รีวิวฉบับที่ 1839 …  Magnix รามอินทรา 21 คอนโด Low Rise ตัวใหม่ในย่านรามอินทรา โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ซึ่งเป็นซอยที่ใช้ลัดไปออกถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ได้ อีกทั้งยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีลาดปลาเค้าที่กำลังก่อสร้างกันอยู่  ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัช ภายในโครงการมีห้อง 1 Bedroom ให้เลือกทั้งหมด 3 Type ขนาดตั้งแต่ 23-35 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท เราไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 20 March 2019

  • Magnix Ramintra 21 (แม็กนิกซ์ รามอินทรา 21)
  • บริษัท เดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 79 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต ที่ชั้น 3-5
  • ที่จอดรถประมาณ 29 คันคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 0-1-99 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q2 / 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 / 2563
  • 1 Bedroom (Type A)  ขนาด 23-24 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (Type B) ขนาด 31 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus (Type) ขนาด C 33-35 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 73,600 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 68,000 – 84,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  :  099-454-6444

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.865164, 100.617028

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Magnix รามอินทรา 21 ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถเข้าถึงโครงการได้ทั้งจากซอยรามอินทรา19 และ ซอยรามอินทรา21 เลยนะคะ โดยมีระยะทางจากหน้าปากซอยรามอินทรา 19 เข้าไปประมาณ 285 เมตร ถือว่าเดินไม่ไกล ซึ่งภายในซอยรามอินทรา21 เองก็จะมีร้านสะดวกซื้อต่างๆเช่น 7-11 ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงมีตลาดอยู่ช่วงกลางซอย รวมๆแล้วค่อนข้างอุดมสมบูรณ์หาอะไรทานไม่ยากเลย และช่วงท้ายซอยจะมีทางไปสวนกีฬารามอินทราพื้นที่ 59 ไร่ 36 ตร.วา ที่มีสำนักสวัสดิการสังคมเข้ามาดูแลเมื่อปี พ.ศ.2535 ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นสวยงามและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และในปี 2546 ได้จัดเป็นศูนย์กีฬาขึ้นเพื่อพัฒนาให้เมืองให้น่าอยู่ ภายในมีทั้งสนามกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่ม รวมทั้งสวนสุขภาพเพื่อรองรับประชาชนในพื้นที่นี้ โดยสวนกีฬานี้ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. สามารถขี่จักรยานเข้าไปออกกำลังกายเดินเล่น พักผ่อนยามเช้า – เย็นได้สบายๆ เลยค่ะ

ทำเลนี้ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีลาดปลาเค้าอยู่บริเวณใกล้ๆกับหน้าปากซอยซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเดินทางให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและทำให้มีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบอีกด้วย ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกนี้ก็มีพอสมควรค่ะ ที่เห็นใกล้ๆเลยก็จะมีทั้งตลาดลาดปลาเค้า , เซ็นทรัลรามอินทรา , Big C Extra , The Jas รามอินทรา , อีสพาร์ค , Foodland , Tesco Lotus หลักสี่ และ Plearnary Mall ซึ่งถือว่ามีสะดวกในการจับจ่ายซื้อของพอสมควร รวมถึงยังใกล้กับสถานศึกษาต่างๆอีกด้วย แต่ถ้าหากวัดเรื่องความอุดมสมบูรณ์จริงๆ นั้นต้องยกให้แถบสะพานใหม่บนถนนพหลโยธินที่มีตลาดยิ่งเจริญ และแหล่งชุมชนที่ค้าขายเป็นเวลานาน หรือจะเป็นแถบย่านวัชรพลนั้นก็มีร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆ มากมายให้เลือกมากมายเลยค่ะ จากโครงการสามารถลัดเข้าถนนเทพรักษ์แล้วทะลุเข้าวัชรพลได้ไม่ยากเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะสามารถใช้ถนนรามอินทราเป็นหลักในการเดินทาง อีกทั้งที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยรามอินทรา กม.2 ใกล ้ถนนที่มาตัดหลายสายทั้ง ถนน พหลโยธิน, , ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนลาดปลาเค ้า, ถนนเทพรักษ์ ,ถนนวัชรพล, สุขาภิบาล 5 รวมทั้งยังใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์อีกด้วย จึงทำให้มีความสะดวกในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ถึงแม้ว่าถนนรามอินทราจะเป็นถนนที่มีการจราจรหนาแน่นทั้งเช้าและเย็น แต่ก็ยังมีเส้นทางหลบหลีกได้ โดยซอยรามอินทรา 19 , 21 ,23 นั้นสามารถใช้เส้นทางลัดไปออกถนนพหลโยธินฝั่งที่ใกล้กับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลหรือใช้ออกไปยังถนนเทพรักษ์ (ถนนตัดใหม่) ได้อีกด้วย

สำหรับทางด่วนโครงการจะใกล้กับทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) ที่เชื่อมต่อกับทางถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออก ทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ใช้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัวนั้น ปัจจุบันสามารถพึ่งพาแท็กซี่ รถตู้ วินมอเตอร์ไซต์ และรถเมล์ที่มีให้เลือกไปหลากหลายเส้นทางกันไปก่อน อีกทั้งซอยรามอินทรา 21 ถือเป็นซอยค่อนข้างใหญ่และมีรถเข้า – ออกตลอดเวลาจึงไม่เปลี่ยวเลยถ้าสาวๆ จะเดินเข้า – ออกซอยในเวลากลางคืน ส่วนในอนาคตจะมีอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดเปิดให้บริการในปี  2564 โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีลาดปลาเค้า ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตรค่ะ ตัวสถานีจะตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆหน้าปากซอยรามอินทรา  21 พอดี โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้จะไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุค่ะ

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากบริเวณหน้า It Square วิ่งขึ้นสะพานข้ามผ่านถนนวิภาวดีรังสิตมาเข้าถนนแจ้งวัฒนะ ตรงมาเรื่อยๆพอผ่านวงเวียนหลักสี่ก็จะเป็นถนนรามอินทรา โดยโครงการจะสามารถเข้าได้ทั้งจากซอยรามอินทรา 19 และ ซอยรามอินทรา 21 เลยค่ะ

วันนี้เราใช้ถนนแจ้งวัฒนะวิ่งตรงมาเรื่อยๆข้ามสะพานผ่านถนนวิภาวดีรังสิตไปที่เห็นทางฝั่งซ้ายคือ  It Square ส่วนทางยกระดับด้านหน้าเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ค่ะ

พอลงสะพานมาก็จะเป็นถนนแจ้งวัฒนะ ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอ MaxValu และ McDonald’s ให้แวะหาอะไรทานก่อนกลับบ้านได้

ตรงต่อมามุ่งหน้าตามป้ายมีนบุรีข้ามวงเวียนหลักสี่เพื่อไปออกถนนรามอินทรา ใครรีบก็สามารถขึ้นสะพานไปได้เลย

เราจะขับวนไปตามวงเวียนหลักสี่เพื่อไปออกถนนรามอินทรา บริเวณนี้จะเป็นจุดที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุค่ะ

พอเข้าถนนรามอินทราแล้วให้ตรงต่อไป ใครที่ข้ามสะพานมาก็จะลงตรงนี้พอดี

ขับมาตามทางจะเจอเซ็นทรัลรามอินทรา ห้างใหญ่ของคนย่านนี้ สังเกตทางฝั่งขวาตลอดแนวจะกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูกันอยู่นะคะ

ต่อมาก็จะเจอ McDonald’s Drive-Thru ที่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันหน่อยคือ ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก รามอินทรา

ตามมาติดๆด้วยสนามมวยลุมพินีที่อยู่ทางฝั่งขวา ตัวอาคารเป็นรูปทรงโค้งๆดูเด่นดี ใช้เป็นจุดสังเกตว่าเรากลับบ้านมาถูกทางได้

พอตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงซอยรามอินทรา 19 ค่ะ เราเลี้ยวเข้าไปกันเลย

บริเวณหน้าปากซอยนี้ค่อนข้างคึกคักมีร้านค้าและร้านสะดวกซื้ออยู่บริเวณหน้าปากซอย

หันมาอีกฝั่งหนึ่งเป็น 7-11 แบบมี All Cafe ด้านหน้ามีลานกว้างๆสามารถเอารถมาจอดได้สบายๆ ถัดไปเป็น Pet Club และ B Quik ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ทั้งเปลี่ยนยาง ซ่อมเบรก แบตเตอรี่ ฯลฯ

หน้าซอยจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย ใครขี้เกียจเดินก็หรือจะไปยังสถานที่ต่างๆแบบเร่งด่วนก็ใช้บริการพี่เค้าได้

เอาอัตราค่าบริการมาฝากกัน เรานั่งไปโครงการก็ประมาณ 10 บาทเท่านั้นเอง

จากหน้าปากซอยเดินเข้ามานิดหน่อยก็จะเห็นซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ให้เราเลี้ยวเข้าไปค่ะ

บรรยากาศภายในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 จะเป็นบ้านพักอาศัยและคอนโด Low Rise เป็นส่วนใหญ่ ซอยนี้จะสามารถลัดไปออกซอยรามอินทรา 21 ได้ค่ะ

ตรงเข้ามาอีกนิดก็จะเจอกับโครงการ Magnix รามอินทรา 21 แล้วค่ะ

ขอบเขตที่ดินตามที่เราวงสีแดงๆไว้เลย มีการล้อมรั้ว เคลียร์สิ่งปลูกสร้างและถมดินเรียบร้อย

ซอยรามอินทรา 19 แยก 4 พอตรงไปจนสุดจะไปเชื่อมกับซอยรามอินทรา 21 พอดี

ซอยรามอินทรา 21 เป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควรเลย ช่วงต้นซอยมีคอนโด Low Rise มาขึ้นกันพอสมควร พร้อมทั้งยังมีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารอยู่ตลอดทั้งซอย ช่วงกลางๆซอยมีตลาดและสามารถใช้เส้นทางตรงไปออกสวนกีฬารามอินทราได้

ส่วนสำนักงานขายจะอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะ โดยจะอยู่ติดถนนใหญ่ระหว่างซอยรามอินทรา 19 และ 21

ตอนนี้สำนักงานขายสร้างเสร็จแล้ว เราสามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่างและสอบถามข้อมูลกันได้ค่ะ

จากหน้าปากซอยรามอินทรา 21 พอมองออกไปก็จะเห็น Big C Extra ขับรถไปไม่ไกล สามารถไปหาอะไรทานหรือซื้อของใช้ของสดกันได้ ถือว่ารอบๆโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบทีเดียว

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบของโครงการในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น ที่ดินเปล่าและคอนโด Low Rise ซึ่งทางฝั่งทิศใต้จะเยื้องๆกับคอนโด H2 Wood นอกนั้นจะไม่มีตึกมาบดบังวิวในระยะประชิด ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นลานจอดรถขนาดค่อนข้างใหญ่  โดยแต่ละทิศของโครงการจะติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศใต้ – ติดกับซอยรามอินทรา 19 แยก 4 และลานจอดรถ
  • ทิศตะวันตก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ

ทิศเหนือ ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า

ทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูงประมาณ 3 ชั้น

ทิศใต้ ติดกับซอยรามอินทรา 19 แยก 4 และลานจอดรถ ติดๆกันจะเป็นคอนโด Low Rise

ทิศตะวันตก ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (ระยะทางรวมกลับรถ)

  • Foodland รามอินทรา ~ 1.4 กิโลเมตร
  • Big C Extra รามอินทรา ~ 1.5 กิโลเมตร
  • ตลาดลาดปลาเค้า ~  1.9 กิโลเมตร
  • The Jazz รามอินทรา ~  2 กิโลเมตร
  • เพลินนารี่มอลล์ ~  4.3 กิโลเมตร
  • Central Plaza รามอินทรา ~ 4.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล ~ 4.8 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus หลักสี่ ~ 6.3 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 6.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 6.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารวิทยา ~ 7 กิโลเมตร
  • Ease park  ~ 7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเสิศหล้า ~ 8.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ~ 9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ~ 9.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 9.7 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 10 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

Magnix รามอินทรา 21 เป็นคอนโด Low Rise จำนวน 79 ยูนิต โครงการนี้มีแนวคิดที่จะทำคอนโดมิเนียมดีไซน์หรูในราคาที่เอื้อมถึง ดังนั้นตัวอาคารจึงทำออกมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทา น้ำตาล และเพิ่มลูกเล่นที่ Facade หรือ การตกแต่งด้านหน้าอาคารด้วยการใช้เส้นสายและลวดลายของเปลือกไม้มาใช้ตกแต่ง 

ภาพจำลองบรรยากาศโครงการอีกมุมหนึ่งนะคะ

มาดูภาพรวมของโครงการกันก่อน ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 79 ยูนิต ทางเข้า-ออกจะอยู่ติดกับซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ Lobby และโถงลิฟต์ ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 พื้นที่ส่วนกลางนอกจากชั้นล่างแล้วยังมี Co-Working Space ที่ชั้น 2 และ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่ชั้น 8

Lobby ทำออกมาดูหรูดีนะ ด้านข้างตกแต่งผนังด้วยลวดลายที่มาจาก Logo โครงการ ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควรสำหรับคอนโด Low Rise ในระดับราคานี้ ต้องรอดูตอนสร้างเสร็จว่าเค้าจะใช้วัสดุอะไรบ้าง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเริ่มเป็นห้องพักอาศัย ชั้นนี้จะมีจำนวนห้องพักเท่ากับ 13 ห้อง มีลิฟต์ล็อคชั้น 1 ตัว และมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Co-Working Space รวมอยู่ด้วย ดังนั้นชั้นนี้จะมีคนจากชั้นอื่นลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลาง บรรยากาศจึงอาจจะคึกคักหน่อย แต่สังเกตว่าห้อง Co-Working Space จะวางอยู่ใกล้กับลิฟต์และทางโครงการก็ได้กั้นประตูแยกพื้นที่ส่วนกลางกับห้องพักไว้เป็นสัดส่วน ใครไม่ได้อยู่ชั้นนี้ ถ้าไม่มีคีย์การ์ดก็จะเข้าไปยังส่วนพักอาศัยไม่ได้ ถือเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่อยู่ชั้นนี้อีกชั้นหนึ่งค่ะ

สำหรับการจัดวางห้องพักนั้นส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ Type A – 1 Bedroom 23-24 ตร.ม. (สีน้ำตาลอ่อน) ทางด้านมุมของอาคารด้านทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Type B – 1 Bedroom 31 ตร.ม. และ Type C – 1 Bedroom Plus 33-35 ตร.ม. ห้องพักส่วนใหญ่จะวางค่อนมาทางทิศเหนือ-ใต้ดังนั้นจึงไม่มีห้องไหนที่โดนแดดร้อนในตอนบ่ายเลย ส่วนทางฝั่งหน้าอาคารที่เป็นทิศตะวันตกทางโครงการจะไม่จัดวางให้ห้องไหนมีช่องเปิดทางทิศนี้เลย แต่จะวางช่องเปิดเอาไว้บริเวณโถงทางเดินทางทิศตะวันออก-ตะวันตกแทน ช่วยให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาด้านในอาคารได้ ทำให้โถงทางเดินสว่างและช่วยลดการใช้ไฟในเวลากลางวันและอีกทั้งยังเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้อีกด้วย

บรรยากาศของห้อง  Co-Working Space ตกแต่งในโทนสีขาว มีโต๊ะทำงานให้ทั้งแบบนั่งเป็นกลุ่มและนั่งคนเดียว ห้องนี้ถ้าอยู่ในห้องเบื่อๆเราก็สามารถมาใช้อ่านหนังสือหรือนั่งทำงานตากแอร์เย็นๆได้

ส่วนชั้น 3-5 ผังจะคล้ายกับชั้น 2 เลยค่ะ เพียงแต่จะไม่มีพื้นที่ส่วนกลางแล้ว ดังนั้นจึงมีจำนวนยูนิตเท่ากับ 14 ยูนิต จากตำแหน่งของโถงลิฟต์ที่อยู่ค่อนมาทางฝั่งซ้าย ทำให้ห้องพักอาศัยจะแบ่งออกเป็นฝั่งที่ใกล้ลิฟต์และไกลลิฟต์ โดยห้องที่อยู่ห่างจากลิฟต์ถึงแม้ว่าจะต้องเดินไกลหน่อยแต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเข้ามาแทนค่ะ

ชั้น 6 มีการปรับห้องพักเล็กน้อยคือห้องทางฝั่งทิศเหนือจะมีห้องแบบ Type C – 1 Bedroom Plus 33-35 ตร.ม.เพิ่มขึ้นมาเป็น 3 ห้อง นอกนั้นเหมือนเดิมค่ะ

ถ้าสังเกตจากโมเดลจะเห็นว่าชั้น 7-8 จะมีจำนวนยูนิตที่ลดลง ดังนั้นคนที่อยู่ 2 ชั้นบนสุดจะได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น

ส่วนชั้น 7 จะเหลือจำนวนยูนิตเพียง 7 ยูนิตทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  และชั้นนี้ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางมาปะปน โดยจะมีห้องแบบ Type A – 1 Bedroom 23-24 ตร.ม.  และ Type C – 1 Bedroom Plus 33-35 ตร.ม.

ขึ้นมาชั้น 8 จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือสระว่ายน้ำและฟิตเนส การเอาพื้นที่ส่วนกลางขึ้นมาไว้ชั้นบนจะมีข้อดีคือเราสามารถใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้นและสามารถเห็นวิวที่กว้างมากขึ้น ซึ่งดีกว่าคอนโด Low Rise สมัยก่อนที่มักนิยมเอาไว้ชั้นล่างๆ

มาดูผังชั้น 8 ซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนกลางคือฟิตเนสและสระว่ายน้ำรวมอยู่ด้วย คนที่อยู่ชั้นนี้จะเดินไปใช้ส่วนกลางได้สะดวกมากๆ ในขณะเดียวกันก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีประตูกั้นระหว่างห้องพักอาศัยกับส่วนกลางอีกชั้นหนึ่ง ห้องพักของชั้นนี้จะมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น ส่วนคนที่อยู่ชั้นอื่นๆพอขึ้นลิฟต์มาจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางเลย สามารถเดินไปใช้งานได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องเดินผ่านห้องพักอาศัยของคนที่อยู่ชั้นนี้ค่ะ

ห้องฟิตเนสวางอยู่ชั้นบนสุด มีเครื่องเล่นมาให้ครบครัน และมีการออกแบบผนังเป็นกระจกทำให้เราออกกำลังกายไปชมวิวไปด้วยได้

ส่วนสระว่ายน้ำเป็นระบบคลอรีนขนาด 3 x 11 เมตร ข้างๆสระมีพื้นที่นั่งพักผ่อนและที่ล้างตัวมาให้ครบครัน

ตบท้ายด้วย VDO Presentation จากทางโครงการค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co-working Space
  • Sky Fitness
  • Sky Swimming Pool ขนาด 3 x 11 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 79 : 1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 29 คันคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

สำหรับห้องพักในโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ เป็น 1 Bedroom ทั้งหมดได้แก่  1 Bedroom  23-24 ตร.ม. , 1 Bedroom  31 ตร.ม. และ1 Bedroom Plus  33-35 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ โดยห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมมีอยู่แบบเดียวคือ  1 Bedroom  23-24 ตร.ม. นะคะ

1 Bedroom  23-24 ตร.ม. ห้องนี้ทุกส่วนกั้นเป็นสัดส่วนดี โดยเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ที่วางโต๊ะหันเข้าชนผนัง สามารถนั่งได้ 2 คน โต๊ะนี้ปรับใช้ได้ทั้งเป็นโต๊ะทานข้าวและโต๊ะทำงานเลยค่ะ ถัดไปเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในวางเตียงได้แบบ 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าแต่ไม่มีพื้นวางโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำและห้องครัวอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง สำหรับครัวทางโครงการกั้นเป็นครัวปิดมาให้ มีการจัดผังครัวเป็นสัดส่วน และเนื่องจากอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถเปิดประตูระบายอากาศเวลาทำอาหารได้ค่ะ ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน ดังนั้นถ้ามีแขกมาก็สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน แต่ถ้าเราอยู่ในห้องนอนแล้วอยากจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินไกลนิดนึงค่ะ

สำหรับโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้ตามนี้เลย เฟอร์นิเจอร์ที่ได้เป็นของ STARMARK ดีไซน์เข้าชุดกัน

ทางโครงการมี Digital Door Lock ของ Samsung ที่สามารถใช้งานได้ทั้งการ์ดและรหัส ติดตั้งมาให้ทุกห้อง

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารก่อน ฝ้าเพดานของห้องนี้สูง 2.45 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ ผนังให้เป็นฉาบเรียบทาสีนะคะ

ทางฝั่งหน้าห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่มีระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร วางโซฟาที่นั่งได้ประมาณ 2 ที่นั่ง

บริเวณหน้าห้องจะมีตู้รองเท้าและตู้เก็บของมาให้ด้วย ซึ่งฟังก์ชันนี้ถือว่าดีสำหรับคอนโดเพราะช่วยให้เราเก็บของเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่มีรองเท้ามาวางเกะกะ

ตรงกลางตู้เป็นช่องโล่งๆที่สามารถวางของตกแต่งและมีที่แขวนกุญแจบ้านมาให้

ชั้นวางทีวีจะปิดผิวด้วยลามิเนตลายหินอ่อน แบ่งออกเป็นชั้นวางของและลิ้นชักสำหรับเก็บของเล็กๆน้อยๆได้

โต๊ะอาหารทางโครงการแถมมาให้แบบนี้เลย นั่งได้ 2 ที่นั่ง ด้านข้างโต๊ะมีช่องเอาไว้เก็บหนังสือหรือของตกแต่งได้

ถัดมาด้านในจะเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วน

ห้องนอนวางเตียงได้แบบ Queen Size บรรยากาศรวมๆค่อนข้างโปร่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากช่องหน้าต่างที่อยู่ผนังด้านข้าง

สำหรับเตียงทางโครงการมีมาให้ด้วยนะ แต่จะไม่รวมฟูกและของตกแต่ง

เตียงทางฝั่งซ้ายจะวางติดผนังห้องเลย ส่วนฝั่งขวาจะมีระยะเหลือประมาณ 54 เซนติเมตร โดยหน้าบานตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นบานเลื่อน ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการเปิดบานตู้มาแล้วโดนเตียง

ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 45 เซนติเมตร เป็นระยะที่สามารถเดินผ่านได้ แต่ถ้าใครจะติดทีวีแนะนำให้ติดตั้งที่ผนังค่ะ

ผนังฝั่งที่ติดกับเตียงจะเป็นหน้าต่างกรอบบานอลูมิเนียม กระจกเขียวใสตัดแสงทั้งแผงเลย โดยด้านล่างและด้านบนจะเป็นบาน FIX ส่วนตรงกลางจะเป็นบานกระทุ้งทั้ง 3 บานที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ทั้งหมดค่ะ

สำหรับห้องนี้ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มาของจริงจะมีหน้าบานแบบบานเลื่อนมาให้ด้วย โดยจะมีบานนึงเป็นกระจกเงาให้เราตรวจสอบความเรียบร้อยตอนแต่งตัวได้

ภายในตู้มีลิ้นชักมาให้ด้วย สำหรับใช้เก็บเสื้อผ้าแบบพับ

แอร์ทางโครงการให้มาเป็นของ Carrier ห้องละ 1 ตัว อย่างห้องนี้จะได้  9000 BTU (จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนะคะ)

สวิตช์ไฟและปลั๊กได้ของ Panasonic

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ โดยของจริงทางโครงการจะกั้นประตูมาให้ด้วย ทำให้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้เต็มที่ค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นของ STARMARK มีให้ทั้งตู้ด้านล่างและด้านบน วัสดุของเคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยลามิเนต โดย Top จะเป็นลามิเนตเช่นเดียวกัน ไม่มี Backsplash หรือผนังกันเปื้อนด้านหลังมาให้

ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวและผนังมีระยะประมาณ 60 เซนติเมตร เป็นระยะที่พอดีๆกับการใช้งาน

ตู้ด้านล่างเปิดออกมามีพื้นที่เก็บของทั้งถาดใส่ช้อนส้อม ลิ้นชักและตู้เก็บของชิ้นใหญ่ๆ

อ่างล้างจานได้เป็นแบบหลุมเดียวของ HAFELE

เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัวของ HAFELE  เช่นเดียวกัน เหมาะกับการใช้งานในห้อง 1 ห้องนอน

ตู้ด้านบนเปิดออกมาก็มีช่องให้เก็บของได้เยอะอยู่ ชั้นพวกนี้สามารถปรับระดับตามการใช้งานได้นะ

เครื่องดูดควันก็เป็นของ HAFELE  เช่นเดียวกัน

ถัดจากครัวจะเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง เป็นประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีดำ

พื้นระเบียงมีขนาด 1.2 x 1.5 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรผิวด้าน เหมาะกับการใช้งานซักล้าง

Condensing Unit ของแอร์แขวนอยู่ที่ระเบียง บริเวณด้านบนผนังด้านข้าง หันหน้าออกด้านข้างโดยระยะจะอยู่สูงพอสมควร เวลาเราออกมาใช้งานที่ระเบียงก็จะไม่โดนลมร้อนค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้องจริงจะมีติดตั้งประตู PVC มาให้ด้วย

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วน พื้นและผนังปูกระเบื้องมาให้โดยรอบ วัสดุอุปกรณ์ได้ตามนี้

อ่างล้างหน้าได้แบบวางบนเคาน์เตอร์ พร้อมได้กระจกเงาติดตั้งมาให้

อ่างล้างจานได้เป็นของ American Standard ด้านล่างมีตู้เอาไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard พร้อมติดตั้งอุปกรณ์มาให้ พื้นที่โดยรอบมีระยะที่พอเหมากับการใช้งานค่ะ

พื้นที่อาบน้ำทางโครงการไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นมาให้นะ แต่เราสามารถหามาติดตั้งเพิ่มเองได้ไม่ยาก

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.85 x 0.9 เมตร มีธรณียกสูงขึ้นมากั้นกันไม่ให้น้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆ เป็นการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ดี

ฝักบัวที่ได้จะเป็นของ American Standard

1 Bedroom  31 ตร.ม. ตำแหน่งการจัดวางฟังก์ชันต่างๆจะเหมือนกับแบบ 1 Bedroom  23-24 ตร.ม. แต่จะมีพื้นที่กว้างกว่าทำให้การใช้งานในแต่ละส่วนลงตัวมากขึ้น มีพื้นที่ดูทีวีที่กว้างขึ้น ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน มีขนาดห้องใหญ่ขึ้นสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้ ส่วนห้องน้ำและห้องครัวตำแหน่งอยู่ที่เดิม ครัวเป็นครัวปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารค่ะ

1 Bedroom Plus  33-35 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาจะเจอพื้นที่นั่งเล่น ส่วนของห้อง Plus ที่เพิ่มเข้ามาจะอยู่ด้านหลังโซฟา ลักษณะการใช้งานของพื้นที่จะเหมาะกับการเอามาทำเป็นห้องทำงานหรือห้องเก็บของมากกว่าเพราะถ้าวางเตียงอาจจะแน่นๆหน่อย ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารจะจัดอยู่ในห้องครัวเป็นสัดส่วนไปเลย นั่งได้ประมาณ 2 ที่นั่ง ครัวห้องนี้เป็นครัวปิดเช่นเดียวกัน ห้องน้ำอยู่ถัดจากห้องครัวมา มีการกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 March 2019

  • 1 Bedroom Type A 23-24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type B 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus Type C 33-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.38 ล้านบาท

  • Fully Furnished 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 1 Bedroom – Type A 30,000 บาท /  1 Bedroom – Type B 40,000 บาท / 1 Bedroom Plus – Type C 50,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 15 งวด
  • ค่ากองทุน 45 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 500 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ 


เจาะลึกรวบยอด

Magnix รามอินทรา 21 เป็นโครงการในย่านรามอินทราช่วงต้นๆที่มีราคาย่อมเยา เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่พอหยิบจับได้ในทำเลที่เดินทางเข้าเมืองสะดวก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนที่ทำงานในย่านใกล้เคียงเช่น แจ้งวัฒนะ วิภาวดี สะพานใหม่ ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4  ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกนี้มีพอสมควรเลย ที่เห็นใกล้ๆจะมีทั้งตลาดลาดปลาเค้า , Big C Extra , เซ็นทรัลรามอินทรา , Big C Extra , The Jas รามอินทรา , อีสพาร์ค , Foodland , Tesco Lotus หลักสี่ และ Plearnary Mall ซึ่งถือว่ามีสะดวกในการจับจ่ายซื้อของพอสมควร รวมถึงยังใกล้กับสถานศึกษาต่างๆอีกด้วย ภายในซอยรามอินทรา21 ก็จะมีร้านสะดวกซื้อต่างๆเช่น 7-11 ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงมีตลาดอยู่ช่วงกลางซอย ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์หาอะไรทานไม่ยากเลย และท้ายซอยจะมีทางไปสวนกีฬารามอินทราด้วยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะภายในซอยสามารถเข้าถึงโครงการได้ทั้งจากซอยรามอินทรา 19 และ 21 ทั้ง 2 ซอยนี้สามารถใช้เส้นทางลัดไปออกถนนพหลโยธินฝั่งที่ใกล้กับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล และใช้ออกไปยังถนนเทพรักษ์ (ถนนตัดใหม่) ได้อีกด้วย อีกทั้งที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยรามอินทราต้นๆ ใกล้ถนนที่มาตัดหลายสายทั้ง ถนนพหลโยธิน, ถนนลาดปลาเค้า, ถนนเทพรักษ์ , สุขาภิบาล 5 รวมทั้งทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์อีกด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ปัจจุบันสามารถพึ่งพาแท็กซี่ รถตู้ วินมอเตอร์ไซต์ และรถเมล์ที่มีให้เลือกไปหลากหลายเส้นทางกันไปก่อน ส่วนในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดเปิดให้บริการในปี  2564 โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีลาดปลาเค้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆหน้าปากซอยรามอินทรา  21 ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตร ซึ่งต้องรอดูระยะตอนสถานีเสร็จอีกทีนะคะ โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้จะไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุค่ะ

วัสดุ โครงการให้วัสดุมาค่อนข้างดีเลยถ้าเทียบกับคอนโด Low Rise ระดับราคานี้ ทั้ง Digital Door Lock พื้นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ เคาน์เตอร์ครัวของ STARMARK ที่ได้ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ Hafele เฟอร์นิเจอร์ได้แบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด

การออกแบบ  ทำออกมาได้ดี ทั้งการออกแบบตัวอาคารที่มีความทันสมัย ชอบการวางผังที่วางห้องพักในแนวเหนือใต้ และไม่วางช่องเปิดของห้องพักใดๆเอาไว้ทางทิศตะวันตก การวางพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ชั้นบนสุดทำให้ใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้นและไม่ไปรบกวนส่วนพักอาศัย มีการกั้นประตูแยกพื้นที่ส่วนกลางและส่วนพักอาศัยทำให้มีความเป็นส่วนตัว แบ่งการใช้งานพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน ห้องพักวางผังได้ค่อนข้างลงตัวเลย ทุกห้องกั้นเป็นสัดส่วน ได้ครัวเป็นแบบครัวปิดหรือสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ง่ายเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร แต่ห้อง 1 Bedroom Plus ห้องที่ Plus เข้ามาจะเหมาะกับการใช้งานเป็นห้องทำงานมากกว่า ถ้าจะวางเตียงนอนจะวางได้แค่เตียงเล็กพอดีกับห้องค่ะ

สาธารณูปโภค ถือว่าให้มาครบครันทั้ง Lobby ที่ชั้นล่าง นอกจากนั้นยังมี Co-Working Space ที่ชั้น 2 ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งทำงานกันได้ และชั้นบนสุดจะมี สระว่ายน้ำและฟิตเนส ข้อดีของการเอา Facilities มาไว้ชั้นบนคือเราสามารถใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้นและสามารถเห็นวิวที่กว้างมากขึ้น

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 70,000 – 90,000 บาท/ตร.ม., 20 March 2019

  • ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยรามอินทรา 19 และ 21 มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ศูนย์กีฬารามอินทรา ถ้ามีรถไฟฟ้าจะ+ให้อีก 0.5
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 – เดินทางสะดวกมีทางลัดทะลุไปสะพานใหม่, วัชรพล, สุขภิบาล 5 ได้
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – มีรถสาธารณะให้ใช้ อยู่ห่างจากสถานีลาดปลาเค้าประมาณ 300 เมตร ถ้ามีรถไฟฟ้าจะ+ให้อีก0.5เช่นกัน
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้มามาตรฐานค่อนข้างไปทางดี ได้ Hob-Hood-Sink ของ Hafele
  • แบบ 8/10 – ออกแบบได้ดีทั้งการดีไซน์ตัวอาคาร และการวางผัง
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – จัดมาให้ครบครัน น่าใช้งาน และมี Facilities ที่ชั้นดาดฟ้า

  • MAIN CLASS
  • 7.4 / 10.00

BOTTOM LINE

Magnix รามอินทรา 21 เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยในย่านรามอินทรา โดยอาจจะเป็นคนที่ทำงานในละแวกใกล้เคียง เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก มีเส้นทางลัด และมองหาทำเลที่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ มองหาห้องแบบ 1 Bedroom ที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบ มีงบประมาณ 1.59 – 2.40 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 -17,000 บาท/เดือน