img Entrance_FINAL

รีวิวฉบับที่ 857 วันนี้เราจะพาไปดูโครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ จาก Origin Property คอนโด High Rise สูง 15 ชั้น บนถนนพหลโยธินใกล้แยกรามอินทรา ซึ่งเป็นโครงการใกล้ทางลงรถไฟฟ้าสถานีสายหยุด สถานีอนาคตสายสีเขียว ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการภายในปี 2561 ค่ะ รีวิวการบ้านอ่านก่อนไปดูโครงการซึ่งจะเปิด Pre-sale 27 มิถุนายนนี้ค่ะ

Facts @ 2 June 2015

  • KnightsBridge SkyCity Sapanmai (ไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่)
  • บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตสายไหม กรุงเทพฯ
  • คอนโด High Rise 15 ชั้น 1 อาคาร 490 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 49 ยูนิตที่ชั้น 5 – 13
  • ที่จอดรถชั้น 1-4 รวมจอดซ้อนคัน 245 คัน คิดเป็น 50%
  • ที่ดินประมาณ 2-3-56 ไร่
  • เร่ิมก่อสร้าง : Q4 2558
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมโอน : Q3 2560
  • 1 Bedroom แบบ Superior (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) 22.52 – 23.16 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.24 ล้านบาท
  • 1 Bedroom แบบ Deluxe    (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) 24.00 – 34.81 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.34 ล้านบาท
  • 1 Bedroom แบบ Suite        (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์) 34.15 – 34.75 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.14 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms แบบ Penthouse (2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ) 40.71 – 48.32 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.04 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท หรือราว 88,365 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 85,000 – 99,500 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรราวๆ 89,500 บาท *** มีการอัพเดตราคา ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2558
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ระหว่างการดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร 092-716-7070, 02-970-3388

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.887505, 100.604173

01 knb-saphamai-directionmap-06

ที่ตั้งของโครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินมุ่งหน้าแยกรามอินทราตรงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ระหว่างซอยพหลโยธิน 48 และ 50 โครงการอยู่ด้านซ้ายมือ ใกล้ทางลงรถไฟฟ้าสถานีสายหยุด สถานีอนาคตสายสีเขียว ที่เป็นส่วนต่อขยายมาจากสถานี BTS หมอชิต

MAP 1

โครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่พหลโยธินขาเข้า ระหว่างซอยพหลโยธิน 48 และ 50 โดยถนนพหลโยธินนั้นยาวมาตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นเหนือไปเรื่อยผ่านปทุมธานี ทำให้การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้จากถนนหลายสายทั้งที่ตัดผ่านและบรรจบ ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าและขาออก มีสะพาน U-turn ให้เลือกกลับรถเยอะ หรือจะเป็นถนนแจ้งวัฒนะที่มาจากทางนนทบุรีที่เป็นพื้นที่รองรับการขยายเมืองอย่างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และห้างสรรพสินค้าต่างๆสองข้างริมถนนใหญ่ รวมถึงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญที่เป็นวงเวียนและสะพานข้ามแยกของถนนพหลโยธิน, ถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี ส่วนทางเหนือเป็นถนนสายไหม ลำลูกกา ที่มีบ้านจัดสรรแนวราบเปิดอยู่หลายโครงการ ภายในบริเวณไม่เกิน 10 กิโลเมตรก็จะมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่หลายแห่ง, โรงเรียน,วัด, เขตทหาร รวมไปถึงสนามบินดอนเมือง

ซึ่งถ้าเรามองในแง่คนที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่อยู่แล้วหรือทำงานประจำอยู่แถบวิภาวดี-นนทบุรี-มีนบุรี จะถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ความสะดวก แต่ปริมาณรถในช่วงเช้า-เย็น ช่วงเข้างานและหลังเลิกงานก็จะมีปริมาณมาก เนื่องจากถนนพหลโยธินนั้นผ่านตั้งแต่พื้นที่ในเมือง ลาดพร้าว และขึ้นไปยังพื้นที่ที่อยู่อาศัย รวมถึงขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิตที่เป็นถนนเส้นหลัก รวมถึงมีศูนย์ราชการ และสถานที่ราชการอยู่ไม่ไกล ทำให้การเดินทางในบางช่วงเวลาอาจใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่ล่าสุดจะถนนตัดใหม่ เส้นพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภชได้สร้างเสร็จ และคาดว่าจะเปิดให้บริการเร็วนี้ เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินไปทางตะวันออกถึงแยกวัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ส่วนทางขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์เข้าเมืองจะต้องออกไปที่ถนนแจ้งวัฒนะเลี้ยวซ้ายไปถนนวิภาวดีขาเข้า จะมีด่านทางขึ้นอยู่ไม่ไกล แต่ถ้าด่านออกนอกเมืองเส้นวิภาวดีต้องไปอ้อมไกลเลยทีเดียว

MAP 2 mass place

พื้นที่ชานเมืองตอนเหนือของกรุงเทพ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งที่จัดสรรและไม่จัดสรร ปะปนกับสิ่งปลูกสร้างที่เกื้อกูลในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างใกล้ๆโครงการบนถนนพหลโยธินขาออกมีตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ เปิดขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น รวมไปถึง Tesco Lotus และ BigC Supercenter ที่อยู่ไม่ไกลนัก และมีโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลอยู่ใกล้ๆกัน บนสองฝั่งของถนนส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น โดยชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆที่ง่ายต่อการซื้อ-ขาย ในซอยก็จะมีทั้งซอยตันและซอยที่ตัดผ่านเข้าไปด้านในเป็นชุมชนบ้านเดี่ยวมีเปิดเป็นบริษัทเล็กๆบ้างนิดหน่อย รวมถึงหอพัก และอพาร์ตเมนท์หลังไม่ใหญ่ โดยรวมย่านนี้เป็นย่านค้าขายที่ค่อนข้างคึกคักเป็นที่รู้กันของคนแถวนี้ค่ะ

ส่วนในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ตัดมาจากสถานีศูนย์ราชการตรงรัตนาธิเบศร์เป็นสถานี Interchange สายสีชมพู-ม่วง-น้ำตาล สายสีชมพูจะจัดตรงมาเรื่อยๆบนถนนแจ้งวัฒนะข้ามทางรถไฟ และเลยไปถึงถนนรามอินทรา และอีกสายหนึ่งคือสายสีเขียวต่อขยายช่วงห้าแยกลาดพร้าว-คูคต โดยมีสถานีวัดพระศรีมหาธาตุและสถานีวงเวียนหลักสี่เป็นสถานี Interchange ที่เดินเชื่อมต่อกันได้ แต่ไม่ได้ใช้ตัวสถานีเดียวกัน สถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีสายหยุด ที่เป็นสถานีต่อจากสถานี Interchange อยู่ในระยะเดิน ตาม Perspective โครงการคือทางขึ้น-ลงสถานีอยู่หน้าโครงการ ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เราคงจะเร่ิมเห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ไปในทางที่ดีขึ้น และเข้าถึงง่ายมาขึ้นนะคะ

ตัดกลับมาสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มีสถานีรถไฟฟ้าใดๆในระยะ 5 กิโลเมตร เราก็ยังคงจะต้องพึ่งพารถตู้บนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธิน รวมถึงรถเมล์ แท๊กซี่ และพี่วินที่สามารถเรียกได้ตามถนนใหญ่หน้าโครงการ และมีสะพานลอยอยู่บนถนนพหลโยธินไม่เกิน 400 เมตร

MAP 3 route

การเดินทางเข้าโครงการวันนี้ จะเริ่มต้นกันที่บนถนนวิภาวดีขาออกมุ่งหน้ารังสิต  เราจะตรงไปเรื่อยๆผ่านจุดตัดถนนแจ้งวัฒนะ ตรงต่อไปที่สะพานกลับรถก่อนจะถึงสนามบินดอนเมืองเพื่อกลับรถมาอยู่บนถนนวิภาวดีขาเข้า เลี้ยวซ้ายเข้ามุ่งหน้ารามอินทรา และเลี้ยวซ้ายอีกทีที่แยกรามอินทราตรงวงเวียนอนุสาวรีย์มาอยู่บนถนนพหลโยธินขาออก กลับรถที่หน้าโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ตรงมานิดเดียว Sales Office จะอยู่ซ้ายมือหน้าแปลงที่ดิน

บ้านกลางเมือง-location-1 copy

เริ่มต้นการเดินทางกันที่ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก มุ่งหน้ารังสิต ก่อนจะถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้างามวงศ์วาน-ปากเกร็ด เราจะเลยแยกไป เพื่อมุ่งหน้าหาสะพานกลับรถไปยังถนนวิภาวดีขาเข้า

บ้านกลางเมือง-location-2 copy

ผ่านแยกมาก็จะเจอป้ายบอกทางไปยังสะพานกลับรถให้ชิดซ้าย ส่วนชิดขวาคือทางเข้าของสนามบินดอนเมือง ตรงกลางสองเลนจะกั้นไว้สำหรับด่านทางขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ออกนอกเมืองไปรังสิต-บางปะอิน

บ้านกลางเมือง-location-4 copy

เลยมาไม่ไกลจะเจอสะพานกลับรถจากถนนวิภาวดีขาออกไปยังขาเข้า

แล้วเราก็มาลงที่ถนนวิภาวดีขาเข้า

บนถนนวิภาวดีขาเข้าทางค่อนข้างจะคดเคี้ยวและความกว้างไม่เท่ากันตลอดเส้น บางทีจะแคบลงเนื่องจากมีสถานีระบายน้ำสำหรับคลองที่อยู่ข้างๆทางซ้ายมือ บางทีก็จะกว้างเป็นถนน 4 เลน

บ้านกลางเมือง-location-8

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอแยกเลี้ยวซ้ายไปยังถนนแจ้งวัฒนะที่เชื่อมกับเส้นรามอินทรา เราจะชิดซ้ายกันค่ะ ส่วนด่านโทลล์เวย์เข้าเมืองที่ใกล้ที่สุดจะต้องเลยแยกไปหน่อยนึง

knightbridge-1 copy

อยู่ในช่องเลี้ยวซ้ายเรียบร้อย เราจะเลี้ยวซ้ายตามทาง เหนือจากถนนใหญ่ขึ้นไปจะเห็นว่ามีสะพานลอยข้ามถนนวิภาวดีรังสิตยาวมากเพื่อให้คนที่ขึ้น-ลง รถเมล์หรือรถตู้ได้ใช้กัน

เลี้ยวซ้ายเข้ามาอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะเป็นถนน 4 เลนที่ทางซ้ายมือจะมีป้ายรถเมล์ รถตู้ อยู่เรื่อยๆ พร้อมสะพานลอยคนข้าม

knightbridge-4

ตรงมาอีกนิดก็จะเจอป้ายบอกทาง ถ้าชิดขวาจะมีสะพานลอยข้ามแยกมุ่งหน้ามีนบุรี เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปวนรถที่อนุสาวรีย์ หรือจะชิดซ้ายไว้ เพื่อเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าสะพานใหม่ หรือวนรถที่อนุสาวรีย์ 270 องศาไปลาดพร้าว

เริ่มแยกเส้นทางระหว่างสะพานข้ามแยก และเส้นที่ตรงไปธรรมดาที่จะเข้าสู่วงเวียนอนุสาวรีย์

knightbridge-6

ป้ายบอกทางให้เลือกเส้นทางในการใช้วงเวียนอนุสาวรีย์ คือถ้าเลี้ยวซ้าย จะมุ่งหน้าสะพานใหม่ หรือจะวนแล้วตรงไปยังรามอินทรา-มีนบุรี หรือจะวนแล้วเลยไปยังเส้นรัชโยธิน-ลาดพร้าว

knightbridge-7 copy

เราจะเร่ิมเข้าวงเวียนอนุสาวรีย์กันแล้วนะคะ ก่อนจะถึงวงเวียนก็จะมีสัญญาณไฟ รวมถึงป้ายบอกทางต่างๆ

knightbridge-8 copy

เราวนมาทางซ้าย 90 องศา แล้วตรงไปยังเส้นพหลโยธินขาออก

เข้ามาสู่เส้นพหลโยธินแล้วก็จะเร่ิมมีความคึกคัก มีสภาพแวดล้อมเร่ิมเป็นชุมชมมากขึ้น ทางซ้ายมือก็คือคอนโดติดถนนใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง ส่วนทางขวาก็จะเป็นห้างอย่าง Tesco Lotus

ถนนพหลโยธินกว้าง 3 เลน เป็นถนนที่ยาวตั้งแต่ในเมืองไปยังนอกเมืองแถบปทุมธานี ขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิต ทำให้มีรถเมล์ รถตู้ให้บริการจอดรับ-ส่งเยอะมากๆ รวมถึงมีจุดกลับรถและสะพานลอยอยู่เป็นระยะๆ

สองข้างทางส่วนใหญ่สิ่งปลูกสร้างก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ที่ชั้นล่างเป็นเป็นร้านค้า บริการ อาหาร และที่ค่อนข้างจะฮิตในพื้นที่นี้จะเป็นบริการที่เกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูม, ปั้มน้ำมันแบรนด์ต่างๆ, เต้นท์รถมืองสอง รวมไปถึงร้านรับซ่อมเครื่องยนต์

knightbridge-12

ตรงมาบนถนนพหลโยธินได้สักพัก ก็จะเจอจุดกลับรถที่บอกทางไปโรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล เราก็จะชิดขวาไว้เพื่อจะกลับรถในจุดเดียวกัน

knightbridge-13 copy

ชิดขวามาเรื่อยๆก็จะเจอจุดกลับรถอยู่ด้านหน้า ทางซ้ายมือเป็นอาคารพาณิชย์ ส่วนทางขวาเป็นโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลที่อยู่กระชั้นมาจากจุดกลับรถ และเลยไปหน่อยคือ BigC Supercenter ที่ถ้าจะใช้บริการต้องไปใช้จุดกลับรถหน้านะคะ

จังหวะเดียวกันกับที่จุดกลับรถ ทางขวามือจะมีถนนตัดใหม่ที่อยู่ระหว่าง BigC และโรงพยาบาลที่ชื่อว่าถนนพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช เป็นถนนที่ตัดจากเส้นพหลโยธินขาเข้าไปยังแถววัชรพล กำลังจะเปิดบริการเร็วๆนี้ซึ่งเมื่อเปิดแล้วรูปแบบการกลับรถน่าจะปรับใหม่ค่ะ

กลับรถมาอยู่บนถนนพหลโยธินขาเข้า ซ้ายมือจะเปิดเป็นร้านค้าขายของเยอะ ทำให้มีรถจอดกินเลนทางซ้ายมือไป ใครต้องการความคล่องตัวก็ควรจะชิดขวาไปเลย

ตรงมาจะเจอหอพักสูง 5 ชั้นอยู่ทางซ้าย ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์พร้อมสะพานลอยคนข้าม

ตรงมาอีกหน่อยเป็นปั้มน้ำมัน 2 เจ้าติดกัน ถัดจากปั้มน้ำมันปตท.ไปก็จะเป็นแปลงที่ดินโครงการแล้วค่ะ

ถึงแล้ว Sales Office จะอยู่หน้าแปลงที่ดินโครงการระหว่างปั้มน้ำมันและปั้มแก๊สปตท. และโชว์รูมรถ Nissan ด้านในมีพื้นที่จอดรถสำหรับผู้ที่สนใจค่ะ

MAP 4 surrounding new

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ ทางเข้าโครงการมีทางเดียวคือจากถนนพหลโยธินขาเข้าที่อยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ เป็นถนนที่ปริมาณรถมากในช่วงเช้าฝั่งขาเข้า ส่วนตอนเย็นรถมากแต่จะไหลไปเรื่อยๆ โดยฝั่งตรงข้ามของถนนเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นที่เป็นสิ่งปลูกสร้างส่วนมากริมถนนใหญ่แถบนี้ ด้านล่างบ้างเป็นร้านค้า ร้านอาหาร  ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นปั้มน้ำมันและแก๊สปตท.ขนาดใหญ่ ด้านในมีทั้งร้านสะดวกซื้อและร้านตรวจเช็คสภาพ ปริมาณรถเข้า-ออกเท่าที่เห็นก็ไม่น้อยค่ะ ส่วนฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เป็นบ้านพักอาศัยก่อนจะถึงซอยย่อยที่แยกออกมาจากซอยพหลโยธิน 48 ในซอยส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นโชว์รูมรถที่มีบริการซ่อม ไกลออกไปเป็นซอยตันที่มีอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นปลูกอยู่สองฝั่งค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (วัดโดย Google คร่าวๆ)

  • โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล 300 เมตร
  • BigC Supermarket 400 เมตร
  • Tesco Lotus 1 กิโลเมตร
  • ตลาดยิ่งเจริญ 1.5 กิโลเมตร
  • สำนักงานเขตบางเขน 1.8 กิโลเมตร
  • Central รามอินทรา 2.2 กิโลเมตร
  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร 2.9 กิโลเมตร
  • กรมทหารราบที่ 11 3.2 กิโลเมตร
  • สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ 4.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารวิทยา 4.6 กิโลเมตร
  • ม.ศรีปทุม 4.8 กิโลเมตร
  • ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ 5.8 กิโลเมตร
  • สนามบินดอนเมือง 7.3 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 7.5 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน 7.9 กิโลเมตร
  • สนามกอล์ฟราชพฤกษ์ 8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี 8.5 กิโลเมตร
  • Central ลาดพร้าว 12.6 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Screen Shot 2558-06-08 at 12.50.48

ภาพจำลองภายนอกของโครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ คอนโด High Rise สูง 15 ชั้น 490 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว I หันหน้าโครงการออกถนนพหลโยธินขาเข้า ตัวอาคารใช้โทนสีครีม-น้ำตาลตกแต่ง ชั้น 1-2 เป็นชั้นจอดรถล้วนๆ เร่ิมมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 3 โดยชั้น 3-4 จะมีห้องพัก 6 ยูนิตที่ส่วนหน้าโครงการ และนอกนั้นเป็นพื้นที่จอดรถ …ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้น 13 จะเป็นชั้นที่มีแต่ห้องพักล้วน เป็น Typical Floor ส่วนชั้น 14 จะมีจำนวนห้องน้อยลง และชั้น 15 เป็นชั้น Facilities ส่วนกลาง อาทิ Infinity Edge Pool พร้อม Jacuzzi และ Sky Fitness เป็นหลัก พื้นที่ที่เหลือก็จะแบ่งออกเป็น Playground ,Private Sky Garden ที่มี BBQ Corner, Putting Green และ Tea Corner พื้นที่รอบๆก็สามารถเป็น Free form jogging track ได้ รอบๆตัวอาคารเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง มีการ Landscape ส่วนหน้าและท้ายโครงการ

Model คอนโดและพื้นที่โดยรอบ แปลงที่ดินค่อนข้างจะมีหน้าแคบ และลึกเข้าไป รูปร่างอาคารเมื่อสร้างแบบเต็มพื้นที่ จึงมีลักษณะยาวเป็นตัว I แบบนี้ นอกจากตัวโมเดลคอนโดแล้ว ก็ยังมีการสร้างโมเดลสถานีรถไฟฟ้าสายหยุดขนาดเท่าของจริง เพื่อบอกตำแหน่งบันไดขึ้น-ลง ว่าอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าโครงการ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายในเรื่องการเดินทางในอนาคตของโครงการนี้

จากมุมบนของพื้นที่ส่วนหน้าโครงการ จะเห็นว่าตัวแปลงพื้นที่และอาคารค่อนข้างแคบ ห้องพักที่อยู่ส่วนหน้าจะเป็นห้องพักขนาดใหญ่หน่อย ก็จะได้วิวในส่วนของถนนพหลโยธิน ห้องฝั่งติดถนนนี้จะได้เปรียบเรื่องความสะดวกในการใช้งานเพราะอยู่ใกล้ลิฟท์และมีระยะเดินน้อยมากแต่ชั้นล่างๆก็จะต้องแลกกับมลภาวะทางเสียงและอากาศจากถนนใหญ่ค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการก็จะมีการจัดพื้นที่ Landscape และป้ายโครงการ โดยถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวบันไดทางขึ้น-ลงของสถานีสายหยุดจะอยู่แถวๆหน้าโครงการเลย ผลพลอยได้คือตัวสถานียังสามารถใช้เป็นสะพานลอยคนข้ามไปยังฝั่งถนนพหลโยธินขาออกเผื่อคนใช้รถเมล์ รถตู้ และข้ามฝั่งไปซื้อของต่างๆที่ตลาดสะพานใหม่ได้ด้วย

มาดูมุมด้านข้างของโครงการกันบ้าง ตัวอาคารจะยาวเข้าไปลึกมาก ชั้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดคือชั้น 5-13 ที่มีจำนวน 49 ยูนิตภายในชั้นๆหนึ่ง โดยเวลาการขายจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น City Zone คือพื้นที่ครึ่งหน้าโครงการ และ Private Zone คือห้องพักที่อยู่ส่วนหลังโครงการ แต่รวมๆแล้วก็คืออาคารเดียวกัน ใช้โถงลิฟท์เดียวกันทั้งหมด

ส่วนพื้นที่หลังโครงการก็จะเป็นรูปตัว I ธรรมดา เว้นพื้นที่ชั้น 1 ที่เป็นส่วนกลางแจ้งไว้เป็น English Modern Garden โดยมีการจัด Landscape ทั้งในส่วนของพื้นที่ปูด้วยหญ้า ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้น

มาดูพื้นที่สีเขียวท้ายโครงการกันชัดๆนะคะ การดีไซน์ก็จะมีการจัดแบ่งพื้นที่ทั้งในส่วนของอาคารรูปโดมอยู่ตรงกลางพักผ่อนหย่อนใจ และในส่วนของเก้าอี้นั่งในสวนรอบๆ

Facilities บนดาดฟ้าชั้น 15 ส่วนหน้ามีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 6.25 x 25 เมตร พร้อม Jacuzzi ความยาวสระสามารถใช้ออกกำลังกายจริงๆจังๆ รอบด้วยพื้นที่สีเขียวและห้องฟิตเนสที่อยู่ทางขวามือ สระว่ายน้ำนี้สามารถว่ายน้ำชมวิวได้ เพราะเป็น Infinity Edged Swimming Pool ที่หันหน้าไปทางทิศใต้เฉียงตะวันตกเล็กน้องซึ่งเป็น City View

ส่วนพื้นด้านหลังของชั้น 15 ถัดจากพื้นที่ฟิตเนสก็จะเป็น Private Sky Garden ที่มีสนามเด็กเล่นและ BBQ Corner, Golf putting green และ Tea corner นอกจากนั้นพื้นที่รอบๆก็ยังสามารถใช้ออกกำลังกายเป็น Free form jogging track แต่ช่วงเวลาที่ลูกบ้านมาใช้กันก็น่าจะเป็นช่วงเช้าก่อนทำงาน และช่วงเย็นๆที่แดดเริ่มจะหลบไปบ้างแล้ว

มุม Perspective หน้าโครงการมองเข้าไปยังแปลงที่ดิน สังเกตว่าบนทางเดินเท้าของถนนพหลโยธินมุ่งหน้าเข้าเมืองจะมีทางขึ้น-ลงบันไดของสถานีสายหยุดอยู่หน้าโครงการ และมีทางเดินเล็กๆข้างๆพื้นที่สีเขียวให้เดินเข้าไปถึง Lobby ที่เป็น Double Ceiling Height ได้โดยตรง ซึ่งแยกกับการเข้า-ออกของรถทางขวามือข้างป้ายโครงการ ปัจจุบันจุดที่เป็น Landscape ด้านหน้าคือ Sales Office โครงการค่ะ

ส่วนแรกของอาคารคือ Lobby ชั้น 1 เป็นแบบ Double Ceiling Height คือกินความสูงชั้น 2 ไปด้วย จัดชุดโซฟาและโต๊ะกลางไว้หลายชุดสำหรับการใช้งานของลูกบ้านแต่ละกลุ่ม ข้างๆก็จะมีเคาท์เตอร์สำหรับพนักงานโดยเฉพาะในส่วนของ Hotel Value อาทิ ทำความสะอาดห้อง, รับซักรีด, รับโทรสั่งอาหาร และจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ด้านบนตกแต่งด้วยไฟที่ห้อยลงมาจากฝ้าหลืบ

พื้นที่ท้ายโครงการจัดเป็น English Modern Garden นอกจากนั้นก็จะเป็นพื้นหญ้า, ไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่อยู่หลายจุด ส่วนนี้ดูร่มรื่นดีนะคะ

ขึ้นมาชั้น 15 ชั้นบนสุดในส่วนของ Infinity Edge Pool ขนาด 6.25 x 25 เมตร ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ข้างสระก็จะมีเก้าอี้ Day-bed ตัวยาวไว้ให้เอนหลัง

ถัดจากสระว่ายน้ำมาก็จะเป็นห้องฟิตเนสที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เช่นกัน

ออกมาดูพื้นที่เปิดโล่งกันต่อนะคะ พื้นที่สีเขียวบนชั้นดาดฟ้าจะมี 2 ส่วนคือส่วนที่อยู่หน้าโครงการ และส่วนที่ใหญ่กว่าด้านหลังตรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จากมุมนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนหน้าที่จะจัดเป็นขั้นบันได และมีชุดโซฟากลางแจ้งตั้งอยู่

Screen Shot 2558-06-08 at 12.50.12

ส่วนที่สองที่ใหญ่กว่าคือส่วนพื้นที่ด้านหลังจัด Landscape ด้วยการใช้เส้น และมี Free form Jogging Track อยู่ส่วนที่ลึกเข้าไป

ต่อด้วยผังโครงการกันเลยนะคะ

PLAN PSfile f1

เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ เข้าได้จากถนนพหลโยธินเท่านั้นนะคะ จะอยู่ระหว่างซอยพหลโยธิน 48 และ 50 พื้นที่เป็นรูปตัว I รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างแปลงที่ดินเช่นกันคือรูปตัว I ตัวคอนโดสูง 15 ชั้น เข้ามาจะเจอ Lobby แบบ Double Ceiling Height ที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ภายในอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1-4 และส่วนน้อยอยู่กลางแจ้งรอบๆโครงการ รวมที่จอดรถทั้งหมดแบบรวมจอดซ้อนคัน 245 คัน คิดเป็น 50% Lobby, นิติบุคคล และโถงลิฟท์โดยสาร 3 ตัว จะอยู่ส่วนหน้าของอาคารทั้งหมด ส่วนลิฟท์ Service 1 ตัว จะอยู่ด้านหลัง ทั้งอาคารจะมีบันไดหนีไฟทั้งหมด 3 จุด ตามกฎหมาย อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 163 : 1 ซึ่งถือว่าหนาแน่นเกินค่ามาตรฐาน แปลว่าอาจจะต้องรอลิฟท์นานในช่วงเวลาเร่งด่วนที่คนใช้พร้อมกันเยอะๆค่ะ และเนื่องจากมีโถงลิฟท์โดยสารเพียงจุดเดียวทางด้านหน้าดังนั้นห้องในๆที่อยู่ไกลจากโถงลิฟท์ ก็จะเดินลำบากหน่อยนะคะโดยเฉพาะวันที่ถือของกลับบ้านเยอะๆ

D:Job2201515.03 KnightbridgePresentA A3-01-06_PB-PROOF Mode

ชั้น 2 จะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถทั้งหมด แต่ชั้น 3-4 จะมีห้องพักในส่วนหน้าของคอนโด และส่วนหลังยังคงเป็นพื้นที่จอดรถในอาคาร บนชั้นนี้มีชั้นละ 6 ยูนิต เป็นยูนิตที่ขนาดใหญ่หน่อยคือ 1 Bedroom แบบ Deluxe จำนวน 4 ห้อง และที่อยู่หน้าสุดของโครงการ Hi-light สีน้ำเทาเข้มคือ 2 Bedrooms แบบ Penthouse ความสูงที่ชั้น 3-4 อาจจะไม่ได้วิวอะไรมากมาย พ้นต้นไม้ใหญ่มานิดหน่อย  รวมถึงความสูงและตำแหน่งอยู่ในระยะไม่ไกลจากตัวสถานีสายหยุด เป็นยูนิตที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ที่อาจจะมีฝุ่นควันจากรถ แต่ใครที่ชอบชั้นเตี้ยหน่อย ความหนาแน่นภายในยูนิตน้อยมากก็น่าจะถูกใจ

D:Job2201515.03 KnightbridgePresentA A3-01-06_PB-PROOF Mode

ชั้น 5-13 เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดคือ 49 ยูนิต จัดว่ามีห้องพักต่อชั้นค่อนข้างมากนะคะเมื่อเทียบกับโครงการมาตรฐานทั่วๆไป ชั้น 5-13 เป็น Typical Floor ของโครงการนี้ จัดวางห้องพักแบบ Double Corridor คือมีห้องฝั่งตรงข้ามคั่นกลางด้วยโถงทางเดินยาว ในชั้นนี้จะมีห้องทุก Type ทุกขนาด ตั้งแต่ 22.52 – 48.32 ตารางเมตร ในการขายจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 Zone คือ City และ Private หรือว่าส่วนที่อยู่หน้าโครงการ และหลังโครงการตามลำดับ แต่ทั้งสอง Zone นี้ก็จะไม่ได้มีข้อแตกต่างหรือแยกออกจากกันสิ้นเชิง เพราะอยู่ภายในอาคารเดียวกัน แค่ส่วน Private Zone ด้านหลังจะเข้าถึงได้ยากกว่า เพราะโถงลิฟท์ที่มีลิฟท์โดยสารทั้ง 3 ตัวอยู่ในส่วน City Zone ทั้งหมด ทำให้ห้องฝั่ง City Zone สะดวกในการใช้งานลิฟท์มากกว่า ข้อดีของห้องที่อยู่ไกลจากโถงลิฟท์ก็มีแค่ความสงบเพราะคนไม่ค่อยจะเดินผ่านหน้าห้องเท่านั้นเอง

D:Job2201515.03 KnightbridgePresentA A3-01-06_PB-PROOF Mode

ชั้น 14 ยังคงเป็นชั้นที่มีแต่ห้องพัก แต่จำนวนน้อยลงอยู่ที่ 37 ยูนิต โถงลิฟท์อยู่ที่ส่วนหน้าเหมือนเดิม วิวจากระเบียงห้องพักของอาคารแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่พื้นที่ส่วนหน้าโครงการที่ได้วิวถนนใหญ่พหลโยธิน และรถไฟฟ้า อีกสองส่วนที่เหลือคือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ เนื่องจากแถบนี้เป็นพื้นที่ชุมชน มีเขตทหาร และสถานที่ราชการเยอะ ก็จะทำให้มีการควบคุมความสูงของอาคารเข้มงวดกว่าในเมือง ยิ่งพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ชานเมือง สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุมชน บ้านพักอาศัย และอาคารพาณิชย์ ทำให้วิวด้านยาวของอาคารไม่ต่างกันมากนัก คือเป็นพื้นพักอาศัยแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา

PLAN f15 PSfile

ชั้นดาดฟ้าชั้น 15 บนสุดเป็นพื้นที่ของ Facilities ที่ค่อนข้างยาวมาก ตั้งแต่ Infinity Edged Swimming Pool ระบบน้ำเกลือ ขนาด 6.25 x 25 เมตร พร้อม Jacuzzi ทางขวามือเป็นห้องฟิตเนส และมีพื้นที่นั่งรอบสระว่ายน้ำ นอกจากนั้นพื้นที่ที่เหลือจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียวที่แบ่งการใช้งานหลายอย่าง เช่น การจัด Landscape ให้มีพื้นที่นั่งพักในช่วงเย็นๆเป็น Private Sky Garden ที่มีสนามเด็กเล่นและ BBQ Corner, Golf putting green และ Tea corner นอกจากนั้นพื้นที่รอบๆก็ยังสามารถใช้ออกกำลังกายเป็น Free form jogging track พื้นที่ส่วนหลังอาคารเป็นงานระบบ

ต่อมาเราจะพาเข้าไปดู Sales Office ของโครงการที่อยู่ส่วนหน้าสุดของแปลงที่ดินติดกับถนนพหลโยธินขาเข้ากันบ้างค่ะ ด้านข้างขวาของอาคารเป็นทางเข้าพื้นที่จอดรถของผู้ที่สนใจเข้ามาดูโครงการ

พื้นที่ด้านหลังจะกั้นในส่วนพื้นที่จอดรถที่เทปูนเรียบ และในส่วนของพื้นที่ก่อสร้างด้านหลัง ที่กั้นด้วยป้ายขนาดใหญ่ เดี๋ยวเราจะแอบพาไปดูด้านในกันค่ะ

พื้นที่ด้านในมีการเทปูนเป็นเส้นทางเดินรถเล็กๆ สองฝั่งกั้นด้วยสังกะสี ภายในยังไม่ได้เคลียร์ต้นไม้ และวัสดุต่างๆที่กองอยู่บนพื้นนะคะ ปัจจุบัน EIA อยู่ในระหว่างการดำเนินการ และคาดว่าจะเร่ิมก่อสร้างช่วง Q4 ปีนี้

กลับมาในส่วนอาคาร Sales Office ด้านหน้า เดี๋ยวจะพาไปดูด้านในกันค่ะ

เปิดเข้ามาด้านในจะเจอกับป้ายโครงการที่ด้านหน้าเคาท์เตอร์ที่ปกติจะมีพี่ Sale นั่งคอยรับลูกค้าอยู่นะคะ ด้านในทางขวามือจากทางเข้าก็จะเป็นชุดโซฟาไว้รับรอง

หันมาทางซ้ายก็จะเจอชุดโซฟา, โมเดลโครงการ และห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 ห้อง

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 Lobby แบบ Double Ceiling Height
  • ชั้น 1 Business Lounge
  • ชั้น 1 Green Canopy Terrace
  • English Modern Garden ที่พื้นที่ท้ายโครงการ
  • ชั้น 15 Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6.25 x 25 เมตร พร้อม Jacuzzi
  • ชั้น 15 Sky Fitness 1 ห้อง
  • ชั้น 15 Playground
  • ชั้น 15 Private Sky Garden
  • ชั้น 15 BBQ Corner
  • ชั้น 15 Free form jogging track
  • ชั้น 15 Putting Green
  • ชั้น 15 Tea Corner
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 163 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถชั้น 1-4  รวมจอดซ้อนคัน 245 คัน คิดเป็น 50%
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ระบบ CCTV / Access Card บริเวณ Lobby เข้า-ออกอาคาร และภายในลิฟท์
  • Hotel Service อาทิ บริการทำความสะอาดห้องพักฟรี 2 ครั้งต่อเดือน, บริการรับซักรีดเสื้อผ้า, บริการรับจ่ายบิลสาธารณูปโภค, บริการช่วยถือสัมภาระและเรียกรถแท๊กซี่ และบริการสั่งอาหารแบบ Delivery

 


Product Walkthrough

เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกกันนะคะ คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.41 ตารางเมตร เป็นแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ คือมีชั้นละ 17 ห้อง มี Functions โดยรวมเหมือนกัน แตกต่างกันตามตำแหน่งห้อง

ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็น 1 Bedroom Deluxe รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ โดยมีพื้นที่ Living อยู่ที่ส่วนหน้า และมีห้องนอนอยู่ส่วนหลัง ขนาดใกล้เคียงกัน เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอชุดโซฟาและชั้นวางทีวีอยู่ส่วนหน้า เลยไปหน่อยจะเป็นที่วางโต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ เดินไปทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำ ส่วนพื้นที่ด้านในที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนมี 2 ห้อง ทางซ้ายคือห้องนอน ด้านในจะมีเตียงและตู้เสื้อผ้าอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนห้องทางขวาคือครัว ที่มีเคาท์เตอร์อยู่ทั้งด้านล่างและบน ด้านในเป็นประตูเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียง การจัดผังห้องให้ห้องน้ำอยู่ส่วนด้านในของอาคาร คือไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ แต่ห้องครัวจะอยู่ริมนอกของอาคารใกล้กับระเบียง ทำให้มีตัวช่วยในการระบายกลิ่น

เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูเป็นบาน HDF ขนาดมาตรฐาน 0.9 x 2.2 เมตร จากความสูงภายในห้อง 2.4 เมตร และตาแมว พร้อมประตูมือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Doorlock

Digital Doorlock จาก Samsung ค่ะ

พื้นห้องคือไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนตสีน้ำตาลอ่อนหนา 12 มิลลิเมตร

ด้านหลังของประตูทางเข้าห้องชุดมี Door Stop ให้ด้วย เรียบร้อยดีนะคะ เพราะไม่งั้นเปิดไปตรงๆจะไปชนเฟอร์นิเจอร์ด้านใน ไม่ของล้มก็ต้องมีอะไรบุบ

ส่วนแรกจากทางเข้าคือโซฟาตัวยาว ด้านในเป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ฝั่งตรงข้ามหลังประตูทางด้านขวาเป็นชั้นวางทีวี ด้านขวาจะมีทางเดินไปยังโต๊ะทำงานก่อนถึงห้องน้ำ ส่วนพื้นที่ด้านในจะมีสองประตู ทางขวาที่เราเห็นกันคือประตูบานเลื่อนเข้าไปยังพื้นที่ครัวและออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอกได้ ส่วนทางขวาจะเป็นในส่วนของประตูบานเลื่อนของห้องนอน

รายการการขายที่ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลจะเป็นไปแบบ Fully Furnished คือให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่เห็นภายในห้องตัวอย่าง แต่ก็จะมีบางชิ้นเล็กๆน้อยๆที่เป็นชิ้นตกแต่ง เดี๋ยวก็จะบอกเป็นชิ้นๆไป พร้อมทั้งยังมีแอร์ให้ทุกห้อง แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างทีวี ตู้เย็น หรือไมโครเวฟนะคะ

เข้ามาจะเจอโซฟาตัวยาวประมาณ 1.6 เมตรอยู่ทางขวามือ ตรงมุมมีโต๊ะเล็กๆและโคมไฟ พื้นห้องนั่งเล่นเป็นพื้นลามิเนตหนา 12 มิลลิเมตรเป็นมาตรฐานของโครงการ ผนังห้องตัวอย่างจะตกแต่งทั้งเป็น Finishing ลายไม้สีเข้ม แต่ผนังที่ได้จริงจะเป็นฉาบปูนเรียบทาสีธรรมดานะคะ

ฝั่งตรงข้ามของชุดโซฟาก็จะเป็นชั้นวางทีวี มีแค่ในส่วนของตู้ด้านล่างแบบลอย มีทั้งบานเปิดและบานปิด ไม่ได้เป็นตู้แบบเต็มผนัง ทีวีสามารถซื้อแบบวางได้บนที่ตู้ หรือจะซื้อแบบติดผนังห้องก็ได้ค่ะ หลังประตูทางเข้าหลักที่โดนบังอยู่ก็จะเป็นชั้นวางรองเท้าและตู้เก็บของ

เปิดชั้นวางทีวีขนาด 1.75 เมตรให้ดู ด้านล่างเป็นลิ้นชัก 3 อัน ส่วนด้านบนเป็นช่องแบบไม่มีบานปิด

มุมในสุดเป็นตู้บานปิดแบบ Built-in กว้าง 45 เซนติเมตร ด้านล่างคือตู้รองเท้าที่สามารถวางได้แบบเบียดๆประมาณ 10 คู่ ข้างๆเป็นช่องแคบๆที่วางพวกของแบนๆ เช่น ร่ม ส่วนด้านบนเป็นช่องวางของธรรมดาไม่เฉพาะเจาะจง

ระยะดูทีวีในห้องนั่งเล่น เมื่อนั่งแล้วหักพนักพิงจะเหลือระยะอยู่ที่ประมาณราวๆ 2 เมตรนิดๆค่ะ

ข้างๆโซฟาก็จะเป็นชุดโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวหันหน้าเข้าหากัน การจัดวางจริงจะทำตามแบบนี้ หรือว่าจะวางทำมุมกันก็ได้ตามสะดวกเลย

ด้านในมีประตูบานเลื่อนสองบาน ทางซ้ายคือประตูห้องนอน ส่วนทางขวาคือประตูแบบบานเลื่อนเข้าห้องครัวที่สามารถเปิดได้ทั้งสองทาง ทำให้ห้องดูกว้างขวางดีเพราะเห็นทะลุกันได้หมด ก่อนจะเข้าห้องย่อยๆกัน เราจะหันไปดูพื้นที่โต๊ะทำงานแบบ Built-in ด้านซ้ายกันก่อน

โต๊ะทำงานแบบ Built-in กว้าง 1.7 เมตร มีโต๊ะทำงานเปล่าๆติดผนังอยู่ ข้างใต้ตรงกลางเป็นลิ้นชัก สองข้างซ้ายขวาเป็นช่องเปล่าๆ ไม่มีเก้าอี้มาให้ ด้านบนเป็นตู้แบบมีบานเลื่อนปิด เหนือขึ้นไปอีกเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนังของส่วนห้องนั่งเล่น

ดึงลิ้นชักออกมาให้ดู และเลื่อนบานประตูมาปิด แต่ตัวบานเลื่อนก็จะเป็นแค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งสลับกันใช้ ไม่ได้มีที่ปิดทั้งสองฝั่ง

ต่อไปจะไปดูห้องน้ำที่อยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะทำงานนะคะ บานประตูที่ห้องตัวอย่างไม่ได้ใส่เข้ามาด้วยเป็นแบบบาน HDF ขนาด 0.75 x 2 เมตร

พื้นปูด้วยกระเบื้องแบบด้านสีเทากลางขนาด 40 x 40 เซนติเมตร และลดระดับพื้นที่ห้องน้ำลงนิดหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร

ภายในห้องน้ำขนาด 1.4 x 2.1 เมตร สุขภัณฑ์สีขาวสะอาดจาก American Standard แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกแบบยืนอาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นแบบ 3 ตอน ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีน้ำตาลอ่อนขนาด 40 x 40 และบางจุดปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 20 x 40 เซนติเมตร

เร่ิมกันจากอ่างล้างหน้าเดี่ยวๆ มีตู้ด้านล่างมาให้เป็นแบบบานดึงเปิด เวลาย้ายเข้าอยู่จริงนอกจะวางของอ่างล้างหน้าได้แล้วก็ยังสามารถวางในตู้ด้านล่างด้วย มาพร้อมกระจกส่องหน้าบานใหญ่

เปิดประตูตู้ใต้อ่างล้างหน้าให้ดู ก็ลึกใช้ได้ วางของใช้ภายในห้องน้ำได้

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard พร้อมสายฉีดชำระ และที่ใส่ม้วนทิชชู

ส่วนริมซ้ายสุดเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ มีฉากกั้นอาบน้ำสูง 2 เมตรเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอนติดตั้งให้เรียบร้อย แต่ก็จะมีช่องว่างด้านบนเหลือ สังเกตว่าฝ้าของพื้นที่เปียกก็จะลดต่ำลงกว่าปกติประมาณ 20 เซนติเมตร

ส่วนพื้นที่เปียกขนาด 0.7 x 1.1 เมตร ปูกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นที่แห้งในห้องน้ำ คือกระเบื้องแบบด้านสีเทาอ่อนขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ไม่ลดระดับลงไป แต่ก็จะมีตัวคั่นสูงประมาณ 3 เซนติเมตรรวมความสูงของกรอบฉากกั้นก็ประมาณ 5 เซนติเมตร

ฝักบัวจาก American Standard เป็นแบบหัวก๊อกหัวเดียว ไม่มีเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ มาพร้อมกับที่วางสบู่ 1 จุด

ดูหัวฝักบัวกันชัดๆ ขนาดกำลังดี เหมาะมือ แบนๆ หน้าตาคล้ายๆกันกับเกือบๆทุกโปรเจคของ Origin

พื้นที่ห้องน้ำมองจากส่วนเปียกออกไปยังส่วนแห้ง

ด้านในมีประตูบานเลื่อนสองบาน ทางซ้ายคือประตูห้องนอน ส่วนทางขวาคือประตูแบบบานเลื่อนเข้าห้องครัวที่สามารถเปิดได้ทั้งสองทาง ลูกฟักเป็นกระจก ส่วนกรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ สูงเท่าความสูงห้องคือ 2.4 เมตร ทำให้ห้องดูกว้างขวางดีเพราะเห็นทะลุกันได้หมด

มาต่อกันที่ห้องครัวทางขวากันก่อน เป็นประตูเลื่อนแบบ 2 ตัว สามารถเปิดได้จากทั้งสองด้าน แต่อีกด้านจะติดกับตู้เย็นและเก้าอี้ทานข้าว

ห้องครัวกว้าง 1.25 เมตร เคาท์เตอร์ลึก 60 เซนติเมตร ดังนั้นจะเหลือพื้นที่เดินไปมาได้ 50 เซนติเมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มีการฝังกรอบประตูเลื่อนลงไป ทำให้เดินไม่สะดุด และดูเรียบร้อยกว่า เปิดเคาท์เตอร์ครัวด้านล่างให้ดูระยะ ว่ายังมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยในการเปิด แต่ก็ต้องก้มลงไปหยิบของในเคาท์เตอร์แบบเบี่ยงๆ

จับให้ดูบานปิดเคาท์เตอร์ด้านล่างนะคะ ด้านบนของตัวบานมีการทำมุมปาดทำให้หยิบจับเวลาเปิดได้ง่าย

จากซ้ายสุดคือ Hob and Hood แบบ 2 หัว และพื้นที่เตรียมอาหารเหนือที่วางเครื่องซักผ้า ขนาดกว้างใช้ได้นะคะ

ถัดจากพื้นที่เตรียมอาหารคืออ่างล้างจานแบบหลุมเดียวฝั่งเข้าไป

พื้นที่วางตู้เย็นขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ด้านล่างมีช่องวางเครื่องซักผ้า แต่ก็จะต้องจำกัดอยู่ที่ฝาหน้าเท่านั้น ด้านข้างมีช่องเปิดสำหรับวางไมโครเวฟ

ด้านบนเป็นตู้แบบมีบานปิดทั้งหมด แต่ความสูงของตู้สูงประมาณ 2.2 เมตร ไม่เต็มความสูงฝ้าที่ 2.4 เมตร

ด้านในสุดเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดได้ทั้งสองด้านออกไปยังระเบียงด้านนอก

ที่ล็อกจากด้านในเป็นแบบเลื่อนขึ้น-ลง

ระเบียงขนาด 0.8 x 1.1 เมตร มีปูนก่อยกขึ้นมากั้นน้ำเข้ามาภายในพื้นที่ประมาณ 5 เซนติเมตร ด้านนอกปูด้วยกระเบื้องแบบด้านสีเทากลางขนาด 40 x 40 เซนติเมตร มีราวกันตก

ด้านข้างเป็นที่วาง Compressor แอร์ 2 ตัว แบบเป่าเข้าพื้นที่ระเบียงเต็มๆ ต้องรอดูว่าจะมี Grill ปรับทิศทางลมร้อนให้ระบายออกด้านนอกมั๊ย

มาถึงพื้นที่ในสุดหรือพื้นที่ห้องนอนที่จะมีประตูบานเลื่อนกระจกสูง 2.4 เมตร แบบ 3 บานวางขวางไว้เต็มพื้นที่ กรอบเป็นแบบอลูมิเนียมสีดำแบบมีรางรอบด้าน ตัวบานค่อนข้างใหญ่ทำให้ห้องดูต่อเนื่องและกว้างขึ้น ขนาดแต่ละบานไม่เท่ากัน โดยบานทางซ้ายสุดจะมีขนาดเล็กกว่า คาดว่าน่าจะสั่งทำให้เท่ากับความกว้างของตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านใน

พื้นในห้องนอนยังคงปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 12 มิลลิเมตร มีการฝังกรอบประตูเลื่อนลงไป ทำให้เดินไม่สะดุด และดูเรียบร้อย

ในห้องนอนขนาด 2.45 x 3.3 เมตร จะมีเตียงขนาดใหญ่พร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in วางชิดผนังอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะมีการต่อสายต่างๆไว้สำหรับให้ต่อทีวีแบบติดผนัง

ตู้เสื้อผ้าสูงขึ้นไปถึงฝ้าที่ 2.4 เมตร กว้างเท่าขนาดพื้นที่ข้างเตียงทางซ้าย 1.2 เมตร หน้าบานด้านซ้ายเป็นกระจกส่องเต็มตัว ส่วนทางด้านขวาเป็นแบบบานไม้สำเร็จรูป พอเลื่อนออกมาแล้วก็จะแบ่งช่องออกเป็นพื้นที่แขวนเสื้อ ชั้นเก็บทางด้านขวา และพื้นที่เก็บเครื่องนอนทางด้านบนที่อาจจะไม่ได้หยิบใช้บ่อยมาก

ตรงกลางวางเตียงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางห้อง

พื้นที่ปลายเตียงเหลือ 40 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีไม่ได้แล้ว ก็จะแนะนำเป็นการติดทีวีเข้ากับผนัง โดยจะมีการต่อสายต่างๆไว้ให้

มาถึงอีกฝั่งของพื้นที่ข้างเตียงกว้าง 50 เซนติเมตร มีโต๊ะข้างเตียงเล็กๆที่มี 2 ลิ้นชัก สามารถใช้วางมือถือ ยา ขวดน้ำ หรือ Laptop ช่วงก่อนนอนได้

เปิดลิ้นชัก 2 อันให้ดูเลย รวมๆแล้วความกว้างของเฟอร์นิเจอร์ทั้งสามชิ้นตั้งแต่ตู้เสื้อผ้า ,เตียง และโต๊ะข้างเตียง รวมกันแล้วเท่ากับความยาวของห้องนอนพอดิบพอดี

ช่องแสงภายในห้องนอนมีทั้งแบบที่เป็นบานกระทุ้งรับลมและระบายอากาศได้ และในส่วนของบาน Fix ธรรมดา โดยแบ่งออกเป็นส่วนบนที่ใหญ่กว่า และส่วนล่างที่เล็กกว่า มีบานกระทุ้งบานใหญ่อยู่สองด้านซ้าย-ขวา และตำแหน่งแอร์ที่ปลายเตียงค่อนไปทางฝั่งโต๊ะข้างเตียง

บานกระทุ้งเปิด-ปิด ความจริงสามารถเปิดได้กว้างกว่านี้นะคะ จังหวะการเปิดก็จะมีล็อกเป็นขั้นๆ ตัวบานเวลาเปิดก็ไม่หนักมาก แต่เวลาปิดก็จะมีแรงดันเข้าตัวนิดหน่อย

 

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.15-34.75 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโครงการ คือมี 11 ห้องต่อชั้น มี Functions โดยรวมเหมือนกัน แตกต่างกันตามตำแหน่งห้องภายในอาคารและขนาดของห้องนิดหน่อย

ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็น 1 Bedroom Plus Suite คือเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องเอนกประสงค์ รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบเหมือนเดิม เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อน คือมีชุดโซฟาและโต๊ะกลางอยู่ที่ด้านหนึ่ง และมีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ ส่วนอีกด้านจะเป็นชั้นวางทีวีแบบชิดผนัง เดินไปทางขวา จะเจอส่วนครัวที่ไม่กั้นห้องแยก ด้านในคือห้องน้ำ ส่วนพื้นที่ลึกเข้าไปจะเหมือนห้องตัวอย่างห้องที่แล้วที่จะแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อน มีจำนวน 2 ห้อง คือห้องนอนใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ ด้านในมีเตียงนอนใหญ่และตู้เสื้อผ้า ส่วนอีกห้องหนึ่งทางซ้ายเป็นห้องเอนกประสงค์ที่ภายในห้องตัวอย่างนี้จัดเป็นห้องนอนเล็กที่มีระเบียงด้านด้านใน ห้องนี้นอกจากจะเหมาะสมกับการจัดเป็นห้องนอนเล็กแล้วก็ยังสามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องผ่อนคลายทำงานอดิเรกได้ ข้อเสียข้อหนึ่งของแบบห้อง Type นี้คือพื้นที่ส่วนครัวไม่ได้กั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งนอกจากจะทำให้กลิ่นจากการทำอาหารกระจายทั่วห้องแล้วยังทำให้การดูดควันเป็นไปได้ยาก

ประตูทางเข้าหลักเป็นบาน HDF ขนาด 0.9 x 2.2 เมตร จากความสูงภายในห้อง 2.4 เมตร และตาแมว พร้อมประตูมือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Doorlock เหมือนเดิม

ห้องนี้ก็มี Door Stop อยู่ที่หลังประตูเหมือนกันนะ

ส่วนแรกจากทางเข้าคือโซฟาตัวยาว ด้านในเป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ฝั่งตรงข้ามหลังประตูทางด้านขวาเป็นชั้นวางทีวี ด้านขวาจะมีทางเดินไปยังครัว ที่ไม่ได้กั้นเป็นสัดส่วน ข้างๆกันเป็นห้องน้ำ ส่วนพื้นที่ด้านในจะมีสองประตูบานเลื่อน ทางซ้ายคือประตูเลื่อน 3 ตอนเข้าไปยังห้องนอน ส่วนประตูเลื่อน 2 ตอนทางขวาคือประตูทางเข้าห้องเอนกประสงค์ที่ในห้องตัวอย่างปรับเป็นห้องนอนเล็กๆ ด้านในมีระเบียงออกไปด้านนอกด้วย

เข้ามาจะเจอโซฟาตัวยาววางชิดผนังอยู่ สองข้างยังมีพื้นที่เหลือๆวางโต๊ะเล็กๆข้างๆได้ ด้านหน้าก็กว้างพอที่จะวางโต๊ะกลางเล็กๆได้ พื้นห้องนั่งเล่นเป็นพื้นลามิเนตหนา 12 มิลลิเมตร ผนังห้องที่ได้จริงจะเป็นฉาบปูนเรียบทาสีธรรมดา

ฝั่งตรงข้ามของชุดโซฟาก็จะเป็นชั้นวางทีวี มีทั้งตู้ด้านล่างแบบลอย และด้านบนที่เป็นตู้แบบบานปิด ทีวีซื้อแบบวางได้บนที่ตู้ หรือจะซื้อแบบติดผนังตัวตู้ ส่วนด้านที่ประตูทางเข้าหลักบังอยู่ก็จะเป็นชั้นวางรองเท้าและตู้เก็บของเหมือนห้องตัวอย่างที่แล้ว

ลองปิดประตูหลักของห้องพักดู แล้วเปิดลิ้นชักชั้นวางทีวีออกมา ชั้นวางรองเท้าที่มุมห้อง รวมถึงตู้ด้านบนที่เพิ่มเข้ามา

ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่นอยู่ที่ 2.3 เมตร

เขยิบเข้ามาข้างๆโซฟาก็จะเป็นชุดโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวหันหน้าทำมุมเข้าหากัน หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นวางโต๊ะทำงานก็ได้ เหนือขึ้นไปเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนังสำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่น

ด้านในมีประตูบานเลื่อนสองบาน ทางซ้ายคือประตูห้องนอนใหญ่ ส่วนทางขวาคือประตูแบบบานเลื่อนเข้าห้องเอนกประสงค์ที่สามารถเปิดได้ทั้งสองทาง ลูกฟักเป็นกระจก ส่วนกรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ สูงเท่าความสูงห้องคือ 2.4 เมตร ทำให้ห้องดูกว้างขวางดีเพราะเห็นทะลุกันได้หมด ทางขวามือก่อนถึงประตูบานเลื่อนเป็นเคาท์เตอร์ครัว และเลี้ยวขวาอีกทีคือห้องน้ำ

หันมามองพื้นที่ครัวกันตรงๆ กว้าง 1.7 เมตร มีทั้งเคาท์เตอร์ล่าง-บน และช่องว่างสำหรับการวางตู้เย็นกว้าง 60 เซนติเมตร ฝั่งตรงข้ามที่เห็นเป็นกล่องลายไม้ตรงกลางเป็นที่ใส่เครื่องซักผ้าที่หันหน้าเข้าหาพื้นที่ครัว พื้นส่วนครัวก็ยังคงปูด้วยลามิเนตหนา 12 มิลลิเมตรต่อเนื่องไปจากห้องนั่งเล่น

เปิดบานประตูที่ปิดไว้ทั้งเคาท์เตอร์ด้านล่างและบนให้ดูกันนะคะ จะสังเกตได้ว่าจะเรียงจากร้อนไปเย็นคือ Hob and Hood, อ่างล้างจาน และที่วางตู้เย็น ส่วนที่เตรียมอาหารสามารถใช้พื้นที่ด้านบนของที่วางเครื่องซักผ้าด้านหลังได้

นี่ ที่วางเครื่องซักผ้า มีกรอบให้ใส่ได้พอดี แต่มีข้อจำกัดคือต้องเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าเท่านั้น ด้านบนสามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร และมีโต๊ะที่สามารถพับเปิดขึ้นมาได้อีก เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหาร หรือจะเป็นที่วางข้าวเช้าในวันรีบๆก็ได้

มาต่อกันที่ห้องน้ำที่อยู่ข้างๆกันค่ะ บานประตูที่ห้องตัวอย่างไม่ได้ใส่เข้ามาด้วยเป็นแบบบาน HDF ขนาด 0.75 x 2 เมตร

พื้นปูด้วยกระเบื้องแบบด้านสีเทากลางขนาด 40 x 40 เซนติเมตร และลดระดับพื้นที่ห้องน้ำลงนิดหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร

ภายในห้องน้ำขนาด 1.6 x 2.0 เมตร สุขภัณฑ์จาก American Standard แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกแบบยืนอาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นแบบ 3 ตอน ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีน้ำตาลอ่อนขนาด 40 x 40 และบางจุดปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 20 x 40 เซนติเมตร

พื้นที่เปียกที่อยู่ในสุดขนาด 0.7 x 1.35 เมตร ปูกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นที่แห้งในห้องน้ำ คือกระเบื้องแบบด้านสีเทาอ่อนขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ไม่ลดระดับลงไป แต่ก็จะมีตัวคั่นสูงประมาณ 3 เซนติเมตรรวมความสูงของกรอบฉากกั้นก็ประมาณ 5 เซนติเมตร

หลังประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน สูง 2.4 เมตร คือห้องนอนใหญ่ ตัวบานเป็นกรอบเป็นแบบอลูมิเนียมสีดำแบบมีรางรอบด้าน ขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้ห้องดูต่อเนื่องและกว้างขึ้น

ในห้องนอนขนาด 2.6 x 3.3 เมตร จะมีเตียงขนาดใหญ่พร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in วางชิดผนังอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนข้างเตียงอีกด้านจะมีโต๊ะข้างเตียงวางอยู่ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะมีการต่อสายต่างๆไว้สำหรับให้ต่อทีวีแบบติดผนัง พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายกว้าง 1 เมตร มีตู้เสื้อผ้าสูง 2.4 เมตร หน้าบานด้านซ้ายเป็นกระจกส่องเต็มตัว ส่วนทางด้านขวาเป็นแบบบานไม้สำเร็จรูป เปิดออกมาก็จะมีการจัดช่องเหมือนกับห้องที่แล้ว

พื้นที่ปลายเตียงเหลือ 50 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีไม่ได้แล้ว ก็จะแนะนำเป็นการติดทีวีเข้ากับผนังค่ะ

อีกฝั่งของพื้นที่ข้างเตียงกว้าง 60 เซนติเมตร มีโต๊ะข้างเตียงเล็กๆที่มี 2 ลิ้นชัก ห้องนี้ความยาวจะหลวมๆหน่อยนะคะ ไม่ได้แน่นเป๊ะพอดีเหมือนห้องที่แล้ว ยังมีพื้นที่ให้เก็บม่านได้

ช่องแสงภายในห้องนอนส่วนนอกอาคารเหมือนห้องที่แล้วเป๊ะ คือมีทั้งแบบที่เป็นบานกระทุ้งรับลมและระบายอากาศได้ และบาน Fix ธรรมดา ตำแหน่งแอร์อยู่ที่ปลายเตียงเหมือนเดิม แต่ห้องนี้จะอยู่ตรงกับเตียงเลย

มาต่อกันที่ห้องสุดท้ายแล้ว กับห้องเอนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องนอนเล็ก ประตูเป็นแบบเลื่อน 2 บาน สามารถเปิดได้จากทั้งสองด้าน แต่อีกด้านจะติดกับเคาท์เตอร์ครัว กรอบคืออลูมิเนียมสีดำ

พื้นที่ด้านในขนาด 2 x 2.5 เมตร ในห้องตัวอย่างไม่ได้จัดเตียงแบบตั้งพื้นให้นะคะ แต่เป็นฟูกเตียงวางอยู่บนพื้นที่ยกขึ้นมา ในส่วนพื้นที่ยกขึ้นมาและฟูกนี่ไม่รวมอยู่ในรายการการขายนะคะ พื้นก็จะเป็นเรียบเสมอเหมือนปกติ พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 12 มิลลิเมตร

ด้านบนมีตู้ติดมาให้ แบ่งครึ่งๆออกเป็นในส่วนที่มีบานปิดและเปิดโล่งเป็นชั้นธรรมดา

ด้านในสุดเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดได้ทั้งสองด้านออกไปยังระเบียงด้านนอก สามารถเปิดได้จากทั้งสองด้านเช่นกัน มีตำแหน่งแอร์อยู่ทางด้านซ้ายค่อนไปทางประตูเลื่อนใกล้ระเบียง

ใต้แอร์จะมีโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้ติดอยู่ที่ผนัง แต่วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลมันเสียพอดีเลยเปิดให้ดูไม่ได้ค่ะ…

ระเบียงขนาด 0.8 x 2 เมตร มีปูนก่อยกขึ้นมากั้นน้ำเข้ามาภายในพื้นที่ประมาณ 5 เซนิตเมตร ด้านนอกปูด้วยกระเบื้องแบบด้านสีเทากลางขนาด 40 x 40 เซนติเมตร มีราวกันตก

ด้านข้างเป็นที่วาง Compressor แอร์ 3 ตัว คือทั้งหมดของยูนิตนี้ แต่หันหน้าเป่าลมร้อนเข้าพื้นที่ระเบียงเต็มๆ

มาชมแบบห้องแบบอื่นๆกันบ้างนะคะ เร่ิมเลยจากห้อง 1 Bedroom Superior ขนาด 22.52-23.16 ตารางเมตร มี 8 ห้องภายในชั้นๆหนึ่ง รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือก่อน ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นพื้นที่โซฟาและโต๊ะกลางอยู่ที่ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านจะเป็นชั้นวางทีวีแบบ Built-in ข้างๆจะเป็นประตูเลื่อนกระจกกั้นบานใหญ่ ไว้สำหรับเปิด-ปิดเข้าสู่ห้องนอน ด้านในจะมีเตียงอยู่ทางขวา ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้า ส่วนมุมห้องอีกทางหนึ่งจะเป็นส่วนของโต๊ะทำงานเข้ามุมพอดีเป๊ะ ด้านข้างคือประตูเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียง การจัดผังห้องให้ห้องน้ำและส่วนครัวอยู่ส่วนด้านในของอาคาร คือไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาพัดลมดูดอากาศล้วนๆ

ต่อมาคือห้องแบบ 2 Bedroom Penthouse ขนาด 40.71 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตำแหน่งของห้องนี้อยู่ในส่วนของพื้นที่หน้าสุดของอาคาร ติดกับถนนใหญ่พหลโยธิน ตั้งแต่ชั้น 3-13 เป็นห้อง Type ที่ได้ห้องแบบหน้ากว้างกว่าแบบอื่นๆ โดยเข้ามาจากประตูหลักห้องชุดจะเจอห้องนั่งเล่นอยู่ด้านหน้า มีชุดโซฟาและฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีติดผนัง ด้านข้างเป็นระเบียงเดียวของห้องนี้ ส่วนถ้าเดินมาทางขวาของทางเข้า จะเจอกับชุดครัวอยู่ชิดผนัง ข้างๆเป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ไม่ได้กั้นเป็นสัดส่วน ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ถัดไปเป็นห้องนอนเล็กที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ด้านในสามารถวางเตียงขนาดเล็ก, โต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้า ส่วนทางขวาสุดของห้องชุดคือห้องนอนใหญ่ ที่มีเตียงวางอยู่ตรงกลางห้อง ฝั่งขวาเป็นโต๊ะทำงานเข้ามุมและตู้เสื้อผ้า ส่วนอีกฝั่งของพื้นที่ข้างเตียงเป็นโต๊ะทำงานขนาดเต็มความกว้างของห้องนอน ถ้ามองจากการจัดวางพื้นที่ใช้สอยก็จะเห็นว่าเป็นแปลนห้องที่คล้ายๆห้อง 1 Bedroom Plus ของโครงการ คือห้องนอนอีกห้องที่เพิ่มเข้ามาก็เป็นห้องที่วางได้แค่เตียงเล็กเหมือนห้องเอนกประสงค์ แต่จะมีพื้นที่นั่งเล่น, ระเบียง และห้องนอนใหญ่ที่กว้างขวางกว่า มองจากขนาดโดยรวมที่อยู่ที่ 40 กว่าตารางเมตร จะถือว่าเป็น 2 ห้องนอนที่ขนาดไม่ใหญ่มากเท่าปกติ

ห้องแบบสุดท้ายคือห้องแบบ 2 Bedroom Penthouse ขนาด 48.32 ตารางเมตร อยู่ในส่วนของพื้นที่หน้าสุดของอาคารเช่นกัน ตั้งแต่ชั้น 3-13 รูปร่างห้องเป็นแบบเกือบจะสี่เหลี่ยมจตุรัส มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยเข้ามาจากประตูหลักห้องชุดจะเจอชุดครัวอยู่ทางขวา ด้านหน้าเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง ลึกเข้าเป็นเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟาตัวยาว ชั้นวางทีวี และมีประตูเลื่อนออกไปยังระเบียง ระหว่างพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นทางเดินไปยังห้องนอนเล็กที่อยู่ทางซ้ายมือ และขวามือคือห้องน้ำ ประตูที่อยู่ด้านหน้าคือประตูเข้าห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงและห้องน้ำเป็นของตัวเอง การจัดวางและจำนวนห้องภายในห้องชุดก็จะครบครันกว่าแบบที่แล้ว คือห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวและมีระเบียง แต่ห้องนอนเล็กก็จะวางเตียงเล็กได้เหมือนเดิม

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 June 2015 (แก้ไข update เป็นราคาหักส่วนลด Promotion 23 June 2015)

  • 1 Bedroom แบบ Superior (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) 22.52 – 23.16 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom แบบ Deluxe (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) 28.41 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom แบบ Suite (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์) 34.15 – 34.75 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms แบบ Penthouse (2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ) 40.71 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.94 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms แบบ Penthouse (2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ) 48.32 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.50 ล้านบาท

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญาเร่ิมต้น 40,000 บาท ขึ้นกับขนาดห้อง
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 22 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร (ชำระครั้งเดียว)
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้จะซื้อและผู้จะขายรับผิดชอบคนละครึ่ง
  • ค่าจดจํานอง 1% ของวงเงินกู้ (ในกรณีผู้จะซื้อ ชําระเป็นสินเชื่อ)
  • ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าและการเปิดใช้สาธารณูปโภค ผู้จะซื้อเป็นผู้ชําระ
  • Pre-sale 27 มิถุนายนนี้ ที่สำนักงานขายโครงการนะคะ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ อยู่ในทำเลย่านค้าขายของชุมชนแถวสะพานใหม่นะคะ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเพื่อรองรับการขยายตัวของระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุด ซึ่งสถานีเส้นที่ต่อเนื่องจากสถานี Interchange หมอชิต ภายในพื้นที่ชานเมืองฝั่งเหนือของกรุงเทพ ซึ่งปัจจุบันภายในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ที่อยู่บนสองข้างทางของถนนใหญ่พหลโยธิน ตัวโครงการอยู่ริมถนนใหญ่ ระหว่างซอยพหลโยธิน 48 และ 50 ที่ถือว่าเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูงโครงการแรกๆภายในพื้นที่ บริเวณใกล้เคียงภายใน 5 กิโลเมตรก็จะมีสิ่งปลูกสร้างประเภทเกื้อกูลการอยู่อาศัยภายในชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล, Tesco Lotus, BigC Supercenter, ตลาดยิ่งเจริญ วัดและโรงเรียนต่างๆ รวมถึงเป็นพื้นที่ของสถานที่ราชการอย่างทหาร ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนทหาร หอประชุม และสโมสร ซึ่งปกติแล้วความเจริญจะมาตามระบบขนส่งซึ่งในอนาคตน่าจะมีเพิ่มอีกหลายแห่ง ทำให้มีความคึกคักและปริมาณรถตรงเส้นพหลโยธินเยอะขึ้นไปอีก

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้า-ออกได้จากถนนพหลโยธินที่มีปริมาณรถสัญจรไปมาตลอดวัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนเข้าทำงานและช่วงเย็น ข้อดีคือติดถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอยใดๆเพื่อจะเข้าสู่ตัวโครงการ และถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อได้จากถนนหลักหลายๆสาย ไม่ว่าจะเป็นทางที่ขนานกันมาอย่างถนนวิภาวดีรังสิตที่มีสะพานกลับรถและทางขึ้น-ลงทางด่วนโทลล์เวย์ และนอกจากนั้นยังมีเส้นรามอินทราจากทางทิศใต้ และเส้นสายไหมจากทางทิศเหนือ นอกจากนั้นยังมีถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-รัตรโกสินทร์สมโภชที่ตัดจากถนนพหลโยธินไปยังแถววัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่กำลังจะเปิดใช้งานเร็วๆนี้ ในช่วงเวลาปกติที่ไม่ใช่ช่วงเช้าเย็น การเดินทางคล่องตัวใช้ได้ จะลำบากหน่อยก็ตอนรถติดช่วงเช้านี่แหละ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ปัจจุบันที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ก็จะมีขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆให้ใช้งานอย่างรถเมล์ที่มีตลอดถนนพหลโยธินทั้งขาเข้าและขาออก มีสะพานลอยข้ามไม่เกิน 400 เมตรจากโครงการ นอกจากนั้นตัวถนนใหญ่เองก็สามารถเรียกแท๊กซี่, รถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งไปเข้าเมืองไปอนุสาวรีย์ หมอชิต หรือจะขึ้นเหนือไปรังสิต ปทุมธานี และภายในอีก 5 ปี เราคงจะได้ยลโฉมรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุด ที่จากภาพ Perspective จะมีทางขึ้น-ลงบันไดของสถานี อยู่หน้าทางเข้าโครงการ ซึ่งมีสถานี Interchange กับสายสีชมพูอยู่ที่สถานีวัดพระศรีฯ ซึ่งเป็นสถานีถัดไป สามารถเดินทางไปตามถนนรามอินทราทางตะวันออก หรือจะเข้านนทบุรีช่วงศูนย์ราชการไปทางตะวันตก

วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบชุดตามรูปแบบการขายอย่าง Fully Furnished พร้อมแอร์ครบทุกห้อง แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลอ่อนหนา 12 มิลลิเมตร พื้นส่วนครัวบางห้องที่กั้นแยกและระเบียงด้านนอกเป็นกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ฝ้าสูง 2.4 เมตร ผนังเป็นฉาบปูนเรียบ ไม่มี Wallpaper ห้องครัวเคาท์เตอร์ครบพร้อม Hob and Hood ขนาดค่อนข้างเล็ก บาง Type ไม่ได้กั้นห้องแยกออกมาเป็นสัดส่วนทำให้ไม่เหมาะกับการประกอบอาหารอย่างจริงจังอุปกรณ์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard มี Digital Doorlock ให้พร้อม ถือว่าให้มาครบแบบออกแบบให้พอดีกับห้อง

ออกแบบตัวอาคารเป็นรูปตัว I ยาวๆ สร้างอาคารเต็มพื้นที่แปลงที่ดินที่หน้าหันออกไปทางถนนพหลโยธินค่อนข้างแคบ ทั้งอาคารมี 490 ยูนิต จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ชั้น 5-13 คือ 49 ยูนิต มีโถงลิฟท์โถงเดียวที่ส่วนหน้าโครงการ ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และมี Service Lift 1 ตัวอยู่ที่ท้ายโครงการ มีบันไดหนีไฟ 3 จุดยาวตลอดความยาวอาคาร ถ้าดูจากภาพด้านข้างของโมเดลโครงการ ถือว่าค่อนข้างหนาแน่น แบ่งออกเป็น City Zone และ Private Zone ที่รวมอยู่ภายในอาคารเดียวกัน เนื่องจากปกติที่ดินที่ลึกแบบนี้สามารถสร้างแยกออกมาได้ 2 อาคาร แต่ทางโครงการเลือกที่จะสร้างรวมเป็นอาคารเดียว มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่มี Core ลิฟท์อยู่ที่จุดเดียว ทำให้มีห้องที่สะดวกมากๆเพราะอยู่ใกล้ลิฟท์ กับห้องที่เดินไกลลิฟท์มากๆ ซึ่งคงต้องเลือกกันดีๆว่าชอบแบบไหน… อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 163:1 ทำให้อาจจะต้องรอนานหน่อยในช่วงเวลาเร่งรีบ แต่การออกแบบตึกยาวๆแบบนี้ก็มีข้อดีที่ทำให้ Facility ด้านบนชั้น 15 มีพื้นที่เชื่อมต่อกันทำให้ได้ขนาดดี และมันน่าใช้งาน

การวางผังห้องภายในชั้นๆหนึ่งเป็นแบบ Double Corridor มีห้องทั้งหมด 4 แบบ ขนาดห้องตั้งแต่ 22.52 – 48.32 ตารางเมตร แต่เน้นไปที่ห้องขนาดเล็กซะเป็นส่วนใหญ่ ห้องแต่ละแบบก็เลือกตามความต้องการขึ้นกับจำนวนคนและการอยู่อาศัย เพราะห้องบาง Type จะแยกห้องครัวออกเป็นสัดส่วนอยู่ใกล้ระเบียง ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร บางห้องจะมีพื้นที่ครัวอยู่ใกล้กับห้องรับแขกพื้นที่เดียว การกั้นห้องนอนบาง Type ใช้เป็นแบบบานกระจกเลื่อน ทำให้ห้องโดยรวมดูกว้าง แต่บางห้องที่ขนาดใหญ่ขึ้นอย่าง 2 Bedrooms ห้องนอนใหญ่ก็จะเป็นแบบประตูแบบปกติ ส่วนวิวจากห้องพักต่างๆแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือหันออกหน้าโครงการไปยังถนนพหลโยธิน เป็นวิวสำหรับห้องที่ใหญ่หน่อย ส่วนห้องอื่นๆที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็จะได้วิวชุมชนและที่อยู่อาศัยแนวราบทั่วไป

สาธารณูปโภคส่วนกลางพยายามแบ่งพื้นที่ตามการใช้งานให้ได้เยอะที่สุดตามคอนโด High Rise ทั่วไป พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 15 เช่น Lobby และพื้นที่สีเขียวท้ายโครงการ และชั้นดาดฟ้าอย่างการมีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ยาว 25 ตารางเมตร, ห้องฟิตเนส นอกนั้นเป็นพื้นที่สีเขียวที่การใช้งานไม่ได้ Fix แต่ก็จะมี Guildline แนะนำมากมาย เช่น Playground, Private Sky Garden, BBQ Corner, Free form jogging track, และ Putting Green และ Tea Corner ซึ่งความที่เค้าเป็นคอนโด High Rise ใหม่ในย่านนี้ เลยค่อนข้างจะได้เปรียบในการจัด Facility ให้มีขนาดและจำนวนที่ดีกว่าคอนโด Low Rise ทั่วไป และการเอา Facility ขึ้นไปไว้ที่ชั้น 15 ก็ทำให้เพิ่ม Privacy และความน่าใช้ให้มันดียิ่งขึ้น ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ เมื่อเทียบกันในย่านนี้นะคะ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ย 90,000 บาทต่อตารางเมตร, 23 June 2015 (ราคารวมส่วนลด)

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลติดถนนใหญ่และติดสถานีรถไฟฟ้า อยู่ในย่านค้าขายของสะพานใหม่ ถือว่าทำเลดีมากนะคะในย่านนั้น แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ดูจะมีทางเลือกที่หยิบจับคอนโดในเมืองกว่านี้ได้
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนพหลโยธิน ยูเทิร์นไม่ไกล เดินทางสะดวกมากยกเว้นช่วงเวลารถติด
  • ไม่ใช้รถ ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ในจุดที่เรียกรถง่ายมาก ปลอดภัยและไม่เปลี่ยว
  • ไม่ใช้รถ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ 8.5/10 – ติดรถไฟฟ้าสถานีสายหยุด สะดวกมาก
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished ได้เฟอร์ที่ออกแบบมาพอดีห้องมาครบ พื้นลามิเนต 12 มม.โปรโมชั่นให้แอร์ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • แบบ 7.25/10 – ลักษณะที่ดินบังคับให้ออกแบบตึกเป็นแนวยาว ทำให้จำนวนห้องต่อชั้นหนาแน่น มีโถงลิฟท์เดียว ห้องส่วนใหญ่หน้าแคบ ยังดีที่ออกแบบแยกย่อยให้เหมาะตามลักษณะการใช้งาน มีทางเลือกสำหรับแต่ละคน
  • สาธารณูปโภค 8.0/10 – ออกแบบมาน่าใช้เพราะยกมาไว้บนชั้น 15 เป็นส่วนใหญ่ Facility โดยรวมครบและมีขนาดโอเคสมราคา น่าเสียดายที่ได้ลิฟท์มาน้อยแถมมีจุดเดียวคืออยู่ค่อนมาทางด้านหน้า ทำให้มีห้องบางห้องต้องเดินไกลไม่สะดวก (คะแนนเป็นคะแนนเฉลี่ย ห้องที่สะดวกและอยู่ใกล้ลิฟท์ จะเพิ่มคะแนนส่วนนี้เองก็ได้ค่ะ)

  • UPPER CLASS
  • 7.64 / 10.00 คะแนน ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า
  • 7.75 / 10.00 คะแนน เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ

BOTTOM LINE

KnightsBridge SkyCity สะพานใหม่ เป็นโครงการในทำเลค้าขายย่านสะพานใหม่ ที่เกาะเส้นรถไฟฟ้าสถานีสายหยุด เหมาะสำหรับคนที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ย่านนี้อยู่แล้ว มีรถใช้ส่วนตัว และคาดหวังจะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในอนาคต มีงบประมาณราว 2.2 – 4.8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 14,000- 33,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/