รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว คอนโด Low rise ต้นซอยรัชดา 32 เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ จาก Asset wise [รีวิวฉบับที่ 2417]

13 สิงหาคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 2186 … สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาไปรีวิวคอนโดย่านรัชดา ลาดพร้าว ที่มีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท แถมขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ด้วย กับโครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว จาก Asset wise ค่ะ

  • ที่ตั้งของโครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว จะอยู่ในซอยรัชดา 32 ที่เข้าออกได้ทั้งรัชดา และ ลาดพร้าว แถมยังเป็นทำเลที่เราซอกแซกไปยังลาดพร้าว-วังหิน, โชคชัย 4, หรือว่าเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทราได้ด้วยนะ เป็นอีกทำเลที่เดินทางได้หลากหลายและมีของกินให้เลือกเพียบ!
  • ส่วนราคาก็ทำออกมาจับต้องได้ง่าย คิดต่อตร.ม.ก็ยังไม่ถึงแสน (เฉลี่ย 90,000 บาท/ตร.ม.) ราคาพิเศษช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 1.89 ล้านบาทค่ะ
  • แบบห้องก็จะเน้นขายห้องขนาดเล็ก 1 Bedroom ใหญ่สุดก็จะเป็น 1 Bedroom plus เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัย 1-2 ใช้ชีวิตง่าย เดินทางนั่งมอเตอร์ไซค์ไปใช้รถไฟฟ้าได้สะดวกค่ะ

รายละเอียดโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

20 January 2021

  • ไอเวอรี่ รัชดา ลาดพร้าว (Ivory Ratchada Ladprao)
  • บริษัท แอสเซทไวส์ จํากัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ซอยรัชดาภิเษก 32 เขตจตุจักร
  • ที่ดินประมาณ 1-2-8 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 204 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 73 คัน คิดเป็น 35% รวมที่จอด Shuttle Service (ไม่รวมซ้อนคัน) up date 02/02/2021
  • เริ่มก่อสร้าง : 2564
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2565
  • แบบห้อง
    -1 Bedroom ขนาด 24.16 – 24.59 ตร.ม.
    – 1 Bed Exclusive ขนาด 28.09 – 28.59 ตร.ม.
    – 1 Bed Extra ขนาด 28.97 – 30.44 ตร.ม.
    – 1 Bed Plus ขนาด 33.05 – 40.99 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 1.89 ล้านบาท (1 Bedroom)  / หรือตร.ม.ละ 78,289 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร : 02-168-0000

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.8157082,100.5758672
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ สำหรับทำเลของโครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว นี้จะอยู่ในซอยรัชดา 32 ค่ะ สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนรัชดาและถนนลาดพร้าวเลย โดยซอยรัชดา 32 นี้เป็นซอยที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง ลาดพร้าว-วังหินได้สะดวก ลัดเลาะไปยังโซนโชคชัย 4 , นาคนิวาส และไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้ค่ะ 

ในแง่ที่อยู่อาศัยที่เป็นคอนโดมิเนียมทั้งบนถนนลาดพร้าวตอนต้น หรือว่าบนถนนรัชดาเองก็มีตัวเลือกอยู่มากทั้งคอนโดสูง(high rise) หรือว่าคอนโดแนวราบ(low rise) แต่ถ้าเราลองหาดูจริงๆจะเจอคอนโดที่ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 2 ล้านบาทจะมีอยู่ไม่มากค่ะ ซึ่ง Ivory รัชดา-ลาดพร้าว เป็นหนึ่งในนั้น โดยถ้าอิงจากถนนรัชดาเป็นหลัก จะมีคอนโดในโซนห้วยขวาง-สุทธิสาร ที่ทำราคาออกมาไม่สูงเช่นกัน แต่ถ้าเราดูจากบริบทสภาพแวดล้อม ก็จะมีความต่างอยู่ค่ะ ซึ่งบรรยากาศของห้วยขวางจะมีความเป็นชุมชน มีตลาด แต่ในโซนรัชดา 32 ที่เชื่อมกับลาดพร้าว-วังหินจะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมมากกว่า ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็จะเป็นร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ หรือว่า Community mall มากกว่าค่ะ

ในแง่การเดินทางนั้นในซอยรัชดา 32 ถือว่าสามารถไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ง่าย อาศัยพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่มีให้เรียกหลายจุดในซอย ต่อเดียวก็ถึงรถไฟฟ้าแล้วค่ะ ซึ่งสถานีลาดพร้าวจะเป็นสถานีรถใต้ดิน mrt ใช้เดินทางเข้าไปยังแหล่งงานโซนพระราม 9 , อโศกได้ง่าย เราเห็นคนที่ทำงานอโศกหลายๆคนก็มองหาคอนโดอยู่ในโซนนี้เช่นกัน แต่จุดที่น่าสนใจคือ ในอนาคต ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใช้เดินทางไปยังลำสาลี , พัฒนาการ และถ้าสร้างเสร็จทั้งแผนการก็ใช้ไปยังสำโรง สมุทรปราการได้เลยค่ะ ดังนั้นสถานีนี้จึงจะมีข้อดีเรื่องการเป็นสถานี interchange เพิ่มเข้ามาอีกในอนาคตนะ

เส้นทางการเดินทาง

เส้นทางการเดินทางที่จะพาไปดูเราจะเลือกเข้าไปจากทางซอยรัชดา 32 ค่ะ โดยเริ่มจากถนนรัชดา มุ่งหน้าไปยังพระราม 9 หรือว่าถนนลาดพร้าวนะ โดยขับตรงมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดา 32 จะเจอกับทางแยกโดยมีโรงเรียนสอนดนตรี sooner ตรงหัวมุม และเราก็จะเลี้ยวขวาไป ซอยนี้จะเชื่อมกับลาดพร้าว 23 ค่ะ โดยหลังเลี้ยวขวามาประมาณ 100 เมตรโครงการจะอยู่ขวามือ

Image 1/8
เริ่มที่บนถนนรัชดานะคะ มุ่งหน้าไปยังพระราม9

เริ่มที่บนถนนรัชดานะคะ มุ่งหน้าไปยังพระราม9

ขอบคุณภาพจากทาง asset wise ค่ะ

ที่ตั้งของโครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว กับตำแหน่งของสำนักงานขายจะอยู่คนละที่กันนะคะ แต่ไม่ไกลจากกันมาก ซึ่งทำเลโครงการนี้จะเชื่อมต่อระหว่าง ซอยลาดพร้าว 23 และรัชดา 32 ได้ค่ะ 

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลักค่ะ โดยถนนหน้าโครงการจะเป็นทิศตะวันตก ฝั่งตรงข้ามเป็น apartment สูง 8 ชั้น ส่วนทิศเหนือก็เป็น apartment เช่นกัน สูง 5 ชั้นค่ะ นอกนั้นก็จะเป็นบ้านเดี่ยวบ้าง ที่ดินเปล่าบ้าง ซึ่งในคอนโด lowrise ส่วนใหญ่นั้น คนที่ซื้อจะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่ต้องการห้องพักชม city view เท่าไหร่นะ

Image 1/8
บรรยากาศหน้าโครงการค่ะ

บรรยากาศหน้าโครงการค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 700 เมตร
  • ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~ 1.9 กิโลเมตร
  • The Jas วังหิน ~ 2.2 กิโลเมตร
  • ศาลอาญา ~ 2.4 กิโลเมตร
  • รพ.เปาโล โชคชัย 4 ~ 3.5 กิโลเมตร
  • ตึกช้าง ~ 4.1 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน ~ 4.1 กิโลเมตร
  • ตลาดโชคชัย 4 ~ 4.2 กิโลเมตร
  • SCB Park ~ 4.4 กิโลเมตร
  • Central ลาดพร้าว ~ 4.5 กิโลเมตร
  • รร.สตรีวิทยา 2 ~ 5.0 กิโลเมตร
  • Union Mall ~ 5.3 กิโลเมตร
  • ม.เกษตรศาสตร์ ~ 5.7 กิโลเมตร
  • Central East Ville ~ 6.2 กิโลเมตร
  • Esplanade รัชดา ~ 6.5 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดรถไฟรัชดา ~ 6.5 กิโลเมตร
  • CDC ~ 7.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Ivory รัชดา-ลาดพร้าว เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ครึ่ง มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 204 ยูนิตค่ะ

Concept ของโครงการนี้คือ Live Life Flow ซึ่งสื่อถึงการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกสบาย บนทำเลที่สะดวก และรูปแบบโครงการที่เหมาะกับการใช้ชีวิต เช่น ภายในห้องที่มีหลายแบบให้เลือก ครัวปิด/ครัวเปิด , ห้องแบบ plus ที่เลือกว่าจะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องแต่งตัวแทน เป็นต้นค่ะ

การจัดวางฟังก์ชันต่างๆในโครงการจะแบ่งเอาชั้น 1 เป็นที่จอดรถและงานระบบต่างๆ ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2-8 และพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะอยู่ที่ชั้น 2-3 และชั้นดาดฟ้าค่ะ

ทางเข้าโครงการจะมีอยู่ 2 ส่วนคือทางเข้าที่จอดรถ กับทางเดินคน โดยที่จอดรถจะวนจอดที่ชั้น 1 (ground floor) รวมทั้งหมด 73 คัน คิดเป็น 35% ถือว่าไม่มาก ให้คิดว่าโครงการนี้เหมาะกับคนที่ใช้งานรถไฟฟ้ามากกว่าค่ะ และอีกทางเข้าจะเป็นทางเดินคน ก็สามารถใช้บันไดเดินขึ้นไปยังชั้น 2 ตรงเข้า lobby ได้เลย การที่ยกเอาพื้นที่ส่วนกลางหลักไว้ที่ชั้น 2 ของอาคารก็ช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานได้ เพราะอยู่คนละระดับ(สายตา)กับผู้ที่ขับรถหรือเดินผ่านหน้าโครงการนั่นเองค่ะ

จากหน้าโครงการเดินขึ้นมาจะเจอกับ lobby ของโครงการค่ะ โดย Lobby จะออกแบบให้มีความสูงแบบ double volume เลย

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ของโครงการ

เชื่อมต่อกันกับ Lobby จะเป็นส่วน idea&work cafe ที่เป็นเหมือน co-working space ให้ลูกบ้านมานั่งทำงานได้ค่ะ เป็นฟังก์ชันที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็ทำงานได้นะ

ส่วนที่ชั้น 3 จะเป็นฟิตเนสค่ะ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำของโครงการได้

โดยตัวโครงการนี้จะมีผังเป็นรูปตัว U เกิดเป็น court หรือพื้นที่โล่งกลางอาคารค่ะ

ซึ่งบริเวณ court นี้ก็จะมีฟังก์ชันสวนและสระว่ายน้ำอยู่ ถือเป็นการสร้างวิวภายในให้กับห้องพักอาศัยของที่นี่นะ

นอกจากที่ชั้น 2, 3 แล้ว ที่ชั้นดาดฟ้าก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีกจุดค่ะ เป็นสวนและทางเดิน เผื่อใครอยากมาเดินออกกำลังกาย สูดอากาศในช่วงเช้าหรือเย็นก็ทำได้

ผังชั้นพักอาศัย

Image 1/6
ผังชั้น 1 เป็นที่จอดรถของโครงการค่ะ

ผังชั้น 1 เป็นที่จอดรถของโครงการค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Ivory lounge (lobby)
  • idea & work cafe
  • swimming pool ขนาด 16×4 เมตร
  • active gym
  • sky jogging
  • stargazing yard (สวนชั้นดาดฟ้า)
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ  102 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 73 คัน คิดเป็น 35% รวมที่จอด Shuttle Service (ไม่รวมซ้อนคัน) up date 02/02/2021
  • bluetooth sound system
  • digital door lock
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Finger Scan
  • รปภ. 24 ชั่วโมง

แบบห้อง

Ivory รัชดา-ลาดพร้าว จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 204 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง 4 แบบ ดังนี้ค่ะ
-1 Bedroom ขนาด 24.16 – 24.59 ตร.ม.
– 1 Bed Exclusive ขนาด 28.09 – 28.59 ตร.ม.
– 1 Bed Extra ขนาด 28.97 – 30.44 ตร.ม.
– 1 Bed Plus ขนาด 33.05 – 40.99 ตร.ม.

โดยโครงการนี้มีรูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Furnished เลยค่ะ ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆในห้องมาครบครัน สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า นอกนั้นก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย

สรุปวัสดุต่างๆที่ได้มาภายในห้อง

  • Fully Furnished
  • พื้นห้องสมาร์ทไวนิล
  • ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
  • ฝ้าเพดาน สูง 2.4 ฉาบเรียบทาสีขาว
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • ครัว Top หินเทียม
  • เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน และอ่างล้างจานของ MEX
  • Back splash (ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัว) ปูด้วยกระเบื้อง
  • ห้องน้ำ พื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิค
  • สุขภัณฑ์ของ Cotto
  • แอร์ ยูนิตละ 2 เครื่อง ของ Daikin หรือเทียบเท่า

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูในรีวิวนี้จะมีอยู่ 2 ห้องนะคะ เป็นห้อง 1 Bedroom ที่เป็นห้องเริ่มต้นของโครงการ และ 1 Bedroom Plus ที่เป็นแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ค่ะ แต่ละห้องจะเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลย


1 Bedroom ขนาด 24.59 ตร.ม.

ห้องนี้จะเป็นแบบห้องที่มีเยอะที่สุดของ Ivory รัชดา-ลาดพร้าวเลยค่ะ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของที่นี่ด้วย อย่างที่บอกไปว่าขายเป็นแบบ Fully Furnished ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้นั้นก็จะได้ตามตัวเลขที่เปะไว้ในแปลนด้านบนเลย

  1. ตู้เสื้อผ้า
  2. ฐานเตียงที่มีดีไซน์ลิ้นชักตรงฐาน
  3. ชั้นวางทีวี
  4. โซฟา (ปรับเป็น daybed ได้)
  5. โต๊ะหน้าโซฟา
  6. ชุดครัว (เคาน์เตอร์ เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน)

นอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่ได้แล้วก็ยังได้แอร์มาพร้อมกับตัวห้องด้วยค่ะ เป็นของ Daikin หรือเทียบเท่า โดยจะให้มา 2 เครื่อง บริเวณห้องนั่งเล่น 1 เครื่อง และห้องนอนอีก 1 เครื่องค่ะ

ในส่วนของผังห้องเรามองว่าเหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คนค่ะ โดยเป็นห้องขนาดกะทัดรัด แต่แยกฟังก์ชันห้องนอนออกจากห้องนั่งเล่นเพื่อความเป็นสัดส่วน ห้องนี้จะไม่ได้ครัวปิด และจะไม่มีฟังก์ชันสำหรับวางโต๊ะกินข้าว(ด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่) ดังนั้นถ้าใครชอบทำอาหารกินเองบ่อยๆก็อาจจะมีกลิ่น / ควันจากการทำอาหารลอยคลุ้งภายในห้องได้ และถ้าจะกินข้าว ก็ต้องมานั่งกินตรงโต๊ะหน้าโซฟาแทน นั่งกับพื้น หลังพิงโซฟาคือท่าที่น่าจะสบายสุดค่ะ ^ ^ ในส่วนของราคา ช่วงเปิดตัวก็จะมีราคาพิเศษที่ไม่ถึง 2 ล้าน จัดว่าเป็นราคาที่น่าสนใจอยู่นะ

มาดูที่ตัวห้องกันดีกว่าค่ะ ทางเข้าห้องนั้นจะได้ประตูลายไม้และได้ digital door lock ให้มาทุกห้องค่ะ ซึ่งตัว digital door lock นี้ เข้า-ออกได้หลายวิธีเลย ทั้ง ใช้กุญแจ , ใช้ Keycard , ใช้ password , สแกนลายนิ้วมือ หรือจะตั้งพาสเวิร์ดเฉพาะกิจเอาไว้ (1 time password) เผื่อวันไหนเพื่อนมาบ้านหรือจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดก็จะได้ใช้รหัสชั่วคราวแทนรหัสจริงค่ะ)

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกที่เราเจอเป็นครัวค่ะ โดยความสูงมาตรฐานของห้องจะอยู่ที่ 2.4 เมตร พื้นห้องได้เป็นสมาร์ทไวนิล ที่มีคุณสมบัติทนน้ำ ทนสารเคมีมากกว่าพื้นลามิเนตค่ะ ส่วนผนังก็จะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ไฟจะได้เป็นดาวน์ไลท์

ส่วนครัวจะมีขนาดกะทัดรัดอยู่ตรงทางเข้าห้องเลย โดยที่ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นตำแหน่งห้องน้ำค่ะ โดยทางเดินจะกว้างประมาณ 1 เมตร เดินสบาย

ส่วนครัวจะได้เคาน์เตอร์ที่กว้าง 1.1 เมตร แต่ก็จะมี Built-in ตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่างให้แบบในรูปเลยค่ะ โดยชุดครัวนี้ก็จะมีเตาไฟฟ้า อ่างล้างจานของ Mex ให้มา Top เคาน์เตอร์ก็จะได้หินเทียม ซึ่งทนและเหมาะกับการทำเป็น Top เคาน์เตอร์ครัวนะ

Image 1/2
เตาและอ่างล้างจานของ Mex ค่ะ ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ก็จะกรุกระเบื้องเอาไว้ ง่ายต่อการทำความสะอาด

เตาและอ่างล้างจานของ Mex ค่ะ ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ก็จะกรุกระเบื้องเอาไว้ ง่ายต่อการทำความสะอาด

ตรงกันข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ โดยที่ด้านในห้องน้ำจะกรุพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ

Image 1/5
ห้องอาบน้ำจะอยู่ที่มุมพอดี ตัวฉากกั้นกระจกที่ติดตั้งมาให้จึงเป็นแบบเข้ามุมค่ะ เพื่อที่จะใช้งานได้สะดวก

ห้องอาบน้ำจะอยู่ที่มุมพอดี ตัวฉากกั้นกระจกที่ติดตั้งมาให้จึงเป็นแบบเข้ามุมค่ะ เพื่อที่จะใช้งานได้สะดวก

ถัดเข้ามาเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ฟังก์ชันนี้ถือว่าเป็นฟังก์ชันใจกลางของห้องยาวเต็มความกว้างของห้องเลยมีขนาด 3.75×1.6 เมตร มีทางเดินที่กว้างค่ะ

ทางเดินที่กว้างจึงเดินเข้า-ออกห้องได้สะดวกค่ะ จากห้องนอนตกดึกเข้าห้องน้ำก็เดินได้สบายเลย

ตัวห้องนี้จะได้โซฟามาด้วย ขนาดจึงจะพอดีกับพื้นที่เลย

หน้าตาของโซฟา และโต๊ะหน้าโซฟาจะได้แบบนี้นะคะ มีหมอนอิงให้มาด้วย เป็น Sofa bed กางออกมานอนดูทีวีได้ด้วย

Image 1/2
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของคอนโด asset wise คือระบบ bluetooth sound system ค่ะ

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของคอนโด asset wise คือระบบ bluetooth sound system ค่ะ

ทางฝั่งตรงข้ามกับโซฟาจะมีชั้นวางทีวีให้มาค่ะ ทั้งชิ้นล่างและแผ่นชั้นวางของด้านบนด้วย

ชั้นวางทีวีด้านล่างก็จะมีตู้เก็บของค่ะ โดยตัวชั้นจะวางลอยสูงจากพื้น ดังนั้นสำหรับใครที่มีรองเท้าเยอะ อาจจะเก็บรองเท้าใต้ชั้นวางทีวีนี้ได้นะ เพราะเท่าที่ดูตั้งแต่หน้าห้องมายังไม่เจอพื้นที่สำหรับวางรองเท้าเลยค่ะ

ด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องนอนค่ะ โดยมีประตูบานเลื่อนกระจกสามตอนกั้นแยกพื้นที่ห้องนอนออกไปเป็นสัดส่วน เวลานอนตอนกลางคืนก็เปิดแอร์ตัวเดียวในห้อง ประหยัดไฟขึ้นค่ะ

ภายในห้องนอนจะให้เตียงมาค่ะ เป็นเตียง 5 ฟุต (กว้าง 1.6 เมตร) ให้มาเฉพาะฐานเตียง

ดีไซน์ปลายเตียงจะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของเพิ่มเติมให้

ปลายเตียงจะมีขนาดกว้างหน่อยประมาณ 90 ซม. ถือว่าเดินสะดวก แต่ว่าทางด้านข้างเตียงจะค่อนข้างพอดี ถ้าปิดประตูบานเลื่อนกระจกก็อาจจะเดินลงข้างเตียงไม่ได้ แนะนำให้ลงทางปลายเตียงแทนค่ะ

ส่วนปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าให้มาแบบนี้ หน้าบานเป็นกระจกค่ะ แต่จะออกแบบให้รองรับการแขวนทีวีไว้ เผื่อใครอยากนอนดูหนังก็สามารถทำได้ค่ะ

ดีไซน์เช่นนี้ถึงแม้จะได้ฟังก์ชันดูทีวีในห้องนอนเพิ่ม แต่ในแง่การใช้งานก็อาจจะลำบากนิดหน่อยสำหรับคนที่เสื้อผ้าแน่นเต็มราว แล้วคิดอยากจะเอื้อมหยิบตัวที่อยู่ด้านในขึ้นมาก็จะลำบากหน่อยค่ะ

สำหรับในห้องนอนนี้ถือว่าได้ช่องแสงค่อนข้างเยอะเลย โดยจะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นระเบียงด้วยค่ะ

ประตูทางออกไปยังระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกสามตอน

ระเบียงจะปูด้วยพื้นกระเบื้อง ขนาดระเบียง 2.5×0.80 เมตร เป็นพื้นที่ซักล้าง วางเครื่องซักผ้าและวาง condensing unit ได้

อีกด้านพื้นที่ภายในห้อง ส่วนนี้จะมีขนาดประมาณ 1.20×0.90 เมตร จัดเป็นมุมทำงานเล็กๆเพิ่มเติมได้ค่ะ

และนี่ก็เป็นห้องตัวอย่างห้องแรกที่เราพามาชมกันนะ ผู้อ่านชอบห้องนี้กันไหมคะ?


1 Bedroom Plus ขนาด 33.23 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างอีกห้องจะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ และมีจำนวนเยอะรองลงมาจากห้อง 1 Bedroom ที่พาไปชมเมื่อสักครู่ค่ะ (แปลนห้องกับห้องตัวอย่างจะสลับด้านกันอยู่นะ) ในส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาในห้องนี้จะเหมือนกับห้องที่แล้ว แต่ว่าเพิ่มโต๊ะกินข้าวเข้ามาค่ะ

ในส่วนของฟังก์ชันนั้น เนื่องจากขนาดห้องที่ได้ใหญ่ขึ้นแล้ว ทำให้ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจนมากขึ้นด้วย ในผังนี้เราจะได้ครัวปิด ทำอาหารก็ทำได้เต็มที่เลย ส่วนห้องนอนก็เป็นห้องนอนปิดเช่นกัน ได้ความเป็นส่วนตัว ทีนี้เวลาอยู่กัน 2 คน คนหนึ่งนอน อีกคนจะดูทีวี แสงและเสียงก็จะไปรบกวนคนที่นอนในห้องแล้วค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีห้องอเนกประสงค์ที่ plus เพิ่มขึ้นมาด้วย จัดเป็นห้องทำงานหรือจะเป็นห้องแต่งตัวก็ได้นะคะ

จุดที่น่าสนใจในห้องนี้คือในตอนนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ห้องอเนกประสงค์เป็นห้องแต่งตัวหรือไม่ option 1 : ไม่เอาเป็นห้องแต่งตัว ก็จะได้ห้องโล่งค่ะ option 2 : อยากใช้เป็นห้องแต่งตัว ชุดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอนก็จะได้เป็นตู้ยาวเต็มความลึกของห้องอเนกประสงค์แทน (ส่วนห้องนอนพื้นที่ปลายเตียงก็จะกว้างขึ้น จะทดแทนด้วยการติดทีวีก็ทำได้นะ) ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ โดยห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3 ล้านต้นๆนะ บรรยากาศภายในห้องจะเป็นอย่างไร ไปชมกันค่ะ

เข้ามาภายในห้อง ส่วนแรกที่เราจะเจอเป็น Common area ที่รวมเอาฟังก์ชันห้องนั่งเล่นและพื้นที่กินข้าวไว้ด้วยกันค่ะ

พื้นที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของห้อง นั่งเล่นพักผ่อน และรับรองแขกได้ไปในตัว ตรงนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 2.8×3.35 เมตร

บริเวณนี้ก็จะได้ชั้นวางทีวีและชั้นวางของด้านบนแบบนี้ เฟอร์นิเจอร์และ built-in ต่างๆลายไม้ค่ะ

โดยจะมี Bluetooth sound system ติดตั้งไว้ให้เช่นเคยค่ะ ลำโพงก็จะมีอยู่ 2 จุดคือฝ้าเพดานของห้องนั่งเล่นนี้กับภายในห้องนอน

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นผนังยาว 3.35 เมตร เหมาะสำหรับวางโซฟาและโต๊ะกินข้าวนะ

ซึ่งโครงการก็จะให้ sofa bed และโต๊ะหน้าโซฟาดีไซน์แบบนี้ให้มาค่ะ

ส่วนโต๊ะกินข้าวก็จะเป็นแบบ 2 ที่นั่งวางเข้ามุมพอดีโทนสีขาว

ตัวห้องจะเป็นห้องหน้ากว้างนะคะ โดยจะมีฟังก์ชันที่อยู่ด้านข้างอีกเป็นส่วนบริการ (services) คือห้องครัวและห้องน้ำค่ะ

ข้อดีของห้อง type นี้คือพื้นที่ครัวปิดค่ะ โดยครัวนี้จะแยกจากพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

ตัวรางจะอยู่ด้านบนนะ ทำให้เวลาเดินพื้นจะเรียบระดับเดียวกันหมด ไม่สะดุดค่ะ แต่ว่าประตูจะเปิดสุดแล้วกว้างเท่าที่เห็นในรูปนะ

ครัวนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ ตัวห้องจะมีขนาด 2×2 เมตรเลย ได้ชุดครัว built-in เป็นรูปตัว L และมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้ในห้อง (ซึ่งดีกว่าการวางตากแดดตากฝนไว้ที่ระเบียงนะ)

ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้บนเคาน์เตอร์ก็มีพื้นที่สำหรับวางของเตรียมอาหารเพิ่มมากขึ้นด้วย

เรียกได้ว่าพื้นที่เก็บของในครัวเยอะเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารกินเองนะคะ

ถัดจากครัวหันไปจะเจอกับห้องน้ำค่ะ แปลว่าประตูห้องน้ำจะหลบจากพื้นที่รับแขกอยู่ ช่วยให้ดูเรียบร้อยนะ

โดยการจัดวางฟังก์ชันภายในห้องน้ำจะเหมือนกันกับห้องแบบ 1 bedroom เลย เข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าตรงหน้า ซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำเข้ามุม

พื้นและผนังจะใช้กระเบื้องเซรามิคสลับสีแบบนี้เลยค่ะ สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่จะได้เป็นของ Cotto มีฉากกั้นอาบน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียกให้ค่ะ

Image 1/3
อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ ด้านใต้มี built-in ชั้นวางของ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ ด้านใต้มี built-in ชั้นวางของ

ถัดเข้ามาภายในห้อง จะเป็นห้องนอนที่ได้ประตูปิดทึบ และห้องอเนกประสงค์ค่ะ

ตัวห้องอเนกประสงค์นี้จะมีทางเข้า 2 ทาง จากห้องนอนก็ได้ หรือจะเข้าจากห้องนั่งเล่นก็ได้เช่นกัน ในกรณีที่อยากให้ห้องอเนกประสงค์มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราอาจจะหาสติ๊กเกอร์ขุ่นมาแปะที่กระจกใส่ได้นะคะ แสงยังคงผ่านได้ แต่ห้องก็จะได้ความเป็นส่วนตัวนะ

เผื่อใครที่จะปรับใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงาน ก็คงอยากให้ห้องที่มิดชิดหน่อย เวลาทำงานจะได้มีสมาธิมากขึ้นค่ะ โดยห้องนี้นั้นจะมีขนาด 1.7×2.2 เมตร และเราเลือก option ได้อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าจะเลือกห้องโล่ง หรือว่าจะเลือกแบบที่นำตู้เสื้อผ้าในห้องนอนมาไว้ที่ห้องนี้แทนเป็น walk-in closet

โดยห้องนี้จะเป็นส่วนที่ติดกับระเบียงค่ะ เชื่อมต่อกับภายนอกด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน

พื้นที่ระเบียงนี้จะมีขนาด 1×1.7 เมตร ใช้เป็นระเบียงซักล้าง ตากผ้า หรือว่าวาง condensing unit ได้

มาดูส่วนสุดท้าย ห้องนอนกันต่อค่ะ

ภายในห้องนอนจะเป็นห้องนอนปิด แยกเป็นสัดส่วน ใช้เวลาพักผ่อนได้เต็มที่นะ จุดที่น่าสนใจคือหน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน หน้าต่างนี้ช่วยทำให้ห้องดูปลอดโปร่งมากขึ้นด้วยค่ะ

ห้องนี้จะได้เฟอร์นิเจอร์คือเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ ห้องก็เลยจะดูวางได้ลงตัวพอดี แต่ระยะทางเดินอาจจะไม่กว้างมาก

แต่ละฝั่งมีระยะเหลือเล็กๆพอเดินได้อยู่ค่ะ ขนาดปลายเตียงเหลือทางเดิน 50 ซม. ด้านข้างก็เช่นกันเหลือฝั่งละ 40-50 ซม.

ดีไซน์ของเตียงจะได้เป็นฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มีลิ้นชักเก็บของที่ปลายเตียง

ส่วนตู้เสื้อผ้าก็จะเป็นบานเปิดเลื่อน หน้าบานกระจกค่ะ

สามารถจัดมุมโต๊ะเครื่องแป้งไว้ด้านข้างได้นะคะ และนี่ก็เป็นทั้งหมดของห้องตัวอย่างที่เราพามาชมกันในรีวิวนี้ค่ะ เพื่อนๆชอบห้องไหนกันบ้างคะ?


ผังห้องพักอาศัยโครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว

Image 1/4
ผังห้องแบบ 1 Bedroom

ผังห้องแบบ 1 Bedroom

ด้วยความที่แบบห้องจะมีอยู่ทั้งหมด 4 แบบ ความแตกต่างแต่ละแบบถ้าให้จำง่ายๆคือ ห้อง 1 Bedroom กับ 1 Bedroom exclusive จะคล้ายกัน เพียงแต่ 1 Bedroom exclusive จะได้ครัวปิด ส่วนห้อง 1 Bedroom extra นั้น ได้ครัวเปิด แต่พื้นที่ living area จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าสองแบบแรก ส่วน 1 bedroom plus นั้นจะได้ทั้งห้องนอนปิด ครัวปิด และมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาค่ะ

ราคา

20 January 2021

  • 1 Bedroom ขนาด 24.16 – 24.59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.14 – 2.49 ล้านบาท หรือ เริ่มต้น 88,576 ต่อตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.09 – 28.59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.78 – 3 ล้านบาท หรือ เริ่มต้น 98,968 บาทต่อตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra ขนาด 28.09 – 30.44 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.85 – 3.08 ล้านบาท หรือ เริ่มต้น 101,460 บาทต่อตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 33.05 – 40.99 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.22 – 4.06 ล้านบาท หรือ เริ่มต้น 97,428 บาทต่อตร.ม.
    *ราคานี้ยังไม่ใช่ราคาโปรโมชันช่วงเปิดตัวนะคะ

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน (เรียกเก็บล่วงหน้า 1 ปี)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
โซนรัชดา 32 ถือเป็นอีกทำเลที่มีคอนโด low rise ขึ้นมาเยอะ ในราคาที่ย่อมเยาว์พนักงานเริ่มต้นหรือเด็กจบใหม่พอหยิบจับได้ง่าย บรรยากาศในซอยถือว่าเดินทางสะดวกและคึกคัก มีของกินหลากหลาย ง่ายต่อการใช้ชีวิตค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :
อัตราส่วนที่จอดรถให้มา 35% ไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่ถ้ามีรถก็จะสะดวกมาก ขับผ่านรัชดาเข้าไปยังพระราม 9 หรืออโศกได้สบาย ส่วนในซอยรัชดา 32 เองก็ใช้ลัดเลาะไปยังลาดพร้าว-วังหิน, โชคชัย 4, นาคนิวาส ไปยังโซน central eastville ได้เลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
เนื่องจากเป็นซอยที่ใช้เชื่อมต่อไปยังนาคนิวาส โชคชัย 4 และมีคนใช้งานเป็นประจำ จึงทำให้มีรถสาธารณะผ่านเยอะทั้ง Taxi หรือจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ก็สะดวก ส่วนแยกรัชดา-ลาดพร้าวเอง ปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าใต้ดิน mrt เปิดใช้งานอยู่แล้ว และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเพิ่มเติมให้เป็นตัวเลือกใช้เดินทางไปยังฝั่งบางกะปิได้อีกค่ะ

วัสดุ :
เทียบกับราคาคอนโดต่อตารางเมตรที่ไม่ถึงแสนบาท และตัวโครงการที่ให้เป็น fully furnished ขายพร้อมเฟอร์มาก็ถือว่าได้วัสดุที่ดีเลยนะคะ อย่างเช่นพื้นที่ได้สมาร์ทไวนิล ได้ digital door lock และ bluetooth sound system พร้อมลำโพงสองจุดในห้อง ครัวก็ได้ของ Mex ส่วนห้องน้ำและระเบียงกระเบื้องที่ใช้เป็นเซรามิค (ตรงนี้จะราคาสู้กระเบื้องอื่นไม่ได้) สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะได้เป็นของ Cotto ค่ะ

การออกแบบ :
ตัวโครงการออกแบบได้ตามมาตรฐาน เน้นความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยทำเลที่สะดวกในการใช้ชีวิต และตัวห้องที่เน้นเป็นห้องขนาดกะทัดรัดหลากหลายแบบให้เลือก เช่น ต้องการครัวปิดหรือไม่ อยากได้ห้องอเนกประสงค์รึเปล่า?

สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางถือว่ามีฟังก์ชันครบตามมาตรฐาน ส่วนดีไซน์ก็ออกมาดูดีน่าใช้งานดูทันสมัยค่ะ โดยจะจัดไว้ที่ชั้น 2 และบริเวณ court กลางโครงการเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้ากลางโครงการด้วยนะ ส่วนฟังก์ชันก็จะมี lobby, co-working space, fitness, สระว่ายน้ำ และสวนค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000 บาท/ตร.ม., 20 January 2021

  • ทำเล 8/10 – ใช้ได้ทั้งรัชดา 32 และลาดพร้าว 23
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางให้เลือกใช้หลากหลาย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – โครงการอยู่ในซอย เรียกรถได้ง่าย
  • วัสดุ 7.75/10 – fully furnished มี digital door lock และ bluetooth sound system ให้
  • แบบ 7.75/10 – มีห้องหลายแบบให้เลือก
  • สาธารณูปโภค 8/10 – จัดมาครบตามมาตรฐาน

  • MAIN CLASS
  • 7.83 / 10.00

BOTTOM LINE

Ivory รัชดา-ลาดพร้าว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคอนโด ราคาไม่แรงที่ถ้าใครสนใจคอนโดย่านนี้อยู่อยากให้ลองมาดูกันค่ะ โดยโครงการนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน ชอบทำเลที่เดินทางสะดวก ใช้ชีวิตหาของกินได้ง่าย มีงบประมาณ 2-3 ล้านกว่าบาทก็ได้ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์เลย หรือว่ามีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 14,000-25,000 บาทต่อเดือนค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc