รีวิวฉบับที่ 1962 …  สำหรับนิสิตนักศึกษาหรือคนที่ทำงานในย่านพระราม 4 ที่กำลังมองหาคอนโดมือหนึ่งต่ำกว่า 4 ล้านบาทอยู่ วันนี้เราจะพามาชมโครงการ The Nest จุฬา-สามย่าน คอนโด Low Rise ที่เดินทางสะดวก ห่างจาก MRT สามย่าน 600 เมตร สามารถเดินเข้าได้ 2 เส้นทางจากถนนพระราม 4 และถนนสี่พระยาค่ะ ภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ใช้ เอาใจคนที่ชอบทำงานที่บ้าน โดยมีห้อง Co-Working Space แยกอาคารและมีสระว่ายน้ำให้ 2 จุดด้วยกัน ในราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท

Fact @ 10 OCTOBER 2019

  • The Nest Chula – Samyan (เดอะ เนส จุฬา-สามย่าน)
  • บริษัท เดอะ เนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยจินดาถวิล ถนนสี่พระยา เขตบางรัก
  • ที่ดินประมาณ 2.4 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 332 ยูนิต
  • อาคาร A 149 ยูนิต, อาคาร B 183 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ 132 คัน หรือคิดเป็น  40% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q1 2563
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 2564
  • 1 Bedroom  21.14-36.74 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 36.77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 43.30-49.39 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.48 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 143,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-026-2372

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.732694, 100.524595
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The Nest จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่ในซอยจินดาถวิล เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนสี่พระยา และถนนพระราม 4 ซึ่งบนถนนพระราม4 เองก็เป็นเส้นที่เรียกได้ว่าอยู่ในใจกลางเมือง เนื่องจากมีทั้งห้างสรรพสินค้า, มหาวิทยาลัย, สวนสาธารณะ, โรงแรม และอาคารสำนักงานชื่อดังหลากหลายแห่ง และยังเชื่อมต่อกับถนนพระราม 1 หรือถนนเพลินจิตได้หลายเส้น ซึ่งแต่ละเส้นก็จะมีความคึกคัก และความเจริญค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถนนพญาไท, ถนนอังรีดูนังต์, ถนนวิทยุ เป็นต้น หรือใครที่ทำงานในย่านสีลม-สาทร ก็สามารถเดินทางไปได้สะดวก ถ้าใช้รถยนต์อาจจะต้องเผื่อเวลาการจราจรเยอะหน่อยนะคะ เนื่องจากทำเลนี้รถค่อนข้างติดเลย

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการสามารถเดินไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี สามย่านได้ในระยะทาง 600 เมตร ระหว่างทางมีทางเท้าและร่มเงาจากอาคารและต้นไม้อยู่เกือบตลอดทั้งเส้น ทำให้เดินง่ายไม่เหนื่อยค่ะ

สำหรับคนที่เดินทางด้วยทางด่วน สามารถใช้ทางพิเศษศรีรัช เพื่อออกเมืองไปทางพระราม 3 หรือไปทางแจ้งวัฒนะ -ดินแดงได้ ซึ่งทางขึ้นทางด่วนนั้นจะต้องวิ่งตรงไปยังหัวลำโพง และขึ้นทางพิเศษศรีรัช ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนทางลง สามารถลงมาที่ถนนมหานครและเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสี่พระยาได้เลยค่ะ ระยะทางประมาณ 2.30 กิโลเมตร ถือว่าไม่ไกลเลย

สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าในซอยจินดาถวิลเองเป็นซอยที่เดินรถทางเดียว (One-way) นะคะ โดยจะต้องเข้าจากถนนสี่พระยา เลี้ยวซ้ายเข้าซอยจินดาถวิล แล้วไปออกยังถนนพระราม 4 ค่ะ ซึ่งสำหรับใครที่จะเดินทางไปยังฝั่งคลองเตย หรือถนนวิทยุ จะต้องไปกลับรถที่ถนนพระราม 4 จะมีจุดกลับรถห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 500 เมตร

ดูการเดินทางภายในทำเลนี้กันมาแล้ว เรามาดูความอุดมสมบูรณ์และแหล่งจับจ่ายใช้สอยในทำเลนี้กันบ้างค่ะ ในระยะใกล้กับโครงการที่สามารถเดินได้ จะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่บริเวณถนนสี่พระยา ซึ่งหน้าปากซอยจินดาถวิลเองก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ด้วยค่ะ สามารถเดินออกมาหาของกินได้เลย หรือใครที่อยากไปเดินห้างสรรพสินค้าเย็นๆ ก็เดินไปที่จามจุรีสแควร์ หรือเดินไปห้างใหม่อย่างสามย่านมิตรทาวน์ ที่มีร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมงได้ ถือว่าสะดวกสำหรับคนที่นอนดึก หรือชอบนั่งทำงานนอกสถานที่ได้เลย ถือว่าเหมาะกับนิสิต นักศึกษา หรือนักเรียนจากสถานศึกษาในทำเลนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สาธิตจุฬาฯ, สาธิตปทุมวันฯ, เตรียมอุดมศึกษา ฯลฯ นอกจากนั้นทำเลนี้ยังมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่างโรงพยาบาลจุฬา และสวนสาธารณะอย่างอุทยาน 100 ปี และสวนลุมพินีด้วยค่ะ

อีกจุดที่สามารถเดินทางไปได้สะดวกเช่นกัน ก็คือแถวสยาม นั่นเองค่ะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำต่างๆไว้ครบครัน และยังใกล้กับหอศิลป์กรุงเทพฯ, สนามกีฬา ซึ่งสามารถเดินทางไปได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, นั่งรถประจำทาง, เรียกพี่วิน หรือนั่งรถไฟฟ้าไปก็ได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะพาทุกคนเดินไปจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สามย่าน ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ห่างจากโครงการประมาณ 600 เมตร โดยเดินผ่านทางถนนสี่พระยา แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยจินดาถวิล ก็จะเจอกับโครงการทางด้านซ้ายมือ บริเวณหัวมุมทางเลี้ยวค่ะ ซึ่งจะได้พาเพื่อนๆไปชมบรรยากาศระหว่างทางกันด้วยว่าเป็นยังไงบ้าง

ก่อนอื่นเมื่อมาถึงสถานีสามย่านแล้ว ให้ออกที่ทางออก 1 (วัดหัวลำโพง) ค่ะ

เมื่อออกมาแล้วทางขวามือจะเจอกับทางเข้าวัดหัวลำโพง ซึ่งจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วย สำหรับใครที่ไม่อยากเดินก็สามารถเรียกพี่วินไปยังโครงการได้เลย อัตราค่าโดยสารก็ไม่เกิน 30 บาทค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็มี Locker ให้บริการรับ-ฝากของด้วย

ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นจามจุรีสแควร์ ใครอยากเดิน Shopping ก่อนกลับบ้านก็สามารถออกทางประตู 2 ขึ้นไปเดินเล่นหรือหาอะไรกินก่อนกลับบ้านได้ค่ะ

ซึ่งทางไปโครงการของเราเมื่อออกจากสถานีแล้ว ให้เลี้ยวซ้าย ไปยังถนนสี่พระยาค่ะ

ตรงหัวมุมถนนฝั่งตรงข้ามจะเห็น สามย่านมิตรทาวน์ อาคาร Mix-used ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, ที่พักอาศัย, ร้านค้า และ Hall จัดงานอเนกประสงค์ ขนาดใหญ่ พร้อมโซนที่เปิด 24 ชั่วโมง ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน สามารถเดินเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไปได้เลย

เมื่อเราเดินเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสี่พระยามาแล้วก็จะเจอกับพี่วินอีกจุดหนึ่ง สามารถใช้บริการไปทางถนนมหานครด้านหลังได้ค่ะ

ระหว่างทางเดินส่วนใหญ่มีทางเท้าตลอดทั้งเส้น ทั้งสองข้างทางจะเป็นอาคารแถวที่มีชายคายื่นออกมา และมีต้นไม้ใหญ่เป็นระยะๆ ทำให้เดินค่อนข้างสะดวก เดินในตอนกลางวันก็ไม่ร้อนเลยค่ะ

ระหว่างทางมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกใช้บริการก่อนกลับบ้านได้เรื่อยๆ ทั้งอาหารคาว หวาน รวมถึงร้านทำผม อาคารสำนักงานเล็กๆก็มีบ้างประปราย

ซึ่งถนนสี่พระยาในช่วงแรกก่อนถึงซอยจินดาถวิล จะเป็นทาง Two-way มีช่องทางเดินรถ 3 เลนค่ะ

เดินตรงมาเรื่อยๆก็จะผ่านร้านข้าวต้ม ทางเดินยังมีทางเท้าและชายคากันแดดอยู่เรื่อยๆค่ะ

เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับแยกถนนทรัพย์ ให้เราข้างถนนแล้วตรงไปค่ะ

ข้ามถนนมาแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับซอยจินดาถวิลทางด้านขวามือ

จุดสังเกตคือร้านเพลินชัย ขนมปัง-กาแฟ จะอยู่ตรงข้ามกับซอยค่ะ ร้านนี้เดินผ่านทีไรก็เห็นคนเยอะตลอดเลยเป็นจุดสังเกตได้ค่ะ

ตรงนี้ให้เราข้ามถนนเพื่อที่จะเข้าซอยจินดาถวิลค่ะ

บรรยากาศภายในซอยจะเป็นอาคารพักอาศัยแถวสูงประมาณ 3 ชั้น ซึ่งซอยนี้เป็นซอย One-way มีรถผ่านเข้า-ออกอยู่บ้างค่ะ

เดินเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตรก็จะเห็นรั้วโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ

โครงการจะอยู่ตรงหัวมุมทางเลี้ยวของซอยพอดี สามารถเดินเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนสี่พระยา และถนนพระราม 4 เลยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันบ้าง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาคารพักอาศัย และเป็นอาคารแถวสูงไม่เกิน 4 ชั้นทั้งหมด จะมีอาคารสูงที่สามารถมองเห็นได้อยู่บ้างแต่จะอยู่ในระยะที่ไม่บังวิวของห้องพักอาศัยค่ะ สำหรับที่ตั้งของสำนักงานขายจะอยู่ที่อาคาร BBD บริเวณหน้าซอยจินดาถวิลฝั่งถนนพระราม 4 ซึ่งจะห่างจากโครงการประมาณ 150 เมตรค่ะ  ซึ่งแต่ละทิศจะเห็นวิวและอยู่ใกล้กับอาคาร ดังนี้

  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : ด้านหน้าโครงการ ติดกับซอยจินดาถวิล ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูง 5 ชั้น
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : ติดกับอาคารแถวสูงประมาณ 3 ชั้น
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : ด้านหลังโครงการ ติดกับอาคารแถวสูงประมาณ 3 ชั้น
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : ด้านข้างโครงการ ติดกับซอยจินดาถวิล และอาคารแถวสูงประมาณ 3 ชั้น

ด้านหน้าอาคารทางทิศใต้ จะติดกับอาคารแถว สูง 2 ชั้น ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ มีรถผ่านบ้างเป็นครั้งคราวค่ะ

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของโครงการจะติดกับด้านหลังอาคารแถวสูง 3 ชั้น

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะติดกับอาคารแถวสูง 3 ชั้นเช่นกัน แต่จะสามารถมองเห็นอาคาร Amigo สูง 29 ชั้นได้

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของโครงการมองเห็นอาคารแถวสูง 3-4 ชั้น

และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะติดกับซอยจินดาถวิลที่เป็นทางแยกเข้ามาด้วยค่ะ ซอยนี้จะค่อนข้างเงียบมากกว่าด้านหน้าโครงการ

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศตะวันออก ด้านหน้าโครงการติดกับซอยจินดาถวิล ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูงประมาณ 5 ชั้นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ห้างสรรพสินค้า  

  • สามย่านมิตรทาวน์  750 เมตร
  • จามจุรีสแควร์ 800 เมตร
  • มาบุญครอง 2.1 กิโลเมตร
  • สยามพารากอน 2.3 กิโลเมตร
  • สยามสแควร์ 2.4 กิโลเมตร
  • Central World 3.2  กิโลเมตร

สถานศึกษา

  • โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ 850 เมตร
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 1.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิตปทุมวัน 2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล 

  • โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน 1.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1.6  กิโลเมตร

อาคารสำนักงาน

  • อาคารเอไอเอ 850 เมตร
  • สีลมคอมเพล็กซ์ 1.7 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Nest จุฬา-สามย่าน เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise มีทั้งหมด 2 อาคาร ความสูง 8 ชั้น บนที่ดินประมาณ 2.4 ไร่ ภายในมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 332 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A 149 ยูนิต และอาคาร B 183 ยูนิตค่ะ  โดยพื้นที่การใช้งานจะแบ่งออกเป็นพื้นที่พักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1-8 มีลานจอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 เป็นหลัก และบางส่วนอยู่บนชั้น Rooftop ค่ะ ตัวอาคารภายนอกออกแบบโดยเล่นระดับระนาบตื้น-ลึก ของอาคารทำให้ดูมีมิติมากขึ้น และเนื่องจากพื้นที่สามย่านแต่เดิมมีชาวจีนอาศัยอยู่และปัจจุบันคนในย่านนี้ก็ยังมีเชื้อสายจีนกันนะคะ การออกแบบจึงมีการนำเอาลวดลายของชาวจีนมาใช้ตกแต่งอาคาร ซึ่งสามารถใช้บังสายตาบริเวณระเบียงได้ค่ะ ภายในโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

ภาพนี้เป็นบรรยากาศจำลองด้านหน้าโครงการถ้าเราเดินเข้ามาภายในซอยจินดาถวิล จากถนนพระราม 4 ค่ะ จะเห็นถนนด้านหน้าโครงการและซอยย่อยด้านข้าง ซึ่งภายในจะมีต้นไม้ใหญ่ปลูกให้เป็นระยะๆตามแนวรั้ว ช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่น และบังสายตาจากภายนอกได้ค่ะ

มุมมองจากด้านหลังของอาคาร จะเห็นการเล่นระดับตื้น-ลึกของอาคารทำให้ดูมีแสงเงาและมีมิติมากขึ้น

มีการนำลวดลายของชาวจีนมาใช้ตกแต่งอาคาร นอกจากให้ความสวยงามแปลกตา ก็ยังสามารถใช้เป็นแผงบังสายตาบริเวณระเบียงให้กับห้องพักอาศัยได้ค่ะ

ผังโครงการของชั้น 1 มีทางเข้า-ออก ติดกับซอยจินดาถวิล เพียงจุดเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมความปลอดภัยค่ะ เข้ามาแล้วจะเป็นทางมุ่งตรงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเลย ถ้าใครจะรับ-ส่งคนจะต้อง Drop off ที่ Lobby อาคาร A ก่อน สำหรับคนที่อยู่อาคาร B จะมีทางเดินผ่านส่วนไปยัง Lobby ค่ะ ตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว U สามารถมองเห็นวิวสวนตรงกลางได้ทั้ง 2 อาคารค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 นอกจาก Lobby ที่แยกแต่ละอาคารแล้ว Facility ส่วนใหญ่จะอยู่ที่อาคาร A เป็นหลัก ซึ่งจะมีพื้นที่ Co-Working Space เชื่อมต่อกับ Meeting Room และมีทางเดินไปยังห้อง Fitness ติดกับสระว่ายน้ำค่ะ ซึ่งคนที่อยู่อาคาร B จะมีทางเดินผ่านสระว่ายน้ำและสวน มีบ่อน้ำและต้นไม้ตกแต่งให้ความรู้สึกโอ่อ่า เข้ามาแล้วจะเจอกับ Lobby B และพื้นที่ Co-Working Space ค่ะ แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 83 : 1 ซึ่งอาคาร A อยู่ที่  75 : 1 และอาคาร B อยู่ที่ 92 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมากทั้ง 2 อาคาร ซึ่งทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในช่วงเวลาเร่งด่วนของวันค่ะ

สำหรับที่พักอาศัยจะของแยกทีละอาคารนะคะ

  • สำหรับอาคาร A ชั้น 1 จะมีห้องพักอาศัยเพียง 2 ยูนิต ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากๆ มีประตูกั้นระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและทางเดินหน้าห้องมาให้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านค่ะ ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบวิวใกล้ชิดกับสวนและสระว่ายน้ำ เดินไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวก ไม่ซีเรียสเรื่องเสียงรบกวนมากนักค่ะ
  • สำหรับอาคาร B ชั้น 1 เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัย 23 ยูนิต ห้องที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นห้องที่ได้ Single Corridor แต่จะเป็นทางเดินผ่านไปยังห้องทางปีกตัว U ทั้ง2ฝั่งค่ะ  สำหรับใครที่ชอบห้องพักอาศัยวิวดีๆ จะขอแนะนำเป็นห้องที่มองเห็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวน หรือสระว่ายน้ำค่ะ

สำหรับลานจอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดินของอาคาร มีทั้งหมด 2 ชั้น ที่ชั้น B1 จะเป็นลานจอดรถที่เชื่อมกันระหว่างอาคาร A และอาคาร B แต่เมื่อลงมายังชั้น B 2 จะแยกอาคารซึ่งใช้โถงลิฟต์คนละตัวกันค่ะ ที่จอดรถจะสามารถจอดได้ประมาณ 132 คัน หรือคิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่ะ

การเชื่อมต่อระหว่างทั้ง 2 อาคารจาก Lobby A ไปยัง Lobby B สามารถเดินเชื่อมได้ที่ชั้น 1 ผ่านสระว่ายน้ำและสวน หรือจะขึ้นไปยังชั้น Rooftop เพื่อเดินทางเชื่อมได้ค่ะ

บรรยากาศสระว่ายน้ำบริเวณตรงกลางอาคาร A มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นอยู่รอบๆ เหมาะแก่การพักผ่อน ตัวสระเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 20.00 x 4.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ค่ะ จะมีสระเด็กมาให้เชื่อมต่อกับสะผู้ใหญ่ ขนาดประมาณ 4.00 x 4.00 เมตร ลึก 0.50 เมตร มีที่นั่งเล่น ชมบรรยากาศที่ริมสระมาให้ ส่วนห้องทางฝั่งซ้ายมือของภาพเป็นพื้นที่ Fitness ที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้

ภายในห้อง Fitness ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 10 เครื่อง และจะได้ผนังกระจกมองเห็นวิวด้านนอก สามารถออกกำลังกายไปชมวิวและบรรยากาศที่สระว่ายน้ำไปด้วยได้ค่ะ

ถัดจากบริเวณสระว่ายน้ำแล้วจะเป็นทางเดินเชื่อมต่อมายังอาคาร B ซึ่งในภาพที่เห็นจะเป็นบรรยากาศจากห้องพักอาศัยตรงกลางชั้น 2 ของอาคาร B มองลงมายังทางเดินเข้า Lobby B ค่ะ

บรรยากาศจำลองภายในบริเวณ Meeting Room ของอาคาร A ตกแต่งด้วยโทนสีขาว มีเล่นขอบสีทองทำให้ดูหรูหรามากขึ้น บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน นั่งทำงานอ่านหนังสือ ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากผนังกระจกบานใหญ่ ที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ค่ะ

บรรยากาศจำลองภายในบริเวณ Lobby อาคาร A ซึ่งจะเป็นโถงสูง 2 ชั้น ด้านบนสามารถเดินขึ้นไปนั่งทำงานเงียบๆเป็นส่วนตัวได้ค่ะ

ชั้น 2 อาคาร A เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัย 17 ยูนิต ห้องพักทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (บริเวณเส้นประ) และห้องตรงกลางอาคาร จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดค่อนข้างใหญ่ (33.00-34.00 ตารางเมตร) ที่ได้โถงทางเดินเป็นแบบ Single Corridor ทำให้มีความเป็นส่วนตัว และมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ชัดเจน ซึ่งก็น่าจะเป็นห้องที่มีราคาสูงกว่าตำแหน่งอื่นค่ะ ส่วนห้องทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะเป็นห้องที่ขนาดเล็กลงมาหน่อย ด้านในจะได้วิวสระว่ายน้ำ ส่วนด้านนอกจะเห็นวิวสวน ต้นไม้ภายในโครงการ และอาจจะเห็นวิวอาคารแถวบ้าง ซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะประชิดค่ะ

ชั้น 2 อาคาร B เป็นชั้น Typical Floor มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor รูปตัว U ซึ่งมีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางค่อนไปทางด้านบนเล็กน้อยทำให้ห้องพักอาศัยที่อยู่มุมอาคารทั้ง 2 ฝั่งไม่ต้องเดินไกลมากค่ะ ซึ่งห้องที่ได้วิวค่อนข้างดีคือห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่ มองเห็นวิวสวนส่วนกลาง และห้องที่ขนาดเล็กลงมาหน่อยเป็นผังแบบตอนลึก จะหันหน้าออกด้านนอก มองเห็นวิวชุมชนพักอาศัยรอบๆค่ะ

ชั้น 3-5 อาคาร A เป็นชั้น Typical Floor ที่มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 22 ยูนิต โดยจะมีห้องที่เพิ่มขึ้นมาคือห้องด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือ ทำให้ทางเดินส่วนใหญ่เป็นแบบ Double Corridor แต่ห้องพักทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ยังได้เป็น Single Corridor อยู่เหมือนกันกับชั้น 2 ค่ะ

ชั้น 3-5 อาคาร B เป็นชั้น Typical Floor วางผังเหมือนกันกับชั้น 2 เลยค่ะ แต่ห้องที่อยู่ด้านนอกจะมองเห็นวิวที่กว้างขึ้นเนื่องจากมีความสูงพ้นจากอาคารแถวโดยรอบที่ส่วนใหญ่สูง 3 ชั้นนั่นเอง

ชั้น 6-7 อาคาร A เป็นชั้น Typical Floor วางผังเหมือนกันกับชั้น 3-5 ค่ะ

ชั้น 6-7 อาคาร B เป็นชั้นที่ลดจำนวนห้องพักอาศัยลงเหลือ 20 ยูนิต ทำให้ห้องทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

ชั้น 8 อาคาร A เป็นชั้นที่วางผังเหมือนกันกับชั้น 6-7 แต่จะลดพื้นที่ห้องพักอาศัยตรงกลางออกไป 2 ยูนิต ทำให้เหลือ 20 ยูนิตต่อชั้น เพื่อไปทำเป็นพื้นที่ Service ของสระว่ายน้ำที่ชั้น Rooftop ค่ะ ส่งผลให้ห้องด้านหน้าโครงการได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor

ชั้น 8 อาคาร B จะวางผังเหมือนกันกับชั้น 6-7 ค่ะ

ชั้น Rooftop จะมีพื้นที่ Facility ให้ใช้งานอีกจุดหนึ่งนะคะ ซึ่งจะอยู่ด้านบนอาคาร A สามารถเดินขึ้นมาได้จากทั้งอาคาร A เอง หรือขึ้นจากอาคาร B แล้วเดินผ่านทางเชื่อมมาใช้งานได้เช่นกันค่ะ โดยชั้นนี้จะมีพื้นที่นั่งเล่นชมวิวเป็น Sky Terrace ให้ มีพื้นที่เล่นโยคะ และมีสระว่ายน้ำ Spa Pool มาให้ค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น Rooftop ซึ่งจะมีที่นั่งพักผ่อน สำหรับชมวิว หรือขึ้นมาอ่านหนังสือในช่วงเย็นๆที่แดดไม่ร้อนได้ค่ะ

สระว่ายน้ำด้านบน Rooftop จะเป็นสระระบบเกลือ ขนาดประมาณ 9.50 x 3.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร เหมาะกับการมาแช่น้ำพักผ่อน ชมวิวค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co-Working Space
  • Meeting Room
  • สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ สวนดาดฟ้า (Sky Terrace , พื้นที่เล่นโยคะ)
  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบ เกลือ ขนาด 20.00 x 4.50 เมตร และขนาด 9.50 x 3.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.50 เมตร ขนาดประมาณ 4 x 4 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 83 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 75 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 92 : 1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 132 คัน หรือคิดเป็น  40% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card


Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยภายในโครงการนี้มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ

  • 1 Bedroom 21.14-36.74 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 36.77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 43.30-49.39 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท

โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก ซึ่งโครงการขายมาแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัวและตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อม Digital Door Lock วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 2 ขนาดกันค่ะ

ห้องแรกเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.00 ตารางเมตร เป็นห้องที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน เข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนครัวก่อน ซึ่งจะได้เป็นครัวปิด เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ข้อดีของครัวปิดคือสามารถทำอาหารแล้วกั้นปิดไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปยังส่วนอื่นๆได้ แต่ก็จะต้องเปิดเครื่องดูดควันช่วยค่ะ ต่อมาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งผังแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้าง มองเห็นวิวและรับแสงธรรมชาติที่เข้ามาจากระเบียงได้ และมีห้องนอนแบ่งเป็นสัดส่วน ห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง มีพื้นที่ประมาณครึ่งห้อง และมีห้องน้ำในตัวค่ะ ทำให้ใช้งานห้องน้ำได้สะดวก แต่เวลามีแขกมาแล้วเข้าห้องน้ำ จะต้องเดินผ่านห้องนอนของเราทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปหน่อยค่ะ ภายในห้องนอนจะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ (แบบในภาพเลยค่ะ) พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้ โดยรวมแล้วห้องนี้จะเหมาะกับ 1-2 คน ชอบพื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างมองเห็นวิวได้ ติดกับระเบียง ชอบห้องนอนเป็นสัดส่วนมีห้องน้ำในห้องนอนค่ะ

เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อน  ซึ่งห้องครัวที่ได้ในห้องนี้ขนาดค่อนข้างกว้างและมีเคาน์เตอร์ Built-in มาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ มีระยะทางเดินระหว่างเคาน์เตอร์ทั้งสองฝั่งอยู่ที่ 1.35 เมตรสามารถเดินสวนกันได้สบายๆ ภายในครัวสามารถปิดประตูกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นได้ ทำให้เวลาทำอาหารกลิ่นไม่ฟุ้งไปยังห้องอื่นๆค่ะ พื้นครัวจะปูกระเบื้องเกลซพอร์ซเลนขนาด 60×60 เซนติเมตรมาให้ กระเบื้องชนิดนี้จะมีความทนทานต่อรอยขูด และมีการดูดซึมน้ำที่ต่ำ ทำความสะอาดได้ง่ายเหมาะกับการใช้งานในห้องครัวเลยค่ะ

มาดูทางฝั่งซ้ายมือกันก่อนนะคะ ฝั่งนี้จะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นมาให้ พร้อมชั้นเก็บของและตู้เก็บของหน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ตู้เก็บของด้านซ้ายสุดจะเป็นชั้นเก็บรองเท้า การที่โครงการ Built-in มาให้แบบนี้ทำให้ไม่ต้องซื้อมาติดตั้งเอง และอยู่ในตำแหน่งที่หยิบใช้งานได้สะดวกค่ะ ฝั่งขวาเป็นชั้นเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น หม้อหุงข้าว, กาต้มน้ำ ก็เลื่อนออกมาแล้วหยิบใช้งานได้เลย ด้านบนสำหรับวางหรือโชว์ของต่างๆ ซึ่งจะมีปลั๊กไฟมาให้ด้วยนะคะ เวลาจะหยิบหม้อหุงข้าว หรือกาน้ำร้อนมาใช้งานก็เสียบปลั๊กตรงนี้ได้

อีกฝั่งจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว มีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างมาให้ หน้าบานเป็นเมลามีนลายไม้ แต่จะไม่ได้ Backsplash (ผนังกันเปื้อนด้านหลัง) มานะคะ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเติมเองเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดค่ะ

Top ครัววัสดุเป็นหินควอทซ์ สีขาว บนเคาน์เตอร์จะมีอ่างล้างจานสเตนเลส และเตาไฟฟ้า 2 หัวมาให้พร้อมเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศ จาก MEX

ช่องเก็บของด้านล่างมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ด้วยค่ะ ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารด้านบนได้ และมีลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆมาให้ใช้งานค่อนข้างสะดวก ส่วนใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บของขนาดใหญ่ ที่มีถังขยะติดตั้งมาให้ด้วย เวลาเราเปิดประตูตู้ออกมาฝาถังขยะก็จะเปิดเองค่ะ

ส่วนด้านบนก็เป็นช่องเก็บของทั่วไปด้านในจะมลายเดียวกับหน้าบานเลยค่ะ ติดระบบ Soft Close มาให้ ช่วยลดแรงกระแทก และเสียงดังเวลาปิดค่ะ

ประตูครัวจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเปิด 2 ข้าง (กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ) ทำให้ห้องดูกว้างและไม่อึดอัดค่ะ

เข้ามาในพื้นที่ Common Area จะได้เป็นพื้นที่โล่งขนาดประมาณ 3.65 x 2.55 เมตร  สามารถหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งเองได้ตามสไตล์ของเจ้าของห้องเลยค่ะ พื้นห้องจะปูเป็นพื้นไวนิลลายไม้มาให้ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.48 เมตร พื้นที่ Common Area จะสามารถรับแสงธรรมชาติที่เข้ามาจากระเบียงได้ค่ะ

มีพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้สบายๆ

ส่วนพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่ง และมีพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะเล็กๆ และวางโต๊ะกลางได้ค่ะ ห้องนี้จะมีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.20 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 26-30 นิ้วนะคะ

เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นออกไปด้านนอกจะเป็นพื้นที่ระเบียง ซึ่งมีประตูเป็นบานเลื่อนกระจกใส 2 ตอน ช่วยให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาในห้องและ มองออกไปเห็นวิวด้านนอกได้ค่ะ

ระเบียงมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างประมาณ 2.55 x 0.80 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตรมาให้ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย และมีแผงบังสายตามาให้ เป็นรูปลวดลายที่ถอดมาจากลายแบบจีน (ภาพซ้าย) ตามแนวคิดการออกแบบค่ะ

ที่ระเบียงมีเดินงานระบบน้ำสำหรับต่อกับเครื่องซักผ้ามาให้ด้วยค่ะ

มาดูห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนจะแยกออกจากพื้นที่ Common Area เลย มีความเป็นส่วนตัวสูง

เข้ามาภายในห้องนอนแล้วจะเจอกับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งตรงกลาง(จะไม่ได้ชั้นสีเทาทางขวามือ และผนังกระจกนะคะ) ฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่พักผ่อน และมีห้องน้ำในตัวทางฝั่งขวามือค่ะ

ตู้เสื้อผ้า Built-in (ภาพขวา) ที่ได้จะเป็นบานเปิด 2 ฝั่ง ด้านในมีชั้นเก็บของด้านบน ราวแขวนผ้า ลิ้นชัก และระแนงสำหรับแขวนของต่างๆมาให้ค่ะ ถือว่าเลือกใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลายเลย แต่สีภายในตู้จะได้เป็นสีเดียวกับหน้าบานนะคะ (สีเทา)

ส่วนโต๊ะเครื่องแป้ง (ภาพซ้าย) จะได้เป็นโครงเหล็กสีทอง มีชั้นวางของด้านบนและโต๊ะสามารถเปิดเก็บของด้านในและมีกระจกเงามาให้หน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่จะไม่ได้ผนังกระจกล้อมรอบนะคะ ใครชอบแบบห้องตัวอย่างก็ติดตั้งเพิ่มเติมได้ค่ะ

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.25 x 2.55 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ แต่ถ้าใครอยากติดตั้ง TV แนะนำให้ติดแบบแขวนผนังเหมือนในห้องตัวอย่าง แทนการวางชั้นวาง TV ค่ะ จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้รอบเตียงและดูกว้างขึ้น

บริเวณหัวเตียงจะได้ชั้นวางของทางฝั่งขวามือ(สีเทา) ที่เชื่อมต่อกับตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือนั้นเป็นการตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูเป็นไอเดียนะคะ

บริเวณหน้าต่างจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังมาให้ ทำให้รับแสงธรรมชาติได้เยอะ และมองเห็นวิวได้กว้าง สามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ 2 จุดค่ะ และบริเวณนี้จะได้ Day Bed สำหรับนั่งพักผ่อนดูวิวริมหน้าต่างมาให้ด้วยนะคะ (ยกเว้นชั้นวางของด้านข้างไม่ได้ให้นะ)

มาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ภายในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเกลซพอร์ซเลน ที่มีความทนทานต่อความชื้นสูง จะได้เป็นสีเดียวกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่จะไม่มีดรอปซ่อนไฟมาให้นะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจนพร้อมฉากกั้นกระจกค่ะ

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกมาเวลาล้างห้องน้ำ มีธรณีเป็นหินหินควอทซ์ สีขาววัสดุเดียวกับ Top ครัวค่ะ

อ่างล้างหน้า จาก American Standard และกระจกเงาจะได้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลย ตัวอ่างรูปทรงสี่เหลี่ยมมีชั้นเก็บของด้านล่างมาให้ สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ซึ่งจะมีงานระบบเดินเชื่อมต่อไว้ให้กับส่วน Shower ค่ะ

ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ระยะนั่งสามารถนั่งได้สบายค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะได้ฉากกั้นกระจกบานเปิดมาให้ ช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้ง เวลาเราอาบน้ำค่ะ

พื้นที่อาบน้ำจะค่อนข้างกว้างอยู่ที่ 1.00 x 1.00 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ที่ผนังติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ เชื่อมต่อกับระบบน้ำร้อน ซื้อเครื่องมาติดตั้งเองได้เลยค่ะ และที่ผนังยังมีช่องเก็บของมาให้จะได้เป็นหินแกรนิตสีดำแบบเดียวกับในห้องตัวย่างเลยค่ะ

ส่วนสวิตช์ไฟ ของโครงการนี้เป็นของ Panasonic หน้าตาแบบนี้เลย

ห้องที่สอง เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 27.73 ตารางเมตร ห้องนี้จะเป็นห้องตอนลึก เข้ามาแล้วจะเจอกับห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนเต็มผนัง ทำให้ห้องดูกว้าง คล้ายกับห้อง Studio แต่ก็ยังมีความเป็นสัดส่วนค่ะ ภายในห้องนั่งเล่นได้แสงธรรมชาติผ่านทางหน้าต่างบริเวณห้องนอน ส่วนพื้นที่ครัวและห้องน้ำจะถูกวางไว้ริมห้อง ฝั่งเดียวกัน ซึ่งจะได้ครัวปิด ติดกับระเบียง ภายในครัวสามารถกั้นประตูเพิ่มเติมเป็นครัวปิดได้นะคะ ข้อดีของผังแบบนี้คือ เวลาทำอาหารภายในครัวสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายอากาศได้ แต่จะไม่เน้นใช้งานที่ระเบียงมากนักค่ะ  ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าจาก Common Area ได้เลย เวลามีแขกมาบ้านก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเดินผ่านห้องนอนค่ะ ภายในห้องน้ำมีพื้นที่แยกส่วนเปียก-แห้งมาให้พร้อมฉากกั้นกระจก ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่กระชับ เป็นสัดส่วนพอดีสำหรับอยู่คนเดียวถึง 2 คน ชอบห้องที่ดูคล้ายกับ Studio ไม่เน้นใช้งานระเบียงมากนัก เป็นต้น

ห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และห้องนอน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.48 เมตร และพื้นปูด้วยไวนิลลายไม้เช่นกันค่ะ

ซึ่งทางโครงการมีตู้รองเท้า Built-in มาให้ด้วยค่ะ สามารถวางรองเท้าได้มากกว่า 14 คู่ หยิบใช้งานได้สะดวก

ซึ่งห้องนี้สามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งและโต๊ะเล็กๆด้านข้างและโต๊ะกลางได้ มีระยะดู TV อยู่ที่ 2.15 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 26-30 นิ้วนั่นเอง

ถัดมาเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ประมาณ 2 ที่นั่งค่ะ

ประตูห้องนอนเป็นบานเลื่อนกระจกสไลด์ 3 ตอน สูงเต็มผนังทำให้ดูค่อยข้างโปร่งค่ะ สามารถรับแสงธรรมชาติจากระเบียงเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้บ้าง แต่เนื่องจากเป็นห้องที่ค่อนข้างลึกสักหน่อย ทำให้ต้องเปิดไฟเพิ่มเมื่อนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นนะคะ

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.55 x 3.00 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี และถ้าใครอยากติด TV เพิ่มเติมก็แนะนำเป็น TV แบบแขวนผนัง เพื่อให้มีพื้นที่เดินที่ปลายเตียงได้ค่ะ ซึ่งภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงเต็มผนังทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง และได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ และมีช่องเปิดระบายอากาศเหมือนกันกับห้องที่แล้วเลย

พื้นที่ด้านข้างเตียง จะมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าของห้องนี้จะได้เป็นบานเปิด 3 บาน ขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วเล็กน้อย

ภายในมีชั้นเก็บของด้านบน, ราวแขวนผ้า, ลิ้นชัก และระแนงสำหรับแขวนของต่างๆมาให้ เช่นกัน แต่จะเพิ่มช่องเก็บของด้านข้างมาให้อีก 1 ช่อง สามารถทำชั้นวางผ้าพับหลายๆชั้น หรือสำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางก็ได้ค่ะ

มาดูอีกฝั่งของห้องที่เป็นเหมือนฝั่ง Service กันบ้างค่ะ ตรงนี้เมื่อมองเข้าไปจะเจอกับส่วนครัว มีห้องน้ำอยู่ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ

ภายในห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์และชั้นเก็บของ Built-in มาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่ห้องนี้จะไม่ได้ปูกระเบื้องมาให้นะคะ เป็นพื้นไวนิลลายไม้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลย

Top ครัววัสดุเป็นหินควอทซ์ขาว บนเคาน์เตอร์จะมีอ่างล้างจานสเตนเลส และเตาไฟฟ้า 2 หัวมาให้พร้อมเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศ จาก MEX เช่นกัน

ส่วนชั้นเก็บของด้านล่างจะมีลิ้นชักสำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้า และช่องไมโครเวฟมาให้ประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารด้านบนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะทีเดียวค่ะ ส่วนใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บของขนาดใหญ่ ที่มีถังขยะติดตั้งมาให้ด้วยเหมือนกับห้องที่แล้วค่ะ

ส่วนชั้นเก็บของด้านบนจะได้เป็นแนวยาวสำหรับเก็บของทั่วไป มีระบบ Soft Close มาให้ ช่วยลดแรงกระแทก และเสียงดังเวลาปิดค่ะ และด้านซ้ายมือฝั่งระเบียงจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นค่ะ

ประตูระเบียงของห้องนี้จะได้เป็นบานเปิดกระจกนะคะ ค่อนข้างแข็งแรงทีเดียว แสงสามารถส่องเข้ามาด้านในครัวได้ไม่ต้องกลัวมืด และสามารถเปิดระบายอากาศเวลาทำอาหารมีกลิ่นได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 1.25 x 1.45 เมตร ค่อนข้างกว้างนะคะ สามารถวางเครื่องซักผ้าและมีพื้นที่เหลือด้านข้างสำหรับวางราวตากผ้าเพิ่มเติมได้

ส่วนห้องน้ำจะได้เหมือนกับห้องที่แล้วเลยค่ะ พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกมาเวลาล้างห้องน้ำ และภายในจะปูด้วยกระเบื้องเกลซพอร์ซเลนเหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ

อ่างล้างหน้า จาก American Standard มีช่องเก็บของด้านล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนค่ะ

ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น สายชำระ, ที่แขวนกระดาษชำระ จาก American Standard

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะได้ฉากกั้นกระจกบานเปิดมาให้ ช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้ง เวลาเราอาบน้ำค่ะ

พื้นที่อาบน้ำจะค่อนข้างกว้างอยู่ที่ 1.00 x 1.00 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ที่ผนังติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ เชื่อมต่อกับระบบน้ำร้อน และมีช่องเก็บของมาให้สำหรับวางสบู่ แชมพูเช่นกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 OCTOBER 2019

  • 1 Bedroom / เนื้อที่ 27.60 ตร.ม. / ราคา 3.29 ล้านบาท หรือ 119,200 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.48 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินควอทซ์สีขาว
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล :

โครงการ The Nest จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่ในซอยจินดาถวิล ห่างจากสถานี MRT สามย่าน 600 เมตร ถือว่าอยู่ในทำเลเมือง เพราะมีความสะดวกในการเดินทาง อยู่ใกล้กับถนนใหญ่อย่างถนนพระราม 4 และมีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินค่อนข้างสูง ไปห้างสรรพสินค้าอย่างจามจีรีสแควร์ หรือสามย่านมิตรทาวน์ ที่เป็นแหล่ง Co-Working สามารถหาของกินได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังใกล้กับ โรงพยาบาลขนาดใหญ่ สวนสาธารณะ และสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถยนต์ในทำเลนี้ก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกแม้ในซอยจินดาถวิลเองเป็นถนน One-Way แต่ก็มีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลบนถนนพระราม 4 สำหรับทางเข้าโครงการจะต้องเข้าจากถนนสี่พระยา แล้วทะลุไปออกยังถนนพระราม 4 ค่ะ อยู่ใกล้กับถนนสายหลักที่มีความคึกคักสูง อย่างถนนพญาไท ถนนวิทยุ ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนพระราม 1 หรือถนนเพลินจิตได้

สำหรับคนที่เดินทางด้วยทางด่วน สามารถใช้ทางพิเศษศรีรัช เพื่อออกเมืองไปทางพระราม 3 หรือไปทางแจ้งวัฒนะ -ดินแดงได้ ซึ่งทางด่วนอยู่ไม่ไกล มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และเมื่อพูดถึงการเดินทางโดยใช้รถ ก็คงจะต้องดูปริมาณที่จอดรถภายในโครงการด้วยนะคะ ซึ่งโครงการนี้เขาให้มา ประมาณ 132 คัน คิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคัน) ไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเนื่องจากอยู่ในทำเลที่เดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการสามารถเดินไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี สามย่านได้ในระยะทาง 600 เมตร ระหว่างทางค่อนข้างร่มเดินสะดวก และนอกจากนั้นยังมีรถประจำทางผ่านบนถนนสี่พระยา และถนนพระราม 4 ด้วย หรือใครสะดวกเรียกวินมมอเตอร์ไซค์ก็สามารถเรียกที่หน้าปากซอย หรือที่สถานีรถไฟฟ้าได้เลย

วัสดุ :

วัสดุภายในโครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วไป เหมาะสมกับราคา ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว ตู้รองเท้า และตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พื้นห้องปูด้วย ไวนิลลายไม้ ซึ่งมีความทนทานต่อน้ำมากกว่าลามิเนต , วัสดุ Top ครัวเป็นหินควอทซ์สีขาว มีชิ้นชักวางของมาให้ออกแบบค่อนข้างดีเหมาะสมกับการใช้งาน และติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวจาก MEX ภายในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก American Standard ปูด้วยกระเบื้องเกลซพอร์ซเลน ซึ่งมีความทนน้ำได้ดี ส่วนประตูหน้าต่างค่อนข้างแข็งแรงทนทาน กรอบบานเป็นอลูมิเนียม Powder Coat สีดำค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบพื้นที่ภายในโครงการทำให้ค่อนข้างดี วางผังอาคารทั้ง 2 เป็นรูปตัว U มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางทำให้เพิ่มทัศนียภาพที่น่ามองภายใน ห้องที่อยู่ด้านในตัว U จะเป็นห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ เห็นวิวสวย และมีบางส่วนได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาดูสวยงามน่าใช้ มีการกั้นพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ส่วนการออกแบบห้องถือว่าทำได้ดีนะคะ โครงการเน้นห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom มีให้เลือกหลากหลายขนาดตั้งแต่ 21.14-49.39 ตารางเมตร ด้านในจะแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน มีทั้งแบบแยกห้องนอนเป็นส่วนตัว และแบบคล้ายกับห้อง Studio หรือมีพื้นที่ Common Area กว้าง มีครัวติดกับระเบียง สำหรับคนที่มีความชอบแตกต่างกันค่ะ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคจะแบ่งเป็น 2 จุด คือที่ชั้น 1 จะมี Lobby และ Co-Working Space แยกแต่ละอาคาร มี Meeting Room, Fitness, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 20.00 x 4.50 เมตร และแยกสระเด็ก ขนาดประมาณ 4 x 4 เมตรมาให้ และ Facility อีกจุดอยู่ด้านบน Rooftop มี Sky Terrace ให้ มีพื้นที่เล่นโยคะ และมีสระว่ายน้ำ Spa Pool ขนาด 9.50 x 3.50 เมตร มาให้ อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 83 : 1 แยกเป็นอาคารอยู่ที่ 75-92 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากจนเกินไปทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในช่วงเร่งด่วนของวันค่ะ

 


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 160,000-170,000 บาท/ตร.ม., 10 OCTOBER 2019

  • ทำเล 7.75/10 – เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่สำคัญหลากหลาย หาของกินได้ง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ค่อนข้างสะดวก อยู่ไม่ไกลจากทางด่วน จอดรถ 40%
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่างจาก MRT สามย่าน 600 เมตร เดินสบาย
  • วัสดุ 7.75/10 – ให้มาแบบ Fully Fitted วัสดุดีเหมาะสมตามราคา
  • แบบ 8/10 – ออกแบบส่วนกลางดี น่าใช้งาน ภายในห้องมีแบบให้เลือกหลากหลาย
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ได้ Facility ครบ มีพื้นที่นั่งทำงานเยอะ มีสระว่ายน้ำ 2 จุด

  • HIGH CLASS
  • 7.77/ 10.00

BOTTOM LINE

The Nest จุฬา-สามย่าน เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านพระราม4 หรือนิสิตจุฬาฯที่กำลังมองหาคอนโดราคาต่ำกว่า 4 ล้าน เดินไปใช้รถไฟฟ้า MRT ได้ หาของกินสะดวก เป็นคอนโดที่มีความหนาแน่นไม่มาก มี Facility ตกแต่งสวย และมีพื้นที่นั่งทำงานภายในคอนโดเยอะ ชอบห้องพักอาศัยที่เป็น Single Corridor มีงบประมาณระดับ 3.29-5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 23,000 – 35,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving