รีวิวโครงการ

The Sneak แอบย่องส่องอสังหาฯ EP.10 – The Line จตุจักร-หมอชิต คอนโดวิวสวน 700 ไร่

1 กันยายน 2018

อ่านรีวิวล่าสุด

FB-Cover2-3-4_re2

รีวิวฉบับที่ 836 … หลังที่มีกระแสข่าวมาว่า Sansiri จะร่วมมือกับ BTS Group พัฒนาอสังหาฯในอัตราส่วนคนละครึ่งแล้ว หลายคนคงอยากรู้ว่าตัวโครงการจะออกเป็นอย่างไร ซึ่งทางทีมงานก็ได้พาไปดูทำเลมาเรียบร้อยแล้ว (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน) วันนี้ผมจะพาไปดูในส่วนของตัวโครงการและห้องตัวอย่างที่ตั้งอยู่บนที่ดินของโครงการกันครับ ห้องตัวอย่างก็มีให้ดูถึง 3 แบบเลย แต่ผมจะพาไปดูกันแค่ 2 แบบก่อนนะ

 

Fact @ 14 May 2015

  • THE LINE Jatujak-Mochit(เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต)
  • บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้งวัน จำกัด 
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : จตุจักร
  • คอนโด High Rise 43 ชั้น 1 อาคาร 841 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 420 คันคิดเป็น  50% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น xx%
  • ที่ดินประมาณ 4-2-95 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.พ. 2018
  • 1 Bedroom 25.25 – 43.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท 668 ยูนิต
  • 2 Bedrooms 53.5 – 66 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท 134 ยูนิต
  • 3 Bedrooms 77.75 – 85.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท 34 ยูนิต
  • Duplex 102.5 – 105.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.5 ล้านบาท 5 ยูนิต
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ช่วงราคา 4 – 20 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาทหรือประมาณ 158,415 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • http://www.sansiri.com/
  • Call Center : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.806244, 100.556048

TheLine_Area_Map**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ขอเล่าคร่าวๆละกันครับว่าทำเลนี้มีจุดเด่นเรื่องอะไร อย่างแรกเลยคืออยู่ใกล้สวนจตุจักรที่มีทั้งสวนสาธารณะและแหล่ง Shopping ขนาดใหญ่อยู่ติดๆกัน ตำแหน่งที่ตั้งนั้นถือว่าได้วิวที่ดีกว่า M Jatujak แน่นอนเพราะอยู่ทางฝั่งสวนสาธารณะพอดีไม่ใช่ฝั่งตลาดนัด อีกเรื่องที่เป็นจุดเด่นคือใกล้รถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ในระยะที่เดินได้ประมารณ 350 – 400 เมตร แถมโครงการยังจะทำ Sky Walk เชื่อมต่อไปยังตัวสถานีอีกด้วยทำให้ลูกบ้านใช้งานสะดวกมากขึ้น แต่จะทำได้สำเร็จหรือไม่นั้นคงต้องให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะครับ

สำหรับถนนหนทางของทำเลนี้นอกจากจะใกล้ 5 แยกลาดพร้าวแล้วจะมีทางลัดซอยข้างๆ(ซ.พหลโยธิน 18/1)ให้ใช้อยู่ ซอยนี้เอาไว้ไปทะลุวิภาวดีขาออกและเส้นสุทธิสารได้ แต่ถ้าใครใช้เส้นพหลมาจากในเมืองต้องไปกลับรถที่ 5 แยกนะ ซึ่งรถก็ติดหนักอย่างที่รู้ๆกันอยู่

ลองเอาผังใส่ลงไปให้ดูในแผนที่จริงกัน จะเห็นว่าตัวอาคารออกแบบมาให้รับกับวิวสวนอย่างเต็มที่โดยพยายามให้ทุกห้องที่หันด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อให้ได้วิวสวน สำรับทิศเหนือจะที่เป็นอาคารสำนักงานสูงๆโครงการนี้ก็เบี่ยงกันเต็มที่ เลยไม่มีห้องไหนหันไปปะทะด้านนั้นตรงๆ ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้จะโล่งอยู่เหมือนกันเพราะมีแค่อาคารของไทยรัฐกับช่อง 7 ที่ไม่สูงมากนัก ตึก SYM กับ เล้าเป้งง้วน ก็เป็นวิวเฉียงๆ สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสว่าต้องเอาวิวสวนก็เลือกด้านนี้ได้นะครับจะได้วิวเมือง

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Central ลาดพร้าว – 3.3 กม.
  • Tesco Lotus – 3.7 กม.
  • Union Mall – 3.7 กม.
  • โรงพยาบาล เปาโล – 1.7 กม.
  • ตลาด อตก. – 1.4 กม.
  • ตลาดนัดสวนจตุจักร – 0.7 กม.
  • กรมการขนส่งทางบก – 0.8 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

เรามาเริ่มกันที่สำนักงานขายกันก่อนนะ ตัวสำนักงานขายสร้างอยู่บนพื้นที่เดิมที่เป็นธนาคารอิสลามตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสนง.ขายเรียบร้อยแล้ว สังเกตตรงรั้วดีๆนะครับ เพราะของจริงเค้าก็จะใช้แนวการออกแบบเป็นแนวๆนี้เลย

ส่วนต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เค้าจะเก็บไว้แบบนี้แหละ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะต้นใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้หาง่ายๆนะครับ

ถ่ายมาให้ดูอีกด้านจะเห็นว่ารั้วถูกร่นเข้าไปในที่ดิน แล้วแนวกำแพงเส้นๆจะยื่นออกมาแบบนี้เลย เดี๋ยวตอนดูโมเดลก็จะเห็นแบบนี้เหมือนกัน

เข้ามาภายในสำนักงานขายจะเห็นการตกแต่งที่ใกล้เคียงกับ Lobby ของจริงทั้งการประเภทของวัสดุและโทนสี การตกแต่งแบบนี้จะใช้ Concept ที่เรียกว่า New York Loft ครับ อย่างที่รู้กันว่าสไตล์ Loft คือจะเน้นการโชว์วัสดุเปลือยๆกันให้เห็น ทั้งเหล็ก ปูนเปลือย หรือไม้ แต่การผสมผสานสไตล์ New York เข้าไปเป็นการเพิ่มความหรูหราให้มากขึ้น โดยใช้วัสดุประเภทหนัง และโทนสีทองมาร่วมด้วย ทำให้ Mood & Tone ดู Luxury มากขึ้น

ตัวโมเดลจะตั้งแยกออกมาต่างหากด้วย Scale 1:125 ใหญ่พอให้เลือกดูห้องทิศต่างๆได้สะดวกขึ้น

ตัวอาคารออกแบบมาให้รับกับวิวสวนหลุมอย่างเต็มที่ รูปแบบอาคารเลยมาเป็นแนวตัว L ที่ทำมุมเปิดกว้างจนเกือบจะเป็นตัว I แล้ว หน้าตาตัวอาคารจะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่น่าสนใจอยู่เดี๋ยวเราไปดูจากโมเดลกันเลยดีกว่าครับ

ถ่ายมาให้ดูแบบมุมเงยจะได้พอจินตนาการออกว่าถ้ามองจากความสูงคนเดินจะเป็นประมาณไหน ตัวอาคารไม่ได้มีอะไรหวือหวามากแต่จะ Facade หรือรูปด้านของตึกจะมีกันสาดทรงโค้งยื่นสลับกันไปมาสลับสีระหว่างขาวกับเหลืองๆทองๆ เห็นแล้วก็สงสัยว่านี่ตั้งใจหรือบังเอิญทำให้ล้อไปกับ Equinox นะครับฮ่าๆๆๆ จริงๆคงไม่เกี่ยวกันหรอกครับแต่อยากแซวหน่อย

ถ้าดูจากผังแล้วจะเป็นเห็นว่าห้องที่หันทางทิศตะวันตกแบบตรงๆเลยนั้นไม่มีนะ ทำให้ไม่มีห้องที่โดดแดดแบบจังๆ แต่ใครอยากได้วิวสวนก็คงยังต้องโดนแดงส่องอยู่ดี ส่วนอีกด้านของอาคารจะหันไปทางทิศตะวันออกกับทิศใต้ ด้านตะวันออกจะโดนแดดไม่เยอะแต่วิวถือว่าด้อยกว่าส่วนอื่นๆเพราะจะเห็นคอนโด SYM และอาคารสำนักงาน เล้าเป้งง้วนและตึก Bangkok Airways เต็มๆ ส่วนอาคารแถวๆตึกซันไม่มีวิวห้องไหนที่หันไปทางนั้นนะ ส่วนทิศใต้จะโดนแดดเยอะแต่วิวก็ยังถือว่าดีเพราะมีแค่อาคารตึกของ BTS ช่อง 7 และไทยรัฐ เท่านั้นและมีความสูงไม่มากเท่าไหร่ ชั้น 20 ขึ้นไปก็น่าจะโล่งๆอยู่ โดยรวมแล้วถือว่าแสนทำการบ้านมาพอสมควรเพราะพยายามวางผังอาคารให้หลบมุมกันเต็มที่เลย

ผัง Master Plan จะเห็นว่ามีพื้นที่ด้านหน้าที่แหว่งไปหน่อยนึง พื้นที่ตรงนี้บางส่วนยังคงเป็นอาคารพาณิชย์เดิม แต่ส่วนนึง Sansiri จะทำเป็น Mall เล็กๆพร้อมทั้งมีทางเชื่อมต่อไปสถานี BTS ได้

ทางเข้าหลัก จะอยู่ติดกับด้านหน้าที่ได้บริษัท Landscape อย่าง SHMA เป็นผู้รับหน้าที่ออกแบบ Facilities ของโครงการนี้ รูปทรงจะสวนจะมี Pattern ที่เป็นเส้นน้ำสายตาเข้าไปในส่วน Lobby แบบ Out Door จุด Drop-off อยู่ตรงกลางอาคารและมีส่วนที่อยู่ใต้อาคารพอดี ช่วยให้เวลาฝนตกมาส่งแฟนก็ไม่ต้องกลัวแฟนตัวเปียกครับ ^___^

TheLine_Plan02

ส่วนกลางอื่นๆในชั้นแรกนอกจากสวนหย่อมขนาดใหญ่แล้วจะมี Jogging Track รอบๆโครงการมาให้มีระยะประมาณ 300 เมตรได้แต่คนที่วิ่งแบบจริงจังหรือไกลกว่านี้ก็เดินไปฝั่งตรงข้ามดีกว่า เพราะได้วิ่งในสวนแบเต็มที่ไปเลย โซน Multi-Purpose ที่เป็นแบบ Semi Outdoor จะมีห้อง Library, Meeting Room และ Business Lounge ให้ใช้งาน ส่วน Facility หลักๆจะไปอยู่ที่ชั้น 7-9 และมีที่ชั้นบนสุดอีกจุด

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 7 เป็นซีกขวาครึ่งนึง ด้านซ้ายจะเป็น Facilities ทั้งหมดมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ยาวเกือบเท่าโอลิมปิกโดยมีขนาด 40 x 6 ม. และมีส่วนที่เชื่อมต่อกับสวนเป็นจุดชมวิวสำหรับคนที่ไม่ต้องการตัวเปียก ซึ่งมีห้องพักหันมาด้านนี้พอดีถ้าโครงการทำระดับพื้นให้ไม่เท่ากันและมีไม้พุ่มบังไว้หน่อยก็จะช่วยเรื่่องความเป็นส่วนตัวได้ อีกฝั่งนึงของชั้นนี้จะมีสวนที่เป็นแบบ Out Door เชื่อมต่อกันทั้งหมด เป็นพื้นที่แบบ Semi Outdoor ซะเป็นส่วนใหญ่

TheLine_Plan03

ผังชั้น 8 ยังคงมี Facility อยู่บางส่วนด้านซ้ายจะเป็นห้อง Fitness แบบ Double Space ส่วนห้อง Kids Room จะเป็น Triple Space ต่อเนื่องไปถึงชั้น 9 เลย ลูกบ้านที่อาศัยอยู่ชั้นนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวไปนะเพราะค้ามีประตูกั้นแยกส่วนที่พักอาศัยมาให้อย่างชัดเจน

TheLine_Plan04

ส่วน Facility ที่ชั้นสูงสุดหรือชั้น 41 จะเป็น Sky Pavilion เน้นการใช้งานที่เป็นส่วนตัวด้วยที่นั่งแบบ Sunken Seat เอาไว้ชมวิว และมีโซนจากุชชี่เอาไว้นั่งจิบเครื่องดื่มไปด้วยในตัว โซนนี้จะเน้นการใช้งานที่วัยรุ่นๆหน่อยใช้งานได้แบบทั้งตัวเปียกและไม่เปียกสามารถเลือกได้หมด หรือถ้าสร้างเสร็จแล้วนิติให้จัด Private Party ได้นี่สบายเลยฮ่ะ ท่านผู้โช้มมมม

มาอธิบายด้วยโมเดลไปด้วยดีกว่าจะได้เห็นภาพมากขึ้น เริ่มกันที่ทางเชื่อมจาก BTS ที่ผมขีดคร่าวๆไว้เป็นสีน้ำเงินความสูงจะยกขึ้นให้ผ่านระยะวิ่งของไฟฟ้าไปเลยแล้วไปเชื่อมต่อที่ชั้น 5 ตรง Shop Mall สูง 6 ชั้น สำหรับอาคารพาณิชย์ส่วนที่เป็นสีแดงคือห้องที่แสนสิริไม่ได้ซื้อไว้ ที่พี่แสนซื้อไว้คือห้องแรกที่จะทำเป็น 7-11 เว้นไป 2 ห้อง จะเป็น 5 ห้องติดกันที่ทำเป็น Shop Mall คนที่เดินมาเข้าตรงนี้ต้องไปที่ชั้นล่างแล้วใช้ทางเข้าโครงการจากด้านหลังอีกที ตอนฝนตกทางเดินส่วนนี้ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลย คนที่สงสัยว่าแล้วตัว Mall จะเปิดปิดให้เข้า/ออกตลอดเวลาเลยรึเปล่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่แน่นอนออกมาแต่ที่แน่ๆคือจะต้องเปิดและปิดในเวลาทำการ BTS แน่นอน ส่วน 24 ชม.หรือไม่นั้นต้องรอตอนเปิด Shop จริงๆแล้วถึงจะรู้ครับ

ถ้าใช้ทางเข้าจาก Shop Mall ไม่ได้ก็มาใช้ทางเข้าปรกติได้นะครับ ส่วนการเดินรถจะมีจุด Drop-off ที่บอกไปว่าเอาไว้ในใต้อาคารด้วยถือว่าออกแบบมาดีนะ

สวนหย่อมที่ได้จะเป็นส่วนขนาดใหญ่พอสมควร มีเส้นสายของ Landscape และ Hardscape เป็นตัวนำสายตาไปสูพื้นที่ Multi Purpose Room

ทางขึ้นที่จอดรถสำหรับลูกบ้านจะอยู่ตรงด้านหลังของอาคารพาณิชย์พอดี

ส่วนที่รถสำหรับแขกจะมีให้ 2 จุดคือด้านหลังโครงการและด้านข้างสวนหย่อม

สำหรับบุคคลภายนอกที่จอดรถตรงนี้จะสามารถเดินทะลุไปยัง Lobby ได้เลย

พอเดินทะลุมาแล้ว Lobby จะอยู่ตรงกลางบริเวณจุด Drop-off พอดี

ที่นี้มาดูส่วนกลางหลักบนชั้น 7 กันบ้าง ตัวสระว่ายน้ำที่เป็น Lab Pool มีขนาด 40 x 6.4 ม.เกือบจะได้ความยาวเท่าสระโอลิมปิกเลยแต่หน้าแคบไปหน่อย ถ้าดูส่วนที่เป็นตัวสระทั้งหมดรวมโซนจากุชชี่ด้วยจะมีขนาด 44 x 8.8 ม.

สำหรับ Game Room, ห้องน้ำ, ห้องแต่งตัว และ Kids Room แบบ Triple Space จะอยู่ที่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ห้อง Fitness จะไปเริ่มต้นที่ชั้น 8 เป็น Double Space บรรยากาศโดยรวมจะเป็นอย่างที่บอกไปคือเน้นออกแบบ Semi Outdoor  ให้ฟังก์ชันต่างๆได้วิวสวนรอบๆในพื้นที่ด้วย

ตำแหน่งของสระจะได้วิวสวนไปด้วยโครงการเลยทำจุดชมวิวมาให้สำหรับคนที่อยากดูวิวแต่ไม่ต้องการให้ตัวเปียก ทางเดินไปยังจุดชมวิวยังเป็นประโยชน์ให้กับลูกบ้านที่อยู่ชั้น 7 ปีกขวาด้วยเพราะเป็นเหมือนตัวกั้นให้เกิดความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีสวนและบ่อน้ำ(ว่ายน้ำไม่ได้)เป็นตัวขั้นให้อีกที

ภาพบรรยากาศจำลองในส่วนของสระว่ายน้ำ

ที่ชั้นบนสุดจะเป็น Sky Pavilion แบบ Double Space อีกเช่นกัน

ภาพบรรยากาศจำลองจะเห็นว่าแต่ละช่วงเสาจะมีที่นั่งแบบ Sunken มาให้ ลูกบ้านจะมาใช้งานก็ยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่เพราะเสาจะคอยบังให้ระดับนึง ส่วนที่เป็นจากุชชี่จะอยู่ด้านขวาสุดนะครับ

TheLine_FC_01

ภาพบรรยากาศจำลองส่วน Sunken Seat

ผังแต่ละชั้นของอาคารนี้จะเหมือนกันหมดยกเว้นแฟงกันสาดที่ยื่นออกมาไม่เท่ากันแต่โดยรวมแล้วการวางตำแหน่งห้องจะเหมือนกัน ผมขอเอาตัวอย่างมาให้ดูสัก 2 แบบนะครับ ผังนี้เป็นของชั้น 10, 12, 22, 32 ใช้แบบเดียวกัน ถ้าดูจากสีของแต่ละแบบแล้วห้องขนาดเล็กจะถูกวางให้หันไปทาง City วิวหรือฝั่งถนนวิภาวดีนั่นเอง ส่วนห้องที่อยู่ทางวิวสวนจตุจักรจะเป็นห้องขนาดใหญ่กว่า

ผังชั้น 11, 21, 31 แบบห้องยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ตำแหน่งลิฟท์อยู่ตรงกลางอาคารพอดีห้องที่อยู่ริมสุดทั้ง 2 ด้านมีระยะเดินพอๆกันไม่ได้มีปัญหาอะไร ลิฟท์โดยสารให้มา 5 ตัวและลิฟท์ Service มาให้หนึ่งตัว อัตราส่วนลิฟท์ของโครงการอยู่ที่ 168 : 1  ถ้าเทียบกับโครงการใกล้เคียงอย่าง M จตุจักร อัตราส่วนจะอยู่ที่ 144 : 1 ก็ถือว่ายังใกล้ๆกันอยู่ไม่ห่างกันมาก  แต่ด้วยราคาเริ่มต้นระดับประมาณ 170,000 บาท/ตร.ม. น่าจะได้ตัวเลขอัตราส่วนลิฟท์น้อยกว่านี้นะ

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูอยู่ที่ชั้น 2 ทั้ง 2 ห้องเลยแต่ด้านล่างเค้ามีห้องตัวอย่างแบบเล็กสุดมาให้ดูด้วย ซึ่งยังไม่ได้ถ่ายมาให้ดูนะครับเพราะเค้ายังเก็บงานกันไม่เสร็จเลย

ได้แต่ถ่ายด้านหน้ามาให้ดูเป็นน้ำจิ้มกันไปก่อน

ถ้าใครมีผู้สูงอายุในใจโครงการนี้ทางโครงการเค้าก็มีลิฟท์เตรียมพร้อมมาให้ด้วยนะครับจะได้ไม่ต้องให้ท่านเดินขึ้นบันไดลำบากๆ

แต่หนุ่มๆสาวๆอย่างเราขอเดินขึ้นบันไดดีกว่าครับ

ห้องแรกที่เจอเป็นห้องแบบ 1B-1  ขนาด 34.75 – 35.75 ตร.ม.ครับ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 40 x 6.4 ม.(Lab Pool), มีโซนจากุชชี่
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องแบบ Double Space ขนาด n/a ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/aเครื่อง
  • Kids Room แบบ Triple Space
  • Library
  • Meeting Room
  • Business Lounge
  • Game Room
  • Sky Pavilion พร้อมจากุชชี่ที่ชั้น 41
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 5 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 168 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 420 คันคิดเป็น  50% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น xx%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

THeLine_PlanRoom_1BR_resize

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 34.25 – 34.75 ตร.ม. ถือว่าเป็นขนาดหนึ่งห้องนอนที่กำลังดีนะไม่เล็กเกินไปยังพออาศัยอยู่ได้ 2 คนแบบไม่อึดอัดมาฟังก์ชันหลักๆมีมาให้ครบอยู่แล้ว ส่วนที่ได้วิวคือห้องนอนกับครัวห้องนั่งเล่นจะติดกับโถงทางเดิน ระยะดูทีวีถือว่าทำได้ดีใส่ทีวีได้ใหญ่หน่อย ครัวที่ได้เป็นครัวปิดเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารไม่ต้องกลัวกลิ่นไหลไปห้องอื่น แต่ถ้าใครอยากได้เป็นครัวเปิดเป็นคนไม่ได้ทำอาหารหนักอยู่แล้ว เค้าก็มีแบบครัวเปิดให้เลือกอยู่นะ

บานประตูด้านหน้าจะเป็นลายไม้สีอ่อนๆแบบนี้

กลอนประตูแบบ Digital Door Lock แบบก้านโยกของ Samsung ถึงจะไม่ใช่ตัว Top แต่รูปทรงดูทันสมัยสวยอยู่

โซนแรกที่เจอจะเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนแอร์ที่แถมให้มาจะเป็นแบบ Ceiling Concealed Type ติดตั้งมาให้เลยดูเรียบร้อยดี

พื้นที่หน้าห้องเหลืออยู่ไม่เยอะพอวางโซฟาแบบ 2 ทื่นั่งได้พอดีๆ แต่ถ้าวางตู้เก็บรองเท้าไปก็จะแน่นๆพอดีๆ

พื้นที่วางทีวีก็ทำได้เต็มแนวกำแพง วางทีวีได้ Center อยู่แล้วไม่มีปัญหา

ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 ม.ใส่ทีวีขนาด 52″-55″ ได้สบายๆ

สำหรับฟังก์ชันเจ้าปัญหาอย่างโต๊ะกินข้าวที่มักจะหาที่วางไม่ได้สำหรับแบบ 1 Bed ไม่เกิน 35 ตร.ม. ก็มีที่ให้วางแบบ 2 ที่นั่งได้แต่ตัวโต๊ะต้องไม่ใหญ่มากและถ้าจะนั่งหันหน้าเข้าหากันต้องเสียพื้นที่ทางเดินไปบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร

พื้นห้องจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนครัวได้เป็นกระเบื้องแบบ Homogeneous สีดำ

ประตูได้เป็นประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมทำสี Powder Coated สีเทาเข้ม ลองปิดเปิดดูแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีให้ความรู้สึกแน่นไม่ก๊อกแก๊ง แถมได้แบบ 3 ตอนระยะการเดินเข้าออกทำได้สบายๆเลย ตอนยกกับข้าวออกมาไม่ต้องกังวลเรื่องจนประตูเลย

ขนาดครัวจะมีพื้นที่ให้ขยับตัวทำกับข้าวได้ไม่ลำบาก เพราะเป็นครัวขนาดเล็ก มีพื้นที่ให้วางตู้เย็นไว้ด้านนอกสุดเผื่อว่าใครอยากหยิบขนมกินง่ายๆก็เดินไม่ใกล้ๆ

การแบ่งช่องเปิดเป็นตามมาตรฐานของครัวขนาดเล็กมีช่องใส่ไมโครเวฟด้านล่าง ลิ้นชักมีช่องใส่ช้อม ส้อม และแผ่นกันลื่นมาให้ หน้าบานทุกบานติดตั้ง Soft Close มาให้บาน Swing จะเป็นรุ่นที่ต้องเปิดกว้างเกิน 45 องศาไปแล้ว Soft Close ถึงจะเริ่มทำงาน

ชุดครัวของที่นี่ใช้ Starmark ตัวหน้าบานจะเป็น High Pressure Laminate มีผิวสัมผัสที่ไม่เรียบนะครับแต่จะมี Texture ขรุขระนิดหน่อยให้อารมณ์คล้ายๆหนัง แต่ลองจับดูแล้วก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่นะ อันนี้คุณผู้อ่านลองไปจับลูบดูหละกันนะ บอกยาก ที่ชอบหน้าบานชุดนี้คือถึงแม้จะใช้โปรไฟล์อลูมิเนียมมาทำเป็นมือจับแต่เอาใจใส่ในรายละเอียดให้มีแผ่นไม้ปิดตรงอลูมิเนียมไม่ให้สีเงินๆโผล่ออกมา ถือว่ามีรายละเอียดที่ดีครับ

Top จะได้เป็นหินแกรนิตดำ ได้เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน(ดูดออกภายนอก) และอ่างล้างจานของ Mex ทั้งหมด Back Splash เป็นกระเบื้อง Porcelain ขนาดใหญ่ช่วยลดรอยต่อของกระเบื้องไปได้เยอะไม่ต้องกังวลกับคราบน้ำมัน หรือสกปรกตรงร่องกระเบื้องมากนัก ส่วนชั้นวางแก้วกาแฟที่เห็นก็ให้มาด้วยนะเอาไว้วางขวดนู่นนี่นั่นได้

ตู้ชุดบนได้หน้าบานเป็นกระจกเงาและหน้าไม้สีธรรมชาติอย่างละครึ่ง

ทางออกไปยังระเบียงยังคงใช้บานเปิดแบบเดียวกับทางเข้าห้องครัว เข้าออกง่าย

พื้นจะลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1 x 1.5 เมตรพอวางราวตากผ้าได้อันนึง

ด้านข้างมีงานระบบรองรับเครื่องซักผ้ามาให้แล้วแต่ที่ห้องตัวอย่างไม่ได้ติดคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้ดูเลยดูโล่งๆแต่ของจริงจะแน่นๆพอดีๆ

กลับมาดูที่ห้องนอนต่อนะครับ

ห้องนอนแบบนี้จะมีจุดเด่นที่ได้กระจกแบบ Bay Window เข้ามุมอย่างที่เห็นฝ้าเพดานห้องนี้อยู่ที่ 2.7 ม. เป็นระยะจากพื้นที่ขอบหน้าต่างด้านบนพอดีไม่รวมกับส่วนที่ซ่อนรางม่านนะ

วางเตียง 6 ฟุตมีพื้นที่เหลือรอบๆให้เดินได้สบายๆ อย่างปลายเตียงจะเหลือประมาณ 80 ซม. ถ้าจะติดทีวีก็แขวนแบบห้องตัวอย่างเลยครับไม่เปลืองที่ดี

ระยะเหลือพื้นที่ข้างเตียง

ตรงมุมนี้จะวางเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ หรือจะวางเป็นโซฟาแบบ Daybed เอาไว้นั่งอ่านหนังสือชมวิวก็แล้วแต่สะดวกครับ

ผนังที่อยู่หัวเตียงไม่ได้ให้มานะผนังห้องจริงเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีขาว

ทางเข้าไปห้องน้ำพอวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ตัวนึง และตู้เสื้อผ้าที่แถมมาให้จะเป็นพื้นที่อีกฝั่งใช้วัสดปิดผิวเหมือนกับตู้ในห้องครัวเลย

บานประตูตู้เป็นบานกระจกเลื่อนสลับ

มีลิ้นชักให้ 3 ชั้น

ห้องน้ำให้มากว้างดีสำหรับห้องแบบ 1 Bed ไม่ค่อยอึดอัดแต่จะเข้าได้ทางเดียวจากห้องนอนนะ

ธรณีให้มาดีเหมือนกันเป็นหินแกรนิตไม่ต้องกลัวเรื่องความชื้น

ตัวอ่างกับกระจกเงาให้มาทั้งชุดแบบนี้เลย

ผนังมี Low Wall ให้วางของเพิ่มได้จุดนี้ออกแบบค่อนข้างดีดูน่าใช้งาน Top เคาน์เตอร์ได้หินแกรนิตดำเช่นกัน

ตัวตู้ใต้อ่างออกแบบมาน่าใช้ดีมีช่องเล็กๆเก็บของกระจุกกระจิกได้ดี มีงานระบบรองรับเครื่องทำน้ำร้อนมาให้อยู่แล้ว ขนาดของอ่างก็โอเคแต่น่าเสียดายที่วัสดุอ่างเป็น Fiber Glass Gel-coat  ไม่ใช่เซรามิค

ตู้กระจกเงาด้านบนสามารถเก็บของได้อีกเพียบ

ด้านบนโถสุขภัณฑ์แอบเจาะช่องเพิ่มไว้ให้อีก โดยรวมแล้วถือว่าห้องน้ำให้ที่เก็บของมาเยอะดีลูกบ้านแทบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย

กระจกกั้นโซนเปียกที่ให้มาเป็นแบบเปิดเข้าด้านในช่วยให้ไม่เลอะเทอะออกมาด้านนอกเวลาใช้งาน พื้นที่อาบน้ำประมาณเมตรคูณเมตรยืดแข้งขาสบายๆ

ฝักบัวขนาดกลางให้มายกชุดพร้อม Rain Shower

ห้องน้ำจะมีซ่อนไฟมาให้ด้วย

THeLine_PlanRoom_2BR_resize

ต่อไปเป็นแบบ 2 ห้องขนาด 62.25 ตร.ม. เป็นห้องแบบหน้ากว้าง การแบ่งโซนจะให้พื้นที่ส่วนรวมอยู่ตรงกลางดันห้องนอนไปไว้ทั้ง 2 ข้าง ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีขนาดใกล้ๆกันเลยแต่ห้องนอนใหญ่จะใหญ่กว่านิดหน่อย พื้นที่ห้องนั่งเล่นได้ระยะทีวีถึง 4 ม.อยากจัดทีวีขนาดใหญ่กว่า 60″ ได้สบายๆ โต๊ะกินข้าวได้แบบ 4 ที่นั่งแต่ครัวจะเป็นครัวเปิดนะเพราะเอาไว้หน้าห้องติดกับโถงทางเดิน

ถ้าถามว่าการกั้นเป็นครัวทำได้ไหม๊ คำตอบคือได้ครับแต่ต้องยอมเสียพื้นที่ทางเดินไปพอสมควรและเบียดพื้นที่ห้องนั่งเล่นไปหน่อย แนะนำว่าทำเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ไปเลยแล้วให้ซ่อนอยู่แนวประตูห้องนอนใหญ่จะดีกว่า ส่วนห้องน้ำได้ 2 ห้องมีห้องนึงที่เป็น Double Access ด้วยสะดวกต่อการใช้งานดี

โซนแรกเป็นห้องครัวและโต๊ะกินข้าว บรรยากาศจะใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด ดูๆแล้วน่าใช้งานกว่าเยอะ

ระยะเหลือเยอะนะตรงนี้แนะนำให้ทำตู้เก็บของด้านหลังเพิ่มได้ แล้วขยับโซฟาขึ้นมาอีกหน่อย

พื้นที่ติดตั้งทีวีตรงนี้ทำตู้ Built-in แบบนี้ก็ได้ครับ ผมว่าไหนๆก็ได้ระยะมาเยอะขนาดนี้แล้วเอาทีวีใหญ่กว่าในห้องตัวอย่างก็ได้นะ  42″ ดูจะเล็กไปเยอะ

บานประตูไประเบียงจะได้เป็นบานเลื่อนสลับ

กรอบยังคงเป็นแบบ Powder Coated สีเทาเหมือนเดิมดูแข็งแรงดี

ระยะระเบียงจะได้มาเกือบเต็มหน้ากว้างห้องตรงกลาง

ส่วนที่ไม่เต็มเพราะต้องเว้นไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งทางโครงการมีทำประตูกั้นไว้ให้เรียบร้อย

หันกลับมาดูในห้องแอร์ยังคงได้แบบ ซ่อนในฝ้าเหมือนเดิม

พื้นห้องส่วนที่เป็นครัวจะได้เป็นกระเบื้องนะ รูปนี้ถ่ายมาให้ดูว่ามีระยะเหลือรอบโต๊ะมากน้อยแค่ไหน

เคาน์เตอร์ครัวได้เป็นแบบเข้ามุมรูปตัว L มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ต้องแบ่งพื้นที่บางส่วนให้ของตู้ชุดล่างให้กับเครื่องซักผ้านะ

ตู้ชุดนี้ผมชอบตรงที่บานหัวมุมมีตะแกรงแบบหมุนมาให้ ช่วยให้เก็บของได้ดีขึ้น ปกติมุมตู้จะเป็นอะไรที่เก็บของยาก บ้างก็เก็บของไว้นานจนลืมก็มีนะครับ เอ๊ะ!! หรือมีแค่ผมที่เป็นนะ 555

ตัวเตาได้แบบ 2 หัวแต่วางแนวนอนแทน -___-‘ ทำไมไม่ให้ 4 หัวเตามาแทนนะ

ตัวอ่างเป็นแบบหลุมเดียวขนาดเดียวกับ 1 Bed น่าจะให้แบบ 2 หลุมมานะเสียดายๆ

ตู้ชุดบนเป็นบานกระจกผสมกับหน้าบานไม้สีอ่อน Back Splash ให้มาเต็มพื้นที่ครัวเลยถือว่าดีทำครัวทีก็เช็ดง่ายๆยาวๆไป

การแบ่งช่องเก็บของตู้ชุดบน

ต่อไปมาดูห้องน้ำส่วนกลางกัน อย่างที่เห็นในรูปว่าสามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ทาง

มีธรณีหินมาให้ทั้ง 2 ด้าน

การวางฟังก์ชันจะไม่ต่างกับ 1 Bed เลยวัสดุใช้แบบเดียวกันทั้งหมด

ห้องนอนเล็กวางเตียง 5 ฟุตแล้วมีระยะเหลือเยอะพอให้วางโต๊ะทำงานได้

ระยะเหลือรอบๆเตียง

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นขนาดเดียวกันกับ 1 Bedroom

หน้าต่างได้เป็นบาน Fix เต็มความสูงช่องนึง ช่องเปิดอีกอันเป็นบานกระทุ้ง

ไปดูห้องนอนใหญ่อีกฝั่งกันต่อ

ขนาดห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องนอนเล็กหน่อย ได้หน้ากว้างมากขึ้น

ระยะเหลือหน้าห้องน้ำมีให้เดินได้สบายๆ

ปลายเตียงกว้างขึ้นแต่ก็ยังไม่พอจะวางตู้ลึก 60 ซม.ได้อยู่ดี

ด้านที่ติดหน้าต่างก็เดินสบายๆ

บานหน้าต่างได้บานใหญ่ดี สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ห้องที่หันวิวสวนคงได้เห็นวิวสมใจอยากแน่นอน

ตู้เสื้อผ้าจะได้เป็นรูปตัว L

เป็นบานเลื่อนกับบาน Swing อย่างที่เห็น

มือจับจะยื่นออกมาทำมุมเฉียงนิดหน่อย

ภายในห้องน้ำยังคงวางตำแหน่งและชนิดสุขภัณฑ์เหมือนกันทุกประการ ไม่ได้พิเศษกว่าห้องอื่นๆ

ที่ได้เยอะกว่านิดเดียวคือพื้นที่อาบน้ำ

ไฟซ่อนฝ้ายังคงให้มานะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

แบบ 2 ห้องนอนยังมีอีกหลายแบบนะครับมีทั้งแบบ Duplex ที่ไม่มี Double Space มาให้ และซึ่งน่าเสียดายมากเพราะไหนๆก็เอาไว้ชั้นบนสุดอยู่แล้วถ้าได้ Double Space จะได้ประโยชน์จากวิวสวนเต็มที่เลย เอาเป็นว่าใครสนใจรายละเอียดแบบอื่นๆก็เข้าไปดูที่โครงการตั้งแต่วันนี้ได้เลยครับ

 

ทิ้งท้ายด้วย Presentation ของโครงการนี้ครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 14 May 2015

  • เนื่องจากราคายังไม่ออกเลยขอใช้ราคาเริ่มต้นของแต่ละแบบไปก่อนนะครับ
  • 1 Bedroom 25.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาทหรือประมาณ 158,415 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 53.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาทหรือประมาณ 168,224 บาท/ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 77.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาทหรือประมาณ 167,202 บาท/ตร.ม.
  • Duplex 102.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.5 ล้านบาทหรือประมาณ 151,219 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลที่เด่นเรื่องใกล้สวนจตุจักรและสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT ถ้าจะทำเลที่ได้ทั้งสวนสาธารณะขนาดใหญ่และใกล้รถไฟฟ้าสายหลัก 2 สายต้องบอกว่าหายากขึ้นเรื่อยๆและราคาก็คงจะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างโครงการนี้ก็เช่นกันเปิดตัวมาถือว่าค่อนข้างแรงอยู่ด้วยราคาประมาณ 170,000 บาท/ตร.ม.แล้ว ราคาไปเทียบกับทางทองหล่อได้เลย ทำเลแถวนี้ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเยอะเหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละครับถ้าไม่ได้ 2 อย่างที่ผมบอกไปราคาคงไม่ขึ้นมาขนาดนี้และทางแสนเองก็คงไม่กล้าตั้งมาสูงขนาดนี้ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบทำเลนี้ขนาดไหน เพราะถ้าทำงานในซอยเฉยพ่วงหรือแถวๆนี้แล้วเบื่อหน่ายกับรถที่ติดนรกแตก สู้เอาเวลามาออกกำลังกายดีกว่า โครงการนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบมีหลายประเภทให้เลือกนะถือว่าได้เปรียบกว่าโซนลาดพร้าวหรือพหลพอสามควร ถ้าเป็นห้างจะหนักไปทาง 5 แยกลาดพร้าวทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, Union Mall, Tesco Lotus แต่ถ้าอยากเดินตลาดนัดก็ไปเจเจได้เลยนั่งรถไฟฟ้าไป 1 สถานี ตลาดสดนี่จะลำบากหน่อยเพราะมีแต่ตลาดสดไฮโซ อตก. เท่านั้นที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนของกินในระยะเดินได้ไม่เกิน 100 เมตรนี่ไม่มีเลยต้องรอ Shop Mall อย่างเดียว แต่ถ้าเดินไปไกลหน่อยจะมีให้เลือกเยอะในซอยเฉยพ่วงเพราะเป็นแหล่งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายอาคาร แต่ช่วงเลิกงานหรือเสาร์อาทิตย์….ขอบอกว่าเงียบเลย

คนที่ใช้รถเป็นหลักคิดว่าคงไม่ต้องบอกอะไรมากนะครับ แถวนี้ขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว แต่เอาน่ะถ้าเว้นเรื่องรถติดไปจะถือว่าเป็นทำเลที่ดีเลยนะเพราะผมเองขับไปเซ็นทรัลจากแถวโครงการไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วไปวันอาทิตย์ตอนห้างใกล้ๆเปิดอ่านะ หรือจะไปอตก.ก็ไม่ไกล ทางด่วนก็ไปได้สะดวกเส้นเดียวกัน แต่ที่ลำบากหน่อยเห็นจะเป็นตอนกลับรถถ้ามาจากในเมืองเส้นพหลโยธินต้องไปกลับรถที่ 5 แยกลาดพร้าว ไปร่วมรถติดกับอื่นบ้างไรบ้าง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าสะดวกและเป็นจุดเด่นของโครการอีกอย่างนึงเพราะมีระยะการเดินทางไปรถไฟฟ้าได้ไม่ไกลมากถ้าเดินไป MRT จะอยู่ที่ 350 ส่วน BTS จะไกลขึ้นมาอีกนิดประมาณ 400 เมตร สภาพทางเท้าที่เดินได้ถือว่าเดินได้สบายๆนะเพราะคนทำงานแถวนี้เค้าก็เดินกันอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องคอยหลบพี่วินบ้างเพราะเค้ามาใช้เส้นทางร่วมกัน

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือการทำ Sky Walk มาเชื่อมต่อกับ Shop Mall เล็กๆที่หน้าโครงการ แหม่…พอจับมือกับ BTS Group จะทำอะไรกับที่สถานีรถไฟฟ้าก็ดูจะเป็นไปได้ไม่ยากเลยนะ หลายคนคงสงสัยเหมือนผมว่าตัวทางเดินมันจะไปอยู่ตรงส่วนไหนเพราะรางรถไฟฟ้าช่วงจตุจักรมันดูเตี้ยซะเหลือเกิน ตัวทางเดินจะวิ่งขนานบนเกาะกลางถนนอีกอันแล้วมาเข้าตัว Mall ที่ชั้น 5 ยกสูงทางเดินให้พ้นจากระยะรถไฟฟ้าวิ่งไปเลย อลังการงานสร้างไหม๊หละครับ ถึงแม้รายละเอียดยังไม่ออกแต่ถ้าทำจริงนี่ลูกบ้านเดินจากสถานีรถไฟฟ้าได้สบายๆเลย

เรื่องของวัสดุดูเป็นอะไรที่จะไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ เพราะขายแบบ Fully Fitted ด้วยช่วงราคาประมาณ 170k ถือว่าให้มาน้อยนะ พื้นได้ลามิเนต 8 มม. ยกเว้นส่วนครัวจะได้เป็นกระเบื้องแบบ Homogeneous กลอนประตูได้ Digital Door Lock ส่วนครัวมีฉากกั้นมาให้สำหรับแบบที่มีครัวปิด Top ได้หินแกรนิตดำ หน้าบานตู้ทุกบานติด Soft Close มาให้ ชุดครัวของ Starmark ได้อ่างล้างจาน และเครื่องดูควันของ MEX ที่น่าเสียดายคือตัวอ่างล้างหน้าในห้องน้ำเพราะออกแบบเคาน์เตอร์มาดีอยู่แล้วน่าใช้งานแต่ได้เป็น Fiber Glass Gelcoat ของ Cotto ไม่ได้เป็นเซรามิค ใต้อ่างมีงานระบบไว้รองรับเครื่องทำน้ำร้อนอยู่แล้ว ส่วนอาบน้ำได้ฉากกระจกกั้นพร้อม Rain Shower มาให้

การออกแบบส่วนของตัวโครงการทำมาได้ค่อนข้างดี หลังๆจะเห็นพี่แสนให้น้ำหนักกับ Landscape เยอะขึ้นทำให้บรรยากาศภายในโครงการมีสีสันและดูน่าใช้งานมากขึ้น เน้นพื้นที่แบบ Semi Outdoor มากขึ้นในส่วนกลางทั้งหมด ถ้าเลือกใช้วัสดุที่ดีส่วนกลางจะดูเท่ขึ้นมาเลย…แต่ต้องรอดูของจริงดีกว่าครับรูปจำลองมันบอกได้แค่ “บรรยากาศจำลอง” อ่านะ เอาเข้าจริงๆเรื่องนี้ก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงมากนักถ้าพี่แสนตั้งใจทำเพราะสไตล์แสนเค้าขาย Life Style เท่ๆอยู่แล้ว

สาธารณูปโภคให้มาเยอะอยู่แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เอาสระว่ายน้ำไว้ชั้นบนสุด หลักๆจะได้สวนหย่อม Landscape สวยๆ, Meeting Room, Library, Business Lounge ที่ชั้น 1 และสระว่ายน้ำยาว 40 ม.ที่ชั้น 6 ภาพรวมของส่วนกลางน่าจะสวยเพราะเน้น Design แบบ Semi Out Door คือตัวตึกจะมีช่องลมให้ไหลผ่านเยอะพอสมควร ที่ชั้นบนสุด 41 จะได้ Sky Pavilion แบบ Double Space มาให้มีโซนจากุชชี่ไว้ชมวิวสวนด้วย

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 160,000 – 180,000 บาท/ตร.ม., 14 May 2015

  • ทำเล 7.25/10 (วิวสวน) – ทำเลเด่นเรื่องใกล้สวนจตุจักรได้วิวดีแต่แดดแรง ถ้าเป็นห้องที่หันไปทางวิภาวดี ด้วยราคานี้ทำเลจะเหลือ 6.75/10 นะครับ
  • เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – เดินทางได้สะดวกมีทางลัดและทางด่วนให้ใช้ แต่รถติดสุดๆอย่างที่รู้กันนะครับ
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ถึงแม้จะมีระยะเดินไปรถไฟฟ้าแต่ทำเลนี้เป็นทำเลใกล้ทั้ง BTS และ MRT ในระยะ 400 เมตร มี Sky Walk ให้
  • วัสดุ 6.75/10 – วัสดุเทียบกับราคาระดับนี้แล้วถือว่าให้มาน้อยไป คุณภาพมีทั้งเด่นและด้อยสลับกัน
  • แบบ 8.0/10 – ส่วนกลางออกแบบมาดี แต่ขอตัดคะแนนเรื่องความหนาแน่นที่สูงไปหน่อย
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 –  จัดมาให้เยอะดีแต่น่าเสียดายที่ไม่เอาสระว่ายน้ำไว้ชั้นบนสุด

  • LUXURY CLASS
  • 7.58 / 10.00

BOTTOM LINE

 The Line จตุจักร – หมอชิต เป็นโครงการที่เหมาะกับคนทำงานในย่าน  5 แยกลาดพร้าว ซอยเฉยพ่วงหรือเส้นพหล – วิภา เบื่อหน่ายกับรถติดอยากเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงาน ที่สำคัญคือยอมจ่ายเพื่ออยากได้วิวสวนหย่อมขนาดใหญ่ ทนแดดร้อนได้ระดับนึง (แดดบ่ายมันแรงจริงๆนะ) เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นประจำเดินไม่ไกลสบายๆ มีงบประมาณประมาณ 4 – 20 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ บาท/เดือน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )