รีวิวฉบับที่ 1625 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโดโครงการ The Excel รัชดา 18 จาก All Inspire Development เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ติดถนนซอย 20 มิถุนา แยก 21 ห่าง MRT สุทธิสาร และ MRT ห้วยขวางประมาณ 1.3 กม. ออกแบบแนวคิด “Serenity Living” ความสุขที่เรียบง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 5 July 2018

  • The Excel รัชดา 18 (ดิ เอ็กเซล รัชดา 18)
  • All Inspire Development
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอย 20 มิถุนา แยก 21 เขตห้วยขวาง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 270 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 96 คันคิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 2-2-35 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  ก.พ. 2019
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2020
  • Online Bookking : 19 ก.ค. 2018
  • Pre-Sale : 21 ก.ค. 2018
  • 1 Bedroom 25 – 29 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 39 – 41 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 90,000 บาท/ตร.ม. ( ณ วันเปิดตัว)
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ในระหว่างการดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 02-029-9999

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.782286, 100.582377

แผนที่จากทางโครงการครับ ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ในซอย 20 มิถุนา แยก 21

มาดูแผนที่จริงกันบ้าง โครงการ The Excel รัชดา 18 ตั้งอยู่ในซอย 20 มิถุนา แยก 21 ซึ่งย่านรัชดา-สุทธิสาร ถือเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยมีทั้งแนวราบที่เป็นบ้านเดี่ยวและตึกแถว ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในย่านนี้หลายโครงการ ส่วนใหญ่จะเกาะตามแนวรถไฟฟ้าอยู่ริมถนนใหญ่รัชดาภิเษกในระดับราคา 90,000 – 100,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป แต่สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดในย่านนี้ที่มีระดับราคาอยู่ในช่วง 50,000 – 90,000 บาท/ตารางเมตร ก็ยังมีตัวเลือกอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควรและเป็นราคาที่สามารถหยิบจับได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ในซอยเข้ามาจากถนนหลักหน่อย แต่ยังคงเดินทางสะดวก มีทางลัดเลาะเป็นเส้นทางลัดไปออกได้หลายเส้นทาง

โดยเฉพาะถนนซอย 20 มิถุนา นี้มีความสำคัญตรงที่เป็นทางลัดเชื่อมถนนสุทธิสารต่อไปยังถนนประชาอุทิศเพื่อไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทราได้ ซึ่งถนนสุทธิสารเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อถนนสำคัญได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก สามารถไปพระราม 9, อโศก, สุขุมวิทได้ และถนนวิภาวดี-รังสิต หรือจะไปถนนลาดพร้าว เพื่อไปห้าแยกลาดพร้าวหรือบางกะปิก็ได้เหมือนกัน

ด้านความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้จะเกาะอยู่ตามเส้นถนนรัชดาภิเษก มีทั้งตลาดเมืองไทยภัทรและตลาดห้วยขวางที่เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอย ซื้อกับข้าวกับปลากันอย่างคึกคักของคนในย่านนี้ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด และ Bar & Restaurant หลายร้าน นอกจากนี้ย่านรัชดา-สุทธิสาร ยังอยู่ใกล้กับย่านพระราม 9 ซึ่งถือว่าเป็น New CBD ที่สำคัญที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม ที่มีอยู่มากมายตลอดทั้งสองข้างทางของถนนรัชดาภิเษก ทั้ง The Street, Big C, Esplanade, ตลาดรถไฟ, Cyber World, ฟอร์จูนทาวน์ และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ส่วนตึกอาคารสำนักงานที่เด่นๆ จะประกอบไปด้วย RS Tower, AIA Tower, True Tower, G Tower, ตึกเมืองไทยประกันชีวิต และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และที่สำคัญแถวนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานฑูตหลายแห่ง ทั้งสถานฑูตจีน สถานฑูตเกาหลี สถานฑูตลาว และสถานฑูติกัมพูชา ทำให้ในละแวกนี้จึงมีชาวต่างชาติอยู่เยอะพอสมควร

นอกจากการเดินทางโดยใช้รถยนต์จะสะดวก สามารถลัดเลาะไปออกถนนหลักต่างๆได้หลากหลายเส้นทางแล้ว บนถนนรัชดาภิเษกนี้ยังเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ-หัวลำโพง วิ่งผ่านด้วย โดยโครงการจะมีทำเลตั้งอยู่ระหว่าง 2 สถานีคือ สถานีสุทธิสาร และสถานีห้วยขวาง ซึ่งมีระยะทางจากสถานีมาถึงโครงการใกล้เคียงกันคือประมาณ 1.3 km.

ด้วยระยะทางที่ห่างจากสถานีนั้นแอบไกลอยู่สักหน่อย จำเป็นที่จะต้องต่อรถสาธารณะอย่างพี่วินมอไซค์ โดยสถานีสุทธิสารนั้นบริเวณทางออกจะไม่มีวินมอไซค์อยู่ตรงหน้าสถานีนะครับ จำเป็นต้องเดินต่ออีกสักหน่อยซึ่งจะมีอยู่ 2 จุดคือ

  • ถ้าเราเดินเลียบถนนรัชดามุ่งหน้ามาทางพระราม 9 เรื่อยๆ เราจะเจอพี่วินมอไซค์อยู่บริเวณหน้าอาคารเมืองไทยประกันชีวิตใกล้ๆ กับปากซอยรัชดาภิเษก 18 มีระยะเดินประมาณ 400 m. แล้วจึงต่อพี่วินมอไซค์เข้ามาภายในซอยอีกประมาณ 1.2 km.
  • และเดินไปตามถนนสุทธิสารมุ่งหน้าไปทางลาดพร้าวประมาณ 200 m. จะมีวินมอไซค์อยู่ข้างๆเซเว่น แล้วจึงต่อรถมายังโครงการโดยเข้าซอย 20 มิถุนา จากทางถนนสุทธิสารในระยะทางประมาณ 1.8 km.

แต่ถ้าเราเลือกมาลงที่สถานีห้วยขวางบริเวณประตูทางออกที่ 1 จะมีวินมอไซค์อยู่บริเวณหน้าสถานีและหน้าปากซอยถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ แล้วจึงนั่งวินต่อเข้ามายังโครงการในระยะทางประมาณ 1.3 km. ซึ่งนอกจากการลงสถานีนี้จะสะดวกในเรื่องของการไม่ต้องเดินเพื่อต่อวินมอไซค์ให้เมื่อยแล้ว ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญหรือแยกห้วยขวางนั้นยังมีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์มากกว่า ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แล้วยังมีตลาดห้วยขวางที่ถนนประชาสงเคราะห์อีกด้วย โดยเราสามารถใช้ทางใต้ดินของสถานีรถไฟเพื่อข้ามไปเดินซื้อของก่อนค่อยข้ามกลับมาก็สะดวกและปลอดภัยดีครับ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์นั้นถือว่าสะดวกมาก อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนแรกว่าถนนซอย 20 มิถุนา นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะไปถนนหลักต่างๆได้หลายเส้นทาง

  • เส้นทางสีส้ม จากโครงการเราสามารถไปยังถนนหลักรัชดาภิเษกได้จากซอยรัชดาภิเษก 18 ในระยะทางประมาณ 1.1 km. และจากซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญในระยะทางประมาณ 1.3 km. ซึ่งจะออกมาบริเวณแยกห้วยขวางทำให้เราสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อไปพระราม 9 และเลี้ยวขวาเพื่อไปทางห้าแยกลาดพร้าว หรือจะขับตรงไปเข้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์เพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนวิภาวดี-รังสิตก็ได้
  • เส้นทางสีน้ำเงิน เราสามารถใช้ถนนซอย 20 มิถุนา เพื่อออกไปยังถนนสุทธิสารแล้วเลี้ยวขวาเพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนลาดพร้าวได้ในระยะทางประมาณ 2.9 km.
  • เส้นทางสีแดง เราสามารถใช้ถนนซอย 20 มิถุนา เชื่อมต่อไปยังถนนประชาอุทิศเพื่อไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทราได้ในระยะทางประมาณ 3.8 km.
  • เส้นทางสีเขียว เราสามารถใช้ถนนซอย 20 มิถุนา เชื่อมต่อไปยังถนนประชาอุทิศแล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเทียมร่วมมิตร เพื่อไปออกถนนพระราม 9 ได้ในระยะทางประมาณ 4.8 km.

ส่วนการใช้ทางด่วนนั้นก็มีจุดขึ้นทางด่วนหลายเส้นทาง เส้นทางแรกเราสามารถใช้ถนนซอย 20 มิถุนา เชื่อมต่อไปยังถนนประชาอุทิศเพื่อไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมในระยะทางประมาณ 3.9 km. จากนั้นเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงต่อไปอีกประมาณ 1.3 km. แล้วกลับรถมาประมาณ 400 m. จะเจอจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งสามารถไปรามอินทรา พัฒนาการ และเอกมัยได้ รวมระยะทางประมาณ 5.6 km.

อีกเส้นทางหนึ่งเราสามารถใช้ถนนซอย 20 มิถุนา เชื่อมต่อมายังถนนประชาอุทิศในระยะทางประมาณ 2.05 km. แต่คราวนี้ให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนเทียมร่วมมิตร ขับตรงต่อมาเชื่อมต่อมายังถนนวัฒนธรรม ระยะทางประมาณ 2.1 km. แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเพื่อมาออกที่ถนนพระราม 9 ในระยะทางประมาณ 750 m. จากนั้นเลี้ยวซ้ายขับตรงต่อมาอีกประมาณ 900 m. จะเจอกับทางขึ้นทางด่วนศรีรัช สามารถใช้ไปศรีนครินทร์ อนุเสาวรีย์ และดินแดงได้ รวมระยะทางประมาณ 5.8 km.

และอีกเส้นทางเราสามารถใช้ถนนซอย 20 มิถุนา เลี้ยวขวาเพื่อเชื่อมต่อถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญในระยะทางประมาณ 600 m. เพื่อไปตรงบริเวณแยกห้วยขวาง จากนั้นให้เราขับตรงไปเพื่อเข้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์แล้วลัดเลาะไปตามทางเรื่อยๆจะสามารถไปออกถนนวิภาวดี-รังสิตได้ในระยะทางประมาณ 3.2 km. จากนั้นเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงต่อมาอีกประมาณ 1.5 km. จะเจอกับจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถใช้ไปพระราม 9, อโศก, บางนา และศรีนครินทร์ได้ รวมระยะทางประมาณ 5.3 km.

สำหรับการเดินทางวันนี้เราจะเริ่มกันที่ MRT สถานีห้วยขวาง ซึ่งต้องขอบอกก่อนนะครับว่า Sale Gallery ไม่ได้อยู่ที่ตั้งโครงการ แต่จะอยู่บริเวณหน้าปากซอยรัชดาภิเษก 14 ติดถนนใหญ่รัชดาภิเษกใกล้กับ Mansion 7 โดยเป็น Sale Gallery ที่ใช้ร่วมกันกับโครงการ The Excel Hideaway รัชดา-ห้วยขวาง ที่เคยได้มาทำรีวิวกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่ง Sale Gallery จะมีระยะห่างจาก MRT สถานีห้วยขวาง ประมาณ 400 m. ซึ่งเป็นระยะที่เดินถึงสบายๆและเป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมโครงการได้ง่ายที่สุด

เริ่มต้นที่รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง ให้ใช้ทางออกที่ 1 ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ

เมื่อออกมาจากสถานี MRT ห้วยขวาง เราจะออกมาบริเวณสี่แยกห้วยขวาง ให้เราเลี้ยวขวาเดินไปตามทางเดินริมถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปทางลาดพร้าวเรื่อยๆ อีกประมาณ 400 m.

ระหว่างทางที่เราเดินมาเรื่อยๆ จะมีจุดสังเกตคือ เราจะเดินผ่าน Mansion 7 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านขวาหน้าปากซอยรัชดา 14  และปากซอยทางด้านซ้ายคือที่ตั้งของ Sale Gallery ของโครงการ The Excel รัชดา 18 จุดหมายของเราครับ

หรือถ้าเราขับรถยนต์มา ก็มาได้ง่ายๆโดยใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปทางพระราม 9 ให้สังเกตป้ายของแยกห้วยขวางซึ่งมีทางแยกทางซ้ายไปประชาอุทิศและทางขวาไปประชาสงเคราะห์ และระวังอย่าขับชิดขวาไปตามป้ายพระราม 9 – อโศก ล่ะครับ เพราะมันจะพาลงอุโมงค์ใต้ดินผ่านสี่แยกห้วยขวางไปแล้วจะเลยไปยาวเลย โดย Sale Gallery จะอยู่ก่อนถึงสี่แยกห้วยขวางครับ

หน้าตาของ Sale Gallery เป็นลักษณะ Modern กรุกระจกโดยรอบแบบนี้ มีป้ายโฆษณาของโครงการขนาดใหญ่ติดอยู่อย่างชัดเจน มีที่จอดรถยนต์อยู่ทางด้านซ้ายของ Sale Gallery โดยสามารถขับรถเข้ามาจอดได้จากถนนใหญ่เลยไม่ต้องเข้าซอยครับ

บรรยากาศภายใน Sale Gallery จะตกแต่งได้เรียบหรู สวยงามและโปร่งโล่งมาก มีเคาน์เตอร์ติดต่ออยู่ด้านหน้าทางซ้ายมือซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถให้ข้อมูลแก่ชาวต่างชาติได้ด้วย โมเดลโครงการ The Excel รัชดา 18 จะอยู่ด้านใน ส่วนห้องตัวอย่างจะต้องขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ครับ

ส่วนการเดินทางมายังที่ตั้งโครงการในวันนี้เราจะเริ่มที่แยกถนนสุทธิสารตัดกับถนนรัชดาภิเษก ให้ขับตรงมาตามเส้นทางของถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าอโศก – พระราม 9 เรื่อยๆประมาณ 450 m. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ซอยรัชดาภิเษก 18 ขับเข้ามาตามทางในซอยเรื่อยๆประมาณ 1.1 km. ก็จะเจอกับทางแยกของถนนซอย 20 มิถุนา ให้เลี้ยวขวาแล้วขับตรงมาประมาณ 50 m. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

เริ่มต้นที่บริเวณถนนสุทธิสารตัดกับถนนรัชดาภิเษก ให้ขับรถตรงไปบนถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าอโศก – พระราม 9 อีกประมาณ 450 m. ซึ่งบริเวณนี้จะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่คือ เมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์, เมืองไทยประกันชีวิต และอาคารธนาคารธนชาติ สาขา รัชดา

เมื่อถึงหน้าอาคารเมืองไทยประกับชีวิตแล้วให้ชิดซ้ายเพื่อเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยรัชดาภิเษก 18 ซึ่งจากภาพจะเห็นว่ามีวินมอไซค์อยู่บริเวณหน้าอาคารเมืองไทยประกันชีวิตด้วย ซึ่งเป็นวินมอไซค์ที่เราจะต้องมาขึ้นต่อถ้าเรามาจาก MRT สถานีสุทธิสาร ที่ผมได้เกริ่นไปแล้วก่อนหน้านี้นั่นเอง

เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ซอยรัชดาภิเษก 18 ซึ่งจากป้ายจะเห็นได้ว่าซอยนี้เป็นซอยลัดไปลาดพร้าวได้ด้วย ซึ่งซอยรัชดาภิเษก 18 นี้มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักดีของคนในย่านนี้ว่าเป็นซอยลัดเพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนรัชดาภิเษกได้ แล้วยังสามารถเชื่อมต่อลัดเลาะไปยังถนนเส้นต่างๆได้หลายทาง

บรรยากาศภายในซอยจะเป็นถนนขนาด 2 เลน รถสามารถสวนทางกันได้ สองข้างทางเป็นชุมชน ตึกแถว และอาคารสำนักงานต่างๆ แต่ไม่คึกคักและหนาแน่นมากนักเนื่องจากคนส่วนใหญ่จะใช้ถนนเส้นนี้เป็นแค่ทางลัดขับรถผ่านซะมากกว่า

ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆประมาณ 320 m. จากนั้นแล้วขวา ตามเส้นทางถนน

ขับต่อมาอีกประมาณ 100 m. แล้วจึงเลี้ยวซ้ายอีกที ตามเส้นทางถนน

เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆประมาณ 600 m. เราจะมาเจอกับบริเวณทางแยกของถนนซอย 20 มิถุนา ให้เราเลี้ยวขวาไปทางถนนประชาอุทิศ

เมื่อเราเลี้ยวขวามาแล้วขับตรงมาแค่ 50 m. เราก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยชุมชนและบ้านพักอาศัย โดยจะมีอาคารสูง 5 – 8 ชั้น อยู่ในระยะใกล้อยู่บ้าง สามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอย 20 มิถุนา แยก 19 ช่วงด้านหน้าติดกับอาคารสูง 1 ชั้น ช่วงกลางติดกับอาคารสูง 8 ชั้นและ 5 ชั้น ส่วนช่วงท้ายติดกับคลองชวดบางจากและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ด้านทิศใต้ ติดกับถนนซอย 20 มิถุนา แยก 21 ช่วงด้านหน้าติดกับเซเว่นสูง 1 ชั้น ช่วงกลางติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น และช่วงท้ายติดกับอาคารสูง 6 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับ ติดกับคลองชวดบางจาก และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันตก เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับถนนซอย 20 มิถุนา ฝั่งเดียวกันติดกับอาคารสูง 3 – 4 ชั้น ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสูง 5 ชั้น และอาคารสูง 6 ชั้น

เรามาเดินดูรอบๆโครงการกันสักหน่อย ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดกับถนนซอย 20 มิถุนา มีการล้อมรั้วติดป้ายโฆษณาให้เห็นอย่างชัดเจน ทางด้านขวามือเป็นซอย 20 มิถุนา แยก 21 ส่วนด้านซ้ายเป็นอาคารสูง 3 – 4 ชั้น

มาดูทางด้านซ้ายกันก่อน ซึ่งจะเป็นซอย 20 มิถุนา แยก 19 โดยอาคารติดกับรัวโครงการทางด้านหน้าเป็นอาคารสูง 3 ชั้น บริเวณด้านล่างมีร้านอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยวไก่มะระเล็กๆอยู่ด้วย ถัดเข้าไปด้านในซึ่งติดกับรั้วโครงการเช่นกันจะเป็นอาคารสูง 4 ชั้น และมีอาคารสูง 1 ชั้นอยู่ปากซอยอีกฝั่งหนึ่งด้วย

หันกลับมามองฝั่งตรงข้ามกับซอยเมื่อสักครู่จะเป็นซอย 20 มิถุนา แยก 20 ทางขวาของปากซอยมีอาคารชุมชนที่พักอาศัยสูง 1 – 4 ชั้น ซึ่งติดริมถนนมีร้านอาหารอยู่ด้วย

ทางด้านซ้ายของปากซอยจะมีอาคารสูง 6 ชั้น ซึ่งด้านล่างเปิดเป็นร้านขายรถมอไซค์และร้านขายยา

ส่วนซอยถัดมาเป็นซอย 20 มิถุนา แยก 22 บริเวณหน้าปากซอยทั้งสองฝั่งจะเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ซึ่งจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการพอดี

โดยที่บริเวณหน้าปากซอยทางซ้ายมือตอนเย็นๆจะมีรถเข็นขายอาหารและผลไม้ มาตั้งอยู่ริมทางแบบนี้ด้วย

หันกลับมาดูทางฝั่งขวาของโครงการที่หน้าปากซอย 20 มิถุนา แยก 21 จะมีเซเว่นตั้นอยู่ในระยะเดินถึงได้สบายๆ และติดกันทางด้านขวาจะเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น

นอกจากนี้ยังมีวินมอไซค์อยู่หน้าเซเว่นด้วย ซึ่งจะพูดได้ว่ามีเซเว่นและวินมอไซค์อยู่ติดรั้วโครงการเลยก็ว่าได้ ถือว่าสะดวกมากๆทั้งเรื่องอาหาร ร้านค้า และการเดินทางโดยไม่ใช้รถ โดยถ้าเราจะเดินทางไปรถไฟฟ้า MRT ห้วยขวาง จะมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ 20 บาท

ต่อมาเราจะมาดูภายในซอย 20 มิถุนา แยก 21 ซึ่งเป็นซอยด้านข้างโครงการกันบ้างว่าเป็นอย่างไร

โดยซอยนี้จะมีขนาดถนนกว้าง 2 เลน รถสามารถวิ่งสวนทางกันได้ ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ มีการล้อมรั้วสังกะสีเอาไว้เรียบร้อย

ส่วนทางด้านขวาตลอดแนวจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น

และสุดซอยจะเป็นซอยตัน จึงทำให้เป็นซอยที่ไม่ค่อยมีรถผ่านเข้าออกบ่อยนัก นอกจากบ้านที่อยู่ในซอยนี้ไม่กี่หลัง กับคนที่อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ที่มีความสูง 6 ชั้นแห่งนี้ครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • เมืองไทยประกันชีวิต 1.3 km.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร 1.5 km.
  • ตลาดห้วยขวาง 1.9 km.
  • Esplanade 3.8 km.
  • True Tower 3.9 km.
  • ตลาดรถไฟรัชดา 3.9 km.
  • RS Tower 4 km.
  • Big C รัชดา 4.2 km.
  • The Street รัชดา 4.3 km.
  • Central Rama 9 4.5 km.
  • ฟอร์จูนทาวน์ 4.5 km.
  • G Tower 4.6 km.
  • AIA Tower 5.3 km.

รายละเอียดโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศโครงการ The Excel รัชดา 18 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 270 ยูนิต มีขนาดที่ดินประมาณ 2-2-35 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนซอย 20 มิถุนา แยก 21 ออกแบบด้วยแนวคิด “Serenity Living” ความสุขที่เรียบง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถ่ายทอดผ่านพื้นที่สีเขียวและระเบียงต้นไม้ที่เป็นจุดเด่นของอาคาร

มีการจัดวางฟังก์พื้นที่การใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน บริเวณซุ้มประตูทางเข้าออกแบบเป็นซุ้มระแนงไม้โค้งมน ดูเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ มีอาคาร Lobby แยกอยู่ทางด้านหน้าสำหรับบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาติดต่อ จะได้ไม่เข้าไปรบกวนพื้นที่พักอาศัยภายในโครงการ สร้างความปลอดภัยและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี

ภาพบรรยากาศจำลอง Lobby มีการจัดวางพื้นที่นั่งและชุดโซฟาเอาไว้หลายชุด มีพื้นที่นั่งเล่นระดับแบบขั้นบันไดเพิ่มความหลากหลายในการใช้งานทำให้สนุกและผ่อนคลายมากขึ้น ฝ้าเพดาน Double Volume และผนังโดยรอบเป็นผนังกระจกจากพื้นถึงฝ้าทำให้โปร่งโล่งมากขึ้น มองเห็นเส้นสายของลายไม้จากซุ้มประตูทางเข้าโครงการ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณส่วนกลางของโครงการ บริเวณชั้นล่างของอาคาร B ง่ายต่อการเข้าถึงและใช้งานของทั้งสองอาคาร ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, ที่ปีนผาจำลอง และสวนหย่อมบนชั้นดาดฟ้าที่อาคาร A รวมถึงมองเห็นจุดเด่นของโครงการได้จากระเบียงที่ปลูกต้นไม้ ที่มีส่วนยื่นออกมาจากผนังอาคาร ทำให้เมื่อมองมาที่อาคารแล้วจะได้เห็นพื้นที่สีเขียวแนวตั้งร่มรื่นมากขึ้น

เรามาดูโมเดลกันบ้างครับ โครงการเป็น Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร แบ่งออกเป็นอาคาร A จะอยู่บริเวณด้านหน้า และอาคาร B อยู่ทางด้านใน ซึ่งปัจจุบันโครงการจะเปิดขายอาคาร A สำหรับคนไทย และอาคาร B สำหรับชาวต่างชาติ (ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง สอบถามโครงการเพื่อความแน่ใจอีกทีนะครับ) มีซุ้มประตูทางเข้าสามารถเข้าได้จากถนนซอย 20 มิถุนา ได้เลยโดยไม่ต้องเข้าซอย บริบทโดยรอบอาคารจะเป็นอาคารสูง 3 – 4 ชั้นอยู่ทางด้านหน้าโครงการ และมีอาคารสูง 5 – 8 ชั้นอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนัก จะมีถนนซอย 20 มิถุนา แยก 19 คั่นอยู่ ซึ่งซอยนี้เป็นซอยตัน เงียบสงบ ไม่ค่อยมีรถผ่านเข้า-ออกมาสร้างเสียงรบกวนให้กับโครงการ

ทางเข้าเป็นซุ้มระแนงไม้ทางโค้งมน ของจริงจะมีไม้กระดกกั้น เข้า – ออกด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ และอาคารทางด้านขวาเป็น Lobby สำหรับผู้มาติดต่อจากภายนอกจะได้ไม่เข้าไปวุ่นวายกับส่วนพักอาศัยภายใน ฝ้าเพดานสูงและผนังโดยรอบเป็นกระจกเพิ่มความโปร่งโล่งมากขึ้น ถัดเข้ามาด้านในชั้นบนเป็น Office สำหรับนิติบุคคล

เมื่อเข้ามาภายในโครงการซึ่งจะมีที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ใต้อาคาร A โดยจะมีเส้นทางเดินรถสามารถขับเข้าไปจอดรถใต้อาคาร A แล้ววนรถกลับออกมาได้ และมีเส้นทางเดินรถยาวไปจนถึงใต้อาคาร B ที่อยู่ด้านใน ซึ่งจะเป็นจุด Drop Off ไว้จอดรถรับ-ส่ง และมีพื้นที่จอดรถบางส่วนเท่านั้น ส่วนบริบทโดยรอบโครงการฝั่งนี้จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น และด้านในสุดจะมีอาคารสูง 6 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด จะมีถนนซอย 20 มิถุนา แยก 21 คั่นอยู่ และซอยนี้ก็เป็นซอยตันอีกเช่นกัน จึงเงียบสงบ ไม่ค่อยมีรถผ่านเข้า-ออกมาสร้างเสียงรบกวนให้กับโครงการ

Facilities หลักของโครงการจะอยู่ด้านในบริเวณใต้อาคาร B ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Co-Working Space และมีที่ปีนผาจำลองอยู่ตรงบันไดทางขึ้นไปฟิตเนสชั้น 2 รวมถึงมีสวนหย่อมบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร A ซึ่งลูกบ้านของอาคาร B ก็สามารถขึ้นไปใช้งานได้ด้วยเช่นกัน โดยการจัดวางตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้ จะได้เรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เพราะอยู่ด้านในของพื้นที่โครงการ ห้องที่อาคาร B จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวน รวมถึงยังง่ายต่อการลงมาใช้งาน Facilities ซึ่งอยู่ที่ใต้อาคารของตัวเองอีกด้วย แต่ก็อาจต้องแลกมากับความพลุกพล่านเล็กน้อยเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่คนที่อยู่อาคาร A ก็ต้องมาใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากใครที่ชอบวิวสูงๆ ชอบนั่งเล่นในสวนสูดอากาศบริสุทธิก็อาจเหมาะกับอาคาร A เพราะสามารถขึ้นมาใช้งานพื้นที่สวนหย่อมบนชั้นดาดฟ้าได้ง่าย แล้วยังมีพื้นที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ใต้อาคาร A จึงทำให้สะดวกสำหรับคนใช้รถอีกด้วย

มาถึงจุดเด่นของโครงการกันบ้าง กับรูปด้านข้างของอาคารจะออกแบบตัวห้องในส่วนของพื้นที่ระเบียงบางยูนิตยื่นออกมา และมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ที่ระเบียง(โครงการมีต้นไม้ให้ด้วย) ช่วยเพิ่มลูกเล่นและพื้นที่สีเขียวแนวตั้งได้เป็นอย่างดี ราวระเบียงเป็นกระจกใสทำให้ดูโปร่งโล่ง โชว์แนวต้นไม้ได้มากขึ้น

ต่อไปเรามาดู Master Plan จะได้เห็นภาพโครงการได้ชัดเจนขึ้นนะครับ บริเวณด้านหน้าจะมีอาคาร Lobby ซึ่งแยกออกมาจากอาคารพักอาศัย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับโครงการเวลาที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาติดต่อจะได้ไม่ต้องเข้ามาส่วนพักอาศัยด้านใน ที่จอดรถส่วนใหญ่จะอยู่ใต้อาคาร A และบริเวณโดยรอบ สามารถจอดรถรวมทั้งโครงการได้ประมาณ 96 คัน หรือคิดเป็น 36% ไม่รวมซ้อนคัน มีเส้นทางเดินรถวนได้รอบอาคาร A ทำให้จอดรถได้ง่าย เป็นอาคารที่เหมาะกับคนมีรถและต้องการความสะดวกในการจอดรถแล้วเดินขึ้นอาคารของตัวเองได้เลย รวมถึงมีจุด Drop Off ไว้คอยรับ-ส่ง อยู่ใต้อาคาร A บริเวณส่วนโถงลิฟต์จะวางไว้ตำแหน่งค่อนไปทางขวาของอาคาร รวมถึงอาคาร B ก็จะมีจุด Drop Off เป็นของตัวเองตรงโถงลิฟต์เช่นกัน และมีที่จอดรถให้บางส่วน โดยพื้นที่ชั้นล่างของอาคาร B ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ Facilities ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Co-Working Space และมีที่ปีนผาจำลองซึ่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นไปยัง Fitness ที่อยู่ชั้นสอง

แปลนชั้น 2 เริ่มเป็นชั้นพักอาศัยและยังมีพื้นที่ Facilities บางส่วน โดยที่อาคาร Lobby บริเวณด้านหน้า ที่ชั้นสองจะมี Office สำหรับนิติบุคคลอยู่ด้วย และอาคาร A เป็นอาคารรูปตัว I วางโถงลิฟต์และส่วนงานระบบเอาไว้ค่อนไปทางขวาของอาคาร มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง ชั้นนี้มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 88:1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นครับ โดยรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 20 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

โดยอาคารนี้จะมีห้องที่หันไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือทำให้ได้รับแดดอ่อนๆในช่วงเช้าและไม่โดนแดดแรงในช่วงบ่ายเป็นต้นไป วิวมองเห็นอาคารสูง 5 – 8 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนัก จะมีถนนซอย 20 มิถุนา แยก 19 คั่นอยู่ และซอยนี้เป็นซอยตัน จึงค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนจากการจราจรมากนัก

ส่วนห้องอีกด้านจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ทำให้อาจมีแดดแรงในช่วงหลังบ่ายเป็นต้นไป และมองเห็นวิวพื้นที่จอดรถกลางแจ้งของโครงการ รวมถึงได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งจากบ้านพักอาศัยซึ่งมีความสูงเพียง 1 – 2 ชั้น แล้วยังมีระยะห่างทั้งจากถนนโครงการ ที่จอดรถ และถนนซอย 20 มิถุนา แยก 21 อีกด้วย ซึ่งซอยนี้เป็นซอยตันอีกเช่นกัน จึงค่อนข้างเงียบสงบ

 

ส่วนอาคาร B เป็นอาคารรูปตัว I ซึ่งทางด้านซ้ายของอาคารจะเป็นพื้นที่ Facilities ส่วนของ Fitness ที่สามารถเดินขึ้นมาได้จากบันไดของพื้นที่ส่วนกลาง ไม่สามารถ Access ได้จากชั้น 2 ของอาคาร B  ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยที่ชั้นนี้ได้ ในส่วนของที่พักอาศัยมีการวางโถงลิฟต์และส่วนงานระบบเอาไว้ค่อนไปทางขวาของอาคาร มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง ชั้นนี้มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 11 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 48:1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่น โดยรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง

ซึ่งห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกจะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำบางส่วน และมองเห็นด้านข้างของอาคาร A ทำให้ช่วยลดปัญหาความไม่เป็นส่วนตัวจากการมองเห็นห้องฝั่งตรงข้ามจากระเบียงและหน้าต่างได้บ้าง ส่วนห้องอีกฝั่งจะหันไปทางทิศตะวันออกซึ่งจะได้รับแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้าและไม่โดนแดดแรงในช่วงบ่ายเป็นต้นไป โดยวิวที่เห็นติดกับรั้วโครงการทางด้านหลังจะเป็นคลองชวดบางจากคั่นอยู่ ถัดออกไปจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ทำให้ได้รับวิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งและเงียบสงบ

ส่วนห้องในชั้นอื่นๆจะมีรูปแบบและตำแหน่งห้องที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยตามนี้ครับ

ชั้น 3 อาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 25 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 15 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 3 อาคาร B มีจำนวนห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 7 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง

ชั้น 4 อาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 25 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 12 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 9 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 4 อาคาร B มีจำนวนห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 7 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 5 อาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 25 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 16 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 5 อาคาร B มีจำนวนห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 7 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

ชั้น 6 อาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 25 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 15 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 6 อาคาร B มีจำนวนห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 7 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง

ชั้น 7 อาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 25 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 13 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 8 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 7 อาคาร B มีจำนวนห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 7 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 8 อาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 25 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 8 ห้อง
  • 1 Bedroom : 29 ตารางเมตร จำนวน 13 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ชั้น 8 อาคาร B มีจำนวนห้องทั้งหมด 14 ห้อง และมีรูปแบบห้องในชั้นนี้ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom : 25 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • 1 Bedroom : 26 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 1 Bedroom : 28 ตารางเมตร จำนวน 7 ห้อง
  • 2 Bedroom : 39.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • 2 Bedroom : 41 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

ส่วนสวนชั้นดาดฟ้าจะมีอยู่เฉพาะอาคาร A เท่านั้น ซึ่งคนที่อยู่อาคาร B ก็สามารถขึ้นมาใช้งานได้ด้วยเช่นกัน โดยสวนจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ชมวิว สามารถขึ้นมานั่งพักผ่อนได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 21 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • Co – Working Space 1 ห้อง
  • ที่ปีนผาจำลอง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • สวนหย่อมบนดาดฟ้า อาคาร A
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 68:  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 88 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 48 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 96 คันคิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card

แบบห้อง

สำหรับแบบห้องของโครงการนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขายแบบ Fully Furnished คือมีให้เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง, งาน Built-in ผนัง, งาน Drop ฝ้าเพดาน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งห้องพักจะมีให้เลือกดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25 – 26 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 – 29 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 39.5 – 41 ตารางเมตร

โดยทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตรครับ

มาดูห้องตัวอย่างกันครับ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในห้องจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีตู้ Built in ชั้นวางทีวีอยู่ทางด้านขวา และมีโซฟาอยู่ทางด้านซ้ายซึ่งใช้พื้นที่ร่วมกับโต๊ะทานอาหาร ติดกันมีประตูกระจกบานเลื่อนช่วยแบ่งกั้นห้องครัวและห้องนั่งเล่นออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งทำให้ได้เป็นพื้นที่ครัวปิด ทำอาหารได้จริงจัง และยังคงได้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้ ส่วนภายในห้องครัวก็มีการ Built in เคาน์เตอร์ครัวและมีฟังก์ชันมาตรฐานครบ มีประตูกระจกสามารถเปิดระบายอากาศและออกไปใช้งานพื้นที่ระเบียงภายนอกได้

ส่วนต่อไปเป็นห้องนอนซึ่งมีประตูทางเข้าจากห้องนั่งเล่น ข้อดีคือเราจะได้เป็นผนังทึบช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยมีพื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายซึ่งติดกับหน้าต่างบานใหญ่เหลือเล็กน้อย และได้เป็นหน้าต่างบานใหญ่ช่วยดึงแสงสว่างภายนอกเข้ามาภายในทำให้ห้องสว่าง ส่วนทางด้านขวา Built in ตู้เสื้อผ้าโดยมีพื้นที่สามารถยืนแต่งตัวหน้าตู้ได้ และที่ปลายเตียงมีการ Built in โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางทีวีเอาไว้ ทำให้สามารถดูทีวีในห้องนอนได้ด้วย และห้องสุดท้ายเป็นห้องน้ำซึ่งเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่น ภายในมีการแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน มีสุขภัณฑ์ต่างๆพร้อมใช้งาน

เริ่มต้นที่ภาพหน้าห้องซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของ Sale Gallery ซึ่งทางโครงการไม่ได้ติดประตูเอาไว้ให้ดู แต่เราจะได้เป็นบานประตู UPVC พร้อม Digital door lock (ยังไม่ระบุยี่ห้อ)  ตามมาตรฐานโครงการ หรือเทียบเท่า

เมื่อเข้ามาภายในเราจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีห้องนอนและห้องครัวซึ่งแบ่งแยกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน พื้นห้องเป็นกระเบื้องยางลายไม้ซึ่งสามารถทนน้ำและความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนต ผนังและฝ้าเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าสูง 2.4 m. และได้เครื่องปรับอากาศติดผนังในตำแหน่งนี้อีก 1 ตัว (ไม่ระบุขนาดและยี่ห้อ)

พื้นที่ห้องนั่งเล่นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง มีชั้นวางทีวีอยู่ทางด้านซ้ายและโซฟาอยู่ทางด้านขวา โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 3 m. สามารถซื้อทีวีขนาด 42 – 46 นิ้วมาดูได้

ชั้นวางทีวีโครงการจะ Built in มาให้พร้อมกับมีตู้เก็บของทางด้านขวาซึ่งสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร แต่ถ้าหากใครต้องการใช้เป็นชั้นวางรองเท้าก็อาจต้องหากล่องใส่รองเท้ามาเก็บให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันกลิ่นนะครับ เพราะตู้เก็บของนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้มีช่องระบายอากาศสำหรับการใส่รองเท้า

บานตู้ติดตั้งระบบ Solf close และลิ้นชักมีโช๊คช่วยลดแรงกระแทกได้ดี

หันกลับมาดูอีกฝั่งเราจะได้โซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งแบบนี้ โดยที่โซฟาชิ้นเล็กทางด้านขวาสามารถแยกชิ้นเพื่อดึงออกมาทำเป็นที่พาดขาได้ด้วย ติดกันเป็นพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหารซึ่งทางโครงการแถมมาให้ด้วย สามารถนั่งได้ 1 – 2 คน โดยใช้งานร่วมกับโซฟา

ฝ้าเพดานในห้องจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีและได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 จุด

ต่อไปเป็นห้องครัวซึ่งกันด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยดึงแสงสว่างจากระเบียงเข้ามาภายในห้องทำให้ห้องไม่มืดหรืออึดอัดจนเกินไป และทำให้ได้พื้นที่ครัวปิด สามารถทำอาหารได้จริงจัง

ประตูกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง และพื้นครัวมีการลดระดับลงจากพื้นห้องประมาณ 2.5 cm. ทำให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดครัวได้

พื้นที่ครัวกว้างประมาณ 1.2 m. สามารถใช้งานและเดินผ่านได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

Built in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมใช้งาน และมีพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้างขนาดประมาณ 70 x 60 cm. โดยที่เวลาเลือกซื้อตู้เย็นอย่าลืมคำนึงถึงความสูงของตู้ให้ดีด้วยนะครับ เพราะด้านบนจะเป็นตู้แขวนผนังทำให้อาจใช้ตู้เย็นทรงสูงมากไม่ได้

ตู้แขวนผนังด้านบนสามารถเก็บของได้พอสมควร พร้อมมีช่องวางเครื่องไมโครเวฟด้านบนซึ่งอาจอยู่สูงไปสักหน่อยสำหรับการใช้งานของคุณผู้หญิงที่ตัวเล็กๆ

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีนลายไม้ สามารถทนน้ำและความร้อนได้ระดับหนึ่ง ได้อ่างล้างจานแบบฝังเคาน์เตอร์ของ EVE พร้อม Hob & Hood ของ Hafele มาให้พร้อมใช้งาน ผนังที่ได้จะเป็นฉาบเรียบทาสีซึ่งแนะนำให้กรุกระเบื้องเพิ่มจะได้ง่ายต่อการทำความสะอาด

อ่างล้างจานมีขนาดประมาณ 50 x 50 cm. และมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับประกอบอาหารอยู่เล็กน้อย

ส่วนตู้ด้านล่างจะเป็นช่องใหญ่ 2 ช่อง สามารถเก็บของหรืออุปกรณ์ครัวชิ้นใหญ่ๆได้ โดยดีไซน์ที่เปิดแบบปาดมุมตรงบานเปิดมาให้แบบนี้

ฝ้าเพดานได้เป็นฉาบเรียบทาสี และได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 จุด

ติดกันมีประตูกระจกบานเลื่อนอีกชั้นหนึ่งที่ช่วยดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาภายใน สามารถเปิดระบายอากาศ และเปิดออกไปใช้งานพื้นที่ระเบียงภายนอกได้

ประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง และมีธรณีประตูสูง 12 cm. ช่วยป้องกันฝนสาดและนำไหลซึมเข้ามาภายในห้องได้ดี

ระเบียงมีพื้นที่ใช้งานขนาด 1.8 x 09 m. และได้ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass กรอบสแตนเลสสีเงิน สูง 1 m. แบบในห้องตัวอย่างเลยครับ

พื้นที่ระเบียงด้านซ้ายทางโครงการจะมีก๊อกน้ำมาให้ 1 จุด และมีพื้นที่สามารถวางเครื่องซักผ้าตรงนี้ได้

แขวน Condensing uint เอาไว้ด้านบน เป่าลมร้อนออกมาทางด้านข้าง แนะนำให้ติดกริลแอร์ดันลมร้อนออกไปด้านนอกเพื่อทำให้ระเบียงไม่ร้อน สามารถออกมาใช้งานได้จริง และได้ไฟเป็นโคมซาลาเปา 1 ดวง

ส่วนต่อไปเป็นห้องนอนซึ่งเราจะได้เป็นห้องผนังทึบ ข้อดีคือจะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น โดยโครงการไม่ได้ติดประตูมาให้ดูนะครับ แต่เราจะได้เป็นประตูไม้บานทึบแทน

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ตรงกลางห้อง มีพื้นที่เหลือโดยรอบสามารถเดินผ่านได้

ใต้เตียงมีฟังก์ชันลิ้นชัก 2 ช่อง สามารถเก็บของได้ ถือเป็นการใช้พื้นที่ใต้เตียงให้เกิดประโยชน์ได้ดี

ภายในห้องเราจะได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่กว้าง 2.1 m. สูงจากพื้นเกือบถึงฝ้า ช่วยดึงแสงสว่างภายนอกเข้ามาทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่ง โดยที่สามารถเปิดหน้าต่างบานเลื่อนด้านบนเพื่อระบายอากาศได้อีกด้วย

พื้นที่ข้างเตียงทางซ้ายกว้างประมาณ 25 cm. พอให้ใช้เป็นพื้นที่เปิด-ปิดม่านได้เท่านั้น ไม่สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้

ปลายเตียง Built in โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางทีวีมาให้ โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 3 m. สามารถซื้อทีวีขนาด 42 – 46 นิ้วมาดูได้ เหมาะกับคนที่ชอบนอนดูทีวีบนเตียง

ชั้นวางทีวีมีลิ้นชัก 3 ช่องใหญ่ สามารถเก็บของได้พอสมควร และมีพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 55 cm. สามารถเดินผ่านได้สะดวก โดยมีพื้นที่ใต้ตู้อีกประมาณ 35 cm. สามารถซื้อกล่องมาใส่เพื่อเก็บของใต้ตู้เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ครับ

ส่วนทางด้านขวาของเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built in หน้าตาแบบนี้มาให้ ด้านหน้าเป็นบานกระจกใสสีดำช่วยพรางสายตาสิ่งของภายในตู้ได้บ้าง ภายในมีราวแขวนเสื้อ 2 แถว สามารถเก็บเสื้อผ้าได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ช่องด้านบนสามารถเก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้

พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้ามีความกว้างประมาณ 50 cm. สามารถยืนแต่งตัวได้ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อโต๊ะข้างเตียงมาวาง เพราะจะทำให้การใช้งานตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายไม่สะดวกได้ครับ

ฝ้าเพดานของจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสี และได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 จุดเช่นเคย

ห้องสุดท้ายเป็นห้องน้ำซึ่งมีประตูทางเข้าจากทางห้องนั่งเล่น ภายในมีการแยกฟังก์ชันพื้นที่การใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน ได้กระจกเงาบานใหญ่ 1 บาน พร้อมสุขภัณฑ์ต่างๆพร้อมใช้งาน

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.3 x 1.5 m. สามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. และมีการลดระดับพื้นห้องน้ำลงมาจากพื้นห้องประมาณ 2 cm. สามารถล้างทำความสะอาดห้องน้ำได้ แต่ต้องระวังอย่างฉีดน้ำแรงเกินไปเพราะพื้นลดระดับลงมาไม่มากเท่าไหร่

พื้นที่ส่วนแห้งประกอบด้วยอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์เป็นฟังก์ชันมาตรฐานทั่วไป ใช้งานได้สะดวกครับ

อ่างล้างหน้ามีขนาดประมาณ 55 x 45 cm. ของ Hafele มีพื้นที่ขอบอ่างสามารถวางของได้เล็กน้อย ด้านล่าง Built ช่องเก็บของแบบไม่มีหน้าบานมาให้ มาสามารถเก็บของใช้เล็กๆน้อยๆที่จำเป็นในห้องน้ำได้ครับ

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Hafele มีพื้นที่โดยรอบเหลือสามารถนั่งใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด

ติดสายชำระขนาดพอดีมือ และที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน

ส่วนสุดท้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำ ติดฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้ พร้อมที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้สะดวก มีขอบธรณีประตูสูง 5 cm. ช่วยป้องกันน้ำไหลซึมออกมาเลอะเทอะพื้นที่ส่วนแห้งภายนอก พร้อมติด Stopper มาให้ช่วยป้องกันการกระแทกของประตูได้ดี

ติดตั้ง Hand Shower มาให้ขนาดพอดีมือ ก๊อกแบบก้านโยกสามารถปรับแรงดันน้ำได้

ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสี ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 จุด และของจริงจะได้พัดลมระบายอากาศชนิดฝังเพดานอีก 1 จุด

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ส่วนห้อง Type อื่นๆ มีดังต่อไปนี้ครับ

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 และ 26 ตารางเมตร ซึ่งมีฟังก์ชันภายในเหมือนกัน ต่างกันที่ตรงบริเวณระเบียงคือ ห้องขนาด 26 ตารางเมตร จะมีพื้นที่ระเบียงยื่นออกมาอีก 1 ตารางเมตร และทางโครงการจะมี “ต้นหูหนู” ซึ่งเป็นต้นไม้ทรงสูงมาให้ 1 ต้น โดยที่จะยกกับลูกบ้านให้ดูแลด้วยตัวเอง หรือหากใครไม่ต้องการก็สามารถแจ้งกับทางโครงการได้ ซึ่งจะทำให้เราได้ระเบียงที่มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้นนั่นเอง (Update 27/05/2563)

ส่วนภายในห้องมีการแยกฟังก์ชันพื้นที่ใช้งานอยู่ทางด้านซ้ายและพื้นที่พักผ่อนอยู่ทางด้านขวาอย่างเป็นสัดส่วน เมื่อเข้ามาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีชั้นวางทีวีอยู่ทางด้านซ้าย โซฟาอยู่ทางด้านขวา และใช้งานร่วมกับพื้นที่ทานอาหาร ด้านในเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งมากขึ้น แล้วยังช่วยถึงแสงสว่างจากหน้าต่างในห้องนอนเข้ามาภายในได้ ในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้กลางห้อง และมีตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง Built in อยู่ปลายเตียง ส่วนพื้นที่ใช้งานทางด้านซ้ายเริ่มที่ห้องครัว มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นทำให้ได้พื้นที่ครัวปิด สามารถทำอาหารได้จริงจัง ภายในจะได้ชุดเคาน์เตอร์ Built in มาให้พร้อมใช้งาน และมีประตูระเบียงช่วยดึงแสงภายนอกเข้ามาและเปิดระบายอากาศได้ ส่วนสุดท้ายเป็นห้องน้ำซึ่งเข้าได้จากทางห้องครัว ข้อดีคือมีประตูห้องน้ำอยู่ตรงกับประตูระเบียงสามารถเปิดเพื่อระบายกลิ่นและความชื้นของห้องน้ำได้ดีโดยไม่รบกวนพื้นที่พักอาศัยภายใน ฟังก์ชันในห้องน้ำมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน มีสุขภัณฑ์ต่างๆครบพร้อมใช้งาน

ต่อมาคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 และ 29 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างที่ได้อธิบายไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ระเบียงอีกเช่นกัน ซึ่งเราจะได้ “ต้นหูหนู” หรือจะปรับเปลี่ยนขยายพื้นที่ระเบียงได้ตามต้องการ (Update 27/05/2563) ฟังก์ชั่นภายในมีห้องนั่งเล่นเป็นศูนย์กลางที่แจกจ่ายไปตามห้องต่างๆ โดยห้องครัวได้เป็นครัวปิดเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจัง ห้องนอนเป็นผนังทึบเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวและนอนดูทีวีในห้องได้ รวมถึงห้องน้ำก็มีการแยกฟังก์ชันอย่างเป็นสัดส่วน มีสุขภัณฑ์ต่างๆพร้อมใช้งาน

ห้องสุดท้ายเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 39.50 – 41 ตารางเมตร มีความแตกต่างกันตรงที่ระเบียงอีกเช่นเคย รวมถึงห้อง Type นี้มักจะเป็นห้องมุม ทำให้บางยูนิตจะมีหน้าต่างด้านข้างเพิ่มขึ้น และอาจมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องมาตรฐานเล็กน้อย เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับพื้นที่ Common area ประกอบด้วยพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าและอยู่ติดกับห้องครัว ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะอยู่ด้านในติดกับประตูกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงสว่างเข้ามาภายในและเปิดออกไปใช้งานที่ระเบียงภายนอกได้ ส่วนฟังก์ชันอื่นๆภายในห้องเริ่มจากห้องครัวจะอยู่ติดกับพื้นที่ทานอาหารซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ได้พื้นที่ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจัง ภายใน Built in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L มาให้พร้อมใช้งาน และถ้าเป็นห้องมุมจะมีหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศได้อีกด้วย ส่วนห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องตรงข้ามกับห้องครัว ใช้งานร่วมกับห้อง Master Bedroom มีประตูเปิดเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง ภายในแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็นสัดส่วนและมีสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน ห้องนอนมี 2 ห้อง เป็นผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัว เริ่มที่ Master Bedroom ภายในสามารถวางเตียง 5 ฟุตไว้ตรงกลางห้อง มีพื้นที่รอบเตียงสามารถเดินผ่านได้สะดวก มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงภายนอกเข้ามาและเปิดระบายอากาศได้ พร้อม Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่อีกด้านหนึ่ง ภายในวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ตรงกลางห้อง มีพื้นที่รอบเตียงสามารถเดินผ่านได้ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนช่วยดึงแสงภายนอกเข้ามาและเปิดระบายอากาศได้ พร้อม Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้เช่นกัน

ราคา

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 July 2018

  • 1 Bedroom ขนาด 25 ตารางเมตร ราคา 1.79 ล้านบาท หรือ 71,600 บ./ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 90,000 บ./ตร.ม. (ราคา ณ วันเปิดตัว)

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี)
  • ค่าที่จอดรถยนต์ 300 บ./เดือน และมอเตอร์ไซค์ 50 บ./เดือน
  • โปรโมชั่น ณ วันเปิดตัว : รับส่วนลด 200,000 บ. ส่วนลดเพิ่มอีก 50,000 บ. สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต กรุงศรี ไทยพาณิชย์ กสิกร และ KTC รับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% 4 เดือน เงินจองและเงินทำสัญญา

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล – โครงการ The Excel รัชดา 18 ตั้งอยู่ในซอย 20 มิถุนา แยก 21 เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยมีทั้งแนวราบที่เป็นบ้านเดี่ยวและตึกแถว ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในย่านนี้เช่นกัน บรรยากาศโดยรอบโครงการค่อนข้างเงียบสงบ แต่จะมีรถบริเวณถนนหน้าโครงการเนื่องจากเป็นเส้นทางลัดที่สำคัญของย่านนี้ ติดกับรั้วโครงการมีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ เซเว่น และวินมอไซค์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสะดวกไม่ลำบากนัก ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเกาะอยู่ตามเส้นถนนรัชดาภิเษก มีทั้งตลาดเมืองไทยภัทรและตลาดห้วยขวางที่เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่อยู่ไม่ไกล นอกจากนี้ย่านรัชดา-สุทธิสาร ยังอยู่ใกล้กับย่านพระราม 9 ซึ่งถือว่าเป็น New CBD ที่สำคัญที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม ที่มีอยู่มากมายตลอดทั้งสองข้างทางของถนนรัชดาภิเษก ทั้ง The Street, Big C, Esplanade, ตลาดรถไฟ, Cyber World, ฟอร์จูนทาวน์ และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ส่วนตึกอาคารสำนักงานที่เด่นๆ จะประกอบไปด้วย RS Tower, AIA Tower, True Tower, G Tower, ตึกเมืองไทยประกันชีวิต และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งถึงจะไม่ได้อยู่ในระยะเดิน แต่ก็ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าต่อไปได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดริมถนนซอย 20 มิถุนา แยก 21 และสามารถจอดรถได้ 36% โดยถนนซอย 20 มิถุนา นี้เป็นทางลัดเชื่อมถนนสุทธิสารต่อไปยังถนนประชาอุทิศเพื่อไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทรา และไปใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ หรือจะใช้ถนนหลักอย่างถนนรัชดาภิเษกเพื่อวิ่งเข้าเมืองลงมาที่พระราม 9 และขึ้นเหนือไปทางลาดพร้าวก็ได้ หรือจะข้ามแยกห้วยขวางจากถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ ลัดเลาะมาตามถนนประชาสงเคราะห์ก็จะสามารถมายังถนนวิภาวดี-รังสิตได้ด้วย นอกจากนี้หากต้องการใช้ทางด่วนศรีรัชเพื่อไปยังอนุเสาวรีย์หรือศรีนครินทร์ก็สามารถใช้เส้นทางผ่านถนนประชาอุทิศ ถนนเทียมร่วมมิตร และถนนวัฒนธรรม เพื่อมาออกที่ถนนพระราม 9 ก็จะมีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ไม่ไกล ถือว่าเป็นทำเลที่เป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อถนนสายสำคัญและไปต่อทางด่วนต่างๆได้สะดวกมากทีเดียว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ถึงแม้จะไม่อยู่ติดถนนใหญ่ที่มีรถสาธารณะผ่านเยอะหรือใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินถึง แต่ข้างโครงการก็มีวินมอไซค์เรียกใช้บริการได้ง่ายอยู่ สามารถขึ้นไปต่อรถไฟฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลได้ทั้ง 2 สถานีคือ MRT สถานีสุทธิสาร และ MRT สถานีห้วยขวาง ในระยะทางประมาณ 1.3 km. มีอัตราค่าบริการมอเตอไซค์อยู่ที่ 20 บาท หรือจะเรียกแท็กซี่จากหน้าโครงการก็ได้ เพราะซอย 20 มิถุนา ถือว่าเป็นซอยลัดที่มีความสำคัญและมีรถผ่านเยอะพอสมควร ถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างสะดวกใช้ได้

การออกแบบโครงการ – ออกแบบด้วยแนวคิด “Serenity Living” ความสุขที่เรียบง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถ่ายทอดผ่านพื้นที่สีเขียวและระเบียงต้นไม้ที่เป็นจุดเด่นของอาคาร ช่วยทำให้โครงการดูร่มรื่นจากพื้นที่สีเขียวแนวตั้งมากขึ้น มีการจัดแบ่งโซนต่างๆโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยการนำ Lobby ซึ่งอาจมีบุคลภายนอกเข้ามาติดต่อให้แยกมาอยู่หน้าโครงการ มีการจัดวาง Facilities เอาไว้ที่ชั้นล่างด้านในของโครงการ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวจากคนภายนอกและง่ายต่อการใช้งานของแต่ละอาคาร รวมถึงมีการวางผังอาคารให้หันด้านข้างของอาคาร A มาทางอาคาร B ช่วยลดปัญหาความไม่เป็นส่วนตัวจากการมองเห็นห้องฝั่งตรงข้ามจากระเบียงและหน้าต่างได้

การออกแบบห้องพักอาศัย – ถือว่าออกแบบมาได้เป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวดี มีห้องหลายแบบให้เลือกตามความชอบ เริ่มจากห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 – 26 ตร.ม. จะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนแต่ยังมีความโปร่งโล่ง เน้นให้แสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้อง และห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 – 29 ตร.ม. จะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นสัดส่วนและความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงชอบนอนดูทีวีบนเตียงนอนอีกด้วย ส่วนห้องสุดท้ายเป็น 2 Bedroom ขนาด 39.5 – 41  ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยและมีการแบ่งฟังก์ชันห้องด้วยผนึงทึบทำให้มีความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ห้องทุกแบบจะได้พื้นที่ครัวปิดเหมือนกันหมด สามารถทำอาหารได้จริงจัง ห้องน้ำทุกห้องมีการแยกพื้นที่การใช้งานออกอย่างเป็นสัดส่วน มีสุขภัณฑ์ต่างๆพร้อมใช้งาน และมีฟังก์ชันระเบียงให้เลือกว่าอยากได้ระเบียงยื่นพร้อมต้นไม้ให้ด้วยหรือไม่

วัสดุ – ให้มาครบตามมาตรฐานทั่วไปของคอนโดระดับราคานี้ ประกอบด้วย พื้นกระเบื้องยางลายไม้, หน้าต่างบานใหญ่ , พื้นครัวกระเบื้องเซรามิก , ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยกรอบสแตนเลส , กระจกห้องน้ำบานใหญ่ ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ของที่ได้ประกอบด้วย โซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่ง , ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของ , เครื่องปรับอากาศ , Digital door lock,  ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร , ตู้เสื้อผ้ามีราวแขวนเสื้อ 2 ชั้นเก็บเสื้อได้ค่อนข้างเยอะ , โต๊ะเครื่องแป้ง Built in , ชุดครัว Built in พร้อมชุดเตาไฟฟ้า-เครื่องดูดควัน และสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Hafele

สาธารณูปโภค – ส่วนกลางถือว่าออกแบบมาได้สวยน่าใช้งาน มี Lobby, สระว่ายน้ำ, C0-Working space, Fitness, ที่ปีนผาจำลอง ถ้าใครเน้นใช้งานส่วนกลางควรจะเลือกอยู่อาคาร B เพราะใกล้และเข้าถึงง่าย เน้นความเป็นส่วนตัวจากภายนอก แต่ถ้าอยากลงจากอาคารแล้วออกไปด้านหน้าโครงการได้เลยก็ควรเลือกอาคาร A แต่ที่อาคาร A ก็จะมีสวนบนดาดฟ้าให้ขึ้นไปพักผ่อน มองวิวมุมสูงได้ ส่วนความหนาแน่นลิฟต์ทั้งโครงการประมาณ 68 :  1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 90,000 บาท/ตร.ม., 5 July 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ย่านชุมชนใกล้เซเว่น หาของกินไม่ยาก อยู่ติดถนนซอยหลัก
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก มีเส้นทางลัดเลี่ยงรถติดได้ ไม่ไกลทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – วินมอไซค์ติดรั้วโครงการ แท็กซี่ผ่านตลอดต่อรถง่าย ใกล้ MRT 2 สถานี
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้มาครบ แบบ Fully Furnished พร้อมอยู่
  • แบบ 7.5/10 – ฟังก์ชันลงตัว ได้ความเป็นส่วนตัว ใช้งานสะดวก
  • สาธารณูปโภค 7/10 – ให้ครบ แยกโซนได้ดีไม่รบกวนลูกบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว

  • MAIN – UPPER CLASS
  • 7.52 / 10.00

**หมายเหตุ : คะแนนนี้คิดจากราคาเฉลี่ยตอนช่วงเปิดตัวเท่านั้น ถ้าใครได้ห้องที่ราคาสูงหรือต่ำกว่านี้ สามารถเพิ่ม/ลดคะแนนเองได้เลยครับ

BOTTOM LINE

โครงการ The Excel รัชดา 18 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดย่านรัชดา-สุทธิสาร ที่ราคาสามารถหยิบจับได้ง่าย ทำเลทางลัดและไม่ไกลรถไฟฟ้า เรียกรถสาธารณะง่าย ชอบฟังก์ชันห้องที่ลงตัว มีความเป็นส่วนตัวสูง สามารถทำอาหารได้จริงจัง มีระเบียงปลูกต้นไม้ได้ Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ มีงบประมาณระดับ 2 – 4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 16,000 – 26,000 บาท/เดือน