รีวิวฉบับที่ 1481 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมคอนโด The Excel Hideaway สุขุมวิท 71 จาก All Inspire ที่คราวนี้ขยับโปรเจคของตัวเองเขยิบเข้าเมืองมาขึ้นเรื่อยๆ ทำเลถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามาก แต่ก็อยู่ในย่านของพระโขนงที่ใช้รถยนต์และทางด่วนสะดวกมาก โปรโจคนั้นเป็นกลุ่มคอนโด 3 อาคาร ที่ขายแบบ Fully Furnished ราคาประมาณ 1.79 ล้านบาท ไปชมกันเลยครับ

Fact @ 17 November 2017

  • The Excel Hideaway Sukhumvit 71 (ดิ เอ็กเซล ไฮด์ อะเวย์ สุขุมวิท 71)
  • บริษัท ออลล์ อินสไปร์ดีเวลลอปเม้นท์ จากัด (มหาชน)
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยปรีดีย์พนมยงค์ 14 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.
  • คอนโด Lowh Rise 8 ชั้น 3 อาคาร ห้องพักอาศัย 672  ยูนิต ร้านค้า 2  ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 39.5% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 5-3-15 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ก.พ. ปี 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ม.ค. ปี 2562
  • 1 Bedroom 28, 30, 41.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 37.5, 38 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • โครงการขายแบบ Fully Furnished
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 63,928 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 02-029-9999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.716547, 100.600686

แผนที่จากทางโครงการครับ ทำออกมาให้ดูเรียบง่ายต่อความเข้าใจ โดยการเข้าออกหลักๆด้วยรถยนต์ให้เข้าจากซอย สุขุมวิท 71 แล้วเลี้ยวขวา(ปากซอยมี Max Valu) เข้ามาซ.ปรีดี พนมยงค์ 14 แยก 10 วิ่งเข้าไปจนถึงทางไปจุดขึ้นทางด่วน จะอยู่ก่อนจุดขึ้นทางด่วนเล็กน้อย

ย่านพระโขนงถือเป็นทำเลที่อยู่ระหว่างในเมืองและนอกเมือง สภาพแวดล้อมโดยรอบมีลักษณะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่มีความเจริญ และ ความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร มีความหนาแน่นของประชากรสูง และเป็นทำเลที่เริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัย เนื่องมาจากราคาค่าเช่าในย่านสุขุมวิทตอนต้นปรับสูงขึ้นมาก  ที่อยู่อาศัยส่วนมากมีลักษณะเป็นตึกแถวและอาหารพาณิชย์ที่มีร้านค้าอยู่ด้านล่าง (ในช่วงหลังเริ่มมีคอนโดมาขึ้นเยอะพอสมควร)

ซึ่งทำที่ตั้งของโครงการถึงแม้จะดูเหมือนอยู่ไกลๆจากถนนหลักอยู่บ้าง แต่จริงๆก็สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกทีเดียว ตัวตำแหน่งจะอยู่ซอยมีสุวรรณ 3 แยก 10 อีกนิดเดียวก็จะไปออกซ.ปรีดีพนมยงค์ 2 (เลียบทางด่วน) ซึ่งเราสามารถขึ้นทางด่วนตรงนี้ได้เลย

เวลาขับรถกลับมาบ้านสามารถมาหลักๆได้สองทางคือ 1.มาจากแยกพระโขนงเข้าซอยสุขุมวิท 71 -> ซ.ปรีดีพนมยงค์ 14 -> ซ.มีสุวรรณ 3 แยก 10 (รวมระยะทางประมาณ 1.9 กม.) / 2.มาจากถนนหลักสุขุมวิท วิ่งขึ้นสะพานมุ่งหน้าไปอ่อนนุชแล้วเบี่ยงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางด่วน ตรงไปจนก่อนจุดด่านจ่ายเงินนิดเดียว จะมีทางให้เลี้ยวซ้ายออกมาบรรจบกับซอยซ.มีสุวรรณ 3 แยก 10 ห้นาที่ตั้งโครงการ (รวมระยะทางประมาณ 1.25 กม.)

ความอุดมสมบูรณ์ ถ้ามองในระยะเดิน(ราว 3-4 ร้อยเมตรแถวโครงการ) ต้องบอกว่าแห้งแล้งมากคือแถวนั้นจะเป็นชุมชนอยู่อาศัย ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวสัญจรผ่านกันไปมามากกว่า แต่ถ้าขยับออกไปนิดนึงให้ดูที่ซ.ปรีดีพนมยงค์ 2 ซึ่งเป็นแหล่งร้านอาหารมหาศาล มินิมาร์ทเต็มไปหมด / ที่ด้านหน้าซ.สุขุมวิท 71 มี Community mall ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ W District ตั้งอยู่บริเวณปากซอย สุขุมวิท 71 และมี Hyper market อย่าง Max Value อยู่บริเวณกลางๆซอย / หรือขับรถข้ามเข้ามา T77(Sansiri) เข้ามานั่งชิลล์ในคอมมูนิตี้มอลล์ Habito ก็ได้

ที่ดินของโครงการยังมีความพิเศษอีกอย่างนึงคือ เจ้าของที่ดินเดิมเป็นเจ้าของเดียวกับแปลงของ T77 (แสนสิริ) ทำให้ได้รับสิทธิ์ภารจำยอม ซึ่งปัจจุบันการที่เราจะข้ามเข้าผ่านประตูของ T77 (ไปคอมมูนิตี้มอลล์ Habito หรือไปออกถนนอ่อนนุช) จะต้องเสียค่าผ่านทางครั้งละ 20 บาท แต่เราจะได้สิทธิ์พิเศษผ่านได้ฟรี ถ้าใครใช้สัญจรไปกลับอ่อนนุชบ่อยๆก็ประหยัดไปได้วันละ 40 บาทเลยนะ

Habito Mall จะเป็น Community Mall ที่มีทั้งร้านกาแฟ และร้านอาหารให้เลือกพอสมควร นอกจากนั้นยังมี Hubba Co working space ชื่อดัง รวมไปถึง โรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง Bangkok Prep จะตั้งติดกับ T77 ด้วย

Community Mall อีกจุดคือ Summer Hill ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ได้เดินเที่ยวปลายปีนี้แน่นอน (ตอนนี้เปิดแล้วบางส่วนประมาณ 4-5 Shop) ซึ่งอยู่ติดสถานี BTS พระโขนงเลย เดินเล่นก่อนกลับบ้านได้สบายๆ พื้นที่พัฒนาโครงการเกือบ 5 ไร่ มีจำนวนร้านค้าประมาณ 40 ร้านได้ ต้องรอดูว่าจะมีอะไรร้านอะไรมาบ้างแต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้มี Starbucks Coffee ที่แน่นอนแล้ว

(รูปแรก) สำหรับการเดินทาง แม้จะอยู่ในซอยแต่ก็สามารถเข้าได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ซอยปรีดี พนมยงค์ 2 ซอยปรีดี พนมยงค์ 14 หรือจะวิ่งผ่านทาง T 77 (ไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง 20 บาทด้วยนะสำหรับรถยนต์) การใช้ทางด่วนช่างง่ายเหลือเกินมีให้เลือกทั้ง ทางด่วนเฉลิมมหานคร และ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

(รูปล่าง) การเดินทางในวันนี้ผมเริ่มมาจาก “แยกพระโขนง” มุ่งหน้าเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 71 ไปประมาณ 750 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยปรีดี พนมยงค์ 14 ตรงไปอีก 600 เมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยมีสุวรรณแยก 3-10 อีก 450 เมตรก็จะถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือครับ

เริ่มต้นกันที่พอเลี้ยวจากสุขุมวิทเข้าแยกพระโขนง มาซอยสุขุมวิท 71 กัน ซอยนี้เป็นถนน 4 เลน นะครับ ปัจจุบันมีการปรับปรุงไหล่ทางกับริมฟุตบาทอยู่เลยดูไม่เรียบร้อยเท่าไร จะเห็นว่ามีปริมาณรถค่อนข้างเยอะที่มุ่งออกไปถนสุขุมวิท

เดินมานิดเดียวจะเจอกับวินที่ปากซอย ปรีดี พนมยงค์ 1 (ถ้าจะนั่งไปโครงการประมาณ 20 บาท)

หลังจากนั้น เราจะเห็นปากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม จริงๆซอยนี้ไปที่ตั้งโครงการได้ แต่ไม่แนะนำเพราะว่า การเดินรถของซ.สุขุมวิท 71 ตอนต้น จะมุ่งหน้าเข้าไป 1 เลน และมุ่งหน้าออกมาได้ 3 เลน ทำให้ถ้าเราจะเลี้ยวต้องระวังรถถึง 3 เลน (อีกทั้งยังมีรถต้องรอต่อท้ายเราทำให้การจราจรติดเพราะเรา)

มุ่งหน้ามาอีกนิดนึงกลางซอยเราจะเห็นห้าง Max Valu ซึ่งตัวนี้เป็นแบบ Supermarket ก็จะใหญ่ๆหน่อย ทำให้มีร้านอาหารอื่นๆมาลงในพื้นที่นี้ด้วย อาทิเช่น KFC ยาโยอิ Black Canyon อะไรอย่างนี้เป็นต้นครับ

หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นเดินรถไปมาฝั่งละ 2 เลนแล้วครับ และก็เจอซอยปรีดีพนมยงค์ 14 ขวามือให้เลี้ยวได้เลย

นี่ครับซอยปรีดีพนมยงค์ 14

พอเราเข้ามาแล้ว จะเห็นว่าความหนาแน่นของรถ จะลดลงไปพอสมควร เพราะซอยนี้หลักๆเป็นที่อยู่อาศัย และใช้เป็นซอยลัดเลาะเพื่อไปออกจุดขึ้นทางด่วนนี่แหละ

ในซอยสภาพแวดล้อมจะมีอพาร์ทเมนท์กับบ้านพักอาศัยสลับกันไปตลอดทาง

มี Tesco Lotus Express อยู่กลางซอย

7- Eleven ก็มาร่วมแจมด้วย ช่วยให้ไม่เปลี่ยว

หลังจากที่เลี้ยวเข้ามาจากต้นซอยประมาณ 600 เมตรได้ ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยมีสุวรรณ 3

สภาพแวดล้อมก็จะไม่ต่างกับซอยปรีดีฯ 14 เท่าไรนะ เป็นบ้านคนเสียส่วนใหญ่

หลังจากนี้ให้ตามป้ายทางด่วนไว้เลย

ช่วงก่อนถึงโครงการอย่างที่บอกไปว่าจะค่อนข้างเงียบมาก ไม่เหมาะกับการเดินเท้า ให้ใช้เป็นหลักดีกว่า

หลังจากเลี้ยวเข้ามาประมาณ 450 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วอยู่ทางซ้ายมือ

ด้านหน้าที่ดินโครงการ มีการติดแผ่นป้ายผ้าใบรายละเอียดโครงการ และแผนเตรียมก่อสร้างในอนาคต

เดี๋ยวผมจะมุ่งหน้าต่อไปอีกนิดนึงให้ดูว่าจะไปขึ้นทางด่วนยังไง

นี่ครับ ตรงมานิดเดียวก็จะสิ้นสุดซอยแล้ว จะมาบรรจบกับซ.ปรีดีฯ 2 (ช่วงท้ายซอย)

ถ้าเราเลี้ยวซ้ายก็จะไปโปล่จุดขึ้นทางท่วนได้เลย

ส่วนถ้าเราเลี้ยวขวาจะเป็นการวิ่งบนซอยปรีดีพนมยงค์ 2 จากท้ายซอยมุ่งหน้าไปต้นซอย (หรือสามารถข้ามไปฝั่ง T77 เพื่อไป Habito หรือถนนอ่อนนุชก็ได้)

วิ่งมาให้ดูถึงซอยปรีดีพนมยงค์ 2 จะเริ่มมาคึกคักหนักๆช่วงกลางซอยไปจนถึงต้นซอย ที่เป็นแหล่งของกินริมข้างทาง และในตัวตึกแถวทั้งสองฝั่งเลย มินิมาร์ทก็หลับตาจิ้มได้เลยเอาเจ้าไหนดี

และก็ออกมายังซอยสุขุมวิท 71 ได้อีกครั้งครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูสภาพแวดล้อมใกล้ๆรอบๆโครงการกันสักนิดจะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ซอยมีสุวรรณ 3 แยก 10 ที่จะมาบรรจบกับซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ช่วงท้ายซอย ที่วนไปออกจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราฯได้ รูปแปลงของที่ดินดูจะค่อนข้างแปลกหน่อยเป็นแท่งแหลมๆ แต่ก็ทำให้ได้การวางตัวของอาคารทั้ง 3 เรียงตัวกันไม่บังวิวกันเอง อีกทั้งรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย มีสลับที่ดินเปล่าบ้างเล็กน้อย ส่วนตัวอาคารก็ไม่ได้ไปชิดใกล้กับทางด่วนมาก(เผื่อใครกังวลเรื่องเสียง) ยังมีดินเปล่าแปลงเล็กๆมาคั่นไว้อีกหน่อย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Habito Comminity Mal ~ 650 เมตร
  • แหล่งความอุดมสมบูรณ์กลางซอยปรีดีฯ 2 ~ 700 เมตร
  • Max Valu Supermarket ~ 1.2 กิโลเมตร
  • W Market ~ 1.2 กิโลเมตร
  • ตลาดอ่อนนุช ~ 1.2 กิโลเมตร
  • Big C Extra อ่อนนุช ~ 1.2 กิโลเมตร
  • Summer Hill ~ 1.3 กิโลเมตร
  • Century Movie Plaza ~ 1.8 กิโลเมตร
  • รพ.กล้วยน้ำไท ~ 2.4 กิโลเมตร
  • .กรุงเทพ ~ 2.8 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus ~ 3.5 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

กลับมาดูกันใน Sale Office Gallery กันครับ ภายในเค้าแต่งได้สวยนะ เพดานสูงโปร่ง ผนังกรุหินอ่อน แสดงถึงความอัพเลเวลหลังจากย้านโครงการต่างๆมาขายในเมือง

ด้านข้างมีพื้นที่นั่งรับรองลูกค้าอยู่หลายมุม หลายจุด

ส่วนของ Model โครงการตั้งอยู่เห็นเด่นชัด โดยรูปแบบอาคารจะเป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น 3 ตึก เรียงตัวกันแบบนี้ตั้งแต่ทางเข้า แต่ละอาคารมีจำนวนประมาณ 2 ร้อยยูนิตกว่าๆ รวมแล้วได้ 672 ยูนิต

จุดทางเข้าออกโครงการที่อยู่ติดซอยมีสุวรรณ 3 แยก 10 มีส่วนเนื้อที่ดินยื่นมาออกมาติดถนนแบบนี้ แล้วค่อยเข้าไปขยายตัวออกด้านใน

หน้าตาภายนอกเป็น Modern  Contemporary ใช้โทนเทาน้ำตาล มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ขนานไว้กับริมรั้วกำแพงโครงการ

ที่บริเวณทางเข้าออกเราจะเห็นส่วนของอาคารสองชั้น ซึ่งอนาคตจะเป็น Shop ร้านค้าให้แก่ลูกบ้าน 2 ยูนิต (ตอนนี้โครงการยังไม่คอนเฟิร์มให้นะครับว่าจะเป็นอะไร)

พอเข้ามาด้านในโครงการ ลักษณะการเดินรถจะเป็นแบบวันเวย์เดินรถทางเดียว ผมทำลูกศรบอกทางเอาไว้ให้แล้วนะ

ที่ท้ายอาคาร A ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนจะมีติ่งที่ดินแหลมแบบนี้ จัด Landscape  เป็นพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ

ที่นี่จะจอดรถรอบและใต้อาคารทั้งหมดนะครับ โดยจะจอดได้ประมาณ 39.5%(รวมซ้อนคัน) ถัดมา หลังจากเดินรถต่อมายังท้ายอาคาร B แล้ว เราจะเห็นส่วนของอาคาร ClubHouse Facility

ClubHouse Facility  เป็นอาคาร 2 ชั้นที่มีการโดมแต่งดูเหมือนเรือที่มีหลังคาโดมอยู่นะครับ ภายในจะประกอบไปด้วยห้องออกกำลังกายชั้นล่าง และห้องอ่านหนังสือชั้นบน

ที่อยู่ด้านนอกจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาวประมาณ 20 เมตร พอใช้ออกกำลังกายได้อยู่ มีการแยกสระเด็ก และจัด Sunken Seat ไว้นั่งชมวิวริมสระ

และที่ท้ายสุดของอาคาร C จัด Landscape ได้แปลกตาดี ทำเป็นพื้นที่ Mini Jogging Track จากพื้นขึ้นสู่ลานไม้ และตรงกลางยังจัดทำเป็น Tree House ไว้ให้ไปนั่งชิลได้ด้วย

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนภายนอกโครงการ ตั้งอยู่ใกล้จุดทางขึ้นทางด่วนรามอินทราย่านพระโขนง-อ่อนนุช

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณทางเข้าออกโครงการ ซึ่งด้านข้างจะมีอาคาร 2 ชั้นจัดทำเป็น Shop ร้านค้า 2 ยูนิตให้แก่ลูกบ้าน (โครงการยังไม่คอนเฟิร์มร้าน)

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนหน้าตาภายนอกอาคาร ClubHouse

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณ Lobby ที่จะตั้งอยู่พื้นที่ส่วนกลางอาคาร Club House ชั้น 1

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณ ห้องอ่านหนังสือ ที่จะตั้งอยู่พื้นที่ส่วนกลางอาคาร Club House

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณ ห้องออกกำลังกาย ที่จะตั้งอยู่พื้นที่ส่วนกลางอาคาร Club House

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณด้านนอกอาคาร Club House มีสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก มีพื้นที่นั่งเล่นโดยรอบ

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณด้านนอกอาคาร Club House มีสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก มีพื้นที่นั่งเล่นโดยรอบ

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณด้านนอกอาคาร Club House มีการจัดพื้นที่ Sunken Seat ริมสระไว้มานั่งชิลยามเย็น

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณพื้นที่ดินยื่นมาท้ายอาคาร C ที่จะทำเป็นลาน Jogging track

Perspective ภาพจำลอง : ส่วนบริเวณพื้นที่ดินยื่นมาท้ายอาคาร C ที่จะทำเป็นลาน Jogging track ลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้เต็มพื้นที่ และมี Tree House อยู่ตรงใจกลางขึ้นไปชิลได้

Master Plan โครงการ ที่ชั้นล่างสุดเราจะเห็นว่าเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคารและพื้นที่กลางแจ้งนะ โดยรูปแบบโครงการจะเป็นกลุ่ม Condo Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร อาคาร A มี 231 ยูนิต, อาคาร B 224 ยูนิต, อาคาร C 217 ยูนิต รวมแล้ว 672 ยูนิต

โดยจะมีอาคาร 2 ชั้นเป็นร้านค้าด้านหน้า 2 ยูนิต และด้านในบริเวณอาคาร B-C จะมีอาคาร ClubHouse เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักตั้งอยู่ประกอบไปด้วย  Lobby, Co-Working Space, Fitness สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ยาวประมาณ 20  เมตร แยกสระเด็ก มีพื้นที่ Relax area, Sunken Seat ติดสระ  และสุดท้ายที่ท้ายอาคาร C จะมีลาน Jogging Track, Tree House ที่ลงต้นไม้ใหญ่ให้เต็มพื้นที่

ส่วนที่ชั้น 2-8 ของทุกอาคารเป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มจำนวน โดยอาคาร A จำนวนยูนิตต่อชั้น 33 ห้อง, อาคาร B 32 ห้อง และอาคาร C 31 ห้อง

Image 1/6
A-Ground-fl.

A-Ground-fl.

ลองดูแปลนแยกแต่ละส่วนของอาคาร ที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนจอดรถใต้อาคารทั้งหมด โดยจะมี Lobby ของแต่ละอาคาร มีลิฟท์ 2 ตัว/อาคาร ชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 2-8 จะเหมือนกันเลย โดยจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นประมาณ 31-33 ยูนิต ห้องที่มีจำนวนมากสุดคือ สีชมพูอ่อนเป็นห้องขนาดเล็กสุด 1 Bedroom 28 ตร.ม. และ สีชมพูเข้มจะขยับไซส์ขึ้นมาหน่อยเป็น 30 ตร.ม. ส่วนห้องที่เหลือแบบอื่นๆมักจะอยู่ตามเหลี่ยมมุมของอาคารนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Shop ร้านค้า 2 ยูนิต (ทางเข้าโครงการ)(ยังไม่คอนเฟิร์มร้าน)
  • อาคาร Club House ประกอบไปด้วย Lobby, Co-Working Space, Fitness
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ยาวประมาณ 20  เมตร แยกสระเด็ก
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง (ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง)
  • Relax area, Sunken Seat ติดสระ
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลาน Jogging Track, Tree House
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร (ไม่มี Service Lift)
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 115 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 112 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 108 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 39.5% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ CCTV / Access Card / รปภ. 24 ชม.
  • Shuttle Bus Services to Summer Hill, BTS พระโขนง (ไม่ระบุรอบ)


Product Walkthrough

ก่อนที่จะเข้าไปดูห้องตัวอย่างนะครับ ต้องบอกก่อนว่าโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ที่มีการ Built-In เฟอร์นิเจอร์มาให้ และก็มีส่วนเฟอร์ฯลอยตัวด้วย อีกทั้งยังให้ชุดครัว, Hob&Hood และแอร์ 2 ตัวครับ

ห้องตัวอย่างแรกที่จะพาไปดูเป็น 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 28 ตร.ม. เป็นห้องแนวลึก เปิดประตูมาเป็นโซน Living Area เชื่อมต่อถัดไปเป็นห้องนอนมีช่องแสงเชื่อมต่อถึงกันผ่านเข้ามาในห้อง แล้วฝั่งซ้ายมีการแบ่งฝั่งเป็นโซนใช้งานหนักอย่างห้องน้ำชิดกับฝั่งโถงทางเดิน มีแยกพื้นที่อาบน้ำไว้ ครัวได้เป็นครัวปิดนะ อีกทั้งอยู่ติดกับระเบียงด้านนอกทำให้ช่วยระบายถ่ายเทอากาศได้ดี

เข้ามาจะเจอกับส่วนของ Living ก่อน โครงการนี้ได้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร ระยะดูทีวีประมาณ 2.30 เมตร จากมุมนี้เราจะเห็นส่วนของห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาถึงพื้นที่นั่งเล่นนี้

หน้าตาของชุดโซฟาที่โครงการให้มา รูปล่างผมลองดึงฐานออกมา มันสามารถปรับเปลี่ยนเป็น Sofa Bed ได้ด้วยนะ (ดึงเบาะลงมา) เอาไว้รองรับเผื่อมีเพื่อนหรือแขกมานอนห้อง (**โครงการแจ้งว่าตัวพนักกั้นโซฟามันผิดด้านนะครับ ของจริงจะไปอยู่อีกฝั่ง)

ด้านขวามือติดกับผนัง จะได้เป็นโต๊ะข้าง เก็วพับได้ สามารถเอามาไว้เป็นโต๊ะกลางแทนเป็บางครั้งคราว

ฝั่งซ้ายมือของโซฟา เราจะได้เป็นชุดโต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหารแบบสองที่นั่งอยู่มุมนี้

ชุดชั้นวางทีวีขนาดยาวเป็นทูโทนหน้าบานสีขาว มีช่องเก็บของได้หลายช่อง ถ้าเราเอาทีวีแขวนผนัง เราจะได้พื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นมาอีก แถมดูเป็นสัดส่วนด้วย

ลองเปิดหน้าบานตู้ให้ดู พวก Fitting เป็นแบบธรรมดานะไม่ได้ Soft Close / อ้อ.. ตอนแรกผมลืมบอกไปพื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะได้เป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้

ทีนี้มองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนอน ที่กั้นด้วยประตูกระจกใสบานเลื่อนแบบ 3 ตอน / ทางซ้ายมือเราจะเห็นส่วนของห้องครัวได้เป็นแบบปิด ทำให้กลิ่นเวลาทำอาหารไม่เข้ามารบกวนส่วนนี้

บานเลื่อนแบบ 3 ตอนทำให้ มีพื้นที่การเปิดได้กว้างมากขึ้นกว่าถ้าทำแบบ 2 ตอน

เข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกัน ตัวเตียงนอนจะอยู่ไปชิดทางหน้าต่างช่องแสง เดี๋ยวเราไปดูกันว่าได้เฟอร์นิเจอร์อะไรบ้าง

ทางฝั่งขวามือเราจะได้ชุดตู้เสื้อผ้า Built-In แบบเต็มผนัง ทางขวามือสุดเป็นช่องเก็บของแบ่งชั้นวางเปิดโล่ง

ตู้เสื้อผ้าหน้าบานเป็รลายไม้ ฝั่งขวามือเป็นกระจกเงา มือจับเป็นเหล็กเงาพ่นสีดำยื่นออกมาทำให้เปิดง่าย

ผมลองเปิดหน้าบานตู้เสื้อผ้าให้ดูฟังก์ชั่น ช่องเก็บ ราวแขวน พื้นที่ต่างๆ

อย่างตัวใต้เตียงก็มีลิ้นชักเอาไว้เก็บของเพิ่มได้ เฟอร์นิเจอร์ที่มีลูกเล่นแบบนี้ดีเหมาะกับคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดนะ

ระยะทางเดินปลายเตียงจะเหลือราวๆ 50 ซม. เดินค่อนข้างง่ายครับ ถ้าติดทีวีที่ปลายเตียงก็ยังได้เลย เผื่อกรณีอยู่กันสองคนแยกกันดูทีวีคนละตัวได้ / หน้าต่างช่องแสงในห้องนอนได้ค่อนข้างใหญ่เกือบๆเต็มผนังอยู่

 

ออกมาจากห้องนอน หันไปทางขวาจะเจอกับส่วนของห้องครัวที่ได้เป็นแบบครัวปิด จะมีธรณีก่อสูงขึ้นมาเล็กน้อย เผื่อเวลาเราจะทำความสะอาดขัดพื้นครัว น้ำจะได้ไม่กระเซ็นมาโดนพื้นในห้องนั่งเล่น

เข้าสู่โซนครัวมาแล้วพื้นจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องผิวด้านไซส์ 30 ซม. ทางซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นแนวลึกไปอยู่ชิดกับตำแหน่งโถงทางเดิน โดยแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกอาบน้ำ

ห้องอาบน้ำจัดเรียงการใช้งานเป็นแนวยาว ไล่จากอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำได้ฉากกั้นมา

วัสดุต่างๆของที่นี่จะได้เป็นของ American Standard นะ โดยมีชุดตู้ใต้อ่างมาให้

ตัวพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกได้เป็นฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีขาว พื้นที่อาบน้ำด้านในขนาดประมาณ 0.90 x 1  เมตร

ที่ผนังมีการเซาะร่องเอาไว้ให้เผื่อวางพวกขวดแชมพู สบู่ ดีเลยไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่ม

หน้าตาชุดฝักบัวจะได้เป็นของ GROHE

ออกมาด้านนอกให้ดูกับชุดตู้เก็วของ Built-In ที่ต่อเนื่องไปกับ Pantry ครัว เรียกว่าเก็บของได้สะใจมาก

ลองเปิดหน้าบานตู้ให้ตูช่องเก็บของหน่อย

Hob & Hood จะได้เป็นของ TEKA หน้าตาเช่นนี้

Pantry ครัวขนาดไม่ใหญ่มาก ท๊อปเป้นเมลามีนกันน้ำ, อ่างล้างจานของ Hafele และที่ผนังด้านข้างเค้ากรุติดกระจกไว้ให้ด้วย เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด และหน้าตาสวยงาม

ถัดจาก Pantry ครัว จะเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ยังมีพื้นที่เหลืออีกหน่อยด้วยนะ หาชั้นวางของเพิ่มหรือขยายขนาดตู้เย็นก็ได้

ครัวจะเชื่อมต่อทางออกไปยังพื้นที่ระเบียงแบบนี้โดยเราสามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ด้านนอกก็ได้นะ

ราวกันตกที่นี่ดูดี ให้ส่วนจับเป็นสแตนเลส อีกทั้งกันตกเป็นกระจกนิรภัยอีกด้วย

ที่ผนังด้านซ้ายมือมีการแขวนคอมแอร์เอาไว้ แต่ลมร้อนหันเข้ามาหาตัว (ไปหาติดตัวบังคับลมเพิ่มเอาครับ)

ส่วนของแปลนห้องแบบ A2 นั้นเรียกว่า.. ฟังก์ชั่น เหมือนกับห้องแรกก่อนหน้านี้เกือบทุกประการ ต่างกันก็ตรงที่บริเวณหน้าต่างช่องแสงของห้องนอน ที่มีเพิ่มที่ยืดขึ้นออกมาไป และทำเป็นมุมนั่งเล่นทำงานกับอ่านหนังสือ คอมโบไปกับหน้าต่าง Bat Window (กระจกเข้ามุม) ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นมีความน่าใช้งาน **เราไปดูกันสัก 3-4 รูป บริเวณส่วนที่ยืดออกมากกันนะครับ

เข้ามาดูกันในส่วนของห้องนอนเลยนะครับ

พื้นที่ริมผนังที่เป็นช่องแสง มีการยืดออกไป ทำให้วางชุดเฟอร์นิเจอร์ได้ 2 ชิ้นเพิ่มขึ้นมา เป็นชุดเก้าอี้นั่งเล่นอ่านหนังสือ และโต๊ะทำงาน

เมื่อเอามาอยู่ติดกน้าต่างช่องแสงที่เข้ามุม (Bay Window) ทำให้ฟังก์ชั่นบริเวณนี้น่าใช้ขึ้นมาทีเดียว

มุมรูปก่อนหน้ายังแอบติดผ้าม่าน ผมเลยลองยกออกให้ดู ถ้าเรานอนอยู่ เราจะเห็นมุมมองรับวิวได้จากตรงนี้ด้วย

ห้องตัวอย่างอีกห้องที่จะพาไปดูคือ 1 Bed Plus Type B1 ขนาด 38 ตร.ม.โดยถ้าเราเข้าห้องมาจะเป็นส่วนของ Living & Dinning รวมกัน ทำให้ค่อนข้างกว้าง ถัดไปจะมีส่วนเชื่อมต่อออกไปยังครัวปิดและระเบียง ส่วนของห้องนอนหลักจะอยู่มุมนอกอาคารได้ขนาดที่ค่อนข้างกว้างสบาย และมีห้องอเนกประสงค์อีกห้องอยู่ติดกับทางเข้าห้อง(ซึ่งโครงการเค้าให้เตียงนอนและตู้มาตามแปลนด้วย) สามารถอยู่ 2 คนหรือให้แขกมานอนได้ แต่ต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลางที่ห้องนั่งเล่น

เข้าห้องมาจะเป็นส่วนของ Living & Dinning รวมกัน ทำให้ค่อนข้างกว้าง ได้ช่องแสงมาจากทางครัวฝั่งซ้าย หรือต้องเปิดประตู้ห้องนอนเอาไว้

ฝั่งขวามือเราจะเห็นตู้ที่โครงการให้มาเอาไว้เก็บรองเท้าอยู่ติดกับประตูทางเข้าแบบนี้ดีเลย ใช้งานและเก็บง่าย

ให้ดุพื้นที่ด้านในสักหน่อย เก็บได้หลายคู่เหมือนกัน อีกทั้งข้างๆมีชั้นวางเก็บของทั่วไปด้วย

กลับหลังหันมาจะเป็นโซนมุมโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งห้องนี้สามารถนั่งแบบ 3 ที่นั่งได้ครับ

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ต่อเนื่องติดกันกลางห้อง ระยะดูทีวีประมาณ 2.40 เมตร โดยพวกชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นจะได้ทั้งหมด

หน้าตาชุดโซฟาและโต๊ะกลางที่ดูเก๋ทันสมัย

ลองนั่งที่โซฟาแล้วจะเห็นส่วนของชั้ยวางทีวีที่ติดผนังอยู่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำ(ซ้าย) และ ห้องอเนกประสงค์(ขวา)

งั้นเราไปดูห้องอเนกประสงค์กันก่อน ตัวประตูเข้าห้องได้เป็นกระจกบานเลื่อน เพราะเค้าต้องการให้แสงธรรมชาติส่องผ่านมายังโถงนั่งเล่นด้วย

มีการทำรางเลื่อนไว้ด้านบน ทำให้เวลาเดินพื้นจะต่อเนื่องไปเลย ไม่ต้องกลัวนิ้วจิก หรือสะดุดกับขอบเฟรมประตู

เข้ามาด้านในห้องอเนกประสงค์แล้ว จะขนาดไม่ใหญ่นะ แต่ว่าโครงการเค้าจะให้เฟอร์นิเจอร์ตามนี้เลย คือเตียง 3 ฟุต ชิดผนังชนผนัง และก็ตู้เสื้อผ้า Built-In ทางขวามือ

หันมามองพื้นที่ทางขวาหน่อย เจ้าตู้เสื้อผ้ามีลูกเล่นในการพับเปิดลงมาทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานจิ๋วได้ (โอ๊ยเล็กมาก ไปนั่งทำงานที่โต๊ะทานข้าวดีกว่าครับ สบายๆ) 😀

ลองเปิดหน้าบานตู้เสื้อผ้าให้ดูครับ

ออกมาด้านนอกแล้ว เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำที่ทุกคนต้องมาใช้รวมกันอยู่ที่โถงนั่งเล่นนี้

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชั่นครบ 3 ประการ ไว้อยู่คนละมุมเลย มีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ ซ้ายมือสุดเป็นโซนอ่าง พื้นที่เข้ามุมเป็นฉากกั้นกระจกอาบน้ำ และขวามือเป็นพื้นที่สุขภัณฑ์

ของต่างๆในห้องน้ำ วัสดุจะได้ของ American Standard ทั้งหมดนะครับ ส่วนห้องนี้ชุดฝักบัวจะได้ Rain Shower เสริมมมาด้วย

ออกจากห้องน้ำไปดู Master Bedroom กัน มุมนี้ให้ดูพื้นที่ทางเดินต่อเนื่องเข้าไปก่อนว่าระยะค่อนข้างดีนะ

ภายในห้องนอนจะค่อนข้างกว้างจัดวางเตียงใกล้หน้าต่าง ด้านข้างมีโต๊ะข้างหัวเตียงชุดใหญ่

โต๊ะข้างหัวเตียงชุดนี้จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือนั่งเขียนงานก็พอได้

ที่ปลายเตียงจะมีการ Built-In ตู้เสื้อผ้ามาให้ แต่ขนาดจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหน่อยเป็น 3 หน้าบาน

ระยะทางเดินหลังติดตั้งตู้เสื้อผ้าจะเหลือไม่มากราวๆ 35 ซม.

ต่อมาไปดูส่วนของครัวกัน ห้องนี้ก็ได้เป็นครัวปิดเช่นเดียวกัน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบสูงจรดฝ้าเพดาน

พื้นที่ส่วนทางเดินของครัวค่อนข้างกว้าง (ราว 1.3 ม.) พื้นจะเปลี่ยนเป็นโซนกระเบื้องง่ายต่อการทำความสะอาด

ซ้ายมือส่วนแรกเป็นพื้นที่วางตู้เย็น

ด้านบนเป็นชุดตู้ที่มีหน้าบานปิดเป็นสัดส่วนเรียบร้อย

ชุด Pantry ครัว จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านะ

ประตูกระจกบานเลื่อนทางออกไประเบียง

ระเบียงห้องนี้จะได้ “พื้นที่” กว้างกว่าห้องก่อนอย่างเห็นได้ชัด คือถ้าวางเครื่องซักผ้าด้านนอกแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทำอะไรได้อีก อย่างต่างผ้า วางสวนกระถาง นั่งเล่น เป็นต้น

คอมแอร์แขวนไว้ที่ผนังเหมือนเดิม (อย่าลืมไปหากริลล์บังคับลมร้อนติดกันนะ)

Image 1/3
1 Bed Type A2-2 ขนาด 41.5 ตร.ม.

1 Bed Type A2-2 ขนาด 41.5 ตร.ม.

อันนี้เป็นแปลนของแบบห้องอื่นๆที่ไม่ได้ทำห้องตัวอย่างเอาไว้นะครับ แต่ห้องพวกนี้จะมีจำนวนไม่มากเท่าไร เพราะจะอยู่ตามมุมอาคาร และเป็นห้องขนาดไซส์ใหญ่กว่าแบบห้องตัวอย่าง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 November 2017

  • 1 Bed Type A1 ขนาดเนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1.84 – 2.23 ล้านบาท (Min – Max) หรือราคาเฉลี่ย 65,714 – 79,642 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed Type A2 ขนาดเนื้อที่ 30 ตร.ม. ราคา 2.4 – 2.44 ล้านบาท (Min – Max) หรือราคาเฉลี่ย 80,000 – 81,333 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed Type B2 ขนาดเนื้อที่ 41.5 ตร.ม. ราคา 3.2 – 3.22 ล้านบาท (Min – Max) หรือราคาเฉลี่ย 77,108 – 77,590 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed Plus Type B5 ขนาดเนื้อที่ 34 ตร.ม. ราคา 2.5 – 2.56 ล้านบาท (Min – Max) หรือราคาเฉลี่ย 73,529 – 75,294 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ Built-In และลอยตัว , แอร์ 2 ตัว)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS พระโขนง (หน้า Summer Hill)
  • จอง 20,000 บาท / ทำสัญญา 30,000 บาท
  • ดาวน์ 12,900 – 17,900 บาทต่อเดือน / ผ่อนดาวน์ 13 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล อยู่ในย่านพระโขนงถือเป็นทำเลที่อยู่ระหว่างในเมืองและนอกเมือง สภาพแวดล้อมโดยรอบมีลักษณะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่มีความเจริญ และ ความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร มีความหนาแน่นของประชากรสูง และเป็นทำเลที่เริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยส่วนมากมีลักษณะเป็นตึกแถวและอาหารพาณิชย์ที่มีร้านค้าอยู่ด้านล่าง ซึ่งทำที่ตั้งของโครงการถึงแม้จะดูเหมือนอยู่ไกลๆจากถนนหลักอยู่บ้าง แต่จริงๆก็สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกทีเดียว ตัวตำแหน่งจะอยู่ซอยมีสุวรรณ 3 แยก 10 อีกนิดเดียวก็จะไปออกซ.ปรีดีพนมยงค์ 2 (เลียบทางด่วน) ซึ่งเราสามารถขึ้นทางด่วนตรงนี้ได้เลย

ความอุดมสมบูรณ์ ถ้ามองในระยะเดิน(ราว 3-4 ร้อยเมตรแถวโครงการ) ต้องบอกว่าแห้งแล้งมากคือแถวนั้นจะเป็นชุมชนอยู่อาศัย ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวสัญจรผ่านกันไปมามากกว่า แต่ถ้าขยับออกไปนิดนึงให้ดูที่ซ.ปรีดีพนมยงค์ 2 ซึ่งเป็นแหล่งร้านอาหารมหาศาล มินิมาร์ทเต็มไปหมด / ที่ด้านหน้าซ.สุขุมวิท 71 มี Community mall ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ W District ตั้งอยู่บริเวณปากซอย สุขุมวิท 71 หรือ Summer Hill ที่บริเวณ BTS  พระโขนง และมี Hyper market อย่าง Max Value อยู่บริเวณกลางๆซอย / หรือขับรถข้ามเข้ามา T77(Sansiri) เข้ามานั่งชิลล์ในคอมมูนิตี้มอลล์ Habito ก็ได้

การเดินทางด้วยรถ เวลาขับรถกลับมาบ้านสามารถมาหลักๆได้สองทางคือ 1.มาจากแยกพระโขนงเข้าซอยสุขุมวิท 71 หรือ 2.มาจากถนนหลักสุขุมวิท วิ่งขึ้นสะพานมุ่งหน้าไปอ่อนนุชแล้วเบี่ยงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางด่วน ที่ดินของโครงการยังมีความพิเศษอีกอย่างนึงคือ เจ้าของที่ดินเดิมเป็นเจ้าของเดียวกับแปลงของ T77 (แสนสิริ) ซึ่งปัจจุบันการที่เราจะข้ามเข้าผ่านประตูของ T77 (ไปคอมมูนิตี้มอลล์ Habito หรือไปออกถนนอ่อนนุช) จะต้องเสียค่าผ่านทางครั้งละ 20 บาท แต่เราจะได้สิทธิ์พิเศษผ่านได้ฟรี ถ้าใครใช้สัญจรไปกลับอ่อนนุชบ่อยๆก็ประหยัดไปได้วันละ 40 บาทเลยนะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ต้องบอกว่าเป็นจุดด้อยของโครงการนี้เหมือนกัน เนื่องจากเข้ามาอยู่ในซอยแยกย่อย อีกทั้งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยกันแบบสงบๆ ไม่ใช่เส้นทางที่มีพี่วิน taxi รถสองแถวผ่าน ทั้งระยะไปรถไฟฟ้ากิโลกว่าทำให้ลำบากทีเดียว ถึงแม้ตัวโครงการจะมี Shuttle Bus ไปส่งที่หน้า Summer Hill (BTS) ก็ตามแต่ไม่ได้ระบุจำนวนคัน จำนวนรอบมาให้

การออกแบบ ตัวหน้าตาที่ดินจะเป็นทรงแหลม ทำให้ได้ตัวอาคารจัดเรียงเป็นแนวยาว ไม่บังวิวกันเอง หน้าตาภายนอกเป็น Modern  Contemporary ใช้โทนเทาน้ำตาล แปลนชั้นจัดวางค่อนข้างหนาแน่นเหมือนกันมีจำนวนยูนิต 31-33 ยูนิตต่อชั้น แต่แบบห้องที่นี่จัดมาได้ลงตัวทีเดียว เนื่องด้วยการที่เค้าให้เฟอร์นิเจอร์มาเบ็ดเสร็จ ทำให้มีการคิดมาให้แล้ว ไม่มีพื้นที่เสียเปล่าเท่าไร โดยรวมแล้วจัดฟังก์ชั่นในห้องได้ดีเลย

วัสดุ ค่อนข้างคุ้ม เพราะที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ได้ทั้งเฟอร์ Built-In และลอยตัว ฉากกั้นห้องสูงเต็มเพดาน 2.40 เมตร หน้าต่างช่องแสงค่อนข้างใหญ่ ได้ครัวปิดมีที่เก็บของเยอะ และ Hob&Hood , ฉากกั้นอาบน้ำ, แอร์ 2 ตัว, พื้นกระเบื้องไวนิล

สาธารณูปโภค ให้มาเหมาะสมกับจำนวนยูนิต โดยเริ่มจากมี Shop ร้านค้า ที่ด้านหน้า 2 ยูนิต เข้ามาด้านในมี Club House 2 ชั้น มองวิวสระ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องออกกำลังกาย ด้านนอกเป็นสระว่ายน้ำ ด้านข้างจัด Sumken Seat สวยๆ และท้ายโครงการทำเป็นลาน Joggink Track ซึ่งตรงกลางมี Tree House ให้นั่งชิลได้

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 81,000 บาท/ตร.ม., 17 November 2017

  • ทำเล 7/10 – อยู่ในซอยแยกย่อย ใช้ทางด่วนง่าย การหาของกินต้องขับรถไป
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีทางลัดเลาะ หนีรถติด ผ่านT77ฟรี ใช้ทางด่วนง่าย
  • ไม่ใช้รถ 6.5/10 – ไม่ได้อยู่ในระยะเดินไปรถไฟฟ้า อีกทั้งเรียกอย่างอื่นยาก แต่มี Shuttle Bus ไป Summer Hill (BTS) ให้
  • วัสดุ 8.25/10 – ได้แบบ Fully Furnished เยอะชิ้น จัดเต็ม
  • แบบ 8/10 – เป็นห้องหน้าแคบแต่จัดให้แสงผ่านได้ดี และฟังก์ชั่นการใช้งานลงตัว
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – จัดมาให้ในระดับมาตรฐาน
  • ECONOMY-MAIN CLASS
  • 7.41 / 10.00

BOTTOM LINE

The Excel Hideaway สุขุมวิท 71 เหมาะสำหรับคนที่อยากเข้ามาอยู่ในตัวเมืองหน่อย แต่มีงบไม่มาก ใช้เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลักเลย ได้ห้องแบบยกกระเป๋าเข้าอยู่ได้ไม่ต้องเสียเวลาแต่ง มีส่วนกลางให้ใช้ในตัว มีงบประมาณระดับ 1.79 – 3.2 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 22,400 บาท/เดือน