รีวิวโครงการ

รีวิว RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คอนโดวิวแม่น้ำ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2504]

22 กุมภาพันธ์ 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิว RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คอนโดในตระกูล Rhythm ที่อาจจะไม่ได้อยู่ในใกล้รถไฟฟ้าเหมือนทำเลอื่นๆ แต่มี Highlight ที่เป็นคอนโดวิวแม่น้ำ ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ซึ่งสาเหตุที่เอาแบรนด์นี้มาลงน่าจะเป็นเพราะ AP ต้องการคอนโดระดับบน ในราคาที่คนทั่วไปยังเอื้อมถึงได้ ในราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านไปจนถึง 25 ล้านบาทค่ะ  เราสรุปความน่าสนใจออกเป็น 5 หัวข้อได้ ดังนี้

  • คอนโดวิวแม่น้ำ มือ 1 ย่านเจริญกรุง : ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีพื้นที่ติดริมน้ำ แต่ก็ยังสามารถ Take View ได้จริง ไม่ได้โดนบล็อควิวด้วยอาคารสูงทั้งหมด ซึ่งหากลองเช็คหลายๆ โครงการที่ราคาพอๆ กันในโซนนี้จะได้วิวไม่ดีเท่านี้นะคะ
  • คอนโดเยื้องโรงเรียนนานาชาติ  Shrewsbury : แค่ข้ามถนนเจริญกรุงไปก็ถึงโรงเรียนแล้วค่ะ เป็นประโยชน์กับเด็กๆ ที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
  • Facility เยอะ รองรับการใช้งานของเด็ก แต่ก็ Trade Off กับจำนวนยูนิต : โดยโครงการมีพื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่  มี Pavillion ในสวนให้เด็กๆ มานัดติว ทำงานกลุ่มกันได้ ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการขนาดเล็กแน่นอน แต่ก็ต้องแชร์กันใช้กับลูกบ้านจำนวน 421 ยูนิตนะคะ
  • Luxury Gated Community : ใช้แนวคิดในการดีไซน์แบบรั้วรอบขอบชิด ให้เกิดความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานของเด็กๆ
  • เทคนิคจัดห้องแบบ Interlocked Layout : เป็นเทคนิคตามแบบฉบับ AP โดยวางผังห้องให้มีส่วนที่ยืดออกไปและยุบเข้ามาขัดล็อคกันเป็นคู่ๆ เพื่อให้ตัวห้องดูกว้างมากขึ้น ทำให้ฟังก์ชันในแต่ละห้องไม่เหมือนกัน มีแบบห้องให้เลือกเยอะทีเดียว
  • ขนาดห้องหลากหลาย : มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่แบบ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 4 Bedroom ที่ใหญ่ถึง 225 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน และแม้ว่าห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus สำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก แต่ที่นี่ก็มีห้องไซส์ใหญ่ 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% ทีเดียวนะคะ

จะเป็นอย่างไรตามไปชมรายละเอียดทั้งหมดกันต่อเลยค่ะ

**Update ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ทางทีมงานมีรีวิวตึกเสร็จ พาชมบรรยากาศจริงของโครงการและอัพเดทราคาล่าสุดไว้แล้ว > คลิกชมรีวิวตึกเสร็จที่นี่เลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน ณ วันที่ 25 เมษายน 2565

 ชื่อโครงการ  RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนเจริญกรุง
 ที่ดิน  4-2-76.6 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 2 อาคาร
อาคารหลัก 44 ชั้น + 1 ชั้นใต้ดิน
อาคาร Pavillion 1 ชั้น + 2 ชั้นใต้ดิน
 จำนวนยูนิต  421 ยูนิต 1 ร้านค้า
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  15 ยูนิต
 ที่จอดรถ  421 คัน คิดเป็น 100%, ที่จอดรถร้านค้า 1 คัน, EV Charger 4 คัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2563
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ประมาณเดือนมกราคม ปี 2566
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 43 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 75-125 ตร.ม.
  • 3 Bedroom 3 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 135-160 ตร.ม.
  • 4 Bedroom 4 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 180-225 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
 ราคาเริ่มต้น 6.3 – 25 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://bit.ly/3vYNqGq
 Call Center 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.709797, 100.511776
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน บนทำเลย่านเจริญกรุง ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ย่านเมืองเก่าที่มีถนนสายแรกที่สร้างตามแบบตะวันตกเท่านั้น แต่ทำเลนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นโซนที่บริษัทห้างร้านของชาวต่างชาติฝั่งตะวันตกที่เริ่มเข้ามาทำการค้ากับประเทศไทย มีสถานที่ราชการหลายแห่ง มีจุดเชื่อมเรือจากฝั่งธนบุรีไปยังฝั่งพระนคร เต็มไปด้วยโรงแรมหรูริมแม่น้ำ และโรงเรียนชื่อดังจำนวนมาก

โดยตัวโครงการตั้งอยู่เยื้องๆ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ใกล้ทางด่วน และย่านธุรกิจอย่างสีลม-สาทร ซึ่งต้องปรบมือให้ความสามารถของ AP ในการรวมที่ดินได้ใหญ่ถึง 4 ไร่ครึ่ง ทำให้นอกจากส่วนของคอนโด 44 ชั้นแล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวอีกกว่า 1 ไร่ ซึ่งถือเป็นจุดขายของโครงการนี้เลยนะ

โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่บริเวณแยกตรอกจันทน์ ซึ่งเป็นจุดตัดของถนน 2 เส้น ทั้งถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ หรือถ้าใครนึกไม่ออกโครงการอยู่ใกล้ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ซึ่งเป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่คนในย่านนี้รู้จักกันดี แถมย่านนี้ยังเต็มไปด้วยโรงเรียนดังๆอีกหลายแห่งด้วยนะ ซึ่งปกติเด็กในวัยเรียน ผู้ปกครองค่อนข้างเป็นห่วง ไม่อยากให้เรียนไกลบ้าน เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางของเด็กๆ โครงการจึงออกแบบห้องขนาดใหญ่ถึง 40% เพื่อตอบสนองให้ครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่อยู่ได้ค่ะ

บริเวณรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม มีคนเก่าแก่ในพื้นที่อยู่เยอะพอสมควร จึงเป็นทำเลที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้าร้านอาหารเก่าแก่อยู่ไม่ไกลสามารถเดินออกมาหาของกินได้เลย ในส่วนของสถานศึกษานอกจาก Shrewsbury ที่ใกล้โครงการสุดๆ แล้ว ยังมีโรงเรียนเก่าที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวัดวาอารามมากมาย สามารถหาซื้อของกิน ช้อปปิ้งได้อย่างตลาดแสงจันทร์ , ตลาดแก่นจันทร์, Tops Maket , Vanilla Moon ที่เป็น Community Mall ในย่านนี้ และยังใกล้กับสถานที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง Asiatique The Riverfront อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีสถานพยาบาล สวนสาธารณะ,ลานกีฬา อยู่ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจากโครงการ ถือว่าค่อนข้างครบครันค่ะ

อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ หากทำงานในย่านสีลม-สาทร ก็สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก ไม่ต้องขับข้ามสะพานตากสิน ที่มีปริมาณรถหนาแน่นในช่วงเร่งด่วน ซึ่งย่านสีลม-สาทรนั้นก็เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายเช่น Chartered Square, TPIPL, JTC, Sathorn Square, Empire Tower, สาทรธานี คอมเพล็กซ์ และ Bangkok City Tower  เป็นตัวเลือกหนึ่งของคนที่ทำงานในย่านเหล่านี้เพราะปัจจุบันคอนโดในย่านสีลมและสาทรแท้ๆ เองก็มีราคาสูงมากจนหยิบจับได้ค่อนข้างยากค่ะ

เนื่องจากโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่ใกล้แยกตรอกจันทน์ จึงสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งถนนจันทน์และถนนเจริญกรุงเลยค่ะ การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกดีเพราะถนนจันทน์เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเจริญราษฎร์ เพื่อขึ้นเหนือไปถนนสาทร หรือลงใต้ไปยังถนนพระราม 3 ได้ หรือถ้าวิ่งตามถนนจันทน์ไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์  ทางตะวันตกเชื่อมกับถนนเจริญกรุง สามารถวิ่งต่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้ค่ะ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้ในระยะ 2 กิโลเมตรด้วยค่ะ

หากเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการใช้งานรถสาธารณะก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะออกไปเรียกรถ Taxi บนถนนจันทน์หรือถนนเจริญกรุงก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้านั้น ใกล้ที่สุดคือสถานีตากสินในระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร เกินระยะเดินสบาย 500 เมตรไปแล้วนะคะ จึงต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถไปอีกที แต่หากดูจากจำนวนที่จอดรถ 100% แล้ว เราคิดว่าโครงการเตรียมไว้รองรับการใช้งานของรถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้วนะ สำหรับรถสาธารณะคงเป็นทางเลือกเสริมในกรณีที่การจราจรเป็นอัมพาตมากกว่าค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

เรามองว่าโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ได้ตำแหน่งแปลงที่ดินที่หลบหลีกการบังวิวจากอาคารอื่นๆ ได้ดีพอสมควรเลยนะคะ เพราะคงต้องยอมรับว่าวิวเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่เลือกอยู่คอนโด High Rise ใกล้แม่น้ำ แต่ด้วยแปลงที่ดินที่ไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำโดยตรงก็ทำให้ยังมีอาคารที่บังวิวอยู่บ้าง เดชะบุญที่ตัวอาคารตรงกับแปลงที่ดินของโรงเรียน Shrewsbury พอดีจึงช่วยการันตีได้ระดับนึงเลยว่าจะไม่มีอาคารสูงขึ้นมาบังนะ ยกเว้นว่าจะเป็นโปรเจคของทางโรงเรียนเองค่ะ

ส่วนอาคารที่อยู่ในระยะประชิดก็เป็นที่อยู่อาศัย 2-4 ชั้น เป็นบ้านเรือนบ้าง อาคารพาณิชย์บ้าง ซึ่งห้องพักของโครงการก็เริ่มต้นที่ชั้น 9 แล้ว จึงยังไม่มีอะไรให้น่ากังวล เว้นเสียแต่ว่ามีการรวมแปลงของที่ดินรอบๆ เพื่อขึ้นตึกสูง ซึ่งพอเป็นแปลงที่อยู่อาศัยยิบย่อยแล้วจะรวมยากทีเดียวค่ะ

มาดูวิวในทิศต่างๆ กันนะคะ

  • ทิศใต้ – ทิศนี้ก็ค่อนข้างดีค่ะ หันออกไปทาง Asiatique ที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในระยะไกล ซึ่งฝั่งนี้จะยังไม่ค่อยมีตึกสูงเลย เนื่องจากเป็นย่านชุมชนแนวราบ
  • ทิศตะวันตก – ส่วนตัวถ้าเป็นคนชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ ทิศนี้น่าจะดีที่สุด แต่ห้องฝั่งนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด เริ่มต้นที่ 2 Bedrooms ขึ้นไปนะคะ
  • ทิศเหนือ – มองเห็นแม่น้ำเช่นกันแต่จะไม่ได้เต็มตาเหมือนทิศตะวันตก ฝั่งนี้เป็นย่านชุนชนแนวราบ ซึ่งบริเวณริมแม่น้ำจะมีตึกบังวิวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้บังทั้งหมด เพียงบางตำแหน่งนะคะ ซึ่งเราสามารถมองเห็นพลุที่มักจุดขึ้นจาก ICONSIAM ได้ด้วย
  • ทิศตะวันออก – ฝั่งนี้มองไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เราจะได้วิวเมืองที่ใกล้ๆเป็นชุมชนแนวราบ แล้วมีตึกสูงเป็นพื้นด้านหลังแทนค่ะ

ต่อไปมาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน กันค่ะ จากตัวโครงการจะห่างจากแยกตรอกจันทน์ประมาณ 40 เมตรเท่านั้นเองค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นมัสยิดดารุ้ลอาบีดีน ตรอกจันทร์ ในช่วงเทศกาลละหมาดคงจะมีเสียงสวดมนต์บ้าง แต่ดูจากสเปคของประตูระเบียงแล้วช่วยกันเสียงภายนอกได้ดีทีเดียวนะ ถ้าปิดประตูห้องทั้งหมดคิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ

ติดกับโครงการเลยเป็นร้านอาหารตั้งใจย่าง มีเมนูแนะนำเป็นข้าวหมูแดงที่ย่างโดยใช้ถ่าน

ส่วนถนนจันทน์เองก็เป็นถนนใหญ่ 4 เลน ไป 2 กลับ 2 รถยนต์ใช้งานกันคึกคัก แต่จะไม่มีเกาะกลาง เวลาข้ามถนนต้องระวังด้วยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Asiatique Riverfront ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Makro Food Service ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Robinson บางรัก ~ 1.2 กิโลเมตร
  • Vanilla Moon ~ 1.2 กิโลเมตร
  • เยาวราช ~ 3.5 กิโลเมตร
  • Central พระราม 3 ~ 3.6 กิโลเมตร
  • ICON SIAM ~  5.2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 2.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาล BNH ~ 3.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเมดพาร์ค ~ 5.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ~ 210 เมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ~ 1.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ~ 2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ ~ 2.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ~ 2.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ ~ 4.8 กิโลเมตร

โรงแรม

  • โรงแรม Capella ~ 270 เมตร
  • โรงแรม Chatrium Riverside ~ 290 เมตร
  • โรงแรม Four Seasons ~ 450 เมตร

ตัวช่วยในการเดินทาง

  • ทางพิเศษศรีรัช ด่านจันทน์ ~ 950 เมตร
  • BTS สถานีสุรศักดิ์ ~ 2.2 กิโลเมตร
  • BTS สถานีสะพานตากสิน ~ 2.5 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

**Update ภาพบรรยากาศตึกสร้างเสร็จของจริง ณ วันที่ 27 มกราคม 2023 ค่ะ

Image 1/32
RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน - บรรยากาศยามค่ำคืน

RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน - บรรยากาศยามค่ำคืน

ขอเกริ่นก่อนว่า…แบรนด์ Rhythm นั้นเป็นคอนโดระดับกลางค่อนไปทางบนของ AP ที่มักจะมีทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้าแบบที่เดินได้สบายๆ แต่วันนี้จะแตกต่างจากเดิมสักหน่อย เพราะทาง AP เลือก Rhythm มาลงในย่านเจริญกรุงที่ห่างจาก BTS ตากสินมาประมาณ 1.1 กิโลเมตร เราเดาว่าสาเหตุที่เลือกแบรนด์นี้เพราะต้องการให้คอนโดนี้ทำราคาออกมาในระดับที่คนทั่วไปยังเอื้อมถึงได้ อย่างห้องพักอาศัยก็เริ่มต้นที่ 35 ตร.ม. ขึ้นไปในราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท แต่ก็ยังมีห้องขนาดใหญ่ราวๆ 40% เพื่อตอบโจทย์คนที่กำลังซื้อสูงขึ้นมา สำหรับอยู่กันเป็นครอบครัวได้ในงบ 10 ล้านกว่าๆ ขึ้นไป โดยมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเราขอสรุปจุดเด่นตามคอนเซปต์ของโครงการ ดังนี้

  • คอนโดวิวแม่น้ำ ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีพื้นที่ติดริมน้ำ แต่ก็ยังสามารถ Take View ได้จริง ไม่ได้โดนบล็อควิวด้วยอาคารสูงทั้งหมด ซึ่งหากลองเช็คหลายๆ โครงการที่ราคาพอๆ กันในโซนนี้จะได้วิวไม่ดีเท่านี้นะคะ
  • โครงการมีพื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่ ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการขนาดเล็กแน่นอน แต่ก็ต้องแชร์กันใช้กับลูกบ้านจำนวน 421 ยูนิตนะคะ
  • Rhythm ให้ที่จอดรถ 100% ซึ่งหลายโครงการในย่านนี้ก็ให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ

ก่อนจะไปชมบรรยากาศของแต่ละชั้น เราจะอธิบายภาพรวมโครงการกันอีกสักนิดค่ะ …Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน เป็นคอนโด High Rise สูง 44 ชั้น จำนวน 421 ยูนิต บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ครึ่ง แต่ก็ไม่ได้สร้างเต็มพื้นที่นะคะ ยังคงจัดพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่  และเนื่องจากทำเลที่อยู่เยื้องๆ กับโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury เลย ทางโครงการจึงออกแบบโดยใช้แนวคิด Luxury Gated Community หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือรั้วรอบขอบชิด เพื่อให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสำหรับลูกหลานที่พักอาศัยที่นี่ค่ะ และยังมีอีกหลายฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเด็กและผู้ปกครอง เช่น มีอาคาร Pavillion ส่วนกลาง ใช้รองรับติวเตอร์ / การทำกลุ่มของเด็กๆ การจัดปาร์ตี้ของแกงค์เพื่อน ซึ่งแยกออกจากอาคารพักอาศัยหลักอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย

โครงการออกแบบโดยคำนึงถึงลูกหลานเข้ามาอยู่อาศัยด้วย ทำให้การเลือกใช้วัสดุก็พิถีพิถันขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างการติดตั้งเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร เพื่อช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 ทำให้ได้อากาศบริสุทธิ์ รวมถึงเลือกใช้พรรณไม้ที่ใช้ฟอกอากาศได้ และในพื้นที่ส่วนกลางก็เลือกใช้สีของ TOA Duraclean เกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะมีนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

  • Gated Courtyard
  • Tree Deck
  • Pathway
  • Amphitheater
  • Study Pavillion
  • Social Pavillion
  • Reading Pavillion
  • Free Climb
  • Lobby
  • Welcome Foyer
  • Shop

ชั้น 2

  • Driver Room

ชั้น 9

  • สวนส่วนกลาง

ชั้น 42-44

  • Sky Lounge
  • Sky Terrace
  • Semi-Outdoor Lounge
  • Meeting Room
  • Play Space (Kid Room for Children & Kid Room for Younger)
  • Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 5.7 x 47 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Kid’s Pool ขนาดประมาณ 4.8 x 8 เมตร ลึก 0.5 เมตร
  • Jacuzzi
  • River Scenic
  • Cloud Pavillion
  • Gym
  • Yoga
  • Steam
  • Sauna

อื่นๆ

  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 105 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถ 421 คันคิดเป็น 100%, ที่จอดรถร้านค้า 1 คัน, EV Charger 4 คัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Finger Scan
  • ระบบกรองอากาศ ERV ในพื้นที่ส่วนกลาง

ต่อไปเราจะพาชมรายละเอียดในแต่ละชั้นนะคะ

ชั้น 1 – โครงการมีประตู 2 ฝั่งคือ ทางถนนจันทน์ที่เป็นทางเข้าหลัก หากขับรถยนต์มาให้เข้าทางนี้ ส่วนประตูที่ 2 อยู่ทางถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออกเท่านั้น ซึ่งเป็น Value พิเศษสำหรับบุตรหลานที่เรียนอยู่ Shrewsbury เลยนะคะ เพราะแค่เดินข้ามถนนไปก็ถึงโรงเรียนแล้ว

เข้ามาด้านในจะเจอกับสวนขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก โดยโครงการจัดฟังก์ชันไว้หลากหลาย เด็กๆ น่าจะชอบ เช่น Free Climb ให้เด็กๆ ได้ยืดเส้นยืดสาย เสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อ, Tree Deck และ Gated Courtyard ให้คุณหนูๆ ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งที่อยู่ติดกับ Lobby เลย ผู้ปกครองจึงนั่งสังเกตการณ์อยู่ในห้องแอร์เย็นสบายได้

สำหรับ Highlight เราคิดว่าเป็นเจ้า Pavillion เป็นโซนที่ตอบโจทย์นักเรียนมากๆ มีทั้ง Study Pavillion, Social Pavillion และ Reading Pavillion ซึ่งสาเหตุที่ Facility เน้นวัยเรียน เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้โรงเรียน และมากกว่า 40% เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่อยู่กันเป็นครอบครัว ซึ่งผู้ปกครองคาดหวังการใช้งานในจุดนี้ เพื่อให้ดูแลเด็กได้ง่ายขึ้นค่ะ

Image 1/2
Gated Courtyard

Gated Courtyard

บรรยากาศบริเวณ Gated Courtyard ที่อยู่ระหว่างอาคารพักอาศัยและ Pavillion

Image 1/3
Reading Pavillion

Reading Pavillion

Pavillion ทั้ง 3 ส่วน คือ Reading Pavillion เป็นห้องใช้เสียงน้อย ให้มีสมาธิอ่านหนังสือ, Social Pavillion สำหรับผู้ปกครองใช้นั่งรอเด็กๆ เพื่อให้ลูกหลานอยู่ในสายตา และ Study Pavillion สำหรับนั่งติวหนังสือ หรือเรียกติวเตอร์ข้างนอกเข้าสอนก็สามารถใช้ห้องนี้ได้ค่ะ

บรรยากาศบริเวณ Free Climb สำหรับวิ่งเล่นออกกำลังกายในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อยค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในอาคาร โซนต้อนรับส่วนแรกจะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ ที่เปิดวิวให้เห็นสวน รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Face Scan เข้ากับยุคโควิดที่ลดการสัมผัสให้น้อยที่สุด สำหรับลิฟต์ของโครงการมีทั้งหมด 5 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและลิฟต์ Service 1 ตัว   จึงมีสัดส่วนลิฟต์เพียง 105 :  1 ถือว่าไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับคอนโดในยุคปัจจุบันค่ะ

ถัดขึ้นมาบริเวณที่ชั้น 9 พื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้มีลักษณะเป็น Sky Garden โดยมีประตูกั้นแยกโซนจากห้องพักชัดเจน ความเก๋คือมุมนั่งพักจะเป็น Sunken ลงไป เพื่อลดระดับลงไม่ให้รบกวนความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัยบนชั้นนี้ค่ะ

โซนพักอาศัยจะวางโถงลิฟต์ไว้ช่วงกลางตึกเพื่อง่ายต่อการใช้งาน ทางเดินในแต่ละชั้นจะเป็น Double Corridor คือจะใช้โถงทางเดินในการแจกจ่ายทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งห้องที่มีจำนวนมากที่สุดคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus รวม 11 ห้อง และห้อง 2-3 Bedroom อีก 4 ห้อง จัดวาง Layout เป็นรูปตัว L ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ไม่บังวิวซึ่งกันและกันแบบตรงๆ

ห้องพักส่วนใหญ่จะใช้ Concept Interlocked Layout เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง และเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้ลงตัวมากขึ้นตามแนวเส้นสีน้ำเงินที่เราร่างไว้ให้เห็นชัดๆ นะคะ

ชั้น 11 – 25 เป็นชั้นพักอาศัยเต็มชั้น ซึ่งมีจำนวน 15 ยูนิตต่อชั้น

สีเขียว – ตำแหน่งห้อง A1-01 เป็น 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ที่ได้ห้องนอนยื่นออกมาทำให้เกิดมุม Bay Window ที่มองวิวได้กว้างมากยิ่งขึ้น ส่วนห้อง A2-02 เป็นห้องที่ได้ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารนะคะ

ตำแหน่งห้อง B1-11 และ B2-10 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. ที่ฟังก์ชันภายในคล้ายกัน แตกต่างที่ห้องครัว ที่ชิดด้านใน และผลักออกมาด้านนอก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวชอบห้องครัวที่ติดด้านนอก เพราะระบายอากาศได้ดีกว่า

สีเหลือง – ตำแหน่งห้อง 1 Bedroom ที่บังคับหันไปทาง City View มองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในระยะไกลหน่อย เราว่าตำแหน่งนี้ชั้น 12 กำลังดีเลยเพราะสามารถเห็นยอดไม้เขียวๆ จากสวนชั้น 9 ได้นะ

สีชมพู – ตำแหน่งห้องมุมทั้งหมดเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2 Bedrooms ขึ้นไป ซึ่งโครงการนี้มีห้องใหญ่ตั้งแต่ชั้นแรกเลย ทำให้มีปริมาณห้องใหญ่เยอะ ที่พิเศษสุดก็คือตำแหน่ง H1-12 กับ H2-13 ที่รับวิวแม่น้ำตรงๆ เป็น Rare Item ที่น่าสนใจค่ะ

แปลนชั้นที่ 32-38 คล้ายชั้น 31 เลยแต่บริเวณห้องพักอาศัยฝั่งทางทิศใต้ของอาคาร จะมีห้องพิเศษมีขนาด 40 ตารางเมตรเพิ่มขึ้นมา ซึ่งมีเพียงไม่กี่ห้องในโครงการค่ะ

แปลนชั้นที่ 26-35 คล้ายชั้น 11-25 เลยแต่มีจำนวนยูนิตน้อยลงเหลือ 12 ยูนิต เพราะมีห้องไซส์ใหญ่เพิ่มขึ้น โดยห้องพักอาศัยฝั่งทิศใต้จะลดจำนวนห้องแบบ 1 Bedroom ลง และเพิ่มห้อง 2 Bedroom ขึ้นมาอีก 2 ห้อง และห้องพักอาศัยทางทิศตะวันออกจะกลายเป็นแบบ 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ

ขยับขึ้นมาที่ชั้น 42-44 เป็น Main Facilities ของโครงการที่ถูกยกขึ้นไปไว้ที่ 3 ชั้นบนสุด จัด Layout แบบเปิดให้เห็นวิวรอบทิศทาง ข้อดีเลยคือถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นวิวแม่น้ำเต็มๆ จากในห้อง แต่ก็ขึ้นมาชมวิวบนพื้นที่ส่วนกลางด้านบนได้ ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดระดับเดียวกันในละแวกแล้วเราถือว่าได้ Facilities ค่อนข้างเยอะเลยนะคะ แต่โครงการเราก็จัดว่ามียูนิตเยอะเมื่อเทียบกับคอนโดข้างเคียงในละแวกนี้นะคะ

เริ่มที่ชั้นที่ 42 จัดฟังก์ชันไว้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสบายๆ ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบไว้ให้แต่ละมุมมีความแตกต่างกัน เช่นเป็น Indoor บ้าง Outdoor บ้าง และ Semi-Outdoor บ้าง มี Meeting ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้ทำงาน ส่วนที่เป็น Highlight บนชั้นนี้เรายกให้กับ Play Space ซึ่งโครงการออกแบบมาให้มีทั้งโซน Kid Room for Children และ Kid Room for Younger เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของเด็กทั้ง 2 ช่วงวัยค่ะ

Image 1/2
Sky Lounge

Sky Lounge

ภาพจำลอง Sky Lounge ที่เปิดรับวิวแม่น้ำ

Image 1/2
Kid Room for Children

Kid Room for Children

ภาพจำลองภายใน Play Space ที่จัดโซนให้สำหรับเด็กเล็กและเด็กโตค่ะ

สำหรับสระว่ายน้ำจะขึ้นมาอยู่ที่ชั้น 43 นะคะ เป็นสระยาว 47 ใช้ออกกำลังกายได้จริง แต่จะไม่ได้กว้างมากนักเพียง 5.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำแบบตรงๆ ทางทิศตะวันตกและเห็นแม่น้ำแบบไกลๆ ทางทิศใต้ สำหรับ Highlight ของสระว่ายน้ำเรายกให้กับการออกแบบที่มีหลังคาคลุมสระเป็นบางส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดวัน

นอกจากนั้นจะมี Jacuzzi และ Kids Pool แยกไว้เป็นสัดส่วน สำหรับพื้นที่ทางทิศเหนือจัดเป็นพื้นที่รับลม ชมวิว มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Cloud Pavillion และ River Scenic ค่ะ

ภาพบรรยากาศในส่วนของ Kids Pool ที่แยกออกจากสระผู้ใหญ่ไว้เป็นสัดส่วน มีขอบกันตกชัดเจนเพื่อความปลอดภัยของลูกหลานค่ะ

ชั้น 44 เป็น fitness ขนาดใหญ่ที่เปิดรับวิวแม่น้ำแบบเต็มที่ และโครงการยังแบ่งห้องออกเป็นฟังก์ชันย่อยๆ อย่าง Private Gym และ Yoga รวมถึงมี Steamและ Sauna ให้ใช้งานกันด้วยนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศในห้องฟิตเนส ที่เป็นผนังกระจกทั้ง 3 ด้าน ให้บรรยากาศที่ดูโปร่ง ชมวิวแม่น้ำได้เต็มที่ และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือโครงการใส่เครื่องออกกำลังกาย Technogym kinesis ราคาประมาณครึ่งล้านไว้ให้ด้วย ซึ่งใช้ออกกำลังกายได้ถึง 200 ท่า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ

แบบห้อง

แบบห้องของโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่แบบ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 4 Bedroom ที่ใหญ่ถึง 225 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน และแม้ว่าห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus สำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก แต่ที่นี่ก็มีห้องไซส์ใหญ่ 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% ทีเดียวนะคะ แน่นอนว่าหมดไวหน่อย เพราะโซนนี้เค้ามองหาห้องใหญ่กันเยอะอยู่ค่ะ อย่างไรก็ตามยังมีห้องที่น่าสนใจให้เลือกจับจองกันได้อยู่ ดังนี้

Image 1/4
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม.

ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม.

โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน มีการใช้เทคนิคจัดห้องแบบ Interlocked Layout ตามแบบฉบับ AP โดยวางผังห้องให้มีส่วนที่ยืดออกไปและยุบเข้ามาขัดล็อคกันเป็นคู่ๆ เพื่อให้ตัวห้องดูกว้างมากขึ้น ทำให้ฟังก์ชันในแต่ละห้องไม่เหมือนกัน จึงมีแบบห้องในโครงการค่อนข้างเยอะทีเดียว ซึ่งเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเช่นกัน

รูปแบบการขายสำหรับโครงการนี้จะเป็นแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน สำหรับวัสดุหลักๆ ในห้องจะให้มาตามนี้ค่ะ

  • พื้น Hybrid Engineering
  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของ
  • Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์
  • Hob&hood, ไมโครเวฟ และ Sink จาก Franke
  • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ TOTO, Grohe, Kasch
  • แอร์ฝังฝ้าใน Living Room (เฉพาะห้อง 2 Bedroom ขึ้นไป)

 

นอกจากนี้ยังให้ประตู Digital Doorlock และระบบ Home Automation ผ่าน Apps SMART WORLD เช่น สามารถเซตได้ว่าเมื่อเปิด Door Lock เข้ามาไฟบริเวณประตูหน้าห้องจะติด แอร์จะทำงานโดยอัตโนมัติ เป็นต้น


ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 96 ตร.ม. โดยมีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้างเห็นวิวแม่น้ำไกลๆ อีกทั้งยังได้ระเบียงกว้างรับลมทางทิศใต้ได้พอดี พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งโซนครัว, ห้องนั่งเล่น+ทานอาหาร, โซนแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวเป็นสัดส่วน, ห้องนอน 2 ห้อง โดยห้องนอนหลักจะมีห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก พร้อมแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็กก็อยู่ในห้องนี้ด้วยกันได้ค่ะ

ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกว่าโครงการทั่วไป เนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป (สร้างและประกอบที่โรงงาน ค่อยมาติดตั้งหน้างาน) ข้อดีของห้องน้ำประเภทนี้คือ คุณภาพค่อนข้างดีเพราะประกอบจากโรงงาน มีการ QC ไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่ต้องแล้วแต่โชคว่าช่างที่ทำให้ห้องเรานั้นทำเก่งรึเปล่า การซ่อมแซมง่าย ไม่รั่วซึม ทำความสะอาดง่าย

แต่ข้อเสียก็มีนะคะ คือเรื่องราคาที่สูงกว่าห้องน้ำธรรมดา และขนาดที่ไม่มีให้เลือกได้มากนัก พื้นห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้อง ออกแบบมากะทัดรัด เพื่อประหยัดเนื้อที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ ซึ่งยากที่จะต่อเติมหรือขยับขยายแน่นอน สำหรับใครที่สนใจในการศึกษาห้องน้ำสำเร็จรูปเพิ่มเติมสามารถ (คลิกที่นี่) ได้เลยค่ะ

ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale มาให้ ผ่านเข้าออกด้วยลายนิ้วมือ, รหัส PIN, บัตร, RFID, Apps ก็ได้ค่ะ

เข้ามาบริเวณหน้าห้องจะเป็นทางเดินยาวก่อนจะแยกไปยังส่วนต่างๆ ของห้อง ทำให้มีพื้นที่สำหรับตกแต่งผนังหรือทำชั้นวางรองเท้า เพื่อแยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่อยู่อาศัยในห้อง

เข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area โล่งๆ รวม Living + Dining + Kitchen ไว้ด้วยกัน เปิดห้องเข้ามาจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นห้องนอนและห้องน้ำ อีกประเด็นหนึ่งที่ช่วยให้ห้องดูโปร่งก็คือ ฝ้าเพดานที่สูงถึง 3 เมตร ซึ่งสูงเป็นพิเศษกว่าโครงการทั่วไปนะคะ แต่ทว่าห้องตัวอย่างฝ้าจะสูงเพียง 2.7 เมตรเท่านั้น ทำให้ห้องที่ลูกค้าได้จริงจะยิ่งดูโปร่งกว่านี้อีกค่ะ

Image 1/7
Pantry ครัว

Pantry ครัว

โซนแรกที่อยู่ติดกับประตูหน้าห้องเลยก็คือ Pantry ครัวขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการให้มาเป็นครัวขนาน มี Island ตรงกลางมาให้ด้วย แต่เนื่องจากเป็นครัวเปิดจึงเหมาะที่จะใช้ทำอาหารฝรั่งที่กลิ่นไม่ฉุนนัก ใช้อุ่นอาหาร ต้มซุปก็พอตอบโจทย์ได้ แต่หากใครที่ชอบทำอาหารไทยกลิ่นฉุนก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะที่ห้องแปลนนี้มีครัวไทยแยกไว้ให้ต่างหากด้วยค่ะ

สำหรับซิงค์ล้างจานให้ของ Franke มีขนาดพอจะใส่จานใส่แก้วได้ และมีความลึกพอสมควร ใต้เคาน์เตอร์มีถังขยะซ่อนไว้ รวมถึงช่องใส่ของก็ให้มาเยอะทีเดียวค่ะ ตัวบานพับเปิดปิดเป็นแบบ Soft Close ใช้งานง่ายดีนะคะ

ความพิเศษของเคาน์เตอร์นี้ก็คือ มีโต๊ะซ่อนอยู่ด้วย หากต้องการใช้งานก็สามารถเลื่อนออกมาได้ ขนาดนั่งทานข้าวพร้อมกันได้ 2 คนสบายๆ ค่ะ

Image 1/6
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

ถัดมาที่เคาน์เตอร์ครัวจะได้มาพร้อม Backsplash ด้านหลัง เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ให้มาพร้อมกับ Hob&Hood และไมโครเวฟของ Franke นะคะ โดยเจ้าเครื่องดูดควันจะต่อท่อออกไปด้านนอก ซึ่งช่วยระบายกลิ่นและควันได้ดีกว่าระบบหมุนเวียนนะ

เคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านล่างและด้านบนมีตู้เก็บของเป็นตู้บานเปิดปิดและลิ้นชัก ไว้ใช้เก็บช้อนส้อม เก็บจาน ซึ่งบานพับจะเป็นแบบ Soft Close เช่นกัน / ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเว้นพื้นที่ไว้ให้วางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ อย่างในห้องตัวอย่างก็เลือกใช้เป็นตู้เย็น 2 บานเปิด ขนาด 23.7 คิวเลยค่ะ

Image 1/4
ห้องครัวไทย

ห้องครัวไทย

ด้านในสุดของ Pantry ครัวจะเป็นตำแหน่งของห้องครัวไทย จึงมีประตูปิดมาให้เรียบร้อย ภายในมีขนาด 1.8×1.57 เมตร ซึ่งเดินงานระบบรอไว้ทั้งระบบน้ำและระบบไฟ แต่หากไม่ได้ต้องการห้องครัวปิด ก็สามารถปรับเป็นห้องเก็บของ หรือ Laundry Room ก็ได้นะคะ

Image 1/6
Zone Service

Zone Service

ฝั่งตรงข้าม Pantry ครัวยังคงเป็น Zone Service ซึ่งจัดออกมาเป็นห้องมีประตูปิดมิชิดภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ 1. พื้นที่ซักรีด 2. พื้นที่พักผ่อนของแม่บ้าน/พี่เลี้ยงเด็กที่สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ และด้านในสุดจะมีห้องน้ำขนาดกระทัดรัดของคุณแม่บ้าน แม้ว่าพื้นที่ไม่ใหญ่นักแต่ก็สามารถใช้ทำธุระหนักเบา อาบน้ำได้ครบค่ะ

ถัดมาที่ Living+Dining Area จะเชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ใหญ่ ส่วนตัวเราชอบการจัดแปลนแบบนี้มาเลย เพราะทั้งมุมนั่งเล่นและโต๊ะทานอาหารจะสามารถมองเห็นทีวีได้หมด เราเห็นถึงบรรยากาศที่คุณพ่อคุณแม่นั่งดูทีวียามเช้า คุณลูกก็สามารถนั่งทานอาหารเตรียมไปโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ พูดคุยกันได้ กลายเป็นมุมที่สมาชิกในครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน

Image 1/2
มุมนั่งเล่นดูทีวี

มุมนั่งเล่นดูทีวี

มุมดูทีวีของห้องนี้สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่งได้เลยนะคะ มีระยะดูทีวีประมาณ 2.9 เมตร จึงเลือกใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้นะคะ

ถัดมาที่มุมทานอาหาร โครงการจัดโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หากคุณปู่คุณย่ามาเยี่ยมหลานๆ ก็กินข้าวแบบพร้อมหน้าตาได้แบบสบายๆ

Image 1/7
ระเบียง

ระเบียง

Living+Dining Area นี้ได้พื้นที่ยาวติดระเบียงตลอดแนวยาวถึง 5.2 เมตร ทำให้พื้นที่พักผ่อนหลักๆ ของห้องได้วิวและลมแบบเต็มที่ …สำหรับประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนที่เปิดได้กว้างทั้ง 2 ฝั่งเดินผ่านเข้า-ออกสะดวกดี แม้ว่าตัวระเบียงจะกว้างเพียง 1 เมตร แต่ก็พอให้วางชุดโต๊ะเก้าอี้ ให้มานั่งรับลม ชมวิวแม่น้ำได้

ในส่วนของ Condensing Unit นั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะโครงการจัดตำแหน่งสำหรับแขวน Condensing Unit ไว้เป็นสัดส่วน และมีประตูปิดไว้เรียบร้อย โดยวางด้านที่เป่าลมร้อนออกด้านนอกห้อง เราจึงสามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่

แอร์ใน Living Area จะให้แบบฝังฝ้ามาเลยจึงดูสวยงามไม่กินพื้นที่ในห้อง แต่ก็มีเสียงการทำงานที่ดังกว่าแอร์แบบแขวน จึงเหมาะกับห้องที่ฝ้าเพดานสูงพิเศษเพื่อลดเสียงการทำงาน จึงเหมาะกับโครงการนี้ที่ให้ฝ้าเพดานสูงพิเศษถึง 3 เมตร ทว่าค่าบำรุงรักษาจะราคาสูงกว่าแอร์แขวนปกติค่ะ

ถัดเข้ามาที่โซนด้านในสุดจะมีทางเดินกว้าง 1.2 เมตร เพื่อแจกไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้องและห้องน้ำส่วนกลาง

Image 1/5
ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลาง

ในส่วนของห้องน้ำค่อนข้างพิเศษจากโครงการอื่นคือ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป มีข้อดีข้อเสียตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้าแล้ว และเนื่องจากพื้นห้องน้ำสำเร็จรูปต้องวางซ้อนทับลงบนพื้นห้องอีกที ทำให้พื้นห้องน้ำจะสูงกว่าพื้นห้องขึ้นไปอีกประมาณ 15 cm. นะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกแห้งไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ให้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ครบตามอย่างห้องตัวอย่างโดยใช้ของ TOTO ได้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำดูโปร่งขึ้น

เราชอบห้องน้ำสำเร็จรูปนะ เพราะจะมี Low Wall ด้านหลังอ่างล้างมือเพิ่มขึ้นมา ทำให้เรามีพื้นที่วางของได้เพิ่มอีกเยอะเลย ซึ่งจริงๆ พื้นที่ส่วนนี้คืองานระบบท่อในห้องน้ำนี่แหละค่ะ

Image 1/5
พื้นที่อาบน้ำในห้องน้ำส่วนกลาง

พื้นที่อาบน้ำในห้องน้ำส่วนกลาง

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นไว้เป็นสัดส่วน ช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่อาบน้ำกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง โดยมีขนาดประมาณ 1×1 เมตร ภายในติดตั้งฝักบัวและ Rain Shower ของ Grohe พร้อมเดินระบบก๊อกหัวผสม ซึ่งลูกบ้านแค่ติดเครื่องทำน้ำร้อนเพิ่มเติมก็ใช้งานได้แล้ว ข้อดีอีกเรื่องของห้องน้ำนี้คือ มีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เสร็จ พร้อมใช้งานเลยค่ะ

Image 1/5
ห้องนอนรอง

ห้องนอนรอง

ภายในห้องนอนรองมีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยนะคะ จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตชิดหน้าต่างเลยก็ได้ หรือหากวางเตียงเดี่ยวก็จะเหลือพื้นที่ข้างหัวเตียงให้วางโต๊ะเขียนหนังสือได้แบบห้องตัวอย่าง และยังเหลือพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งให้วางโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าได้เพียงพอ

หน้าต่างของห้องนอนเป็นบานใหญ่ และมีบานกระทุ้ง 1 บาน เอาไว้เปิดระบายอากาศได้ โดยจะใช้กระจกสีเขียวตัดแสงช่วยป้องกันความร้อนเข้ามาในห้อง ซึ่งเราสามารถนอนมองวิวได้จากเตียงนอนเลย

Image 1/3
โซนแต่งตัวในห้องนอนใหญ่

โซนแต่งตัวในห้องนอนใหญ่

ปิดท้ายด้วยห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างพอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ ทั้งเตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมห้องน้ำในตัว …เข้ามาโซนแรกจะเจอกับพื้นที่แต่งตัวซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำจึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก

Image 1/4
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเช่นเดียวกัน ภายในจัดฟังก์ชันแยกโซนเปียกแห้ง และให้สุขภัณฑ์พร้อมวัสดุอุปกรณ์ไว้เป็นของ TOTO, Grohe เหมือนกัน ห้องนี้มีฟังก์ชันพิเศษคือ อ่างอาบน้ำขนาด 1.3×0.5 เมตร ของ Kasch เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากยุโรป

Image 1/2
ห้องนอนใหญ่

ห้องนอนใหญ่

โซนพักผ่อนในห้องนอนใหญ่สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้เลยนะคะ จุดที่เป็น Highlight สำหรับห้องนี้เรามองว่าเป็น เจ้าหน้าต่างบานใหญ่ที่เกือบจรดพื้นถึงฝ้า ทำให้รับวิวได้กว้างขึ้น และเป็นหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนรองด้วยนะคะ

หากใครต้องการดูห้องตัวอย่างแบบอื่นๆ ทางทีมงานเคยเก็บภาพไว้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้ใน Walk-in รีวิว นี้ค่ะ > คอนโด Rhythm เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน คอนโด High Rise บริเวณแยกตรอกจันทน์ ใกล้ทางด่วนและรร.นานาชาติ Shrewsbury จาก AP

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน ราคา ณ วันที่ 25 เมษายน 2565

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.3 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
  • 3 Bedroom 3 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 145.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท
  • 4 Bedroom 4 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 152.5 ตร.ม.  ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 เมตร
  • จอง 50,000-100,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% บาท
  • ดาวน์ 5%
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

จุดเด่นของทำเลโครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน มีอยู่ 2 ข้อหลักๆ เรื่องแรกคือ ” ความใกล้” ทั้งในเรื่องของโรงเรียนอย่าง Shrewsbury ที่แค่ข้ามถนนก็ถึงแล้ว และยังมีโรงเรียนดังอย่าง กรุงเทพคริสเตียน, อัสสัมชัญ บางรัก ที่อยู่ในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตรอีกด้วย หรือจะเป็นแหล่งงานก็ใกล้กับย่านสีลม-สาทร ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายเช่น Chartered Square, TPIPL, JTC, Sathorn Square, Empire Tower, สาทรธานี คอมเพล็กซ์ และ Bangkok City Tower  เป็นตัวเลือกหนึ่งของคนที่ทำงานในย่านเหล่านี้เพราะปัจจุบันคอนโดในย่านสีลมและสาทรแท้ๆ เองก็มีราคาสูงมากจนหยิบจับได้ค่อนข้างยากค่ะ

เรื่องที่ 2 คือ เป็นทำเลที่ได้วิวแม่น้ำในย่านเจริญกรุง ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีพื้นที่ติดริมน้ำ แต่ก็ยังสามารถ Take View ได้จริง ไม่ได้โดนบล็อควิวด้วยอาคารสูงทั้งหมด ซึ่งหากลองเช็คหลายๆ โครงการที่ราคาพอๆ กันในโซนนี้จะได้วิวไม่ดีเท่านี้นะคะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ถือว่าสะดวกดีเพราะถนนจันทน์เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเจริญราษฎร์เพื่อขึ้นเหนือไปถนนสาทร หรือลงใต้ไปยังถนนพระราม 3 ได้ หรือถ้าวิ่งตามถนนจันทน์ไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์  ทางตะวันตกเชื่อมกับถนนเจริญกรุง สามารถวิ่งต่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้ค่ะ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้ในระยะ 2 กิโลเมตรเท่านั้น อีกประเด็นคือทางโครงการให้ที่จอดรถ 100% ซึ่งหลายโครงการในย่านนี้ก็ให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะออกไปเรียกรถ Taxi บนถนนจันทน์หรือถนนเจริญกรุงก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้านั้น ใกล้ที่สุดคือสถานีตากสินในระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร เกินระยะเดินสบาย 500 เมตรไปแล้วนะคะ จึงต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถไปอีกที เรามองว่าโครงการให้ความสำคัญกับการใช้รถส่วนตัว ส่วนรถสาธารณะคงเป็นทางเลือกเสริมในกรณีที่การจราจรหนาแน่นจริงๆ มากกว่าค่ะ

วัสดุ :

ส่วนกลาง – มีความพิถีพิถันขึ้น เช่น การติดเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลางเพื่อช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 ทำให้ได้อากาศบริสุทธิ์ รวมถึงเลือกใช้สีของ TOA Duraclean เกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะมีนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียค่ะ

ห้องพัก – Fully Fitted ให้ชุดครัวและวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ ถือว่ามีการอัพเกรดสเปคให้ดูดีกว่า Rhythm ตัวอื่นๆ เช่นแบรนด์สุขภัณฑ์และวัสดุในห้องน้ำจะใช้ของ TOTO, Grohe และ Kasch ส่วนที่ชอบคือติดให้ Home Automation ทำให้สามารถควบคุมดวงไฟ, แอร์, Digital Door Lock ผ่านมือถือได้ และอีกเรื่องหนึ่งที่คอนโดแบรนด์อื่นไม่ค่อยได้ทำกันคือห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำรั่ว ห้องน้ำไม่ได้มาตรฐานไปได้ค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการ – เป็นคอนโดตรงข้ามโรงเรียนจึงมีการออกแบบเผื่อเด็กๆ ด้วย โดยใช้แนวคิด Luxury Gated Community หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือรั้วรอบขอบชิด เพื่อให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสำหรับลูกหลานที่พักอาศัยที่นี่ ตัวอาคารจัดวาง Layout เป็นรูปตัว L ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ไม่บังวิวซึ่งกันและกัน

การออกแบบตัวห้อง – มีแบบห้องให้เลือกเยอะมากรวมๆ แล้ว 20 แบบ โดยห้องส่วนใหญ่ในโครงการใช้แนวคิด Interlocked Layout Plan ทำให้การจัดวางผังห้องที่ลงตัวกว่าห้องทั่วไปที่เป็นสี่เหลี่ยมตามปกติ และกำหนดสัดส่วนห้องพักส่วนใหญ่ให้เป็นแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus แต่ที่นี่ก็มีห้องไซส์ใหญ่ 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% ซึ่งถือว่าเยอะทีเดียวค่ะ

สาธารณูปโภค :

Facilities ส่วนกลางทำออกมาได้ดี มีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลายตอบโจทย์ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง โดยพื้นที่ใช้งานหลักๆ คือที่ชั้น 1 ให้พื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่ ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการขนาดเล็กแน่นอน และที่ชั้น 1 มี Highlight เป็น Pavillion ทั้ง 3 ส่วน ตอบโจทย์เด็กๆ วัยเรียน รองรับการกิจกรรมกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ ค่ะ

อีกส่วนหนึ่งคือ Sky Facility 3 ชั้น คือ 42-44 ที่จัดมาครบทั้งฟังก์ชันแบบนั่งชิลๆ ชมวิว, Play Room สำหรับเด็ก และการออกกำลังกายทั้งว่ายน้ำและฟิตเนส ส่วนที่คิดว่าเป็น Benefit ของส่วนกลางโครงการนี้คือ “วิวแม่น้ำ” เพราะเค้าออกแบบให้ส่วนกลางเปิดรับวิวในทุกๆ จุดเลย แลกกับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม. ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 160,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 25 เมษายน 2565

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่, ตรงข้าม Shrewsbury มีความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ที่จอดรถ 100%
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – เรียก Taxi หน้าโครงการได้, ห่างจาก BTS ตากสิน 1.1 กิโลเมตร
  • วัสดุ 8.25/10 – Fully Fitted วัสดุให้มาดี
  • แบบ 8/10 – คอนเซปต์ดี, พิถีพิถัน, มีแบบห้องให้เลือกเยอะ
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้ส่วนกลางมาเยอะ ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ปกครอง

  • HIGH CLASS
  • 8.09 / 10.00

RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน เหมาะกับใคร

ส่วนตัวเรามองว่าโครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน เหมาะกับคน 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือ ครอบครัวที่มีลูกๆ เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ  Shrewsbury หรือโรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ ต้องการอยู่อาศัยมากกว่า 3 คนขึ้นไป  จึงตอบโจทย์ผู้ปกครองที่วางแผนอนาคตระยะยาว ช่วยประหยัดเวลาเดินทาง+คุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กๆในระยะยาว

อีกกลุ่มหนึ่งคือ คนที่ต้องการคอนโดมือ 1 วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ในทำเลที่เดินทางไปทำงานย่านสีลม-สาทรได้ง่าย ชอบโครงการที่ให้พื้นที่ส่วนกลางเยอะและหลากหลาย ในงบประมาณ 5.9 – 25 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้นประมาณ 40,000 บาทค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc