Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 จาก Siamese Asset ต้องบอกว่าเจ้านี้ออกแบบคอนโดไม่ธรรมดาจริงๆครับ เพราะโครงการนี้ให้ Private Lift และ ทุกยูนิตมีการลงไม้ยืนต้นไว้ที่ระเบียงช่วยให้บรรกาศร่มรื่นมากขึ้นและบังสายตาจากข้างห้อง รวมไปถึงห้องฝ้าเพดานสูงพิเศษที่เรียกว่าห้องแบบ Mofs ได้ความสูงฝ้าถึง 4.45 เมตร ส่วนห้องปกติจะได้ฝ้าเพดานสูง 3.2 เมตร สำหรับส่วนกลางได้สระว่ายน้ำและห้อง Fitness บนชั้น 18 และมีห้อง Penthouse 3 ชั้นบนของที่นี่ก็ฮอตมากเช่นเดียวกัน

Fact @ 14 March 2018

  • Siamese Exclusive Sukhumvit 31 (ไซมิส เอ๊กซ์ตลูซีฟ สุขุมวิท 31)
  • Siamese Asset Co.,LTD
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสุขุมวิท 31 เขต วัฒนา
  • คอนโด High Rise 21 ชั้น และใต้ดิน 2.5 ชั้น 1 อาคาร 192 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 162 คัน (มีระบบอัตโนมัติ 86 ช่อง) คิดเป็น 84%
  • ที่ดินประมาณ 1-2-98.3 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ธ.ค. 2016
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พ.ย. 2018
  • 1 Bedroom 46 – 65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.46 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 69 – 85 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.3 ล้านบาท (Sold Out)
  • 3 Bedrooms 115 – 135 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท
  • Mofs (47+17) – (115+25) ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.5 ล้านบาท
  • Penthouse 181 – 207 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูงแบบปกติสูง 3.2 เมตร / แบบ Mofs สูง 4.45 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG  n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 063 202 2023 (Thai & English) 08-4427-1244 (Japanese)

ทางโครงการจะมี Hot Deal สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้า “คลิกที่นี่” และวันจำนงจองสิทธิ์ 5 หมื่นบาท จะได้รับสิทธิพิเศษรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 15% ณ วันงาน Promotion ที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่จะถึงนี้ (มีแค่ 20 ยูนิตเท่านั้น) หรือโทรจองลงทะเบียน 063-202-2023

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท ตัวโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ที่สามารถทะลุไปออกได้ทั้งถนน อโศก และ เพชรบุรี ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอย สุขุมวิท 31 ประมาณ 600 เมตร

ทำเล Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) อยู่ในช่วงกลางซอยระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี ทำเลนี้ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ดีทำเลหนึ่ง คือแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ที่รายรอบ แต่จากโครงการก็มีเส้นทางลัดไปออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไปได้หมดทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรี เป็นทำเลที่เป็นย่านออฟฟิศของแท้ เวลากลางวันจะมีความคึกคักมาก เวลากลางคืนก็จะสงบหน่อย เพราะคนกลับบ้านกันหมดแล้ว

ที่ตั้งโครงการลึกเข้ามาในซอยสุขุมวิท 31 ประมาณ 950 ม. จึงเป็นทำเลที่สงบหน่อย แต่จากโครงการไม่ใช่ระยะที่สามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้นะ (ระยะเดินของคนทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 500 ม.) ต้องต่อรถไปอีกสักต่อหนึ่ง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือผู้ที่ยอมต่อรถเพื่อไปยังรถไฟฟ้าซะมากกว่า

ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในย่านพร้อมพงษ์ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่รายรอบเยอะมาก แต่จากโครงการจะต้องพึ่งพารถยนต์กันสักหน่อย เรื่องแหล่งความเจริญอาหารการกินในระยะสักเดินใกล้ๆ พอจะมีร้านอาหารอย่าง Le Vendome, Exhibit Cafe’ ที่อยู่ใกล้ๆ ให้พึ่งพิงได้บ้าง แต่ถ้าออกแรงเดินหน่อยหรือขับรถในระยะ 500-700 ม. มีร้านอาหารดีๆ ให้เลือกเพียบ ทั้งแบบที่เป็นร้าน Stand Alone และแบบที่เป็นกลุ่มร้านอาหารหลายๆ ร้าน ได้แก่ 39 Boulevard, Seed, Taka Town นอกจากนี้ยังมี Fuji Supermarket อยู่ในซอยอีกด้วย

ถ้าจะหาแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆอย่างศูนย์การค้า ก็แค่ออกมาถนนใหญ่ในระยะประมาณ 1 กม. ก็จะมีตั้งแต่ Terminal 21 ที่แยกอโศก ไล่มาที่พร้อมพงษ์จะมี The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป  เพื่อยกระดับสุขุมวิทให้เป็นย่านการค้า แหล่งธุรกิจ โรงแรม ออฟฟิศที่พักอาศัย และศูนย์ความบันเทิงต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งตอนนี้ ดิ เอ็มควอเทียร์เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความคึกคักให้กับย่านนี้ได้มากทีเดียว หากใครยังไม่เคยไปเดินสามารถอ่านรีวิว ดิ เอ็มควอเทียร์ ของ Mr.Boom ได้ ที่นี่

ส่วนห้างสรรพสินค้าที่เรารู้จักกันดีและอยู่มานานคู่ย่านพร้อมพงษ์คือ ดิ เอ็มโพเรียม ที่หลายๆคนก็คงมาเดินเล่นช็อปปิ้งกันบ้างแล้ว ในดิ เอ็มโพเรียมนี้ก็มี TCDC ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการออกแบบอยู่ข้างในด้วย หากใครที่ทำงานเกี่ยวกับด้านงานออกแบบน่าจะชอบนอกจากนี้ยังมีวิลล่า มาร์เก็ต และสวนเบญจสิริ ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ  บริเวณย่านพร้อมพงษ์นี้จะอุดมไปด้วยชาวต่างชาติมากมาย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มักเลือกย่านนี้เป็นที่พักอาศัย จนกลายเป็นจุดเด่นอีกอย่างของย่านนี้ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านขายของญี่ปุ่นน่ารักๆ ให้เลือกเพียบ

และหากคุณเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบไปแหล่ง Hang Out อย่างทองหล่อ เอกมัย ในยามค่ำคืน ก็ถือว่าจากตัวโครงการสามารถใช้เส้นทางภายในซอยลัดเลาะไปได้สะดวก โดยไม่ต้องไปออกถนนใหญ่สุขุมวิทหรือเพชรบุรีเลย

แม้ว่าทำเลโครงการอยู่กลางใจเมืองที่มีรถติดมากกกกกกก แต่หัวใจหลักของซอยสวัสดีมีการวนลูปเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทำให้ที่มีทางลัดเลาะในซอย จึงใช้เลี่ยงการจราจรจากถนนหลักได้ ซึ่งถนนบางส่วนเป็นทางวันเวย์ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นเลยทำลูกศรมาในแผนที่ให้ด้วย

จากซอยทองหล่อ สามารถเข้ามาที่โครงการได้โดยทะลุเข้าซอยทองหล่อ 13 > สุขุมวิท 49/11 > ซอยพร้อมจิตร > ซอยสวัสดี มีระยะทางจากทองหล่อถึงโครงการประมาณ 2.2 กม.

จากทางถนนเพชรบุรี โดยเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 แต่ต้องเลี้ยวซ้ายไปวนทางถนนเพชรบุรี 39 ก่อนเพราะมันเป็นวันเวย์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมจิตร ทะลุไปซอยสวัสดี มีระยะทางจากถนนเพชรบุรีถึงโครงการประมาณ 2 กม.

จากถนนอโศกมนตรี ก็สามารถเข้าทางซอยสุขุมวิท 21/3 เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 23 วิ่งตามทางไปจนทะลุซอยสวัสดี มีระยะทางจากถนนอโศกมนตรีถึงโครงการประมาณ 1 กม.

จากถนนสุขุมวิท สามารถเข้าได้หลายทางคือซอย 23, 31, 33 และ 39 จะสามารถเชื่อมเข้าสู่ซอยสวัสดีได้ ถ้าเข้าจากซอยสุขุมวิท 31 จะมีระยะทางถึงโครงการประมาณ 950 ม.

กดที่แผนที่ หรือ ซูม เพื่อดูรายละเอียดขนาดใหญ่ได้ครับ

จากทำเลโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดิน (BTS + MRT) สถานีอโศกและสุขุมวิท ที่ระยะทางประมาณ 1.1 – 1.3 กม. และอยู่ห่างจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ประมาณ 950 ม. เรื่องรถไฟฟ้านี่แม้ว่าไม่ได้อยู่ในระยะเดินจากโครงการได้สบาย แต่ก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างพี่วิน และแท๊กซี่ที่หาได้ไม่ยากเลยในซอยนี้ (และมีพี่วินอยู่ใกล้ๆหน้าโครงการไม่กี่ก้าว)

โดยเดี๋ยวผมจะลองเดินจาก BTS พร้อมพงษ์ ริมฟุตบาท เข้าซ.สุขุมวิท 31 ไปจนถึงโครงการ ระยะทางประมาณ 950 ม. เพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมข้างทางต่างๆ ไปดูกัน

มาเริ่มกันที่ BTS พร้อมพงษ์นะครับ ซึ่งตรงนี้เป็น พื้นที่ของ The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มควอเทียร์ ดิ, เอ็มโพเรียม (อยู่คนละฝั่งกัน) และอนาคตกำลังจะมี ดิ เอ็มสเฟียร์ เป็นโปรเจคสุดท้ายใกล้ๆ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป

ลงมาที่ทางออกที่ 5 เลยนะครับ ทางนี้จะย้อนไปทางฝั่ง สุขุมวิท เลขคี่ (ย้อนไป 35, 33 และ 31)

มองเลยมาฝั่งตรงข้ามนิดหนึ่งจะมีสวนสาธารณะอย่างเบญจสิริ ที่อยู่ติดกับศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม เวลาเย็นๆ จะคนมาออกกำลังกายเพียบเลย

ลงมาจากสถานีแล้ว จะเดินตามริมถนนไปจนถึงปากซอยสุขุมวิท 31 ตลอดทางเดินก็มีความคึกคักมากเลย มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และอาคารสำนักงานยาวตลอดเส้นทาง ร้านอาหารนี่มีหลายชาติให้เลือกมากเลย อย่างร้านนี้ก็ The Robin Hood ผับสไตล์อังกฤษ ที่อยู่ด้านหน้าซอยสุขุมวิท 33/1

ด้านหน้าร้าน The Robin Hood มีวินมอเตอร์ไซค์ ที่ใกล้กับทางลง BTS ที่สุด ถ้าลงจาก BTS แล้วจะเรียกพี่วินเข้าโครงการก็เรียกได้ตั้งแต่ตรงนี้เลย ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 20-30 บาท

ต่อมาก็เป็นธนาคารกรุงศรี สำหรับย่านที่มีชาวต่างชาติเยอะแบบนี้ทางธนาคารก็ขึ้นป้ายรับแลกเงินไว้เด่นเลย

ติดกันมีร้านเสริมสวยทั้งรับทำผมและสปาเล็บ ถัดไปเป็นร้านอาหาร Subway ที่เปิดตลอด 24 ชม.

ถ้าจะช๊อปปิ้งวัตถุดิบปรุงอาหาร / อาหารสำเร็จรูป หรือพวกของใช้ในบ้านก็มี Villa Market ให้เลือกซื้อได้

ถัดไปเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ UBC II ที่ใต้ตึกมี Starbuck Coffee ด้วย

กลับมาที่ฝั่งสุขุมวิทเลขคี่ ถัดมาไม่ไกลจากอาคารสำนักงาน UBC II จะมีอาคารสำนักงานใหญ่อีกแห่งหนึ่ง คืออาคารสำนักงาน RSU Tower

ซึ่งอาคาร RSU Tower จะอยู่ตรงหัวมุมหน้าปากซอยสุขุมวิท 31 พอดี มองเลยไปอีกฝั่งหนึ่งของซอยเป็นโรงแรม S31

จากซอยสุขุมวิท 31 จะตรงกับแยกสวัสดีพอดี ทำให้ซอยนี้สามารถเลี้ยวเข้าจากถนนสุขุมวิทได้ทั้งขาเข้าเมือง และขาออกเมืองได้เลย

สำหรับซอยสุขุมวิท 31 มีชื่อเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ซอยสวัสดี เป็นถนน 2 เลน ไปกลับ ด้านข้างมีฟุตบาทให้เดินได้สะดวกทั้ง 2 ฝั่ง

เดินตามฟุตบาทเข้ามาในซอย ผ่านตึก RSU Tower เข้ามา จะมีร้านขนมชื่อดัง Au Bon Pain เปิดขายอยูที่ชั้นล่าง

ส่วนฝั่งตรงข้ามที่เป็น โรงแรม S31 จะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่ที่ทางด้านหน้าของโรงแรม ถ้าเรียกพี่วินจากตรงนี้เข้าไปยังโครงการก็ราคาอยู่ที่ 20 บาท

เดินเข้ามาในซอยบรรยากาศส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดชั้นล่างเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ก็จะมีตั้งแต่ร้านนั่งชิวแบบคาเฟ่ ไปจนถึงร้านอาหาร ส่วนร้านอื่นๆ ก็จะมีพวกร้านทำผม ร้านตัดเสื้อผ้า ดูๆ ไปร้านพวกนี้เหมือนจะเอาใจกลุ่มแม่บ้านชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น กับกลุ่มผู้มีอันจะกินที่อยู่อาศัยในย่านนี้ครับ

ถ้ดมาเป็น Service Apartment สไตล์ฝรั่งเศส Paradiso 31 สูง 8 ชั้น

ไม่ไกลกันมีร้านอาหารญี่ปุ่นแบบปิ้งย่าง Japanese BBQ Restaurant

ฝั่งตรงข้ามเป็น Chocolate Cafe’ ร้านเค้กเบเกอรี่ในตำนาน “Cherubin” เมนูที่อยากจะแนะนำคือ Caramelly Monkey, Nuts About Chocolate ราคาแต่ละชิ้นก็ร้อยกว่าบาท

ถัดมาเป็นร้าน Foot Master แบบครบวงจร ที่มีทั้ง Therapeutic Massage, Head Neck & Shoulder Massage, Thai Massage, Foot Reflexology, Milk Bath, Herbal Compress, Foot Spa

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านเสริมสวยและทำผม ติดกันเป็นอาคารสำนักพิมพ์ นานมี บุ๊คส์

นอกจากร้านเสริมสวย และร้านอาหารต่างๆ ที่ติดกับซอยสุขุมวิท 31 แล้ว ยังมีร้านอาหารแนวๆ ที่อยู่เข้าไปในซอยย่อยอีกด้วย อย่างร้านอาหาร Antonio’s ที่เข้าจากทางซอยย่อยสุขุมวิท 29

เนื่องจากซอยนี้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นเส้นทางลัด ทำให้การจะเรียกแท๊กซี่ในซอยนี้หาได้ไม่ยากเลย

ต่อไปเป็นร้าน Cassia Cafe ร้านอาหารสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เมนูอาหารจะเป็นประเภททานกันเองในบ้าน โดยเน้นรสชาติโฮมเมด อย่างเช่น อาหารเช้าจะมีครัวซองต์ แซนด์วิช อาหารหลักมี พอร์คพาย พายไก่ สตูว์หางวัว เป็นต้น

นอกจากสไตล์ร้านอาหารแบบต่างชาติแล้ว ฝั่งตรงข้ามยังมีร้านอาหารอีสานให้เลือกทานด้วย

เดินเข้ามาในซอยอีกหน่อยจะมีร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่ใช้สูตรตามต้นตำรับของชาวโรมัน ซึ่งได้ยกชื่อถนนที่อิตาลีมาตั้งเป็นชื่อร้านว่า Appia

ถัดมาไม่ไกลคือร้าน Harvest Restaurant ร้านอาหารฝรั่งในสไตล์เมนิเตอร์เรเนียน ที่ตกแต่งในสไตล์บ้านไร่แบบตะวันตก

เดินเข้ามาในซอยอีกหน่อยจะเจอกับสี่แยก ที่เป็นจุดเชื่อมกันระหว่างซอยพร้อมจิตรกับซอยสวัสดี จากตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายไปครับ เป็นทางเดียวที่ใช้ออกไปทางถนนอโศก และเป็นทางที่ไปทะลุถนนเพชรบุรีได้ ทำให้ถนนเส้นนี้ถูกใช้เป็นทางลัดหลักและมีรถหนาแน่นอยู่เสมอเลย (จุดสังเกตุของทางเลี้ยวคือมีร้านอาหารสไตล์โฮมเมดตรงหัวมุมที่มีชื่อว่า Home Work)

เลี้ยวเข้ามาเรียบร้อยบรรยากาศจะเป็นแบบตึกแถวที่เปิดชั้นล่างเป็นร้าน Massage เรียงกันอยู่หลายร้านเลย

ตามทางบังคับมา บริเวณนี้จะเป็นทางบังคับเลี้ยวขวา ผมใส่ตำแหน่งไว้ให้ ตรงนี้จะมีพี่วินประจำอยู่ เรียกว่าห่างจากโครงการ Siamese Exclusive 31 ไม่กี่ก้าวแล้วครับ ถ้าใครจะไปห้างไปรถไฟฟ้าก็เรียกตรงนี้ได้เลย ตรงหัวมุมขวามือมีร้านอาหารอีกร้านหนึ่งที่ตกแต่งดูสะดุดตา

ร้านที่บอกดูสะดุดตาอยู่ตรงข้ามเยื้องโครงการ เป็นร้านเบเกอรี่ Holey Artisan Bakery ซึ่งมีจุดเด่นคือขนมปังโฮมเมดที่นี่จะใช้เวลา 2-3 วันในการทำ ส่วนเบเกอรี่ที่นี่ก็ใช้ของโฮมเมดทุกขั้นตอน รวมทั้ง แยม หรือเกลซซิ่งบนโดนัท

ตอนนี้ตัวโครงการกำลังก่อสร้างอยู่นะครับ สอบถามส่วนเฉพาะงานโครงสร้างดำเนินการเกือบ 90% แล้วครับ ซึ่งตัวการก่อสร้างก่อมีการล้อมรั้ว ล้อมผ้าใบดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ด้านหน้าโครงการติดกำแพง ตอนนี้มีการตกแต่งป้ายชื่อโครงการรอไว้แล้ว เป็นผนังหินอ่อนพร้อม Signage ชื่อโครงการสีทอง

ฝั่งตรงข้ามรั้วโครงการ จะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ที่ถอยร่นมาจากซอยสวัสดีนิดหน่อย ซึ่งจากที่เห็นจะเป็นร้านอาหาร, ร้านสปา, Hostel และคาเฟ่ครับ

ถ้าใครเคนผ่านมาสมัยก่อน Sale Office Gallery เดิมจะอยู่ในไซท์ที่ดินโครงการ(ที่กำลังก่อสร้างอยู่) ปัจจุบันมีการสร้างใหม่ขยับเขยิบไปนิดนึงติดกัน

ขอปิดท้ายส่วนการเดินการด้วยภาพนี้นะครับ เดินมาอีกไม่กี่ก้าวฝั่งตรงข้ามมีร้านเค้กเก่าแก่ Mousses & Meringue ที่มีเมนูเด็ดอย่างเช่น Carrot Cake , สตอเบอรี่ชีสเค้ก , Iced Cappuchino , Mixberry Cheesecake / ถ้าตรงมาอีกหน่อยจะผ่านรั้วส้มๆ ของโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมทางแยกที่สามารถเลี้ยวซ้ายไปออกทางอโศกได้ และอย่างในแผนที่ตอนต้นซอยสวัสดี สามารถใช้ลัดเลาะไปได้ทั้งเพชรบุรีและทองหล่อ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

  • ผมลองทำแผนที่ในระยะรอบๆโครงการให้ดูประกอบนะครับ ตัวโครงการมีวางห้องหลักๆไว้ทิศตะวันออกและตะวันตกนะครับ เพราะว่าทั้ง 2 ฝั่งนี้วิวค่อนข้างโล่งเคลียในระยะประชิด อีกทั้งถ้ามองออกไประยะกลาง จะเห็น City View ตึกสูงสลับไปมาๆ สมกับอยู่ใจกลางเมือง
  • ส่วนของทิศใต้ที่ติดกับคอนโด บ้านสิริ 31 โครงการได้ออกแบบให้ไม่มีห้องหันมาทางทิศนี้เลย สบายหายห่วง
  • และทิศเหนือ ติดกับโครงการจะเป็นอพาร์ทเมนท์ 8 ชั้น ณ ปัจจุบันวิวเลยชั้น 8 ไปยังเคลียอยู่นะครับ แต่ถัดออกไปประมาณ 80 เมตร เป็นแปลงที่ดินเปล่าของ Fragrant ซึ่งเมื่อก่อนเห็นว่าจะทำโครงการ Circle31 แต่ตอนนี้ยังเลื่อนออกไป ไม่รู้จะปรับเปลี่ยนยังไงในอนาคตครับ

ทิศเหนือ : ภาพประกอบจากโดรน บินใจกลางแปลงที่ดินโครงการ ที่ความสูง 71 เมตร ประมาณชั้นที่ 18 ครับ (จะมีห้องพักหันไปทางทิศนี้แค่ 1-2 ห้องต่อชั้นเท่านั้น)

ทิศตะวันตก : ภาพประกอบจากโดรน บินใจกลางแปลงที่ดินโครงการ ที่ความสูง 71 เมตร ประมาณชั้นที่ 18 ครับ (ฝั่งนี้เป็น City View ไปทางซ.สุขุมวิท 23 และตึกออฟฟิศสูงบนเส้นอโศกมนตรีครับ)

ทิศตะวันตก : ภาพประกอบจากโดรน บินใจกลางแปลงที่ดินโครงการ ที่ความสูง 71 เมตร ประมาณชั้นที่ 18 ครับ (ฝั่งนี้เป็นชุมชนพักอาศัยในย่านซอยสวัสดี ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป สลับกับอพาร์ทเมนท์และคอนโดที่สูง 7-10 ชั้น)

หรือถ้าใครอยากดูที่ความสูงระดับอื่น ก็มีประมาณชั้น 10 และชั้น 22 ไปดูที่นี่ลิงก์ที่ผมแปะให้ได้เลย “คลิกที่นี่”

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Office Building

  • Interchange Tower
  • Exchange Tower
  • โอเชียนทาวเวอร์
  • อาคารเสริมมิตร
  • อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์

  • การเดินทาง
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์, อโศก
    • รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี

  • ศูนย์การค้า
    • The Em District ของกรุงเทพซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์

  • ใกล้แหล่ง กิน เที่ยว ช้อป
    • Shinsen Fish Market , UFM Fuji Super ,J Avenue ทองหล่อ , Rain Hill
    • แหล่ง Hang Out ในย่านทองหล่อ , เอกมัย และอโศก

    • ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ

    • โรงพยาบาลสมิติเวช(สุขุมวิท)
    • โรงพยาบาลกรุงเทพ
    • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

  • สถาบันการศึกษา
    • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว.)
    • โรงเรียนสาธิต มศว. ประสานมิตร
    • โรงเรียนอนุบาล ไอพีซี


    เจาะลึกตัวโครงการ

    เข้ามาด้านในสนง.ขายกันแล้ว จะมีโมเดลตั้งอยู่กลางพื้นที่เลย และมีห้องรับรองลูกค้าอยู่ชั้นบนครับ เรามาดูโมเดลกันคร่าวๆก่อน

    เนื่องจากโมเดลมีอะคริลิค ขนาดใหญ่ห้อมล้อมเอาไว้อยู่เลยจะมีเงาสะท้อนอยู่บ้าง อย่างแรกที่สะดุดตาคือการออกแบบพื้นที่สีเขียวที่ดูเหมือนจะมีต้นไม้ไซส์เล็กไว้ที่ระเบียงในห้องพักอาศัยทุกห้อง เดี๋ยวจะค่อยๆดูไปเป็นจุดๆ โดยเริ่มจากรูปแบบโครงการก่อน เป็นคอนโด High Rise 21 ชั้น และใต้ดิน 2.5 ชั้น 1 อาคาร 192 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต สร้างบนที่ดินประมาณ 1-2-98.3 ไร่

     

    บริเวณด้านหน้าโครงการ ที่ติดกับซอยสุขุมวิท 31 มีการลงต้นไม้ใหญ่ไว้ 2 ต้น(ยังไม่เฟิร์มพันธุ์ต้นไม้) เป็นเสมือนการสกรีนฝุ่นควันจากด้านนอกโครงการ ในโมเดลไม่ได้ลงซุ้มป้อมรปภ.ไว้แหะ จริงๆจะมีอยู่ตั้งแต่ทางเข้าเลย ลักษณะการวนรถจะเป็นแบบวันเวย์วนไปทางซ้ายอ้อมหลังอาคารและกลับออกมาทางเข้าด้านหน้าเหมือนเดิม ที่จอดรถประมาณ 162 คัน (มีระบบอัตโนมัติ 86 ช่อง) คิดเป็น 84%

    จุดเด่นการออกแบบใช้แนวคิดที่ตั้งชื่อว่า The sense of nature. The sense of home ที่เน้นพื้นที่สีเขียว การที่ใส่ไม้ยืนต้นไว้ที่ระเบียงจริง ถ้าเราสังเกตดี จะมีการใช้ไม้เลื้อยมาบังที่ผนังด้านข้างจองระเบียงแต่ละห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวของแต่ละระเบียงด้วย

    พื้นที่ส่วนกลางหลักจะขยับขึ้นมาที่ชั้น 18 เลย โดยภายนอกที่เป็นแบบกลางแจ้งจะมีทั้งสวนหย่อม สระว่ายน้ำ Naturalux Pool พร้อมแยกโซนจากุชชี่ ด้านในมีส่วนของห้องออกกำลังกายอย่าง GYM และมีห้องซาวน่าและสตีม / ที่เราเห็นห้องกระจกใหญ่เหนือสระว่ายน้ำ ที่นี่มีของแปลกอย่าง Triplex (หรือห้อง 3 ชั้น) ที่ชั้น 19-21 ด้วยนะครับเท่ากับจะมีห้องแบบนี้แค่ 2 ห้องเท่านั้นในโครงการ น่าสนใจมากๆ, สุดท้ายด้านบนจะมีพื้นที่สีเขียวอีกแห่งเป็น Garden Rooftop ครับ

    Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 ได้สถาปนิกมือดีอย่าง  SdA หรือ Somdoon Architects ที่ออกแบบคอนโดชื่อดังมาแล้วหลายแบรนด์ (กดเข้าไปดูในเวปหลักได้นะครับ)

    ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ ที่ติดกับซอยสุขุมวิท 31 โครงการเน้นพื้นที่สีเขียวตั้งแต่ชั้นล่างเลย โดยจะมีการลงต้นไม้ใหญ่ไว้ 2 ต้น(ยังไม่เฟิร์มพันธุ์ต้นไม้) เป็นเสมือนการสกรีนฝุ่นควันจากด้านนอกโครงการ

    จุดเด่นของโครงการอีกอย่าง คือมีการใช้แนวคิดที่ตั้งชื่อว่า The sense of nature. The sense of home ที่เน้นพื้นที่สีเขียว การที่ใส่ไม้ยืนต้นไว้ที่ระเบียงจะช่วยให้รูปด้านนอกอาคารเสมือนมีต้นไม้แทรกอยู่ทั้งอาคาร ใครผ่านไปผ่านมาต้องสะดุดตาแน่นอน อีกทั้งส่วนของพื้นที่ระเบียงจะมีการใช้ไม้เลื้อยบังสายตาด้านข้าง เพื่อความเป็นส่วนตัวระหว่างการใช้งาน ทำให้ระหว่างห้องไม่เห็นพื้นที่ระเบียงด้วยกันเอง

     

    ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby เป็นแบบ Double Volume ที่สูงเกือบ 7 เมตร ซึ่งจะเห็นว่าทั้งพื้นและผนังจะใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวแผ่นขนาดใหญ่มากมากรุตกแต่ง พร้อมแชนเดอเรียเป็นลักษณะกลุ่มโคมไฟห้อยมาหลายดวง ที่เราเห็นบันไดเวียนปลายทางเดิน จะเป็นส่วนทางขึ้นไปชั้นลอยอย่างห้อง Library Loft

    Library Loft ห้องสมุดพร้อมมุมทำงานบริเวณชั้นลอย ซึ่งตกแต่งเน้นวัสดุไม้ ให้ดูอบอุ่นหน่อย ซึ่งมีพื้นที่กว้างระดับนึงพร้อมผนังกระจกล้อมรอบทุกด้าน สามารถมานั่งเล่นหรือมาอ่านหนังสือทำงานก็ได้

    ที่ชั้น 18 ห้องออกกำลังกายที่นี่ตั้งชื่อว่า GYM นะครับ จะเป็นห้องหน้ากว้างเพดานสูง พร้อมผนังกระจกล้อมรอบ วิวหลักหันไปทางทิศเหนือ โดยจะวางเครื่องออกกำลังกายคาร์ดิโอไว้ชิดหน้าต่างครับ

    และด้านนอกของชั้น 18 ส่วนในร่มจะเป็นที่นอนอาบแดด คือเป็นกึ่งนะครับตอนเที่ยงมานอนอาบแดดไม่ต้องรับวิวตรงๆ และไฮไลท์อย่าง Naturalux Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 22 เมตร ลึก 1.2 เมตร (แยกโซนจากุซซี่ ขนาด 3 x 3 เมตร) เอาไว้มานั่งชม City View ฝั่งทางตะวันออกหน้าโครงการ มองไปทางทองหล่อ

     

    ปิดท้ายด้วยภาพมุม Bird Eye View พื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 18 มีสระว่ายน้ำ Naturalux Pool พร้อมแยกโซนจากุชชี่ เหนือสระจะเป็นส่วนของห้อง Triplex (หรือห้อง 3 ชั้น) ที่ชั้น 19-21 ด้วยนะครับเท่ากับจะมีห้องแบบนี้แค่ 2 ห้องเท่านั้น, สุดท้ายด้านบนจะมีพื้นที่สีเขียวอีกแห่งเป็น Garden Rooftop ครับ

    แปลนชั้นใต้ดินลงไปได้ 2 ชั้นครึ่งนะครับ จะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถแบบช่องจอดปกติ สามารถเริ่มใช้ Private Lift ได้ทั้งชั้ร B1 และ B2

    ผังอาคารชั้น Ground โครงการนี้ให้ที่จอดรถแบบปกติและแบบ Auto Parking ผสมกัน สำหรับที่จอดรถแบบปกติจะมีที่จอดอยู่ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ภายในโครงการจะมีร้านค้าอยู่ 1 ร้าน

    ห้อง Library จะอยู่บนชั้น 2 และมีพื้นที่เชื่อมต่อกับโถง Lobby แบบ Double Space

    ผังชั้น 3  จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยแล้วซึ่งชั้น 3 – 9 ฝ้าเพดานสูง 4.45 เมตร ซึ่งเป็นห้องแบบ Mofs ที่สามารถต่อเติมเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นได้  สำหรับชั้น 3 และ 4 จะมีพื้นที่อาคารส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถนะครับ

    ผังชั้น 3 Mofs ที่เป็นชั่นบนของยูนิตแบบ Mofs

    ผังชั้น 4 Mofs จะเป็นชั้นที่มียูนิตแบบ Mofs ทั้งหมด

    ผังชั้น 4 Mofs และส่วนของ Automatic Parking จะสิ้นสุดอยู่ที่ชั้น 4 นี้เท่านั้นครับ

    ผังชั้น 5 จะเริ่มเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 12 ยูนิต จะเห็นว่าลิฟต์ของโครงการนี้เป็นแบบ Private Lift ซึ่งเปิดมาก็ถึงหน้าห้องของตัวเองเลย

    ผังชั้น 5, 7, 9 Mofs ที่เป็นชั้นบนของยูนิตแบบ Mofs

    ผังชั้น 6 และ 8

    ผังชั้น 6 และ 8 Mofs

    ผังอาคารตั้งแต่ชั้น 10 – 17 จะเป็นห้องทีมีฝ้าเพดานสูงปกติ 3.2 เมตร

    ผังอาคารชั้น 11, 12A, 15, 17

    ชั้น 18 จะเป็นชั้น Facilities หลักของโครงการจะมี Swimming Pool, Jacuzzi, Fitness, Sauna and Steam

    ผังชั้น 18 Mofsที่เป็นชั่นบนของยูนิตแบบ Mofs

    ผังชั้น 19 ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะมีห้อง Penthouse เพิ่มขึ้นมาโดยมีห้องที่เป็น Triplex ด้วยนะครับ น่าสนใจมากๆ

    ผังชั้น 20

    ผังชั้น 21

    ชั้นดาดฟ้าจะมีสวนหย่อมมาให้ เป็น Rooftop Garden ยกชั้น พร้อมพื้นที่ทางเดินและนั่งเล่น

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • ชั้น 1 สวนหย่อมรอบโครงการ
    • ชั้น 1 : Lobby ฝ้าเพดานสูง 6.2 – 7 เมตร
    • ชั้นลอย : Library
    • ชั้น 18 : สระว่ายน้ำ 1 สระ มี Jacuzzi ระบบเกลือ ขนาด 5 x 22 เมตร ลึก 1.2 เมตร
    • ชั้น 18 : แยกโซนจากุชชี่ ขนาด 3 x 3 เมตร
    • ชั้น 18 :  ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด n/a ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
    • ชั้น 18 : Suana / Steam
    • Rooftop Garden
    • ลิฟท์โดยสารส่วนตัว (Private Lift) 6 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 32 :  1
    • Service Lift 1 ตัว
    • ที่จอดรถประมาณ 162 คัน (มีระบบอัตโนมัติ 86 ช่อง) คิดเป็น 84%
    • ระบบ CCTV / Access Card


    Product Walkthrough

     

    ห้องพักอาศัยที่นี่จะมีค่อนข้างหลากหลายนะครับ โดยจะมีแบบฝ้าเพดานสูงแบบปกติสูง 3.2 เมตร / และแบบ Morph สูง 4.45 เมตร

    • 1 Bedroom 46 – 65 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms 69 – 85 ตร.ม.
    • 3 Bedrooms 115 – 135 ตร.ม.
    • Mofs (47+17) – (115+25) ตร.ม.
    • Penthouse 181 – 207 ตร.ม.

    แปลนห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูในวันนี้ เป็น 1 Bed Mofs หรือห้องเพดานสูงนั่นเองครับ(สูง 4.45 ม.) โดยจะมีขนาด 46.83 ตร.ม.(ตามโฉนด) แต่ว่าความพิเศษของห้องแบบ Mofs นี้คือเพดานจะสูงแบบที่ชั้น 2 สามารถทำเป็นห้องนอนแยกได้พื้นที่เพิ่มอีก 17.63 ตร.ม. หรือถ้านับการใช้สอยจริงๆแล้วห้องนี้อยู่ที่ 64.46 ตร.ม.

    ฟังก์ชันภายในอย่างที่บอกไปที่นี่ทุกยูนิตจะเป็น Private Lift นะครับ เปิดออกมาจะเป็นพื้นที่ Foyer หรือที่เก็บรองเท้า แยกห้องเก็บตู้เครื่องซักผ้าไว้ด้วย มีการกั้นประตูอีกชั้นก่อนเข้าไปในส่วนพักอาศัย โดยเข้าไปจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อนและตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ถ้าใครชอบทำอาหารกินเองบ่อยๆ ตรงนี้สามารถกั้นครัวปิดเพิ่มเองได้ครับ ถัดไปจะมีพื้นที่ส่วนนึงตามห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานและโต๊ะรับประทานอาหารได้ และความพิเศษคือส่วน Living Area ที่ได้เพดานสูงถึง 4.45 ม. ทำให้ดูโปร่งโล่ง ด้านนอกเป็นส่วนของระเบียง และชั้นบนเป็นส่วนของห้องนอนครับ

    ในส่วนของประตูได้เป็นบานไม้อัดปิดผิวลามิเนตลายไม้ธรรมชาติ ซึ่งอนาคตเดี๋ยวจะมีส่วนของ Digital Door Lock มาติดตั้งในตอนท้าย / เข้ามาด้านในจะเจอกับส่วนพื้นที่ Foyer ก่อน

    ก่อนจะเข้าไปในห้อง จากโถงทางเดินจะเห็นว่าตัวพื้นห้องจะสูงกว่าโถงเล็กน้อย และมีการทำสโลปขึ้นไป ซึ่งจะช่วยกันเรื่องเศษผงฝุ่น และเผื่อกรณีแม่บ้านมาขัดถูทำความสะอาดครับ ตัวด้านในห้องจะเป็นกระเบื้องลายหินโทนสีสว่าง

    เรามาในส่วนของ Foyer แล้ว มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้านะครับ จะเห็นขวามือได้เป็นชุดตู้เก็บรองเท้า Built-In และซ้ายมือเป็นห้องเอาไว้สำหรับเก็บเครื่องซักผ้าที่ปิดแยกสัดส่วนมิดชิดดูเป็นระเบียบเรียบร้อย (พวกคัทเอาท์เบรคเกอร์ไฟก็อยู่ห้องนี้)

    ชุดตู้เก็บรองเท้า Built-In เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการทำมาให้มาตรฐาน สูงตรดฝ้าเพดานเลย สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะทีเดียว(มีรูระบายอากาศด้วย)

    เงยหน้าไปมองนิดนึง จะเห็นว่ามีการดรอปฝ้า เล่นไฟหลืบในส่วนของ Foyer Area นี้ด้วย

    ทางขวามือที่ผมตีเส้นให้ดูในส่วนนี้จะเป็นบานประตูลิฟต์นั่นเองครับ ขออธิบายเรื่อง Private Lift นี้สักนิดนะครับ นี่ไม่ใช่ลิฟท์ส่วนตัวนะ ยังแชร์ใช้กับห้องที่อยู่ในแนวตั้งแนวเดียวกัน แต่ที่เรียก Private Lift เพราะมันเปิดประตูออกจากลิฟท์แล้ว อยู่ในส่วนห้องเราเลย โดยจะมีประตูกั้นส่วนในห้องอีกประตู (ห้องมี 2 ประตู ประตูนอกไปโถงทางเดิน กับประตูในไปในส่วนพักอาศัย) เวลาพาใครมาบ้านก็ไม่ต้องเคอะเขิล ยังเห็นแค่ Foyer Area ลิฟต์ลักษณะนี้มีดีมีเสีย ข้อดีคือรอลิฟต์ไม่นาน เพราะคนแชร์กันใช้น้อย

    ข้อเสียของลิฟท์แบบนี้ก็มีนะ คือสาวๆบางคน อาจจะกังวล เกิดขึ้นลิฟท์แล้วมีชายหนุ่มขึ้นตามมาด้วย เพราะพอเปิดประตูลิฟท์ปั๊บ มันก็ในห้องเราเลยนะ ถึงแม้เห็นแค่ Foyer ก็เถอะ บางท่านอาจจะตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แต่ในลิฟต์ก็มีวงจรปิดให้นะครับ ส่วนโถงทางเดินด้านนอกที่นี่จะไม่มีลิฟท์โดยสารรวมแล้ว แต่จะมีลิฟท์ส่วนกลาง ที่เป็น Service Lift แทน 1 ตัว ซึ่งถ้า Private Lift เสียเมื่อไรก็เลี่ยงมาใช้แทนได้จนกว่าจะซ่อมเสร็จ

    เข้ามาในประตูส่วนของพักอาศัยกัน เปิดมาจะเจอกับพื้นที่ Pantry ครัว(ครัวเปิดทางซ้ายมือ) และขวามือฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำครับ

    เข้ามาด้านในโซนครัวนี้ พื้นจะเป็นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวทั่วไปนะครับ เป็นส่วนของโซนครัวและหน้าห้องน้ำ บริเวณนี้อาจจะเปียกน้ำหรือทำความสะอาดบ่อยหน่อย พื้นแบบนี้ทำความสะอาดง่ายไม่กลัวน้ำ

    ชุดครัวที่นี้ให้มามาตรฐานแบบห้องตัวอย่างที่ถ่ายนี้เลยนะ โดยเริ่มจากด้านบนเป็นชุดตู้ติดผนัง หน้าบานเป็นไฮกลอสทั้งหมด สีขาวมุข อีกทั้งการเปิดปิดเป็น Fiiting Soft Close ด้วย

    โซน Pantry มีการติดไฟ LED ส่องสว่างตลอดทั้งพื้นที่ อีกทั้งผนังด้านหลังมีการกรุกระเบื้องไว้ให้ด้วย และ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว, ได้ Hob&Hood ของ Tela

    ด้านล่างเป็นชุดตู้แนวยาวตลอดช่วง Pantry แต่หน้าบานจะเปลี่ยนเป็นลายไม้ธรรมชาติแทน

    ลองเปิดช่องการใช้งานให้ดู เก็บของได้เยอะทีเดียว แบบเป็นหมวดหมู่ไว้ให้แล้ว พร้อมมีช่องเก็บไมโครเวฟที่ด้านล่าง (ดีกว่าด้านบนต้องเอื้อมมือบางครั้งอุ่นแกงมันสูงเกินไป ลำบากก)

    ส่วนของห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับ Pantry ครัวพอดี

    ก่อนเข้าห้องน้ำจะเห็นสเต็ปเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาราวๆ 10 ซม. เผื่อกรณีทำความสะอาด

    ในห้องน้ำมีการแยกโซนส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ชัดเชนครับ เรามาดูกันทีละจุด เริ่มจากทางซ้ายมือก่อน

    ทางซ้ายมือเป็นชุดตู้ผนังกระจก สามารถเก็บของหลังตู้ได้นะ, ด้านข้างผนังมีการเซาะร่องเอาไว้ให้วางข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำอีก 3 ชั้น

    พื้นที่อ่างล้างเลือกใช้วัสดุดูดีทีเดียว มีไฟส่องสว่างมาจากใต้ตู้ แถมก๊อกเป็นของ TOTO แบบฝังผนัง ชุดอ่างเป็นหินสังเคราะห์ดูสวยงามของ LAVENZ พร้อมมีหน้าบานตู้อยู่ด้านล่าง

    ฝั่งตรงข้ามกับมุมอ่างล้างมือ จะเป็นโซนสุขภัณฑ์ โดยของ TOTO Washlet พร้อมตัวสั่งการแบบปุ่มกดอัตโนมัติ

    พื้นที่อาบน้ำจะแยกโซนเปียกด้วย Shower Box มีพื้นที่อาบประมาณ 1×1  เมตร ได้พวกชุดฝักบัว และ RainShower ของ American Standard

    มุมนี้เอาใจชาวญี่ปุ่นกับต่างชาติเลยใส่อ่างอาบน้ำแบบเข้าพื้นที่พอดีเป๊ะมาให้ อ่างที่นี่จะไม่ได้เป็นแนวยาวนะครับจะกว้างกว่าแบบปกติหน่อย ผมลองลงไปก็ไม่ได้อึดอัดอะไรแต่เหยียดขาไม่ได้

    สิ้นสุดโซนครัวแล้ว จะเห็นว่าจริงๆแล้วโซนครัวสามารถกั้นพื้นที่เป็นครัวปิด ทำอาหารแบบจริงๆจังๆได้นะครับ ถ้าใครคิดจะติดฉากกั้นกระจกเพิ่มก็ไม่ยาก

    ก่อนจะเข้าโซนโถงหลัก ตัวพื้นจะเปลี่ยนไปเป็นแบบ Engineering Wood มีเส้นจบสแตนเลสดูแบ่งอารมณ์ก่อนเปลี่นนโซน

    ถัดมาจะเป็นพื้นที่ส่วนนึงก่อนจะถึงโซนนั่งเล่น โดยตรงนี้สามารถจัดเป็นมุมโต๊ะรับประทานอาหารและโซนโต๊ะทำงานได้เหมือนกับห้องตัวอย่าง ก็ดูลงตัวดีในการใช้งาน

    มุมโต๊ะรับประทานอาหาร บริเวณนี้ยังมีพื้นที่เหลือจะขยายขนาดโต๊ะทานข้าวเป็นแบบ 4  ที่นั่งก็ยังได้นะครับ เพื่อมีแขกมาทานข้าวที่บ้าน หรือถ้า 2 ที่เพียงพอแล้ว พื้นที่ข้างผนังก็สามารถ Built ตู้เก็บของตู้โชว์เพิ่มขึ้นก็ดี

    ฝั่งตรงข้ามต่อเนื่องจากชุดครัว จะเป็นมุมพื้นที่วางตู้เย็นและสามารถทำเป็นมุมโต๊ะทำงานบริเวณนี้แบบห้องตัวอย่างได้

    พื้นที่ Living Area จะอยู่ส่วนนอกสุด เพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสง โดยส่วนนี้จะเป็นมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.45 เมตร มีระยะความกว้างดูทีวีประมาณเกือบๆ 3 เมตรเลยอาจจะต้องเลือกทีวีไซส์ใหญ่หน่อยสัก 50-60 นิ้ว

    มุมพื้นที่วางโซฟา ห้องตัวอย่างจัดเป็นแบบ 2 ที่นั่งให้ดู จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลืออีกนะครับ เราสามารถเลือกโซฟาตามจำนวนสมาชิกครอบครัวได้เลย หรือจะเป็นรูปทรงตัว L ก็ได้

    ผนังฝั่งนี้เป็นมุมชั้นวางทีวี ถ้าใครอยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะๆหน่อย ก็จัดชุดตู้ Built-In และเอาทีวีแขวนผนังได้เลย จะได้พื้นที่เก็บของวางของเพิ่มมากขึ้น

    ตัวแอร์จะได้เป็นแอร์ฝังฝ้าเพดานด้วยนะครับ โดยส่วนแอร์จะดรอปความสูงลงมาประมาณ 40 ซม. และด้วยห้องแบบเพดานสูงแบบนี้ ทำให้เรามีพื้นที่ในการเลือกแชนเดอเรียหรือโคมไฟสวยๆมาตกแต่งเป็นหน้าตาของเจ้าของบ้านอีกด้วย / ส่วนของด้านนอกจะเป็นระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

    ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดพื้นที่กับส่วนของระเบียงได้กว้างกว่า อีกทั้งตัวกระจกได้เป็นแบบ LowE คือ กระจกกันความร้อนแบบการแผ่รังสีความร้อนต่ำ กระจกชนิดนี้โดยปกติจะเคลือบสารฉนวนกันรังสีอินฟาเรดหรือรังสีความร้อนไว้ด้านในของกระจกฉนวน

    ออกมาที่ระเบียงหันไปทางขวามือ เราจะเห็นส่วนของแผงเหล็กโปร่งเจาะรูเป็นช่องๆแบบนี้เอาไว้ ตรงนี้คือส่วนที่ผมบอกในโมเดลตอนแรกเอาไว้ว่าเดี๋ยวทางโครงการจะเลือกพันธุ์ไม้เลื้อยมาติดตั้ง เพื่อใช้บังสายตากับระเบียงห้องข้างๆ และกลายเป็น Private Balcony

    ต้นไม้ ที่ระเบียง เป็นอีกหนึ่งในหัวใจหลักของโครงการนี้ โดยจากที่เห็นตัวโครงการจะมีการลดระดับพื้นที่ส่วนที่ลงต้นไม้เอาไว้ให้ และมีการเดินท่อเพื่อปล่อยๆน้ำตั้งเวลาอัตโนมัติ ลูกบ้านที่ไม่ได้อยู่ห้องบ่อยๆก็ไม่ต้องกังวลว่าจะตายง่าย

    โดยทางโครงการจะสุ่มเลือกต้นไม้มา 3 ชนิดมาใส่ที่ระเบียงแต่ละห้อง ได้แก่ ต้นจิกน้ำ  ต้นแคนา และต้นสั่งทำ ซึ่งห้องแต่และแบบแต่ละขนาดจะได้จำนวนต้นไม้ไม่เท่ากัน

    พื้นที่ระเบียงยังเหลือเฟือ สามารถทำเป็นมุมโต๊ะนั่งเล่นอ่านหนังสือแบบ Semi Outdoor ได้ พร้อมมีการกั้นกันตกตั้วกระจกนิรภัย

    ทางฝั่งซ้ายก็มีการเตรียมแนวผังเหล็กเจาะรูสำหรับติดตั้งไม้เลื้อยแล้วเช่นกัน ส่วนของแอร์ที่นี่จะได้เป็นแบบ VRV นะครับ เนื่องจากต้องเดินท่อยาวพอสมควร คอมแอร์ก็จะตัวใหญ่หน่อยแบบนี้แต่ตัวเดียวจบครับ

    มองย้อนกลับเข้าไปในห้อง จะเห็นส่วนของพื้นที่ชั้นลอยด้านบน อย่างที่บอกห้องแบบ Mofs เพดานจะสูงมากและแบ่งพื้นที่ใช้สอยด้านบนได้ โดยจะจัดเป็นห้องนอน

    ส่วนของบันไดทางขึ้นอยู่ทางซ้สยมือสุด ผนังด้านข้างของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีนะครับ ที่เห็นปิดผิวลายไม้เป็นการตกแต่งเท่านั้น

    ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้วนะครับ เปิดประตูมาจะเจอกับส่วนของตู้เสื้อผ้า Built-In ที่โครงการจะทำมาให้เลย

    ลองเปิดหน้าบานออกให้ดูการเก็บของด้านใน ซึ่งถ้าอยู่คนเดียวก็น่าจะพออยู่แต่ถ้าอยู่ 2 คนอาจจะต้องทำตู้เพิ่มอีกครับ

    ถักมาต่อเนื่องจากตู้เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ที่เหลือเป็นส่วนของการตกแต่งนะครับ โดยจะให้เห็นมุมฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ อย่างที่บอกว่าถ้าอยู่สองคนก็ Built ตู้เสื้อผ้าเพิ่มยาวต่อเนื่องมาเลยก็ได้

    ห้องนี้จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมชั้นวางข้าวของอยู่มุมนี้ ข้างหัวเตียงฝั่งซ้าย

    โดยพื้นที่ชั้นบน ถึงแม้จะแบ่งเป็นห้องนอนแล้ว แต่ความสูงระดับยังโอเคอยู่นะครับ(สูง 2.15 เมตร) โดยตัวผมสูง 180 ซม.เดินไปมาก็ไม่รู้สึกมีฟีลลิ่งหัวจะเฉียดๆนะ พื้นที่ตรงกลางจัดวางเตียงไว้ อันนี้แล้วแต่เลยจะเลือกแบบ 5 ฟูตหรือ King Size ก็ได้

    ปลายเตียงยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางชั้นตู้วางทีวีนะครับ หรือถ้าอยากเดินโล่งๆอีกนิด ก็จับติดทีวียึดแขวนติดผนังก็ดี

    ส่วนของพื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวาเดินสบายครับ วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ด้วย และมีกระจกนิรภัยเป็นตัวกันตกเซฟตี้สูงประมาณ 1.2 เมตร

    และส่วนของพื้นที่ชั้นบนนั้นยังมีตัวเซนเซอร์ระบบกันอัคคีภัยบริเวณนี้ด้วย

    ก่อนจะจบรีวิว ผมให้ดูของแปลกที่โครงการนี้มีให้ซะหน่อย นอกจากที่เราเห็นกันไปแล้วมี Private Lift, Private Bacony ยังมีห้องบางชั้นบางส่วน(มีไม่เยอะ) มี Private Storage ด้วยนะครับ โดยผมเอาลูกศรชี้ให้เห็นการใช้งานจะต้องออกมาที่โถงทางเดินด้านนอก เป็นห้องของใครของมัน(ดูจากผังสีเอาละกัน)

    ห้อง Private Storage อย่างว่าละครับ โครงการเค้ามีการทำ Research Target เอาไว้หน่อยนึงแล้วว่าคนในย่านนี้ส่วนใหญ่หาบ้านหลังที่สอง ซึ่งนอกจากเน้นห้องขนาดใหญ่แล้ว พื้นที่เก็บของก็ถือเป็นเรื่องสำคัญทีเดียว เค้าเลยทำบางห้องพิเศษตรงนี้ไว้ให้

    ใหเดูพื้นที่ Space แต่ละห้องจะได้ห้องส่วนนี้ขนาดไม่เท่ากันนะครับ แล้วแต่ความใหญ่ของจำนวนห้องนอน

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 14 March 2018

    • 1 Bed แบบ Mofs สูง 4.45 ม. ชั้น 5 ห้อง 504 ขนาด 46.93 ตร.ม.(ตามโฉนด) และมีพื้นที่ใช้สอยชั้นบนเพิ่มอีก 17.63 ตร.ม. รวมแล้วเป็น 64.56 ตร.ม. โดยราคารวมอยู่ที่ 13.88 ล้านบาท / ถ้าคิดราคาเฉลี่ย(ตามโฉนด)ตกตร.ม.ละ 295,769 บาท ถ้าคิดราคาเฉลี่ยนับพื้นที่ใช้สอยห้องชั้นบนแล้วตกตร.ม.ละ 215,000 บาท
    • 3 Bed แบบ Mofs สูง 4.45 ม. ชั้น 3 ห้อง 301 ขนาด 121.24 ตร.ม.(ตามโฉนด) และมีพื้นที่ใช้สอยชั้นบนเพิ่มอีก 23.11 ตร.ม. รวมแล้วเป็น 144.35 ตร.ม. โดยราคารวมอยู่ที่ 27.4 ล้านบาท / ถ้าคิดราคาเฉลี่ย(ตามโฉนด)ตกตร.ม.ละ 226,022 บาท ถ้าคิดราคาเฉลี่ยนับพื้นที่ใช้สอยห้องชั้นบนแล้วตกตร.ม.ละ 189,836 บาท
    • 1 Bed แบบปกติ สูง 3.2  ม. ชั้น 12 ห้อง 1209 ขนาด 47.06 ตร.ม. ตกตร.ม.ละ 222,377 บาท

    • Fully Fitted / แอร์แบบฝังฝ้าเพดาน
    • เฟอร์นิเจอร์ Built-In (ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้าห้องนอน)
    • ฝ้าเพดานสูงแบบปกติสูง 3.2 เมตร / แบบ Mofs สูง 4.45 เมตร
    • Kitchen & Sink + Hob & Hood
    • จอง+ทำสัญญา (5%)
    • ดาวน์ (15%)
    • ค่ากองทุน 900 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม./เดือน

    Special Promotion

    • ทางโครงการจะมี Hot Deal สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้า “คลิกที่นี่” และวันจำนงจองสิทธิ์ 5 หมื่นบาท จะได้รับสิทธิพิเศษรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 15% ณ วันงาน Promotion ที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่จะถึงนี้ (มีแค่ 20 ยูนิตเท่านั้น) หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 063-202-2023

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) อยู่ในช่วงกลางซอยระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี ทำเลนี้ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ดีทำเลหนึ่ง โดยความอุดมสมบูรณ์ถือว่าอยู่ในย่านของพร้อมพงษ์อโศก ทำให้รายรอบเรื่องแหล่งความเจริญอาหารการกินมีหลากหลายสัญชาติมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มักเลือกย่านนี้เป็นที่พักอาศัย จนกลายเป็นจุดเด่นอีกอย่างของย่านนี้ รวมถึงยังมี Avenue, มินิมาร์ท, ซูเปอร์มาร์เกตในซอยอยู่ด้วย

    ถ้าจะหาแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆอย่างศูนย์การค้า ก็แค่ออกมาถนนใหญ่ในระยะประมาณ 1 กม. ก็จะมีตั้งแต่ Terminal 21 ที่แยกอโศก ไล่มาที่พร้อมพงษ์จะมี The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท

    การเดินทางด้วยรถ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ที่รายรอบ แต่จากโครงการก็มีเส้นทางลัดไปออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไปได้หมดทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรี เป็นทำเลที่เป็นย่านออฟฟิศของแท้ เวลากลางวันจะมีความคึกคักมาก เวลากลางคืนก็จะสงบหน่อย เพราะคนกลับบ้านกันหมดแล้ว

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ที่ตั้งโครงการลึกเข้ามาในซอยสุขุมวิท 31 หน่อยเกือบโล ในซอยพี่มีพี่วินอยู่ใกล้ๆหน้าโครงการเลย อีกทั้งเรียกแท๊กซี่ง่ายมาก และถ้าเรียกพี่วินแล้วไปได้ทั้ง BTSพร้อมพงษ์,อโศก และ MRT สุขุมวิท

    การออกแบบ โครงการได้สถาปนิกมือดีอย่าง  SdA หรือ Somdoon Architects ที่ออกแบบคอนโดชื่อดังมาแล้วหลายแบรนด์ มีการชูจุดเด่นในตัวโปรเจคเองเริ่มจากอย่างแรก การจัดพื้นที่สีเขียวเป็น Facade เวลาคนมองมาจากนอกอาคาร ทุกห้องจะได้ต้นไม้ส่วนตัว, จุดเด่นที่สองคือการให้ Private Lift ทุกยูนิต, จุดเด่นที่สามคือ ห้องเป็นแบบฝ้าเพดานสูง เรียกว่าคอนเซปท์ไม่เหมือนใครในละแวกนี้ทีเดียว อีกทั้งแบบของห้องขนาดเล็กสุดยังเริ่มต้นที่ 46 ตร.. ใหญ่ไปจนถึง 207 ตร.. มีตัวเลือกแบบห้องที่หลากหลายและไม่ได้เล็กจนเกินไป เข้าใจถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะหาบ้านหลังที่สองในย่านพร้อมพงษ์อโศก

    วัสดุ ที่ได้เรียกว่าก็เหมาะสมกับราคาดีนะเรามาเริ่มจากพื้นกัน จะมีทั้งกระเบื้องลายหิน, แกรนิตโต้, Engineering Wood ความสูงมีทั้งแบบธรรมดา 3.2 .(ก็สูงแล้ว) และแบบ Mofs 4.45 . / ได้เฟอร์บิวท์อินบางส่วนเป็นชุดตู้เก็บรองเท้าและเสื้อผ้า, กระจก LowE, ชุดครัวท๊อปหินสังเคราะห์ Hob&Hood TEKA, ห้องน้ำได้ของดีทั้ง TOTO, LAVENZ, American Standard ปนกัน, Digital Door lock

    สาธารณูปโภค ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตแล้ว ก็ให้มาโอเคไปทางเยอะนิดนึงนะครับ ทั้ง Lobby Double Volume, ห้องอ่านหนังสือ, สระว่ายน้ำ แยกโซนจากุชชี่, ห้อง GYM, ซาวน่า, สตีม และ Rooftop Garden ส่วนที่น่าประทับใจคือการจัดพื้นที่สีเขียวแนวตั้งมาใช้เป็นทั้ง Facade และลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์ด้วย อีกทั้งมี Private Lift ทุกยูนิตอีกต่างห่าง แต่ก็ต้องแลกมากับค่าส่วนกลางที่ไม่ธรรมดาเพราะมีเรื่องต้องบำรุงดูแลเยอะหน่อยครับ

     

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคาประมาณ 220,000 บาท/ตร.ม., 14 March 2018

    • ทำเล 7.75/10 – ทำเลในเมือง เข้าซอยไม่ลึก ใกล้ห้างใหญ่ ใกล้สวน ในระยะเดินเดินทางด้วยรถ
    • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – สะดวกมาก ซ.สวัสดีทางลัดเยอะออกถนนหลักสำคัญได้หมด ที่จอดรถได้ 84%
    • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – เดินไปใช้รถไฟฟ้าไม่ได้ เรียกพี่วินและแท๊กซี่จากหน้าโครงการได้
    • วัสดุ 7.75/10 – ได้ของมาตรฐาน เหมาะสมกับระดับราคา Fully Fitted ได้ของบางส่วน ต้องตบแต่งเองเพิ่ม
    • แบบ 9.25/10 – แบบอาคารมีความโดดเด่นสูง ดูสะดุดตา เน้นความ Private ห้องมีให้เลือกหลายหลายเน้นขนาดใหญ่
    • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีให้เลือกเยอะน่าใช้งาน กระจายไว้ตามชั้นต่างๆ ได้ Private Lift แชร์การใช้งานไม่เยอะ

    • SUPER LUXURY CLASS 
    • 8.01 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาบ้านหลังที่สองในย่านพร้อมพงษ์-อโศก โดยเดินทางใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก หรือใช้รถไฟฟ้าไปต่อก็ไม่ยาก อีกทั้งเลือกโปรดักส์ที่มีความ Private สูงหน่อย และเลือกของที่มีแบรนด์และ Story แนวคิดในการออกแบบและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะกับครอบครัว 1-4 คน มีงบประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป(ไม่มีเงื่อนไขทางการเงินในการผ่อนชำระ)