รีวิวฉบับที่ 1868 …  Ideo Q พหล-สะพานควาย โครงการ Flagship ตัวใหม่ จากอนันดา ที่อยู่ติด BTS สะพานควายในระยะ 0 เมตร พอลงจากสถานีก็ถึงเลย ซึ่งปัจจุบันเราจะหาคอนโดทำเลแบบนี้ได้ยากแล้ว  สำหรับโครงการนี้เป็น High Rise 3 Tower ที่จัดเต็ม Facilities มาให้ พร้อมมีจุดชมวิวที่ชั้นดาดฟ้า เราไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 21 May 2019

  • Ideo Q Phahol-Saphankhwai (ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย)
  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนน พหลโยธิน เขต พญาไท
  • ที่ดินประมาณ 5-3-69.5 ไร่
  • คอนโด High Rise 39 ชั้น 1 อาคาร (3 Tower) Tower Terra 396 ยูนิต , Tower Luna 287 ยูนิต ,  Tower Sol 431 ยูนิต

  • ห้องพักอาศัย จำนวน 1,114 ยูนิต
  • ร้านค้า จำนวน 5 ยูนิต

  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด n/a ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 546 คัน คิดเป็น 49% (รวมจอดซ้อนคัน)
    • Public Parking 6 Cars
    • EV charger 2 Cars

  • เริ่มก่อสร้าง : ปี 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2565
  • Studio 26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 29.5 – 46.5 ตร.ม. 
  • 2 Bedrooms 57.5 – 72 ตร.ม. 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ  220,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ 
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : 02-056-2222
  • สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด Google Maps : 13.793005, 100.549579
    หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

    Ideo Q พหล-สะพานควาย ตั้งอยู่ “ติด” BTS สะพานควายแบบที่เดินลงจากสถานีก็เจอเลย และอย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันเราจะหาที่ดินแปลงใหญ่นำมาพัฒนาเป็นคอนโด 0 เมตรจากรถไฟฟ้าแบบนี้ได้ยากแล้ว ตรงส่วนนี้จึงถือเป็นจุดแข็งของโครงการในเรื่องของทำเลไป นอกจากนั้นถ้ามองดูภาพรวมของทำเลแล้วจะเห็นว่าโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์อย่างอารีย์ จตุจักรและลาดพร้าว 

    อารีย์ – เป็นย่านที่ความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ที่สูงมาก มีร้านอาหาร ร้านขายของ อยู่ตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ในซอย หรือคาเฟ่ต่างๆ  รวมถึงมี Community Mall ขนาดใหญ่หน่อยอย่าง La Villa ที่มี Supermarket อยู่ชั้นล่าง ด้านบนเป็นร้านอาหารและบริการต่างๆ , Aree Garden ที่มี Hobs เป็นร้านเรียกลูกค้า และ Aqua แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารชิคๆ

    จตุจักร – ย่านนี้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนวชิรเบญจทัศหรือที่นิยมเรียกว่า สวนรถไฟ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนจตุจักร อีกทั้งยังมีตลาดนัดจตุจักรเอาไว้ให้ช้อปปิ้งกัน จาก BTS สะพานควายนั่งมาสถานีเดียวก็ถึงแล้ว และยังสามารถมา Interchange กับ MRT ได้ที่สถานีนี้อีกด้วย พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะมีการพัฒนาได้อีกมาก เนื่องจากมีโครงการสถานีกลางบางซื่อกำลังจะเกิดขึ้น โดยสถานีกลางบางซื่อ ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายระบบคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เป็น Transit hub และเป็นสถานีปลายทางของทั้งรถไฟและรถไฟฟ้าหลากหลายสายของประเทศไทยอีกด้วย

    ลาดพร้าว – ย่านนี้จะมีห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ เป็นแหล่ง Shopping ที่สำคัญอีกจุดให้เรามาเดินช้อปปิ้งกันได้ รวมถึงมีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์ขึ้นชื่ออยู่หลายร้านเช่น ปาเต๊ะ ลาดมะพร้าว โจ๊กมัลลิกา และบริเวณห้าแยกลาดพร้าวจะมีอาคารสำนักงานต่างๆกระจุกตัวอยู่เช่น อาคารซัน ทาวเวอร์ , SJ Infinite Tower เป็นต้น

    ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงทำให้ทำเลของโครงการนี้สะดวกมากๆทั้งในเรื่องของความใกล้รถไฟฟ้าและพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีครบทั้งช้อปและชิลล์

    มาโฟกัสกันที่ทำเลสะพานควายกันบ้าง ทำเลนี้เป็นชุมชนดั้งเดิมที่อยู่กันอย่างคึกคักผสมผสานกับคอนโดทั้ง High Rise ริมถนนและ Low Rise ในซอยเล็กซอยย่อย ด้วยจำนวนคนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น ประกอบกับผู้ประกอบการร้านค้าเล็กๆ ร้านพาณิชย์ริมถนนมากมาย ก็ทำให้ย่านสะพานควายนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินของใช้ง่ายและมีให้เลือกสรรเยอะมาก ในราคาที่สามารถซื้อกินได้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าบรรยากาศของร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ก็จะแตกต่างจากย่านอารีย์ที่ขยับไปอีกสถานีนึง ซึ่งจะมีร้านค้าร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ที่มีราคาสูงกว่า ค่าครองชีพถือว่าแตกต่างกันอยู่พอควร ทำให้กลุ่มเป้าหมายและระดับของคนที่อยู่ย่านสะพานควายกับอารีย์นั้นก็จะแตกต่างกันไปเช่นกัน

    สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้บริเวณรอบๆโครงการจะมีทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 Eleven, Lotus Express,ร้าน Boots, Office Mate ในระยะไม่ไกล ส่วนแหล่งซื้อข้าวของเครื่องใช้ก็เดินไปบิ๊กซีสะพานควายที่อยู่ข้างๆโครงการได้เลย รวมถึงมีโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียลที่มีตลาดอยู่ด้านหลังและมี Starbucks ให้มานั่งจิบกาแฟกันด้วย ทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่เดินจากโครงการมาได้เลย ถือว่าสะดวกมากๆ และตลอดสองฝั่งข้างทางก็จะมีร้านขายอาหารใต้ตึกแถวให้ได้เลือกกินเยอะ ยังไม่รวมรถเข็นขายอาหารต่างๆ ด้วยนะคะ โดยรวมแล้วถือว่ารอบๆโครงการมีของอุปโภคบริโภคครบครันและอยู่ในระยะที่เดินได้ง่ายด้วย และอย่างที่บอกไปว่าในละแวกข้างเคียงก็มีความอุดมสมบูรณ์เช่นกันทั้งฝั่งจตุจักรเองก็มีทั้ง JJ Market ตลาด อตก. เลยไปถึงห้าแยกลาดพร้าวที่มีทั้ง ยูเนี่ยนและเซ็นทรัลลาดพร้าว ส่วนอีกฝั่งติดกับสะพานควายก็เป็นอารีย์ที่มีร้านอาหารระดับแบรนด์เนมและบาร์ต่างๆ ให้ได้ไปแฮงเอ้าท์กับเพื่อนๆได้

    การเดินทางด้วยรถยนต์ หลักๆจะใช้การเดินทางบนเส้นพหลโยธิน รถมักติดที่แยกสะพานควาย เข้าเมืองไม่ยาก ไม่ไกลจากทางด่วนมากนัก การที่อยู่บนถนนพหลโยธิน ทำให้มีจุดเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นต่างๆได้ง่าย

    จากโครงการ ไปที่แยกสะพานควาย เลี้ยวเข้าถนนประดิพัทธิ์จะสามารถไปทะลุถนนพระราม 6 ได้ หรือถ้าจะไปวิภาวดีฯก็ใช้ถนนสุทธิสารฯ แต่รถตรงนี้จะติดหน่อย และต้องระวังเรื่องช่องทางการจราจรที่ตอนเช้ากับตอนเย็นจะแตกต่างกัน ส่วนการจราจรขาเข้าเมือง ถ้าเทียบกับ BTS อารีย์แล้วก็ยังถือว่าเป็นรอง เพราะที่นั่นจะได้เปรียบเรื่องซอยอารีย์ ที่ไปพระราม 6 กับ ถนนพหลโยธิน 2 ที่ไปวิภาวดีได้ใกล้กว่า ใกล้ทางด่วนมากกว่าด้วย แต่ถ้าขาออกไป รัชดาแถว SCB Park, ลาดพร้าว BTS สะพานควายจะได้เปรียบกว่า ส่วนอีกทางก็ขับไปที่ห้าแยกลาดพร้าว สามารถตรงไปบนถนนพหลโยธินเพื่อไปเมเจอร์รัชโยธิน หรือตรงไปบางเขน, หลักสี่, สายไหมได้ หรือจะขึ้นสะพานวนรถเพื่อไปลงถนนลาดพร้าวก็ได้ หากเข้าไปยังถนนวิภาวดีฯ จะสามารถไปดอนเมืองและยังมีทางขึ้นโทลย์เวย์ไปรังสิตได้หรือจะไปบนถนนวิภาวดีแล้วไปขึ้นทางด่วนดินแดงก็ได้

    นอกจากรถไฟฟ้าแล้วการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ บนถนนพหลโยธินนี้รถเมล์ถือเป็นระบบขนส่งที่มีความสะดวกอยู่ไม่น้อยค่ะ เพราะป้ายรถเมล์ค่อนข้างถี่ อยู่ใกล้จตุจักรที่มีทั้งรถเมล์และรถตู้ที่มีให้เลือกหลายหลาย และยังอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย ซึ่งอนุเสาวรีย์ชัยฯก็เป็น Transportation Hub หรือจุดต่อรถใหญ่ของกรุงเทพมหานครเลย เรื่องวินมอเตอร์ไซค์ที่นี่ไม่ต้องห่วงค่ะ มีทุกๆปากซอยและในซอย ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่หน้าโครงการเลย ส่วน Taxi ก็วิ่งผ่านตลอดเวลา 24 ชม.เพราะโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จึงเรียกรถได้ง่าย

    เนื่องจากโครงการอยู่ติดรถไฟฟ้าอยู่แล้ว เราจะพาเดินจากรถไฟฟ้าไปดูความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้กับโครงการกันนะคะ พอลงจากสถานีเราจะเดินมาเรื่อยๆผ่าน รพ.เปาโล เมโมเรียล และ Big C สะพานควาย ไปจนถึงแยกสะพานควายค่ะ

    เริ่มกันที่ BTS สะพานควาย สถานีนี้คนเยอะทั้งเช้าค่ำ เดี๋ยวเราเดินลงไปดูทำเลกันค่ะ

    จากแผนที่ให้มองไปที่รพ.เปาโล หรือ Big C ก็ได้ จะเห็นว่าเราต้องลงทางออกที่ 2 ค่ะ

    พอลงจากสถานีก็หาทางออกที่ 2 สถานีจะมีร้านค้าและร้านกาแฟอยู่ด้วยให้พอหาซื้ออะไรทานแก้หิว

    ร้านบนสถานีนี้จะมี Lawson 108 ซื้อของกินของใช้จุกจิกได้ ถัดๆไปเป็นร้านกาแฟสำหรับคอกาแฟที่อยากหากาแฟทานในเวลาเร่งด่วน

    จากสถานีมองลงไปก็จะเห็นโครงการ Ideo Q พหล-สะพานควาย เลยค่ะ จะเห็นว่าโครงการอยู่ติดกับทางลงเลย

    นอกจากรถไฟฟ้าแล้วบริเวณหน้าโครงการจะมีรถเมลล์ รถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ผ่าน เรียกรถได้สะดวกเพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่ค่ะ

    ถึงแล้วค่ะโครงการ Ideo Q พหล-สะพานควาย

    นี่คือสำนักงานขายหรือ Q Rator Club บริเวณนี้ในอนาคตถ้ามีการก่อสร้างจะเปลี่ยนไปเป็นร้านค้าของโครงการ

    ตอนนี้สำนักงานขายสร้างเสร็จแล้ว สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่างได้นะคะ ภายในเค้าตกแต่งให้เข้ากับ Concept ของโครงการซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ

    จากโครงการเดินถัดมาเจอพี่วินเลยค่ะ อยากไปไหนถ้าไม่อยากใช้รถหรือไม่อยากขึ้นรถไฟฟ้าก็มาหาพี่ๆเค้าได้

    เอาอัตราค่าบริการมาฝากกัน สำหรับใครที่สนใจโครงการและอยากวางแผนการเดินทางไปทำงานหรือไปช้อปปิ้งล่วงหน้า

    เดินถัดมาทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ทั้งแนวค่ะ สังเกตว่าจะเริ่มมีร้านอาหารมาตั้งแผงกันแล้ว

    เดินมาตามทาง เห็นซอยที่เราทำลูกศรไว้มั้ย นั่นคือทางเข้าตลาดข้างๆโรงพยาบาล เปาโลค่ะ

    ตลาดนี้เปิดตั้งแต่เช้าค่ะ ตอนไปทำงานแวะมาหาอะไรทานกันได้ซักบ่าย 2-3 ก็จะปิดแล้ว จากโครงการเดินมาได้ไม่ไกล

    ด้านในมีขายทั้งเสื้อผ้า ขายใช้และของกิน ตั้งขายเป็นล็อกๆแบบนี้ มีคนเดินเยอะทีเดียวโดยเฉพาะตอนกลางวัน

    กลับมาที่ถนนใหญ่ เราเดินถัดมาจะเจอกับธนาคารธนชาติ มาทำธุรกรรมตรงนี้ได้

    ใกล้ๆกันจะเจอกับทางเข้าหลักของโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียลพหลโยธิน

    ถ้าใครไม่ได้เจ็บป่วยอะไร เดินเข้ามาด้านในนิดนึงจะเจอกับร้านกาแฟ Starbucks

    ถึงร้านจะไม่ใหญ่เท่าไหร่ก็สามารถมานั่งจิบกาแฟชิลล์ๆ ตากแอร์เย็นๆได้ค่ะ

    เดินถัดมาจะเจอธนาคาร TMB อีกธนาคารนึง ข้างทางยังคงมีแผงร้านค้าอยู่ตลอดทาง

    ถัดมาเราจะเจอกับ 7-11 ร้านใหญ่อยู่ จากโครงการเดินมาไม่ไกล

    เดินถัดมาก็จะเจอกับ Big C ห้าง Hypermarket ขนาดใหญ่ในย่านนี้ จะเห็นว่าด้านหน้าก็มีตั้งเต็นท์ขายของกัน

    Big C สาขานี้ขนาดใหญ่ดี จากโครงการเดินมาได้ไม่ไกลและไม่ต้องข้ามฝั่ง ถือเป็นอีกหนึ่งความสะดวกค่ะ

    ภายในมีครบทุกอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้เรานะคะ ทั้ง Food Court ที่มีร้านอาหารหลากหลาย ราคาย่อมเยาและที่สำคัญแอร์เย็น ร้อนๆแบบนี้ถ้าไม่อยากนั่งทานข้าวข้างนอก ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก

    ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า มีครบค่ะ ถ้ามีเพื่อนหรือญาติมาหาก็มานัดมาทานข้าวที่นี่ได้ สะดวกดี

    พอขึ้นไปชั้นบนก็จะเป็นของใช้ของสดให้เลือกช้อปปิ้งกัน

    เดินลงมาจากห้างเพื่อมุ่งหน้าไปยังแยกสะพานควายจะเจอกับร้านกาแฟ Cafe Amazon

    เดินถัดมาจะเห็นว่าบริเวณนี้จะเริ่มคึกคัก มีร้านค้าหนาตาขึ้นโดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้า ยาววไปตลอดแนวฟุตบาทเลยค่ะ

    เดินไปจนถึงแยกข้างหน้าก็จะเป็นแยกสะพานควายแล้วค่ะ

    จากแยกนี้ถ้าเราเลี้ยวไปทางซ้ายจะเป็นถนนสุทธิสารวินิจฉัยใช้วิ่งไปออกถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรัชดาภิเษกได้ ส่วนถ้าเลี้ยวไปทางขวาจะไปออกถนนประดิพัทธ์ซึ่งจะวิ่งไปเชื่อมกับถนนพระราม6

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    โครงการตั้งอยู่ใจกลางสะพานควาย ติดถนนใหญ่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งชุมชน อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ข้างๆมีโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธินและ Big C ในระยะที่เดินถึงและไม่ต้องข้ามฝั่ง ซึ่งถือว่าสะดวกพอสมควรเลยทีเดียว ส่วนในซอยสภาพแวดล้อมจะเป็นอาคารแนวราบ และอพาร์ทเม้นท์สูง 7-8 ชั้น ซึ่งไม่ส่งผลกับตัวโครงการ จะมีคอนโดมิเนียม High Rise อยู่ทางฝั่งตรงข้ามแต่ก็ไม่ใช่ระยะประชิดค่ะ สรุปแล้วรอบๆโครงการจะติดกับ

    • ทิศเหนือ – ติดกับ BTS สะพานควาย ตึกแถวและอาคารพาณิชย์
    • ทิศตะวันออก – ติดกับซอยสุทธิสารวินิจฉัย3 และชุมชนแนวราบ
    • ทิศใต้ – ติดกับตึกแถว โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธินและ Big C Supercenter สะพานควาย
    • ทิศตะวันตก – ติดกับถนนพหลโยธิน  BTS สะพานควาย ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์และคอนโด High Rise 

    ทิศเหนือ ฝั่งหน้าโครงการจะเห็นแนวรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย ตึกแถวและอาคารพาณิชย์ ฟุตปาธบริเวณนี้กว้างดีเดินสะดวกค่ะ

    ทิศใต้ ติดกับตึกแถวที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บรรยากาศคึกคัก

    ถัดๆไปจะเป็นโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธินและ Big C Supercenter สะพานควาย

    ทิศตะวันตก หรือฝั่งหน้าโครงการที่ติดกับถนนพหลโยธิน  เราจะเห็นแนว BTS สะพานควาย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์และคอนโด High Rise

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (รวมระยะกลับรถ)

    • โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล พหลโยธิน ~60 เมตร
    • Big C Supercenter สะพานควาย ~ 150 เมตร
    • La Villa อารีย์ ~1.5 กม.
    • ตลาดนัดสวนจตุจักร ~1.7 กม.
    • สวนจตุจักร/ตลาดนัดจตุจักร ~ 1.7 กม.
    • โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~ 2.7 กม.
    • โรงพยาบาลพญาไท 2 ~2.9 กม.
    • อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ~3.5 กม.
    • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~4.0 กม.
    • สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ~ 4.0 กม.
    • ยูเนี่ยนมอลล์ ~4.7 กม.
    • เมเจอร์ รัชโยธิน ~5.2 กม.


    เจาะลึกตัวโครงการ

     Ideo Q พหล-สะพานควาย เป็นคอนโด High Rise 39 ชั้น 1 อาคาร 3 Tower  รวมทั้งหมดทุก Tower แล้วจะมีห้องพักอาศัย 1,114 ยูนิต + ร้านค้าอีก 5 ยูนิต สำหรับตอนนี้จะเปิดขายเฉพาะ Tower Terra เท่านั้น โครงการนี้ชูจุดเด่นด้วย Location ที่อยู่ติดรถไฟฟ้า ซึ่งถ้ามองจากภาพนี้จะเห็นว่าทางลงสถานีอยู่หน้าโครงการเลย ซึ่งจะเหมาะกับคนที่อยากได้โครงการที่เดินทางสะดวก ติด BTS แบบ 0 เมตรในทำเลที่อุดมสมบูรณ์  หาของกินและเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย

    โครงการนี้เป็น High Rise 1 อาคาร 3 Tower ประกอบด้วย Tower Terra 396 ยูนิต Tower Luna 287 ยูนิต และ Tower Sol 431 ยูนิต โดยทั้ง 3 อาคารจะเชื่อมกันที่ส่วนกลางชั้น 6 และ 39

    ก่อนที่จะไปชมรายละเอียดส่วนอื่นๆจะขอเล่าถึง Concept ของโครงการซักเล็กน้อย แนวคิดในการออกแบบของโครงการนี้คือ Be etrinity ที่เชื่อว่าสิ่งต่างๆล้วนมีส่วนผสมของ 3 แกนหลักเช่นเดียวกับวิถีคนเมืองจะสมบูรณ์ได้ถ้ามีธรรมชาติ-คน-เมือง (์Nature-Human-Urban) โดยในแต่ละส่วนหมายถึง

    Nature – คือการออกแบบให้มีธรรมชาติแทรกเข้าไปอยู่ในส่วนต่างๆของโครงการเช่นพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง Lobby ที่ตกแต่งให้ Space ล้อมรอบด้วยต้นไม้ หรือ การตกแต่งด้วยโทนสี  Earth Tone

    Human – ออกแบบห้องพักโดยให้ความสำคัญกับผู้พักอาศัย โดยการออกแบบให้รู้สึกโปร่งสบาย คำนึงถึงสุขภาพที่ดีของผู้พักอาศัย

    Urban – การเชื่อมต่อเข้าสู่เมือง โดยโครงการจะติดรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย 0 เมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก

    สำหรับภาพรวมของโครงการพอเข้ามาด้านในจะเจอกับร้านค้า 5 ร้านอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ ลูกบ้านที่จะจอดรถสามารถเอาไปจอดได้ที่ชั้น 2-5 โดยจะจอดได้ประมาณ 546 คันหรือคิดเป็น 49% โดยมีที่จอด Public Parking มาให้ 6 คันและEV charger มาให้ 2 คัน ช้นล่างจะมีสวนเล่นระดับที่สามารถเดินออกกำลังกายขึ้นไปถึงพื้นที่ส่วนกลางชั้น 6 ได้เลย ซึ่งตรงจุดนี้จะมีประตูกั้นเฉพาะสำหรับลูกบ้านเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าไปได้ ชั้นล่างมี Lobby , Mail Room , Meeting room , ห้องนิติบุคคลและห้องน้ำให้ใช้ 

    ขึ้นมาที่ชั้น 6 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ทั้ง 3 Tower มาใช้ร่วมกันได้ โดยจะมี Tree House สูง 3 ชั้น ประกอบด้วย The Social House ,The Air House และ Play House สระว่ายน้ำยาว 50 เมตรแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ สระเด็ก และมี Hydrotherapy Pool, Hot Spring Bath, Cold Bath มาให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีห้องฟิตเนส , Climbing Wall, Changing room, WC., Steam and Sauna Room และสวนหย่อมรอบๆ  ตั้งแต่ชั้น 6-39 จะเป็นห้องพักอาศัย ส่วนชั้น 39 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีกจุดหนึ่งได้แก่ Sky Lounge , Sunset Sky , Startarium และสวนดาดฟ้า

    จากผังพอเข้ามาเราจะเจอกับสวนหย่อมและร้านค้า ด้านในอาคารจะเป็น Lobby ห้องจดหมาย ห้องนิติบุคคลและห้องน้ำ ใครจะขึ้นอาคารไหนก็ใช้โถงลิฟต์แยกกัน โดยที่จอดรถจะอยู่ด้านหลังของอาคารค่ะ สำหรับวิวส่วนใหญ่ไม่ติดอาคารสูงในระยะประชิด จะมีฝั่งที่ติดกับโรงพยาบาล เปาโลและคอนโด High Rise ฝั่งตรงข้ามที่อาจจะบดบังวิวไปบางส่วน

    พอเข้าโครงการมาจะเจอกับร้านค้า รอบๆจัดเป็นสวนหย่อม โดยสวนตรงกลางอาคารที่เล่นระดับลูกบ้านสามารถเดินขึ้นไปออกกำลังกายได้นะคะ ด้านในอาคารเป็น Lobby ส่วนชั้น 6 จะเป็น Facilities อีกจุดนึงที่เดินเชื่อมกันได้ทั้งหมด

    เนื่องจาก Concept ที่ต้องการความ Nature ทางหน้าโครงการจะมีการปลูกต้นไม้น้อยใหญ่ที่ทอดยาวตั้งแต่ทางเข้าโครงการ โซน Lobby ไปจนถึงชั้น 6 พร้อม Stair running ให้ลูกบ้านได้ออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติ การมีสวนหย่อมหรือต้นไม้อยู่หน้าโครงการ ข้อดีนอกจากความสวยงามและร่มรื่นแล้ว ยังช่วยกรองมลภาวะจากถนนใหญ่ได้ และช่วยบดบังสวยตาด้านในโครงการ ทำให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น

    เข้ามาด้านในอาคารจะเจอกับ Lobby ที่มาใน Concept  “In the Wood” ที่ตกแต่งเสมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อารมณ์คล้ายๆกับสำนักงานขาย ใครอยากรู้ว่าลำต้นของต้นไม้นี่ทำมาจากอะไร ต้องไปดูที่สำนักงานขายนะคะ และเนื่องจากห้องนี้มีฝ้าเพดานสูงจึงทำให้ Space มีความโปร่ง โล่ง ผนังด้านข้างสามารถมองออกไปที่สวนรอบๆโครงการได้ ที่นั่งเค้าจัดมาให้หลายจุด สามารถใช้มานั่งทำงานหรือนัดเพื่อนๆมาประชุมได้

    จากภาพจำลองบรรยากาศมุมนี้เราจะเห็นสวนเล่นระดับที่สามารถเดินขึ้นมาจากชั้นล่างเพื่อขึ้นไปยังส่วนกลางชั้น 6 ได้ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวค่ะ ตอนกลางคืนมีเล่น Lighting ด้วยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะมืดเลย

    สำหรับห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ไปจนถึงชั้น 39 เลย โดยชั้น 6 นี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่เดินเชื่อมกันได้ทั้ง 3 Tower ปนอยู่ด้วย ลูกบ้านต้องลงมาใช้ร่วมกันถือเป็นการแยกพื้นที่ส่วนกลางหลักเอามาไว้รวมกัน ทำให้ห้องพักอาศัยในอาคารมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น Facilities ที่ชั้น 6 จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือที่มีความยาว 50 เมตรแบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ มี Hydrotherapy Pool, Hot Spring Bath, Cold Bath และห้องฟิตเนส , Climbing Wall พร้อมมี Changing room WC. / Steam and Sauna , Laundry มาให้ใช้ครบครัน

    และอีกหนึ่งไฮไลท์คือพื้นที่ส่วนกลางที่มาในรูปแบบของ Tree House สูง 3 ชั้นโดยชั้น 6 จะมี Social House ที่เป็นพื้นที่ Co-Working Space ชั้น 7 มี The Air House ที่ด้านในมี Bike Simulator และชั้น 8 มี Play House เดี๋ยวเราจะไปดูทีละส่วนกันนะคะ

    เริ่มจากสระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 50 เมตร ล้อมด้วยต้นไม้นานาชนิดที่เล่นระดับทำให้พื้นที่ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น บริเวณนี้จะมี  Hydrotherapy Pool และ Hot Spring Bath, Cold Bath ให้มาแช่ตัวผ่อนคลายความเครียดกันอีกด้วย

    มองจากมุมสูงจะเห็นว่าสระจะยาวตลอดแนวโครงการเลย ใครอยู่ห้องฝั่งด้านในมองลงมาก็จะเห็นวิวประมาณนี้

    มุมด้านหลังสระว่ายน้ำจะมี Hot Spring Bath, Cold Bath เอาไว้ให้แช่ตัวท่ามกลางธรรมชาติ มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนด้วย

    ต่อมาคือห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ต่างๆมาให้เล่นครบครัน ฝ้าเพดานสูงโปร่งโล่งและมีผนังเป็นกระจกทั้งแผง เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวสระว่ายน้ำและสวนหย่อมได้

    ไฮไลท์ของชั้นนี้คือพื้นที่ส่วนกลางที่มาใน Concept Tree House สูง 3 ชั้นประกอบด้วย

    • The Social House : Co-Working Space
    • The Air House : Bike Simulator
    • Play House : Kids Friendly Area

    ห้อง The Social House ที่จัดพื้นที่เป็น Co-Working Space ถ้าเบื่อๆลูกบ้านก็ลงมานั่งเล่นหรือนั่งทำงานได้ ถือเป็น Facilities ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เป็น Freelance ได้ดีค่ะ

    และนี่คือห้อง Play House ค่ะ มานั่งเล่นพักผ่อนชิลล์ๆได้และมีการออกแบบให้เด็กๆมาเล่นสนุกได้ด้วยนะ

    ถัดมาคือ The Air House หรือห้อง Bike Simulator ค่ะ เราสามารถมาใช้ในโครงการได้เลยโดยไม่ต้องไปเข้าคลาสฟิตเนสนอกบ้านให้เสียเวลา

    จุดที่เราชอบอีกอย่างสำหรับโครงการนี้คือการวางผังที่แบ่งออกเป็น 3 Tower ที่ไม่บดบังวิวซึ่งกันและกัน วางตามแนวยาวของรูปร่างที่ดิน และ จัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ตรงกลาง คนที่เลือกห้องพักอยู่ด้านในก็จะได้วิวเป็นสระว่ายน้ำและสวนหย่อมด้วย ส่วนชั้นบนสุด Facilities ก็จะมีแค่ Sky Lounge , Sunset Sky , Startarium แทน

    เนื่องจากตอนนี้ทางโครงการเปิดขายเฉพาะ Tower Terra ดังนั้นเราจึงมีเฉพาะแค่แปลนของ Tower นี้นะคะ สำหรับ Typical Floor Plan ในชั้น 7-26 จะมีห้องพักทั้งหมด 12 ยูนิต ไม่หนาแน่นเท่าไหร่ มีลิฟต์อยู่ทั้งหมด 3 ตัวอยู่ตรงกลางอาคารค่อนไปทางขวาหน่อยนึง ซึ่งทำให้ห้องที่อยู่ทางขวาของลิฟต์ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะมีจำนวนห้องที่น้อยกว่าทางฝั่งซ้ายของลิฟต์ ส่วนห้องที่เป็นห้องมุมทางฝั่งทิศเหนือจะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ที่มีผนังโค้งตามสไตล์ของอนันดาช่วยให้เปิดรับวิวได้มากขึ้นค่ะ

    Image 1/12
    IDEO-Q-พหล-สะพานควาย27th

    IDEO-Q-พหล-สะพานควาย27th

    (สามารถคลิกที่รูปเพื่อชมแปลนในแต่ละชั้นค่ะ)

    ตั้งแต่ชั้น 8-38 การวางผังจะคล้ายๆกันเลย จะมีต่างกันตรงห้องมุมฝั่งด้านหน้าของอาคารที่มีขนาดไม่เท่ากันตามระยะร่น และในชั้น 38 ห้องมุมฝั่งด้านหลังจะเปลี่ยนเป็นห้อง Service

    ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดจะเป็นชั้นพักอาศัยที่มีจุดชมวิว หรือ Lounge ชั้นบนสุดออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ 3 โซน เราสามารถจองเพื่อใช้จัด Private Party ได้ด้วย โดยประกอบด้วย Sky Lounge , Sunset Sky , Startarium

    ชั้น 39 หรือชั้นบนสุดจะมีห้องพักอยู่แค่ Tower Terra เท่านั้นค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะมีห้องแค่ 10 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น และชั้นนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Sky Lounge เอาไว้นั่งชิลล์ๆรับวิวฝั่งจตุจักร , Sunset Sky จุดชมวิวที่จะได้วิวฝั่งถนนประดิพัทธ์ และ Startarium ที่จะได้วิวฝั่งถนนวิภาวดีค่ะ

    Sky Lounge ห้องนี้เอาไว้ใช้จัดปาร์ตี้หรือมานั่งพักผ่อนชมวิวมุมสูงก็ได้ค่ะ บรรยากาศน่าจะเงียบสงบดีเพราะชั้นนี้มีแต่ห้องชมวิว Facilities หลักที่มักจะมีเสียงดังอยู่ชั้นล่างกันไปหมดแล้ว

    นอกจาก Sky Lounge ก็จะมี Sunset Sky เอาไว้นั่งชมวิวฝั่งถนนประดิพัทธ์หรือฝั่งหน้าโครงการ

    ส่วน Startarium เป็นวิวฝั่งถนนวิภาวดีค่ะ บรรยากาศห้องนี้จะดูขรึมๆหน่อย

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • Ground floor

    • Lobby, Mail Room, Meeting room, Juristic Person Office, Bathroom

  • 2nd-5th floor
    • Garden

  • 6th floor
    • Swimming Pool, Kids Pool, Hydrotherapy Pool, Hot Spring Bath, Cold Bath, Social House, Laundry, Climbing Wall, Fitness room, Changing room, WC., Steam and Sauna Room,

  • 7th floor
    • Social House , Air House

  • 8th floor
    • Play House

  • 39th floor
    • Sky Lounge , Sunset Sky , Startarium , Garden

  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์ทั้งโครงการ 9 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 123 :  1
  • Service Lift n/a ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 546 คัน คิดเป็น 49% (รวมจอดซ้อนคัน)
    • Public Parking 6 Cars
    • EV charger 2 Cars

  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  + CCTV

  • Product Walkthrough

    โครงการนี้ขายแบบ Fully-Fitted โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมมีอยู่ 3 แบบด้วยกันได้แก่ 1 Bedroom 34 ตารางเมตร  , 1 Bedroom 35 ตารางเมตร และสุดท้ายคือ 2 Bedroom 72 ตารางเมตร

    เรามาเริ่มกันที่ห้องแรก  1 Bedroom 34 ตารางเมตร ห้องนี้พอเข้ามาจะเจอกับครัวเปิด เคาน์เตอร์แบบตัว L ที่ดูจากระยะแล้วสามารถกั้นเป็นครัวปิดเองได้ ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวมีช่องเอาไว้วางเครื่องซักผ้าเป็นสัดส่วน และพอมีพื้นที่ด้านข้างให้ทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้ พื้นที่รับประทานอาหารจึงจะต้องจัดวางถัดเข้ามาด้านในเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยผนึงทึบเป็นสัดส่วน ภายในห้องวางเตียงได้ 5 ฟุตขึ้นไปและได้หน้าต่างแบบ Bay Window ด้วย เราสามารถนอนชมวิวได้กว้างและมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ถ้าสาวๆมีเสื้อผ้าเยอะตู้ไม่พอก็สามารถวางข้างเตียงได้อีกจุดหนึ่ง ห้องน้ำของห้อง Type นี้จะอยู่ในห้องนอนเลย ดังนั้นถ้าใครมีเพื่อนมาหาแล้วมาขอเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องนอนของเรา อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วนดี

    สำหรับประตูของโครงการนี้จะมี Grill ระบายอากาศเพื่อให้อากาศไหลเข้าห้อง ทำให้ห้องไม่อับชื้นแต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดตั้งมาให้ ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับครัวก่อน ถัดไปจึงจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร นั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำ ฝ้าเพดานบริเวณห้องครัวจะสูง 2.50 เมตร ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนสูง 2.70 เมตรค่ะ 

    บริเวณหน้าห้องเป็นครัวเปิด ได้เคาน์เตอร์รูปตัว L บริเวณนี้สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้นะคะ เพราะพื้นที่แบ่งมาให้เป็นสัดส่วน แถมพื้นก็ปูกระเบื้องมาให้สะดวกต่อการใช้งาน แต่ถ้ากั้นก็จะทำให้ความโปร่งและ Space ที่ต่อเนื่องกันของห้องลดลงเล็กน้อย

    เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L แบ่งการใช้งานออกเป็นพื้นที่ทำอาหารและพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร ล้างผัก วัสดุของเคาน์เตอร์ชุดนี้จะปิดผิวด้วยลามิเนต Hi-gloss สีขาว ผนังกันเปื้อนกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ Top เป็นหินสังเคราะห์ มีเครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟให้ครบ

    สำหรับเครื่องดูดควันจะมีการต่อท่อออกไปด้านนอกโครงการ ระบบนี้จะช่วยให้การดูดควันมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบหมุนเวียน

    เครื่องดูดควันเราได้ของ Franke แบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลย

    ส่วนเตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัวของ Franke ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในห้อง 1 Bedroom

    มาดูพื้นที่เตรียมอาหารกันบ้าง ด้านล่างของตู้ที่อยู่ตรงกับอ่างล้างจานจะมีถังขยะมาให้ด้วย เวลาจะทิ้งขยะก็สะดวก ดูเป็นระเบียบ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้พอสมควร

    อ่างล้างจานออกแบบมาให้วางอยู่ใต้ Top ซึ่งด้านบนมีแผ่นหินปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง ตรงนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ ถือเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับชุดครัวที่ขนาดไม่ใหญ่ พอจะใช้อ่างแค่ก็ยกแผ่นหินออกค่ะ มีการเจาะรูให้สอดนิ้วไปยกได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าแผ่นหินจะทับมือนะคะ

    ไมโครเวฟเราก็ได้ค่ะแบบนี้เลยของ Franke

    ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ที่พื้นที่สามารถ Built-in เป็นตู้ปิดได้แบบนี้ โดยตู้ทางฝั่งซ้ายสามารถปรับเป็นตู้วางรองเท้าได้นะคะ จะช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

    ถัดเขามาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งเล่น บริเวณนี้จะได้ความโปร่งจากประตูทางออกไประเบียง ส่วนห้องนอนจะอยู่ทางฝั่งขวากั้นผนังเป็นสัดส่วนไปเลย

    พื้นบริเวณนี้จะปรับเป็นไม้ Engineer แล้วนะคะ มีการจบงานรอยต่อด้วยเส้นสแตนเลสดูสวยงามเป็นระเบียบ

    ห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง มุมนี้จะอยู่ข้างประตูทางออกไปที่ระเบียงเลย สามารถนั่งชมวิวหรือเปิดรับลมได้

    โครงการจะมีระบบ Home Automation มาให้ด้วยของ Artani

    สำหรับระเบียงเราจะใช้งานได้เต็มพื้นที่เลยนะคะ เพราะ Condensing Unit ของแอร์ โครงการนี้เค้าจะวางรวมกันอยู่ด้านนอกห้อง และถ้าเรานั่งอยู่ในห้องมองออกมาก็จะไม่เห็น CDU ให้กวนใจอีกด้วย ชมวิวได้เต็มที่ค่ะ

    มุมมองจากที่ระเบียงไปที่หน้าห้อง จะเห็นส่วนของครัวที่ฝ้าเพดานต่ำกว่าห้องอื่นๆหน่อยเพราะด้านบนเป็นงานระบบค่ะ เราจะไปดูกันต่อที่ห้องนอนนะ

    ห้องนอนวางเตียงได้ 5 ฟุตขึ้นไปโดยด้านข้างเตียงห้องตัวอย่างจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เราจะจัดตามหรือปรับเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ ห้องนี้ได้หน้าต่างสูงฝ้าเพดานเกือบถึงพื้นเลย ทำให้ห้องนี้มีความโปร่งและสว่าง

    ข้างเตียงมีพื้นที่วางของทั้ง 2 ฝั่งนะคะ ขึ้นอยู่กับเราเลยว่าชอบแบบไหน หรือจะวางเตียง 6 ฟุตก็ได้แต่พื้นที่ข้างเตียงก็จะลดน้อยลงค่ะ

    ปลายเตียงมีระยะพอเดินผ่าน ถ้าอยากติดทีวีก็แนะนำให้แขวนผนังนะ

    หน้าต่างในห้องนี้ได้แบบเข้ามุมหรือ Bay Window ช่วยให้เราเห็นวิวได้กว้างขึ้น ยิ่งคนที่อยู่ชั้นสูงๆก็จะเห็นวิวสวยเชียวล่ะ

    อีกฝั่งเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ

    มุมทางฝั่งขวานี้เราสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้นะคะ ถ้าไม่พอก็วางเพิ่มตรงผนังข้างเตียงอีกจุดหนึ่ง

    ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่เป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน ได้ผนังกระจกใหญ่เต็มแผง ทั้งพื้นและผนังกรุกระเบื้องลายหินอ่อนมาให้

    ระหว่างพื้นที่แต่งตัวกับห้องน้ำมีการลดระดับนะคะ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีน้ำไหลมาโดนส่วนอื่นๆของตัวห้อง ติดตั้งธรณีหินสีขาวมาให้เรียบร้อย

    ด้านล่างอ่างล้างหน้าเป็นตู้ สามารถเปิดออกมาเก็บของได้ค่อนข้างเยอะ

    โถสุขภัณฑ์ได้แบบอัตโนมัติของ TOTO Washlet  พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆมาให้ครบครัน

    โครงการมีเตรียมระบบน้ำร้อนไว้ให้แต่ไม่ได้ให้เครื่องนะคะ  โดยส่วนเปียกจะมีการกั้นด้วยฉากก้นอาบน้ำกระจกนิรภัย

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.9 x 1.18 เมตร ใหญ่กว่ามาตรฐานสามารถยืนอาบได้สบายๆ

    ก๊อกน้ำที่ทางโครงการให้เป็นของ Grohe ค่ะ

    ห้อง 1 Bedroom 35 ตารางเมตร นี้จะเน้นความเป็นส่วนตัว เริ่มจากเข้ามาในห้องจะเจอกับโถงก่อน ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำซึ่งถ้าเพื่อนใครอยากเข้าห้องน้ำก็สามารถเข้าจากตรงนี้ได้เลยโดยไม่ไปกระทบกับพื้นที่พักผ่อนด้านใน ถ้ามองจากหน้าห้องเราจะแทบมองไม่เห็นพื้นที่ด้านในเลยจึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว พอเข้ามาด้านในจึงจะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของส่วนนั่งเล่น ทานข้าว และครัวที่กั้นเป็นครัวปิด ระเบียงห้องนี้อยู่ที่ครัวเอาไว้ใช้ซักล้างทำความสะอาก ตากผ้าเป็นหลัก ส่วนห้องนั่งเล่นจะได้หน้าต่างทั้งแผงแทน ซึ่งจะทำให้ห้องดูโปร่งและรับวิวได้ดี ห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน แบบเลื่อนมาบรรจบกัน 2 ฝั่ง ห้องลักษณะนี้ถ้าเปิดประตูจะได้พื้นที่ที่ต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่น พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวเช่นเวลาที่เราจะนอนก็ให้เลื่อนประตูปิดเอาค่ะ

    ห้องนี้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆจะเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลย ดังนั้นเราจะถ่ายแต่ Space ให้ชมกันนะคะ เข้ามาอย่างที่บอกว่าเป็นโถงยาวๆก่อน จากมุมนี้เราจะมองไม่เห็นส่วนพักผ่อนด้านในเลย จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัวกับคนที่อยู่ในห้อง

    ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ หน้าตาเหมือนห้องก่อนหน้าเป๊ะ ตำแหน่งห้องน้ำของห้องนี้อยู่ด้านหน้า ถ้ามีแขกมาจะใช้ได้สะดวกแต่เวลาเราอยู่ในห้องนอนด้านในจะเดินมาเข้าไกลนิดนึงนะ

    พอเข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่โล่งๆที่รวมพื้นที่นั่งเล่นกับทานข้าวเอาไว้ด้วยกัน ผนังด้านหลังเป็นหน้าต่างเต็มแผงแบบเข้ามุม ดังนั้นจึงจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาค่อนข้างเยอะและใช้ชมวิวได้อีกด้วย

    ด้านหลังผนังทีวีเป็นครัวปิดค่ะ กั้นเป็นสัดส่วนเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเพราะสามารถกันกลิ่นได้พอสมควร

    ครัวห้องนี้เป็นแบบครัวปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียง เวลาทำอาหารสามารถเปิดประตูระบายอากาศได้ โดยระเบียงนี้การใช้งานจะเหมาะกับการซักล้าง-ตากผ้ามากกว่าใช้ออกไปยืนชมวิว วัสดุของเคาน์เตอร์ครัวเหมือนกับห้องก่อนหน้านะคะ

    สุดท้ายคือห้องนอนที่ถ้าเปิดประตูพื้นที่จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลย ช่วยให้ห้องดูกว้างมากขึ้น ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ปิดประตูเอาค่ะ

    ในห้องตัวอย่างวางเตียง Queen Size ส่วนตำแหน่งตู้เสื้อผ้านั้นจะอยู่ที่ผนังด้านหลังนั่นเองค่ะ

    สุดท้ายคือ 2 Bedroom 72 ตารางเมตร ห้องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งห้องที่เปิดประตูเข้ามาจะไม่เจอกับพื้นที่พักผ่อนด้านใน โดยห้อง Master Bedroom จะถูกเอามาวางไว้ด้านหน้าทางฝั่งขวาของห้อง ซึ่งเปิดประตูเข้ามาจะเจอเป็นห้องแรก แต่ประตูจะหลบมุมไม่ชนกับประตูทางเข้า ห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวเลย ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น สังเกตว่าห้องนอนทุกห้องในห้องนี้จะกั้นผนังทึบเป็นสัดส่วนไปเลย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ถัดเข้ามาทางฝั่งซ้ายจะเจอกับโถงก่อนแจกไปยังห้องนอนเล็ก ห้องน้ำที่ใช้รวมกันและห้องครัวปิดที่มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ด้านใน ถัดเข้ามาด้านในสุดของห้องจึงจะเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้แก่ พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องมุม บริเวณนี้จึงถูกออกแบบมาให้เป็นหน้าต่างทั้งแผง ซึ่งข้อดีนอกจากความโปร่ง โล่งแล้วก็จะสามารถเปิดรับวิวได้เต็มที่  โดยจะมีผนังโค้งที่ทำให้เราเห็นวิวได้มากขึ้น มาพร้อมกับระเบียงแบบ Semi-Outdoor ถ้าเปิดประตูก็สามารถใช้งานเป็นพื้นที่ในห้องได้ค่ะ

    ห้องนี้พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโถงเล็กๆ ซึ่งทางฝั่งขวาคือทางเข้าไปยังห้อง Master Bedroom

    ห้องนอนใหญ่ขนาดค่อนข้างกว้างค่ะ วางเตียงได้แบบ King Size และข้างเตียงก็วางโซฟาเอาไว้นั่งเล่น พักผ่อนได้อีก ผนังด้านในก็เป็นหน้าต่างทั้งผนังเปิดรับวิวได้ดีอีกเช่นกัน

    ฝั่งซ้ายของเตียงจะมีระยะเหลือประมาณ 85 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนฝั่งขวาเหลือเยอะค่ะ วางโซฟาได้แบบในห้องตัวอย่าง

    ปลายเตียงมีระยะประมาณ 40 เซนติเมตรพอเดินผ่าน

    ส่วนตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ปลายเตียง เยื้องๆกับเตียงหน่อยเดินไปเข้าห้องน้ำสะดวกดี

    ซึ่งในห้องนี้จะมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวเลย เรามาดูห้องน้ำก่อนจะเห็นว่ามีอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามา

    สุขภัณฑ์ต่างๆเหมือนกับห้องก่อนหน้านะคะ แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เป็นสัดส่วน

    สำหรับส่วนเปียกนอกจากพื้นที่ยืนอาบน้ำแล้ว ก็ยังมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องมุมเราจะได้หน้าต่างในห้องน้ำด้วย อาบไปชมวิวไปได้และมีข้อดีเรื่องการระบายอากาศอีกด้วย

    ชุดฝักบัวของพื้นที่อาบน้ำที่โครงการให้มา มีที่วางสบู่อยู่ด้านข้าง

    ส่วนอ่างอาบน้ำก็เป็นของ TOTO วันที่เหนื่อยๆก็ใช้นอนแช่น้ำได้

    ฝักบัวตรงอ่างจะสามารถดึงออกมาได้แบบนี้

    อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet โครงการไม่ได้ให้มานะคะ เราสามารถ Built-in เอาเองได้เลย

    พื้นที่พอทำตู้แบบตัว L ได้และทำประตูปิดซักหน่อยเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

    มีพื้นที่ให้แต่งตัวประมาณนี้

    จากห้องนอนใหญ่เราออกมาจะเจอกับโถงแบบนี้เพื่อแจกไปยังห้องต่างๆ ทางฝั่งขวาคือห้องนอนเล็กและห้องน้ำ ส่วนทางฝั่งซ้ายคือครัวค่ะ พื้นจะปูด้วยไม้ Engineer นะ

    ครัวห้องนี้ได้เป็นครัวปิดขนาดใหญ่พอสมควร เหมาะกับการใช้งานในห้อง 2 ห้องนอน

    วัสดุอุปกรณ์คล้ายๆกับห้องก่อนหน้านะค เราเปิดตู้ให้ดูว่าเก็บของได้ประมาณไหน

    จุดที่แตกต่างคือห้องนี้เราจะได้เตาไฟฟ้าแบบ 4 หัวของ Franke ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในห้อง 2 ห้องนอนที่เป็นกลุ่มครอบครัว

    พื้นที่ครัวจะมีขนาดประมาณ 1.20 x 1.65 เมตร ปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้สะดวก

    ตรงมุมนี้ ตู้ที่ยื่นออกมาทางโครงการไม่ได้ให้นะคะ เราสามารถต่อเติมเองได้ไม่ยาก ถือเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

    อีกฝั่งจะมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า เป็นสัดส่วนดี ใช้เป็นพื้นที่เก็บของได้ด้วย

    สำหรับห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน การออกแบบและสุขภัณฑ์เหมือนกันกับห้องก่อนหน้า มีขนาดใหญ่ดี ใช้งานได้สะดวกค่ะ แต่ห้องนี้ไม่ได้สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัตินะ

    พื้นที่อาบน้ำได้ทั้งฝักบัวและ Rain Shower พื้นที่อาบน้ำขนาดใหญ่ดี กั้นเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นบานกระจกนิรภัย

    ห้องน้ำห้องนี้จะสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่งคือด้านนอกและภายในห้องนอนเล็กนะคะ

    ห้องนอนเล็กวางเตียงได้แบบ Queen Size นะคะ และมีหน้าต่างเอาไว้ชมวิวและเปิดระบายอากาศเช่นเดียวกัน

    ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ผนังด้านหลังจะเป็นหน้าต่างทั้งแนวเลย ดังนั้นห้องนี้จะได้ความโปร่งมากๆ

    มุมนี้จัดเป็นโต๊ะอาหารได้ นั่งได้ประมาณ 4 ที่นั่ง

    ฝั่งนี้เป็นห้องนั่งเล่นที่มีระยะดูทีวีประมาณ 2.70 เมตร วางโซฟาขนาดใหญ่นั่งกัน 3-4 คนได้ แต่ทีวีจะต้องหาตู้มาวางและเวลาใช้งานควรมีม่านปิดเพราะแสงแดดอาจจะแยงตาได้ โดยทางโครงการจะมีการเดินงานระบบไฟไว้ให้พร้อมค่ะ

    ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นระเบียงแบบ Semi-Outdoor คือถ้าเปิดประตูจะเป็นพื้นที่ใช้งานภายในห้อง แต่ถ้าปิดก็คือพื้นที่ระเบียงนั่นเอง

    พื้นที่ระเบียงสามารถใช้ซักล้างหรือเอาเก้าอี้ออกไปนั่งชมวิวได้ค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องมาให้ซึ่งเหมาะกับการใช้งาน เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 May 2019

    • ราคาขาย รอข้อมูล Update จากทางโครงการ

    • รูปแบบการขาย Fully Fitted 
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
    • Kitchen & Sink 
    • Hob & Hood
    • จอง Studio,1 Bedroom 50,000 บาท 2 Bedroom 100,000 บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    Ideo Q พหล-สะพานควาย  จุดเด่นเลยคือ ทำเลที่อยู่ 0 เมตรจากรถไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันเราจะหาที่แบบนี้มาพัฒนาเป็นคอนโด High Rise ได้ยากขึ้นไปทุกวัน อีกทั้งตัวทำเลเองยังอยู่ใจกลางเมืองย่านสะพานควาย ซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านค้าเล็กๆ ร้านพาณิชย์ริมถนนมากมาย มีทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 Eleven, Lotus Express,ร้าน Boots, Office Mate ในระยะไม่ไกลเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ และใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์อย่างอารีย์ จตุจักรและลาดพร้าว  อีกจุดที่คิดว่าเป็นความสะดวกสบายคือ ใกล้และอยู่ฝั่งเดียวกับ โรงพยาบาล เปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขา สะพานควายในระยะเดินถึง สามารถเดินเข้าไปจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกมากๆ ใครจะไป Community mall ก็มี La Villa  ส่วนห้างใหญ่ๆก็จะมีเซ็นทรัลลาดพร้าว 

    การเดินทางโดยใช้รถ : สะดวกเพราะอยู่ติดถนนใหญ่ หลักๆจะใช้การเดินทางบนเส้นพหลโยธิน มีจุดเชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายสาย เช่นใช้ถนนประดิพัทธิ์จะสามารถไปทะลุถนนพระราม 6 ได้ หรือถ้าจะไปวิภาวดีฯก็ใช้ถนนสุทธิสารฯ สามารถตรงไปบนถนนพหลโยธินเพื่อไปเมเจอร์รัชโยธิน หรือตรงไปบางเขน, หลักสี่, สายไหมได้ หรือจะขึ้นสะพานวนรถเพื่อไปลงถนนลาดพร้าวก็ได้ หากเข้าไปยังถนนวิภาวดีฯ จะสามารถไปดอนเมืองและยังมีทางขึ้นโทลย์เวย์ไปรังสิตได้ หรือจะไปบนถนนวิภาวดีแล้วไปขึ้นทางด่วนดินแดงก็ได้

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สะดวกอยู่ติดรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะอื่นๆเรียกได้ง่ายเพราะอยู่ติดถนนใหญ่  วินมอเตอร์ไซค์ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่หน้าโครงการเลย ส่วน Taxi ก็วิ่งผ่านตลอดเวลา 24 ชม. มีป้ายรถเมล์ค่อนข้างถี่ อีกทั้งยังอยู่ใกล้จตุจักรที่มีทั้งรถเมล์และรถตู้ที่มีให้เลือกหลายหลาย และยังอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย ซึ่งอนุเสาวรีย์ชัยฯก็เป็น Transportation Hub หรือจุดต่อรถใหญ่ของกรุงเทพมหานครเลย

    วัสดุ : ให้มาดีสมราคา ขายแบบ Fully-Fitted เคานเตอร์ครัวลามิเนต Top หินสังเคราะห์ มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันไมโครเวฟมาให้ พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้เป็นไม้ Engineer ให้ผ้าม่านทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน (ไม่รวมม่านโปร่ง) ส่วนห้องน้ำได้โถสุขภัณฑ์ ToTo Washlet  ระบบน้ำร้อน พื้นในห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน

    การออกแบบ : ออกแบบได้สวย ดูทันสมัยตามสไตล์อนันดา มี Concept คือ Be etrinity ที่เชื่อว่าสิ่งต่างๆล้วนมีส่วนผสมของ 3 แกนหลักเช่นเดียวกับวิถีคนเมืองจะสมบูรณ์ได้ถ้ามีธรรมชาติ-คน-เมือง (์Nature-Human-Urban) มีการนำเอาธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่ง ซึ่ง Concept Green แบบนี้จะมีข้อดีคือเราจะได้พื้นที่สีเขียวเยอะตามมาด้วย อีกจุดที่เราชอบคือการวางผังที่ทั้ง 3 Tower ไม่บดบังวิวกันเอง และแบ่งให้จำนวนยูนิตในแต่ละ Tower ไม่เยอะมากด้วย มีช่องระบายอากาศในโถงทางเดินทุกชั้น การออกแบบผังห้องเน้นความเป็นส่วนตัวเข้าห้องมาจะเจอกับโถงก่อน ไม่เห็นส่วนพักผ่อนด้านใน

    สาธารณูปโภค : จัดมาให้ครบครัน น่าใช้งานมีพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น 1 ได้แก่  Lobby , Mail Room , Meeting room , ห้องนิติบุคคลและห้องน้ำ และพื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งใช้ร่วมกันทั้ง 3 Tower  โดยจะมี Tree House สูง 3 ชั้น ประกอบด้วย The Social House ,The Air House และ Play House สระว่ายน้ำยาว 50 เมตรแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ สระเด็ก และมี Hydrotherapy Pool, Hot Spring Bath, Cold Bath มาให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีห้องฟิตเนส , Climbing Wall, Changing room, WC., Steam and Sauna Room และสวนหย่อมรอบๆ  ส่วนชั้น 39 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีกจุดหนึ่งได้แก่ Sky Lounge , Sunset Sky , Startarium และสวนดาดฟ้า 

    Judgement

    ด้วยราคาของคอนโดระดับ SUPER LUXURY CLASS คนที่เลือกซื้อส่วนใหญ่ไม่ได้ให้น้ำหนักความคุ้มค่าด้านราคาเป็นปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อนะคะ แต่ก็ให้น้ำหนักในเรื่องความชอบและความพึงพอใจด้วยเช่นกัน ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ จึงขออนุญาตไม่ให้คะแนนในส่วนนี้ค่ะ

    BOTTOM LINE

     Ideo Q พหล-สะพานควาย เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโด High Rise ระยะ 0 เมตรจากรถไฟฟ้าในย่านสะพานควาย ใกล้ห้าง อุดมสมบูรณ์หาของกินง่าย มี Facilities ให้ใช้ครบครัน ชอบ Lounge เอาไว้ชมวิว ชอบโครงการที่ออกแบบดูทันสมัย มีงบประมาณ 5.5-16 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 39,000- 112,000 บาทต่อเดือน