รีวิวฉบับที่ 2141 … วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปดูคอนโดตากอากาศที่ภูเก็ตกันบ้างครับ กับ Layan Green Park (ลายัน กรีน พาร์ค) คอนโด Low Rise 4 อาคาร ใกล้หาดลายัน ที่ออกแบบมาในแนวพักผ่อนเข้ากับธรรมชาติและรองรับ Univasal Design มีห้องพักให้เลือกหลายขนาด โดยมีจุดเด่นที่วัสดุภายในห้องแบบที่ส่วนใหญ่มักจะเห็นกันในคอนโดระดับ Luxury Class ในราคาเริ่มต้นที่ 3.4 ล้านบาท ลองเข้าไปชมกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

9 October 2020

  • Layan Green Park (ลายัน กรีน พาร์ค)
  • บริษัท ลายัน กรีน พาร์ค จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนลายัน (ระหว่างซอยลายัน 1 และ ซอยลายัน 2) จังหวัดภูเก็ต
  • ที่ดินประมาณ 5-3-72.60 ไร่
  • คอนโด Low Rise 7 ชั้น 4 อาคาร 403 ยูนิต
  • อาคาร A – Mangosteen 102 ยูนิต
  • อาคาร B – Leelawadee 140 ยูนิต
  • อาคาร C – Colibri 155 ยูนิต
  • อาคาร D – Building D – Duplex 6 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิตที่อาคาร C
  • ที่จอดรถประมาณ 103 คัน คิดเป็น 26% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q4 2020
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 2022
  • Studio ขนาด 30.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.48  (ราคาโปรโมชัน 3.3 ล้านบาท)
  • 1 Bed ขนาด 45.50 ตร.ม. ราเริ่มต้น 5.2 (ราคาโปรโมชัน 4.9 ล้านบาท)
  • 2 Bed ขนาด 91.10 ตร.ม. เริ่มต้น 10.47 (ราคาโปรโมชัน 10 ล้านบาท)
  • 3 Bed ขนาด 120.90 ตร.ม. เริ่มต้น 13.9 ล้านบาท (ราคาโปรโมชัน 13.2 ล้านบาท)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.48 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 114,851 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 125,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 093-698-2642

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 8.028951,98295051
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

Layan Green Park จะตั้งอยู่ใกล้กับหาดลายัน จุดเด่นของหาดนี้คือจะเป็นหาดที่เป็นอุทยาน ทำให้ไม่มีร้านค้า หรืออะไรที่วางบนชายหาด ได้ความเป็นส่วนตัวสูง สามารถเดินเล่นริมทะเล หรือลงไปเล่นน้ำได้ พื้นที่บริเวณนี้จะมีสภาพภูมิประเทศทั้งภูเขาเเละชายทะเล

ถ้าเราลองมาดูภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต เราขอแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 Zone ที่มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป

  • Zone 1 : North Beaches
    จุดเด่นของโซนนี้คือชายหาดบริเวณนี้จะมีความเงียบสงบมากกว่าหาดทางตอนใต้ เป็นชายหาดส่วนตัวหรือที่พักตากอากาศระดับหรู นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาโซนนี้จะค่อนข้างมีงบประมาณที่สูงหน่อย เดินทางมาพักผ่อน ชมท้องทะเลกันจริงจัง อสังหาริมทรัพย์ในโซนนี้จะมีทั้งวิลล่าและคอนโดตากอากาศ แถมยังใกล้กับสนามบินภูเก็ตด้วย โดยชายหาดและสถานที่สำคัญของโซนนี้มีเช่น หาดไม้ขาว, หาดในยาง, หาดในทอน, หาดสุรินทร์, หาดกมลา, หาดบางเทา และโครงการของเราก็อยู่ในโซนนี้ครับ

 

  • Zone 2 : South West Beaches
    เป็นหาดทางตอนใต้ลงมาหน่อยนี้จะมีความคึกคักมากขึ้น มีร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว Night Life เรียกได้ว่ายิ่งดึกยิ่งคึกคักครับ ซึ่งบริเวณโซนนี้มีชายหาดที่มีชื่อเสียงและสถานที่เเนะนำ เช่น หาดป่าตอง, หาดกะรน, หาดกะตะ, หาดในหาน, หาดราไวย์ จุดชมวิวสามอ่าว, จุดชมวิวกังหันลม และแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่โด่งดังมาก

 

  • Zone 3 : Phuket Town
    สุดท้ายเลยคือโซน Phuket Town หรือตัวเมืองภูเก็ตนั่นเองครับ โซนนี้ที่โดดเด่นจะเป็นย่านเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งมีที่มาจากการผสมผสานวัฒนธรรมของทั้งทางฝั่งตกวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันในช่วงที่เหมืองแร่ดีบุกเติบโต ทำให้ทั้งชาวตะวันตกเเละชาวจีนเข้ามาอยู่อาศัยที่ภูเก็ตกันมาก นับว่าสถาปัตยกรรมบริเวณนี้สามารถเล่าถึงประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ตได้เลย ในตัวเมืองภูเก็ตนี้คนที่อยู่อาศัยจะเป็นชาวภูเก็ตดั้งเดิมที่ออกไปทำงานกันตามหาดต่างๆแล้วกลับมาพักผ่อนในตัวเมือง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโซนนี้ส่วนใหญ่ราคาไม่สูงเท่าโซนตากอากาศ ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมก็สามารถหยิบจับในราคาล้านต้นๆ เราจะได้ความสะดวกสบายในด้านการเดินทางและอาหารการกินแบบ Street Food เข้ามาแทน

พื้นที่โครงการมีระยะห่างจากหาดบางเทาหรือหาดลายันอยู่ประมาณ 700 เมตร เป็นระยะที่แอบจะไกลกว่าระยะเดินไปสักหน่อย แต่ทางโครงการเองก็มีรถรับส่งให้นะครับ นอกจากนั้นตัวโครงการยังใกล้กับโซน Laguna ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่พักอาศัยที่มีราคาสูงที่สุดของภูเก็ต จะมีลักษณะเหมือนเป็นเมืองย่อมๆก็ว่าได้ มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างครบครัน ทั้งอาหารนานาประเทศ, Restaurant และ Club แบรนด์ดังระดับโลก, สนามกอล์ฟ, Gym และ Spa ขนาดใหญ่, Boat Avenue ที่มีร้านค้าขนาดใหญ่อย่าง Villa Market และร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย ด้านข้างมี Porto De Phuket ที่เป็น Avenue อีกจุดในย่านนี้ของเครือ Central ที่ภายในก็มีมาให้ทั้งร้านค้า Supermarket และร้านอาหารชื่อดังต่างๆ จัดบรรยากาศออกมาได้สวยงามน่าใช้งาน และยังเป็นสถานที่ที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เห็นกันอยู่ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นรายการกอล์ฟระดับโลก แข่งขันกีฬาทางน้ำ วิ่งมาราทอน รวมไปถึงไตรกีฬาอย่าง Iron Man  ทั้งหมดนี้สามารถใช้รถรับส่งจากโครงการไปใช้บริการได้นะครับ

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับเส้นทางการเดินทางไปโครงการ จะแนะนำจากสนามบินภูเก็ตครับ ซึ่งจะมีเส้นทางหลักๆให้เลือกใช้ 2 ทางคือทางริมหาด และทางปกติที่เป็นเส้นทางหลัก โดยเส้นทางริมหาดจะมีระยะทางใกล้กว่าครับ ได้วิวสวยด้วย แต่จะต้องขับขึ้นเขาเลาะตามแนวหาด เหมาะกับการท่องเที่ยวรับบรรยากาศ แต่เส้นทางจะทุลักทุเลกว่าหน่อย ส่วนอีกเส้นทางจะมีระยะทางยาวกว่าหน่อยแต่ขับได้สะดวก เพราะเป็นถนนที่ขับง่ายกว่าไม่ต้องขึ้นเขาครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

พื้นที่โครงการตั้งอยู่บนถนนลายัน ใกล้กับหาดลายันครับ อาจจะไม่ได้อยู่ในระยะที่ติดหาดก็จริง แต่ทางโครงการมีรถรับส่งให้นะครับ จะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เพราะเป็นเส้นทางภูเขา ในระยะประชิดจะมีแต่พื้นที่ว่างครับ ส่วนถ้ามองภาพรวมของทำเลนี้จะมีรีสอร์ทต่างๆกระจายอยู่ให้เห็นกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงใกล้กับซอยที่เชื่อมต่อไปยังหาดลายัน เป็นรีสอร์ทสไตล์พักผ่อนตากอากาศ ด้วยบริบทของพื้นที่ทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มี Club หรือสถานบันเทิงที่เปิดเพลงดังๆ ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาตามท้องถนนเหมือนอย่างทางฝั่งหาดป่าตอง แถบนี้จึงจะเหมาะกับการพักผ่อนแบบอยู่กับธรรมชาติโดยรอบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีระดับความสูงค่อนข้างหลากหลายอย่างพื้นที่ของเรา ด้านหน้าโครงการจะเป็นถนนที่เข้าโครงการ ส่วนด้านหลังและด้านข้างจะมีระดับสูงขึ้นเป็นเนินเขาครับ และการแยกอาคารพักอาศัยออกเป็นหลายอาคาร ก็จะทำให้ภายในโครงการรับวิวได้หลายรูปแบบเลย

ทิศเหนือ – ติดกับพื้นที่ว่างเปล่าประมาณ 20 เมตร ก่อนจะเป็นโครงการ Lotus Gardens ฝั่งนี้น่าจะเป็นฝั่งเดียวที่มองเห็นสิ่งก่อสร้างของโครงการอื่นในระยะที่ค่อนข้างใกล้ แต่ฝั่งนี้จะมีห้องพักอาศัยน้อย และมีเพียงที่ชั้น 1-2 ของอาคาร D เท่านั้น และโครงการเองก็ออกแบบให้มีการสร้างวิวภายในให้แก่ห้องเหล่านั้นด้วย (Pool Access) ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบเรื่องวิวนัก

ทิศตะวันออก – จะเป็นฝั่งที่ลักษณะพื้นที่เริ่มยกระดับขึ้นเป็นเนินเขา ด้านหลังจะเป็นภูเขาครับ ทำให้ฝั่งนี้วิวหลักๆของอาคาร C จะได้วิวพื้นที่สีเขียวแบบไล่ระดับและค่อนข้างหลากหลาย แต่ห้องที่หันไปทางฝั่งนี้แบบตรงๆก็ไม่ได้มีเยอะนัก

ทิศใต้ – จะเป็นทิศที่เป็นวิวของอาคาร B และอาคาร C ซึ่งส่วนของอาคาร B ที่จะอยู่ด้านหน้าโครงการหน่อย จะมองเห็นแนวถนนลายัน ที่ตัดผ่านหน้าโครงการ วิวหลักๆฝั่งนี้จะยังโล่งอยู่ครับ ได้สีเขียวกันไปเต็มๆ ส่วนวิวของอาคาร C ที่อยู่ด้านหลังจะได้วิวโล่งกว่า เห็นถนนไกลกว่าหน่อย แต่ด้านข้างก็จะมี Ocean Beach Apertment ให้เห็นบ้าง บีบมุมมองให้แคบลงหน่อย

ทิศตะวันตก – เป็นฝั่งที่อยู่ทางฝั่งเดียวกับทะเล แต่เราไม่ได้เห็นวิวทะเลนะครับ ฝั่งนี้จะมีอาคาร A ที่หันไปรับวิวเต็มๆ จะเห็นถนนลายันที่เป็นทางเข้าออกโครงการ ฝั่งตรงข้ามปัจจุบันเป็นพื้นที่ว่างเปล่า แต่ได้ยินแว่วๆมาว่าเป็นพื้นที่ของ Banyan Tree ที่เขาล้อมรั้วเอาไว้ เป็นไปได้ว่าในอนาคตจะเกิดอาคารขึ้นทางฝั่งนี้

Image 1/9
พื้นที่โครงการปัจจุบันจะมีสำนักงานขายตั้งอยู่ครับ ให้เห็นถึงแนวคิดของโครงการ

พื้นที่โครงการปัจจุบันจะมีสำนักงานขายตั้งอยู่ครับ ให้เห็นถึงแนวคิดของโครงการ

มาดูรอบๆพื้นที่โครงการกันก่อนครับ จะเป็นพื้นที่ว่างซะทั้งหมดเลย บรรยากาศต่างๆดังในรูปเลยครับ

Image 1/4
ประมาณ 700 เมตร จากโครงการก็จะถึงหาดลายันแล้วครับ เป็นหาดยาวที่เป็นอุทยาน ทำให้ไม่มีร้านค้ามาตั้งหรือแผงลอยขายของตามชายหาด ดังนั้นจึงจะได้ความเป็นส่วนตัวสูง ช่วงที่ผมไปถ่ายฝนตกค่อนข้างแรงทำให้บรรยากาศดูชุ่มฉ่ำไปหน่อยนะครับ

ประมาณ 700 เมตร จากโครงการก็จะถึงหาดลายันแล้วครับ เป็นหาดยาวที่เป็นอุทยาน ทำให้ไม่มีร้านค้ามาตั้งหรือแผงลอยขายของตามชายหาด ดังนั้นจึงจะได้ความเป็นส่วนตัวสูง ช่วงที่ผมไปถ่ายฝนตกค่อนข้างแรงทำให้บรรยากาศดูชุ่มฉ่ำไปหน่อยนะครับ

ซึ่งถ้าห่างออกมาในระยะประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีแหล่งความเจริญมากมายเลย ซึ่งในย่านนี้ก็จัดว่าเราอยู่ใกล้กับแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่เหมือนกันครับ อีกทั้งยังมีหาดลายันในระยะประมาณ 700 เมตร ลองไปชมบรรยากาศกันครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Dream Beach ~ 600 m.
  • หาดบางเทา (หาดลายัน) ~ 700 m.
  • สนามกอล์ฟ Laguna ~ 2.9 km.
  • Xana Beach ~ 3.1 km.
  • Boat Avenue ~ 4.9 km.
  • Porto De Phuket ~ 5.1 km.
  • Catch Beach Club ~ 8 km.
  • หาดสุรินทร์ ~ 9.4 km.
  • อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ~ 11.2 km.
  • ภูเก็ตแฟนตาซี ~ 12.8 km.
  • Phuket International Airport 12.9 km.
  • หาดป่าตอง 22.1 km.
  • Phuket Old Town (markets and dining) ~ 24 km.
  • Central Floresta Department Store ~ 24.3

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการประมาณ 5 เกือบ 6 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนลายันใกล้กับหาดลายัน ภายในแยกออกเป็น 4 อาคาร วางตามแนวพื้นที่โครงการครับ ตัวโครงการจะมีแนวคิด ” First Eco Family Friendly” ซึ่งก็จะอิง Character ของย่านนี้ ที่จะมุ่งเน้นไปที่การพักผ่อนกับธรรมชาติ เน้นสุขภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตัวโครงการได้ EDGE Certificate (EDGE (Excellence in Design for Greater Efficiencies) is a green building certification system) ด้วย โดยถูกนำไปใช้ในหลายๆส่วนของโครงการ เช่นการใช้แผง Solar Cells เพื่อนำไฟไปใช้สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง งดการใช้กระดาษทิชชู่ภายในโครงการ จะใช้เป็นผ้าขนหนูแทน นำไปทำความสะอาด และอีกหลายๆส่วน แถมยังรองรับ Universal Design ในทุกๆพื้นที่ด้วย

ตัวอาคารแบ่งออกเป็นอาคาร A ฝั่งหน้าสุด อาคาร B อยู่ทางฝั่งทิศใต้ อาคาร C อยู่ด้านในที่สุดของพื้นที่ทางฝั่งทิศตะวันออก และอาคาร D ทางฝั่งทิศเหนือ ซึ่งแต่ละอาคารก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ก่อนที่จะเข้าไปชมรายละเอียดแต่ละอาคาร ลองมาดูรูปแบบในการจัดการของโครงการกันก่อนครับ

ภายในโครงการเองจะมีรูปแบบการจัดการลักษณะเหมือนโรงแรมเลย คือมีการ Service ส่วนต่างๆให้ ทั้งการทำความสะอาดห้อง, การใช้รถรับส่งในระยะใกล้เคียง, จ้าง Nanny สำหรับเลี้ยงเด็ก, มีการจองแพ็ตเกจท่องเที่ยวให้ และมีรูปแบบการขายที่รองรับสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อลงทุน 2 รูปแบบคือ

  • Guarantee Return : ซึ่งจะเป็นการทำสัญญากับโครงการ 3-5 ปี เพื่อปล่อยห้องให้โครงการช่วยดูแล และทำการปล่อยเช่าให้ โดยจะได้รับผลตอบแทน 7% ต่อปี โดยจะเริ่มหลังจากตึกสร้างเสร็จแล้ว 1 ปี และหลังจากหมดสัญญานี้จะเข้าสู่ระบบ Profit Sharing ที่เจ้าของห้องจะได้รับผลประกอบการ 60% และโครงการ 40% คล้ายๆกับ Rental Pool ในนหัวข้อถัดไป ข้อดีของรูปแบบนี้คือได้เงินและผลตอบแทนที่แน่นอน เราไม่ต้องจัดการอะไรมาก แต่ข้อเสียคือเราจะมาเข้าพักเองได้เพียงแค่ 15 วันต่อปีเท่านั้น จะเหมาะกับคนที่ต้องการซื้อลงทุนแบบไม่ต้องเข้ามาดูแลมากนัก และไม่ได้เข้ามาพักบ่อย
  • Rental Pool  : คือเป็นรูปแบบที่โครงการดูแลห้องให้ ปล่อยเช่าให้ แต่แบ่งรายได้จากค่าเช่ากัน เจ้าของห้อง 60% และโครงการ 40% ของค่าเช่าทั้งหมดที่ได้ ข้อดีคือเราสามารถมาพักผ่อนเมื่อไหร่ก็ได้ (แต่วันที่จะสามารถปล่อยเช่าก็ลดลง ทำให้รายได้จะลดลงด้วยเช่นกัน) แต่ก็จะได้รายได้ที่ไม่แน่นอนเพราะขึ้นอยู่กับค่าเช่าที่เก็บได้ รูปแบบนี้จะเหมาะกับคนที่มาเที่ยวหรือมาพักผ่อนบ่อย อยากมีบ้านพักตากอากาศ แต่วันที่ไม่มาก็สามารถได้ผลตอบแทนด้วยเช่นกัน

ที่ตั้งโครงการจะอยู่บนถนนลายันครับ และจะมีทางเข้าออกทางนี้เลย ตัวโครงการห่างกับหาดประมาณ 700 เมตร แต่ต้องเดินไปภายในซอยนะครับ ไม่ใช่แบบในโมเดล ด้านหน้าจะมีพื้นที่จอดรถ และใต้อาคาร B รวมทั้งหมดประมาณ 103 คัน คิดเป็น 26% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งอาจจะดูน้อยนะครับ แต่จัดว่าก็เยอะกว่าโครงการใกล้เคียงในย่านนี้แล้ว

อาคารแรกเป็นอาคาร A ชื่ออาคารว่า Mangosteen ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดเลย จะมีทั้งหมด 102 ยูนิต มีจุดเด่นที่ใกล้พื้นที่จอดรถและใกล้กับทางเข้าออกโครงการ ทำให้สามารถเข้าออกได้ง่ายและสะดวก มีวิวด้านหลังอาคารที่ได้รับแนวพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มๆ จัดเป็นวิวที่สวยเลยทีเดียว

อาคารถัดมาเป็นอาคาร B มีชื่ออาคารว่า Leelawadee มีจำนวนทั้งหมด 140 ยูนิต มีรูปแบบห้อง Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom, 3 Bedroom ครับ ข้อดีคือจะมีชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถ เข้าถึงตัวอาคารได้ง่าย มีฝั่งที่ได้รับวิวพื้นที่ส่วนกลาง และฝั่งที่รับวิวภายนอกโครงการให้เลือก

เข้ามาด้านในที่สุดของพื้นที่จะเจอกับอาคาร C ที่มีชื่อว่า Colibri ซึ่งเป็นอาคารที่ค่อนข้างจะแยกออกไปเป็นของตัวเอง เพราะอยู่ด้านในสุด มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นของตัวเอง (สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดทั้งโครงการ) ข้อดีคือได้ความเป็นส่วนตัวสูง วิวทั้งสองฝั่งค่อนข้างดี ไม่เห็นแนวอาคารอื่นแบบชัดเจน แต่ข้อเสียคือจะเข้าออกอาจจะไกลกับพื้นที่จอดรถและด้านหน้าโครงการหน่อย แต่สำหรับใครที่สนใจอาคารนี้ก็ต้องเสียใจด้วยนะครับ เพราะถูกเหมาซื้อหมดไปแล้วทั้งตึก มาเช่าพักผ่อนเอาเนอะ

ซึ่งจุดเด่นหลักๆของอาคาร C คือจะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ค่อนข้างเยอะ ทั้งสองชั้นทั้งภายในและภายนอก

ด้านบนจะมีสระว่ายน้ำให้ความยาวตามแนวอาคารประมาณ 42 เมตร พร้อมพื้นที่สำหรับเด็กและสนามเด็กเล่น ซึ่งจะมีห้องที่รับวิวสระด้วย

ด้านหลังของอาคารจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง น่าจะเป็นมุมโปรดของสายสุขภาพเลยล่ะครับ

มาดูอาคาร D กันต่อเลย เป็นอาคารที่เรียกว่าเป็น Clubhouse หรือพื้นที่ส่วนกลางก็ว่าได้ เพราะมีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้นในชั้น 1 เป็นห้อง Deplex ทั้งหมด แล้วก็ขายออกไปหมดแล้วด้วย นอกจากนั้นภายในอาคารจะมีร้านอาหาร ส่วนของห้องออกกำลังกาย และสปา ครับ

ส่วนของห้อง Duplex จะเป็นแบบ Pool Access นะครับ มีสระว่ายน้ำให้ด้านหลัง แอบเสียดายแทนที่ขายหมดไปแล้ว

มาต่อกันที่พื้นที่ส่วนกลางหลักตรงกลาง ที่เป็นสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ท ที่เป็นแบบ Free Form พร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระรอบพื้นที่เลย ด้านในใกล้กับอาคาร C จะมีพื้นที่ Co-Working Space เล็กให้ด้วย ที่นี่ Free Wifi ให้ทั้งพื้นที่โครงการเลยนะครับ

พื้นที่สระว่ายน้ำของที่นี่จะยาว 45 เมตร มีสระเด็กภายใน ซึ่งความยาวของสระเป็นระยะที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้เต็มที่ และก็มีลักษณะที่ว่ายแบบผ่อนคลายหรือพักผ่อนก็ได้ด้วยเช่นกัน

Image 1/6
ส่วนของ Lobby โครงการจะอยู่ที่อาคาร A สำหรับรับแขกและรับรองตั้งแต่พื้นที่แรกของโครงการเลย

ส่วนของ Lobby โครงการจะอยู่ที่อาคาร A สำหรับรับแขกและรับรองตั้งแต่พื้นที่แรกของโครงการเลย

มาดูพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารกันต่อเลยครับ

มาดูรายละเอียดของพื้นที่ส่วนกลางกันต่อเลยครับ ส่วนตัวผมชอบการที่เขากระจายพื้นที่ส่วนกลายออกเป็นหลายจุด เพื่อกระจายจำนวนการใช้งานของผู้ใช้ออกไปหลายจุด จะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นในแต่ละพื้นที่ รวมถึงแยกสัดส่วนของลักษณะพื้นที่ส่วนกลางไว้แยกกัน เช่นพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างเช่นสปา ร้านอาหาร ก็แยกออกจากส่วนของพื้นที่เด็ก และพื้นที่ออกกำลังกาย เป็นต้นครับ

อาคาร A

  • Main Entrance
  • Main Lobby With Reception
  • Lounge Area With Cafe and Bar
  • Parking

อาคาร B

  • Parking

อาคาร C

  • Kid’s Club and Playground
  • Outdoor Sports Ground
  • Running Track
  • Yoga Area

อาคาร D

  • Restaurant
  • Bar
  • Indoor Gym

 

1st floor

มาดูผังกันต่อเลยครับ ชั้น 1 ส่วนของอาคาร A และใต้อาคาร B จะเป็นพื้นที่จอดรถ พื้นที่พักอาศัยจะอยู่ที่อาคาร B, C และ D โดยอาคาร B จะมีทั้งหมด 20 ยูนิต มีห้อง Studio, 1 Bedroom และ 3 Bedroom 1 ยูนิต จุดเด่นคือห้องชั้นนี้ในฝั่งทิศใต้ที่จะเป็นห้อง Studio และ 1 Bedroom จะมีพื้นที่สนามหญ้าหลังห้องให้ด้วย สามารถเป็นพื้นที่พักผ่อนภายนอกได้ แต่ไม่สามารถต่อเติมได้นะครับ ส่วนอาคาร C จะมีทั้งหมด 17 ยูนิต มีห้องทุกรูปแบบเลยยกเว้น Duplex จุดเด่นของชั้นนี้คือจะมีห้องวิวสระให้ที่ห้องชั้น 1 ครับ แต่อย่างที่บอกไปว่าอาคารนี้ขายหมดไปแล้วนะ ส่วนอาคาร D จะเป็นห้อง Duplex แบบ Pool Access ทั้งหมด 6 ยูนิต ครับ

พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นนี้เกือบจะทั้งหมด โดยหลักๆจะอยู่ที่อาคาร D และ C นอกจากนั้นก็มีสระว่ายน้ำยาวตรงกลางพื้นที่โครงการ

ขึ้นมาที่ชั้น 2-8 จะมีการวางรูปแบบห้องเหมือนกันทั้งหมด ใกล้เคียงกับชั้น 1 เริ่มที่อาคาร A เริ่มเป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย ประกอบไปด้วยห้อง Studio และ 1 Bedroom ส่วนอาคาร B เหมือนเดิม อาคาร C จะเป็นห้อง Studio และ 1 Bedroom ทั้งหมด ส่วนอาคาร D จะเป็นชั้นสองของห้อง Duplex โดยทั้ง 3 อาคาร A, B, C จะเป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว/อาคาร เหมือนกันทั้งหมดครับ

ชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สีเขียว และวางแผง Solar Cells ครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร A

  • Main Entrance
  • Main Lobby With Reception
  • Lounge Area With Cafe and Bar
  • Parking

อาคาร B

  • Parking

อาคาร C

  • Kid’s Club and Playground
  • Outdoor Sports Ground
  • Running Track
  • Yoga Area

อาคาร D

  • Restaurant
  • Bar
  • Indoor Gym

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 67 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 51 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 70 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 78 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 103 คัน คิดเป็น 26% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card
  • แบบห้อง

    ห้องพักอาศัยของที่นี่จะขายในรูปแบบ Fully Furnished แต่ไม่ได้ให้เฉพาะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in เท่านั้นนะครับ ของตกแต่งทุกชิ้นภายในห้องตัวอย่างเราก็จะได้ไปด้วย ย้ำว่า ทุกชิ้น !!! จริงๆ ตั้งแต่พวกจานชามช้อนส้อม ไปจนถึงของตกแต่ง ภาพวาดติดผนัง หรือแม้กระทั่งของเล่นภายในห้อง เรียกว่ามาครบพร้อมใช้งานกันได้เลย

    ส่วนวัสดุอุปกรณ์ภายในห้องพื้นฐานที่ได้มาจะเริ่มตั้งแต่ ด้านหน้าจะมีปุ่มสัญลักษณ์หน้าห้องให้กดว่าจะ Make Up Room (ทำความสะอาด) หรือ Do Not Disturb (ห้ามรบกวน) สำหรับบอกแม่บ้านให้ด้วย สวิทช์และปลั๊กทุกอย่างในห้องเป็นของ Art DNA ครับ พื้นภายในห้องจะเป็น Vynil ผนังจะเซาะร่องทำแนวและทาสีให้ ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight ส่วนใกล้หน้าต่างจะซ่อนรางม่ายไว้ให้ด้วย ส่วนครัวจะได้ Top และ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ อ่างล้างจานสเตนเลส, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก Hafele หน้าบานเคาน์เตอร์ต่างๆเป็นลามิเนต ทุกหน้าบานในห้องจะเป็น Soft Close นะ ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ทุกอย่างของ Hafele จะได้เป็นโถแบบแขวนผนัง และอ่างล้างหน้าแบบฝังบนเคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์ ได้ฉากกั้นอาบน้ำและส่วนอาบน้ำมาทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ประตูหน้าต่างจะเป็นกรอบบานอลูมิเนียม Anozide กระจกเขียวใสตัดแสง ระบบปรับอากาศภายในห้องจะเป็น Concealed Type ใช้ระบบ VRV ซึ่งจะทำให้ไม่มี Condensing Unit ภายในห้องครับ นอกจากนี้ยังมี Home Automation สำหรับควบคุมการปิด-เปิด ไฟ และเครื่องปรับอากาศภายในห้องได้ ต่อเป็น Application เข้ากับ Mobile หรือ Ipad ได้

    มาดูห้องแบบแรกกันเลยกับ Studio ขนาด 30.32 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่ได้พื้นที่ใช้สอยภายในมาให้ค่อนข้างใหญ่ เข้ามาจะเจอกับครัวเปิดก่อนเลยครับ เป็นเคาน์เตอร์แนวยาว สามารถใช้งานได้ง่าย ด้านข้างเป็นห้องน้ำของห้องนี้ แบ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจน ด้านในจะเป็นพื้นที่กลางของห้องที่เขา Built-in ชั้นวางทีวีที่ทำเป็นพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหารได้และตู้เสื้อผ้ามาให้เลย พื้นที่นี้สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ซึ่งเราจะได้ทั้งหมดรวมถึงโต๊ะหัวเตียงมาด้วย ด้านในสุดเป็นระเบียงที่สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มที่เพราะไม่ต้องวาง Condensing Unit ทางโครงการจะให้ชุดโต๊ะกาแฟมาด้วยครับ

    ด้านหน้าห้องจะมีปุ่มสัญลักษณ์ให้กดว่าจะ Make Up Room (ทำความสะอาด) หรือ Do Not Disturb (ห้ามรบกวน) สำหรับบอกแม่บ้านครับ

    ประตูแบบไขกุญแจจาก Hafele

    เข้ามาจะเจอกับส่วนครัวครับ พื้นที่ตรงนี้จะสูง 2.4 ม. ส่วนด้านในห้องจะสูง 2.7 ม. นะครับ

    ด้านหน้าจะ Built-in ตู้เก็บของและรองเท้าด้านหน้ามาให้พร้อมเลย ส่วนนี้จะมีความกว้างอยู่ประมาณ 1.2 เมตร เป็นระยะที่ถึงจะมีคนยืนทำครัวอยู่ก็สามารถเดินเข้าออกได้สะดวกสบายเลยครับ

    เก็บได้ค่อนข้างเยอะ และออกแบบให้เรียบเนียนไปกับผนัง

    ชุดครัวจะได้ตามนี้เลยครับ ด้านล่างจะเป็นลามิเนตทำสี High Gloss ส่วนด้านบนเป็นลายไม้ เปิดใช้งานได้หลากหลายและเก็บของได้เยอะ ใต้เคาน์เตอร์ครัวจะได้เครื่องซักผ้าแบบเปิดด้านหน้ามาให้ด้วย

    ส่วนครัวจะได้ Top และ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ อ่างล้างจานสเตนเลส, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก Hafele ข้อดีของหินสังเคราะห์คือทนทานทั้งน้ำและความร้อน มีผิวมันทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

    ของตกแต่งทั้งหมดที่เราเห็นในภาพจะได้มาด้วยนะครับ จานชามช้อนส้อม กระปุกพริกไทยและเกลือ กะทะหม้อและตะหลิวต่างๆ ได้ทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งกาน้ำดิปกาแฟ (แต่เมื่อตอนตึกเสร็จอาจจะไม่ได้หน้าตาแบบนี้ ต้องลองไปเช็คกับโครงการอีกทีนะครับ)

    มองเข้าไปต่อด้านในจะมีห้องน้ำด้านข้างครับ พร้อมทั้งชั้นวาง Built-in มาให้เรียบร้อย

    ภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ทุกอย่างของ Hafele โดยจะใช้อุปกรณ์เป็นสีดำด้าน ตกแต่งภายในห้องด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่สีโทนอ่อน ทำให้ดูสะอาดและกว้างมากยิ่งขึ้น

    จะได้เป็นโถแบบแขวนผนังและอ่างล้างหน้าแบบฝังบนเคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์

    พื้นที่ให้ใช้งานได้เยอะ และด้านล่างสามารถเก็บของได้ด้วย ทุกอย่างที่เห็นบนเคาน์เตอร์เราจะได้อีกเช่นกันครับ

    มาพร้อมกระจกเงาที่มีไฟในตัว ให้มาแบบนี้เลยครับ ด้านข้างมีตู้เก็บของหน้าบานเปิดแบบ Soft Close ให้

    โถสุขภัณฑ์ลักษณะนี้เราไม่ค่อยจะได้เห็นกันเท่าไหร่นัก (ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในคอนโดราคาสูง) ข้อดีคือไม่มีรอยต่อเยอะ ทำความสะอาดง่าย ไม่มีพื้นที่สะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียเยอะ ประหยัดพื้นที่ภายในห้องน้ำ ดูสวยและทันสมัย ด้านหลังมีผนัง Low Wall ที่ปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์มาให้วางของกันด้วย ติดตั้งไฟไว้ให้ด้วยนะ

    ได้ฉากกั้นอาบน้ำและส่วนอาบน้ำมาทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ทำสีดำด้านมาให้ มีพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ ปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์

    ส่วนอาบน้ำของที่นี่จะมีขนาดประมาณ 1 x 1.1 เมตร มีธรณีเป็นหินสังเคราะห์ให้ พร้อมจุดระบายน้ำที่เรียบสนิทไปกับพื้น

    ออกมาด้านนอกจะมี Built-in ลายไม้มาให้ ทั้งข้างห้องน้ำและฝั่งข้างเคาน์เตอร์ครัว เป็นหน้าบาน Soft Close ทั้งหมด เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นและไมโครเวฟ รวมถึงของตกแต่งบนชั้นวางทุกชิ้นเราจะได้มาด้วยเช่นกัน (หน้าตาของตกแต่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่จะได้จำนวนชิ้นเท่านี้เลยนะครับ)

    ด้านในเป็นห้องนอนครับ เขาจัดวางไว้ให้ทั้งหมดแล้ว ได้ทุกอย่างหน้าตาแบบนี้เลย

    ขนาดพื้นที่ภายในห้องจัดว่ากว้าง เพราะวางเตียง King Size แล้วก็วางโต๊ะหัวเตียงได้อีก 2 ข้าง เตียง ฟูก ผ้าห่ม หมอนและหมอนเสริม โต๊ะหัวเตียง จะได้แบบนี้ทั้งหมดเลย

    ด้านบนจะมีโคมไฟและส่วนประดับตกแต่งที่ทำจากการรีไซเคิลขยะจากทะเลเป็นประการังแขวนผนังก็ให้มาด้วย ด้านข้างได้กระจกเงาติดมาให้

    ส่วนฝั่งทีวีก็จะ Built-in ผนังและซ่อนไฟมาให้แบบนี้เลย จะได้แนวเคาน์เตอร์ยาวพร้อมเก้าอี้สองตัว อย่าเพิ่งงงกันนะครับว่าเอาเก้าอี้มาทำอะไร 2 ตัว

    เคาน์เตอร์ที่ Built-in มาให้สามารถดึงโต๊ะออกมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารได้ด้วย ของจริงดูแข็งแรงและสามารถใช้งานได้จริง เราจะได้ทุกอย่างที่เห็นบนเคาน์เตอร์นี้ยกเว้น Ipad นะ (ของเล่นบนโต๊ะนั่นเราก็ได้นะครับ)

    ประตูเชื่อมต่อออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียม กระจกเขียวใสตัดแสงสูงถึงฝ้า ที่จะสามารถเปิดได้กว้างเลย รับลมและบรรยากาศได้อย่างเต็มที่

    ภายนอกระเบียงมีขนาดประมาณ 3.9 x 1 เมตร ได้แนวกันตกเป็นกระจกแบบไม่มีกรอบบานมาให้แบบนี้เลย

    ภายนอกจะได้ชุดโต๊ะกาแฟมา 1 ชุดตามนี้ (ที่เขี่ยบุหรี่ก็ให้มาด้วย) ด้านในจะมีแนวระแนงปิดไว้ให้ ตรงนี้เราใช้พื้นที่ได้เต็มที่เลย เพราะนอกจากจะไม่มี Condensing Unit แล้ว ก็ไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าด้วย (อยู่ใต้เคาน์เตอร์ครัว)

    มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องจะเห็นได้เลยว่าค่อนข้างกว้าง และดูสวยงามน่าพักผ่อนจริงๆ ด้วยโทนสีของการตกแต่ง เครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type ที่ดูเรียบร้อยกลมกลืนไปรับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งเราจะได้แบบท่ีตกแต่งมาให้แบบนี้ทุกอย่างเลยครับ

    ตู้เสื้อผ้าด้านในก็ให้มาแบบนี้ครับ มีหน้าบานแบบ Soft Close และไฟซ่อนไว้ให้ด้านใน มีตู้เซฟและด้านข้างจะมีชั้นวางของและเช่นเคยครับ แถมของตกแต่งมาให้ครบตามที่เห็น

    ขยับขึ้นมาดูที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 45.40 ตร.ม. กันหน่อย เป็นผังห้องแบบที่คุ้นเคยกันอยู่แล้วแหละ แบ่งส่วน Common Area และ Living Area ไว้ชัดเจน โดยส่วนแรกของห้องจะเป็นครัวเปิดที่ได้เคาน์เตอร์ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็นแบบตัว U ด้านข้างจะได้ห้องน้ำมาให้ ส่วนด้านในห้องจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านข้างแยกส่วนออกไปเป็นห้องนอนที่มีระเบียงภายในตัวมาให้ครับ

    เปิดประตูมาเจอกับส่วนของครัวก่อนเลยครับ เช่นเดิม แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม

    ด้านหน้าจะมีตู้ Built-in ข้างประตูเช่นเดิม

    ในส่วนของห้องนี้จะเป็นพื้นที่เก็บเครื่องซักผ้า และชั้นวางของ ตรงนี้แอบเสียดายที่เก็บรองเท้าไม่ได้ ทำให้อาจจะต้องนำเข้าไปเก็บภายในห้อง ซึ่งก็อาจจะทำให้สิ่งสกปรกเข้าสู่ตัวห้องได้ง่าย

    ด้านข้างจะเป็นครัวตัว L ที่มีลักษณะโดยรวมเหมือนเดิมกับห้องที่แล้วครับ

    ส่วนครัวจะได้ Top และ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ อ่างล้างจานสเตนเลส, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก Hafele หน้าบานต่างๆเป็นลามิเนต

    ด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ที่จัดโต๊ะมาให้แบบ 4 ที่นั่ง

    จะได้ทุกอย่างตามที่เห็นในภาพครับ ทั้งจานชามช้อนส้อม ผ้าปู แก้วน้ำ รวมถึงผ้ากันเปื้อนด้วย

    ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เก็บของให้อีกที่ สามารถใช้เก็บรองเท้าได้เหมือนกัน

    ด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับแขก ซึ่งจะได้ทุกอย่างตามนี้เช่นเคย จะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร เหมาะกับทีวีขนาดประมาณ 50-52 นิ้ว

    ชุดโซฟาตัว L โต๊ะกลาง และเก้าอี้นั่งแยก รวมถึงหมอนต่างๆ ก็จะได้ตามนี้ครับ

    ส่วนฝั่งทีวีจะ Built-in ผนังซ่อนไฟมาให้ ด้านล่างเป็นชั้นเก็บของ พวกของเล่นและของตกแต่งรวมถึงต้นไม้ก็จะได้มาด้วยแบบนี้เช่นกัน

    ด้านในจะได้ช่องแสงหลักของห้องเป็นกระจกบานเลื่อนที่เปิดรับลมระบายอากาศได้ดีเลย ซ่อนรางม่านมาให้เช่นเดิม

    ส่วนของห้องนอนจะแบ่งด้วยประตูบานทึบ ทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่ มีแขกมาที่ห้องก็ไม่ต้องกังวล ไปดูภายในห้องนอนด้านข้างกันครับ

    ลักษณะห้องนอนจะตกแต่งคล้ายๆกันกับห้อง Studio ครับ

    ผนังจะเซาะร่องไว้ให้ลักษณะนี้เลย มีทีวีแขวนผนังมาให้

    ผนังด้านหลังเตียงก็ตกแต่งมาให้เช่นเดิมครับ ได้โคมไฟ ของประดับ และกระจกเงา

    ด้านข้างออกไประเบียงด้านนอก ของห้องนี้จะเปิดหน้าต่างได้ทีละบานนะ

    ระเบียงด้านนอกมีลักษณะเหมือนเดิมครับ มีขนาดประมาณ 2.8 x 1 เมตร ให้ชุดโต๊ะกาแฟมาเช่นเดิม

    ด้านในของห้องนี้จะมีส่วนที่เป็น Walk-in Closet ซึ่งจะช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัวของห้องนอนมากยิ่งขึ้น เช่นเวลาคุณผู้หญิงตื่นขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ในขณะที่คุณผู้ชายกำลังนอนอยู่ก็สามารถปิดประตูแบ่งกั้นส่วนไปเลย ไม่รบกวนกัน จะได้เครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type เช่นเดิม

    พื้นที่ Walk-in Closet จะแบ่งกั้นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนแบบรางแขวนด้านบน ทำให้พื้นเรียบเสมอกัน ไม่ต้องกังวลจะเดินเตะ พื้นที่ภายในมีขนาดประมาณ 1.6 x 0.9 เมตร ยืนใช้งานได้สบาน ด้านล่างมีไฟติดมาให้ด้วย

    ซ้ายและขวาจะมีตู้เสื้อผ้าขนาบข้างมาให้ลักษณะนี้ครับ จะได้ของตามนี้ทั้งหมดเลย ด้านในมีไฟซ่อนมาให้ด้วย

    ภายในห้องน้ำจะตกแต่งเหมือนเดิมกับห้อง Studio เลยครับ แต่จะมีลักษณะของพื้นที่แตกต่างจากเดินเล็กน้อย

    ประตูห้องน้ำจะไม่มีนะครับ ใช้เป็นส่วนเดียวกันกับประตู Walk-in Closet เลย ทำให้รู้สึกใช้งานห้องน้ำแล้วกว้างขึ้นไปอีก ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็เป็นแบบแขวนผนังเช่นเดิม ด้านหลังมี Low Wall พร้อมตู้ด้านบน

    ส่วนของอ่างล้างหน้าก็เป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์เช่นเดิมครับ ได้ Top หินสังเคราะห์ และบานเปิดเก็บของด้านล่าง ส่วนด้านบนได้กระจกเขาขนาดใหญ่พร้อมไฟในตัว ด้านข้างมีที่เก็บของมาให้อีก

    ส่วนอาบน้ำได้มาแบบเดิม ด้านฉากกั้นอาบน้ำค่อนข้างมิดชิด มีธรณีหินสังเคราะห์มาให้ ส่วนอาบน้ำภายในจะได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower พร้อมพื้นที่วางของด้านข้าง

    ส่วนอาบน้ำจะมีขนาดประมาณ 0.9 x 1 ตร.ม. ครับ ใช้งานได้สะดวก

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

    ราคา

    9 October 2020

    • Studio ขนาด 30.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.48 (ราคาโปรโมชัน 3.3 ล้านบาท)
    • 1 Bed ขนาด 45.50 ตร.ม. ราเริ่มต้น 5.2 (ราคาโปรโมชัน 4.9 ล้านบาท)
    • 2 Bed ขนาด 91.10 ตร.ม. เริ่มต้น 10.47 (ราคาโปรโมชัน 10 ล้านบาท)
    • 3 Bed ขนาด 120.90 ตร.ม. เริ่มต้น 13.9 ล้านบาท (ราคาโปรโมชัน 13.2 ล้านบาท)

    • รูปแบบการขาย Fully Furnished
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
    • มีรถ Shuttle Bus รับส่งพื้นที่โดยรอบได้
    • จอง 100,000 บาท
    • ทำสัญญา 15%
    • ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

    สำหรับชาวกรุงเทพที่สนใจ โครงการจะมีไปออกบูทที่ Emporium​ วันที่ 30 ตุลาคม​-1 พ.ย 63 นี้นะครับ

    บทสรุป

    ทำเล : จัดเป็นทำเลพักผ่อนที่อยู่ในย่านที่มีเอกลักษณ์ของพื้นที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบของภูเก็ต เป็นพื้นที่ใกล้แหล่งความเจริญอย่าง Laguna ที่เป็นพื้นที่พักอาศัยขนาดใหญ่และมีราคาสูง แถมยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติเยอะ สะท้อนให้เห็นจากร้านอาหารนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศษ อิตาเลี่ยน รวมไปถึงแม็กซิกัน และทางฝั่งตะวันออกกลาง มีร้านค้าและร้านอาหารรองรับหลายจุด เช่น Boat Avenue, Porto De Phuket และยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆค่อนข้างบ่อย ไม่ว่าจะเป็นรายการกอล์ฟระดับโลก แข่งขันกีฬาทางน้ำ วิ่งมาราทอน รวมไปถึงไตรกีฬา และอื่นๆ ส่วนในเรื่องของหาด ใกล้ที่สุดจะเป็นหาดบางเทา (ลายัน) เป็นหาดที่มีความยาวที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีร้านค้าแผงลอยมารบกวน แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่โครงการจริงๆเราไม่ได้วิวทะเลนะครับ แล้วก็ไม่ได้มีร้านค้าสำหรับซื้อของใช้ใกล้โครงการ แต่สำหรับร้านอาหารก็มีให้ภายในโครงการครับ

    การเดินทางโดยใช้รถ : สำหรับใครที่ขับรถเองก็เรียกว่าเดินทางสะดวก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนลายัน สามารถเข้าถึงได้จากหลายเส้นทาง เส้นทางก็ไม่ได้ซับซ้อนและขับยากอะไรนะครับ แถมยังไปพื้นที่ข้างเคียงได้สะดวกทีเดียว โดยภายในโครงการจะมีพื้นที่จอดรถประมาณ 103 คัน คิดเป็น 26% ไม่รวมจอดซ้อนคัน อาจจะดูน้อย แต่นี่ก็จัดว่าให้มาเยอะกว่าโครงการข้างเคียงในย่านนี้แล้วนะครับ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : พื้นที่โครงการไม่ได้มีรถสาธารณะให้เข้าถึงนัก แต่มีรถของโครงการเองไว้ให้บริการสำหรับเดินทางไปมาในย่านนี้ ทั้งหาดบางเทา และพื้นที่ข้างเคียงอย่างเช่น Boat Avenue, Porto De Phuket, สนามกอล์ฟ และพื้นที่ในละแวกครับ

    วัสดุ : วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องพื้นฐานที่ได้มาจะเริ่มตั้งแต่ ด้านหน้าจะมีปุ่มสัญลักษณ์หน้าห้องให้กดว่าจะ Make Up Room (ทำความสะอาด) หรือ Do Not Disturb (ห้ามรบกวน) สำหรับบอกแม่บ้านให้ด้วย สวิทช์และปลั๊กทุกอย่างในห้องเป็นของ Art DNA ครับ พื้นภายในห้องจะเป็น Vynil ผนังจะเซาะร่องทำแนวและทาสีให้ ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight ส่วนใกล้หน้าต่างจะซ่อนรางม่ายไว้ให้ด้วย ส่วนครัวจะได้ Top และ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ อ่างล้างจานสเตนเลส, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก Hafele หน้าบานเคาน์เตอร์ต่างๆเป็นลามิเนต ทุกหน้าบานในห้องจะเป็น Soft Close นะ ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ทุกอย่างของ Hafele จะได้เป็นโถแบบแขวนผนัง และอ่างล้างหน้าแบบฝังบนเคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์ ได้ฉากกั้นอาบน้ำและส่วนอาบน้ำมาทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ประตูหน้าต่างจะเป็นกรอบบานอลูมิเนียม Anozide กระจกเขียวใสตัดแสง ระบบปรับอากาศภายในห้องจะเป็น Concealed Type ใช้ระบบ VRV ซึ่งจะทำให้ไม่มี Condensing Unit ภายในห้องครับ นอกจากนี้ยังมี Home Automation สำหรับควบคุมการปิด-เปิด ไฟ และเครื่องปรับอากาศภายในห้องได้ ต่อเป็น Application เข้ากับ Mobile หรือ Ipad ได้

    การออกแบบ : เน้นการเข้าถึงธรรมชาติด้วยแนวคิดโครงการ มี Vertical Garden ที่ใช้เป็นต้นไม้จริง ประหยัดพลังงานในส่วนต่างๆด้วยแผง Solar Cells งดการใช้กระดาษทิชชู่ภายในโครงการ จะใช้เป็นผ้าขนหนูแทน นำไปทำความสะอาด เป็นต้น การวางผังอาคารจะทำให้แต่ละอาคารมีเอกลักษณ์ของตนเอง เพื่อความหลากหลายในการเลือก โดยจะกระจายพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นหลายจุด ทำให้สามารถกระจายจำนวนผู้ใช้ออกไปในหลายๆตำแหน่ง ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ผังห้องพักก็มีหลายแบบหลายขนาดครับ

    ห้องพักอาศัยก็ได้ความโปร่ง โล่งด้วยขนาดพื้นที่เริ่มต้นที่ค่อนข้างกว้าง และภายในห้องก็ยกฝ้าเพดานขึ้นสูง 2.7 เมตร (จัดว่าสูงสำหรับอาคาร Low Rise) แถมยังได้ครัวเปิดที่ช่วยให้ห้องกว้างขึ้น (ไม่เน้นทำอาหารทานเองนัก แต่ทำก็ได้เช่นกัน) ส่วนตัวชอบการตกแต่งภายในห้องที่จัดมาให้ค่อนข้างครบ ชนิดที่แบบไม่ต้องทำอะไรต่อเลย เฟอร์นิเจอร์ต่างๆและของตกแต่งก็ดูเข้ากันทั้งหมด

    สาธารณูปโภค : จัดมาให้ครบตามมาตรฐานและเป็นบรรยากาศแบบสไตล์รีสอร์ท เน้นพักผ่อนและเข้าถึงธรรมชาติ เริ่มที่สระว่ายน้ำระบบเกลือทรง Free Form ขนาดความยาว 43 เมตร เป็นระยะที่ว่ายออกกำลังกายก็ได้ หรือจะพักผ่อนตามมุมต่างๆหรือรอบสระก็ได้ แถมยังเป็นวิวให้กับพื้นที่ห้องพักอาศัยได้ด้วย แยกออกเป็นหลายจุดมีทั้งพื้นที่ที่ได้ความเป็นส่วนตัวแบบ Indoor และพักผ่อนภายนอกแบบ Outdoor มีพื้นที่ส่วนกลางดังนี้ Main Lobby With Reception, Lounge Area With Cafe and Bar,  Kid’s Club and Playground, Outdoor Sports Ground, Running Track, Yoga Area, Restaurant
    Bar, Indoor Gym

    Judgement

    โครงการนี้เนื่องจากเป็นคอนโดตากอากาศและมีเงื่อนไขในเชิง Residences Hotel ที่ไม่มีตัวเปรียบเทียบเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ทางเราไม่ได้ทำรีวิวกันบ่อยด้วย จึงขอไม่ให้คะแนนในรีวิวนี้นะครับ

    BOTTOM LINE

    Layan Green Park เป็นคอนโดตากอากาศที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาห้องพักตากอากาศใกล้ทะเลในจังหวัดภูเก็ต ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและความเงียบสงบ มีส่วนกลางให้ใช้ครบและหลากหลาย ทั้งเพื่ออยู่เองและเพื่อการลงทุน เน้นวัสดุภายในห้องดีมีคุณภาพและไม่ต้องเผื่องบตกแต่งห้องเพิ่มเลย ในงบประมาณ 3.5-14 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 24,000-91,000 บาท/เดือน


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Websitewww.thinkofliving.com
    Twitterwww.twitter.com/thinkofliving
    YouTubewww.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagramwww.instagram.com/thinkofliving
    FacebookThinkofLiving