รีวิวฉบับที่ 915 สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาไปโครงการ Seven Seas Resort Condo Phuket ที่เปิดสำนักงานขายในห้าง Central World บริเวณโซน Becon กันนะคะ ตัวโครงการตั้งอยู่ที่ซอย หงษ์หยกอุทิศ อ.เมือง ภูเก็ต หรือคนบริเวณนั้นจะเรียกกันว่า “สามกอง” นั่นเองค่ะ โครงการมาพร้อมกับสระว่ายน้ำแบบจัดเต็ม 4 สระ พร้อมจำลองเกาะทั้ง 7 เกาะดังทั่วทุกมุมโลก เรามาดูกันค่ะว่าคอนโดตากอากาศโครงการนี้จะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง

 

Fact @ 8 September 2015

  • Seven Seas Condo Resort Phuket (เซเว่น ซี คอนโด รีสอร์ท ภูเก็ต)
  • บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอนด์ พอร์ชแลนด์ ภูเก็ต จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : อ.เมือง ภูเก็ต
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น  อาคาร 975 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิตที่อาคาร A และ ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 31 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ  340 คันคิดเป็น  35% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 12-0-32 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2016
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2018
  • Studio 23.5 – 26.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.5 – 2.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 36.5 – 37 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.1 – 3.1 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 54.5 – 55 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.2 – 4.6 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1,669,500 บาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 65,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 60,000 – 79,000 บาทต่อตารางเมตร
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต
  • เวปไซต์โครงการ

  • โทร  :
    • กรุงเทพ : 087-760-5555
    • ภูเก็ต : 083-740-7774-6

    เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 7.900941, 98.37901

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

    ที่ตั้งของโครงการ Seven Seas Condo Resort Phuket ตั้งอยู่ในซอย หงษ์หยกอุทิศ ซึ่งเป็นซอยเล็กๆขนาด 2 เลนสามารถทะลุเข้า – ออกถนนเยาวราชได้สะดวก โดยตัวถนนเยาวราชนี้เป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนหลักๆของจังหวัดภูเก็ตอย่างถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่เป็นถนนระยะสั้นที่เชื่อมกับถนนเจ้าฟ้าตะวันตกในทิศใต้และบรรจบกับถนน เทพกระษัตรี ทางทิศเหนือ ส่วนถนน เทพกระษัตรี นั้นเรียกได้ว่าเป็นถนนทางหลวงหลักที่เชื่อมจังหวัดภูเก็ตเข้ากับแผ่นดินใหญ่อย่างจังหวัดพังงา มีความยาวทั้งหมดประมาณ 51 กิโลเมตร

    สำหรับการเดินทางในจังหวัดภูเก็ต ถ้าใช้รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวจะสะดวกที่สุด เนื่องจากมีรถโดยสารสาธารณะให้บริการไม่มากนักและ ค่าโดยสารของแท็กซี่(ไม่)มิเตอร์ หรือ แท็กซี่ป้ายดำ จะมีราคาแพงมากๆ  รถตู้ก็มีจำนวนไม่มากนัก ที่เห็นมีเยอะหน่อยคือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างแต่จะมีอยู่เฉพาะบางจุดเท่านั้น

    สำหรับคนที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยระบบสาธารณะนั้น สามารถนั่งรถ “โพท้อง” ซึ่งเป็นรถคล้ายกับรถสองแถวประจำทางขนาดใหญ่ในกรุงเทพ สายที่ 1 (Hilight สีแดง) มีต้นสายจาก Big C – วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิ่งผ่านถนนเยาวราช สามารถลงบริเวณซอย เยาวราช 5 แล้วเดินเข้าซอยทะลุมาซอยหงษ์หยกอุทิศได้

    สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในย่าน “สามกอง” นี้เรียกได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์ เรื่องอาหารการกินสูงมากค่ะ มีร้านค้าข้างทาง ร้านอาหารตึกแถว หรือจะเป็นร้านอาหารชิคๆ ริมถนนก็มีเต็มไปหมด ซึ่งเปิดทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆก็มีทั้งโรงพยาบาลเอกชนอย่างโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลรัฐอย่างวชิระภูเก็ต สำหรับแหล่งช็อปปิ้งนั้น ก็มีห้างอย่าง Central Festival Phuket ที่อยู่บริเวณสี่แยกถนน บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และห้างอย่าง Big C, Index Living Mall และ Tesco Lotus สำหรับมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ ส่วนสถานที่เที่ยวชมวิวเมืองภูเก็ตใกล้ๆก็มี เขารัง นั่นเองค่ะ บนเขารังนั้นมีจุดชมวิว ร้านอาหาร และสวนสาธารณะอีกด้วยนะ

    seven sea phuket การเดินทาง

    การเดินทางในวันนี้ เริ่มจากถนนเยาวราช ตรงผ่านโรงพยาบาล วชิระภูเก็ต เลี้ยวเข้าซอยหงษ์หยกอุทิศ พอเจอทางแยกให้เลี้ยวขวาตรงไปซักระยะ ก็จะถึงโครงการค่ะ

    การเข้าถึงโครงการใช้ถนนเยาวราช ตรงมาเรื่อยๆผ่าน โรงพยาบาล วชิระภูเก็ต

    ตรงมาซักระยะจะเจอกับร้านอาหาร กล้วยน้ำว้า

    มีป้ายสีเหลืองสดใส และ น้องลิงนั่งอยู่ 1 ตัว

    ตรงมาอีกไม่ไกล ก็จะถึงซอยหงษ์หยกอุทิศ จุดสังเกตคือมีป้าย Kumon อยู่ ฝั่งตรงข้ามซอยจะมีร้านอาหารเรียงๆกันอยู่หลายร้าน

    หน้าปากซอยมีร้านอาหารอยู่หลายร้านเรียงกันไป แถวนี้หาของกินค่อนข้างง่ายค่ะ

    เราจะเลี้ยวเข้าซอย หงษ์หยกอุทิศ

    บรรยากาศภายในซอย จะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น สลับกับอพาร์ทเม้นท์

    ตรงมาจะเจอแยก ฝั่งซ้ายเป็นโรงแรม Blu Monkey  เราจะเลี้ยวขวาที่แยกนี้

    เลี้ยวขวามา สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย

    ตรงมาอีกไม่ไกล ก็จะถึงโครงการ Seven Seas Condo ค่ะ

    โครงการ Seven Seas Condo จะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับ โครงการ The Base Heigh Phuket

    บรรยากาศสำนักงานขายโครงการค่ะ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    ตัวโครงการจะอยู่ภายในซอย หงษ์หยกอุทิศ ในแยกที่มีความลึกประมาณ 60 เมตร ซึ่งบริบทโดยรอบของโครงการ ทางทิศเหนือจะอยู่ติดกับหมู่บ้านที่เป็นบ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 2 ชั้น และอีก 3 ด้านจะเป็นที่ดินว่างเปล่าที่มีลักษณะเป็นเนินสูง ใกล้กับเขารังค่ะ

    ด้านหลังโครงการเป็นที่ดินเปล่า

    จะเห็นว่าที่ตั้งโครงการจะอยู่บริเวณเชิงเขาพอดี โครงการจึงมีวิวเป็นภูเขาที่อยู่ด้านหลังด้วย

    ฝั่งตรงข้ามโครงการ เป็นตึกแถว 3 ชั้น และที่ดินเปล่าซึ่งถ้าเดินไปดูจะเห็นว่าเป็นทางลาดลงไปอีกแต่ไม่ชัยเหมือนด้านหลังโครงการแล้ว

    seven seas condo สภาพแวดล้อม (6)

    เดินข้ามถนนมาถ่ายให้ดูว่าพื้นที่มีสภาพเป็นแบบไหน

    ฝั่งตรงข้ามโครงการด้านขวา(ทิศตะวันออก) จะเป็นตึกแถว 3 ชั้น เป็นทางที่เราพามาเมื่อซักครู่ค่ะ

    ที่ดินที่ติดกับโครงด้านข้างโครงการจะติดกับ  Phuket Cosmetic Dental Clinic

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 500 เมตร
    • โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ~ 1 กิโลเมตร
    • วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต ~ 1.2 กิโลเมตร
    • โรงเรียนบ้านสามกอง ~ 1.3 กิโลเมตร
    • Tesco Lotus ~ 2.1 กิโลเมตร
    • โรงเรียนดาราสมุทร ~ 2.4 กิโลเมตร
    • Index Living Mall ~ 2.8 กิโลเมตร
    • โรงพยาบาลสิริโรจน์ ~ 2.9 กิโลเมตร
    • Big C Supercenter ~ 3.1 กิโลเมตร
    • แม็คโคร ~ 3.2 กิโลเมตร
    • Head Start International School ~ 3.3 กิโลเมตร
    • Central Festival Phuket ~ 3.6 กิโลเมตร
    • เขารัง ~ 3.8 กิโลเมตร

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    สำหรับสำนักงานขายโครงการ Seven Seas Condo Resort Phuket ที่กรุงเทพนั้นตั้งอยู่ที่ห้าง Central World ชั้น 4 โซน Beacon ใกล้กับฝั่ง Isetan ใครอยากดูห้องตัวอย่างก็เข้าไปชมกันได้นะคะไม่ต้องเดินทางไปถึงภูเก็ต

    ภายในสำนักงานขาย ตกแต่งเรียบง่ายในโทนสีฟ้า – ขาว

    โครงการ Seven Seas Condo Resort Phuket เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ทั้งหมด 4 อาคาร โครงการหันหน้าออกทางซอยหงษ์หยกอุทิศ ตัวอาคารใช้โทนสีเรียบง่ายด้วยสีขาว ตกแต่งภายนอกอาคารด้วยการยื่นกันสาดเป็นลอนของคลื่นน้ำ ซึ่งถ้าของจริงได้ตามในรูปนี้ตัวพื้นที่ยื่นออกมาก็สามารถช่วยบังแดดเข้ามาถึงตัวห้องได้ระดับนึงค่ะ

    บริเวณซุ้มประตูทางเข้า – ออกโครงการ มีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง การเข้า – ออกด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ ต้องนำบัตรไปแปะกับเครื่องสแกน ซึ่งก็ถือว่าไม่ลำบากในตอนฝนตกเท่าไหร่เพราะมีหลังคาคลุมอยู่ค่ะ และ Key Card ใบเดียวกันนี้ก็สามารถใช้เข้าได้ตั้งแต่ที่จอดรถ ไปจนถึงตัวลิฟต์ที่เป็นระบบล็อคชั้นด้วยนะคะ

    สระว่ายน้ำของที่นี่ถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดมากๆ เพราะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 8,000 ตร.ม. ภายใต้แนวคิด “ดินแดนมหัศจรรย์แห่งหมู่เกาะทั้ง 7”  และเนื่องจากโครงการที่ไม่ได้ติดกับชายทะเลนั้น จึงสร้างสระว่ายน้ำมาชดเชยให้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยก็คือการดูแลรักษาในระยะยาวไม่ว่าจะเรื่องงบประมาณกับค่าส่วนกลางและความสวยงามที่ต้องคอยดูแลอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีลูกบ้านเกือบพันยูนิตก็ตาม ในระยะยาวค่าส่วนกลางอาจจะสูงกว่าโครงการทั่วๆไปก็ถือว่า Tradeoff กันไป ทุกสระของโครงการนี้ลูกบ้านสามารถเล่นน้ำได้หมดเลยนะคะ จากในรูปนั้นเป็นการจำลองกลิ่นอายของเกาะ Capri ประเทศอิตาลีค่ะ

    สระว่ายน้ำพร้อมการจำลองบรรยากาศของเกาะ Naxos ที่ประเทศ กรีซ

    บรรยากาศเกาะเชจู ประเทศเกาหลี และสระว่ายน้ำ

    สระว่ายกับการจำลองเกาะ The Bahamas บริเวณนี้จัดให้มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆด้วยค่ะ

    การจำลองหมู่เกาะ Easter จากประเทศอังกฤษ

    บรรกาศของสระว่ายน้ำกับเกาะ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

    และบรรยากาศของเกาะเต่า ประเทศไทยค่ะ (เกาะเต่านี่อยู่ฝั่งอ่าวไทยนะ อยู่นี่ได้เที่ยวทั้ง 2 ฝั่งทะเลเลย ^_^)

    บรรยากาศจำลองภายใน Lobby โครงการ ตกแต่งด้วยเส้นสายที่โค้งมน และสีฟ้าทะเล – ขาว ให้บรรยากาศของการพักตากอากาศ

    บรรยากาศจำลองภายใน Lobby อีกจุดของโครงการ

    บรรยากาศห้อง Fitness ที่ไม่ได้ให้ใหญ่มากนัก มีกระจกมองวิวออกไปเห็นวิวสระ โดยฟิตเนสนั้นจะมีอยู่ 4 ที่บริเวณใกล้ๆสระว่ายน้ำ ซึ่งลูกบ้านสามารถเข้าไปใช้ได้ในทุกๆ จุดเลยค่ะ

    มาดูกันที่โมเดลโครงการ จะเห็นว่าโครงการเป็นหมู่อาคาร Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร พร้อม Landscape ที่รายล้อมรอบโครงการ

    ลักษณะการวางผังโครงการเป็นรูปแบบการวางตึกโอบล้อมสระว่ายน้ำ สร้างบรรยากาศและวิวจากสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ด้วยจำนวนสระว่ายน้ำที่มีถึง 4 สระ ทำให้มุมมองของอาคารทั้งด้านหน้าและด้านหลังสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ทั้งหมด ยกเว้นอาคาร A ที่มีด้านหนึ่งที่ติดกับพื้นที่จอดรถกลางเเจ้ง ด้านบนอาคารออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวด้วย Roof Top Garden ลูกบ้านสามารถใช้เป็นพื้นที่เดินเล่นชมวิวด้านบนในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นๆ

    รูปแบบการสัญจรภายในโครงการ จะวางถนนและที่จอดรถอยู่ติดขอบที่ดิน(ที่เป็นเส้นประสีดำ) ช่วยให้การสัญจรสะดวกดีค่ะ แต่สำหรับพื้นที่จอดรถกลางแจ้งแบบกลางแจ้งนั้นก็จะทำให้ลำบากในช่วงเวลาฝนตกเช่นกันนะ

    การเข้า – ออกของโครงการนั้น เมื่อผ่านซุ้มทางเข้าโครงการมาแล้วจะเจอวงเวียนน้ำพุรูปคุณม้าน้ำ ซึ่งสามารถเข้าไปยังพื้นที่ภายในได้จากทั้ง 2 ทาง

    มาดูผังโครงการกันต่อนะคะ ถนนของโครงการนี้จะโครงการนี้วางผังให้ถนนและที่จอดรถอยู่รอบนอก เป็นที่จอดรถกลางแจ้ง ซึ่งมีสามารถจอดรถได้ 340 คัน หรือประมาณ 35% ของโครงการทั้งหมด ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถ้าไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว High Season เรื่องที่จอดรถไม่น่าจะมีปัญหานะคะ ตัวอาคารแบ่งเป็น 4 อาคารอยู่ตรงกลางและคั่นด้วยสระว่ายน้ำ ซึ่งในตอนนี้โครงการจะเริ่มเปิดขายในส่วนของอาคาร A และอาคาร B ก่อนส่วนอาคารอื่นๆจะทยอยเปิดขายทีหลังค่ะ

    ในส่วนของ Facility ที่โครงการมีให้หลักๆที่จะเห็นเลยคือสระว่ายน้ำ ทั้งหมด 4 สระ ภายใต้แนวคิดหมู่เกาะชื่อดังต่างๆ โดยในสระว่ายน้ำนี้จะมีพื้นที่สำหรับสระเด็ก, Outdoor Jacuzzi และพื้นที่นั่งเล่นวาง Day Bed รอบๆของสระ ในส่วนของห้องฟิตเนส รวมทั้งซาวน่าแยกชาย – หญิงนั้น จะอยู่ใกล้บริเวณสระว่ายน้ำ ลูกบ้านสามารถจะได้แยกกันใช้ได้ ทำให้สามารถรองรับความต้องการได้เพียงพอเพราะสามารถแบ่งกันใช้ Facility ในแต่ละส่วนกันไปได้สบายๆค่ะ

    สำหรับ Lobby จะมีแยกให้ในแต่ละตึก ตึกละ 2 Lobby (ยกเว้นตึก B) เพราะต้องอำนวยความสะดวกในการเข้า – ออกอาคาร จากพื้นที่จอดรถที่อยู่รอบๆตลอดแนวที่ดิน ทำให้ไม่ต้องเดินตากแดดตากฝนไกลมากนัก แต่ในขณะเดียวกันการที่มีทางเข้า – ออกหลายทางนั้นก็ทำให้ความปลอดภัยลดลงเช่นเดียวกันค่ะ

    ภายในชั้น 1 ของอาคาร A มีลักษณะเป็นรูปตัว L ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor คือมีทางเดินเดี่ยวสามารถเข้าถึงห้องพักได้ทั้ง 2 ฝั่ง จะเห็นว่ามี Lobby 2 ฝั่งทั้งซ้ายและขวา โดยแบ่งลิฟต์โดยสารฝั่งละ 1 ตัวในการขึ้น – ลง การแบ่งลิฟต์โดยสารแบบนี้ก็สามารถช่วยลดการปัญหาการเดินไกลของห้องฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ค่ะ อัตราส่วนของลิฟต์ของอาคาร A อยู่ที่ 118 : 1 ค่อนข้างหนาแน่นไปหน่อย ส่วนการวางผังห้องพักจะวางคละกันไป Type ละ 2 ห้อง โดยห้องมุมเป็นแบบ 2 Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่มีราคาแพงกว่าห้องอื่นๆจึงได้ตำแหน่งของวิวที่มากกว่า

    บนชั้น 2 – 8 นั้นมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 30 ยูนิตต่อชั้น จะเห็นว่าการวางตำแหน่งลิฟต์ตรงกับประตูทางเข้าห้องนั้นทำให้บางยูนิตขาดความเป็นส่วนตัวกว่าห้องอื่นๆ แถมบริเวณโถงลิฟต์ยังมีพื้นที่ค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับจำนวนคนที่มาใช้งานบริเวณนี้ก็ออกจะพลุกพล่านไปสักหน่อยค่ะ 

    สำหรับอาคาร B นั้นมีลักษณะคล้ายกับอาคาร A ที่เป็นรูป ตัว L เช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันตรงที่มี Lobby เพียง 1 จุด ซึ่งก็ช่วยให้การสอดส่องดูแลความปลอดภัยนั้นง่ายมากขึ้น ตำแหน่งลิฟต์ 2 ตัวอยู่ติดกันไม่แยกฝั่งเหมือนอาคาร A ทำให้ห้องที่อยู่ฝั่งขวานั้นต้องเดินไกลไปสักหน่อยหากเทียบกับห้องฝั่งซ้าย ในเรื่องของความหนาแน่นนั้นจัดว่ามีความหนาแน่นมากกว่าอาคาร A นะคะ เพราะมีจำนวนยูนิตสูงสุดที่ 31 ยูนิตต่อชั้น แต่มีจำนวนลิฟต์โดยสารเท่ากัน ทำให้อัตราส่วนของลิฟต์นั้นอยู่ที่ 123 : 1 ค่ะ

    ส่วนเรื่องวิวนั้นอาคาร B ค่อนข้างจะได้เปรียบอาคาร A อยู่เยอะทีเดียวค่ะ เพราะตั้งอยู่ตรงกลางมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านข้างทั้ง 3 ฝั่งเลย

    ในส่วนของชั้น 2 – 8 ของอาคาร B นั้น จะเห็นได้ว่าไม่มีบริเวณโถงลิฟต์หรือพื้นที่ยืนรอลิฟต์เลย ทำให้ห้องพักแบบ 1 bedroom ที่อยู่ตรงข้ามลิฟต์โดยสารนี้จะค่อนข้างขาดความเป็นส่วนตัวไปเลยค่ะ เพราะก็จะมีคนที่รอลงลิฟต์มายืนออกันอยู่หน้าห้องตัวเองนั่นเอง สำหรับเรื่องการตำแหน่งห้องนั้น จะเห็นว่าห้องแบบ 2 bedroom ด้านขวานั้นเป็นตำแหน่งที่ดีเลยค่ะ สามารถมองวิวสระว่ายน้ำได้ทั้ง 2 ฝั่ง รวมทั้งการระบายอากาศและการรับลมยังทั้ง 2 ด้านยังอยู่ในทิศทางที่ดีด้วยค่ะ

     

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • Lobby แยกอาคาร
    • สระว่ายน้ำ 4 สระ ระบบเกลือ
    • ห้องออกกำลังกาย
    • ห้องเล่นเกมส์
    • ห้องซาวน่า
    • Outdoor Jacuzzi
    • สวนรอบโครงการ
    • Roof Top Garden
    • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวม 2 อาคาร 120 : 1
    • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 118:1
    • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 123:1
    • ที่จอดรถ 340 คัน คิดเป็น 35%
    • ระบบ CCTV / Access Card

     


    Product Walkthrough

    สำหรับรูปแบบการขายภายในห้องเป็นแบบ Fully Furnished โดยแต่ละแบบห้องก็จะเฟอร์นิเจอร์ได้มากน้อยแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ขนาดเตียง และจำนวน BTU ของเครื่องปรับอากาศ โดยเราจะพาไปดูห้องแบบ Studio ซึ่งจะให้มาดังนี้ค่ะ

    1. ชุด Built in และเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน

    • ชุดหัวเตียง เตียงและที่นอน 5 ฟุต
    • ตู้ข้างเตียง 2 ตัว
    • ทีวี LED 32 นิ้ว
    • ชุดแผงหลังทีวี
    • เครื่องปรับอากาศ 13000 BTU
    • ตู้เสื้อผ้า
    • โต๊ะเครื่องแป้ง + สตู
    • โซฟา + โต๊ะกลาง
    • วอลเปเปอร์

    2. ชุด Built in และเฟอร์นิเจอร์ห้องครัว

    • Hob & Hood
    • ตู้เย็น
    • Pantry ท็อปหินเทียม
    • ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร + เก้าอี้ 2 ตัว
    • ไมโครเวฟ

    3. ชุด Built in ห้องน้ำ

    • เครื่องทำน้ำร้อน
    • ชุดสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์
    • กระจกกั้นพื้นที่อาบน้ำ

    มาดูการจัดพื้นที่ของห้องตัวอย่างแบบ Studio ที่มีขนาด 26.50 ตารางเมตรกันนะคะ ขนาดห้องเท่านี้กับฟังก์ชันภายในที่ให้มาครบถ้วน ดูลงตัวและไม่อึดอัดมากไปนักค่ะ เมื่อเข้ามาในตัวห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อนเป็น Pantry อยู่ด้านขวาทรงตัว I ใช้งานสะดวกไม่เปลืองเนื้อที่ห้องมากนัก แต่ไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักมากนะคะ เนื่องจากเป็นครัวเปิดทำให้มีปัญหาเรื่องของกลิ่นอาหารที่ลอยคลุ้งทั่วห้อง อีกทั้งยังไม่สามารถนำกระจกหรือประตูมากั้นได้ด้วยเพราะจะติดกับเคาน์เตอร์โต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งโดยมากคนที่มาเที่ยวก็จะไม่เน้นเรื่องการทำอาหารกินเองอยู่แล้ว การวางผังแบบนี้จะทำให้พื้นที่ดูต่อเนื่องกันและดูกว้างมากขึ้นค่ะ

    ในส่วนของบริเวณโซฟากับการดูทีวีนั้นค่อนข้างจะใช้งานลำบาก เพราะตำแหน่งโซฟาอยู่ด้านข้างของทีวีไม่สามารถนั่งดูทีวีจากโซฟาได้ ใครจะดูทีวีก็คงต้องนอนเตียงแทนนะคะ ในส่วนของห้องนอนโครงการให้เตียง 5 ฟุตมาเหลือทางเดินด้านข้างพอสมควร สำหรับระเบียงนั้นถึงแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ก็สามารถใช้งานได้เต็มที่เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์จะวางอยู่ตรงกันสาดที่ยื่นออกมาแทน

    เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอในส่วนครัวก่อน ช้างซ้ายเป็นห้องน้ำ และด้านในเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ปูกระเบื้องเป็นแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตรทั้งห้อง ง่ายต่อการทำความสะอาดดีในส่วนของห้องครัว แต่ในส่วนห้องนอนก็อาจจะเย็นเท้าไปสักหน่อย แนะนำว่าให้ซื้อรองเท้า Slipper ใส่ภายในห้องด้วยนะคะ ^^

    บริเวณหน้าห้องมีการ Built-in ตู้ลอยสำหรับใส่ของด้านบน และด้านล่าง หน้าบานตู้ทั้งหมดของห้องเป็นระบบ Soft Close ค่ะ

    บริเวณบานเปิดจะปาดขอบลบมุมแบบนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการจับ

    ส่วนด้านซ้ายก็ใส่ตู้ Built-in สำหรับวางของเช่นกัน ด้านล่างก็สามารถทำเป็นที่วางรองเท้าได้ค่ะ

    Pantry ครัว ท็อปเป็นหินสังเคราะห์ ด้านล่างเว้นช่องไว้สำหรับวางไมโครเวฟ ผนังด้านหลังเป็นกระจก ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดดีค่ะ

    Hob & Hood 2 หัว จาก MEX

    อ่างล้างมือสแตนเลสหลุมเดี่ยวจาก MEX ไม่มีพื้นที่พักจานอาหารสแตนเลสด้านข้างอาจจะเลอะเทอะบนท็อปเคาน์เตอร์ไปสักหน่อย

    เข้ามาในส่วนของห้องน้ำ กระเบื้องภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกผิวหยาบกันลื่น

    ภายในห้องน้ำจัดได้เป็นสัดเป็นส่วน แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน มีกระจกเงาลายม้าน้ำ (ลายเดียวกันกับโลโก้โครงการ) ยาวไปจนสุดผนัง

    พื้นที่อ่างล้างมือเป็นเคาน์เตอร์ลอย ท็อปปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ความยาวประมาณ 1 เมตร มีพื้นที่สำหรับวางของด้านข้างได้ ด้านล่างเป็นตู้ลอยสำหรับเก็บของได้เล็กน้อย ความสูงจากพื้นถึงท็อปของเคาน์เตอร์สูงประมาณ 67 เซนติเมตร ค่อนข้างเตี้ยไปสักหน่อยค่ะ เวลาล้างมือต้องก้มตัวไปล้างทำให้ไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานนัก

    อ่างล้างมือเซรามิกทรงสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณนี้ค่ะ

    โถสุขภัณฑ์, สายฉีดชำระ และที่แขวนทิชชู่ จาก Cotto โดยพื้นที่ความกว้างประมาณ 79 เซนติเมตร อาจจะเบียดไปสักหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ๆ

    บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีฉากกระจกกั้นแยกโซนมาให้ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่ออกมาเลอะเทอะส่วนแห้ง ขนาดในห้องอาบน้ำก็ให้มาใหญ่กำลังดีค่ะอาบได้สบายๆ

    ราวจับที่กั้นกระจกเป็นสแตนเลสกลมแบบนี้ค่ะ

    ฝักบัวอาบน้ำให้มา 2 แบบคือแบบ Rain Shower และแบบสายอ่อน ผนังด้านหลังเว้นช่องไว้ 2 ด้านสำหรับวางครีมอาบน้ำและแชมพูได้นิดหน่อย

    ขนาดของฝักบัวสายอ่อนจับพอดีมือ แต่หัวอาจจะเล็กไปหน่อยนึงนะ

    ด้านหลังเป็นที่แขวนผ้าเช็ดตัว อยู่ในพื้นที่อาบน้ำแบบนี้ผ้าเช็ดตัวที่แขวนอาจจะเปียกเพราะน้ำที่กระเด็นมาจากการอาบน้ำก็ได้นะ

    ผนังฝั่งห้องน้ำด้านนอกจัดเป็นเคาน์เตอร์ลิ้นชักลอย พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ สำหรับเป็นพื้นที่ให้สาวๆแต่งตัวแต่งหน้า

    สวิชต์ไฟมีลักษณะแบบนี้ค่ะ

    ถัดมาบริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร โต๊ะเป็นทรงสี่เหลี่ยม สังเกตว่าโต๊ะมีแค่ 3 ขาเองนะ ทำให้ขาเราไม่ชนกับขาโต๊ะเวลาลุกออกจากเก้าอี้ ระหว่างเก้าอี้กับชั้นวางทีวีนั้นมีระยะเพียง 35 เซนติเมตร ทำให้ เลื่อนเก้าอี้เข้า – ออกลำบากหน่อย การที่โครงการให้มาแบบนี้ถือว่าดีนะเพราะถ้าไปซื้อเองคงหาโต๊ะสามขาไม่ได้แน่ๆ

    เข้ามาด้านในเป็นบริเวณพื้นที่ห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่น ด้านหลังเป็นส่วนของพื้นที่ระเบียง

    บริเวณพื้นที่นั่งเล่น ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์ Built in แบบนี้ทั้งหมด คือชั้นวางของลอยทั้งบนและล่าง ทีวี LED 32 นิ้ว โซฟานั่งเทียมสีดำพร้อมโต๊ะกลาง อย่างที่บอกไปว่าตำแหน่งของโซฟาไม่ได้อยู่ตรงกับทีวีทำให้ไม่สามารถนั่งดูทีวีจากโซฟาได้ และจากห้องตัวอย่างถ้าจะดูทีวีจากเตียงก็เลื่อนตำแหน่งติดตั้งให้ลงมาเตี้ยหน่อยนะคะ

    ทางเดินปลายเตียงค่อนข้างกว้างเดินสะดวกดีค่ะ

    ส่วนพื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายมีความกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร และด้านขวาจะแคบกว่าหน่อยด้วยความกว้างประมาณ 48 เซนติเมตร

    บริเวณห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบพอดีๆ ในบริเวณส่วนนี้จะได้เตียง 5 ฟุต + ฟูกเตียง พร้อมกับการตกแต่งหัวเตียงรูปม้าน้ำด้วยนะ ^^

    ตู้เสื้อผ้าสูงถึงฝ้าเพดาน มีความกว้างขนาด 1 เมตร เปิดได้ 2 ด้าน พื้นที่ภายในประกอบด้วยราวแขวนเสื้อ ชั้นวางด้านบน และลิ้นชักด้านล่าง โดยทางโครงการบอกมาว่าตู้เสื้อผ้าในห้องมาตรฐานจริงจะมีหลอดไฟ LED ให้ด้านในด้วยค่ะ อันนี้ก็ต้องรอไปดูห้องมาตรฐานจริงกันอีกทีนะ

    มือจับตู้เสื้อผ้าไม่มีนะ จะเป็นแผ่นอลูมิเนียมเก็บขอบด้านข้างบานตู้เสื้อผ้าที่ยื่นออกมาหน่อยให้พอจับได้อยู่ค่ะ

    ถัดมาใกล้ๆตู้เสื้อผ้าเป็นโต๊ะ และชั้นวาง Built in จาก Index พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว เป็นพื้นที่ทำงานเล็กๆ หรือใครจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เหมือนกันค่ะ

    ประตูบานเลื่อนกระจกเลื่อนได้ 2 ทาง ออกไปยังระเบียง

    มือจับและตัวล็อกอลูมิเนียมขนาดมาตรฐาน

    พื้นระเบียงลดระดับลงไปนิดหน่อย พื้นที่ระเบียงขนาด 0.8 x 1.9 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 30 x 3o เซนติเมตร ซึ่งราวระเบียงของจริงจะเป็นกระจกแต่รายละเอียดต้องรอดูของจริงอีกทีนะคะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 September 2015

    • Studio อาคาร A ชั้น 2 ห้อง 203 เนื้อที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท หรือ 60,000 บาท/ตร.ม.
    • Studio อาคาร A ชั้น 5 ห้อง 519 เนื้อที่ 23.50 ตร.ม. ราคา 1.739 ล้านบาท หรือ 74,000 บาท/ตร.ม.
    • Studio อาคาร B ชั้น 8 ห้อง 828 เนื้อที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2.06 ล้านบาท หรือ 78,000 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 2 ห้อง 208 เนื้อที่ 36.50 ตร.ม. ราคา 2.19 ล้านบาท หรือ 60,000 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 7 ห้อง 727 เนื้อที่ 36.50 ตร.ม. ราคา 2.73 ล้านบาท หรือ 75,000 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 2 ห้อง 217 เนื้อที่ 54.50 ตร.ม. ราคา 3.27 ล้านบาท หรือ 60,000 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 7 ห้อง 731 เนื้อที่ 54.50 ตร.ม. ราคา 4.08 ล้านบาท หรือ 75,000 บาท/ตร.ม.

    • Fully Furnished
    • เพดานสูง 2.5 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • จอง 10,000 บาท
    • ทำสัญญา 10% (ผ่อน 0% 10 เดือน)
    • ดาวน์ 20% ผ่อนดาวน์ 24 งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
    • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ Seven Seas Condo Resort Phuket เป็นคอนโดตากอากาศที่อยู่บนเกาะแต่ไม่ติดทะเลดังนั้นทำเลและรูปแบบโครงการจึงแตกต่างจากโครงการที่อยู่ติดทะเล ตัวโครงการอยู่บนซอยหงษ์หยกอุทิศ ย่านที่เรียกกันว่า “สามกอง” เป็นทำเลกลางเมืองภูเก็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ มีร้านรวงริมทางและ Street Food มากมาย รวมไปถึงเรื่องของสถานพยาบาลอย่างโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนแหล่งช็อปปิ้งนั้นก็มีค่อนข้างครบครันทั้ง Central Festival Phuket, Big C, Tesco Lotus และ Index Living Mall จึงทำให้ทำเลแถบนี้ค่อนข้างคึกคักและสะดวกทีเดียวค่ะ

    โครงการนี้ไม่ได้ติดกับชายทะเล สำหรับใครที่อยากเล่นทะเลก็สามารถไปได้หลายหาดด้วยกัน โดยหาดที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่าง หาดป่าตอง ที่อยู่ห่างประมาณ 11.9 กิโลเมตร ซึ่งมีกิจกรรมทางทะเลหลายอย่าง และแหล่งบันเทิงด้วย ส่วนอีกหาดที่จะก็จะเป็น หาดกะรนและหาดกะตะ ที่อยู่ห่างไปอีกหน่อยประมาณ 18 กิโลเมตร

    สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับถนนเยาวราชที่เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักๆอย่าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และถนนเทพกระษัตรีที่เป็นถนนยาวเชื่อมกับจังหวัดพังงา ส่วนการเดินทางแบบพึ่งพาระบบขนส่งสาธารณะนั้นก็อาจจะลำบากในการเดินทางไปสักหน่อย เพราะจริงๆแล้วการเดินทางหลักๆของจังหวัดภูเก็ตนั้นจะเน้นไปทางการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เนื่องจากระบบขนส่งแบบสาธาราณะที่ยังไม่ค่อยดีนักทั้งเรื่องราคาและจุดรับ – ส่ง หากจำเป็นต้องพึ่งพาจริงๆก็สามารถเดินไปรอรถโพท้องสาย 1 บนถนนเยาวราชซึ่งอาจจะต้องรอสักหน่อยนะคะ

    การออกแบบโครงการนี้จะเน้นให้มีส่วนกลางเยอะและใหญ่กว่าคอนโด Low Rise ทั่วๆไปเพราะไม่ได้อยู่ติดทะเล โดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่มีมาให้หลายสระและมีการจำลองบรรยากาศตามสถานที่ต่างๆเพื่อให้ลูกบ้านสามารถพักผ่อนในตัวโครงการได้ ตัวอาคารมีทั้งหมด 4 อาคารแต่ละอาคารคั่นด้วยสระว่ายน้ำถ้าใครชอบสระสไตล์ไหนก็เลือกห้องที่หันไปด้านนั้นได้เลยนะคะ

    การวางแปลนอาคารเป็นรูปตัว L อาคาร A วางตำแหน่งลิฟต์แยกกัน 2 ทาง ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ห้องพักแต่ละฝั่งไม่ต้องเดินไกลมากนัก แตกต่างกับอาคาร B ที่วางตำแหน่งลิฟต์ 2 ตัวอยู่ที่เดียวกันทำให้ด้านที่มีห้องพักกว่านั้นมีระยะทางเดินที่ไกลกว่า ส่วนของ Lobby ที่มี 2 จุดนั้นสามารถเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงอาคารจากที่จอดรถ ซึ่งก็ลดทอนเรื่องความปลอดภัยที่อาจจะดูแลได้ไม่ดีเท่าอาคาร B ที่มี Lobby เพียง 1 จุด อัตราส่วนลิฟต์รวมของทั้ง 2 อาคารจะอยู่ที่ 120 : 1 ค่ะ

    การขายของโครงการนี้เป็นการขายเเบบ Freehold หรือการขาดแบบซื้อขาด เนื่องจากโครงการนั้นตั้งอยู่บนทำเลที่ไม่ติดชายทะเล จะแตกต่างกันกับคอนโดตากอากาศบางโครงการที่ติดกับทะเลแต่ขายแบบ Leasehold นั่นเองค่ะ

    สำหรับห้องพักของโครงการมีอยู่ 3 Type คือ Studio ที่มี 2 ขนาด, 1 Bedroom, 2 Bedroom เริ่มต้นด้วยขนาด 23.50 ตร.ม. สำหรับห้องตัวอย่างอย่างห้อง Studio ขนาด 26.50 ตร.ม. นั้นทำมาค่อนข้างลงตัวและมีฟังก์ชันที่ครบ พื้นที่เป็นแบบครัวเปิด ซึ่งไม่สะดวกนักในการทำอาหารหนักๆ การจัดวางพื้นที่ห้องน้ำทำได้กว้างขวางใช้งานได้ดีไม่แคบจนเกินไป ส่วนพื้นที่นั่งเล่นนั้นทิศทางการวางโซฟาไม่สามารถดูทีวีแบบตรงๆได้จำเป็นต้องดูทีวีบนเตียง ขนาดเตียงใส่แบบ 5 ฟุตได้พอดี และสุดท้ายคือระเบียงที่ไม่กว้างมากนักแต่สามารถยืนชมวิวหรือวางเก้าอี้เล็กๆนั่งเล่นได้โดยไม่โดนความร้อนจากคอมเพรสเซอร์แอร์ เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์วางอยู่บนพื้นที่ยื่นออกไปนอกอาคารและเป่าลมร้อนออกด้านนอกค่ะ

    วัสดุที่ให้มาเป็นแบบ Fully Furnished พร้อมลากกระเป๋าเข้าพักได้เลยมีให้ Wallpaper และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำร้อน ซึ่งถือว่าให้มาค่อนข้างคุ้มและสามารถเก็บกระเป๋าเข้าไปอยู่ได้เลยจริงๆ พื้นห้องเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ทั้งหมด ทำความสะอาดง่าย ส่วนครัวท็อปได้เป็นหินเทียมมี Splash Back เป็นกระจกด้านหลัง หน้าบานทั้งหมดติดตั้งเป็นแบบ Soft Close ทั้งหมด สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก Cotto

    สำหรับ Facilities นั้นถือเป็นจุดเด่นของโครงการที่ให้มาครบและใช้งานได้เต็มที่ ชดเชยจากทำเลที่ไม่ติดทะเล ด้วยสระว่ายน้ำทั้ง 4 สระ ระบบเกลือ ห้องฟิตเนสและห้องซาวน่าแยกชาย – หญิง 4 จุด ด้านบนอาคารทั้ง 4 ตึกเป็น Roof top garden สามารถเดินเล่นชมวิวตากอากาศยามเช้าและเย็นได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงรักษาตัวสระทั้งหมด เพราะในอนาคตมีโอกาสที่จะสูงขึ้น

     

    Judgement

    สำหรับที่อยู่อาศัยแบบตากอากาศนี้ ความคุ้มค่าทางอารมณ์ และความพึงพอใจส่วนบุคคลมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นทางทีมงานเห็นว่าจะไม่มีการให้คะแนนในโครงการลักษณะนี้ค่ะ

    BOTTOM LINE

    Seven Seas Condo Resort Phuket เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเกาะภูเก็ตแต่ไม่เน้นว่าต้องอยู่ติดทะเล เพราะตัวภูเก็ตก็มีที่ให้เที่ยวหลายจุด หรือถ้าเบื่อๆไม่อยากออกไปข้างนอกก็ว่ายน้ำเล่นในโครงการก็ได้เพราะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 4 สระมาให้ ทำเลใจกลางเมืองมีความอุดมสมบูรณ์สูง ตัวห้องไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติมพร้อมเก็บกระเป๋าเข้าอยู่ มีงบประมาณ 1.5 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 33,000 บาท/เดือน

     

    ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )