าเตรียมไว้ให้ รองรับการเสียบไมโครเวฟ กาน้ำร้อน หรือเตาไฟฟ้าเล็กๆเผื่อทำอาหารได้

บานพับตู้เป็นแบบ Soft-closed ทั้งหมด หน้าบานไม่มีมือจับ แต่จะทำมุมเฉียงที่ตู้ไว้ให้จับปิด-เปิดตู้ตามภาพเลยค่ะ

ท็อปเคาท์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีเทาลวดลายแบบนี้ค่ะ

ซิ้งค์ล้างจานขนาดปานกลาง และก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้งของ Hafele

เตาและที่ดูดควันของ Teka

ฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาสน์ไลท์มาให้ 2 ดวง อีกดวงหนึ่งโดนโคมไฟปิดอยู่ค่ะ

ที่ประตูทางออกระเบียง โครงการติดตั้งผ้าม่านทึบพร้อมรางผ้าม่านมาให้เรียบร้อย

เนื้อผ้าม่านเป็นผ้าฝ้าย สีเทาออกน้ำตาลแบบนี้เลยค่ะ

รางผ้าม่านที่โครงการติดตั้งมาให้จะมี 2 ราง เผื่อเราจะติดผ้าม่านโปร่งด้วย ให้มาครบดีนะ

ส่วนประตูทางออกระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสี Powdwer coating กระจกสีเขียวตัดแสง

ระเบียงห้องมีขนาด 2.4 x 0.95 เมตร พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค ในห้องมาตรฐานของจริงจะมีการลดระดับพื้นเล็กน้อยป้องกันน้ำไหลเข้ามาในห้องครัวค่ะ

ที่ผนังด้านหนึ่งจะเป็นผนังกระจกที่เป็น Bay window สามารถมองเห็นเข้าไปภายในห้องนอนได้เลย

ส่วนผนังอีกด้านหนึ่งจะเป็นที่วาง Compressor แอร์ ที่มีการทำประตูกั้นเป็นสัดส่วนเรียบร้อย ตัวประตูเป็นอลูมิเนียมสีดำจึงไม่ต้องกลัวสนิมขึ้น การวาง Compressor แอร์จะวางแบบหันลมร้อนเข้าในระเบียง ดังนั้นหากเปิดเครื่องประบอากาศจะทำให้ระเบียงร้อนออกมาใช้งานไม่ได้ แต่เวลาตากผ้าจะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วค่ะ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง

ถัดมาเราจะพาไปดูห้องนอนกันบ้าง ประตูห้องนอนของจริงจะเป็นบานประตู HDF  พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. เหมือนกับห้องนั่งเล่น มองเข้าไปในห้องจะเห็นว่าทางขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ข้างหน้าห้องน้ำมีตู้ Built-in ซึ่งของจริงจะเป็นผนังตู้เสื้อผ้าเรียบๆไม่มีชั้นวางของ ส่วนทางซ้ายมือจึงจะเป็นส่วนของห้องนอน

ห้องนอนมีขนาด 2.75 x 3.90 เมตร ขนาดปานกลางนอนได้ 1-2 คนกำลังดี โดยโครงการแถมเตียง King Size ขนาด 6  มาให้

โดยข้างเตียงมีลิ้นชักสามารถใส่ของเล็กๆน้อยๆได้

ผนังห้องนอนมี Bay Window สูงถึงฝ้าเพดานทำให้ห้องนี้แสงสว่างเข้าค่อนข้างดี

โดย Bay Window นี้จะอยู่บริเวณมุมห้อง เวลานอนอยู่บนเตียงสามารถมองวิวที่ระเบียงและนอกห้องได้ ดังนั้นหากเราจัดสวนสวยๆที่ระเบียงก็จะเพิ่มมุมมองที่ดีให้ห้องนอนได้ด้วยค่ะ ช่องเปิดตรงนี้โครงการติดตั้งผ้าม่านทึบมาให้เหมือนกับผ้าม่านห้องครัวเลยค่ะ

รางผ้าม่านของห้องนี้จะเป็นทรงโค้ง ติดตั้งมาให้ 2 รางและมีการ Drop ฝ้าเพดานให้ด้วย

ตรง Bay Window นี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเล็กๆ สาเหตุที่โครงการติดตั้งเป็นบานกระทุ้งมาให้ก็เพื่อให้สามารถเปิดระบายอากาศได้และหากในกรณีที่ลืมปิดหน้าต่างแล้วบังเอิญฝนตกขึ้นมา ฝนก็จะได้ไม่สาดเข้ามามากด้วยค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงกว้างประมาณ 0.50  เมตร สามารถเดินไปเปิด-ปิดหน้าต่างได้สบายๆ ที่หัวเตียงโครงการได้แถมโต๊ะวางของมาให้ 1  ตัว

เป็นโต๊ะเล็กๆสามารถวางของกระจุกกระจิกหรือวางโคมไฟหัวเตียงไ้ด้ค่ะ

พื้นที่ปลายเตียงโครงการติดตั้งโต๊ะวางทีวีแบบ Built-in มาให้ พร้อมแอร์ Panasonic ที่ผนังด้านนี้จะเป็นปูนฉายเรียบทาสีปกติ

ด้านหลังทีวีติดตั้งเต้ารับและที่เสียบสายเคเบิลให้เรียบร้อย

ที่ผนังอีกด้านโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย โดยตู้ของห้องจริงขนาดมาตรฐานจะเปลี่ยนเป็นตู้บานเลื่อน เพราะว่าการใช้บานเปิดจะทำให้เสียพื้นที่ข้างเตียงไปเวลาปิด-เปิดตู้ แต่การเปลี่ยนเป็นบานเลื่อนจะทำให้มีพื้นที่แต่งตัวเพิ่มขึ้นอีกค่ะ ช่องใส่ของด้านในก็มีให้ครบทั้งลิ้นชักเก็บของกระจุกกระจิก ราวแขวนผ้า และชั้นวางเครื่องนอนด้านบน เฟอร์นิเจอร์เป็นของ Acme ค่ะ พื้นที่ข้างตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้องจริงจะใช้บานประตูสำเร็จรูป HDF

เข้ามาภายในห้องน้ำห้องน้ำขนาด 1.65 x 2.45 เมตร  ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องสีเทา มีการลดระดับพื้นห้องน้ำลงเพื่อกันน้ำในห้องน้ำไหลออกมาเปียกลามิเนตในห้องนอน

อ่างล้างหน้าขนาดปานกลางรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมก็อกนำ้สแตนเลสของ American Standard

ที่แขวนกระดาษชำระของ Mogen

ที่พื้นมีการยกธรณีกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเหมือนกับพื้นที่ส่วนแห้ง

The teak

ฝักบัวทรงแปลกตาขนาดพอดีมือ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง บริเวณส่วนเปียกและส่วนแห้ง

ลองมาดูผังห้อง Type อื่นๆกันบ้างนะคะ ห้อง Type B3 และ B4 ขนาด 31 ตารางเมตร จะมีรูปแบบเหมือนห้อง Type B1 และ B2 ทุกประการ จะต่างกันก็เพียงมีการจัดวางตู้เสื้อเสื้อผ้าคนละแนวเท่านั้นค่ะ

ถัดมาเป็นห้อง Type B5 และ Type A เดี๋ยวเราจะขออธิบายเป็นแบบๆไปนะคะ เนื่องจากห้องทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกัน

ห้อง Type B5 แบบ 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร เป็นห้องรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 4.2 x 7.1 เมตร เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นแนวยาวที่มีพื้นที่พอให้สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ โดยจะเชื่อมต่อกับระเบียงที่มีการกั้นที่วาง Compressor แอร์เป็นสัดส่วน ข้างๆห้องนั่งเล่นเป็นห้องครัวปิดที่มีการกั้นพื้นที่ให้เรียบร้อย ด้านในมีการ Built-in ชุดครัวรูปตัว L ให้ ค่อนข้างลงตัว ถัดไปเป็นส่วนของห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อน ภายในสามารถวางเตียงขนาด King size ได้พอดีๆ โดยห้องนอนนี้มีห้องน้ำในตัว แยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย ข้อดีของห้องนี้คือมีการจัดฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนดีมาก

ห้อง Type A แบบ 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร เป็นห้องขนาดเล็กที่สุด มีการจัดห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 2.61 x 9.90 ตารางเมตร เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่แบ่งวางโต๊ะรับประทานเล็กๆขนาด 2 ที่นั่งได้ ข้างๆเป็นครัวเปิดที่ Built-in เป็น Pantry เล็กๆรูปตัว I มาให้ เหมาะกับการประกอบอาหารเล็กๆน้อยๆ ไม่เหมาะกับทำครัวหนัก โดยโถงกลางนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เป็นสัดส่วนดี, ระเบียงที่มีการกั้นพื้นที่วาง Compressor  แอร์ให้ โดยวางที่พัดลมร้อนออกนอกอาคารทำให้ระเบียงไม่ร้อนเวลาเปิดแอร์ อีกด้านเป็นห้องนอนที่สามารถวางเตียง Queen Size ได้พอดีๆภายในห้องมีตู้เสื้อผ้า Built-in และหน้าต่างให้ เวลามาเข้าห้องน้ำต้องมาเข้าตรงห้องรับแขกค่ะ ข้อดีของห้องนี้คือมีห้องน้ำที่ห้องโถงกลาง เวลาเพื่อนมาก็ไม่ต้องเข้าไปรบกวนใช้ในห้องนอนเรา ทำให้เป็นส่วนตัวดี แต่ข้อเสียคือห้องขนาดค่อนข้างเล็ก พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนค่อนข้างน้อยไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่ามีการจัดสรรฟังก์ชั่นพื้นที่ขนาดเล็กค่อนข้างดีเลย

ถัดมาเป็นห้อง Type B6 และ B7  โดยห้อง Type B6 จะมีการจัดฟังก์ชั่นเหมือนกับห้อง Type B5 ทุกประการ เราจึงขอข้ามไปนะคะ มาที่ ห้อง Type B7  ขนาด 31 ตารางเมตร มีการจัดวางห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 6.35 x 5 เมตร เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับโถงแนวยาวที่ประกอบด้วยครัวเปิดที่ Built-in เป็น Pantry เล็กๆ ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ข้างๆกันเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับระเบียงสามารถนั่งมองวิวข้างนอกได้ พื้นที่ระเบียงมีการกั้นที่วาง Compressor แอร์เรียบร้อย ถัดมาเป็นห้องนอนที่มีการ Built-in ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งให้ ข้างๆเป็นห้องน้ำในตัวที่มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนดี เหมาะกับผู้อยู่อาศัย 1-2 คน

ห้อง Type C แบบ 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร มีการจัดวางห้องเป็นรูปตัว L เมื่อเข้ามาในห้องจะเป็น Corridor ทางเดินเล็กๆไปสู่โถงรับแขกที่ประกอบด้วยห้องครัวเปิด มี Pantry ครัวแบบเต็มผนัง, ชุดโซฟาขนาด  2 ที่นั่งและชั้นวางทีวี ข้างๆกันเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ตัวโถงนี้มีพื้นทีติดกับระเบียงสามารถนั่งมองวิวจากห้องรับแขกได้ และพื้นที่ระเบียงยาวเต็มความกว้างของห้อง สามารถจัดสวนหรือใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง เหมาะกับเป็นห้องนอนเด็กเล็กหรือห้องทำงาน ถัดมาเป็นห้องน้ำรวมที่มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเป็นสัดส่วน ติดกันเป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีการ Built-in ตู้เสื้อผ้าและจัดวางเตียง King Size ให้เรียบร้อย โดยรวมแล้วห้องนี้มีการจัดพื้นที่เป็นสัดส่วนดี ห้องเล็กจริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าห้อง Plus ใช้เป็นห้องทำงานจะดีมาก ห้องเด่นๆคือโถงนั่งเล่นบรรยากาศโปร่งดี เหมาะกับผู้อยู่อาศัยประมาณ 2-3 คน

ห้องแบบสุดท้ายเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ Type D แบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 60 ตารางเมตร มีการจัดวางห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 6.75 x 9.36 เมตร เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอโถงขนาดใหญ่ทีประกอบด้วยครัวเปิดที่ Built-in Pantry ติดผนังมาให้ ฝั่งตรงข้ามกันเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และส่วนนั่งเล่นที่มีโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะวางทีวี ข้างๆกันเป็นระเบียง ดังนั้นจึงสามารถนั่งมองวิวโปร่งๆจากห้องนั่งเล่นได้เลย ถัดไปเป็นห้องนอนเล็กที่สามารถวางเตียงขนาด 3-5 ฟุตได้ ตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำรวมที่ห้องนอนเล็กและแขกสามารถมาใช้งานได้ มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เป็นสัดส่วน  ถัดไปเป็นห้องนอนใหญ่ที่สามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ ภายในห้องมีระเบียงและมีห้องน้ำในตัวพร้อมพื้นที่ Walk-in Closed เป็นห้องที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน สะดวกสบาย แต่ทำอาหารไม่ได้หนักมากเพราะเป็นครัวเปิด เหมาะกับครอบครัวเล็กหรือผู้อยู่อาศัยประมาณ 3-4 คน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 January 2016

  • Type A แบบ 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 210 เนื้อที่ 27 ตร.ม. ราคา 2,282,000 บาท หรือ 84,519 บาท/ตร.ม.
  • Type B1 แบบ 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 203 เนื้อที่ 31 ตร.ม. ราคา 2,590,000 บาท หรือ 83,548 บาท/ตร.ม.
  • Type B2 แบบ 1 Bedroom ชั้น 3 ห้อง 304 เนื้อที่ 31 ตร.ม. ราคา 2,621,000 บาท หรือ 84,548 บาท/ตร.ม.
  • Type B4 แบบ 1 Bedroom ชั้น 4 ห้อง 410 เนื้อที่ 31 ตร.ม. ราคา 2,683,013 บาท หรือ 84,519 บาท/ตร.ม.
  • Type C แบบ 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 211 เนื้อที่ 45 ตร.ม. ราคา 3,759,535 บาท หรือ 83,545 บาท/ตร.ม.
  • Type D แบบ 2 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 608 เนื้อที่ 60 ตร.ม. ราคา 5,319,380 บาท หรือ 88,656 บาท/ตร.ม.
  • Type B1 แบบ 1 Bedroom ชั้น 8 ห้อง 608 เนื้อที่ 31 ตร.ม. ราคา 2,776,000 บาท หรือ 89,548 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 9,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 บาท
  • ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 12 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า 4,500 บาท
  • โปรโมชั่น แถมเพิ่มTemper Door, ผ้าม่านทึบแสง, TV 40 นิ้ว 1  เครื่อง และติดตั้ง Digital Door Lock หมดเขตสิ้นเดือนมกราคม 2016

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The Teak พัฒนาการ-ทองหล่อ ตั้งอยู่หน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 ใกล้กับแยกคลองตัน ซึ่งตัวทำเลอยู่ใกล้จุดสำคัญๆหลายแห่งในกรุงเทพ บริเวณโครงการมีคอนโดมิเนียมเพื่อนบ้านอย่าง The Leaf พัฒนาการ และ U Delight Residence พัฒนาการ-ทองหล่อ นอกจากนี้ยังมีอพาร์ทเม้นต์หลายแห่งในละแวกใกล้เคียง เป็นตัวบ่งบอกว่าในทำเลนี้เป็นทำเลที่มีคนต้องการที่อยู่พอสมควร เนื่องจากตัวทำเลอยู่ใกล้กับทางด่วนมาจากสุวรรณภูมิได้ง่ายและอยู่ใกล้เมือง ทำให้มีพนักงานสายการบินต่างๆและในสนามบินสุวรรณภูมิมาเลือกที่อยู่อาศัยแถวนี้ เนื่องจากตัวโครงการสามารถเข้าเมืองได้ง่าย เช่นผ่านแยกคลองตันก็สามารถไปยังถนนรามคำแหงได้ หรือจะไปถนนเพชรบุรีเพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิท 71(ปรีดี พนมยงค์), ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) หรือถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ที่เป็นย่านเก๋ๆมีร้านชิคๆหลายร้านและยังเป็นแหล่งรวมธุรกิจต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น โดยศูนย์การค้าในย่านนี้จะมีหลากหลายทั้ง Gateway เอกมัย, J Avenue หรือจะเป็นสถานที่นั่งชิลก็มีหลายหลายให้เลือก ส่วนใครต้องการจะออกนอกเมืองอย่างไปบางนาหรือเชื่อมต่อไปทางถนนศรีนครินทร์ก็ไปได้ไม่ยาก

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ หลักๆเลยโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหงในระยะ 500 เมตร จากแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง สามารถนั่งไปลงสถานีมักกะสัน (เอนเจอร์เชนจ์กับสถานี MRT เพชรบุรี) เพื่อไปต่อ MRT สถานีอื่นได้ หรือหากใครต้องการไปต่อ BTS จากสถานี MRT เพชรบุรีเพียง 1 สถานี จะเป็น MRT สุขุมวิท (เอนเตอร์เชนจ์กับสถานี BTS อโศก) ดังนั้นถือว่าทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้กับสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสาธารณะแบบอื่นๆได้หลากหลายค่ะ โดยข้างๆโครงการมีวินมอร์เตอร์ไซค์เล็กๆ ค่าบริการรับส่งมาแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง 20 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบที่สถานีรามหนึ่งได้  นอกจากนี้ไม่ไกลจากโครงการยังมีป้ายรถเมล์ และรถสองแถวสีแดง คลองตัน-ซอยสวนหลวง ที่มีท่ารถอยู่แถวๆซอยพัฒนาการ 1 อีกด้วย

เนื่องจากที่ตั้งของโครงการถูกโอบล้อมด้วยตึกสูง ทั้งจากทางทิศตะวันออกเป็นคอนโด The Leaf พัฒนาการ ที่มีความสูง 20 ชั้น และทางทิศตะวันตกเป็นคอนโดU Delight Residence  สูง 27 ชั้น ซึ่งตัวอาคารเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ที่เราไม่สามารถสูงพ้นจากอาคารข้างเคียงได้อยู่แล้ว อีกทั้งช่องเปิดในอาคารส่วนใหญ่ยังหันออกทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกด้วย ดังนั้นเรื่องของมุมมองภายนอกอาคารจึงหนีไม่พ้นจะต้องจ๊ะเอ๋กับอาคารข้างเคียง ซึ่งโครงการก็ได้แก้ปัญหาโดยการแถมผ้าม่านทึบมาให้ ห้องนอนที่ดูจะได้มุมที่โอเคที่สุดคือห้องนอน Type B ด้านหลังอาคารที่หันออกทางทิศเหนือ ซึ่งจะได้ทั้งวิวที่โล่งสายตา วิวสระว่ายน้ำ และเป็นทิศที่อากาศไม่ร้อนอีกด้วย ส่วนทางทิศใต้ของอาคารจะติดกับ อพาร์ทเม้นต์สูง  3 ชั้น แต่โครงการทำให้อาคารด้านนั้นทึบไม่มีช่องเปิดอยู่แล้วและทางทิศเหนือด้านหน้าอาคารจะเป็นส่วนของโถงลิฟต์ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทั้ง 2 ทิศนี้จึงไม่มีผลในการอยู่อาศัยเท่าใดนักค่ะ

วัสดุของโครงการให้มามาตรฐานของราคานี้ และมีข้อดีตรงที่ให้มาครบแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย โครงการขายแบบ Fully Furnished ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-inอย่างชุดครัว ที่ให้ซิงค์ล้างจานพร้อมเตาและที่ดูดควันเรียบร้อย, เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดให้ของ Acme ทั้ง โต๊ะวางทีวีแบบลอยตัวและ Built-in, ตู้เสื้อผ้า, โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง, เตียงขนาด 6 ฟุตไม่รวมฟูก ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีแอร์ 2 เครื่อง ของ Panasonic และสำหรับห้อง 1 Bedroom แบบห้องตัวอย่างแถม TV 40 นิ้วด้วย ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ American Standard และ Mogen มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกให้แต่ไม่มีประตู พื้นห้องใช้ลามิเนตลายไม้ ส่วนพื้นระเบียงและห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิคลายไม้ บานประตูเป็นบานสำเร็จรูป HDF กลอนประตูเป็น Digital Door Lock

การออกแบบโครงการค่อนข้างเรียบง่าย เน้นน้ำตาล-เทา มีการใช้ระแนงบังแดดและการใช้ไม้มาตกแต่งอาคารให้ดูมีลูกเล่น อาคารออกแบบให้เป็นรูปตัว  L  เล็กๆ มีการให้สระว่ายน้ำอยู่ในชั้น 1 ทางทิศตะวันออกเพื่อให้ห้องทุกห้องสามารถมองวิวสระว่ายน้ำได้และสระสามารถเล่นได้ตลอดวัน ไม่ร้อน เนื่องจากมีตึกช่วยบังแดด แต่อย่าลืมว่ามุมมองที่มองจากสระก็ถูกขนาบข้างด้วยตึกทั้งตึกเราเองและตึกข้างเคียง ทำให้สระว่ายน้ำนี้ไม่มีความเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่

จุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการนี้ มาอยู่ที่ห้องพักที่มีการออกแบบห้องหลากหลายรูปแบบ เป็นตัวเลือกให้คนที่สนใจได้ดี โดยห้อง Type A และ B แบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 27-31 ตารางเมตร จะเหมาะกับผู้อยู่อาศัย 1-2 คน การจัดฟังก์ชั่นโดยรวมค่อนข้าง Fix มาแล้วเพราะขายแบบ Fully furnished  มีการ Built-in ติดตั้งตู้เตียงมาให้เรียบร้อย ซึ่งการจัดพื้นที่ค่อนข้างดีและลงตัวอยู่ที่จะชอบแบบไหน ส่วนห้อง Type C แบบ 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กหรืออยู่อาศัยได้ 2-3 คน ซึ่งห้องนอนเล็กสามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานหรือห้องอเนกประสงค์อย่างอื่นได้หลากหลาย ส่วนห้อง Type D แบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 60 ตารางเมตร เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กประมาณ  3-4 คน โดยห้องนอน  2 ห้องที่ให้มาเป็นขนาดที่นอนสบายๆ การจัดฟังก์ชั่นค่อนข้างลงตัวและน่าใช้งาน ติดแค่ตรงครัวที่เป็นครัวเปิดทำอาหารได้แค่เล็กๆน้อยๆไม่เหมาะกับทำครัวหนัก

Facilities ของโครงการให้มาค่อนข้างน้อย ตามจำนวนยูนิตที่น้อยเช่นกัน ประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.6 เมตร มีห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง สามารถใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง โครงการให้ลิฟท์โดยสาร มา 2 ตัว มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 40 : 1 ซึ่งมีความหนาแน่นต่ำ ใช้งานสบายๆ ที่จอดรถประมาณ 30 คัน จอดซ้อนคัน 10 คัน รวมเป็น 40 คัน คิดเป็น 50% ค่อนข้างน้อยไปหน่อย ระบบรักษาความปลอดภัยใช้ Access Card กลอนประตูใช้ Digital Door Lock มีกล้อง CCTV และมียามรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 81,000 บาท/ตร.ม., 21 Jan, 2016

  • ทำเล 7.5/10 -อยู่หน้าปากซอยพัฒนาการ 10/1 ติดถนนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 -สะดวกมาก ใกล้กับจุดกลับรถ สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย อยู่ใกล้ทางด่วน แต่ให้ที่จอดรถมา 50% น้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 -ข้างโครงการมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ สามารถขึ้นไปยังแอร์พอร์ตลิงค์หรือท่าเรือได้ง่าย นอกจากนี้ไม่ไกลจากโครงการยังมีป้ายรถเมล์ วินรถสองแถว หรือจะเดินจากโครงการมาเรียกแท๊กซี่ที่ถนนใหญ่ก็สะดวกมาก
  • วัสดุ 7.75/10 -วัสดุจัดเต็มดี ให้ครบแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ส่วนสเปควัสดุมีทั้งของดีและไม่ดีผสมกัน
  • แบบ 7.75/10 -แบบห้องออกแบบมาลงตัวดีมากและหลากหลาย สามารถจัดพื้นที่เล็กๆให้ฟังก์ชั่นน่าใช้งานได้น่าสนใจ จะเสียตรงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ยังเฉยๆไม่หวือหวานัก และมุมมองจากห้องนอนที่จ๊ะเอ๋กับตึกข้างเคียงเต็มๆ
  • สาธารณูปโภค 7/10 -Facility มีแค่สระว่ายน้ำกับห้องออกกำลังกายเล็กๆ ค่อนข้างน้อยไปหน่อย

  • MAIN CLASS
  • 7.66 / 10.00

BOTTOM LINE

The Teak พัฒนาการ-ทองหล่อ เหมาะกับคนที่มองหาโครงการที่ขยับจากย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ-เอกมัย ออกมาแต่ราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น เป็นคนชอบความสงบ ไม่ซีเรียสเรื่อง Facilities เน้นใช้งานพื้นที่ในห้อง ไม่ยึดติดแบรนด์ ชอบความคุ้มค่า มีงบประมาณระดับ 2.3 – 5.4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 16,100-37,800 บาท

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )