รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ The Lofts Asoke คอนโด High Rise บนถนนอโศกมนตรี ห่างจาก MRT เพชรบุรี 200 เมตร จาก Raimon Land [รีวิวฉบับที่ 1824]

9 มีนาคม 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

FB Cover2 3-4 lofts asoke

รีวิวฉบับที่ 1079 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปโครงการในย่านอโศก อีกโครงการนึงค่ะ The Lofts Asoke จาก Raimon Land เป็นคอนโด High Rise สูง 45 ชั้น 1 อาคาร โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนอโศกมนตรี ห่างจาก MRT เพชบุรี 200 m. เป็นโครงการที่เน้นการออกแบบภายในด้วย Concept ” Industrial Loft Style” และจัดเป็นคอนโด Luxury Class ตัวล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวของ Raimon Land ค่ะ

Fact @ 19 May 2016

  • The Lofts Asoke (เดอะลอฟท์ อโศก)
  • Raimon Land
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : คลองเตยเหนือ
  • คอนโด High Rise 45 ชั้น 211 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิต/ชั้น
  • ที่จอดรถประมาณ 216 คันคิดเป็น 100%
  • ที่ดินประมาณ 1.5 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ธันวาคม 2016
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มิถุนายน 2019
  • 1 Bedroom 35 – 49 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.3 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 74 – 87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13.3 ล้านบาท
  • Duplex 76 – 145 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 30.1 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 3.17 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 8.3 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 200,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด  170,000 บาท/ตร.ม. – สูงสุด 239,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02 – 651 – 9600

บทความที่เกี่ยวข้อง : พาชมทำเล The Lofts Asoke 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.746743, 100.562706

Lofts asoke - road -1

แผนที่จากโครงการ ระบุตำแหน่งโครงการ The Lofts Asoke  ตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรี ห่างจาก MRT เพชรบุรี ประมาณ 200 ม.  ทำเลตั้งอยู่ใกล้แหล่งธุรกิจสำคัญ หากมาจากถนนอโศกมนตรีฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกอโศกเพชรบุรี สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย ซึ่งถ้าใครอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทำเลโดยรอบโครงการสามารถ เข้าไปอ่านรีวิว พาชมทำเล The Lofts Asoke  ได้ค่ะ

แผนที่ระยะไกล

โครงการ The Lofts Asoke ตั้งอยู่ในทำเลนี้ถือว่าเป็นทำเลที่อยู่ย่านใจกลาง CBD ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพก็ว่าได้ ถึงแม้จะอยู่ค่อนไปทางใกล้เพชรบุรีแล้วก็ตาม เพราะว่ายังรอบล้อมไปด้วยคอนโด, ห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่บนถนน อโศกมนตรี ไม่ว่าจะเป็นอาคาร GMM Grammy, ชิโนไทย ทาวน์เวอร์, Grand Park View Asoke, Cemic Tower, 253 Asoke และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งในย่านนี้ก็มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นมากมายในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา มีคอนโดเกิเขึ้นมากมาย  Developer หลายเจ้ามั่นใจในทำเลนี้พอสมควรจึงมาลงทุนในทำเลนี้อย่างหนาแน่น ส่วนหนึ่งมาจากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ที่เองด้วยที่ส่งให้คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในย่านธุรกิจใกล้กับที่ทำงาน จึงเป็นทำเลทางเลือกที่น่าจับตามองมากๆ

แผนที่จุดขึ้นลงทางด่วน

ในส่วนของการเดินทางไปไหนโดยไม่ใช้รถยนต์ ถือว่าสะดวกทีเดียว ตัวโครงการติดกับถนนอโศกมนตรี  ซึ่งถนนอโศกมนตรีเป็นแหล่งรวม Office Building อยู่แล้ว ทำให้มี Taxi ผ่านไปมามากสุดๆ เรียกง่ายตลอดเวลาแม้กระทั่งยันดึกดื่น ส่วนรถเมล์และวินมอเตอร์ไซต์นั้นก็หาไม่ยาก แต่ถ้าจะต้องใช้ทางด่วนก็มีให้เลือกใช้ จากโครงการวิ่งไปจุดทางขึ้นทางด่วนศรีรัช(ไปทางจตุรทิศ,แจ้งวัฒนะ) แค่ประมาณ 700 เมตร หรือถ้ามาจากทางแยกรัชดา-พระราม9 ก็มีจุดขึ้นอีกจุดนึงไป(พระราม 9,มอเตอร์เวย์) แต่ถึงแม้ระยะจะใกล้แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องช่วงเวลา เพราะถ้าเป็นช่วงเวลาเย็นๆ แถวนี้ก็จัดว่ารถติดมากๆ

แผนที่รถไฟฟ้า

จุดเด่นสำคัญของโครงการ The Lofts Asoke คือเป็นคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า ตัวโครงการเองอยู่ห่างจาก MRT เพชรบุรี 200 เมตร ซึ่งสถานีเพชรบุรีเนี่ยซึ่งเป็นสถานี  Interchange กับ Airport Rail Link มักกะสัน ที่สามารไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้และถ้าต้องการใช้รถไฟฟ้า BTS ก็วิ่ง MRT ไปลงสถานีสุขุมวิทเพื่อเปลี่ยนเป็น BTS อโศก ได้ ซึ่งเป็นสถานีที่ติดกับ Terminal 21 ที่รู้จักกันว่ามี Food Court ที่ถูกและดี หรือถ้าช่วงไหนมีจัดงาน Expo ต่างๆ  ก็นั่งเพียงแค่ 2 สถานีไปลงสถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

เส้นทาง

เส้นทางที่เราจะใช้เดินไปที่โครงการ จะเริ่มจาก MRT เพชรบุรี อยู่ตรงสี่แยกอโศก-เพชบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม. ซึ่งถ้าใครอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทำเลโดยรอบโครงการสามารถ เข้าไปอ่านรีวิว พาชมทำเล The Lofts Asoke  ได้ค่ะ

เริ่มจากออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เพชรบุรี โดยเลือกออกทางออกหมายเลข 2 ขึ้นมาก็จะมาอยู่ตรงสี่แยกอโศก-เพชบุรี ฝั่งอโศกค่ะ

ด้านหน้าทางออกจาก MRT เพชรบุรี จะมีพี่วินประจำให้เลือกใช้บริการ

ที่ติดกับ MRT ประตู 2 นั้นคือคอนโด Q Asoke

เรามุ่งหน้าไปโครงการกันต่อเลยค่ะ เมื่อออกจากรถไฟฟ้าใต้ดิน ให้เดินย้อนกลับตามแนวทางเท้ามุ่งหน้าไปทางถนนอโศกมนตรี

ฝั่งตรงข้ามที่เห็นล้อมรั้วไว้อยู่เป็นแปลงที่ดินของ Singha Complex ที่อีกไม่นานคงได้เห็นกัน

เดินตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับสะพานข้ามคลองแสนแสบ ซึ่งจากตรงนี้ถ้าเดินเลียบมาทางขวามือจะเป็นทางไปท่าเรืออโศก

ท่าเรืออโศก ห่างจากโครงการประมาณ 150 ม. เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางได้ สะดวกและไม่ต้องเจอกับรถติดซึ่งจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากในชั่วโมงเร่งด่วนค่ะ

เราเดินมุ่งหน้าข้ามสะพานมิตรสัมพันธ์ 2 ข้ามคลองแสนแสบเพื่อข้ามไปฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ จะเห็นป้ายโฆษณาโครงการอยู่ทางขวามือ จะเห็นว่าการจราจรฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกอโศกจะค่อนข้างติดพอสมควรเลยค่ะ

เดินถัดมาอีกหน่อน จะเจอกับร้านปังเว้ย อยู่ทางขวามือ มองเข้าไปด้านในจะเป็นที่ตั้งของ วู อีส รูม อพาร์ทเมนท์ ที่มีคาเฟ่และร้านอาหารต่างๆ ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ

ถัดมาก็จะถึงอาคาร 253 Asoke ที่เป็นอาคารออฟฟิศที่ติดกับโครงการแล้วค่ะ

เดินต่อมาเรื่อยๆ จะเห็นแนวรั้วของโครงการ ซึ่งจะอยู่ติดกับซอยโรจนาซึ่งอยู่ติดกับโครงการทางทิศเหนือ ปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซด์ให้บริการอยู่ค่ะ

กลับมาด้านหน้าโครงการ มองไปทางฝั่งตรงข้ามกันบ้าง จะเห็นรพ.จักษุรัตนิน

เดินมาถึงบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ The Lofts Asoke กันแล้วค่ะ ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดริมถนนอโศกมนตรีพอดีค่ะ

มองเลยจากด้านหน้าโครงการไปหน่อยก็จะมีร้านค้าและร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

มองกลับมาอีกมุมของทางเข้าโครงการจะเห็นอาคาร 253 Asoke เป็นอาคารสูง 28 ชั้น

บริเวณทางเข้าด้านหน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Sale office ของโครงการค่ะ

บริเวณทางเข้า Sale office ของโครงการ ด้านหน้ามีที่จอดรถเตรียมไว้ให้สำหรับผู้มาติดต่อและเยี่ยมชมโครงการค่ะ

บรรยกาศภายใน Sale Office จะมีโมเดลของโครงการตั้งให้ดู มีการจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการค่ะ

บรรยกาศภายใน Sale Office ตกแต่งภายในตามแนว concept ของโครงการค่ะ

map โดยรอบ**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริเวณโดยรอบโครงการ The Lofts Asoke ด้านหน้าทางทิศตะวันออกติดกับถนนอโศกมนตรี ส่วนทางทิศเหนือของอาคารจะติดกับถนนซอยโรจนา ถัดไปเป็นอาคาร 253 Asoke เป็นอาคารสูง 28 ชั้น ทางทิศตะวันตกจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลความสูง 2-3 ชั้น เลยถัดจากบ้านไปจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ Nist International school มาทางฝั่งทางทิศใต้ของโครงการในระยะประชิดจะเป็นอาคารแนวราบและอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น ถัดไปเป็นคอนโดสุขุมวิท ลีฟวิ่งทาวน์ สูง 36 ชั้น โครงการนี้จึงตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่อาคารสูงขนาบทั้งสองข้างแต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนักมีอาคารแนวราบและถนนซอยช่วยกันแบ่งระยะเอาไว้ แต่ด้วยความสูงของอาคาร The Lofts Asoke เองเมื่อพ้นระยะที่ความสูงชั้น 30 ขึ้นแล้วก็จะได้วิวแบบเปิดโล่งไม่มีอะไรมาบังทัศนียภาพโดยรอบ

map โดยรอบ 1

จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ด้านหน้าติดกับถนนซอยโรจนา , อาคาร 253 Asoke เป็นอาคารสูง 28 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับถนนอโศกมนตรี
  • ทิศใต้ ติดกับอาคารแนวราบและอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น , คอนโดสุขุมวิท ลีฟวิ่งทาวน์ สูง 36 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลความสูง 2-3 ชั้น

Drone_Loft10

 

วิวทางฝั่งทิศตะวันตก มองไปทางฝั่งเพชรบุรี มุมมองจากทางทิศนี้ในระยะติดกับโครงการจะเห็น บ้านพักอาศัยส่วนบุคคลความสูง 2-3 ชั้น และ โรงเรียนนานาชาติ Nist International school , อาคาร253 Asoke เป็นอาคารสูง 28 ชั้น อยู่ทางขวามือ ส่วนคอนโดสุขุมวิท ลีฟวิ่งทาวน์ สูง 36 ชั้น จะอยู่ทางซ้ายมือ

Drone_Loft40

วิวทางฝั่งทิศตะวันออก มองไปทางฝั่งสุขุมวิท มุมมองจากทางทิศนี้ในระยะติดกับโครงการจะเห็นถนนอโศกมนตรี และอาคาร253 Asoke เป็นอาคารสูง 28 ชั้น อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนคอนโดสุขุมวิท ลีฟวิ่งทาวน์ สูง 36 ชั้น จะอยู่ทางขวามือ

view fl20 panoคลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวแบบ Panorama จากพื้นที่โครงการ The Lofts Asoke ที่ความสูงชั้น 20

view fl20 - 1คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวทางฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือ จากพื้นที่โครงการ The Lofts Asoke ที่ความสูงชั้น 20

view fl20 - 2คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้ จากพื้นที่โครงการ The Lofts Asoke ที่ความสูงชั้น 20

view fl44 panoคลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวแบบ Panorama จากพื้นที่โครงการ The Lofts Asoke ที่ความสูงชั้น 44

view fl44 - 1คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวทางฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือ จากพื้นที่โครงการ The Lofts Asoke ที่ความสูงชั้น 44

view fl44 - 2คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

วิวทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้ จากพื้นที่โครงการ The Lofts Asoke ที่ความสูงชั้น 44

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงพยาบาลจักษุรัตนิน ~ 35 ม.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ~ 300 ม.
  • ตลาดรวมทรัพย์ ~ 350 ม.
  • GMM Grammy Place ~ 400 ม.
  • โรงเรียน สาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ~ 400 ม.
  • โรงเรียนวัฒนา วิทยาลัย ~ 800 ม.
  • Nist International school ~ 1.2 กม.
  • Terminal 21 ~ 1.8 กม.
  • EM District ~ 2.2 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Lofts Sathorn โครงการ The Lofts Sathorn

ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกโครงการ The Lofts Asoke กัน หลายคนคงรู้จักแบรนด์ The Lofts ของ Raimon Land กันมาบ้างแต่ก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ความเป็นมาของ The Lofts จากอดีตสู่ปัจจุบัน ย้อนไปเกือบ 10 ปี หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของโครงการ The Lofts Sathorn ที่แรกเริ่มเลยนั้นไม่ได้เป็นคอนโดมิเนียมเหมือนกับในปัจจุบัน The Lofts Sathorn เป็นโครงการแนวราบ เป็นทาวน์เฮ้าส์ แบบ 3 ห้องนอน จำนวนยูนิตในโครงการเพียง 25 หลัง เปิดตัวในช่วงต้นปี 2546 และก่อสร้าง โครงการเสร็จสมบูรณ์ในปี 2547 ตัวโครงมีความแปลกใหม่แตกต่างจากทาวน์เฮ้าส์ในยุคเดียวกัน ทั้งรูปร่างหน้าตาภายนอกและการตกแต่งภายใน โดยเน้นการออกแบบพื้นใช้สอยภายในที่แตกต่างออกไป การเล่นระดับชั้นของ Space การวางพื้นที่แบบอิสระและทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง และการโชว์วัสดุแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย ปัจจุบันโครงการนี้ปิดการขายไปแล้วแต่ก็ยังคงถูกพูดถึงอยู่เสมอจัดเป็นบ้านในยุคแรกที่นำเอาแนวคิด Loft Style มาใช้ออกแบบได้อย่างลงตัวโครงการหนึ่ง และจัดเป็นโครงการที่สร้างชื่อให้ Raimon Land เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัยในช่วงเวลานั้น

โครงการ The Lofts Yennakartโครงการ The Lofts Yennakart

โครงการ The Lofts Yennakartโครงการ The Lofts Yennakart

ถัดจากโครงการ The Lofts Sathorn ในปี พ.ศ.2549 บริษัท Raimon Land ได้เริ่มพัฒนาโครงการ The Lofts Yennakart เป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงในรูปแบบคอนโดมิเนียม โดยการนำแบรนด์ The Lofts มาขยายตลาดคอนโดบนทำเลย่านเย็นอากาศ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเขตธุรกิจสาทรและสีลม เป็นคอนโดมิเนียมสูง 18 ชั้น 176 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 55-312 ตร.ม. เน้นการออกแบบ Contemporary รวมกับการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในตามเอกลักษณ์ของแนว Loft โดยยังคงแนวคิดการจัดวางผังห้องพักแบบเปิดโล่ง ฝ้าเพดานสูง และหน้าต่างกระจกสูงกว้างช่วยให้แต่ละห้องพักสามารถเพิ่มมุมมองในการชมวิวจากภายในสู่ภายนอกได้มากขึ้น และการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้ความสว่างและถ่ายเทอากาศภายในตัวห้อง ออกแบบพื้นที่สวนกลางขนาดใหญ่สระว่ายน้ำ ความยาว 35 ม. พร้อมห้องออกกำลังกายและสวนส่วนกลาง ทำให้โครงการได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ ปัจจุบันโครงการ The Lofts Yennakart นี้ก็ปิดการขายไปแล้วเช่นกัน

โครงการ The Lofts Ekkamaiโครงการ The Lofts Ekkamai

Aerial_Night_FINAL_Hires-sideโครงการ The Lofts Ekkamai

มาถึงโครงการ The Lofts Ekkamai ที่เปิดตัวในปีพ.ศ.2557 กับทำเลย่านสุขุมวิท ที่ติดถนนสุขุมวิท และใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย เป็นโครงการที่ Raimon Land ส่งมาตีตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าโดยเฉพาะในย่านเอกมัยที่จัดเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการซื้อและการลงทุนทั้งกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 28 ชั้น 263 ยูนิต โครงการออกแบบโดย HB Design (โดย คุณ ฮานส์ บราวเวอร์) ที่มีผลงานเด่นๆ เช่น The River, 185 ราชดำริ, North point Pattaya ในส่วนการออกแบบห้องพัก ยังคงรูปแบบ Loft Style ฝ้าเพดานสูง 2.8 ม. เน้นการใช้พื้นที่ภายในและการจัดวาง Lay out ของตัวห้องให้เป็นห้องหน้ากว้าง ทำหน้าต่างเข้ามุมเน้นการ Take view พื้นที่ระเบียงที่กว้างใช้งานได้จริง และมี Material design ตกแต่งภายในให้ผู้ซื้อสามารถเลือกตามความชอบได้ โดยเน้นการจัดพื้นที่ Facility หลักไว้บนยอดตึกและมีความหลากหลายทั้ง สระว่ายน้ำ/ In-pool jacuzz , Fitness Room , Sauna และ Roof top resident’ s garden with BBQ area มีความ Private และน่าใช้งาน

จากระยะเวลาในการพัฒนาแบรนด์ The Lofts จนมาถึงโครงการล่าสุดของ Raimon Land ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปกับ โครงการ The Lofts Asoke โดยมีที่ปรึกษาการออกแบบโดย Eco.id  ที่มีผลงานโดดเด่นมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ โครงการ The Lofts Asoke จึงได้รับการออกแบบที่เน้น Concept ของโครงการและมีเอกลักษณ์ของตนเองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนในรายละเอียดของโครงการจะเป็นอย่างไร เราไปชมเจาะลึกโครงการกันได้เลยค่ะ

โครงการ The Lofts Asoke เป็นคอนโด High Rise สูง 45 ชั้น 211 ห้อง บนพื้นที่ 1.5 ไร่ เป็นอาคารสูงที่ออกแบบเน้นความทันสมัยมีแนวคิดในการออกแบบที่ชัดเจน ตัวโครงการหันหน้าโครงการออกถนนอโศกมนตรี ตัวอาคารใช้โทนสีเข้มและอ่อนไล่โทนสีรอบตัวตึกเน้นความเรียบเท่ จัดพื้นที่ชั้นส่วนกลางที่ชั้นล่างของตัวอาคารและชั้นบนที่ชั้น 30 ขึ้นไป เริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 44 โดยแบ่งเป็นห้องพักแบบ Lofts ที่ชั้น 3-30 และแบบ Sky Lofts ที่ชั้น 31-44 ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ในโครงการโดยที่จอดรถเกือบทั้งหมดใช้ระบบ Automated carpark และมีจอดแบบปกติที่ชั้น 1 บางส่วน

ในส่วนห้องพักอาศัยจะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีทั้งห้อง 1 Bed และ 2 Bed ส่วนห้องแบบ Duplex จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 31-44 ในส่วนของพื้นที่ Facility ตั้งแต่ชั้นชั้นล่างของตัวอาคาร จะประกอบ Triple volume ceiling lobby , Residential lounge & workspace ,Fitness และ Library ส่วนสระว่ายน้ำ จะอยู่ที่ชั้น 31 โดยจะมี Steam room และ Sky garden and sun decks อยู่ด้วย ในส่วน Landscape จะมีอยู่บริเวณรอบพื้นที่ส่วนกลาง และที่ระหว่างชั้นต่างๆ ที่ชั้น 4 , 31 , 35 , 39 ด้านหน้าโครงการและโดยรอบ โดยจะปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดแนวทางเข้าและพื้นที่รอบๆโครงการ

ภาพแสดงบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ จะเห็นการออกแบบในส่วนของ Triple volume ceiling lobby ด้านหน้าที่มีความสูง ceiling height  ที่ 18 ม. และส่วนของ Residential lounge & workspace และ Gym สำหรับออกกำลังกาย ที่มีความสูง ceiling height ที่  6 ม. โดยรอบตัวอาคารปลูกต้นไม้และจัด Landscape ไว้

บริเวณส่วนโถงต้อนรับ ชั้น 1 ออกแบบเป็น Triple volume ceiling สูง 18 ม. ตกแต่งภายในตาม concept ” industrial loft style” แนวโบวด์ (Bold) และแนว รอว์ (Raw) เน้นการโชว์ Texture พื้นผิวเปลือยของวัสดุตกแต่ง

บรรยากาศภายในส่วนของ Gym สำหรับออกกำลังกายออกแบบเป็น Double volume ceiling สูง 6 ม. มองเห็นวิวไปทางด้านหน้าของโครงการทางฝั่งถนนอโศกมนตรี

ส่วนสระว่ายน้ำของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 31 ออกแบบเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool  เป็นสระแบบน้ำล้น มี Sun decks  และ Steam room พร้อมห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชาย-หญิง จากสระว่ายน้ำมองเห็นวิวทางฝั่งอโศกทางทิศตะวันออกของตัวโครงการ

ในส่วน Landscape และสวนพื้นที่ส่วนกลาง จะอยู่ที่ระหว่างชั้นต่างๆ ที่ชั้น 4 , 31 , 35 , 39 ของตัวอาคาร

The Lofts Asoke เป็นคอนโด High Rise สูง 45 ชั้น บนพื้นที่ 1.5 ไร่ ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ติดกับถนนอโศกมนตรี สามารถเข้าออกโครงการจากถนนใหญ่ได้สะดวก มีการจัดพื้นที่ภายในโครงการทั้งส่วนของห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง facility ต่างๆเอาไว้อยู่ภายในโครงการ มีความพิเศษตรงการนำเทคโนโลยีการจอดรถด้วยระบบ Automated carpark ภายในโครงการช่วยลดการใช้พื้นในการจอดรถภายในโครงการได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ

ถ้าใครยังนึกภาพตัวอาคารไม่ออกเรามาดูโมเดลจำลองกันต่อดีกว่า เริ่มจากด้านล่างด้านหน้าอาคารจะเป็น Facility ส่วนกลางของโครงการโดยไล่มาจากชั้นล่างสุดเป็น Reception lobby ออกแบบเป็น Triple volume ceiling ชั้นถัดขึ้นมาเป็น Residential lounge & workspace และถัดขึ้นมา Gym ออกกำลังกาย ตั้งแต่ชั้น 1- 5  ส่วนของห้องพักจะเริ่มที่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 44 โดยแบ่งเป็นห้องพักแบบ Lofts ที่ชั้น 3-30 และแบบ Sky Lofts ที่ชั้น 31-44  ส่วนพื้นที่ Facility อื่นๆได้แก่ สระว่ายน้ำ , Steam room และ Sky garden and sun decks จะอยู่ที่ชั้น 31 

ทางเข้าด้านหน้าเชื่อมต่อกับถนนอโศกมนตรี มีการจัดพื้นที่สวนไว้ด้านหน้าเพื่อความร่มรื่นของโครงการ

เส้นทางเดินรถภายในโครงการจะเป็นการเดินรถทางเดียว ขับวนตามเข็มนาฬิการอบโครงการ

เมื่อวันรถมาด้านหลังอาคาร จะเจอกับส่วนของ Generetor room และ Electrical room ของโครงการ

เมื่อวนรถมาอีกฝั่งของอาคารจะเป็นที่จอดรถแบบปกติใต้อาคาร 5 คัน ที่เหลือจะเป็นที่จอดรถด้วยระบบ Automated carpark สามารถจอดได้ 211 คัน รวมทั้งหมดสามารถจอดรถภายในโครงการได้ 216 คัน คิดเป็น 100%

ห้องพักแบบ Lofts จะเริ่มที่ชั้น 3-30 และแบบ Sky Lofts เริ่มที่ชั้น 31-44  ส่วนพื้นที่ Facility อื่นๆได้แก่ สระว่ายน้ำ , Steam room และ sun decks จะอยู่ที่ชั้น 31  มีสวนสวนกลาง สามารถออกมาใช้นั่งพักผ่อนได้ ที่ชั้น 31 , 35 , 39 ของตัวอาคาร

1- master plan a

เริ่มกันที่ผังชั้น 1 จะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า การจัดเส้นทางเดินรถเป็นไปตามการวนเข็มนาฬิกา ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะต้องมาใช้ที่จอดแบบ Automated carpark ภายในโครงการ จะแบ่งช่องสำหรับเข้าจอด 3 ช่อง  หรือสามารถจอดรถแบบปกติใต้อาคาร ได้อีกประมาณ 5 คัน สำหรับจอดรถ visitor พื้นที่บริเวณชั้น 1 จะมี Reception lobby และส่วนของห้องควบคุมงานระบบอาคารต่างๆ(ทางด้านหลัง) มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 70.3 : 1 ความหนาแน่นเกินมาตรฐานไปนิดหน่อย และบันไดหนีไฟ 2 จุด รอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้บ้างนิดหน่อยตามที่ดินที่เหลือ แต่ไม่เป็นไรคะส่วนกลางที่นี่เค้าเน้นไปอยู่ที่ชั้นบนกระจายตามชั้นต่างๆ

ที่พื้นของที่จอดรถจะมีการกำหนดจำนวนที่จอดของแต่ละห้องไว้ ตามนี้ค่ะ

  • 1 Bedroom สามารถจอดได้ 1 สิทธิ์
  • 2 Bedroom สามารถจอดได้ 1 สิทธิ์
  • 3 Bedroom สามารถจอดได้ 2 สิทธิ์

 

1 - fl 2 a

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ยังคงเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ และส่วนหนึ่งแบ่งไว้เป็นพื้นที่สำหรับระบบจอดรถ Automated carpark  ในส่วนของ facility ในชั้นนี้จะประกอบด้วย Residential lounge & workspace ที่เหลือจะเป็นห้องงานระบบและนิติบุคคลของโครงการ

 

1 - fl 4 a

มาที่ชั้น 4 ของโครงการจะเริ่มมีส่วนห้องพักอาศัย จะมีทั้งหมด 3 ห้อง และพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ Gym ออกกำลังกาย และสวนพักผ่อน

1 - fl 31 a

ที่ชั้น 31 จะเป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางหลักอีกชั้นหนึ่ง ประกอบด้วย  สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ริมสระน้ำจัดพื้นที่เป็น Pool deck และสวนพักผ่อน มีห้อง Steam room มีห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชาย-หญิง จัดเตรียมไว้ให้ ในชั้นนี้จะมีส่วนห้องพักอาศัย รวมอยู่ด้วยมีทั้งหมด 3 ห้อง เหมือนกันกับชั้น 4

section floorคลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

ภาพรูปด้านแสดงตำแหน่งและประเภทของห้องต่างๆภายในโครงการแยกตามระดับชั้น โดยแบ่งเป็นห้องพักแบบ Lofts ที่ชั้น 3-30 และแบบ Sky Lofts ที่ชั้น 31-44  และส่วนพื้นที่ Facility ต่างๆภายในโครงการ เมื่อเทียบดูในแต่ละชั้น จะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 7 ห้องต่อชั้น

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Triple volume ceiling lobby
  • Residential lounge & workspace
  • Library
  • Fitness
  • Steam room
  • M & F changing rooms
  • Sky garden and sun decks
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 70.3 : 1
  • ที่จอดรถ 211 คัน (Automated carpark) และจอดแบบปกติ 5 คัน รวมทั้งหมด 216 คัน คิดเป็น 100%
  • ระบบ CCTV 24-hour security / Access Card


Product Walkthrough

โครงการ The Lofts Asoke จะมีแบบห้องให้เลือกหลายแบบอยู่ค่ะ โดยจะแบ่งตามขนาดจำนวนห้องนอนและโซนตามระดับความสูงชั้น ซึ่งโครงการนี้เน้นการทำห้องที่มีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 35 ตารางเมตร

Loft Zone ( 3-30 fl.)

  • 1 Bedroom แบบ 1A , 1B ขนาดพื้นที่ 35 – 49 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms แบบ 2A , 2B , 2C ขนาดพื้นที่ 74 – 87 ตร.ม.

Sky Loft Zone ( 31-44 fl.)

  • 1 Bedroom Duplex แบบ L1A , L1B ขนาดพื้นที่ 76 – 77 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Duplex แบบ L2A ขนาดพื้นที่ 120 ตร.ม.
  • 3 Bedroom Duplex แบบ L3A , L3B ขนาดพื้นที่ 145 ตร.ม.

DSCF6635 - 1

โครงการ The Lofts Asoke จะมี Material design วัสดุตกแต่งภายในห้อง ให้เลือกได้อีก 3 แบบที่จะให้โทนสี Mood and tone แตกต่างกันออกไปค่ะ ยกตัวอย่างวัสดุ แบบ Raw จะเป็นการตกแต่งโดยเลือกวัสดุเน้นความมีเอกลักษณ์โชว์ Texture พื้นผิวของวัสดุ เช่น Feature wall เป็นผนังทำสีและลายพิเศษเหมือนกับโหละสีสนิม ตาม concept ” Industrial loft style” ของโครงการ

DSCF6636 - 1-down

และอีก 2 แบบ คือ Bold และ Functional ที่จะมีวัสดุเช่นผนังและพื้น ที่มี mood and tone แตกต่างกันเน้นความเรียบเท่ สีโทนสว่างมากกว่าแบบแรกค่ะ

ในส่วนของห้องตัวอย่างจะมีให้ดูได้ 1 ห้อง เป็นแบบ L2A – 2 Bed Duplex ขนาดพื้นที่ 120 ตร.ม. เราลองไปดูห้องและรายละเอียดต่างๆของห้องกันค่ะ

Lofts asoke - Plan room -1

ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็นแบบ L2A – 2 Bed Duplex ขนาดพื้นที่ 120 ตร.ม. รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีสองชั้น ซึ่งห้องนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าที่ 5.7 ม. โดยแบ่งพื้นที่การใช้งานที่ชั้นล่างจัดพื้นที่เป็น ส่วนห้องนั่งเล่น ส่วนครัว ส่วนรับประทานอาหาร ห้องอเนกประสงค์ ห้องน้ำชั้นล่างและระเบียง ส่วนชั้นบนจัดเป็นพื้นที่ห้องนอนและห้องน้ำชั้นบน เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนที่เป็น foyer ด้านหน้าในตัวห้อง ถัดเข้ามาทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง สามารถอาบน้ำได้ แต่ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ส่วนด้านในของอาคาร คือไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ ตรงข้ามกับห้องน้ำจัดเป็นห้องเอนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้จะจัดเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานก็ได้ เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่จัดพื้นที่ไว้ค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ เชื่อมต่อกับส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร จัดครัวแบบเปิดไม่มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ ซึ่งครัวแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร ถัดไปเป็นระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ขนาดระเบียงที่ให้มาค่อนข้างกว้างเลยค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆภายนอกได้ มีพื้นที่สำหรับวาง Compressor แยกส่วนมีประตูปิดไว้เป็นสัดส่วน เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ของตัวห้องจะจัดเป็นพื้นที่ห้องนอน สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ มีตู้เสื้อผ้า Built-in มีห้องน้ำในตัวพร้อมส่วนของ walk in closet เชื่อมต่อภายในห้องนอน และมีห้องน้ำในตัวแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน

ประตูทางเข้าเป็นประตู Woodgrain laminated  มีตาแมว มือจับประตูแบบก้านโยก พร้อมอุปกรณ์ Digital door lock ของ Yale

เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านบนเหนือบานประตูจะติดโช๊คอัพประตูเพื่อหน่วงความเร็วตอนประตูปิด เพื่อที่ไม่ให้ประตูปิดมาโดนคนที่เดินผ่านประตู พื้นทางเข้าสู่ห้องไม่มีธรณีประตูกั้น แต่จะมีต้วจบสแตนเลสเพื่อเก็บรอยต่อของพื้นทั้งสองให้สวยงามเรียบร้อย ส่วนพื้นห้องในส่วนนี้เป็นพื้นกระเบื้องเซรามิคลายไม้

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับโถงทางเข้า เป็นทางยาวเพื่อเชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นด้านใน

พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควร สามารถตั้งตู้สำหรับเก็บรองเท้าตรงส่วนนี้ได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาในห้องส่วนที่จะเจอก่อนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ ภายในมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าของ Cristina มีตู้กระจกสำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า

พื้นห้องน้ำจะลดระดับ 1 cm. รอยต่อระดับพื้นของห้องน้ำกับพื้นห้องมีตัวจบสแตนเลสเพื่อเก็บรอยต่อของพื้นให้เรียบร้อย

ชุดอ่างล้างหน้าของ Cristina เหนืออ่างจะเป็นชุดตู้สำเร็จกรุกระจกด้านหน้า สามาถเปิดมาเก็บของชิ้นเล็กๆไม่ใหญ่มากได้ มีชั้นวางของด้านล่าง เป็นช่องใส่ของใต้อ่างและเป็นลิ้นชัก 2 ช่อง สามารถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำได้ค่ะ

ชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์แยกน้ำร้อน-เย็น ของ Cristina  ขนาดอ่างประมาณ 45 x 49 cm. อ่างมีพื้นที่รอบๆสำหรับวางของได้

ลองเปิดชุดตู้กระจกด้านบนดู สามารถใส่ของใช้ได้เยอะอยู่ แต่ต้องเป็นของชิ้นไม่ใหญ่มากนะคะ

ชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cristina ซึ่งชุดสุขภัขภัณฑ์ที่ให้มาก็มีขนาดไม่เล็กเกินไป เหมาะสมกับการใช้งาน มีปุ่มกดน้ำอยู่ทางผนังทางด้านหลัง พร้อมที่ที่แขวนกระดาษทางซ้ายมือ

มีปุ่มกดน้ำอยู่ทางผนังทางด้านหลัง มีปุ่มให้เลือกกดน้ำแบบหนัก-เบา

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูกระจกมาให้  ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ที่บานเปิดประตูกระจก จะทำเป็นที่จับ   สแตนเลส สามารถไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.08 x 0.90 m. สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆไม่แคบไป ส่วนพื้นอาบน้ำจะยกธรณีสูงจากระดับ 2.5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang โดยทางโครงการจะเลือกสีและรูปแบบของอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำเป็นโทนสีดำทั้งหมดค่ะ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบฝักบัว

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้า ส่วนฝ้าเพดานห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบ Downlight พร้อมติดพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ

มาที่ห้องอเนกประสงค์กันต่อค่ะ ตำแหน่งห้องจะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ ประตูทางเข้าทีเป็นประตูบานเลื่อนสองฝั่งมาชนกัน

รางเลื่อนจะติดไว้ด้านบน เมื่อเก็บบานเลื่อนจะไม่มีรางให้เดินสะดุดที่พื้นค่ะ

เมื่อปิดประตู มุมมองจากในห้องประตูจะเข้ามุมพอดีค่ะ

ภายในห้องตกแต่งไว้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้จะจัดเป็นห้องทำงานหรือจัดเป็นห้องนอนก็ได้ค่ะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของห้องนี้สูง 2.7 ม. ค่ะ กรณีมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยห้องนี้สามารถจัดให้ท่านนอนได้เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บันไดไปชั้นบน

ห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นมุมสำหรับวางโต๊ะทำงาน และชั้นวางของต่างๆ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ

ภายในติดกับฝั่งผนังทางโครงการทำเป็นตู้แบบ Built in ประตูเป็นบานเปิด ตัวตู้จะสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าค่ะ ออกแบบให้ใช้งานเต็มพื้นที่ แบ่งช่องต่างๆภายในตู้ก็ใช้เก็บของต่างๆได้ทั้งแขวนและชั้นสำหรับวางของ ชุดตู้นี้ทางโครงมีให้ค่ะ

ด้านล่างของตู้ทำเป็นชั้นแบบลิ้นชักเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่ต้องการพับแยกไว้ให้ค่ะ

ในส่วนของระบบแอร์ภายในห้องจะเป็น Concealed split type systems จึงทำให้ไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศแยกชิ้นภายในห้อง ฝ้าเพดานก็จะลดระดับและทำเป็นช่องงานระบบปรับอากาศมาให้เรียบร้อย ใช้รีโมตควบคุมเปิด-ปิด การใช้งาน

หน้าต่างอลูมิเนียมทำสีดำ บานใหญ่สูงตั้งแต่ถึงฝ้า เป็นกระจก Tinted laminated glass หรือกระจกตัดแสง สามารถป้องกันความร้อนและเสียงจากภายนอกได้ค่ะ ด้วยขนาดและความสูงของกระจกจึงรับแสงได้ดี ตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟแค่เปิดม่านก็สว่างทั่วห้อง

ที่หน้าต่างบานกระจกจะมีช่องเปิดให้ 1 ช่อง เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง กว้างประมาณ 94 cm.

หน้าต่างบานกระทุ้งเมื่อเปิดออกสามารถเปิกว้างได้ประมาณ 30 องศา พร้อมอุปกรณ์มือล็อคจับแบบก้านโยก

มากันที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ พื้นที่ตรงบริเวณนี้จะเป็นโถงสูง มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 5.7 ม. เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัวและส่วนรับประทานอาหาร และระเบียงด้านนอก ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคลายไม้ ส่วนผนังที่เห็นเป็นสีออกส้มๆ อันนั้นจะเป็น Feature wall เป็นผนังทำสีและลายพิเศษเหมือนกับโหละสีสนิม ตาม Concept ”  Industrial Loft Style” ของโครงการ ซึ่งอันนี้เราสามารถเลือกวัสดุแบบอื่นได้นะคะ

มาที่ส่วนห้องครัวเป็นโถงสูงเชื่อมต่อกับส่วนห้องนั่งเล่น จัดพื้นที่เป็นครัวเปิด  ด้านบนสุดฝ้าเพดานจะติดเครื่องปรับอากาศไว้

ทางโครงการให้ชุดครัวแบบ Built in  และ Island couter เป็นหิน  Mable สีเทาดำ ซึ่งชุดครัวชุดนี้ทางโครงการมีให้นะคะ

พื้นที่ทำครัวมีระยะห่างระหว่างชุดครัวแบบ Built in กับ Island coute กว้างประมาณ 107 cm.

ลองเป็นดูด้านในจะแบ่งเป็นพื้นที่ฝั่งขวาทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของต่างๆ ฝั่งซ้านเป็นบานเปิดแบ่งพื้นที่ทำเป็นชั้นวางของด้านใน

ชุดครัว Built in ที่เห็นจะเป็นสีตามนี้เลยค่ะ ชิ้นบนสีดำและชิ้นล่างเป็นสีลายไม้ วัสดุปิดผิวเป็น Laminate ด้านบนจัดเป็นชั้นวางของแบบบานเปิด ด้านในแบ่งช่องสำหรับเก็บของต่างๆไว้  ผนังส่วนครัวเป็นกระเบื้อง เหมาะกับการประกอบอาหาร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดกลาง 1 ช่อง ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร ผนังบริเวณส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิค สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ที่ผนังมีชุดปลั๊กไฟให้ 2 ตำแหน่ง

ชุดครัวที่ได้ที่จะเป็นชุดเตาแบบแม่เหล็กและ Hood ดูดควันของ Smeg , Siemens หรือเทียบเท่าค่ะ

ใต้ชุดเคาน์เตอร์ครัว จะแบ่งช่องบานเปิด ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า ขนาด 58 x 54 cm.

ส่วนอื่นๆกแบ่งพื้นที่ทำเป็นลิ้นชักและช่องทำเป็นชั้นบานเปิด สำหรับเก็บของต่างๆ

ด้านข้างติดกับชุดครัว จะเป็นชุดตู้ Built in วัสดุปิดผิวเป็น Laminate แบ่งช่องสำหรับเก็บของและสำหรับวางตู้เย็น ช่องวางตู้เย็นเว้นพื้นที่ไว้ 1 x 0.62 m. สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ แต่ทางโครงการไม่มีตู้เย็นให้นะคะ

ทางโครงการเน้นการจัดพื้นที่ในส่วนห้องนั่งเล่นตรงบริเวณนี้จะเป็นโถงสูงพิเศษ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 5.7 ม. ให้ความโปร่งสบายเสมือนอยู่บ้านมากกว่าคอนโดมิเนียม ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว จากชั้นบนห้องนอนสามารถมองลงเห้นบรรยากาศของชั้นล่างได้ ห้องเลยดูไม่อึดอัดเลยค่ะ

พื้นที่ในส่วนห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้ และยังเหลือพื้นที่วางเก้าอี้เพิ่มได้อีก ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่มากกว่า 3 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 46″-52″ ได้ค่ะ

ห้องเก็บของจะใช้พื้นที่ใต้ท้องบันได โดยมีประตูพร้อมมือจับ พร้อมดวงไฟภายในห้อง

สำหรับส่วนรับประทานอาหารจะอยู่บริเวณริมหน้าต่างถัดจากส่วนห้องนั่งเล่น แต่ก็ยังจัดเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อถึงกันหมด แบ่งพื้นที่ไว้สำหรับตั้งโต๊ะอาหารไ้ด้ประมาณ 5-6 ที่นั่ง

ประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำบานใหญ่ พร้อมแนวนับด้านข้าง  ลักษณะการเลื่อนเป็นแบบ 3 บาน โดยเลื่อนไปชิดรวมกันทางขวามือ ซึ่งเมื่อลองเลื่อนเปิดก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน ดูแช็งแรงดีค่ะ

มีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อน ระหว่างพื้นห้องกับรางอลูมิเนียมมีตัวจบ เก็บงานเรียบร้อยดีค่ะ

ตัวกรอบบานประตูบานเลื่อน ตัวบานจะยกขอบจากพื้นขึ้นมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองจากภายนอกเข้ามาด้านใน

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง ผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 2.75 x 2.85 m. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำ  พื้นที่ระเบียง มีพื้นที่กว้างเพียงพอให้ตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ และวางที่ตากผ้าได้

ที่ระเบียงจะมีสวิทช์ไฟแบบกรอบกันน้ำให้ 1 ตำแหน่ง และมีไฟกิ่งให้ 1 ตำแหน่งค่ะ

ติดกันกับส่วนระเบียงจะแบ่งพื้นที่ไว้ มีระแนงเหล็กกั้นแบ่งพื้นที่พร้อมประตู พื้นที่ตรงนี้จะไว้ให้วาง  Compressor หรือใช้ตากผ้าก็ไดค่ะ มีระแนงบังสายตาจากภายนอกไว้

พื้นที่ด้านในกว้างประมาณ 1.4 x 1.75 m.  พร้อมก็อกน้ำ 1 ตำแแหน่ง มีช่องระบายน้ำไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

มุมมองจากทางฝั่งระเบียงของตัวห้อง มองเข้าหาตัวห้อง บรรยากาศภายในดูไม่เหมือนคอนโดเลยค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่า

ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟและสวิทช์ไฟภายในห้องเป็น ของ Bticino

มากันที่บันไดที่จะขึ้นไปชั้น 2 ของตัวห้องกันค่ะ ลักษณะของบันไดจะเป็นบันไดช่วงพาดเดี่ยว ไม่มีชานพักระหว่างบันได แต่ในการใช้งานจริงควรจะมีชานพักก่อนก้าวเข้าห้องนอนชั้นบนสักหน่อย เพื่อเพิ่มระยะพื้นที่สำหรับยืนหยุดพักรอหน้าห้อง ช่วยเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น

ตัวบันไดกว้าง 1 m.  มีราวบันไดเหล็กทำสีดำสูง 90 cm. ลูกตั้งสูง 17.5 cm. ลูกนอนกว้าง 27.5 cm. และปิดผิวด้วยไม้จริง

มุมมองจากด้านบนจะเห็นพื้นที่ด้านล่างในส่วนห้องนั่งเล่น ห้องครัว ที่นั่งรับประทานอาหารทั้งหมด

สำหรับฝ้าเพดาน้านบนนั้นจะฉาบเรียบและทาสีตาม style ของแบบห้อง ติดดวงโคมไฟ downlight ซึ่งห้องจริงก็จะได้ไฟตามแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

เมื่อเดินขึ้นมาก็จะเจอกับประตูเพื่อเข้าห้องนอนชั้นบน เป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมทาสีดำบานเดี่ยว พร้อมมือจับและตัวล็อค โดยที่รางของบาเลื่อนจะอยู่ด้านบนของกรอบบาน เพื่อทำให้พื้นไม่มีรอยสะดุดของรางค่ะ

มาถึงส่วนห้องนอน จัดพื้นที่ไว้กว้างพอสมควรค่ะ สามารถวางเตียง ขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้สบายๆ และยังมีพื้นที่ด้านข้างให้วางตู้หรือชั้นวางของได้เพิ่มค่ะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าในชั้นนี้ 2.7 m.

ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 1 m. ยังถือว่าพอมีพื้นที่ให้ยืนเปิดหน้าต่างได้สบายๆ

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงระยะผนังกระจก กว้างประมาณ 1 m. เช่นกัน แต่เนื่องจากห้องด้านบนออกแบบให้ผนังส่วนใหญ่เป็นบานกระจก หากอยู่อาศัยจริงอาจจะต้องติดม่านหรือมูลี่เพิ่มเพื่อให้ห้องดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดหลังชุดตู้เสื้อผ้า จะเหลือพื้นที่ประมาณ 9.5 cm.

หน้าต่างอลูมิเนียมทำสีดำ บานใหญ่สูงตั้งแต่ถึงฝ้า เป็นกระจก Tinted laminated glass มีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน เหมือนกันกับห้องอเนกประสงค์ด้านล่างค่ะ

ที่ชั้นสองก็จะใช้ระบบแอร์เหมือนกันกับส่วนอื่นๆของตัวห้องค่ะ เป็น Concealed split type systems ฝ้าเพดานก็จะลดระดับและทำเป็นช่องงานระบบปรับอากาศมาให้เรียบร้อย ใช้รีโมตควบคุมเปิด-ปิด การใช้งาน

ผนังหน้าต่างบานกระจกที่ห้องนอนด้านบน ทำเป็นเปิดบานเลื่อนเดี่ยว กว้างประมาณ 2.6 m. สามารถเปิระบายอากาศหรือมองลงไปยังห้องชั้นล่างได้

ที่บริเวณพื้นภายในห้องนอนฝั้งผนังกระจก จะมีปลั๊กไฟ แบบซ่อนมีฝาปิดไว้ให้ 2 จุด ของ Bticino

ถัดเข้ามาจากส่วนพื้นที่ห้องนอนจะเป็นพื้นที่ Walk in closet อยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ มีพื้นที่ทางเดินกว้างประมาณ 95 cm. เพิ่มความสะดวกเมื่ออาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาเลือกเสื้อผ้าและแต่งตัวได้เลย ซึ่งพื้นที่ ที่ให้มาก็ไม่เล็กจนเกินไปค่ะ

ตู้เสื้อผ้า แบบ Built in ตัวตู้จะสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าค่ะ ออกแบบเป็นชั้นหลายระดับพร้อมราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า ซึ่งทางโครงการมีชุดตู้นี้ให้นะคะ

มีการแบ่งพื้นที่เก็บของแตกต่างกัน มีทั้งแบบเน้นการแขวนเสื้อผ้า และแบบลิ้นชักเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่ต้องการพับแยกไว้ให้ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะมีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและมีตู้กระจกสำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า

พื้นห้องน้ำจะลดระดับ 1 cm. รอยต่อระดับพื้นของห้องน้ำกับพื้นห้องมีตัวจบสแตนเลสเพื่อเก็บรอยต่อของพื้นเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง

แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสองฝั่งค่ะ ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนเปียกมีพื้นที่อาบน้ำและอ่างอาบน้ำ ส่วนทางขวามือจะเป็นโถสุขภัณฑ์และชุดอ่างล้างหน้า

ชุดอ่างล้างหน้าของ Cristina เหนืออ่างจะเป็นชุดตู้สำเร็จกรุกระจกด้านหน้า สามาถเปิดมาเก็บของชิ้นเล็กๆไม่ใหญ่มากได้ มีชั้นวางของด้านล่าง เป็นช่องใส่ของใต้อ่างและเป็นลิ้นชัก 2 ช่อง สามารถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำได้ค่ะ

เปิดชุดตู้กระจกด้านบนดู สามารถใส่ของใช้ต่างๆได้ ชุดตู้กระจกนี้จะมีความยาวตลอดแนวกำแพงของห้องน้ำค่ะ

ชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์แยกน้ำร้อน-เย็น ของ Cristina  ขนาดอ่างประมาณ 46 x 60 cm. อ่างมีพื้นที่รอบๆสำหรับวางของได้

ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟและสวิทช์ไฟภายในห้องน้ำเป็น ของ Bticino

ตู้ใส่ของด้านล่างอ้างล้างหน้า ทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของและอุปกรณ์ต่างๆ

ชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cristina  มีปุ่มกดน้ำอยู่ทางผนังทางด้านหลัง พร้อมที่ที่แขวนกระดาษทางซ้ายมือ เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง

มีปุ่มกดน้ำอยู่ทางผนังทางด้านหลัง มีปุ่มให้เลือกกดน้ำแบบหนัก-เบา

มีอ่างอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ ตัวอ่างจะยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 52 cm.

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูกระจกมาให้  ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.1 x 0.9 m. ที่บานเปิดประตูกระจก จะทำเป็นที่จับ  สแตนเลส สามารถไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ส่วนพื้นอาบน้ำจะลดระดับ 2.5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang โดยทางโครงการจะเลือกสีและรูปแบบของอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำเป็นโทนสีดำทั้งหมด

ด้านข้างผนังเจาะเป็นช่องสำหรับวางอุปกรณ์ของใช้ระหว่างอาบน้ำ

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้า ส่วนฝ้าเพดานห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบ Downlight พร้อมติดพัดลมดูดอากาศให้

ภายในห้องน้ำจะมีผนังฝั่งนึงเป็นหน้าต่างกระจกเต็มบาน สามารถมองลงมาเห็นพื้นที่ชั้นล่างได้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 May 2016

  • 1 Bedroom ชั้น 4 แบบ 1A เนื้อที่ 49 ตร.ม. ราคา 10.2  ล้านบาท
  • 1 Bedroom ชั้น 27 , 30 แบบ 1B เนื้อที่ 35 ตร.ม. ราคา 8.3 – 8.4 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ชั้น 3-23 แบบ 2A เนื้อที่ 87 ตร.ม. ราคา 14.7 – 18.2 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ชั้น 6-30 แบบ 2B เนื้อที่ 86 ตร.ม. ราคา 15.2 – 19.5 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ชั้น 7-12A แบบ 2C เนื้อที่ 74 ตร.ม. ราคา 13.3 – 14.3 ล้านบาท
  • 3 Bedroom Duplex ชั้น 33-43 แบบ L3A เนื้อที่ 130 ตร.ม. ราคา 30.1 – 33.8 ล้านบาท

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง ห้อง Loft 3.17 เมตร , ห้อง Sky Loft 5.7 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 10% ของราคาห้อง
  • ผ่อนดาวน์ 15% ประมาณ 30 งวด
  • ค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 85 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

Promotion

  • Pay 10% SPA by Credit Card
  • 3 night stay at klapsons The River Residence Bangkok value 60,000 THB for Deluxe room ( 1 Bedroom )

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ The Lofts Asoke ตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรี จัดเป็นทำเลที่อยู่ย่านใจกลาง CBD สำคัญย่านหนึ่ง ถึงแม้จะอยู่ค่อนไปทางใกล้เพชรบุรี แต่เป็นตำแหน่งที่ยังเป็นย่าธุรกิจสำคัญอยู่ ด้านศักยาภาพของพื้นที่ก็รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย และสถานศึกษาทั้งระดับมัธยมไปถึงอุดมศึกษาในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ถือว่าตั้งอยู่ในย่านที่เพรียบพร้อม ของกินของใช้มีอยู่รอบๆโครงการ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ในระยะเดินถึง ส่วนห้างสรรพสินค้าก็อยู่ไม่ไกลในระยะ 1-2 กม. ที่สำคัญใกล้กับแหล่งศูนย์กลางเมืองเดินทางไปทำงานสะดวกมาก ตัวโครงการอยู่ติดริมถนนและสามารถเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก แต่เป็นทำเลที่ใกล้รถไฟใต้ดิน และ Airport Rail Link ตัวอาคารตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่มีอาคารสูงขนาบทั้งสองข้างแต่ก็ไม่อยู่ในระยะประชิดมากนัก จึงมีวิวเปิดโล่งเพียง 2 ทิศทาง คือทางทิศตะวันออกและตะวันตก ที่จะไม่โดนอาคารสูงบดบังทัศนียภาพ แต่ทิศอื่นที่เหลือถ้าเลือกห้องความสูงเกินชั้นที่ 20 ขึ้นไปก็จะได้วิวเปิดเช่นกัน

การเดินทางโดยใช้รถ สามารถเลือกเส้นทางที่จะมาโครงการได้หลายเส้นทาง จากถนนเพชรบุรีมาเลี้ยวเข้าถนนอโศกมนตรี ตรงสี่แยกอโศก-เพชรบุรี หรือจะมาจากเส้นสุขุมวิท มาเลี้ยวซ้ายที่แยกอโศก ซึ่งถ้ามาจากเส้นทางนี้สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย เพราะตัวโครงการติดถนนอโศกมนตรีอยู่แล้ว แต่ถ้าออกจากโครงการจะเลี้ยวขวาไม่ได้เพราะมีการตั้งกรวยจราจรปิด ต้องเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปกลับรถแถวAirport Link มักกะสัน กรณีจะใช้ทางด่วนจากโครงการวิ่งไปจุดทางขึ้นทางด่วนศรีรัช (ไปทางจตุรทิศ,แจ้งวัฒนะ) แค่ประมาณ 700 เมตร เท่านั้น หรือถ้ามาจากทางแยกรัชดา-พระราม9 และมีจุดขึ้นอีกจุดหนึ่งจุดไป (พระราม 9,มอเตอร์เวย์) ให้เลือกใช้ แต่ก็มีข้อพึงระวังเป็นที่รู้กันเรื่องการจราจรติดขัดในย่านนี้ที่อาจจะหลีกเลี่ยงยากยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน ก็ต้องวางแผนเรื่องเวลาในการเดินทางให้ดีๆ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถจัดว่าสะดวกมากอยู่ห่างจาก MRT เพชรบุรี 200 ม. เป็นระยะที่เดินถึงสบายๆ หรือจะไปใช้ Airport Link มักกะสัน ก็ห่างไปประมาณ 400 ม. ซึ่งถ้าเดินเรื่อยๆอากาศไม่ร้อนมากก็พอเดินไหว แต่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเลือกใช้เส้นทางเรือ ขึ้นที่ท่าเรืออโศก ซึ่งห่างจากโครงการ ประมาณ 150 ม. ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางได้ ทั้งสะดวกและไม่ต้องเจอกับรถติดซึ่งก็จะมีผู้มาใช้บริการกันมากในชั่วโมงเร่งด่วน

การออกแบบของโครงการจากที่ดินประมาณ 1.5 ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เต็มพื้นที่ของที่ดิน จัดห้องได้ 211 ยูนิต เทียบดูในแต่ละชั้น จะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 7 ห้องต่อชั้น ซึ่งก็ดูแล้วไม่หนาแน่น เป็นส่วนตัวในแต่ละชั้น วางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันที่ชั้นล่าง และที่ชั้น 31 ของอาคารเกือบทั้งหมด และมีการกระจายพื้นที่สีเขียวไว้ตามชั้นอื่นๆ เพื่อผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกใช้งานเข้าถึงได้มากขึ้น  มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom , 2 Bed room และ Duplex  ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 35 ตร.ม. ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด  ด้วยความสูงของตัวอาคาร ทำให้ได้วิวและมุมมองเปิดกว้าง มีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เช่นการนำที่จอดรถอัตโนมัติมาใช้เพื่อเพิ่มพื้นที่จอดรถ

ในส่วนของการออกแบบและจัดพื้นที่ห้องพักอาศัย โครงการจะเน้นไปที่ห้องที่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 35 ตร.ม.ขึ้นไป จึงทำให้สามารถจัดพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้ดีและด้วยความสูงพื้นถึงฝ้า ห้อง Loft 3.17 ม. , ห้อง Sky Loft 5.7 ม. ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด การออกแบบห้องแบบหน้ากว้างและการใช้หน้าต่างกระจกบานใหญ่แต่ป้องกันความร้อนได้ทำให้รับแสงและวิวได้ดี ในส่วนของห้องตัวอย่างแบบ Duplex เน้นการจัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปยังส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร กว้างและดูโปร่งสบายให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เหลือพื้นท่ีให้ตั้งตู้หรือชั้นวางของอื่นๆได้ มีห้องเอนกประสงค์ที่ชั้นล่างสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ กรณีมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยห้องนี้สามารถจัดให้ท่านนอนได้เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บันไดไปชั้นบน ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกแห้ง จัดพื้นที่ส่วนครัวไว้น่าใช้มีที่เก็บของและส่วนเตรียมอาหาร ระเบียงกว้างสามารถใช้พักผ่อนชมวิวได้จริง และแบ่งพื้นที่ระเบียงเป็นสัดส่วนให้วาง Compressor หรือใช้ตากผ้าก็ได้ มีระแนงบังสายตาจากภายนอกให้ โดยรวมจัดพื้นที่ได้ลงตัวเหมาะกับการใช้งาน แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังในการใช้งาน เช่น พื้นที่ห้องครัวที่เป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารเบาๆมากกว่าไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นและควันเยอะๆ พื้นที่สำหรับห้องนอนชั้นบนจัดพื้นที่มาให้น้อยไปหน่อย บันไดช่วงพาดเดี่ยวแบบไม่มีชานพัก แต่ในการใช้งานจริงควรจะมีชานพักก่อนก้าวเข้าห้องนอนชั้นบนสักหน่อยเพื่อเพิ่มระยะพื้นที่สำหรับยืนหยุดพักรอหน้าห้อง ช่วยเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น

วัสดุเน้นการออกแบบจาก Concept ” Industrial Loft Style” ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ และมี Material design วัสดุตกแต่งภายในห้อง ให้เลือกได้อีก 3 แบบ ที่จะให้โทนสี Mood and tone แตกต่างกันออกไป ทางโครงการเลือกใช้พื้นกระเบื้องเซรามิคลายไม้ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดี วัสดุมีความแข็งแรงและทำสีมีความเหมือนไม้จริง ผนังเป็น Feature wall เป็นผนังทำสีและลายพิเศษเหมือนกับโหละสีสนิม ตามConcept ของโครงการ ซึ่งอันนี้เราสามารถเลือกวัสดุแบบอื่นได้  แต่โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted น่าจะเหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง ที่โครงการมีให้ คือ ชุดตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน , ชุดครัวและชุดอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำ ในส่วนของชุดอุปกรณ์ต่างๆที่ได้ ชุดครัว Built-in พร้อมชุด Island couter เป็นหิน Mable สีเทาดำ  ผนังส่วนครัวเป็นกระเบื้อง เหมาะกับการประกอบอาหาร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ให้ชุดเตาแบบแม่เหล็กและ Hood ดูดควันของ Smeg , Siemens หรือเทียบเท่า ในส่วนของห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้น Design ใช้โทนสีดำ แตกต่างจากโครงการทั่วไป  เหนืออ่างจะเป็นชุดตู้สำเร็จกรุกระจกด้านหน้า หน้าต่างกระจกบานใหญ่ลดความร้อนและป้องกันเสียง ซึ่งเหมาะกับห้องที่ต้องการเน้นเห็นวิวจากหน้าต่างกระจก ห้องจะไม่ร้อนและเงียบจากสิ่งรบกวนภายนอก ในส่วนของควรเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี

สาธารณูปโภคของโครงการ Facility มีให้เลือกใช้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ชั้นล่างของตัวอาคาร จะประกอบ Triple volume ceiling lobby , Residential lounge & workspace , Fitness และ Library ส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. จะอยู่ที่ชั้น 31 ว่ายน้ำมองเห็นวิวเมือง และมี Steam room แยกห้องอาบน้ำไว้ให้ และ Sky garden and Sun decks ให้ด้วย ในส่วน Landscape จะมีอยู่บริเวณรอบพื้นที่ส่วนกลาง และที่ระหว่างชั้นต่างๆ ที่ชั้น 4 , 31 , 35 , 39 เพื่อกระจายพื้นที่ให้สามารถเข้าในง่ายได้ทั่วถึงกันมากขึ้น โครงการใช้ระบบจอดรถแบบ Automated carpark ช่วยประหยัดพื้นที่ และทำให้สามารถจอดรถได้ 100% ลิฟต์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 70.3 : 1 ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นไปนิดเมื่อเทียบกับระดับราคา

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 200,000 บาท/ตร.ม., 19 May 2016

  • ทำเล 8/10 – ทำเลกลางเมืองใกล้แหล่งธุรกิจ
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวกเชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย แต่ต้องระวังเรื่องรถติด
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน
  • วัสดุ 8.5/10 – วัสดุเน้น Design ตาม Concept ของโครงการ และมีมาตราฐานในเกณฑ์ดี
  • แบบ 8/10 –  การออกแบบที่แตกต่างจากทั่วไป มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีความหลากหลายและน่าใช้งาน

  • LUXURY CLASS
  • 7.91 / 10.00

BOTTOM LINE

The Lofts Asoke เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในเมืองย่านอโศก ใกล้ย่านธุรกิจและแหล่งงาน ที่มีความ Private สามารถเลือกใช้รถส่วนตัวหรือใช้รถไฟฟ้าใต้ดินได้ เป็นคนที่ชอบการออกแบบที่แตกต่าง มีสไตล์ ซื้อของตามความต้องการไม่ใช่ตามตลาดที่เขานิยม สนใจเนื้อ Product และรายระเอียดของวัสดุ มีงบประมาณระดับ 8.3 – 33.8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 80,000 – 200,000 บาท/เดือน 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )