รีวิวโครงการ

Metris พระราม 9 – รามคำแหง คอนโด High Rise 33 ชั้น ใกล้แยกรามคำแหง จาก Major Development [Walk-in Review]

11 พฤศจิกายน 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1408…สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการคอนโดใหม่ล่าสุดจาก Major Development กับโครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง คอนโด High Rise สูง 33 ชั้น ใกล้แยกรามคำแหงตัดถนนพระราม 9 เข้า-ออกได้ทั้งจากพระราม 9 และรามคำแหง ใกล้กับ Foodland ในระยะเดิน อนาคตรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน และเป็นคอนโดที่ให้เลี้ยงน้องหมาได้ค่ะ  มีแนวคิดในการออกแบบ Mid-Century Modern ร่วมสมัยแต่ลงตัว เน้นส่วนกลางหลากหลายใช้งานง่าย มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ในราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลยค่ะ


[ENQUIRY-TITLE]Fast Deal โปรโมชั่นพิเศษเดือนนี้ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง เริ่ม 4.89 ลบ. [/ENQUIRY-TITLE]
[ENQUIRY-SNIPPET]ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้-8 ก.พ. 67 เพื่อรับโปรโมชั่นและการติดต่อจากทางโครงการ[/ENQUIRY-SNIPPET]
[ENQUIRY-CTA]คลิกลงทะเบียน[/ENQUIRY-CTA]

Fact @ 15 August 2017

  • METRIS Rama 9 – Ramkamhang (เมทริส พระราม 9 – รามคำแหง)
  • บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ
  • คอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร 570 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 19 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 255 คันคิดเป็น 45 %
  • ที่ดินประมาณ 2-0-25 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2563
  • 1 Bedroom 30 – 30.5 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 48 – 50.5  ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 90,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-116-1111

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.747984, 100.606713

แผนที่จากทางโครงการค่ะ สนใจสามารถไปชมห้องตัวอย่างที่ Sales Gallery ได้แล้ว แผนที่คลิก http://bit.ly/2vbCR6e

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนรามคำแหง และอยู่ตรงแยกรามคำแหงพอดี มีจุดเด่นคือ มีทางเข้า-ออก 2 ทางให้ใช้งาน ทางหลักจากถนนพระราม 9 และทางรองจากถนนรามทำแหง เป็นทำเลที่เขยิบออกมาจากโซนใจกลางพระราม 9 ช่วงแยกอ.ส.ม.ท มาจนถึงแยกพระราม 9 ออกมา เมื่อเทียบกับโซนใจกลางพระราม 9 แล้วก็คงจะสู้ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าเมืองไม่ได้ แต่ทำเลนี้ก็จะถูกลงมาจากทำเลใจกลางพระราม 9 ในพอหยิบจับได้สบายตัวหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านใกล้เคียงอย่างพระราม 9, เพชรบุรี และรามคำแหง บรรยากาศของทำเลนี้จะออกมาจากใจกลางเมืองหน่อย ส่วนใหญ่เป็นผู้คนในท้องที่อยู่อาศัยกันเป็นแหล่งชุมชน และยังพอเห็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวหรืออพาร์ทเม้นท์ต่างๆ เรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง ไม่เงียบเหงา

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ จัดว่าเดินทางได้สะดวก เนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่สองสายหลักอย่าง ถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง ซึ่งสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย อย่างถนนพระราม 9 ที่มุ่งหน้าไปยังดินแดงและอนุสาวรีย์ได้ ถนนรามคำแหงที่ไปยังหัวหมาก บางกะปิ ถนนเพชรบุรี วิ่งเข้าเมืองไปยังเอกมัย ทองหล่อได้สบายๆ ถนนพัฒนาการ ออกไปยังนอกเมืองมุ่งหน้าไปทางถนนศรีนครินทร์หรือสนามบินสุวรรณภูมิได้ และเข้าถนนสุขุมวิท 71 ออกไปยังพระโขนงอ่อนนุชได้เช่นกันค่ะ รวมไปถึงใกล้จากจุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง 2 สาย คือทางด่วนศรีรัชและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์มากนัก แต่ข้อเสียของที่ตั้งโครงการที่ติดแยกถนนใหญ่แบบนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องรถติด ทั้งเช้า-เย็น ซึ่งก็ควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางพอสมควรทีเดียว

การเดินทางด้วยทางด่วน จากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (มุ่งหน้าขาออกไปยังแยกท่าเรือ ซึ่งสามารถไปได้ทั้งบางนา และเข้าเมืองทางพระราม 3 หรือ 4 ก็ได้) ใช้ทางเข้า-ออกรองของโครงการอีกฝั่งที่มาออกทางถนนรามคำแหง วิ่งตรงผ่านแยกรามคำแหง หลังจากนั้นตรงไปถึงแยกคลองตัน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพัฒนาการ จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกใต้ด่วนพัฒนาการ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 1.8 กม. 

การเดินทางด้วยทางด่วน  จากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช (มุ่งหน้าเข้าเมือง จตุรทิศ ราชปรารภ ดินแดง พระราม 6) โดยเริ่มจากใช้ทางเข้า-ออกรองของโครงการอีกฝั่งที่มาออกทางถนนรามคำแหง แล้วพอถึงแยกรามคำแหงก็เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 แล้วมุ่งหน้าตรงอย่างเดียวทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ทางซ้ายมือ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 1.1 กม. 

ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะ อย่าง Airport Rail Link ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีรามคำแหง ใกล้กับอาคาร UM Tower นั้นจะอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 850 ม. ค่ะ ซึ่งถือว่าเลยระยะเดินได้สบายๆ ไปแล้วนะคะ แถมยังต้องข้ามถนนใหญ่แยกรามคำแหงอีก หากใครที่เน้นการเดินทางด้วย Airport Rail Link นั้นถือว่ามีความสะดวกน้อยกว่าโครงการเพื่อนบ้านบนถนนรามคำแหงด้วยกันนะคะ เพราะส่วนใหญ่โครงการเพื่อนบ้านนี้จะอยู่ใกล้ Airport Rail Link มากกว่าและยังไม่ต้องเดินข้ามถนนใหญ่อีกด้วย นอกเหนือจากนี้บริเวณหน้าโครงการนั้นก็มีพี่วินมานั่งคอยให้บริการรับ-ส่งลูกบ้าน หรือจะโบกพี่แท็กซี่หน้าโครงการเลยก็สะดวกดีค่ะ

ส่วนในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีสถานีรามคำแหง 12 เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุด อยู่ในระยะประมาณ 300 ม. (ซึ่งระยะที่แน่นอนคงต้องรอดูหลังจากสถานีสร้างเสร็จอีกที) โดยมีแผนที่คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2566 ค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในรัศมีไม่เกิน 1 กม. ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงพอตัว ส่วนใหญ่จะอยู่บนเส้นรามคำแหงทั้งหมด อย่างที่ใกล้ๆ และเดินไปได้สบายๆ เลย ก็คือ FoodLand และเดอะมอลล์ รามฯ ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 260 ม. และ 500 ม.ตามลำดับ เลยไปอีกหน่อยแถวหน้าม.รามคำแหง นอกจากนี้ก็จะมีห้างอย่าง Major Cineplex , Big C แล้วบริเวณหน้ารามทั้งเช้าไปจนถึงเย็นก็มีตลาดขายของ ร้านขายเสื้อผ้า อาหาร ให้เดินได้ตลอดทั้งวัน ในช่วงเย็นๆ หน่อยหน้าสนามกีฬา (กกท.) มีตลาดกางเต้นท์ขายอาหารกันคึกคักทีเดียวค่ะ โดยระยะทางจากโครงการไปแถวหน้าม.รามคำแหงจะห่างประมาณ 2.5 กม. ซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะเดินแต่ก็สามารถขับรถหรือนั่งรถสองแถว/รถเมลล์ไปได้สบายๆ เลยค่ะ หรือจะเลยมาหน่อยทางถนนพระราม 9 ก็จะมี HomePro , ตลาดเสรีมาร์เก็ต และ The Nine ด้านหลังก่อนถึง The Nine ก็จะมีร้านอาหารต่างๆให้เลือกหลากหลาย รวมไปถึงคาเฟ่ร้านกาแฟบรรยกาศน่านั่งให้เลือก

เริ่มเส้นทางไปสำนักงานโครงการกัน เริ่มจากทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าวิ่งไปทางมอเตอร์เวย์ ถนนด้านล่างเป็นถนนพระราม 9 ลงป้ายรามคำแหง วิ่งตามเส้นทางถนนพระราม 9 ถึงสี่แยกรามคำแหง แล้วชิดซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง วิ่งตรงไปตรามเส้นทางประมาณ 2 กม. ให้เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถไปถนนรามคำแหงอีกฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกรามคำแหง วิ่งตรงมาตามเส้นทางประมาณ 1.8 กม. ผ่าน ธนาคารไทยพาณิชย์จะเห็นสำนักงานขายของโครงการอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายชื่อโครงการมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ สำหรับในอนาคตมื่อโครงงการก่อสร้างเสร็จ เส้นทางเข้า-ออกหลักโครงการจะอยู่ติดถนนพระราม 9 โดยจะเลยจากแยกรามคำแหงมาประมาณ 200 m. ไม่ต้องวิ่งไปทางรามคำแหงค่ะ

เริ่มเส้นทางไปโครงการกันที่ทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าวิ่งไปทางมอเตอร์เวย์ ถนนด้านล่างเป็นถนนพระราม 9

ให้ลงทางด่วนที่ป้าย ถนนรามคำแหง ซึ่งจะอยู่ตรงกลางป้ายระหว่างทางแยกไป รามอินทรา-บางนา และศรีนครินทร์

เมื่อลงมาก็จะเป็นถนนพระราม 9 ให้วิ่งตรงไปตามเส้นทางถนนมุ่งหน้าไปทางสี่แยกรามคำแหง

วิ่งตรงมาถึงสี่แยกรามคำแหงให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนรามคำแหงค่ะ

มาถึงสี่แยกรามคำแหงให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรามคำแหงเลยค่ะ

เข้าสู่ถนนรามคำแหง ให้วิ่งตรงไปตามเส้นทางถนน ตรงไปประมาณ 1 km. เพื่อไปที่จุดกลับรถ ไปถนนอีกฝั่ง เพราะที่ตั้งโครงการและสำนักงานขายจะอยู่อีกฝั่งค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆจะผ่าน Foodland รามคำแหง และ KFC ทางซ้ายมือ

ตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดกลับรถ ให้กลับรถไปถนนรามคำแหงฝั่งมุ่งหน้าไปสี่แยกรามคำแหงเลยค่ะ

วิ่งตรงไปตามเส้นทางถนนรามคำแหง ฝั่งมุ่งหน้าสี่แยกรามคำแหง ตรงไปอีกประมาณ 1.8 km. สำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือ

สำนักงานขายและที่ตั้งโครงการ อยู่ก่อนถึงสี่แยกรามคำแหง มีป้ายชื่อโครงการมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริเวณโดยรอบโครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง ด้านหน้าโครงการไปทางทิศใต้จะติดถนนพระราม 9 ภาพรวมทิศโดยรอบและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบของโครงการ ประกอบด้วย

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารสำนักงานของ Major Development (เส้นปะสีเหลือง) ในพื้นที่โครงการ เลยถัดไป อาคารสำนักงานธนาคาร และตึกแถวสูง 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ พื้นที่ว่าง ทางด้านหน้าติดกับถนนพระราม 9 จะติดกับอาคารสำนักงานสูง 5 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนพระราม 9 เลยถัดไปแนวทางด่วนยกระดับ อาคารพักอาศัยและอาคารสำนักงาน
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ตึกแถวสูง 4 ชั้น และถนนรามคำแหง เลยถัดไปเป็นอาคารพักอาศัยสูง 35 ชั้น

โดยภาพรวมสิ่งปลูกสร้างรอบๆโครงการจะมีเฉพาะทางฝั่งทิศเหนือ เป็นอาคารสำนักงานของ Major Development (เส้นปะสีเหลือง) เองที่อยู่ติดอาคารพักอาศัยที่อาจจะบังวิวบางส่วนไว้  ในทิศอื่นๆส่วนมากเป็นพื้นที่โล่งที่ความสูงชั้น 4 ขึ้นไป โดยรอบเป็นอาคารตึกแถวไม่สูงมาก ทำให้ได้วิวแบบเปิดโล่งอยู่

ภาพวิวมุมสูงจากโครงการทางฝั่งทิศเหนือ มองไปทางฝั่งเมืองย่านรามคำแหง สำหรับใครที่เลือกห้องหันออกในฝั่งนี้ จะได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการที่ชั้น 4 แต่อาจะมีอาคารสำนักงานของ Major Development (โมเดลสีขาว) ที่อยู่ติดกันบังวิวบางส่วนไว้

ภาพวิวมุมสูงจากโครงการทางฝั่งทิศตะวันออก มองไปทางฝั่งย่านพระราม 9 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางมอเตอร์เวย์ (มุ่งหน้าออกเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิ, ลาดกระบัง, ชลบุรี) มองเห็นทางด่วนยกระดับทางขวามือ วิวฝั่งนี้ถือเป็นวิวเปิดโล่ง ภาพมุมกว้างไม่มีอาคารสูงบัง

ภาพวิวมุมสูงจากโครงการทางฝั่งทิศใต้ มองไปทางฝั่งย่านพระราม 9 มองเห็นทางด่วนยกระดับ มองเลยไปเป็นวิวเมืองทางย่านเพชรบุรี และพัฒนาการ วิวฝั่งนี้ถือเป็นวิวเปิดโล่ง อีกฝั่ง กรณีที่เลือกความสูงเกินทางด่วนยกระดับไปแล้ว

ภาพวิวมุมสูงจากโครงการทางฝั่งทิศตะวันออก มองไปทางฝั่งย่านพระราม 9 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางรัชดาภิเษก มองเห็นทางด่วนยกระดับทางขวามือ เลยไปเป็นคอนโดมิเนียมสูง 35  ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ใกล้ในระยะประชิด เพราะมีถนนรามคำแหงกั้นอยู่ ยังสามารถได้วิวแบบมุมกว้างได้

เดี่ยวเราจะลองเดินดูบรรยากาศและพื้นที่โดยรอบที่ตั้งโครงการกันค่ะ เริ่มจากบริเวณหน้าสำนักงานขาย เดินย้อนไปตามถนนรามคำแหง

เลยถัดมาจาที่ตั้งโครงการ จะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ ด้านล่างมีที่จอดรถลูกค้าที่มาติดต่อ

ถัดมาจะเป็นร้านขายจักรยานยนต์ จะเป็นอาคารตึกแถว สูง 4 ชั้น

เดินตรงต่อมาจากที่ตั้งโครงการประมาณ  130 m. จะมีป้ายรถประจำทาง จุดวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง และสะพานลอยข้ามฝั่งอยู่

จากตรงนี้ก็มีรถประจำทางผ่านอยู่หลาสานค่ะ แต่ถ้าใครจะนั้งวินมอเตอร์ไซด์ไป  Airport Rail Link รามคำแหง ก็ราคาประมาณ 20 บาทได้ค่ะ

เดี่ยวเราลองขึ้นสะพานลอยเพื่อขึ้นไปดูบรรยากาศมุมสูงโดยรอบของถนนรามคำแหงกันค่ะ

มุมมองจากบนสะพานลอยคนข้าม มองไปทางฝั่งถนนรามคำแหง ฝั่งมุ่งหน้าบางกะปิ จะเห็น Foodland รามคำแหง และ KFC ทางซ้ายมือ ถ้าเราจะเดินมาจากโครงการเพื่อไปซื้อของก็จะอยู่ห่างมาประมาณ 260 m.

มุมมองจากบนสะพานลอยคนข้าม มองไปทางฝั่งถนนรามคำแหง ฝั่งมุ่งหน้าสี่แยกรามคำแหงจะมองเห็นสะพานยกระดับ และทางด่วนศรีรัช ทางขวามือเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ส่วนทางซ้ายมือเป็นแนวอาคารตึกแถวเลยถัดไปก่อนถึงสี่แยกรามคำแหงจะเป็นที่ตั้งโครงการค่ะ

ส่วนทางซ้ายมือเป็นแนวอาคารตึกแถวเลยถัดไปก่อนถึงสี่แยกรามคำแหงจะเป็นที่ตั้งโครงการค่ะ จะเห็นว่าถ้าขึ้นสะพานยกระดับมาทางลงถนนรามคำแหงจะเลยที่ตั้งโครงการไปแล้วค่ะ ทางเดียคือวิ่งตรงไปอีก 2 km. เพื่อไปกลับรถกลับมาที่สำนักงานขายค่ะ  แต่กรณีโครงการสร้างเสร็จ ให้เลี้ยวที่แยกรามคำแหงเข้าถนนพระราม 9 แล้วมาเข้าที่ทางเข้าหลักของโครงการทางถนนพระราม 9 ค่ะ

เราลองมาดูอีกฝั่งของพื้นที่โครงการกันค่ะ จากสำนักงานขายโครงการฝั่งมุ่งหน้าสี่แยกรามคำแหง จะเห็นแนวรั่วโครงการวางเรียงยาวมาตลอด ขนานไปกับถนนรามคำแหงเลยค่ะ

แนวระยะพื้นที่โครงการก่อนถึงสี่แยกรามคำแหง จะเจอกับอาคารตึกแถวอยู่ทางขวามือ

เลยถัดมาจะเป็นอาคารคลินิกแพทย์ปัญญา 5 อยู่ตรงหัวมุมสี่แยกรามคำแหงพอดีค่ะ

มองตรงไปจะเป็นสี่แยกรามคำแหงค่ะ ซึ่งเป็นแยกที่รถติดพอใช้ได้ มีปริมาณรถมาใช้งานแยกนี้ในแต่ละวันอยู่พอสมควรค่ะ ถ้าวิ่งตรงไปก็จะไปเชื่อมต่อออกถนนเพชรบุรีและพัฒนาการได้ค่ะ

เราเดินข้ามถนนรมคำแหงตรงบริเวณสี่แยกรามคำแหง เดินตรงมาตามทางเท้าที่ขนานกับถนนพระราม 9 กันค่ะ เพื่อมาดูพื้นที่โครงการทางฝั่งถนนพระราม 9 กันค่ะ

พื้นที่โครงการทางฝั่งถนนพระราม 9 ซึ่งจะเป็นทางเข้าหลักของโครงการ เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ปัจจุบันก็ล้อมรั้วและติดป้ายโครงการไว้เรียบร้อย

พื้นที่ด้านข้างโครงการทาฝั่งถนนพระราม 9 จะเป็นอาคารสำนักงานสูงประมาณ 5 ชั้น

เลยถัดมาจะเป็นอาคารพักอาศัย สูงประมาณ 4 ชั้นค่ะ

สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ที่ริมถนนรามคำแหงฝั่งมุ่งหน้าไปสี่แยกรามคำแหง ตรงบริเวณที่ตั้งโครงการ โดยมีพื้นที่จอดรถทางด้านข้างสำนักงานขาย สำหรับผู้มาชมโครงการจอดได้ค่ะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย มีเจ้าหน้าคอยให้ข้อมูลและแนะนำโครงการ ภายในจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ ที่ชั้น 2 ของสำนักงานขายจะเป็นห้องตัวอย่าง มีให้ดู 1 ห้องค่ะ เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.5 ตร.ม.

ด้านในจะมีจอทีวีเปิด Presentation อธิบายภาพรวมโครงการทั้งหมด และโมเดลของโครงการตั้งให้ดูค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Foodland ~ 260 ม.
  • A Link  ~ 450 ม.
  • สภาสถาปนิก ~ 450 ม.
  • UM Tower ~ 500 ม.
  • The Mall รามฯ ~ 600 ม.
  • โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ~ 800 ม.
  • Major Cineplex ~ 800 ม.
  • Big C ~ 1 กม.
  • Major Hollywood ~1.4 กม.
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 1.4 กม.
  • โรงเรียนสาธิตรามคำแหง ~ 1.8 กม.
  • สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ~ 2.5 กม.
  • โรงพยาบาลปิยะเวท ~ 3 กม.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3.3 กม.
  • RCA ~ 3.3 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง เป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น 570 ยูนิต บนพื้นที่ 2-0-25 ไร่ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ส่วนของอาคารพักอาศัย และส่วนของอาคารสำนักงานของ Major Development แยกจากกันไม่รบกวนกัน ในส่วนของที่ตั้งโครงการหันหน้าโครงการออกถนนพระราม 9 มีทางเข้า-ออก โครงการได้ทั้งจากถนนพระราม 9 และ ถนนรามคำแหง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน มีแนวคิดในการออกแบบที่แตกต่างและโดดเด่น มี Concept หลักคือ Mid-Century Modern สอดคล้องกับชื่อของโครงการซึ่งมากจากการรวมกันระหว่างคำสองคำ คือ Retro และ Modernist เป็นตัวแทนระหว่างคนยุคใหม่ รวมเข้ากับดีไซน์ของยุคเก่า มีความ Retro แต่ก็มองเห็นความ Modern ในตัวเอง เป็นการออกแบบที่ร่วมสมัย Timeless ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานก็เข้าได้กับทุกยุคทุกสมัยอยู่เสมอ ทั้งงานสถาปัตยกรรมภายในและภายนอก เน้นความเรียบง่ายของเสปซ และการเลือกใช้วัสดุ  ออกแบบพื้นที่ในส่วนต่างให้มีความต่อเนื่องกัน เช่น พื้นที่ส่วน Co-working space ,  Mail box  ,  Sound Dome , Private Meeting Room , Social Lounge , Multi Purpose Room เลยถัดเข้ามาด้านในจะเป็น Dynamic Fitness Center และ Boxing  ซึ่งตอบรับกับการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ผู้อยู่อาศัยสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ มีการจัด Pet Zone เพื่อมารองรับการใช้งานโดยเฉพาะให้ โครงการมีการจัดพื้นที่ภายในโครงการทั้งส่วนของห้องพักอาศัย เริ่มจากชั้น 4 ขึ้นไป มีพื้นที่จอดรถภายในตัวอาคารทั้งหมดที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และบนอาคาร 2 ชั้น และจัดพื้นที่ส่วนกลาง facility ต่างๆเอาไว้อยู่ภายในโครงการทั้งหมดที่ชั้น 1 , 4 และ 33 แบ่งโซนการใช้งานชัดเจนไม่รบกวนส่วนพักอาศัย เข้าถึงได้ง่าย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เหมาะกับจำนวนผู้พักอาศัย จัดพื้นที่สีเขียว มีสวนพักผ่อนที่ชั้นบน และบริเวณโดยรอบตัวอาคาร

ภาพทัศนียภาพจำลอง ภายนอกและพื้นที่บริเวณโดยรอบของโครงการ Metris พระราม 9 – รามคำแหง

ภาพทัศนียภาพจำลองภายในบริเวณส่วน Double Volume Lobby ของโครงการ

ภาพทัศนียภาพจำลองภายในบริเวณส่วน Double Volume Lobby , Sound Dome และ Co-Working Space ของโครงการ

ภาพทัศนียภาพจำลองภายในบริเวณส่วน Dynamic Fitness Center และ Boxing ของโครงการ

ภาพทัศนียภาพจำลองภายในบริเวณส่วน Social Lounge ของโครงการ

ภาพทัศนียภาพจำลองภายนอกพื้นที่ส่วนกลางบริเวณส่วน สระว่ายน้ำ , Shallow Pool , Jacuzzi , Pavilion และ Pool Deck ของโครงการในชั้น 4

ภาพทัศนียภาพจำลองภายนอกพื้นที่ส่วนกลางบริเวณส่วน Rooftop , Pet Zone , BBQ Area , สวนและที่นั่งพักผ่อน ของโครงการในชั้น 33

มาดูโมเดลจำลองของโครงการ METRIS  พระราม 9 – รามคำแหง เป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ส่วนของอาคารพักอาศัย และส่วนของอาคารสำนักงานของ Major Development (โมเดลสีขาว) แยกจากกันไม่รบกวนกัน ในส่วนของที่ตั้งโครงการหันหน้าโครงการออกถนนพระราม 9 มีทางเข้า-ออก โครงการได้ทั้งจากถนนพระราม 9 และ ถนนรามคำแหง ส่วนของห้องพักอาศัย เริ่มจากชั้น 4 ขึ้นไป มีพื้นที่จอดรถภายในตัวอาคารทั้งหมดที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และบนอาคาร 2 ชั้น และจัดพื้นที่ส่วนกลาง facility ต่างๆเอาไว้อยู่ภายในโครงการทั้งหมดที่ชั้น 1 , 4 และ 33 แบ่งโซนการใช้งานชัดเจนไม่รบกวนส่วนพักอาศัย เข้าถึงได้ง่าย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เหมาะกับจำนวนผู้พักอาศัย จัดพื้นที่สีเขียว มีสวนพักผ่อนที่ชั้นบน และบริเวณโดยรอบตัวอาคาร

มีทางเข้า-ออก หลักโครงการจากถนนพระราม 9 ถนนภายในจะจัดการเดินรถแบบสวนทางกัน มีจุดจอดรถ Drop off เพื่อรับ-ส่งได้อยู่ทางด้านหน้า หรือสามารถขับไปที่ส่วนพื้นที่จอดรถในชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และที่บนอาคาร 2 ชั้น ได้

จากจุด Drop off ที่บริเวณด้านหน้าสำหรับรับ-ส่ง แต่ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างบนอาคาร 2 ชั้น หรือชั้นจอดรถใต้ดินลงไป 2 ชั้น โดนจะมีทางลาดลงไปที่จอดรถทางด้านล่างของอาคาร สามารถจอดได้ 255 คันคิดเป็น 45 %และบริเวณด้านหน้าข้างอาคารจะจัดพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถจักรยาน (Motorcycle Parking) , ที่จอดรถสำหรับ Visitor และมีพื้นที่สำหรับล้างรถ Car wash ไว้ให้ใช้งาน

สำหรับทางออกรองของโครงการทางฝั่งถนนรามคำแหงนั้น ทางโครงการจะมีการกำหนดเวลาให้ใช้งาน ไม่ได้ให้ผ่านเข้า-ออกได้ตลอด

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการในชั้น 4  ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ , Shallow Pool , Jacuzzi , Pavilion, Pool Deck, Sauna และ Steam Room

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการในชั้น 33  ประกอบด้วย ส่วน Rooftop , Pet Zone , BBQ Area , สวนและที่นั่งพักผ่อน

จากผัง Master Plan จะเห็นพื้นที่ภาพรวมทั้งหมดของโครงการ ที่ดินประมาณ 2-0-25 ไร่ มีระยะร่นรอบอาคาร มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ส่วนของอาคารพักอาศัย (สีฟ้า) ทางขวามือ และส่วนของอาคารสำนักงานของ Major Development (สีเหลือง) ทางซ้ายมือ สำหรับตัวอาคารพักอาศัยนั้นทางเข้าหลักจะอยู่ทางฝั่งถนนพระราม 9 เมื่อเลี้ยวเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการแล้ว ถนนภายในจะจัดการเดินรถแบบสวนทางกัน มีจุดจอดรถ Drop off อยู่ทางด้านหน้า หรือสามารถขับไปที่ส่วนพื้นที่จอดรถในชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และที่บนอาคาร 2 ชั้น สำหรับทางออกรองของโครงการทางฝั่งถนนรามคำแหงนั้น ทางโครงการจะมีการกำหนดเวลาให้ใช้งาน ไม่ได้ให้ผ่านเข้า-ออกได้ตลอด

มาที่ผังชั้น 1 ของโครงการ จากจุด Drop off ที่บริเวณด้านหน้าสำหรับรับ-ส่ง แต่ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างบนอาคาร 2 ชั้น หรือชั้นจอดรถใต้ดินลงไป 2 ชั้น โดนจะมีทางลาดลงไปที่จอดรถทางด้านล่างของอาคาร สามารถจอดได้ 255 คันคิดเป็น 45 %และบริเวณด้านหน้าข้างอาคารจะจัดพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถจักรยาน (Motorcycle Parking) , ที่จอดรถสำหรับ Visitor และมีพื้นที่สำหรับล้างรถ Car wash ไว้ให้ใช้งาน

เมื่อเข้ามาด้านในตัวอาคารพื้นที่บริเวณชั้น 1 จะมี Lobby , Co-working space , Mail box  , ส่วน Office , Sound Dome , Private Meeting Room , Social Lounge , Multi Purpose Room เลยถัดเข้ามาด้านในจะเป็น Dynamic Fitness Center และ Boxing ส่วนอีกฝั่งของตัวอาคารจะเป็นห้องควบคุมงานระบบอาคารต่างๆ ภายในตัวอาคารจะมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว แบบล็อคชั้น อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 190:  1 มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง รอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้ตามรูปร่างของที่ดินที่เหลือ ส่วนใหญ่พื้นที่สีเขียวจะเน้นไปที่บริเวณชั้น 4 และ 33 เป็นหลัก

ส่วนพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 4 แต่ในชั้น 5-33 จัดแบบ Typical plan เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดจัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารและหันเข้าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ จัดวางห้องพักไว้สองฝั่งมีทางเดินตรงกลางแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัวทรงตัว L มีห้องพัก/ชั้น ทั้งหมด 19 ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom  ขนาด 30    ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom  ขนาด 30.5 ตารางเมตร จำนวน 9 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 48    ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 49.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 50.5 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 59   ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

วางส่วน Service และงานระบบของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ service 1 ตัว สำหรับขนของต่างๆ มีบันไดหนีไฟในอาคาร 2 ตำแหน่ง บริเวณแนวทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

ชึ้นมาที่ชั้นบนสุดของตัวอาคารที่ชั้น 33 ของโครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางเน้นไปที่พื้นที่สวนและที่นั่งพักผ่อนต่างๆ ประกอบด้วย Pet Zone เป็นพื้นที่สำหรับพาสัตว์เลี้ยงขึ้นมาใช้งานได้ , Garden BBQ , Sky Garden ,Sky Cabama สวนและที่นั่งพักผ่อน การจัดส่วนกลางไว้บนชั้นบนสุดของอาคารลักษณะนี้ จะได้เรื่องของทัศนียภาพ วิวแบบมุมสูงโดยรอบ มองเห็นวิวเมืองและมีลมพัดผ่านปลอดโปร่ง อีกทั้งยังช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เพราะอยู่สูงเกินระยะสายตาจากภายนอก

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

  • Double Volume Lobby
  • Co-Working Space
  • Sound Dome
  • Private Meeting Room
  • Social Lounge
  • Multi Purpose Room
  • Dynamic Fitness Center
  • Boxing
  • Laundry Room

ชั้น 4

  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 13 x 29 เมตร
  • Shallow Pool
  • Jacuzzi
  • Pavilion
  • Pool Deck

ชั้น 33

  • Rooftop
  • Pet Zone
  • Garden BBQ
  • Sky Garden
  • Sky Cabama
  • สวนและที่นั่งพักผ่อน

 

  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Car Wash
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร แบบล็อกชั้น
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 190:  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 255 คันคิดเป็น 45 %
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom Type 2C ขนาด 59.45 ตารางเมตร จัดมาให้แบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์ built in ชุดครัวติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ด้วยพื้นที่ของห้องที่มีขนาดใหญ่สามารถจัดแบ่งพื้นที่ให้มีการใช้งานสะดวกสบายไม่อึดอัด ออกแบบให้ห้องนั่งเล่น ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง สามารถดูวิวภายนอกและรับแสงธรรชาติได้ดี  ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่เป็น 6 โซน คือ ห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ครัวและระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนรับประทานอาหารครัวทางขวามือ เป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัวกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก การจัดพื้นที่เป็นครัวเปิด แบบนี้เราอาจจะเพิ่มให้มีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานอีกหน่อย จะทำให้สามารถป้องกันเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารไม่ให้ไปรบกวนพื้นที่ภายในห้องได้ ด้านข้างของชุดครัวจะแบ่งพื้นที่เป็นที่เก็บรองเท้าไว้บริเวณทางเข้า มีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 3-4 คนได้สบายๆไม่อึดอัด ไม่ขวางแนวทางเดิน พื้นที่วางให้เชื่อมต่อไปส่วนห้องนั่งเล่นที่มีกระจกบานใหญ่สามารถมองวิวแบบมุมกว้าง ส่วนระเบียงจัดพื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้จริง เป็นส่วนซักล้างและใช้ตากผ้าได้

ในส่วนห้องนอนแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก วางไว้ในตำแหน่งฝั่งขวาของตัวห้องเรียงกันไปตามความยาวห้อง  จัดพื้นที่การใช้งานมาให้แบ่งการใช้งานเป็นสำหรับ 1 คน และอีกห้อง 2 คน ในห้องนอนใหญ่สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size  ได้ห้องเปล่าไม่มีตู้เสื้อผ้า Built-in มีเครื่องปรับอากาศให้ ในส่วนของห้องน้ำมี 1 ห้อง ให้ใช้ร่วมกัน ภายในห้องน้ำมีการแยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้เรียบร้อยตามการใช้งาน และพื้นที่ค่อนข้างกว้างในงานในแต่ละส่วนได้สะดวก

เริ่มจากประตูหน้าห้องจะเป็นประตูบานไม้สังเคราะห์ปิดผิวเคลือบ PVC พร้อม Digital Door Lock ของ HAFELE ติดตั้งไว้พร้อมใช้งาน

พื้นทางเข้าสู่ห้องจะมีตัวจบขอบทางเข้าลายเรียบกับพื้นภายในเพื่อความเรียบร้อย และเวลาเปิด-ปิดใช้งานจะสามารถช่วยกันฝุ่นละอองจากแนวทางเดินเข้าสู่ตัวห้องด้านในได้

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารและมองตรงไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปส่วนระเบียงของตัวห้องได้ พื้นที่ในห้องส่วนนี้จะใช้วัสดุพื้นเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ทั้งหมด ในส่วนของผนังห้องตัวอย่างจะทำเป็นผนังตกแต่งและติด Wallpaper ไว้ แต่ในห้องจริง จะเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบเรียบทาสีให้ ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.65 m. ห้องจึงมีความโปร่งไม่อึดอัด และติดดวงไฟภายในแบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด

พื้นที่บริเวณทางเข้ามีความกว้างพอสมควร ด้านในที่พื้นห้องจะมี Door Stopper ติดอยู่เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกับชุดตู้และชั้นวางของทางซ้ายมือ ในส่วนของชุดตู้ทางซ้ายมือจะเป็นตู้ Built in ที่เชื่อมกับชุดครัว ตัวตู้ออกแบบมาให้ใช้งานพื้นที่ตรงส่วนนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ สามารถใช้เก็บรองเท้าและหยิบใช้งานเมื่อเข้า-ออกห้องได้สะดวก

พื้นที่ส่วนแรกเมื่อเข้ามาในห้อง จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารสามารถตั้งชุดโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั้งได้สบายๆ ไม่อึดอัดจนเกินไป พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างเราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่ายค่ะ

มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติได้ดี มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 2.65 m. ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด  พื้นที่ในส่วนห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถเลือกชุดโซฟาได้หลากหลายแบบ แต่ชุดโซฟาโครงการไม่มีให้นะคะ ผนังติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงาม อันนี้เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ

ตรงข้ามกับชุดโซฟาเป็นชุดตู้ไว้สำหรับวางและเก็บของต่างๆ ติดตั้งทีวีแบบแขวนช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งาน จะได้มีพื้นที่วางของได้มากขึ้น ชุดตู้นี้ในห้องจริงจะไม่มีให้นะคะ ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่างการใช้งานในแต่ละพื้นที่เท่านั้น ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.5 m. ในระยะห่างประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″ ขึ้นไปได้ค่ะ

สำหรับสวิทช์ และปลั๊ก ภายในห้องทั้งหมดเป็นของ SIEMENS ทั้งหมด

ส่วนประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมกระจกบานใหญ่ ได้ความสว่างจากแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้ดี ตัวบานเป็น Aluminium Powderred Costing ติดกระจกตัดแสง เหนือกรอบบานทางโครงการจะติดเครื่องปรับอากาศให้บริเวณนี้ 1 ตำแหน่ง ของ Trane

ประตูเป็นบานอลูมิเนียมติดกระจกตัดแสง  พร้อมตัวล็อค ยกขอบสูงขึ้นมาประมาณ 13 cm. โดยการยกขอบสูงขึ้นมาแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในตัวห้อง

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเหมาะกับการใช้งานภายนอก ให้พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.82 x 3.9 m. ระเบียงจัดพื้นที่มาให้สามารถใช้งานได้ไม่แคบไป สามารถใช้เป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าได้เล็กๆได้

ที่ปลายสุดของพื้นที่ระเบียง ทางด้านข้างจะมีระแนงเหล็กสูงถึงระดับเพดานด้านบน พื้นที่ตรงนี้เหมาะที่จะวาง Condensing air หรือใช้ตากผ้าก็ได้ค่ะ เพราะมีระแนงบังสายตาจากภายนอกไว้ดูเรียบร้อย

ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะฉาบเรียบทาสีและติดไฟดาวน์ไลท์ให้ 1 ตำแหน่ง

มองกลับเข้ามาด้านในของตัวห้อง จะเห็นการแบ่งพื้นที่การใช้งานในส่วนของการออกแบบพื้นที่ใช้งานให้มีความต่อเนื่องกัน จากครัวไปมายังส่วนรับประทานอาหาร ส่วนนั่งเล่น ที่เมื่อลองจัดเฟอร์นิเจอร์ลงไปแล้ว ก็เหลือพื้นที่ใช้งานได้ไม่อึดอัด

ส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร จะฉาบเรียบทาสี และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ พร้อมอุปกรณ์ Smoke detector เหมือนในห้องตัวอย่าง

มาที่ส่วนครัว พื้นที่ครัวจะอยู่ด้านในของตัวห้อง ถัดจากประตูทางเข้า อยู่ตรงข้ามกับทางเข้าห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก และปลายสุดเป็นห้องน้ำ ส่วนครัวเป็นครัวแบบเปิด มีชุดครัว Built-in ให้ จัดพื้นที่มาเพียงพอต่อการใช้งานไม่เน้นทำครัวจริงจัง แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร แต่เราก็สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ เพราะส่วนพื้นที่ครัวที่ให้มาค่อนข้างกว้าง มีระยะให้แบ่งพื้นที่การใช่งานได้อยู่ แค่ทำฉากกั้นขึ้นมา 1 บานก็ได้ครัวปิด และทำให้แบ่งพื้นที่การใช้งานได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น

มีความกว้างของพื้นที่สำหรับยืนประกอบอาหารในครัว วัดจากชุดครัวถึงผนังทางซ้ายมือ กว้างประมาณ 1.2 m.

ได้ชุดครัวแบบ  built in จัดพื้นที่การใช้งานไว้ทั้งด้านบนและล่างพร้อมใช้งาน ส่วนพื้นที่ที่เลยถัดจากชุดครัวจะเว้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับตั้งตู้เย็น สำหรับชุดครัวนี้ทางโครงการมีให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างค่ะ

ตู้ด้านบนเป็นตู้บานเปิด 3 ช่อง ภายในแบ่งช่อง 3 ระดับ ทั้งสำหรับใส่ของต่างๆได้เยอะพอสมควรค่ะ ใช้วัสดุปิดผิวเป็น Melamine ตัวบานพับจะเป็นแบบ soft close ช่วยชะลอการปิดหน้าบานให้นุ่มนวลขึ้นถนอมการใช้งาน ไม่ให้กระแทกตัวตู้เสียงดัง

ภายในครัวจะมีชุดครัวแบบ Built in ซึ่งทางโครงการมีให้ จัดแบ่งพื้นที่จัดเป็น ส่วนสำหรับประกอบอาหาร ล้างจาน และพื้นที่ให้จัดเตรียมอาหาร Top Counter เป็นหิน Quartz Stone และผนังติดกระเบื้อง Subway Tile เหมาะกับการประกอบอาหาร และทำความสะอาดง่าย

โครงการจะติดตั้งชุดเตา Hob & Hood ของ HAFELE มาให้พร้อมใช้งาน

ทางซ้ายมือของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นอ่างล้างจานขนาดกลางพร้อมชุดอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ HAFELE ตัวอ่างมีขนาด 38 x 33 cm.

ชุดครัว built in ด้านล่างทำเป็นบานเปิด ด้านในเป็นช่องว่างสำหรับเก็บอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ได้ ด้านข้างเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า สามารถวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 kg. ได้ค่ะ

ทางด้านข้างของชุดครัว  built in จะเว้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับตั้งตู้เย็น สามารถตั้งตู้เย็นขนาดกลางได้ พื้นที่มีขนาด 70 x 60 cm.

ถัดจากพื้นที่ส่วนครัว จะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอนอีก 2 ห้อง และห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุด ในส่วนของประตูภายในของห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะเป็นบานไม้สังเคราะห์ปิดผิวเคลือบ PVC

มากันที่ห้องนอนรองกันก่อนค่ะ ด้วยขนาดพื้นที่ของห้องไม่ใหญ่มากจึงเหมาะกับการใช้งาน 1 คน เพราะสามารถวางเตียงแบบ 1 คนนอนได้พอดี มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงไม่อึดอัด สำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะไม่มีให้นะคะ จะได้ห้องเปล่าผนังฉาบเรียบทาสีเทา และติดเครื่องปรับอากาศให้เท่านั้น เราสามารถตกแต่งหรือปรับการใช้งานตามความเหมาะสมได้ค่ะ

เมื่อมองเข้ามาด้านในตัวห้อง จะเห็นแนวผนังทางซ้ายมือที่เว้าเป็นมุมเข้ามาการจัดพื้นที่ระเบียงของตัวห้อง ทำให้เกิดพื้นที่เป็นช่องว่างทางขวามือ

พื้นที่บริเวณทางฝั่งขวามือของตัวห้อง จะติดกับหน้าต่างโดยจัดพื้นที่ส่วนนี้เป็นมุมสำหรับตั้งโต๊ะทำงานได้ จะได้แสงธรรมชาติจากภายนอกได้ดี สำหรับหน้าต่างภายในห้องนอนรอง จะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง Aluminium Powderred Costing ติดกระจกตัดแสง

พื้นที่ในบริเวณนี้จะมีความกว้างจากกำแพงทั้ง 2 ฝั่ง กว้างประมาณ 1.35 m.

ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 45 cm.

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 50 cm. มีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สะดวก

ส่วนระยะระหว่างข้างเตียงถึงตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 80 cm. มีพื้นที่ให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก

สำหรับตู้เสื้อผ้าจะเป็นชุดตู้เสื้อผ้าแบบ  Built in เป็นบานเปิด 2 ด้าน  ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า มีชั้นวางของที่ด้านบนและล่างเป็นลิ้นชัก สำหรับเก็บของต่างๆ แต่ตู้ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราสามารถเลือกแบบตามความเหมาะสมในการใช้งานได้ค่ะ

ส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องนอนจะฉาบเรียบทาสี และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ พร้อมอุปกรณ์ Smoke detector เหมือนในห้องตัวอย่าง

ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ ด้านหน้าทางเข้าจะมีแนวโถงทางเดินกว้างประมาณ 1.2 m.

ภายในห้องนอนใหญ่ โดยภาพรวมพื้นที่ ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบพอดีเหลือพื้นที่ข้างเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้อนแบบนี้ มีข้อดีตรงห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่ มีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.65 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด พื้นที่ภายในสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้  แต่ในห้องจริงจะได้ห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์นะคะ ผนังภายในเป็นผนังฉาบเรียบทาสีเทา และติดเครื่องปรับอากาศให้เท่านั้น เราสามารถเลือกตกแต่งหรือปรับการใช้งานตามความเหมาะสมค่ะ

ตรงข้ามกับเตียงนอนโครงการจัดชั้นวางของไว้ให้สำหรับวางของต่างๆ ติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวนช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งาน จะได้มีพื้นที่วางของได้มากขึ้น แต่ชั้นวางของนี้ทางโครงการไม่มีให้ เราสามารถดูเป็นไอเดียในการแต่งห้อง แล้วเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ค่ะ

หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้หน้าต่างบานกระทุ้ง Aluminium Powderred Costing ติดกระจกตัดแสง  ตัวบานมีขนาด 65 x 120 cm. สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี

ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 60 cm. ยังสามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

ระยะระหว่างปลายเตียงถึงชั้นวางของ กว้างประมาณ 25 cm. ค่อนข้างแคบไปหน่อย แต่ถ้าไม่มีชั้นวางของจากปลายเตียงถึงผนังจะมีความกว้างประมาณ 60 cm.

ส่วนระยะระหว่างข้างเตียงถึงตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 95cm. มีพื้นที่ให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นชุดตู้เสื้อผ้าแบบ  Built in เป็นบานเปิด 2 ด้าน เหมือนกับห้องนอนแรกค่ะ แต่ตู้ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราสามารถเลือกแบบตามความเหมาะสมในการใช้งานได้ค่ะ

ส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องนอนจะฉาบเรียบทาสี และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ พร้อมอุปกรณ์ Smoke detector เหมือนในห้องตัวอย่าง

มาที่ห้องน้ำของตัวห้องที่ด้านในสุดของห้อง สำหรับห้องจริงประตูห้องน้ำใจะเป็นบานไม้สังเคราะห์ปิดผิวเคลือบ PVC

ทางเข้าห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 6 cm. โดยจะปูกระเบื้อง ทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในไว้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่ไว้ลงตัวในการใช้งาน มีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วนวัสดุปูพื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเท ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและกระจก พร้อม ฉากกั้นอาบน้ำกระจก และชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน

ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาใต้อ่างมีช่องว่างเป็นชั้นวางของ Melamine และมีพื้นที่ตรงขอบเหนืออ่างสามารถวางของใช้ต่างๆได้

ชุดอ่างล้างหน้าแบบสำเร็จชิ้นเดียว Top อ่างเป็น Solid Coated ตัวอ่างมีขนาด 47 x 60 cm. ของ Lavenz และอุปกรณ์ก็อก ของ HAFELE

ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นๆ ของ HAFELE  โดยตำแหน่งของสายชำระจะติดที่ผนังด้านหลัง

ถัดมาอีกฝั่งของห้องน้ำ ส่วนอาบน้ำแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยมีประตูบานเลื่อน ตัวบานเป็น Frame Aluminium with Glass ของ Oversea

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.5 x 0.90 m. กว้างพอสมควรใช้งานได้สะดวก จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 10 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบฝักบัว พร้อมอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน ของ HAFELE  ด้านข้างเจาะช่องสำหรับวางของต่างๆได้ มีพื้นที่ประมาณ 15 x 30 cm.

ติดตั้งฝักบัวอาบน้ำที่สามารถปรับระดับความแรงและสายน้ำได้ พร้อมชุดอุปกรณ์ก็อกอาบน้ำ ของ HAFELE ให้พร้อมใช้งาน

ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำ เป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ downlight 2 ตำแหน่ง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Type B1-1  :  2 Bedrooms 2 Bathrooms 59 ตร.ม.

Type C1-2E  :  2 Bedrooms 1 Bathrooms 48 ตร.ม.

Type C3-1  :  2 Bedrooms 1 Bathrooms 50.50 ตร.ม.

Type A1-1  :  1 Bedrooms 1 Bathrooms 30.5 ตร.ม.

Type A1-5E  :  1 Bedrooms 1 Bathrooms 30.5 ตร.ม.

Type A1-9  :  1 Bedrooms 1 Bathrooms 30.5 ตร.ม.

Type A2-1E  :  1 Bedrooms 1 Bathrooms 30 ตร.ม.

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 August 2017

  • 1 Bedroom 30 – 30.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 48 – 50.5  ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • Fully Fitted 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Digital door lock
  • เครื่องปรับอากาศ
  • Motion sensor lighting
  • อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้
  • Shuttle Service
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง ตั้งอยู่ระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนรามคำแหง อยู่ตรงแยกรามคำแหงพอดี มีจุดเด่นคือ มีทางเข้า-ออก 2 ทางให้ใช้งาน ทางหลักจากถนนพระราม 9 และทางรองจากถนนรามทำแหง เป็นทำเลที่เขยิบออกมาจากโซนใจกลางพระราม 9 ช่วงแยกอ.ส.ม.ท มาจนถึงแยกพระราม 9  แต่ก็มีความความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าเมืองในระดับนึง เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในทำเลใกล้เคียงอย่างพระราม 9, เพชรบุรี และรามคำแหงบรรยากาศของทำเลนี้จะออกมาจากใจกลางเมืองหน่อย ส่วนใหญ่เป็นผู้คนในท้องที่อยู่อาศัยกันเป็นแหล่งชุมชน และยังพอเห็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวหรืออพาร์ทเม้นท์ต่างๆ เรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง ไม่เงียบเหงา ที่ใกล้ๆ และเดินไปได้สบายๆ เลย ก็คือ FoodLand และเดอะมอลล์ รามฯ ที่อยู่ห่างจากโครงการไม่ไกล มี  Major Cineplex , Big C บริเวณหน้ารามทั้งเช้าไปจนถึงเย็นก็มีตลาดขายของใช้เลือกหลากหลาย หรือจะเลยมาหน่อยทางถนนพระราม 9 ก็จะมี HomePro , ตลาดเสรีมาร์เก็ต และ The Nine ด้านหลังก่อนถึง The Nine ก็จะมีร้านอาหารต่างๆให้เลือกหลากหลาย เช่นกัน

การเดินทางด้วยรถยนต์ – ถือว่าสะดวก เพราะอยู่ใกล้แยกจุดตัดถนนใหญ่อย่างรามคำแหงและพระราม 9 รวมทั้งไม่ไกลจากแยกคลองตันมากนักทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้หลากหลาย และยังอยู่ไม่ห่างจากทางด่วนทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางด่วนศรีรัชอีกด้วย  แต่ถ้ามาจากทางถนนพระราม 9 จะไม่สามารถใช้ทางยกระดับข้ามแยกประดิษมนูญธรรมมาได้ เพราะทางลงมันเลยโครงการไป ต้องวิ่งมาตามทางปกติผ่านสี่แยกรามคำแหงเท่านั้น ส่วนที่จอดรถมีให้ 45% ถือว่าน้อยไปในปัจจุบันที่ยังต้องใช้รถเป็นหลักอยู่ แต่ในอนาคต (ตามแผนคือปี 66) เมื่อมีสถานีรถไฟฟ้าแล้วก็จะดีขึ้น

การเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะ – อย่าง Airport Rail Link นั้นถือว่าไกลเลยระยะเดินไปหน่อยประมาณ 850 ม.และยังต้องข้ามถนนใหญ่ 4 เลนตรงแยกรามคำแหงอีกด้วย หากเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านในทำเลเดียวกันในเรื่องของระยะและความสะดวกสบายในเดินทางไปขึ้น Airport Rail Link ถือว่าสะดวกน้อยสุดค่ะ แต่ก็ Trade-Off กับการเดินทางด้วยรถยนต์ที่สะดวกพอสมควร และอยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์บนถนนรามคำแหง นอกจากนี้การเดินทางด้วยแท็กซี่ พี่วิน รถเมล์ รถสองแถวก็สะดวกดีทีเดียวค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ไม่ได้ลึกเข้าไปในซอยทำให้เรียกรถสาธารณะง่าย

การออกแบบโครงการ – เป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น บนพื้นที่ 2-0-25 ไร่ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ส่วนของอาคารพักอาศัย และส่วนของอาคารสำนักงานของ Major Development แต่แยกจากกันไม่รบกวนกัน แนวคิด Mid-Century Modern เป็นการปรับการดีไซน์ของยุคเก่ามีความ Retro ผสมกับความ Modern ทำให้น่าสนใจทั้งรูปลักษ์ภายนอกและภายใน แบ่งพื้นที่โครงการในส่วนต่างๆ ทั้งส่วนพักอาศัย และส่วน Facility ในโครงไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เข้าถึงได้ง่ายและใช้ร่วมกันได้สะดวก วางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันที่บริเวณชั้น 1 , 4 และ 33 ของพื้นที่โครงการ พื้นที่สวนพักผ่อนเน้นจัดพื้นที่สีเขียวไว้ตามส่วนต่างๆโดยรอบ ทำให้โครงการดูร่มรื่น โครงการจัดห้องได้ 570 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom – 2 Bedroom  ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 30 – 50.5 ตร.ม. ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด และด้วยความสูงของตัวอาคาร ทำให้ได้วิวและมุมมองเปิดกว้างได้ แต่ในทิศเหนืออาคารสำนักงานที่อยู่ในพื้นที่โครงการอาจจะบังวิวกันเองบางส่วนได้

การออกแบบห้องพักอาศัย – โครงการจัดพื้นที่ในห้องส่วนต่างๆ ได้ดีใช้งานง่าย เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ให้ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร ห้องจึงมีความโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด ในส่วนของห้องตัวอย่างที่รีวิวเป็นห้องแบบ 2 Bedroom Type 2C ขนาด 59.45 ตร.ม. ให้พื้นที่กว้าง จัดได้ลงตัวใช้งานง่าย มีความต่อเนื่องในการใช้งานในแต่ละส่วน มีพื้นที่ให้ตั้งโต๊ะทานอาหารสบายๆ แยกโซนนั่งเล่นริมระเบียง ได้แสงและวิว วางผังโดยรวมแล้วเน้นออกแบบให้ส่วนพักผ่อนหลักของห้องทั้ง ห้องนั่งเล่น และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง สามารถดูวิวภายนอกและรับแสงธรรชาติได้ดี ห้องนอนได้พื้นที่วางเตียงแล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบพอดีๆใช้งาน ส่วนระเบียงขนาดจัดมาสามารถใช้งานได้จริง เป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าได้  แต่ครัวเป็นครัวเปิดต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งานเน้นทำอาหารเบาๆ มากกว่า

วัสดุและอุปกรณ์ – ให้ของมาตราฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน ประตูหน้าห้องบานใหญ่พร้อม Digital door lock ของ HAFELE ห้องครัว นั่งเล่นและห้องนอน เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนาทั้งหมด ห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิค แต่โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted น่าจะเหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง ที่โครงการมีให้ คือ ชุดครัว Built-in  Top Counter เป็นหิน Quartz Stone และผนังครัวติดกระเบื้อง Subway Tile เหมาะกับการประกอบอาหาร และทำความสะอาดง่าย ให้ชุดเตา Hob & Hood ของ HAFELE มาให้พร้อมใช้งาน ในส่วนของห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด อ่างล้างหน้าแบบ Solid Coated ของ Lavenz โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ของ HAFELE มีฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อนให้ และติดดวงไฟภายในห้องทั้งหมดแบบดาวน์ไลท์ ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี

สาธารณูปโภค – จัดพื้นที่ส่วนกลาง facility ต่างๆเอาไว้อยู่ภายในโครงการทั้งหมดที่ชั้น 1 , 4 และ 33 แบ่งโซนการใช้งานชัดเจนไม่รบกวนส่วนพักอาศัย เข้าถึงได้ง่าย และมีความหลากหลาย พื้นที่ส่วน Co-working space , Sound Dome , Private Meeting Room , Social Lounge , Multi Purpose Room , Dynamic Fitness Center และ Boxing ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ผู้อยู่อาศัยสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ มีการจัด Pet Zone เพื่อมารองรับการใช้งานโดยเฉพาะให้  สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เหมาะกับจำนวนผู้พักอาศัย มีทั้ง Shallow Pool , Jacuzzi , Pavilion และ Pool Deck  จัดพื้นที่สีเขียว มีสวนพักผ่อนที่ชั้นบน และบริเวณโดยรอบตัวอาคาร และมีพื้นที่สำหรับล้างรถ Car wash ไว้ให้ใช้งาน  ลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้น 3 ตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 190 : 1 ถือว่าเริ่มมีความหนาแน่นเกินมาตรฐานไป แต่มีลิฟท์ sevice ให้ 1 ตัว/อาคาร แยกส่วนไว้ให้ใช้งานขนของต่างๆได้สะดวกไม่รบกวนลิฟท์โดยสารลูกบ้าน ส่วนบันไดหนีไฟในอาคาร 2 ตำแหน่ง บริเวณทั้งสองฝั่งของตัวอาคารสามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 90,000 บาท/ตร.ม.,15 August 2017

  • ทำเล 8/10 – ทำเลย่านพระราม 9 – รามคำแหง ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก หาของกินของใช้ง่ายใกล้ Foodland ไม่ไกลจากห้างและความอุมสมบูรณ์
  • การเดินทางโดยใช้รถ 7.75/10 – เข้า-ออกเมืองง่าย มีทางเข้า-ออกหลักติดถนนพระราม 9 มีเปิดทางเข้า-ออกรองออกถนนรามคำแหงได้
  • การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ในจุดที่เรียกรถง่ายมาก มีรถเมล์ รถสองแถววิ่งผ่านตลอด มี ARL รามคำแหงให้ใช้ได้ แต่ต้องนั่งรถไปอีกต่อหนึ่ง
  • การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ 8/10 – ห่างสถานีรามคำแหง 12 ประมาณ 300 ม.
  • วัสดุ 7.25/10 – ได้ของมาตรฐาน เหมาะสมกับระดับราคา ได้ Fully Fitted ได้ของบางส่วน ต้องมาต้องตบแต่งเอง
  • การออกแบบ 8/10 – จัดพื้นที่ภายในดี ใช้งานแต่ละส่วนลงตัว มีให้เลือกหลายขนาด เริ่มต้น 30 ตร.ม. ถือว่าอยู่สบายๆไม่อึดอัด และเลี้ยงสัตว์ได้
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีหลักๆให้ใช้งานครบน่าใช้งาน เน้นพื้นที่สีเขียวชั้นดาดฟ้าได้วิวมุมสูง มีจัดส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
  • UPPER CLASS
  • 7.75 / 10.00 คะแนน ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า
  • 7.82 / 10.00 คะแนน เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ

BOTTOM LINE

โครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง เหมาะสำหรับคนหาคอนโดย่านพระราม 9 – รามคำแหง ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวกเข้าเมืองง่าย สามารถใช้รถส่วนตัวหรือมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้ ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้มให้เลือกใช้อีก เป็นครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง จัดพื้นที่ห้องให้เลือกหลายแบบ มีส่วนกลางมี Facility หลากหลายน่าใช้งาน  และเลี้ยงสัตว์ได้ มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 3.2 ล้านบาทขึ้นไป ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ