รีวิวฉบับที่ 1612 … สวัสดีครับวันนี้ผมพาไปรีวิวคอนโด The Excel Hideaway รัชดา-ห้วยขวาง จาก All Inspire เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 ออกแบบแนวคิด Balance your move อยู่สบาย เดินทางสะดวก ห่างจาก MRT ห้วยขวาง 950 เมตร Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ

Fact @ 12 June 2018

  • The Excel Hideaway Ratchada-Huai Khwang (ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ รัชดา-ห้วยขวาง)
  • All Inspire Development
  • MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 เขตห้วยขวาง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 592 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 31 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ 36% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
  • ที่ดินประมาณ 4-3-71 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : n/a
  • 1 Bedroom 25.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.31 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 28-29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.35 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 34-34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 – 3.1 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 – 4.2 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 89,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02 029 9999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.774188, 100.576931

แผนที่จากทางโครงการครับ โครงการตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 บนถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ ใกล้กับ MRT ห้วยขวาง

ต่อไปมาดูแผนที่จริงกันบ้างครับ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 เข้ามาในซอยจากถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญประมาณ 450 เมตร โดยถนนเส้นนี้สามารถเข้ามาได้จากถนนรัชดาภิเษกตรงบริเวณแยกห้วยขวาง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณนี้เต็มไปด้วยชุมชนที่พักอาศัย แหล่งทำงาน สถานศึกษา และแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ มากมาย จึงทำให้สี่แยกห้วยขวางมีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดมากในชั่วโมงเร่งด่วน

ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ เป็นถนนที่มีเส้นทางลัดเลาะออกไปยังถนนหลักได้หลายเส้นทาง สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งซอย 20 มิถุนา , ถนนประอุทิศ, ถนนเทียมร่วมมิตร เพื่อไปออกถนนหลักอย่าง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม,ถนนสุทธิสาร และถนนพระราม 9 ได้ จากสี่แยกห้วยขวาง ถ้าขับขึ้นเหนือไปตามถนนรัชดาภิเษกก็จะไปยังลาดพร้าว หรือจะขับลงใต้เพื่อเข้าเมือง สามารถไปอโศก-พระราม 9 ได้ และบริเวณแยกพระราม 9 นี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานมากมาย หรือหากเลี้ยวเข้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์จากสี่แยกห้วยขวาง เราสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดเพื่อไปออกถนนวิภาวดี-รังสิตได้ด้วย

มาดูในเรื่องความอุดมสมบูรณ์กันบ้างครับ โดยที่ตั้งของตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 ซึ่งภายในซอยเป็นซอยชุมชนพักอาศัยและมีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆอยู่บ้าง 1-2 ร้าน แต่ถ้าเราเดินออกมาหน้าปากซอยประมาณ 450 m. ก็จะเจอกับถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ ซึ่งพอจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายยา และสิ่งอำนวยความสะดวกคึกคักอยู่มากพอสมควร และถ้าเราอยากไปตลาดหรือเดินห้างใหญ่ๆชิลๆ บนถนนรัชดาภิเษกก็มีอยู่มากมาย

โดยเฉพาะเมื่อออกมาที่สี่แยกห้วยขวางที่มีศาลพระพิฆเนศนั้นเป็นที่รู้จักกันดีของคนในย่านนี้ว่าบนถนนประชาสงเคราะห์นี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดห้วยขวาง และ Bar&Restaurant หลายร้าน นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ห้วยขวาง ซึ่งถ้าเรานั่ง MRT ไปอีก 2 สถานี หรือไปแถวๆสถานีศูนย์วัฒนธรรมและสถานีพระราม 9 เราก็จะเจอกับ CBD ของย่านนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง และอาคารสำนักงานต่างๆมากมาย แหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญๆของแถวนี้ประกอบไปด้วย The Street, Big C, Esplanade, ตลาดรถไฟ, Cyber World, ฟอร์จูนทาวน์ และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ส่วนตึกอาคารสำนักงานที่เด่นๆจะประกอบไปด้วย ตึก RS, ตึก AIA, ตึก True และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และที่สำคัญแถวนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานฑูตหลายแห่ง ทั้งสถานฑูตจีน สถานฑูตเกาหลี สถานฑูตลาว และสถานฑูติกัมพูชา จึงไม่แปลกที่ละแวกนี้จะมีชาวต่างชาติอยู่เยอะโดยเฉพาะชาวจีน

นอกจากการเดินทางโดยใช้รถยนต์จะสะดวก สามารถลัดเลาะไปออกถนนหลักต่างๆได้หลากหลายเส้นทางแล้ว บนถนนรัชดาภิเษกนี้ยังเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ-หัวลำโพง วิ่งผ่านด้วย ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สถานี ห้วยขวาง ห่างจากโครงการประมาณ 950 m.

จาก MRT ห้วยขวาง สามารถเดินทางมายังโครงการได้ในระยะทางประมาณ 950 m. ซึ่งถือว่าเป็นระยะการเดินที่ไกลพอสมควร โดยเดินเข้ามายังถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญประมาณ 500 m. แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 อีกประมาณ 450 เมตร ก็จะเจอกับตัวโครงการตรงท้ายซอยพอดี หรือถ้าจะสะดวกก็สามารถใช้บริการพี่วินมอไซค์ที่อยู่ตรงสี่แยกห้วยขวางก็ได้ครับ

ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกเช่นกัน นอกจากถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญจะมีทางลัดเลาะไปยังถนนหลักต่างๆได้หลายเส้นทางแล้ว เรายังสามารถเดินทางไปใช้ทางด่วนศรีรัชได้ง่ายๆ โดยใช้เส้นทางจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งลงใต้มาที่แยกพระราม 9 เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพระราม 9 เป็นระยะทางประมาณ 3.7 km. แล้วขับตรงต่อมาอีกประมาณ 1.8 km. ก็จะสามารถขึ้นทางด่วนศรีรัชเพื่อใช้เดินทางต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ได้ รวมระยะทางจากโครงการมายังจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 5.5 km.

หรือจะมาขึ้นที่จุดขึ้นทางด่วนอีกจุดหนึ่ง โดยการขับตรงมาจากแยกพระราม 9 อีกประมาณ 300 m. แล้วเลี้ยวซ้าย ขับตรงต่อมาอีกประมาณ 600 m. ก็จะพบกับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชอีกจุดขึ้น ซึ่งเป็นระยะทางที่ใกล้กว่าเส้นทางแรกก็จริง แต่อาจต้องเสียเวลาติดไฟแดงตรงสี่แยกพระราม 9 อยู่พอสมควร ไม่สามารถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้เหมือนเส้นทางแรกนะครับ โดยรวมแล้วอาจใช้เวลาพอๆกันก็ได้นะ อันนี้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน

หรือจะใช้ถนนประชาสงเคราะห์ตัดผ่านเข้ามายังถนนวิภาวดี-รังสิต ระยะทางประมาณ 3.4 km. แล้วขับตรงต่อมาอีกประมาณ 1.6 km. ก็จะสามารถขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครไปยัง พระราม 9, อโศก, บางนา และศรีนครินทร์ได้ รวมระยะทางประมาณ 5 km.

และยังสามารถใช้เส้นทางลัดเลาะผ่านซอย 20 มิถุนาและถนนประชาอุทิศ มาออกถนนพระราม 9 เพื่อขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพื่อใช้เป็นเส้นทางไปบางกะปิ,ลาดพร้าว ก็ได้เช่นกัน รวมระยะทางประมาณ 6 km.

สำหรับการเดินทางมาในวันนี้เราเริ่มต้นกันที่ Seal Gallery ซึ่งอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการกันก่อนนะครับ แล้วค่อยไปดูสถานที่จริงกันต่อ เผื่อใครมาชมโครงการแล้วอยากไปดูสถานที่จริงก็ตามผมมาได้เลย ที่ตั้งของ Seal Gallery จะอยู่ติดริมถนนใหญ่รัชดาภิเษก บริเวณหน้าปากซอยรัชดา 14 ก่อนถึง Mansion 7 Night Alive สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งจากรถยนต์ทางถนนรัชดาภิเษก และจาก MRT สถานีห้วยขวาง ซึ่งมีระยะทางเดินจากสถานีเพียง 400 m.

เริ่มต้นที่รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ห้วยขวาง ให้ใช้ทางออกที่ 1 ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ

เมื่อออกมาจากสถานี MRT ห้วยขวาง เราจะออกมาบริเวณสี่แยกห้วยขวางพอดี ให้เราเลี้ยวขวาเดินไปตามทางเดินริมถนนเรื่อยๆ อีกประมาณ 400 m.

ระหว่างทางที่เราเดินมาเรื่องๆ จะมีจุดสังเกตคือ เราจะเดินผ่าน Mansion 7 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านขวาหน้าปากซอยรัชดา 14  และปากซอยทางด้านซ้ายคือที่ตั้งของ Sale Gallery ของโครงการ The Excel รัชดา-ห้วยขวาง จุดหมายของเราครับ

หรือถ้าเราขับรถยนต์มา ก็มาได้ง่ายๆโดยใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปทางพระราม 9 ให้สังเกตป้ายของแยกห้วยขวางซึ่งมีทางแยกทางซ้ายไปประชาอุทิศและทางขวาไปประชาสงเคราะห์ และระวังอย่าขับชิดขวาไปตามป้ายพระราม 9 – อโศก ล่ะครับ เพราะมันจะพาลงอุโมงค์ใต้ดินผ่านสี่แยกห้วยขวางไปแล้วจะเลยไปยาวเลย โดย Seal Gallery จะอยู่ก่อนถึงสี่แยกห้วยขวางครับ

หน้าตาของ Sale Gallery เป็นลักษณะ Modern กรุกระจกโดยรอบแบบนี้ มีป้ายโฆษณาของโครงการขนาดใหญ่ติดอยู่อย่างชัดเจน มีที่จอดรถยนต์อยู่ทางด้านซ้ายของ Sale Gallery

 

ต่อมาเราจะเดินทางจาก Sale Gallery ไปยังที่ตั้งโครงการจริงด้วยรถยนต์กันครับ โดยใช้เส้นทางจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปทางพระราม 9 – อโศก ประมาณ 400 m. เมื่อถึงแยกห้วยขวางแล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญอีกประมาณ 500 m. แล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 ซึ่งภายในซอยจะเป็นทาง One way สามารถออกจากซอยนี้ได้โดยเลี้ยวซ้ายเพื่อไปออกทางซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 8 ได้

จากหน้า Sale Gallery ให้ขับรถตรงไปบนถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าพระราม9 – อโศก สังเกตป้าย “ประชาอุทิศ” ที่เราต้องเลี้ยวตรงแยกห้วยขวางข้างหน้า และระวังอย่าตามป้าย พระราม 9 – อโศก เพราะมันจะพาลงอุโมงค์ลอดใต้สี่แยกห้วยขวางไปแล้วจะเลยจุดหมายครับ

เมื่อขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆประมาณ 400 m. เราจะมาถึงสี่แยกห้วยขวาง ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายเข้าสู่ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ

เมื่อเข้ามายังถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญจะเป็นถนนขนาด 3 เลน มีทางเท้า 2 ข้างทางสามารถเดินได้สะดวก และเราจะพบกับบรรยากาศย่านชุมชนที่อยู่อาศัยดั่งเดิม เป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้น ติดต่อกันตลอดทั้ง 2 ข้างทาง มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายยา คลีนิค ร้านสะดวกซื้อ ธนาคารและเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และร้านนวดสปา จะสังเกตได้ว่าที่หน้าร้านเกือบทุกร้านจะมีภาษาจีนเขียนกำกับควบคู่เอาไว้ด้วย เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ใกล้กับสถานฑูตจีน จึงมีคนจีนพักอาศัยอยู่แถวนี้เป็นจำนวนมาก จากถนนใหญ่รัชดาภิเษก ให้ขับตรงเข้ามาอีกประมาณ 500 m. ครับ

สังเกตซอยทางขวามือจะมีป้ายซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยได้เลย และบริเวณหน้าปากซอยยังมีพี่วินมอไซค์ให้เรียกใช้บริการได้ หรือจะเรียกรถแท็กซี่หรือรถกะป้อ ก็มีผ่านถนนเส้นนี้อยู่เรื่อยๆนะครับ

เมื่อเข้ามาภายในซอยจะสังเกตได้ว่าถนนซอยมีขนาด 2 เลน และบริเวณต้นซอยจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านตามสั่งอยู่ 1 – 2 ร้าน จากปากซอยให้ขับตรงเข้าไปอีกประมาณ 450 m.

เมื่อขับเข้ามาอีกหน่อยเราจะพบกับชุมชนดั่งเดิม ทางด้านซ้ายเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น  และทางด้านขวาอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น ส่วนถนนจาก 2 เลน จะเหลือทางให้ขับผ่านไปได้แค่ 1 เลน เพราะเลนทางด้านขวาชาวบ้านที่นี่มักจะใช้จอดรถเป็นเรื่องปกติครับ

เมื่อขับเข้ามาถึงกลางซอย บรรยากาศจะเปลี่ยนจากบ้านเก่าชุมชนดั่งเดิมเป็นโซนบ้านใหม่หลังใหญ่ที่เริ่มดูมีฐานะขึ้นมามากหน่อย หมายความว่าตลอดซอยนี้จะเป็นบรรยากาศซอยชุมชนที่พักอาศัยที่ไม่มีร้านค้าเลย ตอนกลางคืนจะเงียบหน่อยไม่ค่อยมีรถผ่านไปมา ส่วนถนนเลนด้านขวายังคงถูกจับจองใช้เป็นที่จอดรถยาวตลอดแนวทั้งซอยครับ

เมื่อเราขับรถเข้ามาจนสุดซอย เราจะพบกับที่ตั้งโครงการ ส่วนถ้าต้องการกลับออกไปยังถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ ต้องเลี้ยวเข้าซอยทางขวาเพื่อไปออกซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 8 เนื่องจากซอยนี้เป็นทาง One way ครับ

ภาพบริเวณด้านหน้าที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่ท้ายซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 มีรั้วประตูเหล็กดัดสีแดงและมีป้ายประชาสัมพันธ์โครงการติดอยู่ด้านหน้า โดยที่ทางด้านซ้ายของด้านหน้าโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น และทางขวาจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

เมื่อหันหลังกลับมามองออกไปทางหน้าปากซอย จะเห็นว่าเป็นซอยย่านชุมชนพักอาศัยปรกติ ถนนขนาด 2 เลน เป็นทาง One way สามารถออกจากซอยได้โดยซอยทางด้านซ้ายเพื่อไปออกทางซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 8

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยชุมชนและบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น จะไม่มีอาคารสูงบดบังในระยะใกล้ สามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 ซึ่งเป็นทางเข้าหลักโครงการ และมีบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น
  • ด้านทิศใต้ ติดกับ ที่ว่างและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 1-3 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

รูปภาพทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโครงการ เป็นวิวห้องที่หันหน้าไปทางทิศใต้ของอาคาร B และอาคาร C ในระยะใกล้จะเห็นเป็นที่ว่างและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และระยะไกลจะเห็นตึกสูงเป็นตึก Cyber World, ตึก RS และคอนโด City Living รัชดา โดยทางทิศนี้จะมีแดดค่อนข้างแรงในช่วงหลังบ่ายเป็นต้นไป

หันมาทางด้านซ้าย เป็นรูปภาพทางทิศใต้ของโครงการ ในระยะใกล้เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และระยะไกลจะเห็นตึกคอนโดมิเนียมสูงคือ Subkaew Tower โดยทางด้านนี้จะได้ลมดีและมีแดดแรงในช่วงหลังบ่ายเป็นต้นไป

และหันมาทางด้านขวากันบ้าง เป็นรูปภาพทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในระยะใกล้จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ถัดออกไปอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น และในระยะไกลจะเป็นตึกสูง Forum Tower และ คอนโด Diamond รัชดา โดยทางด้านนี้จะได้ลมดีและแดดไม่แรงมาก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดห้วยขวาง 1.5 km.
  • Cyber World 1.9 km.
  • ม.หอการค้า 2.3 km.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร 2.4 km.
  • เมืองไทยประกันชีวิต 2.6 km.
  • สถานฑูตเกาหลี 2.6 km.
  • ศูนย์วัฒนธรรมฯ 2.7 km.
  • สยามนิรมิตร 2.8 km.
  • บุญถาวร รัชดาภิเษก 2.8 km.
  • สถานฑูตลาว 2.9 km.
  • ตลาดรถไฟรัชดา 2.9 km.
  • Esplanade 2.9 km.
  • RS Tower 3 km.
  • ตึก True 3.2 km.
  • Big C Extra 3.2 km.
  • สถานฑูตกัมพูชา 3.2 km.
  • The Street รัชดา 3.3 km.
  • ฟอร์จูนทาวน์ 3.5 km.
  • Central Rama 9 3.5 km.
  • Golden Place 4 km.
  • สถานฑูตจีน 4.2 km.
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4.2 km.
  • AIA 4.3 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพจำลองภายนอกโครงการ The Excel Hideaway รัชดา-ห้วยขวาง เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 592 ยูนิต มีขนาดที่ดินประมาณ 4-3-71 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏษ์บำเพ็ญ 10 มีแนวคิด Balance your move ออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับชีวิตคนในเมือง ทำเลสะดวกทั้งการเดินทางใช้รถและไม่ใช้รถ และมีส่วนกลางขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำยาวเป็นพิเศษ

หน้าตาอาคารเป็นสไตล์ Modern เน้นเส้นสายเรียบเท่เป็นเส้นตรง เน้นการใช้ช่องแสงและกระจกทำให้อาคารดูไม่ทึบแน่นจนเกินไป มีการจัดโซนแยกพื้นที่การใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ทั้ง Shops และ Co-Working space ที่อาจมีลูกบ้านพาบุคคลภายนอกเข้ามาใช้งานร่วมกันอยู่บ่อยครั้งเช่น นั่งทำงานกลุ่ม ประชุม เป็นต้น ก็ถูกจัดให้อยู่ด้านหน้าสุดเป็น Semi-Public zone เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนพื้นที่พักอาศัยที่เป็นส่วนตัวภายในโครงการ วางส่วนกลางไว้ที่ชั้น 1 ตรงกลางเพื่อให้ลูกบ้านทุกอาคารสามารถมาใช้งานได้สะดวกและมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ตลอดทั้งโครงการ

ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่มีความยาวเกือบตลอดทั้งโครงการ และ Library บริเวณชั้น 2 ยื่นออกมาเหนือสระว่ายน้ำ ผนังโดยรอบเป็นผนังกระจกสามารถมองเห็นส่วนกลางได้ทั้งโครงการ

ภาพจำลองห้อง Fitness บริเวณชั้น 1 ผนังโดยรอบเป็นผนังกระจก สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและสวนภายนอกได้

มาดูที่ตัวโมเดลกันบ้าง โครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร มีทางเข้าหลัก 1 ทางจากซอยประชาราษฏร์บำเพ็ณ 10 บริเวณทางด้านหน้าประกอบไปด้วยอาคาร A และอาคาร C ส่วนอาคาร B จะอยู่ทางด้านหลัง บริบทโดยรอบอาคารจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-3 ชั้น ซึ่งจะไม่กระทบต่อมุมมองทั้งจากภายนอกหรือภายในโครงการ

เริ่มที่ทางเข้า-ออกหลักของโครงการจะมีแค่ทางเดียวเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัยเวลามีใครเข้าออกโครงการต้องผ่านป้อม ร.ป.ภ. เพื่อแลกบัตรหรือใช้ระบบ RFID ลักษณะคล้ายกับ Easy Pass เข้าสู่โครงการ ทางด้านขวามือจะเป็นพื้นที่ Shops ให้เช่า 2 ยูนิตอยู่ใต้อาคาร A (ซึ่งทางโครงการยังไม่ระบุแน่ชัดว่าจะเป็นร้านอะไร) และทางด้านซ้ายที่ใต้อาคาร C จะมี Co-Working space สำหรับใช้นั่งทำงาน หรือประชุมกันได้ ข้อดีของการนำ Co-Working นี้มาอยู่ด้านหน้าสุด เพราะเป็นพื้นที่เปรียบเสมือน Semi-Public ที่ลูกบ้านหลายคนสามารถนัดเพื่อนหรือบุคคลภายนอกมาพบปะ พูดคุย หรือทำงานร่วมกันได้ โดยที่จะไม่เข้าไปรบกวนพื้นที่ในส่วนพักอาศัยภายในซึ่งเป็น Private zone สำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเข้ามาภายในโครงการเราจะเจอพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆได้แก่ Fitness กับ Library ที่อยู่ใต้อาคาร C และสระว่ายน้ำที่ยาวเกือบตลอดทั้งโครงการอยู่ตรงกลาง โอบล้อมไปด้วยอาคารที่พักอาศัยทั้ง 3 อาคาร ส่วนสวนบนดาดฟ้าที่เห็นในโมเดลจำลองนั้น ของจริงจะไม่มีนะครับ

ภาพถ่ายโมเดลจากซุ้มประตูทางเข้าโครงการ มีความเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นเข้ากับตัวอาคาร ชั้นล่างของอาคาร A และอาคาร C เป็นส่วน Facility ที่เป็นผนังกระจกไม่ใช่ผนังทึบทั้ง 2 ด้าน ทำให้ทางเข้าไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป

เส้นทางเดินรถภายในอาคารจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรกบริเวณพื้นที่จอดรถแบบลานโล่ง ตรงกลางด้านหน้าจะเป็นเส้นทางแบบ Two way ที่รถสามารถสวนกันได้ แต่ถ้าหากต้องการจะเข้าไปจอดรถใต้อาคาร เช่นอาคาร B และอาคาร A จะต้องขับรถผ่านใต้อาคาร C > B > A เรียงไปเรื่อยๆตามลำดับ เพราะเป็นทาง One way

มาดูจุดเด่นของโครงการนี้กันบ้างครับ ซึ่งนั่งก็คือสระว่ายน้ำซึ่งมีความยาวเกือบจะตลอดทั้งโครงการเลยทีเดียว โดยสระจะแบ่งออกเป็น 2 สระนะครับไม่ได้ว่ายต่อเนื่องถึงกันหมด กว้าง 3.8-6 เมตร และยาว 15-35 เมตร โดยที่จะมีคอร์ดตรงกลางที่อยู่ระหว่างทั้ง 3 อาคาร จะถูกทำเป็น Water Feature และทางเดินข้ามผิวน้ำตื้นๆ มาคั่นเอาไว้ เพื่อให้ลูกบ้านทั้ง 3 อาคารสามารถเข้าถึงและใช้งาน Facility ได้สะดวกยิ่งขึ้น

และอีก 1 จุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการนี้คือ Library ที่อยู่บนชั้น 2 ของห้อง Fitness ซึ่งทำเป็นส่วนยื่นออกจากอาคารมาบนพื้นที่สระว่ายน้ำโดยไม่มีเสามารับน้ำหนัก ผนังโดยรอบเป็นผนังกระจกสามารถชมวิวสวนและสระว่ายน้ำของโครงการได้ทุกทิศทาง

เพราะอาคารแบบ Low Rise ไม่สามารถ Take view สวยๆไกลๆได้เหมือนอาคาร High Rise หลายๆโครงการจึงออกแบบและจัดแต่งพื้นที่ส่วนกลางสวยๆเอาไว้ให้ภายในโครงการ เพื่อที่มองออกมาจากทางหน้าต่างหรือระเบียงห้องจะได้เห็นสวนหรือสระว่ายน้ำสวยๆได้ และโครงการนี้ได้ออกแบบพื้นที่สระว่ายน้ำที่มีสวนล้อมรอบยาวเกือบตลอดทั้งโครงการ จึงทำให้ห้องเกือบทุกห้องที่หันหน้าเข้าด้านในของโครงการจะได้รับวิวสระว่ายน้ำและสวน และจะมียูนิตพิเศษบางส่วนจากในภาพที่จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนแบบตอนลึก มองเห็นพื้นที่ส่วนกลางได้เกือบทั้งโครงการ ซึ่งจะเป็นวิวภายในที่ดีที่สุดของโครงการนี้

มาดู Master plan กันบ้างครับ เหมือนที่ได้บอกไปในช่วงโมเดลแล้วว่าโครงการประกอบด้วยอาคารทั้งหมด 3 อาคาร บนพื้นที่ทั้งหมด 4-3-71 ไร่ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 592 ยูนิต ประกอบไปด้วย อาคาร A เป็นรูปตัว L มีจำนวน 185 ยูนิต ชั้นล่างเป็น Shops และพื้นที่จอดรถ ด้านในสุดเป็นอาคาร B เป็นรูปตัว U มีจำนวน 217 ยูนิต ชั้นล่างเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด และสุดท้ายเป็นอาคาร C เป็นรูปตัว L ที่อยู่บริเวณด้านหน้า มีจำนวน 190 ยูนิต ชั้นล่างบริเวณด้านหน้าจะเป็นห้อง Co-Working space ทางด้านในจะเป็น Fitness และมีพื้นที่จอดรถใต้อาคาร มีสระว่ายน้ำและสวนอยู่ตรงกลาง โอบล้อมไปด้วยอาคารทั้ง 3 อาคาร ทุกอาคารใช้ Facility ร่วมกัน แต่จะมี Lobby แยกกันในแต่ละอาคาร

ทางเดินรถมี 2 ส่วนคือ ส่วนแรกบริเวณด้านหน้าและคอร์ดตรงกลางจะเป็นทางเดินรถแบบ Two way สามารถเดินรถได้สองทาง ส่วนทางเดินรถใต้ตึกนั้นจะเป็นทาง One way ซึ่งถ้าเราต้องการขับรถไปจอดใต้ตึก B ก็จะเป็นต้องขับผ่านใต้ตึก C > B > A เรียงกันตามลำดับ

แปลนชั้น 2 อาคาร A เป็นอาคารรูปตัว L วางโถงลิฟต์และส่วนงานระบบเอาไว้ช่วงกลางอาคาร มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง ชั้นนี้มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 23 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 93:1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นครับ พื้นที่อาคารทางด้านขวาเป็นพื้นที่ Double Space ของ Shops ที่ชั้น 1 จึงถูกเว้าออกไป รูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 15 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34.5 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • 2 Bedroom : 45.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

โดยห้องหันหน้าออกไปทางด้านนอกโครงการซึ่งจะมองเห็นวิวบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และเป็นทิศเหนือที่ได้ลมดีแดดไม่ร้อน ห้องอื่นๆที่หันหน้าเข้ามาด้านในก็มองเห็นสระว่ายน้ำและสวนภายในโครงการ รวมถึงอาคาร A นี้ยังมีห้องที่อยู่ในมุมที่จะมองเห็นสระว่ายน้ำและสวนแบบตอนลึกที่ได้เกริ่นไปแล้วก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย

แปลนชั้น 3 – 8 ของอาคาร A จะเป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัยทั้งหมด และมีพื้นที่ห้องเพิ่มเข้ามาในส่วนทางด้านขวาที่ขาดหายไปในชั้น 2 ทำให้ตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไปจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 27 ยูนิต/ชั้น โดยรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 19 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34.5 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • 2 Bedroom : 45.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ต่อมาเป็นแปลนชั้น 2 – 8 ของอาคาร B อาคารนี้มีรูปทรงเป็นรูปตัว U โอบล้อมและอยู่ตรงสุดปลายทางของสระว่ายน้ำพอดี วางโถงลิฟต์และส่วนงานระบบไว้ตรงกลางตึกค่อนไปทางซ้าย มีบันไดหนีไฟ 3 ตำแหน่ง มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 217 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 109:1 ถือว่ายังไม่หนาแน่นมากครับ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 31 ยูนิต/ชั้น รูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 25 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 45.5 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง

โดยห้องที่หันหน้าออกทางด้านนอกโครงการ ทางด้านซ้ายเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะโดนแดงบ้างในช่วงบ่ายเป็นต้นไปแต่ไม่มากครับ จะเห็นวิวเป็นบ้านพัออาศัยสูง 2 ชั้น ทางด้านหลังโครงการเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศนี้จะค่อนข้างโดนแดดแรงพอสมควรตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป แต่จะได้วิวที่เปิดโล่งเพราะมีพื้นที่บางส่วนเป็นที่ว่างและมีบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ส่วนทางด้านซ้ายเป็นทิศตะวันออก จะมีลมดีและได้รับแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้า จะเห็นวิวเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 3 ชั้น ส่วนห้องที่หันหน้าเขาสู่ด้านในโครงการจะได้รับวิวสระว่ายน้ำและสวนภายในโครงการ รวมถึงอาคาร B นี้ยังมีห้องที่อยู่ตรงส่วนปลายสุดของสระว่ายน้ำนั้นจะได้เห็นวิวสระแบบตอนลึกที่ยาวและสวยที่สุดในโครงการอีกด้วย

แปลนชั้นที่ 2 ของอาคาร C จะเป็นชั้นที่มี Facility ซึ่งแยกส่วนจากโซนพักอาศัย ประกอบไปด้วย Library และ Co-Working space ชั้นที่ 2 โดยการขึ้นมาใช้งาน Facility เหล่านี้ได้นั้นจะต้องขึ้นมาทางบันไดของพื้นที่ส่วนกลางจากชั้น 1 เท่านั้น และไม่มีประตูทางเข้าหรือจุดเชื่อมต่อมายังโถงทางเดินในส่วนพักอาศัยในชั้น 2 นี้ได้ จะต้องขึ้นลิฟต์มาจาก Lobby แบบปกติเท่านั้น ถือเป็นการสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยในชั้นนี้ได้เป็นอย่างดี

อาคารถูกวางเป็นรูปตัว L มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง และมีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 190 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 95:1 ถือว่ายังไม่หนาแน่นครับ โดยในชั้นนี้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 22 ยูนิต รูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 15 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34.5 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง

โดยห้องที่หันหน้าออกทางด้านนอกโครงการ ทางด้านซ้ายเป็นทิศตะวันออก มีลมดีและได้รับแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้า มองเห็นวิวบ้านพักอาศัยสูง 1 – 3 ชั้น ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้รับแดดแรงพอสมควรในช่วงหลังบ่ายเป็นต้นไป มองเห็นวิวบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ส่วนด้านที่หันหน้าเข้าด้านในโครงการทางทิศตะวันตก จะได้รับแสงแดดแรงในช่วงหลังบ่าย มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ สวน และลานจอดรถกลางแจ้ง ส่วนด้านที่หันหน้าเข้าด้านในโครงการทางทิศเหนือ มีลมดีและไม่โดนแดดแรงตลอดวัน มองเห็นลานจอดรถกลางแจ้งและซุ้มประตูทางเข้าโครงการ

แปลนชั้น 3 – 8 ของอาคาร C จะเป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัยทั้งหมด และมีพื้นที่ห้องเพิ่มเข้ามาในส่วนหัวละส่วนท้ายที่ขาดหายไปในชั้น 2 ทำให้ตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไปจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 28 ยูนิต/ชั้น รูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 19 ห้อง
  • 1 Bedroom : 34.5 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • 2 Bedroom : 45.5 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด กว้าง 3.8-6 เมตร ยาว 15-35 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • Co-Working space 1 ห้อง
  • Library 1 ห้อง
  • Shops 2 ร้านค้า
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 99 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 93 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 109 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 95 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 36% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
  • ระบบ CCTV / RFID


Product Walkthrough

สำหรับแบบห้องของโครงการนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขายแบบ Fully Furnished คือมีให้เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง, งาน Built-in ผนัง, งาน Drop ฝ้าเพดาน และงาน Built-in โต๊ะข้างเตียง ซึ่งห้องพักจะมีให้เลือกดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.5 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 45.5 ตารางเมตร

โดยทางโครงการได้จัดทำห้องตัวอย่างให้ดู 2 ห้อง คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.5 ตารางเมตร ครับ

เริ่มที่ห้องตัวอย่างแรกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับพื้นที่ Living area ซึ่งใช้พื้นที่ร่วมกับโต๊ะรับประทานอาหารหรืออาจใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ก็ได้ มีการจัดแบ่งฟังค์ชั่นอย่างเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นทำให้รู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัด ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุต ได้โดยที่ยังมีพื้นที่เหลือรอบเตียงให้เดินได้สะดวก ตรงปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งอเนกประสงค์เล็กๆ ช่องแสงได้เป็นกระจกบานใหญ่เกือบเต็มผนังทำให้ได้รับวิวและแสงธรรมชาติภายนอกส่องเข้ามาถึงภายในห้องนั่งเล่นให้สว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟ ถัดเข้ามาด้านขวา เป็นพื้นที่ครัวซึ่งถูกแบ่งฟังก์ชั่นด้วยประตูกระจกฝ้าบานเลื่อน พื้นเปลี่ยนจากลามิเนตลายไม้เป็นกระเบื้องเซรามิกที่ง่ายต่อการเช็ดล้างทำความสะอาด มีชุดเคาน์เตอร์ครัว Built-in มาให้พร้อมใช้งาน ติดกันมีพื้นที่วางตู้เย็นขนาดกลาง และมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่ระเบียงภายนอกได้ ส่วนสุดท้ายคือพื้นที่ห้องน้ำซึ่งสามารถเข้าได้จากทางห้องครัว ภายในมีฟังก์ชั่นสุขภัณฑ์ครบและมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน มีการแยกส่วนพักอาศัย ส่วนครัวและห้องน้ำออกจากกันเป็นสัดส่วน ครัวกับห้องน้ำอยู่ทางฝั่งขวาติดกับระเบียงสามารถเปิดระบายอากาศทั้งกลิ่นอาหารจากครัวและความชื้นจากห้องน้ำ ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองในห้อง

เริ่มที่ทางเข้าห้อง เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับพื้นที่ Living area และโต๊ะรับประทานอาหาร มองเห็นพื้นที่ส่วนถัดไปด้านในเป็นพื้นที่ห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งเมื่อเปิดประตูบานเลื่อนเอาไว้จะทำให้ห้องมีพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้น และมีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ได้รับวิวและแสงธรรมชาติส่องเข้ามายังพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้ พื้นปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 8 mm. ความสูงจากพื้นที่ถึงฝ้า 2.4 m.

หันกลับมาดูที่ทางเข้า ในห้องจริงจะได้เป็นประตู UPVC หรือเทียบเท่า กรุบานด้วยเมลามีน มีตาแมว และ Digital Door lock ของ COLT หรือเทียบเท่า ทางด้านซ้ายเป็นตู้ Built-in ชั้นวางทีวี ส่วนทางด้านขวาเป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและมีโต๊ะรับประทานอาหารหรือโต๊ะอเนกประสงค์อยู่ข้างๆโซฟาด้วย

ระยะการดูทีวีประมาณ 2.4 m สามารถเลือกซื้อทีวีขนาด 40 – 42 นิ้ว มาใช้กำลังดี หรือถ้าจะแขวนทีวีกับผนังก็สามารถทำได้ ซึ่งจะมีระยะดูทีวีเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 cm. ทำให้สามารถติดทีวีที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 48 – 50 นิ้วเลยก็ได้ แล้วยังมีพื้นที่บนชั้นวางทีวีเหลือ สามารถวางของอื่นๆได้

ชั้นวางทีวีที่โครงการ Built-in มาให้ ภายในสามารถเปิดออกแล้วเก็บของได้พอสมควร แต่โครงการเขาไม่ได้ Built มาให้เต็มพื้นที่ผนัง ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลืออยู่อีกนิดหน่อย เราสามารถ Built เพิ่มเป็นตู้แนวตั้งรูปตัว I เพิ่มเติม หรือจะทำด้านบนเพิ่มให้เป็นรูปตัว L เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของและทำให้ใช้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ

หันกลับมาที่ฝั่งโซฟากันบ้าง จะเห็นได้ว่าเราจะได้โซฟาเป็นแบบ 2 ที่นั่งแบบนี้เลย และจะมีโต๊ะรับประทานอาหารมีที่นั่งอยู่ข้างๆให้ 1 คน ส่วนอีกคนต้องนั่งบนโซฟาแล้วหันหน้ามาทางโต๊ะแทนครับ อาจอึดอัดไปหน่อยแต่ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ดีสำหรับการอยู่อาศัยแบบคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด เพราะสามารถทำให้เฟอร์นิเจอร์ 1 ชิ้นสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 ฟังก์ชั่น เช่นการปรับเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ที่เอาไว้นั่งพิมพ์งาน อ่านหนังสือได้

นอกจากนี้โซฟาที่โครงการแถมมาให้ยังมีอีกฟังก์ชั่นหนึ่ง คือสามารถเลื่อนฐานออกมาแล้วดึงเบาะลงมากลายเป็นเตียงนอนได้ เหมาะกับคนที่ชอบนอนดูทีวีหรือใช้เป็นเสียงเสริมสำหรับมีแขกมาพักที่ห้องในบางครั้งได้ (รูปนี้ขอใช้ภาพจากโครงการ The Excel Hideaway สุขุมวิท 50 มาประกอบนะครับ เพราะฟังก์ชั่นการใช้งานและวัสดุเหมือนกันทุกอย่าง)

ต่อมาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ แบ่งกั้นพื้นที่การใช้งานระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนออกจากกันได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยที่ห้องนั่งเล่นยังคงได้รับแสงสว่างธรรมชาติจากภายนอกหน้าต่างส่องเข้ามายังพื้นที่ภายในได้ดี

มีตัวล็อกติดมาให้หน้าตาแบบนี้ กระจกเป็นสีเขียวตัดแสง ข้อดีอีกอย่างของประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน คือสามารถเลื่อนเปิดได้กว้าง ทำให้พื้นที่ทั้งสองส่วนเชื่อมต่อถึงกันได้ดีเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน และทำให้ห้องกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

พื้นที่ในห้องนอนโดยเฉพาะบริเวณรอบเตียงค่อนข้างกว้างขวาง โดยมีพื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่ประมาณ 6o cm.

ทางโครงการให้เตียงนอนไม่รวมหูก ส่วนฐานเตียงมีลิ้นชัก 2 ช่อง สามารถเปิดออกมาเก็บของได้

มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือทั้ง 2 ข้าง ผนังสีน้ำเงินทางด้านซ้ายของเตียงจริงๆแล้วเป็นเสา และมีพื้นที่เว้าเข้าไปประมาณ 10 cm. ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปได้พอดี

พื้นที่ทางด้านซ้ายเหลืออยู่ประมาณ 90 cm. แต่โต๊ะหัวเตียงฝั่งซ้ายทางโครงการไม่ได้ให้ครับ ส่วนพื้นที่ทางด้านขวาเหลืออยู่ประมาณ 30 cm.  พอสำหรับเปิด-ปิดผ้าม่านเท่านั้น เราสามารถแก้ไขปัญหาได้โดย Built-in ผนังที่เว้าเข้าไปจากเสาให้เรียบเสมอเสา แล้วเลื่อนเตียงมาอยู่ตรงกลางห้อง คราวนี้เราจะมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือฝั่งละประมาณ 60 cm สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเพิ่มและเดินได้สะดวกทั้ง 2 ฝั่ง

ภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ขนาด 2.1 x 1.9 m และเป็นหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ทั้ง 2 ฝั่งได้

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาให้แบบนี้ ครึ่งหนึ่งของบานตู้ข้างหนึ่งติดกระจกเงายาวมาให้สามารถใช้ยืนแต่งตัวได้ ด้านขวาเป็นชั้นวางของแบบไม่มีหน้าบานปิด สามารถเก็บของหรือแขวนเสื้อผ้าได้ ส่วนทางด้านซ้ายเป็นโต๊ะเครื่องแป้งอเนกประสงค์และติดเครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU ซึ่งโครงการแถมมาให้ด้วยครับ

โต๊ะเครื่องแป้งอเนกประสงค์สามารถใช้แต่งหน้าทำผมได้เหมือนโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ถ้าไม่ต้องการใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ด้วยการพับโต๊ะลงมา กลายเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้ใช้นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ครับ

ส่วนภายในตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบนี้ มีที่แขวนผ้าและช่องเก็บของได้หลากหลายขนาด

อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นพื้นที่ครัวกั้นด้วยประตูกระจกฝ้าบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ข้อดีของกระจกฝ้าคือ พื้นที่ในส่วนนี้จะไม่ดูทึบจนเกินไป ยังพอมีแสงสว่างจากระเบียงส่องเข้ามาได้บ้าง และกระจกฝ้ายังช่วยพรางสายตาทำให้คนภายในห้องมองเข้าไปแล้วไม่เห็นอะไรภายในครัวมากนัก กรณีที่ครัวอาจเลอะหรือไม่เรียบร้อยหลังการประกอบอาหาร เป็นพื้นที่ครัวปิดเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานและติดเครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU มาให้ด้านบนเหนือประตูแบบนี้เลย

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของห้องนี้คือการยกธรณีประตูสูง 10 cm. กั้นระหว่างพื้นที่ครัวกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นออกจากกัน โดยพื้นที่ครัวและ Top ธรณีประตูจะเปลี่ยนวัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 30 x 30 cm. ซึ่งพอมีธรณีมากั้นให้แบบนี้ยิ่งสามารถล้างทำความสะอาดครัวได้อย่างจริงจัง หรือไม่ต้องกลัวว่าท่อน้ำแตกแล้วน้ำจะท่วมโดนพื้นลามิเนตในห้องนั่งเล่นเสียหาย แต่ระวังโดนฐานเคาน์เตอร์ครัวกับตู้เย็นนะครับ ต้อง Protect ดีๆ จะหาว่าไม่เตือน และระวังจะสะดุดล้มกันด้วยนะครับ เพราะธรณีสูงมาก

เมื่อเข้ามาภายในห้องครัวเราจะเจอกับชุดเคาน์เตอร์ครับที่โครงการจะ Built-in มาให้แบบนี้เลย วัสดุปิดผิวหน้าบานตู้ทั้งหมดเป็นเมลามีนสีเทาเรียบครับ

ตู้ด้านบนเปิดออกมามีที่เก็บของค่อนข้างเยอะพอสมควร บานตู้ติด Soft closs มาให้ทุกบานแบบนี้ช่วยป้องกันการกระแทกได้ดีเวลาเปิด-ปิด

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีนสีน้ำตาล สามารถทนน้ำและความร้อนได้ระดับหนึ่ง มีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควันของ Hafele มาให้ เคาน์เตอร์กว้างประมาณ 60 cm. มีพื้นที่ประกอบอาหารทางด้านข้าง ผนังครัวห้องจริงจะได้ผนังฉาบเรียบทาสี แนะนำให้กรุผนังด้วยกระเบื้องเพิ่มเพื่อให้ง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาด และควรกรุทั้ง 2 ด้าน ตรงบริเวณด้านขวาของอ่างล้างจานเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นโดนผนังด้วยครับ

อ่างล้างจานที่แถมมาให้มีขนาด 49 x 49 cm. ของ Hafele

ส่วนตู้ด้านล่างสามารถเก็บของได้เยอะมากเลยทีเดียว มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟที่ด้านล่างทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และมีชั้นวางของทรงสูงแบบ 2 ชั้น แถมมาให้ในชุดเคาน์เตอร์ด้วย

ทางด้านซ้ายของเคาน์เตอร์ครัวเป็นที่วางตู้เย็น มีขนาดพื้นที่กว้างประมาณ 90 cm. สามารถวางตู้เย็นขนาดกลางได้ ทางเดินในครัวมีความกว้างประมาณ 1 m. สามารถเดินผ่านได้สะดวก มีประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกสู่ระเบียงและสามารถเปิดเพื่อช่วยระบายอากาศได้เวลาประกอบอาหารหนักๆหรือช่วยระบายความชื้นจากห้องน้ำได้

ประตูกระจกบานเลื่อนเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ มีขอบธรณีสูงประมาณ 10 cm. ช่วยป้องกันน้ำฝนไหลซึมหรือสาดเข้ามาภายในได้ ระเบียงมีขนาด 1 x 1.7 m. เป็นระเบียงที่ออกไปใช้งานได้จริง โดยทางโครงการจะมีการต่อก๊อกน้ำเอาไว้ให้ตรงระเบียงไว้ 1 จุด และที่สำคัญคือจะได้ราวกันตกเป็นกระจก Tempered ซึ่งเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass กรอบสแตนเลสสีเงิน สูง 1 m. แบบในห้องตัวอย่างเลยครับ

พื้นที่ตรงนี้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ แต่ทางโครงการไม่ได้เดินงานระบบสำหรับเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้นะ แต่มีก็อกน้ำที่ระเบียง 1 จุด

Condensing air แขวนอยู่ด้านบน เป่าลมร้อนออกมาทางด้านข้าง แนะนำให้ติด Grill Air ดันลมร้อนออกไปทางด้านนอกจะช่วยให้ระเบียงสามารถใช้งานได้มากขึ้น ส่วนโคมไฟที่ได้จะได้เป็นโคมซาลาเปาตามรูปเลยครับ

ส่วนสุดท้ายคือพื้นที่ห้องน้ำ มีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน โดยจะได้กระจกบานใหญ่แบบในห้องตัวอย่างซึ่งทำให้ห้องน้ำดูดีและดูกว้างขวางมากขึ้น ระบบไฟได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 จุด พร้อมพัดลมดูดอากาศอีก 1 ตัว

พื้นที่ห้องน้ำสามารถใช้งานได้สะดวก ธรณีประตูมีการยกสูงขึ้นมาประมาณ 3 cm ป้องกันน้ำไหลน้อยออกมาภายนอก กระเบื้องได้เป็นเซรามิกสีน้ำตาล ขนาด 30×30 cm

ตำแหน่งของสุขภัณฑ์ตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้า ด้านล่าง Built-in สามารถใช้วางหรือเก็บของใช้ที่จำเป็นในห้องน้ำได้ ทางด้านขวาติดตั้งโถสุขภัณฑ์ห้องสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้ มีพื้นที่โดยรอบประมาณ 10 cm. สามารถใช้งานและหยิบจับได้สะดวกโดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดภายในห้องน้ำจะเป็นของ Hafele ครับ

หน้าตาของสายชำระที่ให้มา ขนาดพอดีมือใช้งานสะดวก

ส่วนสุดท้ายเป็น Shower box ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้ ที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ ภายในเราจะได้เป็น Hand shower โดยที่ทางโครงการจะเตรียมระบบเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้ สามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาแล้วติดตั้งได้เลย

โดยส่วนอาบน้ำมีธรณียกสูงขึ้นมาประมาณ 5 cm. กันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งภายนอกได้ ประตูมีตัว stop กันกระแทกติดมาให้เรียบร้อย และมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1 x 0.7 m. สามารถใช้งานได้สะดวก แต่ที่ต้องสังเกตคือประตูมีบานสวิงที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้มีพื้นที่ยืนเหลือน้อย อาจใช้งานลำบากเวลาเข้า-ออก วิธีแก้คืออาจเปลี่ยนวงสวิงจากการผลักเข้าด้านในเป็นดึงออกมา เพราะพื้นที่ในห้องน้ำตรงส่วนแห้งยังมีพอสำหรับพื้นที่เปิด-ปิดประตู Shower box ได้

ทางโครงการติดตั้ง Hand shower ขนาดและหน้าตาแบบนี้ครับ ที่เปิดเป็นแบบก้านโยกสามารถปรับแรงดันน้ำได้ครับ

มาต่อที่ห้องตัวอย่างที่สองกัน เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.5 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในห้องจะพบกับพื้นที่ Common area ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่ครัว โต๊ะรับประทานอาหาร และ Living area เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งและกว้างขวางมากขึ้น เริ่มต้นที่ส่วนแรกเราจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวและที่วางตู้เย็นทางด้านซ้าย โดยห้องนี้เราจะได้เป็นครัวเปิดไม่มีฉากกั้น ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ทางด้านขวาจะมีตู้รองเท้าตั้งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำสามารถเข้า-ออก 2 ทางคือสามารถเข้ามาจากทางห้องนอนได้อีกทางหนึ่ง ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน จากพื้นที่ครัวจะเป็นพื้นที่ Living area สามารถวางโซฟาตัว L ขนาดใหญ่ได้โดยมีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยดึงแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาภายในห้อง ส่วนสุดท้ายเป็นพื้นที่ห้องนอนซึ่งถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่อยู่ด้านหลังโซฟา สามารถเปิดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสองทำให้ภายในห้องโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น หรือเลื่อนปิดเพื่อความเป็นสัดส่วนและแบ่งแยกการใช้งาน วางเตียงขนาด 5 ฟุต ไว้ตรงกลาง มีทางเดินโดยรอบสามารถเดินได้สะดวก ประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงภายนอกได้ พื้นที่ห้องด้านในจัดเป็น Walk in closet หน้าทางเข้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ ตู้เก็บของ และโต๊ะเครื่องแป้งอเนกประสงค์ จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ช่องแสงขนาดใหญ่ที่ได้จากทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ห้องทั้งห้องดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น และห้องนี้อาจเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารทานเองในห้อง เพราะเป็นครัวเปิดและพื้นเป็นลามิเนตไม่เหมาะกับการเช็ดล้างทำความสะอาด

เริ่มต้นเปิดประตูเข้ามาในห้องเราจะพบห้องที่ค่อนข้างโปร่งโล่งเป็นตอนลึก มองเห็นวิวและได้รับแสงสว่างจากทางหน้าต่างเข้ามาทั่วทั้งห้อง พื้นที่ส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ครัวซึ่งเราจะได้เป็นครัวเปิด พื้นลามิเนตหนา 8 mm. จึงอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำครัวจริงจัง แต่สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยติดประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างพื้นที่ครัวกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเพื่อป้องกันกลิ่นเข้าไปรบกวนพื้นที่พักอาศัย  ซึ่งทางซ้ายมือเป็นตู้เย็นและเคาน์เตอร์ครัว ส่วนทางขวามือเป็นโต๊ะทานอาหาร อยู่ในพื้นที่เดียวกันสามารถใช้งานต่อเนื่องกันดี

หันมาดูทางด้านขวามือ มีตู้รองเท้าที่ Built-in ติดผนังมาให้อยู่ใกล้ประตูทางออก สะดวกต่อการใช้งานเวลาเข้า-ออกจากห้อง บานตู้ติดระบบ Soft clost มาให้ ช่วยป้องกันการกระแทกเวลาเปิด-ปิด ด้านล่างของหน้าบานตู้มีช่องระบายอากาศเล็กๆช่วยระบายกลิ่นอับ และด้านบนหลังตู้สามารถวางของได้ ติดกันทางด้านซ้ายเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำครับ

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นการใช้งานและสุขภัณฑ์มาตรฐานเหมือนห้องตัวอย่างแรก มีการแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกอย่างชัดเจน แต่ฟังก์ชั่นที่แตกต่างออกไปคือ ห้องน้ำห้องนี้สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือเข้าจากส่วนครัวและเข้าจากห้องนอนได้อีกทางหนึ่ง

พื้นที่ห้องน้ำค่อนข้างกว้างขวางและใช้งานได้สะดวกกว่าห้องตัวอย่างแรก พื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 cm. และลดระดับลงจากพื้นห้องประมาณ 3 cm. เวลาล้างทำความสะอาดห้องน้ำระวังน้ำกระเด็นขึ้นมาโดนพื้นลามิเนตด้วยนะครับ

ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องน้ำประกอบด้วยอ่างล้างหน้าอยู่ทางด้านขวาติดกับประตูห้องน้ำ ติดตั้งโถสุขภัณฑ์อยู่ตรงกลางพร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระสามารถหยิบใช้งานได้สะดวก ติดกระจกบานใหญ่มาให้เหมือนห้องตัวอย่างห้องแรก ทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้นไม่รู้สึกอึดอัด โดยสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ Hafele

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1 x 0.7 m กว้างกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อยแต่ก็พอใช้งานได้สะดวกมากขึ้นครับ มีการยกขอบขึ้นมาสูง 5 cm. ป้องกันน้ำไหลซึมย้อนออกมาภายนอก บานประตูมีตัว stop ช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี

ส่วนอาบน้ำจะได้เป็น Hand shower แบบก้านโยกที่สามารถปรับแรงดันน้ำได้ โดยที่ทางโครงการจะมีการติดตั้งระบบเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย สามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งได้เลย

กลับออกมาจากห้องน้ำฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่วางตู้เย็นซึ่งสามารถวางตู้เย็นขนาดกลางได้ และเคาน์เตอร์ครัวหน้าตาและขนาดเหมือนกับห้องตัวอย่างห้องแรกเลยครับ

ชั้นบนมีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้นจากตู้บนหลังตู้เย็นทางด้านซ้าย บานตู้ติดระบบ Soft close มาให้ช่วยป้องกันการกระแทกเวลาเปิด-ปิดตู้แรงๆได้ดี

ส่วน Top เคาน์เตอร์ครัวจะได้เป็นวัสดุปิดผิวเมลามีนที่ช่วยกันน้ำและทนความร้อนได้ระดับหนึ่ง มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Hafele มาให้ และจะไม่ได้กรุกระเบื้องที่ผนังมาให้แนะนำให้กรุเพิ่มเพื่อจะได้เช็ดหรือทำความสะอาดได้ง่าย

ตู้ชั้นล่างสามารถเก็บของได้เยอะและมีฟังก์ชั่นเหมือนห้องตัวอย่างห้องแรกเลยครับ

หันกลับมาฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งแบบนี้ ซึ่งทางโครงการติดตั้งโคมไฟประดับเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้ก็ดูสวยดีและไม่เกะกะ แล้วยังช่วยให้แสงสว่างที่โต๊ะได้เวลาทานอาหารได้ หรือบางคนอาจใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์นั่งทำงานอ่านหนังสือก็สะดวกดี ใครจะเอาไปเป็นไอเดียในการแต่งห้องก็ได้นะครับ

ติดกันกับเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้ Built-in ไว้วางของอเนกประสงค์ ซึ่งของจริงเราจะไม่ได้อันนี้นะ

ส่วนต่อมาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีระยะดูทีวีประมาณ 2.6 m สามารถวางทีวีขนาดประมาณ 40-42 นิ้วได้ โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ได้เราจะได้ทั้งหมดตามที่เห็นนี้เลย ประกอบไปด้วยชั้นวางทีวี โต๊ะกลาง และโซฟา 2 ชิ้นต่อกันเป็นรูปตัว L แบบนี้

เหนือชั้นวางทีวียังมีพื้นที่เหลือ เราสามารถใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ได้ด้วยการ Built-in พื้นที่ชั้นบนเพิ่มเป็นพื้นที่เก็บของ หรือจะ Built-in เต็มผนังเลยก็ยังทำได้

ชั้นวางทีวีสามารถเปิดออกมาเพื่อเก็บของได้เยอะทีเดียว หน้าบานติดระบบ Soft close ป้องกันการกระแทก

จุดเด่นของพื้นที่ห้องนี้คือได้ช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังแบบนี้ ทำให้ได้วิวและแสงธรรมชาติภายนอกได้เต็มที่ รวมถึงสามารถเปิดหน้าต่างบานเลื่อนเพื่อระบายอากาศได้อีกด้วย

โซฟาเราจะได้ 2 ตัวแบบนี้ต่อกันเป็นรูปตัว L โดยที่โซฟาตัวขวาสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นเป็นเตียงเสริมได้เหมือนกับโซฟาห้องแรก แต่ที่พิเศษกว่าคือจะมีพื้นที่กว้างขึ้นอีกนิดหน่อยจากโซฟาอีกตัวที่อยู่ด้านข้าง ทำให้สามารถนอน 2 คนได้

ด้านหลังโซฟาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง ซึ่งเมื่อเลื่อนเปิดจนสุดแล้ว บานประตูทั้งหมดจะเลื่อนไปซ่อนอยู่ตรงกำแพงหลังโซฟาทางซ้ายสุด ทำให้พื้นที่ทั้งสองเชื่อมต่อเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกันโดยไม่มีประตูกระจกบานเลื่อนมากั้นอยู่ ทำให้ห้องยิ่งโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ด้านบนติดเครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU ตามตำแหน่งในภาพเลย

พื้นที่ทางเดินเข้าห้องนอนมีความกว้างประมาณ 60 cm. และมีพื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่ประมาณ 35 cm. และเมื่อเลื่อนประตูปิดแล้วจะมีพื้นที่เหลืออยู่ประมาณ 25 cm.

ภายในห้องนอนมีประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้ โดยระเบียงมีขนาดประมาณ 0.7 x 2.4 m.

Condensing air จะแขวนอยู่ด้านบน ผนังทึบช่วยพรางสายตาจากภายนอกได้ และเป่าพัดลมออกมาทางผนังทึบตามรูป

พื้นที่ด้านล่างพอจะวางเครื่องซักผ้าได้ โดยโครงการจะติดตั้งก๊อกน้ำเอาไว้แต่ไม่ได้ติดตั้งระบบต่อของเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้นะ ส่วนราวกันตกจะได้เป็นกระจก Tempered Glass ซึ่งเป็นกระจกนิรภัย กรอบสแตนเลสสีเงิน สูง 1 m. เหมือนห้องตัวอย่างห้องแรกเลยครับ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายมีพื้นที่เหลือประมาณ 30 cm. พอเดินและเลื่อนม่านเปิด-ปิดได้

ส่วนทางด้านขวาของเตียงเป็นพื้นที่ใช้งานเหมือนเป็น Walk in closet เพราะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำอีกทางหนึ่ง ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ตู้เก็บของ และโต๊ะเครื่องแป้งอเนกประสงค์

ขนาดพื้นที่ Walk in closet กว้างประมาณ 1 m. สามารถยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้สะดวก

เริ่มที่ใต้เตียงมีฟังก์ชั่นลิ้นชัก 2 ช่อง สามารถใช้เก็บของใต้เตียงเพิ่มพื้นที่สอยได้ดี

ด้านขวาของหัวเตียงจะ Built-in เป็นตู้สำหรับเก็บของด้านข้างของตู้เสื้อผ้า โดยที่ชั้นวางของสีขาวข้างเตียงนี้ของจริงจะไม่ได้นะครับ ดังนั้นเราจะสามารถเปิดตู้เก็บของได้ทั้ง 2 บานได้อย่างปกติ

ส่วนตู้เสื้อผ้าเราจะได้เป็นตู้บานใหญ่ สามารถเก็บของได้เยอะเหมือนห้องตัวอย่างห้องแรกเลยครับ

ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นโต๊ะเครื่องแป้งอเนกประสงค์ สามารถใช้แต่งหน้าหรือใช้เป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือได้ครับ

และส่วนสุดท้ายจะเป็นตู้เก็บของอเนกประสงค์ สามารถเก็บของได้เยอะเลยทีเดียว และหน้าบานตู้จะติดกระจกเงายาวเอาไว้สำหรับแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้ด้วย

หันกลับมามองย้อนกลับไปทางหน้าต่างเราจะเจอกับ Hilight ของห้องนี้คือ วิวและแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาจากช่องแสงทั้งสองส่วนคือหน้าต่างห้องนั่งเล่นกับระเบียงในห้องนอน จากการแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องนี้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนนั้นทำให้พื้นที่และช่องแสงทั้งสองนั้นเชื่อมต่อกัน ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นเยอะเลย ส่วนตำแหน่งเครื่องปรับอากาศที่ได้ในห้องนอนนี้จะติดอยู่เหนือประตูระเบียง มีขนาด 12,000 BTU

เราสามารถนอนดูทีวีของห้องนั่งเล่นจากห้องนอนได้ โดยเราอาจเพิ่มขนาดทีวีเป็น 50 นิ้ว เพื่อให้มองเห็นได้มากขึ้น และสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ด้วยการติดม่านด้านบนประตูกระจกบานเลื่อน สามารถเลื่อนประตูและม่านปิดได้เวลามีแขกเข้ามาภายในห้องแล้วเราไม่อยากให้เขาเห็นพื้นที่ส่วนตัวในห้องนอนของเรา

ส่วนห้อง Type อื่นๆมีดังนี้ครับ

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 ตารางเมตร ซึ่งลักษณะและฟังก์ชั่นของห้องนี้จะเหมือนกับห้องตัวอย่างขนาด 28 ตารางเมตร เลยครับ ต่างกันแค่ขนาดของห้องคือห้องขนาด 28 ตารางเมตรนั้นจะมีความลึกที่มากกว่าห้องนี้เล็กน้อย สังเกตได้จากจะมีบางส่วนที่เปลี่ยนไปจากเดิมเช่น ผนังหลังทีวีสั้นลง ไม่มีที่ว่างด้านข้างเหลือให้ต้อง Built-in เพิ่มเหมือนเดิม พื้นที่ห้องน้ำโดยเฉพาะพื้นที่อาบน้ำแคบลง พื้นที่ทำอาหารของเคาน์เตอร์ครัวแคบลง และพื้นที่ระเบียงที่แคบลงด้วย แต่โดยรวมยังมีการจัดแบ่งฟังก์ชั่นที่ดีและสามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนห้อง 28 ตารางเมตร แต่อาจมีพื้นที่แคบลงในบางส่วน เหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน ใช้งานในส่วนต่างๆได้เช่นกัน

ห้องแบบสุดท้ายคือห้อง 2 Bedroom ขนาด 45.5 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่เป็นตอนลึก เริ่มจากทางซ้ายได้ถูกจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารอเนกประสงค์วางอยู่หน้าห้องครัวที่เป็นพื้นที่ครัวปิด ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวและที่วางตู้เย็น ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกง่ายต่อการทำความสะอาด ทีเด็ดคือในห้องครัวนี้มีช่องหน้าต่างที่ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาและสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย กลับออกมาจากห้องครัวมาดูที่ทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างสองห้องนอน ภายในเป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานมีการแบ่งแยกส่วนแห้งกับส่วนเปียกชัดเจน พื้นที่ถัดเข้ามาด้านในส่วนของ Common area เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีที่โครงการแถมมาให้พร้อมใช้งาน ติดกันเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่ช่วยดึงแสงสว่างเข้ามาภายในห้องและสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศและออกไปใช้งานที่ระเบียงได้

ส่วนของพื้นที่ห้องนอนเริ่มจากห้องนอนเล็กทางด้านซ้าย สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ไว้ตรงกลางห้อง มีพื้นที่ด้านซ้ายของเตียงสามารถใช้ยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้ ข้างๆตู้เสื้อผ้ามีโต๊ะอเนกประสงค์ตั้งอยู่ ส่วนฝั่งขวาของเตียงเป็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องและสามารถเปิดระบายอากาศได้ ห้องสุดท้ายคือ Master Bedroom มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียง 6 ฟุต มีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้ ทางด้านขวาของเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า มีพื้นที่เหลือสำหรับยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงถูกจัดเป็นมุมอเนกประสงค์ประกอบด้วยโต๊ะ เก้าอี้ และโซฟา เหมาะสำหรับแต่งหน้า นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ เพราะเป็นพื้นที่ติดกับช้องหน้าต่างขนาดใหญ่ ได้รับแสงธรรมชาติส่องเข้ามาและสามารถเปิดระบายอากาศได้ สรุปแล้วห้องนี้จัดแบ่งฟังก์ชั่นได้ลงตัวดี ทั้ง Common area และ Private area เหมาะสมกับการใช้งานจริงของผู้ใช้งานแต่ละคน ห้องนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย หรืออยู่อาศัยมากกว่า 2 คนขึ้นไป โดยที่ทุกคนสามารถใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน และมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 June 2018

  • 1 Bedroom 25.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,318,508 บาท
  • 1 Bedroom 28-29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,358,936 – 2,622,616 บาท
  • 1 Bedroom 34-34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,894,155 – 3,104,790 บาท
  • 2 Bedrooms 45.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3,931,056 – 4,219,456 บาท

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ MRT ห้วยขวาง
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 – 80,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน 1%
  • ค่าบำรุงการใช้พื้นที่จอดรถยนต์ อัตรา 300 บาท/คัน/เดือน
  • ค่าบำรุงการใช้พื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ อัตรา 50 บาท/คัน/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 เป็นย่านชุมชนพักอาศัยค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ค่อยมีร้านค้าคึกคักมากนัก ใกล้ๆปากซอยจะมีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ 1-2 ร้าน ถ้าออกมาที่ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญจะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ตลอดทาง เพราะย่านนี้มีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนอยู่เยอะ โดยภาพรวมแล้วย่านรัชดาฯ-ห้วยขวาง ถือว่าเป็นที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงพอสมควร เนื่องจากเป็นย่านออฟฟิศ แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งงานมากมายทั้ง อาคาร Cyber World อาคารตลาดหลักทรัพย์ อาคาร AIA และ อาคารฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งเป็นทั้งห้างขายอุปกรณ์ไอทีและอาคารสำนักงานด้วย มี Hypermarket ทั้งบิ๊กซี , Tesco Lotus และ Shopping Center อย่าง Central พระราม 9 , Central ลาดพร้าว  Community mall ก็จะมี The Street และ เอสพลานาด ถึงจะไม่ได้อยู่ในระยะเดิน แต่ก็ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าต่อไปได้สะดวก ส่วนของกินของใช้ในระยะเดินทางสามารถหาในซอยได้ง่าย มีค่อนข้างเยอะช่วงต้นซอยถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ และมีตลาดห้วยขวางอยู่บริเวณใกล้ๆสี่แยกห้วยขวาง

การเดินทางโดยใช้รถ – ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 เข้ามาในซอยจากถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญประมาณ 450 เมตร สามารถจอดรถได้ประมาณ 40% โดยถนนเส้นนี้เป็นถนนที่มาสามารถไปออกถนนหลักอย่างถนนรัชดาเพื่อเข้าเมืองไปทางแยกพระราม 9 หรือจะไปขึ้นทางด่วนที่ศรีรัชก็สะดวก หรือจะใช้เป็นทางลัดเชื่อมต่อกับซอย 20 มิถุนาไปออกถนนสุทธิสารเพื่อไปลาดพร้าวก็ได้ และยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนประชาอุทิศเพื่อไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมเพื่อขึ้นเลียบด่วนรามอินทราได้ถือว่าค่อนข้างสะดวก แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนจะรถติดมาก เนื่องจากเป็นย่านชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยกันเยอะ และมีอพาร์ทเม้นท์ หอพักต่างๆ และคอนโด เพราะเป็นที่รู้กันดีสำหรับคนในพื้นที่ว่าถนนเหล่านี้สามารถใช้เป็นทางลัดเพื่อเลี่ยงรถติดและเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง ซึ่งถือว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สถานีห้วยขวาง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการระยะทางประมาณ 950 m ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างไกลพอสมควรสำหรับการเดิน โดยเราสามารถใช้บริการวินมอไซค์ได้ซึ่งอยู่หน้าปากซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 10 มีระยะการเดินจากตัวโครงการถึงปากซอยประมาณ 450 m ซึ่งบริเวณปากซอยนอกจากจะสามารถใช้บริการพี่วินมอไซค์แล้ว ยังสามารถเรียกใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆได้อย่างเช่น รถแท็กซี่ หรือ รถกะป้อได้อีกด้วย

การออกแบบโครงการ – ถือว่าออกแบบดี มีการจัดแบ่งโซนระหว่าง Shop และ Co-Working space ซึ่งค่อนข้างเป็น Semi-Public zone มาไว้ด้านหน้าโครงการซึ่งคนภายนอกที่มาใช้งานร่วมกับลูกบ้านจะได้ไม่เข้าไปวุ่นวายภายในโครงการในส่วนที่เป็น Private zone และโครงการได้จัดพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ตรงกลาง เป็นสระว่ายน้ำและสวนยาวตลอดเกือบทั้งโครงการ ทำให้ห้องหลายๆห้องที่หันหน้าเข้ามาด้านในสามารถ Take view ส่วนกลางเหล่านี้ได้ มี Fitness อยู่ชั้นล่าง และมี Hilight อยู่ที่ Library ที่ชั้นสองทำเป็นส่วนยื่นออกมาบนสระว่ายน้ำ ผนังโดยรอบเป็นผนังกระจกทำให้มองเห็นพื้นที่ส่วนกลางได้โดยรอบ และมีการออกแบบให้ Facility ส่วนกลางทุกอย่างใช้งานได้จากชั้น 1 และสามารถขึ้นบันไดส่วนกลางมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ได้โดยแยกออกจากส่วนพักอาศัยซึ่งไม่สามารถ Access ได้จากชั้นพักอาศัย เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน และยังมีพื้นที่ยูนิตพิเศษที่ได้รับวิวสระแบบตอนลึกทำให้มองเห็นส่วนกลางได้ทั้งโครงการอีกด้วย

การออกแบบห้องพักอาศัย – ถือว่าออกแบบฟังก์ชั่นได้ลงตัว มีการแบ่งแยกพื้นที่ฝั่งพักผ่อนและฝั่งการใช้งานออกจากกันอย่างชัดเจน พื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน แยกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วนและสามารถเปิดออกได้กว้างเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสองเข้าด้วยกันทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้น ห้องนอนมีช่องแสงขนาดใหญ่สามารถ Take view เปิดระบายอากาศและดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้จนถึงพื้นที่ห้องนั่งเล่น ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาก็มีขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้จริง มีพื้นที่แต่งตัวได้สะดวก ห้องครัวได้เป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูกระจกฝ้าบานเลื่อน มีธรณีประตูยกสูง 10 cm กั้นและปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ และ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมใช้งาน มีที่เก็บของค่อนข้างเยอะ ส่วนครัวติดระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศทำอาหารได้  รวมถึงระบายความชื้นจากห้องน้ำ และระเบียง Condensing air แขวนอยู่ด้านบนไม่เกะกะทำให้พื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้เต็มที่ ราวกันตกได้เป็นกระจกนิรภัยกรอบสแตนเลส ส่วนห้องน้ำก็ให้สุขภัณฑ์มาครบพร้อมใช้งาน มีการแยกพื้นที่ส่วนแห้งกับส่วนเปียกชัดเจนและได้เป็นกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องน้ำดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด

วัสดุ – ถือว่าให้วัสดุค่อนข้างดีและได้มาตรฐานทั่วไป เช่น พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm., หน้าต่างบานใหญ่ , พื้นครัวกระเบื้องเซรามิก, ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยกรอบสแตนเลส, กระจกห้องน้ำบานใหญ่ ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ของที่ได้ประกอบด้วย โซฟาปรับเป็นเตียงเสริมได้ , ชั้นวางทีวี , ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มีช่องเก็บของค่อนข้างเยอะ โต๊ะเครื่องแป้ง , ชุดครัว Built in ชุดเตาไฟฟ้า-เครื่องดูดควัน และสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Hafele

สาธารณูปโภค – ส่วนกลางถือว่าออกแบบมาสวยน่าใช้งาน มีการจัดวางตำแหน่งและแยกโซนการใช้งานได้ดี มีฟังก์ชั่นที่จำเป็นครบ ทั้งสระว่ายน้ำที่มีความยาวเกือบตลอดทั้งโครงการ , สวน, Fitness, Co-Working space และ Library แต่ถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการ ความหนาแน่นลิฟต์ทั้งโครงการประมาณ 99 :  1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 89,000 บาท/ตร.ม., 12 June 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลย่านรัชดา-ห้วยขวาง หาของกินของใช้ง่าย เดินทางสะดวก แต่ต้องเข้าซอย
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – สะดวก เป็นซอยลัดไปออกถนนหลักได้ 3 สาย ไม่ไกลจากทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – มีรถสาธารณะหน้าปากซอย ไม่ไกลจาก MRT ห้วยขวาง
  • วัสดุ 7.75/10 – ให้มาค่อนข้างดี และขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่
  • แบบ 8/10 – ออกแบบดี จัดแบ่งฟังก์ชั่นในห้องลงตัว ใช้งานสะดวก
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ออกแบบสวยดี และแบ่งโซนพื้นที่การใช้งานได้ดี ไม่รบกวนลูกบ้าน

  • MAIN-UPPER CLASS
  • 7.51 / 10.00

BOTTOM LINE

The Excel Hideaway รัชดา-ห้วยขวาง เหมาะกับคนที่ต้องการมองหาคอนโดในย่านรัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่ในซอยเข้ามาหน่อย ทำเลเงียบสงบไม่พลุกพล่าน แต่ยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดินถึง หาคอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ เน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ส่วนกลางครบน่าใช้งาน มีงบประมาณระดับ 2-4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 16,000 – 30,000 บาท/เดือน